Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – บทที่ 1551 พยานบุคคล

บทที่ 1551 พยานบุคคล

ถังย่าไม่ตอบสนองต่อสิ่งที่ลู่เซิ่นกำลังพูดอยู่สักครู่หนึ่ง

เขาสามารถฟังออกหมดทุกคำ ทำไมประกอบเข้าด้วยกันแล้ว กลับไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร

อะไรที่เรียกว่า……จบทุกอย่าง?

……

ในรถยนต์

ทั้งๆที่ลู่เซิ่นพูดแล้วว่าจะไม่เสียใจภายหลัง แต่ฉินซีไม่รู้หรือว่าไม่ได้ยิน คล้ายกับว่าเขาพึมพำกับตัวเอง จึงถามอีกครั้งเบาๆว่า

“จะไม่เสียใจภายหลังจริงๆใช่มั๊ย”

เสียงของเธอไม่ดัง แต่ลู่เซิ่นได้ยินเสียงอย่างชัดเจน

เขาหันไปมอง

ฉินซียังคงจ้องมองไปข้างหน้า แววตาแฝงไปด้วยความสับสน

เขารู้ว่าฉินซีกำลังลังเลอะไร

เขาปรับปรุงเละทบทวนตัวเอง หลังจากที่ฉินซีถูกจ้านเซินนำตัวไป เขาก็ทำงานอย่างหนักตลอดเวลาเพื่อที่จะพัฒนาบริษัทลู่ซื่อ แต่ปัจจุบันบริษัทลู่ซื่อต้องเผชิญหน้ากับจ้านเซินและความขัดแย้งขององค์กร ยังไม่มีข้อได้เปรียบที่เด็ดขาด ทั้งสองฝ่ายอาจจะเจ็บหนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่พวกเขาไม่สามารถรอต่อไปได้อีกแล้ว

แม้ว่าชีวิตในช่วงสองสามวันนี้จะดูเหมือนผ่อนคลาย ทั้งสองคนสลัดภาระที่แบกไว้บนบ่าทั้งหมด และสนุกกับโลกที่มีเพียงแค่เราของสองคนอย่างจริงจัง

แต่ทว่า……ท้ายที่สุดแล้ว ชีวิตแบบนี้ไม่สามารถจะจีรังยั่งยืนได้

พวกเขาต้องกลับไปใช้วิถีชีวิตตามปกติ ใช้ชีวิตแบบเดิมๆเหมือนที่ผ่านมา

ลู่เซิ่นยังต้องเป็นผู้นำบริษัทลู่ซื่อ ฉินซียังมีธุรกิจที่เป็นของตัวเอง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะหนีไปสุดล่าฟ้าเขียวดูเหมือนจะเป็นอิสระ แต่ก็ยังไม่สามารถปกปิดแก่นที่แท้จริงว่าพวกเขากำลัง “หนี”

ตราบใดที่พวกเขาต้องการกลับไปสู่การใช้ชีวิตแบบเดิม ความขัดแย้งกับจ้านเซิน ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

“ไม่ต้องกังวล” สุดท้ายลู่เซิ่นก็ยังไม่ได้พูดคำปลอบโยนที่ไร้ประโยชน์ใดๆ แค่เอื้อมมือไปขวางไหล่ของฉินซี เอามือลูบหน้าผากของเธอ “พวกเราจะเผชิญหน้าไปด้วยกัน”

ฉินซีรู้ว่าตัวเองกับผู้ชายที่อยู่ข้างกายคนนี้สามารถเข้าใจซึ่งกันและกันได้

เขาเข้าใจตัวเอง

เธอจึงไม่พูดอะไรอีก ได้เพียงแต่พยักหน้า

……

“สองวันผ่านไป พวกเราจะถึงเมืองหนาน” ลู่เซิ่นในวิดีโอยังคงพูดต่อไปว่า “ใครต้องการพบฉัน หรืออยากจะพบฉินซี ก็มา ณ ตอนนั้นเลย ”

เขาหยุดคิดอะไรบางอย่าง และเสริมไปหนึ่งประโยคว่า: “แต่พวกเราจะไม่แยกจากกันอีกต่อไป”

เขาพูดจบประโยคนี้ พลางเอื้อมมือไปกอดฉินซีที่อยู่ข้างๆ พลางก้มหน้ามองเธอ

ฉินซีเงยศีรษะขึ้นเล็กน้อย คนสองคนสบตากัน

คลิปวิดีโอไม่ยาว ถึงตรงนี้ก็หยุดนิ่งไป สุดท้ายก็หยุดที่ภาพ สองคนกำลังสบตากัน

ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะมีใบหน้าเป็นผู้ชายสองคนที่ถังย่าไม่คุ้นเคย แต่ความรักที่แฝงในแววตาของคนสองคนที่มีต่อกัน ไม่สามารถปลอมแปลงได้

ถังย่า ใช้เวลาไม่กี่วินาทีในการสงบสติอารมณ์

ลู่เซิ่นกับฉินซีหมายถึงอะไร ก็คือ……ไม่อยากหลบๆซ่อนๆอีกต่อไป แต่จะเผชิญหน้ากับพวกเขาโดยตรง?

จ้านเซินคงไม่ยอมปล่อยให้ฉินซีจากไป แต่ฟังความหมายของลู่เซิ่น ดูเหมือนว่า……ไม่ได้ตั้งใจที่จะขอประนีประนอม มิฉะนั้นจะไม่พูดว่า “เราจะไม่แยกจากกันอีก”

ดูเหมือนว่า จุดจบเรื่องนี้อาจจะไม่ดีนัก แต่ก็ต้องตาต่อตาฟันต่อฟันลองกันสักตั้งแล้ว

ถังย่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วค่อยๆ เงยศีรษะขึ้น

ชายผู้ถูกทุบตียังคงสะดุ้งและยืนนิ่งอยู่ข้างๆ ไม่กล้าจากไปไหน

“ตอนที่พวกเขาไปนั้น ได้บอกมั๊ยว่าไปที่ไหน?”ถังย่าเอ่ยปากถาม

ชายคนนั้นส่ายหัวอย่างรวดเร็ว: “ไม่ได้บอก พวกเขาพาฉันมาที่นี่ หลังจากที่ฉันโพสต์ลงเวยป๋อ พวกเขาทิ้งโทรศัพท์แล้วบอกให้ฉันเอามาให้พวกเธอ แล้วก็จากไป ฉัน……ก็ไม่กลัวถามว่าพวกเขาไปที่ไหน”

ถังย่าขมวดคิ้วเล็กน้อย กวาดสายตามองที่ชายคนนั้น แล้วมองลงไปที่โทรศัพท์ในมือของเขา

ตามข้อมูลที่คนนี้เล่ามา เขาน่าจะเป็นผู้เผยแพร่โพสต์สองสามโพสต์บน Weibo ที่เธอดูอยู่ตลอด

แน่นอนว่าลู่เซิ่น และ ฉินซีน่าจะรู้ว่าถูกคนนี้เปิดเผยเบาะแสที่อยู่ของตนเอง และคิดว่าองค์กรจะต้องจับตามอง ดังนั้นจึงยืมเวยป๋อของบุคคลนี้โพสต์ภาพ เพื่อที่จะดึงดูดให้คนขององค์กรมาที่นี่ แล้วค่อยเอาคลิปวิดีโอนี้ให้

และคลิปวิดีโอนี้ไม่ต่างจากการที่ลู่เซิ่นและฉินซีได้มอบหนังสือสงครามให้ต่อองค์กร เป็นการยั่วโมโหจ้านเซินอย่างชัดเจน

พวกเขาสองคนฉลาดมาก แบบนี้ก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับองค์กรโดยตรง และได้มีเวลาพักผ่อนสองวันเต็มๆ อีกทั้งยังสามารถส่งต่อข้อมูลออกไป โดยที่ไม่เหลือร่องรอยใดๆเลย

เรื่องนี้เดิมเป็นเรื่องที่ง่ายมาก แต่ถังย่ามองดูโทรศัพท์ในมือ ในใจกลับเริ่มลังเลเล็กน้อย เธอ……ต้องเอาคลิปวิดีโอนี้ให้ จ้านเซิน จริงๆ เหรอ?

สุดท้ายแล้วก็ต้องให้จ้านเซินรู้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าหากฉินซีต้องการออกจากองค์กรนี้ ใครก็ไม่สามารถปิดบังจ้านเซินได้

แต่……สภาพจิตใจของจ้านเซินช่วงนี้ ดูเหมือนจะไม่เหมาะที่จะได้รับการกระตุ้นอีก

ถ้าหากเขาเห็นคลิบวิดีโอนี้ เขาจะโดนกระตุ้นหนักขึ้น อาการซึมเศร้าก็จะยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ งั้น……ก็แย่แล้วสิ

ก็มาเจอเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจ้านเซินนี่แหละ ยากนักที่ถังย่าจะมีช่วงเวลาที่ลังเลในการตัดสินใจเช่นนี้ เธอขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็นึกผลลัพธ์ไม่ออก พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นชายคนนั้นตัวสั่นระริกอยู่ รู้สึกไม่สบายใจ จึงโบกมือ : “ในเมื่อพวกเขาให้เธอมาส่งข้อมูล งั้นก็รบกวนนายไปกับพวกเราสักครั้งหนึ่ง”

ชายคนนั้นตกใจเมื่อได้ยินดังนั้น: “ฉัน……ฉันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นนะ!มีหน้าที่แค่เอาของส่งให้พวกเธอเท่านั้นเอง”

อย่างไรก็ตามถังย่าไม่ได้มีจิตใจที่จะฟังคำแก้ต่างของเขา ยกมือแล้วเอามือของเขาไพล่หลัง แล้วพูดว่า: “ฉันว่านายทำตัวดีๆแล้วเดินเองจะดีกว่า”

ผู้ชายคนนั้นดึงดันอยู่สองสามครั้ง แต่ถังย่าดูเหมือนจะผอมบาง แต่กลับมีเรี่ยวแรงมหาศาล เขารู้ว่าตนเองหลบหนีไม่ได้ จึงได้แต่ก้มหน้าอย่างเชื่อฟัง: “ฉัน……ฉันเดินเองได้”

ถังย่าเสยคางขึ้น แล้วชายคนนั้นก็เดินไปตามทิศทางที่เธอบอก

เหตุผลที่เธอต้องให้คนนี้ตามไปด้วย ก็แค่จะให้เขาเป็นอีกหนึ่งพยานบุคคลเท่านั้น

คำพูดที่ลู่เซิ่นและฉินซีได้พูดในคลิบวิดีโอ ฟังจากปากของคนอื่น บางทีอาจจะทำให้กระตุ้นน้อยกว่า

……

นี่เป็นแค่เพียงความตั้งใจของถังย่าก็แค่นั้น ตอนนี้เธอก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้ไม่ออก ทำได้เพียงแค่ขมวดคิ้วอย่างหนัก จับตามองผู้ชายคนนี้ที่นั่งอยู่บนรถเธอ

ฉินซีและลู่เซิ่นกอดกันสักพักหนึ่ง แต่ลานจอดรถไม่ใช่ที่ที่จะสามารถอยู่นานได้ เวลาผ่านไปไม่กี่นาที ฉินซีก็ผลักไหล่ของลู่เซิ่น: “พวกเราไปกันเถอะ”

ลู่เซิ่นไม่ได้พูดอะไรมาก สุดท้ายก็บีบไหล่ฉินซี ก่อนที่จะปล่อยแขนของเธอ

“ณ เวลานี้……ถ้าหากถังย่าไปด้วย ตามความเร็วของเธอ ก็ควรจะเห็นคลิปวิดีโอนั้นแล้ว” หลังจากที่สตาร์ทรถได้ครู่หนึ่ง ฉินซีก็พูดขึ้นมาทันที

ลู่เซิ่นพยักหน้า : “ถ้าหากเป็นเธอ ก็ควรจะได้เห็นแล้ว”

“ก็ไม่รู้เหมือนกัน……เธอจะมีปฏิกิริยาแบบไหนกันนะ” ฉินซีกระซิบพูดเบาๆ

ลู่เซิ่นเหลือบมองดูเธอ และมองทะลุไปถึงความคิดในใจของเธอ ยิ้มแบบแหยะๆเล็กน้อย พร้อมพูดว่า:“ทำไม เสียใจที่ทิ้งคนนั้นมาเหรอ?”

ไอเดียข้อมูลความคิดก็เป็นของลู่เซิ่น ตอนนั้นฉินซีก็กำลังโกรธ และเขาก็ไม่ลังเลที่จะตอบตกลง แต่เพียงแต่ว่าเธอใจอ่อนกว่าลู่เซิ่นเล็กน้อย จึงทำให้ตอนนี้จู่ๆก็เกิดความกังวลใจขึ้น

ไม่ว่าอย่างไร ลู่เซิ่นก็มองทะลุไปถึงความคิดของเธอ ฉินซีไม่อมพะนำอีกต่อไป:“ฉันก็แค่กลัวว่าถ้าถังย่าเกิดโมโหขึ้นมา เกิดทำอะไรเขา……เพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบ พอถึงเวลานั้นก็จะไม่มีวิธีช่วยได้แล้ว”

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

อ่านนิยาย เรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยเรื่อง Flash Marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน บางส่วนของนิยาย

บทนำ

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

เรื่องย่อ

“คุณเวิน คุณ25ปีแล้ว?”

“อีกเดือนนึงค่ะ”

“ก่อนหน้านี้คบกับผู้ชายมาแล้วกี่คน?”

“คนเดียวค่ะ”

“พัฒนากันไปถึงไหน?”

“พบครอบครัวกันแล้วค่ะ”

“เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือยัง?”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีมารยาทในที่สุดก็หายไป พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ!”

“คุณ……เราไม่ได้มานัดดูตัวกันเหรอครับ?ก็แค่รู้จักกันและกันมากขึ้น คุณจะโมโหอะไรเนี่ย!”ผู้ชายตรงข้ามขมวดคิ้วพร้อมตำหนิเวินจิ้ง

“ฉันขอปฏิเสธที่จะรู้จักคุณ ลาก่อน!”เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้นมาแล้วหมุนตัวออกไป

เธอหยุดลงแล้ววางเงิน500หยวนไปอย่างเท่ๆ

ชายคนนั้นรีบดึงเวินจิ้งไว้“หมายความว่าไงอ่ะ?คุณอายใช่ไหม คุณไม่ใช่สาวพรหมจรรย์เหรอ?”

เสียงที่เขาพูดไม่ดังเท่าไหร่แต่เพราะว่าในร้านกาแฟค่อนข้างเงียบ ลูกค้าที่นั่งโต๊ะใกล้ๆกันต่างได้ยินหมด

เวินจิ้งหรี่ตามองแล้วยกเท้าขึ้นมาเหยียบบนเท้าเขาแรงๆ จากนั้นยกกาแฟขึ้นมาสาดใส่หน้าเขาอย่างไม่ลังเล

พอถูกเธอเหยียบใส่ ชายคนนั้นก็ล้มลงไป ดังนั้นกาแฟในมือของเวินจิ้งก็สาดเป็นรูปโค้งใส่ผู้ชายชุดสูทที่กำลังจะออกจากร้าน

เวินจิ้งอึ้งไปแปปนึงกับฉากตรงหน้า

“ขอโทษค่ะ”เธอหยิบทิชชู่จากในกระเป๋าอย่างอึนๆ มองเสื้อเชิ้ตขาวที่โดนสาดใส่ของผู้ชายตรงหน้า พระเจ้า แค่มองก็รู้ว่าชุดราคาแพง

สีหน้าของมู่วี่สิงเย็นชา มองไปที่เวินจิ้งด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึกและไม่รับทิชช่าจากเธอ แต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา ตอนที่เช็ดกาแฟก็แสดงท่าทางไม่พอใจออกมา

เวินจิ้งรู้สึกผิดสักพัก ตอนนี้เอง เท้าของหนุ่มนัดดูตัวที่อยู่ข้างล่างก็รีบคว้าเท้าเธอไว้“ยัยผู้หญิงคนนี้ เหยียบเท้าผม!”

“น่ารำคาญจะตายชัก”เวินจิ้งดึงเท้าออกมา จะวิ่งออกจากร้านกาแฟ

ตอนที่ผลักประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองผู้ชายชุดสูทนั่น รูปร่างหน้าตาเขาหล่อเหลาไร้ที่ติ กรอบหน้าชัดเจน ใบหน้าตรงนั่นเหมือนพระเจ้าค่อยๆวาดลงเพื่อทำให้คนที่เห็นแล้วตกตะลึง

พอเข้าไปในรถ เวินจิ้งที่ยังไม่ทันสตาร์ทรถก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา“ลูกรัก ดูตัวเป็นยังไงบ้าง?ผู้ชายคนนั้นโอเคใช่ไหม?”

“จบแล้ว”เวินจิ้งตอบไปสองคำ

ตอนนี้เองรถของเธอก็ออกไปไมได้ เวินจิ่งยิ่งรำคาญมากขึ้น

“อะไรกัน?นี่แม่สื่อแนะนำคนที่ปีนึงมีรายได้เป็นล้านๆให้ฉัน ลูกต้องไปมาหาสู่กับเขาดีๆ……จะหยุดไม่ได้นะ!”

เวินจิ้งไม่อยากฟัง เธอวางโทรศัพท์ลงทั้งที่แม่เธอกำลังบ่น

รถขยับออกไปไม่ได้ เวินจิ้งเลยดึงกุญแจออกมาแล้วลงจากรถ“วันนี้ออกจากบ้านไม่ได้ดูปฏิทินแน่ๆ!ถึงได้โชคร้ายสุดๆแบบนี้!”

พอพูดจบแปปนึง ฝนก็ตกหนักลงมา

เวินจิ้งหลับจาลง เปียกไปทั้งตัว

พอได้สติเธอก็ว่าจะวิ่งไปหลบฝนในร้านกาแฟ แต่พอนึกถึงผู้ชายที่นัดดูตัวท่าทางน่ารังเกียจเมื่อกี้ ก็เลยล้มเลิกไป

ตอนที่แกว่งไปมาซ้ายขวา ก็มีรถปอร์เช่สีดำก็มาจอดข้างๆเธอ หน้าต่างเปิดลงมาก็มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยและคุ้นเคยนั้นเข้ามา

คือผู้ชายที่โดนเธอสาดกาแฟใส่อย่างไม่ตั้งใจเมื่อกี้

“ขึ้นมา”น้ำเสียงและใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนเดิม

เวินจิ้งยิ้มไปอย่างเขินๆพร้อมส่ายหัว“ไม่เป็นไรค่ะ ลำบากคุณเปล่าๆ”

“ไม่ลำบาก”มู่วี่สิงยังคงเย็นชาใส่

เวินจิ้งยิ่งละอายเข้าไปใหญ่ จากนั้นเห็นว่าด้านหลังมีแท็กซี่อยู่ก็เลยคิดว่าจะไปเรียกรถ

แต่บังเอิญจริงๆ เธอดันเหยียบแอ่งน้ำที่ขังไว้ จนรองเท้าส้นสูงพัง

มู่วี่สิงมองเห็นหญิงสาวล้มลงไปจากกระจกมองหลัง เขาขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้แล้วเปิดรถลงมาอุ้มเวินจิ้งขึ้นไปท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

เวินจิ้งอึ้งไป พอนั่งข้างคนขับปุ๊ปก็เริ่มได้สติ

“ขอบคุณค่ะ”เธอหันไปมองผู้ชายข้างๆ

ใบหน้าที่เย็นชาของมู่วี่สิงกลับยื่นผ้ามา

เวินจิ้งก้มลงเช็ดผมและใบหน้าที่เปียกถึงเห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองเปียกไปหมด

ดีที่เธอสวมชุดคลุมอยู่ ไม่งั้นคงจะน่าอาย

“ที่อยู่”มู่วี่สิงถาม

“ถนนอันหนิง10”

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถปอร์เช่สีดำนั่นก็หยุดลงที่ใต้ตึกเก่าๆที่พักแถวนั้น

เดิมทีเวินจิ้งไม่อยากให้เขาเข้ามาที่ข้างใน แต่ว่าเขาไม่ฟังเธอเลย

“ขอบคุณที่มาส่งฉันค่ะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษมากจริงๆ”เวินจิ้งขอโทษเขาอีกรอบ

“เชิ้ตอขงคุณราคาเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ค่ะ”เวินจิ้งพูดด้วยเสียงหวาดหวั่นเล็กน้อย

สายจาของมู่วี่สิงมองไปข้างหน้า พอได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วก็เห็นเวินจิ้งเปิดกระเป๋าเงิน

เธอทายในใจน่าจะหลักสี่ แต่ว่าราคาจริงๆไม่รู้

“คุณชดใช้ไหวเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำของมู่วี่สิงก็ดังขึ้น เชิ้ตของเขาตัดอย่างดี ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว

“ฉันชดใช้ราคาไม่ไหวเหรอคะ?”ใบหน้าของเวินจิ้งดูหดไป

ตอนนี้เองก็มีเสียงของเจี่ยนอีดังๆจากด้านนอกเข้ามา“เวินจิ้ง กลับมาไวขนาดนี้ทำไมเนี่ย ไม่ได้บอกว่าให้อยู่กับเขานานๆหน่อยเหรอ……”

เวินจิ้งลำบากใจเล็กน้อย ชุมชนเล็กๆแบบนี้ ทุกตึกเกือบจะเป็นเพื่อนบ้านกัน เจี่ยนอีตะโกนแบบนี้จนเกือบจะได้ยินไปทั้งชุมชน

“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับแล้ว นี่เบอร์ของฉัน ถ้าให้ฉันชดใช้อะไรติดต่อมานะคะ!”เวินจิ้งรีบเขียนเบอร์โทรตัวเองจากนั้นก็ลงรถ

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ที่ปลายนิ้วยังมีกระดาษที่มีไออุ่นของเวินจิ้งอยู่ ด้านบนมีเบอร์โทรอยู่ เขากำกระดาษแน่น

เจี่ยนอีเห็นลูกสาวลงมาจากรถก็ตะลึง แต่ก็ได้สติกลับมา“เวินจิ้ง ทำไมถึงบอกว่านัดดูตัวจบแล้วล่ะ?นี่ไม่ใช่ว่าสำเร็จแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่เขา”เวินจิ้งดึงแม่เข้าบ้าน แต่ว่าดึงไม่ได้

เจี่ยนอีจ้องรถนั่น ในใจก็นับว่ารถนี่น่าจะมีศูนย์กี่ตัว

ที่แท้ก็เป็นคนที่ที่มีรายได้ปีละล้าน รถนี่แค่ดูก็รู้แล้วว่าเกินล้าน!

“ลูกพูดอะไร?อย่าหลอกแม่สิ รีบไปให้เขาลงมาให้แม่ดูหน่อย”

เวินจิ้งนิ่งไป มองมู่วี่สิงแล้วรีบปิดประตูรถ จากนั้นก็ดึงแม่ออกมา

ในรถนั่น มู่วี่สิงมองแม่ลูกที่เดินออกไปไกล สายตาหม่นลงเล็กน้อย

ในแสงสว่างนั่น โทรศัพท์สีขาวก็ตกลงที่เบาะข้างคนขับ

เขาหยิบขึ้นมา โทรศัพท์สั่นเล็กน้อยแล้วก็มีแจ้งเตือนเข้ามาว่า:วันที่1000ที่คุณจากไป

เวินจิ้งกับแม่ที่เพิ่งเข้าบ้าน ออดประตูก็ดัง

เป็นเขา?

เวินจิ้งเปิดประตู ร่างสูงๆของมู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู

“โทรศัพท์คุณ”น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความไม่พอใจแฝงอยู่

“อ้อ ขอบคุณค่ะ!”เวินจิ้งยิ้ม“เดี๋ยวฉันลงไปส่งคุณ”

พอพูดจบเสียงของเจี่ยนอีก็เข้ามา“เวินจิ้ง ทำไมให้เขายืนอยู่ข้างนอกล่ะ รีบเข้ามานั่งสิ!”

เวินจิ้ง:……

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ขายังไม่ขยับก็พูดอย่างเรียบๆว่า“ผมมีธุระ ไปก่อนนะ”

เวินจิ้งโล่งอกไป วันนี้เธอก็รบกวนชายคนนี้พอแล้วจะให้มีเรื่องอะไรอีกไม่ได้

แต่เจี่ยนอีก็ยังมองมา เวินจิ้งปิดประตูดัง“ปัง”

“แม่ หนูไม่รู้จักเขา”

“ไม่รู้จักเขาแล้วมาส่งลูกได้ไง?”

“เขาใจดี หนูเปียกไปทั้งตัวแบบนี้?”

“แม่ว่าลูกสองคนได้อยู่ ฮิฮิ ผู้ชายคนนี้ไม่เลว เวินจิ้ง ครั้งนี้ลูกสายตาไม่เลวจริงๆ!”

เวินจิ้งกลับเข้าห้อง ปิดประตู


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท