Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1418

ตอนที่ 1418

บทที่ 1418 ซื้อ

ใครจะไปคิดหลอจี่หอางกับถังย่ายังคุยกันไม่ถึงสองประโยค ก็จะแยกกันแล้ว

“อืม มีเรื่องด้วนเข้ามา ต้องการให้ฉันไปจัดการ พวกคุณค่อยๆทานเถอะ”

ถังย่าพูดพลางลุกขึ้นยืน

เธอมองหลอจี่หอางที่อยู่ตรงข้าม ยิ้มบางๆและพูดว่า : “หัวหน้าหลอ ขอบคุณมากที่วันนี้เลี้ยงข้าว ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสฉันเลี้ยงคุณ”

ถังย่าพูดอย่างเปิดเผย ทำให้หลอจี่หอางตะลึงไปสักครู่

เดิมที่เขาไม่คิดถึงขั้นนี้ คิดไม่ถึงว่าถังย่าจะเป็นเริ่มพูดเอง

“คุณถังมีธุระไปจัดการก่อนเถอะ มีโอกาสค่อยว่ากัน”

หลอจี่หอางยิ้มบางๆขอบคุณ

“โอเค”

พูดจบ ถังย่าหมุนตัวเดินออกไป

ซิวหน่ายซิงตามหลังเธอไปติดๆ

บนโต๊ะอาหาร หลิวซีหางมองท่าทางของเขาทั้งสองคน แววตาแปล่งประกายรอยยิ้ม

ว่าไปแล้ว คืนนี้ก็ไม่ถึงขนาดไม่ได้อะไรเลยสินะ!

……

ถังย่าและซิวหน่ายซิงออกจากร้านอาหารแล้ว

ซิวหน่ายซิงมองเธอและถามด้วยเสียงต่ำว่า : “พี่ใหญ่ ตอนนี้พวกเราจะไปไหนกัน?”

ขณะนี้สีท้องฟ้าดึกมากแล้ว ถึงเวลาหาที่พักพักผ่อนสักหน่อยแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งถังย่าเร่งเดินมาสองวันแล้ว ยิ่งต้องการนอนหลับอย่างสงบสักคืน

แต่ถังย่า กลับไม่มีอารมณ์แม้แต่น้อย

“ตอนนี้ลู่เซิ่นอยู่ที่ไหน?”

เพื่อป้องกันการคิดอะไรไปเรื่อยของตัวเอง ถังย่าตัดสินใจใช้การทำงานมาบำบัดตัวเอง

ซิวหน่ายซิงได้รับรายงานจากลูกน้องมาแล้วว่า : “อยู่ในโรงพยาบาลตลอด เขาบาดเจ็บไม่น้อย ถึงจะถูกช่วยออกมาจากประตูนรก”

ถึงแม่เขาจะกลับไปที่องค์กรกับถังย่ามาแล้วรอบหนึ่ง แต่งานที่นี่ก็ไม่ขาดตกบกพร่อง

ถังย่าได้ยินข่าวจึงขมวดคิ้ว

“ไปดูลู่เซิ่นกัน”

วันนั้นถึงแม้ถังย่าไม่เห็นภาพเหตุการณ์จ้านเซินกับลู่เซิ่นต่อสู้กัน แต่ก็พอจะนึกภาพออก

สำหรับศัตรู จ้านเซินไม่มีทางออมมือแน่นอน

ถ้าไม่ใช่เพราะฉินซีอยู่ในเหตุการณ์ ช่วยลู่เซิ่นร้องขอ งั้นที่เหลือไว้ให้ลู่เซิ่นคงมีแค่เส้นทางความตายเท่านั้น

ถ้าลู่เซิ่นตายไป ตามนิสัยของฉินซีแล้ว ต้องไม่ยินดีชีวิตอยู่ต่อย่างโดดเดี่ยวแน่นอน

คิดได้อย่างนี้ ถังย่ารู้สึกว่าจำเป็นต้องดูสถานการณ์ในโรงพยาบาลให้เห็นเห็นกับตาเพื่อความมั่นใจ

“ได้”

ซิวหน่ายซิงเปิดประตูรถให้ถังย่าเข้าไปนั่ง

รถวิ่งอย่างเร็วไปในทิศทางที่ลู่เซิ่นพักอาศัยอยู่

ขณะเดียวกัน

คนที่เหยาจ้าวส่งไปสำรวจ ซื้อพยาบาลได้แล้ว

พยาบาลมาที่ห้องพักผู้ป่วยของลู่เซิ่น : “คุณลู่”

เมื่อทุกคนออกไปหมดแล้ว พยาบาลหาโอกาสเข้ามาที่เตียงผู้ป่วยของลู่เซิ่น

ลู่เซิ่นได้ยินเสียงคนเรียก ค่อยๆลืมตาขึ้น : “มีธุระอะไรไหม?”

เขาขมวดคิ้ว มองพยาบาลที่แต่งตัวเข้มงวด

“คุณลู่ มีคุณผู้หญิงท่านหนึ่งให้ฉันมาบอกคุณว่า ตอนนี้เธอสบายดีมาก คุณไม่ต้องเป็นห่วง รักษาตัวเองให้หายดีก่อน เรื่องหลังจากนี้ค่อยคิดหาวิธี”

พยายบาลเอาคำพูดของเหยาจ้าว มาพูดซ้ำอีกครั้ง

ตอนนี้ฉินซีไม่ได้เจอลู่เซิ่น ทำได้แค่ใช้วิธีนี้ให้ทั้งสองคนสงบสติกันก่อน

หลังได้ยินแบบนั้น ตาทั้งสองข้างของลู่เซิ่นโตขึ้นมาทันที

เขาไม่คิดว่าฉินซีอยู่ที่นั่น ยังระลึกถึงเขา

การป้องกันขององค์กรเข้มงวดมาก เธอสามารถหาคนมาบอกข่าวกับเขาได้ ต้องไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน

“งั้นตอนนี้เธอสบายดีจริงๆใช่ไหม?”

ลู่เซิ่นถามอย่างตื่นเต้น แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย

นิสัยของจ้านเซินไม่มีขนาดนั้น ลู่เซิ่นไม่เชื่อว่าเขาจะเมตตาฉินซี

พยาบาลพูดอีกครั้ง : “ใช่”

เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำแค่เพียงพูดซ้ำตาคำพูดของเหยาจ้าวเท่านั้น

ในฐานะที่เหยาจ้าวเป็นจิตแพทย์ พอจะเดาออกว่าลู่เซิ่นจะถามอะไรบ้าง

ดังนั้น เมื่อเขาทราบข่าวว่าตอนนี้ลู่เซิ่นพ้นขีดอันตรายมาแล้ว จึงตั้งใจจัดการเรื่องนี้มา

“งั้นก็ดี”

ความกังวลในแววตาลู่เซิ่นหานไปนิดหน่อย

เขารู้สึกว่าคำพูดของพยาบาลน่าจะจริง ไม่งั้นฉินซีจะส่งข่าวออกมาได้ยังไงกัน

“คุณลู่ ฉันบอกหมดแล้ว ทางนั้นยังมีธุระ ฉันขอตัวก่อน”

พยาบาลไม่กล้าอยู่นาน พูดจบก็รีบออกมา

ลู่เซิ่นมองด้านหลังของเธอ จำลักษณะเธอไว้ คิดว่ารอให้โจวซิงมาก่อนจะถามว่าพยาบาลคนนั้นชื่ออะไร ครั้งต่อไปจะได้ให้เธอส่งต่อคำพูดได้ง่ายหน่อย

พยาบาลเพิ่งจะเดินออกไป ถังย่าก็มาพอดี

เธอผลักประตูเดินเข้ามา

“ใครอนุญาตให้เฮเข้ามา!”

ขณะนั้นโจวซิงกำลังจะเปลี่ยนยาให้ลู่เซิ่น เห็นถังย่าเข้ามา สีหน้าปรากฏความโกรธแค้น

สองของเขากำหมัดแน่น วางผ้าพันแผลลง มองถังย่าด้วยความเป็นปรปักษ์

ครั้งที่แล้วได้รับความอัปยศอดสูจากถังย่าที่นั้น โจวซิงจำไม่ลืมไปตลอดชีวิตนี้

ถังย่ามองท่าทางตื่นเต้นของเขา ยิ้มมุมปากน้อยๆ : “เจอกันอีกแล้ว คุณหมอโจว”

เธออย่างเกรงอกเกรงใจ ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

“ไสหัวออกไป!”

โจวซิงตะโกนเสียงดังรุนแรงท่าทางขับไล่คนออกไป

เขารีบเดินไปหน้าประตู ยื่นมืออกไป แต่ยังไม่โดนถังย่า เธอก็หลบไปได้ก่อนแล้ว

ถังย่ายืนพิงกำแพง มองท่าทางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟของเขา ริมฝีปากแดงขยับ : “คุณหมอโจว วันนี้ฉันไม่ได้มาทะเลาะ”

เธอพูดอย่างนิ่งเฉย สายตามองไปที่ร่างของลู่เซิ่น

ฉินซีหมายถึงอะไร ได้บอกอย่างชัดเจนแล้ว

แต่ โจวซิงไม่หวังว่าถังย่ากับลู่เซิ่นจะติดต่ออะไรกัน

เขารู้สึกว่าถังย่ามาเพื่อหาเรื่อง ถึงเวลานั้นถ้าลู่เซิ่นเกิดบากเจ็บสาหัสขึ้นมาอีกครั้ง เขามารู้จะบอกโจวเอ้อยังไง

ลู่เซิ่นมองเธอพูดเบาๆว่า : “โจวซิง ให้เธอเข้ามา”

ถึงแม้เมื่อกี้พยาบาลได้บอกเขาแล้วว่าฉินซีไม่เป็นอะไร แต่ลู่เซิ่นก็ยังไม่วางใจอยู่ดี

เขาอยากรู้ข่าวเกี่ยวกับฉินซีมากกว่านี้ ลงมือจากถังย่าที่นี่ เป็นคู่ต่อสู้ที่ดีที่สุด

“ลู่เซิ่น!”

โจวซิงหมุนตัวทันที มองเขาด้วยสายตาไม่เห็นด้วย

เขารู้สึกว่านี้คือการตัดสินใจที่ผิดผลาด

ใครจะรู้ถังย่ามาที่นี่ในเวลาแบบนี้ จริงแล้วในใจคิดอะไรอยู่

“ฉันรู้ตัวดี”

ถึงแม้เสียงของลู่เซิ่นจะเบามาก แต่ภายใต้น้ำเสียงก็ไม่ยอมให้ใครมาหักล้างเหตุผล

ปกติแล้วลู่เซิ่นจะใช้ตัวตนกดดันคนน้อยมาก อำนาวจในตัวจะถูกเก็บซ่อนไว้ตลอด

ตอนนี้ เมื่อลู่เซิ่นปล่อยออกมา ทำให้โจวซิงตกใจเล็กน้อยไม่กล้าขัดขวาง

“งั้นก็ได้”

โจวซิงเห็นเขายืนยันหนักแน่น ทำได้แค่ถอนหายใจอย่างไม่มีทางเลือก

เขาปกป้องอยู่ข้างตัวลู่เซิ่นอย่างไม่วางใจ ถ้าถังย่าคิดจะลงมือ เขายังพอขัดขวางไว้ได้

ถังย่าเห็นท่าทางเตรียมตัวป้องกันของเขา เผยรอยยิ้มบางๆออกมา : “คุณลู่ ร่างกายคุณเป็นยังไงบ้าง?”

เธอเดินมาด้านหน้าสองก้าว มาถึงข้างเตียงผู้ป่วยของลู่เซิ่น

“ทำให้คุณถังผิดหวังแล้ว ฉันไม่ตายและยังมีชีวิตดีอยู่”

ลู่เซิ่นกลับไม่รู้สึกว่าถังย่ามาเยี่ยมตัวเอง

อย่างแรก พวกเขาสองคนไม่สนิทกัน ที่รู้จักกันก็เป็นเพราะฉินซี

อย่างที่สอง คนที่ไหนจะมาเยี่ยมมือเปล่า ถังย่าทำตามคำสั่งของจ้านเวินจะมาฆ่าเขา ก็เป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท