Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1511

ตอนที่ 1511

แม้ว่าถังย่าจะนั่งอยู่ในรถ แต่รู้สึกได้ชัดเจนว่าอุณหภูมิโดยรอบลดลง

เธอรู้ดีว่าจ้านเซินกำลังโกรธ แถมหนักมากอีกต่างหาก

ถังย่าแหงนหน้าขึ้นจับจ้องแผ่นหลังของซิวหน่ายซิง ด้วยความรู้สึกอบอุ่น

ทีแรกที่เธอช่วยซิวหน่ายซิงเอาไว้ เธอไม่ได้หวังอะไรมากมาย เพียงแค่แย่อ่อนในชั่วพริบตาเท่านั้น

แต่การกระทำของซิวหน่ายซิงหลายปีมานี้ ทำให้ถังย่าต้องมองเขาใหม่

ถังย่าไม่เคยเสียใจทีหลัง ที่ช่วยซิวหน่ายซิงออกมาจากตรงนั้น

แม้ว่าทีแรกจ้านเซินจะเคยบอกกับพวกเขาว่าทำงานด้านนี้ไม่สมควรที่จะมีความรู้สึก การที่เก็บซิวหน่ายซิงกลับมานั้นเป็นความผิดพลาด ท้ายที่สุดจะเป็นการทำร้ายตนเอง

แต่ความจริงได้พิสูจน์ ว่าเธอคิดไม่ผิด ในตอนที่เธอตกอยู่ในอันตราย ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด ซิวหน่ายซิงเป็นคนแรกที่ก้าวออกมา

โดยปกติซิวหน่ายซิงมักจะมีทีท่ากล้าๆ กลัวๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าจ้านเซิน ราวกับว่าเกรงกลัวเขามาก

แต่ตอนนี้เขากลับก้าวออกมา โดยไม่นึกถึงชีวิตตนเองด้วยซ้ำ

บอกว่าไม่ซาบซึ้งนั้นเป็นไปไม่ได้ ซิวหน่ายซิงทำถึงขนาดนี้แล้ว ถังย่าจะทนเห็นเขาตายไปในเงื้อมมือของจ้านเซินต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร?

เรื่องนี้เป็นตัวเธอเองที่ก่อเรื่องขึ้น กล้าทำก็กล้ารับ ถังย่าเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ที่แข็งแกร่ง เธอไม่มีทางให้คนอื่นรับกรรมแทนเธอแน่

หากเธอรักตัวกลัวตายจริงๆ เมื่อสักครู่เธอก็ไม่มีทางล่วงเกินจ้านเซิน ยิ่งไม่มีทางพูดจาสามหาวแบบนั้นออกมา

ถังย่ากล่าวอย่างช้าๆ “ซิวหน่ายซิง เธอไปก่อนเถอะ ตรงนี้ฉันจะจัดการเอง”

เธอส่งสายตาให้กับซิงหน่ายซิงเพื่อเตือนให้เขาหลบไปอีกด้าน อย่าเกะกะตรงนี้

ซิวหน่ายซิงถึงตาโตด้วยความสงสัย “นาย หากผมหลีก หากอีกสักพักเขา……”

เขากล่าวออกมาอย่างหักห้ามไม่ได้ ถังย่ากวาดตามองเขา อย่างไม่สบอารมณ์

ถังย่ากล่าวอย่างเย็นชา “ที่ฉันพูดกับแกเมื่อกี้นี้ แกไม่ได้ยินหรือไง?”

เธอรู้ดีว่านิสัยของซิวหน่ายซิงนั้นดื้อด้านขนาดไหน หากเธอไม่เคร่งครัดสักหน่อย ซิวหน่ายซิงไม่มีทางถอยไปง่ายๆ แน่

เมื่อเห็นถังย่าโกรธขึ้นมาจริงๆ ซิวหน่ายซิงได้แต่พยักหน้าอย่างว่าง่าย “นาย ผมได้ยินแล้ว”

การกระทำของจ้านเซินเมื่อสักครู่ ทำร้ายความรู้สึกของถังย่ามาก ตอนนี้เขาไม่ต้องการที่จะทำให้เธอรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้

“ได้ยินแล้ว ก็ถอยออกไปซะ”

ถังย่ากล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน ทำให้ซิงหน่ายซิงเศร้าสร้อย

แต่ซิวหน่ายซิงก็ไม่อยากที่จะขัดคำสั่งจึงได้แต่เดินไปอีกทาง

เมื่อไร้การบดบังจากเขา ร่างของซิวหน่ายซิงชัดเจนตรงหน้าของถังย่า

ถังย่ารู้สึกว่าอากาศโดยรอบลดลง บางลงมากกว่าเดิม

เธอไร้คำพูดใดๆ พลันยืนนิ่งเงียบรอจ้านเซินเป็นฝ่ายปริปาก

ทีแรกจ้านเซินคิดที่จะขอโทษถังย่า แต่เมื่อเห็นรอยแดงบนลำคอของเธอ เขาไม่รู้จะเริ่มอย่างไร

เขายืนตัวตรงอยู่ที่เดิม หวนนึกถึงคำของถังย่าเมื่อสักครู่

ถังย่าต้องเสียใจมากแค่ไหน เธอถึงได้บอกกับเขาว่ามาหาเธออีกครั้ง เพื่อที่จะฆ่าเธอ

เขายืนอยู่ที่เดิมนิ่ง ทำให้ถังย่าอึดอัดใจ

ถังย่าเป็นคนที่มีนิสัยใจร้อนแต่ทุนเดิมซึ่งต่างจากจ้านเซิน หลังจากที่นิ่งไปสามวินาที เธอก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

เธอกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “มีอะไร ว่ามาเลย หากนายต้องการชีวิตของฉันอยู่อีก ถ้างั้นนายก็เอาไปเลย ยังไงซะชีวิตนี้ก็ได้มาจากพ่อของนาย ตอนนี้นายคิดจะเอากลับไปก็สมควรแล้ว”

ถังย่าเกลียดความนวยนาดแบบนี้ที่สุด จะเป็นหรือจะตาย ก็แค่คำเดียวเท่านั้น

หลายปีมานี้ เธอมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก

แม้ว่าคนในองค์กรจะให้ความเคารพแก่เธอ มองว่าเธอเป็นมือขวาของจ้านเซินคงใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่ไม่มีใครรับรู้ความลำบากใจของเธอ

มือขวาที่ว่า เพียงแค่ต้องใช้ความทุ่มเทมากกว่าคนอื่น รับผิดชอบมากขึ้น เสี่ยงอันตรายมากขึ้น

ความเป็นจริงแล้ว เธอเป็นเพียงมีดเล่มหนึ่งของเธอ

จ้านเซินไม่ได้ต้องการเธอจริงๆ เพียงแต่ตอนนี้ในองค์กรยังไม่เจอคนที่มีความสามารถมากกว่าเธอเท่านั้นเอง เพราะงั้นถังย่าถึงได้อยู่ตำแหน่งนี้ต่อไป

หากวันหนึ่งมีใครที่มีความสามารถมากกว่าเธอ ก็จะเป็นวันที่เธอต้องลงจากตำแหน่ง

ถังย่าเข้าใจสถานะของเธอเป็นอย่างดี เพราะงั้นหลายปีมานี้ ต่อให้เธอแอบรักจ้านเซินมากแค่ไหน แต่เธอก็ยังรักษาระยะห่างที่ความจะเป็น

เธอรักอย่างอดสู เธอคิดว่าหากไม่มีกฎระเบียบขององค์กร จ้านเซินก็ไม่มีทางชอบผู้หญิงที่ต่ำต้อยอย่างเธออยู่ดี

ความจริงได้พิสูจน์แล้ว ว่าเธอคิดไม่ผิด

จ้านเซินสามารถแหกกฎขององค์กรเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่ใช่เธอ

เมื่อคิดอย่างนั้น ถังย่าเจ็บจี๊ดในหัวใจ “ทำไมคุณถึงไม่พูดอะไรเลย อยากจะให้ฉันลงมือจัดการเองหรือ?”

เธอแหงนหน้าขึ้นจ้องจ้านเซินเขม็ง ดวงตาสีอำพันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ถังย่ากล่าว พรางหยิบมีดพกออกมาจากข้างกาย

เธอโน้มตัวเดินลงมาจากรถ มุ่งเข้าไปที่จ้านเซินอย่างช้าๆ

ถังย่าหยุดยืนตรงหน้าของจ้านเซิน ริมฝีปากแดงเม้มแน่น “ถือซะว่าเห็นแก่ที่ฉันทุ่มเทเพื่อองค์กรมานานหลายปี จัดการฉันซะ”

เธอกล่าว พร้อมกับยัดมีดพกไปที่มือของจ้านเซิน

ถังย่ายืนอยู่ที่หน้าของเขานิ่ง ค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ

เธอมอบโอกาสการตัดสินความเป็นความตายให้กับจ้านเซิน

ถังย่าเข้าใจดี หานจ้านเซินคือที่จะฆ่าเขาจริง ใครก็ห้ามเขาไม่ได้ วันนี้ต่อให้เขาหนีไปไกลแค่ไหนเขาก็จะตามล่าหาให้ได้

เธอไม่อยากจะหนี ความรู้สึกแบบนั้นเหนื่อยเหลือเกิน

บางทีเกิดใหม่ในชาติหน้า เธอสามารถเกิดใหม่ในครอบครัวที่ดี ก็ไม่ต้องทนความยากลำบากเหมือนอย่างในชาตินี้อีก

จ้านเซินยืนจ้องเธอนิ่งอยู่กับที่ ใบหน้าที่สมบูรณ์แบบไร้คำพูดใดๆ

นัยน์ตาสีเข้มฉายแสงสลัวไม่ชัดเจน เสมือนกับว่าเขากำลังคิดอะไรบางอย่าง

จ้านเซินหยิบมีดขึ้นชี้ไปยังบริเวณท้อง ถูเบาๆ

ซิวหน่ายซิงยืนมองเหตุการณ์อยู่อีกด้านด้วยความตื่นเต้น มือที่อยู่ข้างลำตัวกำแน่น

เขารู้ว่าตอนนี้ถังย่ากำลังพนัน ว่าจ้านเซินจะลงมืออีกครั้งหรือไม่

แต่การพนันของถังย่าในครั้งนี้อันตรายเหลือเกิน หากเธอคาดเดาความคิดของจ้านเซินผิดไป วันนี้ก็จะเลือดนอง

ซิวหน่ายซิงเหงื่อแตกเต็มฝ่ามือ จับจ้องถังย่านิ่ง เพื่อเตรียมตัว

หากจ้านเซินลงมือกับถังย่าจริงๆ เขาก็จะพุ่งเข้าไปขัดขวางด้วยชีวิต

“เคร้ง”

เสียงที่ชัดเจนดังก้อง ถังย่าลืมตาขึ้นตามสัญชาตญาณ

เธอหันไปทางต้นตอของเสียง ก็ได้พบว่ามีดพกได้ตกอยู่ที่พื้น

ถังย่าแหงนหน้าขึ้นอย่างสงสัย หันไปทางจ้านเซิน ขนตาที่งอนงามสั่นเทาเล็กน้อยอาจจะได้ไปเกิดในที่ดีๆ ไม่ต้องทนอยู่กับฝันร้ายเหมือนในชาตินี้อีก

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท