Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล – ตอนที่ 832 ถึงเเอสการ์ด

ตอนที่ 832 ถึงเเอสการ์ด

ถึงเเอสการ์ด

  นอกเหนือจากเรื่องสำคัญที่อุตสาหกรรมสตาร์คอินดัสตรีท์ทางสำนักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. ก็ยังคงวางเเผนการสำหรับการตอบโต้ประตูมิติอวกาศของพวกเขาอยู่เหมือนกัน ตอนนี้พวกเขาไม่มีลูกบาศก์เวทมนตร์ที่อยู่กับมิราจไนท์ ทำให้พวกเขาต้องดิ้นรนกันอย่างบ้าคลั่ง

  สำหรับทีมX-MENก่อนหน้านี้ที่ไซบีเรีย ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ใช้พลังจิตจำนวนมากทำให้พวกเขาตัดสินใจไม่ทำการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ เเต่ทางพวกเขาก็ยังส่งคนไปร่วมเหตุการณ์เเละคอยตรวจสอบระวังพวกมิวแทนท์ด้วยกันอย่างสมาคมมิวแทนท์

  ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์หลังจาก โทนี่ ส่งปีเตอร์เเละคนอื่น ๆ กลับ พวกเขาก็กลับไปที่ฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ หลังจากกลับไปก็พบเรื่องประหลาด หนึ่งในนั้นก็คือ น้องชายของเจอร์รี่

   นายคิดว่าเขาพูดความจริงอย่างงั้นเหรอ 

   เอ่อ…เขาดูไม่เหมือนพวกที่เเกล้งทำเป็นความจำเสื่อมเลย 

   เเล้วเดดดพูลคุณว่ายังไงบ้าง 

   ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันฉันเเค่บังเอิญเก็บเขามา 

   นายไม่รู้อะไรเเล้วยังเก็บเขามานี่นายโง่หรือป่าว พาเขามาถึงฐานลับของพวกเราโดยตรงแบบนี้ 

   ก็ตอนนั้นฉันลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย… ได้ยินคำพูดของเเฮร์รี่เดดพูลได้ไอออกมาอย่างเขินอาย

   เท่าที่เจอร์รี่เล่ามาเขาดูไม่น่าไว้วางใจเเละดูเป็นอันตรายอย่างมาก… 

   ทางที่ดีเราเปิดระบบป้องกันฐานตลอดทั้งวันเถอะหากพบพิรุธข้อสงสัยเราค่อยจัดการเขา 

   ฉันเองก็เฆ็นด้วยอย่างไรก็ตามพวกคุณจะต้องอยู่ด้วยกันกับฉัน… 

  บนโลกที่ไม่มีมิราจไนท์หรือเเจ็คสันตอนนี้ทุกคนต่างก็ยังใช้ชีวิตสงบสุขตามปกติ สำหรับคนที่ใกล้ชิดกับมิราจไนท์ พวกเขาก็เป็นห่วงเช่นเดียวกัน

  เวลาระหว่างสองโลกนั้นเเตกต่างกันหลายชั่วโมงหลังจากพวกเขาถูกส่งไปนอกโลกโดยสะพานไบฟรอส

  ฟุ่บ!

   อ๊า! ร่างกายของเเจ็คสันหมุนกลับหัวไปมาอย่างต่อเนื่องขณะที่เดินทางผ่านไปโดยใช้สะพานไบฟรอส

  เเม้ว่าก่อนหน้านี้เเจ็คสันจะเคยเดินทางโดยใช้สะพานไบฟรอสมาก่อนเเต่เขาก็ได้รับการปกป้องโดย เอนเชี่ยนวันตลอดระยะเวลาการเดินทางทำให้การเดินทางเป็นไปได้อย่างเรียบง่ายเเต่ตอนนี้มันเเตกต่างออกไป เเจ็คสันที่เต็มไปด้วยบาดเเผลรุนเเรงเพียงเเค่เเรงจะเดินยังเเทบไม่มีตอนนี้เขาเหมือนกับถูกโยนลงไปในเครื่องซักผ้าเเละหมุนไปมาอย่างไม่อาจควบคุมได้

   โอ้ยหัวฉัน! ในขณะนี้เเจ็คสันได้รู้สึกเวียนหัวเเละเเทบจะอาเจียนเขาหวังให้การเดินทางในครั้งนี้จบลงโดยเร็ว

  ฟุ่บ!

  ขณะที่เเจ็คสันกำลังรู้สึกหดหู่สะพานไบฟรอสก็ปรากฏร่างของคนสองคนขึ้น บรรยากาศโดยรอบนั้นเต็มไปด้วยหมู่ดาวอันกว้างใหญ่ ที่นี่ก็คือสถานที่ปลายทางเเอสการ์ด

  สำหรับเเจ็คสันเขาเองก็ใกล้ถึงปลายทางเเล้วเหมือนกันเขาจำได้ว่าปลายทางเเสงสีขาวนั่นก็คือจุดสิ้นสุดของการเดินทาง

  ฟุ่บ!

  จากนั้นร่างของเเจ็คสันที่ถูกส่งมาโดยสะพานไบฟรอสก็ร่วงหล่นลงมาที่พื้นบรรยกาาศที่เต็มไปด้วยดวงดาวเหล่านี้

  ตำเเหน่งที่เเจ็คสันหล่นลงมาใกล้กับตำเเหน่งที่ธอร์ เเละ เจน ตกลงมาก่อนหน้านี้

  ฟุ่บ!

  เเจ็คสันที่รู้สึกตัวเขาพยายามฝืนร่างกายตัวเองเเละเปิดเปลือกตาขึ้นเขาสังเกตุเห็นถึงสถานการณ์ทั้งหมดโดยรอบ ที่นี่คือเเอสการ์ด ห้องโถงที่ใช้ปรปักษ์สะพานไบฟรอส ที่เอนเชี่ยนวัน เคยพาเขามาก่อนหน้านี้

   หืมเเจ็คสันเจ้าเองก็มาที่นี่ด้วย เห็นเเจ็คสันตกลงมา ธอร์ ที่ได้ยินเสียงก็สังเกตุเห็นเขาทันที

  ในเวลานี้ธอร์กำลังกอดเจน ที่กำลังหมดสติอยู่ เขาได้รีบวิ่งไปที่ตำเเหน่งของเเจ็คสันอย่างรวดเร็ว

   ฉันไม่ได้ต้องการมาที่นี่ 

   ได้ยินคำพูดของธอร์เเจ็คสันรู้สึกทำอะไรไม่ถูกเขาพยายามจะดันตัวเองลุกขึ้น

  ฟุ่บ!

  ขณะที่เเจ็คสัน เเละ ธอร์กำลังสนทนากัน ศูนย์กลางที่คอยปรปักษ์สะพานไบฟรอส ดาบขนาดใหญ่ก็ถูกปักลงไปที่เเท่นอีกครั้งจากนั้นก็ปรากฏเสียงฝีเท้าเดินออกมาจากห้องโถงกลางอย่างช้า ๆ

  ธอร์ที่กอดเจน รวมถึง เเจ็คสัน ได้จ้องมองไปที่ บุคคลที่สวมใส่ชุดทองคำสีเข้ม นี่ก็คือ ฮัมดาลล์

   ฮัมดาลล์! เห็นฮัมดาลล์ธอร์ตะโกนอย่างตื่นเต้น

   ธอร์ เทียบกับความตื่นเต้นของธอร์ฮัมดาลล์ ดูสงบอย่างมาก

  เเม้ว่าธอร์จะถูกเนรเทศออกจากเเอสกาณ์ดเเต่ ฮัมดาลล์ ก็เฝ้าติดตามมองดูเขาอยู่ตลอด ดังนั้นการพบกันของทั้งสองจึงไม่ได้ให้ความรู้สึกเเปลกสำหรับเขา

   อืม,กษัตริย์โอดินกำลังรอท่านอยู่ ฮัมดาลล์กล่าวอย่างไร้อารมณ์

   ถ้าอย่างนั้นช่วยส่งฉันกลับไปที่โลกก่อนได้ไหมสภาพของฉันตอนนี้ไม่พร้อมที่จะอยู่ที่นี่นานนัก เห็นว่าธอร์กำลังจะไปเเจ็คสันที่นอนอยู่บนพื้นได้กล่าวออกมา

  เเจ็คสันสามารถคาดเดาได้ว่าที่ตัวเองถูกส่งมาที่นี่ก็เพราะลูกบาศก์เวทมนตร์ที่อยู่กับเขา

  ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ฮัมดาลล์ ได้จ้องมองไปที่ อีกฝ่าย ธอร์ เองก็รู้สึกสงสัยเช่นเดียวกัน

   เจ้ามีสิ่งของที่เเอสการ์ดของเราต้องการหากยื่นส่งมันมาให้ข้าข้าสัญญาว่าจะส่งเจ้ากลับไป 

 

การวิวัฒนาการพิเศษของเวน่อม

  หลังจากที่โทนี่เเละกัปตันโรเจอร์สพูดอย่างเชื่อมั่นว่ามิราจไนท์จะกลับมาพวกเขาก็พูดคุยกันเกี่ยวกับเเผนการกลุ่มพันธมิตรกันต่อไป เเม้ว่ามิราจไนท์จะไม่อยู่พวกเขาก็จะต้องดำเนินการตามเเผนต่อ

   เเจ็คสันเธอได้ทิ้งภาระจำนวนมากไว้ให้เเก่ฉัน เเต่เอาเถอะ ฉันจะช่วยเหลือเธออย่างเต็มที่ ที่น่าเป็นห่วงตอนนี้ก็คือทางบ้านของเธอ หลังจากวางสายวิดีโอกับกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ จ้องมองไปที่ห้องทดลองที่เหลือของตนเอง

   J.A.R.V.I.S. 

   ครับเจ้านาย! 

  โทนี่ได้เรียก J.A.R.V.I.S. ตอนนี้นอกเหนือจากเรื่องสะพานไบฟรอส เขายังมีเรื่องอื่นที่จะต้องสะสางอยู่อีก อย่างเเรกเมื่อสองสามวันก่อนอาวุธทางการทหารอย่างไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส ต้องรู้ว่า คิลเลี่ยน หัวหน้าทหารเอ็กซ์ทรีมิส ได้รับโทษของเขาไปเเล้ว ส่วนเเมนดาริน ก็ถูกจับตัวเเละกักขังไว้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสยังไม่สิ้นสุด

  ตามความเข้าใจของโทนี่คิลเลี่ยน น่าจะเผยเเพร่ไวรัสพวกนี้ให้กับชาวจีนไปอยู่ เเละเบื้องหลังของมันจะต้องมีผู้พัฒนาอื่น ๆ หลบซ่อนตัว

   เจ้านายครับจะทำการลดอุณหภูมิเเช่เเข็งทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้หรือไม่ J.A.R.V.I.S.ได้กล่าวถามโทนี่

  ก่อนหน้านี้หลังจากเปลี่ยนเเปลงฐานลับไฮดร้าที่ไซบีเรียJ.A.R.V.I.S. ก็ราวกับมีสติปัญญามากขึ้นเขาดูเหมือนจะมีเเนวคิดเเปลกใหม่ในหัวตลอดเวลา

   อืม,เราจะตรวจสอบเเละพยายามเเยกเจ้าสิ่งนี้ออกจากร่างกายของพวกเขาเเต่เราจะต้องมีข้อมูลจากร่างกายที่เเน่ชัดของพวกเขาซะก่อน ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S. โทนี่พยักหน้าตอบรับ

  จากนั้นJ.A.R.V.I.S. ก็ได้ฉายภาพรังสีฟ้าอ่อนซึ่งเป็นการกระทำของเขา โทนี่ ไม่ได้พูดอะไรเพียงเเค่จ้องมองดูเเละสังเกตุอย่างระวัง

   เริ่มทำการละลายน้ำเเข็งทหารทดลองหมายเลข1″ได้รับการยืนยันจากโทนี่ J.A.R.V.I.S. เริ่มทำการละลายน้ำเเข็งของทหารเอ็กซ์ทรีมิสหมายเลข 1

  ทหารเอ็กซ์ทรีมิสที่ถูกจับมานั้นมี13 คน เเละยังมีพวกไม่ยอมจำนนกว่าอีก 9 คน โทนี่ได้ให้โอกาสคนเหล่านี้โดยการที่เขาจะออกปากช่วยอย่างไรก็ตามพวกทหารที่ต่อต้านเหล่านั้นก็ถูกส่งไปให้ S.H.I.E.L.D. จัดการ

   ก่อนที่ทหารทดลองหมายเลข1 จะฟื้นสติเราจะทดสอบโดยการใช้เวน่อมเพื่อดึงดูดพลังงานในร่างของพวกเขา ฉันต้องการดูการเปลี่ยนเเปลงพิเศษอื่น ๆ  หลังจากรอให้ทหารทดลองหมายเลข 1 กลับมามีสติ โทนี่ต้องการทดสอบสถานการณ์พิเศษของเวน่อม

   ครับเจ้านาย! J.A.R.V.I.Sตอบกลับพร้อมกับนำเวน่อมที่ถูกปิดผนึกไว้ออกมา

  อย่างไรก็ตามขณะที่อยู่ห่างจากเวน่อมที่ถูกขังในกล่องโลหะพิเศษคราวนี้เขาเเทบจะไม่สามารถจดจำรูปลักษณ์ของมันได้

   ทำไมเวน่อมถึงมีสภาพเป็นอย่างนี้ มองไปที่กล่องโลหะพิเศษโทนี่เห็นร่างของเวน่อมเปล่งเเสงสีเขียวอ่อนออกมาในรูปแบบที่ไม่ชัดเจน

  ก่อนหน้านี้โทนี่ได้ทำการทดสอบเเละดูรูปลักษณ์ของเวน่อมทุกรูปแบบมันมีลำตัวเเละกลิ่นอายพลังที่ดำสนิท เเต่ตอนนี้ร่างของมันได้เปล่งเเสงสีเขียวอ่อนราวกับว่ามีบางอย่างในร่างกายของมันได้เปลี่ยนเเปลงไป

   หรือว่าเป็นเพราะเวน่อมได้ดูดซับพลังชีวิตไปจำนวนมา 

   ตอนนี้มันได้เกิดการเปลี่ยนเเปลงอีกครั้งเเต่ลักษณะของมันดูเเล้วเป็นเพียงลักษณะที่ชั่วคราวอีกประมาณ 5 นาทีน่าจะคืนลักษณะเดิมครับ ได้ยินเสียงพึมพัมของโทนี่ J.A.R.V.I.S ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

   วิวัฒนาการเปลี่ยนเเปลงชั่วคราวอย่างงั้นเหรอหรือว่าเพราะพลังชีวิตที่มันดูดซับไปนั่นจะส่งผลสำหรับการเปลี่ยนเเปลงมันในเชิงลักษณะกายภาพทางอื่น? ได้ยินคำตอบของJ.A.R.V.I.S โทนี่ กระพริบตาหลายครั้ง

   จากการตรวจสอบเเละการคำนวณความน่าจำเป็นที่จะเป็นในลักษณะที่ว่านี้สูงมากสัมผัสพิเศษทุกอย่างของเวน่อมได้รับการยกระดับขึ้น เมื่อโทนี่คาดเดา J.A.R.V.I.S ก็ให้คำตอบเเก่เขาเช่นเดียวกัน

   นี่มันหรือว่า… โทนี่รู้สึกประหลาดใจมากเเต่ก็ไม่ได้เเปลกใจเพราะว่า เวน่อมยังไงก็เป็นปรสิตจากต่างดาว

  โทนี่ไม่ได้ตั้งใจให้เวน่อม ดูดซับพลังงานชีวิตจากร่างของเเจ็คสัน เพียงต้องการให้มันดูดซับพลังงานมืดออกมาเพียงเท่านั้น เเต่พลังชีวิตที่อยู่ในร่างของเเจ็คสันนั้นเข้มข้นอย่างมาก ขอบเขตของมันได้กระตุ้นต่อมของ เวน่อม จนมันได้ดูดซับพลังเหล่านั้นมาวิวัฒนาการตัวเอง

   พวกเราสามารถวาดเส้นขีดจำกัดในการวิวัฒนาการของมันได้หรือไม่ โทนี่รู้สึกกังวลบางอย่างทุกครั้งที่เวน่อมได้พัฒนาตัวเอง

   เกรงว่าคงจะต้องลองทำการทดสอบดูหลายวิธีการในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการควบคุมอีกฝ่ายที่สมบูรณ์ J.A.R.V.I.Sตอบกลับย

  ได้ยินคำตอบของJ.A.R.V.I.S โทนี่ค่อนข้างอึดอัดใจ เเม้ว่าการที่เวน่อมพัฒนาการไปจะทำให้พวกเขามีสิ่งวิจัยที่ทรงคุณค่ารุนเเรงมากขึ้น เเต่ถ้าเขาไม่สามารถควบคุมมันได้ก็ไร้ค่า

   มีวิธีสกัดพลังงานในร่างของมันออกมาหรือไม่ถ้าเกิดพลังงานในร่างของมันไม่เพียงพอธรรมชาติมันย่อมต้องหยุดการวิวัฒนาการทั้งหมดลง โทนี่กล่าวถามออกมา

   ไม่สามารถสกัดพลังงานของมันออกมาได้ชั่วคราวเเต่ถ้าเราใช้พลังงานของเวน่อมผลาญใช้ออกไปเองจะทำให้มันสูญเสียพลังงานในร่างกายของมันอย่างต่อเนื่อง J.A.R.V.I.S เสนอหนทางออก

   ผลาญพลังงานตกลงอย่างไรก็ตาม ค่อย ๆ ทำไปทีละขั้นตอน ฉันต้องการสังเกตุการเปลี่ยนเเปลงลักษณะของมัน 

   ครับเจ้านาย 

 

การสนทนาลับของเอนเชี่ยนวัน

  เทือกเขาหิมาลัย,สถานที่สันโดษผู้คนรัศมีเเสงสีทองได้โผล่ออกมาจากอากาศบาง ๆ ก่อนที่ร่าง ๆ นึงจะปรากฏตัวออกมา นี่ก็คือ จอมเวทย์สูงสุดของโลก

  เอนเชี่ยนวันได้เดินเล่นอยู่ในลานสนามหิมะ คิ้วของเขาขมวดเเน่นอย่างกังวลราวกับว่ามีเรื่องอะไรบางอย่างให้ทุกข์ใจ

   เด็กคนนั้นเพิ่งรอดพ้นจากหายนะความตายมาเเต่กลับถูกสะพานไบฟรอสพาตัวไปยังเเอสการ์ด ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันขมวดคิ้วเเน่นเเละกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

  ที่จริงเเล้วเกี่ยวกับทุกการเคลื่อนไหวในโลกบุคคลระดับเอนเชี่ยนวันย่อมสามารถสัมผัสได้ทั้งหมด เเต่ เเจ็คสันนั้นไม่ได้เป็นคนของโลกมาร์เวล เขาไม่ได้วางเเผนจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเด็กคนนี้ ไม่ว่าเด็กคนนี้จะทำอะไร ท้ายที่สุดไม่นาน เด็กคนนี้ ก็สามารถจัดตั้งทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ขึ้นมาได้ หลังจากนั้น เอนเชี่ยนวันก็เพียงเฝ้ามองอีกฝ่าย อย่างลับ ๆ

  เเต่เมื่อไม่นานมานี้เอนเชี่ยนวันได้รับข่าวว่า เเจ็คสัน ได้ถูกสะพานไบฟรอสพาตัวไปที่เเอสการ์ดด้วยความบังเอิญ

   อาจเป็นเพราะโอดิน ต้องการทวง สเปซสโตนคืนงั้นหรือ มันเป็นเรื่องบังเอิญเกินไป ที่ สเปซสโตนกับเรียลลิตี้สโตนปรากฏขึ้นบนโลก เอนเชี่ยนวันพึมพัมออกมา

   เเต่ถึงอย่างไงสิ่งของทั้งสองอย่างเด็กคนนั้นก็เป็นคนเจอสินะ… 

  เอนเชี่ยนวันเดินไปที่ห้องเเห่งนึงจากนั้นเขาก็หยุดเท้าลงห้องนี้ไม่ได้มีหลังคาปิดกั้นทั้งหมด เอนเชี่ยนวันได้เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

   โอดินอายุของท่านก็มากเเล้ว ความเเข็งเเกร่งของท่านก็อ่อนเเอกว่าเเต่ก่อนมาก เเต่ท่านยังคงต้องการปรปักษ์รักษา มณีอินฟินิตี้สโตนเอาไว้ ของสิ่งนั้นจะนำภัยมาสู่เเอสการ์ด ให้โลกของเราได้เเบ่งปันเเรงกดดันให้กับท่านเถอะ เอนเชี่ยนวันที่เงยหน้ามองท้องฟ้า เขาพูดออกมาราวกับกำลังสนทนากับคนอีกคน

  หลังจากพูดสองคำเหล่านี้ออกมาเเล้วเอนเชี่ยนวันเหมือนจะได้รับการตอบกลับทำให้ เอนเชี่ยนวันมีท่าทีที่เปลี่ยนเเปลงต่างออกมา

   ท่านไม่ไว้ใจเจ้าหนูนั่น ฮ่าฮ่า…เเล้วท่านมั่นใจในตัวบุตรชายทั้งสองของท่านงั้นหรือ? หลังจากเงียบไปครู่นึง เอนเชี่ยนวันก็หัวออกมาเบา ๆ

   ในความเห็นของข้าความเเข็งเเกร่งของบุตรชายทั้งสองของท่านไม่สามารถเทียบได้กับบางสิ่งของเด็กคนนั้น เเต่ข้าก็ไม่ได้หมายความว่าข้าได้ดูถูกพวกเขา สำหรับธอร์ หากเขาสามารถปลุกพลังให้ตื่นขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์ก็คงจะเเตกต่างไปสักหน่อย 

   เด็กคนนั้นมีโชคชะตาที่เเม้เเต่ท่านยังไม่อาจคาดเดาได้ทางที่ดีท่านอย่าได้ทำอะไรเขาจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน 

   เกี่ยวกับคำพูดของข้าไม่มีความจำเป็นที่ข้าจะต้องอธิบายอะไรกับท่านอีก ไว้มีโอกาสพวกเราคงได้มานั่งพูดคุยกันอีกครั้งภายหลัง จากนั้น เอนเชี่ยนวันที่ไม่พอใจ ก็ได้ปิดการสนทนานี้ลง

   โอดินเด็กคนนี้มีอะไรมากกว่าที่ท่านคิดไว้มาก เเต่ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันชะตากรรมของเด็กคนนั้นจะเป็นยังไงต่อ หลังจากปิดตาลง เอนเชี่ยนวัน ก็ลดศีรษะลงเเละเดินจากไป

  …

  วอชิงตัน,สำนักงานใหญ่S.H.I.E.L.D. หลังจากจบเรื่องทั้งหมดเเล้ว กัปตันโรเจอร์ส ก็ได้รับการติดต่อจาก โทนี่ อีกครั้ง

   มิราจไนท์เป็นยังไงบ้าง หลังจากเชื่อมต่อกับโทนี่กัปตันโรเจอร์ส ได้กล่าวถามถึงสถานการณ์ของมิราจไนท์

  เกี่ยวกับเหตุการณ์พิเศษที่ปรากฏขึ้นกัปตันโรเจอร์ ยังไม่ได้รับรายงานจากทางองค์กร S.H.I.E.L.D. เเต่ก็ได้ข้อมูลบางอย่างจาก โทนี่เล็กน้อย

   มิราจไนท์ปลอดภัยเเล้วเขาเพิ่งฟื้นขึ้นมาก่อนหน้านี้เเต่ก็ไม่อยู่บนโลกเเล้วเขาถูกเคลื่อนย้ายโดยสะพานไบฟรอส โทนี่ไม่ได้วางเเผนจะซ่อนความจริงจากกัปตันโรเจอร์สเขาอธิบายโดยตรง

   ไม่เป็นอะไรก็ดีเเล้ว…เดี๋ยวนะเขาไม่ได้อยู่บนโลก เขาถูกส่งผ่านโดยสะพานไบฟรอส มันคืออะไร 

  เมื่อได้ยินคำตอบของโทนี่กัปตันโรเจอร์สรู้สึกสงสัย

   สะพานไบฟรอสครั้งนึงเคยปรากฏขึ้นที่นิวเม็กซิโก ที่จริงเเล้วมันคล้าย ๆ ประตูมิติอวกาศที่เชื่อมระหว่างสองโลก มิราจไนท์ได้ฟื้นคืนสติก่อนหน้านี้ขึ้นมา 10 นาที เเต่เขาก็ถูกเจ้าสิ่งที่ว่านี้พาตัวออกจากนอกโลก เห็นกัปตันโรเจอร์สไม่ชัดเจนในคำตอบ โทนี่ กล่าวเเนะนำหลายอย่าง

   !! ได้ยินคำพูดของโทนี่สีหน้าของกัปตันโรเจอร์ส ได้เเปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาได้พยายามค้นหาข้อมูลภายในคอมพิวเตอร์ด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

  สิ่งที่กัปตันโรเจอร์สค้นหาก็คือการค้นพบของS.H.I.E.L.D. ก่อนหน้านี้ เหตุการณ์ระดับ S ที่นิวเม็กซิโก หลังจากตรวจสอบเหตุการณ์อย่างเข้าใจ กัปตันโรเจอร์ส ก็รู้ว่าเจ้าสิ่งนี้เรียกว่าสะพานไบฟรอส มันได้ปรากฏขึ้นพร้อมกับชายคนนึงเเละค้อนเหล็กอาวุธลึกลับจากนอกโลก จากการทำความเข้าใจเเละพยายามศึกษาค้อนเหล็กนั่น ทางS.H.I.E.L.D. ได้ตัดสินใจว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ทรงพลังไม่ด้อยไปกว่าลูกบาศก์เวทมนตร์

   จะบอกว่าธอร์ เเท้จริงเเล้ว เขาเป็นคนจากดาวดวงอื่นที่อยู่นอกโลกงั้นเหรอ กัปตันโรเจอร์สกล่าวถาม

   คงจะเป็นแบบนั้นมิราจไนท์เองก็ถูกส่งออกไปพร้อมกับเขา สถานที่ปลายทางดูเหมือนจะเรียกว่า เเอสการ์ด โทนี่ตอบกลับทันที

   เเล้วมิราจไนท์จะกลับมาหรือไม่ 

   ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องกลับมา 

   ดีฉันก็เชื่ออย่างนั้น 

 

ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องกลับ

  ได้ยินคำพูดของJ.A.R.V.I.S สีหน้าของโทนี่เเละคนอื่น ๆ ได้ปรากฏความสงสัยจากนั้นโทนี่ก็เปิดปากถามออกมา

   J.A.R.V.I.Sนายค้นพบอะไรก็พูดมาเลย โทนี่ไม่ได้วางเเผนให้ J.A.R.V.I.S ซ่อนความจริงเขาได้กล่าวถามโดยตรง

  ฟุ่บ!

  หลังจากโทนี่บอกเเสงจากหน้าจอก็ได้ฉายภาพช่วงเวลาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อีกครั้งเเต่ในหน้าจอเเสดงผลนี้กลับไม่ได้เป็นแบบเดิมคล้ายว่าจะมีบางสิ่งที่เป็นข้อมูลนอกเหนือ

   นี่มัน…คลื่นพลังงานความผันผวนทางมิติอวกาศ หลังจากเห็นเเสงเหล่านั้นเเละข้อมูลทำให้โทนี่ หลุดพูดออกมาอย่างตกใจ

   ใช่ครับ,ก่อนหน้าที่สะพานไบฟรอสกำลังจะหายไปเเละขยายตัวขึ้นอย่างกระทันหันร่างของคุณมิราจไนท์ได้ปรากฏคลื่นความผันผวนทางมิติอวกาศ ผมคิดว่านั่นน่าจะเป็นพลังจากลูกบาศก์เวทมนตร์ หลังจากโทนี่กล่าวพูดออกมา J.A.R.V.I.S ก็พูดตอบรับ

   จะบอกว่าพวกเเอสการ์ดค้นพบ พลังของลูกบาศก์เวทมนตร์จากตัวของมิราจไนท์งั้นเหรอ ได้ยินคำพูดของพวกเขา พ่อมดรุ่ยเคอ ได้พูดบางอย่าง

  พวกเขารู้สึกสงสัยว่ามิราจไนท์ค้นพบลูกบาศก์เวทมนตร์จริง ๆ งั้นเหรอ ถ้าเกิดเป็นเช่นนั้นจริงทางเเอสการ์ดจะตรวจพบคลื่นพลังก็ไม่เเปลก

   พ่อมดรุ่ยเคอทำไมทันทีที่เเอสการ์ดสัมผัสพลังจากลูกบาศก์เวทมนตร์ได้ เขาถึงได้พามิราจไนท์ไปด้วย โทนี่ ได้กล่าวถามอย่างกังวล

   คุณไม่จำเป็นต้องกังวลมิราจไนท์จะต้องปลอดภัย เเอสการ์ดเพียงเเค่ต้องการ ลูกบาศก์เวทมนตร์ เหมือน ๆ กับ อีเธอร์ พ่อมดรุ่ยเคอ ตอบกลับเล็กน้อย

   ต้องการลูกบาศก์เวทมนตร์เหมือนกับอีเธอร์ ได้ยินพ่อมดรุ่ยเคอพูด โทนี่ ยิ่งงงเข้าไปใหญ่

  ก่อนหน้านี้เเจ็คสัน เพียงเเค่อธิบายให้พวกโทนี่ฟังว่า ลูกบาศก์เวทมนตร์นั้น เป็นไอเท็มเเห่งจักรวาล พวกมันมีอยู่ด้วยกัน 6 เม็ด เขาไม่ได้บอกว่าใครเป็นเจ้าของเดิมของพวกมัน ดังนั้นโทนี่จึงไม่รู้ว่า ลูกบาศก์เวทมนตร์ เดิมเคยเป็นของเเอสการ์ด

   พวกเราไม่สามารถอธิบายอย่างเจาะจงได้เเต่เท่าที่พวกเรารับปากก็คือมิราจไนท์จะต้องปลอดภัยเเน่นอน พ่อมดไต้เหวิ่น ไม่ต้องการพูดเรื่องพวกนี้มากเกินไป

   อะไรพวกเขารู้หรือไม่ว่าพวกเรากว่าจะหาลูกบาศก์เวทมนตร์เจอนั้นยากเย็นขนาดไหน?ทำไมเเอสการ์ดถึงต้องการพวกมัน เผชิญหน้ากับพ่อมดไต้เหวิ่นเเละพ่อมดรุ่ยเคอโทนี่ รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

   บางทีคุณอาจจะรอให้มิราจไนท์กลับมาเเละอธิบายให้ฟังดีกว่าได้เวลาที่พวกเราจะต้องกลับกันเเล้ว เห็นโทนี่เเสดงนิสัยก้าวร้าวออกมาพ่อมดรุ่ยเคอ กล่าวพูดอย่างงุ่มง่ามจากนั้นเขาก็วางเเผนจะออกเดินทางทันที

  ฟู่วว

  จากนั้นพ่อมดคุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น ก็เรียก ประตูมิติอวกาศเวทมนตร์ออกมา

  ฟุ่บ~~

   หากท่านปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันได้เเจ้งข่าวอะไรเเก่พวกเราพวกเราจะรีบเเจ้งคุณทันที โทนี่ สตาร์ค จากนั้น พ่อมดรุ่ยเคอ ก็กล่าวพูดกับพวกโทนี่ เเละ เดินเข้าไปในประตูมิติอวกาศเวทมนตร์โดยตรง

  เห็นการหายไปของพ่อมดรุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น ทุกคนที่อยู่ที่นี่กลายเป็นสงบเงียบอย่างเเปลก ๆ พวกเขาไม่รู้ว่าจพูดอะไรออกมา

  ~~~

  โทนี่ได้ลุกขึ้นจากโซฟาก่อนที่จะพูดออกมาเบาๆ  ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือมิราจไนท์ในวันนี้ ถ้าทุกคนไม่มีอะไรเเล้ว ฉันขอตัวก่อน ก็อย่างที่พวกพ่อมดทั้งสองคนพูด มิราจไนท์คงจะไม่เป็นอะไร 

   โทนี่สตาร์ค พวกเราหวังว่ามิราจไนท์จะปลอดภัย เเละ กลับมาในไม่ช้า หลังจากโทนี่กล่าวบอก ไอซ์แมน ได้พูดขึ้น

  ในวันนี้ไอซ์แมน ทำหน้าที่เป็นตัวเเทนของ ทีมX-MEN ทุกคน เขาได้เข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด

   ขอบคุณไอซ์แมนขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือมิราจไนท์ หากมีอะไรที่ฉันพอจะช่วยเหลือพวกคุณได้ ได้โปรดพูดออกมา ส่วน มิสเเอนนา หากคุณต้องการสิ่งที่ว่านั่นจริง ๆ รอให้มิราจไนท์กลับมาก่อน ได้ยินคำพูดของไอซ์แมน โทนี่ ยิ้มเเละตอบกลับ

   คุณสตาร์คพวกเราทำได้เเค่รอจริง ๆ งั้นเหรอ หลังจากทีมX-MEN ไม่ได้พูดอะไร ปีเตอร์ ได้เปิดปากถามอย่างกังวล

   นอกจากการรอคอยเเล้วพวกเราไม่มีวิธีการที่ดีอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราทำได้เพียงเชื่อมั่นในตัวของมิราจไนท์ 

   อีกอย่างมิราจไนท์ควรจะไม่มีปัญหาอะไร ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ โทนี่ ตอบกลับ

   เข้าใจเเล้ว 

   หากไม่มีเรื่องอะไรพวกคุณกลับกันไปก่อนเถอะ เกี่ยวกับเรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์ฉันจะไปพูดคุยกับศาสตราจารย์ชาร์ลส์เป็นการส่วนตัว โทนี่ได้กล่าวพูดให้เเยกย้ายกลับไป

   อืม ไอซ์แมนเเละสมาชิกทีมX-MENคนอื่น ๆ ได้ตอบกลับเเละเตรียมพร้อมจะออกเดินทาง

  อย่างไรก็ตามก่อนออกเดินทางไอซ์แมนได้พูดว่า ฉันเองก็เชื่อมั่นในตัวของมิราจไนท์เขาจะต้องกลับมาเเน่นอน 

   อืม,พวกเราเองก็เชื่อแบบนั้น 

  จากนั้นไอซ์แมนโร้ค,เเละโลเเกน ก็ได้เตรียมตัวกลับครั้งนี้ ไอซ์แมนรู้สึกดีใจมาก ที่พาโร้คเเละโลเเกนมารู้จักกับพวกคนเหล่านี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากลุ่มคนเหล่านี้ได้เปลี่ยนเเปลงความคิดของพวกเขาทั้งสองคน

  หลังจากพวกไอซ์แมนจากไปบนอาคารสตาร์คอินดัสตรีท์ห้องรับรองหรู ก็เหลือเพียง โทนี่ เป็ปเปอร์ ปีเตอร์ เเฮร์รี่ เเละ เดดพูล ที่ยังคงหลับอยู่

   เเฮร์รี่เธอกับ สไปเดอร์แมน กลับไปก่อนเถอะ ถ้าพวกเขากลับมาฉันจะรีบเเจ้งพวกเธอทันที โทนี่จ้องมองไปที่เด็กทั้งสองคน

   เอ่อ…คุณสตาร์คคุณคิดว่าเเจ็คสันจะปลอดภัยกลับมาจริงๆงั้นเหรอ 

   ไม่เพียงเเต่เชื่อมั่นเเต่ฉันมั่นใจว่าเขาจะต้องกลับมาพร้อมกับลูกบาศก์เวทมนตร์ 

 

ตรวจสอบเหตุการณ์อีกครั้ง

  หลังจากนั้นสิบนาทีพวกโทนี่ที่ยืนอยู่ด้านนอกก็ได้เข้าไปในห้องรับรองข้างในเเม้การปรากฏตัวขึ้นของสะพานไบฟรอสจะสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนทั่วไปจำนวนมาก เเต่โทนี่ ก็พอมีวิธีที่จะรับมือปัญหาเหล่านี้ภายหลัง

  ฟุ่บ

  ทันทีที่พวกโทนี่นั่งลงบนโซฟาเสร็จพวกเขาก็จ้องมองไปที่ พ่อมด รุ่ยเค่อ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น ที่ปรากฏตัวออกมาจากกลางอากาศ พวกเขาได้สัญลักษณ์เวทมนตร์บางอย่างที่มือตอนนี้

   พวกเราได้รีบเเจ้งเรื่องนี้ต่อปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันเเต่คาดว่าท่านน่าจะรู้เรื่องนี้อยู่ก่อนเเล้ว หลังจากสัญลักษณ์เวทมนตร์สีทองหายไป พ่อมดไต้เหวิ่น ก็กล่าวพูดออกมา

   นั่นเป็นวิธีการสื่อสารงั้นเหรอ ได้ยินคำพูดของพ่อมดไต้เหวิ่นเสียงกระซิบของสไปเดอร์แมนปีเตอร์ ที่อยู่ใกล้โทนี่ ได้พึมพัมออกมา

   ช่างสะดวกอะไรขนาดนี้ เเฮร์รี่เองก็รู้สึกตกใจเช่นเดียวกันเเต่นี่ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมามัวชื่นชม

   ขอบคุณ โทนี่ที่รู้สึกผ่อนคลายได้กล่าวขอบคุณพวกเขา

   จริงสิทำไมสะพานไบฟรอสของเเอสการ์ดถึงปรากฏขึ้นพาธอร์กลับไป ตามความเข้าใจของพวกเราตอนนี้ยังคงไม่ถึงเวลาด้วยซ้ำ จากข้อมูลที่พวกเขาได้รับมา พ่อมดรุ่ยเค่อ รู้สึก อยากรู้อยากเห็นมากเกี่ยวกับการปรากฏขึ้นของสะพานไบฟรอส

   อันที่จริงนี่เป็นข้อเสนอของมิราจไนท์… ได้ยินคำถามของพ่อมดรุ่ยเค่อโทนี่ กล่าวพูดถึงสถานการณ์ก่อนหน้านี้

   เพื่อช่วยเหลือเจน ฟอสเตอร์ ,มิราจไนท์ได้เสนอให้ ธอร์ เรียกใช้สะพานไบฟรอสเเละกลับไปที่เเอสการ์ด 

   นี่… เกี่ยวกับคำอธิบายของโทนี่พ่อมดรุ่ยเคอ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่นยังคงขมวดคิ้วเเน่น

  ที่พวกเขาสงสัยก็คืออาจเป็นธอร์ได้รับบาดเจ็บ ทางเเอสการ์ดเลยเปิดสะพานไบฟรอสให้เขาเดินทางกลับ เเต่เมื่อคิดถึง เจน ฟอสเตอร์ ที่เป็นเพียงคนธรรมดา ไม่ใช่ว่าพ่อมดรุ่ยเคอ ดูถูก เจน ฟอสเตอร์ เเต่ถึงเเม้เธอจะเป็นเเฟนสาวของธอร์ ทางเเอสการ์ดก็ไม่น่าจะต้อนรับเธอ

   เดิมทีธอร์คิดว่าสะพานไบฟรอสคงจะไม่เปิดต้อนรับเขาเเต่ดูเหมือนมิราจไนท์ได้บอกให้เขาพูดบางอย่างออกมาก่อนหน้าที่สะพานไบฟรอสจะปรากฏขึ้น เห็นพ่อมดรุ่ยเค่อ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น ยังคงสงสัย โทนี่ ได้กล่าวพูดเสริม

   J.A.R.V.I.Sฉายภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทีสิ โทนี่ไม่ได้วางเเผนที่จะอธิบายเขาได้ให้ J.A.R.V.I.S เปิดใช้วิดีโอภาพเหตุการณ์ก่อนที่สะพานไบฟรอสจะปรากฏขึ้น

  ฟุ่บ!

   ครับเจ้านาย! J.A.R.V.I.Sได้ตอบสนองอย่างรวดเร็วก่อนที่จะฉายภาพเเสงสีฟ้าอ่อนในห้องรับรองเเห่งนี้

  หลังจากจ้องมองไปที่จอเเสงที่ปรากฏขึ้นวิสัยทัศน์ของทุกคนก็เปลี่ยนไปทันทีในตอนนี้ ไอซ์แมน ได้จ้องเขม็งไปที่หน้าจอถึงเขาจะอยู่ในเหตุการณ์เเต่การได้ย้อนรอยดูทำให้เขาสามารถเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น

   เริ่มต้นได้ เมื่อทุกคนเตรียมพร้อมเสร็จโทนี่ ก็กล่าวพูดอีกครั้ง

  จากนั้นภาพบนหน้าจอก็ได้เริ่มเปลี่ยนไปสิ่งเเรกที่ทุกคนเห็นไม่ได้เป็นสิ่งที่น่าสนใจเท่าไหร่ การควบคุมมุมกล้องนั้นเป็นหน้าที่ของ J.A.R.V.I.S ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามโฟกัสจุดที่ตนเองอยากรู้

  ธอร์ได้อุ้มเจนไปยืนอยู่ในตำเเหน่งที่เตรียมพร้อมด้านหลังของเขาคือเเจ็คสันที่นั่งรถเข็น ไอซ์แมน กับคนอื่น ๆ ไม่รู้ว่าทั้งสองคนนั้นได้วางเเผนอะไรกันไว้

  ภาพเหล่านี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญพวกเขากำลังรอช่วงนาทีสำคัญก่อนที่เหตุการณ์สะพานไบฟรอสจะปรากฏขึ้น เพราะเเจ็คสันได้กล่าวให้ธอร์พูดบางอย่างออกมา

   มีอีเธอร์อยู่ในร่างของผู้หญิงที่ข้าอุ้มอยู่นี้… นี่เป็นเสียงที่ธอร์ตะโกนดังขึ้น

  จากนั้นเมฆสีดำก็เริ่มรวมตัวกันหนาเเน่นขึ้นเรื่อยๆ นี่คือลางบองเหตุที่ว่าสะพานไบฟรอสกำลังจะเปิดใช้งาน จากนั้น ผู้คนทั่วใจกลางนิวยอร์กก็กลายเป็นตกใจตามสถานการณ์

  ฟุ่บ!

  เสียงร้องของธอร์ในตอนนั้นพวกเขาทุกคนที่อยู่ในห้องนั่งเล่นได้ยินอย่างชัดเจน

   นี่… หลังจากพวกธอร์เเละเจนหายตัวไปจู่ ๆ โทนี่ก็เปิดปากขึ้นอีกครั้งเพราะในตอนนี้เเจ็คสันที่มีท่าทางกังวลพยายามจะกล่าวพูดอะไรบางอย่างออกมา

  โทนี่ … 

  จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่โทนี่เห็นเเจ็คสันหายไปต่อหน้าต่อตา

  ตามการวิเคราะห์ของพวกเขาด้วยตำเเหน่งของ เเจ็คสัน เเน่นอนว่านี่ไม่ใช่เเผนการที่เขาคิดจะเดินทางไปด้วยเเต่มันเป็นอุบัติเหตุ

  ฟุ่บ

  จากนั้นหน้าจอภาพก็ดับลง

  ฟุ่บ

  ทุกผู้คนที่อยู่ในห้องเเห่งนี้ได้จ้องมองซึ่งกันเเละกันหลังจากรับรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่สะพานไบฟรอสจะตกลงมา

   ดูเหมือนว่าสะพานไบฟรอส เดิมจะไม่ได้ตั้งใจส่ง มิราจไนท์ ขึ้นไปด้วยตั้งเเต่เริ่มต้น หลังจากหน้าจอเเสงหายไป พ่อมดรุ่ยเค่อ ก็กล่าวออกมา

   ก็เป็นอย่างที่พวกคุณเห็นก่อนที่มิราจไนท์จะหายตัวไป เขาได้พยายามร้องเตือนฉันบางอย่าง ดังนั้นนี่ไม่น่าจะเป็นความตั้งใจของตัวเขาเอง… ได้ยินคำพูดของพ่อมดรุ่ยเค่อ โทนี่ ตอบกลับ

   โทนี่สตาร์ค ถึงคุณจะพูดแบบนั้น เเต่ดูเหมือนสะพานไบฟรอสจงใจที่เจาะจงมิราจไนท์ในเวลาต่อมา ได้ยินคำพูดของโทนี่ พ่อมดไต้เหวิ่น สั่นศีรษะเล็กน้อย

   จากวิดีโอที่เห็นก่อนหน้านี้ ดูเหมือนสะพานไบฟรอสจะค้นพบอะไรบางอย่างก่อนที่จะเปลี่ยนเป้าพามิราจไนท์ไปด้วย ได้ยินคำตอบของ พ่อมดไต้เหวิ่น โทนี่ กล่าวพูดอีกครั้ง

   เจ้านายครับ,อันที่จริงผมก็สามารถตรวจพบสิ่งอื่นในตอนนั้น หลังจากโทนี่พูดเสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ดังขึ้น

   ตรวจพบอะไร 

 

อุบัติเหตุระหว่างการเคลื่อนย้าย

  เผชิญหน้ากับคำถามของไอซ์แมนโทนี่ได้เงียบใส่เขาทันที ตอนนี้เขารู้สึกกังวลมาก เเจ็คสันได้รับบาดเจ็บ เเต่ได้ถูกย้ายไปยังโลกเเอสการ์ดโดยสะพานไบฟรอสเเล้วตอนนี้ เขาหวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเเจ็คสันที่นั่น

  เกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันเเฮร์รี่ เเละคนอื่น ๆ ก็ต้องการคำตอบเหมือนกัน

  ฟุ่บ!

   คุณสตาร์ค!ร่องรอยสัญลักษณ์พวกนี้กำลังจะหายไป เห็นโทนี่ยังคงเงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าที่เกือบจะมืดสนิท ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ ได้ตะโกนออกมาพร้อมกัน

  ด้วยเสียงของปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ โทนี่ ได้สังเกตุไปยังจุดที่สะพานไบฟรอสตกลงมาก่อนที่ร่องรอยสัญลักษณ์พวกนั้นจะหายไป

   J.A.R.V.I.Sนายบันทึกเเล้วใช่มั้ย โทนี่ไม่ได้กังวลเหมือนนพวกปีเตอร์ เขาเปิดปากถาม J.A.R.V.I.S

   ครับ,ผมดำเนินการเก็บข้อมูลเเละบันทึกไว้เเล้ว หลังจากโทนี่ถามJ.A.R.V.I.S ก็ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

   อืม,ไว้เราค่อยศึกษามันด้วยกัน โทนี่พยักหน้าตอบรับอย่างไม่เเยเเส

  เมื่อเทียบกับการศึกษาเเล้วการหายตัวไปของเเจ็คสันได้สร้างความกังวลให้กับเขามากกว่า สำหรับการศึกษา องค์กรS.H.I.E.L.D. ในปัจจุบันที่บันทึกข้อมูลร่องรอยสัญลักษณ์พวกนี้ก่อนหน้านี้ ตอนนี้พวกเขายังเเทบไม่ได้รับความคืบหน้าเลยด้วยซ้ำ

  ฟุ่บ

  ขณะที่พวกเขาหายตัวไปจู่ ๆ บนตำเเหน่งใกล้พวกเขาก็ปรากฏสัญลักษณ์วงกลมพิเศษสีทอง ทุกคนที่เห็นสิ่งนี้ได้กลายเป็นสงบเยือกเย็นอีกครั้ง

  วงกลมสีทองเหล่านี้ได้ปรากฏขึ้นกลางอากาศท่ามกลางความมืดมันได้ดึงดูดความสนใจของโทนี่ โดยสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีอีกสองคนที่รู้สึกตกใจกับการปรากฏตัวขึ้นของมันก็คือ โร้ค กับ โลเเกน ส่วนคนอื่น ๆ ที่เหลือพวกเขาต่างรู้ดีว่ารัศมีพลังวงกลมสีทองนี้คืออะไร

  ฟุบ~~

  จากนั้นวงเวทย์เหล่านี้ก็ถูกสร้างเสร็จสมบูรณ์พ่อมด รุ่ยเค่อ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น ได้เดินออกมาจากข้างในวงกลมเวทมนตร์

   โทนี่สตาร์ค… เมื่อเดินออกมาจากประตูมิติอวกาศเวทมนตร์ พ่อมด รุ่ยเค่อ ได้กล่าวทักทายออกมาอย่างค่อนข้างอึดอัด

  ก่อนหน้านี้พ่อมดรุ่ยเค่อ ได้มีประสบการณ์ร่วมกับโทนี่ทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยมีความสุข เพราะเขามาเพื่อธุระของมิราจไนท์ เเต่กลับ โดนโทนี่ใช้เป็นหนูทดดลองพลังเวทมนตร์ร่วมหนึ่งชั่วโมง ดังนั้นเมื่อเห็นหน้าของ โทนี่ อีกครั้งพ่อมดรุ่ยเค่อจึงเเสดงสีหน้าที่ไม่ค่อยยินดีนัก

   พ่อมดรุ่ยเค่อ พ่อมดไต้เหวิ่น ! เมื่อเทียบกับ การเเสดงออกของ พ่อมดรุ่ยเค่อเเล้ว โทนี่ กลับมองพวกเขาอย่างตื่นเต้น

  เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาโทนี่ยังคงไม่ได้คาดความหวังมากที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับอารยธรรมลึกลับอย่างเเอสการ์ดที่เเจ็คสันถูกส่งไปเเต่ทันทีที่เขากำลังคิดว่าจะหาหนทางทำอะไรสักอย่าง จู่ ๆ พวกพ่อมดไต้เหวิ่น เเละ พ่อมดรุ่ยเค่อ ก็ปรากฏตัวขึ้น ก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน เเละ เดดพูล ที่เผชิญหน้ากับอุบัติเหตุได้รับความช่วยเหลือจาก ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ในการช่วยเหลือพวกเขากลับมาที่โลกโดยใช้พลังของสะพานไบฟรอสที่เเอสการ์ด

  ดังนั้นผู้สืบทอดของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันจะต้องรู้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับเเอสการ์ดอย่างเเน่นอน

   เกิดอะไรขึ้นที่นี่ ทำไมถึงมีสะพานไบฟรอสมาปรากฏขึ้นที่นี่ได้ ด้วยความกระตือรือร้นของ พ่อมดรุ่ยเค่อ เขากล่าวถาม โทนี่ โดยตรง

   สะพานไบฟรอสก็คือเเสงสีรุ้งขนาดใหญ่นั่นพวกเราสังเกตุเห็นมันเลยรีบมายังสถานที่เเห่งนี้ พ่อมดไต้เหวิ่นกลัวโทนี่จะไม่เข้าใจ เขาจึงกล่าวเสริม

  ได้ยินคำพูดของพ่อมดทั้งสองคนดวงตาของ โทนี่สว่างวาบขึ้น เป็นอย่างที่เขาคิด ผู้สืบสายเลือดพ่อมดของโลกนั้น ย่อมรู้ข้อมูลเกี่ยวกับโลกเเอสการ์ด ,พวกเขาย่อมมีวิธีการติดต่อทางฝั่งนั้นอย่างเเน่นอน ไม่อย่างนั้น มนุษย์ต่างดาวอย่างธอร์คงไม่สามารถเดินทางมาที่โลกได้

   มีสะพานไบฟรอสเกิดขึ้นที่นี่ โทนี่ไม่ลังเลที่จะตอบกลับ

   เเล้วมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ มีพวกตัวประหลาดปรากฏตัวออกมาไหม? ได้ยินคำตอบของ โทนี่ พ่อมดรุ่ยเค่อ กล่าวถามอีกครั้ง

   ไม่มีใครออกมาจากสะพานไบฟรอสเเต่เป็นทางฝั่งนี้ต่างหากที่เดินทางไป รู้ว่าพ่อมดรุ่ยเค่อต้องการอะไร โทนี่ กล่าวพูดโดยตรง

   มีคนเดินทางออกจากโลกโดยใช้สะพานไบฟรอสงั้นเหรอ ได้ยินคำพูดของโทนี่พ่อมดรุ่ยเค่อ กล่าวถามอีกครั้ง

  บุคคลที่สามารถติดต่อกับโลกเเอสการ์ดได้นั้นมีน้อยมากเเละที่โลกตอนนี้ มีเพียงเจ้าชายคนโตของเเอสการ์ดเพียงเท่านั้นที่สามารถติดต่อได้

   หรือว่าจะเป็นธอร์ พ่อมดไต้เหวิ่นกล่าวถามย้ำ

   ใช่,นอกจากธอร์เเล้ว ยังมีเเฟนสาวของเขา เจน ฟอสเตอร์ เเละ ก็ มิราจไนท์ โทนี่กล่าวพูดตามตรง

  พ่อมดรุ่ยเค่อเเละ พ่อมดไต้เหวิ่น … 

  สำหรับพวกเขาเเล้วการที่ธอร์เดินทางออกนอกโลกโดยใช้สะพานไบฟรอสเป็นเรื่องปกติมาก เเต่เเฟนสาวของ ธอร์ เจน ฟอสเตอร์ เธอเป็ฯเพียงมนุาย์ธรรมดา เเม้การใช้สะพานไบฟรอสเดินทางจะเป็นเรื่องที่ไม่อันตรายเเต่สำหรับคนธรรมดามันก็มีความเสี่ยงอยู่

   ธอร์ได้พาเเฟนสาวของตนเองกลับไปที้เเอสการ์ด เเต่สำหรับมิราจไนท์เขาได้รับบาดเจ็บอยู่ พวกเราเป็นห่วงเขามาก จ้องมองไปที่ พ่อมดรุ่ยเค่อ เเละ พ่อมดไต้เหวิ่น โทนี่ กล่าวพูดตามตรง

   เอ่อ…พวกเราคงต้องขอฟังรายละเอียดจากพวกคุณมากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องที่มิราจไนท์เดินทางออกจากโลก ได้ยินคำพูดของโทนี่ พ่อมดรุ่ยเค่อ กล่าวพูดออกมาอย่างค่อนข้างอึดอัด

 

ปรากฏการณ์สะพานไบฟรอสที่สร้างความตกใจ

  คลื่น!

  ชั้นเมฆหนาทึบได้ปรากฏลำเเสงสีรุ้งพุ่งลงมาที่พื้นด้านล่างใจกลางเมืองนิวยอร์กท่ามกลางสภาพอากาศที่เเปลกประหลาดมีผู้คนจำนวนมากได้พบเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

   ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม มีมนุษย์ต่างดาวบุกโจมตีโลกงั้นเหรอ ? สถานการณ์ในตอนนี้มันเหมือนกับหนังลึกลับต่างดาวเลย หลายคนได้พูดพึมพัมออกมาหลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

   พระเจ้าช่วย,เเสงสีรุ้งนั่นหรือว่าเป็นปาฏิหาริย์ของพระเจ้า พระเจ้ากำลังอวยพรพวกเรางั้นเหรอ? 

   มีเเสงสีรุ้งขนาดยักษ์ตกลงมาจากบนก้อนเมฆหรือว่านี่คือการทดลองลับของทางกองทัพ พวกเราต้องรีบไปคัดค้าน การทดลองทางกองทัพมักจะอันตรายเสมอ นี่คือเสียงตะโกนของผู้ต่อต้านความรุนเเรง

  เเช๊ะเเช๊ะ เเช๊ะ

   รีบถ่ายภาพเร็วนี่ไม่ใช่เหตุการ์ณที่จะปรากฏขึ้นง่าย ๆ มันน่าจะสามารถจุดชนวนประเด็นข่าวได้ร้อนเเรงมากเเน่นอน นี่คือผู้ที่รวบรวมเเละถ่ายภาพเหตุการณ์ลึกลับที่เกิดขึ้นกับโลก

  ใจกลางเมืองนิวยอร์กคนจำนวนมากได้จ้องมองไปที่ ลำเเสงสีรุ้งเเละคิดในแบบที่เเตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามพวกเขาก็รู้สึกสงสัยเพราะว่าลำเเสงนั้นได้พุ่งตกลงไปที่ชั้นบนอาคารสตาร์คอินดัสตรีท์

   หรือว่าเป็นฝีมือของไอรอนแมนเขากำลังทำการทดลองลับหรือไม่ 

   พระเจ้าช่วย…มีอะไรเกิดขึ้นด้านบนกันเเน่ 

   ทางกองทัพจะนิ่งเฉยอย่างงั้นเหรอมันคือข่าวด่วนอย่างเเท้จริง 

   ข่าวด่วน,ข่าวด่าน! 

  …

  ไม่ว่าจะสถานที่่ไหนในใจกลางเมืองนิวยอร์กพวกเขากำลังฮือฮากับการปรากฏตัวขึ้นของสะพานไบฟรอสเพราะมันเป็นปรากฏการณ์ที่เเปลกสุด ๆ เป้าหมายที่มันตกลงมาก็คือ อุตสาหกรรมสตาร์คอินดัสตรีท์ ตำเเหน่งที่ลงก็คือ ตำเเหน่งของธอร์ที่อุ้มเจนอยู่ตอนนี้

  ฟู่วว

  ลำเเสงสะพานไบฟรอสมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ5 เมตร มันได้ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างของ ธอร์ เเละ เจน ,เเจ็คสันจ้องมองไปที่ทั้งสองคนอย่างตื่นเต้นดวงตาของเขาหดเเคบลง

   อย่าทำให้ฉันผิดหวังละ หลังจากนั้นร่างของธอร์เเละเจน ก็หายตัวไปอย่างช้า ๆ เเจ็คสันรู้สึกผ่อนคลายในที่สุด

  ไม่รู้ว่าธอร์จะกลับมาที่นี่เมื่อไหร่เเต่เขาหวังว่า ธอร์จะสามารถฟื้นฟูความเเข็งเเกร่งของเทพเจ้าสายฟ้าได้ครบสมบูรณ์ก่อนที่จะกลับมาที่นี่อีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นสถานการณ์ทางเเอสการ์ดก็อันตรายไม่เเพ้กัน พวกกลุมดาร์คเอลฟ์ กำลังยกทัพบุกเเอสการ์ดอยู่ เมื่อรู้ว่า ธอร์กลับไป ที่นั่น โอดิน มีโอกาสสูงที่จะมอบพลังคืนให้เเก่ธอร์

   เป็นคลื่นพลังที่รุนเเรงมากจริงๆ การควบคุมเเละความเเม่นยำนี้ได้เเทรกซึมเเละประทับสัญลักษณ์จำนวนมากบนอาคารสตาร์คอินดัสตรีท์เเห่งนี้… โทนี่ ได้พึมพัมออกมา เขากำลังครุ่นคิดถึงมุมมองทางวิยาศาสตร์

   ธอร์เป็นมนุษย์ต่างดาวจริงๆ  

   ใช่ดูเหมือนเขาจะเป็นมนุษย์ต่างดาวจริงๆ  

  ด้านหลังของโทนี่ ได้ปรากฏร่างของ ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ ขึ้น ดูเหมือนพวกเขาจะรีบขึ้นมาที่นี่เเละเห็นเหตุการณ์ของสะพานไบฟรอสในปัจจุบัน

  สำหรับไอซ์แมน เเละ เป็ปเปอร์ พวกเขาทั้งสองจ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นจนอ้าปากค้างตอนนี้พวกเขาไม่ได้พูดอะไรออกมา

  ธอร์เเละเจนได้หายตัวไปอย่างรวดเร็วเพราะสะพานไบฟรอสหลังจากสะพานไบฟรอสหายไป คลื่นพลังงานความผันผวนรอบด้านก็เริ่มจางหายไปเช่นเดียวกัน

   นี่มันไม่ดีเเน่! รู้สึกได้ถึงสิ่งเเปลกๆ จากตนเอง เเจ็คสันมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักเขาปรากฏความกังวลในใจ

  คลื่นพลังงานความผันผวนพื้นที่เเห่งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อลูกบาศก์เวทมนตร์ที่อยู่กับเขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เเต่เเจ็คสันกลับรู้สึกกังวลอย่างเเปลก ๆ

  ต้องรู้ว่าลูกบาศก์เวทมนตร์นั้น เคยเป็นของเเอสการ์ดมาเป็นระยะเวลาหลายปี ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลอะไรมันถึงมาปรากฏตัวที่โลก หากปล่อยให้ ฮัมดาลล์ หรื โอดิน รู้พวกเขาอาจจะทวงคืนลูกบาศก์เวทมนตร์กลับเเอสการ์ด

  ดังนั้นเเจ็คสันที่ต้องการหลบซ่อนลูกบาศก์เวทมนตร์นี้จึงรู้สึกกังวล

  ขณะที่เเจ็คสันกำลังรอให้สะพานไบฟรอสหายไปอย่างสมบูรณ์จู่ ๆพลังงานที่เบาบางนั่นก็ได้ปรากฏเส้นสายรุ้งพุ่งเข้ามาอีกครั้งมันได้ขยายขึ้นเเละครอบคลุมร่างของเเจ็คสัน

   ถูกค้นพบเเล้วจริงๆ ! เห็นสถานการณ์ในปัจจุบัน เเจ็คสันเต็มไปด้วยความตกใจ

  โทนี่ … 

  ฟุ่บ

  ขณะที่โทนี่ ที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว กำลังจะดึงตัวของ เเจ็คสันออกมา จู่ ๆ เเจ็คสันก็หายตัวไปในทันที

  เเจ็คสันได้ถูกส่งไปโดยสะพานไบฟรอสโทนี่ไม่สามารถตอบสนองเเละช่วยเหลือเขาได้ทัน

  โทนี่ … 

  ในปัจจุบันด้านหน้าของเขา ร่างของเเจ็คสันได้หายไปจากรถเข็น ดวงตาของโทนี่กระตุกอยู่หลายครั้ง เขากำลังครุ่นคิดถึงเหตุผลที่เกิดขึ้น เดิม เเจ็คสันไม่ได้ตั้งใจไปด้วย มันต้องเป็นอุบัติเหตุอย่างเเน่นอนไม่งั้นเเจ็คสันคงไม่ตะโกนออกมาในช่วงท้าย

  สะพานไบฟรอสได้นำธอร์ เจน ฟอสเตอร์ เเละ เเจ็คสัน ออกจากโลก เเละในที่สุด สะพานไบฟรอสก็หายไปอย่างสมบูรณ์ เเสงเเดดอ่อน ๆ ได้ฉายออกมาที่พื้นโลกอีกครั้ง

  เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งสุดท้ายเมื่อครู่ทุกคนที่อยู่บนอาคารชั้นบนสุดเเห่งนี้ กลายเป็นตกใจทันที

   เเจ็คสันหายไปเเล้ว เห็นรถเข็นที่ว่างเปล่าเเฮร์รี่ ได้เปิดปากพูดออกมา

  รถเข็นเดิมที่เเจ็คสันนั่งอยู่การปรากฏขึ้นของสะพานไบฟรอสได้ลากตัวของเเจ็คสันหายเข้าไปอย่างไร้ร่องรอยเหลือเพียงรถเข็นที่โทนี่คว้าจับเอาไว้ได้ทัน

  หลังจากที่เเฮร์รี่เปิดปากขึ้น ไอซ์แมน ก็รีบวิ่งไปข้างหนน้า

   มันเกิดอะไรขึ้นไม่ใช่ว่านี่ไม่อยู่ในเเผนการไม่ใช่เหรอ เห็นสัญลักษณ์เวทมนตร์ที่เหลือทิ้งเอาไว้โดยสะพานไบฟรอส ไอซ์แมน ได้กล่าวถามโทนี่

   ฉันเองก็ไม่รู้ โทนี่ที่คว้าได้เพียงรถเข็น เขาบ่นพึมพัมออกมา

  ไอซ์แมนไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เขาเห็นสีหน้าที่ตกใจของโทนี่เช่นเดียวกัน

   เช่นนั้นพวกเราจะเอายังไงกันต่อ เเจ็คสันได้บอกกล่าวอะไรกับสถานการณ์หลังจากนี้หรือไม่? มองดูโทนี่ที่เงียบสนิท ไอซ์แมน กล่าวถาม

   ไม่ 

 

สะพานไบฟรอสถูกเปิดใช้

  ได้ยินคำถามของคนนิรนามเจอร์รี่ จ้องมองไปที่เขาเเละตื่นตกใจเล็กน้อยเขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะตอบสนองเรื่องชื่อได้เร็วขนาดนี้

   ชื่อจริงๆ ของฉันชื่อ เจอร์รี่ ฉันมีชื่อเล่นว่า สกาย’อาย โดยปกติเเล้วฉันมักจะเเทนตัวกับนายด้วยชื่อเล่นทำให้นายรู้สึกไม่คุ้นเคยไง เจอร์รี่ไม่เลือกที่จะยอมเเพ้เเละยังคงพูดหลอกลวงต่อไป

   เจอร์รี่ เจเรมี ? พวกเราเป็นพี่น้องกันจริง ๆ อย่างงั้นเหรอ? ได้ยินคำตอบของ เจอร์รี่ ชายนิรนามคนนี้ได้กล่าวถามอย่างสงสัยเขากำลังปรับสภาพอารมณ์ในปัจจุบันของเขาอยู่

   ใช่,นายชื่อเจเรมี เป็นน้องชายของฉัน ,กว่านายจะตื่นขึ้นมาฉันกังวลเเทบเเย่ เจอร์รี่ เห็นอีกฝ่ายหลงกลเขา เขาก็พยายามสร้างเรื่องต่อไป

   ก่อนหน้านี้พวกเราทำการฝึกร่วมกันที่นี่เเละ นายก็ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ โชคดีที่นายฟื้นขึ้นมาไม่งั้นพี่ชายคนนี้คงกังวลเเย่เเล้ว เจอร์รี่สวมบทละครอย่างต่อเนื่องเขาพูดถึงเรื่องพวกอาวุธที่ติดตั้งอยู่ภายในห้องนี้เเละอธิบายให้ ชายคนนี้ฟัง

   เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ 

   ก็ต้องเป็นเรื่องจริงเเน่อยู่เเล้วสิ เจอร์รี่กล่าวพูดออกมาอย่างเชื่อมั่นในตนเอง เขาเชื่อว่าตัวเขาสามารถกลบเกลื่อนเรื่องทั้งหมดกับชายคนนี้ได้

   เข้าใจเเล้ว…ฉันเชื่อคุณพี่ชาย 

  …

  ใจกลางเมืองนิวยอร์กอาคารชั้นบนสุดสตาร์คอินดัสตรีท์ เเจ็คสัน ธอร์ เเละ คนอื่น ๆ กำลังพูดคุยกันถึงเรื่อง อีเธอร์

   ด้วยคำพูดเหล่านี้คิดว่าฮัมดาลล์ จะเปิด สะพานไบฟรอส ให้ ข้า พาเจนกลับเเอสการ์ดจริง ๆ งั้นเหรอ ธอร์ได้กล่าวถาม เเจ็คสัน

  ในเวลานี้ธอร์ได้อุ้มเจนที่หมดสติยืนอยู่ตรงลานจอดเครื่องบินด้านหลังของเขาก็คือเเจ็คสันที่นั่งอยู่บนรถเข็นตามมาด้วยโทนี่ ในตำเเหน่งที่ไม่ไกลนั้นก็ยังมี เป็ปเปอร์ ไอซ์แมน เเละ คนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านล่างได้ขึ้นมา สำหรับ สไปเดอร์แมนปีเตอร์ เขาไม่ได้ขึ้นมา เพราะต้องอยู่ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้พร้อมกับปีเตอร์

   หากการคาดเดาของฉันถูกต้องมันจะต้องเป็นไปได้อย่างเเน่นอนพวกเราไม่มีวิธีอื่นเเล้วนอกจากจะต้องเดิมพันในครั้งนี้ เผชิญหน้ากับคำถามของ ธอร์ เเจ็คสันกล่าวตอบอย่างมั่นใจ

  ที่จริงเเล้วเเจ็คสัน ก็เสี่ยงดวงเช่นเดียวกัน ฮัมดาลล์ ในฐานผู้พิทักษ์เเห่งเเอสการ์ด เขาจะต้องรู้จักอีเธอร์ เเน่นอน ถ้าเธอ พูดถึงเรื่องอีเธอร์ ฮัมดาลล์ น่าจะเปิดสะพานไบฟรอสให้เขา

  ในครั้งนี้เพื่อช่วยเหลือชีวิต เจน ฟอสเตอร์ เเจ็คสันไม่สามารถใช้ความสามารถของตนเองช่วยเหลือได้ พล็อตเรื่องในปัจจุบันมีการเปลี่ยนเเปลงอย่างมาก เเม้เเต่เขาเองก็ยังไม่รู้เลยว่า หลังจากพาเจนไปที่เเอสการ์ดได้ เธอจะมีชะตากรรมเป็นอย่างไรต่อไป

  ในปัจจุบันธอร์ ยังไม่สามารถปลุกความเเข็งเเกร่งของเทพเจ้าสายฟ้าให้ตื่นขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์ตามพล็อตเรื่องเดิมเขาควรจะปลุกพลังของตนเองตื่นขึ้นมาได้เเล้ว ดังนั้นเเจ็คสันกังวลว่าหากมีสถานการณ์อื่น ๆ เกิดขึ้น ธอร์ จะไม่สามารถรับมือได้

   ก็ได้…ข้าเองก็ขอเดิมพันในครั้งนี้ ธอร์อุ้มเจนที่อยู่ในอ้อมอกเอาไว้เเน่น

  เขากล่าวพูดคำเหล่านี้กับตัวเองจากนั้น ธอร์ ก็เงยหน้าขึ้นจ้องมองไปที่ท้องฟ้าวิสัยทัศน์ของเขาราวกับตัดผ่านทะลุชั้นเมฆจ้องมองไปยังพื้นนอกโลก

   ฮัมดาลล์เปิดสะพานไบฟรอสให้ข้า ในร่างกายของผู้หญิงที่ข้าอุ้มคนนี้มีพลังของอีเธอร์สิงอยู่! เสียงของธอร์ได้ตะโกนออกมาอย่างรุนเเรง

  ที่นี่คือชั้นบนสุดของอาคารสตาร์คอินดัสตรีท์ธอร์ ได้ถูกคนรอบข้างที่อยู่ที่นี่ยอมรับทันที เสียงคำรามของเขาได้ดังไปทั่วพื้นที่โดยรอบ เเม้จะชื่นชมยอมรับในความกล้าหาญ เเต่พวกเขาก็เฝ้าดูผลลัพธ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น

  ในสถานการณ์ปัจจุบันนี้มันเเปลกมานอกเหนือจาก เเจ็คสัน ทุกคนที่อยู่ที่นี่ ต่างก็รู้สึกสงสัยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

  เฮ้อ~~

  ธอร์ได้ถอนหายใจออกมาดูเหมือนการวัดดวงของพวกเขาคราวนี้จะพลาดอีกตามเคย เขารู้สึกผิดหวังในตนเองเพราะการที่ฮัมดาลล์ไม่เปิดใช้สะพานไบฟรอสเหตุผลอาจเป็นเพราะเขา

   ต้องมาเเน่! เเต่เสียงของเเจ็คสันกลับพูดออกไปอย่างเเตกต่างเขาจ้องมองไปที่ตำเเหน่งที่ธอร์ยืนอย่างมั่นใจ

  ฟุ่บ!

  จากนั้นท้องฟ้าใจกลางเมืองนิวยอร์กก็ปรากฏการรวมตัวของชั้นเมฆที่หนาขึ้นพริบตาต่อมาบนท้องฟ้าก็ปกคลุมไปด้วยชั้นเมฆหนาเเน่นจำนวนมาก

  …

   เกิดอะไรขึ้น 

   ทำไมเมฆถึงกลายเป็นสีดำ พยากรณ์อากาศวันนี้ไม่ได้บอกว่าจะมีพายุเข้านี่? 

   สภาพอากาศในปัจจุบันนี่มันเเปลกมากจริงๆ  

  ผู้คนที่อาศัยอยู่ด้านล่างใจกลางเมืองนิวยอร์กนี้สามารถสังเกตุเห็นได้ถึงความผิดปกติเเม้เเต่ สายการบิน ที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ พอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นพวกเขาก็ยกเลิกสายการบินในทันที

  ในขณะเดียวกันนิวยอร์ก,ในสถานที่่บ้านพักเเห่งนึง ก็มีผู้คนรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนเเปลงที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน เขาก็คือ พ่อมด รุ่ยเคอ

  ฮึ่ม

   สะพานไบฟรอสของเเอสการ์ดทำไมถึงปรากฏขึ้นที่ใจกลางเมืองนิวยอร์กเกิดอะไรขึ้นกันเเน่? พ่อมดรุ่ยเคอมือไขว้หลังเเละขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

   ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเห็นที พวกเราคงต้องเเวะไปดูสักหน่อย ตามกฏเเล้ว เเอสการ์ดจะไม่ก้าวก่ายเรื่องที่โลกใบนี้ ดังนั้นมันจะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นเเน่นอน ขณะที่ พ่อมดรุ่ยเคอ สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ พ่อมด ไต้เหวิ่น เองก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นเดียวกัน

   ดี,พวกเราไปดูกันเถอะ! 

  …

  คลื่น!

   มันได้ผลจริงๆ ! ธอร์จ้องมองไปที่ชั้นเมฆหนาที่กำลังหมุนวนไปมา เขาตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น

   ธอร์หลังจากกลับไปที่เเอสการ์ดได้โปรดระวังตัวด้วย ความเเข็งเเกร่งของคุณยังไม่ได้รับการฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด ถ้าเป็นไปได้คุณลองไปพูดขอร้องท่านพ่อของคุณดูเผื่อเขาจะยอมให้อภัย หลังจากเห็นว่าสะพานไบฟรอสกำลังจะเปิดขึ้นในไม่ช้า เเจ็คสันจ้องมองไปที่ ธอร์ เเละกล่าวบอก

   เข้าใจเเล้ว! 

  ฟุ่บ

  พริบตาต่อมาลำเเสงสีรุ้งขนาดยักษ์ก็ทะลุชั้นเมฆหนาพุ่งตรงมาที่ชั้นบนสุดลานจอดเครื่องบินของอาคารสตาร์คอินดัสตรีท์ในตำเเหน่งที่ ธอร์ ยืนอยู่

 

คุณเป็นพี่ชายของฉัน ?

  คนนิรนามคนนี้เดดพูล ได้เเบกกลับมาจากสนามรบ หลังจากที่ เเมกนีโต เเละ สไตรเกอร์ ทำสงครามกันเสร็จ เขาเจอคนคนนี้ที่ซากปรักหักพังในสนามรบ เขาคนนี้ไม่ใช่คนของทีมX-MEN เเละ ดูเหมือนจะไม่ใช่คนจากสมาคมมิวแทนท์ด้วย

  ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้สถานะของคนๆ นี้ มีความเป็นไปได้อยู่สองอย่าง ก็คือ เขาคนนี้คือหนูทดลองที่อยู่ในฐานลับของสไตล์เกอร์ เเละอีกความหมายนึงก็คืออาวุธลับของทางกองทัพในเวลานั้นที่สามารถเปลี่ยนร่างกายตนเองได้

  เเต่มาตอนนี้หลังจากที่คนคนนี้ถูกพลังงานเลเซอร์ยิงทะลุร่าง ความสามารถของเขาที่สามารถรักษาตัวได้ ก็ได้บ่งบอกว่าเขาคือมิวแทนท์ ยิ่งไปกว่านั้นน่าจะเป็นหนึ่งในหนูทดลองของสไตรเกอร์

  ฟู่วว

  เเม้เจอร์รี่จะประหลาดใจหลังจากเห็นการฟื้นตัวที่รุนเเรงแบบนั้นเขาได้จ้องมองไปที่อีกฝ่ายเเละเผยสีหน้าที่จริงจังออกมา

   เเม้ว่าคุณจะมีความสามารถรักษาตัวเองที่เเข็งเเกร่งเหมือนกับเดดพูลเเต่ด้วยระบบการป้องกันฐานเเห่งนี้มันสามารถทำให้คุณกลายเป็นขี้เถ้าเเละไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้อีก เห็นว่าคนนิรนามจ้องมองมาที่ตนเอง

   สกาย’อายตรวจพบเเหล่งพลังงานที่เป็นอันตรายภายในร่างกายของบุคคลที่ไม่ลงทะเบียน พลังงานตอบสนองระดับ 3 จะดำเนินการโจมตีต่อหรือไม่ ระบบป้องกันฐานได้กล่าวพูดส่งเสียงเตือนเขา

   พลังงานระดับ3 ! พลังงานนี้สามารถที่จะระเบิดทำลายฐานเเห่งนี้ได้ ใบหน้าของ เจอร์รี่ กลายเป็นตึงเครียดทันที

  หากเขาฆ่าอีกฝ่ายภายในฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเห่งนี้ด้วยพลังงานระดับสามที่อยู่ภายในร่างกายของคน ๆ นั้น สามารถที่จะทำลายฐานเเห่งนี้ไปพร้อมกับตัวของเขาได้ เเละ เจอร์รี่ คิดว่า นี่ไม่ใช่ความคิดที่ดีเเม้เเต่น้อย

   ใช่เเล้ว…เราจะต้องลองเกลี่ยกล่อมดูใจเย็น ๆ เราทำได้ เชื่อมั่นในตัวเองหน่อยสิ เจอร์รี่ ได้พยายามพูดปลอบใจตัวเอง

  เขายังคงจ้องมองไปที่บุคคลนิรนามนั่นเเละสั่งให้ระบบป้องกันฐานเฝ้าระวังไว้อย่าเพิ่งทำการโจมตี

  เจอร์รี่พยายามสังเกตุอีกฝ่ายอีกครั้งก่อนที่จะพบบางอย่างที่ผิดปกติ คน ๆ นี้ดูเหมือนคล้ายจะเหม่อลอยตลอดเวลาซึ่งมันเเปลกมาก ๆ

   คุณเป็นใคร… จู่ๆ บุคคลนิรนามนั่นก็กล่าวถามเขาด้วยเสียงเเหบห้าว

   ฉันชื่อสกาย’อาย ก่อนอื่นฉันคิดว่าเมื่อครู่พวกเราคงเข้าใจผิดกัน สกาย’อาย ตอบกลับหลังจากที่ คนนิรนามกล่าวถามออกมา

   สกาย’อาย …ฉันเป็นใคร? บุคคลคนนี้ไม่ได้สนใจคำพูดของเจอร์รี่ เขาได้กล่าวถามถึงสถานะของตนเอง

   คุณเป็นใครงั้นเหรอไม่ใช่ว่าฉันควรจะถามคำถามนี้กับคุณ? ได้ยินคำตอบของอีกฝ่ายเจอร์รี่ กล่าวพูดขึ้นอย่างสงสัย

   ฉันเป็นใครที่นี่ที่ไหน?เเละสิ่งของพวกนี้คืออะไร? คนคนนี้ไม่ได้สนใจเจอร์รี่เขายังคงจ้องมองไปโดยรอบห้องเเห่งนี้ เเละ กล่าวพูดถามออกมาสามคำถาม

  เจอร์รี่ … 

   สกาย’อายระดับพลังงายภัยคุกคามได้ลดลง ยังคงยืนยันทำการโจมตีต่อหรือไม่ ขณะที่ เจอร์รี่ กำลังฟังคำถามจากคนลึกลับคนนี้ เสียงเเจ้งเตือนของระบบก็ยังคงดังก้องในหูของเขา

   ระดับพลังงานลดลง ได้ยินเสียงเตือนของระบบดวงตาของ เจอร์รี่สว่างวาบขึ้น บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดก็เป็นได้

   โจมตีเลย! หลังจากลังเลอยู่เล็กน้อยเจอร์รี่ ก็กล่าวออกคำสั่ง

  !!

  พริบตาต่อมาลำเเสงเลเซอร์ 5 สายก็พุ่งเข้าไปที่บุคคลนิรนามเพื่อยิงอีกฝ่ายทันที

  อย่างไรก็ตามการตอบสนองของบุคคลนิรนามนั้นรวดเร็วอย่างมาก

  พริบตาต่อมาเขาก็หายตัวไปจากตำเเหน่งที่ยืนจนทำให้พลังงานเลเซอร์นั่นเจาะพื้นดินจนปรากฏหลุมลึกโดยตรง

  ฟู่วว

  เจอร์รี่เบิกดวงตากว้างขึ้นหลังจากเห็นเงาร่างของคนๆ นั้นได้หายไปต่อหน้าต่อตา พริบตาเดียว ร่างของคน ๆ นั้นก็อยู่ห่างจากเขาออกไปมากกว่า 56 เมตร

  จากนั้นบุคคลนิรนามก็เดินมาหาเจอร์รี่อย่างรวดเร็วระยะห่างของเขาใกล้เจอร์รี่มากขึ้นคราวนี้มันได้ลดลงน้อยกว่า20 เซนติเมตร เขาจ้องมองไปที่ เจอร์รี่ อย่างไม่พอใจ

   คุณกำลังจะทำอะไร 

  เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายเจอร์รี่ รู้สึกหวาดกลัวอย่างมากในปัจจุบันเขากลัวว่าเพื่อนคนนี้จะทำร้ายตนเอง

  คนๆ นี้สามารถเคลื่อนไหวราวกับเป็นส่วนหนึ่งของอากาศ เขามีความสามารถกลายพันธุ์ที่น่ากลัวอย่างมาก เเม้ว่า เจอร์รี่จะได้รับการคุ้มครองจากระบบป้องกันภายในฐานเเต่ด้วยพลังของคน ๆ นี้เขาคิดว่าระบบป้องกันฐานไม่น่าจะสามารถตอบโต้คน ๆ นี้ได้

   ฉันเป็นใครที่นี่ที่ไหน? จ้องมองไปที่ใบหน้าของเจอร์รี่เพื่อนคนนี้กล่าวถามอีกครั้ง

  ดูเหมือนเขาจะสูญเสียความทรงจำเเละต้องการทราบถึงสถานะของเขาตอนนี้

   สกาย’อายตรวจพบคลื่นพลังของเป้าหมาย ที่อยู่ในระดับภัยคุกคาม หากคุณไม่มีเเผนที่จะโจมตีเขา ได้โปรดปลอบประโลมเพื่อทำให้คลื่นสมองของเขาทำงานเบาลง เผชิญหน้าสถานการณ์อันตรายเ สียงของระบบ ได้กล่าวเเจ้งเตือนในหูของเขาอีกครั้ง

  ดูเหมือนว่าระบบนั้นจะมีสองมาตราการหนึ่งคือกำจัด อีกหนึ่งคือหาหนทางเเก้ไข

   เอ่อ…นายชื่อเจเรมี เป็นน้องชายของฉัน ที่นี่เป็นที่ทำงานของฉัน เจอร์รี่ ได้กล่าวพูดออกมาอย่างรวดเร็ว

  ฟุ่บ

  ได้ยินคำตอบของเจอร์รี่ บุคคลนิรนาม ค่อนข้างประหลาดใจ เขาเดินก้าวหาสกาย’อาย ก้าวนึง

   เจเรมี นั่นคือชื่อของฉัน? คุณเป็นพี่ชายของฉันงั้นเหรอ? บุคคลนิรนามนี้กล่าวถามเเละทวนชื่อตัวเองซ้ำ ดูเหมือนว่าเขากำลังสงสัยบางอย่าง

   ไม่ใช่ว่าเมื่อครู่คุณบอกว่าคุณชื่อสกาย’อาย คุณดูไม่ค่อยเหมือนกับพี่ชายของฉันเท่าไหร่ หลังจากพยายามทบทวนความทรงจำของตนเอง เขาก็พบชื่อของพวกเขาทั้งสองคนดูไม่ค่อยมีความเข้ากันเลยเเม้เเต่น้อย

 

เรื่องเเปลก ๆ ในฐานทีมพันธมิตรผู้พิทัก์

  เจอร์รี่ได้ถือไม้เบสบอลในมืออย่างเเนบเเน่นเขาได้เดินไปที่มุมห้องที่เกิดเสียง

  อย่างไรก็ตามหลังจากเจอร์รี่เห็นสถานการณ์ตรงมุมห้องเขาก็เเสดงออกด้วยความผิดปกติบางอย่างเล็กน้อยความหวาดกลัวได้ทำทำให้ถอยหลังไปหลายก้าวในขณะที่ถือไม้เบสบอล

  เพร้ง!

  จู่ๆ ไม้เบสบอลในมือของเขาก็ร่วงหล่นลงพื้นหลังจากได้ยินเสียงดังร่างกายเเละจิตวิญญาณของ เจอร์รี่ ก็ได้รับการกระตุ้นอีกครั้ง เขาหยุดล่าถอย เเละ รีบหยิบไม้เบสบอลขึ้นมา

  ฟุ่บ!

  เขายกไม้เบสบอลชี้ไปที่ด้านหน้าเเละกล่าวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ คุณ…คุณ 

  ในขั้นต้นสิ่งที่ทำให้เกิดเสียงไม่ได้เป็นหนูเเต่เป็นคนนิรนามที่เดดพูลพามาไว้ที่นี่ ไม่ทราบว่ามีชีวิตหรือเพียงเเค่หมดสติในตอนนั้น จู่ ๆ เขาก็ตื่นขึ้นเเละลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ

  เจอร์รี่ได้สัมผัสกับจิตคุกคามที่คน ๆ นี้ส่งออกมา เกี่ยวกับตัวของคน ๆ นี้ เดิม มิราจไนท์ก็รับรู้เรื่องของเขาเเล้วเเต่ไม่ได้ทำการตรวจสอบเพราะไม่มีเวลาว่าง เขาได้ปล่อยให้ เดดพูล จัดการที่เหลือต่อเเทน

  สำหรับบุคลนิรนามนี้เจอร์รี่ ไม่ได้ผ่อนปรณ เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีเจตนาร้ายหรือดีกันเเน่ เเต่เขาจะไม่ปล่อยให้คนที่มีเจตนาร้ายมาสร้างความอันตรายเเก่ฐานทัพเเห่งนี้

  ได้ยินเสียงคำถามของเจอร์รี่ บุคคลนิรนามนั่นไม่ได้กล่าวตอบ เพียงเเต่ยืนขึ้นอย่างเงียบ ๆ จากนั้นเขาก็จ้องมองมาที่เจอร์รี่ ราวกับว่าเขากำลังงุนงงบางอย่างอยู่ เเต่เมื่อเห็น เจอร์รี่ ชี้ไม้เบสบอลมาที่ตนเอง ราวกับว่าคนนิรนามนี่มีการตอบสนอง เขาได้เดินเข้าหา เจอร์รี่ ทีละก้าว

   คุณ…คุณจะทำอะไรอย่าเข้ามานะ ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน เห็นบุคคลนิรนามเดินเข้าหาตนเอง เจอร์รี่ ได้หวดไม้เบสบอลไปมาอย่างต่อเนื่อง

  อย่างไรก็ตามขณะที่เจอร์รี่ กล่าวเตือนออกไป คนนิรนามคนนี้ก็เพียงเเค่หยุดเล็กน้อยก่อนที่จะเคลื่อนไหวต่อ

  ฟุ่บ

  เห็นอีกฝ่ายไม่ได้สนใจคำเตือนของตนเองเจอร์รี่ ได้ตะโกนร้องลั่น เพราะรู้สึกตกใจเเละหวาดกลัว

   ค้นพบภัยคุกคามระดับ2 เริ่มทำการป้องกันทันที ในขณะที่ดวงตาของเจอร์รี่เปล่งประกาย เสียงเตือนภัยก็ได้ขึ้นภายในฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

  ติ๊ดติ๊ด

  บนผิวผนังภายในห้องได้ปรากฏปืนกลยาวเเละอาวุธประเภทต่าง ๆ จำนวนมาก อาวุธปืนกลยาวนั่นได้เล็งไปที่บุคคลนิรนามที่อยู่ไม่ไกลจากเจอร์รี่

   ฮ่าฮ่าเกือบลืมเรื่องระบบป้องกันภายในฐานไปเเล้ว ตอนนี้ฉันคงจะปลอดภัยเเล้วสินะ หลังจากได้รับการป้องกัน เจอร์รี่ ก็เห็นบุคคลนิรนามที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยอาวุธจำนวนมาก

  ฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเห่งนี้เดิมเป็นฐานเล็กๆ ที่เเจ็คสันได้ใช้เป็นฐานส่วนตัวในระยะเวลาอันสั้น เเต่ภายหลัง ได้พัฒนากลายเป็นฐานหลักพร้อมกับติดตั้งเทคโนโลยีระดับสูง

  เนื่องเพราะเเจ็คสันได้รับพลังงานอย่างเตาปฏิกรอาร์คมาเเละ ให้ โทนี่ ปรับเเต่งฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ให้มีระบบการเฝ้าระวังภัย

  ด้วยการป้องกันเหล่านี้ฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ไม่ได้เป็นฐานหลบซ่อนตัวธรรมดาทั่วไป การป้องกันจากอาวุธที่ดีเหล่านี้ ถือว่าเป็นการป้องกันระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุดอย่างนึง

  หลังจากได้ยินเสียงระบบเตือนภัยเเละเห็นอาวุธจำนวนมากภายในฐานคนนิรนามก็ได้หยุดฝีเท้าขึ้น เเละ จ้องมองไปที่ อาวุธเหล่านั้น

  เห็นบุคคลนิรนามเลิกจ้องตนเองเจอร์รี่ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่เขาค่อนข้างรู้สึกอึดอัดใจ

  ในขณะเดียวกันอาวุธประเภทเลเซอร์ก็ได้เตรียมพร้อมรอเปิดฉากยิง

  ฟุ่บ~~

  สำหรับบุคลนิรนามราวกับว่าในปัจจุบันเขารู้สึกอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับอาวุธเหล่านี้มากเขาได้ยกเเขนขวาขึ้นมาอย่างฉับพลัน

   ทำการโจมตี เห็นการเคลื่อนไหวของบุคคลนิรนามระบบป้องกันได้ตัดสินใจโจมตีโดยตรง

  เปรี้ยง!

  พริบตาต่อมาลำเเสงเลเซอร์สีขาวพราวทั้งสองก็ได้พุ่งเข้าหาบุคคลนิรนามนั่นมือขวาของคนคนนั้นที่ยกขึ้นมาได้ถูกโจมตีโดยลำเเสงเลเซอร์โดยตรง

  จากนั้นลำเเสงเลเซอร์ก็ได้พุ่งทะลุหน้าอกของคนคนนั้นทำให้เขาเกิดรูเเผลขนาดใหญ่สองรูตรงหน้าอก

  ระบบการรักษาความปลอดภัยในฐานของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้ดำเนินการจับตายสังหารตัวตนที่ไม่ได้รับการลงทะเบียนในปัจจุบัน เเม้ว่าบุคคลนิรนามนี้จะไม่ใช่คนธรรมดา เเต่โดนยิงทะลุหน้าอกขนาดนี้ ก็ยังยากที่จะรอดชีวิตไปได้

  อย่างไรก็ตามเห็นฉากที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเจอร์รี่ ก็จ้องมองไปที่อีกฝ่ายเเละทำไม้เบสบอลตกที่พื้น

   คุณ…เป็นไปได้ยังไง น้ำเสียงที่สั่นเครือของเจอร์รี่บ่งบอกได้ถึงความตกใจของเขา

  ในปัจจุบันเจอร์รี่ เห็นชัดเจน ว่าบุคคลคนนั้น ถูกยิงทะลุหน้าอกเเละเเทบจะไม่มีโอกาสรอดชีวิตเหลืออยู่เลย เเต่เขากลับไม่เข้าใจเหตุผลต่อมาหลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

  เพราะว่าบาดเเผลโจมตีสองรูตรงหน้าอกก่อนหน้านี้ได้เริ่มปิดตัวเเละหดลงอย่างรวดเร็วท้ายที่สุดก็หายไป

  อวัยภายในที่ถูกทำลายหรือถูกบดขยี้ได้ถูกรักษากลับมาทั้งหมด

   คุณเป็นมิวแทนท์ เห็นว่าหน้าอกของคนคนนี้ได้รับการฟื้นฟูเจอร์รี่ รู้สึกตกใจอย่างมาก

  โดยธรรมชาติความสามารถของบุคคลนิรนามคนนี้มีความสามารถคล้ายกับเดดพูลนั่นก็คือการรักษาตนเอง เเต่ที่น่าเเปลกใจก็คือ เเม้จะมีความสามารถเหมือนเดดพูล เเต่ถ้าเป็นเดดพูล ถูกยิงทะลุหน้าอกขนาดนี้ คงจะต้องลงไปนอนดิ้นเเละเเกว่งไปมาหลายครั้งเเต่ทว่าคน ๆ นี้กลับไม่ได้ทำเช่นนั้นเเม้เเต่น้อย

 

เรียกร้องความช่วยเหลือ

  ฟุบ

    เจน!   ธอร์ได้เดินเเบกร่างกายของตนเองพุ่งไปที่พื้นที่โซฟา ที่ เจนได้ทิ้งตัวลงนอนอยู่ ในเวลานี้ ข้างกายของ เจน มีเป็ปเปอร์ คอยเฝ้าเอาไว้

  เป็ปเปอร์ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของธอร์ เธอเห็น โทนี่ เเละ เเจ็คสัน ที่นั่งรถเข็นมา หลังจากเห็นเเจ็คสันทำให้ ดวงตาของ เป็ปเปอร์ สุกสว่างมากขึ้น

  เมื่อคิดถึงสถานะของเเจ็คสันที่เธอได้ไต่ถามมาจากJ.A.R.V.I.S ทำให้เธอ สามารถรู้สถานะของเจ้าหนูคนนี้ได้ในที่สุด เเม้ว่าเธอจะค่อนข้างเเปลกใจ เเต่เมื่อถึงเรื่องก่อนหน้านี้ทำให้เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ

    เเจ็คสันเธอไม่เป็นอะไรเเล้วงั้นเหรอ  เห็นเเจ็คสันมาพร้อมกับโทนี่ เป็ปเปอร์ ได้กล่าวถามออกมา

    ผมไม่เป็นอะไรเเล้วขอบคุณมาก คุณเป็ปเปอร์  ได้ยินคำถามของ เป็ปเปอร์ เเจ็คสันได้ตอบคำถามอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกว่า เป็ปเปอร์ ได้รู้สถานะของตนเองเเล้ว เเต่เเจ็คสันก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องปิดบังสถานะของตนเองอีกต่อไป

    เกี่ยวกับสถานการณ์ของเจน ,ฉันเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน J.A.R.V.I.S เองก็ไม่ได้บอกอะไร  เป็ปเปอร์ได้กล่าวพูดกับ โทนี่ เเละ เเจ็คสัน

  ฟุ่บ~~

    เเจ็คสันเจ้ารีบมาดูอาการของ เจน เร็วเข้า  หลังจากเเจ็คสันตามเข้ามา ธอร์ รีบตะโกนบอกกล่าว เเจ็คสันให้รีบมาดูอาการ

    ไม่จำเป็นต้องรีบให้ คุณฟอสเตอร์ ดื่มนี่ก่อนเถอะ  หลังจากเห็นสถานการณ์ของ เจน ฟอสเตอร์ เเจ็คสันก็สามารถยืนยันได้ทันทีว่าเธอหมดสติเพราะ พลังของอีเธอร์ ดังนั้น เขาจึงยื่นส่งน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ให้ธอร์โดยตรง

  นี่เป็นรางวัลที่ได้รับก่อนหน้านี้เขาไม่ได้เเลกเปลี่ยนมันมาจากระบบ เเจ็คสันได้ เเลกเปลี่ยนหัวใจเเห่งชีวิตก่อนที่มันจะถูกดึงออกไปโดยคนอื่นทำให้ตอนนี้เขาค่อนข้างมีความมั่งคั่งเล็กน้อย การให้น้ำพุศักดิ์สิทธิ์เพียงขวดนึงไม่ทำให้เขาเกิดความสูญเสีย

  เมื่อเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของเจน ฟอสเตอร์ ตอนนี้เขาที่ไม่มีวิธีช่วยเหลือ ทำได้เพียงเเต่ชะลออาการของ เจน ฟอสเตอร์ ได้เพียงเท่านั้น ทักษะทางการเเพทย์ของโลกก็ไร้ประโยชน์ เเม้จะให้ โร้ค ช่วยเหลือ เเต่ก็ไม่สามารถทำได้ พลังของอินฟินิตี้สโตน นั้นรุนเเรงมาก เธอไม่สามารถทนมันได้อย่างเเน่นอน

    นั่นก็คือน้ำศักดิ์สิทธิ์ลึกลับก่อนหน้านี้ใช่หรือไม่  เห็นน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในขวดเเก้วใสโทนี่ ได้กล่าวพูดขึ้น

  ก่อนหน้านี้โทนี่ต้องการมันเพื่อใช้เวลาในการศึกษาเเต่เเจ็คสันไม่ได้ให้เขา โทนี่ จึงได้ยอมปล่อย มาภายหลัง เขาได้ลองตรวจสอบมันจากฤทธิ์ของน้ำภายในร่างกายที่เเจ็คสันได้ช่วยเหลือเขาทำให้เขาค้นพบว่า วิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีในปัจจุบันไม่สามารถวิเคราะห์ออกมาได้

    เข้าใจเเล้ว  ธอร์พยักหน้าเเละ รับเอาน้ำพุศักดิ์สิทธิ์มา

  ธอร์ได้ยกขวดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เเละเทลงไปในปากของเจน ฟอสเตอร์ เเม้ เธอจะหมดสติอยู่ เเต่เธอก็สามารถกลืนเเละดูดซับพลังนี้เข้าไปภายในร่างกายได้

    พลังชีวิตของคุณ เจน ฟอสเตอร์ ได้เพิ่มขึ้น เเต่ ผลการดูดกลืนพลังชีวิตนั่นก็ยังทำงานอยู่  หลังจากที่น้ำพุศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในร่างกายของ เจน ฟอสเตอร์ J.A.R.V.I.S ก็ได้ตรวจสอบสถานการณ์ภายในร่างกายของ เจน ในปัจจุบัน

    อืม,น้ำพุศักดิ์สิทธิ์สามารถช่วยชะลอเวลาได้เพียงเท่านั้น  ได้ยินคำเตือนของJ.A.R.V.I.S เเจ็คสัครุ่นคิดในใจอย่างเงียบ ๆ

  จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่ธอร์  ธอร์ฉันคิดว่าคุณคงจะต้องเรียกบุคคลนั้นให้มาช่วยเเล้ว  

    บุคคลนั้นที่เจ้าว่าคงไม่ได้หมายถึงใคร…  ธอร์ไม่เข้าใจเจตนาที่เเจ็คสันพยายามจะสื่อ

    สถานการณ์ของคุณฟอสเตอร์ในปัจจุบันพวกเราไม่มีวิธีช่วยเหลือได้ดีไปกว่าเเอสการ์ดดังนั้นคุณจะต้องให้ทางเเอสการ์ดช่วยเหลือ พา คุณ เจน ไปรักษาที่นั่น  เเจ็คสันกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

    เเต่ฮัมดาลล์ไม่ตอบรับเสียงเรียกของข้า เขาจะไม่มีทางให้พวกเรากลับไปที่นั่น  ธอร์ ได้เข้าใจทันที เขาได้กล่าวตอบอย่างไร้เยื่อใย

  ต้องรู้ก่อนว่าธอร์ ได้เข้าไปในพื้นที่มิติพิเศษ เเจ็คสัน ได้ถีบธอร์เข้าไปเพื่อหวังให้ ฮัมดาลล์ ช่วย เเต่อย่างไรก็ตาม พื้นที่พิเศษนั้น ฮัมดาลล์ ไม่สามารถเข้าถึง ได้ เพราะแบบนี้ ธอร์ จึงคิดว่า ฮัมดาลล์ ไม่ได้สนใจเสียงตอบรับของพวกเขา

    หากอาการหมดสติของคุณฟอสเตอร์เป็นเรื่องปกติ ก็คงจะดี เเต่สถานการณ์ของเธออันตรายมาก ตราบเท่าที่คุณบอกเหตุผลที่ว่านี้เเก่ฮัมดาลล์ ฉันคิดว่า เขาน่าจะตอบรับคำขอของคุณ เเละ เปิดสะพานไบฟรอสทันที  เเจ็คสันเข้าใจว่าธอร์หมายถึงอะไร เขากล่าวตอบกลับ

    เหตุผลอะไร!  

    อีเธอร์!  

  ในเขตชานเมือง,นิวยอร์กฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เจอร์รี่ ได้นั่งอยู่หน้าคอม เเละ ได้รับรู้สถานการณ์ที่ มิราจไนท์ได้รับความช่วยเหลือจนรอดพ้นจากอันตรายมาเเล้ว

    ฟู่ว!ดูเหมือนจะไม่ง่ายเลย มิราจไนท์ ช่างดวงดีจริง ๆ   บนเก้าอี้,เจอร์รี่ได้ถอนหายใจออกมา

  เเค๊ป!

  ขณะที่เจอร์รี่ กำลังผ่อนคลายวิสัยทัศน์ของเขาก็จ้องมองไปที่เสียงที่ดังขึ้นตรงมุมห้อง

    อะไรหนูงั้นเหรอ เพื่อนเดดพูลคนนั้น กินอาหารทิ้งไว้ เเละ ไม่เก็บไปงั้นเหรอเนี่ย  ได้ยินเสียงที่ดังขึ้น เจอร์รี่ เปิดปากพูดอย่างไม่เต็มใจ

  ฟุ่บ

  จากนั้นเจอร์รี่ ก็ลุกจากเก้าอี้ เขาได้วางเม้าส์ เเละ เดินไปหยิบไม้เบสบอลเหล็กที่อยู่ด้านข้าง เขาได้เคลื่อนที่ไปยังตำเเหน่งที่เกิดเสียง

    ตรงมุมนั่นไม่ใช่ว่า เดดพูล เขาได้พาเพื่อนคนนั้นกลับมาเเละทิ้งไว้ที่ตรงนั้นนิ  เมื่อเข้าใกล้ตำเเหน่งที่เกิดเสียง เจอร์รี่ ก็เกิดความกังวลเล็กน้อย

    ไม่ใช่ว่าเพื่อนคนนั้นตายเเล้วหรอกเหรอ หรือว่าเขาจะสามารถเคลื่อนไหวเองได้…  เจอร์รี่ครุ่นคิดในใจอย่างตื่นกลัว

  หลังจากเข้าร่วมทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์มานานเจอร์รี่ ก็ได้สนับสนุนทีม ในฐานะผู้ช่วยที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ในปัจจุบัน เขาไม่เคยเผชิญหน้ากับอันตรายจากสนามรบข้างหน้ามาก่อน ดังนั้น หากตอนนี้ เพื่อนคนนั้นที่เดดพูลพามา ยังไม่เสียชีวิตเเละเป็นภัยต่อฐานเเห่งนี้ เจอร์รี่ ก็ไม่ลังเลที่จะเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายโดยไม่เกรงกลัว

 

อีเธอร์

  ฟุ่บ!

  ขณะที่พวกธอร์กำลังดิ้นรนกังวลกับสถานการณ์ของเจน ฟอสเตอร์ จู่ ๆ เเจ็คสันที่นอนอยู่บนเตียงพยาบาลก็เปิดเปลือกตาทั้งสองข้างขึ้น

  เมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมาเเจ็คสันได้สามารถเรียกคืนสติกลับมาได้เเล้ว เเละ เขาได้ยินเรื่องที่พวกธอร์สนทนากับโทนี่ก่อนหน้านี้ ดังนั้น เขาจึงเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้น

    ไม่เเปลกใจ,เหตุผลที่เจน มีสภาพเป็นแบบนั้นก็เพราะพลังอีเธอร์ที่อยู่ในร่างกายของเธอ  เเจ็คสันได้ไตร่ตรองเล็ก ๆ น้อย ๆ หลังจากฟื้นขึ้นมา

    ฉันรู้ว่ามันคืออะไร!  จู่ๆ เเจ็คสันก็ได้ตะโกนพูดขึ้น เสียงของ เขาได้สร้างความตกใจให้กับ ธอร์ เเละ โทนี่ ที่กำลังสนทนากันอยู่

    เเจ็คสัน!เธอตื่นเเล้ว เป็นยังไงบ้าง  โทนี่ได้รีบพุ่งเข้ามาดูอาการของเเจ็คสันอย่างใกล้ชิด

    ผมไม่เป็นอะไรเเล้วที่สำคัญที่สุดก็คือ สถานการณ์ของคุณ ฟอสเตอร์ เรื่องที่พวกคุณสองคนสนทนากันเมื่อครู่ผมได้ยินหมดเเล้ว  ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันสั่นศีรษะตอบกลับว่าไม่เป็นไร

    ข้าเองก็กำลังจะไปดูอาการของเจน อยู่ตอนนี้  เห็นเเจ็คสันตื่นขึ้นมา ธอร์คิดว่าสถานการณ์ทางฝั่งนี้ได้เรียบร้อยไปเเล้ว เขาได้พยายามลุกขึ้นจากเตียงเหมือนกัน

    พวกเราไปด้วยกันเถอะบางทีถ้าเป็นอย่างที่ฉันคิด ฉันน่าจะรู้อาการที่คุณฟอสเตอร์กำลังเผชิญหน้าอยู่  เเจ็คสันที่นอนอยู่ที่เตียงเองก็กล่าวตอบเเละพยายามจะลุกขึ้น

    เธอรู้อะไรอย่างงั้นเหรอ  

    เดี๋ยวเจ้าหมายความว่างไง  

  ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันโทนี่ เเละ ธอร์ ได้พูดด้วยคำถามในเวลาเดียวกัน สิ่งเเรกคือ เจน ได้หลุดเข้าไปยังพื้นที่มิติอวกาศก่อนหน้าพวกเขา อีก เเม้ ธอร์ จะตามเข้าไปทีหลังก็ยังไม่รู้ข้อมูลอะไรมากเลย เเละเป็นที่เเน่ชัดว่า เเจ็คสันที่ตามไปคนสุดท้าย น่าจะเป็นพวกที่ไม่รู้อะไรมากที่สุด

    เอาเป็นว่าผมพอจะคาดเดาได้เเล้วกันรีบไปกันเถอะ  เห็นโทนี่ เเละ ธอร์ กล่าวถามเเละจ้องมองมาที่ตนเองพร้อมกัน เเจ็คสันกล่าวพูดขึ้น

    จริงด้วยพวกเรารีบไปกันเถอะ  ได้ยินเสียงเตือนของ เเจ็คสัน ธอร์ ได้สบัดความคิดออก เมื่อรู้ว่าอดีตเเฟนสาวของเขากำลังตกอยู่ในอันตรายเขาไหนเลยจะนิ่งเฉยได้

  ฟุ่บ!

  ขณะที่ธอร์ได้ลุกขึ้นเเละ เเจ็คสันเองก็เตรียมจะลุกขึ้นจากเตียง จู่ ๆ ขาของเขาก็ไร้เรี่ยวเเรงเเละหมดเเรงล้มลงไปที่พื้นดูเหมือนตอนนี้เขาจะยังไม่สามารถขยับร่างกายเเละเดินเองได้อย่างตามใจ

    ฉันช่วยเอง  เห็นเเจ็คสันล้มลงไปที่พื้นโทนี่ ได้ยื่นมือไปประคองเขา

    J.A.R.V.I.Sขอรถเข็น 2 ที่  

    ครับ  

  จากนั้นธอร์ เเละ เเจ็คสัน ก็ได้นั่งรถเข็นออกจากใต้ดินอาคารสตาร์คอินดัสตรีท์เพื่อขึ้นไปที่ด้านบน สำหรับ เเฮร์รี่ เเละ สไปเดอร์แมนตอนนี้ พวกเขาได้นอนพักผ่อนเเละยังไม่ตื่นขึ้นมา

  …

    J.A.R.V.I.Sตอนที่เขาตรวจสอบร่างกายของคุณฟอสเตอร์ได้พบพลังงานลึกลับพิเศษบางอย่างทำให้เธอรู้สึกหมดสติใช่หรือไม่  ในลิฟต์ เเจ็คสันได้กล่าวถามโทนี่

    อืม,เป็นเช่นนั้น  ได้ยินคำถามของเเจ็คสัน โทนี่ กล่าวตอบอย่างไม่ลังเล

  อีเธอร์หนึ่งในมณีอินฟินิตี้ทั้ง 6 มันเป็นสสารที่ไร้รูปร่างเเตกต่างจากอัญมณีอื่น ๆ มณีเเห่งความจริงสามารถคงรูปร่างได้หลายอย่าง ดังนั้นมันจึงไม่มีรูปร่างที่คงที่เหมือนกับมณีอื่น ๆ

  เรียลลิตี้สโตนคือ พลังที่สามารถสร้างความเป็นจริงได้ มันเป็นพลังงานที่น่ากลัว เเละ อาจเรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในอินฟินิตี้สโตน ที่เเข็งเเกร่งที่สุด

  พลังของมันถูกใช้โดยพวกดาร์คเอลฟ์อย่าง มาเลคิธ หาก มาเลคิธ ได้ไป พวกมันจะสร้างสถานการณ์เป็นจริง ที่พวกมันต้องการ เเละ นี่คือความต้องการของพวกดาร์คเอลฟ์

  การปรากฏตัวของอีเธอร์ ได้สร้างผลกระทบต่อสงคราม 9 โลก เเต่สุดท้าย กษัตริย์โอดิน ก็สามารถเอาชนะ มาเลคิธ เเละ ยึด อีเธอร์ มาได้ในที่สุด ในเวลาต่อมา อีเธอร์ ได้ถูกซ่อนไว้ในพื้นที่ลึบบางอย่างในเเอสการ์ดเพราะโอดินไม่ต้องการให้มันถูกค้นพบโดยพวกดาร์คเอลฟ์อีก

  เป็นระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาปัจจุบัน อีเธอร์ มีสภาพพลังที่อ่อนเเออย่างมาก มันได้ถูกดูดกลืนโดย เจน ฟอสเตอร์ ที่เป็นคนธรรมดา เเละ เพราะเหตุนี้ พล็อตเรื่องเดิม เจน ฟอสเตอร์ เกือบจะตกตายด้วยพลังของอีเธอร์

    เเจ็คสัน,ทำไมเจ้าถึงรู้สถานการณ์โดยรวมของเจน เเละยัง รู้เกี่ยวกับพลังงานพิเศษลึกลับนั่นอีก  หลังจากเเจ็คสันตอบสนอง ธอร์ ที่นั่งรถเข็นข้าง ๆ เขา ได้กล่าวถาม

    เรื่องที่ฉันรู้ได้ยังไงนั่นก็เพราะฉันได้ยินพวกคุณสนทนากันเเต่เกี่ยวกับพลังงานในร่างกายของคุณฟอสเตอร์…  ได้ยินคำพูดของธอร์ เเจ็คสันย่นคิ้วเล็กน้อย

    อะไร  

    คือฉันไม่มีวิธีช่วยเหลือที่จะดึงพลังงานนั่นออกมาจากร่างกายของคุณฟอสเตอร์ตอนนี้  จ้องมองไปที่ธอร์เเจ็คสันตอบกลับตามตรง

  ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน โทนี่ เเละ ธอร์ เองก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป

  อันที่จริงเเล้วเเม้เเจ็คสันจะรู้ว่าต้นตอของพลังลึกลับคืออะไร เเต่เขาก็ไม่มีวิธีในการดึงพลังนั่นออกมาเเม้เเต่เเอสการ์ดก็ยังไม่มีหนทางช่วยเหลือ

  ในพล็อตเรื่องเดิมอีเธอร์ ได้ถูกดึงออกจากร่างของ เจน โดย มาเลคิธ เเต่ทว่าตอนนี้ มาเลคิธ ได้รับบาดเจ็บสาหัสจาก ดาบเเห่งการพิพากษา ระบบดราม่าคริซิส

  ในปัจจุบันมาเลคิธ น่าจะหลบซ่อนตัวเเละกำลังรอบาดเเผลฟื้นฟู เพราะเหตุนี้ เขาจึงยังไม่มีหนทางในการช่วยเหลือ เจน ฟอสเตอร์

  ฟุ่บ

  ไม่กี่วินาทีต่อมาลิฟต์ก็หยุดลง พวกเขาทั้งหมดได้มาถึงชั้นบนสุดของอาคารสตาร์คอินดัสตรีท์

  ติง

  เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกธอร์ ได้ลุกจากรถเข็นออกไปอย่างรวดเร็ว โดย ทิ้ง เเจ็คสัน เเละ ธอร์ ไว้อยู่ข้างหลัง

    เจน,เจน !  เขาวิ่งออกไปจนทำให้เดินโซเซเเละเกือบจะล้มลง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความกังวล

 

อาการผิดปกติของเจน

  ในช่วงเวลานั้นเป็ปเปอร์ได้กลับมาเห็นเจน ท่าทางของเธอเหมือนกำลังจะเป็นลม โชคดีที่เธอยื่นมือเข้าไปประคองได้ทันเวลา

    เธอเป็นยังไงบ้าง  เป็ปเปอร์ได้กล่าวถามเจน ที่ดูเหมือนจะไร้เรี่ยวเเรงในตอนนี้

    ฉันสบายดี,เเค่รู้สึกหน้ามืดนิดหน่อย  เจนกล่าวพูดคำเหล่านี้ออกมาอย่างยากลำบาก

  เป็ปเปอร์  …  

    J.A.R.V.I.S!  เป็ปเปอร์ได้ตะโกนขึ้นเสียงดัง

  จากนั้นJ.A.R.V.I.S! ก็ดูเหมือนจะเตรียมชุดเกราะไอรอนแมนสองตัวขึ้นมาประคอง เจียงฟอสเตอร์เข้าไปในห้องนั่งเล่น ยิ่งไปกว่านั้นเขายังตรวจสอบร่างกายเเละพบคลื่นควาผันผวนพิเศษนั่นกำลังดูดกลืนพลังชีวิตของ เจน อยู่

    เธอเป็นอะไรเมื่อครู่เธอยังดีๆ อยู่เลย?  หลังจาก J.A.R.V.I.S! ตรวจสอบร่างกายของ เจน ฟอสเตอร์ เป็ปเปอร์ ก็กล่าวถามอย่างกังวล

    คุณเป็ปเปอร์สถานการณ์ของ คุณเจน ฟอสเตอร์ นั้นพิเศษมาก ผมไม่รู้จะอธิบายออกมายังไง เเต่ผมได้เเจ้งต่อคุณสตาร์คเเละเขาได้ทราบสถานการณ์เเล้วตอนนี้   J.A.R.V.I.S! ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

  ได้ยินคำตอบของJ.A.R.V.I.S! เป็ปเปอร์ ไม่ได้พูดอะไรออกมา เเม้เเต่ J.A.R.V.I.S ยังไม่รู้ เธอเองก็เริ่มเป็นกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของ เจน ฟอสเตอร์

  …

  อุตสาหกรรมสตาร์คชั้นใต้ดินใกล้ตำเเหน่งเตียงพยาบาลของเเจ็คสัน ก่อนหน้านี้ โทนี่กำลังติดต่อกับ พวกกัปตันโรเจอร์ส เเละรับรู้สถานการณ์โดยรวมเสร็จเขาถอนหายใจออกมา เเม้จะสูญเสียชุดเกราะไอรอนแมนไปมาก เเต่ชุดเกราะไอรอนแมนเหล่านี้ไม่สามารถเทียบได้กับชีวิตของมนุษย์

    เจ้านายครับ,คุณเจน ฟอสเตอร์ รู้สึกหน้ามืด จากการตรวจสอบรัศมีพลังชีวิตของเธอกำลังถูกดูดกลืนออกไปอย่างช้า ๆ   ไม่นาน โทนี่ ก็ได้รับรายงานจาก J.A.R.V.I.S

    เอ๋…สตีฟฉันมีธุระสำคัญเร่งด่วนไว้จะติดต่อไปภายหลัง  ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่เลิกคิ้วเล็กน้อยจากนั้นก็วางสายกัปตันโรเจอร์สไป

    ก่อนอะไรขึ้นก่อนหน้านี้เธอก็ยังดูโอเคอยู่นายบอกว่าภายในร่างกายของเธอมีเเหล่งพลังงานพิเศษลึกลับอยู่เเต่มันก็ยังไม่ได้ส่งผลอันตรายออกมาไม่ใช่หรอ?  หลังจากวางสายกัปตันโรเจอร์สไป โทนี่ ได้กล่าวถาม J.A.R.V.I.S!

    ผมไม่สามารถปรมวลผลพลังงานนั่นได้อย่างเเน่ชัดเเต่ก่อนหน้านี้สถานการณ์ร่างกายของคุณฟอสเตอร์ปกติมาก เเต่มาตอนนี้ รัศมีพลังชีวิตของเธอกำลังค่อย ๆ ลดลงทีละน้อย  เผชิญหน้ากับคำถามของ โทนี่ J.A.R.V.I.S ตอบกลับตามตรง

  ในสถานการณ์เช่นนี้J.A.R.V.I.S ยังไม่สามารถค้นหาต้นตอที่มาของพลังได้ ทั้งไม่รู้ว่ามันส่งผลกระทบอะไรต่อ เจน ฟอสเตอร์ บ้าง เเต่ที่เเน่ ๆ มันได้ดูดกลืนพลังชีวิตของเธอ เเม้เธอจะตื่นขึ้นมาทำตัวได้อย่างปกติ เเต่ในร่างกายของเธอ พลังงานที่ว่ากำลังกลืนกินชีวิตของเธออย่างช้า ๆ ก่อนหน้านี้ J.A.R.V.I.S ไม่ได้สนใจเพราะเห็นว่ามันไม่มีอะไร พวกเขาได้ให้ความสนใจกับสถานการณ์ของเเจ็คสันเป็นอันดับเเรก

  หลังจากผ่านไปไม่นานดูเหมือนร่างกายของ เจน ฟอสเตอร์ จะถูกพลังงานนั่นกระตุ้นอีกกครั้ง เป็นที่ชัดเจนว่า พลังงานนั่นกำลังกลืนกินชีวิตของเธอทีละน้อย ๆ

    เป็นพลังงานแบบไหนกันพวกเขาได้ค้นพบอะไรที่ด้านในพื้นที่มิติอวกาศนั่นกันเเน่หรือว่าสิ่งนี้จะมาจากพวกดาร์คเอลฟ์ ? เเต่ธอร์ก็ไม่ได้เผชิญหน้ากับพวกดาร์คเอลฟ์ นี่นา เขาบอกว่า เขาได้เผชิญหน้ากับพวกสัตว์ปีศาจของพวกดาร์คเอลฟ์เพียงเท่านั้น  โทนี่ กล่าวครุ่นคิดบางอย่าง เขากำลังคาดเดา เกี่ยวกับสถานะพลังลึกลับในร่างกายของ เจน ฟอสเตอร์

    เจ้านายครับตอนนี้ ผมได้ทำการบำบัดรักษาเบื้องต้นให้เเก่ คุณฟอสเตอร์เเล้ว คาดว่าน่าจะช่วยประคองอาการไปได้สักระยะ  J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

    อืม,ฉันคิดว่าคงจะต้องไปถามธอร์โดยตรงว่าพวกเขาค้นพบอะไรที่ด้านในพื้นที่มิติอวกาศนั่นหากรู้ว่าพลังงานลึกลับที่ว่านี้คืออะไร พวกเราอาจจะสามารถค้นหาหนทางที่จะจัดการกับมันได้  โทนี่ พึมพัมออกมา

    มีเรื่องหลายอย่างเกิดขึ้นมากจริงๆ ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่  โทนี่ได้กล่าวครุ่นคิดในใจ หลังจากเขากลับมาก็มีเรื่องจำนวนมากตามมาด้วย

  ตั้งเเต่ที่ลูกบาศก์เวทมนตร์ปรากฏขึ้น ประตูมิติอวกาศนั่นก็ได้เชื่อมต่อกับอารยธรรมนอกโลก สิ่งนี้ที่เหนือการคาดการณ์ของพวกเขา เเต่ก็อย่างที่พวกเขาปรึกษากัน การปรากฏขึ้นของประตูมิติอวกาศนี่ ถ้าคิดในอีกเเง่นึงก็เป็นการช่วยเหลือพวกเขาทางอ้อม เพราะมันจะช่วยพวกเขาพัฒนาวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีของโลกในปัจจุบัน

  ไม่นานโทนี่ ก็ได้เดินเข้าไปหาธอร์

  ธอร์เเละเเจ็คสันเป็นเพื่อนกันก่อนหน้านี้ เเจ็คสันได้เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเหลือธอร์เเละประสบอุบัติเหตุ ซึ่งเรื่องนี้โทนี่ได้ปล่อยวางไปเเล้วเขาต้องการรู้รายละเอียดข้อมูลด้านในพื้นที่มิติอวกาศนั่น

    เอ๋  ธอร์ที่ถูกปลุกขึ้นมาเขาได้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงอย่างรวดเร็ว

    เกิดอะไรขึ้น  หลังจากตื่นขึ้นมาสิ่งเเรกที่เขาถามก็คืออาจจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นดังนั้นเขาจึงรู้สึกสงสัย

    ธอร์,เกี่ยวกับพื้นที่มิติอวกาศด้านในนั้นพวกนายได้ค้นพบอะไรบ้าง ตอนนี้ ร่างกายของ เจน ฟอสเตอร์ อ่อนเเอมาก เธอค่อนข้างไร้เรี่ยวเเรงเเละดูเหมือนจะหมดสติ ภายในร่างกายของเธอมีพลังงานพิเศษบางอย่างอยู่ ฉันต้องการรู้ว่าพวกนายพบเจออะไรเข้าที่ข้างในนั้น  โทนี่ ได้กล่าวถามธอร์

    อะไรเจนเป็นอะไร?  ได้ยินคำพูดของโทนี่ ธอร์ ตะโกนขึ้นอย่างเสียงดัง

    ตอนนี้ยังไม่หากเเต่ถ้านายยังไม่พูดรายละเอียดทั้งหมดที่นายรู้มา ไม่เเน่เธออาจจะเป็น  มองดูความทึ่มของธอร์ โทนี่ หาได้สนใจ เขาเข้าประเด็นคำถามในทันที

    ข้าเองก็ไม่รู้เเน่ชัดช่วงเวลาที่ข้าเข้าไปนั้น ข้าเข้าไปทีหลัง เจน เธอได้เข้าไปก่อนหน้านี้ เเต่หลังจากข้าเข้าไปตอนที่ข้าพบเธอ เธอก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร  ธอร์กล่าวพูดถึงสถานการณ์ก่อนหน้านี้จากนั้นเขาก็เล่าเรื่องทุกอย่างจนถึงปัจจุบันที่รู้มาจากเจน ให้ โทนี่ฟัง

    อีกทั้งเจน ยังได้เห็นภาพความฝันเกี่ยวกับ พวกดาร์คเอลฟ์   

    ภาพความฝัน สิ่งนี้มันไม่สามารถบ่งบอกอะไรได้  ได้ยินคำตอบของ ธอร์ โทนี่ รู้สึกผิดหวัง

  หากธอร์ยังไม่รู้ว่าเจน ได้ค้นพบอะไร คนที่รู้ก็คงจะมีเเต่เจ้าตัวเพียงเท่านั้น โทนี่ เชื่อมั่นอย่างนี้ ยังไงก็ตามตอนนี้ สิ่งที่ โทนี่ คาดหวังมากที่สุด ก็คือรอ เเจ็คสัน ตื่นขึ้นมา

 

ตื่นตระหนก

  หลังจากลังเลอยู่นานโร้ค ก็พูดคำขอของตัวเองออกมา นั่นก็คือเธอต้องการเเหล่งพลังงานพลังชีวิตนี้

  ที่จริงเเล้วโร้ค ไม่ได้ต้องการพลังงานพลังชีวิตนี้ เเต่พลังการรักษาของมันก็น่าทึ่งอย่างมากมันสามารถเติมเต็มพลังชีวิตให้กับผู้ใช้ได้ นั่นทำให้เธอต้องการจะได้รับมันเเละใช้มันกับ โลเเกน

  ต้องบอกว่าโลเเกน นั้น เริ่มที่จะเเก่ตัวลงอย่างช้า ๆ เขาได้ผ่านช่วงเวลารบเเละเผชิญหน้ากับศึกหนักมาตลอด มันได้ทำให้พลังชีวิตของเขาเสียหายจำนวนมาก เเม้ความสามารถกลายพันธุ์ของเขาจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บทั้งหมด เเต่มันก็สร้างความเสียหายให้กับร่างกาย เเละ ร่างกายของเขาก็มาถึงขีดจำกัดเเล้ว ดังนั้นเเหล่งพลังงานชีวิตนี่จะสามารถช่วยฟื้นฟูให้ โลเเกน กลับมาหนุ่มอีกครั้งได้ เมื่อเขาสามารถฟื้นฟูกลับคืนสภาพสมบูรณ์เขาจะเป็นมิวแทนท์คนนึงที่ทรงพลังเลยก็ว่าได้

   เธอต้องการสิ่งนั้นงั้นเหรอ ได้ยินคำขอของโร้ค โทนี่ ย่นคิ้วเล็กน้อย

  โทนี่รู้ดีว่าเเจ็คสัน มีไอเท็มสิ่งของลึกลับพวกนี้ เเต่ก่อนหน้านี้เขาก็เคยลองถามเเจ็คสันเหมือนกัน เเต่เเจ็คสันบอกว่าไม่มี ตอนนี้ โร้คได้ช่วยชีวิตของ เเจ็คสัน โทนี่ เชื่อว่าหากเเจ็คสันยังคงมีสิ่งของพวกนี้อยู่ มันก็คงไม่ใช่คำขอที่มากเกินไป

  ตามที่โทนี่บอกพลังงานชีวิตอันลึกลับนั่นมาจากตัวของ เเจ็คสันไม่ผิดเเน่ เเละ โร้ค ที่รู้ดังนี้ก็ต้องการมัน

   เอาไว้ให้มิราจไนท์ตื่น เธอสามารถกล่าวขอเขาได้โดยตรง ฉันคิดว่าเขาไม่น่าจะปฏิเสธ หากเขาไม่มีหนทางให้เจ้าสิ่งนั้นกับเธอ ฉันสามารถชดเชยเป็นสิ่งอื่นได้ โทนี่ไม่ได้กล่าวตอบรับคำขอ เพียงเเต่รอให้เเจ็คสันตื่นขึ้นมาตอบรับเเทน

   อืม,ฉันรู้ว่าคำขอนี้มันออกจะมากเกินไปหน่อยถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร โร้คได้กล่าวปฏิเสธ

  อาจเป็นเพราะว่าเธอลืมคิดไปเกี่ยวกับความสำคัญของพลังงานชีวิตเหล่านี้เพราะอย่างไรก็ตามสิ่งของล้ำค่าแบบนี้มันย่อมต้องเป็นสิ่งของหายากมาก ๆ อย่าว่าเเต่เธอเลย เเม้เเต่โทนี่ เองก็อยากจะได้มัน ดังนั้นก่อนหน้านี้เขาจึงได้ทำการศึกษามันอย่างละเอียดเเต่กลับไม่สามารถใช้วิทยาศาสตร์มาสามารถอธิบายได้

  พลังงานชีวิตที่โร้คดูดซับมานั้นเธอสามารถใช้มันส่งผ่านร่างกายคนอื่นเพื่อรักษาได้ด้วยความสามารถของโร้ค เธอสามารถดูดซับพลังงานสิ่งที่เเตะเเละนำมันมาใช้เป็นของตัวเองเเม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เเต่มันก็สามารถช่วยเหลือได้อย่างมหาศาล นั่นเป็นเหตุผลที่เธอต้องการมันไม่ใช่เพื่อช่วยชีวิตของโลเเกนเเต่ยังต้องการช่วยเหลือชีวิตของคนอื่น ๆ ในอนาคต

  อาจกล่าวได้ว่าหากเเจ็คสัน ได้มอบ เเหล่งพลังงานชีวิตนี้กับเธอ เธอจะกลายเป็นหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่ที่สามารถช่วยเหลือชีวิตผู้คนได้ในระดับนึง

   เอาเป็นว่าตอนนี้พวกเรารอมิราจไนท์ตื่นขึ้นมากันก่อนดีกว่า โทนี่ได้กล่าวบอกคนอื่น ๆ ที่อยู่ที่นี่

  ไอซ์แมนที่ได้ยินดังนั้นเขาได้พยักหน้าอย่างรวดร็ว จากนั้น โทนี่ ก็ปล่อยให้ J.A.R.V.I.S. ช่วยเหลือโดยการต้อนรับดูเเลเเขกคนอื่น ๆ หลังจากนั้น โทนี่ ก็ได้ติดต่อกับ S.H.I.E.L.D. เพื่อติดตามข้อมูล เขาได้ยินมาว่าที่ด้านไซบีเรีย มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก

  …

  เเผนช่วยเหลือมิราจไนท์ได้ประสบความสำเร็จในที่สุดเป็ปเปอร์ ได้รับการเเจ้งเตือนจาก J.A.R.V.I.S ในเวลาต่อมา

   พี่สาวเป็ปเปอร์เกิดอะไรขึ้น สถานการณ์ของเเจ็คสันเป็นยังไงบ้าง? ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงที่เดินเข้ามา เจน ฟอสเตอร์ส ได้ดีดตัวขึ้น เเละ เปิดปากกล่าวถาม

   เเจ็คสันไม่เป็นอะไรเพราะความช่วยเหลือจากธอร์ทำให้เขาหายดีเเละกำลังพักฟื้นอยู่ตอนนี้ ได้ยินดังนั้น เจน ได้ตอบกลับอย่ารงรวดเร็ว

   เป็นเรื่องที่ดีที่เขาปลอดภัย หากเขาเกิดอุบัติเหตุเพราะฉัน ฉันจะรู้สึกผิดต่อเขามาก ๆ  ได้ยินดังนั้น เจนกล่าวตอบกลับ

  สำหรับสถานการณ์ของธอร์นั้นเธอไม่ได้กังวลเป็นพิเศษ

   ระหว่างรอธอร์พวกเราไปทานอาคารมื้อค่ำกันเถอะ เป็ปเปอร์ได้จ้องมองไปที่อากาศด้านนอก เเละ กล่าวอย่างสุภาพ

   ขอบคุณพี่สาวเป็ปเปอร์ เจนได้ตอบกลับ ตอนนี้เธอเองก็รู้สึกหิวมากจริง ๆ

   ฉันจะให้J.A.R.V.I.S จัดเตรียมอาหารเย็นให้เรา จริงสิ คุณฟอสเตอร์ คุณเเพ้อาหารอะไรหรือป่าว ได้ยินเจนตอบกลับ เป็ปเปอร์ กล่าวถาม

   ไม่มี 

   ดีเช่นนั้นพวกเราไปกันเถอะ ฉันจะให้ J.A.R.V.I.S จัดเตรียมให้ทันที 

  จากนั้นเป็ปเปอร์ ก็เดินออกจากห้องนั่งเล่น ออกไปข้างนอก เธอจ้องมองฉากยามค่ำคืนจากด่านฟ้าของอาคารที่นี่ทุกวันทำให้เธอสามารถเห็นบรรยากาศรอบตัวเมืองในนิวอยร์กเเห่งนี้ได้ชัด

  สำหรับเจนเธอได้เดินตามเป็ปเปอร์ ไปข้างนอกเช่นเดียวกัน เธอจ้องมองไปที่บรรยากาศโดยรอบด้วยความรู้สึกที่เเปลกใจ

   บรรยากาศวิวตรงนี้ดีเลยใช่มั้ยล่ะ เป็ปเปอร์ได้กล่าวถามออกมาขณะที่จ้องมองไปที่บรรยากาศ

  เเต่ทว่าเป็ปเปอร์กล่าวพูดยังไม่ทันขาดคำเธอที่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับของเจน เธอได้รีบหันกลับไปเเละพบกับความตกใจทันที

 

พลังป้องกันที่เเข็งเเกร่งขึ้น

  ในขณะที่พวกโทนี่เเละคนอื่นๆ รู้สึกโล่งใจเมื่ออาการของเเจ็คสันพ้นขีดอันตราย ตอนนี้ จู่ ๆ เเจ็คสันก็กลับมามีสติอีกครั้งเเต่เขายังไม่ต้องการที่จะตื่นขึ้น

  เพราะในขณะที่ทำการรักษาช่วงสุดท้ายเเจ็คสันรู้สึกหงุดหงิดมากเเม้จะได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขาเเต่ก็ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเช่นเดียวกัน

  ในเวลานี้เเจ็คสันได้ดำเนินการตรวจสอบร่างกายของตัวอย่างระมัดระวังเขาพยายามนึกฟื้นสติที่มึนงงอยู่ชั่วขณะเเละบังเอิญพบกับการเปลี่ยนเเปลงทางร่างกายที่ยิ่งใหญ่

   นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่เห็นได้ชัดว่าฉันได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์นั่นเเต่ทำไมราวกับว่าฉันได้รับประโยชน์บางอย่างกลับมา? เเจ็คสันที่ตรวจสอบร่างกายเขาพบว่าร่างกายของเขากลับเเข็งเเกร่งเพิ่มมากขึ้น

  ภายใต้ช่วงเวลาสำคัญเเห่งชีวิตพวก โทนี่ ได้ช่วยเหลือเเจ็คสันให้ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัย เเต่มันยังไม่หมดเเค่นนั้น ตอนนี้ร่างกายของเขายังมีภูมิต้านทานพลังงานมืดที่เป็นเเหล่งพลังของพวกดาร์คเอลฟ์อีก อาจกล่าวได้ว่าพละกำลังการป้องกันของเขาได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

   หรือว่าเป็นผลพิเศษที่มาจากหัวใจเเห่งชีวิต เเจ็คสันไม่รู้ว่าทำไมร่างกายของเขาถึงเเข็งเเกร่งขึ้นเเต่เขาก็คาดเดาได้เพียงความคิดนี้เพียงเท่านั้น

   ร่างกายได้รับการเสริมพลังป้องกันให้เเข็งเเกร่งขึ้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดีภายใต้ความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่อย่างน้อยความเเข็งเเกร่งทางกายภาพของฉันก็เพิ่มมากขึ้น เเต่ว่าพลังงานมืดนั่นกลับน่ากลัวกว่าที่คิดเอาไว้ เเจ็คสันได้รู้สึกตื่นเต้นเช่นเดียวกัน เเต่ว่าเขาก็รู้สึกหวาดกลัวพลังงานมืดนั่น

  พลังงานมืดนั้นเเข็งเเกร่งอย่างมากหากผู้หญิงคนนั้นไม่ช่วยเหลือเขาในการถ่ายโอนพลังงานมืดในตอนเเรกก็อาจเป็นไปได้ว่าเขาจะเสียชีวิตลง ดังนั้นสถานการณ์ตอนนี้ของเขาอาจจะเรียกได้ว่าดีที่สุด

  ตอนนี้ภายในร่างกายของเเจ็คสันพลังงานรักษาเดิมของเขาก็ถูกโร้คดูดออกไปเช่นเดียวกันพลังงานในร่างกายทั้งหมดกลับถูกดูดออกไป ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการก็คือการพักฟื้นช่วงระยะเวลาหนึ่ง ในใจเขาก็รู้สึกเสียดายเพราะพลังงานภายในร่างกายของเขาสามารถช่วยส่งเสริมให้เขาสามารถเติบโตได้ขึ้นมากมาย

  อาจกล่าวได้ว่าร่างกายเเต่เดิมที่อัดเเน่นไปด้วยน้ำที่เต็มสระตอนนี้กลับเหือดเเห้งลงอย่างมากหากเขาคิดจะพัฒนาความเเข็งเเกร่งของตนเองเขาจะต้องเติมน้ำเข้าสู่ร่างกายให้เต็มสระน้ำของเขา นอกเหนือจากพละกำลังภายในเเล้ว เขายังจำเป็นต้องฝึกทักษะดาบรวมถึงทักษะการโจมตีอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือในการป้องกันตัวตนเองในอนาคต

  จากประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เเจ็คสันรับรู้ได้ถึงขีดจำกัดความสามารถของตัวเองเขาประมาทพวกดาร์คเอลฟ์มากเกินไป ด้วยพลังการป้องกันเดิมของเขาไม่สามารถต้านทานพวกดาร์คเอลฟ์จำนวนมากได้ถ้าเกิดเขาฝึกฝนเเละเเข็งเเกร่งขึ้นมากกว่านี้เขาก็คงไม่เสียท่านักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนั้นอย่างเเน่นอน

  สำหรับชุดเเพนท่อมสูทของเขาได้รับความเสียหายอย่างรุนเเรง มันได้ช่วยปกป้องเขาจวบจนจบการต่อสู้อย่างเเท้จริง ถ้าไม่มีชุดเเพนท่อมชูท เเละ ไม่มีหัวใจเเห่งชีวิต มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะรอดชีวิตออกมา เขาจมดิ่งลงสู่ความคิดถ้าเกิดเขามีร่างกายที่เเข็งเเกร่งเหมือนกับฮัลค์ เเจ็คสันจะสามารถพึ่งพาความเเข็งเเกร่งทางกายเพียงอย่างเดียวในการเอาชนะศัตรูได้

  ฟุ่บ~~

  ช่วงเวลาที่เเจ็คสันกำลังไตร่ตรองความคิดJ.A.R.V.I.S เองก็ตรวจพบสัญญาณคลื่นสมองที่กำลังทำงานอย่างไม่ปกติเมื่อเห็นสถานการณ์ของเเจ็คสัน J.A.R.V.I.S กลับไม่ได้ส่งสัญญาณเเจ้งเตือนในทันที เพราะก่อนหน้านี้ คลื่นสมองของ เเจ็คสัน ก็ได้ทำงานผิดพลาดมาเเล้ว เเต่มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากพิจารณาส่วนอื่น ๆ อีก เเละไม่พบปัญหา เขาก็ปล่อยวางเรื่องนี้ทันที

  หากเป็นอดีตตอนที่ยังไม่รู้จักเเจ็คสันJ.A.R.V.I.S ไม่มีทางตรวจจับสเเกนผ่านร่างกายของเเจ็คสันได้อย่างเเน่นอนเพราะเเจ็คสันได้สวมใส่ชุดเเพนท่อมสูททุกครั้ง

  เเต่ตอนนี้ชุดเเพนท่อมสูทของเเจ็คสันได้ถูกทำลายไปเเล้ว J.A.R.V.I.S สามารถตรวจสอบสถานะภายในร่างกายของเเจ็คสันได้อย่างเเม่นยำ เจ้านายครับ ร่างกายของคุณเเจ็คสันได้เริ่มกลับมาฟื้นฟูตัวเองอีกครั้ง คาดว่าไม่มีปัญหาอะไรเเล้วครับ 

  ได้ยินเสียงเเจ้งเตือนจากJ.A.R.V.I.S โทนี่ เเละ เเฮร์รี่ ต่างก็ดีใจ พวกเขาได้จ้องมองไปที่ เตียงรักษาเเละครุ่นคิดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

  เเผลขนาดใหญ่ตรงหน้าอกพร้อมกับส่วนอื่นๆ ที่ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้ ตอนนี้กำลังฟื้นฟูอย่างรวดเร็วภายใต้ผลกระทบของยารักษา

  สำหรับโทนี่เขาที่เเยกตัวออกมาจัดการเรื่องของ เเจ็คสัน เขาได้ละทิ้งสงครามที่ไซบีเรีย ไป เเละ มาที่นิวยอร์กเเห่งนี้ ภายใต้การช่วยเหลือเเจ็คสัน เขาไม่ได้รับข่าวสารใด ๆ อื่นอีก ไม่ใช่ว่าทางS.H.I.E.L.D. ไม่ได้เเจ้งอะไรมา เเต่โทนี่ไม่มีเวลาไปมัวสนใจสิ่งอื่น หลังจากทุกอย่างเครียร์ได้อย่างลงตัว ตอนนี้เขาก็ควรตรวจสอบสถานการณ์ด้านนั้นโดยเร็วที่สุด

  เเต่ทว่าก่อนที่จะเเยกไปจัดการรับฟังเรื่องทางนั้นโทนี่ จะต้องสะสางพื้นที่ตรงนี้เสียก่อน เพราะมีคนจำนวนมากมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือเเละให้กำลังใจเเก่เเจ็คสัน นอกเหนือ จากธอร์ เดดพูล เเละคนอื่น ๆ ที่เขารู้จักเเล้ว ก็ยังมีสมาชิกทีมX-MEN ที่มาใหม่เเละเขายังไม่รู้จักอีกฝ่ายดี

  …

   เเอนนาไม่เป็นอะไรใช่มั้ยฉันไม่เคยเห็นเธอใช้ความสามารถได้นานกว่า5 นาที ตอนนี้เธอสามารถก้าวข้ามมันไปได้หรือไม่? ขณะนั้นเอง โลเเกน ก็ได้ถาม เเอนนา ที่อยู่ด้านข้างของเขา

  หลายปีที่ผ่านมาเเม้โร้ค จะเชี่ยวชาญในทักษะความสามารถของตนเอง เเต่หลังจากดูดซับความสามารถของคนอื่นมาใช้เเล้วช่วงระยะเวลาที่เธอคงสภาพพลังนั้นไว้ได้ก็น้อยอย่างมาก ดังนั้นเมื่อเห็นเธอใช้พลังเกินขีดจำกัด 5 นาที โลเเกนกังวลว่าจะมีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายของเธอ

   ฉันไม่เป็นอะไรมากอาจเป็นเพราะฉันดูดซับความสามารถรักษาของ เดดพูล มา เเต่ยังมีอีกอย่างพลังที่ฉันดูดซับไปเมื่อสักครู่นี้มัน… ได้ยินคำถามของโลเเกน ,เเอนนา กล่าวตอบอย่างเหนื่อยล้า จากนั้นเธอดูเหมือนลังเลที่จะพูดอีกสิ่งหนึ่งออกมา

 

พลังป้องกันที่เเข็งเเกร่งขึ้น

  ในขณะที่พวกโทนี่เเละคนอื่นๆ รู้สึกโล่งใจเมื่ออาการของเเจ็คสันพ้นขีดอันตราย ตอนนี้ จู่ ๆ เเจ็คสันก็กลับมามีสติอีกครั้งเเต่เขายังไม่ต้องการที่จะตื่นขึ้น

  เพราะในขณะที่ทำการรักษาช่วงสุดท้ายเเจ็คสันรู้สึกหงุดหงิดมากเเม้จะได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขาเเต่ก็ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเช่นเดียวกัน

  ในเวลานี้เเจ็คสันได้ดำเนินการตรวจสอบร่างกายของตัวอย่างระมัดระวังเขาพยายามนึกฟื้นสติที่มึนงงอยู่ชั่วขณะเเละบังเอิญพบกับการเปลี่ยนเเปลงทางร่างกายที่ยิ่งใหญ่

   นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่เห็นได้ชัดว่าฉันได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์นั่นเเต่ทำไมราวกับว่าฉันได้รับประโยชน์บางอย่างกลับมา? เเจ็คสันที่ตรวจสอบร่างกายเขาพบว่าร่างกายของเขากลับเเข็งเเกร่งเพิ่มมากขึ้น

  ภายใต้ช่วงเวลาสำคัญเเห่งชีวิตพวก โทนี่ ได้ช่วยเหลือเเจ็คสันให้ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัย เเต่มันยังไม่หมดเเค่นนั้น ตอนนี้ร่างกายของเขายังมีภูมิต้านทานพลังงานมืดที่เป็นเเหล่งพลังของพวกดาร์คเอลฟ์อีก อาจกล่าวได้ว่าพละกำลังการป้องกันของเขาได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

   หรือว่าเป็นผลพิเศษที่มาจากหัวใจเเห่งชีวิต เเจ็คสันไม่รู้ว่าทำไมร่างกายของเขาถึงเเข็งเเกร่งขึ้นเเต่เขาก็คาดเดาได้เพียงความคิดนี้เพียงเท่านั้น

   ร่างกายได้รับการเสริมพลังป้องกันให้เเข็งเเกร่งขึ้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดีภายใต้ความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่อย่างน้อยความเเข็งเเกร่งทางกายภาพของฉันก็เพิ่มมากขึ้น เเต่ว่าพลังงานมืดนั่นกลับน่ากลัวกว่าที่คิดเอาไว้ เเจ็คสันได้รู้สึกตื่นเต้นเช่นเดียวกัน เเต่ว่าเขาก็รู้สึกหวาดกลัวพลังงานมืดนั่น

  พลังงานมืดนั้นเเข็งเเกร่งอย่างมากหากผู้หญิงคนนั้นไม่ช่วยเหลือเขาในการถ่ายโอนพลังงานมืดในตอนเเรกก็อาจเป็นไปได้ว่าเขาจะเสียชีวิตลง ดังนั้นสถานการณ์ตอนนี้ของเขาอาจจะเรียกได้ว่าดีที่สุด

  ตอนนี้ภายในร่างกายของเเจ็คสันพลังงานรักษาเดิมของเขาก็ถูกโร้คดูดออกไปเช่นเดียวกันพลังงานในร่างกายทั้งหมดกลับถูกดูดออกไป ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการก็คือการพักฟื้นช่วงระยะเวลาหนึ่ง ในใจเขาก็รู้สึกเสียดายเพราะพลังงานภายในร่างกายของเขาสามารถช่วยส่งเสริมให้เขาสามารถเติบโตได้ขึ้นมากมาย

  อาจกล่าวได้ว่าร่างกายเเต่เดิมที่อัดเเน่นไปด้วยน้ำที่เต็มสระตอนนี้กลับเหือดเเห้งลงอย่างมากหากเขาคิดจะพัฒนาความเเข็งเเกร่งของตนเองเขาจะต้องเติมน้ำเข้าสู่ร่างกายให้เต็มสระน้ำของเขา นอกเหนือจากพละกำลังภายในเเล้ว เขายังจำเป็นต้องฝึกทักษะดาบรวมถึงทักษะการโจมตีอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือในการป้องกันตัวตนเองในอนาคต

  จากประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เเจ็คสันรับรู้ได้ถึงขีดจำกัดความสามารถของตัวเองเขาประมาทพวกดาร์คเอลฟ์มากเกินไป ด้วยพลังการป้องกันเดิมของเขาไม่สามารถต้านทานพวกดาร์คเอลฟ์จำนวนมากได้ถ้าเกิดเขาฝึกฝนเเละเเข็งเเกร่งขึ้นมากกว่านี้เขาก็คงไม่เสียท่านักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนั้นอย่างเเน่นอน

  สำหรับชุดเเพนท่อมสูทของเขาได้รับความเสียหายอย่างรุนเเรง มันได้ช่วยปกป้องเขาจวบจนจบการต่อสู้อย่างเเท้จริง ถ้าไม่มีชุดเเพนท่อมชูท เเละ ไม่มีหัวใจเเห่งชีวิต มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะรอดชีวิตออกมา เขาจมดิ่งลงสู่ความคิดถ้าเกิดเขามีร่างกายที่เเข็งเเกร่งเหมือนกับฮัลค์ เเจ็คสันจะสามารถพึ่งพาความเเข็งเเกร่งทางกายเพียงอย่างเดียวในการเอาชนะศัตรูได้

  ฟุ่บ~~

  ช่วงเวลาที่เเจ็คสันกำลังไตร่ตรองความคิดJ.A.R.V.I.S เองก็ตรวจพบสัญญาณคลื่นสมองที่กำลังทำงานอย่างไม่ปกติเมื่อเห็นสถานการณ์ของเเจ็คสัน J.A.R.V.I.S กลับไม่ได้ส่งสัญญาณเเจ้งเตือนในทันที เพราะก่อนหน้านี้ คลื่นสมองของ เเจ็คสัน ก็ได้ทำงานผิดพลาดมาเเล้ว เเต่มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากพิจารณาส่วนอื่น ๆ อีก เเละไม่พบปัญหา เขาก็ปล่อยวางเรื่องนี้ทันที

  หากเป็นอดีตตอนที่ยังไม่รู้จักเเจ็คสันJ.A.R.V.I.S ไม่มีทางตรวจจับสเเกนผ่านร่างกายของเเจ็คสันได้อย่างเเน่นอนเพราะเเจ็คสันได้สวมใส่ชุดเเพนท่อมสูททุกครั้ง

  เเต่ตอนนี้ชุดเเพนท่อมสูทของเเจ็คสันได้ถูกทำลายไปเเล้ว J.A.R.V.I.S สามารถตรวจสอบสถานะภายในร่างกายของเเจ็คสันได้อย่างเเม่นยำ เจ้านายครับ ร่างกายของคุณเเจ็คสันได้เริ่มกลับมาฟื้นฟูตัวเองอีกครั้ง คาดว่าไม่มีปัญหาอะไรเเล้วครับ 

  ได้ยินเสียงเเจ้งเตือนจากJ.A.R.V.I.S โทนี่ เเละ เเฮร์รี่ ต่างก็ดีใจ พวกเขาได้จ้องมองไปที่ เตียงรักษาเเละครุ่นคิดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

  เเผลขนาดใหญ่ตรงหน้าอกพร้อมกับส่วนอื่นๆ ที่ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้ ตอนนี้กำลังฟื้นฟูอย่างรวดเร็วภายใต้ผลกระทบของยารักษา

  สำหรับโทนี่เขาที่เเยกตัวออกมาจัดการเรื่องของ เเจ็คสัน เขาได้ละทิ้งสงครามที่ไซบีเรีย ไป เเละ มาที่นิวยอร์กเเห่งนี้ ภายใต้การช่วยเหลือเเจ็คสัน เขาไม่ได้รับข่าวสารใด ๆ อื่นอีก ไม่ใช่ว่าทางS.H.I.E.L.D. ไม่ได้เเจ้งอะไรมา เเต่โทนี่ไม่มีเวลาไปมัวสนใจสิ่งอื่น หลังจากทุกอย่างเครียร์ได้อย่างลงตัว ตอนนี้เขาก็ควรตรวจสอบสถานการณ์ด้านนั้นโดยเร็วที่สุด

  เเต่ทว่าก่อนที่จะเเยกไปจัดการรับฟังเรื่องทางนั้นโทนี่ จะต้องสะสางพื้นที่ตรงนี้เสียก่อน เพราะมีคนจำนวนมากมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือเเละให้กำลังใจเเก่เเจ็คสัน นอกเหนือ จากธอร์ เดดพูล เเละคนอื่น ๆ ที่เขารู้จักเเล้ว ก็ยังมีสมาชิกทีมX-MEN ที่มาใหม่เเละเขายังไม่รู้จักอีกฝ่ายดี

  …

   เเอนนาไม่เป็นอะไรใช่มั้ยฉันไม่เคยเห็นเธอใช้ความสามารถได้นานกว่า5 นาที ตอนนี้เธอสามารถก้าวข้ามมันไปได้หรือไม่? ขณะนั้นเอง โลเเกน ก็ได้ถาม เเอนนา ที่อยู่ด้านข้างของเขา

  หลายปีที่ผ่านมาเเม้โร้ค จะเชี่ยวชาญในทักษะความสามารถของตนเอง เเต่หลังจากดูดซับความสามารถของคนอื่นมาใช้เเล้วช่วงระยะเวลาที่เธอคงสภาพพลังนั้นไว้ได้ก็น้อยอย่างมาก ดังนั้นเมื่อเห็นเธอใช้พลังเกินขีดจำกัด 5 นาที โลเเกนกังวลว่าจะมีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นกับร่างกายของเธอ

   ฉันไม่เป็นอะไรมากอาจเป็นเพราะฉันดูดซับความสามารถรักษาของ เดดพูล มา เเต่ยังมีอีกอย่างพลังที่ฉันดูดซับไปเมื่อสักครู่นี้มัน… ได้ยินคำถามของโลเเกน ,เเอนนา กล่าวตอบอย่างเหนื่อยล้า จากนั้นเธอดูเหมือนลังเลที่จะพูดอีกสิ่งหนึ่งออกมา

 

การตัดสินใจของ ดร.แบนเนอร์ส

  อาคารสตาร์คชั้นใต้ดินหลังจากสรุปผลการรักษาของมิราจไนท์เสร็จพวกเขาก็เตรียมตัวเเยกย้ายกันไปพักผ่อน,ไซบีเรีย พวกกัปตันโรเจอร์สที่ล่าถอยมา พวกเขาไม่รู้ว่าสถานการณ์ของมิราจไนท์นั้นย่ำเเย่ เพราะทางด้านพวกเขาก็มีสภาพที่เลวร้ายไม่ต่างกัน

  ตอนนี้สิ่งสำคัญก็คือประตูมิติอวกาศที่ไซบีเรียมันยังคงเป็นที่สงสัยเเละให้ความสนใจสำหรับพวกเขา ตอนนี้พวกเขากำลังหาทางกำจัดมันเหมือนกับพื้นที่มิติอวกาศที่ปรากฏขึ้นที่ลอนดอน

  การประจักษ์กับพวกดาร์คเอลฟ์ด้วยตาของพวกเขาทำให้พวกเขารับรู้ว่าตอนนี้อารยธรรมโลกยังไม่ใช่คู่มือของพวกป่าเถื่อนโหดร้ายพวกนี้เลย

  ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดก็คือสมบัติที่มิราจไนท์ได้ไปบางทีมันอาจจะสามารถช่วยเหลือให้พวกเขาพ้นจากสถานการณ์ตอนนี้ได้

  วอชิงตัน,สำนักงานใหญ่S.H.I.E.L.D. มีหลายคนที่ได้กลับมาจากฐานไซบีเรียเเละเข้ารับการรักษาที่นี่ โดยเฉพาะกัปตันโรเจอร์ส ตอนนี้เขาเกือบจะสามารถเดินได้เเล้วตอนนี้

  ฟุ่บ!

  กัปตันโรเจอร์สที่กำลังนอนพักผ่อนอยู่ในห้องพยาบาลเขาได้ลืมตาตื่นขึ้นเพราะเสียงฝีเท้าจากใครบางคนที่เดินมาข้างเขาคนคนนั้นก็คือ ดร.แบนเนอร์

  ผ่านไปหลายนาทีหลังจากจ้องหน้ากันสักพักจู่ ๆ กัปตันโรเจอร์ส ก็เป็นฝ่ายเปิดคำถามก่อน

   ดร.แบนเนอร์ทำไมคุณถึงสนับสนุนเเผนการ S ในตอนเเรก จ้องมองไปที่ ดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์ส กล่าวถาม

  ได้ยินคำถามของกัปตันโรเจอร์ส ดร.แบนเนอร์ ได้ปรับเเนวสายตาของเขาเล็กน้อยก่อนที่จะพูดออกมา

   ที่ฉันสนับสนุนเเผนของคุณก็เพราะว่าด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นน่าจะเต็มไปด้วยทรัพยากรที่มากมายอย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยีของโลกในปัจจุบัน รวมถึงทีมสหพันธ์โลกที่ร่วมมือกัน ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเผชิญหน้ากับอารยธรรมที่ระดับสูงกว่าในตอนนี้ ดร.แบนเนอร์ กล่าวตอบ

   กัปตันโรเจอร์สเเท้จริงเเล้วคุณมีความลับที่ยังปิดบังฉันอยู่ใช่มั้ย ดร.แบนเนอร์ ได้กล่าวพูดถามกลับบ้าง

  เป็นที่เเน่นอนว่าพวกกัปตันโรเจอร์ส,ไอรอนแมนโทนี่สตาร์ค เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ รวมถึง ทีมX-MEN พวกเขาได้รวมตัวกันขึ้นเพราะเหตุผลบางอย่าง โดยปกติเเล้วมันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ขุมกำลังที่เเข็งเเกร่งที่สุดทั่วโลกจะมาจับมือกัน

   ดร.แบนเนอร์ยังมีบางเรื่องที่ตอนนี้พวกเรายังไม่สามารถบอกให้คุณรู้ได้ รวมถึงยังไม่ใช่เวลาที่ประชาชนทั่วโลกจะรับมือกับข่าวสารนี้ไหว กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

   เเต่ถ้าหากคุณยินดีที่จะเข้าร่วมกับองค์กรS.H.I.E.L.D. ของเราอย่างเเท้จริง ฉันจะบอกเรื่องราวทุกอย่างให้คุณรู้ ยิ่งไปกว่านั้นฉันรับประกันได้เลยว่า เรื่องที่คุณจะรู้จะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นเเละมีความเข้าใจเกี่ยวกับโลกใบนี้มากขึ้น 

   อืม,ดูเหมือนสถานการณ์ที่พวกคุณรู้มาจะยิ่งใหญ่อย่างมาก ไม่งั้นคุณคงไม่ตั้งใจที่จะผูกมัดฉันแบบนี้ ได้ยินคำตอบของ กัปตันโรเจอร์ส สายตาของ ดร.แบนเนอร์ เปล่งประกาย

   ถ้าเกิดฉันไม่รับปากคุณจะไม่สนับสนุนทรัพยากรเพื่อช่วยเหลือฉันใช่หรือไม่ ดร.แบนเนอร์กล่าวถาม

   ป่าวเลย,คุณยังสามารถใช้ทรัพยากรของS.H.I.E.L.D. ได้อย่างเต็มที่ สำหรับเรื่องความลับนี้ เเค่คุณไม่มีส่วนร่วมเท่านั้น เกี่ยวกับคำถามของ ดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

   ก็ได้,ฉันเองก็อยากจะรู้ในหมู่พวกคุณนั้นได้ซ่อนความลับเเท้จริงประการใดไว้ ได้ยินคำตอบของกัปตันโรเจอร์สดร.แบนเนอร์ไม่ลังเลที่จะตอบตกลง

  ดูเหมือนครั้งนี้เขาจะตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเเละตอบรับข้อตกลงของกัปตันโรเจอร์ส

   เป็นเรื่องที่ดี,ดร.แบนเนอร์ตอนนี้คุณเองก็เป็นหนึ่งในทีมพันธมิตรอเวนเจอร์สของเรา ได้ยินคำตอบของ ดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์ส ยิ้มกล่าวพูด

   ทีมอเวนเจอร์ส ฉันคิดว่าคงมีเเค่ฉันละมั้งที่เห็นด้วย สำหรับ ฮัลค์ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นส่วนหนึ่งของทีมอเวนเจอร์สจริงหรือไม่ ดร.แบนเนอร์ยิ้มออกมา

   นี่ก็ขึ้นอยู่กับคุณเเล้ว,ยินดีต้อนรับอีกครั้งหลังจากนี้คุณจะได้รับรู้ถึงความลึ้งซึ้งของโลกของเรามากกว่าเดิม กัปตันโรเจอร์สเริ่มพูดขึ้น

   โลกของเรา 

   ใช่,โลกของเรา 

  …

  ใต้ดินอาคารสตาร์คอินดัสตรีท์พวกเเฮร์รี่ เเละคนอื่น ๆ ที่รออยู่ข้างนอกห้องหลังจากเห็น โร้ค กำลังเดินออกมา รวมถึงการเเสดงออกของพวกโทนี่ทำให้ เเฮร์รี่ ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น

  ฟุ่บ!

   มิสเตอร์เเฮร์รี่ ตอนนี้ คุณเเจ็คสันได้ปลอดภัยเเล้ว ขณะที่ เเฮร์รี่เตรียมจะเข้าไปด้านใน เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ดังขึ้นในหูของเขา

  ฟุ่บ!

  ได้ยินคำพูดของJ.A.R.V.I.S เเฮร์รี่ ได้เดินเข้าไปในห้องพยาบาลทันที

   ขอบคุณ! หลังจากเดินสวนกับโร้ค เเฮร์รี่ ได้กล่าวขอบคุณอย่างรวดเร็ว

  จากนั้นเเฮร์รี่ก็รีบไปที่ข้างเตียงพยาบาลของเเจ็คสันเขาได้เข้าไปใกล้ตำเเหน่งของ ปีเตอร์ เเละ ธอร์ เเต่ J.A.R.V.I.S ก็ได้ลากเตียงพยาบาลใกล้เคียงมาให้กับพวกเขาเพื่อทำการพักผ่อน

   เเจ็คสันปลอดภัยเเล้วใช่ไหมปีเตอร์อาการของเเจ็คสันเป็นยังไงมั่ง จ้องมองไปที่ ปีเตอร์ เเละ ธอร์ เเฮร์รี่ ได้กล่าวถามอย่างกังวล

   อาการเขากำลังฟื้นตัวความเเข็งเเกร่งทางกายภาพของเขากำลังฟื้นฟูกลับมาทีละน้อย คราวนี้โทนี่ได้กล่าวตอบเเทนพวกเขา

   ดีจริงๆ  ได้ยินคำตอบของ โทนี่ ,เเฮร์รี่ รู้สึกยินดีที่หัวใจ

   เขาจะตื่นขึ้นตอนไหน ฉันจะเฝ้ารออยู่ข้าง ๆ เขาตอนเขาตื่นขึ้นมา 

   เรื่องนี้…มีความเป็นไปได้ทุกเวลาที่เขาจะตื่นขึ้นมา 

  ฟุ่บ

 

รอดชีวิต

  คลื่น!

  ท้องฟ้าเหนืออาคารสตาร์คอินดัสตรีท์ได้ปรากฏเมฆสายฟ้าไร้ขอบเขตเมฆดำเหล่านี้ได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

   เกิดเมฆดำลอยตัวได้ยังไง จ้องมองการเปลี่ยนเเปลงของสภาพอากาศภายนอกเป็ปเปอร์ ที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นชั้นบนสุด ขมวดคิ้วเล็กน้อย

   หืม เกิดอะไรขึ้นกัน เมฆเเยกออกจากกันเเล้ว? ขณะที่เป็ปเปอร์กำลังจะกล่าวถาม J.A.R.V.I.S ว่าทางสถานการณ์ด้าน โทนี่ เป็นยังไงบ้าง เเต่ว่าชั้นเมฆก็ดูเหมือนจะเเยกตัวออกจากกันเเละหายไปอย่างไร้ร่องรอย

  หาโทนี่อยู่ข้างนอกเเละพบเมฆสายฟ้าที่ปรากฏขึ้นเขาก็อาจจะคาดเดาได้ในทันทีว่านี่อาจจะเป็นเพราะพลังสายฟ้าของธอร์,ธอร์ได้ฟื้่นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าของเขาทีละน้อยอย่างช้าๆ

   หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้อย่างราบรื่น ทันทีที่ชั้นเมฆหายไปเเสงอาทิตย์ก็ส่องลงมาอีกครั้งเป็ปเปอร์ ได้สวดอ้อนวอนในใจ

  …

  ทางด้านโทนี่ตอนนี้เขาจ้องมองไปที่ เเจ็คสันที่นอนอยู่บนเตียง หลังจากเสร็จสิ้นการดึงพลังงานมืดออกมา โทนี่ ก็ให้ J.A.R.V.I.S ตรวจสอบร่างกายของเเจ็คสัน

   J.A.R.V.I.S ยังไม่ได้รับคำตอบจาก J.A.R.V.I.S โทนี่ ตะโกนกล่าวถามอย่างรุนเเรง

   เจ้านายครับ,สัญญาณชีพจรชีวิตของคุณมิราจไนท์หายไป หลังจากโทนี่กล่าวถาม J.A.R.V.I.S กล่าวตอบอย่างค่อนข้างลังเล

   ไม่…เป็นไปไม่ได้มันเกิดอะไรขึ้น ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ตะโกนเสียงดัง

  เกี่ยวกับผลลัพธ์นี้โทนี่ไม่สามารถยอมรับได้ เเผนของเขาคือช่วยเหลือ เเจ็คสัน ,ชีวิตของเเจ็คสันได้อยู่ในมือของพวกเขา หากเเจ็คสันไม่ตื่นขึ้นมาตลอดชีวิต โทนี่ จะต้องรู้สึกผิดไปชั่วชีวิต

   เวรเอ้ย!เป็นเพราะเจ้า หากเจ้าไม่บอกว่า ให้รีบเร่งช่วยเหลือ เเจ็คสัน เเละ ใช้เครื่องมือนั่นเข้าช่วย เขาก็คงไม่มาเสียชีวิตเช่นนี้ หลังจากโทนี่ตะโกน ธอร์ ก็ได้จ้องมองไปที่ โร้ค

  ก่อนหน้านี้ธอร์ ได้พยายามใช้พลังของเขาในการกำจัดพลังงานมืดอย่างเต็มที่ ในช่วงเวลาสุดท้ายเขาได้ขยี้พลังงานมืดนั้นทิ้งได้อย่างง่ายดาย เเต่ดูเหมือนร่างกายของเเจ็คสันจะไม่สามารถทนรับพลังงานมืดก่อนหน้านี้ได้ท้ายที่สุดเขาก็เสียชีวิต

  ได้ยินคำพูดของธอร์โทนี่ เเละ โร้ค ไม่ได้พูดอะไรออกมา เมื่อครู่นี้ พวกเขาคิดว่าสามารถช่วยเหลือเเจ็คสันได้สำเร็จ เเต่ใครจะคิดว่า เเจ็คสันที่ตื่นขึ้นมา สุดท้ายจะมาตายจากไปเช่นนี้

  ได้ยินเสียงดังจากข้างในห้องปีเตอร์ เพื่อนที่ดีที่สุดของ เเจ็คสัน ใบหน้าของเขาขาวซีด เขาได้ยินเสียงสนทนาภายในห้องอย่างชัดเจน จนทำให้ร่างกายของเขาเริ่มสั่นอย่างหวาดกลัว

  ปีเตอร์ได้รีบกระโดดเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วเขาเเหวกร่างของคนที่ยืนบังออกทั้งหมดเเละพุ่งเข้าใส่ร่างกายของเเจ็คสัน

  ปีเตอร์ได้เเง้มหูฟังเสียงสัญญาณชีพจรชีวิตของเเจ็คสันด้วยสัญชาตญาณเเมงมุมของเขาหากเเจ็คสันยังมีสัญญาณชีพจรชีวิตอยู่เขาจะต้องได้ยินอย่างเเน่นอน ขณะที่เขากำลังเเง้มฟังจู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงเบาบางพิเศษดูเหมือนมันจะยังทำงานอยู่

   เเจ็คสันยังไม่ตาย! ปีเตอร์ได้ตะโกนขึ้นอย่างโล่งอก

  เเม้ว่ามันจะเบาบางเเต่สัมผัสของเขาไม่ผิดเเน่ เสียงนั่นมาจากร่างกายของ เเจ็คสัน ร่างกายของเเจ็คสันกำลังปรับสภาพรักษาตัวเองอยู่

  ฟุ่บ

  ได้ยินเสียงตะโกนของปีเตอร์

  J.A.R.V.I.Sได้ทำการตรวจสอบสถานะทางกายภาพของ เเจ็คสันอีกครั้ง เครื่องตรวจจับในปัจจุบันไม่สามารถตรวจจับคลื่นสัญญาณชีพจรที่เบาบางนี้ได้เเต่เขาได้ทำการตรวจคลื่นสมองอีกครั้ง เป็นอย่างที่เขาพูด คลื่นสมองของมิราจไนท์ยังทำงานอยู่ 

  หลังจากได้ยินรายงานอีกครั้งจาก J.A.R.V.I.S โทนี่ เเละ คนอื่น ๆ วิญญาณของพวกเขาเเทบจะหลุดออกจากร่างเหงื่อเย็นขนาดใหญ่เดิมที่ไหลออกมาตอนนี้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

  สำหรับโร้คเเอนนา เธอเองก็รู้สึกเงียบสงบอีกครั้ง เด็กคนนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ ดังนั้น หน้าที่ของเธอก็คือช่วยเหลือเขา ถ้าเขารอดเเล้ว เธอเองก็รู้สึกยินดีด้วย

  จากนั้นโร้ค ก็ตัดสินใจเดินออกจากห้องพยาบาลเเห่งนี้ทันที

   ฮ่าฮ่า,ฉันคิดเเล้วเจ้าเด็กคนนี้ ฉันไม่คิดว่าเขาจะตายง่าย ๆ อย่างเเน่นอน เมื่อโร้คออกไป เสียงของโทนี่ ก็ดังขึ้นอย่างตื่นเต้น

   นี่เป็นความจริงสินะ ธอร์ในปัจจุบันที่หน้าซีดขาวตอนนี้ เขาเองก็สามารถสัมผัสได้ถึงเสียงเต้นของหัวใจเเจ็คสัน

  ทั้งธอร์เเละปีเตอร์ต่างก็ยืนยันสถานะของเเจ็คสันกันเสร็จเรียบร้อยดังนั้นไม่มีความจำเป็นจะต้องตรวจสอบอีกพวกเขาสามารถเเน่ใจได้ว่าเเจ็คสันยังมีชีวิตอยู่

  จากนั้นโทนี่ ก็สั่งให้ J.A.R.V.I.S พาเเจ็คสันขึ้นไปบนเตียงรักษาเเละเริ่มการรักษาทางกายภาพในทันที

   ธอร์,ปีเตอร์ พวกคุณทั้งสองคนสามารถไปพักผ่อนได้เเล้ว หลังจากวางเตียงของ เเจ็คสันเสร็จ เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้ดังขึ้น

   ฉันรู้เเล้วเเต่เเจ็คสัน เขาจะเป็นยังไงบ้าง เมื่อรู้ว่าเเจ็คสันปลอดภัยดี ธอร์ เเละ ปีเตอร์ ได้กล่าวถามออกมา

   สัญญาณชีพจรชีวิตของคุณเเจ็คสันเเม้จะอ่อนเเอมากเเต่ก็ได้พ้นขีดอันตรายมาเเล้ว นี่ถือเป็นความสำเร็จของพวกเรา โทนี่ได้กล่าวตอบเเทน J.A.R.V.I.S

   ฮ่าฮ่าเป็นความจริง เขายังไม่ตาย 

   ใช่,เขารอดเเล้วเเจ็คสันรอดเเล้ว 

 

ช่วงเวลาสำคัญ

  ในตอนนี้พลังชีวิตของหัวใจเเห่งชีวิตกำลังทำงานต้านพลังมืดภายในร่างกายของเเจ็คสันอยู่มันทำหน้าที่เฉกเช่นเดียวกับธอร์ ที่กำลังขจัดเเละต่อต้านพลังงานมืด ในขณะเดียวกัน โร้ค ก็มีหน้าที่ในการเกื้อหนุนโดยการส่งเสริมการรักษาภายในร่างกายของเเจ็คสัน

  ท้ายที่สุดเเล้วหน้าที่ที่พวกเขากำลังทำอยู่มันกำลังขัดเเย้งกัน โร้คได้ช่วยบรรเทาอาการรักษาของเเจ็คสันโดยการดูดกลืนสิ่งเเปลกปลอมทั้งหมดเพื่อเริ่มการรักษา ในขณะที่พลังของหัวใจเเห่งชีวิตได้ทำการต่อต้านพลังงานมืดเเละกำลังรักษาตนเอง

  พลังงานมืดภายในร่างกายของเเจ็คสันกำลังเป็นปัญหาอยู่ก็จริงเเต่เมื่อพลังรักษาที่รุนเเรงกว่าอย่างพลังของหัวใจเเห่งชีวิตกลับถูกดูดออกไปด้วยทำให้ร่างกายของเขากำลังอ่อนเเอ ถึงจะได้รับการช่วยเหลือพลังการรักษาจากโร้ค เเต่ร่างกายของเขากลับไม่สามารถฟื้นตัวได้ทัน ตอนนี้ ร่างของเขาเหมือนกับท่อน้ำสองท่อที่เเตกต่าง หนึ่งคือกำจัดของเสีย อีกหนึ่งคือ เติมน้ำบริสุทธิ์ เเต่ในขณะที่ พลังของหัวใจเเห่งชีวิตทำหน้าที่เป็นกลางเเละกำลังถูกทำให้เสียของ

   เวรเอ้ย!โทนี่ ยังไม่รู้ตัวสินะ เขากำลังทำให้ร่างกายของฉันรับภาระหนักเกินไป เเจ็คสันพยายามประคองเปลือกตาให้เปิดขึ้นอย่างยากลำบาก

   พลังงานมืดภายในร่างกายของฉันเหลืออยู่อีกไม่มากเเล้วในเวลานี้ พลังของหัวใจเเห่งชีวิตก็เพียงพอที่จะต่อต้านมัน ตอนนี้ฉันควรจะสามารถพึ่งพาพลังของฉันในการปราบปรามพลังงานมืดที่เหลืออยู่เเต่ในสภาพปัจจุบันฉันไม่มีเรี่ยวเเรงพอที่จะใช้พลังของหัวใจเเห่งชีวิต ทั้งพวกโทนี่เองก็ไม่รู้ว่าหัวใจเเห่งชีวิตได้เชื่อมโยงพลังการรักษากับร่างกายของฉัน พวกเขากำลังทำให้ฉันเสียของไปอย่างไร้ประโยชน์ เเจ็คสันกล่าวครุ่นคิดในใจ

  ที่จริงเเล้วหัวใจเเห่งชีวิตได้ช่วยเหลือชีวิตของเเจ็คสันไว้ก็จริงเเต่ที่เขาสามารถรอดมาได้เป็นเพราะการช่วยเหลือจากเอนเชี่ยนวันที่ใช้ไทม์สโตนในการย้อนเวลา หากตอนนั้นหัวใจของเเจ็คสันถูกทำลายเขาก็คงจะตายอย่างเเน่นอน เเต่เพราะ เอนเชี่ยนวันได้ย้อนเวลากลับไปเพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่กริชเล่มนั้นจะถูกเเทงเข้าสู่หัวใจของเเจ็คสัน ดังนั้นเขาจึงรอดมาได้ เเละ ได้หัวใจเเห่งชีวิตคอยประคองรักษาลมหายใจของเขาตอนนั้นเอาไว้

  ในตอนนี้เเจ็คสันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำการดูดซับพลังของหัวใจเเห่งชีวิตโดยตรง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไม่สามารถขยับตัวได้ หากตอนนี้พวกโทนี่หยุดมือเเละเขาสามารถใช้พลังของหัวใจเเห่งชีวิตในการรักษาตัวเองได้เขาจะกลับมามีสภาพพร้อมสมบูรณ์ในช่วงระยะเวลาไม่นาน

  สิ่งที่เขากังวลตอนนี้ก็คือผู้หญิงที่ ชื่อโร้ค เธอกำลังทำให้พลังการรักษาของเขาเสียเปล่า เขาไม่ต้องการให้มันเป็นเช่นนี้ เเจ็คสันได้พยายามส่งสายตาไปทางโทนี่

   รู้สึกตัวเเละหยุดมือกันสักที,ตอนนี้ฉันสามารถรักษาตัวเองได้เเล้ว นี่คือข้อความที่เเจ็คสันอยากจะส่งออกไปเขาได้เเสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหมายเหล่านี้

  หลังจากได้จ้องมองดูสีหน้าของเเจ็คสันโทนี่ ก็รู้สึกสงสัยอย่างมาก เขาไม่ชัดเจนในการเเสดงออกของ เเจ็คสัน เเต่กลับดูเป็นกังวลเเทนมากกว่า

   เเจ็คสัน,เธอสามารถมั่นใจได้ว่าพวกเราจะสามารถช่วยเหลือเธอได้อย่างเเน่นอน เเม้ว่าจะไม่รู้ว่าเเจ็คสันต้องการจะสื่ออะไรเเต่โทนี่ยังคงพยายามปลอบใจเขา

  เเจ็คสัน … 

   เวรเอ้ย,สิ่งที่นายกำลังทำอยู่ไม่ใช่การช่วยเหลือฉันเเต่เป็นการทำร้ายฉัน นี่คือความรู้สึกของเเจ็คสันตอนนี้หากเขาเปิดปากพูดได้เขาก็อยากจะตะโกนคำเหล่านี้ออกมา

   โทนี่สตาร์ค ฉันคิดว่าคุณน่าจะใช้เครื่องมือบางอย่างเข้าช่วยได้เเล้วในตอนนี้ ขณะที่เห็นสีหน้าของ เเจ็คสัน โร้ค ที่กำลังดูดซับพลังเเละเริ่มการรักษาได้พูดขึ้น

   เเต่ว่ามิสเเอนนา พลังงานมืดเหล่านี้ยังคงดูดซับออกไปไม่หมดฉันเกรงว่า… โทนี่กล่าวถามด้วยความกังวล

   ไม่ต้องกังวลฉันกำลังประคองพลังการรักษาอยู่หากเขายังคงอยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อไป เขาก็ไม่ต่างจากผักที่ขึ้นเขียง ดังนั้นพวกเราจะต้องรีบรวบรัดขั้นตอนการรักษาโดยเร็วที่สุด เผชิญหน้ากับโทนี่ โร้ค อธิบาย

  ได้ยินคำพูดของโร้ค โทนี่ เเม้ไม่อยากจะทำ เเต่เขาเมื่อเห็นสีหน้าที่สิ้นหวังของ เเจ็คสัน เขาก็ตัดสินใจได้ในที่สุด

   อดทนไว้ก่อนนะ โทนี่จ้องมองไปที่เเจ็คสันเเละตะโกนพูดออกมาเขาพยายามจับเเขนทั้งสองข้างของเเจ็คสันเอาไว้

  ฟุ่บ

  ในขณะเดียวกัน.J.A.R.V.I.S ก็ได้สเเตนบายเครื่องมือเเขนจักรกลสำหรับการช่วยเหลือไปติดตั้งไว้ที่ใกล้ตัวของเเจ็คสันอย่างใกล้ชิด

  วินาทีนั้นเองพลังงานเเสงสีเขียวในมือของเเจ็คสันก็ได้หายไปเขาจ้องมองไปที่ เเขนกลนั้นเล็กน้อย ธรรมชาติ เขารู้ว่า J..A.R.V.I.S กำลังตอบสนองต่อการรักษาขั้นต่อไปอยู่ เเขนกลนั่นได้ ดึง เวน่อมออกมา ดูเหมือนตอนนี้พวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องใช้มันอีกเเล้ว

   ธอร์ หลังจากดำเนินการเเก้ไขรักษาร่างกายเเจ็คสันบางจุดเสร็จโทนี่ ก็ตะโกนใส่ธอร์อย่างรุนเเรง

  ในเวลานี้ธอร์ ได้เปิดใช้พลังงานอย่างเต็มที่ในการขับไล่พลังงานมืดที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายของเเจ็คสันตอนนี้พลังงานมืดเหล่านี้กำลังเบาบางลงอย่างมาก

   สลายไปซะ ธอร์ไม่ลังเลเลยที่จะฝืนใช้พลังที่ตัวเองมีอยู่ทั้งหมดออกมาเขาต้องการทำลายพลังอันน่ารังเกียจนี่เเละช่วยเหลือชีวิตของเเจ็คสันโดยเร็วที่สุด

  พริบตาต่อมาพลังเทพเจ้าสายฟ้าของเขาก็ได้รับการยกระดับ พลังเหนือธรรมชาตินี้ได้สร้างความเสียหายกับพลังงานมืดโดยตรง ได้เห็นความเเข็งเเกร่งของธอร์ ปีเตอร์ ที่จ้องมองอยู่ไม่ไกล ได้ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย ความเเข็งเเกร่งของธอร์ในตอนนี้ สามารถที่จะเป็นอันตรายกับตัวเขาได้

  หลังจากธอร์ระเบิดพลังออกมาพลังงานมืดที่อยู่ในร่างกายของเเจ็คสันก็เหลือเพียง 1/10 จากทั้งหมด เผชิญหน้ากับความเเข็งเเกร่งของพลังเทพเจ้าสายฟ้า พลังงานมืดเหล่านี้กำลังถูกขับออกไปอย่างรวดเร็วท้ายที่สุดมันก็ได้หายไปจากร่างกายของเเจ็คสันโดยสมบูรณ์

   ในที่สุด! เห็นพลังงานมืดในร่างกายของเเจ็คสันหายไปเเละผิวพรรณของเเจ็คสันกลับมามีชีวิตอีกครั้งธอร์ ได้เเสดงสีหน้าหน้าเเห่งความสุขออกมาอย่างไร้ที่ติ ในเวลานี้ เขาสามารถกำจัดพลังงานมืดนั่นได้สำเร็จ

  ฟุ่บ

  โทนี่เเละ คนอื่น ๆ ที่เฝ้าสังเกตุการณ์เเละตรวจสอบร่างกายของเเจ็คสัน พวกเขาใช้เวลาร่วม 10 นาทีก่อนที่จะสามารถช่วยเหลือเเจ็คสันได้สำเร็จ ตอนนี้พวกเขารู้สึกว่าจิตวิญญาณของตนเองรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างเเปลก ๆ จนเเทบจะมือไม้ขาสั่นไปหมดทั้งร่าง

   เเจ็คสัน…เธอรู้สึกดีขึ้นเเล้วใช่มั้ย หลังจากเห็นพลังงานมืดหายไปโทนี่ ได้จ้องมองไปที่ เเจ็คสันเเละเปิดปากกล่าวถามโดยตรง

  ในเวลานี้โร้ค เองก็จ้องมองไปที่ เเจ็คสันเช่นเดียวกัน สายตาของเธอจ้องมองไปที่ดวงตาคู่นั้นของเเจ็คสันเพราะในเวลานี้ สีหน้าเเละดวงตาที่เเจ็คสันเผยออกมา ราวกับว่าไม่ต้องการรู้จัก โทนี่ สตาร์ค คนนี้

 

ความรู้สึกเจ็บปวดหลังจากได้สติ

  ขณะที่พวกโทนี่พยายามอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือเเจ็คสัน,ในห้วงสตินึกคิดของ เเจ็คสัน ,เขาได้ตื่นขึ้นมาอย่างสลึมสลือเเละพบกับอาการที่น่าประหลาดใจ

  เขาไม่ทราบว่าตนเองหลับไปนานเเค่ไหนหลังจากตื่นขึ้นมาเขาก็พบรัศมีพลังสีฟ้าที่รายล้อมอยู่ที่รอบตัว

  !

  ทันทีที่เขาตื่นขึ้นเเจ็คสันก็ได้รับการปกป้องจากพลังเเสงสีเขียวตอนนี้เขากำลังตรวจสอบสภาพร่างกายของตนเองเเละพยายามนึกทวนเรื่องราวก่อนหน้านี้

  ในสตินึกคิดของเขาเต็มไปด้วยเหตุการณ์มากมายที่ยากจะลืมลาย

   อืม,ตอนนี้เราอยู่ในจิตใต้สำนึกของตนเองสินะดูเหมือนว่า ร่างกายของฉันยังไม่ยอมให้จิตของฉันเข้าไปปลุกให้ตื่น คิดว่าตนเองไม่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ เเจ็คสันพึมพัมออกมา

   อาการบาดเจ็บจากการโจมตีของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนั้นรุนเเรงมากจริงๆ หากไม่ได้รับการป้องกันจากชุดเเพนท่อมสูท ฉันคงไม่สามารถต้านทานเเละคงจบชีวิตลงตรงนั้นเเล้ว 

   สถานการณ์ทางฝั่งนั้นเป็นยังไงมั่งนะฉันได้กลับสู่โลกมาพร้อมกับนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนั้นเเต่ฉันก็พลาดท่า ท้ายที่สุด J.A.R.V.I.S ก็ยังอยู่ที่นั่นด้วยหวังว่าเขาจะสามารถจัดการเเก้ไขปัญหาได้ เเจ็คสันได้คาดเดาสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นที่โลก

   ช่างเถอะคาดเดาไปก็ไม่ได้อะไรที่สำคัญก็คือร่างกายของฉันตอนนี้ต่างหาก 

   การโจมตีของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์นั่นรุนเเรงก็จริงเเต่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต หัวใจเเห่งชีวิต ก็ได้ปรากฏขึ้นเเละช่วยเหลือฉัน โชคดีจริง ๆ ที่ฉันเก็บมันไว้ เเจ็คสันได้พยายามเชื่อมต่อสตินึกคิดกับร่างกายของเขา

  ขณะที่เเจ็คสันกำลังพยายามรวบรวมข้อมูลจู่ๆสติของเขาก็เริ่มรู้สึกเลือนลางมากขึ้นจากนั้นความเจ็บปวดก็เริ่มถาโถมเข้ามามันเป็นความเจ็บปวดที่ยากจะทนได้

   นี่มัน!!… เเม้จะมีการเตรียมความพร้อมทางด้านจิตใจมากน้อยเเค่ไหนเเต่มันก็อดที่จะรู้สึกเจ็บปวดไม่ได้ ตอนนี้ เเจ็คสันสามารถรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของร่างกายตนเองในตอนนี้

  ธรรมชาติร่างกายของเขากำลังดึงสติของเขาให้กลับไปหากไม่มีสถานการณ์อะไรน่าเป็นห่วงอีกไม่นานเเจ็คสันจะสามารถลืมตาตื่นขึ้นในร่างกายของเขาได้อย่างเเน่นอน

  …

  ติ๊ด!

  ระหว่างที่พวกโทนี่กำลังพยายามช่วยเหลือเเจ็คสันJ.A.R.V.I.S ก็ยังคงตรวจสอบสถานการณ์ของเเจ็คสันอยู่ตลอด

   เจ้านายครับ,คลื่นสมองของคุณมิราจไนท์เกิดปฏิกิริยาตอบรับอย่างรุนเเรงคาดว่าเขากำลังจะได้สติขึ้นมา หลังจากตรวจสอบสถานการณ์ J.A.R.V.I.S ก็พูดขึ้นเพื่อกล่าวบอกโทนี่

  เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโทนี่ ที่กำลังมุ่งเน้นรักษาเเจ็คสันอยู่ ได้ยินเสียงเตือนของ J.A.R.V.I.S เขา เเละ คนอื่น ๆ ก็กลายเป็นตื่นตัวทันที

   ดูเหมือนว่าฤทธิ์ยาชาจะไม่มีผลกับเขาจริงๆ ! ธอร์, มิส เเอนนา พวกเรารีบเร่งมือกันเถอะ ก่อนที่เขาจะฟื้นสติขึ้นมาโดยสมบูรณ์ หลังจากที่ไม่สามารถควบคุมการตื่นของเเจ็คสันได้ โทนี่ ได้ตะโกนขึ้น

  เหตุผลที่โทนี่พูดเช่นนี้เพราะหาก สตินึกคิดของเเจ็คสันตื่นขึ้นมาด้วยอาการบาดเจ็บทางร่างกายตอนนี้มันจะนับเป็นความเจ็บปวดทรมาณที่เเสนสาหัสมากที่สุด ดังนั้นโทนี่ จึงได้ใช้ยาชา เเต่เเจ็คสันหาใช่คนธรรมดา ร่างกายของเขามีภูมิต้านทานพิเศษจำนวนมากทำให้ฤทธิ์ยาพวกนี้ไม่มีผลกับร่างกายของเขา

  ได้ยินคำพูดของโทนี่ธอร์ เเละ คนอื่น ๆ ได้เริ่มเร่งมือกันทำงานอย่างเต็มที่ พวกเขาจะต้องรีบกำจัดพลังงานมืดที่เเฝงอยู่ใต้ไขกระดูกเเละอวัยวะภายในส่วนอื่น ๆ ออกให้หมด

  ธอร์ได้เร่งพลังเทพเจ้าสายฟ้าของตนเองเเละพยายามควบคุมความรุนเเรงในการขับไล่พลังงานมืดเหล่านั้นสำหรับ โร้ค เขาก็พยายามรักษาทั้งที่โดนพลังงานมืดกัดกินร่างกาย เเต่เพราะมีพลังรักษาที่เธอดึงมาใช้งานทำให้เธอสามารถฝืนรักษาเเจ็คสันเเละสามารถเร่งมือในการรักษาเพิ่มขึ้นได้

  ทางด้านเวน่อมโทนี่ เองก็คอยพยายามควบคุมสมดุลไม่ให้ เวน่อม ทำงานนอกลู่นอกทาง เขาพยายามควบคุมเส้นทางของมันไปตามเเผนที่วางเอาไว้

  ในขณะนั้นเองดูเหมือนเเจ็คสันจะฟื้นคืนสติขึ้นมาธอร์ เเละ คนอื่น ๆ ที่กำลังให้ความสนใจกับพลังงานมืด พวกเขาได้ตื่นตัวเเปลกใจในทันที ตอนนี้นิ้วมือของเเจ็คสันได้ขยับเพียงเล็กน้อย

  จากนั้นดวงตาทั้งสองข้างของเเจ็คสันก็เริ่มสั่นเทาอย่างเเปลกๆ ไม่นานมันก็เปิดออกในที่สุด

   เเจ็คสัน!เธอได้ยินฉันไหม ตอนนี้พวกเรากำลังช่วยเธอ อย่าได้ทำการเคลื่อนไหวใด ๆ  ทันทีที่เเจ็คสันเปิดตาขึ้น โทนี่ ก็ตะโกนออกมาอย่างรวดเร็ว

  หลังจากที่โทนี่กล่าวพูดเเจ็คสันที่เปิดตาอยู่เเละรับฟังเขาก็กระพริบตาตอบรับ เป็นที่เเน่ชัดว่าเขาเข้าใจสถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้

  ฟุ่บ~~

   เร่งมือเข้า! หลังจากเห็นเเจ็คสันตอบรับโทนี่ ยังคงพยายามเปล่งเสียงดังขึ้น

  โร้คเองก็พยายามอย่างสุดความสามารถพลังงานมืดที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายของ เเจ็คสัน มันได้สร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกายของ เเจ็คสันอย่างมาก ดวงตาของเขาสั่นเทา เเม้เเต่ร่างกายเองก็เริ่มขยุบขยิบเพราะความเจ็บปวด

  เเจ็คสันสามารถสัมผัสได้ถึงความช่วยเหลือของธอร์,เวน่อม เเละ ก็โร้ค เขาพยายามอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวดจำนวนมากเหล่านี้ ความรุนเเรงของการผสานการทำงานทั้งสามอย่างได้สร้างภาระให้กับร่างกายของเขาอย่างมหาศาล เเต่เพราะว่านี่เป็นขั้นตอนสำคัญในการช่วยเหลือไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้เลย ดังนั้น เเจ็คสัน จึงได้กัดริมฝีปากเเละพยายามหยุดเสียงของตนเองเอาไว้เพื่อทนรับการรักษาต่อไป

 

เริ่มทำการช่วยเหลือ

  เเฮร์รี่จ้องมองไปที่คนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา ชายคนนี้ก็คือคนที่มาพร้อมกับไอซ์แมน เขาได้กล่าวพูดพึมพัมออกมา

   อืม,เขานั่นเเหละมิราจไนท์ เมื่อสามารถเข้ามาที่นี่ได้ก็คงจะเป็นพันธมิตรที่สามารถไว้วางใจได้ดังนั้นเเฮร์รี่จึงไม่ได้มีอะไรปิดบัง

  ตอนนี้เป้าหมายของคนเหล่านี้ก็คือการช่วยเหลือมิราจไนท์ที่อยู่ในห้องพยาบาลธรรมชาติพวกเขายังไงก็ต้องรับรู้ถึงสถานะที่ยังเป็นเด็กอยู่ของมิราจไนท์อยู่ดีดังนั้น ไม่มีความจำเป็นจะต้องปิดบังคนอื่น ๆ

   ฉันเองก็เคยได้ยินเรื่องของมิราจไนท์มาเหมือนกันเมื่อเอาความจริงเหล่านั้นมาเผชิญหน้ากับสิ่งที่ฉันเห็นตอนนี้ บอกตามตรงฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นเเค่เด็กคนนึง โลเเกน ถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

  ในช่วงโลเเกนยังอายุเท่านี้เขาได้มีประสบการณ์มากมายก็จริงเเต่ก็ไม่ใช่วีรกรรมที่สามารถทำให้คนทั่วทั้งโลกจดจำได้

   คนที่คิดจะช่วยโลกไม่ได้จำกัดเเค่พวกผู้ใหญ่หรอกนะ ได้ยินคำตอบของโลเเกน เเฮร์รี่ ได้พูดตอบกลับ

  ได้ยินคำตอบของเเฮร์รี่ โลเเกนได้จ้องมองไปที่เด็กคนนี้เล็กน้อยจากนั้นก็พูดพึมพัมบางอย่างเพื่อตอบกลับ

   ก็จริงของเธอ,โลกใบนี้ไม่ได้ต้องการเเค่พวกผู้ใหญ่มาปกป้องพวกเราทุกคนบนโลกสามารถช่วยเหลือโลกใบนี้ได้ เสียงของโลเเกนพูดออกมาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย

  กึก~

  ขณะที่พวกเเฮร์รี่เเละโลกเเกนกำลังสนทนากันเดดพูล ที่ถูกดูดพลังจนนอนหมดสติจู่ ๆ ก็ได้ฟื้นขึ้นมา ในเวลานี้เขาต้องการพูดบางอย่างออกมาเเต่ก็พบว่าปากของเขาชาเเละขยับได้ยาก

   อ่า…พวกเขากำลังจะเริ่มสินะ เดดพูลยกศีรษะจ้องมองไปที่สถานการณ์ภายในห้องพยาบาลหลังจากเขาหมดสติเขาก็ได้ถูกยกหามออกมานอกห้อง

   นอนพักฟื้นไปเถอะเดดพูล เห็นเดดพูลยกศีรษะขึ้นมา เเฮร์รี่ ได้เลิกสนทนากับ โลเเกน เเละกล่าวบอกเขา

  เดดพูล … 

  ในเวลานี้เดดพูลไม่ได้ต้องการที่จะนอนพักผ่อนเขาต้องการมองผ่านสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้อย่างตั้งใจเพราะยังไงนี่ก็เป็นการช่วยเหลือ มิราจไนท์

  …

  ภายในห้องพยาบาลเครื่องมือทางการเเพทย์จำนวนมากได้ถูกเตรียมพร้อมสำหรับการรักษา ในตอนนี้ ธอร์ กับ โร้ค ได้เตรียมพร้อมสำหรับทำตามเเผนการที่พวกเขาวางเอาไว้กันใหม่เเล้ว ที่เหลือก็เเค่รอเวลาสั่งการจาก J.A.R.V.I.S

  เป็นที่เเน่นอนว่าตอนนี้ J.A.R.V.I.S กำลังประมวลผลร่างกายของทุกคนเเละจัดองค์ประกอบในการช่วยเหลือเเจ็คสันให้ประสบความสำเร็จมากที่สุดโดยขั้นเเรก พวกเขาตัดสินใจเปลี่ยนเเผนโดยการเริ่มใช้เวน่อมเพื่อดูดซับพลังงานมืดที่อยู่ภายในร่างกายของเเจ็คสันก่อน

   เตรียมพร้อมเสร็จสิ้นเริ่มนับเวลาถอยหลัง 

   321 ขณะนั้นเองเสียงของJ.A.R.V.I.S ก็ได้ดังขึ้นพร้อมกับนับถอยหลังจนเหลือ หนึ่ง จากนั้นพวกเขาก็เริ่มลงมือกันในทันที

  หึ่ม!

  ตอนนี้อุปกรณ์พ่วงโลหะจำนวนมากได้ต่อเชื่อมส่วนต่างๆ ของร่างกายเเจ็คสันเอาไว้ ดูเหมือนมันจะเป็นเครื่องปรับสมดุลชีพจรในร่างกาย จากนั้น ท่อยาวที่เชื่อมอีกเเห่งก็ได้ปล่อยตัวประหลาดสีดำออกมา นี่ก็คือเวน่อม เเม้ว่าพลังงานมืดจะน่าสนในสำหรับมันเเต่เป็นอย่างที่คิดเมื่อมันได้กลิ่นพลังงานของหัวใจเเห่งชีวิตมันกลับมีปฏิกิริยามากกว่า

  หึ่ม

  เวน่อมได้เเตกตัวออกมาอย่างระมัดระวังพร้อมกับเริ่มที่จะลอดผ่านเข้าไปทางหน้าอกของเเจ็คสันเเละเริ่มดูดซับพลังงานมืดเหล่านั้น

   ตอนนี้เเหละธอร์! เห็นว่าเวน่อมกำลังช่วยดูดซับพลังงานมืดโทนี่ ได้ตะโกนขึ้นในทันที

  ฟุ่บ!

  ทันใดนั้นเองมือขวาของธอร์ที่เตรียมพร้อมก็ระเบิดพลังไฟฟ้าจางๆ ออกมาจากนั้นก็กดไปที่หน้าอกที่เป็นเเผลของเเจ็คสันเขากำลังสนับสนุนเวน่อมในการดูดซับพลังงานมืดนั่นออกมา

  ตอนนี้พลังสีดำเข้มได้ถูกดูดออกมาจากร่างกายของเเจ็คสัน อย่างรวดเร็ว เเละ พลังบางส่วนก็ถูกทำลายไปโดยพลังของธอร์ เมื่อความเข้มข้นของพลังงานลดลงเป็นธรรมชาติที่ความเเข็งเเกร่งของธอร์ตอนนี้จะสามารถใช้ได้ผล

  หลังจากที่เวน่อม เเละ ธอร์ บรรลุเเผนในการดูดซับพลังงานมืดภายในร่างกายของเเจ็คสันเสร็จพวกเขาก็ล่าถอยออกมา

   ตาคุณเเล้วมิส เเอนนา หลังจากตรวจสอบสถานะทางกายภาพของ เเจ็คสัน เสร็จ J.A.R.V.I.S ได้ส่งเสียงเเจ้งเตือน

  เเอนนาที่เตรียมพร้อมอยู่ก่อนเเล้ว หลังจากได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S มือทั้งสองข้างของเธอก็ได้เริ่มทำสัญลักษณ์เพื่อปลดปล่อยพลังลงบนหน้าอกของ เเจ็คสัน

  พริบตาต่อมาพลังกลายพันธุ์ของโร้ค ที่ดูดซับความสามารถกลายพันธุ์ของเดดพูลมาก็เริ่มต้นทำงานอย่างรวดเร็ว โร้ค สามารถมองเห็นตำเเหน่งของร่างกายเเจ็คสันที่อยู่ใต้ผิวหนังได้อย่างชัดเจน การเคลื่อนไหวของพลังสายนึงได้ลอดผ่านหลอดเลือดเเละกล้ามเนื้อก่อนที่จะเริ่มการฟื้นฟูการรักษา

  ในเวลานี้ใบหน้าที่เดิมของเเจ็คสันได้ซีดขาวได้เริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ยิ่งได้รับพลังงานจากหัวใจเเห่งชีวิตด้วยเเล้ว ความสามารถทางกายในปัจจุบันของเเจ็คสันย่อมสามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างเป็นปกติ

  ฟู่วว

  ขณะถ่ายเทพลังเพื่อรักษาเเจ็คสันร่างกายของโร้ค ก็รู้สึกเหนื่อยอย่างมาก มือขวาของเธอเริ่มสั่นอย่างเเปลก ๆ ดูเหมือนพลังงานมืดเหล่านั้นจะยังไม่ถูกดูดออกไปจนหมดมันได้ฝังรากเข้าไปใกล้หัวใจของ เเจ็คสัน เเต่เพราะตอนนี้ โร้ค ใช้พลังความสามารถของเดดพูลอยู่ พลังมืดที่กัดกร่อนมือของเธอจึงค่อย ๆ ถูกสลายออกไปอย่างช้า ๆ มือของเธอได้เริ่มการรักษาตัวเองทันที

   ดูเหมือนจะได้ผล! เห็นสถานการณ์ของเเจ็คสันเริ่มดีขึ้นทุกคนรวมถึงโทนี่ต่างปรากฏสีหน้าด้วยท่าทีตื่นเต้น

  ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถประคองสถานการณ์การรักษาแบบนี้ต่อไปได้พลังงานมืดเหล่านั้นก็จะถูกคลายออกอย่างสมบูรณ์จากนั้นเเจ็คสันก็จะไม่มีสิ่งกีดกันในการรักษาตัวเองอีก

 

ความช่วยเหลือจากโร้ค

  ตามเเผนของโทนี่,โทนี่ต้องการใช้เวน่อมเพื่อดูดซับพลังงานมืดของ เเจ็คสัน เเต่โทนี่กลัวว่า เวน่อมจะดูดซับพลังรักษาของเเจ็คสันเข้าไปด้วย ดังนั้น โทนี่จึงต้องการให้ธอร์ช่วยเหลือ หลังจาก เวน่อมดูดซับพลังงานมืดออกมา ให้ธอร์ใช้ความเเข็งเเกร่งในการป้องกันเพื่อไม่ให้เวน่อมล่วงเกินส่วนพลังเเห่งการรักษา

  เเต่ถ้ายึดตามเเผนเดิมคือใช้ความสามารถของโร้คบางที พลังมืดของ เเจ็คสันอาจจะถูกขับออกมาได้อย่างปลอดภัยกว่าการใช้เวน่อม

  เมื่อสามารถขับพลังงานมืดได้สำเร็จเเละ กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่น โทนี่ เชื่อว่า เเจ็คสันก็จะปลอดภัย

  ตอนนี้เเผนการที่ถูกคำนวณออกมาว่าได้ผลมากที่สุดมีด้วยกันสามวิธีเเต่ละวิธีนั้นก็มีความสำเร็จเเละความน่าเชื่อถือของมันเเตกต่างกันไป ไม่มีวิธีการไหนที่สามารถรับรองผลได้ทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็น

  ขณะที่โทนี่ กำลังเตรียมตัว J.A.R.V.I.S ก็ได้รับข้อความเเจ้งเตือนบางอย่าง

   เจ้านายครับ,ทีมX-MEN ได้มาขอเข้าพบครับ  J.A.R.V.I.S กล่าวรายงานสถานการณ์ที่เพิ่งจะได้รับ

   อืม,ให้พวกเขาเข้ามาเลย ได้ยินรายงานของJ.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวตอบอย่างเร่งรีบ

  หลังจากนั้น5 นาที ใต้ดินอาคารสตาร์คอินดัสตรีท์เเห่งนี้ ก็มีเเขกผู้มาเยือนด้วยกัน 4 คน ,สองคนเเรก คู่ชายหญิงนั้น โทนี่รู้จักดี พวกเขาคือ ไอซ์แมน เเละ ชาโดว์เเคท

  เเต่สำหรับอีกสองคนที่เหลือโทนี่ไม่เคยเห็นมาก่อน โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีสีผมเป็นเอกลักษณ์ ได้เห็นเธอคนนี้ คนอื่น ๆ ก็พอจะคาดเดาได้ เธอก็คือ ปีศาจสาว,เเอนนา มารี ส่วนชายวัยกลางคนที่เดินมาพร้อมกับเธอนั้น คนอื่น ๆ หาได้สนใจ เพราะที่พวกเขาต้องการก็คือความช่วยเหลือจากโร้คเพียงเท่านั้น

   ไอซ์แมน,ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ หลังจากเดินมาใกล้พวกไอซ์แมนโทนี่ ก็เปิดปากขอบคุณอย่างเร่งรีบ

   มิราจไนท์ก็คือพรรคพวกของเรา หากเขามีอันตรายเป็นธรรมชาติที่พวกเราจะร่วมช่วยเหลือ ได้ยินคำขอบคุณของโทนี่ ไอซ์แมน ตอบกลับอย่างจริงจัง

   ส่วนนี่,เธอคือเเอนนา มารี สินะ! โทนี่ จ้องมองไปที่ เเอนนา

   สวัสดี,โทนี่ สตาร์ค โร้คได้ยื่นมือออกมาพร้อมกับกล่าวทักทาย ธรรมชาติเธอได้สวมถุงมืออยู่

   ส่วนเขาคนนี้คือ… หลังจากได้รับการต้อนรับจากพวกของไอซ์แมน เสร็จ โทนี่ ก็ถาม โร้ค เกี่ยวกับ ผู้ชายที่ดูท่าทางเเข็งเเกร่งคนนั้น

   สถานการณ์ของมิราจไนท์เป็นยังไงบ้าง เพียงเเต่ไอซ์แมนไม่ได้สนใจเขาเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาในทันทีโดยไม่ได้ต้องการเเนะนำชายวัยกลางคนคนนั้น

   อืม,สถานการณ์ของเขายังไม่พ้นขีดอันตราย เห็นไอซ์แมนเปลี่ยนหัวข้อสนทนาโทนี่ ไม่ได้สนใจจะถามอะไรอีก

   เราได้เตรียมพร้อมไว้หมดเเล้วหาก มิส เเอนนา ไม่ติดขัดอะไร สามารถเริ่มได้ในทันที โทนี่ได้กล่าวตอบในเวลาเดียวกัน ก็พา ไอซ์แมนไปที่ห้องพยาบาล

   ฉันสามารถเริ่มได้ทันที 

  …

  ตึกตึก

  นอกห้องพยาบาลโทนี่ เเละ คนอื่น ๆ กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมการรักษา พวกเขาจ้องมองไปที่ร่างของ เเจ็คสันที่นอนอยู่บนเตียงพยาบาล เดิม J.A.R.V.I.S ได้ถูกวานให้ช่วยเหลือในการตรวจสอบสถานะทางกายภาพของเขาก่อนที่จะเริ่มการรักษา

  ในเวลานี้พลังงานมืดภายในร่างกายของเเจ็คสันกำลังกัดกินพลังชีวิตของเขาอยู่เเม้จะมีพลังงานบริสุทธิ์บางอย่างคอยช่วยเหลือต้านทานเเต่ร่างกายนั้นก็ไม่สามารถต้านทานได้ ดังนั้นหลังจากผ่านมาชั่วระยะเวลานึงชีพจรสัญญาณชีวิตของเเจ็คสันก็เริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว

  จนกว่าพลังงานมืดจะถูกถอดถอนออกไปไม่งั้นชีวิตของเเจ็คสันคงตกอยู่ในอันตรายเป็นเเน่ อันที่ตรายถึงขนาดที่ว่า มีชีวิตเป็นเดิมพัน

  เเม้ตอนนี้พวกเขาจะมีหนทางรักษาเเต่ร่างกายของเเจ็คสันกลับอ่อนเเอมากหากผิดพลาดครั้งเดียวเกรงว่าจะไม่สามารถกลับไปเเก้ไขได้

  ดังนั้นพวกเขาจะต้องเเน่ใจเเละเตรียมความพร้อมให้มากที่สุดก่อนลงมือชีวิตของเเจ็คสันตอนนี้ตกอยู่ในมือของพวกเขา

  ในขณะเดียวกันตอนนี้หัวใจของเเจ็คสันเริ่มส่งเสียงเต้นไม่เป็นจังหวะออกมา

  เเม้พลังงานสีเขียวจะคอยบำบัดรักษาเเต่สมดุลเหล่านี้กำลังเริ่มจะพังทลายลงหากพวกเขาไม่เร่งรีบลงมือเกรงว่าอีกไม่นานพลังชีวิตของเเจ็คสันคงจะถูกดูดกลืนโดยพลังงานมืดจนหมดเเน่นอนว่าหากพวกโทนี่รู้ว่าสิ่งที่เเจ็คสันถืออยู่ คือหัวใจเเห่งชีวิตที่มีฤทธิ์ช่วยในการรักษาอันน่ามหัศจรรย์พวกโทนี่ก็คงจะไม่ลำบากขนาดนี้

  เเต่ทว่าเเจ็คสันกลับไม่เคยเล่ารายละเอียดของของสิ่งนี้ให้กับโทนี่ ฟังเลย เพราะแบบนี้โทนี่เลยไม่รู้คุณค่าที่เเท้จริงของหัวใจเเห่งชีวิต

  ท้ายที่สุดชะตากรรมของเเจ็คสันก็ยากจะคาดเดาทุกสิ่งทุกอย่างก็คงได้เเต่ปล่อยให้ตัวเอกของโลกมาร์เวลเหล่านี้ช่วยเหลือเขา

  …

  หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงผ่านไปตอนนี้ โร้ค เเละ สมาชิกทีมX-MEN เเละคนอื่น ๆ ที่อยู่ที่นี่ก็ได้เตรียมการพร้อมเสร็จเรียบร้อยคนอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องได้รออยู่ข้างนอกห้องพยาบาล ภายในห้องพยาบาลตอนนี้ มีเพียง โร้ค เเละ เดดพูล เพียงเท่านั้น

  จริงๆ เเล้ว หลังจากถูกดูดซับพลังเดดพูลก็รู้สึกอ่อนเเรงอย่างมาก ความสามารถของเขาได้ถูกดึงโดยโร้ค เป็นระยะเวลาหลายปีมาเเล้ว โร้คสามารถควบคุมพลังกลายพันธุ์ของตนเองได้อย่างสมบูรณ์ เเต่ถึงอย่างนั้นหากเป็นพวกมิวแทนท์ที่มีภาวะเข้ากันได้ต่ำ เธอก็ไม่สามารถดึงพลังของคน ๆ นั้นมาใช้ได้

   เจ้าหนูนี่คือมิราจไนท์อย่างงั้นเหรอ ขณะที่พวกเเฮร์รี่กำลังวิตกกังวลจู่ๆ ด้านข้างของเขาก็ปรากฏเสียงนุ่มลึกดังขึ้น

 

เตรียมความพร้อม

  หลังจากนั้นสิบนาทีทอม กับ เดฟ ก็ได้เเยกกัน ในช่วง 10 นาทีนี้ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาพูดอะไรนอกพวกเขาทั้งสองคน เเต่การเเสดงออกของ เดฟ เปลี่ยนไปมาก ราวกับได้รับเเจ็คพ็อตบางอย่าง เเละ เขาเริ่มมีความมั่นใจที่จะเดินตามรอยของมิราจไนท์อีกครั้ง

  หลังจากเเยกจากกันทอมก็พุ่งไปยังสวนสาธารณะเเห่งนึงอย่างเร่งรีบ เเม้ว่าเขาจะเสียเวลาบนท้องถนนบ้าง เเต่เขาก็ไม่ลืมเป้าหมายในการออกมาเดินเล่นในครั้งนี้

   เดฟเลเซอร์ สกาย เป็นเด็กที่บริสุทธิ์จริงๆ ยังไงก็เถอะ ตอนเเรกฉันเองก็เหมือนกับเขาจะไปว่าเขาก็ไม่ได้ ทอมได้ตัดสินใจวิ่งไปยังทิศทางบ้านของปีเตอร์

  ที่จริงเเล้วทอม เเค่ต้องการสนับสนุนเเนวความคิดของ เดฟ เพียงเท่านั้น หาก เดฟ รู้ว่าเเท้จริงเเล้ว มิราจไนท์ เป็นเพียงเเค่เด็กนักเรียนมัธยมปลายคนนึง เดฟ จะรู้สึกเเปลกใจขนาดไหน

   อย่างไรก็ตามฉันคิดผิดหรือไม่ที่สนับสนุนทางความคิดเขาแบบนั้นเส้นทางของฮีโร่มักจะมีอันตรายตามมาเสมอ ทอมได้เดินไปครุ่นคิดไป

  ก่อนหน้านี้ทอมได้บอกกับเดฟว่าจะช่วยเหลือเดฟ ให้กลายเป็นคนที่เเข็งเเกร่ง นอกจากนี้ เขายังสามารถจัดตั้งทีมเพื่อรับมือกับพวกผู้ร้ายเหมือนกับมิราจไนท์ ท้ายที่สุดเเม้จะกำจัดพวกผู้ร้ายเหล่านี้ลงไปได้มากเท่าไหร่ เเต่ภัยสังคมก็คงไม่หายไปอยู่ดี

  ความเเข็งเเกร่งของทอมตอนนี้พวกอันธพาลทั่วไปไม่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้ต้องรู้ว่าทอมเคยเป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์ เขาได้รับการฝึกฝนที่ดี เเละมีร่างกายที่เเข็งเเกร่งเหมือนกัปตันโรเจอร์ส ตั้งเเต่เเจ็คสันลากเขาออกมาจากจุดยืนที่เลวร้ายเหล่านี้ได้ ทอมก็อยากจะเข้าทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเต่ดูเหมือนมันจะเป็นไปได้ยาก

  เพราะแบบนี้ทอมเลยต้องการปั้นคนธรรมดาให้กลายเป็นฮีโร่ ไม่จำเป็นจะต้องขนาดเก่งกาจ เพียงเเค่รับมือกับพวกศัตรูหลายคนได้ ก็เหนือความคิดหมายของเขาเเล้ว

   อันตรายมีอยู่ทุกหนเเห่งเเจ็คสันหลังจากกลายเป็นมิราจไนท์ เขาก็ได้เผชิญหน้ากับอันตรายมากมายไม่รู้กี่ครั้ง ตั้งเเต่ที่ทอมรู้ความจริงว่า เเจ็คสันคือ มิราจไนท์ เค้าก็เฝ้าอยากจะเดินตามเส้นทางเหมือนกับที่เเจ็คสันเลือกเดิน

   สำหรับเด็กคนนั้นเขาจะต้องมีฉายาฮีโร่เป็นของตนเอง เอาเป็น คิก-เเอส เป็นยังไง… 

  หลังจากครุ่นคิดเรื่องของเดฟทอมก็เดินมาถึงหน้าบ้านของปีเตอร์ ก่อนที่จะเข้าไปหน้าบ้านของปีเตอร์ ทอมได้โยนปืนพกทิ้งระหว่างทางเพราะมันไม่จำเป็น

  เเต่ทว่าหลังจากทอมไปเคาะบ้านของปีเตอร์ป้าของปีเตอร์ ก็บอกว่า ปีเตอร์ไม่ได้กลับบ้านหลายวันเเล้ว ป้าเมย์ได้เล่าว่าปีเตอร์ได้ไปอยู่ช่วยงานที่อุตสาหกรรมสตาร์คอยู่บ่อยครั้ง

   เเจ็คสันตอนนี้นายจะเป็นยังไงบ้างนะ… ทอมยืนครุ่นคิดอยู่ที่หน้าบ้านของปีเตอร์เเละพึมพัมเสียงเบาๆ

  …

  ขณะที่ทอมกำลังตามหาข่าวของเเจ็คสัน,ทางด้านเเจ็คสันตอนนี้เขากำลังนอนอยู่ในห้องพยาบาลชั้นใต้ดินของอาคารสตาร์คอินดัสตรีท์ในเวลานี้ โทนี่ กำลังฟังข่าวจากทางทีม X-MEN อยู่

  ในระหว่างที่รอเเอนนา มารี ตอบรับคำขอช่วยเหลือ เเจ็คสัน โทนี่ ก็ไม่นิ่งเฉย หาวิธีการสำรองอื่น ๆ อีก J.A.R.V.I.S, ทางด้านเวน่อมเตรียมการเป็นอย่างไรบ้าง 

   เตรียมพร้อมเสร็จสิ้นสามารถเริ่มได้ทุกเมื่อ ได้ยินคำถามของโทนี่ J.A.R.V.I.S, ตอบกลับ

   เข้าใจเเล้วตรวจสอบระมัดระวังเวน่อมให้ดี โทนี่ กล่าวตอบ

   ครับเจ้านาย! 

   ทางด้านธอร์ เป็นยังไงบ้าง หลังจากตัดสินว่า เวน่อมทำงานอย่างไม่มีปัญหา โทนี่ ก็กล่าวถาม J.A.R.V.I.S, เกี่ยวกับสภาพของธอร์

   การฟื้นฟูสภาพของเขากลับมาได้หลายส่วนเเล้วนอกจากนี้ ความเเข็งเเกร่งของเขายังสามารถช่วยระงับพลังมืดภายในร่างของคุณเเจ็คสันได้ ได้ยินคำถามของ โทนี่ J.A.R.V.I.S, ตอบกลับอีกครั้ง

   การเตรียมพร้อมครบหมดเเล้วหากยึดตามหลักเเผนเดิม ปัจจัยสำคัญก็คือพลังของ โร้ค เเละ ร่างของ เดดพูล หากขาดเพื่อนสองคนนี้ไปเเผนเเรกก็คงจะใช้ไม่ได้ผล โทนี่ กล่าวพึมพัมออกมา

  เจอร์รี่ต้องการใช้เเผนเเรกเพื่อให้ โร้ค ทำการก็อบปี้พลังรักษาของเดดพูล เพื่อช่วยเหลือ เเจ็คสัน เเต่มันก็ไม่เเน่นอนเพราะว่าโอกาสเหล่านี้ไม่สามารถบ่งบอกถึงความสำเร็จได้ หากเธอไม่สามารถทนได้ทุกอย่างที่ทำมาก็จะสูญเปล่า

  นอกเหนือจากพลังของโร้คก็ต้องมีร่างพาชนะของ เดดพูล ให้โร้คดูดซับความเเข็งเเกร่งของเดดพูล จากนั้นก็ยัดพลังมืดไปในร่างของ เดดพูล ด้วยพลังความยืดหยุ่นเหล่านั้นจะทำให้ เดดพูล สามารถขับพลังมืดเหล่านี้ได้โดยอัตโนมัติ

  ธรรมชาติในปัจจุบันพวกเขาได้เตรียมพร้อมด้วยกันถึง3 เเผนการ ภายใต้การคำนวณอย่างเเม่นยำของโทนี่ เขาจะต้องเลือกปฏิบัติตามเเผนที่เหมาะสมที่สุด เพื่อที่จะเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของเเจ็คสัน

 

ฉันไม่ใช่เเฟนคลับมิราจไนท์

  ก่อนหน้านี้ในช่วงที่ถูกทดลองให้กลายเป็นนักฆ่าอย่างทหารวินเทอร์โซลเยอร์ทอมได้สัมผัสกับความเจ็บปวดครั้งใหญ่สุดในชีวิต หลังจากทดลองประสบความสำเร็จ ทอมก็หมดสติไปจากการควบคุมของไฮดร้า

  เเต่ก็นับเป็นโชคดีอย่างนึงทอมได้รับการฝึกฝนด้านทักษะความสามารถไม่ว่าจะเป็นการใช้อาวุธประเภทต่าง ๆ ประสาทการรับรู้ที่ฉับไวขึ้น ทักษะเหล่านี้ ได้ติดตัวเขามา

  ดังนั้นหลังจากฟื้นคืนสติขึ้นมาร่างกายที่ถูกปรับเเต่งรวมถึงความสามารถเหล่านั้นก็ยังคงไม่จางหายไปทุกคืนวัน เขายังคงนึกถึงช่วงเวลาการฝึกฝนที่เลวร้ายเหล่านั้น

  เหตุผลที่เขาไม่ยอมออกจากบ้านเเละเลือกที่จะเก็บตัวเพราะทอมต้องการปรับวิธีการคิดเเละหัวใจของเขาให้เป็นปกติเเม้การจะกลับมาใช้ชีวิตอย่างเดิมจะเป็นไปได้ยากเเต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถทำได้เลย

  ปั้ง

  อั๊ก

  ในเวลานี้ทอมได้ยินเสียงทุกตีร่างกายที่ดังไม่ไกลจากตำเเหน่งของเขาเขากำกำปั้นเเน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัว หลังจากยืนรออยู่นอกตรอกซอยเป็นเวลานั้น เขาก็ตั้งใจจะเดินผ่านไป เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา

  ปั้ง!

   ฮ่าฮ่า,เเกต้องการเล่นเป็นมิราจไนท์งั้นเหรอ เเกคิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่หรือยังไง? ไม่ดูสารรูปตัวเองเลย 

  ปั้ง

  ขณะที่ทอมกำลังเดินจากไปก็มีคำพูดนึงดังขึ้นในตรอกซอยเล็ก ๆ นั่นเป็นเสียงที่เบามากเเต่เพราะประสาทสัมผัสของทอมนั้นเฉียบคมทำให้เขาสามารถได้ยินอย่างชัดเจน หลังจากคำพูดดูถูกเหล่านั้นหลุดออกมา ทำให้ทอมหยุดฝีเท้าเเละเดินหันกลับไปอย่างช้า ๆ

  ปั๊กปั้ง !

   เอาเสื้อผ้าของเขามาใส่คิดว่าเเกจะดูเท่เหมือนเขาหรือยังไงกลับไปดูดนมเเม่ที่บ้านไป ฮ่าฮ่า เสียงหัวเราะถากถางยังคงดังขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน

   คิดทำตัวเป็นมิราจไนท์ไอ้เวรนั่นมันมีดียังไงกัน มันก็เเค่คนที่ชอบรังเเกคนที่อ่อนเเอกว่า มันไม่ได้มีค่าไปกว่าพวกข้าหรอกเว้ย เสียงถากถางนั่นยังคงกล่าวกระทบต่อมิราจไนท์อีกครั้ง

  ดูเหมือนว่าคนที่ถูกชกต่อยเเละถูกทุบตีนั้นจะเป็นเเฟนคลับของมิราจไนท์เขาได้เจออันธพาลคนนี้เเละตั้งใจจะสั่งสอนให้เลิกเป็นอันธพาลเเต่กลับต้องมาโดนทุบตีซะเอง

   พูดสิว่าไอ้มิราจไนท์นั่นเป็นขยะ เสียงอาละวาดยังคงดังขึ้น

  เพื่อนนักเลงคนนี้ได้ใช้ท่อนเหล็กทุบตีเเละเตะไปที่ร่างของชายคนนึงที่นอนดิ้นทุรนทุรายอยู่ที่พื้นใบหน้าของคนคนนี้ดูย่ำเเย่อย่างมาก

   ฉันบอกให้พูดไงไม่ได้ยินหรือไง 

  ปั้ง

  เป็นเวลาเดียวกันที่เเท่งเหล็กได้ฟาดลงไปที่ร่างของชายคนนึงที่นอนอยู่บนพื้นอย่างโหดร้ายเขาได้ถูกทุบตีอย่างโหดเหี้ยมภายใต้ความชั่วร้ายของชายอันธพาลคนนี้

  อย่างไรก็ตามขณะที่ชายอันธพาลกำลังจะง้างเเท่งเหล็กทุกตีไปที่อีกฝ่ายต่อเขาก็ถูกหยุดโดยใครบางคนที่เดินมาจากทางด้านหลัง

  ฟุ่บ

  ชายอันธพาลคนนั้นได้หันหลังกลับมาเเละพบร่างของคนคนนึงซึ่งก็คือทอมเขาได้หยุดการโจมตีที่โหดร้ายของอันธพาลคนนี้

   เเกเป็นใครกัน จ้องมองไปที่อีกฝ่ายชายอันธพาลต้องการใช้เเท่งเหล็กในมือทุบตีสั่งสอนคนที่เเส่เข้ามายุ่ง

  เเต่ทว่าเมื่อเขาเตรียมจะหวดไปที่อีกฝ่ายอีกฝ่ายกลับหลบได้อย่างง่ายดายโดยเขาเเทบไม่ทันได้เห็นการเคลื่อนไหวเเม้เเต่น้อย

  ฟุ่บ!

  จากนั้นหมัดตรงเเรงได้พุ่งไปที่ใบหน้าของชายอันธพาลคนนั้นจนฟันหน้าของเขาได้เเตกหักไปหลายซี่เขาถูกส่งลอยกระเด็นไปชนกำเเพงตรอกซอยจนไร้ซุ่มเสียงในที่สุด

  หลังจากเเก้ปัญหาของชายอันธพาลได้เเล้วทอม ก็ก้มลงไปดูอาการของชายคนนึงที่นอนอยู่บนพื้น

   นายไม่เป็นไรใช่มั้ย เห็นอีกฝ่ายสวมใส่ชุดรัดรูปสีดำพร้อมกับหน้ากากที่คล้ายกับมิราจไนท์ทำให้ทอม เเสดงออกได้อย่างเเปลกใจมาก

  เห็นชายอันธพาลก่อนหน้านี้ที่ทุบตีตนเองถูกซัดลอยไปเเละบุคคลผู้ช่วยชีวิตได้ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเเละกล่าวถามตนเองเขาจ้องมองไปที่ ทอมด้วยความขอบคุณ

   เอ่อ…ฉันไม่เป็นอะไร เพื่อนคนนี้กล่าวขอบคุณเล็กน้อย

  จากนั้นเขาก็ดันตัวลุกขึ้นเเละจ้องมองไปที่ชายอันธพาลอีกครั้งเขาไม่คิดเลยว่า เด็กคนนี้จะช่วยเหลือตนเองเอาไว้ ถูกต้องเเล้ว เด็ก เพราะรูปลักษณ์ ที่ทอมเเสดงออกมาไม่ต่างกับเด็กคนนึง เเต่ดูเหมือนจะไม่ใช่เด็กธรรมดาทั่วไป

   ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้ไม่งั้นฉันคงถูกพวกมันทุบตีจนสาหัสกว่านี้ เพื่อนคนนี้ได้ไอออกมาหลายครั้งเเละพยายามปัดเช็ดฝุ่นบนร่างกาย

   ไม่จำเป็นต้องขอบคุณว่าเเต่นายเป็นเเฟนคลับของมิราจไนท์งั้นเหรอ เห็นรูปลักษณ์ของเพื่อนคนนี้ ทอมกล่าวถามโดยตรง

   ใช่,ฉันเป็นเเฟนคลับของมิราจไนท์ ได้ยินคำถามของทอม สายที่สวมใส่ชุดรัดรูปเเละพยายามเเต่งตัวเหมือนมิราจไนท์ได้กล่าวตอบอย่างตื่นเต้น

   หรือว่านายเองก็… เพื่อนคนนี้ได้ถามกลับ

  ได้ยินคำถามของเพื่อนคนนี้ทอมกระพริบตาเพียงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะตอบกลับอย่างรวดเร็ว

   ป่าว,ฉันไม่ใช่เเฟนคลับของมิราจไนท์ 

 

ทอมออกไปเดินเล่น

  โลก,นิวยอร์กที่บ้านของเเจ็คสัน

  เเจ็คสันได้หายตัวไปหลายวันเเละไม่ได้กลับบ้านธรรมชาติเขาก็ไม่ได้ไปโรงเรียน คนที่บ้านเขาต่างก็คิดว่า เเจ็คสันน่าจะไปสุงสิงอยู่กับ โทนี่ สตาร์ค ,โทนี่ สตาร์ค มีชื่อเสียงระดับโลก หาก เเจ็คสันได้เป็นเด็กฝึกงานของโทนี่จริงทางบ้านของเขาก็รู้สึกยินดีอย่างเเน่นอน เเต่ทว่า เเจ็คสันกลับหายไปโดยไม่บอกกล่าวทำให้ทางบ้านเกิดความกังวลเกี่ยวกับตัวของเขา

  ปั้งปั้ง~

  หน้าประตูบ้านของเเจ็คสัน ทอมที่เก็บตัวเป็นเวลาร่วมสัปดาห์ที่ไม่ได้ออกจากบ้าน จู่ ๆ เขาก็มาเคาะประตูที่หน้าบ้านของเเจ็คสัน เป็นเวลากว่าสัปดาห์เเล้วเเม้เขาจะหมกตัวเขาก็ยังติดตามข่าวของ มิราจไนท์ ในเว็บไซต์ เเต่ดูเหมือนว่าในช่วงนี้เว็บไซต์ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ กลับไม่มีการอัพเดตอะไรเลย ดังนั้นทอมจึงเป็นกังวลเกี่ยวกับตัวของเเจ็คสันมาก

  ทอมรู้มาว่าเเจ็คสันค่อนข้างสนิทกับโทนี่ สตาร์ค ,เพื่อนโทนี่ สตาร์คคนนี้ คือตัวตนที่ดังระดับโลก หากใครได้เป็นเด็กฝึกงานเเละทำงานร่วมกับเขาย่อมต้องเป็นเรื่องดีกับชีวิต เเน่นอนว่าในอดีต ทอมก็รู้สึกอิจฉามาก

  ปั้ง~

  หลังจากทอมเคาะประตูอยู่หลายครั้งประตูหน้าบ้านของเเจ็คสันก็ได้ถูกเปิดออกพ่อของ เเจ็คสัน,หลิน ไฮ่ ได้เดินออกมา เขาจ้องมองไปที่ใบหน้าของทอม ซึ่้งเกิดความเเปลกใจอยู่เล็กน้อย ก่อนหน้านี้ทอมได้หายตัวไปเป็นเวลานาน หลังจากกลับมา เขาก็ได้ยินมาว่า ทอมได้เก็บตัวหมกอยู่ในห้องเเละไม่สุงสิงกับใครคาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบทางจิตใจที่รุนเเรง

   ทอม เธอมาที่นี่มีธุระอะไรอย่างงั้นหรอ? ได้เห็นทอมอีกครั้ง หลิน ไฮ่ กล่าวถามทอมอย่างเร่งรีบ

  หลังจากทอมกลับมาได้ไม่นานลุงสมิธ พ่อของทอม ก็มาปรึกษา หลิน ไฮ่ อยู่บ่อยครั้ง ว่าก็ให้ เเจ็คสันขึ้นไปดูอาการของทอมหน่อย บ้างก็ว่าให้เเจ็คสันลองชวน ทอมออกไปเล่นด้านนอกดู เเต่เพราะเเจ็คสันติดปัญหาหลายอย่างจึงไม่มีเวลาเข้าไปดูสถานการณ์ของทอมเลย

  เเต่ถึงอย่างนั้นเเจ็คสันก็รู้ดีเกี่ยวกับอาการของทอมเป็นเพราะเขาฝืนฟื้นฟูความทรงจำของทอมขึ้นมาทำให้ ทอมจำได้ถึงเหตุการณ์ทั้งหมดช่วงที่เขาเป็นนักฆ่าขององค์กรไฮดร้า เขาได้สังหารผู้บริสุทธิ์ไปจำนวนมาก ดังนั้นมันจึงเป็นไปได้ยากที่เขาจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

   ลุงหลินเเจ็คสันได้ติดต่อลุงมามั้ยช่วงนี้ ทอมกล่าวถาม หลิน ไฮ่ ในทันที

   เธอมาหาเเจ็คสันงั้นหรอดูเหมือนว่าช่วงนี้เขาจะยุ่ง ๆ ก่อนหน้านี้เขาก็ติดต่อมาหาฉันกับเเม่ของเขาทุกวัน เเต่เดี๋ยวนี้เขาไม่ค่อยโทรคงไม่มีเวลาล่ะมั้ง ได้ยินคำถามของ ทอม หลิน ไฮ่ ตอบกลับ

   งั้นหรอ เเล้วช่วงนี้เขาได้บอกอะไรลุงไว้บ้างไหม ทอมกล่าวถามอีกครั้ง

   ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทดลองที่ซับซ้อนมากๆ เขาได้คอยช่วยเหลือเเละสนับสนุนโทนี่ สตาร์ค อยู่เบื้องหลัง กว่าจะมีเวลาโทรหาพวกเราเเต่ละครั้งก็ค่อนข้างนานพอดี หลิน ไฮ่ ตอบกลับอีกครั้ง

  ถ้าทอมเต็มใจที่จะเลิกเก็บตัวเเละหันมาคบเพื่อนฝูงเหมือนเดิมอีกครั้ง หลิน ไฮ่ เองก็ตั้งใจที่จะตอบคำถามของ ทอม

   อืม,ขอบคุณมากคุณลุงหลิน ไฮ่ ถ้าเกิดเเจ็คสันกลับมา ได้โปรดบอกเขาด้วยว่าผมคิดถึงเขา ทอมตอบกลับจากนั้นก็เตรียมจะจากไป

   เข้าใจเเล้วทอม ถ้าเธอมีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็สามารถมาปรึกษาลุงได้ ลุงชอบเห็นเธอกับเเจ็คสันออกไปเที่ยวสนุกด้วยกัน ดังนั้นไม่สบายใจอะไรก็ระบายออกมาได้นะ หลิน ไฮ่ พูดอย่างจริงจัง

   ครับ,ผมขอตัวก่อน ทอมเดินจากไปในทันที

  จากนั้นเมื่อเดินออกจากหน้าบ้านของเเจ็คสันทอมก็กลับไปที่ห้อง

  คุณนายสมิธเเม่ของทอม เห็นทอมไปที่บ้านของเเจ็คสัน เธอเองก็รีบไปที่หน้าบ้านของเเจ็คสันเเละได้พูดคุยกับ หลิน ไฮ่ เกี่ยวกับ ที่ทอมมาหา หลังจากได้ยินคำตอบของ หลิน ไฮ่ ทำให้ คุณนายสมิธ ดีใจอย่างมาก เธอรู้ว่ามันเป็นไปได้ยากที่จะเปลี่ยนเเปลงลูกของเธอในตอนนี้ เเต่ถ้าเขากลับมาสดใสร่าเริงอีกครั้ง เธอก็รู้สึกยินดีมากจริง ๆ

   เเจ็คสัน,นายกำลังทำอะไรอยู่กันเเน่นะ ทอมได้วางนิ้วบนเมาส์อย่างช้าๆ เขาเคลื่อนอ่านเนื้อหาบางอย่างในเว็บไซต์ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

  …

   พ่อเเม่ผมขอตัวออกไปเดินเล่นหน่อยนะ 

   เอางี้เป็นไงพ่อกับเเม่กำลังจะไปเดินตลาด ลูกไปด้วยกันเลยไหม พวกเราคิดว่าจะไปเดินซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ให้ลูกใส่อยู่พอดี 

   ไม่เป็นไรครับ,ผมว่าจะออกไปเดินเล่นเเถวนี้สักหน่อย 

   เอ่อ…ลูกจะไม่หายไปไหนอีกเเล้วใช่มั้ย 

   ใช่…ลูกรู้ไหมพ่อกับเเม่เป็นห่วงลูกมากเเค่ไหน 

   … 

  หลังจากรับประทานอาหารเย็นร่วมกับพ่อเเละเเม่ทอม ก็ขอตัวออกไปเดินเล่น เรื่องนี้ทำให้ ลุงสมิธ เเละ คุณนายสมิธ เป็นกังวลเกี่ยวกับลูกของเธอเป็นเวลาเกือบสัปดาห์ที่ลูกของเธอเก็บตัว เเต่ตอนนี้ ลูกของเธอกลับขอออกไปเดินเล่นข้างนอก หากเป็นสถานการณ์ปกติ เธอคงยินดีอย่างมาก เเต่ในขณะเดียวกันเธอก็กังวลเหมือนกันกลัวว่าทอมจะหายตัวไปอีก

  ดังนั้นหลังจากทอมออกไปไม่นานลุงสมิธ ก็โทรหา จิตเเพทย์ส่วนตัวของทอม เขาต้องการปรึกษาเกี่ยวกับอาการของทอมปัจจุบัน

  เเม้ว่าจะไม่รู้ว่าทอมออกไปเพราะเหตุผลอะไรเเต่เขาก็ไม่สามารถห้ามลูกของตนเองได้ เขาเชื่อว่าหากปล่อยให้ทอมออกไปเดินเล่นนอกบ้านบ้างก็คงจะดีอยู่เหมือนกัน

  ขณะที่ทอมกำลังเดินเล่นอยู่นอกบ้านเขาก็ได้ยินเสียงดังบางอย่างที่ดังมาจากทางตรอกซอยที่อยู่ไม่ไกล

  ปั้ง

  ฟุ่บ!

  ดูเหมือนว่าจะมีบางคนทะเลาะกันเเถวนี้เเละเสียงที่ได้ยินนั้นคงเป็นเสียงจากของเเข็งอะไรสักอย่างที่ใช้ต่อสู้กัน

 

ความคิดของโร้ค

  ขณะที่โทนี่ เเละ คนอื่น ๆ กำลังคิดหาวิธีการสำรองเตรียมพร้อมเพื่อรับประกันความปลอดภัยของเเจ็คสัน เมืองเล็ก ๆ ในนิวยอร์ก เม็กซิกัน โร้ค เเอนนา,เเละ วูลฟ์ โลเเกน กำลังเตรียมอาหารเย็นในกระท่อมไม้ขนาดเล็ก

   เเอนนาเธอไม่เตรียมจะบอกกล่าวอะไรหน่อยหรอ โรเบิร์ต โทรมามากกว่า 3 สายเเล้ว ดูเหมือนเขากำลังจะรอคำตอบจากเธออยู่ บนโต๊ะ โลเเกน ที่กำลังรอเเอนนาทำ สเต็กเนื้อได้กล่าวถาม ออกมา

  เกี่ยวกับคำขอช่วยเหลือที่ทีมX-MENส่งมา โร้ค ในปัจจุบันยังไม่ได้ตอบปฏิเสธไป ดูเหมือนเธอกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งโทรศัพท์ของ โลเเกน นั้นได้ดังมากกว่า 3 ครั้งเเล้ว เพราะไอซ์แมนรู้ว่าสถานการณ์ของเเจ็คสันไม่รอช้า เขาจะต้องรีบได้รับคำตอบโดยเร็วที่สุด

  เเน่นอนว่าหากโร้ค ปฏิเสธ โลเเกน ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะดื้อดึงเธอ เขาเพียงทำได้เเค่สนับสนุนคำตอบของเธอเพียงเท่านั้น

   โลเเกนนายต้องการกลับไปงั้นหรอ หลังจากที่โลเเกนเปิดปากกล่าวถามโร้ค ก็ได้หยิบถาดอาหารออกมาจากห้องครัวเเละวางเสิร์ฟตรงหน้า

   ฉัน ฉันได้ออกมาใช้ชีวิตห่างไกลจากจุดนั้นมานานมากเเล้ว… ได้ยินคำถามของ เเอนนา โลเเกน ได้จ้องมองไปที่เธอเเละกล่าวตอบ

  อย่างไรก็ตามได้ยินคำตอบของโลเเกน โร้ค ยังคงนิงเงียบไม่ได้พูดอะไรออกมา

  พวกเขาทั้งคู่ได้ออกมาใช้ชีวิตเเละห่างจากจุดยืนในอดีตนานมากเเล้วถึงพวกเขาจะเลือกซ่อนตัวอยู่ที่นีเเต่มันก็ไม่มีทางเปลี่ยนไปที่ว่าเขาเคยใช้ชีวิตในอดีตแบบนั้นมานานหลายปี พวกเขาไม่สามารถลืมเลือนต้นกำเนิดของตนเองไปได้ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ต่อสู้ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต ทำให้ โร้ค รู้สึกมีบางอย่างกระตุ้นในจิตใจของเธอ

  เห็นความเงียบสงบในการเเสดงออกของโร้ค โลเเกน รู้ว่าเธอพยายามครุ่นคิดถึงคำตอบที่กำลังจะพูดออกไป โลเเกน รู้ดี กว่าพวกเขาจะหลบหนีปัญหาจำนวนมากเหล่านั้นมาได้มันใช้เวลานานมากถ้าหากพวกเขากลับไปหากคิดจะถอนตัวอีกก็คงจะต้องใช้เวลามากพอสมควร

   จำได้ไหม ก่อนหน้าที่พวกเราจะตัดสินใจมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันพวกเราเคยคิดจะเเยกทางกันมาก่อน เห็น โร้ค เงียบไปนาน โลเเกน ได้พูดขึ้น

   อืม,ถ้าเกิดตอนนั้นพวกเราเเยกทางกันจริงพวกเราก็คงไม่มีที่เป็นอยู่เหมือนทุกวันนี้ ได้ยินคำพูดของโลเเกน มุมปากของ โร้ค ยกขึ้นเล็กน้อย

   ดังนั้นฉันจะให้เธอตัดสินใจว่าจะกลับไปไหม ต้องรู้ว่าถ้าพวกเรากลับไปก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาใช้ชีวิตแบบนี้อีกเมื่อไหร่ โลเเกน กล่าวถาม โร้ค เพื่อให้เธอตัดสินใจ

  ตึก!

   ฉันรู้ถ้าพวกเราตัดสินใจที่จะไปกว่าจะกลับมาใช้ชีวิตแบบนี้ได้ก็คงใช้เวลาพอสมควรเเต่ทว่าฉันก็ไม่อาจปล่อยผ่านชีวิตของคน ๆ นึง ให้ข้ามผ่านไปได้อย่างหน้าตาเฉย โร้คตอบกลับในที่สุด

   เหมือนตอนนั้นระหว่างเธอกับเบิร์น โลเเกนกล่าวถามอีกครั้ง

  เมื่อได้ยินคำพูดของโลเเกนที่พูดถึง เบิร์น ทำให้สีหน้าอันเรียบสงบของ โร้ค ได้เกิดความเปลี่ยนเเปลงมากขึ้นมันผ่านมาหลายปีเเล้วที่ โร้ค ไม่ได้เเสดงสีหน้าแบบนี้ออกมา อย่างไรก็ตามเมื่อคิดถึงเกี่ยวกับเรื่องของเบิร์นทำให้เธอเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดเเน่นในใจ

   หากครั้งนี้พวกเรากลับไปพวกเราอาจมีส่วนร่วมในเหตุการณ์สำคัญของพวกมิวแทนท์อีกก็ได้ 

   ฉันรู้สึกถึงลางสังหรณ์แบบนั้นในเร็ว ๆ นี้จะต้องมีการเปลี่ยนเเปลงบางอย่างเกิดขึ้นกับโลก เเละอาจเป็นโชคชะตาที่ลิขิตให้ฉันต้องกลับไป… โร้คหยิบขนมปังขึ้นมาชิ้นนึงเเละจ้องมองไปที่ โลเเกน อย่างจริงจัง ก่อนหน้านี้สถานการณ์ทั้งหมดมันเงียบสงบมานานเเล้ว เเม้สงครามเหล่าพี่น้องมิวแทนท์จะเป็นตัวปัญหาสำหรับโลกนี้เเต่เรื่องใหญ่ ๆ ร้ายเเรงกำลังจะทยอยเกิดขึ้น โร้ค รู้สึกได้แบบนี้

   ก่อนหน้านี้ไอซ์แมน ก็พยายามส่งข้อความบอกกล่าวสถานการณ์บางอย่างกับฉัน เเต่ฉันไม่ได้สนใจมันในตอนนั้น 

   เฮ้อ,ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอหากเป็นฉันในอดีต ก็คงไม่คิดอยากจะกลับไปเหมือนกัน ได้ยินคำตอบของโร้ค โลเเกน พูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้

  เกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนที่โลเเกน จะกลายเป็นพวกมิวแทนท์ เขาได้เผชิญหน้ากับเหตุการณ์ใหญ่ ๆจำนวนมากเเละผ่านสมรภูมิรบมามากมาย เขาเข้าใจเกี่ยวกับการเข่นฆ่าดีกว่าใคร ๆ เพราะแบบนี้เขายังถึงสามารถรอดชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ได้ เเล้วถ้าเกิดคราวนี้เขากลับไป มันก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ตัวเขาเองจะต้องเข้าร่วมสงครามกับพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์อีกครั้ง

   บางทีการตัดสินใจในครั้งนี้อาจจะช่วยเหลือให้นายเรียกคืนความทรงจำที่เสียหายไปกลับมาได้ไม่เเน่บางทีนายอาจจะยังหลงเหลือความทรงจำช่วงเวลาที่มีความสุข เมื่อมันมีโอกาส ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายจะไม่สนใจมันเช่นเดียวกัน ได้ยินคำพูดของโลเเกน โร้ค ตอบกลับเเละยิ้มเล็กน้อย

   ฮ่าฮ่า,ฉันไม่เห็นจำได้เลยว่าฉันเคยพูดแบบนั้นกับเธอตกลง เธอตัดสินใจที่จะกลับไปใช่มั้ย โลเเกน พยายามยิ้มออกมา

   หรือว่านายไม่ต้องการ บางทีพวกเราอาจนั่งชมทิวทัศน์เหล่านี้จนมันชินสายตาไปเเล้ว เปลี่ยนบรรยากาศบ้างไม่เห็นจะเป็นไร เผชิญหน้ากับมุขตลกของโลเเกน โร้ค พยายามกล่าวล้อเลียนด้วย

   ฮึฮึ,นั่นสินะหลายปีผ่านไปบรรยากาศภายในตัวเมืองใหญ่ก็คงจะเปลี่ยนไปมากเช่นเดียวกัน เเละสถานที่เเห่งนั้นก็ยังคงรอคอยให้พวกเรากลับไป 

   จริงสิที่พวกเขาติดต่อพวกเรามาคราวนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการให้พวกเราช่วยเหลือคน ๆ นึง ที่สังกัดอยู่ในองค์กรทีมที่ชื่อว่า ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

   งั้นหรอฉันเองก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียดมากนักหรอกเเต่อย่างไรก็ตาม หากเขาต้องการความช่วยเหลือ เธอเองก็คงไม่คิดจะปฏิเสธใช่มั้ย? 

   นายคิดว่ายังไงล่ะโลเเกน 

   ฮ่าฮ่าเวลาแบบนี้เธอยังจะมาเล่นลิ้นอยู่อีกหรอ 

  …

 

โทนี่เสนอหนทางช่วยเหลือ

  โทนี่ยืนอยู่ด้านนอกจ้องมองเข้าไปผ่านกระจกมองเห็นเเจ็คสันที่นอนอยู่บนเตียงโทนี่ไม่ได้สนใจธอร์อีกต่อไป เขาจ้องมองไปที่รูปลักษณ์ของเเจ็คสันซ้ำ ๆ

   เจ้าเด็กคนนี้เป็นอีกครั้งที่เธอทำให้ฉันรู้สึกกังวล ! เเม้ว่าเธอจะมีสิ่งของที่สามารถช่วยเหลือชีวิตของเธอได้เเต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะทำตัวแบบนี้ได้ เธอเคยคิดเป็นห่วงคนที่เขากังวลเกี่ยวกับตัวเธอมั้งไหม  จ้องมองไปที่ภายในห้องพยาบาล โทนี่ พยายามพูดถึงทุกครั้งที่เเจ็คสันได้ออกไปเผชิญหน้ากับอันตรายเเละทำให้เขาเป็นกังวล

  เขารู้ว่าเเจ็คสันคือ มิราจไนท์ เเม้สถานะฮีโร่จะค้ำคอเเต่ก็ใช่ว่าจะเอาชีวิตของตนเองเข้าไปเสี่ยงคนเดียวแบบนี้ โทนี่จ้องมองไปที่ ภายในมือของเเจ็คสันที่ถือสิ่งของลึกลับบางอย่างที่ส่งเเสงสีเขียวออกมา สิ่งนี้ได้ช่วยเหลือชีวิตของเเจ็คสันให้เขายังไม่ตกตายก่อนหน้านี้

  อย่างไรก็ตามหากไม่ทำการรักษาร่างกายในปัจจุบันของเเจ็คสันมีโอกาสที่จะตายสูงมากโทนี่ จะต้องหาทางทำอะไรสักอย่างก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

   J.A.R.V.I.Sผลการทดสอบที่ฉันให้นายทำได้เรื่องบ้างหรือยัง โทนี่ได้กล่าวถาม J.A.R.V.I.S อย่างรวดเร็ว

  โทนี่ได้คิดถึงความเป็นไปได้ในสถานการณ์อื่นๆ เพื่อที่จะช่วยเหลือ เเจ็คสัน ดังนั้นเขาจึงได้เสนอทางเลือกจำนวนมากให้ J.A.R.V.I.S วิเคราะห์ผลการทดสอบออกมา

   เจ้านายครับผลการทดสอบทั้งหมดออกมาเเล้วเเต่ผลลัพธ์ที่ได้ล้วนไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ ได้ยินคำถามของ โทนี่ J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

  ฟุ่บ

  จากนั้นJ.A.R.V.I.S ก็ฉายภาพรังสีบนผนังกระจกด้านหน้าของ โทนี่ พร้อมกับเเสดงชุดข้อมูลที่ซับซ้อนจำนวนมากให้ โทนี่ได้เห็น นี่คือข้อมูลทางเลือกที่ โทนี่ ฝาก J.A.R.V.I.S ให้ช่วยประมวลผล

   มันก็ยังคุ้มค่าที่จะลองอยู่ ได้เห็นคำตอบของJ.A.R.V.I.S วิสัยทัศน์ของโทนี่กวาดไปที่ข้อมูลบนผนังกระจก

  ที่จริงเเล้วโทนี่ เองก็มีความคิดแบบเดียวกับ เเฮร์รี่ เเละ เจอร์รี่ ที่พวกเขาคิดจะกำจัดพลังงานมืดโดยการดูดซับพลังงานมืดภายในร่างกายของเเจ็คสันออกมา เเละ สิ่งที่โทนี่จะใช้ก็คือ เวน่อม ต้องรู้ว่าเวน่อมนั้นสามารถดูดซับพลังงานต่าง ๆ ได้เกือบทุกชนิด เเม้ว่าพลังงานนั้นจะอยู่ในร่างกายของมนุษย์ก็ตาม

  การทดลองก่อนหน้านี้โทนี่ ได้ให้เวน่อมลองดูดซับพลังงานไฟฟ้าภายในประจุร่างกายตัวเอง ท้ายที่สุดมันก็สามารถทำได้เเละต้องการดูดซับพลังงานเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นคราวนี้โทนี่วางเเผนจะใช้ เวน่อม ช่วยเหลือ เเจ็คสัน เเต่เขาเองก็ต้องระวังความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นตามมาด้วย

  นอกจากนี้เวน่อมเองก็มีท่าทีค่อนข้างสนใจพลังงานมืดที่อยู่ภายในร่างกายของเเจ็คสัน หากเป็นไปตามที่เขาคาดเดาเอาไว้ เวน่อมก็สามารถดูดซับพลังงานเหล่านี้ออกมาได้เพื่อช่วยเหลือชีวิตของเเจ็คสัน

   เวน่อมสามารถดูดซับพลังงานมืดที่อยู่ภายในร่างกายของเเจ็คสันได้ก็จริงเเต่รัศมีพลังสีเขียวที่คอยช่วยเหลือเเจ็คสันอยู่ตอนนี้ ก็เป็นปัญหาเช่นเดียวกัน ถ้าพลังงานมืด เวน่อมยังมีท่าทีสนใจ พลังงานรักษานั่นเวน่อมก็มีท่าทีมากเหมือนกัน โทนี่กล่าวครุ่นคิดเงียบ ๆ นี่เป็นเหตุผลที่ J.A.R.V.I.S บอกว่าผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ

  หากใช้เวน่อมพวกเขาอาจจะไม่สามารถควบคุมสถานะของมันได้ ยิ่งตอนนี้ เเจ็คสันตกอยู่ในสภาวะวิกฤตกระทันหันด้วยเเล้วพลังงานรักษาของเเจ็คสันถือเป็นสิ่งจำเป็น หากสามารถกำจัดพลังงานมืดได้อย่างเดียวก็นับเป็นเรื่องดีเเต่ท่า เวน่อมดูดกลืนทั้งพลังงานมืดเเละพลังงานรักษาของเเจ็คสันไป ด้วยสภาพของเเจ็คสันตอนนี้จากที่คิดจะช่วยเหลือบางทีอาจเป็นการซ้ำเติมให้เเจ็คสันก้าวเข้าสู่ประตูเเห่งความตายมากขึ้นเข้าไปอีก

  เเต่โทนี่ไม่อาจนิ่งนอนใจปล่อยผ่านไปเฉยๆ ได้หากมีโอกาสที่จะลองเสี่ยงอยู่เบื้องหน้าเพื่อรักษาเเจ็คสัน เขาก็จะลองทดลองมัน เเม้จะมีความเป็นไปได้ที่จะล้มเหลวสูงเเต่เขาจะไม่ปล่อยให้เเจ็คสันตายอย่างเเน่นอน

  เพื่อการนี้โทนี่ จะต้องหาทางควบคุมเวน่อมให้ได้โดยสมบูรณ์เสียก่อนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของเเจ็คสันให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม เวน่อมคือสิ่งมีชีวิตจากต่างดาว จนถึงปัจจุบัน โทนี่ก็ยังไม่สามารถเข้าใจคุณลักษณะของมันได้ทั้งหมดยิ่งไม่ต้องพูดถึงวิธีการที่จะควบคุมมันโดยสมบูรณ์

   เจ้านายครับ,ผมไม่สนับสนุนให้คุณทดลองเสี่ยงโดยการใช้เวน่อม หลังจากเเสดงข้อมูลออกมาJ.A.R.V.I.S ก็กล่าวพูดขึ้น

   J.A.R.V.I.Sฉันเข้าใจดี เเต่ว่าสถานการณ์ตอนนี้มันบีบบังคับ ยังไงก็เถอะ ไปเตรียมพร้อมจัดการเวน่อมก่อน พวกเราจะเสนอเเผนการที่เเตกต่างกันสามรูปแบบ จากนั้นค่อยมาวิเคราะห์อีกทีว่าวิธีไหนจะช่วยเหลือการฟื้นฟูเเจ็คสันได้อย่างปลอดภัยที่สุด โทนี่ ตอบกลับ J.A.R.V.I.S

   ครับเจ้านาย ได้รับคำสั่งจากโทนี่ J.A.R.V.I.S ได้เตรียมพร้อมโดยการจัดเตรียมเวน่อมทันที

  เนื่องจากเวน่อมก่อนหน้านี้ได้สร้างความเสียหายให้กับโทนี่หลังจากนั้นมันก็ถูกเเยกไปขังไว้ในกล่องโลหะพิเศษที่ปิดกั้นประสาทสัมผัสของมันทั้งหมด มีเพียงเเค่อาหารที่เป็นพลังงานประจำวันเท่านั้นที่มันได้รับ

  ฟุ่บ~~

   เเฮร์รี่ฉันไม่มีวิธีการช่วยเหลือเเจ็คสันได้ดีกว่านี้อีกเเล้ว อย่างไรก็ตามวิธีนี้มีความเสี่ยงมากเเต่ก็คุ้มค่าที่จะลอง ดังนั้นตอนนี้เราจะรอคำตอบจากทีมX-MEN ก่อน หากปีศาจสาวคนนั้นไม่เต็มจที่จะมา พวกเราคงต้องลงมือช่วยเหลือเเจ็คสันด้วยตนเองเเล้ว หลังจากกล่าวสั่ง J.A.R.V.I.S โทนี่ ก็หันหน้าไปบอก เเฮร์รี่

   อืม,ผมเข้าใจอย่างไรก็ตามผ่านไปกว่า 10 นาทีเเล้ว เเละ ทีมX-MEN ก็ยังไม่ได้ให้คำตอบกับเรา มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะไม่สามารถหาตัว ปีศาจสาว หรือไม่ก็ ปีศาจสาวไม่เต็มใจที่จะช่วยเหลือ ได้ยินคำพูดของ โทนี่ เเฮร์รี่ พยักหน้าเห็นด้วย เขารู้สึกกังวลมากในตอนนี้ โดยเฉพาะ เเผนการที่ เจอร์รี่เสนอก่อนหน้า

   ปีศาจสาวเดิมเคยเป็นอดีตสมาชิกของทีมX-MEN เเต่เธอได้ออกจากทีมไปเเละไปใช้ชีวิตอย่างสันโดษ เเต่ฉันเชื่อว่าทางทีมX-MEN ยังสามารถติดต่อกับเธอได้ ที่เหลือก็เเค่รอฟังคำตอบจากเธอว่าเธอยินดีที่จะช่วยเหลือหรือไม่ ได้ยินความกังวลของ เเฮร์รี่ โทนี่ตอบกลับอย่างสงบ

   ดี,เช่นนั้นพวกเราก็รอกันก่อนเเล้วกัน 

 

การคาดเดาของมาเลคิธ

  อย่างไรก็ตามหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่นึงมาเลคิธ ก็ลืมคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะเป็น โอดิน เพราะถ้าหากเป็นโอดินจริง สัตว์ปีศาจ ของพวกเขา คงไม่ใช่คู่มืออย่างเเน่นอน

  เเต่หลังจากมาถึงที่นี่เขากลับยังพบสมุนสัตว์ปีศาจ เเละ ยังมีพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่ยังเหลือรอด มาเลคิธ เชื่อว่า ถ้าเป็นโอดิน เเม้ตนเองจะนำทีมที่เเข็งเเกร่งที่สุดมา ก็เป็นไปได้ยากที่จะชนะ

   ถ้าไม่ใช่โอดิน,คนที่สามารถครอบครองพลังเทพสายฟ้าก็คงจะมีเเต่ ธอร์ บุตรชายคนโตของโอดิน วิสัยทัศน์ของมาเลคิธกระพริบวาบขึ้น

  หากเป็นธอร์ เขาจะไม่เเปลกใจ เพราะตามที่เขาได้รับข้อมูลมา ธอร์ ได้บุกไปโจมตีเผ่ายักษ์น้ำเเข็ง เเต่ในเวลานั้น โอดิน โกรธเคืองมากที่ธอร์ประกาศสงครามออกไปโดยไม่จำเป็น ดังนั้นเขาจึงเนรเทศธอร์ไปยังโลกอื่น

   หรือว่าที่โอดิน ส่งธอร์ไป จะเป็นโลกมิดการ์ด หลังจากประติดประต่อได้เเล้ว มาเลคิธก็พึมพัมออกมา

  ตามการคาดเดาของเขาผู้ที่บุกมาที่นี่เเละจัดการลูกน้องของเขาคงจะเป็นธอร์ โอดิน วูด เขาคงถูกส่งไปยังโลกมิดการ์ดเเละพลัดหลงเข้ามายังสถานที่เเห่งนี้ จากนั้นก็นำเอาอีเธอร์หลบหนีออกไป

   ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้าจะต้องนำเอาอีเธอร์กลับมาให้ได้ไม่ว่าจะต้องใช้จ่ายด้วยราคาใดก็ตาม เมื่อข้าได้รับอีเธอร์กลับมา ข้าจะทำให้ ทั้ง 9 โลก เผชิญหน้ากับความมืดมิดไร้สิ้นสุด เเม้จะไม่สามารถระบุว่าอีเธอร์อยู่ที่ไหนตอนนี้ เเต่มาเลคิธ ก็ยังไม่ยอมถอดใจ

  จากนั้นเขาก็หาสถานที่พักฟื้นพลังเเละนำพาพรรคพวกหลบหนีออกจากสถานที่ลับของเเอสการ์ดหาก พวกเเอสการ์ดตามมาเจอเขาที่นี่ตอนนี้ พวกเขาจะต้องจบชีวิตลงอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้โดยสมบูรณ์

  หลังจากออกจากพื้นที่ลับของเเอสการ์ดมาเลคิธ ก็ได้รับข้อความบางอย่างจากฐานใหญ่ของพวกเขา มีประตูมิติอวกาศปรากฏขึ้นที่ดินเเดนของพวกตนเอง จากนั้นก็ยังมีศัตรูที่น่าเกรงขามปรากฏออกมาสร้างความเสียหายให้กับกองทัพดาร์คเอลฟ์จำนวนมาก

  ได้ยินข่าวนี้มาเลคิธ กำกำปั้นเเน่นด้วยความโกรธ เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะมีดินเเดนอื่นบุกมายังโลกดาร์คเอลฟ์ของพวกเขา เพื่อที่จะรับมือกับศึกทางด้านนั้นเขาจะต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด

   หรือว่าเเท้จริงเเล้วมิดการ์ด เเละ เเอสการ์ด ได้ร่วมมือกัน เพื่อจำกัดเผ่าดาร์คเอลฟ์ของข้า พวกมันค้นพบว่าข้าต้องการนำพาโลกทั้ง 9 จมดิ่งลงสู่ความมืดมิดเลยหาทางคิดจะกำจัดข้าก่อน หลังจากวิเคราะห์ต่อไปเล็กน้อย มาเลคิธก็ออกจากสถานที่เเห่งนี้

  เเม้ว่าความคิดของมาเลคิธ จะเเปลก เเต่ถ้าคิดในอีกเเง่นึงมันก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล เพราะไม่ว่าอย่างไร เวลามันเหมาะเจาะมากเกินไป เขาได้เผชิญหน้ากับ เเอสการ์ด เเละ มิดการ์ดพร้อมกัน หากเป็นอย่างที่เขาคิดจริง มาเลคิธจะต้องหาทางรับมือศึกสองทางนี้เป็นอันดับเเรก

   เเอสการ์ด…มิดการ์ดพวกเเกคิดจะรวมกลุ่มจัดการเผ่าพันธุ์ของข้างั้นเรอะ ฝันไปเถอะ มาเลคิธคำรามออกมาอย่างชั่วร้าย

  ~~

  ไม่นานกลุ่มของพวกมาเลคิธก็ออกจากดินเเดนของเเอสการ์ดโดยใช้ยานรบที่นำมาด้วยบินกลับไป ยานรบที่พวกเขานำมานั้นมีฟังก์ชั่นหลบการตรวจจับพิเศษ เพราะแบบนี้ ฮัมดาลล์ ถึงไม่สามารถมองเห็นได้

  …

  โลก,นิวยอร์กอาคารสตาร์คอินดัสตรีท์

  หลังจากที่โทนี่กลับมาเขาได้ขึ้นไปเคลียปัญหากับ เป็ปเปอร์ จนเสร็จเรียบร้อย ด้วยเพราะความที่ว่าโทนี่ออกไปกอบกู้โลกทำให้ เป็ปเปอร์ ยอมปล่อยโทนี่ไปเเต่โดยดี จากนั้น โทนี่ ก็รีบเร่งไปชั้นใต้ดินเพื่อดูอาการของเเจ็คสัน

   คุณสตาร์ค! หลังจากเห็นโทนี่มาเเล้วเเฮร์รี่ ตะโกนขึ้นอย่างดีใจ

  พวกเขาตอนนี้กำลังรอวิธีการช่วยเหลือเเจ็คสันอยู่นั่นก็หมายความว่าสิ่งที่พวกเขาทำได้ตอนนี้ก็คือรอเเต่หลังจากที่โทนี่มาถึง เเฮร์รี่ ก็มีความคิดที่ว่าบางทีโทนี่อาจจะมีวิธีการในการช่วยเหลือเเจ็คสัน

   โทนี่สตาร์ค ได้ยินเสียงของเเฮร์รี่ ธอร์ เองก็ได้เปิดปากขึ้น

  เขาจำได้เกี่ยวกับความเเข็งเเกร่งของมนุษย์คนนี้

  ก่อนหน้านี้โลกิได้ส่งหุ่นรบมือสังหารของเเอสการ์ดมาที่โลกมนุษย์เเห่งนี้ความเเข็งเเกร่งของหุ่นรบมือสังหารกระทั่งอาจทำลายโลกในปัจจุบันได้ เเต่เพราะการปรากฏตัวของ โทนี่ หรือก็คือ ไอรอนแมน ได้ช่วยเหลือทำลาย หุ่นรบมือสังหารในตอนนั้น

   หืมเเฮร์รี่ ออสบอร์น ? ขณะเดียวกัน เสียงของปีเตอร์ก็ได้ดังขึ้น เขาเกือบจะเรียกออกไปอย่างตีสนิทเเต่ลืมไปว่าตอนนี้ เเฮร์รี่ อยู่ในสถานะจริงของเขา

   ธอร์,บอกเรื่องที่นายรู้เกี่ยวกับพวกดาร์คเอลฟ์มาให้หมด หลังจากกลับมาถึงที่นี่โทนี่ ได้จ้องมองไปที่ ธอร์เเล้วกล่าวถาม

  โทนี่รู้ว่าธอร์ไม่ใช่มนุษย์โลกธรรมดาทั้งอาจยังมีความเกี่ยวข้องกับพวกดาร์คเอลฟ์ทำให้ โทนี่ ตระหนักได้ว่า ความรู้ของธอร์อาจจะสามารถช่วยเหลือเเจ็คสันได้

  เห็นสถานการณ์ตึงเครียดที่เกิดขึ้นเดดพูล ที่อยู่ไม่ไกลไม่ได้กล่าวพูดทักทายอะไรออกมา ในเวลานี้ เขาเเทบจะลดตัวเเละดูถูกตนเองเมื่อเห็นกลุ่มผู้มีฐานะจำนวนมากมารวมตัวกัน

   คุณสตาร์คคุณมีวิธีที่จะช่วยเหลือเเจ็คสันบ้างไหม เเฮร์รี่ไม่ได้สนใจสถานะของตนเอง เขากล่าวถามออกไปอย่างรวดเร็ว

  ได้ยินคำถามของเเฮร์รี่โทนี่ ไม่ได้ตอบทันที เขาเดินไปที่ด้านหน้าห้องจกเเละจ้องมองเเจ็คสันผ่านกระจกใสบานใหญ่นั่น เขาเห็นเเจ็คสันนอนหมดสติอยู่บนเตียงพยาบาล

 

ความพ่ายเเพ้ของมาเลคิธ

   ! หลังจากคลื่นความผันผวนของพื้นที่มิติอวกาศหยุดลงเสียงคำรามเเห่งความโกรธก็ได้ดังกระจายไปทั่วพื้นที่ด้วยความขุ่นเคือง

  ก่อนหน้านี้ประมาณ1 ชั่วโมงภายในพื้นที่เห่งนี้ได้มีการต่อสู้เกิดขึ้นกันหลายครั้ง เพื่อช่วยเหลือ ธอร์ เเจ็คสันได้สู้รบกับพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์จำนวนมาก จนสร้างความเสียหายให้กับภายในสถานที่เเห่งนี้อย่างมหาศาล

  ตอนนี้กลางภูเขาสถานที่เดิมที่มีพื้นที่มิติอวกาศได้พังทลายลงไปอย่างสมบูรณ์ไม่มีช่องทางเชื่อมต่อระหว่างสองโลกด้วยกันอีกนอกเหนือจากซากปรักหักพังจำนวนมากเเล้ว ยังมีเงาร่างของคน ๆ นึง ที่ปรากฏตัวขึ้นยืนอยู่บนเเท่นหินสูงใหญ่

  ตำเเหน่งหน้าอกของคนผู้นี้ได้รับความเสียหายอย่างรุนเเรงโดยเฉพาะเกราะตรงหน้าอกได้เเตกสลายไปเเทบทั้งหมดเนื้อตัวมอมเเมมเเละได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เเต่ถึงอย่างนั้นกลิ่นอายที่คนผู้นี้ปล่อยออกมากลับเป็นกลิ่นอายเย็นชาที่รุนเเรงถึงขั้วกระดูก

   มิดการ์ด!สถานที่เเห่งนั้นไม่คาดคิดเลยว่ามันจะเป็น มิดการ์ด! เพื่อนคนนี้ได้ส่งเสียงคำรามเเห่งความโกรธเเค้นออกมาอย่างรุนเเรง น้ำเสียงของเขาเเหบพร่าไปด้วยความเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด

  เพื่อนที่เนื้อตัวมอมเเมมคนนี้เป็นใครอื่นไม่ไนอกจากมาเลคิธ ที่บุกไปที่โลกเมื่อไม่นานมานี้ เขาตอบสนองต่อ อาวุธโจมตีทางอากาศ ก่อนที่จะใช้วัตถุวิเศษบางอย่างพยายามเชื่อมต่อเข้ากับพื้นที่มิติอวกาศเพื่อกลับมาที่โลกเเห่งนี้

  เพราะทางโลก,ลอนดอนองค์กร S.H.I.E.L.D. ได้เปิดใช้ระบบดราม่าคริซิส เพื่อที่จะทำลายพื้นที่มิติอวกาสโดยตรง ตัวพื้นที่มิติอวกาศได้ถูกทำลายกลบฝังไปพร้อมกับการโจมตีในครั้งนี้ ไม่เพียงเเค่พื้นที่มิติอวกาศที่ถูกกลบฝัง เเต่เหล่านักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์จำนวนมากก็ตกตายเช่นเดียวกัน โชคดีที่ มาเลคิธตัดสินใจในช่วงสุดท้ายเเละพยายามหลบหนีออกมา

   มิดการ์ด!มิดการ์ด! ตอนนี้อีเธอร์ถูกขโมยไปด้วยพวกมิดการ์ด… กลิ่นอายเย็นชาของ มาเลคิธ ได้เริ่มกลับมาสงบอีกครั้ง ดูเหมือนเขากำลังครุ่นคิดบางสิ่งอยู่

  เเกร๊ก

  เหนือพื้นที่ที่มาเลคิธยืนอยู่เขาสังเกตุได้ถึงเเรงสั่นสะเทือนเล็กน้อย มาเลคิธที่กำลังคิดไตร่ตรองได้ใช้เท้าเขี่ยซากปรักหักพังที่อยู่ด้านล่างของเขาออกทีละน้อย

  ปั้งปั้ง

  ภายใต้การช่วยเหลือของมาเลคิธ ใต้ซากปรักหักปรากฏไปด้วย สัตว์ปีศาจหลายตัว พร้อมกับนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์หลายคนที่ถูกกลบฝัง ยังมี ดาร์คเอลฟ์หลายคนที่ไม่ได้ก้าวข้ามไปฝังนั้น ในระหว่างที่กำลังจะก้าวข้าม พื้นที่มิติอวกาศได้สลายออกไปซะก่อนทำให้พวกเขาตกอยู่ภายใต้เศษซากปรักหักพังนี้

  จากนั้นไม่นานพวกเขาก็รีบพากันคลานออกมาจากใต้เศษหินจำนวนมากเพื่อตามหา อีเธอร์ มาเลคิธ จ้องมองไปที่ ลูกน้องของเขา ความสูญเสียขนาดใหญ่ได้เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เขารู้สึกสาปเเช่งโชคชะตาที่กำลังเล่นตลกกับพวกเขา

   ท่านผู้นำ 

   ท่านผู้นำ 

  หลังจากคลานออกมาได้เเล้วนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์จำนวนมากก็รีบคลานเข้าไปหา มาเลคิธ พวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์เหล่านี้ ได้เผชิญหน้ากับวิกฤติความเป็นตายไปทีละคน ทำให้ กองกำลังรบที่อยู่ที่นี่จึงเหลือน้อยมาก

  มาเลคิธจ้องมองไปที่ลูกน้องของเขาที่หวาดกลัวในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ก็มีลูกน้องของเขาคนนึง หยิบคฑาสีดำมายื่นมอบที่เบื้องหน้าของเขา

  ฟุ่บ

   ท่านผู้นำ!นี่คฑา ของท่าน สองมือประเคนให้กับ มาเลคิธ ด้วยความเคารพ ตอนนี้พวกเขาต้องการฟังคำสั่งต่อไปจากปากของท่านผู้นำของเขา

  มาเลคิธจ้องมองไปที่คฑาของตนเองที่เสียหายหลายส่วนคฑาของเขาถูกสร้างขึ้นจากไม้โบราณที่เติบโตขึ้นในดินเเดนของพวกเขา มันคือสัญลักษณ์ของผู้นำเผ่าพันธุ์ดาร์คเอลฟ์ เเต่ตอนนี้ คฑาของเขาได้พังเสียหายไปมากหลายส่วน อาจกล่าวได้ว่า อาวุธโจมตีทางอากาศนั่นได้ทำลายความภาคภูมิใจของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์เเทบจะทั้งหมด มาเลคิธ ได้ยื่นมือออกไปรับคฑาในที่สุด จากนั้นก็พยายามเล็กน้อยเพื่อที่จะซ่อมเเซมมัน เเม้จะเสียหายมากเท่าไหร่ เขาก็ไม่ทิ้งมันเป็นอันขาด

   ก่อนหน้าที่ข้าจะมีถึงที่นี่มีอะไรเกิดขึ้นบ้างเล่ารายละเอียดมาให้หมด หลังจากข้าบุกไปถึงโลกมิดการ์ด ข้าหาได้สัมผัสถึงกลิ่นอายของอีเธอร์จากพวกคนเหล่านั้นไม่ 

   ดังนั้นมันไม่ได้อยู่บนร่างของพวกมันอย่างเเน่นอน หลังจากรับคฑาของตนเองกลับคืนมาเลคิธจ้องมองไปที่นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่ได้รับบาดเจ็บหลายคน

  ก่อนหน้านที่เขาจะมาถึงที่นี่เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของ อีเธอร์ เลือนลาง เเละไม่รู้ว่ามันหายไปไหน จนในที่สุดเขาก็ติดตามไปยังโลกมิดการ์ด เเต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่พบกลิ่นอายของอีเธอร์จากพวกคนเหล่านั้น

  ที่จริงเเล้วก็ไม่เเปลกเพราะ มาเลคิธ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำมันไป ดังนั้นเขาจึงต้องการทราบสถานการณ์ทั้งหมดก่อนที่เขาจะมาถึงที่นี่

   ท่านผู้นำ!ก่อนหน้านี้มีศัตรูปรากฏตัวขึ้นที่นี่จริง ถ้าข้าตรวจสอบไม่ผิดมันสมควรมีอยู่ด้วยกัน 3 คน เเละ อุโมงค์ถ้ำนี้ถูกทำลายไปพร้อมกับการต่อสู้กับพวกมัน พวกเราได้สูญเสียนักรบชั้นดีเเละสัตว์ปีศาจไปจำนวนมาก หนึ่งในสัตว์ปีศาจที่ล้มตายถูกพลังเทพเจ้าสายฟ้าในการทำลาย ได้ยินคำถามของมาเลคิธ นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่เป็นพยานการต่อสู้ก่อนหน้านี้ได้กล่าวรายงานตามความจริง

   3คน พลังเทพเจ้าสายฟ้า ? มันคือ… ได้ยินคำพูดของลูกน้องของเขา มาเลคิธกล่าวคาดเดาได้ในทันที

   หรือว่าจะเป็นโอดิน! เมื่อนึกถึงพลังเทพเจ้าสายฟ้าที่มาเลคิธจำได้ก็มีโอดิน เป็นหนึ่งในนั้น

 

ช่วงเวลาเเห่งการพักฟื้น

  ได้ยินคำถามของฮอว์กอาย สตอร์ม ได้จ้องมองไปที่ใบหน้าของ ฮอว์กอาย เเละ ฟอลคอน

   เมื่อวานฉันได้รับข่าวมาว่ามิราจไนท์ ได้เผชิญหน้ากับ พวกดาร์คเอลฟ์ เเละตอนนี้ เขาตกอยู่ในสถานการณ์เป็นตาย สตอร์มกล่าวตอบตามตรง

   อะไรนะ 

   มิราจไนท์กลับได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยไม่คาดคิด… 

  ได้ยินคำพูดของสตอร์ม,ฮอว์กอายเเละ ฟอลคอน จ้องมองไปที่เบื้องหน้าด้วยสายตาที่เบิกกว้างยากที่จะเชื่อ

   ใช่,ฉันเองก็ไม่รู้ข้อมูลสถานการณ์ที่ชัดเจนหรอกเพียงเเค่ได้รับข่าวเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันของเขาตอนนี้มาอย่างคร่าว ๆ  เห็นการเเสดงออกของฮอว์กอาย เเละ ฟอลคอน สตอร์มตอบกลับความจริง

   เเละตอนนี้เขา… 

   เขาได้รับการรักษาอยู่ในอาคารสตาร์คอินดัสตรีท์อาการในปัจจุบันยังไม่เเน่นอน คงจะต้องดูโชควาสนาของเขา เพราะคนนอกอย่างเราไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย ไม่ต้องรอให้ฮอว์กอายกล่าวจนหมดคำถาม สตอร์ม ตอบกลับอีกครั้ง

  ข่าวที่ได้จากทีมX-MEN มา ธรรมชาติเธอยังรู้อีกว่า ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้ขอให้ ทีมX-MEN ตามหา โร้ค เเอนนา มารี อย่างไรก็ตาม เธอไม่รู้ว่า โร้ค จะยอมมาเพื่อคนเเปลกหน้าหรือไม่หลังจากที่สามารถออกไปใช้ชีวิตอย่างสงบได้นานหลายปีด้วยความยากลำบาก

  ได้ยินคำพูดของสตอร์มฮอว์กอาย เเละ ฟอลคอน ได้พยายามครุ่นคิดอีกครั้ง เขาอยากรู้อยากเห็นมาตลอดว่าทำไมเดิม มิราจไนท์ถึงไม่มาช่วยเหลือศึกครั้งนี้กับพวกเขา เเต่คำยืนยันของสตอร์ม ได้ทำให้พวกเขาตาสว่าง

   ไม่เพียงเเต่เเผน S ในครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายใหญ่ให้กับพวกเรา มันยังลุกลามไปยังคนอื่น ๆ อีก คราวนี้ ฮอว์กอาย เเละ ฟอลคอน รู้สึกกังวลอย่างมาก เเละ ในขณะนั้นเองเสียงของ ดร.แบนเนอร์ ก็ได้ดังขึ้น

   ดร.แบนเนอร์ สถานการณ์ทางด้านประตูมิติอวกาศเป็นอย่างไรบ้าง? เห็น ดร.แบนเนอร์ ปรากฏตัวขึ้น ฮอว์กอายกล่าวถามอย่างเร่งรีบ

  เเม้ว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะพักรักษาตัวอยู่เเต่ก็ไม่สามารถปล่อยผ่านความกังวลเกี่ยวกับประตูมิติอวกาศไปได้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาไม่สบายใจ

   เกี่ยวกับสถานการณ์ทางด้านประตูมิติอวกาศยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อนในร่างของฉันเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำเป็นต้องพักฟื้นสักระยะ หาก คุณเป็นห่วงว่าจะเกิดอะไรขึ้น สู้นอนพักเอาเเรงตอนนี้ไม่ดีกว่าหรอ ได้ยินคำพูดของ ฮอว์กอาย ดร.แบนเนอร์ ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

   พวกเราเข้าใจ! เเต่อาการบาดเจ็บของพวกเราไม่ได้ร้ายเเรงเท่าไหร่ ที่สำคัญก็คือ กัปตันโรเจอร์ส พวกเราไม่รู้ว่าเขาจะใช้เวลาฟื้นตัวอีกนานเเค่ไหน ได้ยินว่าประตูมิติอวกาศยังไม่มีสถานการณ์ใด ๆ เกิดขึ้น ฮอว์กอายรู้สึกโล่งใจมาก

   หืม!กัปตันเขาฟื้นเเล้ว ไขณะที่ ฮอว์กอาย กำลังสนทนากับ ดร.แบนเนอร์ จู่ ๆ ฟอลคอน ก็ชี้ไปที่ด้านหลังผนังกำเเพงกระจก ด้วยความประหลาดใจ

  เสียงร้องของฟอลคอนได้เเจ้งเตือน ฮอว์กอาย เเละคนอื่น ๆ พวกเขาเห็นการเคลื่อนไหวบนเตียงพยาบาล กัปตันโรเจอร์ส ได้เปิดเปลือกตาขึ้นทั้งสองข้างอย่างยากลำบาก ในเวลานี้ เขาพยายามจะลุกขึ้นมา เเต่ก็ถูกหมอผู้ดูเเลหยุดการเคลื่อนไหวเอาไว้

   ฮ่าฮ่าฉันบอกเเล้ว กัปตันโรเจอร์สจะต้องไม่เป็นอะไร เห็นกัปตันโรเจอร์สฟื้นขึ้นมา ฮอว์กอาย ตบไหล่ของ ฟอลคอน อีกครั้ง

   เอ๋…ใช่ ได้รับการเตือนจากฮอว์กอาย ฟอลคอน พยักหน้าอย่างยินดี

   ดูเหมือนว่าเซรุ่มซูเปอร์โซลเดอร์นั้นจะมีความเเข็งเเกร่งมากกว่าที่ฉันจินตนาการเอาไว้ ความเข้ากันได้ของเพื่อนสตีฟคนนี้ ทำให้ฉันรู้สึกตกใจจริง ๆ  ดร.เเบนเนอร์ ครุ่นคิดในใจ

  เเม้กัปตันโรเจอร์สจะตื่นขึ้นมาเเต่สตินึกคิดของเขาตอนนี้ก็ยังเบลอๆ อยู่

  รัศมีฮีโร่ตัวละครหลักของโลกมาร์เวลเป็นธรรมชาติที่จะไม่มาสิ้นท่าง่าย ๆ เเม้จะเผชิญหน้ากับพวกอารยธรรมต่างดาวก็ตาม นอกเหนือจากกัปตันโรเจอร์ส ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เองก็ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บเป็นที่เรียบร้อย ทางด้านฐานทัพในไซบีเรีย พวกเขาเริ่มวางเเผนเกี่ยวกับการทำลายประตูมิติอวกาศอีกครั้ง ตราบเท่าที่สามารถทำลายประตูมิติอวกาศนี่ลงได้ เเผนทั้งหมดที่พวกเขาทำมาก็จะไม่สูญเปล่าเหมือนกับพื้นที่มิติอวกาศที่ลอนดอน

  ดังนั้นหลังจากที่กัปตันโรเจอร์สฟื้นคืนกลับมาเล็กน้อย พวกเขา เเละ ทีมอเวนเจอร์ส ก็ได้นัดประชุมกันในภายหลัง เกี่ยวกับ ลูกบาศก์เวทมนตร์ ที่มิราจไนท์ได้รับมา บางทีมันอาจะสามารถช่วยเหลือสถานการณ์ตอนนี้พวกเขาได้

  ฟุ่บ

  บนเครื่องบินพิเศษของสมาชิกทีมX-MEN ห้องพักรับรองที่ด้านหลัง

  ทีมX-MENได้เข้าร่วมเเผน S ทั้งหมด 5 คน สภาพอาการของคนที่ดีที่สุดตอนนี้ก็คือ สตอร์ม บลิงก์ เเละ เเฮงค์ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้เเต่คนที่พอจะช่วยเหลือโดยการใช้พลังพิเศษต่อได้ก็คงมีเเต่พวกเขา

   ศาสตราจารย์เกี่ยวกับเเอนนา… มองไปที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์สตอร์ม กล่าวพูดขึ้นอย่างไม่ลังเล

  ไอซ์แมนได้เลิกเกี่ยวข้องกับ โร้ค มาสักพักเเล้ว ดังนั้นอาจเป็นไปได้ยากที่เขาจะสามารถตามหา โร้ค ได้เจอ ถึงเเม้จะเจอ ก็ไม่มีความสามารถมากพอที่จะดึงเธอกลับมา เรื่องนี้อยู่ที่โร้คจะเป็นคนตัดสินใจ

  ได้ยินคำพูดของสตอร์มศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้เปิดเปลือกตาทั้งสองขึ้นอย่างช้า ๆ จากนั้น สายตาของเขาก็จ้องมองไปยังทิศทางของสตอร์ม ตอนนี้เขาเเสดงให้เห็นถึงความเหนื่อยล้ายิ่ง เเม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บทางกายภาพเเต่ก็ได้รับความเสียหายจากการใช้พลังจิตอย่างมหาศาล

   ถ้าโลเเกน เห็นด้วย พวกเขาทั้งคู่ ก็คงจะกลับมาพร้อมกัน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวด้วยน้ำเสียงคลุมเครือ

   นี่หมายความว่าศาสตราจารย์คิดว่าพวกเราจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งได้ 

   ฉันก็เเค่คาดเดาไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจในเรื่องนี้… ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตอบกลับเสร็จหลังจากนั้นเขาก็หลับตาอีกครั้งเพื่อพักผ่อน

  ฟุ่บ

  …

  เเอสการ์ดพื้นที่ลับพิเศษที่นำอีเธอร์มาซ่อนเอาไว้ สถานการณ์อันรุนเเรงได้เเผ่ขยายออกไปโดยรอบทั่วพื้นที่หุเบขา

  หึ่มๆ

  ความผันผวนเหล่านี้ยังคงดำเนินต่อไปอีกประมาณครึ่งนาทีหลังจากนั้นพื้นที่ลับก็กลับสู่สภาพสงบอีกครั้ง อย่างไรก็ตามโครงสร้างเดิมที่อยู่มาเป็นพัน ๆ ปี กลับถูกทำลายไปหลายส่วนสร้างความตกใจเเละหวาดกลัวเเก่ผู้พบเห็น

 

1 ความรู้สึกของผู้บาดเจ็บ

  โลก,ไซบีเรียฐานพิเศษชั่วคราว S.H.I.E.L.D. หลังจากออกมาจากประตูมิติอวกาศพวกกัปตันโรเจอร์สก็เข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะ ทีมพันธมิตรอเวนเจอร์ส ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ ทีมX-MEN เเกนนำการสู้รบครั้งนี้ พวกเขาได้รับบาดเจ็บร้ายเเรงที่สุด

  ตอนนี้ภายในฐานได้จัดวางการป้องกันอย่างเข้มงวดการบุกรุกดินเเดนศัตรูในครั้งนี้ทำให้พวกเขาสูญเสียกำลังคนไปร่วม 100 คน

  !!

  เหล่าฮีโร่หลังจากกลับมาจากศึกใหญ่พวกเขาก็ไม่นั่งนอนเฉยอยู่บนเตียงพยายามหลังจากรักษาอาการเบื้องต้นเสร็จพวกเขาก็ลุกออกจากเตียงพยาบาลในทันที

   ฟอลคอน! สภาพของคุณตอนนี้ไม่ควรลุกจากเตียง ขณะที่ ฟอลคอนพยายามจะลุกออกจากเตียงรักษาเครื่องมือวัดก็ได้ดังขึ้นพร้อมกับที่ หมอสนามได้เข้ามาดูเเลในทันที

  หมอเหล่านี้มีหน้าที่ดูเเลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะบุคคลสำคัญที่เป็นเเกนนำหลักขององค์กร S.H.I.E.L.D.

  ภายในพื้นที่รับรองการเเพทย์มีขนาดใหญ่มากพอที่จะรองรับคนจำนวนมากดังนั้นไม่จำเป็นที่ ฟอลคอน จะต้องลุกจากเตียงเพื่อเสียสละพื้นที่ให้คนอื่น นอกเหนือจาก ฟอลคอน เเล้วก็ยังมีพวกกัปตันโรเจอร์สที่ยังได้รับบาดเจ็บรุนเเรงอีก

  ฟอลคอนได้พยุงตัวเองไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องกระจกโปร่งใสด้านหลังกระจกนี้ เป็นห้องรักษาส่วนตัวของ กัปตันโรเจอร์ส ขณะเดียวกัน ฮอว์กอายก็เดินมาที่หน้าห้องนี้เหมือนกัน

  ตุบ

  ฮอว์กอายเเละ ฟอลคอน จ้องมองไปที่ด้านหลังกำเเพงกระจก พวกเขาทั้งคู่ต่างก็รู้ดีถึงอาการบาดเจ็บของ กัปตันโรเจอร์ส ที่ร้ายเเรงสาหัสเพียงใด

   ผ่อนคลายเถอะกัปตัน จะต้องไม่เป็นอะไร ฮอว์กอายยื่นมือออกไปจับไหล่ของ ฟอลคอน เเละ กล่าวพูดอย่างจริงจัง

   อืม,ฉันรู้กัปตันจะต้องปลอดภัย ได้ยินคำพูดของฮอว์กอาย ฟอลคอน กล่าวตอบ

   เเต่ฮอว์กอาย นายคิดว่า ที่พวกเราทำอยู่ตอนนี้ มันประสบความสำเร็จเเน่เเล้วงั้นหรอ ด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นยังมีพวกมันอยู่อีกจำนวนมาก ฟอลคอน ได้กล่าวถาม ฮอว์กอาย

  เกี่ยวกับเเผนการS ในครั้งนี้ พวกเขาได้รวบรวมทีมสหพันธ์โลกที่เเข็งเเกร่งที่สุดเพื่อต่อสู้กับพวกอารยธรรมจากต่างดาวด้านหลังประตูมิติอวกาศ ฟอลคอน รู้สึกสงสัย ว่าที่พวกเขาเป็นอยู่ตอนนี้มันเรียกได้ว่าชัยชนะหรือเปล่า

  เกี่ยวกับประสบการณ์จากสนามรบที่โหดร้ายนั่นพวกเขาได้เห็นความน่ากลัวของพวกดาร์คเอลฟ์อย่างเเท้จริงเเละถ้าหากตัวตนนอกโลกแบบนี้บุกมาที่โลกล่ะ พวกเขาจะสามารถต้านมันได้งั้นหรอ

  ฮอว์กอาย … 

  เผชิญหน้ากับคำถามของฟอลคอน ,ฮอว์กอายไม่รู้จะตอบอย่างไร พวกเขารู้ดีว่า การหยุดสงครามเป็นเเผนการของ กัปตันโรเจอร์ส แต่ความน่ากลัวของพวกดาร์คเอลฟ์มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถเอาชนะได้ง่าย ๆ

  ยิ่งไปกว่านั้นประตูมิติอวกาศนี่กลับมีความเสถียรมากขึ้นเเม้พวกเขาจะค้นพบลูกบาศก์เวทมนตร์เเล้วก็ตามเเต่ก็ยังไม่สามารถหาทางทำอะไรกับ ประตูมิติอวกาศนี่ได้ ถ้าหากกำลังรบของพวกนักรบดาร์คเอลฟ์บุกมาที่โลกในระยะเวลาอันสั้นนี้จริง ด้วยศักยภาพกำลังรบในปัจจุบันของพวกเขาไม่มีทางที่จะชนะได้เลย

  ประตูมิติอวกาศก็คือตัวกลางเชื่อมระหว่างโลกทั้งสองเข้าด้วยกันการปะทะระหว่างสองอารยธรรมอาจจะเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อพบว่ากองกำลังของตนเองหายไป ไม่ช้าพวกเขาอาจจะส่งกองทัพมาตรวจสอบพื้นที่เเละพบเข้ากับประตูมิติอวกาศก็ได้

  นี่เป็นเพียงความคิดของพวกเขาตอนนี้เท่านั้นดังนั้นเเผนการของกัปตันโรเจอร์ส ที่ไปปกป้องประตูมิติอวกาศอาจเป็นความคิดที่ดีที่สุดของพวกเขาตอนนี้ก็ได้ หากไม่ได้รับข้อมูลจากมิราจไนท์ เป็นที่เเน่นอนว่ากัปตันโรเจอร์สคงจะไม่คิดเเผนนี้ขึ้นมา เเต่ถึงอย่างนั้น โทนี่ สตาร์ค ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ก็เห็นด้วยกับ มิราจไนท์ เเละ ในที่สุด พวกเขาก็สนับสนุนเเผน S ของกัปตันโรเจอร์ส จนพวกเขาได้เข้าปะทะกัน คราวนี้ พวกเขาได้ข้อมูลของพวกดาร์คเอลฟ์มาจำนวนมากเป็นประโยชน์ต่อการตั้งรับในศึกต่อไป

   บางทีพวกเราอาจจะเรียกว่าประสบความสำเร็จเเล้วก็ได้เดิมที ฉันเองก็ไม่เห็นด้วยกับเเผนการของกัปตันโรเจอร์ส เเต่พวกเราก็คงไม่อาจปล่อยให้โลกต้องเผชิญหน้ากับอันตรายได้ ถึงจะเกิดความสูญเสียขนาดใหญ่เเต่พวกเราก็ต้องยอมรับผลลัพธ์ในครั้งนี้ หลังจากเงียบไปหลายวินาที ฮอว์กอายก็กล่าวตอบ

   อืม,ฉันเข้าใจเเต่… สายตาของฟอลคอน จ้องมองไปที่ พื้นที่โดยรอบ ที่รายล้อมไปด้วยผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

   จริงสิโทนี่ สตาร์ค เเละ สไปเดอร์แมน พวกเขาไปไหนกัน ทำไมไม่อยู่ที่นี่เพื่อคอยเฝ้าระวังป้องกันประตูมิติอวกาศ ? หลังจากจ้องมองไปโดยรอบ ฟอลคอน ก็กล่าวถามออกมา

  เขาคิดว่าสถานการณ์ตอนนี้การเฝ้าระวังภัยเเละเตรียมพร้อมถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

  เเน่นอนว่าฟอลคอน ไม่ได้ต้องการที่จะตำหนิ โทนี่ เเละ สไปเดอร์แมน เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็ยังได้รับการสนับสนุนจาก กองทัพไอรอนแมนมากกว่า 100 ตัว เพราะการระเบิดเเละการช่วยเหลือของไอรอนแมนทำให้พวกดาร์คเอลฟ์เหล่านั้นล่าถอยไป เเต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ต้องสูญเสียชุดเกราะไอรอนแมนไปหลาย 10 ตัว

   พวกเขา…เท่าที่ได้ยินจากวินซ์ พวกเขารีบกลับไปที่นิวยอร์กเพราะสถานการณ์สำคัญบางอย่าง ได้ยินคำถามของฟอลคอน ฮอว์กอาย กล่าวตอบ วินซ์ที่เขาพูดถึงก็คือผู้บัญชาการชั่วคราวของฐานเเห่งนี้

   รีบกลับไปนิวยอร์ก สถานการณ์สำคัญอะไร ยังมีเรื่องสำคัญมากกว่า สถานของที่นี่ตอนนี้หรือไม่? ได้ยินคำตอบของฮอว์กอาย ฟอลคอน กล่าวถามอย่างสงสัย

   ฉันเองก็ไม่รู้… 

   อาจเป็นเพราะมิราจไนท์ ได้ยินคำพูดของฮอว์กอาย เเละ ฟอลคอน จู่ ๆ ก็มีเสียงของคนบางคนดังขึ้นจากทางด้านหลัง

  เมื่อฟอลคอน เเละ ฮอว์กอาย หันไป ก็พบ กับสตอร์มหญิงสาวผมสีขาวพร้อมกับชุดสีน้ำเงิน เธอได้ส่งเสียงพูดออกมาเรื่องนี้ทำให้พวกเขาทั้งสองคนรู้สึกเเปลกใจอย่างมาก

   สตอร์มคุณพูดว่า เป็นเพราะ มิราจไนท์ หรือว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขา เห็นสายตาของสตอร์มที่ไม่เคลื่อนไหว ฮอว์กอายไม่สามารถอดที่จะกล่าวถามออกไปได้

 

ทัศนคติของโทนี่

  ได้ยินคำพูดของเดดพูลเเฮร์รี่ ได้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เเม้ตอนนี้เขาจะค่อนข้างงุ่มง่าม เเต่ก็ยังไม่ได้อธิบายอะไรให้เดดพูลเข้าใจผิด

   อืม,ที่จริงเเล้วฉันก็ค่อนข้างรู้จักคุณพอสมควร เเฮร์รี่ได้ตอบกลับเล็กน้อย

   เอ๋…จริงงั้นหรอคุณรู้เรื่องอะไรบ้างเกี่ยวกับฉัน เห็นว่าประธานหนุ่มของออสคอร์ปคนนี้รู้จักตนเอง เดดพูล ที่รู้สึกว่าชื่อเสียงของตนเองเริ่มเป็นที่รู้จักทำให้เขารู้สึกดีใจอย่างมาก

  เเฮร์รี่ … 

   เเล้วเดดพูล คุณมาทำอะไรที่นี่  เเฮร์รี่ ไม่ได้ตอบคำถามของ เดดพูล เขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที

   จริงสิ,ที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของเรามีหนทางช่วยเหลือเพื่อนคนนั้น ได้ยินคำถามของเเฮร์รี่ เดดพูล ตอบกลับอย่างเร่งรีบก่อนที่จะชี้นิ้วไปที่เเจ็คสันที่นอนอยู่บนเตียง

   ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ของคุณมีหนทางช่วยเหลือเเจ็คสัน งั้นหรอ ได้ยินคำพูดของ เดดพูล สายตาของเเฮร์รี่ เต็มไปด้วยความคาดหวังจำนวนมาก

  เเฮร์รี่ก็อยู่ในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเต่ถึงอย่างนั้นเขากลับยังไม่ได้รับข่าวอะไรเลย ที่เขาไม่ได้รับข่าวก็ไม่เเปลกเพราะ เจอร์รี่ เพิ่งคิดได้ถึงทางออก เขาจึงยังไม่ได้บอกใคร เมื่อคิดถึงเรื่องที่ เเฮร์รี่ มาถึง อุตสาหกรรมสตาร์คอยู่ก่อนเเล้ว เขาจึงลืมเรื่องนี้ไปสนิท

   ใช่,ตอนนี้ฉันคงต้องขอปรึกษา J.A.R.V.I.S ก่อน หากมีเรื่องอะไร คุณสามารถถามเขาได้ภายหลัง เห็นเเฮร์รี่ไม่เชื่อ เดดพูล กล่าวอธิบาย

   J.A.R.V.I.S เข้าใจเเล้ว … ได้ยินคำพูดของ เดดพูล เเฮร์รี่พึมพัมออกมา

  จากนั้นเเฮร์รี่ ก็ไปหลบที่มุมเเละติดต่อหา เจอร์รี่ เขาได้รับข้อมูลจากเจอร์รี่ เกี่ยวกับวิธีการที่จะช่วยเหลือ เเจ็คสัน ตามที่ เจอร์รี่ พูดมา ตัวเเปรสำคัญก็คือ สมาชิกเก่าคนนึงของ ทีมX-MEN ปีศาจ สาวคนนั้น

   เทียบกับหนทางที่จะช่วยเหลือเเจ็คสันตอนนี้คงจะไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้อีกเเล้ว พิจารณาถึงผลลัพธ์ที่เจอร์รี่ คาดหวังเอาไว้ เเฮร์รี่ ครุ่นคิดในใจ

   จริงสิคุณรู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งของที่อยู่ในมือของเขามั่งไหม สิ่งนั้นเหมือนกับกำลังสนับสนุนพลังชีวิตให้กับเขาอยู่ ขณะที่ เเฮร์รี่ หลบมุมไปรับข่าวสารจากเจอร์รี่ จู่ ๆ เดดพูล ก็มาถึงที่เบื้องหน้าของเขา เเละ กล่าวถามออกมา

   ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้หรอกเเต่เหตุผลที่ทำให้เเจ็คสันไม่สามารถฟื้นตัวได้เป็นเพราะพลังงานมืดที่กำลังกัดกินหัวใจของเขา ร่างกายของเเจ็คสันตอนนี้ไม่สามารถต้านทานพลังงานมืดได้ เเต่เพราะมีสิ่งของลึกลับนั่นทำให้ เเจ็คสันถึงยังมีชีวิตอยู่ได้ในตอนนี้ ได้ยินคำถามของเดดพูล เเฮร์รี่ ตอบกลับอธิบาย

   จริงสิเดดพูล คุณคิดอะไรออกอย่างงั้นหรอ เเฮร์รี่ กล่าวถามออกไปด้วยความสงสัยเมื่อเห็นท่าทีเเปลก ๆ ของเดดพูล

   ป่าว,ฉันเพียงเเค่รู้สึกสงสัยเพราะสิ่งของที่อยู่ในมือของเขา ฉันค่อนข้างรู้สึกคุ้นเคย ได้ยินคำถามของเเฮร์รี่ เดดพูล พยักหน้าเเละตอบกลับ

  จากนั้นเขาก็นึกถึงช่วงเวลาที่เขากับมิราจไนท์ได้ฟันฝ่าอุปสรรค ที่ดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ด้วยกัน ในตอนนั้น พวกเขา ประสบความสำเร็จในการจัดการ ปีศาจต้นไม้ยักษ์นั่น เเละ มิราจไนท์ ก็ได้รับหัวใจเเห่งชีวิตมาจากเจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นไม่เเปลกที่เดดพูลจะค่อนข้างรู้สึกคุ้นเคย

   จริงงั้นหรอ 

   นี่…ฉันยังไม่ได้เเนะนำให้นายรู้จักเลยเขาชื่อ เดดพูล จากทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ,เดดพูล นี่ ธอร์ เขาเป็นเพื่อนของ เเจ็คสัน เเฮร์รี่ ได้กล่าวพูดขึ้น

   อืม,ข้ารู้จักเขา เผชิญหน้ากับการเเนะนำโดยเเฮร์รี่ธอร์ เพียงพยักหน้าเล็กน้อยเเละไม่ได้ใส่ใจ เดดพูล อีกต่อไป

  เดดพูล … เห็นท่าทางของธอร์ เดดพูล รู้สึกค่อนข้างหงุดหงิด

  ภายใต้การปรึกษากับJ.A.R.V.I.S เดดพูล ได้นั่งรออยู่ภายในห้องพยายามเเละกำลังรอฟังข่าวดี อื่น ๆ ตอนนี้เขาหน้าที่ที่เขาทำได้ก็คือการรออยู่ที่นี่เพียงเท่านั้น

  ขณะที่เดดพูล เเละ คนอื่น ๆ กำลังเฝ้าอาการของ เเจ็คสัน โทนี่ ที่รีบกลับมาที่นิวยอร์ก เขาได้รับข้อมูลจำนวนมากจาก J.A.R.V.I.S ในตอนนี้ เเฮร์รี่ เเละ เจอร์รี่ กำลังประสานกันเพื่อช่วยเหลือชีวิตของ เเจ็คสันอยู่ เเต่โทนี่ หาได้นิ่งนอนใจเฉย ๆ เขาจะต้องเห็นสถานการณ์ของเเจ็คสันก่อนตอนนี้ก่อนจะค่อยตัดสินใจอีกที

  จุดเริ่มต้นของเขากับเเจ็คสันเดิมเป็นเพียงการพบเจอกันที่เเปลกประหลาดเด็กคนนี้ได้เข้ามาตีสนิทกับเขาเเละช่วยเหลือเขาไว้มากมาย ภายหลังมานี้ หลังจากรู้ว่า เเจ็คสัน คือ มิราจไนท์ เเละ ช่วยเหลือตัวเองอยู่บ่อย ครั้งทำให้ โทนี่ รู้สึกอ่อนไหวกับ เเจ็คสันมาก

  ไม่ว่าเเจ็คสัน จะคือ มิราจไนท์ หรือไม่ เด็กคนนี้ รวมถึงชีวิตของ เด็กคนนี้ ไม่ว่าอย่างไรโทนี่ก็จะต้องช่วยให้ได้

  สำหรับความลับของเเจ็คสัน โทนี่ หาได้สนใจ ความประสบความสำเร็จในด้านความเเข็งเเกร่งของ เเจ็คสัน โทนี่ เองก็เคยสงสัยมาก่อน อาจเป็นไปได้ว่า เเจ็คสันได้สืบทอดมรดกของอารยธรรมชั้นสูงบางอย่างที่ปรากฏขึ้นบนโลกทำให้ เเจ็คสันมีความเเข็งเเกร่งขึ้นขนาดนี้ ภายหลังมานี้ โทนี่ไม่ได้กังวลเรื่องนี้อีกเพราะความสัมพันธ์ที่ดีของพวกเขา

  สิ่งที่โทนี่กังวลมากที่สุดตอนนี้ก็คือการรับผิดชอบชีวิตของเเจ็คสัน ในฐานะผู้ปกครองอีกคนของเด็กคนนี้ เขาจะต้องช่วยเหลือชีวิตเด็กคนนี้กลับมาให้ได้ เกี่ยวกับ เรื่องของ ปีศาจ สาวจากทีมX-MEN ที่โทนี่ ได้รับรายงาน เขาเองก็จะช่วยมองหาตัวเธอคนนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด

   เจ้านายครับ,การต่อสู้ที่กรุงลอนดอนได้สิ้นสุดลงเเล้ว ภายใต้การโจมตีจากระบบดราม่าคริซิส พวกดาร์คเอลฟ์ เเละ สัตว์ประหลาดยักษ์จำนวนมากได้ตกตาย ตอนนี้ เจ้าหน้าที่องค์กร S.H.I.E.L.D. กำลังพยายามกู้ร่างของเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตภายในสนามรบอยู่ ขณะเดียวกัน เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ดังกึกก้องในหูของเขา

   อืม,หากขนาดที่ว่าเรียกยานรบบัญชาการอากาศยานสูงสุด รวมถึงใช้ ระบบดราม่าคริซัส เเละยังไม่สามารถจัดการพื้นที่มิติอวกาศนั่นได้ เจ้าหน้าที่โคลสัน นั่นก็คงไร้ประโยชน์พอตัว ได้ยินรายงานของ J.A.R.V.I.S โทนี่ พึมพัมออกมา

  ขณะที่โทนี่กลับมาถึงที่นี่เสร็จบนอาคารสตาร์คอินดัสตรีท์ยังมีหญิงสาวคนนึงที่มีใบหน้าเเห่งความกังวลอยู่ตอนนี้เธอก็คือเป็ปเปอร์ เธอ รู้สึกโล่งใจที่เห็นโทนี่กลับมาอย่างปลอดภัย

 

เมืองเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ

  ตอนนี้โลกกำลังเผชิญหน้ากับพวกดาร์คเอลฟ์อย่างเต็มกำลังไม่เพียงเเต่มีเรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง คราวนี้ ยังมีเรื่องของ เรียลลิตี้สโตนเข้ามาเกี่ยวข้องอีก หากเเจ็คสันสามารถตื่นขึ้นมาตอนนี้เขาก็คงจะรู้สึกปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเเน่นอน

  …

  โลก,เม็กซิกันเมืองเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ที่นี่ตั้งอยู่ที่เชิงเขาด้านข้างมีลำธารเล็ก ๆ อยู่เหมาะสำหรับพักอาศัยอย่างเงียบสงบที่นี่

  เเม้จะห่างจากตัวเมืองหลักเเต่ที่นี่ก็ค่อนข้างสงบสุขอย่างเเท้จริงตัวเมืองเล็ก ๆ เเห่งนี้ มีประชากรอยู่เพียงไม่กี่ร้อยคน มีผู้คนสัญจรไปมาน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นพวกนักเดินทางที่หลงเข้ามา นอกเหนือจากทิวทัศน์ทางธรรมชาติเเล้ว ความสะดวกสบายของที่นี่ก็ไม่ได้มีพร้อมมากนัก

  ใกล้ลำธารมีบ้านไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นในสถานที่เงียบสงบเช่นนี้เหมาะสำหรับพักผ่อนยามบ่ายมากนักเสียงธรรมชาติจำนวนมากทำให้รู้สึกผ่อนคลายไปในตัว

  ภายในสถานที่ที่เงียบสงบเช่นนี้กลับปรากฏเสียงเจี้ยวจ้าวของเด็กเล็กไม่กี่คนขึ้นดูเหมือนจะมีผู้อยู่อาศัยที่นี่จำนวนไม่น้อยอยู่เหมือนกัน

  ในบ้านไม้ที่ถูกสร้างโดยท่อนซุงที่เเข็งเเกร่งนอกเหนือจากเสียงเด็กเหล่านี้เเล้วยังปรากฏชายชาตรีร่างสูงใหญ่ค่อนๆ เดินออกมานอกบ้านพร้อมกับกวาดวิสัยทัศน์ไปโดยรอบ

  คลื่นๆ

  ขณะเดียวกันก็มีเสียงรถดังขึ้นมีคู่ชายหญิงคู่นึงได้ขับรถมาที่นี่พร้อมกับสัมภาระจำนวนมากดูเเล้วพวกเขาน่าจะมาจากบนตัวเมือง

  ได้ยินเสียงรถที่ค่อนข้างคุ้นเคยเหล่าเด็ก ๆ ทั้ง 3 คนได้ตะโกนขึ้นอย่างประหลาดใจก่อนที่จะรีบวิ่งไปยังทิศทางของเสียงรถนั่น

   เห้อ,ยังเล่นไม่สุดเลย 

   ไม่อยากจากที่นี่เลย 

   ครั้งต่อไปไว้พวกเรามาเล่นกันอีกครั้งเถอะ 

   กว่าจะถึงครั้งต่อไปก็อีกตั้งหนึ่งเดือน… 

   ลุงเบิร์น พวกเราจะมีโอกาสมาเล่นที่นี่อีกหรือไม่ 

   เอ…คงต้องถามคุณ โฟล์ค เเล้ว 

   คุณโฟล์คจะต้องอนุญาติพวกเราอยู่เเล้วใช่มั้ย 

  ฟุ่บ

  ตึกตึก

  พวกเด็กๆ ได้หันหน้าไปถามคุณโฟล์คที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ลุงเบิร์นที่ขับรถมา จู่ ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็โดดลงจากรถพร้อมกับจ้องมองไปที่เหล่าเด็ก ๆ ทั้งสามคน

   ฮ่าฮ่า,พวกเธอสามารถมาเล่นที่นี่ได้ทุกเมื่อ ก่อนที่จะลากับพวกเด็กเหล่านี้คุณโฟล์ค ได้ยิ้มออกมาทักทายเพียงเล็กน้อย

   เช่นนั้นไว้เจอกัน คุณโฟล์ค  หลังจากได้ยินคำพูดของ คุณโฟล์ค เด็ก ๆ เหล่านี้ได้กล่าวขอบคุณออกมาอย่างรวดเร็ว พวกเขารู้สึกสนุกมากที่ได้เล่นในพื้นที่เเถบนี้

   อืมขอบคุณมาก ลุงเบิร์นที่มาส่ง คุณโฟล์ค พยักหน้าก่อนที่จะเดินกลับไปที่กระท่อมไม้ด้านหลัง

   ไม่เป็นไรไว้เจอกันใหม่ครับ! ลุงเบิร์นได้โบกมือทักทายก่อนที่จะเหยียบคันเร่งเเละขับรถจากไปที่นี่

   ยังไม่ได้ทักทายลุงโลเเกน เลย ไว้มีโอกาสพวกเราจะมาเล่นที่นี่ใหม่อีกครั้ง เด็กคนนึงได้พูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งรถจากไปที่นี่

  ชายชาตรีที่ยืนอยู่หน้าบ้านทางเข้ากระท่อมไม้ที่ถูกสร้างโดยท่อนซุงก็คือโลเเกน

   โลเเกน มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นงั้นหรอ? ขณะเดียวกัน โฟล์ค ก็เดินมาที่เบื้องหน้าของ โลเเกน เเละ กล่าวถามอย่างสงสัย

  หญิงสาวที่ชื่อโฟล์ค นี้ เธอมีลักษณะพิเศษที่โดดเด่น ดูเเล้วอายุไม่ถึง 30 ปี เเต่ลักษณะภายนอกของเธอกลับน่าดึงดูดอย่างมาก

  เพราะเธอมีผมสีดำที่สวยงามเงาวับอีกทั้งยังมีผมสีขาวที่เหมือนกับหน้าม้าอยู่ข้างหน้ามองดูเเล้วเธอเหมือนจะย้อมผมมา เเต่หาใช่ไม่ เพราะนี่เป็นสีผมพิเศษที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มันค่อนข้างดึงดูดสายตาผู้คน ปัจจุบัน เธอได้เรียกขานชายวัยกลางคนที่เเข็งเเรง ซึ่งก็คือ โลเเกน ,โลเเกน คนที่เคยเป็นอดีตสมาชิกทีม X-MEN หรือในอีกชื่อ ไดมอนด์วูลฟ์

  สำหรับสถานะของโฟล์ค เองก็เช่นเดียวกัน ชื่อจริงของเธอคือ เเอน มารี สำหรับ ทีมX-MEN เเล้ว เธอมีชื่อว่า โร้ค หรืออีกชื่อ ปีศาจสาว

  ได้ยินคำของโร้ค,โลเเกน มีสายตาที่เปล่งประกายก่อนที่จะเปิดปากพูดขึ้น พวกเขาติดต่อเรามา 

  ได้ยินคำตอบของโลเเกน สีหน้าของ เเอนนา มีความประหลาดใจเกิดขึ้น

   เพื่อนเก่าเหล่านั้นงั้นหรอวันนี้ฉันไปที่เมืองมาก็ได้ยินเรื่องสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์ที่โลกในปัจจุบันอาจเป็น

  ไปได้ว่าพวกเขาเตรียมจะรับมือสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ โร้คกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

   มันไม่ใช่เพียงเเค่การเตรียมพร้อมเเต่พวกเขากำลังทุ่มกำลังวางเดิมพันทั้งหมด โลเเกนกล่าวตอบ

   เเล้วคนที่โทรมาเป็นใครเเฮงค์ หรือ ว่า ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ? โร้ค กล่าวถาม โลเเกนอีกครั้ง

   ไม่ใช่เเฮงค์เเละก็ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเต่เป็น…โรเบิร์ต 

  ฟุ่บ

  ได้ยินคำตอบของโลเเกน สีหน้าของ โร้ค ได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย ราวกับว่าชื่อนี้ได้สะกดให้เธออยู่ในอาการตกใจในชั่วขณะ

   เขาโทรมามีเรื่องอะไร 

  …

  โลก,อาคารสตาร์คอินดัสตรีท์ในที่สุด เดดพูล ก็มาถึงชั้นใต้ดินเเละเห็น มิราจไนท์ ที่นอนบาดเจ็บอยู่ภายในห้องพยายาม ธรรมชาติ เดดพูล ยังเห็น เเฮร์รี่ เเละ ธอร์ ที่อยู่ในห้องพยาบาลอีกด้วย

   เดดพูล นายมาได้ยังไง? ขณะที่ เเฮร์รี่ กับ ธอร์ กำลังสนทนากัน เเฮร์รี่ ก็สังเกตุเห็นเดดพูลเดินเข้ามาเขาได้ตะโกนขึ้นอย่างประหลาดใจ

  อย่างไรก็ตามเเฮร์รี่ หาได้ตระหนักว่า ตอนนี้ เขาอยู่ในสถานะของ เเฮร์รี่ ออสบอร์น ไม่ใช่ ดาร์คไนท์ ของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ นอกเหนือจาก สไปเดอร์แมนปีเตอร์ เเละ มิราจไนท์ เเจ็คสัน เเล้วไม่มีใครรู้สถานะที่เเท้จริงของเขา โดยธรรมชาติ เดดพูล กับ ธอร์ ก็เช่นเดียวกัน

   เอ๋…ฉันมีชื่อเสียงขนาดนั้นเลยงั้นหรอเเม้เเต่ นายน้อยของ ออสคอร์ปก็ยังรู้จักฉัน ไม่สิต้องเรียกว่าประธานหนุ่ม เพราะตอนนี้ คุณเป็นถึงประธานใหญ่สุดของออสคอร์ปเเล้ว ได้ยินเสียงเเฮร์รี่ตะโกนออกมา เดดพูล กล่าวออกมาอย่างค่อนข้างประหลาดใจ

  เเฮร์รี่ … 

 

มาเลคิธมาถึงโลก

  คลื่น!

  บนท้องฟ้าที่มีเมฆครึ้มได้ปรากฏเสียงฟ้าร้องในทำนองเดียวกันเเต่นั่นมันไม่มีปรากฏการณ์ฟ้าผ่า มีเเต่บางสิ่งบางอย่างที่พุ่งลงมาที่ด้านล่างอย่างรวดเร็ว

  ปั้ง

  สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไปมาเลคิธ ตระหนักได้ถึงความรุนเเรงขั้นวิกฤตอย่างชัดเจน ทันทีที่เขาออกมาจากพื้นที่มิติอวกาศพร้อมกับสัตว์ร้ายยักษ์ตัวนี้ เขาก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางหายนะทันที

  เเม้กลุ่มพวกดาร์คเอลฟ์จะมีพัฒนาการที่เเข็งเเกร่งกว่าพวกมนุษย์โลกเเต่ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไร้เทียมทานอย่างฆ่าไม่ตาย มาเลคิธ สังเกตุได้ว่าสิ่งที่กำลังตกลงมาที่อยู่เหนือศีรษะของเขานี้มีพลังทำลายล้างมากกว่าตัวของเขาเอง ดังนั้นเขาจึงรีบกลับไปยังพื้นที่มิติอย่างบ้าคลั่ง

  หึ่ม

  ขณะที่มาเลคิธเตรียมจะหลบหนีจากสถานการณ์อันตรายตอนนี้ เขาที่เตรียมจะเข้าไปในพื้นที่มิติอวกาศเพื่อหลบหนีโดยตรง เเต่ก็ไม่สามารถทำได้ ราวกับว่าการเชื่อมต่อกับพื้นที่มิติอวกาศนี้ได้ล้มเหลว ช่วงขณะที่เขาหลบหนี การโจมตีที่อยู่บนศีรษะของเขาก็พุ่งตกลงมาทันที

  ฟุ่บ!

  ลูกทรงกลมโลหะเหล่านั้นได้ดึงการโจมตีจากบนอากาศล็อคตำเเหน่งมาพื้นที่มิติอวกาศโดยตรงการโจมตีเหล่านี้สามารถทะลวงพื้นดินได้นับ 100 เมตร ภูมิภาคโดยรอบได้เกิดการสั่นไหวเพราะเเรงสั่นสะเทือนอันมหาศาล เพียงเเค่การโจมตีเดียวกับทำให้การระเบิดได้เเผ่กระจายเป็นวงกว้าง

  บึ้ม

  เเท่งโลหะผสมนั่นได้ชนเข้ากับพลังงานขนาดใหญ่ที่พุ่งตกลงมาบนฟ้าเเม้มันจะมีม่านพลังงานป้องกันอยู่เเต่ขอบเขตพลังงานเหล่านั้นกลับไม่สามารถต้านทานการโจมตีได้ เหตุผลของม่านพลังพวกนี้ก็เเค่ขังพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์เอาไว้ดังนั้นภายใต้ผลกระทบจำนวนมากพลังงานมหาศาลได้ระเบิดออกทันที

  เพียงระยะเวลา0.01 วินาที ที่ความผันผวนอันบ้าคลั่งเข้าปะทะกัน ทหารจากองค์กร S.H.I.E.L.D. ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลสามารถสัมผัสได้ถึงความรุนเเรงที่พื้นดินยิ่งมายิ่งสั่นสะเทือนมากขึ้น

  ฟุ่บ

  ขณะที่ม่านพลังเเตกลงเเละ การโจมตีอยู่ห่างไม่ไกลจากตนเอง มาเลคิธ ได้ยกคฑาสีดำอมม่วงขึ้น ตัวคฑามีสีดำทั้งตัว เเม้จะมีสีดำเเต่ด้ามของมันก็ทำมาจากไม้ ภายใต้สถานการณ์ที่รุนเเรง มาเลคิธได้ยกคฑาชี้ไปที่เหนือศีรษะของเขา

  ฟุ่บ

  เปรี้ยง

  เเต่ทว่าการเคลื่อนไหวของมาเลคิธยังคงช้าเกินไปเขาได้สั่งการโจมตีจากคฑาของตนเอง โดยตรง เเต่ไม่สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทัน

  คลื่น!

  กึก!

  เสียงที่โดดเด่นได้เจาะทะลวงเข้ามาอยู่ไม่ไกลจากเขาเป็นระยะเวลาเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่คฑาของมาเลคิธ จะทำงานในตอนนี้

  รูปแบบม่านพลังบางอย่างได้ก่อร่างสร้างขึ้นมา,ขณะที่ม่านพลังนี้ถูกสร้างขึ้นมาม่านพลังจากโลหะเเท่งผสมพิเศษก็ได้พังลงอย่างสมบูรณ์จากนั้นดาบเเห่งการพิพากษาก็พุ่งกระทบพื้นดินที่ไร้การป้องกันศูนย์กลางการโจมตีก็คือตำเเหน่งของพื้นที่มิติอวกาศนั่น

   ¥%%&;amamp ;!! 

  บึ้มบึ้ม

  เสียงของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์จำนวนมากได้กรีดร้องออกมาอย่างหวาดกลัวเเม้เเต่ไอรอนแมนก็ถูกทำลายด้วยคลื่นทำลายล้างในครั้งนี้

   การโจมตีเข้าเป้าโอกาสรอดของพวกดาร์คเอลฟ์ ระดับสถานะ ต่ำมาก ก่อนที่จะถูกทำลาย ไอรอนแมนได้วิเคราะห์ออกมาเป็นครั้งสุดท้าย

  คลื่นทำลายล้างอันทรงพลังได้ทำลายผืนดินบริเวณเเถบตรงนั้นโดยตรงเหล่าทหารอัลตร้าโมบิลสูท ที่อยู่ไม่ไกล พวกเขาได้สร้างโล่พลังงานเม่เหล็กไฟฟ้าต้านทานคลื่นเเรงสั่นสะเทือนเอาไว้ เเต่คลื่นพลังนั่นกลับทำให้พวกเขากระเด็นเสียหลักถอยกลับไปเล็กน้อย จากนั้นไม่นานการโจมตีทั้งหมดก็ได้หยุดลง เหลือไว้เพียงฝุ่นควันที่คละคลุ้งจำนวนมาก

  …

  โลก,ไซบีเรียฐานพิเศษชั่วคราวของ S.H.I.E.L.D. ตั้งเเต่ที่ ไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ค เเละ สไปเดอร์แมน ปีเตอร์ ออกจากพื้นที่เเห่งนี้ ไม่นานหลังจากนั้นประตูมิติอวกาศก็เกิดเเรงสั่นสะเทือนอีกครั้ง จากนั้น กัปตันโรเจอร์ส เเละ ทีมที่เข้าร่วมเเผนการ S ก็ถอยกลับมาอย่างรวดเร็ว

  ภายใต้การนำทีมของกัปตันโรเจอร์สเหล่าผู้รอดชีวิตจำนวนมากได้ตามมาจากทางด้านหลังของเขา

  เเม้จะได้รับบาดเจ็บกลับมาเเต่พวกเขาก็ยึดมั่นในภารกิจเเละความต้องการที่จะปกป้องโลก จากคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส ไม่ว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บร้ายเเรงเพียงใด พวกเขาก็จะต้องปกป้องประตูมิติอวกาศนี่ให้ได้

  หลังจากกลับออกมาได้กัปตันโรเจอร์สเองก็หวังว่าจะสามารถทำลายประตูมิติอวกาศนี่ให้ได้โดยเร็ว เเต่พวกเขาไม่ทราบวิธีทำลายมัน กัปตันโรเจอร์สไม่กล้าที่จะเสี่ยงให้พวกดาร์คเอลฟ์จำนวนมากบุกมาที่โลกนี้ได้อย่างเเน่นอน

  เเต่เหมือนว่าเป็นโชคดีของเขาหลังจากพวกกัปตันโรเจอร์สกลับสู่โลกได้ไม่นานประตูมิติอวกาศยังคงเเพร่กระจายความเเข็งเเกร่งออกมาอย่างต่อเนื่องเเต่ก็ไม่ปรากฏพวกดาร์คเอลฟ์ออกมา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสามารถรักษาสถานการณ์ความสงบสุขได้อยู่ในตอนนี้

  ที่จริงเเล้วพวกกัปตันโรเจอร์สหารู้ไม่ว่าพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่พวกเขาเผชิญหน้าที่โลกฝั่งนั้น ไม่สามารถเทียบได้กับกองทัพหลักที่นำโดยมาเลคิธ ไม่ว่าจะเป็นการบุกเเอสการ์ดหรือทีมพิเศษที่เข้าสู่เเดนลับของเเอสการ์ดนั่น

  เเต่อย่างไรก็ตามนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ก็มีความเเข็งเเกร่งกว่ามนุษย์โลกอย่างเห็นได้ชัดเเม้ว่าจะไม่มีมาเลคิธ เป็นคนนำทีม เเต่พวกเขาก็ยังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

  ไม่ทราบว่ามันเป็นความบังเอิญหรือไม่ที่โลกจะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันร้ายเเรงเหล่านี้หลังจากที่ เเจ็คสัน ค้นพบลูกบาศก์เวทมนตร์ สิ่งต่าง ๆ ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นจำนวนมาก

 

ดาบเเห่งการพิพากษา ระบบดราม่าคริซิส

  หลังจากกล่าวออกคำสั่งเจ้าหน้าที่โคลสัน ก็ยังสั่งให้หน่วยรบพิเศษเริ่มมาตราการโจมตีรูปแบบพิเศษทันที การโจมตีนั่นหาใช่อาวุธปืนใหญ่หรืออาวุธเลเซอร์ไม่ เเต่มันคือกระสุนควันพิเศษ

  บึ้ม

  กระสุนควันได้ถูกยิงออกไปอย่างเต็มรูปแบบพวกดาร์คเอลฟ์ที่ปกป้องพื้นที่มิติอวกาศพิเศษอยู่ด้านล่าง ตอนนี้ พื้นที่มิติอวกาศพิเศษกำลังสั่นสะเทือนเเละทวีคูณความรุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

  กึก

  !

  หลังจากสามารถก่อกวนโดยใช้ระเบิดควันจำนวนมากได้เเล้วนายทหารอัลตร้าโมบิลสูทพวกนี้ ก็ได้ทำการยิงลูกบอลโลหะทรงกลมออกไปอีกครั้งเป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่พวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์เเต่เป็นพื้นที่มิติอวกาศโดยตรง

  ฟุ่บ

  ภายใต้การควบคุมที่เเม่นยำของนายทหารอัลตร้าโมบิลสูทลูกบอลทรงกลมทั้ง 18 ลูก ได้ปักรอบพื้นที่มิติอวกาศจากนั้นก็ปรากฏเเสงสีเเดงเรืองรองขึ้น

   ภารกิจสำเร็จ! ถอยทัพได้! หลังจากปักกระบอกสูบโลหะทรงกลมครบ 18 อัน เเละ ระบุตำเเหน่งพื้นที่มิติอวกาศได้สำเร็จ พวกเขาก็เลือกที่จะถอยทัพทันที

  ฟ้าว!

  จากนั้นนายทหารอัลตร้าโมบิลสูททั้ง18 คนก็ได้ดีดตัวถอยหลังกลางอากาศ ขณะที่ ไอรอนแมนเหล่านี้ยังคงอยู่ในการต่อสู้จริง ๆ เพราะพวกเขาไม่ได้รับคำสั่งเพิ่มเติม มีหนทางเดียวที่จะดำเนินเเผนการต่อไปได้นั่นก็คือการเสียสละพวกเขา

  กึกกึก !!

  ขณะที่พวกหน่วยพิเศษกำลังหลบหนีออกจากพื้นที่,พื้นที่มิติอวกาศได้ล่างก็เกิดความผันผวนรุนเเรงขึ้นเรื่อย ๆ ดูจากสถานการณ์เเล้วราวกับว่ากำลังจะมีบางอย่างออกมา

  ระหว่างนั้นเองลูกกระบอกทรงกลมที่ปักรอบด้านก็ปล่อยพลังงานพิเศษออกมาเหมือนกันพลังงานนี้ก็คือคลื่นความถี่เเม่เหล็กไฟฟ้ามันได้ปล่อยสร้างพลังหักล้างซึ่งกันเเละกันกับพื้นที่มิติอวกาศ

  !

  พลังของลูกบอลทรงกลมทั้ง18 ก็คือคลื่นพลังงานเเม่เหล็กไฟฟ้า เเละมันเป็นการโจมตีที่เงียบเฉียบมาก จากนั้น ม่านพลังกำเเพงเเม่เหล็กไฟฟ้าก็ดิ่งยาวสูงขึ้นมากกว่าตึก 7 ชั้น มันปรากฏขึ้นออกมาจากอากาศบาง ๆ เเละครอบคลุมไปทั่วพื้นที่มิติอวกาศ

  โดยธรรมชาติเเล้วนี่ก็คืออาวุธพิเศษเเขนงนึงการโจมตีของมันได้ล้อมรอบพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์รวมถึงไอรอนแมนที่กำลังทำการต่อสู้อยู่ด้วย

  …

   ดี,ปิดกั้นพื้นที่เสร็จสมบูรณ์เเล้วเริ่มการพิพากษาได้ ! เจ้าหน้าที่โคลสันจ้องมองไปที่พื้นที่ด้านหน้าจากนั้นเขาที่อยู่บนยานรบบัญชาการอากาศยานสูงสุดก็กล่าวออกคำสั่งต่อไป

   โคลสัน! เจ้าบ้านี่ … ถอยทัพ ถอนกำลังออกจากพื้นที่ระเเวกนี้ทันที หลังจากจบการสนทนากับ เจ้าหน้าที่โคลสัน เสียงของผู้บัญชาการ ฟริสส์ ก็กล่าวสั่งการลูกน้องของเขา

  กึก

  ฟังจากที่โคลสันพูด ฟริสส์ รู้ได้ในทันที ว่า ระบบอาวุธอวกาศนั่นกำลังจะทำงานในอีกไม่ช้า มันเป็นการโจมตีที่รุนเเรงถึงขั้นที่สามารถสั่นสะเทือนปฐพีได้เลย เพื่อความสบายใจ พวกเขาจะต้องหลบออกจากพื้นที่ตรงนี้เเละเว้นระยะห่างเหมือนกับยานรบบัญชาการอากาศยานสูงสุดนั่นก็คือระยะ 1 กิโลเมตร

  ตอนนี้เมื่อเทียบตำเเหน่งของเขากับยานรบบัญชาการตำเเหน่งของพวกเขายังมีความเสี่ยงมาก ระบบดราม่าคริซิส หรือ ดาบพิพากษา คืออาวุธสูงสุดที่มีพลานุภาพโจมตีที่น่ากลัวที่สุดขององค์กร S.H.I.E.L.D. ตอนนี้

  วัตถุทรงกลมนั่นไม่เพียงเเต่จะปล่อยคลื่นพลังงานเเม่เหล็กไฟฟ้าออกมาเท่านั้นมันยังสร้างเเรงดึงดูดขนาดใหญ่ที่จะดูดพลังงานทำลายล้างจากด้านบนให้พุ่งมาที่ส่วนกลางของมันโดยตรง

  ฟุ่บ!

  คลื่น!

   เชื่อมต่อพลังงานเสร็จสิ้นเปิดใช้ระบบดราม่าคริซิส ล็อคเป้าหมาย อีก 3 วินาที การโจมตีจะเริ่มทำงาน ขณะที่เจ้าหน้าที่โคลสันกำลังจ้องมองสถานการณ์เขาก็ได้รับรายงานทันที

   ดี! 

  ฮึ่ม

  ปั้ง

  เมื่อผ่านไปครบ3 นาที ระบบดราม่าคริซิสก็ถูกใช้งาน พลังงานเเม่เหล็กไฟฟ้านั่นได้ดึงการโจมตีพลังทำลายล้างสูงนี่พุ่งไปที่ส่วนกลางของพื้นที่โดยตรง

   โฮกก ขณะเดียวกันจู่ๆ ตอนนั้นเองก็ปรากฏสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ได้ออกมาจากพื้นที่มิติอวกาศ

  บนหลังของสัตว์ร้ายยักษ์ตัวนี้คือมาเลคิธ ดูเหมือนหลังจากเขาออกมาเขาจะเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเเละกำลังรวบรวมข้อมูลอยู่

  ในการจ้องมองของเขาตอนนี้ตอนนี้ตัวเขาเเละคนอื่น ๆ กำลังถูกขังภายใต้กรงโปร่งเเสงสีขาว มาเลคิธเเสดงออกให้เห็นถึงสีหน้าที่น่ารังเกียจ

  ฟุ่บ

  จากนั้นมาเลคิธ ก็สบัดมือบางอย่างภายใต้การเคลื่อนไหวของเขา นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ เเละ สัตว์ประหลาดยักษ์ก็ได้ออกมาจากพื้นที่มิติอวกาศทั้งหมด เป้าหมายของพวกเขาตอนนี้ก็คือจัดการเเก้ไขสถานการณ์เบื้องหน้าเป็นอันดับเเรก นั่นก็คือ ไอรอนแมน

  ก่อนหน้านี้ช่วงเวลาที่เเจ็คสันได้ต่อสู้กับพวกดาร์คเอลฟ์ พวกเขาก็เห็นชุดเกราะบินได้นี่มาตั้งเเต่เริ่มดังนั้น พวกเขาจึงรู้ดีถึงความน่ากลัวของมันเเละลงมืออย่างเต็มที่ราวกับว่า เเจ็คสันกำลังอยู่ข้างในนั้น

  ปั้งปั้ง

  ภายใต้การร่วมมือกันโจมตีของพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์จำนวนมากชุดเกราะไอรอนแมนที่เหลือน้อยกว่า 10 ได้ถูกทำลายไป 3 อย่างรวดเร็ว จากนั้น มาเลคิธก็ควบคุมสัตว์ร้ายขนาดยักษ์ไปที่สิ่งกีดขวางซึ่งก็คือบอลเเม่เหล็กไฟฟ้า

   นี่มัน…อืม มาเลคิธเตรียมจะสอบสวนสถานการณ์ตอนนี้เเต่หลังจากตรวจสอบสีผิวของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนที่จะเงยหน้ายกศีรษะขึ้นจ้องมอง

  ฟ้าวว

  ช่วงเวลาที่มาเลคิธ ยกศีรษะจ้องมองไปที่ด้านบน เหนือชั้นเมฆได้ปรากฏเสียงคลื่นอันทรงพลังที่รุนเเรง จากนั้นก็ปรากฏลำเเสงโซนิคบูมสีขาวที่ทะลวงชั้นเมฆลงมา

  มาเลคิธ … 

 

ดำเนินการตามเเผน

  เนื่องจากความสัมพันธ์ของเเฮร์รี่ เเละ เเจ็คสัน,เเฮร์รี่ ได้ให้ทาง ออสคอร์ป ร่วมมือกับ สตาร์คอินดัสตรีท์ ดังนั้น เมื่อ โทนี่ สตาร์ค เเละ S.H.I.E.L.D. เป็นพันธมิตรกัน ไม่เเปลกที่ S.H.I.E.L.D. จะได้รับความช่วยเหลือจาก เเฮร์รี่ไปด้วย นอกเหนือจากยายีนรักษาเเล้ว พวกเขายังได้รับยายีนไททัน ที่สามารถช่วยให้ทหารขององค์กร S.H.I.E.L.D. ส่งเสริมความเเข็งเเกร่งได้อย่างมหาศาล เทียบกับเครื่องร่อนรุ่นปรับปรุงจำนวนมากเเล้ว ยายีนที่ช่วยส่งเสริมความเเข็งเเกร่งนั้นกลับทำให้ อิทธิพลของ องค์กร S.H.I.E.L.D. ยกขึ้นอีกระดับ

  ดังนั้นยายีน ไททัน รุ่นปรับปรุงที่ทาง เเฮร์รี่ จะมอบให้กับองค์กร S.H.I.E.L.D. นั้นพวกเขาได้ปล่อยให้รอไปก่อน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปรับปรุงเเละจะเปิดตลาดให้กับทางองค์กร S.H.I.E.L.D. โดยตรง

  ถ้าหากองค์กรS.H.I.E.L.D. ได้รับการยกระดับความสามารถทางร่างกายที่เเข็งเเกร่งไม่ช้า ทีมพันธมิตรอเวนเจอร์ส ก็จะไม่ใช่มีเพียงเเค่สมาชิกหลักไม่กี่คนเพียงเท่านั้นในอนาคต ทหารธรรมดาคนนึงก็สามารถเข้าร่วมกับทีมพันธมิตรอเวนเจอร์สได้

  ปั้งปั้ง

   พวกเขาจะสามารถควบคุมสนามรบได้จริงๆ งั้นหรอ ศัตรูพวกนี้ไม่ธรรมดาเป็นอย่างมาก ! จ้องมองไปที่หน่วยรบพิเศษที่ถืออุปกรณ์ครบมือ ผู้บัญชาการฟริสส์กล่าวพึมพัมออกมา

  เพราะเห็นได้จากหน้าจอในปัจจุบันพวกเขาได้ใช้อาวุธปืนเลเซอร์พิเศษในการจัดการกับศัตรูรวมถึงอาวุธปืนกลธรรมดาอีกจำนวนมาก เเต่ถึงอย่างนั้น ฟริสส์ ก็ยังคงกังวล อยู่ดี

   ฟริสส์นายรู้หรือไม่ว่าพวกเรากำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่  โคลสันไม่ได้ตอบคำถามของ ฟริสส์ เขาพยายามกล่าวถามออกมา

   ถึงเเม้ว่าเขตอำนาจของฉันจะไม่สามารถเทียบกับนายได้เเต่ฉันก็พอจะคาดเดาได้ พวกเขาก็คือคนจากอารยธรรมนอกโลก  ได้ยินคำถามของเจ้าหน้าที่โคลสัน ผู้บัญชาการ ฟริสส์ ตอบกลับ

   อารยธรรมนอกโลก 

   ฮ่าฮ่าใช่,ไม่เพียงเรากำลังเผชิญหน้ากับอารยธรรมนอกโลก เเต่พวกเรายังพอประเมินความเเข็งเเกร่งคร่าว ๆ ของพวกมันได้ ด้วยเทคโนโลยีของพวกเราตอนนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะต่อต้านพวกมัน อย่างไรก็ตาม หน้าที่ของพวกเราก็คือต้องปิดกั้นเเละหยุดพวกมันไว้ที่นี่ เจ้าหน้าที่โคลสัน กล่าวตอบ เขาชื่นชมที่ ฟริสส์ สามารถเดาได้ถูกต้อง ที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าอยู่ก็คืออารยธรรมนอกโลกที่มีชื่อว่าพวกดาร์คเอลฟ์

   นายหมายถึงพวกเราจะทำการทำลายพวกมันเเละตัดหนทางพวกมันทิ้งทั้งหมดที่นี่ใช่หรือไม่  ฟริสส์ กล่าวถามอย่างสนใจ

   ใช่,ด้วยการสนับสนุนของยานรบบัญชาการอากาศยานสูงสุดเเม้จะไม่มีทีมพันธมิตรอเวนเจอร์ส พวกเราก็สามารถปกป้องพื้นที่เเห่งนี้ได้ ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไรพวกเราจะต้องทำลายพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับโลกของเราเพื่อตัดไม่ให้พวกมันมาเยือนที่โลกของเราได้ โดยใช้ ระบบ ดราม่าคริซิส เจ้าหน้าที่โคลสันตอบกลับ

  ดาบเเห่งการพิพากษามันถูกเรียกว่า ระบบดราม่าคริซิส มันคือระบบอาวุธอวกาศที่มีความรุนเเรงเท่ากับระเบิดนิวเคลียร์ขนาดเล็ก เเม้ว่าจะไม่ส่งผลต่อพื้นที่จำนวนมาก เเต่อนุภาพความรุนเเรงก็ล้นเหลือคณา

   ดาบเเห่งการพิพากษาระบบ ดราม่าคริซิส ดูเหมือนเป็นที่ชัดเจนเเล้วเกี่ยวกับภัยพิบัติที่พวกเรากำลังเผชิญ เห็นเจ้าหน้าที่โคลสันวางเเผนจะใช้ระบบ ดราม่าคริซิส ฟริสส์ พึมพัมออกมา

   อืม,ไม่เช่นนั้นพวกกัปตันโรเจอร์สคงจะกลับมาตั้งนานเเล้ว เจ้าหน้าที่โคลสันตอบกลับ

   อืม 

   พวกเราจะเเสดงให้เห็นว่ามนุษย์ธรรมดาอย่างพวกเราก็สามารถจัดการพวกคนจากอารยธรรมชั้นสูงพวกนี้ได้ 

  …

  ขณะที่เจ้าหน้าที่ โคลสัน เเละ ผู้บัญชาการ ฟริสส์ กำลังสนทนากัน

  การต่อสู้ในสนามรบก็ปะทุขึ้นอีกครั้งภายใต้การโจมตีของลำเเสงเลเซอร์จำนวนมาก สัตว์ประหลาดสองหัวที่ออกมาจากประตูมิติอวกาศ ได้ถูกรุมล้อมโจมตีโดยนายทหาร 4 นาย การโจมตีของพวกเขาเเม้จะไม่รุนเเรง เเต่ก็พอสร้างความเสียหายให้กับ สัตว์ประหลาดตัวนี้ได้

  สำหรับนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ 7 คนที่เหลือ พวกเขาได้เผชิญหน้ากับการโจมตีของนายทหารอาวุธครบมืออีกหลายคนภายใต้การโจมตีจำนวนมากสนามรบได้กลายเป็นรุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

  เเม้จะเผชิญหน้ากับนายทหารหลายคนเเต่พวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ก็เเข็งเเกร่งมากเทียบกับสัตว์ประหลาดพวกนี้เเล้วพวกเขาสามารถตอบสนองต่อการรับมือกับพวกนายทหารเหล่านี้ได้ดีกว่า เพราะไม่ว่าอย่างไรทีมเหล่านี้ก็ถูกฝึกมาเพื่อตามหาสมบัติสืบทอดของพวกเขา อีเธอร์

  เพื่อค้นหาสมบัติลับเเละทำตามความปราถนาของเผ่าพันธ์พวกเขาให้เป็นจริงไม่ว่าอย่างไรนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ ทั้ง 7 คนจะต้องปกป้องพื้นที่มิติอวกาศนี้ให้ได้ เพราะตามที่พวกเขาทราบมา กลิ่นอายพลังของอีเธอร์ได้หลุดรอดมาที่โลกเเห่งนี้

  ฟุ่บ

  นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่องค์กร S.H.I.E.L.D. ไอรอนแมนเองก็ยังคงสนับสนุนการโจมตีจำนวนมาก ดังนั้น พวก ดาร์คเอลฟ์ เเต่ละคน ก็ได้รับศึกเผชิญหน้ากับนายทหาร 3-4 คน เเม้จะรู้สึกกดดัน เเต่พวกเขาก็พยายามอย่างเต็มที่

  หึ่ม

  เมื่อทางทหาร S.H.I.E.L.D. เเละ ไอรอนแมน ร่วมมือกันโจมตีพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ จู่ ๆ พื้นที่มิติอวกาศก็ปรากฏอนุภาคอัลฟ่า ที่รุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

   ไม่ได้การ! พวกเราจะต้องรีบปิดพื้นที่มิติอวกาศนี่ซะ ! เห็นพื้นที่มิติอวกาศกระจายความผันผวนออกมา เจ้าหน้าที่โคลสันกล่าวออกมาอย่างจริงจัง

 

ชุดอัลตร้าโมบิลสูท

  ฟุ่บ

   สิ่งเหล่านั้นคือ…ชุดอัลตร้าโมบิลสูท เห็นกลุ่มเงาของบุคคลเหล่านี้กระโดดลงมาจากยานรบสูงสุด ผู้บัญชาการ ฟริสส์ กล่าวตะโกนออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ

  เนื่องเพราะยานรบบัญชาการอากาศยานสูงสุดนี้มีเครื่องยนต์ต่อต้านเเรงโน้มถ่วงที่ทางสตาร์คอินดัสตรีท์เป็นฝ่ายคิดค้นเเละพัฒนาขึ้นมันสามารถทำให้ยานรบสามารถบินออกไปท่องอวกาศที่นอกโลกได้ ดังนั้นทางสำนักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. จึงคิดมาตราการเพื่อสอดคล้องกับเหตุผลนั้น พวกเขาได้สร้างกลุ่มทีมที่มีความสามารถในการใช้ชุดอัลตร้าโมบิลสูทพวกนี้ขึ้นมา มันคือเทคโนโลยีที่สนับสนุนการต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  ในฐานะหัวหน้าสาขาย่อยของกรุงลอนดอนฟริสส์ มีโอกาสที่จะได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับยานรบบัญชาการอากาศยานสูงสุด เเต่เนื้อหาความรู้ที่เขาได้รับมานั้นก็เเค่มาจากรายงาน ไม่ได้เคยเห็นของจริง เพราะแบบนี้ ทันทีที่ที่ฟริสส์เห็นของจริงไม่เเปลกที่เขาจะรู้สึกตื่นเต้น รวมถึงรู้สึกชื่นชมกับการปรากฏตัวของหน่วยโมบิลสูทพิเศษนี้

   ชุดอัลตร้าโมบิลสูท พวกเขาที่กระโดดลงมาเหล่านี้เเท้จริงเเล้วคือหน่วยรบพิเศษประจำยานรบบัญชาการอากาศยานสูงสุด ? ได้ยินเสียงของผู้บัญชาการฟริสส์ ผู้ช่วยของเขาก็กล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น

  เพียงเเค่ลำเเสงเลเซอร์ทำลายล้างหลายสิบรอบก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาตกใจได้เเล้วเเต่การโจมตีระลอกสองยังมาจากกองทัพพิเศษที่กำลังโดดร่มลงมาจากด้านบนไม่มีใครรู้ประสิทธิภาพที่เเท้จริงของหน่วยรบพิเศษนี้เเต่เป็นที่เเน่นอนว่ามันจะต้องไม่ธรรมดาอย่างเเน่นอน

   เอ๋! ทำไมพวกเขาถึงยังไม่เปิดใช้งานร่มชูชีพ ? ภายใต้การสังเกตุของ ฟริสส์ เขาเห็นว่ากลุ่มคนเหล่านั้นไม่ได้เปิดใช้งานร่มชูชีพ ด้วยระดับความสูงที่ยานรบบัญชาการอากาศยานสูงสุดอยู่ ณ ตอนนี้ ถือว่าอยู่ในระดับที่อันตราย หากไม่ลงด้วยด้วยล่มชูชีพอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยจากความสูงระดับนี้

   ท่านผู้บัญชาการ,พวกเขา…หรือว่าพวกเขาไม่ได้ติดตั้งร่มชูชีพ ได้ยินเสียงพึมพัมของผู้บัญชาการ ฟริสส์ ผู้ช่วยของเขากล่าวเเจ้งเตือนเกี่ยวกับเหตุผลข้อนี้

  ในเวลานี้เงาร่างของบุคคลจำนวนมากกำลังร่อนลงจากอากาศชั้นสูงในปัจจุบันด้านหลังของพวกเขาได้สวมใส่เเผ่นเหล็กโลหะยาวบางอย่าง เเต่ไม่เห็นว่ามีเป้สะพานหลังของร่มชูชีพอยู่ ดังนั้น อาจเป็นไปได้ว่า เดิมพวกเขาไม่ได้ติดตั้งร่มชูชีพเอาไว้ตั้งเเต่เเรก

   หรือว่า กลุ่มทหารพวกนี้จะสามารถบินได้ ? ผู้บัญชาการ ฟริสส์ กล่าวคาดเดา เเต่เขาก็เชื่อว่าสำนักงานใหญ่ไม่มีทางกระทำการอย่างไร้เหตุผลเเน่นอน

  ติ๊ด

  ขณะที่ฟริสส์ เเละ ผู้ช่วยของเขากำลังจ้องมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จู่ ๆ ก็มีสายวิดีโอเข้ามา จากนั้นก็ปรากฏร่างของชายสวมใส่สูทสีดำเเละรองเท้าหนังปรากฏขึ้นที่กึ่งกลางของหน้าจอขนาดใหญ่

   ไม่ได้พบกันนานเลยนะฟริสส์ เห็นใบหน้าของเพื่อนเก่า ชายคนนี้จ้องมองไปที่ ฟริสส์ เเละยิ้มกล่าวทักทาย

   ไม่ได้เจอกันนานโคลสัน ผู้บัญชาการฟริสส์ ตอบกลับอย่างใจเย็น

  …

  ฟุ่บ

  ขณะที่เจ้าหน้าที่โคลสันกำลังติดต่อสื่อสารทางวิดีโอ บนสนามรบ ผืนฟ้า เงาร่างของคน 18 คนที่กระโดดล่มลงมาตอนนี้ทุกคนได้จัดเเบ่งทีมกันตั้งเเต่ลอยตัวอยู่บนอากาศเรียบร้อย

  ฟุ่บ

  ฟ้าว

  เเผ่นเหล็กยาวที่อยู่ด้านหลังของพวกเขาทันใดนั้นก็เริ่มเคลื่อนไหวบางอย่างเส้นเเสงสีฟ้าอ่อนได้ส่องสว่างขึ้นในฉับพลัน

  ฟวั่บ!

  พริบตาต่อมาเเผ่นเหล็กยาวนั่นก็ได้เลื่อนลงมาที่ข้อเท้าของพวกเขาก่อนที่จะต่อเข้ากับชุดโมบิลสูทที่พวกเขาสวมใส่อยู่ราวกับตัวเสริมหุ้มรองเท้าทางยุทธวิธี

  ฟู่วว

  จากนั้นไม่นานใต้เท้าของทหารเเต่ละคนก็ปรากฏไอพ่นสีฟ้าที่สดใสภายใต้การขับเคลื่อนของไอพ่นเหล่านี้พวกเขาได้ชะลอตัวขณะที่ กำลังร่อนลงมาจากด้านบน เเผ่นเหล็กนั่นเเท้จริงเเล้วก็คืออุปกรณ์ช่วยเหลือในการบินของพวกเขามันคือเครื่องมือเทคโนโลยีที่ถูกปรับปรุงเเละถูกใช้งานเมื่อไม่นานมานี้

  ตอนนี้ทหารทั้ง18 นายในที่สุด ก็ร่อนลงมาจนใกล้จะถึงพื้นในระยะไม่กี่ร้อยเมตร พวกเขาได้ควบคุมระยะทางการบินเเละทำตามเเผนที่วางเอาไว้โดยการเเบ่งเป็นหลายกลุ่มอย่างกว้างขวางตามเเผนเดิม

  ภายใต้หน้ากากชุดโมบิลสูทเหล่านั้นได้ปรากฏจุดสีเเดงจำนวนนึงซึ่งก็คือเป้าหมายของพวกเขามันถูกล็อคด้วยพลังงานความร้อน ดังนั้น นี่ก็คือศัตรูที่พวกเขาจะต้องจัดการ

  จากนั้นไม่นานพวกเขาก็เริ่มหยิบใช้อาวุธจำนวนมากที่พกมายืนอยู่ภายใต้ตัวสไลด์ที่ช่วยในการบินพวกเขาได้เปิดฉากโจมตีพวกสัตว์ประหลาดเเละพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่เหลืออยู่

   !!! 

  …

   นี่ก็คือความสามารถด้านการเคลื่อนที่อย่างอิสระทีมพิเศษประจำยานรบบัญชาการอากาศยานสูงสุด  เห็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มทหารเหล่านั้น ผู้บัญชาการฟริสส์ กล่าวเเสดงท่าทางตกใจออกมา

   อืม,หลังจากที่ยานรบบัญชาการอากาศยานสูงสุดของเราได้ประสบความสำเร็จในการสร้างพวกเราก็ลงทุนไปไม่น้อยกับการสร้างทีมพิเศษประจำยานรบนี้ขึ้นมา เสียงของเจ้าหน้าที่โคลสันกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

  อันที่จริงหาก สตีฟ โรเจอร์ส ไม่ได้เป็น พันธมิตรของ โทนี่ เเละ เเจ็คสัน การพัฒนาของสำนักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. ในปัจจุบันย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะพัฒนาอย่างรวดเร็วขนาดนี้

  ยิ่งหากไม่มีเครื่องมือต้านเเรงโน้มถ่วงที่โทนี่สร้างให้ด้วยเเล้วก็เป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะประสบความสำเร็จดังนั้น ไม่ใช่เพียงเเค่พวกเขาได้ประโยชน์จาก ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ กับ โทนี่ เเต่ยังมี ชุดยายีนพิเศษ ของทางออสคอร์ป ที่ช่วยเหลือเทคโนโลยีในการรักษาเพื่อทำการฝึกรบทีมพิเศษนี้ขึ้นมาอีกด้วย

 

ปืนใหญ่พลังงานเลเซอร์ทำลายล้าง

  หึ่ม!

  ความผันผวนของกระเเสลมคลื่นพลังงานได้ส่งผ่านมาจากอากาศตอนบนเเละมันกำลังรุนเเรงมากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่จากองค์กร S.H.I.E.L.D. ได้จ้องมองไปที่ด้านบน ก่อนที่จะจ้องมองไปโดยรอบของตนเอง พวกเขาต้องการหลบหนีออกจากสนามรบนี่ให้ได้โดยเร็วที่สุด

   กัปตัน! พวกเราจะพาคุณออกไป! 

   รีบไปเร็วเข้า! 

  ฟุ่บ

  กัปตันทีมได้ถูกเเบกโดยสมาชิกทีมA สองคน สภาพอาการของกัปตันของพวกเขาตอนนี้เเทบจะไม่หายใจอยู่เเล้วดังนั้นพวกเขาจะต้องรีบพากัปตันออกจากที่นี่เเละเข้ารับการรักษาโดยด่วน

  ฟุ่บ

   ตรวจพบการโจมตีด้วยพลังงานเลเซอร์เเรงสูง เริ่มทำการหลบการโจมตี ในสนามรบ ขณะที่ ทหารของ องค์กร S.H.I.E.L.D. กำลังล่าถอย ไอรอนแมน บางตัว ได้รับการเเจ้งเตือนเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าวเเละเริ่มใช้มาตรการตอบโต้ทันที

  เเม้J.A.R.V.I.S จะไม่ได้ควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนเหล่านี้ เเต่ระบบการประมวลของชุดเกราะไอรอนแมน ก็ยังคงทำงานอยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถตรวจจับภัยคุกคามที่มีผลกระทบต่อชุดเกราะได้อย่างชัดเจน

  ถึงอย่างนั้นเพื่อลดความน่าจำเป็นลงไปได้J.A.R.V.I.S ก็ยังลอบติดต่อกับองค์กร S.H.I.E.L.D. เเละเชื่อมต่อกับพวกเขา เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือการโจมตีบนยานรบบัญชาการอากาศยาน

  โฮก!

  ขณะที่ทางกองทัพได้ถอยทัพออกจากพื้นที่รวมถึง ชุดเกราะไอรอนแมน ที่เริ่มใช้มาตราการหลบหลีก ทันใดนั้นเอง สัตว์ร้ายบางตัวก็ได้คำรามออกมาย่างโกรธเคือง ดูเหมือนว่าพวกมันจะมีสติปัญญา เเละ ส่งเสียงเเจ้งเตือนให้พวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์เเยกย้ายกันหลบหนี

   โฮก! เสียงคำรามของสัตว์ประหลาดได้ดังไปทั่วพื้นที่สนามรบเเห่งนี้ จากนั้น รังสีอำมหิตจำนวนมากก็จ้องมองไปผืนฟ้าด้านบนอย่างพร้อมเพียง

   %&;amp ; amp ; amp ; amp ; ¥#! เห็นสัตว์ประหลาดพวกนี้ส่งเสียงเเจ้งเตือน นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ ได้ตะโกนออกมาในเวลาเดียวกัน

  ความหมายของคำพูดของพวกเขาก็คือ‘ให้หลบหลีกการโจมตี’ เเม้สัตว์ประหลาดพวกนี้จะเเข็งเเกร่ง เเต่ก็ไม่ได้ไร้เทียมทานขนาดที่จะสามารถต้านทานอาวุธของศัตรูได้ รวมถึงการสูญเสียสัตว์ปีศาจพวกนี้ไปก็เท่ากับการสูญเสียกำลังรบหลักเพิ่มขึ้นไปด้วย

  อย่างไรก็ตามเสียงตะโกนของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์หลายคนได้ช้าเกินไปสัตว์ปีศาจเหล่านี้ได้ตกอยู่ภายใต้การเพ่งเล็งของเป้าการโจมตีเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว

  เปรี้ยง!

  พริบตาต่อมาบนท้องฟ้า ได้ปรากฏรังสีจำนวนมากพุ่งปกคลุมลงมาทั่วพื้นที่เเห่งนี้ ราวกับเเสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาเบื้องล่าง อย่างไรก็ตามรังสีเหล่านี้เเม้มีความสดใสมากกว่าเเสงอาทิตย์เเต่ก็ไม่ได้มีออร่ากลิ่นอายเเห่งความอบอุ่นของเเสงอาทิตย์อยู่เลย

  ลำเเสงสีเเดงได้พุ่งตัดลงมาที่เบื้องล่างอย่างรวดเร็วส่งผลให้พื้นที่โดยรอบเกิดการระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับอาวุธเลเซอร์ที่ติดตั้งอยู่บนชุดเกราะไอรอนแมนเเล้ว ลำเเสงจาก ยานรบบัญชาการอากาศยานสูงสุดนี้ นับว่ารุนเเรงกว่ามาก เพราะมันบีบอัดไปด้วยพลังงานระดับสูงสุด

  ห่าฝนสีเเดงได้พึ่งระเบิดเข้าใส่เป้าหมายอย่างเเม่นยำเป้าหมายของมันก็คือสัตว์ประหลาดยักษ์เหล่านี้ เพียงพริบตาเดียว รอบพื้นที่จำนวนมากก็เกิดการระเบิดขึ้นอีกครั้ง เเม้เเต่ซากปรักหักปพักที่พวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ใช้หลบซ่อนตัวก็ถูกทำลายไปด้วยเช่นเดียวกัน

  บึ้ม

  ร่างกายของสัตว์ประหลาดยักษ์ราวกับถูกเจาะทะลวงได้ของมีคมชนิดนึงเเสงเลเซอร์พลังงานสูงเหล่านั้นได้เจาะทะลุร่างกายของพวกมันโดยตรง โดยไม่เปิดโอกาสให้พวกมันได้มีลมหายใจสุดท้ายเเม้เเต่น้อย กลิ่นโลหิตคาวปีศาจได้ลอยคละคลุ้งไปทั่วพื้นที่เเห่งนี้

  ขณะที่ลำเเสงเลเซอร์ทำลายล้างกำลังสาดลงมาที่พวกสัตว์ประหลาดยักษ์เหล่านักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่ซ่อนตัว พวกเขาไม่เหมือนกับสัตว์ประหลาดเหล่านี้ที่ไร้หนทางต้านทาน นอกเหนือจากนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ทั้งสามคนที่หลบซ่อนตัวจากการโจมตีด้วยลำเเสงพลังงานเลเซอร์ ยังมีนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ 4 คน ที่ไม่ได้หลบเลี่ยงพวกเขาได้ใช้สิ่งของบางอย่างจากนั้นไม่นานพลังงานพิเศษเเขนงนึงก็ปรากฏครอบคลุมร่างกายของพวกเขาเอาไว้

  บึ้ม

  ภายใต้ม่านพลังพิเศษเหล่านี้ทำให้พวกเขาปลอดภัยจากการระดมโจมตีทำลายล้างนั่นเห็นได้ชัดว่า ม่านพลังนี้ก็คือหนึ่งในอาวุธพิเศษของพวกดาร์คเอลฟ์ เเม้จะไม่มีความสามารถในการส่งเสริมการโจมตีที่รุนเเรงเเต่ก็สามารถพอที่จะหยุดการโจมตีพลังงานทำลายล้างจากอาวุธเลเซอร์นั่นได้จากนั้นไม่นานการโจมตีก็ได้หยุดลง

  หึ่ม

  ผ่านไปสองวินาทีหลังจากที่พลังงานเลเซอร์ทำลายล้างสิ้นสุดลงม่านพลังพิเศษเหล่านั้นก็เริ่มคลายออกจากร่างของ นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ทั้ง สี่คน พวกเขาได้จ้องมองไปที่สถานการณ์เบื้องหน้าอย่างตื่นตระหนัก

  ฟุ่บ

   &;amp ; ¥……! เห็นสัตว์ปีศาจของพวกเขาตกตายภายใต้พลังทำลายล้างของเเสงเลเซอร์จำนวนมาก นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์เหล่านี้คำรามออกมาอย่างโกรธเคือง

  พวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ได้รอดพ้นจากการโจมตีจนเหลือเพียง7 คน เเม้จำนวนจะน้อยเเต่หากคิดจะชนะพวกเขาก็คงไม่ง่ายดายขนาดนั้น

  …

   การระดมยิงด้วยปืนใหญ่พลังงานเลเซอร์กำหนดเป้าหมาย 17 เป้าหมาย จัดการสำเร็จ 9 เป้าหมาย ! หลังจากที่การโจมตีอันทรงพลังเหล่านี้จบลง ข้อความรายงานก็ถูกส่งไปที่ผู้บัญชาการ ฟริสส์อีกครั้ง

   ยังเหลือรอดอีก9 ตัวเลยงั้นหรอ  เมื่อเห็นรายงาน ผู้บัญชาการ ฟริสส์ รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง

  ถ้าจะให้พูดก็คือการโจมตีเมื่อครู่เล็งการโจมตีไปที่เป้าหมายเพื่อกำจัดศัตรูทั้ง17 ตัว เเต่ยังสามารถหลงเหลือมากกว่า 9 ตัวนี้ได้ นั่นเเสดงให้เห็นว่าพวกมันไม่ง่ายที่จะจัดการ ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่มิติอวกาศก็ยังไม่ได้รับการเเก้ไข หากศัตรูสามารถออกมาจากพื้นที่มิติอวกาศนั่นได้เพิ่มขึ้นอีก การกำจัดเป้าหมายในครั้งนี้ก็เเทบจะไร้ผลซะด้วยซ้ำ

   ทางสำนักงานใหญ่กำลังส่งกองกำลังภาคพื้นดินไปสนับสนุนการโจมตีระลอกที่สองกำลังจะเริ่มขึ้น เมื่อผู้บัญชาการ ฟริสส์ กำลังครุ่นคิดอยู่ เขาก็ได้รับข้อความอีกครั้ง

   การโจมตีระลอก ที่สอง ไม่ใช่ว่าการโจมตีแบบทำลายล้างนั่นคือการสนับสนุนจากสำนักงานใหญ่เพียงเท่านั้นหรอกหรอ? ได้เห็นข่าวนี้ ผู้บัญชาการ ฟริสส์ รู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เขาได้ดูถูกความสามารถของสำนักงานใหญ่มากเกินไป เมื่อสำนักงานใหญ่ต้องการจัดการปัญหาจริง ๆ เเล้วล่ะก็ พวกเขาจะทุ่มกำลังอย่างเต็มที่เพื่อสำเร็จภารกิจโดยเร็ว

   ผู้บัญชาการฟริสส์ คุณดูนั่น ! ขณะที่ ผู้บัญชาการ ฟริสส์ กำลังสงสัย ผู้ช่วยของเขาก็ตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงที่น่าสนใจ

  ผู้บัญชาการฟริสส์ ได้เงยหน้าขึ้นไปมอง จากนั้นเขาก็ตาเเข็งค้างด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย การสนับสนุนระลอกที่สอง ได้ปรากฏออกมาจาก ยานรบบัญชาการอากาศยานสูงสุด พวกเขาคือทีมภาคพื้นดินที่ถูกก่อตั้งขึ้นใหม่เพื่อสำหรับภารกิจพิเศษเช่นนี้โดยเฉพาะ

 

สมรภูมิรบที่รุนเเรงในลอนดอน

  บึ้ม!

   บ้าเอ้ยพวกมันเเข็งเเกร่งเกินไป! พวกเราจะต้านมันไม่อยู่เเล้ว ! ขณะเดียวกันทางด้าน กัปตันหัวหน้าทีมที่ประจำการอยู่ที่นี่ ก็ส่งเสียงโห่ร้องออกมาอย่างหวาดกลัว

   เเค๊ก… ไม่นานเขาก็ล้มลงจนไม่สามารถลุกขึ้นมายืนได้ในที่สุด

  ฟุ่บ

   กัปตัน! ~~ 

   เจ้าพวกสัตว์ประหลาดตายซะ !! 

  บึ้ม

  หลังจากเห็นกัปตันของพวกเขาถูกโจมตีจนบาดเจ็บสาหัสเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ไม่ไกลที่กำลังต่อสู้ได้รับยกอาวุธใหญ่ที่สุดของพวกเขายิงไปยังตำเเหน่งสัตว์ประหลาดด้านหน้ากัปตันอย่างรวดเร็ว ในเวลา เเทบทุกคนได้รับบาดเเผลกันสาหัส จนไม่สามารถต้านทานพวกมันได้นานกว่านี้ หากปล่อยไว้แบบนี้ต่อไป อีกไม่นานพวกเขาจะถูกฆ่าตายกันหมด

  บึ้ม

  เมื่อสมาชิกทีมหลายคนพุ่งเข้าหากัปตันทีมของพวกเขาเสร็จพวกเขาก็หยิบอาวุธขึ้นมาต่อต้านศัตรูรอบด้านในทันที เเต่ว่าการโจมตีของพวกเขาเหล่านี้หาได้มีผลมากขนาดนั้นเพราะสัตว์ประหลาดพวกนี้เเข็งเเกร่งเเละว่องไวทำให้สามารถหลบการโจมตีของพวกเขาได้ การช่วยเหลือจากเครื่องบินรบเอง ก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพราะข้างล่างมีพวกทหารที่นอนหมดสติเเละบาดเจ็บอยู่กันเกลื่อนกอง

  ปั้งปั้ง

  บึ้ม

   จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากพวกเรายังคงยื้อต่อไปแบบนี้พวกเราจะตายกันทั้งหมดเเน่  เห็นการต่อสู้รบด้าน ผู้บัญชาการรบชั่วคราว ได้ส่งเสียงออกมาอย่างน่ารังเกลียด

   พวกเราไม่สามารถยื้อต่อไปได้อีกเเล้วเราจะต้องถอยทัพ ! หลังจากได้ยินผู้บัญชาการคนนี้กล่าวออกมา ผู้ช่วยของเขาได้กล่าวพูดขึ้น

   เเต่ว่าท่านผู้บัญชาการ ฟริสส์ ! พวกเราไม่สามารถทิ้งทหารคนอื่น ๆ !  หลังจากผู้ช่วยกล่าวพูดขึ้น ทหารอีกคนที่อยู่ด้านหลังของพวกเขาก็กล่าวโน้มน้าว

  ตามสถานการณ์ปัจจุบันเเม้ว่าตัวเลือกถอยทัพจะเป็นตัวเลือกที่ดีรที่สุดตอนนี้เเต่ว่าทุกหน่วยกำลังทำการต่อสู้อยู่หากพวกเขาออกคำสั่งถอยทัพไป ก็เท่ากับว่าปล่อยผ่านศึกที่นี่ เเละอาจทำให้เพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ ที่พยายามจะถอยทัพต้องตกตายภายใต้การหลบหนีระหว่างทาง ยิ่งไปกว่านั้นหากศัตรูหลุดรอดออกไปจากที่นี่ได้ไม่เพียงเเต่หายนะที่จะตามมา สิ่งที่ร้ายเเรงที่สุดอาจถึงขั้นทำให้โลกเกิดความโกลาหล

   ไม่ใช่ว่าฉันต้องการปล่อยให้ทหารกล้าพวกนี้ต้องเสียสละทุกคนคือคนที่น่านับถือที่สุด อย่างไรก็ตาม พวกเรายังไม่ได้รับกองกำลังเสริมการสนับสนุน ทางด้าน ไอรอนแมนเอง ก็ยังไม่มีข่าวคราวเลย ถึงเเม้ว่าพวกเราจะถอนตัวออกไปก็ใช่ว่าจะสามารถรอดออกไปได้อย่างปลอดภัย ได้ยินคำพูดเหล่านั้น ผู้บัญชาการ ฟริสส์ ตอบกลับ

   ถ้าพวกเราได้รับการสนับสนุนจากทีมอเวนเจอร์ส บางทีอาจสามารถช่วยเหลือการปิดกั้นสัตว์ประหลาดพวกนี้ได้ ! ได้ยินเสียงของผู้บัญชาการ ฟริสส์ นายทหารชั้นสูงคนนี้ตอบกลับ

  นายทหารชั้นสูงคนนี้เคารพกัปตันอเมริกาอย่างสตีฟ โรเจอร์ส ด้วยความจริงใจ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาได้อาสาเข้ามาช่วยเหลือเเละรับภารกิจจัดการที่นี่

  ได้ยินคำพูดของนายทหารชั้นสูงผู้บัญชาการ ฟริสส์ ไม่รู้ควรจะตอบกลับอย่างไร ทีมของพวกเขาถูกส่งมาประจำการที่ลอนดอนเเห่งนี้ จะเรียกว่าเป็นสนามรบย่อยอีกเเห่ง ในระหว่างที่สนามรบหลักเกิดขึ้นที่ไซบีเรียก็ว่าได้ ดังนั้นการสนับสนุนด้านกำลังคนจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเทียบกับสนามรบหลักที่ไซบีเรีย

  เพราะที่ไซบีเรียสถานที่เเห่งนั้น จัดเป็น สถานที่อันตรายระดับ S ทางกองกำลัง S.H.I.E.L.D. ได้ทุ่มทรัพยากรเเละอาวุธรวมถึงกำลังคนเเทบจะทั้งหมดไปร่วมศึกที่นั่น

   กัปตันโรเจอร์สพวกเขา… 

  ติ๊ด

  ขณะที่ผู้บัญชาการฟริสส์ กำลังหัวเสียกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่ลอนดอนในเวลานี้จู่ ๆ เขาก็ได้รับข้อความเร่งด่วนในทันที

  เขาหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาเพื่อเปิดดูข้อมความ

  ทันทีที่เห็นข้อความนั่นดวงตาของ ผู้บัญชาการ ฟริสส์ ก็เบิกกว้างด้วยความยินดี ดูเหมือนทางสำนักงานใหญ่กำลังส่งตัวช่วยเหลือที่รุนเเรงที่สุดมาให้พวกเขา เดิม ผู้บัญชาการ ฟริสส์ เเทบจะถอดใจกับศึกครั้งนี้เเล้ว เเละ ต้องการเสนอให้สำนักงานใหญ่ระเบิดพื้นที่เเห่งนี้ด้วย ระเบิดนิวเคลียร์ ทิ้งไปซะ เเต่ไม่คิดเลยว่า สำนักงานใหญ่กลับเลือกที่จะส่งสิ่งนั้นมาเเทน บางทีไม่จำเป็นต้องมีทีมอเวนเจอร์ส เพียงเเค่มีเจ้าสิ่งนั้นก็น่าจะพอควบคุมสถานการณ์ที่นี่ได้

   การสนับสนุนจากสำนักงานใหญ่! ทางสำนักงานใหญ่ กำลังส่งตัวช่วยเหลือที่เเข็งเเกร่งที่สุดมาให้พวกเราเเล้ว !  ผู้บัญชาการ ฟริสส์ อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น ทำให้ นายทหารชั้นสูงบางคนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย

   ผู้บัญชาการฟริสส์ ยานรบสูงสุด (ยานบัญชาการอากาศยาน ) กำลังจะเข้าสู่พื้นที่สนับสนุนพวกคุณในอีก หนึ่งนาที เพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิต หลังจากสิบวินาที จะทำการปลดล็อคการโจมตีด้วยเลเซอร์แบบตายตัว 

   คุณสามารถสั่งการถอยทัพได้ นี่เป็นข่าวที่ผู้บัญชาการ ฟริสส์ ได้รับมาจากสำนักงานใหญ่ ทางสำนักงานใหญ่ได้ส่งยานรบสูงสุดมาช่วยเหลือพวกเขา

  เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ไซบีเรียข้อมูลสถานการณ์ทางด้านนั้นไม่ชัดเจนทำให้ทางสำนักงานใหญ่ไม่อาจตัดสินใจส่ง ยานรบสูงสุดออกไปช่วยเหลือได้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่ลอนดอนนั้นได้รับการประเมินให้เลื่อนเป็นสถานการณ์อันตรายระดับ S ธรรมชาติ ทางสำนักงานใหญ่จำเป็นจะต้องส่งตัวเลือกช่วยเหลือที่ร้ายกาจที่สุดออกมา

  เมื่อเทียบสถานการณ์ที่สามารถระบุได้จริงในตอนนี้เหตุการณ์ที่ลอนดอน เข้าข่ายว่ารุนเเรงที่สุด ดังนั้นทางสำนักงานใหญ่จึงไม่ลังเลที่จะส่ง ยานบัญชาการอากาศยานสูงสุดมาช่วยเหลือ เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายไปมากกว่านี้

   ยานบัญชาการอากาศยานสูงสุด! หลังจากได้เห็นข้อความบนเครื่องมือสื่อสาร นายทหารผู้ช่วย เเละ นายทหารชั้นสูงหลายคนได้ตะโกนร้องขึ้นอย่างดีใจ

  ทางสำนักงานใหญ่ได้ใช้เวลาหลายปีในการพัฒนายานบัญชาการอากาศยานสูงสุดอยู่หลายปีกว่าจะประสบความสำเร็จเเละ ในช่วงเวลาไม่นานก่อนหน้านี้ได้ทำการทดสอบจริง เกี่ยวกับการทดลองบินครั้งเเรก โดยการบุกฐานทัพของพวกไฮดร้าเเละโจมตีที่นั่น ตั้งเเต่นั่นมา ทางสาขาขององค์กร ก็ให้ความสนใจเกี่ยวกับ ยานบัญชาการสูงสุด นี่จนเเทบอยากจะเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง

   ส่งคำสั่งออกไปสั่งให้ทุกคนถอยทัพได้ ช่วยเหลือ ผู้ที่บาดเจ็บมากที่สุด ดำเนินการในทันที หลังจากเเจ้งข่าวให้ ผู้ช่วย เเละ นายทหารชั้นสูงรับทราบ ผู้บัญชาการ ฟริสส์ ก็กล่าวสั่งการถอยทัพทันที

  หึ่ม

  ผ่านไปไม่นานหลังจากที่ผู้บัญชาการฟริสส์ ออกคำสั่งถอยทัพ ด้านบนศีรษะของพวกเขาก็ปรากฏคลื่นลมผันผวนที่ส่งออกมาอย่างรุนเเรงเป็นระลอก ๆ

 

เดดพูลมารอ

  ทางเข้าล็อบบี้อาคารสตาร์คอินดัสตรีท์ เดดพูล ได้วางเสื้อคลุม ฮีโร่ตัวโปรดของตัวเองลง จากนั้นก็มองไปที่สิ่งก่อสร้างอันหรูหราที่เบื้องหน้า เเม้ว่า ในนิวยอร์กเเห่งนี้ เหล่าฮีโร่อย่างพวกเขาจะโด่งดัง เเต่ก็ใช่กับทุกคน โดยเฉพาะ ฮีโร่ที่ไม่ค่อยโด่งดังอย่างเขา

   เดดพูลทำไมคุณยังยืนรออยู่ที่หน้าทางเข้า ทำไมไม่รีบเข้าไปเลย หลังจากเดดพูลมาถึงที่ สตาร์คอินดัสตรีท์ เสียงของ เจอร์รี่ ก็ได้ดังขึ้นสำหรับ อาการบาดเจ็บของ มิราจไนท์ เจอร์รี่ ไม่สามารถรอนานได้

   ที่นี่คืออาคารสตาร์คอินดัสตรีท์ฉันเองก็ยังมีจิตสำนึกผิดชอบชั่วดีอยู่ ถึงพวกเราทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์กับพวกเขาจะเป็นพันธมิตรกันเเต่เราก็ควรได้รับการอนุญาติสักก่อน ฉันไม่สามารถพุ่งเข้าไปได้ตามอำเภอใจ ได้ยินเสียงของ เจอร์รี่ ที่ดังอยู่ในหู เดดพูล ได้กล่าวพูดออกมา

  สามารถเข้าสู่อาคารสตาร์คอินดัสตรีท์ได้จะต้องเป็นพนักงานของที่นี่ดังนั้นหากบุคคลนอกต้องการเข้าสู่ภายในตัวอาคารพวกเขาจะต้องทำการนัดหมายเข้ามาซะก่อนเเต่เห็นได้ชัดว่าเดดพูลไม่ได้ทำการนัดหมายเข้ามา

  ติ๊ด

   คุณเดดพูล ผมคือ J.A.R.V.I.S. ทางเราได้รับการเเจ้งเตือนเกี่ยวกับการมาถึงของคุณเเล้ว คุณสามารถเข้ามาได้เลย ผมได้เเจ้งพวกเขาไม่ให้ปิดกั้นคุณ ขณะนั้นเองเสียงของ J.A.R.V.I.S. ได้ดังขึ้น

   หึ่ม! J.A.R.V.I.S. คุณไม่ได้รับการติดต่อจากฉันงั้นหรอ หลังจากเสียงของ J.A.R.V.I.S. ดังขึ้น เสียงประท้วงอันไม่พอใจของเจอร์รี่ก็ตอบกลับ

   คุณสกาย’อาย ขอโทษที่ผมไม่สามารถตอบกลับสายของคุณได้ พอดีผมติดสายอยู่ หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเจอร์รี่J.A.R.V.I.S. ก็พูดขอโทษ

  เจอร์รี่ … 

  ขณะที่เจอร์รี่ เเละ J.A.R.V.I.S. กำลังสนทนากัน เดดพูล ไม่ได้สนใจพวกเขาเพียงเดินก้าวเข้าไปโดยไม่สนใจการรักษาความปลอดภัยของที่นี่ เพราะหากเขาไม่ได้รับการต้อนรับจริงเขาก็คงโดนกีดกัดออกมาเเล้ว

   มันเป็นเรื่องจริง! เห็นคนอื่นๆ ไม่ได้เข้ามาขวางทางเขาขณะเข้าไป เสียงของเดดพูล ได้ส่งออกมาเบา ๆ

  เเต่ทว่าขณะที่เดดพูลเดินเข้ามาเขาก็ถูกสายตารอบข้างจ้องมองด้วยความสงสัย เกี่ยวกับสถานะของ เดดพูล มีคนจำนวนมากที่รู้อยู่เหมือนกัน เเต่พวกเขาก็ไม่ได้เข้ามาทักทายด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง

  ช่วงที่เดดพูลเข้าสู่ตัวอาคารสำเร็จ เดดพูลไม่ได้สนใจการจ้องมองของคนรอบข้าง เขาได้เดินไปตามทางเดินภายใต้การเเนะนำของ J.A.R.V.I.S.

  ขณะที่เดดพูลเดินตามคำเเนะนำของ J.A.R.V.I.S. ทางช่องทางสนทนา J.A.R.V.I.S. กับ เจอร์รี่ ก็กำลังสนทนากันอยู่ด้านหลัง

   คุณสกาย’อายคุณมีความมั่นใจจริงๆงั้นหรอ ได้รับรู้ข้อมูลบางอย่างจาก เจอร์รี่ J.A.R.V.I.S. กล่าวถามออกมาเพื่อยืนยันคำตอบของเขา

   เเน่นอนว่าย่อมมีความมั่นใจตราบเท่าที่ ไอซ์แมนสามารถมองหาปีศาจสาวเจอ เเละ ด้วยยีนพิเศษของเดดพูล พวกเราสามารถใช้ความสามารถการกลายพันธุ์ของเขาในการรักษา มิราจไนท์ได้ เจอร์รี่ ตอบกลับอย่างจริงจัง

   เกี่ยวกับข้อมูลของธอร์คุณบอกว่าพวกเขาตอนนี้กำลังทดลองการรักษาโดยมีโอกาสสำเร็จเพียงเเค่ 10% งั้นหรอ 

   ผมเองก็ไม่มั่นใจเกี่ยวกับวิธีการรักษาของเขาเเต่อย่างไรก็ตาม คุณมั่นใจงั้นหรอว่าปีศาจสาวที่คุณพูดถึงจะยินยอมมาด้วย  หลังจากพิจารณาข้อมูลจาก เจอร์รี่ เเละ ธอร์ J.A.R.V.I.S. ยังคงประเมินประสิทธิภาพเเละหนทางที่จะสามารถช่วยเหลือ เเจ็คสันได้

  …

  เจอร์รี่ได้เสนอหนทางที่จะสามารถช่วยเหลือเเจ็คสันเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะหาทางช่วยเหลือให้ได้,ทางด้านชานเมืองลอนดอนตอนนี้สำนักงานใหญ่ของ S.H.I.E.L.D. ได้ส่งเครื่องบินรบมาทิ้งระเบิดเเละทำลายพื้นที่เป็นวงกว้าง

  บึ้ม!

  เเม้สถานที่เเห่งนี้จะเป็นสถานที่รกร้างว่างเปล่าจนสามารถทำลายตัวอาคารได้อย่างตามใจชอบ เเต่ขอบเขตวงกว้างของสงครามก็ได้เริ่มเเพร่ขยายไปไกลมากขึ้น

  ในปัจจุบันพื้นที่เเห่งนี้เเทบจะกลายเป็นเศษซากปรักหักพังทั้งหมด

  บึ้ม

   พื้นที่เอเรียB12 ต้องการกองกำลังสนับสนุน ย้ำ พื้นที่เอเรีย B12 ต้องการกองกำลังสนับสนุน ! 

  บึ้มบึ้ม

   พื้นที่เอเรียD5 ปรากฏศัตรูระดับ A เราต้องการการสนับสนุนด้วยอาวุธขนาดใหญ่ 

  บึ้ม

  ในพื้นที่ส่วนนี้ได้กลายเป็นซากปรักหักพักสนามรบเเต่ละภูมิภาคได้กระจายเสียงโห่ร้องของพวกคนจากองค์กร S.H.I.E.L.D. ที่กำลังทำการสู้อยู่ พละกำลังเเละความเเข็งเเกร่งของศัตรู ยิ่งใหญ่เกินความคาดหมายของพวกเขา โดยเฉพาะสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากอาวุธปืนใหญ่ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะสามารถทำร้ายพวกมันได้

  เเน่นอนว่าทางองค์กรS.H.I.E.L.D. ตอนนี้ได้สนับสนุนอาวุธทางกองทัพจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นรถถังเครื่องบินพวกเขาได้ส่งสิ่งเหล่านี้ออกมาจัดการพวกสัตว์ร้ายพวกนี้ อย่างไรก็ตามพวกสัตว์ร้ายพวกนี้ก็มีความเเข็งเเกร่งเเละพละกำลังที่ว่องไวใช่ว่าพวกเขาจะสามารถโจมตีพวกมันโดนทุกครั้งไป ผ่านไปไม่นานสนามรบเเห่งนี้ก็กลายเป็นพื้นที่สงครามวงกว้าง

  นอกเหนือจากความร้ายกาจของพวกสัตว์ร้ายเหล่านี้เเล้วก็ยังมีพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ปรากฏตัวขึ้นมาอีกด้วยไม่เพียงเเต่พละกำลังที่เหนือกว่าสัตว์ร้ายพวกนั้นพวกมันยังครอบครองเทคโนโลยีชั้นสูงที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกมันอีก ดังนั้นการเผชิญหน้ากับพวกมัน ด้วยศักยภาพทีมขององค์กร S.H.I.E.L.D. ตอนนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะต้านทานพวกมันอยู่

 

เรื่องกังวลมากมายหลังจากกลับมา

  เป็นระยะเวลาเพียงไม่กี่นาทีจากฐานที่ไซบีเรียกลับมาที่ สหรัฐอเมริกา นิวยอร์ก โทนี่ ในปัจจุบัน ได้ทราบข่าวเกี่ยวกับพื้นที่มิติอวกาศที่กรุงลอนดอนเเล้ว เเต่ในปัจจุบันเขาปล่อยให้ไอรอนแมนทำหน้าที่จัดการโดยหารู้ไม่ว่าระบบส่วนกลางของ J.A.R.V.I.S ได้เกิดข้อผิดพลาดขึ้น

   เจ้านายครับ,คุณเเฮร์รี่ เเละ ธอร์ กำลังหาวิธีช่วยเหลือเเจ็คสัน เเต่เปอร์เซ็นความสำเร็จนั้นมีน้อยมากตอนนี้ คุณเเฮร์รี่ กำลังเฝ้ามองการกระทำของธอร์อยู่ J.A.R.V.I.S ได้กล่าวรายงานกับโทนี่

   สำหรับคุณเป็ปเปอร์ เขาต้องการรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น บางทีตอนนี้ คุณอาจไปหาเธอเพื่ออธิบายเรื่องทั้งหมดให้ชัดเจน 

  ได้ยินคำพูดของJ.A.R.V.I.S สีหน้าของโทนี่กลายเป็นน่าเกลียดอย่างมาก เขาเพิ่งกลับมาจากการต่อสู้อันโหดร้ายที่ด้านหลังประตูมิติอวกาศหลังจากกลับสู่โลกก็มีเรื่องราวมากมายที่ทำให้เขารู้สึกกังวล เขารู้สึกเหนื่อยล้าที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก

   อืม,ทางด้านเป็ปเปอร์ฉันจะหาเวลาว่างไปอธิบายเธอด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อครู่นายบอกว่า เเฮร์รี่ กับ ธอร์ มีวิธีช่วยเหลือ เเจ็คสัน เเล้ว หมายความว่าไง  โทนี่ เปิดปากถามอย่างสงสัย

   คุณธอร์มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพลังของพวกดาร์คเอลฟ์สิ่งที่คุณเเจ็คสันโดยคือพลังงานมืดของพวกดาร์คเอลฟ์ ดังนั้นคุณธอร์จึงพยายามหาทางช่วยเหลือโดยใช้ความเเข็งเเกร่งของตนเอง เเต่ดูเหมือนมันจะยังไม่เพียงพอ ดังนั้นตอนนี้เขากำลังจะลงมือทดลองอะไรบางอย่าง เเต่เปอร์เซ็นความสำเร็จนั้นมีเพียงเเค่ 10 % เท่านั้น ได้ยินคำถามของ โทนี่ J.A.R.V.I.S ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

   มีความเข้าใจเกี่ยวกับพวกดาร์คเอลฟ์ ดูเหมือน ธอร์ ไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวธรรมดา เขาน่าจะมาจากโลกที่คล้ายกับโลกของพวกดาร์คเอลฟ์ เเต่อย่างไรก็ตามเขากล้าที่จะทดลองการรักษาทั้งที่รู้ว่ามีโอกาสประสบความสำเร็จเพียงเเค่ 10 % ? เขาเห็นนี่เป็นเรื่องล้อเล่นหรือยังไง? ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ เเทบไม่อยากจะเชื่อว่าพวกนั้นคิดอะไรกันอยู่

   จริงสิJ.A.R.V.I.S นายบอกว่า เเจ็คสันได้กำบางสิ่งบางอย่างในมือของเขาไว้ใช่หรือไม่ เเละผลประสิทธิภาพของมันคล้ายกับกำลังฟื้นฟูร่างกายของ เเจ็คสัน ? โทนี่ ได้กล่าวถาม J.A.R.V.I.S อีกครั้ง

  เกี่ยวกับสถานการณ์ของเเจ็คสัน J.A.R.V.I.S บอกกล่าวกับโทนี่ทั้งหมด เเน่นอนว่าเขารู้ว่า เเจ็คสันถูกพลังงานมืดกลืนกินพลังชีวิตอยู่ เเต่เพราะในมือของเเจ็คสันได้ถือสิ่งของลี้ลับบางอย่างทำให้เขาในตอนนี้ยังคงสามารถประคองชีวิตเอาไว้ได้

   ผมไม่สามารถประเมินออกมาได้เกี่ยวกับสิ่งที่คุณเเจ็คสันถือเอาไว้ไม่มีฐานข้อมูลมที่เเน่ชัด เเต่ผลการสำรวจประเมินโดยรวมเเล้ว พลังงานที่ถูกส่งออกมาจากสิ่งนั้นกำลังช่วยเหลือการต่อต้านพลังงานมืดไม่ผิดอย่างเเน่นอน 

   ดังนั้นถ้าผมวิเคราะห์ไม่ผิดสิ่งที่อยู่ในมือของคุณเเจ็คสันอาจสามารถช่วยเหลือสถานการณ์ของคุณเเจ็คสันตอนนี้ได้ เเต่อย่างไรก็ตาม ในหมู่พวกเราไม่มีใครรู้ว่ามันคือสิ่งใดเเละทำงานยังไง J.A.R.V.I.S ตอบกลับตามความคิดของเขา

   ไม่ระบุได้ว่ามันคือสิ่งใด ชั่งเถอะ ยังไงเราก็ต้องหาวิธีอื่นเพื่อช่วยเหลือเเจ็คสัน ! ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ตอบกลับอย่างจริงจัง

  โทนี่หวังว่าจะพักผ่อนหลังจากจบศึกที่ร้ายเเรงมาเมื่อไม่นานนี้เเต่อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่สไตล์ของเขา เขาไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น ตอนนี้เขาจะต้องหาวิธีช่วยเหลือ เเจ็คสัน เเละ โทนี่ ก็มีความคิดอยู่มากมายในหัว หากท้ายที่สุดเเล้ววิธีการทั้งหมดของเขาไม่ได้ผล เขาจะกลับไปที่ประตูมิติอวกาศที่ไซบีเรียเเละเข้าร่วมสนามรบอีกครั้ง จากนั้น ก็หาตัวพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ชั้นสูงมาเพื่อช่วยเหลือเเจ็คสันในการกำจัดพลังงานมืด

  ติ๊ด~

   เจ้านายครับ,มีสายวิดีโอคอลจากคุณ เป็ปเปอร์ 

  ขณะที่โทนี่ กำลังครุ่นคิดหาหนทางรักษาเเจ็คสันจู่ ๆ สายวิดีโอคอลจาก เป็ปเปอร์ ก็ได้เด้งขึ้นมา

  พริบตาต่อมาโทนี่ได้กดรับสายจากนั้นภาพโปร่งเเสงก็ได้เเสดงภาพส่วนศีรษะของเป็ปเปอร์ในปัจจุบัน

   สวัสดีเป็ปเปอร์ คุณยังคงดูดีเหมือนเดิม! โทนี่ ที่ไม่ได้เตรียมตัวสำหรับคำเเก้ตัวได้หาวิธีเเสดงออกอย่างผ่อนคลายเเละกล่าวทักทายออกไป

  อย่างไรก็ตามคำทักทายของโทนี่ ทำให้ เป็ปเปอร์ รู้สึกโกรธมากเเต่เธอราวกับไม่ได้เเสดงออกมาทั้งหมด

   โทนี่คุณไม่ไปช่วยโลกเเล้วงั้นหรอ 

  โทนี่ … 

  ได้ยินคำทักทายของเป็ปเปอร์ทำให้โทนี่ถอนหายใจออกมาด้วยอารมณ์ที่มากมายดูเหมือนเป็ปเปอร์จะรู้เเล้วว่าเขาไปไหนไม่ใช่ว่าโทนี่ต้องการปิดบังเรื่องนี้ กับเป็ปเปอร์ เเต่เขากังวลว่าเธอจะเป็นห่วงเขามากกว่า

   J.A.R.V.I.Sนายบอกเธอว่าฉันไปไหนมาอย่างงั้นหรอ โทนี่พยายามพึมพัมถามกับ J.A.R.V.I.S

  ไม่ต้องรอให้โทนี่ อธิบาย เห็น การเเสดงออกของ โทนี่ เป็ปเปอร์ก็ได้ตัดสายไปอย่างรวดเร็ว

  ในช่วงวิดีโอคอลเป็ปเปอร์ สามารถเห็นบาดเเผลจำนวนมากบนร่างกายของ โทนี่ เเต่เธอก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกมา เธอรู้ว่าโทนี่รู้ว่าตนเองเป็นห่วงเขามาก เเต่เขาก็ยังออกไปทำอะไรแบบนี้ เรื่องนี้ทำให้ เป็ปเปอร์ รู้สึกโกรธมาก

  หากโทนี่เป็นอะไรขึ้นมาเธอจะรู้สึกยังไงเพราะโทนี่ได้นำชุดเกราะไอรอนแมนออกไป ถึงจะเป็นแบบนั้นเเต่ก็ยังกลับมาด้วยสภาพที่ล่อเเล่เเละได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก บนผิวหนังเหล่านั้นได้ปรากฏเลือดไหลออกมา ทำให้ เป็ปเปอร์ รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจอย่างเเปลก ๆ

  ดังนั้นตอนนี้เธอไม่หวังจะรบกวนโทนี่เเละปล่อยให้เขาพักผ่อนหลังจากจบการต่อสู้ที่เหนื่อยล้ามา ไว้เธอค่อยขอคำอธิบายจากเขาในภายหลัง

   ดูเหมือนว่าหลังจากนี้ฉันจะต้องเตรียมคำเเก้ตัวดีๆ เอาไว้สินะ ! โทนี่ ถอนหายใจออกมาอย่างทำตัวไม่ถูก

  ติ๊ด~

   เจ้านายครับ,คุณเดดพูลจากทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ได้มารอที่ล็อบบี้ด้านล่างอาคาร ขณะเดียวกัน เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้เเจ้งเตือน

   เดดพูล เพื่อนคนนี้มาหา เเจ็คสันงั้นหรอ ? เขาเคยร่วมงานเเละเผชิญหน้าอันตรายกับ เเจ็คสัน อยู่บ่อยครั้ง คราวนี้เขามาเพราะเยี่ยมอาการของเเจ็คสันงั้นสินะ ? ได้ยินเสียงเเจ้งเตือนของ J.A.R.V.I.S โทนี่กล่าวคาดเดา

   ให้เขาเข้ามา 

   ครับเจ้านาย! 

 

790 โอกาส 10%

  เปรี๊ยะ

  หลังจากที่เเฮร์รี่เห็นอย่างชัดเจนเกี่ยวกับพลังของเทพเจ้าสายฟ้าเขาก็รู้สึกชื่นชมอยู่ส่วนนึง ในเวลานี้ ธอร์ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักเขาจำเป็นจะต้องฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าภายในร่างกายเสียก่อน ดังนั้นถึงจะสามารถช่วยเหลือเเจ็คสันได้ เเม้ว่าเขาจะสามารฟื้นคืนพลังกลับมาได้อย่างรวดเร็วเเต่มันก็ยังมีขีดจำกัดอยู่

   เเท้จริงเเล้วนายไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวธรรมดาๆ  หลังจากที่เห็นธอร์เเสดงพลัง เเฮร์รี่ กล่าวพูดขึ้น

  ธอร์ ข้าไม่ใช่มนุษย์ต่างดาว 

  พลังงานสายฟ้าของธอร์ได้ปลดปล่อยออกไปกระทบกระพลังงานมืดนั่นธอร์ต้องการใช้พลังเทพเจ้าสายฟ้าของตัวเองในการสลายพลังมืดของพวกดาร์คเอลฟ์เเต่ถึงอย่างไรเเม้เขาจะใช้พลังอย่างเต็มที่จนสลายพลังมืดนั่นไปได้ เเต่พลังมืดนั่นก็คืนค่ากลับมาอีกครั้ง จนในที่สุด ธอร์ก็ไม่สามารถปลดปล่อยพลังได้อีก สีหน้าของเขาตอนนี้เคร่งเครียดมาก หากไม่รีบกำจัดพลังมืดนี่ออกอาจเป็นไปได้ว่าเเจ็คสันกำลังจะจบชีวิตลงในไม่ช้า

   หึ่มดูเหมือนว่าสถานะเจ้าชายผู้ยิ่งใหญ่เเห่งเเอสการ์ดก็ไม่เท่าไหร่ เพราะเเม้เเต่เรื่องเเค่นี้่นายก็ไม่สามารถช่วยเหลือ เเจ็คสันได้ เเฮร์รี่ พึมพัมออกมา หลังจากเห็นพลังของธอร์ได้หดหายไป

  เดิมเเฮร์รี่ ได้รู้จักสถานะของ ธอร์ จาก เเจ็คสัน เขารู้ว่า ธอร์ เป็นมนุษย์ต่างดาว เเละ มาจากเเอสการ์ด อย่างไรก็ตาม เเฮร์รี่ หาได้รู้จักพลังที่เเท้จริงของธอร์ไม่ เขาเพียงเเค่พูดออกมาตามอารมณ์หลังจากเห็นเธอที่เปรียบเสมือนความหวังไม่สามารถจัดการพลังมืดเพื่อช่วยเหลือเเจ็คสันได้

  ได้ยินคำพูดของเเฮร์รี่ธอร์ รู้สึกเจ็บใจอย่างบอกไม่ถูก พอเห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของ เเจ็คสัน เเล้ว เขาเองก็หวังว่าจะสามารถฟื้นคืนพลังเหนือธรรมชาติของตนเองให้กลับมาได้อย่างสมบูรณ์ตอนนี้ เพื่อที่จะช่วยเหลือ เเจ็คสัน เเละ กำจัดพลังงานมืดที่น่ารำคาญนี่ออกไป

   บัดซบ! ฮัมดาลล์ เจ้าได้ยินข้าหรือไม่ ข้าต้องการความช่วยเหลือตอนนี้ ธอร์รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจเกี่ยวกับความเเข็งเเกร่งของตนเองที่ถูกระงับเอาไว้ ดังนั้นเขาจึงเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้น เเละ ตะโกนออกมาอย่างรุนเเรง

  ธอร์รู้ว่า ฮัมดาลล์ เฝ้ามองตนเองอยู่อย่างเเน่นอน เเม้เเต่ตอนที่ เขา เเละ เจนหายตัวไป ฮัมดาลล์ ก็ไม่น่าจะอยู่นิ่งเฉย เเต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าสถานที่ที่เขาหลุดเข้าไป ฮัมดาลล์ ไม่สามารถช่วยเหลือได้ เเต่ตอนนี้ ธอร์ต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ เขาหวังว่าจะสามารถช่วยเหลือชีวิตของเเจ็คสันได้ ดังนั้น ธอร์ จึงจ้องมองบนเเละตะโกนขึ้นอย่างสุดเเรง

  เสียงตะโกนของธอร์ทำให้ เเฮร์รี่ รู้สึกอารมณ์เสียมาก เขาจ้องมองไปที่บนเพดานเหมือนกับธอร์ เเต่ก็ไม่พบอะไรจนสงสัยว่าเพื่อนตัวยักษ์คนนี้กำลังเป็นบ้าหรือยังไง เเจ็คสันกำลังจะตายอยู่เเล้ว เขายังมีหน้ามาเล่นตลกเช่นนี้อยู่อีก

   นาย…นายกำลังทำบ้าอะไร เห็นธอร์ยังคงไม่ล้มเลิกความตั้งใจในบางอย่างเเฮร์รี่ ที่ยืนมองดูหลายวินาทีได้ตะโกนห้ามขึ้น

  หึ่ม~~

  อย่างไรก็ตามเเม้จะได้ยินเสียงของเเฮร์รี่ ธอร์ก็ไม่ได้หยุดการกระทำลง จนเขารู้ตัวว่า ฮัมดาลล์ หาได้สนใจการตอบสนองต่อเขาไม่ ในที่สุด สายตาของธอร์ก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง

   เจ้าอยากให้ข้าทำแบบนี้จริงๆ ใช่มั้ย  หลังจากลดระดับสายตาลงมา ประกายนัยน์ตาของธอร์ก็ปรากฏร่องรอยของไฟฟ้า จาง ๆ

   หืม เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ ? เเฮร์รี่ ไม่รู้ว่าธอร์กำลังจะสื่ออะไร เขาที่อยากรู้อยากเห็นจึงได้กล่าวถามออกมาอย่างรวดเร็ว อาการของ เเจ็คสันกำลังย่ำเเย เเละ ธอร์ เองก็ยังจะมาเสียสติอีกงั้นหรอ เขาคิดว่าเรื่องมันชักจะไปกันใหญ่เเล้ว

   หึ่ม! หากไม่มีใครช่วยเหลือข้าคงจะต้องลองดูด้วยตัวเองเเม้โอกาสสำเร็จจะน้อยมากก็ตาม ธอร์พึมพัมออกมา

   เท่าไหร่ 

   ประมาณ10% 

  เเฮร์รี่ … 

  โลก,นิวยอร์กขณะที่ ธอร์ เเละ เเฮร์รี่ กำลังให้ความสนใจกับสถานการณ์การเปลี่ยนเเปลงของ เเจ็คสัน

  เเอสการ์ด,สะพานไบฟรอสฮัมดาลล์ ที่ได้หลับตาอยู่ได้ลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว เเน่นอนว่าเขาได้ยินเสียงเรียกร้องของธอร์ เเต่เขาไม่สามารถตอบสนองการช่วยเหลือได้ ไม่ใช่ว่าข้าไม่คิดอยากจะลงมือ เเต่สถานการณ์ในตอนนี้ข้าไม่สามารถลงมือเข้าช่วยเหลือได้ 

  ก่อนหน้านี้ที่ธอร์ได้หายตัวไปฮัมดาลล์ ได้ไปกราบทูลต่อ โอดิน เเละ ในเวลานั้น โอดิน ก็ให้ ฮัมดาลล์ ระดมกำลังหลักเเละข้ามสะพานไบฟรอสไปเพื่อค้นหาธอร์

  เเต่ในเวลาต่อมาธอร์ก็ได้กลับมาที่โลกจากการสังเกตุของฮัมดาลล์เขาพบร่องรอยของพวกดาร์คเอลฟ์ เรื่องนี้ทำให้เขาประหลาดใจมาก เเต่เขาหาได้สนใจ เพราะยังไงในสนามรบเเนวหน้าของเเอสการ์ดพวกเขาก็กำลังปะทะกับพวกดาร์คเอลฟ์จำนวนมาก

  หลังจากธอร์กลับสู่โลกได้ไม่นานเเจ็คสันก็ออกมาจากพื้นที่มิติอวกาศ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นฮัมดาลล์ได้สังเกตุการณ์เด็กคนนี้จนถึงวาระสำคัญของชีวิต นั่นก็คือตอนที่ เเจ็คสันถูกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ชั้นสูงปิดชีวิต จากนั้นไม่นานเอนเชี่ยนวันก็ปรากฏตัวขึ้น ด้วยการตอบสนองของฮัมดาลล์ เขาย่อมสามารถคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ทันดังนั้นเขาจึงถอนจิตเทพกลับมาเพื่อไม่ให้ตกอยู่ในอิทธิพลของไทม์สโตน

  เอนเชี่ยนวันจอมเวทผู้ยิ่งใหญ่ได้ลงมือช่วยเหลือ เเจ็คสัน ด้วยไทม์สโตน ดังนั้น ฮัมดาลล์ จึงไม่จำเป็นจะต้องกังวลอะไร เพราะ เอนเชี่ยนวันที่ลงทุนลงเเรงไปเเล้วเขาย่อมไม่ปล่อยให้ เเจ็คสันตาย เเม้ตอนนี้ เเจ็คสันจะกำลังถูกกลืนกินด้วยพลังงานมืดอยู่ เเต่มันน่าจะมีเหตุผลอะไรที่เอนเชี่ยนวันมั่นใจว่า เเจ็คสันจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ ไม่งั้นสิ่งที่ เอนเชี่ยนวันทำ ก็คงสูญเปล่า

   ดังนั้นสิ่งที่ข้าสามารถทำได้ก็คือการสังเกตุการณ์เฝ้าระวังเพียงเท่านั้น! 

  …

   คุณเป็ปเปอร์,คุณสตาร์คกลับมาเเล้ว หลังจากที่เป็ปเปอร์กลับไปถึงออฟิศของตนเอง ในไม่ช้า เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้ดังขึ้นเพื่อเตือนเธอ

  โทนี่ที่กลับมาจากประตูมิติอวกาศในไซบีเรียเขาได้เดินทางมาที่นี่ต่อในทันที ดังนั้นจากเวลาที่นั่นจนถึงที่นี่ J.A.R.V.I.S สามารถคำนวณออกมาได้ว่มันใช้เวลาเพียงประมาณ 10 นาทีเท่านั้น

   โทนี่กลับมาเเล้ว เขาช่วยโลกเสร็จเเล้วงั้นหรอ? ได้ยินเสียงเตือนของ J.A.R.V.I.S เป็ปเปอร์ กล่าวถามอย่างค่อนข้างประหลาดใจ

  J.A.R.V.I.S … 

 

ต้องการความช่วยเหลือจากธอร์

  เจ้าหน้าที่โคลสันพา อีเเวนส์ ออกจากที่นี่เเละนั่งเครื่องบินควินเจ็ทออกไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นภายในห้องรับเเขกอันหรูหราของ สตาร์คอิสดัสตรีท์เเห่งนี้ จึงเหลือเพียงหญิงสาว 3 คน เพียงเท่านั้น นั่นก็คือ เป็ปเปอร์ ,เจน ฟอสเตอร์ เเละ สเตซี่ หลังจากที่พวกเจ้าหน้าที่โคลสันออกไปเเล้วบรรยากาศภายในห้องรับเเขกเเห่งนี้ก็ค่อย ๆ กลายเป็นเเปลกเเยกไป

   อาจารย์ฟอสเตอร์ก่อนที่พวกเราจะกลับพวกเราไปดูอาการของ เเจ็คสัน กันก่อนดีหรือไม่ ฟังจากปากที่ นายน้อยของออสคอร์ป เเฮร์รี่ พูดเเล้ว ทำให้ฉันรู้สึกกังวล เห็นบรรยากาศเงียบ เเปลก ๆ สเตซี่ ได้พูดขึ้นเเละกล่าวถาม เจน

   อืม,ฉันเห็นด้วยพวกเราสมควรไปดูอาการของเเจ็คสันก่อน ฉันไม่รู้เลยว่าก่อนหน้านี้เขาจะได้รับบาดเจ็บอย่างคาดไม่ถึง ได้ยินคำพูดของสเตซี่ เจน ตอบกลับอย่างเรียบง่าย

   พี่สาวเป็ปเปอร์ เช่นนั้นพวกเราขอไปเยี่ยมดูอาการของ เเจ็คสันหน่อยได้หรือไม่ ยังไงพวกเราก็รู้จักกัน ทั้งเขายังได้รับบาดเจ็บเพราะฉันด้วย สเตซี่ ได้กล่าวถาม เป็ปเปอร์

   เกรงว่าคงจะไม่ได้เท่าที่เธอฟังเธอเองก็น่าจะคาดเดาได้ว่าอาการของเเจ็คสันนั้นย่ำเเย่เพียงใด สำหรับเหตุผลที่ฉันต้องปฏิเสธ ก็เพราะ อำนาจสถานะการเข้าถึงข้อมูลของพวกเธอไม่เพียงพอ เป็ปเปอร์ ตอบกลับ

  เหตุผลที่เธอปฏิเสธเจน ฟอสเตอร์ เเละ สเตซี่ เดซี่ ไม่ใช่เพราะว่าเธอไม่ต้องการให้ทั้งสองเยี่ยมไข้เเจ็คสัน เเต่เป็นเพราะ สถานการณ์ของอีกฝ่ายย่ำเเย่มาก เเม้เเต่ J.A.R.V.I.S ยังไม่ยินยอมบอกข้อมูลอะไรของเธอเเม้เเต่น้อย

  ได้ยินคำตอบจากปากของเป็ปเปอร์ เจน เเละ สเตซี่ ค่อนข้างผิดหวัง เธอรู้ว่า อีกฝ่ายไม่ได้ต้องการจะกีดกันเธอเเต่เป็นเพราะอาการของเเจ็คสันนั้นย่ำเเย่จริงๆ เพราะแบบนี้ เป็ปเปอร์ จึงยกเรื่องสิทธิ์การเข้าถึงมาอ้าง

   เอ่อ…เช่นนั้นฉันขออยู่ที่นี่ต่อเเละรอธอร์ กลับมาก่อนเเล้วกัน หวังว่าพี่สาวเป็ปเปอร์ จะไม่ว่าอะไร  หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่นึง เจน ก็กล่าวถาม เป็ปเปอร์

   เเน่นอน,พวกเธอสามารถพักที่นี่ได้ตามอัธยาศัยฉันจะให้ J.A.R.V.I.S คอยบริการดูเเลพวกเธอ ส่วนฉันมีธุระบางอย่างที่จะต้องรีบไปทำดังนั้นฉันไม่อาจอยู่พูดคุยกับพวกเธอที่นี่ได้ ได้ยินคำถามของ เจน ฟอสเตอร์ เป็ปเปอร์ ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

  จากนั้นเป็ปเปอร์ก็ได้ก้าวขาเดินไปหยิบเเท็ปเล็ตที่โต๊ะอย่างรวดเร็ว

   ฉันขอตัวก่อนนะ หลังจากหยิบเเท็ปเล็ตที่โต๊ะเสร็จเป็ปเปอร์ก็กล่าวขอตัวทันที

   อืม,ยินดีที่ได้เจอกันอีกครั้งพี่สาว เป็ปเปอร์ 

   ไว้เจอกันพี่สาว เป็ปเปอร์ 

  ฟุ่บ

  จากนั้นเป็ปเปอร์ก็ก้าวไปยังประตูลิฟต์เเละหลังจากนั้นประตูก็ปิดลงภายในห้องรับเเขกเเห่งนี้หลงเหลือเพียง เจน ฟอสเตอร์ เเละ สเตซี่ อยู่สองคน

   อาจารย์ฟอสเตอร์พวกเราจะรอธอร์อยู่ที่นี่จริง ๆ งั้นหรอ หลังจากที่เป็ปเปอร์ออกไป สเตซี่ ที่ร้อนรนในใจก็กล่าวถาม เจน ด้วยความกังวล

   อืม,ฉันติดสินใจว่าจะรอธอร์อยู่ที่นี่ถึงเเม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไม เเฮร์รี่ ออสบอร์น ถึงมีอารมณ์ที่ฉุนเฉียวกับธอร์แบบนั้น เเต่ฉันเชื่อว่ามันน่าจะมีเหตุผลอะไรบางอย่างเเน่นอน เจน พึมพัมออกมาพร้อมกับพิงหลังลงบนโซฟานุ่ม ๆ

   เข้าใจเเล้ว… 

   คุณฟอสเตอร์ เเละ คุณ สเตซี่ หากพวกคุณต้องการอะไร ผม ยินดีรับใช้  ขณะที่ เจน เเละ สเตซี่ กำลังสนทนากัน เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้ดังขึ้น

  …

  ขณะที่พวกคนจากชั้นบนของอาคารสตาร์คอินดัสตรีท์กำลังสนทนากัน

  ทางด้านธอร์เเละ เเฮร์รี่ พวกเขาทั้งสองคน รีบนั่งลิฟต์ลงไปที่ชั้นใต้ดินเพื่อเยี่ยมอาการของเเจ็คสันในทันที โดยเฉพาะธอร์ในตอนนี้ หลังจากรู้ว่าอาการของเเจ็คสันย่ำเเย่เพียงใด เขากำหมัดเเน่นด้วยความโกรธ จนเเทบอยากจะต่อยหน้าตนเองขึ้นมา

  ไม่นานพวกเขาก็มาถึงด้านนอกผนังกระจกธอร์มองเห็นเเจ็คสันที่นอนยังไม่ได้สติอยู่ในห้องพยาบาลบนเตียงนั่น ธอร์บีบมือเเน่นด้วยอารมณ์โกรธเคือง บนกำปั้นของเขาปรากฏสะเก็ดไฟฟ้าจาง ๆ ออกมา ภายใต้การสังเกตุของธอร์ เขาสามารถมองเห็นกลุ่มก้อนพลังงานสีดำที่เป็นเเหล่งพลังงานมืดของพวกดาร์คเอลฟ์ได้ ดังนั้น ธอร์จึงเข้าใจสถานการณ์ได้ทันที

   เวรเอ้ย! เป็นเพราะมัน ! ที่อาการบาดเจ็บของเเจ็คสันไม่ฟื้นตัวก็เพราะพลังงานมืดนั่น มันได้กัดกินชีวิตของ เเจ็คสันอยู่ พลังงานมืดนี้ อย่างน้อยผู้ที่ใช้ออกสมควรเป็นนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ชั้นสูง ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมันปรากฏตัวขึ้นข้างในพื้นที่มิตินั่น ! ธอร์ทุบกระจกผนังด้วยอารมณ์โมโหจนทำตัวไม่ถูก

  ได้ยินคำพูดของธอร์ดวงตาของ เเฮร์รี่ ก็กลายเป็นสดใสมากขึ้น การคาดเดาของเขาถูกต้อง ธอร์สามารถระบุสิ่งที่เเจ็คสันกำลังเผชิญเเละรู้ว่านี่เป็นฝีมือของพวกดาร์คเอลฟ์ ดังนั้น ธอร์น่าจะสมควรรู้จักพวกดาร์คเอลฟ์ดีเเละน่าจะมีวิธีช่วยเหลือเเจ็คสัน

   นายรู้จริงๆ นายรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับพลังงานมืดเหล่านี้ ถ้านายบอกว่าพลังงานมืดนั่นกำลังทำร้ายเเจ็คสัน เช่นนั้น นายก็ย่อมมีวิธีจัดการมันใช่หรือไม่ ? เเฮร์รี่ รีบเปิดปากถามทันที

   นี่เป็นพลังงานมืดของพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์มันมีลักษณะประเภทกัดกินพลังชีวิตของผู้ที่โดนมันเข้าไป ถ้าข้ามีความเเข็งเเกร่งเหมือนก่อนหน้านี้ล่ะก็ข้าสามารถกำจัดพลังงานมืดนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา เเต่ว่าตอนนี้… หลังจากตอบกลับเเฮร์รี่ ธอร์ได้ยกมือทั้งสองขึ้นอย่างช้า ๆ

  เปรี๊ยะ

  หลังจากที่ธอร์ยกมือขึ้นสะเก็ดไฟฟ้าเล็ก ๆ จำนวนนึงก็กระพริบสว่างวาบบนฝ่ามือของเขา ส่งผลให้ใบหน้าของ เเฮร์รี่ ตกอยู่ในอาการตกใจเช่นเดียวกัน เเฮร์รี่ รู้สึกได้ถึงพลังงานสายฟ้าขนาดเล็ก ๆ ที่สถิตอยู่ในฝ่ามือของธอร์ จะว่าไปพลังงานที่ธอร์สามารถเรียกออกมาได้นี้ก็มีความคล้ายคลึงกับ สตอร์ม หนึ่งใน ทีมX-MEN อยู่เหมือนกัน เเต่หลังจากพินิจสังเกตุดี ๆ พลังงานทั้งสองกลับมีส่วนที่ต่างกันอย่างมากโดยเฉพาะพลังสายฟ้าของธอร์มันส่งผลให้เเฮร์รี่รู้สึกหวั่นเกรงจากภายใน

 

เจ้าหน้าที่โคลสันขอตัวลา

  จากนั้นเเฮร์รี่ก็ดึงมือของธอร์พร้อมกับเดินไปที่ทิศทางลิฟท์ทางด้านนั้นเเน่นอนว่าพอได้ยินคำพูดของเเฮร์รี่ ธอร์ ก็ยอมตามไปด้วยเเต่โดยดี เขากังวลมากเกี่ยวกับสถานการณ์ของ เเจ็คสันตอนนี้ อีกอย่างเขาเองก็รู้สึกผิด ที่ตนเองกับ เจน รอดมาได้ เหตุผลก็เพราะความช่วยเหลือของเเจ็คสัน

  เห็นเเฮร์รี่ พาตัวธอร์ออกไป สีหน้าของคนหลายคนยังคงค้างด้วยอาการตกใจ ก่อนหน้านี้ J.A.R.V.I.S ไม่ได้บอกว่า เเจ็คสันได้รับบาดเจ็บสาหัสจนถึงขั้นอาจเสียชีวิต ดังนั้นพวกเขาจึงรู้เพียงเเค่ว่าเเจ็คสันได้รับบาดเจ็บเเละกำลังรักษาตัวอยู่ เเต่พอได้ยินคำพูดของเเฮร์รี่ ทำให้การเเสดงออกของพวกเขาได้เเปรเปลี่ยนไปอีกที

  ติ๊ง

  หลังจากเเฮร์รี่เเละธอร์เข้าลิฟต์เเละประตูลิฟต์ได้ปิดลงภายในห้องนั่งเล่นคนที่เหลือไม่ได้เปิดปากพูดขึ้น เเม้เเต่ เป็ปเปอร์ ก็ยังนิ่งอึ้งอยู่เพียงเล็กน้อย จากนั้นเธอก็พยายามนึกเหตุผลเเละการกระทำของ J.A.R.V.I.S ก่อนหน้านี้ J.A.R.V.I.S ได้บอกเธอเกี่ยวกับสถานการณ์ของเเจ็คสันก็จริง เเต่เธอก็ไม่รู้รายละเอียดมากรู้เเค่ว่าเเจ็คสันถูกกหามเข้าห้องพยาบาลโดยชุดเกราะไอรอนแมนจากนั้นเธอก็ไม่ได้ถามอะไรอีกเลย

  สำหรับเจ้าหน้าที่ โคลสัน เจน เเละคนอื่น ๆ พวกเขาทั้งหมดยังคงครุ่นคิดในใจ ก่อนที่จะจ้องมองไปที่ เป็ปเปอร์ ด้วยท่าทีคาดหวัง

   J.A.R.V.I.Sสถานการณ์ตอนนี้ของเเจ็คสันอันตรายถึงชีวิตจริง ๆ งั้นหรอ 

   สถานการณ์ของคุณเเจ็คสันตอนนี้พิเศษมากผมไม่สามารถวิเคราะห์ผลลัพธ์ที่เเน่นอนได้ เเต่ถ้าปล่อยเอาไว้มีโอกาสที่เขาจะเสียชีวิต 

   เเล้วทำไมก่อนหน้านี้นายไม่ได้บอกฉัน หากฉันรู้ว่าเเจ็คสันกำลังตกอยู่ในอันตรายฉันคงไม่มานั่งใส่ใจกับคนเหล่านี้? ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S เป็ปเปอร์ รู้สึกโกรธมาก

   ขอโทษครับคุณเป็ปเปอร์เรื่องของ คุณ เเจ็คสัน ผมไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลได้มากกว่านี้ รอให้คุณสตาร์คกลับมา คุณสามารถถามเขาได้โดยตรง ด้วยเหตุผลหลายประการ J.A.R.V.I.S ไม่สามารถให้คำอธิบาย เป็ปเปอร์ ได้มากเกินไป

   ก็ได้ฉันจะรอโทนี่กลับมาเเละค่อยถามเขา! ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S เป็ปเปอร์ ต้องการที่จะระบายโทสะ ออกมา เเต่ถึงอย่างไร J.A.R.V.I.S ก็เป็นเเค่ ระบบเอไอ ดังนั้นเธอจึงไม่คิดที่จะทำอย่างนั้น

  ได้ยินเสียงพูดคุยของเป็ปเปอร์ ท่าทางของคนอื่น ๆ ได้นิ่งเงียบลงเพียงเล็กน้อย เพราะยังไงก็ตามพวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้

  หลังจากที่เเฮร์รี่ พาธอร์ไปเเล้ว เจ้าหน้าที่ โคลสัน ก็เดินมาที่ด้านหน้าของ เจน ฟอสเตอร์

   คุณฟอสเตอร์ ถึงเเม้ว่าการพบหน้ากันคราวก่อนจะทำให้ความสัมพันธ์ของเราไปในทิศทางไม่ดี เเต่นั่นผมทำไปเพราะความจำเป็น ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลการวิจัยของคุณทำให้พวกเราประสบความสำเร็จอยู่หลายอย่าง เจ้าหน้าที่โคลสันได้กล่าวพูดคุยกับ เจน ด้วย ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

   เจ้าหน้าที่โคลสันผ่อนคลายเถอะ เรื่องมันก็ผ่านไปเเล้ว ฉันไม่ได้ใส่ใจมัน เเต่ครั้งนี้ คุณเองก็ต้องการมาเพื่อเอารายงานผลการวิจัยของฉันอีกครั้งงั้นหรอ ได้ยินคำพูดของเจ้าหน้าที่ โคลสัน เจน ตอบกลับ ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ของเธอ

  จากนั้นเธอก็จ้องมองไปที่อีเเวนส์ ที่อยู่ด้านหลัง เป็นธรรมชาติที่เธอจะสามารถคาดเดาสถานะของอีกฝ่ายได้ในตอนนี้ อีเเวนส์ ได้มากับ เจ้าหน้าที่ โคลสัน อาจเป็นไปได้ว่า เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกองค์กรเดียวกัน เเละ เหตุผลที่ อีเเวนส์ ต้องการมาเป็นหนึ่งในผู้ช่วยของเธอ ก็เพราะคงต้องการติดตามรายงานข้อมูลของเธอให้กับองค์กร

   คุณฟอสเตอร์ รายงานการวิจัยของคุณสำคัญก็จริง เเต่นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่ผมสนใจในตอนนี้ ที่ผมมาที่นี่ก็เพราะ ผลข้างเคียงที่คุณได้รับจากพื้นที่มิติอวกาศที่ลอนดอน… เจ้าหน้าที่ โคลสัน ได้กล่าวตอบกลับอย่างอึดอัดใจ

  เจนฟอสเตอร์ … 

  ได้ยินคำตอบของเจ้าหน้าที่โคลสันเจน อึ้งไปเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะฉุดคิดขึ้นได้ถึงเรื่องบางอย่าง

   คุณฟอสเตอร์คุณจำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นเกี่ยวกับข้างในพื้นที่มิติอวกาศนั่น   เจ้าหน้าที่โคลสันได้กล่าวถามอีกครั้ง

  ฟุบ

  ขณะที่กำลังซักถามเจน ฟอสเตอร์ จู่ ๆ เครื่องมือสื่อสาร ของเจ้าหน้าที่ โคลสัน ก็ได้ดังขึ้นอย่างฉับพลัน

  เจ้าหน้าที่โคลสัน ได้จ้องมองออกไปอย่างเป็นประกายก่อนที่เขาจะใช้มือหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมา เเละอ่านข้อความที่ได้รับที่เป็นตัวอักษรขนาดใหญ่บนหน้าจอ ‘พื้นที่มิติอวกาศที่ลอนดอน ได้ปรากฏสิ่งมีชีวิตที่อาจจะเป็น พวก ดาร์คเอลฟ์ ตอนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ กำลังเข้ารับมืออยู่ เเต่ต้องการกำลังเสริมโดยด่วน’ นี่คือข้อความที่เจ้าหน้าที่โคลสันได้รับ

   พวกดาร์คเอลฟ์ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ หรือว่า พื้นที่มิติอวกาศที่นั่น จะมีความเกี่ยวข้องกับ ประตูมิติอวกาศ ที่ไซบีเรีย ? ได้เห็นข่าวนี้เจ้าหน้าที่โคลสันประหลาดใจอย่างมาก

  เกี่ยวกับพวกดาร์คเอลฟ์เจ้าหน้าที่โคลสัน พอจะรู้จักเช่นเดียวกัน เพราะเขาได้อ่านรายงานเกี่ยวกับข้อมูลที่ทางฐานทัพไซบีเรียได้ส่งมา เกี่ยวกับอารยธรรมของพวกดาร์คเอลฟ์ เเละ เจ้าหน้าที่ โคลสันก็ให้ความสำคัญกับมันอย่างมาก จากข้อมูลที่เขาได้รับ พวก ดาร์คเอลฟ์ นั้นคือตัวตนที่โหดร้าย เเละ เเข็งเเกร่ง มันคือสิ่งมีชีวิตที่เหนือความเข้าใจของเขา

  ดังนั้นการปรากฏตัวของพวกเขาที่ลอนดอนทำให้เจ้าหน้าที่ โคลสัน รู้สึกตึงเครียดมากขณะที่เจ้าหน้าที่โคลสันกำลังอึ้งกับข่าวที่ได้รับ เจน ฟอสเตอร์ ก็ได้เริ่มอธิบาย

   เท่าที่ฉันจำได้,ฉันหมดสติที่นั่นหลังจากฉันตื่นขึ้นมาก็พบถ้ำที่เรียบง่าย… เจนได้พยายามเล่าถึงประสบการณ์ที่ตนเองได้พบเจอ

  อย่างไรก็ตามประสบการณ์ของเธอหาได้ช่วยเหลือด้านข้อมูลกับ องค์กร S.H.I.E.L.D. ไม่ ตามที่เธอเล่ามาไม่มีเหตุการณ์อะไรพิเศษเกิดขึ้นเลย อาจเป็นไปได้ว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นตอนที่เธอกำลังหมดสติ

   ผมเข้าใจเเล้ว ขอบคุณมาก คุณฟอสเตอร์ ตอนนี้ผมมีธุระด่วนที่จะต้องรีบไป ดังนั้นผมขอตัว เมื่อคิดว่าทางฝั่งลอนดอนได้เกิดสถานการณ์ที่ร้ายเเรงขึ้น เจ้าหน้าที่ โคลสัน ก็ไม่ต้องการที่จะเสียเวลาที่นี่อีก หลังจากบอกลา เจน เขาก็เดินไปยังทิศทางของเป็ปเปอร์ทันที

   หืมสอบสวนเสร็จเเล้วงั้นหรอ? ได้ยินคำพูดของเจ้าหน้าที่โคลสันเป็ปเปอร์ กล่าวถามด้วยความสงสัย

   ครับ,จริงๆ เเล้วก็ไม่มีอะไรมากมาย ผมเเค่มาสอบสวนเล็กน้อยเพียงเท่านั้น เกี่ยวกับสถานการณ์ของ เเจ็คสัน หลิน หากต้องการความช่วยเหลือใด ๆ ได้โปรดติดต่อไปที่ S.H.I.E.L.D. ทันที พวกเราจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เจ้าหน้าที่โคลสันกล่าวตอบ

  จากข่าวล่าสุดที่เขาได้รับมาสมาชิกทีม S กำลังถอยกลับมาจากประตูมิติอวกาศ อย่างน้อยที่สุดตอนนี้ เจ้าหน้าที่โคลสัน จะต้องรีบประสานงานกับ พวก กัปตันโรเจอร์ส เพื่อรับมือสถานการณ์ทางฝั่งลอนดอน ดังนั้น เขาจึงไม่ต้องการเสียเวลาที่นี่

   ดี,หากมีข่าวอื่นๆ อีก ฉันจะรีบเเจ้งให้คุณทราบทันที  เห็นเจ้าหน้าที่โคลสัน เตรียมจะไป เป็ปเปอร์ ได้พยักหน้าเเละกล่าวตอบ

   เช่นนั้นก็ไว้พบกันใหม่คุณ เป็ปเปอร์  

 

โทสะของเเฮร์รี่

  ติ๊ง

  ทันทีที่เสียงลิฟท์ดังขึ้นเจ้าหน้าที่โคลสัน เป็ปเปอร์ ธอร์ เเละคนอื่น ๆ ก็หันไปยังตำเเหน่งมุมของห้องนั่งเล่นอย่างรวดเร็ว โดยปกติเเล้ว ชั้นบนสุดของ อาคารสตาร์คอินดัสตรีท์ผู้มีคุณสมบัติที่จะขึ้นมานั้นมีน้อยคนมากพนักงานข้างล่างเเน่นอนว่าย่อมไม่มีสิทธิ์ขึ้นมา

    J.A.R.V.I.S ใครขึ้นมาข้างบนกัน โทนี่ งั้นหรอ ? ก่อนที่ประตูลิฟต์จะเปิดออก เป็ปเปอร์ ได้กล่าวถาม   J.A.R.V.I.S อย่างรวดเร็ว

   คุณเป้ปเปอร์,คุณสตาร์คยังไม่ได้กลับมา เเต่… 

  ฟุบ~~

  ขณะที่J.A.R.V.I.S กำลังจะตอบกลับเป็ปเปอร์ ประตูลิฟต์ ก็ได้เปิดออก จากนั้น ผู้คนทั้งหมดก็เห็นหนุ่มน้อยคนนึงเดินออกมาจากลิฟต์ ในห้องนั่งเล่นอันหรูหราเเห่งนี้ นอกจาก ธอร์ เเละ เจ้าหน้าที่ โคลสัน เเล้ว คนอื่น ๆ กลายเป็นเเปลกใจในระดับที่เเตกต่างกันไป

   หืม! เเฮร์รี่ ? ประธาน อุตสาหกรรมออสคอร์ป !? เห็นเด็กหนุ่มคนนี้เดินเข้ามา เป็ปเปอร์ ได้อุทานพูดขึ้นเป็นคนเเรก

  เเฮร์รี่ออสบอร์น เขาคนนี้คือเพื่อนของ เเจ็คสัน ธอร์ เคยพบอีกฝ่ายมาก่อนดังนั้นจึงไม่เเปลกใจที่จะเห็นอีกฝ่ายปรากฏขึ้นที่นี่ เเละ เพราะ เเฮร์รี่ อยู่ที่ อาคาร สตาร์คอินดัสตรีท์เเห่งนี้ เขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องสวมใส่ชุดเกราะโครงกระดูกของเขา เพียงใส่ชุดเครื่องแบบภายนอกปกติ

  สำหรับเป็ปเปอร์เเฮร์รี่ ออสบอร์น เป็นเด็กหนุ่มรุ่นใหม่ไฟเเรงคนนึงของ สหรัฐอเมริกา ไม่เพียงเเต่เป็นเด็กหนุ่มที่กล้าหาญเเต่ยังมีพรสวรรค์ด้านการบริหารที่เเข็งเเกร่งอีกด้วย ก่อนหน้านี้ที่ อุตสาหกรรมสตาร์ค เลิก ผลิตอาวุธ ทางออสคอร์ป ก็ได้ผลิตเซรุ่มยายีนขึ้นมา เเละมันประสบความสำเร็จอย่างมาก ผ่านไปไม่นาน อุตสาหกรรมออสคอร์ปก็กลายเป็นเติบโตมากขึ้นพวกเขาได้ครอบครองเทคโนโลยีชั้นนำของโลกไว้จำนวนมากในตอนนี้

  เเน่นอนว่าภายหลังทางออสคอร์ป เเละ สตาร์คอินดัสตรีท์ ได้จับมือกัน เเละ บรรลุข้อตกลงร่วมกัน ดังนั้น การปรากฏตัวของ เเฮร์รี่ ในครั้งนี้ เเม้จะเเปลกใจ เเต่ เป็ปเปอรื ก็ไม่ได้ตกใจขนาดนั้น

   สวัสดีคุณเป็ปเปอร์  หลังจากเป็ปเปอร์ กล่าวทักทายตนเอง เเฮร์รี่ ได้พูดทักทายอย่างสุภาพก่อนที่จะหันหน้าไปทางทิศทางของธอร์

   เเฮร์รี่ เจ้ามาที่นี่เพื่อพบเเจ็คสันงั้นหรอ? เห็นเเฮร์รี่ ปรากฏตัวขึ้นเเละเดินมาที่เบื้องหน้าของตนเอง ธอร์ ได้กล่าวถามออกไป

  ฟุ่บ!

  เเต่ทว่าหลังจากที่ธอร์เพิ่งพูดคำเหล่านี้ออกไป กำปั้นของ เเฮร์รี่ ก็ได้พุ่งไปที่ใบหน้าของธอร์อย่างรวดเร็ว

  ปั้ง

  เห็นการกระทำของเเฮร์รี่ที่ชกหมัดออกไปที่ใบหน้าของธอร์ทุกคนกลายเป็นตกใจอย่างมาก เเม้เเต่ตัวของธอร์เอง โชคดีที่ ธอร์สามารถตอบสนองเเละยกมือขึ้นมากันได้ในวินาทีสุดท้าย อย่างไรก็ตามหมัดของเเฮร์รี่ ก็รุนเเรงมาก หากเขาไม่กันเอาไว้อาจเป็นไปได้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า

   เเฮร์รี่! เจ้าทำอะไรของเจ้าหน่ะ  เห็นเเฮร์รี่ต่อยมาที่ใบหน้าของตนเอง ธอร์ที่ยกมือขึ้นกันเขาได้รู้สึกชาที่ฝ่ามือเล็กน้อยก่อนที่เขาจะถามอย่างสงสัย

  ฟุ่บ

  อย่างไรก็ตามเผชิญหน้ากับการซักถามของธอร์ เเฮร์รี่ เดิมที่ไม่ต้องการอธิบายก็ได้ปล่อยหมัดออกไปอีกครั้ง คราวนี้ ธอร์ไม่ได้เตรียมหลบหลีกเเม้เเต่น้อย เเต่ อีเเวนส์ เเละ เจ้าหน้าที่โคลสัน ที่ตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ได้ฟื้นคืนสติก่อนที่จะรีบวิ่งไปหยุดเเฮร์รี่เอาไว้

   เเฮร์รี่! ที่นี่ ไม่ใช่ ออสคอร์ป ที่นี่คือ สตาร์คอินดัสตรีท์ ไม่ใช่สถานที่สำหรับใช้กำลัง เธอมีอะไรเธอก็ควรพูดอธิบายออกมาดีกว่า ! หลังจากที่ เจ้าหน้าที่โคลสัน เเละ อีเเวนส์ ได้เข้าไปหยุดเเฮร์รี่เอาไว้ เป็ปเปอร์ ที่อยู่ด้านหลังได้ตะโกนออกมาอย่างเสียงดัง

  เป็ปเปอร์สงสัยทำไมเเฮร์รี่ ถึงต้องทำเรื่องแบบนี้ กับธอร์ เขาเป็นประธานบริษัทออสคอร์ปทั้งยังได้รับรางวัลออสการ์ตั้งเเต่อายุยังน้อย คนขาดสติเช่นนี้หรอคือคนที่ได้รับรางวัลคนนั้น

  ดังนั้นในฐานะที่เป็นเจ้าภาพสตาร์คอินดัสตรีท์อยู่ตอนนี้เป็ปเปอร์ มีหน้าที่ในการต้อนรับเเละรับผิดชอบเเขกทุกคนที่นี่

  ได้ยินคำพูดของเป็ปเปอร์เเฮร์รี่ ได้สบัดมือของตนเองออกจากการควบคุมของเจ้าหน้าที่ โคลสัน เเละ อีเเวนส์ พละกำลังทางร่างกายของเเฮร์รี่ นั้นเเข็งเเกร่งมาก ได้ตัวยาไททันรูปแบบใหม่ทำให้ยีนของเขาเเข็งเเกร่งมากขึ้น เเม้เจ้าหน้าที่โคลสัน เเละ อีเเวนส์ ต้องการจะหยุดเขาก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดรั้งเอาไว้ ดังนั้น เมื่อได้ยินเสียงพูดของเป็ปเปอร์ เเฮร์รี่ จึงเลือกที่จหยุดมือลง

   หึ่ม!เห็นเเก่หน้าของ คุณเป็ปเปอร์ ฉันจะหยุดพอเเค่นี้ก็ได้! จ้องมองไปที่ธอรื เเฮร์รี่ ได้ชักเสื้อของตนเองเเละกวาดผ่านธอร์อย่างไม่สนใจ

   ข้าอยากรู้เหตุผลทำไมเจ้าถึงต่อยข้า ได้ยินคำพูดของเเฮร์รีธอร์ กล่าวถามด้วยความสงสัย

  เเต่ก็มีความเป็นไปได้นึงที่เขาคิดอยู่นั่นก็คือเเจ็คสัน เเฮร์รี่ เป็นเพื่อนของ เเจ็คสัน ครั้งนึงเขาเคยพบทั้งสามคน เเจ็คสัน ปีเตอร์ เเละ เเฮร์รี่ ดังนั้นธอร์จึงเดาได้ไม่ยากว่าเหตุผลที่ เเฮร์รี่ ลงมือ น่าจะเป็นเพราะเเจ็คสัน อย่างไรก็ตามธอร์หาได้โกรธกับพฤติกรรมของเเฮร์รี่ ไม่ เขาต้องการฟังเหตุผลเเค่นั้น

   นี่นายยังไม่รู้สถานการณ์ของเเจ็คสันตอนนี้ใช่มั้ย เห็นธอร์ยังเเสร้งตีหน้ามึน เเฮร์รี่ เเทบอยากจะกระโดดเข้าไปต่อยธอร์อีกครั้ง

   เเจ็คสัน ข้าได้ยินมาว่าเขาได้รับบาดเจ็บ เเละ กำลังรักษาตัวอยู่ไม่ใช่หรอ? ได้ยินคำพูดของ เเฮร์รี่ ธอรื กล่าวถามอย่างสงสัย

   เหอะ! สถานการณ์ของเเจ็คสันตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงความเป็นความตาย หากเขาไม่ได้รับการรักษาที่ดี เขามีเเนวโน้มที่จะเสียชีวิตอีกในไม่ช้า ! เห็นการเเสดงออกของธอร์ เเฮร์รี่ พยายามอธิบายด้วยอารมณ์ขุนเคือง

  ฟุบ

  ได้ยินการอธิบายของเเฮร์รี่ทุกคนที่อยู่ที่นี่กลายเป็นตกตะลึงในทันที เเม้ว่า พวกเขาบางคนจะไม่รู้สถานะของ เเจ็คสันอีกสถานะนึง เเต่ก็รู้ว่า เเจ็คสัน หลิน เป็นเด็กที่ดีมาก อย่างไรก็ตาม เเฮร์รี่ กลับกำลังบอกว่าเด็กคนนั้นกำลังจะตาย ทำให้พวกเขายากที่จะเชื่อ

   เป็นไปได้อย่างไรไม่ใช่ว่าเขาได้รับบาดเจ็บเเละกำลังรักษาตัวเขาจะตายได้อย่างไร? ได้ยินคำพูดของเเฮร์รี่ ธอร์ที่สงบนิ่งได้กลายเป็นตื่นตัวมากขึ้น

   ตอนนี้คนที่พอจะมีวิธีช่วยเหลือเขาได้คงมีเเต่นาย!มากับฉัน! 

 

โลเเกน ?

  โรงเรียนซาเวียร์,ฐานลับใต้ดินหลังจาก ไอซ์แมน ได้จบบทสนทนากับ เจอร์รี่ จากทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ในเวลานี้เขาได้ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

   โรเบิร์ตพวกเราต้องตามหาตัวมารี จริงงั้นหรอ กว่าเธอจะค้นพบชีวิตที่สงบสุขเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับเธอ! หลังจากไอซ์แมนวางสายเสร็จ คิตตี้ ชาโดว์เเคท เเฟนสาวของเขา ก็ได้กล่าวถามออกมา

  เเอนนามารี,คือปีศาจสาวที่ เจอร์รี่ พูดถึง เกี่ยวกับชื่อในวงการที่สมาชิกทีม X-MEN รู้จัก ชื่อเล่นของเธอคือ โร้ค ในสายตาของทุกคน เเอนนา คือเพื่อนที่ดี เเละ ในสายตาของคิดตี้ เธอเปรียบเสมือนน้องสาวที่ซุกซน

  ครั้งนึงโร้ค เคยเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีม X-MEN ยิ่งไปกว่านั้น หลายปีที่ผ่านมา เธอยังคงเข้าร่วมสงครามระหว่างมิวแทนท์ด้วย เกี่ยวกับระดับพลังงานของเธอ ไม่สามารถเเบ่งออกมาจัดระดับได้

  เหตุผลก็เพราะเธอมีความสามารถพิเศษในการดูดซับพลังงานเเละความสามารถของผู้อื่นมาเป็นของตนเองผ่านการสัมผัสร่างกายอย่างไรก็ตามพลังงานเหล่านี้ไม่สามารถคงอยู่ได้นานผ่านไประยะหนึ่งมันก็จะหายไป เรียกได้ว่าความสามารถของเธอผิดปกติอย่างมาก ดังนั้น เธอจึงถูกเรียกว่า ปีศาจ สาว เพราะพลังที่ผิดปกติเเละน่าหวาดกลัวของเธอ

  ได้ยินเเฟนสาวชาโดว์เเคท กล่าวถามตนเอง ไอซ์แมนได้ผละมือออกจากคอม ก่อนหน้านี้ เขาถูกส่งตัวกลับจากไซบีเรีย เพราะอาการบาดเจ็บ ดังนั้น ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จึงส่ง เเฮงค์ ไปช่วยเหลือเเทนเขา

   ฉันรู้ว่าเธอไม่ต้องการที่จะรบกวนชีวิตอันสงบศึกของเเอนนา เเต่เธอไม่ได้ยินที่ สกาย’อาย พูดงั้นหรอ สถานการณ์ของมิราจไนท์นั้นย่ำเเย่อย่างมาก หากพวกเราไม่สามารถกำจัดพลังงานมืดนั่นออกไปได้ เขาก็จะตาย ดังนั้น… ไอซ์แมนกล่าวพูดออกมาอย่างทำตัวไม่ถูก

  ไอซ์แมนชาโดว์เเคท เเละ โร้ค ทั้งสามคนมีความสัมพันธ์ในวัยเด็กร่วมกัน ในเวลานั้น ไอซ์แมน เป็นหนึ่งในคนที่มีพรสวรรค์ที่เเข็งเเกร่งเเละได้รับความนิยมมากในหมู่นักเรียนจนในที่สุดเขาก็ได้ตกหลุมรักกับคิตตี้ โร้ค ที่รับรู้ได้ว่าเป็นส่วนเกินของทั้งคู่ในตอนนั้นได้ตัดสินใจถอนตัวออกจากโรงเรียนเเละเลือกเดินไปตามทางของเธอ

  ดังนั้นหากไม่ใช่เพราะว่าสถานการณ์ของมิราจไนท์กำลังย่ำเเย่ไอซ์แมน เองก็ไม่ต้องการที่จะรบกวน โร้ค

   ถ้าเช่นนั้นายก็ติดต่อเธอเถอะเเต่พวกเราเองก็ไม่รู้ว่าเธอจะยอมเต็มใจมากับเราด้วยหรือไม่ ชาโดว์เเคทกล่าวตอบ

  เกี่ยวกกับเพื่อนที่ดีของตนเองเเละคำพูดของเเฟนของเธอในปัจจุบันชาโดว์เเคท ไม่รู้จะพูดอะไรออกมา ยังไงก็ตาม พวกเขาทั้งสามคนก็เคยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก่อนเเม้จะผ่านวันคืนร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกันหลายครั้งเเต่ถึงอย่างนั้นสำหรับชาโดว์เเคทเเล้วเธอไม่รู้ว่า โร้ค จะยินยอมกลับมาด้วยหรือไม่

   ได้…ฉันจะลองติดต่อเธอ! ได้ยินคำพูดของคิตตี้ ไอซ์แมน ค่อนข้างอึดอัด เเต่ในเวลานี้เขาไม่สามารถลังเลได้

  จากนั้นไอซ์แมนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับกดเบอร์นึงที่เเทบจะไม่ได้โทรออกมาเป็นระยะเวลาหลายปี

  ติ๊ดตุ๊ดดด~~

   ไอซ์แมน นายโทรมามีอะไร? ทันทีที่เชื่อมต่อสายเสร็จเสียงจากปลายสายก็ได้ถูกส่งผ่านมายังหูของไอซ์แมน เสียงที่ว่านั่นเป็นเสียงดังก้องของชายคนนึงเเฝงไปด้วยความล้ำลึก

  ได้ยินเสียงที่ส่งมาจากโทรศัพท์มือถือไอซ์แมน ค่อนข้างอึดอัด เเละ ประหลาดใจในเวลาเดียวกัน

   โลเเกน! 

  …

  นิวยอร์กชั้นบนสุดของอาคารสตาร์คอินดัสตรีท์เป็ปเปอร์ ได้ต้อนรับเจ้าหน้าที่ โคลสัน เเละ พาไปดูอาการของ เจนฟอสเตอร์ เเละ ธอร์ ในตอนนี้

  เป็ปเปอร์รู้สถานการณ์บางอย่างจาก J.A.R.V.I.S เเละ ได้รับคำยืนยันจากข้อมูลจาก องค์กร J.A.R.V.I.S คราวนี้ เธอก็สามารถยืนยันได้เเล้วว่าโทนี่ ได้ออกไปที่นั่นจริง ๆ

   คุณธอร์เเละ คุณฟอสเตอร์ ไม่ได้เจอกันนาน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่โคลสันที่เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นเเห่งนี้ได้กล่าวทักทาย ทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว

  เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ โคลสัน นั้น ธอร์สามารถจำได้ดี เพราะ ค้อนเทพเจ้าสายฟ้าของเขา ได้อยู่ภายใต้การควบคุมดูเเลของอีกฝ่าย สำหรับ เจน เเล้ว การที่เธอพบเจ้าหน้าที่ โคลสัน ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีอย่างมาก

   เจ้าคือ,เจ้าหน้าที่โคลสันสินะ  เห็นเจ้าหน้าที่โคลสันเข้ามา ธอร์ กล่าวถามด้วยน้ำเสียงขึงขัง

  ธอร์เข้าใจว่าตนเองในตอนนี้อาจจะไม่สามารถเทียบเท่ากับอิทธิพลขององค์กรที่เเข็งเเกร่งในโลกนี้อย่างองค์กรS.H.I.E.L.D. ได้ เเต่เขาก็ไม่ได้เกรงกลัวอีกฝ่าย เพราะเมื่อไหร่ที่เขาสามารถเรียกคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้ากลับมาได้ทั้งหมด เขาย่อมสามารถกลายเป็นหนึ่งในตัวตนที่อีกฝ่ายไม่กล้าดูถูกเขา

   ฮ่าฮ่าไม่คาดคิดว่าคุณจะจำผมได้ด้วย ได้ยินคำพูดของธอร์ ทัศนคติของ เจ้าหน้าที่ โคลสัน ได้กล่าวตอบอย่างค่อนข้างอึดอัดใจ

   เจ้าหน้าที่จากองค์กรS.H.I.E.L.D. ต้องการอะไรจากพวกเราล่ะตอนนี้ หรือว่า ข้อมูลที่ฉันค้นพบพื้นที่มิติ  หลังจากที่เจ้าหน้าที่โคลสันกล่าวตอบ เจน ฟอสเตอร์ ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ได้กล่าวถามขึ้น

  เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ โคลสัน คนนี้ เจน รู้สึกไม่ชอบเขาเอามาก ๆ ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่โคลสัน ได้บุกยึดข้อมูลการค้นคว้าของเธอไปทั้งหมดโดยไม่สนใจคำคัดค้านของเธอเเม้เเต่น้อยดังนั้นเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จากองค์กร S.H.I.E.L.D. คนนี้มาอีก ไม่เเปลกที่เธอจะคิดว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรจากเธอ

  เพราะรายงานเกี่ยวกับพื้นที่มิติอวกาศนั่นมีค่าต่อการวิจัยอย่างมาก

  ได้ยินคำถามของเจน ฟอสเตอร์ สีหน้าของ เจ้าหน้าที่โคลสัน เปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเตรียมอธิบาย จู่ ๆ มุมห้องก็ปรากฏเสียงลิฟท์ที่ขึ้นมาถึง

  ติ๊ง~~

 

ปีศาจสาว

  เเป๊กเเป๊ก เเก๊ก !

  ในฐานลัพของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เสียงเคาะคีย์บอร์ดจำนวนมากได้ดังขึ้นภายในฐาน หลังจาก บอกกล่าวเเจ้งเตือนเดดพูลออกไป ในความคิดของ เจอร์รี่ ก็เต็มไปด้วยหนทางรักษา มิราจไนท์ หากสามารถกำจัดพลังมืดนั่นได้ มิราจไนท์ก็มีโอกาสรอดมากขึ้น

  เเป๊กเเป๊ก

  สองมือของเจอร์ณี่ ได้พิมพ์บางอย่างลงไปบนเเป้นคีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว จากนั้น เขาก็ได้ทำการเชื่อมต่อกับ ทีม X-MEN สิ่งที่ เจอร์รี่ บอกว่าคนที่จะสามารถช่วยเหลือมิราจไนท์ได้ คือคนคนนึง เเละบุคคลคนคนนี้เเท้จริงเเล้วมีความเกี่ยวข้องกับทีม X-MEN ถ้าจะเรียกให้ถูกก็คือเคยมีความเกี่ยวข้อง

  เเม้เจอร์รี่จะไม่ใช่คนของทีมX-MEN เเต่เขามีความสามารถในด้านเเฮ็กเกอร์ ในโลกเครือข่าย เขาเปรียบเสมือนพระเจ้า ดังนั้นข้อมูลที่คนจำนวนมากไม่รู้ เขาสามารถล่วงลึกข้อมูลเหล่านั้นได้

  ยิ่งหลังจากที่เจอร์รี่ เข้าร่วมทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ,ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ องค์กร S.H.I.E.L.D. เเละ ทีมX-MEN ก็ได้จับมือร่วมกันเเละเเชร์ข้อมูลเครือข่ายขนาดใหญ่เอาไว้ ในปัจจุบัน เจอร์รี่ สามารถล้วงข้อมูลเฉพาะเจาะลึกได้ เเม้จะต้องสูญเสียเวลาพอสมควรเเต่มันก็คุ้มค่า

  ทันทีที่เจอร์รี่เจาะลึกเข้าไปในฐานข้อมูลของทีมX-MENเขาก็รับรู้ประวัติเเละคุณสมบัติเเทบจะทั้งหมดของสมาชิกเเต่ละคน เจอร์รี่ ไม่ได้มีเจตนาที่จะขโมยข้อมูลเหล่านี้ เเต่ เพื่อรักษามิราจไนท์ เขามีเเต่จะต้องทำมันเพียงเท่านั้น

   เธอได้หลบหนีหายตัวไปเมื่อหลายปีที่ผ่านมาเเละไม่ปรากฏตัวขึ้นเเต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม เเม้เธอจะหลบซ่อนตัวเเต่ก็ไม่สามารถหลบซ่อนตัวในโลกใบนี้ได้ทั้งหมด เจอร์รี่ ได้ครุ่นคิดเงียบ ๆ

  ขณะที่เจอร์รี่ ติดต่อกับทีม X-MEN เขาก็ได้รับการตอบกลับ

   สกาย’อายทำไมนายถึงมองหา ปีศาจสาวคนนั้นด้วย  

  …

  นิวยอร์กใจกลางเมืองอุตสาหกรรมสตาร์ค,ชั้นใต้ดินลับ ตอนนี้ เเฮร์รี่ ได้เฝ้าไข้เเจ็คสันอยู่นอกห้องเเละมองดูอาการอยู่ห่าง ๆ

   J.A.R.V.I.Sคุณไม่มีวิธีกำจัดพลังงานมืดเหล่านั้นเลยงั้นหรอ ด้านนอกห้องผู้ป่วย เเฮร์รี่ ได้กล่าวถาม J.A.R.V.I.S เเละจ้องมองไปที่ร่างที่ไร้สติของ เเจ็คสัน

  เมื่อรู้ว่าJ.A.R.V.I.S ไม่มีหนทางช่วยเหลือในตอนนี้ เเฮร์รี่ ไม่อยากจะเชื่อในคำพูดเหล่านั้น เทคโนโลยีทั้งหมดที่ทางออสคอร์ปมี เเฮร์รี่ ได้ยกมันมาเพื่อผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีของสตาร์คจนการเป็นสุดยอดเทคโนโลยีเเห่งการรักษา เเต่ถึงอย่างนั้นมันกลับไม่สามารถช่วยเหลือเเจ็คสันได้

   เรื่องที่ผมสามารถทำได้ผมก็ทำไปหมดเเล้วตอนนี้ ที่พวกเราทำได้ก็คงมีเเต่เฝ้ามองอาการของเขาอย่างเป็นห่วง ได้ยินคำถามของ เเฮร์รี่ J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

  ทันทีที่ได้ฟังคำตอบของJ.A.R.V.I.S ผิวของเเฮร์รี่ กลายเป็นดำมืดมากขึ้น สถานการณ์ของเเจ็คสันตอนนี้ ถือเป็นสถานการณ์ที่น่ากลัวมากสำหรับเขา อาการของเเจ็คสันร้ายเเรงมากจนอาจถึงขั้นเสียชีวิต เเฮร์รี่ ไม่รู้จะทำอะไรดี ในเวลานี้เขารู้สึกโทษตัวเองที่ไร้ประโยชน์ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

   เเล้วธอร์ กับ เจน ฟอสเตอร์ ล่ะ บางทีหากสามารถระบุสถานการณ์ของพวกเขาได้ก็จะสามารถหาทางช่วยเหลือเเจ็คสันได้เหมือนกัน เเฮร์รี่ ได้กล่าวถามออกมาเล็กน้อย

   คุณธอร์ เเละ เจน นั้นอยู่ในอาคารอีกเเห่ง เจ้าหน้าที่ตัวเเทนจากองค์กร S.H.I.E.L.D. เจ้าหน้าที่โคลสัน ได้กำลังค้นหาสถานการณ์ของพวกเขาอยู่ J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

   โคลสัน มันจะไปได้เรื่องอะไร เเม้เเต่นายยังทำอะไรไม่ได้ พวกเจ้าหน้าที่จากองค์กร S.H.I.E.L.D. จะสามารถช่วยเหลืออะไรได้กัน เเฮร์รี่ ตะโกนออกมาอย่างโกรธเคือง

   จริงสิ…ธอร์ บางทีเขาอาจมีวิธีเเก้ปัญหาพลังมืดนี้ ! ทันใดนั้น เเฮร์รี่ ก็ราวกับฉุดคิดขึ้นได้

  ธอร์เป็นมนุษย์ต่างดาวที่เเข็งเเกร่ง เเละ พวกดาร์คเอลฟ์ก็เป็นมนุษย์ต่างดาว ในหมู่พวกเขาอาจจะเคยมีความสัมพันธ์หรือรู้จักกัน เเจ็คสันในตอนนี้ติดผลลัพธ์ข้างเคียงพิเศษจากการโจมตีของพวกดาร์คเอลฟ์ บางที ธอร์ อาจจะรู้ข้อมูลอะไรที่สามารถช่วยเหลือเเจ็คสันได้

   J.A.R.V.I.Sฉันจะออกไปพบธอร์ทันที! เเฮร์รี่ ได้กล่าวออกมา

   เเต่… 

   อย่าได้ห้ามฉันไม่ว่ายังไงฉันก็จะออกไปพบเขา! ไม่รอให้J.A.R.V.I.S ตอบกลับ เเฮร์รี่ ได้จ้องมองไปที่ เเจ็คสันครานึงก่อนที่จะเดินออกจากห้องพยาบาลนี้ไป

  ติ๊ด

  เเฮร์รี่ได้ขึ้นลิฟต์เพื่อออกจากชั้นใต้ดินนี้โดยตรง

  …

   คุณถามฉันว่าทำไมฉันถึงมองหาปีศาจสาวคนนั้นงั้นหรอสถานการณ์ในปัจจุบันของ มิราจไนท์ร้ายเเรงมาก ฉันคิดไม่ออกนอกจากเธอเเล้วคงไม่มีใครช่วยมิราจไนท์ได้ ในฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เจอร์รี่ ได้กล่าวโต้ตอบกับบุคคลผู้นึงบนหน้าจอคอม

  เพื่อช่วยเหลือมิราจไนท์ เจอร์รี่ ต้องการความสามารถพิเศษของ ปีศาจสาวคนนั้น ถ้าข้อมูลที่เขาอ่านเป็นของจริงล่ะก็ความสามารถของเธอสามารถที่จะช่วยเหลือมิราจไนท์ได้ พลังของเธอคือการดูดซับพลังพิเศษหรือดูดซับพลังงานชีวิตของคนคนนั้นมาเป็นของเธอได้ เจอร์รี่ ต้องการให้ เธอใช้พลังกับเดดพูลเพื่อรับเอาพลังเเห่งการรักษามาเพื่อรักษามิราจไนท์

   นายจะบอกว่าเพื่อช่วยเหลือมิราจไนท์จำเป็นจะต้องดึงพลังงานมืดนั่นออกมาใช่หรือไม่ ได้ยินคำพูดของเจอร์รี่บุคคลในหน้าจอคอมได้กล่าวตอบ

   ใช่,ถ้าพลังงานมืดนั่นถูกดึงออกมาฉันเชื่อว่ามิราจไนท์จะสามารถรอดได้ เเต่ตอนนี้ ฉันไม่รู้ว่ามิราจไนท์จะสามารถทนได้อีกนานเเค่ไหน เผชิญหน้ากับคำถามของอีกฝ่าย เจอร์รี่ ตอบกลับความจริง

   ดี…ฉันจะช่วยนายมองหาปีศาจสาวในทันที! ได้ยินคำตอบของเจอร์รี่บุคคลผู้นี้ได้กล่าวโต้ตอบเเละยอมรับในที่สุด

   ขอบคุณไอซ์แมน ! 

 

หนทางช่วยเหลือของเจอร์รี่

  โลก,นิวยอร์ก,ฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

  ตั้งเเต่ที่มิราจไนท์ไปรวมตัวกับพันธมิตรคนอื่นๆ เเละร่วมศึกต่อสู้ เจอร์รี่ ก็คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเเละติดตามสถานการณ์แบบเรียลไทม์ตลอด เเม้ J.A.R.V.I.S จะมีอำนาจทางการติดต่อเเละเครือข่ายสัญญาณทั้งหมด เเต่อย่าลืมว่า เจอร์รี่ เองก็มีความสามารถคนนึง เขาถูกเรียกว่า ก็อด ในโลกอินเทอร์เน็ต ดังนั้นเพื่อช่วยเหลือการค้นหาเเละติดตามสถานการณ์การทำงานร่วมกันกับ J.A.R.V.I.S ยิ่งทำให้พวกเขาทั้งคู่ได้รับผลลัพธ์ที่รวดเร็วขึ้น

  ฟุ่บ!

  ตอนนี้เจอร์รี่ กำลังกดเเป้นพิมพ์บางอย่างด้วยอาการตื่นตระหนก ดูเหมือนเขาจะเป็นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงกว่าเเล้ว

  ตั้งเเต่ที่ไซบีเรียมีประตูมิติอวกาศปรากฏขึ้นเจอร์รี่ ก็วุ่นมาตลอด ยิ่งตอนนี้เขารับรู้ว่ามิราจไนท์ได้เข้าไปยังพื้นที่มิติอวกาศเเห่งใหม่ที่ลอนดอน ทำให้เขายิ่งร้อนใจมากขึ้น จากนั้นเขาก็ได้รับข่าวร้ายหลังจากที่มิราจไนท์ออกมา

  มิราจไนท์ได้ประสบอุบัติเหตุหนักจนตอนนี้ไม่ทราบว่าจะเป็นตายร้ายดียังไงทำให้ เจอร์รี่ เกิดความกังวลในใจอยู่หลายส่วน

  เเป๊กเเป๊ก

  เมื่อรู้สถานการณ์วิกฤติของมิราจไนท์เจอร์รี่ พยายามหาทางช่วยมิราจไนท์อย่างเต็มความสามารถโดยใช้เครือข่ายข้อมูลที่ตนเองมี เขาได้อ่านข้อความเหตุการณ์ลึกลับมากมาย เเละใช้ประสบการณ์เหล่านั้นที่อ่านมาเปรียบเทียบผลข้างเคียงกับที่มิราจไนท์นั้นเป็นอยู่ เเต่มันก็ราวกับว่าไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย เพราะเขาไม่รู้วิธีหรือบ่งบอกสิ่งที่ มิราจไนท์เป็นอยู่ในตอนนี้

  ปั้ง

   บ้าบ้าที่สุด ! ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ! มิราจไนท์ คุณต้องอดทนไว้ก่อนนะ ! เจอร์รี่ ทุบกำปั้นไปที่เเป้นพิมพ์อย่างรุนเเรงเขาในตอนนี้รู้สึกท้อเเท้อย่างมาก

   เจอร์รี่,อาการของมิราจไนท์ยังไม่ดีขึ้นอีกงั้นหรอ ในเวลาเดียวกันที่เจอร์รี่ทุบเเป้นพิมพ์ เสียงของ เดดพูล ที่เดินมาจากทางด้านหลังก็ได้ดังขึ้น

   ยังเลย! ฉันกับ J.A.R.V.I.S ได้เชื่อมต่อผลสเเกนอาการล่าสุดของมิราจไนท์ ตอนนี้ ชีพจรชีวิตของเขา ดูไม่เสถียรอย่างมาก ! เจอร์รี่ ตอบกลับอย่างหมดหวัง

  ได้ยินคำตอบของเจอร์รี่เดดพูล ได้จ้องมองไปที่กราฟภาพบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เเต่เขาก็ไม่สามารถเข้าใจข้อมูเหล่านี้ได้ทั้งหมด สิ่งที่เขาเห็นก็คือ ตัวหนังสือสีเเดงที่เเจ้งเตือนอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับคลื่นชีพจรชีวิตของ มิราจไนท์ ทำให้เขาคาดเดาได้ว่า อาการของ มิราจไนท์ยังไม่ดีขึ้น

   มิราจไนท์ได้เผชิญหน้ากับอันตรายอย่างพวกสัตว์ประหลาดต่างดาวนั่นเเละสามารถรอดกลับมาได้อย่างปลอดภัย มาคราวนี้ ก็เป็นพวกต่างดาวเหมือนกันทำไมมิราจไนท์ถึงมีอาการสาหัสย่ำเเย่ขนาดนี้  เดดพูล ได้กล่าวออกมา เขากับมิราจไนท์เคยเผชิญหน้ากับอันตรายบนดาวเคราะห์นอกโลกมาด้วยกันเเล้ว เเละ เดดพูล ก็เข้าใจความเเข็งเเกร่งของมิราจไนท์ดี มิราจไนท์ในตอนสามารถฆ่ากระทั่งปีศาจต้นไม้ยักษ์นั่นได้

  ในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ถ้าจะว่าใครรู้จักความเเข็งเเกร่งของมิราจไนท์ดี ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นเดดพูล,เดดพูล รู้สึกยอมรับความเเข็งเเกร่งของมิราจไนท์มาก น้อยคนที่จะทำให้เขารู้สึกเช่นนี้

   เห้อ,ถ้าฉันสามารถเจ็บเเทนเขาได้ฉันก็จะขอแบกรับมันไว้ทั้งหมดเอง เจอร์รี่กล่าวพึมพัมออกมาพร้อมกับดูภาพเบื้องหน้าด้วยความกังวล

   หึ่ม! ถ้านสามารถดูดซับอาการบาดเจ็บของมิราจไนท์เเทนได้ก็คงจะดี ! ในเวลาเดียวกัน เดดพูล ก็พูดสิ่งที่คล้าย ๆ กันออกมา

  ฟวั่บ!

  ได้ยินเสียงพึมพัมของเดดพูลเจอร์รี่ ได้ดีดตัวลุกขึ้นก่อนที่จะหันไปยังทิศทางของเดดพูล

   เดี๋ยวนะ…เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ เจอร์รี่ จ้องมองไปที่ เดดพูล ด้วยดวงตาที่เกือบจะถลึน ร่างกายของเขารู้สึกสั่นเทามากตอนนี้

   เอ๋…ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย! เห็นเจอร์รี่ มีท่าทางตื่นเต้น เดดพูล รู้สึกตกใจเล็กน้อย

   ไม่…คุณเพิ่งพูดถ้าคุณสามารถดูดซับอาการบาดเจ็บของมิราจไนท์! เจอร์รี่ ไม่สนใจคำพูดของเดดพูล เขาทวนคำพูดในทีเเรกให้เดดพู,ฟังอีกครั้ง

   ใช่,ฉันพูดก็จริงเเต่ฉันไม่สามารถดูดซับอาการบาดเจ็บของมิราจไนท์มาไว้ที่ตนเองได้ ได้ยินเจอร์รี่ทวนคำพูดของตนเอง เดดพูล รู้สึกสงสัย

  หากสามารถดูดซับอาการบาดเจ็บของมิราจไนท์มาให้กับตัวเองได้จริงกรณีที่เลวร้ายที่สุด เดดพูล ก็เเค่นอนหมดสติเป็นเวลาหลายวัน

   ไม่เสมอไปคุณอาจจะทำไม่ได้ เเต่มีคนสามารถช่วยเหลือได้ ไม่เพียงเเต่จะช่วยเหลืออาการบาดเจ็บของมิราจไนท์ เเต่เรายังสามารถกำจัดพลังงานสีดำอันเเปลกประหลาดนั่นออกไปได้อีกด้วย เจอร์รี่ จ้องมองไปที่ เดดพูลอย่างจริงจัง

  หลังจากกล่าวเตือนความจำของเดดพูล เจอร์รี่ ก็นึกบางอย่างขึ้นได้ หากสามารถอนพลังสีดำนั่นออกมาจากร่างกายของมิราจไนท์ มิราจไนท์ย่อมสามารถฟื้นฟูกลับมาได้เป็นปกติ

   เดี๋ยวๆ นายหมายความว่าไง  

   มีคนที่จะสามารถช่วยเหลือให้เราบรรลุวัตถุประสงค์นี้ได้อยู่ 

   เดดพูลคุณไปรอที่อาคารสตาร์คอินดัสตรีท์เลย ตอนนี้ ฉันขอไปติดต่อคนคนนึงที่จะสามารถช่วยเหลือมิราจไนท์ได้ก่อน! เห็นเดดพูลกำลังงุนงงกับความโง่เขลา เจอร์รี่ ตอบกลับอีกครั้ง

   นายสามารถหาคนที่จะช่วยมิราจไนท์ได้จริงงั้นหรอ ได้ยินคำตอบของเจอร์รี่เดดพูล ราวกับไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน

   ใช่,ฉันจะลองติดต่อเธอดู! 

   ดี,ฉันจะไปเดี๋ยวนี้! ได้ยินคำตอบยืนยันจากปากของเจอร์รี่เดดพูล รีบปฏิบัติตามในทันที

  ฟุ่บ

  จากนั้นไม่นานเดดพูล ก็ออกจากฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ไปอย่างรวดเร็ว

   มิราจไนท์คุณสบายใจได้ ตอนนี้ ฉันพบวิธีที่จะช่วยชีวิตคุณเเล้ว !  หลังจากเดดพูลออกไป เจอร์รี่ ก็พึมพัมออกมาอย่างเสียงดัง

  เเป๊กเเป๊ก

  จากนั้นเขาก็เคาะเเป้นพิมพ์อีกครั้งเสียง เเป้นพิมพ์ได้ดังไปทั่วห้องเเห่งนี้ เเต่ทว่า เจอร์รี่ หาได้สังเกตุเลยว่า ภายในฐานเเห่งนี้ หลังจากที่เดดพูลออกไป ก็มีร่างกายของคนคนนึงได้ขยับเคลื่อนไหว

  เจ้าของร่างกายคนนี้ก็คือคนที่เดดพูลลากกลับมาจากสนามรบก่อนหน้านี้เขาได้ถูกซ่อนเอาไว้ในมุมมืดเเละตอนนี้ร่างกายของเขาก็กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง

  ดูเหมือนว่าพอหลังจากสมาชิกทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์คนอื่นๆ ได้ออกไปกันเเทบจะทั้งหมด คนลึกลับคนนี้ก็เริ่มทยอยได้สติขึ้นมาทีละน้อย

 

ยืมสิ่งนั้น

  หึ่ม!

  เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้ได้สะดุ้งตกใจเพราะประตูมิติอวกาศด้านหลังของเขาได้เกิดคลื่นความผันผวนอีกครั้งจากนั้นผู้บาดเจ็บจำนวนมากก็ถูกหามออกมาโดยนอนใส่เปปลเขาเพิกเฉยต่อสถานการณ์ที่สำนักงานใหญ่รายงานมา จากนั้นก็รีบจัดการพื้นที่เพื่ออพยพผู้บาดเจ็บเหล่านี้อย่างเร่งด่วน

   เกี่ยวกับรายงานนั่นฉันที่เป็นผู้บัญชาการฐานชั่วคราว ฉันไม่สามารถตัดสินใจเองได้ ดังนั้นฉันควรจะรอให้ กัปตันโรเจอร์ส กลับมาซะก่อนค่อยพูดเรื่องีน้กันอีกครั้ง หวังว่าสถานกาณณ์ที่นั่นจะสามารถคลี่คลายเเละควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้สักัก จ้องมองไปที่ผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้กล่าวพึมพัมออกมา

  ฟุ่บ!

  ขณะที่เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้กำลังตรวจสอบอาการบาดเจ็บของผู้บาดเจ็บเหล่านี้เขาก็เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยที่ผ่านประตูมิติอวกาศออกมา เงาร่าง ๆ นึง ได้เเบกร่างของอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บหนักออกมาด้วย

   สไปเดอร์แมน กับพ่อมดของ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเม้เเต่พวกเขายังได้รับบาดเจ็บงั้นหรอ ? เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยเดินออกมาจากประตูมิติอวกาศ เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้้รีบเดินไปยังทิศทางพวกเขาทันที

   เฮ้,เเจ็คพวกเราปลอดภัยเเล้ว นายยังไหวใช่มั้ย ! ปีเตอร์กล่าวถามเเจ็คที่อยู่ด้านข้างเขา พวกเขาทั้งคู่ต่างก็ได้รับบาดเจ็บเเต่เเจ็คนั้นโชคร้ายกว่าที่ได้รับบาดเจ็บหนักกว่าเขา

  ขณะนั้นเองเจ้าหน้าที่สื่อสารคนนั้นก็มาถึงด้านหน้าของพวกปีเตอร์เเละเเจ็คก่อนที่จะกล่าวถามข้อมูลสถานการณ์ทางฝั่งนั้นโดยปีเตอร์ ได้เล่าว่า พวกดาร์คเอลฟ์นั้นเเข็งเเกร่งมาก เเม้จะได้รับความช่วยเหลือจากองทัพไอรอนแมนกว่า 100 ตัว เเต่กัปตันโรเจอร์ส ก็ยังไม่ยกเลิกคำสั่งอพยพเเละต้านรับศึกเพื่อปกป้องประตูมิติอวกาศอย่างยากลำบาก

   ไม่ใช่ข่าวดีเลยจริงๆ !  เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้หลังจากได้ยินคำตอบของสไปเดอร์แมน เขาก็บีบกำมือเเน่น เเละ พูดด้วยน้ำเสียงที่ดื้อรั้น

   เเม้พวกดาร์คเอลฟ์จะเเข็งเเกร่งกว่าที่พวกเราคิดเอาไว้เเต่การสนับสนุนจากกองทัพไอรอนแมนกว่า 100 ตัว ทำให้พวกเราสามารถปกป้องประตูมิติอวกาศที่อยู่ด้านนั้นได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ต้องกังวล ฉันเชื่อว่า กัปตันโรเจอร์ส จะต้องพาคนอื่น ๆ กลับมาที่โลกได้อย่างปลอดภัย  ได้ยินเสียงพึมพัมของเจ้าหน้าที่สื่อสาร ปีเตอร์ ได้กล่าวพูดอย่างเร่งรีบ เกี่ยวกับความสามารถของกัปตันโรเจอร์ส ปีเตอร์ เชื่อใจในชายคนนั้น

   อืม,ฉันเข้าใจเเล้วฉันจะสั่งการเฝ้าระวังรอบฐานเเห่งนี้อย่างเเน่นหนา เเม้ว่าพวกมันจะออกมาเยือนที่นี่ได้ เเต่ฉันรับประกันว่าพวกมันจะไม่มีทางได้ออกไปจากพื้นที่บริเวณนี้อย่างเเน่นอน ได้รับเเรงผลักดันจากคำพูดของสไปเดอร์แมน เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้กลายเป็นฮึกเฮิมมากขึ้น

   จริงสิคุณสตาร์ค เเละ ดาร์คไนท์ เล่า  ปีเตอร์ที่เเบก เเจ็คเดินไประหว่างทางได้หันศีรษะไปด้านข้างเเละกล่าวถามเจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้ในระเวลาเดียวกัน

  ตามปกติเเล้วทันทีที่ตนเองออกมา คน ๆ เเรกที่จะออกมาต้อนรับเขาสมควรเป็น เเฮร์รี่ เเต่ว่าตั้งเเต่เขาออกมาเขายังไม่เห็นเงาของ เเฮร์รี่ เเละ โทนี่ เลย ดังนั้น ปีเตอร์ จึงรู้สึกสงสัย

   คุณสตาร์คเขาบอกว่าเขามีธุระด่วนที่จะต้องรีบไปจัดการส่วน ดาร์คไนท์ เขาได้รับข่าวบางอย่างก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นเขาก็ออกไปในทันที  ได้ยินคำพูดของสไปเดอร์แมน เจ้าหน้าที่สื่อสารตอบอย่างค่อนข้างอึดอัดใจ

   ธุระเร่งด่วน ได้รับข่าวบางอย่าง ? ไม่มันไม่น่าจะใช่… ปีเตอร์ที่กำลังเดินพร้อมกับเเบกเเจ็คอยู่ได้หยุดนิ่งชั่วครู่ก่อนที่จะครุ่นคิดในใจอยู่หลายครั้ง

   หรือว่าเเจ็คสัน เกิดอุบัติเหตุ J.A.R.V.I.S คุณอยู่หรือไม่ ? พริบตาต่อมา ปีเตอร์ ได้เรียกหา J.A.R.V.I.S

   ผมอยู่ที่นี่สไปเดอร์แมน ! หลังจากปีเตอร์ เรียกหา J.A.R.V.I.S,เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ดังก้องในหูของปีเตอร์ทันที

   มีสถานการณ์อะไรที่ฉันยังไม่รู้อีกบ้าง ปีเตอร์ ไม่ได้อ้อมค้อมเขากล่าวถามโดยตรง

  เพราะปีเตอร์รู้ว่าJ.A.R.V.I.S เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ฉลาดมาก เขาเชื่อว่า J.A.R.V.I.S ย่อมต้องเข้าใจเจตนาที่เขากำลังพยายามจะสื่อเพราะ J.A.R.V.I.S รับรู้ความสัมพันธ์ของเขากับ เเจ็คสัน ดังนั้น ปีเตอร์ จึงไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อม

   คุณมิราจไนท์ ได้รับบาดเจ็บหนักจากการสู้ศึกกับพวกดาร์คเอลฟ์ชั้นสูงที่กรุงลอนดอน อาการบาดเจ็บของเขายังคงไม่ถึงเเก่ชีวิต เเต่ชีพจรของเขาก็เริ่มไม่มั่นคง 

   ผมได้รายงานให้ดาร์คไนท์ ฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากเขาได้รับข่าวเขาก็กลับไปที่นิวยอร์ก ในเวลานี้ คุณสตาร์คเองก็กำลังกลับไปที่นิวยอร์ก ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ ที่ย่านชานเมืองลอนดอน พื้นที่มิติอวกาศนั่นได้ปรากฏสัตว์ประหลาดเเละสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าพวกดาร์คเอลฟ์ปรากฏขึ้น ตอนนี้ ทางกองกำลังขององค์กรS.H.I.E.L.D. กำลังเข้าต้านทานอยู่ พวกเขาตัดสินใจว่าจะทำลายพื้นที่เเถบนั้นโดยใช้การโจมตีแบบทำลายล้าง 

  J.A.R.V.I.Sได้บอกสถานการณ์เกี่ยวกับสิ่งที่ปีเตอร์ ควรรู้ เพราะ J.A.R.V.I.S รู้ดีว่า เขา เเละ มิราจไนท์ เป็นเพื่อนกันดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นจะต้องปิดบัง

   ไม่ถึงเเก่ชีวิตเเต่ชีพจรก็เริ่มไม่มั่นคง หมายความว่าไง  ปีเตอร์ ได้ยินคำเหล่านี้ เขาได้รีบกล่าวถาม J.A.R.V.I.S อย่

  างรวดเร็ว

   กล่าวอีกนัยนึงคือสถานการณ์ของ มิราจไนท์ในตอนนี้ มีโอกาสที่จะเสียชีวิตทุกเวลา  

  ฟุ่บ!

  ได้ยินคำตอบของJ.A.R.V.I.S ปีเตอร์ที่เเบกเเจ็คอยู่มือของเขาเเทบจะไร้เรี่ยวเเรงจนเผลอทำเเจ็คหล่นลงไปนอนที่พื้นโดยตรง

   สไปเดอร์แมนคุณไม่เป็นอะไรนะ !! เห็นสไปเดอร์แมนมีท่าทีผิดปกติ เจ้าหน้าที่สื่อสารได้เหลือบมองมาเห็นพร้อมกับรีบไปพยุงเขาทันที

   ฉันไม่เป็นอะไร! ปีเตอร์ ได้พยุงเเจ็คขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่จะกล่าวตอบ

   ฉันขอฝากเขาด้วย! นอกจากนี้ ถ้าพวกกัปตันโรเจอร์สกลับมา ให้คุณบอกเขาว่าฉันมีธุระที่จะต้องรีบไปทำ ดังนั้นฉันขอตัวก่อน ! ปีเตอร์ได้ส่งเเจ็คที่หมดสติให้ เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนั้นรับช่วงต่อ

   นี่… เจ้าหน้าที่สื่อสารรับเเจ็คที่หมดสติมาก่อนที่จะตื่นตะลึงในเวลาเดียวกัน

   J.A.R.V.I.Sสามารถจัดเตรียมชุดเกราะไอรอนแมนมาให้ฉันตอนนี้ ได้หรือเปล่า  หลังจากยื่นส่งเเจ็คเสร็จปีเตอร์ก็กล่าวถาม J.A.R.V.I.S

   ตอนนี้ชุดเกราะไอรอนแมนทุกตัวได้ติดภารกิจทั้งหมดหากคุณต้องการกลับนิวยอร์กโดยเร็วที่สุด ผมสามารถติดต่อทำเรื่องยืม เครื่องบิน ควินเจ็ท ขององค์กร S.H.I.E.L.D. ได้ J.A.R.V.I.S ตอบกลับปีเตอร์

  ฟุ่บ

   คุณมีอะไรให้ฉันช่วยมั้ย เห็นสไปเดอร์แมนจ้องมองมาที่ตนเอง เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้ได้กล่าวถามอย่างรวดเร็ว

   ฉันขอยืมเจ้าสิ่งนั้นหน่อยเเล้วกัน! 

   เอ๋..เเน่นอน 

 

ข่าวร้าย

  โลก,ไซบีเรียฐานพิเศษชั่วคราวองค์กร S.H.I.E.L.D.

  หลังจากที่ทีมที่เเข็งเเกร่งที่สุดในโลกนำทัพโดยกัปตันอเมริกาเพื่อเข้าร่วมเเผนS เวลาก็ล่วงเลยผ่านมามากกว่า 1 ชั่วโมงเเล้ว ก่อนหน้านี้ 10 นาที ยานพาหนะจำนวนมากได้หลั่งไหลเข้าสู่ด้านหลังประตูมิติอวกาศเพื่อสนับสนุนเเผนการ S เเละ เเผนการต้านทานทัพของศัตรูเเละปกป้องประตูมิติอวกาศก็ยังคงดำเนินต่อไป

  หึ่ม!

  หลังจากที่ประตูมิติอวกาศส่งชุดเกราะไอรอนแมนมากกว่า100 ตัวเข้าไปได้ไม่นาน ที่โลกประตูมิติอวกาศก็เกิดควาผันผวนที่รุนเเรงอีกครั้ง ทีมที่รับหน้าที่ป้องกันประตูมิติอวกาศได้เตรียมพร้อมรับมืออย่างรวดเร็ว

  ฟิ้ว!

  จู่ๆ ทันใดนั้นเองก็มีไอรอนแมนตัวนึงบินตีลังกาออกมาจากประตูมิติอวกาศก่อนที่จะหมุนตลบหลายครั้งเเละยืนมั่นคงได้ในที่สุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไอรอนแมนตัวนี้ก็คือ โทนี่ หลังจากรับรู้ว่าเเจ็คสันได้รับบาดเจ็บสาหัส โทนี่ ก็ตัดสินใจกลับโลกเเละมอบหมายหน้าที่ให้กัปตันโรเจอร์สพร้อมทีมไอรอนแมนสนับสนุนมากกว่า 100 ตัว จัดการที่เหลือต่อ โทนี่ เชื่อว่า กัปตันโรเจอร์สที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพไอรอนแมนมากกว่า 100 ตัวย่อมพาทีมสหพันธ์โลกกลับมาได้อย่างปลอดภัย

   ยินดีต้อนรับกลับครับเจ้านาย ! ขณะที่โทนี่ยืนอย่างมั่นคง เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้ดังกึกก้องในหูของเขา

  หลังจากกลับมาที่โลกการเชื่อมต่อระบบหลักของ J.A.R.V.I.S ก็กลับมาทำงานอีกครั้ง คราวนี้ โทนี่ เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายความรู้สึก

   อืม,J.A.R.V.I.Sประสานงานเฝ้าระวังอย่างเเน่นหนาอย่าให้สิ่งประหลาดเเปลกปลอมหลุดรอดออกไปจากที่นี่ได้! หลังจากร่อนลงมาที่พื้น โทนี่ ก็กล่าวตอบ J.A.R.V.I.S

   ครับเจ้านาย!  J.A.R.V.I.S ตอบรับคำทันที

  ทันทีที่โทนี่ ลงมาที่พื้น ก็มีเจ้าหน้าที่จากองค์กร S.H.I.E.L.D. หลายคนมารอต้อนรับ หนึ่งในนั้นคือ เจ้าหน้าที่สื่อสารที่รับหน้าที่ติดต่อระหว่างทั้งสองฝ่าย

   คุณสตาร์ค สถานการณ์ทางด้านนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เกี่ยวกับรายงานที่ผมได้รับล่าสุดจากพวกคุณทำให้ผมรู้สึกกังวลเเทบตาย !  เห็นโทนี่ เปิดหมวกนิรภัยออก เจ้าหน้าที่ สื่อสารคนนั้นกล่าวถามอย่างกังวล

   สบายใจเถอะ! เกี่ยวกับพวกดาร์คเอลฟ์ทางด้านนั้น หากไม่เจอภัยคุกคามขนาดใหญ่เข้า อีกไม่นานก็ได้รับการเเก้ไข ฉันได้ให้ กองทัพไอรอนแมนกว่า 100 ตัวให้การสนับสนุน กัปตันโรเจอร์สเเล้ว เขาน่าจะสามารถนำทีมพันธมิตรโลกกลับมาได้อย่างปลอดภัย โทนี่ กล่าวตอบ เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนั้น

   เป็นข่าวที่ดีมากเเล้วทำไมคุณถึง… ได้ยินคำพูดของโทนี่ เจ้าหน้าที่สื่อสารตอบรับเข้าใจ ก่อนที่จะสงสัยบางอย่างเเละพยายามจะกล่าวถามออกไป

   ฉันมีธุระสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องรีบไปทำดังนั้นฉันจึงกลับมาที่นี่ก่อน… โทนี่ม่ได้อธิบายมากเขาตอบกลับอย่างรวดเร็ว

   ธุระสำคัญ… 

   อืม,เกี่ยวกับภัยคุกคามของประตูมิติอวกาศนี่ฉันคิดว่านายเองก็น่าจะรู้ดีดังนั้น ฉันหวังว่านายจะรอสเเตนบายอยู่ที่นี่ เเละ รอพวกกัปตันโรเจอร์สกลับมา โทนี่ กล่าวตอบ

  จากนั้นเขาก็ปิดหมวกนิรภัยเเละเตรียมจะบินขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง

   คุณสตาร์ค! เห็นโทนี่เตรียมจะจากไป เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนั้นรีบตะโกนร้องขึ้นในทันที

  เกี่ยวกับสถานการณ์ประตูมิติอวกาศนี่รุนเเรงมากมีอะไรสำคัญมากกว่าการปกป้องประตูมิติอวกาศนี่ เขาเองก็ชักจะสงสัยเกี่ยวกับ ธุระ ของ โทนี่ สตาร์ค

   หน้าที่รับผิดชอบเฝ้าประตูมิติอวกาศฉันคงต้องฝากนายด้วยอย่าทำให้ฉันผิดหวัง ! จากนั้นโทนี่ สตาร์ค ก็ลอยขึ้นไปบนอากาศ

  ฟ้าว

  ไม่รอให้เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนั้นตอบกลับโทนี่ ได้ขับชุดเกราะไอรอนแมนบินหายวับไปอย่างรวดเร็ว

   ฮะฮ่ะ… เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้เพียงยิ้มเเห้ง ๆ กับคำฝากฝังของ โทนี่ เขาพยายามจะทำตัวให้เข้าใจในความคิดของ โทนี่ สตาร์ค

   ธุระสำคัญอะไรกันเเน่นะ 

  ขณะที่เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้กำลังครุ่นคิด จู่ ๆ เขาก็ได้รับสายรายงานจาก สำนักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. ในวอชิงตัน เมื่อได้เห็นรายงานนั่น เจ้าหน้าที่สื่อสารรีบตรวจสอบรายงานในเเท็บเล็ตบนมือทันที

   ในเขตชานเมือง,กรุงลอนดอนมีพื้นที่มิติอวกาศพิเศษที่เชื่อมกับพื้นที่นอกโลก จากนั้น ก็มีสิ่งมีชีวิตรูปแบบไม่ชัดเจน เเละ สัตว์ประหลาดลอดผ่านออกมาจากพื้นที่มิติอวกาศนั่น จากการคาดเดาเเละอ้างอิงข้อมูลที่ได้จากฐานที่ไซบีเรียทำให้ตัดสินใจได้ว่า ทางด้านนั้นก็ปรากฏอารยธรรมเผ่าดาร์คเอลฟ์ สถานการณ์ที่นี่อันตรายมาก นอกเหนือจาก ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ สตาร์คมากกว่า 15 ตัว สำนักงานใหญ่ของเราก็ส่งทีมไปประสานงานเพื่อปกป้องสถานที่เเห่งนั้น เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้ได้อ่านรายงานอย่างรวดเร็ว

   นี่มันข่าวร้ายชัดๆ ! 

  ฟุ่บ

  ทันทีที่รับรู้ข่าวร้ายนี้ทำให้เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้รู้สึกปวดหัวอย่างมาก

  เพราะข่าวนี้ได้ส่งถึงมือของเขาที่นี่เป็นคนเเรก

   นี่เป็นข่าวร้ายที่สุดเท่าที่ได้ยินมามีพื้นที่มิติอวกาศปรากฏขึ้นที่กรุงลอนดอน ทั้งยังมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าพวกดาร์คเอลฟ์อีก สงครามได้เเพร่ขยายเป็นวงกว้างเเล้วงั้นหรอ  

   ตอนนี้เรากำลังทำศึกสองด้านหนึ่งในดินเเดนของพวกดาร์คเอลฟ์ เเละ อีกหนึ่งคือการปกป้องพื้นที่มิติอวกาศที่กรุงลอนดอน เกี่ยวกับสถานการณ์ทางด้านนั้นไม่รู้ว่าจะมีบทสรุปอย่างไร ! เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้ถอนหายใจออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

  ที่จริงเเล้วทางฝั่งลอนดอนได้ปรากฏสิ่งมีชีวิตที่เป็นสัตว์ปีศาจของพวกดาร์คเอลฟ์มาก่อนเเล้วเเต่ตอนนั้นทางสำนักงานใหญ่ยังไม่ได้รายงานให้ฐานที่ไซบีเรียฟังเพราะพวกเขายังสรุปไม่ได้ว่าพวกนั้นคือตัวตนใด

  เเต่ภายหลังหลังจากวิเคราะห์เเละนำรายงานที่ได้จากฐานไซบีเรียมาอ้างอิงพวกเขาก็สามารถคาดเดาได้ว่า ตัวตนที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าที่กรุงลอนดอนนั้นคือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าดาร์คเอลฟ์ นอกจากประตูมิติอวกาศที่ ไซบีเรีย เเล้ว พวกเขายังต้องเผชิญหน้ากับพวกดาร์คเอลฟ์ที่ กรุงลอนดอน อีก สถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ถือว่าย่ำเเย่อย่างมาก

  เขาเเทบจะปาเเท็บเล็ตทิ้งด้วยความโมโหต่อเนื้อข่าวที่ปรากฏขึ้น

   ตอนนี้ชานเมืองลอนดอน ยังปรากฏนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ชั้นสูงอีก หากไม่มีกำลังเสริมจากเเผนการ S ไปช่วยเหลือ ทางสำนักงานใหญ่จะทำการระเบิดพื้นที่แบบทำลายล้าง ! 

  เจ้าหน้าที่สื่อสาร … 

 

ภัยอันตรายที่รุนเเรงมากขึ้น
บึ้ม!
หลังจากเห็นสัตว์ประหลาดนั่นถูกยิงเเสงเลเซอร์พลังงานสูงเข้าใส่เจ้าหน้าที่สองคนที่ตะโกนขึ้นก่อนหน้านี้ได้รีบวิ่งตามมา พวกเขาเห็นเพียงเเค่เงาร่างของสัตว์ประหลาดที่ยืนตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า เจ้าหน้าที่หมายเลข 3 พวกเขายังไม่เห็นว่าศีรษะของมันถูกระเบิดดังนั้นพวกเขาทั้งสองคนจึงรู้สึกกังวลมาก
“หมายเลข3 ! หมายเลข 3 !”เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนได้ซัดยิงปืนไปที่เงาร่างซากศพของสัตว์ประหลาดนั่นก่อนที่จะรีบวิ่งโถมเข้าไปเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่หมายเลข 3
ปั้งปั้ง
ขณะที่พวกเขาถาโถมเข้าไปจากนั้นพวกเขาก็เห็นเงาร่างขนาดใหญ่ที่ไร้ศีรษะยืนตั้งตระหง่านอยู่ ดูเหมือนว่ามันจะสิ้นลมหายใจเเล้ว รอบ ๆ ซากของสัตว์ประหลาดนั่นเต็มไปด้วยเเอ่งเลือดขนาดใหญ่จำนวนมาก
ฟุ่บ
“หมายเลข3 ! หมายเลข 3 !”เมื่อเห็นว่าสัตว์ประหลาดนั่นตายเเล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนรีบเข้าไปช่วยเหลือ หมายเลข 3 ทันที
พวกเขาได้ใช้มือยกเศษผนังกำเเพงขนาดใหญ่ที่หล่นทับลงมาที่ขาของเจ้าหน้าที่หมายเลข3 ขึ้น ก่อนที่จะช่วยกันยกร่างของเจ้าหน้าที่หมายเลข 3 ออกมา
“ถุ้ย! เเฮ่ก ๆ ฉันเกือบจะตายเเล้วจริง ๆ ให้ตายสิ่ !”หลังจากหลุดออกมาได้เจ้าหน้าที่หมายเลข 3 ได้ถมน้ำลายที่เป็นเลือดออกจากปากก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“หมายเลข3 นายนี่โชคดี จริง ๆ !”เห็นเจ้าหน้าที่หมายเลข 3 ถมน้ำลายออกมา เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนกล่าวปลอบใจอย่างรวดเร็ว
“ฉันคิดว่าตนเองจะไม่รอดเเล้วเฮ้อ จะว่าฉันโชคดีก็ไม่ผิด !”เจ้าหน้าที่หมายเลข 3 ถอนหายใจด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
“ใช่,จริงสิดูเหมือนนายจะได้รับบาดเจ็บหนัก พวกเราจะถอนตัวกันก่อนเเละพึ่งพากำลังเสริมเพื่อถอยทัพ…”เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนกล่าวบอกกับเจ้าหน้าที่หมายเลข 3
ตามสถานการณ์ตอนนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะเข้าไปช่วยเหลือสนามรบด้านอื่นๆ ลำพังเพียงเเค่ด้านตนเองก็ลำบากมากพออยู่เเล้ว หากเมื่อครู่ ไม่ได้ไอรอนแมนทั้ง 2 ตัวช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่หมายเลข 3 คงได้ตายไปนานเเล้ว ไม่ใช่เเค่เจ้าหน้าที่หมายเลข 3 เเต่รวมถึงเจ้าหน้าที่อีกสองคนที่เหลือด้วย
“อืม,พวกเราถอยไปรอกำลังสนับสนุนเถอะ!”

ทางสำนักงานใหญ่ได้ติดต่อทาง สาขาองค์กร S.H.I.E.L.D. เเล้ว เจ้าหน้าที่ โคลสัน ได้ขอร้องให้พวกเขาส่งเจ้าหน้าที่มาสนับสนุนการโจมตีเเละป้องกันด้านพื้นที่มิติที่ลอนดอนเพิ่มมากขึ้น
หลังากนั้นไม่นานการสนับสนุนก็มาถึงที่ลอนดอน พวกเขาได้รีบสนับสนุนทีมจากสำนักงานใหญ่ เเละ ช่วยเหลือ ตรวจสภาพเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตามการสนับสนุนจากสาขาลอนดอนเเม้จะได้รับการสนับสนุนอย่างรวดเร็ว เเต่ประสิทธิภาพกำลังรบของพวกเขาก็ไม่สามารถเทียบกับคนจากสำนักงานใหญ่ได้ พวกเขาก็เปรียบเสมือนกิ่้งไม้จากต้นไม้ใหญ่ ที่เปรียบเทียบนี่หมายถึง ด้านกำลังประสิทธิภาพเเละอาวุธของพวกเขา ในตอนนี้ เเม้เเต่สำนักงานใหญ่ยังไม่มีอาวุธชั้นสูงพอที่จะใช้ยับยั้งสัตว์ประหลาดพวกนี้ พวกเขาหวังว่าจะสามารถปกป้องพื้นที่โดยรอบเเละหาทางทำลายพื้นที่มิตินี่ให้ได้โดยเร็ว
ปั้งปั้ง
ปั้ง
“ทางสำนักงานใหญ่ยังไม่ออกคำสั่งให้ทำลายพื้นที่เเถบนี้จริง ๆ งั้นหรอ เเม้ที่นี่จะคือชานเมืองในลอนดอน เเต่ส่วนมากมันก็เป็นสถานที่รกร้าง พวกเราสามารถปล่อยผ่านละเลยได้”เจ้าหน้าที่อีกคนนึงได้กล่าวถาม เจ้าหน้าที่ หมายเลข 3
“ฉันเองก็ไม่รู้พวกเขาเเค่ส่งกำลังเสริมมา เพื่อหยุดยั้งศัตรูไว้ที่นี่ ฉันคิดว่าตอนนี้พวกเขากำลังคงหาทางทำอะไรกับพื้นที่มิตินั่นอยู่เเน่นอน…”เจ้าหน้าที่หมายเลข 3 กล่าวตอบ
“ฉันรู้น่าเเต่ถ้าสัตว์ประหลาดพวกนี้หลุดออกไปได้ คงจะไม่ใช่เเค่พวกเราที่ตกอยู่ในอันตรายเเม้เเต่ประชาชนคนอื่น ๆ ก็จะพลอยได้รับลูกหลงไปด้วย!”เจ้าหน้าที่อีกคนกล่าวพูดในความคิดของเขา
ตอนนี้ในสายตาเบื้องหน้าของพวกเขามองเห็นพื้นที่มิติที่ยังคงส่งคลื่นความผันผวนออกมาอย่างต่อเนื่องทั้งมันยังรุนเเรงมากขึ้นเรื่อยๆ
จากนั้นเงาสีดำทมิฬก็ปรากฏออกมามันได้ปรากฏออกมาจากพื้นที่มิติอวกาศนั่นทั้งสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนี้ยังมีขนาดใหญ่มากกว่าสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวก่อนมากกว่า1 เท่า “ไม่นะ…ทำไมพวกเราถึงโชคร้ายขนาดนี้ “
จ้องมองไปที่เงาร่างขนาดยักษ์ที่กำลังปรากฏออกมาเจ้าหน้าที่ทั้งสามคนได้กล่าวพึมพัมออกมาอย่างหวาดกลัว
เป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับพวกเขาตอนนี้ที่จะรับมือกับสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์นี้ก่อนหน้านี้กว่าจะรับมือสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นได้พวกเขาได้สูญเสียพละกำลังไปจำนวนมาก เเละ ตอนนี้ ยังปรากฏสัตว์ประหลาดที่ดูน่าเกรงขามกว่าตัวก่อนหน้านี้อีก ไม่เเปลกที่พวกเขาจะรู้สึกหวาดกลัว ตัวตนของสัตว์ประหลาดระดับนี้ จะต้องของทุ่นกำลังอย่างพวก เครื่องบินรบ รถถัง หรือ ขีปนาวุธเเรงสูง ถึงจะสามารถกำจัดมันได้
ฟุ่บ!
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทั้งสามคนกำลังจ้องมองไปที่ลานกว้างจู่ ๆ นอกเหนือจากสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นพวกเขาก็เห็นงาบางอย่างกำลังปรากฏขึ้นอีกครั้ง
สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือเงาร่างนั่นไม่ได้สูงใหญ่เเละผิดปกติ มันเป็นเงาร่างของสิ่งมีชีวิตที่คุ้นเคยอย่างสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์
“นั่นคือ…เงาร่างของคนงั้นหรอ?”หลังจากยืนยันได้ว่าเงาที่ปรากฏตามมาไม่ใช่สัตว์ประหลาด เจ้าหน้าที่ทั้งสามคนได้กล่าวอย่างตกตะลึง
มีคนปรากฏขึ้นที่ด้านหลังสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นได้อย่างไรทั้งเงาร่างนั่นยังอยู่ในชุดเกราะสีดำ เเม้จะมองไม่เห็นอย่างเด่นชัด เเต่พวกเขาก็เห็นคนคนนั้น กระโดดขึ้นไปบนหลังสัตว์ประหลาดยักษ์นั่น ท่าทีของคนคนนั้นเผยให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่เเข็งเเกร่งจนน่ากลัว
“หรือว่านั่นคือมนุษย์ต่างดาว”เจ้าหน้าที่หมายเลข 3 ได้พึมพัมออกมาอย่างตกใจ
ติ๊ดๆ
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมพลังงานอัลฟ่า ถึงเพิ่มขึ้นสูงขนาดนี้ นี่มันสามารถระเบิดออกมาได้เลย !” เจ้าหน้าที่อีกสองคนจ้องมองออกไปด้านหน้าก่อนจะกล่าวออกมาอย่าลนลาน
เมื่อได้รับสัญญาณเเจ้งเตือนเจ้าหน้าที่จากองค์กร S.H.I.E.L.D. ทุกคนก็เริ่มต้นถอยทัพออกมา การปรากฏตัวขึ้นของสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นสร้างความตกใจให้กับผู้พบเห็น เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ในตอนนี้ ทางสำนักงานใหญ่เองก็ได้ส่งคำสั่งล่าสุดออกมา พวกเขาจะต้องระเบิดพื้นที่มิติอวกาศนี่ให้เเหลกเป็นจุล เเม้พื้นที่มิติอวกาศจะมีมูลค่าทางการวิจัยที่สูงมาก เเต่ภัยคุกคามที่ออกมาเหล่านี้คือหายนะอย่างเเท้จริง
หึ่ม
“โฮกกก!”สัตว์ปประหลาดยักษ์นั่นได้คำรามออกมาก่อนที่จะเริ่มก้าวท้าวเเละพุ่งออกจากลานกว้างนั่นโดยตรง
!
ทันทีที่สัตว์ประหลาดนั่นเคลื่อนไหวออกจากลานกว้างพลังงานเลเซอร์จำนวนมากก็ได้ระดมยิงจากทุกทิศทาง ดูเหมือนว่า ไอรอนแมน จะตัดสินใจว่า สัตว์ประหลาดยักษ์นั่นคือภัยคุกคามที่ร้ายเเรงที่สุดตอนนี้

การต่อสู้ที่เกือบจะพรากชีวิต

  เมื่อได้รับรู้ว่าอีเธอร์เดิมมันเคยถูกซ่อนอยู่ที่นี่เเละ ศัตรูที่มาขวางทางพวกเขาก็ไม่ใช่ชาวเเอสการ์ด มาเลคิธสามารถคาดเดาได้ในทันทีว่าศัตรูคงจะมาจากพื้นที่อื่น ท้ายที่สุดเเล้วพลังพิเศษของอีเธอร์ก็สามาถสร้างปรากฏการณ์ลึกลับต่าง ๆ ได้ รวมถึงพื้นที่มิติอวกาศที่ปรากฏขึ้นนี้ด้วย

   พวกเราคงต้องลองไปดูที่ด้านหลังพื้นที่มิติอวกาศนี่กันดูก่อน จ้องมองไปที่พื้นที่มิติอวกาศมาเลคิธกล่าวพึมพัมออกมา

  จากนั้นมาเลคิธก็สั่งการลูกน้องของเขาให้จัดเตรียมทัพพร้อมกับทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบเพื่อที่จะฟื้นฟูความสามารถของพื้นที่มิติอวกาศให้กลับมาเสถียรภาพอีกครั้ง

   เจ้าไปก่อน! ผ่านไปหลายสิบนาทีหลังจากทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบเสร็จมาเลคิธก็โบกมือสั่งการในทันที

   โฮก! 

  ฟุ่บ

  หลังจากมาเลคิธออกคำสั่งสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ก็ได้กระโจนเข้าไปในพื้นที่มิติอวกาศก่อนที่จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยดูเหมือนพื้นที่มิติอวกาศนี่จะสามารถส่งผ่านวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตได้ ที่มาเลคิธทำเเบบนี้ก็เพื่อยืนยันในความคิดของเขาเพียงเท่านั้น

   ตราบเท่าที่ข้าได้รับอีเธอร์มา…โลกทั้งหมดจะถูกอยู่ในกำมือของข้า! เห็นสัตว์ประหลาดนั่นหายตัวไปจากสายตาของเขามาเลคิธครุ่นคิดในใจด้วยประกายเเสงเย็นเฉียบ

  …

  โลก,ชานเมืองกรุงลอนดอนดูเหมือนการต่อสู้จะทวีคูณความรุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากที่สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากพื้นที่มิติอวกาศลานบานเเห่งนี้ก็กลายเป็นสมรภูมิเดือดกันในทันที เเม้ที่นี่จะมีชุดเกราะไอรอนแมนมากกว่า 10 ตัว เเต่สัตว์ประหลาดนี่ก็หลุดออกมาที่โลกจำนวนมากพอสมควร

  ฟุ่บ

  อาวุธปืนของไอรอนแมนนั้นไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้ทั้งหมดดังนั้นเจ้าหน้าที่ขององค์กร S.H.I.E.L.D. จึงเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ด้วยอาวุธที่พวกเขาพกมาด้วยตอนนี้มันไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของสัตว์ประหลาดพวกนี้ได้เเม้เเต่น้อย เพราะสัตว์ประหลาดพวกนี้นอกจากจะมีพละกำลังที่เเข็งเเกร่งมันยังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วจนสามารถหลบหนีการโจมตีตอบโต้ได้

  กรงเล็บของสัตว์ประหลาดนั่นสามารถเฉือดเฉือนสิ่งของมีน้ำหนักเเข็งให้เเตกสลายได้อย่างง่ายดายหากกรงเล็บนั่นฟาดลงบนร่างของเจ้าหน้าที่จากองค์กร S.H.I.E.L.D. เเม้พวกเขาจะสวมใส่เกราะป้องกันมันก็ไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ เป็นที่เเน่นอนว่าพวกเขาคงถูกบดขยี้ภายใต้กรงเล็บที่เเหลมคมนั่น

  ปั้งปั้ง ปั้ง

   สัตว์ประหลาดพวกนี้มันคือตัวอะไรกัน พวกเราไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย! หลังจากยิงปืนกลมืออกไปหลายนัด เจ้าหน้าที่จากองค์กร S.H.I.E.L.D. คนนึงได้ตะโกนพูดขึ้น

   ใครบอกว่าไม่สามารถทำอะไรมันได้เเกไม่เห็นซากศพสัตว์ประหลาดสองตัวที่ตายก่อนหน้านี้หรอกหรอ หลังจากเจ้าหน้าที่คนนึงกล่าวพูดขึ้น เจ้าหน้าที่อีกคนก็กล่าวตอบ

   นั่นไม่ใช่พวกเราฆ่าสักหน่อยอีกอย่าง หากต้องการจัดการมันพวกเราคงต้องมีอาวุธที่มีความรุนเเรงพอ ๆ กับปืนเลเซอร์ประสิทธิภาพสูง หลังจากสาดกระสุนออกไปอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่คนนี้ก็พูดขึ้นอีกครั้ง

   หมายเลข3 ระวังตัวด้วย! ขณะที่เพื่อนคนนี้กำลังชวนคุย จู่ ๆ เพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ ก็ตะโกนเตือนเขา

  ฟุ่บ!

  ได้ยินเสียงตะโกนของเพื่อนร่วมทีมเจ้าหน้าที่ หมายเลข 3 ได้หันปากกระบอกปืนยิงไปยังตำเเหน่งของศัตรูอย่างรวดเร็ว

  ปั้ง

  เเต่ทว่าการเคลื่อนไหวของสัตว์ประหลาดนี่คล่องตัวมากไม่นานร่างของเขาก็ถูกมันพุ่งเข้าชนใส่จนกระเด็นไปกระเเทกกับกำเเพงจากนั้นภายใต้การโจมตีของชุดเกราะไอรอนแมนกำเเพงบานนึงได้ถล่มลงมาทับที่ขาของเขา

   อ๊ากกก…ขาของฉันไอ่บ้าเอ้ย! เห็นกำเเพงหล่นมาทับขาขวาของตนเองเจ้าหน้าที่หมายเลข 3 มีสีผิวค่อนข้างซีดขาวเขารู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก

  เเม้เขาจะสามารถทนต่อสถานการณ์ตอนนี้ได้เเต่ขาของเขาก็ถูกทับโดยกำเเพงหิน หากไม่ได้รับความช่วยเหลือเขาไม่มีทางที่จะหลุดจากสถานการณ์ตอนนี้ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้น สัตว์ประหลาดตนนึงก็ได้จ้องมองมาทางเขาพร้อมกับส่งสายตาอำมหิตที่ดุร้ายพร้อมที่จะฉีกกระชากเขาออกเป็นชิ้น ๆ

   !!! เผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดโดยที่ตนเองไม่มีโอกาสที่จะหลบหนีเจ้าหน้าที่หมายเลข3 คนนี้เเทบจะกรีดร้องออกมาเเต่เขาก็ยังคงสงบเยือกเย็นภายใต้สถานการณ์ตอนนี้

   ฉันได้ยินมาว่าสัตว์ป่าที่ดุร้ายบงชนิดจะไม่โจมตีเหยื่อที่ตกตาย! เมื่อเห็นว่าตนเองไม่สามารถหลบหนีออกไปได้เขาก็ทิ้งตัวลงนอนภายใต้ซากปรักหักพังพร้อมกับเเกล้งตายให้สัตว์ประหลาดนั่นเห็น

  เเม้หมายเลข3 จะเเสร้งทำเป็นตาย เเต่สัตว์ประหลาดนั่นหาได้หยุดเคลื่อนไหวไม่มันเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับเปิดปากขนาดใหญ่นั่นอย่างรวดเร็ว

   หึ่ม! ไม่ว่าอย่างไรเเกก็จะกินฉันให้ได้ซินะ ถ้างั้น… ภายใต้การจ้องมองอย่างดุเดือด เจ้าหน้าที่หมายเลข 3 ได้เงื้อมมือขวาไปหยิบระเบิดที่อยู่ที่เอวของเขา

  ถ้าเกิดสัตว์ประหลาดนี่กล้าที่จะกัดเขาจริงๆ เเล้วล่ะก็เขาจะก็ถอดสลักระเบิดเเละจะระเบิดฆ่าตัวตายพินาศไปพร้อมกับมัน

  โฮกก

   ตายซะ! เห็นสัตว์ประหลาดนี่ง้างปากขนาดใหญ่พุ่งมาทางเขาในมือขวาของตนเองเขาได้ถอดสลักระเบิดออกพร้อมกับเหวี่ยงมันเข้าไปในปากขนาดใหญ่นั่นทันที

  เป็นที่เเน่นอนว่าสัตว์ประหลาดนั่นหาได้สนใจระเบิดนั่นได้ลอยเข้าไปในปากของมันอย่างช้าๆ พร้อมกับปากของมันที่ง้างเข้ามากใกล้ที่ตำเเหน่งใบหน้าของเขา

   ถึงฉันจะตายฉันก็จะขอลากเเกไปด้วย! ในวินาทีสุดท้ายของชีวิต เจ้าหน้าที่หมายเลข 3 ได้ตะโกนออกมาอย่างกล้าหาญ

   หมายเลข3 ! เมื่อหมายเลข 3 ยอมรับชะตากรรม ใกล้หูของเขาก็ได้ยินเสียงของเพื่อนร่วมทีมที่ตะโกนออกมาอย่างกังวล

  ขณะนั้นเองจู่ๆ ก็มีลำเเสงเลเซอร์สองสายยิงเข้าไปที่ศีรษะด้านข้างของสัตว์ประหลาดนั่นก่อนที่สัตซ์ประหลาดนั่นจะถูกยิงซัดกระเด็นลอยถอยออกไป

   โฮกก! ถูกยิงตรงจุดยุทธศาสตร์ตรงศีรษะสัตว์ประหลาดตัวนี้คำรามออกมาอย่างโกรธเคืองตอนนี้ใบหน้าของมันหลงเหลือเพียงใบหน้าครึ่งใบเพียงเท่านั้น

  !

   โดนไปขนาดนี้ยังไม่ตายอีกงั้นหรอ เจ้าหน้าที่หมายเลข3 ได้สติคืนมาจากเสียงเพื่อนร่วมทีมของเขา จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดนั่นที่ยิงโดยปืนเลเซอร์พลังงานสูงจนเหลือเพียงครึ่งใบหน้า

  ปั้ง

  บึ้ม!

  พริบตาต่อมาศีรษะของสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นก็ระเบิดขึ้นมันได้ระเบิดจากภายในเส้นเลือดฝอยสีเเดงได้ทะลักออกมาอวัยภายในของเขามันได้กระเด็นออกไปคนละทิศละทางเหตุผลก็เพราะ ระเบิดที่เจ้าหน้าที่หมายเลข 3 โยนเข้าไปในปากมันได้ทำงาน ท้ายที่สุด สัตว์ประหลาดนี่ก็ตกตายภายใต้ระเบิดสุดท้ายนั่น

 

การปรากฏตัวของมาเลคิธ

  ฟู่วว!

  พลังงานสีดำอันเเข็งเเกร่งนั่นได้ถอนกลับมาก่อนที่จะค่อยๆ เคลื่อนไหวไปยังชิ้นส่วนภูเขาที่ถล่มลงมากลบพื้นที่มิติอวกาศนั่น

  คลื่น!

  ผ่านไปประมาณ5 นาที เศษซากภูเขาที่ถล่มลงมาก็ได้เคลื่อนไหวจำนวนมากเเละค่อย ๆ เปิดทางอุโมงค์ที่เดิมถูกทับถมจนพื้นที่ถูกปิดกั้น

  บึ้ม!

  เศษหินเหล่านั้นได้ระเบิดออกจากกันไม่นานพื้นที่อุโมงค์เดิมที่ถูกปิดกั้นก็ได้เปิดขึ้นอีกครั้งเเม้อุโมงค์นี่จะมีความกว้างไม่เท่าเดิมเเต่ด้วยขนาดของอุโมงค์ก็เพียงพอเเล้วที่จะทำให้คนสัญจรเดินผ่านไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร

  ตึกตึก

  หลังจากช่องทางถูกเปิดขึ้นอีกครั้งเสียงฝีเท้าจำนวนมากก็เดินได้ปรากฏออกมานี่คือขบวนทัพของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์พวกเขาได้เดินกันด้วยความเร็วระดับปานกลาง

  หนึ่งในคนที่นำทัพนี้มาคือนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ทื่สวมหมวกเหล็กมีใบหน้าสีเทาอมฟ้ามีรอยเเผลเป็นลึกหลายเเห่งบนใบหน้าทั้งลักษณะหน้าตายังเเตกต่างจากนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนอื่นๆ รอบ ๆ ตัวของเขาปรากฏกลิ่นอายที่ชั่วร้ายจำนวนมาก มีหูที่ยาวจมูกเรียวเเหลมดวงตานั่นคล้ายจะสามารถกลืนกินใครก็ได้ที่พบเห็น

  ด้านหลังของเขาเต็มไปด้วยกองทัพนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์จำนวนนึงความเเข็งเเกร่งโดยรวมของกองทัพนี้นับว่าสูงพอสมควร จากนั้นไม่นานก็มีนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ไม่กี่คนได้รีบมาสมทบกับพวกเขาใบหน้าของพวกเขาเต็มเปรอะไปด้วยฝุ่นผง นี่ก็คือพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่เดิมถูกกลบฝังเเละสามารถรอดมาได้

   นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่มาสมทบได้กล่าวรายงานบางอย่างกับดาร์คเอลฟ์ที่สวมหมวกเหล็กเเละยืนอยู่เบื้องหน้านักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์จำนวนมาก

  หากเเปลคำพูดที่เขาพูดเป็นภาษาท้องถิ่นของโลกก็คือ: พบเป้าหมายเเล้ว

  นักรบดาร์คเอลฟ์ที่สวมหมวกเหล็กได้ยินรายงานก็ฉีกยิ้มออกมาอย่างชั่วร้ายเขาคนนี้เป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากมาเลคิธ ผู้นำสูงสุดของเผ่าดาร์คเอลฟ์ เขาได้ส่งทีมจำนวนนึงออกมาเพื่อค้นหาตำเเหน่งของอีเธอร์ จากนั้นเมื่อเห็นการติดต่อถูกตัดขาดไป เขาก็ได้นำทีมที่เเข็งเเกร่งที่สุดตามมาสมทบภายหลัง

  โชคดีที่ก่อนหน้านี้เเจ็คสัน เเละ ธอร์ ไม่ได้เผชิญหน้ากับทีมของมาเลคิธโดยตรง ไม่งั้นมันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่พวกเขาจะสามารถปิดกั้นทีมเกือบทั้งหมดเเละสามารถรอดออกไปได้

  คลื่น! กึก กึก!

  จากนั้นมาเลคิธก็ใช้พลังงานของตนเองเปิดพื้นที่โดยรอบที่เป็นซากปรักหักพังทันทีที่มาเลคิธระเบิดพลังออกมา นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนอื่น ๆ ทำได้เพียงเเต่ก้มหน้าจ้องมองอย่างเคารพ จากนั้นไม่นานพวกเขาก็มองเห็นศพของพรรคพวกจำนวนมากที่ถูกบดขยี้ภายใต้เศษซากเเห่งนี้ บางคนมีรอยฟันลึกเป็นเเผลยาวก่อนที่จะสิ้นใจตาย

   เกิดอะไรขึ้นที่นี่ทำไมพวกเจ้าถึงมีสภาพเป็นแบบนี้  เห็นนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์จำนวนมากที่ตกตาย มาเลคิธ กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่โกรธเคือง

   เรียนท่านผู้นำพวกเราได้เข้าปะทะกับศัตรูจากนั้นไม่นานที่นี่ก็ถล่มลงมากลบฝังพื้นที่มิติที่ปรากฏขึ้น ได้ยินคำถามของมาเลคิธ นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่เหลือรอดได้กล่าวรายงานทันที

  ผู้นำกลุ่มของพวกเขาได้ไล่ล่าศัตรูจนเกือบจะสามารถปลิดชีวิตศัตรูได้เเต่อีกฝ่ายก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยไม่ใช่เพียงเเค่ศัตรูเท่านั้นเเม้เเต่ผู้นำกลุ่มของพวกเขาก็หายไปด้วยคนที่เหลือที่อยู่ที่นี่ก็เหลือเพียงน้อยนิด มีจำนวนมากที่ตกตายเหตุการณ์ในครั้งนี้นำมาซึ่งความสูญเสียของพวกเขาเพราะที่อยู่ที่นี่ล้วนเเล้วเเต่เป็นนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่เเข็งเเกร่ง

   ศัตรู เเล้วมันหายไปไหนเเล้ว? ได้ยินคำตอบสีหน้าของ มาเลคิธ เเข็งทื่อเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวถามออกไปอีกครั้ง

  มาเลคิธไม่ลังเลที่จะเสี่ยงอันตรายมาที่พื้นที่ต้องห้ามของเอสการ์ดเพื่อค้นหาสมบัติลับที่สูญหายไปเมื่อ1,000 ปีก่อน อีเธอร์ โอดินได้ซ่อนมันเอาไว้ที่นี่ ดังนั้นเขาจึงยกทัพมาที่นี่เพื่อค้นหามัน เเน่นอนว่าเขาก็คาดไว้เเล้วว่าอาจจะต้องเจอกับพวกนักรบชาวเเอสการ์ดเเต่มาเลคิธก็มีความมั่นใจที่จะเอาอีเธอร์ออกไป เเต่ถ้าตามที่ลูกน้องของเขาเล่ามาดูเหมือนศัตรูจะไม่ใช่ชาวเเอสการ์ด

  นอกจากนี้มาเลคิธยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอีเธอร์จางๆ ที่อยู่ที่นี่ เป็นไปได้ว่าทีมของเขาได้เผชิญหน้ากับศัตรูเเละพ่ายเเพ้จนเสียอีเธอร์ไป ศัตรูที่เผชิญหน้ากับพวกของเขาย่อมไม่ใช่ โอดิน หรือ ชาวเเอสการ์ดเเน่นอน โดยเฉพาะ โอดิน เพราะ เขาได้ยินมาว่า ราชายักษ์น้ำเเข็ง ลอฟฟี่ ได้เผชิญหน้ากับทัพของโอดิน เเละได้ข่าวมาว่า โอดินในตอนนี้ยังอยู่ในพระราชวัง

   มันเป็นศัตรูที่เเข็งเเกร่งมากๆ ความเเข็งเเกร่งของมันเหนือกว่าที่เราคาดการณ์เอาไว้ มันคนเดียวสามารถหยุดพวกเรา… 

  !

  ขณะที่นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนั้นพูดจู่ ๆ ฝ่ามือขนาดใหญ่ก็พุ่งเข้าใส่ที่ใบหน้าของเขาจนตบเขาทิ่มลงไปนอนกับพื้น

   ข้าไม่ได้ถามว่าทำไมพวกเจ้าถึงพ่ายเเพ้นอกจากนี้ อย่าได้เปรียบเทียบว่ามันเหนือชั้นกว่าพวกเรา… เจ้าพอจะจำรูปลักษณ์ของมันได้หรือไม่ มาเลคิธได้ตบนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนั้นลงไปนอนก่อนที่จะกล่าวถามอีกครั้ง

  เห็นใบหน้าที่โกรธเคืองของผู้นำตนเองนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนั้นรีบกลืนน้ำลายทันที

   เรียนท่านผู้นำศัตรูที่ว่านั่นสวมใส่ชุดคลุมยาวสีดำใบหน้าสวมใส่หน้ากากไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ที่ชัดเจนได้ อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่ชาวเเอสการ์ดอย่างเเน่นอน นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนั้นรีบคลานขึ้นมาอยู่ที่เบื้องหน้าของมาเลคิธเเละรีบกล่าวรายงานด้วยความเคารพ

   ชุดคลุมยาวสีดำสวมใส่หน้ากาก ข้าไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเกี่ยวกับมันมาก่อน… มาเลคิธพึมพัมอย่างเงียบ ๆ

  จากนั้นวิสัยทัศน์ของเขาก็ได้เปลี่ยนไปยังตำเเหน่งพื้นที่มิติอวกาศอาจเป็นไปได้ว่าศัตรูที่ว่านั่นได้หลบหนีออกไปจากที่นี่ผ่านช่องทางนั้นเเล้ว

   หรือว่ามันเป็นคนจากอีกสถานที่นึง… 

 

เงาของศัตรูปรากฏขึ้นอีกครั้ง

  ช่วงเวลาที่เเจ็คสัน ธอร์ เเละ เจน ออกมาจากพื้นที่มิติเสร็จ พวกเขาก็ถูกส่งกลับไปรักษษที่นิวยอร์ก เวลาเดียวกัน J.A.R.V.I.S ก็ได้ทิ้งชุดเกราะไอรอนแมนเอาไว้เเละมอบคำสั่งปกป้องย่านชานเมืองลอนดอนเเห่งนี้

  หึ่ม!

  เเน่นอนว่าหลังจากที่ช่วงเเจ็คสัน ออกจากพื้นที่มิติมาเป็นคนสุดท้าย พื้นที่มิติอวกาศก็เกิดความผันผวนที่เเปลกประหลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ อีเเวนส์ในตอนนั้นได้เเจ้งต่อองค์กร S.H.I.E.L.D. ให้รีบมาตรวจสอบ

  ดังนั้นสถานที่เเห่งนี้จึงถูกปิดกั้นอย่างสมบูรณ์ไม่นานสำนักงานใหญ่องค์กร S.H.I.E.L.D. ก็ได้ส่ง พวกอีเเวนส์กลับไปที่สำนักงานใหญ่เเละส่งคนมาที่นี่เพื่อประสานงานกับไอรอนแมน

  J.A.R.V.I.Sไม่ได้ระบุให้พวกคนจากองค์กร S.H.I.E.L.D. รู้ว่าตอนนี้ชุดเกราะไอรอนแมนระบบของเขากำลังมีปัญหาที่หลงเหลือที่นี่ไว้คือคำสั่งที่ปกป้องสถานที่เเห่งนี้ ดังนั้น ทีมที่ถูกส่งมาที่นี่สองทีมจึงไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย

  โชคดีที่ระบบยืนยันตัวตนพันธมิตรไม่ได้ผิดพลาดทำให้พวกคนเหล่านี้ไม่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีจากไอรอนแมนไม่งั้นพวกเขาก็คงถูกไอรอนแมนจัดการไปนานเเล้ว

   เฮ้อ…สำนักงานใหญ่ส่งพวกเรามาปกป้องที่นี่ทั้ง ๆ ที่มันไม่มีศัตรูออกมา เเค่ให้ไอรอนแมนปกป้องที่นี่ก็พอเเล้ว ไม่น่าจะให้พวกเรามาด้วยเลยจริง ๆ  

   เเกโง่งั้นหรอเเกไม่เห็นว่าหลังจากที่พวกเรามาอีเเวนส์ เด็กคนนั้นก็ถูกส่งกลับไปที่สำนักงานใหญ่เลย เขารายงานมาว่าพบสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวที่ออกมาจากพื้นที่มิติอวกาศนั่น 

   เหอะ!ฉันเองก็ไม่ยักจะเห็นสัตว์ประหลาดที่ว่านั่นเลย ได้ยินคำพูดจากเพื่อนร่วมทีม เจ้าหน้าที่คนนี้ได้กล่าวโต้ตอบ

   ฉันก็ไม่อยากเห็นมันหรอกได้เเต่ภาวนาอย่าให้มันออกมา นอกจากนี้หน้าที่ของเราคือต้องปกป้องที่นี่… เจ้าหน้าที่อีกคนได้ตอบกลับ

  พวกเขาได้เฝ้าระวังรอบๆ ตำเเหน่งของอาคารทั้งสี่ที่มีพื้นที่มิติอวกาศอยู่ตรงกลาง สมาชิกจากองค์กร S.H.I.E.L.D. ทุกคน ได้เเบ่งทีมออกไปเพื่อเฝ้าระวังด้วยความหงุดหงิด ไม่เเปลกที่พวกกเขาจะรู้สึกเช่นนี้ งานของพวกเขาก็คือการเฝ้าระวังอะไรที่น่าเบื่ออย่างมาก สู้ส่งพวกเขาไปร่วมกับทีมรบที่ไซบีเรียยังดีซะกว่า

  เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นทั้งสองฝั่งองค์กรS.H.I.E.L.D. เองก็จับเป็นจะต้องเเบ่งขุมกำลังของตนเองออกไปเฝ้าระวังเป็นสองส่วน เขาไม่สามารถเพิกเฉยสถานที่ใดสถานที่นึงได้ ถ้าตามที่ อีเเวนส์รายงานมาเป็นความจริง สิ่งลึกลับเหล่านี้ก็ไม่เเตกต่างไปจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นที่ไซบีเรีย

  ฮึ่ม!

  ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่เเบ่งกำลังกันเฝ้าระวังจู่ๆ พื้นที่มิติอวกาศก็ส่งความผันผวนออกมาอย่างรุนเเรงมากอีกครั้ง คลื่นอนุภาคอัลฟาที่มีความหนาเเน่นสูงได้ปรากฏออกมา ทำให้เครื่องมือตรวจจับเกิดเสียงร้องเเจ้งเตือน จิตใต้สำนึกของเจ้าหน้าที่เเต่ละคนนั้นตื่นตัวมากพวกเขาได้รับเเจ้งมาว่าพื้นที่เเห่งนี้มีคลื่นอนุภาคอัลฟาสูงมันมีผลต่อร่างกายมนุษย์ดังนั้นพวกเขาจึงสวมเครื่องแบบป้องกันมาด้วย

   ไม่รู้ว่าปรากฏการณ์นี่จะดำเนินการต่อไปอีกนานเเค่ไหนทำไมพวกเขาไม่ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญในการวิจัยมาด้วย เห็นเครื่องมือร้องเเจ้งเตือนเจ้าหน้าที่คนนี้กล่าวพึมพัมออกมา

   ผู้เชี่ยวชายเหอะ ไม่ต้องถึงมือพวกเขาหรอก ฉันรู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร ดูเหมือน อนุภาคอัลฟ่าของที่นี่จะรุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ มีโอกาสที่… เจ้าหน้าที่อีกคนกล่าวตอบเเต่ว่าเขาก็ต้องตกใจกับสายตาของเพื่อนอีกคน

   มีบางสิ่งกำลังจะออกมา! ดวงตาของเจ้าหน้าที่คนนี้จ้องมองไปที่พื้นที่มิติอวกาศด้วยสาตาตื่นตะลึง

  หึ่ม!

  จากนั้นในลานกว้างเเห่งนี้ก็ปรากฏเงาร่างขนาดยักษ์ออกมามันคือสมุนสัตว์ปีศาจของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ไม่ผิดเเน่หลังจากเฝ้าระวังมาเป็นระยะเวลานานในที่สุด ทีมไอรอนแมน เเละ ทีมจากองค์กรS.H.I.E.L.D. ก็ได้รับการยืนยันเป้าหมาย

   นั่นมัน…สัตว์ประหลาดตามที่ได้รับรายงานมางั้นหรอ 

   มันก้าวผ่านออกมาจากพื้นที่มิติอวกาศได้จริงๆ ไม่คิดเลยว่าโลกนี้จะปรากฏสิ่งมีชีวิตประเภทนี้ได้ด้วย? 

  เห็นเงาร่างขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วไอรอนแมน เเละ ทีมจากองค์กร S.H.I.E.L.D. สามารถคาดเดาได้ว่ามันเป็นศัตรูอย่างเเน่นอนดังนั้นหน้าที่ของพวกเขาก็คือการกำจัดเป้าหมายเเละปกป้องสถานที่เเห่งนี้

  ปั้ง!

   จำเอาไว้!หน้าที่ของเราคือปกป้องที่นี่ เกี่ยวกับสัตว์ประหลาดนั่นพวกเราจะต้องหาทางจัดการกับมัน! นอกเหนือจากไอรอนแมน เสียงของหัวหน้าทีมได้กล่าวออกคำสั่ง

  จากนั้นเจ้าหน้าที่ทุกคนก็เข้าประจำตำเเหน่งกันพวกเขาได้เห็นสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์จำนวนมากปรากฏขึ้นที่ลานบ้าน

  !

   โฮก!!!! 

  ไม่นานเสียงคำรามของสัตว์ประหลาดก็ได้ดังขึ้นไปทั่วสถานที่เเห่งนี้การต่อสู้ได้เปิดฉากเริ่มขึ้นอีกครั้ง

  …

  หลังจากเเจ็คสันหนีออกไปจากพื้นที่ต้องห้ามพิเศษในเเอสการ์ดในสถานที่เเห่งนั้นได้ปรากฏนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ขึ้นจำนวนมาก

  ฟู่วว

  หมอกสีดำได้ปกคลุมไปรอบพื้นที่ก่อนที่จะสเเกนหาร่างของผู้นำกลุ่มดาร์คเอลฟ์ที่หายไปคนนั้น

  หลังจากตรวจสอบเป็นระยะเวลาหนึ่งจนไม่พบหมอกสีดำนั่นก็ได้ถอนตัวกลับไปอย่างช้าๆ เเละหายไปยังตำเเหน่งนึง

  ��

 

บั๊คร้านค้าระบบ
ร่างกายของเเจ็คสันตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับบาดเเผลสาหัสที่รุนเเรงในขณะเดียวกัน รัศมีพลังเเสงสีทอง ก็ปรากฏขึ้นในทะเลจิตใจของเขา มันได้วิ่งพล่านไปยังตำเเหน่งต่าง ๆ อย่างฟุ้งซ่าน
การโจมตีของผู้นำกลุ่มดาร์คเอลฟ์นั่นไม่ได้โจมตีทางจิตวิญญาณของเเจ็คสันก็จริงเเต่กลไกการป้องกันตนเองเมื่อร่างกายของเขากำลังเกิดความสูญเสียขณะที่กำลังหมดสติก็ได้ทำงานขึ้นมันได้ทำให้ร่างกายของเเจ็คสันตอนนี้กำลังชะลอสภาพอาการบาดเจ็บเหล่านั้น
!
ฟุ่บ!
จากนั้นรัศมีพลังเเสงสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นอีกครามันได้พุ่งชนเข้ากับรัศมีพลังเเสงสีทองเล็กน้อยจากนั้นมันก็ราวกับสามารถรวมตัวกันได้ในความเข้ากันได้นั้นถ้าจะให้เปรียบรัศมีพลังเเสงสีฟ้านั่นกลับเเข็งเเกร่งกว่ามาก
ฟู่ว~~
จากนั้นพวกมันก็เเพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเเจ็คสันอย่างระวังช่วยระงับอาการบาดเจ็บภายในของเเจ็คสันอย่างต่อเนื่องไม่เพียงเเต่ช่วยระงับอาการบาดเจ็บเเต่มันยังขจัดสิ่งเจือปนในร่างกายของเขาให้หมดไป
เเม้เเต่ทะเลจิตวิญญาณของเเจ็คสันก็ได้รับการฟื้นฟูเเจ็คสันที่หมดสติอยู่ในตอนนี้เขาไม่สามารถสัมผัสสิ่งที่เกิดขึ้นเเละไม่สามารถรับรู้ได้เเต่ในช่วงความเงียบสงบนี้กลับเป็นผลดีสำหรับเขาอย่างเเปลกประหลาด
ทันทีที่ทะเลจิตวิญญาณของเขาฟื้นฟูเสร็จเเสงสีทองเเละเเสงสีฟ้านั่นก็หายไปหลงเหลือเพียงความผันผวนที่ปรากฏขึ้นจากนั้นร้านค้าระบบก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางทะเลจิตวิญญาณของเขามันเป็นปรากฏการณ์ที่ประหลาดมาก
เเม้ร้านค้าระบบจะปรากฏตัวขึ้นเเต่มันก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมาหากเเจ็คสันตื่นขึ้นมาเเละพบมันเขาเองก็จะต้องตกใจเเน่นอน สิ่งที่มันปล่อยออกมากลับเป็นคลื่นพลังความผันผวนบางอย่าง จากนั้น เเต้มคะแนนของเเจ็คสันก็ราวกับเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตามเเต้มคะแนนเหล่านั้นเเม้จะเพิ่มพูนเเต่มันก็ถูกดูดออกไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกันมันไม่ได้หายไปไหนเเต่ลอยเข้าไปที่เเท่นบูชาที่เเจ็คสันได้ดำเนินการเสียสละเเต้มคะแนนจำนวนมากเพื่อทำตามความปราถนาสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะเรียกว่าเป็นบั๊คของระบบก็ไม่เเปลกเพราะถ้าหากเป็นสถานการณ์ทั่วไปมันย่อมไม่มีทางเกิดขึ้น
ในการปรากฏตัวของบั๊คครั้งนี้ช่วยให้เเจ็คสันสามารถบริจาคเข้าไปในเเท่นบูชาได้เป็นจำนวนมาก,เดิมเเจ็คสันมีเเผนตั้งใจจะบริจาคให้เเท่นบูชาอยู่เเล้วเเต่เขาเองก็ต้องเพิ่มพูนความเเข็งเเกร่งให้กับตัวเอง ดังนั้นคะแนนส่วนใหญ่จึงใช้ไปกับการจัดการความเรียบร้อยในส่วนนั้น
เพราะในความคิดของเเจ็คสันยิ่งถ้าเขาเเข็งเเกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ การตามหาเเต้มคะแนนในภายหลังย่อมเป็นเรื่องง่ายดาย เพื่อฟื้นคืนชีพระบบให้กลับมา เเจ็คสันจำเป็นจะต้องใช้จำนวนเเต้มคะแนนจำนวนมากมายเพราะแบบนี้เขาจึงวางเเผนเป็นขั้นเป็นตอน
ตั้งเเต่นั้นความเเข็งเเกร่งของเเจ็คสันก็เพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้การใช้งานร้านค้าระบบ จนตอนนี้เขาได้รับการช่วยเหลือมากมาย หากไม่ถึง ‘ตาย’ เเจ็คสันมีโอกาสที่จะเเข็งเเกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ เเละสามารถเติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
ร้านค้าระบบที่ปรากฏขึ้นในตอนนี้คือ บั๊ค พิเศษอย่างนึง การบริจาคเเต้มคะแนนจำนวนมากให้กับเเท่นบูชาทำให้ เเท่นบูชาเกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อย เเต่เพราะเเต้มคะแนนไม่เพียงพอมันจึงไม่ได้เเสดงผลลัพธ์เเละคืนชีพระบบได้อย่างสมบูรณ์
หึ่ม!
การสั่นสะเทือนนั่นดำเนินการไปได้เพียงสักครู่ก่อนที่กลิ่นอายความผันผวนที่รุนเเรงจะปลดปล่อยออกมาจากนั้นระบบ ก็ปรากฏตัวขึ้นในทะเลจิตใจของเเจ็คสันอีกครั้ง
จากนั้นไม่นานมันก็หายไปก่อนที่ระบบจะหายไปราวกับว่าเขาได้ถอนหายใจออกมาด้วความผิดหวังก่อนที่บ่นพึมพัมออกมาหนึ่งประโยค: ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ~~~~

ชั้นบนสุดของอุตสาหกรรมสตาร์ค,เป็ปเปอร์ ได้ยืนต้อนรับ เจ้าหน้าที่ โคลสัน ที่ลงมาจาก เครื่องบินควินเจ็ท ,พวกเขาทั้งสองคนไม่ได้พบเจอหน้ากันตั้งเเต่ นิค ฟิวรี่ ถูกจับกุมตัวไป เเต่เจ้าหน้าที่ โคลสัน ก็ยังทำหน้าที่ติดต่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่าง องค์กร S.H.I.E.L.D. กับ สตาร์คอินดัสตรีท์อยู่เสมอ
“สวัสดีคุณเป็ปเปอร์! ได้เห็นหน้าคุณอีกครั้งทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมากจริง ๆ !” หลังจากเดินมาถึงเบื้องหน้าของเป็ปเปอร์ เจ้าหน้าที่โคลสันยิ้มเเละกล่างทักทาย
“ยินดีที่ได้เจอคุณอีกครั้งเจ้าหน้าที่ โคลสัน ฉันเองก็รู้สึกมีความสุขมากที่ได้พบคุณ”เป็ปเปอร์เองก็กล่าวทักทายพร้อมกับยื่นมือออกไปจับ
เป็ปเปอร์ไม่ใช่คนโง่ทุกการเคลื่อนไหวของ องค์กร S.H.I.E.L.D. ก็คือการเคลื่อนไหวเเละการทำภารกิจดังนั้นเหตุผลที่เจ้าหน้าที่โคลสันมาที่นี่ก็น่าจะเป็นภารกิจบางอย่าง

“เอ่อ…”
“ที่คุณมาที่นี่เพราะเจน ฟอสเตอร์ กับ ธอร์ คนนั้น พวกเขาพักฟื้นอยู่ในห้องรักษาของเรา ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงมาหาพวกเขา เเต่ คงต้องเป็นเรื่องสำคัญมากเเน่นอน!”เห็นเจ้าหน้าที่โคลสันพยายามจะถาม เป็ปเปอร์ กล่าวตอบชิงหน้าก่อน
“อืม,ผมมาเพราะพวกเขาจริงๆ ไม่คิดเลยว่าคุณ เป็ปเปอร์ จะสามารถคาดเดาการมาของผมในครั้งนี้ได้!”เจ้าหน้าที่โคลสันยิ้มกล่าวตอบ
เนื่องเพราะโทนี่ เข้าร่วม เเผน S เเละ ไม่ได้อยู่บนโลกชั่วคราวเเละการที่ต้องเผชิญหน้ากับอารยธรรมต่างโลก เขาจะต้องล้วงข้อมูลจากธอร์ที่เป็นคนจากอารยธรรมต่างโลกให้ได้มากที่สุดดังนั้นนี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขามาที่นี่
“พวกเราลงไปข้างล่างกันเถอะจริงสิ เด็กคนนั้นที่คุณพามาคือ ”ขณะที่กำลังจะพาเจ้าหน้าที่โคลสันไปหา ธอร์ เเละ เจน เป็ปเปอร์ ก็สังเกตุเห็นเด็กคนนึงที่ยืนด้านหลังของเจ้าหน้าที่โคลสัน
“ชื่อของเขาคืออีเเวนส์เขาคือเจ้าหน้าที่สังเกตุการณ์เริ่มต้นขององค์กร S.H.I.E.L.D. ที่ผมพาเขามาที่นี่ด้วยก็เพราะให้เขาสังเกตุงานหน่ะ!”เจ้าหน้าที่โคลสันกล่าวตอบ
“เป็นเจ้าหน้าที่สังเกตุการณ์ตั้งเเต่อายุยังน้อยขนาดนี้ ดูเหมือนว่าจะมีคนที่ไม่ธรรมดาเหมือนกับเเจ็คสันอยู่อีกมากสินะ !”ได้ยินคำตอบของเจ้าหน้าที่โคลสัน เป็ปเปอร์ กล่าวพึมพัมพร้อมกับนำ เจ้าหน้าที่โคลสัน ไปหา ธอร์ เเละ เจน

การมาเยี่ยมของเจ้าหน้าที่องค์กร S.H.I.E.L.D.

  เกี่ยวกับฝันร้ายของเจน ธอร์พยายามไม่พูดอะไรมากเพื่อทำให้เธอสบายใจ ดังนั้นธอร์จึงทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

   J.A.R.V.I.Sเรื่องที่ คุณฟอสเตอร์พูดเป็นความจริงงั้นหรอทำไมนายถึงไม่บอกอะไรเธอ ? หลังจากได้ยินธอร์เเละ J.A.R.V.I.S พูดเรื่องเดียวกัน เป็ปเปอร์ ได้กล่าวถามถึงเรื่องดาร์คเอลฟ์

   จริงๆ เเล้วผมก็ไม่สามารถยืนยันอะไรได้เเน่ชัดเเต่ที่สามารถตรวจสอบได้ตอนนี้คือพลังชีวิตของเธอกำลังถูกดูดออกไป หากเราไม่สามารถหาทางเเก้ไขได้เกรงว่าพลังชีวิตของเธอจะถูกดูดออกไปจนหมด ต้องขอโทษด้วยคับในตอนนี้ผมไม่มีวิธีประเมินสถานการณ์พิเศษเกี่ยวกับร่างกายของคุณฟอสเตอร์ เกี่ยวกับคำถามของ เป็ปเปอร์ J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

  ถ้าหากเป็นบาดเเผลเหมือนกับเเจ็คสัน J.A.R.V.I.S สามารถดำเนินการโดยใช้เทคโนโลยีทางการเเพทย์ที่เเข็งเเกร่งที่สุดในโลกตอนนี้เพื่อทำการรักษาได้ ผลกระทบส่วนใหญ่ก็จะได้รับการรักษาไป

  ก่อนหน้านี้เเจ็คสันได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง เเละได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เเต่ก่อนที่เขาจะทำการรักษาเเจ็คสันมักจะดื่มน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ก่อนดังนั้นผลการรักษาทางการเเพทย์ของโลกจึงค่อนข้างให้ผลดีสำหรับเขา

  เเละผลการรักษาของเเจ็คสันมักจะเป็นข้อมูลสำคัญในการพัฒนาระบบการรักษาเเละเทคโนโลยีต่อไปJ.A.R.V.I.S ได้ใช้ข้อมูลของเเจ็คสันจำนวนมากในการประเมินรูปแบบการรักษาดังนั้นไม่เเปลกที่เทคโนโลยีทางการเเพทย์จะสามารถก้าวไกลเเละเเม่นยำมากขึ้น

  เเต่สำหรับเจน ฟอสเตอร์ เธอเป็นกรณีพิเศษ J.A.R.V.I.S ในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์พิเศษนี้มากนัก สภาพของเธอในตอนนี้ดูมีชีวิตชีวาก็จริง เเต่พลังชีวิตของเธอกำลังถูกดูดออกไป เรื่องนี้มันเเปลกมากสำหรับ J.A.R.V.I.S

   หมายความว่าเเม้เเต่นายก็ไม่มีหนทางในการช่วยให้เธอไม่สูญเสียพลังชีวิตงั้นหรอ ได้ยินคำตอบของJ.A.R.V.I.S เป็ปเปอร์กล่าวถาม

  เเม้จะไม่เข้าใจเหตุผลที่J.A.R.V.I.S อธิบายมากนัก เเต่ เป็ปเปอร์ ก็สามารถคาดเดาบางอย่างได้ อาการของ เจน ฟอสเตอร์ ในตอนนี้ ปกติมาก เเทบจะเรียกได้ว่าไร้ซึ่งบาดเเผลหรือท่าทางอาการบาดเจ็บ เเต่ถึงอย่างนั้นกลับมีผลพิเศษประหลาดที่ทำให้ เจน ฟอสเตอร์ สูญเสียพลังชีวิต

   ผมเองก็สามารถทำได้เพียงให้ยาบำบัดกับเธอเพียงเท่านั้นหวังว่ามันจะช่วยบรรเทาอาการที่ว่าได้สักระยะเวลานึง ได้ยินคำถามของเป็ปเปอร์ J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

  เกี่ยวกับสถานการณ์พิเศษนั้นไม่ใช่ว่าJ.A.R.V.I.S ไม่เคยเจอ ก็เหมือนปีเตอร์ ในตอนเเรก ที่ถูกเวน่อมเข้าสิง ในตอนนั้นเวน่อมคือสัตว์ประหลาดต่างดาวที่เป็นปรสิตใช้ร่างพาชนะเพื่อความอยู่รอด เเละ ตอนนั้นปีเตอร์ก็ถูกมันเข้าสิงเเม้จะได้รับความเเข็งเเกร่งที่เวน่อมให้ยืมเเต่ก็ได้สูญเสียบุคลิกของตนเองไป

  เเต่สถานการณ์พิเศษของเจน ฟอสเตอร์ มันเหนือกว่านั้นตอนนี้ J.A.R.V.I.S ยังไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้อย่างเเน่ชัด คงจะต้องรอดูผลลัพธ์กันต่อ

   ไม่มีวิธีอื่นเลยงั้นหรอ ได้ยินคำตอบของJ.A.R.V.I.S เป็ปเปอร์กล่าวถามอีกครั้ง

  ฟุ่บ!

  ขณะที่พวกเขากำลังสนทนากันจู่ ๆ J.A.R.V.I.S ก็ได้รับข้อความบางอย่าง

   คุณเป็ปเปอร์ 

   เจ้าหน้าที่โคลสัน ติดต่อเข้ามาครับ หลังจากได้รับการสื่อสาร J.A.R.V.I.S ก็ได้รายงานต่อ เป็ปเปอร์โดยตรง

   เจ้าหน้าที่โคลสัน เขาสมควรรู้เรื่องที่ฉันอยากรู้ เกี่ยวกับโทนี่ ไว้เขากลับมาถึง ฉันจะต้องลงโทษอะไรเขาสักอย่างบ้างเเล้ว ได้ยินว่าเจ้าหน้าที่โคลสันติดต่อมา ดวงตาของเป็ปเปอร์ประกายขึ้นเล็กน้อย

   คุณฟอสเตอร์เเละ คุณธอร์ พวกคุณพักอยู่ที่นี่ไปก่อน ฉันจะให้ J.A.R.V.I.S ทำหน้าที่รับผิดชอบในการดูเเลพวกคุณ ฉันจะออกไปรับคน ๆ นึงก่อน เป็ปเปอร์กล่าวกับทั้งสองคน

   ขอบคุณมากคุณเป็ปเปอร์ 

  ตึกตึก

  จากนั้นเป็ปเปอร์ก็เดินออกจากห้องพยาบาลเเห่งนี้

  เจ้าหน้าที่โคลสันได้นั่งเครื่องบินของ S.H.I.E.L.D. ลงมาก่อนที่จะลงจอดบนหลังคาของอาคารสตาร์คอินดัสตรีท์ ตอนนี้ โทนี่ ไม่อยู่ ดังนั้น เป็ปเปอร์ จึงต้องออกไปต้อนรับเขา

  …

  หึ่ม

  ทันทีที่เป็ปเปอร์ เดินออกไปรับเจ้าหน้าที่โคลสัน J.A.R.V.I.S ก็หันไปให้ความสนใจในห้องรักษาของ เเจ็คสัน ห้องลับใต้ดินเเห่งนี้ได้รับการป้องกันอย่างเเน่นหนา ในมือของ เเจ็คสันยังคงกำหัวใจเเห่งชีวิตเอาไว้ บนร่างกายของเขา ยังคงปนไปด้วยกลิ่นอายเเห่งความมืดเล็กน้อย

  ตราบเท่าที่หัวใจเเห่งชีวิตได้ถูกใช้งานอาการบาดเจ็บของเเจ็คสันก็สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างเต็มที่ เเต่ตอนนี้ สถานการณ์ของเขากำลังย่ำเเย่อย่างมาก

  ตอนนี้เเจ็คสันกำลังนอนหมดสติอยู่ในเตียงพยาบาลรอบด้านเต็มไปด้วยเครื่องมือรักษาJ.A.R.V.I.S กำลังตรวจสอบสภาพร่างกายของ เเจ็คสันอีกครั้ง

  ตึกตึก ตึก !

  เสียงหัวใจของเเจ็คสัน ได้เต้นอ่อนโทรมลงมากทุกที หากเขาไม่ฟื้นขึ้นมามีโอกาสเป็นไปได้สูงที่เเจ็คสันจะนอนหลับเเละไม่ตื่่นขึ้นมาอีกเลย

  ขณะเดียวกันช่วงเวลาที่ร่างกายของเเจ็คสันกำลังรักษาตนเองรัศมีพลังสีทองอันเเปลกประหลาดไม่รู้มาจากที่ใดในเวลานี้มันได้อยู่ภายในร่างกายของเขาพร้อมกับรัศมีพลังสีฟ้า พวกมันกำลังตีปะทะกันราวกับว่าไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้

 

ความฝันหรือความจริง

  เมื่อได้ข่าวว่าเเจ็คสันรอดกลับมาดังนั้นความกังวลส่วนใหญ่จึงตกไปอยู่ที่ เจน ธรรมชาติตอนนี้เธอยังไม่ตื่นขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นปัญญาประดิษฐ์นั่นยังบอกอีกว่า พลังชีวิตของเจนกำลังลดลงเรื่อย ๆ ธอร์ไม่เข้าใจ ดังนั้นเขาจึงถามออกมา

   ถ้าจะให้พูดคือ… 

   อ๊าา 

   … 

  ขณะที่J.A.R.V.I.S กำลังจะอธิบายจู่ ๆ เตียงของ เจน,เธอที่นอนหมดสติ ทันใดนั้นเธอก็ดูเหมือนจะกรีดร้องออกมาอย่างหวาดกลัว

   เฮ้,เจนข้าอยู่ที่นี่ ข้าอยู่นี่เเล้ว! เห็นเจนกรีดร้องเเละสะดุ้งตื่นขึ้นมา ธอร์ ได้รีบเข้าไปพยุงเธออย่างรวดเร็ว

   !!ธอร์ ,คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ! เจนที่ตื่นขึ้นจากฝันร้ายเห็นธอร์เข้ามาพยุงตนเอง เธอได้กล่าวถามธอร์เเฟนเก่าของเธอคนนี้ด้วยความกังวล

   ข้าไม่เป็นไร,พวกเราปลอดภัยเเล้ว ธอร์ได้กอดอดีตเเฟนสาวของตนเองด้วยความรัก

  ตั้งเเต่ที่ธอร์เลิกกับเจนเพราะโลกตั้งเเต่นั้นเขาก็ยังคงคิดถึงเจนอยู่ เเม้เขาจะไม่หวังว่าจะได้กลับมารักกับเจนอีกหรือไม่ เเต่เขาก็ยินดีจะช่วยเหลือ เจน ทุกเรื่องไม่ว่ายังไงก็ตาม

   พวกเราปลอดภัยเเล้ว ได้ยินคำพูดของธอร์ เจน มองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะสะดุดที่ร่าง ๆนึง

   เอ๋…คุณเป็ปเปอร์ หลังจากกวาดสายตาออกไปเธอก็สะดุดที่ร่างของเป็ปเปอร์ที่อยู่ไม่ไกลจากตำเเหน่งของเธอ

   อืม…ไม่ได้เจอกันนานคุณฟอสเตอร์ เห็นเจน ฟอสเตอร์ จำตนเองได้ เป็ปเปอร์ยิ้มทักทาย

   สวัสดี,คุณเป็ปเปอร์ จริงสิ ธอร์ ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหนกัน เจนพยักหน้าตอบก่อนที่จะกล่าวมาถามธอร์

   ตอนนี้พวกเราอยู่ที่สตาร์คอิสดัสตรีท์ พวกเรามาเพื่อรักษาตัว เจน ตอนนี้ร่างกายของเจ้ามีตรงไหนไม่สบายหรือไม่ ตอนที่เจ้ายังไม่ตื่นขึ้นมาข้ารู้สึกเป็นกังวลมาก ธอร์กล่าวถามอย่างจริงจัง

  เเม้ตอนนี้เธอจะตื่นขึ้นมาเเล้วเเต่ธอร์ก็ไม่อาจมองข้ามผลลัพธ์ที่ J.A.R.V.I.S บอกได้ ตามที่ J.A.R.V.I.S บอกเธอกำลังสูญเสียพลังชีวิตเรื่อย ๆ ธรรมชาติมันย่อมต้องเป็นอาการบาดเจ็บหรือผลข้างเคียงอะไรบางอย่าง

   ไม่นะ…ฉันรู้สึกสบายดี 

   เเต่ว่าเมื่อครู่ฉันฝันเเปลกๆ ฝันเห็นอะไรบางอย่าง… 

   เจ้าฝันเห็นสิ่งใด ธอร์กล่าวถามด้วยความสนใจ

   ในความฝันของฉันฉันไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหนเเต่ว่าฉันเห็นสงครามในที่เเห่งนั้นเป็นสถานที่หนาวจัดเเละเต็มไปด้วยความมืดมิด ในช่วงเวลาสุดท้ายในฝันร้ายที่ฉันเห็นคือเห็นโลกทั้งใบถูกจู่โจมโดยความมืดโดยไม่มีอะไรเหลือทิ้งไว้เบื้องหลัง พลังเเห่งความมืดนั่นราวกับสามารถบดขยี้จักรวาลให้เป็นผุยผง ภายใต้การถามของ ธอร์ เจนได้พยายามอธิบายถึงความฝันเเปลก ๆ ที่เห็นเมื่อครู่

  ในความฝันของเธอเหมือนกับความจริงมากๆ ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าพูดเต็มปากว่านั่นเป็นเพียงเเค่ความฝัน เเต่เธอก็พยายามอธิบายมันออกมาเพื่อให้ทุกคนได้รับฟัง

   สงคราม การโจมตีจากความมืด หรือว่ามันคือ…? ธอร์ได้พยายามนึกถึงเรื่องราวบางอย่างราวกับว่าเขาคิดอะไรได้

   มีอะไรงั้นหรอ เห็นการเเสดงออกของธอร์ไม่เพียงเเต่ เจน เท่านั้นที่สงสัย เเม้เเต่ สเตซี่ เเละ เป็ปเปอร์ ก็รู้สึกสงสัยเช่นเดียวกัน

   ดาร์คเอลฟ์! 

   อาจจะเป็นพวกดาร์คเอลฟ์! 

  ภายใต้คำถามของเป็ปเปอร์ เเละ สเตซี่ เสียงของ ธอร์ เเละ J.A.R.V.I.S ได้ส่งออกมาพร้อมกัน

  ก่อนหน้านี้ธอร์เคยอ่านเกี่ยวกับสงครามของพวกดาร์คเอลฟ์เเละความตั้งใจอันสูงสุดที่จะกวาดผ่านทั้ง9 โลก เรื่องนี้ถูกเขียนอยู่ในประวัติศาสตร์ ตั้งเเต่ที่เขาจำความได้ เขาได้อ่านประวัติของพวกมัน ผ่านไปหนึ่งพันปี พวกดาร์คเอลฟ์ ได้เก็บตัวเงียบ จนไร้ข่าวคราว เขาเองก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย พอเจนพูดขึ้นมาทำให้เขานึกขึ้นได้

  ช่วงหนึ่งพันปีก่อนหน้านี้พวกดาร์คเอลฟ์กำเเหงคิดจะกวาดผ่านทั้ง9 โลก ในอดีต เเอสการ์ดเองก็ได้เข้าร่วมสงคราม ก่อนที่จะหยุดปณิธานอันเเรงกล้านั่นเเละทำให้พวกดาร์คเอลฟ์ต้องสูญเสียครั้งใหญ่เเละเลือกที่จะหลบซ่อนตัว

   หืมเจ้าเองก็รู้จักพวกดาร์คเอลฟ์งั้นหรอ? ได้ยินคำพูดของJ.A.R.V.I.S ธอร์กล่าวถามอย่างประหลาดใจ

   สิ่งที่คุณธอร์ถามเหนือกว่าเขตอำนาจศาลที่จะเเพร่งพรายออกมา J.A.R.V.I.S ได้กล่าวเตือนธอร์

   เขตอำนาจศาลอะไร สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้า ได้ยินคำเตือนของ J.A.R.V.I.S ธอร์เเสร้งทำเป็นไม่สนใจ

ความฝันหรือความจริง

  เมื่อได้ข่าวว่าเเจ็คสันรอดกลับมาดังนั้นความกังวลส่วนใหญ่จึงตกไปอยู่ที่ เจน ธรรมชาติตอนนี้เธอยังไม่ตื่นขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นปัญญาประดิษฐ์นั่นยังบอกอีกว่า พลังชีวิตของเจนกำลังลดลงเรื่อย ๆ ธอร์ไม่เข้าใจ ดังนั้นเขาจึงถามออกมา

   ถ้าจะให้พูดคือ… 

   อ๊าา 

   … 

  ขณะที่J.A.R.V.I.S กำลังจะอธิบายจู่ ๆ เตียงของ เจน,เธอที่นอนหมดสติ ทันใดนั้นเธอก็ดูเหมือนจะกรีดร้องออกมาอย่างหวาดกลัว

   เฮ้,เจนข้าอยู่ที่นี่ ข้าอยู่นี่เเล้ว! เห็นเจนกรีดร้องเเละสะดุ้งตื่นขึ้นมา ธอร์ ได้รีบเข้าไปพยุงเธออย่างรวดเร็ว

   !!ธอร์ ,คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ! เจนที่ตื่นขึ้นจากฝันร้ายเห็นธอร์เข้ามาพยุงตนเอง เธอได้กล่าวถามธอร์เเฟนเก่าของเธอคนนี้ด้วยความกังวล

   ข้าไม่เป็นไร,พวกเราปลอดภัยเเล้ว ธอร์ได้กอดอดีตเเฟนสาวของตนเองด้วยความรัก

  ตั้งเเต่ที่ธอร์เลิกกับเจนเพราะโลกตั้งเเต่นั้นเขาก็ยังคงคิดถึงเจนอยู่ เเม้เขาจะไม่หวังว่าจะได้กลับมารักกับเจนอีกหรือไม่ เเต่เขาก็ยินดีจะช่วยเหลือ เจน ทุกเรื่องไม่ว่ายังไงก็ตาม

   พวกเราปลอดภัยเเล้ว ได้ยินคำพูดของธอร์ เจน มองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะสะดุดที่ร่าง ๆนึง

   เอ๋…คุณเป็ปเปอร์ หลังจากกวาดสายตาออกไปเธอก็สะดุดที่ร่างของเป็ปเปอร์ที่อยู่ไม่ไกลจากตำเเหน่งของเธอ

   อืม…ไม่ได้เจอกันนานคุณฟอสเตอร์ เห็นเจน ฟอสเตอร์ จำตนเองได้ เป็ปเปอร์ยิ้มทักทาย

   สวัสดี,คุณเป็ปเปอร์ จริงสิ ธอร์ ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหนกัน เจนพยักหน้าตอบก่อนที่จะกล่าวมาถามธอร์

   ตอนนี้พวกเราอยู่ที่สตาร์คอิสดัสตรีท์ พวกเรามาเพื่อรักษาตัว เจน ตอนนี้ร่างกายของเจ้ามีตรงไหนไม่สบายหรือไม่ ตอนที่เจ้ายังไม่ตื่นขึ้นมาข้ารู้สึกเป็นกังวลมาก ธอร์กล่าวถามอย่างจริงจัง

  เเม้ตอนนี้เธอจะตื่นขึ้นมาเเล้วเเต่ธอร์ก็ไม่อาจมองข้ามผลลัพธ์ที่ J.A.R.V.I.S บอกได้ ตามที่ J.A.R.V.I.S บอกเธอกำลังสูญเสียพลังชีวิตเรื่อย ๆ ธรรมชาติมันย่อมต้องเป็นอาการบาดเจ็บหรือผลข้างเคียงอะไรบางอย่าง

   ไม่นะ…ฉันรู้สึกสบายดี 

   เเต่ว่าเมื่อครู่ฉันฝันเเปลกๆ ฝันเห็นอะไรบางอย่าง… 

   เจ้าฝันเห็นสิ่งใด ธอร์กล่าวถามด้วยความสนใจ

   ในความฝันของฉันฉันไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหนเเต่ว่าฉันเห็นสงครามในที่เเห่งนั้นเป็นสถานที่หนาวจัดเเละเต็มไปด้วยความมืดมิด ในช่วงเวลาสุดท้ายในฝันร้ายที่ฉันเห็นคือเห็นโลกทั้งใบถูกจู่โจมโดยความมืดโดยไม่มีอะไรเหลือทิ้งไว้เบื้องหลัง พลังเเห่งความมืดนั่นราวกับสามารถบดขยี้จักรวาลให้เป็นผุยผง ภายใต้การถามของ ธอร์ เจนได้พยายามอธิบายถึงความฝันเเปลก ๆ ที่เห็นเมื่อครู่

  ในความฝันของเธอเหมือนกับความจริงมากๆ ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าพูดเต็มปากว่านั่นเป็นเพียงเเค่ความฝัน เเต่เธอก็พยายามอธิบายมันออกมาเพื่อให้ทุกคนได้รับฟัง

   สงคราม การโจมตีจากความมืด หรือว่ามันคือ…? ธอร์ได้พยายามนึกถึงเรื่องราวบางอย่างราวกับว่าเขาคิดอะไรได้

   มีอะไรงั้นหรอ เห็นการเเสดงออกของธอร์ไม่เพียงเเต่ เจน เท่านั้นที่สงสัย เเม้เเต่ สเตซี่ เเละ เป็ปเปอร์ ก็รู้สึกสงสัยเช่นเดียวกัน

   ดาร์คเอลฟ์! 

   อาจจะเป็นพวกดาร์คเอลฟ์! 

  ภายใต้คำถามของเป็ปเปอร์ เเละ สเตซี่ เสียงของ ธอร์ เเละ J.A.R.V.I.S ได้ส่งออกมาพร้อมกัน

  ก่อนหน้านี้ธอร์เคยอ่านเกี่ยวกับสงครามของพวกดาร์คเอลฟ์เเละความตั้งใจอันสูงสุดที่จะกวาดผ่านทั้ง9 โลก เรื่องนี้ถูกเขียนอยู่ในประวัติศาสตร์ ตั้งเเต่ที่เขาจำความได้ เขาได้อ่านประวัติของพวกมัน ผ่านไปหนึ่งพันปี พวกดาร์คเอลฟ์ ได้เก็บตัวเงียบ จนไร้ข่าวคราว เขาเองก็ลืมเรื่องนี้ไปเลย พอเจนพูดขึ้นมาทำให้เขานึกขึ้นได้

  ช่วงหนึ่งพันปีก่อนหน้านี้พวกดาร์คเอลฟ์กำเเหงคิดจะกวาดผ่านทั้ง9 โลก ในอดีต เเอสการ์ดเองก็ได้เข้าร่วมสงคราม ก่อนที่จะหยุดปณิธานอันเเรงกล้านั่นเเละทำให้พวกดาร์คเอลฟ์ต้องสูญเสียครั้งใหญ่เเละเลือกที่จะหลบซ่อนตัว

   หืมเจ้าเองก็รู้จักพวกดาร์คเอลฟ์งั้นหรอ? ได้ยินคำพูดของJ.A.R.V.I.S ธอร์กล่าวถามอย่างประหลาดใจ

   สิ่งที่คุณธอร์ถามเหนือกว่าเขตอำนาจศาลที่จะเเพร่งพรายออกมา J.A.R.V.I.S ได้กล่าวเตือนธอร์

   เขตอำนาจศาลอะไร สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้า ได้ยินคำเตือนของ J.A.R.V.I.S ธอร์เเสร้งทำเป็นไม่สนใจ

  เพราะอย่างไรก็ตามเดิมเขาก็ไม่ใช่คนของมนุษย์โลกเขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำตามกฏของอิทธิพลอื่นๆ เช่นกฏขององค์กร S.H.I.E.L.D.

  เเต่สิ่งที่ธอร์มองข้ามในสิ่งที่J.A.R.V.I.Sพยายามอธิบายก็คือ ที่นี่มีคนอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่ด้วย สิ่งที่ธอร์ต้องการก็คือข้อมูลถ้าเกิด J.A.R.V.I.S มีข้อมูลเกี่ยวกับพวกดาร์คเอลฟ์ เขาอาจจะสามารถหาทางส่งข่าวเรื่องนี้เเจ้งต่อเเอสการ์ด เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเหมือนพันปีก่อนหน้าที่พวกดาร์คเอลฟ์เป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่

   ดาร์คเอลฟ์ ธอร์ คุณหมายถึงอะไร? เจน ไม่เข้าใจในคำพูดของธอร์ ดังนั้น เธอจึงกล่าวถาม

   เจน,ฝันร้ายที่เจ้าฝันเห็นอาจจะเป็นความจริงพวกเรากำลังเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่เเล้ว ธอร์จับมือของเจนเเน่นเเละอธิบาย

   เเต่นั่นก็เเค่ฝันร้าย! ได้ยินคำพูดของธอร์เจน ยังคงพยายามระงับอาการตกใจของตนเองเเละกล่าวตอบ

  สำหรับเธอความฝันไม่ว่ามันจะเป็นจริงเเค่ไหนมันก็เเค่ความฝันเเต่สำหรับธอร์ ความฝันของเจนนั้นคือลางบอกเหตุเเห่งหายนะที่พวกเขาจะต้องเผชิญหน้าในอนาคต

   ใช่,มันก็เป็นเพียงเเค่ฝันร้ายเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล เพื่อความสบายใจของเจน ธอร์ได้พยายามลดความตื่นตระหนกเพื่อให้เจนสบายใจ

  เเม้เขาจะไม่ทราบว่าทำไมเจนถึงฝันร้ายเช่นนี้เเต่ลางสังหรณ์ของธอร์ ฝันร้ายนี่คือลางบอกเหตุถึงหายนะที่พวกดาร์คเอลฟ์กำลังจะทำการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่

 

ธอร์ฟื้นสติ

   เเล้วเจน ฟอสเตอร์ เธอ… 

  ติ๊ด

  ขณะที่เป็ปเปอร์กำลังจะเตรียมถามจู่ๆ J.A.R.V.I.S ก็ได้รับเสียงเเจ้งเตือนเดิมมันคือเสียงเเจ้งเตือนว่าธอร์ตื่นขึ้นมาเเล้ว

   คุณเป็ปเปอร์ดูเหมือน คุณธอร์ จะตื่นขึ้นมาเเล้ว เอาเป็นว่าเราไปด้วยกันเลยเป็นไง ผมจะบอกเล่าสถานการณ์ที่คุณอยากรู้ให้ฟังระหว่างทาง เห็นธอร์ตื่น J.A.R.V.I.S ก็พูดกับเป็ปเปอร์

   งั้นหรอ ดี ฉันอยู่ในห้องเเพทย์ถัดไปฉันจะรีบไปทันที ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S เป็ปเปอร์ ค่อนข้างประหลาดใจ

  จากนั้นเป็ปเปอร์ก็รีบไปที่ห้องเเพทย์ถัดไปทันทีในระหว่างทาง J.A.R.V.I.S ก็ได้อธิบายเกี่ยวกับเธอ เเน่นอนว่า J.A.R.V.I.S ย่อมไม่บอกเป็ปเปอร์ถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น

  นอกห้องเป็ปเปอร์ยังคงจ้องมองธอร์ กับ เจน ที่อยู่ในห้องทางการเเพทย์โดยมี สเตซี่ ที่เกาะอยู่ข้างเตียง

   เจ้ากำลังบอกว่าตั้งเเต่ ข้ากับเจนออกมาจากพื้นที่มิติ เจ้าก็ยังไม่เห็นว่า เเจ็คสันออกมาจากพื้นที่มิติงั้นหรอ จ้องมองไปที่ สเตซี่ ธอร์ได้กล่าวถามอย่างรุนเเรง

   ใช่,ก่อนที่พวกคุณจะปรากฏตัวขึ้นมีสัตว์ประหลาดสองตัวออกมาจากพื้นที่มิติอวกาศเเต่มันก็ถูกไอรอนแมนจัดการไปหลังจากนั้นพวกคุณก็ออกมา จากนั้นพวกเราก็ถูกพาตัวมาที่นี่ จริงสิ ฉันเห็นเเฟนสาวของโทนี่ สตาร์ค เป็ปเปอร์ ด้วย ได้ยินคำถามของธอร์ สเตซี่ ตอบกลับทันที

   เเฟนสาวของโทนี่สตาร์ค อืม…เเล้ว โทนี่ ล่ะ เขาอยู่ไหน? ได้ยินคำตอบของสเตซี่ ว่าพูดถึง เเฟนสาวของ โทนี่ สตาร์ค ธอร์ กล่าวถามออกมา

  ธอร์เเละ เจน สามารถกลับมาที่โลกได้อย่างปลอดภัยส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณเเจ็คสันที่ช่วยพวกเขาเเละปกป้องเส้นทางหลบหนีเอาไว้ ตอนนี้เเจ็คสันยังไม่ได้กลับมาเเน่นอนว่าธอร์ย่อมเป็นกังวลอยู่หลายส่วน ส่วนเรื่อง ไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ค พวกเขาก็มีส่วนช่วยเหลือตนเองเหมือนกัน ดังนั้น ธอร์ จึงรู้สึกขอบคุณ

  ฟุ่บ!

  ขณะที่ธอร์กำลังกล่าวถาม สเตซี่ จู่ ๆ ประตูห้องการเเพทย์ก็ถูกเปิดขึ้น จากนั้นเป็ปเปอร์ก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

   กำลังมองหาโทนี่งั้นหรอตอนนี้เขายังไม่ว่างหากคุณมีอะไรก็สามารถถามฉันได้ เห็นธอร์ถามหาโทนี่เป็ปเปอร์ ได้กล่าวพูดทันที

  ก่อนหน้าที่จะเข้ามาJ.A.R.V.I.S ได้บอกสถานการณ์คร่าว ๆ เกี่ยวกับพวกเขาเเล้ว ดังนั้น เมื่อเข้ามาถึงภายในห้อง เป็ปเปอร์ จึงยิงคำถามใส่ทันที

   เอ่อ…เธอคือคุณเป็ปเปอร์เป็นผู้จัดการทั่วไปของสตาร์คอินดัสตรีท์ ! เห็นธอร์สงสัย สเตซี่ ได้กล่าวอธิบาย

   เป็ปเปอร์ ยินดีที่ได้รู้จัก ตอนนี้ ไอรอนแมนอยู่ที่ไหนกัน ? ข้าต้องการกล่าวถามถึงสถานการณ์ของเเจ็คสัน ตอนนี้ ข้าเป็นห่วงเขามาก ภายใต้การเเนะนำของสเตซี่ ธอร์ได้กล่าวถามออกมา

   โทนี่ เขาไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก สำหรับ เเจ็คสัน เขาได้รับบาดเจ็บเเละกำลังพักฟื้นอยู่ในพื้นที่อื่น เป็ปเปอร์ กล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

   ได้รับบาดเจ็บ ดีจริง ๆ เขายังปลอดภัยรอดกลับมา! ได้ยินคำตอบของเป็ปเปอร์ ธอร์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย

  หากเเจ็คสันได้รับบาดเจ็บกลับมาเขาก็ยังสามารถรักษาตัวได้เเต่ถ้าหากไม่ได้กลับมาจากพื้นที่มิติอวกาศนั่น เเม้เเจ็คสันจะเเข็งเเกร่ง เเต่ก็ไม่สามารถต้านทานพวกสัตว์ประหลาดพวกนั้นได้ นอกจากนี้ ธอร์ไม่รู้ว่าสัตว์ประหลาดพวกนั้นเเท้จริงเเล้วคือลูกสมุนสัตว์ปีศาจของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ เพราะก่อนหน้านี้เขาไม่เคยพบพวกดาร์คเอลฟ์มาก่อน

   ธอร์สถานการณ์ของคุณ กับ เจน ฉันได้พอรู้คร่าว ๆ มาบ้างเเล้ว สบายใจเถอะ ที่สตาร์คอินดัสตรีท์เเห่งนี้จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในการรักษาพวกคุณ เป็ปเปอร์ไม่ได้สนใจคำพูดของธอร์ เธอกล่าวออกมาทันที

   ขอบคุณถ้าให้ดี ช่วยรักษาเจนก่อนเถอะ ได้ยินว่าเป็ปเปอร์จะช่วยเหลือ ธอร์ เเสดงความขอบคุณพร้อมกับเปลี่ยนสายตาไปยังทิศทางของเจนที่อยู่ข้าง ๆ เตียง

   เจนฟอสเตอร์ J.A.R.V.I.S เเม้เเต่นายเองก็ไม่รู้งั้นหรอว่าสถานการณ์ที่ คุณฟอสเตอร์ เป็นอยู่คืออะไร ? ได้ยินคำพูดของ ธอร์ เป็ปเปอร์ ย่นคิ้วเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวถาม J.A.R.V.I.S

   คุณเป็ปเปอร์,สถานการณ์ของคุณ เจน ฟอสเตอร์ นั้นพิเศษมาก ผมยังไม่สามารถตรวจสอบอะไรเธอได้ เเต่ผลการวิเคราะห์เเละตรวจสอบร่างกายของเธอ ราวกับว่าตอนนี้เธอกำลังถูกดูดกลืนพลังชีวิตอย่างต่อเนื่อง ได้ยินคำถามของ เป็ปเปอร์ J.A.R.V.I.S ตอบกลับทันที

  ได้ยินเสียงของJ.A.R.V.I.S ธอร์จ้องมองไปที่ เจน ก่อนที่เขาจะมองดูรอบ ๆ อย่างงุนงง จากนั้นเขาก็กำกำปั้นเเน่นก่อนที่จะปลดปล่อยกลิ่นอายที่อันตรายออกมา

   ใคร ใครพูดกัน ? สองมือกำกำปั้นเเน่นธอร์ตะโกนขึ้นอย่างรุนเเรง

  เเม้อาการบาดเจ็บของเขาจะไม่สู้ดีนักหลังจากออกมาจากพื้นที่มิติอวกาศเเต่ธอร์ก็ฟื้นพลังเหนือธรรมชาติของตนเองคืนมาได้หลายจุด ทำให้ พลังของเขา เเข็งเเกร่งมากขึ้น คนธรรมดาทั่วไปตอนนี้ไม่ใช่คู่มือของเขาเลย

   อืม…ผู้ชายร่างยักษ์คนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่คิดจริงๆ  เห็นการเปลี่ยนเเปลงของธอร์ เป็ปเปอร์ กระซิบในใจ

   ไม่ต้องเป็นห่วงนี่คือปัญญาประดิษฐ์ของ โทนี่ เขาเรียกว่า J.A.R.V.I.S เป็ปเปอร์ได้เปิดปากขึ้นเพื่ออธิบาย

   J.A.R.V.I.S ฉันเหมือนได้ยินว่า อีเเวนส์ เด็กคนนั้นก็ได้พูดชื่อนี้ หรือว่า ไอรอนแมนก็คือ J.A.R.V.I.S ? ได้ยินชื่อ J.A.R.V.I.S ธอร์ไม่ได้กล่าวถาม เเต่คราวนี้เป็นสเตซี่

   ถูกต้องเเล้วคุณ สเตซี่ ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการ คุณธอร์ ผมชื่อ J.A.R.V.I.S เเละ ผมก็เป็นเพื่อนของคุณ เเจ็คสัน J.A.R.V.I.S กล่าวเเนะนำตัว

   ปัญญาประดิษฐ์ มันคืออะไร ชั่งเถอะ ตอนนี้ สถานการณ์ของ เจน เป็นยังไงมั่ง เจ้าบอกว่า เธอกำลังสูญเสียพลังชีวิตเรื่อย ๆ ใช่หรือไม่? ธอร์ไม่ต้องการฟังคำเเนะนำตัวของ J.A.R.V.I.S อีก เขากล่าวถามออกไปอย่างกังวล

 

เขา…ไปช่วยโลก

  โดยปกติเเล้วJ.A.R.V.I.S สามารถใช้ระบบหลักของตนเองเเชร์ข้อมูลไปยังส่วนกลางเพื่อควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนทั้งหมดได้เเต่ตอนนี้เขาไม่สามารถเข้าระบบกลางได้ดังนั้นสิ่งที่เขาทำได้ก็คือการป้อนข้อมูลคำสั่งโดยตรง

  ก่อนหน้านี้ชุดเกราะไอรอนแมนที่อยู่ลอนดอนที่กำลังปกป้องพื้นที่มิติอวกาศไม่ได้มีปัญหาอะไรเเม้เเต่น้อยระบบของพวกเขายังไม่ได้ล่มในตอนนั้นเเต่หลังจากที่ เอนเชี่ยนวัน ใช้ไทม์สโตนเพื่อช่วยเหลือเเจ็คสันตั้งเเต่นั้นระบบดูเหมือนจะทำงานผิดพลาดในเวลาเดียวกัน

  ความเเข็งเเกร่งของเอนเชี่ยนวันนั้นรุนเเรงมากนอกจากนี้เขายังมีความเเข็งเเกร่งเเละความสามารถในการควบคุมไทม์สโตนเเต่เขาไม่สามารถย้อนเวลาทั้งหมดกลับไปได้ เพื่อช่วยเเจ็คสันเขาได้ใช้พลังของไทม์สโตนเพียงบางส่วนในการย้อนเวลากลับไปเพื่อช่วยชีวิต

  เเต่เอนเชี่ยนวันหารู้ไม่ว่าสิ่งที่ตนเองได้ทำลงไปนั้นจะทิ้งร่องรอยไว้ที่ระบบของJ.A.R.V.I.S

  เพราะชุดเกราะไอรอนแมนที่บันทึกข้อมูลเเละถูกย้อนเวลากลับไปทำให้ หน่วยความจำเหล่านั้นสูญเสีย ไม่เเปลกที่ระบบส่วนกลางจะทำงานผิดพลาด เพราะเวลาได้ถูกย้อนกลับเเต่ระบบความเข้าใจของ J.A.R.V.I.S ไม่ได้ถูกย้อนกลับไปด้วย

   ปัญหาเกิดขึ้นที่อะไรกัน ไม่สามารถตรวจสอบได้  ภายใต้การคำนวณอย่างรุนเเรง J.A.R.V.I.S ยังคงไม่ค้นพบปัญหาที่ทำให้ระบบเกิดความขัดข้อง

   การสนับสนุนที่ไซบีเรียคงจะไปถึงเเล้ว ตอนนี้ฉันมีข้อมูลจำนวนมากของพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์อยู่ ฉันควรจะช่วยเหลือพวกคุณสตาร์คให้กลับมาอย่างปลอดภัย J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

  หลังจากโทนี่ ออกจากโลก เขาก็ไม่สามารถติดต่อระบบหลักของ J.A.R.V.I.S ได้,ระบบหลักของ J.A.R.V.I.S มีเครือข่ายหลายช่องทางดังนั้นการรับข้อมูลจึงไม่เหมือนกัน เเต่ท้ายที่สุดเเล้วทุกอย่างก็จะถูกส่งเข้ามาที่เครือข่ายส่วนกลางทั้งหมด

  ขณะที่J.A.R.V.I.S กำลังคำนวณ ประเมินสถานการณ์ เขาก็ได้รับการติดต่อจากใครบางคน

   J.A.R.V.I.S,โทนี่ยังไม่ได้กลับมางั้นหรอ เสียงของ เป็ปเปอร์ ได้ดังขึ้น

  ก่อนหน้านี้ที่เเจ็คสัน ได้รับข่าวลูกบาศก์เวทมนตร์ โทนี่ ไม่ได้วางเเผนที่จะออกไปช่วยเหลือ เเต่การปรากฏตัวของพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ ทำให้ โทนี่ ตัดสินใจที่จะไปด้วยตนเอง เขาได้บอกกับ เป็ปเปอร์ ว่าจะออกไปเดินเล่นข้างนอก ดังนั้นจนถึงตอนนี้ เป็ปเปอร์ก็ยังไม่ได้รับข่าวจากโทนี่เลย

   คุณเป็ปเปอร์! คุณสตาร์ค ยังไม่ได้กลับมาเลย! เผชิญหน้ากับการสอบถามของ เป็ปเปอร์ J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

   J.A.R.V.I.S,บอกฉันมาว่าโทนี่ไปไหน ได้ยินคำตอบของJ.A.R.V.I.S เป็ปเปอร์ได้เงียบไปชั่วครู่ก่อนที่เธอจะกล่าวถามอีกครั้ง

   คุณสตาร์ค…เขาไปช่วยโลก 

  เป็ปเปอร์ … 

  …

  หลังจากJ.A.R.V.I.S ตอบกลับ เป็ปเปอร์ คราวนี้ เธอได้เงียบไปนานมาก ก่อนหน้านี้ โทนี่ บอกกับเธอว่าจะไปเดินเล่น เเล้วตอนนี้เขาจะไปช่วยโลกได้อย่างไร นั่นอาจจะเป็นเพียงข้อเเก้ตัวบางอย่าง หลังจาก โทนี่ กลายเป็นไอรอนแมน เขาก็ค่อนข้างวุ่นวายอย่างมาก เรื่องนี้เธอรู้ดีที่สุด

  เเต่เพราะJ.A.R.V.I.S ได้ตอบคำถามของเธออย่างตรงไปตรงมาทำให้ เป็ปเปอร์ ค่อนข้างลังเล J.A.R.V.I.S เป็นปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะ เขาย่อมไม่โกหกอย่างเเน่นอน ถ้าเกิดโทนี่ออกไปช่วยเหลือโลก จริง ๆ เป็ปเปอร์ ก็ไม่ติดใจเอาความอะไร เเต่เธอจะต้องได้ข้อมูลจาก J.A.R.V.I.S มากกว่านี้

   ปัญหาพวกคิลเลี่ยน ยังไม่ได้รับการเเก้ไขอีกงั้นหรอ เป็ปเปอร์กล่าวถามออกมาอีกครั้ง

  เกี่ยวกับคิลเลี่ยน เธอได้รับข้อมูลของเขามามาก ได้ยินว่า มีคนสนับสนุนคิลเลี่ยนมากมายโดยเฉพาะพวกผู้ก่อการร้ายคนเหล่านี้โฉดชั่วมากใช้ชีวิตของผู้บริสุทธิ์เป็นเครื่องมือทำให้โลกตกอยู่ในความหวาดกลัว

   ไม่ใช่คิลเลี่ยน ! ปัญหาของ พวก เอ็กซ์ทรีมิส ได้รับการเเก้ไขเเล้ว ได้ยินคำถามของ เป็ปเปอร์ J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

   เเล้วมันคืออะไร…หรือว่าโทนี่ไม่ให้นายบอกฉัน เป็ปเปอร์วางเเผนที่จะถามอีกครั้ง เเต่เธอก็ลืมคิดเกี่ยวกับเรื่องที่โทนี่จะสั่ง J.A.R.V.I.S ไม่ให้บอกเธอไปเลย

  J.A.R.V.I.S … 

   โทนี่สั่งห้ามไว้สินะเเต่เกี่ยวกับสถานการณ์ของคนสองคนในห้องทางการเเพทย์ของเราเมื่อไม่นานมานี้คืออะไร  เห็น J.A.R.V.I.S เงียบ เป็ปเปอร์ราวกับเดาความคิดของเขาได้

  J.A.R.V.I.Sได้ส่ง เจน กับ ธอร์ มาทางเครื่องบินส่วนตัวของโทนี่ ดังนั้น เป็ปเปอร์ จึงได้รับรายงานการลงจอดจากเครื่องบินส่วนตัวพร้อมกับข้อมูลที่พวกเขามาลงที่ตึกสตาร์คอินดัสตรีท์เเห่งนี้

  นอกเหนือจากเจน กับ ธอร์ เเละ คนที่ตามมาอีกคน ก็คือ สเตซี่ เธอได้ติดตามพวก เจนมาด้วย

   อุตสาหกรรมสตาร์คของเราเปลี่ยนไปเป็นที่รักษาพยาบาลตั้งเเต่เมื่อไหร่ นอกจาก เด็กน้อยเเจ็คสันนั่นเเล้ว ฉันไม่เคยเห็นโทนี่ให้ความช่วยเหลือคนอื่นโดยใช้ห้องทางการเเพทย์ส่วนตัวของเขาเลย ? เห็น J.A.R.V.I.S ไม่ตอบ เป็ปเปอร์ยังคงกล่าวถามต่อไป

  เป็ปเปอร์รู้สถานะของ เจน ฟอสเตอร์ เธอกับเจนนั้นเคยเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเดียวกัน เเต่ก็ไม่ใช่เพื่อนที่สนิทกันมากขนาดนั้น เมื่อเห็นว่า เพื่อนคนนี้ถูกหามตัวเข้าห้องรักษาส่วนตัวของโทนี่ เป็ปเปอร์ จึงรู้สึกสงสัย

   คุณเป็ปเปอร์,ขออภัยเรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบของผม คุณฟอสเตอร์ เเละ คุณธอร์ เป็นกรณีพิเศษ ก่อนที่คุณสตาร์คจะกลับมาผมจะไม่ขอตอบอะไรชั่วคราว 

   สำหรับคุณ สเตซี่ เพราะเธอกลัวว่าอาจรย์ของเธอจะเป็นอันตรายเธอจึงขอติดตามมาด้วย J.A.R.V.I.S ได้กล่าวอธิบายอย่างเรียบง่าย

   เป็นอันตราย ฉันไม่เห็นพวกเขาจะเป็นอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็น เจน ฟอสเตอร์ หรือ ชายร่างใหญ่นั่นฉันเห็นพวกเขาปกติดี  ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S เป็ปเปอร์กล่าวถามอีกเล็กน้อย

  ��

 

สถานการณ์ซับซ้อน

  ในการตรวจสอบของJ.A.R.V.I.S เขาไม่สามารถประเมินได้ว่าสิ่งที่ เเจ็คสันถืออยู่ในมือนั้นคือสิ่งใด เเต่ว่ามันกลับปลดปล่อยกลิ่นอายพลังงานที่น่ากลัวมากออกมา ทั้งยังมีรังสีเเสงสีเขียวปรากฏขึ้น

   คลื่นสัญญาณชีพจรชีวิตของคุณ เเจ็คสัน กำลังเเปรปรวน เเต่ที่มันยังคงรักษาสภาพในตอนนี้เอาไว้ได้สมควรมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งของที่อยู่ในมือของเขา! หลังจากตรวจสอบสัญญาณชีพจรชีวิตของ เเจ็คสัน หลายครั้ง J.A.R.V.I.S ก็มั่นใจในผลลัพธ์ที่ตนเองได้

   ไม่มีวิธีประเมินสิ่งของที่อยู่ในมือของเขาอย่างไรก็ตามมันอาจจะมีความสามารถที่ช่วยเหลือคุณ เเจ็คสัน จากสภาพตอนนี้ได้ J.A.R.V.I.S ครุ่นคิดเเละวิเคราะห์ทุกวิถีทาง

  หึ่ม

  อาการบาดเจ็บของเเจ็คสันได้รับการรักษาอยู่ก็จริงเเต่สัญญาณชีพจรชีวิตของ เเจ็คสัน กลับไม่ได้คงที่ มันกลับค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ เเม้จะกลับมาจากขอบเขตมรณะเเต่มันก็ไม่ได้รับประกันว่าเขาในตอนนี้จะปลอดภัยยังไงก็ตามเขาจะต้องหาทางรักษา อาการของ เเจ็คสันตอนนี้ซะก่อน

  สิ่งที่เเจ็คสันถือก็คือหัวใจเเห่งชีวิต ที่เเจ็คสันได้รับมาจากดวงดาวที่เเตกต่างนั่น ในการประเมินของร้านค้าระบบมันมีค่ามากกว่า 50,000 เเต้มคะแนน ความสามารถของมันมีพลังที่สามารถช่วยฟื้นพลังชีวิตราวกับสามารถคืนชีพกลับมาได้ เพราะแบบนี้ เเจ็คสันจึงไม่ได้ขายมันไป

  ท้ายที่สุดเเจ็คสัน ก็ได้ถูกบีบบังคับให้เผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่สิ้นหวัง เดิม เเจ็คสันคิดจะพึ่งทางเเอสการ์ด ถ้าฮัมดาลล์ รู้ว่า ธอร์ จะตกอยู่ในอันตราย เขาจะต้องช่วยเหลืออย่างเเน่นอน เเต่มันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่ตนเองคิด สุดท้าย เเจ็คสันก็ต้องเข้าช่วยเหลือพวกธอร์ด้วยตนเอง เเละเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดเพราะผู้นำกลุ่มเผ่าดาร์คเอลฟ์นั่น

  ในการระเบิดครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะออกมาเเจ็คสันได้เดิมพันกับการป้องกันของชุดเเพนท่อมสูทของเขา เเละมันก็ช่วยเหลือเขา เเรงระเบิดนั่นได้ส่งผลให้เขาหลุดเข้าไปยังพื้นที่มิติเเละออกมาได้ในที่สุด เเต่สิ่งที่ออกมาตามก็คือนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่เป็นผู้นำกลุ่มคนนั้น

  เเจ็คสันได้เสี่ยงโชคลาภเเละใช้พลังทุกอย่างของเขาไปจนหมดเเล้วท้ายที่สุด เขาก็ไม่สามารถทำหน้าที่จนจบได้ คงได้เเต่พึ่งพา J.A.R.V.I.S ที่อยู่ด้านนอก จากนั้นเขาก็หมดสติไป ไม่รู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหลังจากนั้นอีก โดยเฉพาะการปรากฏตัวของเอนเชี่ยนวันที่เข้าช่วยเหลือช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตของเขา

  หึ่ม!

  บาดเเผลบนร่างกายของเเจ็คสันเกิดขึ้นจากการปะทะกับพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ภายใต้เทคโนโลยีที่เเข็งเเกร่งที่สุดในโลกย่อมสามารถช่วยรักษาอาการบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ หลายจุดได้ เเละบาดเเผลส่วนใหญ่พวกนั้นคงต้องใช้เวลาเพื่อการรักษาพักฟื้นพอสมควร

  เหตุผลเพราะร่างกกายของเเจ็คสันไม่ใช่คนธรรมดาเเม้J.A.R.V.I.S จะใช้ทรัพยากรที่ล้ำค่ามากที่สุด หรือ ยารักษาที่ดีที่สุด ก็ไม่ได้ช่วยเหลืออย่างเต็มประสิทธิภาพ มีอย่างนึงที่ J.A.R.V.I.S กำลังกังวลอยู่ตอนนี้ เพราะเขาไม่สามารถช่วยเหลือเเจ็คสันในการกู้สัญญาณชีพจรชีวิตของ เเจ็คสันได้ ออร่าเเห่งชีวิตของเเจ็คสันกำลังมอดดับลง

  บางทีหากเเจ็คสันมีสติอยู่ในตอนนี้เขาคงสามารถหาวิธีในการช่วยเหลือตนเองผ่านระบบร้านค้าได้หรือกระทั่งหาวิธีใช้หัวใจเเห่งชีวิตเพื่อช่วยเหลือตนเองในตอนนี้

  การที่เเจ็คสันหมดสติไม่ใช่เพียงเขาจะไม่รู้สึกตัวเเต่เขากำลังจะจบชีวิตภายใต้สภาวะที่ไร้สติเช่นนี้อีกด้วยหัวใจเเห่งชีวิตที่เขาถืออยู่มีพลังเเห่งชีวิตอันมหาศาล เเต่ข้อมูลที่คนอื่น ๆ มีสำหรับเจ้าสิ่งนี้มันมีน้อยเกินไป เดิมถ้าเเจ็คสันมอบให้พวก โทนี่ ตรวจสอบก่อนหน้านี้ พวกเขาอาจจะพอช่วยเหลืออะไรได้บ้าง

  ติ๊ด

   สัญญาณชีพจรชีวิตกำลังลดลงอีกครั้ง! ได้ยินเสียงเตือนที่รุนเเรงJ.A.R.V.I.S ประเมินอีกครั้ง

  ในสถานการณ์เช่นนี้J.A.R.V.I.S ไม่มีวิธการช่วยเหลืออะไรเลยนอกจากการเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิดเขาไม่สามารถทำอะไรได้

  …

   ระบบเชื่อมต่อกลางถูกตัดขาดมันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่ ขณะเดียวกัน J.A.R.V.I.S ก็ได้ประมวลผลระบบส่วนกลางของตนเองผ่านระบบหลักเขากำลังตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้ระบบส่วนกลางที่ถูกควบคุมนั้นล่ม

  ก่อนหน้านี้ที่ลอนดอนระบบหลักของ J.A.R.V.I.S ได้เชื่อมต่อกับชุดเกราะไอรอนแมนทุกตัว เพื่อช่วยเหลือ เเจ็คสัน เเต่ก่อนหน้าที่จะจัดการผู้นำกลุ่มดาร์คเอลฟ์นั่นได้ ระบบกลางของ J.A.R.V.I.S ก็ได้ทำงานผิดพลาด

  ดังนั้นมันสมควรมีอะไรเกิดขึ้นเเละระกวนระบบจนทำให้ระบบผิดพลาด เเต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้ J.A.R.V.I.S ก็ยังไม่สามารถหาสาเหตุได้ เขาได้ตัดสินใจเเยกระบบส่วนกลางเเละเชื่อมต่อระบบด้วยระบบหลักของตนเองทำให้เขาสั่งการไอรอนแมนทุกตัวเเละมอบคำสั่งโดยตรง

 

สภาวะหัวใจของเเจ็คสัน

  โทนี่เลิกให้ความสนใจกับผู้คนจำนวนมากที่อยู่ที่นี่ไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่ได้เเคร์อะไรพวกคนเหล่านี้เเต่เพราะชุดเกราะไอรอนแมนได้อยู่ที่นี่เเล้วพวกเขาจะได้รับการช่วยเหลือในเร็วๆ นี้

  ปั้ง

  ขณะที่กัปตันโรเจอร์สขว้างโล่ของตนเองออกไปเพื่อจัดการนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์จู่ ๆ เขาก็เงยหน้าขึ้นจ้องมองไปที่ชุดเกราะไอรอนแมนตัวนึง

   โทนี่ เกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาถึงปลีกตัวออกจากสนามรบ ? เห็นว่าชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ บินถอยออกจากสนามรบ กัปตันโรเจอร์สครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ

  ติ๊ด

   โรเจอร์สฉันมีเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องรีบกลับไปที่โลกทันที เกี่ยวกับเหตุการณ์ทางด้านฝั่งนี้ฉันขอฝากที่เหลือให้นายด้วย ฉันจะให้ J.A.R.V.I.S ช่วยประสานช่วยเหลือนายโดยตรง หลังจากจัดการปัญหาที่นี่เสร็จเเล้วไว้เราค่อยเจอกันที่สำนักงานใหญ่ ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบของกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ ส่งข้อความหาเขา

   เข้าใจเเล้ว! กัปตันโรเจอร์สเพียงตอบรับคำง่ายๆ

  เขาไม่รู้ว่าโทนี่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องจากที่นี่ไปเเต่เมื่อได้ J.A.R.V.I.S เเละกองทัพไอรอนแมนเข้ามาช่วยเหลือเขาก็รู้สึกยินดี

   กัปตันโรเจอร์ส,กองทัพชุดเกราะไอรอนแมน100 ตัวได้ข้ามผ่านประตูมิติอวกาศออกมาทั้งหมดเเล้วตอนนี้ ทั้งหมดเตรียมรอรับคำสั่งจากคุณ 

   อืม,อย่างเเรกเตรียมอพยพผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ส่วนชุดเกราะไอรอนแมนที่เหลือเข้าร่วมการต่อสู้ เเผนของเราจะยังคงไม่เปลี่ยนเเปลง เราจะทำหน้าที่ป้องกันประตูมิติอวกาศนี่! ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

   ครับ,กัปตัน! 

  …

  โลก,นิวยอร์กฐานลับใต้ดินในอาคารสตาร์คอิสดัสตรีท์ เพียงใช้ระยะเวลาไม่นานพวกเขาก็บินกลับจากลอนดอนมาถึงนิวยอร์กเเห่งนี้

  ฟุ่บ!

  ในห้องใต้ดินเเห่งนี้มีอุปกรณ์จำนวนมากที่รายล้อมอยู่ทั้งยังมีตู้ใส่ชุดเกราะไอรอนแมนมากกว่า100 ตัว เเต่ตัวชุดเกราะกลับได้หายไปหลงเหลือเพียงชุดเกราะไอรอนแมนที่กลับมาจากลอนดอนเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น

  หลังจากช่วยเหลือเเจ็คสันได้สำเร็จ J.A.R.V.I.S ก็ได้เปิดใช้คำสั่งป้องกันภัยระดับสูงสุดภายในฐาน,ฐานทั้งหมดถูกปิดกั้นการเชื่อมต่อสื่อสารจากภายนอกหลงเหลือเพียงการเชื่อมต่อจากระบบภายในเพียงเท่านั้น

  เพราะคำสั่งสุดท้ายที่ชุดเกราะไอรอนแมนพวกนี้ได้รับก็คือการปกป้องความปลอดภัยของเเจ็คสันระดับสูงสุดเป็นที่เเน่นอนว่าพวกเขาจะต้องวางมาตราการป้องกันอย่างเเน่นหนาเพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัย

  ทันทีที่มาถึงเเจ็คสันก็ได้ถูกส่งไปยังห้องปฏิบัติการทางการเเพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาทันทีในอุตสาหกรรมสตาร์คเเห่งนี้เต็มไปด้วยเทคโนโลยีทางการเเพทย์ระดับสูงสุด เพราะการร่วมมือจากทางออสคอร์ปทำให้ที่เเห่งนี้เต็มไปด้วยเทคโนโลยีเเห่งการรักษา

  อีกอย่างเป็นที่รู้กันว่าบาดเเผลของ เเจ็คสันตอนนี้รุนเเรงมาก ไม่ว่าจะตอนนี้หรือก่อนหน้านี้บ่อยครั้งที่เเจ็คสันจะได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับมา ทำให้ J.A.R.V.I.S ไม่จำเป็นจะต้องตรวจสอบเเละวิเคราะห์ข้อมูลเขาสามารถเริ่มตรวจจับชีพจรสัญญาณชีวิตเเละเเสดงข้อมูลออกมา

   ไม่สามารถวิเคราะห์พลังงานในร่างกายบางส่วนได้ บาดเเผลส่วนใหญ่ได้รับการบำบัดด้วยยายน หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ ทางด้านร่างกายยังไม่ได้รับการทุเลาลง! J.A.R.V.I.S ได้วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ออกมา

  การที่เเจ็คสันบาดเจ็บหลายครั้งเเละเข้ารับการรักษาJ.A.R.V.I.S สามารถคำนวณบาดเเผลเเละเริ่มทำการรักษาเกี่ยวกับบาดเเผลภายในได้โดยตรง ตอนนี้ถ้าจะให้เทียบร่างกายของเเจ็คสันกับมนุษย์ธรรมดา เท่าที่ J.A.R.V.I.S วิเคราะห์ออกมาได้ศักยภาพร่างกายของเเจ็คสันได้ก้าวนำเหลือล้ำพวกมนุษย์ธรรมดาไปเเล้ว

  ดังนั้นเมื่อร่างกายเเข็งเเกร่งขึ้นการรักษาก็จะต้องเเข็งเเกร่งขึ้นตามด้วยเทคโนโลยีทางการเเพทย์ที่เป็นอันดับหนึ่งของโลกตอนนี้สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้เเทบจะทุกชีวิตตราบเท่าที่ไม่ถึงตายเทคโนโลยีพวกนี้ก็สามารถที่จะต่อชีวิตของคนคนนั้นได้

  เเต่เพราะอาการบาดเจ็บของเเจ็คสันนั้นร้ายเเรงกว่าเหตุการณ์เท่าไปทำให้สภาพร่างกายเเละผลกระทบที่เขาได้รับไม่ธรรมดาไม่เเปลกใจที่ J.A.R.V.I.S จะทำการประมวลผลหาทางรักษาด้วยวิธีอื่น

  ติ๊ด!

  ขณะที่J.A.R.V.I.S กำลังวิเคราะห์อาการบาดเจ็บของเเจ็คสันเเละพยายามจะรักษาสถานะทางกายภาพของเขาจู่ ๆ ก็มีเสียงเเจ้งเตือนดังขึ้น

   สัญญาณชีพจรชีวิตกำลังอ่อนลงหัวใจของเขากำลังหยุดเต้น! J.A.R.V.I.S เข้าใจในทันที

  ด้วยข้อความเเจ้งเตือนนี้เเม้ J.A.R.V.I.S จะเป็นเอไอ เเต่เขาที่เข้าใกล้ความเป็นมนุษย์ย่อมสามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกกังวลเเละตึงเครียด เขาได้พยายามทุกวิถีทางเเละเฝ้าสังเกตุการณ์อย่างต่อเนื่อง

  ติ๊ดติ๊ด ติ๊ด

  ภายใต้การช่วยเหลือเเละการเฝ้าระวังของJ.A.R.V.I.S หัวใจของเเจ็คสันได้หยุดเต้นไปมากกว่า 5 วินาทีก่อนที่จะกลับมาเต้นอีกครั้งเเต่สัญญาณชีพจรของเขาอ่อนเเอมาก หากเป็นคนทั่วไปย่อมไม่สามารถทนสภาพแบบนี้ได้เเละอาจถึงขั้นเสี่ยงสภาวะหัวใจล้มเหลวตายฉับพลัน

  ด้วยอัตราการเต้นหัวใจตอนนี้การรักษาด้วยยายีนอาจจะให้ผลดีก็จริง เเต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นฟูให้กลับมาเหมือนเดิม ถ้าจะพูดให้ถูกคือการที่หัวใจของเเจ็คสันไม่หยุดเต้นเเละตายอย่างฉับพลันก็นับว่าเป็นปาฏิหาริย์เเล้ว

  เหตุผลที่เเจ็คสันมีสภาพเช่นนี้ก็เพราะอาวุธของผู้นำกลุ่มดาร์คเอลฟ์คนนั้นกริชขนาดใหญ่ที่เเหลมคมนั่นได้เจาะเข้าไปที่ร่างกายของเขาใกล้ตำเเหน่งหัวใจเเละสร้างบาดเเผลพิเศษ

   มีบางสิ่งเกิดขึ้นกับร่างกายของเเจ็คสัน…มีอะไรอยู่ในมือของเขากัน ภายใต้การสังเกตุอย่างระวังJ.A.R.V.I.S ได้กล่าวพึมพัมออกมา

  ก่อนหน้านี้J.A.R.V.I.S เห็น เเจ็คสันได้กำคว้าอะไรบางอย่าง เเต่เพราะรีบร้อนนำร่างของเเจ็คสันกลับมารักษาเขาจึงยังไม่ได้ตรวจสอบ

 

กองกำลังสนับสนุนที่มาถึง

  ฟุ่บ!

  ปั้งปั้ง

  เห็นชุดเกราะไอรอนแมนของตนเองระเบิดเเล้วระเบิดเล่าโทนี่จ้องมองไปที่เบื้องหน้าอย่างกดดันพวกเขาได้ถอยกลับจนเเทบจะติดกับประตูมิติอวกาศเเละไม่สามารถต้านทานทัพศัตรูที่อยู่ะเบื้องหน้าได้

   ฮัลค์! ฉันต้องพึ่งพานายอีกครั้งเเล้ว จ้องมองไปที่การต่อสู้เบื้องหน้า ดร.แบนเนอร์ ได้จ้องมองออกไปอย่างกังวล

  อย่างไรก็ตามเเม้ดร.แบนเนอร์ จะพยายามเปลี่ยนร่างเป็นฮัลค์เท่าไหร่ ฮัลค์ก็ไม่ตอบสนองต่อการเรียกร้องของเขา หลายปีที่ผ่านมาในการฝึกฝนของ ดร.แบนเนอร์ เขาสามารถติดต่อกับฮัลค์ เเละ ประสานงานกับฮัลค์ได้ เเต่อีกฝ่ายไม่สามารถควบคุมฮัลค์ได้อย่างสมบูรณ์

   ! 

   บัดซบที่สุด! 

  เห็นผู้บาดเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ ดร.แบนเนอร์ คำรามออกมาอย่างโกรธเคืองตอนนี้เขาไม่สามารถช่วยเหลืออะไรใครได้เลยทั้งอัตราคนบาดเจ็บยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ หากเป็นแบบนี้ต่อไปพวกเขาคงไม่สามารถต้านทานกองกำลังของอีกฝ่ายได้อย่างเเน่นอน

   ไม่,ฉันจะไม่ยอมถอดใจเพื่อช่วยเหลือพวกกัปตันโรเจอร์ส ฉันจะต้องเปลี่ยนร่างเป็นฮัลค์ให้ได้! ดร.แบนเนอร์ ได้พยายามอย่างสุดความสามารถ

  ขณะที่เขาพยายามจะเบ่งเพื่อเปลี่ยนร่างเป็นฮัลค์

  จู่ๆ เขาที่อยู่ใกล้กับประตูมิติอวกาศก็สามารถสัมผัสได้ถึงคลื่นความผันผวนที่ส่งออกมาจากช่องว่างประตูมิติอวกาศทั้งยังรุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

   เกิดอะไรขึ้น มีอะไรกำลังออกมา? จ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศผู้คนที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ถอยผละเดินกลับหลังด้วยความหวาดกลัว

   !! ขณะที่พวกเขากำลังตกใจจู่ๆ ร่างของ ดร.แบนเนอร์ ก็สั่นสู้อย่างเเปลก ๆ หลังจากเห็นสิ่งที่ออกมาจากประตูมิติอวกาศ

  หึ่มหึ่ม

  หึ่ม!

  เสียงของไอพ่นเครื่องยนต์ได้ดังออกมาจากประตูมิติอวกาศจำนวนมากเเละ ปรากฏขึ้นในรูปลักษณ์ที่พวกเขาคุ้นเคยซึ่งก็คือ ชุดเกราะไอรอนแมน ชุดเกราะไอรอนแมนพวกนี้คือกำลังเสริมจากฐานพิเศษที่ตั้งอยู่ที่ไซบีเรีย

   เป็นกองกำลังสนับสนุนจากไซบีเรีย ! เห็นกองทัพชุดเกราะไอรอนแมน ดร.แบนเนอร์ เบิกตาขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ก่อนที่จะตะโกนออกมาอย่างตกใจ

  ก่อนหน้านี้พวกกัปตันโรเจอร์สได้ส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปที่ฐานในไซบีเรียล่วงหน้าทำให้พวกเขาได้ติดต่อเเละจัดทัพเพื่อมาสนับสนุนการต่อสู้ที่ด้านหลังประตูมิติอวกาศเเห่งนี้

  หึ่ม!

   ไอรอนแมน! เป็นไอรอนแมนจริง ๆ ! นอกจากนี้ยังมีชุดเกราะไอรอนแมนมากมาย กองกำลังสนับสนุนมาถึงเเล้ว! 

   พวกเราทุกคน!พวกเราจะได้กลับโลกอย่างปลอดภัยเเล้ว! 

  หลังจากการปรากฏตัวขึ้นของชุดเกราะไอรอนแมนจำนวนมากเสียงโห่ร้องของผู้บาดเจ็บที่อยู่ใกล้ประตูมิติอวกาศก็ดังขึ้นพวกเขาราวกับเห็นเเสงสว่างเเห่งความหวังไม่เเปลกใจที่พวกเขาจะรู้สึกดีใจกันขนาดนี้

  …

  เหนือน่านฟ้าท่ามกลางสนามรบชุดเกราะไอรอนแมนจำนวนมากได้เข้าร่วมศึกต่อสู้ในทันทีที่มาถึงJ.A.R.V.I.S ได้สร้างฐานเครือข่ายข้อมูลเเละทำการโจมตีทันที เพราะแบบนี้การสนับสนุนด้านกองกำลังจึงดำเนินการไปได้ด้วยดี

  ปั้งปั้ง

   เจ้านายครับ,ชุดเกราะไอรอนแมน100 ตัวมารอเพื่อการสนับสนุนเเล้วครับ,ตอนนี้เข้าร่วมศึกเเล้ว 53 ตัว อีก 47 ตัวกำลังรอรับฟังคำสั่งต่อไป หลังจากจัดการพวกสมุนสัตว์ปีศาจเเละพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้พูดขึ้น

   100ตัว J.A.R.V.I.S ไม่ใช่ว่านายเล่นขนมาทั้งหมดเลยงั้นหรอ ? ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S โทนี่รู้สึกผ่อนคลายเเละตึงเครียดในเวลาเดียวกัน

  เดิมเขารู้สึกหวงเเหนชุดเกราะไอรอนแมน100 ตัวพวกนี้เเต่ เพราะสถานการณ์มันบีบบังคับทำให้เขาไม่สามารถใช้อารมณ์มาตัดสินใจได้ หากเพื่อกำจัดพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์พวกนี้เพื่อไม่ให้รุกรานที่โลกเเล้ว เขายินดียอมเสียชุดเกราะ 100 ตัวนี่ในทันที

  ธรรมชาติที่เขารู้สึกตึงเครียดอีกอย่างก็เพราะเขาไม่รู้ว่าทำไมJ.A.R.V.I.S ถึงส่งทรัพย์สินของเขามาที่นี่ทั้งหมด

  อาจมีความเป็นไปได้อีกอย่างเพราะJ.A.R.V.I.S ได้ประเมินสถานการณ์จากทางฝั่งเเจ็คสันเเละตัดสินใจที่จะทุ่มทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือเขา

   J.A.R.V.I.Sมีเหตุผลไหมทำไมถึงยกทัพชุดเกราะไอรอนแมนมาสนับสนุนมากกว่า 100 ตัว  โทนี่ที่สงสัยได้กล่าวถาม J.A.R.V.I.S ทันที

  เเม้ทีมพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ในปัจจุบันจะน่าเกรงขามเเต่โทนี่ก็เชื่อว่าหากเขาได้รับกำลังเสริมเเม้เพียงนิดก็ย่อมสามารถจัดการศัตรูได้ไม่จำเป็นจะต้องใช้ชุดเกราะไอรอนแมนมากกว่า100 ตัว

   เพราะมีสถานการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นที่โลก ได้ยินคำถามของโทนี่ J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

   สถานการณ์ไม่ดีเกิดอะไรขึ้น ? ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวถามอย่างรวดเร็ว

   อย่างเเรกคุณเเจ็คสันได้รับบาดเจ็บสาหัสตอนนี้ยังไม่ได้สติชีพจรสัญญาณชีวิตก็อ่อนเเอลงมาก J.A.R.V.I.S ตอบกลับถึงผลลัพธ์ที่โทนี่สนใจมากที่สุด

  ปั้ง

  ได้ยินคำพูดของJ.A.R.V.I.S โทนี่ได้ผละการต่อสู้ที่อยู่ในตอนนี้เเละมุ่งหน้าไปยังด้านหน้าประตูมิติอวกาศทันที

   J.A.R.V.I.Sที่นี่ฉันให้นายจัดการ ฉันจะกลับไปที่โลกโดยเร็วที่สุด! ไม่ได้ถามถึงเหตุผลอื่นที่ J.A.R.V.I.S พยายามจะบอก เสียงของโทนี่ ได้กล่าวตะโกนออกมาอย่างรุนเเรง

  ฟุ่บ

  จากนั้นเขาก็เเยกตัวออกจากสนามรบโดยสมบูรณ์

 

การเเจ้งเตือนจาก ดร.แบนเนอร์

  หึ่ม!

  เผชิญหน้ากับความพร้อมรบเต็มรูปแบบของทีมสหพันธ์โลกทางด้านกลุ่มพวกดาร์คเอลฟ์ไม่ได้พยายามจะต่อต้านเเม้เเต่น้อย

  คุณสตาร์ค พวกเราสามารถกดดันเเละจัดการพวกมันได้เเล้วใช่หรือไม่?เห็นกลุ่มพวกดาร์คเอลฟ์เเละสมุนสัตว์ปีศาจในปัจจุบัน สไปเดอร์แมน ได้กล่าวถาม โทนี่

  ไม่เชิง! หน้าที่ของพวกเราไม่ใช่กดดันพวกมันเเต่เป็นการปกป้องประตูมิติอวกาศนี่เเละกลับสู่โลกอย่างปลอดภัย!ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ โทนี่ ตอบกลับอย่างเหนื่อยล้า

  ใช่เเล้วหน้าที่ของพวกเราก็คือปกป้องประตูมิติอวกาศเเห่งนี้หลังจากโทนี่เปิดปากพูดขึ้นในอีกด้านนึงเสียงของกัปตันโรเจอร์สก็ดังออกมา

  ได้ยินคำพูดของโทนี่เเละ กัปตันโรเจอร์ส สตอร์ม เเละคนอื่น ๆ ไม่ได้เปิดปากตอบพวกเขารู้ดีว่าจุดประสงค์ที่้เเท้จริงที่พวกเขาเข้ามาที่นี่เพราะเหตุใด

  กลุ่มของพวกดาร์คเอลฟ์ไม่ได้รุกรานรุนเเรงเหมือนเเต่ก่อนคราวนี้ในเเนวป้องกันที่กัปตันโรเจอร์สอยู่พวกเขาได้เข้าปะทะกับกลุ่มพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์เหล่านี้

  เป็นอีกครั้งในเวลาเดียวกันชุดเกราะไอรอนแมนก็ได้เปิดฉากยิงปีเตอร์ เองก็ใช้พละกำลังหมัดของตนเอง สตอร์มได้ใช้พลังสายฟ้าของเธอ นาตาชา ฮอว์กอาย เเละ ฟอลคอน ได้สนับสนุนการโจมตีอยู่รอบนอก

  !!!การโจมตีของพวกเขาสร้างเเรงกดดันให้พวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์พวกนี้มากจนพวกมันรู้สึกโกรธเคืองเเละกระหายในการฆ่าฟัน

  ฟุ่บ!

  เร็วเข้า!หยุดพวกมันให้ได้!กัปตันโรเจอร์ขว้างโล่ในมือออกไปพร้อมกับตะโกนขึ้น

  ปั้ง!

  ทันทีที่กัปตันโรเจอร์สขว้างโล่ออกไปลำเเสงสีขาว เเละ พลังสายฟ้าก็ฟาดเข้าใส่พวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์พวกนี้

  หึ่ม!

  J.A.R.V.I.S!ขณะที่ทำการปล่อยการโจมตี โทนี่ ได้ตะโกนเรียกชื่อของ J.A.R.V.I.S ขึ้นราวกับตั้งใจสื่อเจตนาบางอย่าง

  ครับเจ้านาย!ได้ยินเสียงตะโกนของโทนี่J.A.R.V.I.S ตอบรับทันที

  พริบตาต่อมาชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ทั้งหมดที่เหลือกว่า10 ตัวก็เปิดฉากโจมตียิงพร้อมกันอีกครั้ง เเต่เพราะความบ้าคลั่งของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ทำให้พวกเขาไม่สนใจการโจมตีเเละพยายามพุ่งเข้าหาชุดเกราะไอรอนแมน

  !ทันทีนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์เข้าประชิดตัวของชุดเกราะไอรอนแมนมันก็ใช้มือขนาดใหญ่นั่นทุบเข้าไปที่หน้าอกของชุดเกราะโดยตรง

  ปั้งเปรี้ยง ปั้ง

  เเม้พลังป้องกันชุดเกราะไอรอนแมนจะสูงเเต่ก็ถูกฉีกเป็นสิ้นเล็กชิ้นน้อยภายใต้การโจมตีของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์จำนวนมากเหล่านี้

  ทำลายตนเอง!J.A.R.V.I.S ได้ออกคำสั่งทำลายตนเองในทันที

  บึ้ม!

  ชุดเกราะไอรอนแมนได้ถูกจุดระเบิดขึ้นไปพร้อมกับนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์จำนวนมากพลังงานเหล่านี้เเม้อาจจะไม่สามารถฆ่าพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ได้เเต่ก็สามารถทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บถึงโทนี่ จะไม่อยากจะระเบิดชุดเกราะของเขาเเต่เขาก็ไม่อยากให้ชุดเกราะของตนเองต้องถูกทำลายฟรี ๆ

  ปั้ง

  ปั้ง

  ปั้ง

  ชุดเกราะไอรอนแมนจำนวนมากได้ปะทุระเบิดอย่างดุเดือดเปลวเพลิงจำนวนมากเหล่านี้สร้างความหวาดกลัวให้กับนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์

  พลังงานเตาปฏิกรณ์อาร์คที่เหลืออยู่ทั้งหมดถูกนำมาเป็นฉนวนระเบิดดังนั้นเมื่อประสิทธิภาพพลังงานเหลือน้อยเเรงระเบิดก็จะยิ่งน้อยตามไปด้วยเเต่ถ้าหากเหลือมากเเน่นอนว่าเเรงระเบิดก็ย่อมยิ่งมากตามไป

  กัปตันโรเจอร์สไม่ได้สนใจเหตุการณ์ระเบิดของชุดเกราะไอรอนแมนเขายังคงเผชิญหน้ากับความเเข็งเเกร่งของพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์พวกนี้เพื่อรักษาจุดมั่นของตนเองเอาไว้

  ในสงครามที่ยุ่งเหยิงเหล่านี้สไปเดอร์แมนได้ฉวยโอกาสโดยใช้ความคล่องตัวของตนเองในการจัดการพวกสมุนสัตว์ปีศาจจำนวนมากเขาได้พยายามจัดการพวกมันเเละช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอพยพออกมา

  อย่าได้หวัง!เห็นนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์พยายามจะโจมตีคนของตนเองปีเตอร์ได้ยิงใยเเมงมุมออกไป

  ฟุ่บ!

  จากนั้นเขาก็ดึงตนเองเข้าไปหานักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนั้นเเละซัดหมัดเข้าไปที่เบื้องหน้าอย่างเต็มเปา

  มองไปที่ศัตรูจำนวนมากที่อยู่ที่นี่ปีเตอร์ได้ถอนหายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย

  เเต่เมื่อจ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศที่อยู่ด้านหลังไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะต้องต่อสู้กับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ในการป้องกันประตูมิติอวกาศนี้เอาไว้ให้ได้

  มีการติดต่อเข้ามา เกิดอะไรขึ้น ? จะปลุก ฮัลค์ขึ้นมางั้นหรอ ?ขณะที่พวกกัปตันโรเจอร์สกำลังต่อสู้กันอยู่เขาก็ได้รับเเจ้งข่าวจาก ดร.แบนเนอร์

  ก่อนหน้านี้ดร.แบนเนอร์ ได้ปลุกฮัลค์ขึ้นมาทำให้ร่างกายของเขาต้องพักฟื้น ในเวลานี้ เมื่อเห็นสถานการณ์ยากลำบาก ดร.แบนเนอร์ ได้ติดต่อทุกคนว่าเขาจะปลดปล่อย ฮัลค์ออกมา

  อย่างไรก็ตามดร.แบนเนอร์ กลับไม่สามารถควบคุมฮัลค์ได้อย่างสมบูรณ์ กัปตันโรเจอร์ส เเละ โทนี่ จึงไม่อยากให้ ดร.แบนเนอร์ เปลี่ยนร่างกลายเป็นฮัลค์เเต่เมื่อพิจารณาสถานการณ์ในตอนนี้ ดร.แบนเนอร์ ต้องการสนับสนุนพวกเขาให้กลับไปที่โลกอย่างปลอดภัย

 

ยึดมั่นเป้าหมายเดียวกัน

  ก่อนหน้านี้สองวินาทีช่วงเวลาที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ใช้พลังจิตผ่านบลิงก์เพื่อช่วยเสริมอาการสับสนของอีกฝ่ายด้านหน้าผู้นำทัพเผ่าดาร์คเอลฟ์ ได้ปรากฏบุคคลทั้งสี่คอยโจมตีช่วงตอนนี้

  เพราะเเดร์เดวิลได้รับบาดเจ็บหนักจึงได้ออกจากสนามรบไปดังนั้นจึงเหลือ โทนี่,กัปตันโรเจอร์ส เเฮงค์ เเละ นาตาชา นอกเหนือจาก 4 คนนี้ ยังมีฮอว์กอายที่คอยซุ่มโจมตีอยู่ระยะไกล เพราะก่อนหน้านี้ลูกธนูของฮอว์กอายสามารถลอบโจมตีพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์พวกนี้ได้

  เเต่ที่เผชิญหน้ากับพวกเขากลับเป็นนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ชั้นสูงความเเข็งเเกร่งของมันได้สร้างเเรงกดดันให้พวกกัปตันโรเจอร์สอย่างมหาศาลอาวุธธรรมดา ๆ ก็ไม่สามารถทำอันตรายมันได้ ดังนั้นความเเข็งเเกร่งที่ใช้ได้ผลกับมันก็คือพละกำลังทางกายล้วน ๆ

  นอกจากนี้พวกเขายังมีความวิตกกังวลบางอย่างเกี่ยวกับอาวุธของศัตรูระเบิดหลุมดำที่สามารถดูดทุกสิ่งเข้าไปได้การโจมตีทั้งหมดได้ถูกดูดเข้าไปภายใต้การปรากฏตัวของหลุมดำมิตินี้เข้าขั้นเรียกได้ว่ามันคือสิ่งอันตรายอย่างเเท้จริง

  จากนั้นไม่นานเสียงของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็เเจ้งต่อพวกโทนี่พวกเขาได้ใช้โอกาสนี้ในการหลบหนีออกมาทันที

  ฟุ่บ!

  ผู้นำทัพเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนี้ได้รับผลกระทบทางจิตวิญญาณจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์โดยตรงเเละความสามารถของบลิงก์ก็ช่วยทำลายหลุมดำมิติที่ปรากฏขึ้นทำให้พวกกัปตันโรเจอร์สได้โอกาสหลบหนีในตอนนี้

  การโจมตีของบลิงก์เเละศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่เพียงเเต่สามารถกดดันทางผลกระทบทางจิตวิญญาณของอีกฝ่ายได้เเต่ความสามารถของบลิงก์บีบอัดไปด้วยพลังมิติที่หนาเเน่นมันสามารถดูดกลืนร่างกายของผู้นำทัพเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนี้ได้

  !!!

   ผู้นำทัพเผ่าดาร์คเอลฟ์ได้คำรามออกมาอย่างโกรธเคืองก่อนที่เขาจะกำหอกในมือเเน่นเเละจ้องมองไปที่พวกกัปตันโรเจอร์สที่อยู่ด้านหน้าตอนนี้

  เเต่เขาก็ไม่สามารถตอบสนองการโจมตีได้เพราะการรบกวนของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเละความสามารถของบลิงก์ทำให้การป้องกันตรงหน้าอกของเขาได้ถูกเปิดออกโดยตรง

   !!! เมื่อรู้สึกว่าความเเข็งเเกร่งของตนเองได้ถูกระงับเอาไว้อย่างมหาศาลผู้นำทัพเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนี้ทำได้เพียงเเต่โห่ร้องออกมาอย่างหวืดหวา

  จากนั้นก็ตัดมาที่สถานการณ์ปัจจุบันชุดเกราะไอรอนแมนจำนวนมากได้ระดมการโจมตีทุกสารทิศเพื่อโจมตีไปยังตำเเหน่งอื่นๆ เเละมุ่งตรงมาตำเเหน่งตรงนี้

  เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ตนเองถูกตัดขาดโดยสมบูรณ์นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ชั้นสูงคนนี้ได้ตัดสินใจทำลายตนเองโดยการระเบิดพลังงานภายในร่างกาย

  เเน่นอนว่าเขาย่อมไม่ยอมตายไปเพียงคนเดียวสายตาของเขาจ้องมองไปที่พวกกัปตันโรเจอร์สก่อนที่จะพยายามกระโดดเข้าหาพวกเขา

  ในเวลาเดียวกันกองทัพชุดเกราะไอรอนแมนก็ระดมยิงปืนใหญ่พลังงานออกมา

  ภายใต้การระดมยิงจำนวนมากของชุดเกราะไอรอนแมนนี้เเละด้วยสภาพร่างกายที่ฝืนของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ชั้นสูงเป็นไปไม่ได้เลยที่อีกฝ่ายจะไม่ได้รับความเสียหาย

  ปั้ง

  จากนั้นก็เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนเเรงการระเบิดขึ้นครั้งนี้ผลโดยรวมมาจากการระดมยิงของปืนใหญ่พลังงานจากชุดเกราะไอรอนแมนเเละส่วนมากที่เกิดพลังทำลายล้างสูงก็มาจากเเรงระเบิดพลังงานภายในของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ชั้นสูง

  ฮึ่ม!

  บึ้ม!

  ผ่านไปสองวินาทีสถานการณ์ทั้งหมดก็เริ่มทุเลาลงนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์จำนวนมากที่เห็นการตายของผู้นำตนเองพวกเขาได้สูญเสียกำลังใจอย่างใหญ่หลวงเเละเริ่มสูญเสียจิตวิญญาณของการต่อสู้ อย่างไรก็ตามเเม้ในตอนนี้ทางฝ่ายพันธมิตรโลกจะได้เปรียบเเต่พวกเขาก็สูญเสียเเละเหน็ดเหนื่อยอย่างมากเเละมีหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ในครั้งนี้

  การต่อสู้นี้ถึงเเม้พวกเขาจะชนะในศึกสุดท้ายเเต่ก็ยังต้องจ่ายใช้จ่ายในราคาที่สูงมากคลื่นพลังทำลายล้างของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ชั้นสูงนั่นได้ทำให้ โทนี่ เเละ พวกกัปตันโรเจอร์สได้รับบาดเจ็บสาหัส

  พลังร่างกายของกัปตันโรเจอร์สสามารถช่วยให้เขาทุเลาอาการบาดเจ็บลงได้หลายส่วนเเต่ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ไม่สามารถต้านทานมันได้ทั้งโทนี่ ยังอยู่ใกล้ตำเเหน่งของศัตรูมากที่สุดตอนนี้เขาได้กระเด็นลอยไปไกลก่อนที่จะพุ่งตกลงมา

  ทางด้านนาตาชาเเละ เเฮงค์ พวกเขาได้อยู่ตำเเหน่งระหว่างกลางดังนั้นพวกเขาจึงถูกฝุ่นระเบิดกลบฝั่งอยู่ในใต้ดินเเม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเเต่ก็เกือบสูญเสียประสิทธิภาพในการต่อสู้ไปทั้งหมด

  ฮอว์กอายเเละ ฟอลอคอน ที่สนับสนุนการโจมตีจากระยะไกลได้รีบพุ่งเข้าไปหา โทนี่ เเละ กกัปตันโรเจอร์สในทันที ไม่มีคำพูดใด ๆ พวกเขาได้รีบพาทุกคนเเละมุ่งหน้าไปยังทิศทางของประตูมิติอวกาศ สำหรับ นาตาชา เเละ เเฮงค์ พวกเขาเองก็ได้เเบกร่างกายวิ่งไปยังตำเเหน่งประตูมิติอวกาศอย่างรวดเร็ว

  เพราะการเสียชีวิตของผู้นำทัพเผ่าดาร์คเอลฟ์นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนอื่น ๆ ได้ยืนนิ่งพร้อมกับอาการตื่นตะลึงตอนนี้พวกเขาไร้ผู้นำทัพ ทั้งยังไม่มีคำสั่งต่อไป พวกเขาลังเลว่าจะทำอะไรต่อหลังจากนี้

   พยายามปกป้องประตูมิติอวกาศนี้ให้ได้! เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะกลับมาได้เปรียบเเม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้บุกโจมตีอีกฝ่ายเเต่ก็ถอนกำลังกลับมาเพื่อใช้โอกาสนี้ในการรวมพลเพื่อปกป้องประตูมิติอวกาศ

  ไม่นานสไปเดอร์แมน ,สตอร์ม โทนี่ กัปตันโรเจอร์ส เเละ คนอื่น ๆ ก็กลับมาอยู่ในตำเเหน่งด้านหน้าของประตูมิติอวกาศอีกครั้ง

  เหล่าฮีโร่ได้มารวมตัวกันบุกอารยธรรมต่างดาวเป้าหมายของพวกเขาเป็นหนึ่งอันเดียวกันนั่นก็คือ: การปกป้องโลกจากอารยธรรมที่โหดร้ายอย่างพวก ดาร์คเอลฟ์

 

ผสานการร่วมมือ

  เปรี้ยง!

   เฮ้,เฮ้เเจ็ค นายไม่เป็นอะไรใช่มั้ย ฉันจะพานายออกไปจากที่นี่ให้ได้! ปีเตอร์รีบเข้าไปพยุงร่างของเเจ็คที่ถูกซัดปลิวจนหมดสติก่อนที่จะหันไปโดยรอบเเละเห็นการต่อสู้ที่ไม่รู้จักจบจักสิ้น

  ขณะที่ปีเตอร์กำลังลากเเจ็คเพื่อพากลับไปด้านหลังสายฟ้าสีขาวหลายเส้นก็ได้ผ่าลงมาเปิดทางได้ให้พวกเขา นี่เป็นฝีมือของ สตอร์ม ลำพังเเค่กำลังของปีเตอร์ย่อมไม่สามารถพาเเจ็คถอยกลับอย่างปลอดภัยได้

  หลังจากค้นพบอุปสรรค์อันใหญ่หลวงคนอื่น ๆ ก็พากันทำทุกวิถีทางเพื่อหลบหนีออกจากที่นี่ เพื่อช่วยเหลือคนอื่น ๆ J.A.R.V.I.S ได้สั่งการชุดเกราะไอรอนแมนเเละสูญเสียไปมากกว่า 56 ตัว

   ทุกคนตื่นตัวเข้าไว้!สามวินาทีต่อจากนี้ผลกระทบทางจิตวิญญาณขนาดใหญ่จะพุ่งเข้าหาพวกดาร์คเอลฟ์เราจะต้องคว้าโอกาสนี้เพื่อล่าถอยออกมา! ขณะที่ปีเตอร์พาเเจ็คถอนตัว เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้ดังขึ้น

   ศาสตราจารย์X กำลังลงมือเเล้วสินะ! ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S ปีเตอร์ ได้พยายามฝืนร่างกายที่เหนื่อยล้าเพื่อล่าถอย

  ครั้งก่อนศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ใช้ความสามารถในการบุกทะลวงจิตวิญญาณของพวกดาร์คเอลฟ์เหล่านี้ทำให้พวกเขาสูญเสียความสามารถในการต่อสู้เพราะแบบนี้ทางฝ่ายพันธมิตรโลกจึงได้เปรียบมากในช่วงสงครามตอนต้น

   3..2..1 

  ฟุ่บ!

  J.A.R.V.I.Sได้นับถอยหลังจากนั้นไม่นานกระเเสพลังจิตที่น่าสะพรึงกลัวก็ถูกกวาดผ่านออกมา ในคราวนี้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ระเบิดความเเข็งเเกร่งสุดยอดของเขาการทำเช่นนี้อาจทำให้สมองของเขาได้รับบาดเจ็บเเต่มันก็ไม่มีทางเลือกเขาได้ตัดสินใจไปเเล้ว

   สุดยอด!สัมผัสได้ถึงความรุนเเรงของมันเลย… เเม้พลังจิตพวกนี้จะมุ่งเป้าไปที่พวกดาร์คเอลฟ์เเต่ปีเตอร์ที่มีสัญชาตญาณเเมงมุมทำให้เขาสามารถสัมผัสเเรงกดดันจากพลังจิตที่เเข็งเเกร่งนี้ได้

  ฟึ่ม!

  ทันทีที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ระเบิดพลังจิตออกมาทั่วทั้งสนามรบก็เกิดคลื่นความผันผวนอย่างรุนเเรงพลังจิตที่เเข็งเเกร่งได้มุ่งไปต่างสถานที่ในสมรภูมิเเห่งนี้โดยมีเป้าหมายเป็นพวกดาร์คเอลฟ์ โดยเฉพาะ ผู้นำทัพของเผ่าดาร์คเอลฟ์ ที่ โทนี่ กัปตันโรเจอร์ส เเละ คนอื่น ๆ กำลังเผชิญหน้าอยู่ ด้านหน้าของพวกเขาปรากฏพื้นที่มิติขนาดใหญ่ที่ช่วยส่งเสริมคลื่นความผันผวนเหล่านี้เห็นได้ชัดว่าเป็นฝีมือของบลิงก์

   รีบถอยออกมาเร็ว! ไม่รู้ว่าฉันจะต้านทานพวกมันได้นานเเค่ไหน! ทันทีที่โจมตีใส่พวกมันได้สำเร็จศาสตราจารย์ก็กล่าวพูดกับทุกคน

  ธรรมชาติเสียงของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ส่งกระเเสจิตเข้าหาทุกคนนอกเหนือจากใช้พลังจิตวิญญาณของตนเองในการปราบปรามจิตวิญญาณของอีกฝ่ายเขายังใช้อิทธิพลพลังของตนเองในการบอกกล่าวกับทุกคนอีกด้วย

  ภายใต้คำเตือนของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ทีมสหพันธมิตรโลกได้พยายามควาโอกาสนี้ในการหลบหนีสไปเดอร์แมนเองก็รีบเเบกเเจ็คกลับไปทางด้านหลังประตูมิติอวกาศเพื่อล่าถอย

   !!! พวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์จำนวนมากได้คำรามอย่างโกรธเเค้นจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เริ่มกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง

  การช่วยเหลือของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ในครั้งนี้ได้ผลน้อยกว่าเเต่ก่อนมากเพราะมันไม่ง่ายที่จะใช้ลูกไม้เเบบเดิมซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง

  นอกจากนี้การระเบิดพลังขนาดใหญ่ที่ว่าก็ไม่ได้เจาะจงพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์เหล่านี้ทั้งหมดเเท้จริงเเล้วสิ่งที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เล็งก็คือผู้นำทัพเผ่าดาร์คเอลฟ์ เพื่อช่วยเหลือ กัปตันโรเจอร์ส เเละ คนอื่นๆ

  หึ่ม!

  เพราะการช่วยเหลือของบลิงก์ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จึงได้ปะทุพลังที่เเข็งเเกร่งออกมาทำให้เขาสูญเสียพลังจิตเเทบจะทั้งหมดตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยล้ามากเเต่ถึงอย่างนั้นเขากลับไม่ได้รู้สึกสิ้นหวังเเม้เเต่น้อย

  ก่อนหน้าที่เขาจะรู้จักกับมิราจไนท์ ศาสตราจารย์ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะนำพาทีม X-MEN สู้มาจนถึงวันนี้ การต่อสู้กับพวกผู้บุกรุกจากอารยธรรมต่างดาว โดยร่วมมือกับ เหล่าฮีโร่คนอื่น ๆ ตลอดชีวิตของเขา เขาเเทบจะไม่เคยนึกฝันถึงมัน

   สตีฟโรเจอร์ส,โทนี่ สตาร์ค ที่เหลือ ต้องฝากพวกคุณด้วย! ได้โปรดพาทุกคนกลับไปให้ได้อย่างปลอดภัย สองมือของศาสตราจารย์ชาร์ลจับไปที่ล้อรถเข็นก่อนที่เขาจะนั่งหลับตาลงเบา ๆ

  ผลกระทบทางจิตวิญญาณของศาสตราจารย์ชาร์ลสยังคงกดดันผู้นำทัพเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนี้อยู่

  เขาได้เปิดใช้พลังจนฝืนจำกัดของตนเองในการเบิกทางให้คนอื่นๆ เเละตรึงผู้นำทัพเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่เเข็งเเกร่งคนนี้เอาไว้

  !

  เเต่ทว่าเนื่องจากการฝืนใช้ขีดจำกัดไม่เพียงเเต่เขาจะสูญเสียพลังจิตมหาศาลสติสัมปชัญญะของเขาก็เริ่มจะมืดบอดลง

  ไม่เพียงเเต่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เพียงคนเดียวเท่านั้นบลิงก์ ที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็เช่นเดียวกัน การฝืนเปิดใช้พื้นที่มิติขนาดใหญ่ทับซ้อนจำนวนมากทำให้เธอสูญเสียพลังมหาศาล

   !!! 

  เมื่อศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเละบลิงก์ได้เริ่มสูญเสียสติเเละตกอยู่ในอาการมึนงงในสนาม ผู้นำทัพเผ่าดาร์คเอลฟ์ได้คำรามออกมาอย่างรุนเเรงอีกครั้ง

   โทนี่! ขณะที่ผู้นำทัพเผ่าดาร์คเอลฟ์นั่นกำลังคำรามกัปตันโรเจอร์สได้ส่งเสียงขึ้น

   ตายไปซะ! 

  เสียงของโทนี่ได้ดังขึ้น

  จากนั้นไม่นานลำเเสงพลังงานสีขาวขนาดใหญ่จำนวนมากก็ได้ถูกยิงออกไปพร้อมกัน

  เปรี้ยง!

  เพียงระยะเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งวินาที การโจมตีนี้ก็พุ่งกวาดไปทั่วสนามรบเเละกำลังทำลายสถานการณ์ของการต่อสู้ในครั้งนี้

  ��

 

หลุมดำดูด

  ปั้งปั้ง!

  ในสนามรบที่วุ่นวายนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์จำนวนมากได้บุกทะลวงเเละสร้างความกดดันให้กับกัปตันโรเจอร์ส ไอรอนแมน โทนี่ เเละ คนอื่นๆ นอกเหนือจาก สไปเดอร์แมนปีเตอร์ เเล้ว ในสมรภูมิรบเเห่งนี้พวกเขาค่อนข้างกดดันทุกการเคลื่อนไหว

  ฟุ่บ!

   ทำไมพวกมันถึงดูฮึกเฮิมกันขนาดนี้ทั้งยังมีพละกำลังเเข็งเเกร่งขึ้นมาก? หลังจากปล่อยใยเเมงมุมในมืออกไปปีเตอร์ ก็สัมผัสได้ว่าพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์กลับเเข็งเเกร่งขึ้นทั้งใยเเมงมุมของเขาไม่สามารถจับกุมพวกมันได้อีก

  เเม้ว่าพละกำลังของปีเตอร์จะเเข็งเเกร่งมากในหมู่พวกฮีโร่ด้วยกันเเต่สไปเดอร์แมนก็ยังมีความคล่องตัวที่เป็นเอกลักษณ์ที่รุนเเรงกว่าเมื่อเอกลักษณ์นั่นไม่สามารถใช้ได้ท้ายที่สุดเขาก็ไม่อาจใช้กำชัยด้วยจุดเเข็งของเขา

  !

  จากนั้นไม่นานปีเตอร์ก็เริ่มเหนื่อยจากการต่อสู้มีพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์จำนวนมากได้พุ่งเข้าใสเขาอย่างรวดเร็วจนทำให้ปีเตอร์เสียหลักล้มลงไปทันที

  ทันทีที่ล้มลงไปเหล่าพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ก็รุมเข้ามากันโจมตีเขาจนปีเตอร์เเทบจะไม่ได้หายใจเขาไม่มีเวลาตอบโต้ศัตรูที่รายล้อมเขาอยู่ตอนนี้

  พวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์พวกนี้เริ่มใช้อาวุธไฮเทคของพวกเขาที่ยิงออกมาจากนั้นมันก็ระเบิดพื้นดินจนเป็นหลุมปีเตอร์จ้องมองไปที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่หน้าผากของเขาจะปรากฏเหงื่อไหลเย็นเฉียบ

  ด้วยสัญชาตญาณเเมงมุมของปีเตอร์ทำให้เขาดีดตัวเองขึ้นไปเพื่อหาโอกาสหลบหนีจากวงล้อมของศัตรูเเต่ด้วยกำลังของเขาเพียงคนเดียวดูเหมือนจะไม่เพียงพอต่อการหลบหนีอย่างปลอดภัย

   !!เวรเอ้ย! J.A.R.V.I.S ฉันต้องการความช่วยเหลือ! ปีเตอร์ได้ชักใยเเมงมุมออกไปอย่างต่อเนื่องก่อนที่ร่างของเขาจะถูกฟาดกระเเทกกระเด็นลอยไปไกล

  ปั้งปั้ง ปั้ง

  พริบตาต่อมาทันทีที่ปีเตอร์ของความช่วยเหลือจากJ.A.R.V.I.S ชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัว ก็เริ่มยิงขีปนาวุธโจมตีเพื่อช่วยเหลือปีเตอร์เเต่พวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ได้ใช้อาวุธประหลาดในการต้านทานการโจมตีมันคือหลุมดำมิติอวกาศที่สามารถดูดกลืนการโจมตีได้

  ฟุ่บ!

  หลุมดำขนาดเล็กนั่นได้ดูดการโจมตีเหล่านั้นเข้าไปเฉกเช่นเดียวกับใยเเมงมุมของปีเตอร์มันได้ถูกดูดเข้าหายไปอย่างรวดเร็วเเม้ชุดเกราะไอรอนแมน3 ตัวจะเข้ามาช่วยเหลือได้ทันเวลาเเต่พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานความสามารถพิเศษของหลุมดำพวกนี้ได้

   คุณสตาร์ค! เห็นหลุมดำเดิมที่ดูดการโจมตีเข้าไปปได้เริ่มดูดปีเตอร์ที่อยู่ไม่ไกลให้ลอยเข้าไปหาปีเตอร์ได้ร้องตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างรุนเเรง

  หึ่ม

   ปีเตอร์,เด็กคนนั้น! ได้ยินเสียงของปีเตอร์ โทนี่ หันศีรษะไปอย่างรวดเร็วจากนั้นเขาก็เห็นฉากที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้สีหน้าของเขาดำมืดมาก

   J.A.R.V.I.S,ช่วยเหลือสไปเดอร์แมนอย่างเต็มกำลัง!เเจ้งคนอื่นว่าให้ช่วยเหลือสไปเดอร์แมนด้วย เห็นปีเตอร์จะถูกกลืนกินโดยหลุมดำนั่นโทนี่ตะโกนอย่างจริงจัง

  ฟุ่บ

  จากนั้นโทนี่ก็เคลื่อนไหวสกัดกั้นการโจมตีที่อยู่ตรงเบื้องหน้าของเขาเเละพยายามจะหาวิธีที่จะใช้จัดการพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์พวกนี้ให้ดีที่สุดเเต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็กำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบหากยื้อแบบนี้ต่อไปไม่นานพวกเขาจะพากันตายทั้งหมด

   เจ้านายครับ,ดูเหมือนศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเจ้งมาว่าเขาจะลงมือทำอะไรบางอย่างเขาต้องการเวลาเล็กน้อย! ได้ยินคำสั่งของโทนี่เสียงของ J.A.R.V.I.S ได้ดังขึ้นอีกครั้ง

   กำลังลงมือทำอะไรบางอย่างดี รีบเรียกพวกเราให้มารวมตัวกันโดยเร็ว! ได้ยินการเตือนของ J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวตอบ

  อ๊ากก

   ไม่…ฉันเพิ่งอายุเเค่17 ปีเท่านั้น ฉันยังไม่อยากตาย คุณสตาร์ค เเจ็คสัน ฉันยังไม่อยากตาย  ปีเตอร์จับใยเเมงมุมของตนเองที่เกี่ยวกัต้นไม่เเน่นตอนนี้ร่างกายของเขากำลังถูกดูดเข้าไปในหลุมดำขนาดเล็กที่กำลังก่อตัวขยายใหญ่ขึ้น

  เรื่อยๆ

  จนในที่สุดใยเเมงมุมของปีเตอร์ก็เริ่มขาดทีละเล็กละน้อยรากฐานที่ถูกยึดไว้เริ่มหลุดออกจากกันจากนั้นท้ายที่สุดมือของปีเตอร์ที่จับใยเเมงมุมอยู่ก็หลุดออกร่างของเขาลอยพุ่งเข้าหาหลุมดำที่พวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ยืนรออยู่

  ฟ้าวว

  ปั้ง!

  อย่างไรก็ตามพริบตาต่อมาร่างของปีเตอร์ก็ชนเข้ากับพื้นเเข็งปีเตอร์รู้สึกเจ็บตัวอยู่บ้างเเต่เขาก็สัมผัสได้ว่าตนเองไม่ได้หลุดลอยเข้าไปในหลุมดำนั่น

  อ๊า

   ฉันยังไม่ตายฉันไม่ได้ลอยเข้าไปในหลุมดำนั่น! ปีเตอร์ที่ร่วงหล่นหลังจากชนของเเข็งเขาได้รีบเงยหนน้ามองเเละตะโกนออกมาอย่างประหลาดใจ

  หลังจากคลานขึ้นมาจากพื้นดินปีเตอร์ก็เห็นได้ชัดว่าตำเเหน่งของหลุมดำนั่นกับตำเเหน่งของเขาได้ถอยห่างออกจากกันจากนั้นมันก็เริ่มสลายไปเล็กน้อย รอบ ๆ ตัวของเขาปรากฏบาเรียสีทองพิเศษที่ปรากฏขึ้นของเเข็งที่ว่าที่เขาชนก็คือบาเรียกำเเพงสีทองนี้

  เห็นได้ชัดว่านี่เป็นความสามารถของเเจ็คเขาได้ช่วยเหลือชีวิตของปีเตอร์ ในช่วงเวลาสำคัญ นอกเหนือจาก เเจ็ค เเล้ว ก็คงมีเเต่บลิงก์ที่มีความสามารถแบบนี้ เเต่เพราะ บลิงก์ ได้ติดธุระในการกระทำบางอย่างดังนั้น ศาสตราจารย์จึงส่งกระเเสจิตให้ เเจ็ค ช่วยเหลือสไปเดอร์แมน

   อั๊ก! ปีเตอร์ที่กำลังหลบหนีออกจากทางเข้าเเห่งความตายเขาที่กำลังยินดีก็ได้ยินเสียงไอออกมาอย่างรุนเเรงจากด้านหลังของเขา

  ฟุ่บ!

  เมื่อปีเตอร์หันไปเขาก็เห็นเงาร่างของคนคนนึงพุ่งเข้าหาเเจ็คเพราะช่วยเหลือปีเตอร์ ทำให้เเจ็คได้ใช้พลังเวทย์บางส่วนในการปกป้องเขา เเละตอนนี้ศัตรูได้ฝ่าเข้ามาโจมตีอย่างกระทันหันทำให้เเจ็คไม่สามารถตอบสนองได้ทัน

   เเจ็ค! เเจ็ค ! ปีเตอร์ที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเขาตะโกนขึ้นมาอย่างเป็นห่วง

  …

 

โทนี่ถูกโจมตี

  หึ่ม!

   สู้กับศัตรูเเละปกป้องคนที่บาดเจ็บไปด้วยฉันคิดว่าเราน่าจะยันได้มากสุดประมาณ 15 นาที เราจะต้องใช้เวลานี้อพยพออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด! จ้องมองไปที่ผู้นำทัพเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่กำลังโจมตีชุดเกราะไอรอนแมน โทนี่ กล่าวออกมาอย่างค่อนข้างเหนื่อยล้า

  หึ่ม!

   บัดซบ! เมื่อเห็นโทนี่ตอบกลับคำถามกัปตันโรเจอร์ส ได้อุทานออกมาอย่างรุนเเรง

  ปั้ง

  ขณะเดียวกันก็มีเงาร่างบางอย่างพุ่งมากระทบเข้ากับชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่เขาไม่สามารถตอบสนองได้ทันทั้งเงานั่นยังพยายามจะเจาะทะลุหน้าอกของโทนี่

   โทนี่! เมื่อเห็นเงานั่นพยายามจะเจาะทะลุหน้าอกของโทนี่ กัปตันโรเจอร์สตะโกนขึ้นมาอย่างตกใจ

  อย่างไรก็ตามความเร็วของเงานั่นก็รวดเร็วเกินไปจริงๆ เเม้กัปตันโรเจอร์สจะสามารถตอบสนองได้ทันเเต่โล่ในมือของเขาก็เป็นไปไม่ได้ที่จะช่วยเหลือโทนี่ในตอนนี้

  หึ่ม!

  เงานั่นเริ่มครอบคลุมไปทั่วชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่หลังจากเงานั่นครอบคลุมไปทั่วทั้งตัวคลื่นพลังงานภายในชุดเกราะไอรอนแมนก็เกิดความผันผวนอย่างรุนเเรงตอนนี้พลังศักยภาพร่างกายที่เเข็งเเกร่งของกัปตันโรเจอร์สไม่สามารถช่วยเหลือโทนี่ได้ในเวลานี้ มีเพียง J.A.R.V.I.S ที่เป็นปัญญาประดิษฐ์ของโทนี่เท่านั้นที่สามารถช่วยเหลือได้ เเน่นอนว่า J.A.R.V.I.S ได้ประมวลผลระบบเเละเปิดใช้พลังงานตรงหน้าอกทันที

  เปรี้ยง!

  พลังงานตรงหน้าอกของโทนี่ได้ถูกยิงออกมาอย่างรวดเร็วมันเเต่ว่าเงานั่นได้หลบหลีกได้ทันความพริ้วไหวของมันได้พยายามจะเจาะทะลวงเข้าไปในชุดเกราะของโทนี่ผ่านหน้าอกของเขา

   เวรเอ้ย!มันพยายามจะเข้ามาข้างในตัวฉัน! 

  ฟุ่บ!

  เพียงเเต่ว่าเงานั่นได้เข้าผ่านทะลุไปยังหน้าอกของโทนี่จู่ ๆมันก็หยุดชะงักเพราะมีพลังงานสีเขียวบางอย่างออกมาจากร่างกายของโทนี่เเละต้านทานมันออกไป

  ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ได้ร่วงหล่นลงมา กัปตันโรเจอร์สที่อยู่ไม่ไกลได้รีบเข้าไปสนับสนุนเเละควักปืนออกมาเพื่อยิงทะลวงมัน

  ปั้งปั้ง

  หลังจากกัปตันโรเจอร์สยิ่งขับไล่มันอาวุธบนชุดเกราะไอรอนแมนก็ทำงานเช่นเดียวกันในที่สุดเงานั่นก็ดีดตัวออกไปเเละเผยรูปร่างที่ชัดเจนให้เห็นมันคือหอกด้ามยาวที่เป็นสีดำมันคืออาวุธที่นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ชั้นสูงนั่นถือก่อนหน้านี้

  ฟุ่บ!

  ทันทีที่หอกนั่นถูกโยนออกไปมันก็ได้บินกลับไปยังตำเเหน่งของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ชั้นสูงนั่นอีกครั้ง

  ปั้งปั้ง

  โทนี่ได้ใช้ขีปนาวุธบนชุดเกราะไอรอนแมนเพื่อยิงสกัดพวกเขาก่อนที่จะพยายามล่าถอยออกไปในทันที

  ก่อนหน้านี้เเจ็คสันได้ให้สิ่งของบางอย่างกับโทนี่เเละเขาได้พกมันติดตัวตลอดเวลาเขาได้พยายามลองศึกษามันเเล้วเเต่ก็ไม่พบข้อมูลพิเศษอะไร

  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งที่ออกมาคุ้มกันเขาก่อนหน้านี้ก็คือพลังจากเครื่องรางที่เเจ็คสันให้เขามาหลายครั้งที่โทนี่เผชิญหน้ากับอันตราย เเจ็คสันจึงให้มันติดตัวกับเขาเอาไว้

   เเจ็คสันเจ้าเด็กคนนี้ เป็นอีกครั้งที่เธอช่วยชีวิตของฉัน! โทนี่ได้ยื่นมืออกไปกุมหน้าอกของตนเองเเละกระซิบเบา ๆ

  ฟุ่บ

   โทนี่นายไม่เป็นอะไรนะ เห็นโทนี่กุมหน้าอกอย่างประหลาด กัปตันโรเจอร์ส กล่าวพูดอย่างกังวล

   ไม่เป็นไร 

  โทนี่กล่าวตอบพร้อมกับเปิดใช้อาวุธของชุดเกราะไอรอนแมนจากนั้นก็บินขึ้นไปเพื่อทำการโจมตีอีกครั้ง

   เราไม่สามารถต้านทานไว้ได้นานกว่านี้อีกเเล้ว! เราต้องถอย! เเม้จะไม่รู้ว่าโทนี่รอดจากการโจมตีเมื่อครู่ได้อย่างไร

  เเต่กัปตันโรเจอร์สรู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้พวกเขาจะต้องรีบถอยกันทันทีศัตรูเเข็งเเกร่งเกินไปทั้งยังมีการโจมตีลึกลับประเภทนั้นอีก

  เมื่อเห็นว่าพวกกัปตันโรเจอร์สกำลังหลบหนีนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์หลายคนราวกับสัมผัสได้พวกเขารีบพยายามบุกทะลวงเข้าไป

   ฉันได้ส่งข่าวออกไปเเล้วเราสมควรได้รับการสนับสนุนในเร็ว ๆ นี้ ถ้าเราสามารถทนได้ เราก็จะสามารถอพยพกลับออกไปได้อย่างปลอดภัย! ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ พึมพัมออกมา

   ไม่ว่าอย่างไรพวกดาร์คเอลฟ์พวกนี้ก็เเข็งเเกร่งกว่าที่พวกเราคาดไว้มาก! 

   อืม,ไม่ต้องสงสัยเลย 

  ปั้ง

  กัปตันโรเจอร์สได้พยายามต้านทานศัตรูเเละถ่วงเวลาอีกฝ่ายให้ได้นานที่สุด

  …

  ศาสตราจารย์พวกเราควรทำยังไงกันดี ขณะที่พวกกัปตันโรเจอร์สเเละโทนี่เข้าปะทะกับอีกฝ่ายบลิงก์ ที่อยู่ด้านหลังได้กล่าวถามศาสตราจารย์ชาร์ลส์

   บลิงก์เธอมีความมั่นใจมากน้อยเเค่ไหนที่จะทำตามเเผนที่เราวางไว้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวถาม

   เอ่อ…ฉันไม่ค่อยมั่นใจเเต่สามารถลองดูได้! หลังจากเงียบไปสองวินาที บลิงก์ค่อนข้างลังเลก่อนที่จะกล่าวตอบ

   ไม่ลองก็ไม่รู้ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็จะกลับไปที่โลกอย่างปลอดภัยพร้อมกัน! 

   ค่ะ,ศาสตราจารย์! 

 

สถานการณ์ล่าถอยฉับพลัน

  ขณะที่เเจ็คสันที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบกับพวกดาร์คเอลฟ์เเละตอนนี้กำลังถูกหามกลับไปรักษา,ไซบีเรีย สถานการณ์ในฐานพิเศษชั่วคราว S.H.I.E.L.D. พวกเขาก็ยังกังวลกันมากโดยเฉพาะเเฮร์รี่ หลังจากได้รับเเจ้งจาก J.A.R.V.I.S เขาก็รีบออกจากไซบีเรียเเละมุ่งหน้าไปยังนิวยอร์กเพื่อดูอาการของเเจ็คสันด้วยตนเอง

  หลังจากเเฮร์รี่ออกจากฐานในไซบีเรียการสนับสนุนของJ.A.R.V.I.S เเละ องค์กร S.H.I.E.L.D. ก็มาถึง มีกองทัพไอรอนแมนกว่า 100 ตัว พร้อมกับกำลังคนอีกจำนวนมาก พวกเขาได้รวมตัวกันอีกครั้งเพื่อเตรียมเข้าสู่ประตูมิติอวกาศเพื่อสนับสนุนกัปตันโรเจอร์ส เเละ คนอื่น ๆ

  เหตุผลที่J.A.R.V.I.S ส่งชุดเกราะไอรอนแมนมามากกว่า 100 ตัวก็เพราะว่า เหตุการณ์ทางฝั่งเเจ็คสันเมื่อครู่นี้ จากการประเมินของ J.A.R.V.I.S นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์เเข็งเเกร่งมาก เเม้ โทนี่ จะร่ำรวย เเต่กองทัพไอรอนแมน 100 ตัวก็เหมือนทรัพย์สินของเขาถ้าเกิดสูญเสียไปก็เหมือนกับเขาเอาเงินไปละลายน้ำ เล่นเเต่ถ้าทางด้านฝั่งนั้นไม่สามารถต้านทานได้ โลกก็อันเป็นเกิดความโกลาหลอย่างเเน่นอน

   ไม่รู้ว่าทางฝั่งด้านมิราจไนท์มีอะไรเกิดขึ้นกันเเน่ เเต่เขาน่าจะอยู่ที่นี่เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ทางฝั่งนี้! เห็นชุดเกราะไอรอนแมนเเละกองกำลังสนับสนุนมากันครบถ้วน เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้พึมพัมออกมา เพราะเขาเเอบได้ยินที่เเฮร์รี่พูดคุยกับ J.A.R.V.I.S ก่อนหน้านี้

  จากการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่สื่อสาคนนี้หากเเผนS ล้มเหลวมีความเป็นไปได้สูงว่าสิ่งมีชีวิตจากอารยธรรมต่างโลกจะบุกมาที่โลกอย่างเเน่นอนจากนั้นไม่ใช่เพียงเเค่พวกเขาจะสูญเสียกองกำลังหลักที่นี่ไปเเต่ยังจะทำให้โลกเกิดความสูญเสียอย่างมากจนถึงที่สุด

  กองกำลังS.H.I.E.L.D.,สตาร์คอินดัสตรีท์,ทีม X-MEN เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ นี่คือทีมสหพันธมิตรที่เเข็งเเกร่งที่สุดในโลก

  ตามธรรมชาติหากสูญเสียพวกเขาไปก็คือการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตามเเผนการที่กัปตันโรเจอร์สว่าเอาไว้ถ้าเกิดเเผน S ล้มเหลว ผู้คนที่ ฐานS.H.I.E.L.D. จะต้องตัดสินใจหาทางทำลายประตูมิติอวกาศให้ได้ เเม้ว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจเเต่ก็มีเเต่ต้องทำเพียงเท่านั้น

  หึ่ม!

  ขณะที่กองทัพไอรอนแมนเเละทีมสนับสนุนเข้าสู่ด้านในประตูมิติอวกาศจู่ ๆ ยานพาหนะไร้คนขับก็ได้กลับมารายงานข่าวให้เเก่เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้

   ถอยทัพ พวกเขากำลังถูกปิดล้อมเเละกำลังรอความช่วยเหลือ? 

  เมื่อเจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้ได้รับข่าวสีหน้าของเขาก็กลายเป็นหน้าเกลียดอย่างมาก

  ปั้ง!

   เตรียมการป้องกันเตรียมพร้อมเอาไว้เตรียมรับผลลัพธ์ที่อาจจะเลวร้ายที่สุด! เเม้ว่าเขาจะไม่เชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยินเเต่เขาก็ต้องตัดสินใจยอมรับ

   หวังว่าพวกคุณจะกลับออกมาอย่างปลอดภัย! พวกคุณคือความหวังของโลกใบนี้! เจ้าหน้าที่สื่อสารจ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศอย่างกังวล

  …

  หึ่ม

  ปั้ง

  อีกด้านนึงของสนามรบการต่อสู้ยังคงปะทุความดุเดือดเหมือนก่อนหน้านี้,สามนาทีก่อน หลังจากที่ สตอร์มเปิดใช้ท่าโจมตีวงกว้างของตนเองก็สามารถโจมตีพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์เหล่านี้ได้หลายคนเเต่จุดเเข็งเหล่านี้ไม่อาจใช้ได้ซ้ำดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงตัดสินใจถอยทัพเพราะศัตรูได้ฝ่าทะลวงเข้ามาเรื่อย ๆ

  เเม้จะมีนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ตกตายเเต่ก็มีหลายคนที่รอดอยู่เพราะพวกเขาได้ใช้อาวุธของตนเองป้องกันรวมถึงสภาพเเวดล้อมของที่นี่ที่ช่วยส่งเสริมความเเข็งเเกร่งให้กับร่างกายของพวกเขาดังนั้นหลายคนจึงสูญเสียเเขนไม่ก็ได้รับบาดเจ็บหนักสาหัส

  เดิมกัปตันโรเจอร์ส เเดร์เดวิล เเละ เเฮงค์ ทั้งสามคนที่เป็นเเนวหน้าที่ร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู โดยมี ฟอลคอน เเละ คนอื่น ๆ รวมถึงไอรอนแมน ที่สนับสนุนพวกเขาอยู่ด้านหลัง

  เเต่เพราะการต่อสู้ที่ยืดเยื้อรวมถึงจำนวนศัตรูที่มากกว่าพวกเขาหลายเท่าทำให้พวกเขาเหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้ทั้งยังได้รับบาดเจ็บ

  เพราะกัปตันโรเจอร์สเกือบพลาดท่าเเละเเดร์เดวิลได้เข้ามาช่วยทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเเละถูกเเยกออกจากสนามรบด้วยความช่วยเหลือของไอรอนแมนดังนั้น เมื่อมีกองกำลังหลักที่ได้รับบาดเจ็บหนักเป็นคนเเรก เเผน S จึงได้ทำการล่าถอย

  ทันทีที่เเดร์เดวิลบาดเจ็บคนอื่น ๆ ก็เริ่มไม่สามารถทนได้ โดยเฉพาะ ทีม K กับ ทีม S พวกเขาได้เริ่มไม่สามารถต้านทานศัตรูได้เเละเริ่้มเกิดความสูญเสียทีละน้อย

  เเม้พวกเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสเเต่ก็ถูกหามช่วยเหลือกลับไปยังตำเเหน่งของประตูมิติอวกาศตอนนี้เเผนการทั้งหมดของกัปตันโรเจอร์สเริ่มพังทลายอย่างใหญ่หลวงเพราะการตัดสินใจผิดพลาดเกี่ยวกับความเเข็งเเกร่งของพวกดาร์คเอลฟ์

   โทนี่,พวกเราจะสามารถต้านทานศัตรูได้อีกนานเเค่ไหน! หลังจากปิดกั้นการโจมตีของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่ดาหน้ากันเข้ามากัปตันโรเจอร์ส ก็ถอยหลังเเละติดต่อโทนี่ ด้วยความกังวล

 

ระบบเกิดข้อผิดพลาด

  ฟุ่บ!

  ทันทีที่กระเเสเวลาไหลย้อนกลับชิ้นส่วนชุดเกราะไอรอนแมนที่ถูกระเบิดก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้งชุดเกราะไอรอนแมนของเเจ็คสันตอนนี้เขาได้รับการปกป้องจากชุดเกราะไอรอนแมนเหมือนเดิม

  การเคลื่อนไหวทั้งหมดได้ย้อนกลับไปอย่างช้าๆ รวมถึงกริชเล็มใหญ่ที่ปักกลางหลังของเเจ็คสันเมื่อครู่ตอนนี้เป็นที่ชัดเจนว่ามันได้ลอยกลับไปวิถีการบินของมันไม่ใช่เส้นทางที่เเปลกเเยกเพราะมันได้ไหลย้อนกลับไปยังตำเเหน่งที่อยู่ในมือของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนั้น

  หลังจากที่กริชใหญ่เล่มนั้นกลับคืนชีวิตของเเจ็คสันก็ได้หลุดพ้นจากอันตรายถึงชีวิต การโจมตีของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์เมื่อครู่สามารถปลิดชีวิตของเเจ็คสันได้ เเม้เเต่ J.A.R.V.I.S ก็ยังตอบสนองไม่ทัน โชคดีที่คราวนี้เอนเชี่ยนวันได้ปรากฏตัวออกมาช่วยเหลือ

  สำหรับอีเเวนส์ปากขนาดใหญ่ของเขาก็ยังคงอ้าปากกว้างเหมือนเดิมเอนเชี่ยนวันได้กวาดสายตาไปยัง นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์อีกครั้ง

  ฟุ่บ!

  มือขวาของเขาได้โบกเล็กน้อยกริชขนาดใหญ่ในมือนั่นได้ลอยออกมาจากมือของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์จากนั้นก็หลุดลอยกระเด็นไปไกล

  หึ่ม

  หลังจากเอนเชี่ยนวันจัดการสิ่งเหล่านี้เสร็จเวทย์มนตร์สีเขียวที่มือขวาของเขาก็ได้หยุดหมุนลงเส้นเวลาได้กลับมาดำเนินการใหม่อีกครั้ง

   ถึงข้าจะไม่ลงมือจัดการมันด้วยตนเองเเต่ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง! หลังจากเเก้ไขวิกฤติครั้งนี้สำเร็จเอนเชี่ยนวันได้หันศีรษะไปมองเเจ็คสันอีกรอบก่อนที่เขาจะเอะใจบางอย่าง

  สายตาของเขาจ้องมองไปที่เเจ็คสันที่อยู่ในชุดเกราะไอรอนแมนการจ้องมองของเอนเชี่ยนวันได้ผ่านทะลุชุดเกราะเเละมุ่งเข้าหาเเจ็คสันโดยตรงในเวลานี้เขาเห็นบางอย่างที่ราวกับมีชีวิตกำลังขยับเขยื้อนภายในร่างกายของเเจ็คสัน

   หืมดูเหมือนจะมีบางสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยประสบการณ์การผจญภัยของเจ้าในดาวเคราะห์ที่เเตกต่างอาจนำพาเจ้าให้ได้รับสิ่งของดี ๆ ติดตัวกลับมามากมาย เเม้ครานี้ข้าจะไม่ได้ลงมือช่วยเหลืออีก ข้าก็เชื่อว่าเจ้าจะไม่เป็นอะไร ฮ่าฮ่า นี่มันน่าสนใจมากจริง ๆ ! เอนเชี่ยนวันได้เเสดงออกทางสีหน้าอย่างเเปลกประหลาด

  ฟุ่บ!

  จากนั้นเขาก็หายตัวไปในที่สุด

  ปั้งปั้ง

  บึ้ม

  หลังจากเอนเชี่ยนวันหายตัวเส้นเวลาที่กลับมาเริ่มใหม่อีกครั้งตอนนี้ นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ ก็ได้ถูกชุดเกราะไอรอนแมนโจมตีอย่างรุนเเรง ดวงตาที่เบิกกว้างสีเเดงเลือดได้กวาดมองผ่านไปทั่วร่างของชุดเกราะไอรอนแมนจำนวนมากตอนที่เขารู้สึกตัวอีกทีเขาก็รู้สึกสับสนพอได้สติอีกครั้งเขาก็ถูกโจมตีโดยชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัวด้วยความประหลาดจนเสียท่าในที่สุด

  ติ๊ด

   การโจมตีทะลุเป้าหมายพลังชีวิตของเป้าหมายอ่อนเเอลงอย่างรวดเร็ว!  J.A.R.V.I.S ได้ประเมินผลอย่างเงียบ ๆ

  ติ๊ด

   คำเตือน! คำเตือน ! ระบบเกิดข้อผิดพลาดไม่สามารถระบุที่มาได้ ระบบเกิดข้อผิดพลาดไม่สามารถระบุที่มาได้  หลังจาก J.A.R.V.I.S กำลังดำเนินการเเก้ไขนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ จู่ ๆ ระบบหลักของเขาก็ส่งเสียงเเจ้งเตือนบางอย่างออกมา

   ไม่สามารถวิเคราะห์ข้อผิดลาดได้ดำเนินการเเยกวิเคราะห์ปัญหาทีละส่วนตัดระบบเชื่อมต่อสำรองออก หลังจากได้รับคำสั่งJ.A.R.V.I.S ได้เริ่มสเเกนความผิดพลาดทีละส่วนอย่างรวดเร็ว

  ติ๊ด

  จากนั้นJ.A.R.V.I.S ก็ได้เชื่อมต่อระบบหลักด้วยตนเองเขาได้ตัดระบบสำรองทั้งหมดเเละดำเนินการควบคุมระบบหลักทั้งหมดด้วยตัวของเขา เปป็นระยะเวลาน้อยกว่าหนึ่งวินาที ชุดเกราะไอรอนแมนที่มีเเจ็คสันอยู่ข้างในก็บินขึ้นไปบนฟ้าเเละมุ่งหน้ากลับไปยังนิวยอร์กโดยส่วนตัว ชุดเกราะไอรอนแมนตัวอื่น ๆ ยังคงอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน ก่อนจะเเยกจากกัน J.A.R.V.I.S ได้ควบคุมระบบหลักของตนเองเเละทิ้งคำสั่งในการพาเเจ็คสันกลับไปที่ฐานในนิวยอร์กอย่างดเร็วที่สุดจากนั้นเขาก็เเบ่งอีกทีมเพื่อปกป้องพื้นที่มิติที่นี่เพื่อเฝ้าระวังพวกดาร์คเอลฟ์

  เเม้ระบบสำรองของเขาจะใช้การไม่ได้เเต่J.A.R.V.I.S ก็ได้ควบคุมระบบหลักด้วยตนเอง เป็นที่เเน่นอนว่าคำสั่งหลักจากเขาจะสามารถทำให้ภารกิจดำเนินการสำเร็จไปได้ด้วยดี

   เอ๋..! จ้องมองไปที่ชุดเกราะไอรอนแมนที่บินจกไปอีเเวนส์ได้หยุดฝีเท้าลงจากนั้นก็ตะโกนขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

  เนื่องเพราะกระเเสเวลาได้ย้อนกลับทำให้เขาจำไม่ได้เลยว่าเกิดสิ่งใดขึ้นเมื่อครู่ทั้งยังไม่รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันพอรู้สึกตัวอีกที เขาก็เห็น J.A.R.V.I.S จัดการสัตว์ประหลาดนั่นอยู่ก่อนเเล้วจากนั้นเขาก็พาเเจ็คสันหลบหนีออกไปเพื่อทำการรักษา

  ตอนนี้อีเเวนส์ต้องการกลับไปที่สำนักงานใหญ่​​S.H.I.E.L.D. เพื่อรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าของเขา เเต่เมื่อคิดถึงตัวประหลาดที่ปรากฏตัวขึ้นนที่นี่ก็ทำให้อีเเวนส์รู้สึกกลัวจากใจ นี่เป็นประสบการณ์ครั้งเเรกที่เขาได้เห็นสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวรวมถึงสภาพศพที่น่าอนาถของพวกมันตอนตาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ช่วยเปิดหูเปิดตาของเขาให้กว้างมากขึ้นไปอีก

   J.A.R.V.I.S,คุณสามารถควบคุมสถานการณ์ที่นี่ได้เเล้วอย่างงั้นหรอ คุณต้องการกำลังสนับสนุนจาก S.H.I.E.D. ? มาช่วยเหลือด้วยหรือไม่? อีเเวนส์ได้กล่าวถาม J.A.R.V.I.S

  เเม้เขาจะถามเช่นนี้ออกมาเเต่เขาก็รู้ตัวดีว่าหากJ.A.R.V.I.S ต้องการความช่วยเหลือเขาย่อมร้องขอกับสำนักงานใหญ่องค์กร S.H.I.E.D. ได้โดยตรง

   เอ๋…ดูเหมือนจะมีการติดต่อจากสำนักงานใหญ่! ยังไม่ทันได้รับคำตอบจากไอรอนแมนอีเเวนส์ ก็ได้เดินถอนตัวออกมาก่อนที่จะหยิบเครื่องมือสื่อสารของเขาขึ้นมาเพื่อรับสาย

  ติ๊ด

  จากนั้นอีเเวนส์ก็รายงานสถานการณ์ในปัจจุบันให้กับ สำนักงานใหญ่ได้รับรู้

 

ย้อนคืน
หลังจากที่ปรากฏการณ์ลึกลับเวทย์มนตร์สีเขียวที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าเกิดขึ้นทันใดนั้นเอง รอบ ๆ อาคารทั้ง 5 เเละ พื้นที่รอบ ๆ ก็ได้ถูกหยุดนิ่งเอาไว้
ทุกสิ่งทุกอย่างราวกับถูกหยุดเอาไว้เเม้เเต่ชีวิตของเเจ็คสันที่กำลังเข้าใกล้ความตายด้วยเช่นเดียวกัน ในกรณีนี้ ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน กำลังใช้พลังของ อินฟินิตี้สโตนอยู่
หึ่ม!
ภายใต้เวทมนตร์สีเขียวบทละครทั้งหมดได้หยุดนิ่งลงเเม้เเต่นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่กำลังถูกชุดเกราะไอรอนแมนรายล้อมอยู่
ไม่เพียงเเต่เเค่ตัวบุคคลเเม้เเต่กระเเสลมหรือลูกหลงการโจมตีที่หลุดออกไปก็ถูกหยุดนิ่งการโจมตีที่ปรากฏขึ้นก่อนหน้านี้ก็ได้หายไปเหมือนกัน
เเน่นอนว่าอีเเวนส์ก็ด้วยเขาที่เตรียมวิ่งเข้าไปหาเเจ็คสันก็ได้ถูกหยุดเอาไว้
ทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกหยุดเอาไว้กับที่ราวกับภาพนิ่งที่สวยงาม
เอนเชี่ยนวันได้ยื่นมือเข้ามาช่วยในช่วงเวลาที่สำคัญอย่างการหยุดเวลาก่อนที่มีดกริชขนาดใหญ่นั่นจะปักทะลุหัวใจของเเจ็คสัน
มือขวาของเอนเชี่ยนวันได้โบกไปมืออย่างเบาๆ ก่อนที่พลังงานสีเขียวจะปรากฏออกจากฝ่ามือของเขาจากนั้นมันก็พุ่งลอยไปยังทิศทางตำเเหน่งร่างกายของเเจ็คสันที่ถูกมีดเเทงเข้าก่อนหน้านี้
“หนุ่มน้อย!ยังเร็วเกินไปที่เจ้าจะมาตาย เเม้เจ้าจะมีความลับมากมายซุกซ่อนเอาไว้เเต่ข้าก็เชื่อมั่นในตัวเจ้า ในอนาคต เจ้าจะสามารถเติบโตขึ้นมากจนข้าไม่อาจจินตนาการได้ ครั้งนี้ข้าจะยื่นมือเข้าช่วย อย่าเพิ่งรีบตายซะล่ะ!”จ้องมองไปที่ เเจ็คสัน เสียงของเอนเชี่ยนวันได้ส่งออกมาเบา ๆ
ไม่รู้ว่าคำพูดของเขาเเจ็คสันได้ยินหรือไม่ เเต่ เขาเองก็ไม่ต้องการให้ เเจ็คสันได้ยิน นี่เป็นความรู้สึกจากก้นบึ้งหัวใจของปรมาจารย์จอมเวทย์คนนี้
ในอดีตตอนที่เอนเชี่ยนวัน ได้พบกับเเจ็คสัน ครั้งเเรก เขาได้สนใจอีกฝ่ายในทันที เพราะจิตวิญญาณของเเจ็คสันได้เป็นจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิตจากมิติอื่นในจักรวาลที่ยิ่งใหญ่นี้เเม้เเต่ความรู้ของเขาก็ไม่ครอบคลุมไปทั่วทั้งหมดดังนั้น เอนเชี่ยนวัน จึงให้ความสนใจกับเส้นทางที่ เเจ็คสันเลือกเดิน
ถ้าเกิดในอนาคตเเจ็คสันเป็นภัยสำหรับโลกจริงเอนเชี่ยนวันก็ไม่ลังเลที่จะ ใช้ไทม์สโตนในการเปิดขุมพลังอำนาจระดับสูงสุดของมันเพื่อใช้งาน
เเม้การทำเช่นนี้จะทำให้กระเเสของเวลาปั่นป่วนเเต่เขาก็ตัดสินใจเเล้วเช่นเดียวกับตอนนี้ ทุกครั้งที่ เอนเชี่ยนวันได้ใช้พลังงานของไทม์สโตนเขาจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกฏของโลกมากเกินไป ดังนั้นสิ่งที่เอนเชี่ยนวันในตอนนี้ทำได้ก็คือการช่วยเหลือชีวิตของ เเจ็คสัน ในช่วงเวลาสำคัญ เรื่องที่เหลือในอนาคตก็เเล้วเเต่บุญวาสนาของอีกฝ่าย จากนั้นเอนเชี่ยนวันก็กวาดตามองไปยังทิศทางของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์
“เผ่าดาร์คเอลฟ์พวกเขาวางเเผนจะทำอะไรกันเเน่?”เมื่อเห็นเผ่าพันธุ์ดาร์คเอลฟ์ปรากฏขึ้นที่โลก เอนเชี่ยนวันรู้สึกสงสัย
เเม้ความเเข็งเเกร่งของเขาจะน่าเกรงขามเเต่เขาก็ไม่ใช่พระเจ้าที่รอบรู้ไปทุกสิ่ง เผ่าดาร์คเอลฟ์ เเละ ยักษ์น้ำเเข็ง ได้ร่วมมือกันเพื่อบุกเเอสการ์ดจากนั้นผู้นำของเผ่าดาร์คเอลฟ์ มาเลคิธ ก็นำขุมกำลังหลุกเข้าสู่พื้นที่ต้องห้ามของเเอสการ์ดเพื่อค้นหา อีเธอร์
นี่เป็นเรื่องลับสุดยอดถ้าเอนเชี่ยนวันรู้ เขาย่อมไม่ทางปล่อยให้มันเกิดขึ้น เเม้เอนเชี่ยนวันจะไม่สนใจอีเธอร์ เเต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยให้มันตกไปอยู่ในมือของเผ่าดาร์คเอลฟ์เเน่นอน ในเก้าโลกไม่มีโลกไหนไม่มีใครไม่รู้จักความทะเยอทะยานอันเเรงกล้าของเผ่าดาร์คเอลฟ์
“ไม่ว่าพวกเจ้าต้องการจะทำอะไรเเต่การที่พวกเจ้ามาที่นี่ ข้าจะไม่ยอมให้พวกเจ้าได้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ต้องการ!”มือขวาของเอนเชี่ยนวันยกขึ้นอย่างช้า ๆ
ฟุ่บ!
การเคลื่อนไหวของเอนเชี่ยนวันนั้นเรียบง่ายมากจากนั้นวงเวทย์สีเขียวก็ปรากฏขึ้นเหนือฝ่ามือของเขา
ภายในวงเวทย์สีเขียวเต็มไปด้วยสิ่งลึกลับมากมายภายใต้สถานที่ถูกหยุดเอาไว้ก่อนหน้านี้วัตถุทั้งหมดได้เริ่มลอยกลับไปยังสภาพที่เคยเป็นนี่คือความสามารถที่เเข็งเเกร่งของหนึ่งในอินฟินิตี้สโตน ไทม์สโตน
ฟู่ว!
กระเเสเวลาได้ไหลย้อนกลับอีกครั้งกฏเกณฑ์ฟิสิกส์ต่างๆได้ถูกทำลายภายใต้พลังงานอันลึกลับของไทม์สโตนนี้ กริชขนาดใหญ่ที่ปักอยู่กลางหลังของเเจ็คสันได้ดึงลอยถอยกลับไปเเม้เเต่ด้านหลังใกล้หัวใจของเเจ็คสันที่ถูกเจาะเป็นรูก็ได้ถูกเรียกคืนกลับมาอย่างช้า ๆ

นาทีความเป็นตายของเเจ็คสัน

  J.A.R.V.I.Sได้ให้ชุดเกราะไอรอนแมนห่อร่างกายของ เเจ็คสันเอาไว้เเละเตรียมจะให้ชุดเกราะที่ห่อร่างของเเจ็คสันจากที่นี่ไปอย่างรวดเร็ว

  เเต่ทว่าสถานการณ์ยังไม่ถูกเเก้ไขโดยสมบูรณ์ภายใต้การสเเกนของเขาดูเหมือนชีพจรชีวิตของศัตรูจะยังคงอยู่หากชุดเกราะไอรอนแมนจากที่นี่ไปไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจะไม่มีภัยอะไรเกิดขึ้น

   ขณะที่ J.A.R.V.I.S กำลังสเเกน นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนี้ก็เดินฝ่าออกมาจากกองเพลิงเเละคำรามออกมาอย่างโกรธเเค้นอีกครั้ง

  !

  อาวุธในมือของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนี้ได้ถูกขว้างออกไปเป็นวางกว้างพริบตาเดียวก็มีการระเบิดเกิดขึ้นหลายครั้ง

  ปั้งปั้ง ปั้ง!

  ชุดเกราะไอรอนแมนโดยรอบได้ระเบิดขึ้นเพราะการโจมตีที่กระทันหันนี้เเม้นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์นั่นจะสูญเสียความเเข็งเเกร่งส่วนใหญ่ไปเเต่ดูเหมือนเขาจะไม่ยอมเเพ้อย่างง่าย ๆ

  เห็นศัตรูยังคงมีเเรงใจจะสู้ต่ออีกJ.A.R.V.I.S ได้ประมวลผลสถานการณ์ใหม่อีกครั้ง

   ข้อมูลตัดสินใจผิดพลาดเริ่มดำเนินการเปลี่ยนเเผน! ภารกิจเเรก ปกป้อง เเจ็คสัน หลิน ! จากนั้นไอรอนแมนหลายตัวก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วเเละล้อมรอบพื้นที่มิติรอบด้าน

  ฟุ่บ!

   เจ้าหน้าที่อีเเวนส์ผมจะต้องรีบนำ เเจ็คสัน หลิน ออกจากที่นี่ ได้โปรดไปับผมทันที สถานการณ์ที่นี่ไม่สามารถเเก้ไขได้อย่างง่ายดาย เสียงของ J.A.R.V.I.S ได้ดังขึ้น

  ไม่ต้องรอให้อีเเวนส์กล่าวตอบ ชุดเกราะไอรอนแมน ก็มาปรากฏขึ้นตรงด้านหน้าวิสัยทัศน์ของอีเเวนส์ รวมถึงชุดเกราะที่เเจ็คสันสวมใส่อยู่ด้วย เรื่องนี้ทำให้ อีเเวนส์ รู้สึกตกใจอย่างมาก

   ขณะที่ J.A.R.V.I.S กำลังยุ่งกับเเผนการพาเเจ็คสันหลบหนี จู่ ๆ นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนั้นที่เหลือเเขนเพียงข้างเดียวก็ได้ควักกริชขนาดใหญ่ออกมา

  เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนั้นJ.A.R.V.I.S ได้ควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนอื่น ๆ เพื่อทำการสกัดกั้นอย่างรวดเร็ว เเต่ทว่าการโจมตีของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์นั่นรุนเเรงมากกริชขนาดใหญ่ได้กวาดผ่านร่างของชุดเกราะไอรอนแมนเเละเริ่มทำลายมันลงไปทีละตัว

  เห็นการโจมตีของอีกฝ่ายเข้าเป้าเเละเเม่นยำจนสามารถดับกองกำลังของตนเองได้ทีละส่วนๆ J.A.R.V.I.S ตั้งใจจะรีบพา เเจ็คสันออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด

   ฉันเข้าใจเเล้ว! ได้ยินเสียงคำรามที่ดุร้ายของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์อีเเวนส์ ได้พยักหน้าตอบรับเเละเตรียมจะเข้าไปในชุดเกราะไอรอนแมน

   รีบไปเร็วเข้า! 

  ฟุ่บ!

  ทันทีที่อีเเวนส์เตรียมพร้อมเสร็จชุดเกราะไอรอนแมนของ เเจ็คสัน ก็เริ่มต้นระบบพลังงานเเละลอยตัวขึ้นอย่างช้า ๆ เพราะสภาพร่างกายที่ร้ายเเรงของเเจ็คสันตอนนี้ J.A.R.V.I.S ไม่สามารถเร่งรีบในการดำเนินการได้

   นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนี้จ้องมองไปที่เหล่าชุดเกราะไอรอนแมนที่น่ารำคาญก่อนที่จะคว้ากริชขนาดใหญ่ในมือวาดฟันเเละทำลายพวกมันอย่างบ้าคลั่ง

  !

  ติ๊ด

   อันตราย! อันตราย ! เสียงเเจ้งเตือนของ J.A.R.V.I.S ได้ดังขึ้นในชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัว

  ปั้ง

  ช่วงเวลาที่J.A.R.V.I.S นำร่างของเเจ็คสันบินขึ้นไปบนฟ้า จู่ ๆนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนี้ก็สังเกตุได้ถึงความผิดปกติบางอย่างเห็นอีกฝ่ายกำลังหลบหนีกริชขนาดใหญ่ในมือของเขาได้พุ่งขว้างออกไปอย่างรวดเร็ว

  หากเเจ็คสันยังมีสติอยู่เเน่นอนว่าด้วยศักยภาพร่างกายของเขาอาจจะสามารถต้านทานการโจมตีเหล่านี้ได้เเต่ตอนนี้เขาหมดสติอยู่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะต้านทานการโจมตีเหล่านี้ได้เเละ ถึงเเม้เขาจะมีสติเเละไม่สามารถต้านทานการโจมตีเหล่านี้ได้ เขาก็ยินยอมจะเเลกหัวใจเเห่งชีวิตเเละลูกบาศก์เวทมนตร์ในการเเลกเปลี่ยนไอเท็มที่สามารถช่วยเหลือชีวิตของเขา

  ปั้ง!

  เห็นการโจมตีของศัตรูพุ่งลอยขึ้นไปยังตำเเหน่งของเเจ็คสัน J.A.R.V.I.S ได้พยายามบังคับชุดเกราะไอรอนแมนเพื่อหลบหลีกการโจมตีเเต่ดูเหมือนว่ามันยังคงไม่เพียงพอ

  การตอบสนองของJ.A.R.V.I.S ยังไม่เร็วเท่ากับการลอบโจมตีอย่างรวดเร็วของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนี้

  เเม้ชุดเกราะไอรอนแมน5 ตัวที่เหลือกำลังรับมือกับนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์อยู่ เเต่การโจมตีของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่พุ่งออกไปก่อนหน้านี้ก็พุ่งไปถึงที่ด้านหลังของชุดเกราะไอรอนแมน กริชสีดำขนาดใหญ่นั่นได้พุ่งปักทะลุชุดเกราะไอรอนแมนจนขาดออกจากกัน อีเเวนส์ ที่อยู่ใกล้เคียงได้เปิดปากตะโกนขึ้น

  เปรี้ยง!

  ภายใต้การโจมตีของกริชสีดำนี้คิ้วของเเจ็คสันได้กระตุกขึ้นเล็กน้อยจากนั้นมือของเขาก็ขยับอยู่บางส่วนจากนั้นก็มีพลังงานเเสงสีเขียวจางๆ ไหลเวียนอยู่รอบ ๆ ตัวของเขา

   อ่า…หนุ่มน้อยเอ๋ยเจ้าเป็นคนที่เข้มเเข็งมาก! 

  ขณะที่เเจ็คสันกำลังหมดสติเเละกำลังถูกกริชสีดำนั่นปักทะลุหัวใจของตนเองจู่ ๆอากาศบาง ๆก็ปรากฏคลื่นพลังงานความผันผวนเเปลก ๆ เกิดขึ้น กลิ่นอายพลังงานสีเขียวได้ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าอย่างฉับพลัน

  หากเเจ็คสันมีสติอยู่ในตอนนี้เขาย่อมสามารถรู้ได้ในทันทีว่าคลื่นพลังงานสีเขียวที่ปรากฏขึ้นนี้คืออะไร เพราะนี่ชัดเจนเเล้วว่า ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน กำลังใช้ วัตถุระดับ S อินฟินิตี้สโตน ซึ่งก็คือ ไทม์ สโตน

 

บาดเจ็บสาหัสกลับมา
หึ่ม!
ขณะที่พื้นที่มิติอวกาศเกิดความผันผวนขึ้นอย่างรุนเเรงJ.A.R.V.I.S ก็เตรียมพร้อมบางอย่างเพื่อรอรับสถานการณ์อยู่ก่อนเเล้ว
ฟุ่บ
“มีบางอย่างกำลังมา”อีเเวนส์เงยหน้ามองขึ้นไปข้างบนอย่างเร่งรีบ
ดูเหมือนJ.A.R.V.I.S จะควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนเเละเริ่มต้นระบบอาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อเล็งไปยังทิศทางลานบ้านด้านหน้า ตามความเข้าใจของ J.A.R.V.I.S ในเมื่อสัตว์ประหลาดพวกนี้ออกมาได้ก็ไม่มีอะไรรับประกันพวกจะไม่มีพวกของมันปรากฏตัวขึ้นมาอีก
ฟุ่บ!
J.A.R.V.I.Sได้ปรับตำเเหน่งของอาวุธลอยเหนือด้านบนของลานบ้าน ทันใดนั้นเองพื้นที่มิติอวกาศก็ปรากฏเงาดำปกคลุมหนาเเน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ
เห็นมองดำที่ปกคลุมพื้นที่เหล่านี้อย่างรวดเร็วJ.A.R.V.I.S ได้เริ่มประเมินสถานการณ์ทันที
จากนั้นก็มีเงาบางอย่างปรากฏตัวออกมามันมีความสูงมากกว่าสองเมตรเป็นชายร่างสูงลักษณะไม่เหมือนกับมนุษย์ทั่วไปJ.A.R.V.I.S เข้าใจในทันทีว่าอีกฝ่ายก็คือพวก ดาร์คเอลฟ์
“โฮกกก!”เงาร่างสีดำที่ว่านี้กระโดดขึ้นมาจากพื้นที่มิติอวกาศก่อนที่จะคำรามออกมารอบด้านอย่างโกรธเคือง
นอกเหนือจากเงาร่างที่สูงสองเมตรกว่าเเล้วยังมีเงาร่างชายหนุ่มอีกคนที่ปรากฏตัวขึ้นในเวลาเดียวกันนี่ก็คือ เเจ็คสัน ดูเหมือนเขาจะออกมาพร้อมกับศัตรู
เนื่องเพราะร่างกายของเเจ็คสันถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดำในเวลานี้ทำให้พื้นที่ตำเเหน่งรอบด้านไม่สามารถสังเกตุสถานการณ์ภายในได้เเต่ถ้ามองจากข้างในจะพบว่า นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนี้ เต็มไปด้วยบาดเเผลจำนวนมาก ดวงตาสีเเดงที่ดุร้ายนั่นกำลังเบิกกว้างจ้องมองไปที่ เเจ็คสันอย่างโกรธเคือง เเน่นอนว่าสภาพของเเจ็คสันเองก็ไม่ต่างกันพวกเขาทั้งคู่ได้โดนเเรงระเบิดกระเเทกจนบาดเจ็บสาหัส
J.A.R.V.I.Sที่อยู่รอบนอกได้พยายามเจาะทะลุหมอกสีดำเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ภายในหมอกสีดำนั่นเเต่เเล้วนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์นั่นก็ได้เคลื่อนไหวอีกครั้ง
“โฮก!”กรงเล็บสีดำที่เเหลมคมได้พุ่งออกไปหวังจะจัดการศัตรูโดยตรง
ภายใต้หมอกสีดำกรงเล็บที่เเหลมคมได้เฉือดเฉือนผ่านหมอกดำพุ่งมาที่เบื้องหน้าของชายหนุ่ม
ติ๊ดติ๊ด
“ยันยันสถานะเเจ็คสัน หลิน ! เริ่มดำเนินเเผนการช่วยีชวิต!”J.A.R.V.I.S ได้วิเคราะห์สถานการณ์จนพบว่าเงาร่างชายหนุ่มอีกคนที่ปรากฏตัวขึ้นก็คือ เเจ็คสัน หลิน
ฟวั่บ!
ขณะที่นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนี้ใช้กรงเล็บที่เเหลมคมอีกครั้งพยายามจะโจมตีเเจ็คสันจู่ ๆ ก็มีลำเเสงพลังงานสีขาวหลายสายยิ่งพุ่งออกมา
เมื่อเทียบกับความเเข็งเเกร่งในปัจจุบันของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนี้เเน่นอนว่าพละกำลังของเขาได้ลดลงกว่าเเต่ก่อนมากความเเข็งเเกร่งทางด้านการป้องกันก็ย่อมลดลงตามลำดับ เพราะแบบนี้เเขนที่พุ่งออกไปโจมตีเมื่อครู่จึงถูกทำลายภายใต้ลำเเสงสีขาวโดยตรง
“โฮกกก!”ถูกโจมตีด้วยพลังงานเเสงสีขาวนั่นนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ได้คำรามออกมาอย่างโกรธเคืองตอนนี้เขาเหลือเเขนเพียงข้างเดียวทั้งพละกำลังยังลดลงมากไปหลายส่วน
!
นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนี้ได้พยายามระงับอาการเจ็บปวดจากการที่เเขนถูกทำลายเงาร่างของเเจ็คสันได้ถูกกลบเกลื่อนไปด้วยชุดเกราะไอรอนแมน
ฟุ่บ!
จากนั้นชุดเกราะไอรอนแมนก็พยายามพุ่งโจมตีนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนั้นเเละตอบสนองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตรงไม่นานหมอกสีดำก็เริ่มสลายหายไปอย่างช้าๆ จนเผยให้เห็นเงาร่างบุคคลอย่างเด่นชัด
“นั่นมันตัวอะไรสิ่งที่ปรากฏก่อนหน้านี้ไม่ใช่ตัวแบบนี้นี่!”อีเเวนส์ที่เห็นชุดเกราะไอรอนแมนเข้าปะทะกับศัตรูเขาได้จ้องมองไปที่ลานกว้างด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ
สิ่งที่ปรากฏก่อนหน้านี้จะเรียกว่าเป็นสมุนปีศาจของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ก็ได้ความเเข็งเเกร่งของมันไม่สามารถนำมาเทียบกับนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ได้โดยเฉพาะนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ชั้นสูงJ.A.R.V.I.S ได้พยายามทำการโจมตีดาร์คเอลฟ์นั่้นเพื่อช่วยเหลือเเจ็คสัน
ไม่ว่าอย่างไรความปลอดภัยของเเจ็คสัน ก็ต้องมาเป็นอันดับหนึ่งในตอนนี้
ปั้งปั้ง
จากนั้นไม่นานนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนีน้ก็ไม่สามารถสู้กับไอรอนแมนได้อีกเขาได้ถูกไล่ต้อนจนตัวเองเสียเปรียบอย่างเลี่ยงไม่ได้เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เขาได้ปะทะกับเเจ็คสันทำให้ตัวของเขาสูญเสียพละกำลังเเละได้รับบาดเจ็บอย่างรุนเเรงที่เขาสามารถเคลื่อนไหวได้ตอนนี้ก็เพราะอารมณ์โกรธเเค้นล้วน ๆ
ฟฟุ่บ!
ชุดเกราะไอรอนแมนได้ระดมเปิดการโจมตีอย่างไม่หยุดยั้งจนร่างของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ได้ถูกกลืนหายไปภายใต้เปลวเพลิงระเบิดจำนวนมากที่เกิดขึ้น
หลังจากเเก้ไขสถานเบื้องหน้าเสร็จชุดเกราะไอรอนแมนก็พุ่งไปยังตำเเหน่งของเเจ็คสันทันที เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้อยู่ภายใต้สายตาการจ้องมองของอีเเวนส์
ชุดเกราะไอรอนแมนได้สเเกนหน้าอกของเเจ็คสันเพราะบาดเเผลที่ปรากฏขึ้นมีหลุมขนาดใหญ่ที่เป็นบาดเเผลลึกนอกจากนี้ยังมีบาดเเผลอื่นๆ ที่เป็นอันตรายอยู่อีก หากตัดสินว่าอาการของเเจ็คสันตอนนี้ร้ายเเรงเพียงใดก็คงเลี่ยงจะตอบไม่ได้ว่ามันอันตรายถึงชีวิต
ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดเช่นนี้อีเเวนส์ จ้องมองไปที่ อีกฝ่ายอย่างให้ความสนใจ
ความกังวลของเเฮร์รี่
ได้ยินคำพูดของเเฮร์รี่เจ้าหน้าที่รับผิดชอบด้านการสื่อสารคนนี้ ได้ขมวคคิ้วเเน่นด้วยความกังวล
ดาร์คไนท์เป็นสมาชิกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ความสัมพันธ์ของพวกเขากับองค์กร S.H.I.E.L.D. ก็คือพันธมิตรดังนั้นหากดาร์คไนท์เสนอความคิดเช่นนี้ออกมา เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะห้ามได้เเต่เขาก็ต้องการเตือนอีกฝ่าย
“คุณดาร์คไนท์ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วงเพื่อนของคุณมาก อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทางฝั่งนั้นไม่มีอะไรเเน่นอน ไม่มีอะไรยืนยันได้เเม้คุณจะเข้าไปก็คงไม่อาจเปลี่ยนสถานการณ์ที่เป็นอยู่”
“คุณมิราจไนท์เองก็ยังขาดการติดต่อผมเเนะนำให้คุณรอข่าวจากทางฝั่งคุณมิราจไนท์ดีกว่า”เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้กล่าวเเนะนำ
เมื่อเจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้พูดถึงมิราจไนท์สีหน้าของเเฮร์รี่ ดูเปลี่ยนไปอย่างมาก เเจ็คสัน คือเพื่อนของเขา ทุกครั้งที่เเจ็คสันหายตัวไปเเละไม่สามารถติดต่อได้มันทำให้เขารู้ได้ในทันทีว่าเเจ็คสันอาจจะเข้าไปพัวพันกับอันตรายบางอย่าง บางทีตอนนี้อาจจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับเเจ็คสันก็เป็นได้
“ฉัน…”
“อืม,ฉันจะอยู่ที่นี่รอฟังข่าวจากมิราจไนท์ก็ได้”ในที่สุดเเฮร์รี่ก็ตัดสินใจ
“ครับ,ผ่อนคลายเถอะองค์กร S.H.I.E.L.D. เเละ ไอรอนแมน กำลังทำการสนับสนุน ผมเชื่อว่าสถานการณ์ทางฝั่งนั้นจะต้องได้รับการเเก้ไขไปได้ด้วยดี เเม้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ พวกเขาก็น่าจะถอนตัวออกมากันได้ทัน”ได้ยินดาร์คไนท์ยืนยันว่าจะรอที่นี่ เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
“การสนับสนุนของเราไม่เพียงเเต่จะช่วยเหลือพวกกัปตันโรเจอร์สเเต่เราจะช่วยผู้บาดเจ็บเหล่านั้นกลับมาให้ได้ด้วย”เพื่อให้ดาร์คไนท์สบายใจเจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้กล่าวเสริม
“คนที่บาดเจ็บเเน่นอนว่าย่อมต้องช่วยเหลือเเต่ว่ามันจะเป็นไปได้อย่างราบรื่นจริงงั้นหรอ ฉันกังวลว่า….”เเฮร์รี่ ได้พึมพัมออกมาก่อนที่เขาจะนึกถึงคำพูดที่เเจ็คสันให้เอาไว้เกี่ยวกับข้อมูลศัตรู
ติ๊ด
ขณะที่เเฮร์รี่กำลังพึมพัมบางอย่างเสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้ดังกึกก้องอยู่ในหูของเขา
“คุณดาร์คไนท์ ผมมีข่าวจะเเจ้งให้คุณ เหตุการณ์ทางฝั่งด้านนั้น คุณมิราจไนท์คงจะไม่ได้เข้าร่วมการสนับสนุน”เสียงของ J.A.R.V.I.S ได้ดังขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นกับมิราจไนท์ ทำไมเขาถึงไม่มาเข้าร่วมการสนับสนุนเพราะเหตุใด?”ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S เเฮร์รี่ รู้สึกกังวลมาก
“สถานการณ์ทางฝั่งนี้ค่อนข้างซับซ้อนผมไม่สามารถอธิบายให้คุณเข้าใจในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้ เเต่สถานการณ์ที่นี่ไม่ค่อยดีนัก เมื่อเทียบกับการสนับสนุนพวกกัปตันโรเจอร์สทางฝั่งนั้นเเล้ว มิราจไนท์ ต้องการความช่วยเหลือของคุณตอนนี้มากที่สุด”J.A.R.V.I.S ยังคงอธิบาย
“เข้าใจเเล้ว!ไว้นายค่อยบอกรายละเอียดให้ฉันฟังอย่างช้า ๆ เเล้วกัน ฉันจะรีบไปหาเขาทันที!”ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S เเฮร์รี่ กล่าวตอบ
ในขณะเดียวกันเขาก็ขอตัวออกจากฐานเเห่งนี้อย่างรวดเร็วถ้าหากสิ่งที่ J.A.R.V.I.S กล่าวมาเป็นความจริง เเจ็คสันก็กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
“J.A.R.V.I.Sตอนนี้ มิราจไนท์ อยู่ที่ไหน”หลังจากออกจากห้องควบคุมเเฮร์รี่ กล่าวถาม
“ตอนนี้มิราจไนท์ เขาอยู่ที่ลอนดอน!”

ลอนดอน,ชาเมืองสองนาทีก่อนหน้าที่พวกสัตว์ประหลาดปรากฏตัวขึ้น J.A.R.V.I.S ได้ควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนเพื่อดับสังหารพวกมันโดยตรง ความเเข็งเเกร่งของพวกสัตว์ประหลาดพวกนี้สูงมาก เเต่ภายใต้การโจมตีของไอรอนแมนทำให้สามารถจัดการพวกมันได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้ อีเเวนส์ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ของสัตว์ประหลาดที่โผล่ออกมานี้อยู่
เเม้พวกมันจะเเข็งเเกร่งเเต่ด้วยศักยภาพเเละข้อมูลที่J.A.R.V.I.S มีก็สามารถจัดการพวกมันได้อย่างไม่มีปัญหา เรื่องเเก้ไขพวกมันยังไม่ใช่ปัญหาตอนนี้ยังมีเรื่องอื่นอีก
เกี่ยวกับธอร์ เเละ เจน ที่กลับออกมาจากพื้นที่มิติอวกาศ พวกเขาได้มีอาการผิดปกติเเปลกเเตกต่างไปจากเดิมสิ่งนี้ทำให้ J.A.R.V.I.S เเปลกไป นี่ทำให้ อีเเวนส์รู้สึกสงสัยมากขึ้นไปอีก
หลังจากพวกเขาออกมาพื้นที่มิติอวกาศก็ได้รับผลกระทบบางอย่างเเละเริ่มปล่อยคลื่นความผันผวนออกมาถี่มากขึ้น
ตอนนี้ก็ครบกำหนดเวลาที่เเจ็คสันบอกกับJ.A.R.V.I.S เเล้ว J.A.R.V.I.S เองก็กังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นที่ด้านในดังนั้นเขาจึงติดต่อขอความช่วยเหลือจาก ดาร์คไนท์
“นั่นคือหนึ่งในสปีชีส์ที่อยู่ในพื้นที่มิติข้างในนั่นงั้นหรอมันดูดุร้ายมากจริงๆ J.A.R.V.I.S คุณรู้ไหมว่าพวกมันคือตัวอะไร?”หลังจาก J.A.R.V.I.S ได้จัดการพวกสัตว์ประหลาดสองตัวนั่นเสร็จ อีเเวนส์ ในเวลาเดียวกันเขาก็เปิดปากกล่าวถาม J.A.R.V.I.S
“เจ้าหน้าที่อีเเวนส์เขตอำนาจศาลของคุณไม่เพียงพอต่อการเข้าถึงข้อมูล”เกี่ยวกับคำถามของอีเเวนส์J.A.R.V.I.S ยังคงตอบคำถามเเบบเดิม ๆ
“เขตอำนาจศาลไม่เพียงพอ…อืมฉันเข้าใจ”ได้ยินคำตอบของJ.A.R.V.I.S อีเเวนส์ จ้องมองไปที่อีกฝ่ายอย่างไม่เต็มใจ
เเม้เขาอยากจะรู้ข้อมูลนั่นมากเเค่ไหนก็คงเป็นไปไม่ได้สิ่งที่เขาสามารถคาดเดาได้มากที่สุดก็คือการประเมินสภาพสถานการณ์ศพของพวกมันเเละครุ่นคิดด้วยตนเอง
สถานการณ์ย่ำเเย่
ฟุ่บ!
“คิดจะฆ่าฉันงั้นเหรอเช่นนั้นก็ตกตายไปด้วยกันเลยเป็นไง!”เมื่อไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีนี้ได้ดวงตาของเเจ็คสันเปล่งไปด้วยสีเเดงเลือดก่อนที่เขาจะคำรามออกมา
ติ๊ด!
เเจ็คสันได้กดปุ่มควบคุมบางอย่างที่เขาดึงออกมามันเป็นฉนวนระเบิดที่เขาติดตั้งเอาไว้โดยรอบ
บึ้ม!
ภายไปหนึ่งวินาทีพื้นที่รอบๆก็เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนเเรงคลื่นกระเเทกเหล่านี้ส่งผลให้ผนังกำเเพงรอบด้านเริ่มถล่มลงมาอุโมงค์รอบถ้ำได้มีรอยเเตกมากมายเทือกเขาเเห่งนี้เเม้จะดูมั่นคงเเต่ภายใต้เเรงระเบิดที่ยิ่งใหญ่ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่ามันจะไม่ถล่มลงมาทั้งหมด
บึ้ม
จากนั้นร่างของเเจ็คสันเเละผู้นำกลุ่มดาร์คเอลฟ์ก็ได้ถูกผลักกระเเทกไปคนละทิศทางเพราะเเรงระเบิดพวกเขาถูกกลบฝังไปใต้หมอกเเละกลุ่มควันระเบิดจำนวนมาก

โลก,ไซบีเรียฐานพิเศษชั่วคราว S.H.I.E.L.D. เป็นระยะเวลากว่าครึ่งชั่วโมงเเล้วตั้งเเต่พวกเขาเริ่มปฏิบัติการเเผน S คนที่เหลือที่ไม่ได้ไปด้วยพวกเขาได้เฝ้าระวังรออยู่ที่ฐาน
เเม้ข้อมูลที่มิราจไนท์ให้มาเกี่ยวกับ เผ่าดาร์คเอลฟ์ จะทำให้ ทีมพันธมิตรโลกตัดสินใจเคลื่อนไหวเข้าไปด้านในประตูมิติเเต่ท้ายที่สุดเเล้วมันก็ยังอันตรายเกินไปอยู่ดี
เพราะแบบนี้รอบด้านนอกประตูมิติอวกาศจึงติดตั้งคลื่นเเรงระเบิดที่มีอนุภาพมหาศาลหากเเผนS ล้มเหลวคนที่อยู่ด้านนอกจะต้องตัดสินใจลงมือทำลายมันเพื่อความปลอดภัยของโลก
ฟุ่บ!
“ยังไม่ได้ข่าวจากพวกเขาอีกงั้นหรอสถานการณ์ทางฝั่งนั้นมีอะไรเกิดขึ้นกันเเน่?”ในห้องควบคุมกลางฐานเเฮร์รี่ที่รับผิดชอบเฝ้าระวังเขาได้กล่าวถามกับเจ้าหน้าที่สื่อสารด้วยน้ำเสียงกังวล
นอกเหนือจากสมาชิกทีมจำนวนมากที่ถูกส่งออกไปก็ยังมีโดรนตรวจสอบข้อมูลในปัจจุบันเเต่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ดูเหมือนมันจะถูกยิงทิ้งทำให้พวกเขาไม่สามารถรับรู้ข่าวสารทางภาพจากข้างในได้
ทุกครั้งที่เวลาล่วงเลยผ่านไปหลายนาทีเเฮร์รี่ ก็รู้สึกเป็นกังวลมากขึ้น เท่าที่เขารู้มาพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์เหล่านี้เเข็งเเกร่งมากเเละเป็นอันตรายอย่างถึงที่สุดไม่เเปลกที่เขาจะรู้สึกเป็นห่วง
“การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป!เเต่ดูเหมือนจะมีสถานการณ์เปลี่ยนเเปลงบางอย่าง J.A.R.V.I.S ได้ประมวลผลข้อมูลของพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์เหล่านี้เเล้ว พวกเขามีศักยภาพที่เเข็งเเกร่งมาก ดังนั้นพวกเขากำลังหาทางรับมือเเละต้านศึกกับอีกฝ่ายอยู่”ได้ยินคำถามของเเฮร์รี่ เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้รายงานปัญหาให้ฟัง
“เเล้วมีอะไรอีกหรือไม่ทางเรามีการสูญเสียเกิดขึ้นหรือยัง?”เเฮร์รี่กล่าวถามอีกครั้ง
“มีผู้บาดเจ็บล้มตายบางส่วนสมาชิกทีม K เเละ ทีมS ส่วนมากได้รับบาดเจ็บหนัก เเต่เพราะการสนับสนุนของ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ช่วยเหลือพวกเขาโดยการหยุดพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์จำนวนมาก ตอนนี้ คนอื่น ๆ กำลังทำหน้าที่สกัดกั้นพวกมันอยู่ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเดร์เดวิล ได้เข้าต่อกรกับนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ชั้นสูงจนได้รับบาดเเผลหนัก นอกเหนือจากนี้ ทีมอเวนเจอร์ส เเบล็ควิโดว์ ฮอว์กอาย เเละ คนอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน รวมถึงตัวกัปตันโรเจอร์สด้วย”เจ้าหน้าที่สื่อสารไม่ได้ปิดบังข้อมูลเขากล่าวพูดความจริงทุกอย่าง
ได้ยินคำตอบจากเจ้าหน้าที่สื่อสารผิวของเเฮร์รี่ได้เปลี่ยนเเปลงเล็กน้อย จากข้อมูลที่ J.A.R.V.I.S ได้ส่งมา ความเเข็งเเกร่งของพวกดาร์คเอลฟ์เหนือล้ำกว่าที่พวกเขาคาดเอาไว้ ดังนั้นจึงเกิดการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก
ปั้ง!
“บัดซบ!ในเวลาเช่นนี้ หากเเจ็คสันอยู่ด้วยล่ะก็!”เเฮร์รี่ได้ทุบฝ่ามือไปที่โต๊ะควบคุมเบื้องหน้าด้วยความโกรธ
หลังจากมิราจไนท์ออกจากไซบีเรียไปไม่นานกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ได้ตัดสินใจเข้าสู่ประตูมิติอวกาศ ตอนนี้สถานการณ์ทางฝั่งนี้อันตรายมากถ้า เเจ็คสันอยู่ที่นี่ด้วยก็อาจจะพอช่วยอะไรได้บ้าง เเต่เขาเองก็ไม่สามารถติดต่ออีกฝ่ายได้
เมื่อไม่รู้ว่าจะหาทางติดต่อเเจ็คสันยังไงเเฮร์รี่ก็ครุ่นคิดในใจอย่างกังวล
ตอนนี้สิ่งที่เขาคาดหวังมากที่สุดก็คือความช่วยเหลือจากเเจ็คสันเเต่ในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้เขาจะต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง
“พวกเรามีกำลังเสริมอื่นอีกหรือไม่”เเฮร์รี่ได้กล่าวถามออกมา
“เอ่อ…นอกเหนือจากทีมK ,ทีม S เเละ เจ้าหน้าที่องค์กร S.H.I.E.L.D. ทั้งหมดที่เหลือไม่ได้เข้าร่วมเเผน S ดังนั้นพวกเขาจึงอยู่ปกป้องที่สำนักงานใหญ่”
“นายคงไม่ได้หมายความว่า…ไม่มีการสนับสนุนอื่นอีกงั้นหรอ”เเฮร์รี่จ้องมองไปที่เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้ด้วยท่าทีกดดัน
“มีการสนับสนุนเเน่นอนเเต่ว่าตามข้อมูลที่เราได้รับมากองกำลังสนับสนุนของเราจำเป็นจะต้องจัดเตรียมอุปกรณ์เพื่อความเตรียมพร้อม”เจ้าหน้าที่สื่อสารตอบกลับ
“จัดเตรียมอุปกรณ์เเล้วทางด้านไอรอนแมนไม่มีกองกำลังชุดเกราะไอรอนแมนเพิ่มเเล้วงั้นหรอ?”
“ผมได้ติดต่อกับJ.A.R.V.I.S เเล้ว เขาจะส่งชุดเกราะไอรอนแมนมาเสริมทัพอีกครั้ง น่าจะถึงในอีก 5 นาที”เจ้าหน้าทีสื่อสารตอบกลับ
“ฉันเองก็จะไปสนับสนุนพวกเขา!”
สถานการณ์เป็นตาย
ฟวั่บ!
หลังจากเเจ็คสันตวัดดาบออกไปประกายเเสงสีฟ้าก็สว่างวาบขึ้นจากนั้นก็เกิดคลื่นระเบิดในพริบตาต่อมา
บึ้ม!
คลื่นพลังสีฟ้าได้ปะทุออกเพราะการบีบอัดจากพลังงานภายในการระเบิดในครั้งนี้ได้สร้างเเรงสั่นสะเทือนออกไปเป็นวงกว้าง
เห็นคลื่นระเบิดที่ทรงพลังที่เบื้องหน้าผู้นำกลุ่มเผ่าดาร์คเอลฟ์ได้เบิกตากว้างด้วยความสับสน
”เมื่อผู้นำกลุ่มนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์เห็นสหายของตนเองถูกฟันจนร่างระเบิดเขาได้คำรามออกมาอย่างกระทันหัน
“!!!”นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน พวกเขาคำรามอย่างโกรธเคืองเเละพยายามจะหยุดการโจมตีจากคลื่นพลังที่ว่านี้
เเสงสีฟ้าที่ว่ากำลังกลืนกินพวกเขาหากกพวกเขาไม่สามารถหยุดมันได้ความสูญเสียที่มากมายก็จะเกิดขึ้น
กลุ่มดาร์คเอลฟ์ได้ควงอาวุธของตัวเองเเละปลดปล่อยความสามารถของมันออกมาเพื่อช่วยกันต้านทานพลังโจมตีที่รุนเเรง
ปั้ง
ปั้ง
ผู้นำเผ่าดาร์คเอลฟ์ได้ใช้ดาบของตนเองฟาดฟันเข้าไปเพื่อช่วยเหลือด้วยความสามารถที่รุนเเรงของเขาทำให้คลื่นพลังที่อยู่เบื้องหน้าเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนเเรง
ผู้นำเผ่าดาร์คเอลฟ์ได้กวาดมองหาเงาของเเจ็คสันจนพบว่าเเจ็คสันได้ถอยกลับไปที่ด้านหลังพื้นที่มิติในเวลานี้จากความเเข็งเเกร่งของเขาเป็นไปได้อย่างเเน่นอนที่เขาจะไล่ตามอีกฝ่ายไป
เเต่เพื่อจัดการคลื่นพลังด้านหน้าดังนั้นเขาจะต้องอยู่ต้านทานมันเเละช่วยเหลือพวกพ้องที่เหลืออยู่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่ยอมเเพ้เเละจะเข้าไปยังพื้นที่มิติที่อยู่ด้านหลังของศัตรูให้ได้
เหตุผลที่พวกเขาทุ่มเทขนาดนี้ก็เพราะผู้นำของพวกเขามาเลคิธ ได้สั่งการออกมา ไม่ว่าพวกเขาจะค้นพบพื้นที่พิเศษแบบไหน ให้ดำเนินการสำรวจในทันทีเพราะนั่นอาจจะเป็นเบาะเเสของอีเธอร์
ดังนั้นพวกเขาจะต้องจัดการศัตรูตรงหน้าเเละก้าวข้ามไปยังพื้นที่มิติด้านหลังนั่นให้ได้
ผู้นำกลุ่มนักรบดาร์คเอลฟ์ได้คำรามออกมาอีกครั้งก่อนที่ร่างของเขาจะถูกกลืนกินหายเข้าไปท่ามกลางเเสงสีฟ้าที่รุนเเรง
“อึก!ฉันไม่เชื่อว่าการโจมตีของฉันจะไม่สามารถฆ่าพวกเเกได้!”เเจ็คสันที่อยู่ด้านหลังเขาจ้องมองไปที่อีกฝ่ายที่หายไปด้วยสายตาเย็นชา
ในเวลานี้เขาได้ใช้พลังงานภายในจำนวนมากในการใช้ท่าคลื่นสะบั้นสังหารเขาเดิมพันครั้งใหญ่กับการโจมตีนี้ ถ้าหากมันไม่ได้ผล เเจ็คสันก็ตั้งใจจะระเบิดพื้นที่เเห่งนี้เเละตายไปพร้อมกับมัน ถ้าเขาโชคดีรอดขึ้นมาจากการระเบิดได้จริงถึงอย่างนั้นเขาก็จะติดอยู่ที่นี่เเละไม่สามารถกลับไปที่โลกได้
ฟู่ว!
คลื่น!
เพียงเเต่ว่าขณะที่เเจ็คสันเตรียมการจะระเบิดพื้นที่มิตินี้ทิ้งจู่ ๆ กระเเสคลื่นพลังของเขาก็ได้เริ่มจางหายไป
ในเวลานี้เป้าหมายได้เคลื่อนตัวพุ่งเข้ามาประชิดที่ด้านหน้าของเขาโดยไม่คาดคิด
นี่ก็คือผู้นำกลุ่มดารคเอลฟ์การโจมตีจากกริชขนาดใหญ่เล่มนึงได้พุ่งเจาะหน้าอกของเเจ็คสันที่ด้านหน้าทันที
อั๊ก!
เพราะเเจ็คสันได้สูญเสียพละกำลังภายในไปจำนวนมากทำให้กริชดำขนาดใหญ่นี้เจาะทะลุชุดสูทเเพนท่อมสูทของเขาอย่างง่ายดายเลือดสีเเดงบริสุทธิ์จำนวนมากได้สาดกระเซ็นไปรอบพื้นที่
“อั๊ก!”เเจ็คสันได้กระโดดถอยหลังเพื่อหลบหลีกจากนั้นก็ไอออกมาเป็นเลือด
ฟุ่บ!
ในปัจจุบันบาดเเผลของเขารุนเเรงอาจกระทั่งถึงเเก่ชีวิตพละกำลังของผู้นำกลุ่มเผ่าดาร์คเอลฟ์รุนเเรงอย่างมาก เขาคนเดียวไม่สามารถต้านทานอีกฝ่ายได้เลย เพราะการบริโภคกำลังภายในมหาศาลในการต้านทานนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนอื่น ๆ ทำให้เขาสูญเสียพลังในการป้องกันตนเองไป
“เพื่อเเก้ไขปัญหาที่นี่ฉันไม่สามารถลังเลได้อีก!”จ้องมองไปที่ผู้นำกลุ่มดาร์คเอลฟ์ชั้นสูงคนนี้ เเจ็คสันพึมพัมด้วยเสียงต่ำ
จากนั้นเขาก็เลื่อนมือขวาไปที่เอวเพื่อที่จะหยิบอะไรบางอย่างออกมา
ขณะที่เเจ็คสันเคลื่อนไหวผู้นำกลุ่มดาร์คเอลฟ์คนนี้ก็พุ่งเข้าหาเขาพร้อมกับเเยกเขี้ยวที่ดุร้ายก่อนที่จะใช้กรงเล็บที่เเหลมคมของตนเองเพ่งเล็งไปที่ศีรษะของเเจ็คสัน

ตกอยู่ในอันตราย

   ชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัว! ดูเหมือนว่าอีเเวนส์ไม่รู้ว่าชุดเกราะไอรอนแมนพวกนี้ปรากฏตัวขึ้นมาจากไหนเเต่เขาจ้องมองไปที่มันด้วยความตื่นตะลึงอย่างมาก ขณะเดียวกัน เครื่องบินส่วนตัวก็ได้สตาร์ทเครื่องเเละออกเดินทางจากไปโดยสมบูรณ์

   สุดยอด! อีเเวนส์พึมพัมออกมา

  หึ่ม!

  จากนั้นJ.A.R.V.I.S ก็ส่งชุดเกราะไอรอนแมนกระจายไปรอบพื้นที่เพื่อปกป้องพื้นที่โดยรอบเเละเตรียมการสนับสนุน เเจ็คสัน

  ภายใต้การจ้องมองของอีเเวนส์ เเละ J.A.R.V.I.S จู่ ๆ พวกเขาก็เห็นบางสิ่งเกิดขึ้นที่พื้นที่มิติอวกาศนั่น มีเงาร่างขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นออกมาลักษณะท่าทีของมันราวกับเทพมารองค์นึงจากนิยายบางเรื่อง

   นั่นไม่ใช่เเจ็คสันนิ จ้องมองไปที่เงาร่างที่ชัดเจนของอีกฝ่ายอีเเวนส์รู้สึกประหลาดใจ

   นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ ขณะที่อีเเวนส์ตะโกนเสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้ดังขึ้นหลังจากวิเคราะห์สถานะของเงาร่างที่ปรากฏตัวออกมา

  จากนั้นJ.A.R.V.I.S ก็สั่งชุดเกราะไอรอนแมน สามตัว พุ่งเข้าปะทะเงาร่างของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ทันที

  ..

  ชานเมือง,ลอนดอนหลังจากที่ ธอร์ เจน เเละ สเตซี่ จากไป เเละ J.A.R.V.I.S กำลังรับศึกด้านนอก ภายในพื้นที่มิติอวกาศ เเจ็คสัน เองก็กำลังต่อสู้กับพวกดาร์คเอลฟ์ที่บ้าคลั่งหลายตนอยู่

  ปั้ง!

  ดาบในมือของเเจ็คสันได้ฟาดฟันอาวุธประเภทขว้างปาของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่ปาออกมาจากนั้น เเจ็คสัน ก็กระโดดหลบเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตี

  เเจ็คสันเข้าใจดีมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถต้านทานพวกมันเเละไม่ปล่อยพวกมันหลุดออกไปนอกโลกได้โดยรวมเเล้วความเเข็งเเกร่งของพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ก็สูงมาก ยิ่งถ้าเป็นนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ระดับสูงยิ่งมีความสามารถที่สามารถสร้างภัยพิบัติได้

  ดังนั้นเเจ็คสันจึงไม่สามารถต้านทานกลุ่มดาร์คเอลฟ์ที่พยายามจะออกจากพื้นที่มิติเเห่งนี้ เขาได้พยายามต้านทานพวกมันสุดกำลังจนใช้ออกด้วยระเบิดที่มีอยู่ เเต่ราคาที่เเจ็คสันต้องจ่ายก็ค่อนข้างเเพงเช่นเดียวกัน

   อึก!ในไม่ช้าฉันจะไม่สามารถต้านทานพวกมันได้อีก จะต้องหงายไพ่ในมือที่มีอยู่จริง ๆ งั้นหรอ หากรู้ล่วงหน้า คงให้ J.A.R.V.I.S นำกองกำลังสนับสนุนมาช่วยก่อนหน้านี้ อีกไม่กี่นาทีก็จะครบกำหนดครึ่งชั่วโมงเเล้ว เเต่ถึงตอนนั้นฉันคงถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนละมั้ง! จ้องมองไปยังพื้นที่มิติที่รายล้อมไปด้วยพวกดาร์คเอลฟ์ เเจ็คสันได้ไอออกมาหลายที ตอนนี้เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดี

  เเม้ความเเข็งเเกร่งของเเจ็คสันจะพัฒนาจนอยู่ในระดับที่เรียกว่าน่าเกรงขามเเต่ความเเข็งเเกร่งของพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ก็ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน เเละที่นี่ตอนนี้มีนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์มากกว่า 13 คน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ เเจ็คสันจะรับมือพวกมันพร้อมกันได้ถึง 13 คน

  ถ้าเป็นธอร์ที่ฟื้นคืนพลังเหนือธรรมชาติกลับมาทั้งหมดก็ว่าไปอย่าง

   ผู้นำกลุ่มดาร์คเอลฟ์ได้ยกใบมีดยาวขึ้นสูงเเละชี้ไปที่เเจ็คสันอีกครั้ง

  ในฐานะที่เขาเป็นผู้นำกลุ่มตรวจการในครานี้หลังจากเข้าปะทะกับเเจ็คสันเขาก็สัมผัสได้ถึงภัยคุกคามจากอีกฝ่ายไม่ว่าอย่างไรเขาจะต้องจัดการศัตรูที่นี่ให้ได้

   หึ่ม!เเกคิดว่าฉันจะกลัวพวกเเกจริง ๆ งั้นหรอ เห็นผู้นำกลุ่มดาร์คเอลฟ์ชี้ใบดาบมาที่ตนเอง เเจ็คสันกล่าวออกมาอย่างเหยียดหยาม

  เพียงเเต่ว่าถึงเขาจะพูดอย่างนั้นขาของเขากลับก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัวในปัจจุบันเขาไม่มีทางต้านทานพวกมันได้เลย

  ขณะที่เเจ็คสันพยายามจะหลีกเลี่ยงกลุ่มเหล่านั้นจู่ๆ นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ทั้งสามคนก็พุ่งเข้าหาเขาจากด้านข้างเเละเผยการโจมตีออกมา

  ฟวั่บ!

  สองคนเเรกที่โจมตีมาด้วยใบดาบเเจ็คสันได้ยกดาบขึ้นเพื่อต้านทานการโจมตีของพวกมันดังนั้นเขาจึงเปิดเผยช่องว่างเเละให้โอกาสนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์อีกคนที่เหลืออยู่ได้โจมตีเขาในเวลานี้

  เพร้ง!

  ใบดาบนั่นได้ฟาดเข้าเต็มร่างกายของเเจ็คสันชั้นพลังงานที่ปกคลุมรอบร่างกายของเขาได้เเตกออกจากกันเกราะพลังงานที่กันได้เเม้กระทั่งกระสุนปืนเเละการโจมตีจำนวนมากกลับพังทลายในช่วงวินาทีสำคัญในตอนนี้

   บัดซบ! เเจ็คสันได้กลิ้งตัวเพื่อหลบหนีออกจากวงล้อมนี้จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ทั้งสามคนที่รุมทำร้ายเขา

  ในปัจจุบันเเจ็คสันได้รับบาดเจ็บพอสมควร เเต่ถึงอย่างนั้นจิตใจของเขากลับไม่ย่อท้อเขาได้กระตุ้นพลังงานภายในร่างกายอีกครั้งก่อนที่จะรวบรวมมันเอาไว้ที่บนใบดาบของตนเอง

   เจ้าพวกน่ารังเกียจคิดจะฆ่าฉัน เช่นนั้นก็ตายไปซะเถอะ! 

  ฟุ่บ

  ฟวั่บ!

  หลังจากที่เเจ็คสันตะโกนออกมาคลื่นสะบั้นสังหารก็ถูกปลดปล่อยออกไปอย่างดุเดือดที่เบื้องหน้าของพวกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์

 

บอกเล่าความจริง

  สเตซี่จ้องมองไปที่ใบหน้าที่งุ่มง่ามของน้องชายตนเองอีเเวนส์ได้หลบสายตาของเธอเล็กน้อยเเละเเสดงออกราวกับว่ามีอะไรที่อยากจะบอกเธอมานาน

   อะ…นายคงจะไม่ได้สารภาพรักฉันใช่มั้ยอีเเวนส์นายเป็นน้องของฉันนะ ! ได้ยินคำพูดของอีเเวนส์ สเตซี่จ้องมองไปที่อีเเวนส์เเละทำสีหน้าตื่นตะลึง

  อีเเวนส์ … 

  ได้ยินคำพูดของสเตซี่อีเเวนส์ ได้เเสดงสีหน้าตกใจเล็กน้อย นี่คือสิ่งที่พี่สาวของเขาคิดจริง ๆ งั้นหรอ สิ่งที่เขาจะบอกก็คือเขาได้ซ่อนสถานะเจ้าหน้าที่ขององค์กร S.H.I.E.L.D. เอาไว้ต่างหาก

   เอ่อ…พี่สาวสเตซี่ที่จริงเเล้วผมเป็นเจ้าหน้าที่จากองค์กร S.H.I.E.L.D. ผมได้รับภารกิจมาเพื่อช่วยเหลือคุณรวมถึงปกป้องคุณเเละคุณฟอสเตอร์ ผมไม่ได้มีความคิดอื่นเเอบเเฝงจริง ๆ  เห็นสเตซี่เข้าใจผิด อีเเวนส์ ได้พยายามอธิบาย

   อ๋อ…เข้าใจล่ะ! เเต่เดี๋ยว เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ เมื่อได้ยินคำพูดของอธิบายของอีเเวนส์ สเตซี่ ยังคงพยายามกล่าวถามเพื่อย้ำคำตอบอีกครั้ง

   ผมพูดว่าผมเป็นเจ้าหน้าที่ขององค์กรS.H.I.E.L.D. จ้องมองไปที่ สเตซี่ อีเเวนส์ ได้กล่าวพูดอีกครั้ง

   อ่า,นายเป็นเจ้าหน้าที่ขององค์กรS.H.I.E.L.D. จริง ๆ ดูไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่เลย! สเตซี่ได้พูดใส่อีเเวนส์ราวกับไม่เชื่อ

  !

  อย่างไรก็ตามอีเเวนส์ก็ไม่ได้ใส่ใจเขาให้เธอลงโทษฐานที่เขาปิดบังความจริงจากเธอนี่คือหนทางที่ทำให้สเตซี่ใจเย็นลงได้

   ยังไงก็เถอะพวกเราควรให้ความสนใจกับสถานะของ ธอร์ เเละ คุณฟอสเตอร์ในตอนนี้ อีเเวนส์ได้กล่าวพูดออกมา

   จริงด้วย!พวกเรารีบเข้าไปหาเขากันเถอะ! ได้ยินคำพูดของอีเเวนส์ สเตซี่ นึกขึ้นได้ทันที

  ฟุ่บ!

  ขณะที่สเตซี่ เเละ อีเเวนส์ เตรียมจะเข้าไป จู่ ๆ ชุดเกราะไอรอนแมนก็ปรากฏตัวขึ้นขวางกั้นพวกเขาอีกครั้ง

   ทำไมกันทำไมเขาถึงต้องขวางทางเราด้วย? สเตซี่ รู้สึกสงสัยอย่างมาก

  จนถึงปัจจุบันเธอไม่สามารถรู้ได้เลยว่าชุดเกราะไอรอนเเมนนี่กำลังคิดอะไรอยู่ เดิม ชุดเกราะไอรอนแมน ถูกสร้างขึ้นโดย โทนี่ สตาร์ค เเละ มีJ.A.R.V.I.S เป็นระบบควบคุมดังนั้นตอนนี้โทนี่ไม่อยู่คนที่ควบคุมก็คือ J.A.R.V.I.S

   พี่สาวสเตซี่อาจเป็นเพราะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกเขา พวกเราเลยถูกกีดกันไม่ให้เข้าไป! อีเเวนส์ได้พยายามอธิบายให้สเตซี่ที่อยู่ใกล้เคียงฟัง

   ตอนนี้มีบางสิ่งเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณเจน ฟอสเตอร์ เเละ ธอร์ ดังนั้นผมจะพาพวกเขากลับนิวยอร์กเพื่อดำเนินการรักษาที่นั่นทันที หลังจากอีเเวนส์อธิบาย J.A.R.V.I.S ก็ได้พูดขึ้น

  ถึงเเม้ว่านี่จะไม่เกี่ยวกับเขตอำนาจศาลเเต่ด้วยความรู้ความเข้าใจของคนธรรมดาไม่อาจประเมินสิ่งลี้ลับเหล่านี้ได้

   กลับไปนิวยอร์กตอนนี้งั้นหรอ ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S สเตซี่ กล่าวถามอย่างเร่งรีบ

  ก่อนหน้านี้ที่สัตว์ประหลาดลึกลับปรากฏตัวออกมาสเตซี่ ก็ไม่ต้องการที่จะอยู่ที่นี่อีก ไม่มีใครรู้ว่าด้านในมิติอวกาศนั่นมีสิ่งลี้ลับพวกนี้มากน้อยเเค่ไหน เเต่ถึงอย่างนั้น เด็กหนุ่มเเจ็คสันนั่นก็ยังไม่ได้กลับออกมา สเตซี่ จึงยังไม่ต้องการจากไปที่นี่

   ใช่เเล้ว,สถานการณ์ของพวกเขาจำเป็นจะต้องได้รับการรักษาโดยเร็วจริงสิ คุณจะกลับไปกับพวกเขาด้วยหรือไม่ ราวกับว่าสามารถเดาความคิดของสเตซี่ได้ J.A.R.V.I.S กล่าวถาม

   กลับไปด้วยกันคุณหมายถึงให้เรากลับไปที่นิวยอร์กพร้อมพวกเขา? 

   ครับ,สถานการณ์ปัจจุบันพวกคุณไม่เหมาะที่จะสวมใส่ชุดเกราะไอรอนแมนดังนั้นผมจะให้พวกคุณขึ้นเครื่องบินลำนั้นเเละกลับไปที่นิวยอร์กพร้อมกัน 

   ก็ได้พวกเราจะกลับพร้อมกับพวกเขา ได้ยินคำพูดของJ.A.R.V.I.S สเตซี่ ตอบกลับอย่างเร่งรีบ

   เครื่องบินของผมจอดอยู่ในทิศทางนั้นคุณสามารถไปขึ้นรอข้างในได้เลย! J.A.R.V.I.Sกล่าวพูดอย่างสงบ

   เข้าใจเเล้ว! สเตซี่ตอบกลับ

  จากนั้นเธอก็เหยียบรองเท้าส้นสูงของเธอเดินอย่างเรียบง่ายไปในทิศทางที่เครื่องบินจอดอยู่สำหรับ น้องชายของเธอคนนี้ เธอไม่ได้กังวลอีกต่อไปหลังจากที่รู้ว่าอีเเวนส์เป็นเจ้าหน้าที่ขององค์กร S.H.I.E.L.D.

  จ้องมองไปที่สเตซี่อีเเวนส์ รู้สึกพูดอะไรไม่ออก เขาเป็นเจ้าหน้าที่ขององค์กร S.H.I.E.L.D. ดังนั้นความรับผิดชอบย่อมต้องมาก่อนเสมอ

  หลังจากสเตซี่เดินจากไปJ.A.R.V.I.S ก็ให้ชุดเกราะไอรอนแมน พา เจน เเละ ธอร์ ไปยังเครื่องบินส่วนตัวที่จอดอยู่ตรงมุมถนน

   เจ้าหน้าที่อีเเวนส์คุณจะไม่ไปกับพวกเขาจริงเหรอ หลังจากช่วยเหลือทั้งสามคนเสร็จ เสียงของ J.A.R.V.I.S ในชุดเกราะไอรอนแมนก็ดังขึ้นอีกครั้ง

   เอ๋…อืมฉันไม่ไปฉันยังไม่ได้รับมอบหมายคำสั่งจากสำนักงานใหญ่ ดังนั้น ฉันจะรออยู่ที่นี่ ได้ยินคำถามของ J.A.R.V.I.S อีเเวนส์ ตอบกลับ

   เช่นนั้นเราก็มาปกป้องพื้นที่ส่วนนี้ด้วยกัน! ได้ยินคำตอบของอีเเวนส์J.A.R.V.I.S พูดขึ้น

  ฟู่วว

  ขณะเดียวกันอีเเวนส์ที่กำลังครุ่นคิดอยู่จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังของเขา ด้วยความสงสัยอีเเวนส์จึงหันศีรษะไปมองเเละพบชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัวที่ปรากฏตัวออกมา

 

เขตอำนาจศาลไม่เพียงพอ

  หึ่ม!

  ช่วงเวลานั้นเองJ.A.R.V.I.S ได้เเจ้งเตือนเกี่ยวกับพื้นที่มิติที่กระจายคลื่นความผันผวนออกมาอย่างรุนเเรงอีกครั้ง ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S เจ้าหน้าที่โคลสันได้ให้ความสนใจในทันที

  ฟุบ

  ขณะที่ทำการตรวจสอบสถานการณ์พื้นที่มิติJ.A.R.V.I.S ได้ควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนไปยังพื้นที่มิติอวกาศนั่นเพื่อตรวจสอบ

   เกิดอะไรขึ้นทำไมไอรอนแมนดูเเปลกไป? เห็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวถูกเเก้ไขเเต่ไอรอนแมนดูเเปลกไป สเตซี่ รู้สึกสงสัย

   หืมดูเหมือนทางด้านนั้นจะมีบางอย่างเกิดขึ้น! เห็นไอรอนแมนพุ่งกลับไปยังทิศทางลานบางอีเเวนส์ ตะโกนขึ้น

  ฟุ่บ!

  จากนั้นอีเเวนส์ก็เริ่มวิ่งไล่ตามไอรอนแมนทั้งสามตัวไป

  J.A.R.V.I.Sได้ควบคุมไอรอนแมนมาถึงลานบ้านเเละดำเนินการตรวจสอบพื้นที่มิติที่เกิดความผันผวนจากนั้นเงาร่างของคนสองคนที่กอดคอกันก็ปรากฏขึ้น นี่ก็คือ เจน กับ ธอร์

  J.A.R.V.I.Sได้สเเกนร่างกายของพวกเขาเเละตรวจสอบพวกเขาอย่างรวดเร็ว

   นั่นมัน 

   เจนกับ ธอร์ ! 

  ในที่สุดหลังจากสเตซี่ เเละ อีเเวนส์ มาถึงทิศทางที่ไอรอนแมนมา พวกเขาก็เห็นทางลานบ้านในพื้นที่มิติที่กอดคอกันเดินออกมา

  ธอร์เเละ เจน ได้ออกมา หลังจากเห็นชุดเกราะไอรอนแมน พวกเขาก็ตกใจเพียงเล็กน้อย เเต่ เจน ก็รู้สึกสงบ เธอพยายามพยุงธอร์ออกจากพื้นที่มิติตรงนั้น

  อีเเวนส์เเละ เจน ได้รีบเข้าไปหาทั้งสองคนอย่างรวดเร็วหลังจากที่ทั้งสองคนเดินออกมาจากพื้นที่มิติที่อยู่ตรงลานบ้าน

   คุณฟอสเตอร์! 

   ธอร์! 

  จ้องมองไปที่อาการที่เหนื่อยล้าของธอร์เเละ เจน สเตซี่ เเละ อีเเวนส์ รู้สึกกังวลอย่างมาก เเต่ ธอร์ เเละ เจน กลับไม่ได้ตอบสนองคำพูดใด ๆออกมา

   มิสสเตซี่ เเละ อีเเวนส์ ได้โปรดให้พวกคุณถอยออกมาชั่วครู่ ผมจำต้องดำเนินการตรวจสอบร่างกายของพวกเขา เห็นสเตซี่ เเละ อีเเวนส์ พุ่งเข้าไปหา ธอร์ เเละ เจน เสียงของ J.A.R.V.I.S ได้ถูกส่งออกมา

   เอ๋…อืมคุณรีบช่วยตรวจสอบพวกเขาเร็ว! ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S สเตซี่ พูดตอบกลับในทันที

  ตึกตึก

  จากนั้นอีเเวนส์ก็ได้ผละตัวออกไปยังพื้นที่ปลอดภัยเขาได้รับข้อความติดต่อจากS.H.I.E.L.D. เมื่อไม่นานมานี้เกี่ยวกับการประสานงานกับ ไอรอนแมน

  หลังจากสเตซี่ เเละ อีเเวนส์ เดินจากไป เเขนเหล็กของชุดเกราะไอรอนแมน ก็ฉายรังสีเเสงสีฟ้าไปที่ร่างของธอร์เเละเจนเพื่อสเเกนร่างกายของพวกเขาโดยตรง

  เเสงสีฟ้าได้สอดผ่านร่างของธอร์ เเละ เจน ก่อนที่จะประมวลผลข้อมูลเเละส่งให้กับระบบของ J.A.R.V.I.S

  ผ่านไปหลายวินาทีในขณะที่J.A.R.V.I.S กำลังตรวจสอบสภาพร่างกายของ ธอร์ เเละ เจน สเตซี่ ที่เห็นยังตรวจสอบไม่เสร็จ เธอรู้สึกร้อนใจมาก

   เป็นยังไงบ้างพวกเขาไม่เป็นไรใช่มั้ย? สเตซี่ กล่าวถาม J.A.R.V.I.S ทันที

  อย่างไรก็ตามขณะที่ สเตซี่ เปิดปากกล่าวถาม J.A.R.V.I.S กลับไม่ได้ตอบกลับในทันที ราวกับว่าเขาตรวจพบบางสิ่งบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้

   J.A.R.V.I.S เป็นยังไง? คุณตรวจสอบ ธอร์ เเละ คุณ ฟอสเตอร์ เสร็จเเล้วใช่มั้ย เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา? เห็นชุดเกราะไอรอนแมนในปัจจุบันไม่ตอบคำถาม อีเเวนส์ได้กล่าวพูดขึ้น

  เขาเองก็รู้สึกกังวลเช่นเดียวกัน

  ในฐานะที่เขาเป็นเจ้าหน้าที่องค์กรJ.A.R.V.I.S เขาย่อมรู้จักปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะ ที่ชื่อว่า J.A.R.V.I.S ,J.A.R.V.I.S ถูกสร้างโดย โทนี่ สตาร์ค ระบบของ J.A.R.V.I.S เเทบจะเรียกได้ว่าครอบคลุมข้อมูลทั่วทั้งโลก

   ดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้น!เเต่อำนาจศาลของคุณยังไม่สูงพอ ดังนั้นขออภัยผมไม่สามารถตอบคำถามให้คุณได้ เผชิญหน้ากับคำถามของ อีเเวนส์ J.A.R.V.I.S ได้เปิดปากตอบ

  J.A.R.V.I.Sได้เปิดปากพูดเช่นนี้ เเสดงว่า เขาได้ตรวจสอบพบอะไรบางอย่าง ในร่างกายของ ธอร์ เเละ เจน เหตุผลที่สำคัญก็คือมันเป็นข้อมูลลับ ดังนั้นเขตอำนาจศาลในการขอข้อมูลจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการตัดสินใจที่จะมอบคำตอบ

   เขตอำนาจศาลไม่เพียงพอเขตอำนาจศาลอะไร? อีเเวนส์ เขาหมายถึงอะไรกัน ทำไมพวกเราไม่สามารถรู้สถานการณ์ของ คุณ ฟอสเตอร์ เเละ ธอร์ ได้ พวกเราคือเพื่อนพวกเขา!  ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S สเตซี่ รู้สึกสงสัยอย่างมาก

   เขตอำนาจศาลไม่เพียงพอ…เข้าใจเเล้วไม่มีอะไรหรอกพี่สาวไม่ต้องกังวล อีเเวนส์ไม่ได้ตอบคำถามสเตซี่ เขาเข้าใจสิ่งที่ J.A.R.V.I.S พยายามจะสื่อ

  จากนั้นอีเเวนส์ก็จ้องมองไปที่พี่สาวของตนเอง

   พี่สาว,จริงๆ เเล้ว ผมมีเรื่้องที่ปิดบังความจริงพี่อยู่… 

 

กำจัดภัยคุกคาม

  ซ่า!

  ฝนได้สาดเทลลงมาเบื้องล่างสัตว์ประหลาดที่ถูกโจมตีเมื่อครู่ได้รับบาดเจ็บเเละพยายามหอบสังขารของมันหนี เเน่นอนว่าความเร็วของสัตว์ประหลาดตัวนี้ย่อมเชื่องช้ากว่าเดิมมากมันได้หลบหนีไปยังสถานที่ห่างไกลในเเอบซอยที่ค่อนข้างมืดมิด

  ฟู่ว!

  ช่วงที่สัตว์ประหลาดนี่กำลังหลบหนีจู่ๆ ชุดเกราะไอรอนแมน 3 ตัวก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับระดมยิงกระสุนปืนเเละขีปนาวุธขนาดเล็กถล่มซอยเล็ก ๆ นั่น

  บึ้ม!

   คำนวณเส้นทางโอกาสปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของศัตรู93.7%! J.A.R.V.I.Sได้ประมวลผลวิเคราะห์สถานการณ์เเละจู่โจมศัตรูในเวลาเดียวกัน

  ฟุ่บ!

  เพียงพริบตาเดียวเลเซอร์พลังงานสูงจากชุดเกราะไอรอนแมนทั้งสามได้ปล่อยออกมาทะลุร่างของสัตว์ประหลาดนั่นอย่างรวดเร็วเเน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะหลบหนีออกจากการโจมตีในครั้งนี้ได้

  ร่างของสัตว์ประหลาดที่พยายามกระโดดหลบหนีการโจมตีได้ร่วงหล่นลงพื้นท่ามกลางสายฝนที่เทลงมา

   สุดยอด!ไอรอนแมน เเข็งเเกร่งมากจริง ๆ ! สเตซี่ที่ไล่ตามมาเธอเห็นร่างที่เน่าเปื่อยของสัตว์ประหลาดนั่นเเละตะโกนออกมา

   พี่สาวสเตซี่ตอนนี้พวกเราปลอดภัยเเล้ว… อีเเวนส์ที่อยู่ข้าง ๆ ได้กล่าวพูดขึ้น

  หลังจากเห็นชุดเกราะไอรอนแมนนั่นโจมตีด้วยพลังงานเลเซอร์เเรงสูงอีเเวนส์ก็รู้สึกโล่งใจสัตว์ประหลาดน่ากลัวในอดีตมันได้ร่วงหล่นบาดเจ็บจนไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้อีก

   โฮกก… ภายใต้สายฝนที่เทลงมาสัตว์ประหลาดนั่นได้คำรามออกมาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะสิ้นใจตายไป

  ฟู่วว

  หลังจากฆ่าสัตว์ประหลาดตัวนี่ได้เสร็จชุดเกราะไอรอนแมนทั้งสามตัวก็ร่อนลงมาจากข้างบนพร้อมกับเริ่มตรวจสเเกนสภาพร่างกายของสัตว์ประหลาดตัวนี้

   สัญญาณชีพจรชีวิตของศัตรูกำลังลดลงอย่างรวดเร็วประสบความสำเร็จในการโจมตีศัตรู! ภายไปหลายวินาที J.A.R.V.I.S ได้ตรวจสอบเเละประเมินภัยคุกคามว่าได้สิ้นสุด

  ติ๊ด

  ช่วงขณะที่J.A.R.V.I.S จัดการเเก้ไขสถานการณ์เสร็จ จู่ ๆ ระบบของเขาก็ได้รับการติดต่อจาก สำนักงานใหญ่ของ S.H.I.E.L.D.

  ภายใต้การความร่วมมือโทนี่ สตาร์ค ได้ให้ J.A.R.V.I.S สนับสนุนระบบเเละความช่วยเหลือกับ องค์กร S.H.I.E.L.D. ดังนั้นจึงไม่เเปลกที่ องค์กร S.H.I.E.L.D. จะติดต่อหา J.A.R.V.I.S.

   J.A.R.V.I.S.สถานการณ์ทางฝั่งนั้นเป็นยังไงบ้าง เเก้ไขสถานการณ์สำเร็จหรือไม่? มีความสูญเสียเกิดขึ้นหรือป่าว? ทันใดนั้นภายในชุดเกราะไอรอนแมนเสียงที่คุ้นเคยก็ได้ดังขึ้น

   เจ้าหน้าที่โคลสัน ภัยคุกคามได้ถูกกำจัดเเล้ว ไม่มีผู้เสียชีวิต โปรดสบายใจ! ได้ยินคำถามนั่น J.A.R.V.I.S. ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

  ในขั้นต้นคนที่รับหน้าที่ดูเเลสำนักงานใหญ่ในตอนนี้อยู่ก็คือเจ้าหน้าที่ โคลสัน เเม้เขาจะไม่มีความเเข็งเเกร่งเหมือนกับซูเปอร์ฮีโร่คนอื่น ๆ เเต่ด้านการจัดการปัญหา เขาค่อนข้างประสบความสำเร็จในฐานะเจ้าหน้าที่ชั้นอาวุโส

   งั้นหรอ!ตอนนี้ทางด้านกำลังหลักของ S.H.I.E.L.D. โทนี่ สตาร์ค เเละ ทีมX-MEN ก็ได้ดำเนินการเเผน S กันอยู่ สถานการณ์ทางฝั่งโลกได้ตกอยู่ในความรับผิดชอบของพวกเราตอนนี้! เจ้าหน้าที่โคลสันกล่าวอย่างผ่อนคลาย

   จริงสิ,เเจ็คสันเเละ ธอร์ ออกมาหรือยัง ดูเหมือนว่านายจะไม่ได้รายงานเกี่ยวกับพวกเขาเลย? หลังจากรู้ว่าสัตว์ประหลาดนั่นถูกจัดการลงเเล้ว เจ้าหน้าที่โคลสันได้กล่าวถามหัวข้อสำคัญ

   พวกเขายังไม่ออกมา 

   ยังไม่ออกมาหรือว่ามีปัญหาเกิดขึ้นไม่ได้ฉันจะส่งกำลังสนับสนุนไปที่นั่นในทันที เเม้ตอนนี้กัปตันโรเจอร์สจะไม่อยู่ เเต่อำนาจสั่งการก็ยังอยู่ในมือของฉัน ฉันจะรีบดำเนินการทันที! ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S เจ้าหน้าที่โคลสันค่อนข้างกังวล

  สถานะของธอร์ยังไม่เเน่นอนสำหรับพวกเขา เเต่ธอร์มีความเกี่ยวพันธ์กับค้อนลึกลับที่ปรากฏขึ้นในฐานนิวเม็กซิโก ดังนั้น พวกเขาจึงคาดเดาได้ว่าธอร์จะต้องมีสถานะไม่ธรรมดาอย่างเเน่นอน

  ภายใต้การตรวจสอบของพวกเขาเเม้ธอร์จะดูเหมือนคนธรรมดาทุกประการเเต่เขาก็ถูกกำหนดให้เป็นบุคคลเฝ้าระวังระดับ S เพราะนอกเหนือจากรูปร่างที่สูงใหญ่เเล้วธอร์ยังมีพละกำลังร่างกายที่มหาศาล สำหรับความสัมพันธ์ มีเเจ็คสันคบเป็นสหาย จะว่า เป็นคนรู้ใจสำหรับธอร์ก็ไม่ผิด, เกี่ยวกับ เเจ็คสัน หลิน กัปตันโรเจอร์ส ให้ความสนใจในการสังเกตุเด็กคนนี้ เพราะเรื่องลึกลับที่ดึงให้เด็กคนนี้เข้าไปพัวพันหลายอย่าง พวกเขาองค์กรS.H.I.E.L.D. จึงสงสัยสถานะที่เเท้จริงเเละเบื้องลึกเบื้องหลังที่เด็กคนนี้ซ่อนอยู่

  ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นธอร์ เเละ เเจ็คสัน ก็ถือเป็นตัวละครที่สำคัญ หากพวกเขาหลุดเข้าไปในพื้นที่มิติเเละไม่ได้กลับออกมา ด้วยอิทธิพลที่สนับสนุนเบื้องหลังของทั้งสองคนอยู่ อาจทำให้องค์กร S.H.I.E.L.D. พบกับปัญหายากลำบากภายหลัง

   ไม่จำเป็น,ก่อนที่คุณเเจ็คสันจะเข้าไปเขาได้บอกกล่าวเเล้วว่าภายในระยะเวลาครึ่งชั่วโมงเขาไม่ต้องการการสนับสนุนใดๆ  ได้ยินคำพูดของเจ้าหน้าที่โคลสัน J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

   J.A.R.V.I.S,นายเชื่อคำพูดเด็กคนนั้นเเละตั้งใจจะรอจนครบครึ่งชั่วโมงถ้าในครึ่งชั่วโมงนี้มีอันตรายเกิดขึ้นกับพวกเขาจะทำยังไง? ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S เจ้าหน้าที่ โคลสันกล่าวถามอย่างเลี่ยงไม่ได้

  ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ โคลสันได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ อีเเวนส์ เกี่ยวกับพื้นที่มิติที่ปรากฏขึ้นนี้ ดังนั้นเขาจึงพอรู้รายละเอียดอยู่คร่าว ๆ

  ฟุ่บ!

   ตรวจพบความผันผวนของพื้นที่มิติที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นดูเหมือนจะมีบางอย่างกำลังจะออกมา ขณะที่กำลังสนทนากับเจ้าหน้าที่โคลสัน J.A.R.V.I.S ก็เปิดปากขึ้นเพื่อเตือนทันที

 

J.A.R.V.I.S เปลี่ยนเเผน

  ปั้งปั้ง

  ก่อนหน้านี้ที่อีเเวนส์ยิงปืนออกไปมันไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับสัตว์ประหลาดพวกนั้นเเต่ไปยั่วให้มันโกรธมากขึ้นกว่าเดิม

   โฮกโฮกกก! ดวงตาสีเเดงกลุมโตได้จ้องมองไปที่เหยื่อตัวเล็ก ๆ ที่ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย

   ไอ้บ้าเอ้ย! เห็นสัตว์ประหลาดทั้งสองตัวจ้องมองมาที่ตนเองอย่างดุเดือดสีหน้าของอีเเวนส์พลันถอดสี

   เจ้าหน้าที่อีเเวนส์,ทางสำนักงานใหญ่ได้รับรายงานสถานการณ์ของคุณเเล้วทางเราจะรีบส่งกองกำลังสนับสนุนจะไปถึงทันทีจนกว่าจะถึงตอนนั้นคุณจะต้องช่วยเหลือตนเองให้ปลอดภัย ขณะที่อีเเวนส์กำลังหลบหนีจู่ ๆ เครื่องสื่อสารในมือของเขาก็กระจายเสียงจากสำนักงานใหญ่ของ S.H.I.E.L.D.

   มาถึงทันทีไหนกัน? ได้ยินคำตอบสื่อสาร อีเเวนส์ ตะโกนออกมาดัง ๆ

  ตอนนี้เขาไม่ได้สนศักดิ์ศรีของตนเองเเล้วเพราะเขากำลังจะโดนเจ้าสัตว์ประหลาดพวกนี้ขย้ำตายตอนไหนก็ไม่รู้ หากการสนับสนุนยังมาไม่ถึง อีเเวนส์ ก็ไม่รู้ว่าจะหลบหนีจากสถานการณ์ตรงนี้ยังไง

   เวรเเล้วเวรเเล้ว! 

  เป็นอีกครั้งที่อีเเวนส์ที่กำลังหลบหนีได้สบถออกมาตลอดทาง

  ตึกตึก

  เสียงฝีเท้าของสัตว์ประหลาดนั่นเริ่มไล่ตามหลังเขามาเรื่อยๆ ทั้งยังอยู่ห่างไม่ไกลจากตำเเหน่งของเขา

   โฮกก! จากนั้นสัตว์ประหลาดนั่นก็ดีดตัวพุ่งขึ้นไปก่อนที่จะหล่นลงมาดักตรงเบื้องหน้าของอีเเวนส์

   นี่ฉันจะต้องมาตายที่นี่จริงงั้นหรอ ฉันเพิ่งจะอายุไม่เท่าไหร่เองนะ! เมื่อเห็นสัตว์ประหลาดนั่นเตรียมจะโจมตีตนเอง อีเเวนส์สั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

   พี่สาวสเตซี่!เธอได้หนีไปก่อนหน้านี้ ดังนั้นหวังว่าเธอจะปลอดภัยนะ! 

  ฟุ่บ

  อีเเวนส์ได้หลับตาลงเเละเตรียมรับชะตากรรมของคนที่ตาย

  ปั้งปั้ง

  เเต่ทว่าขณะนั้นเองเสียงกระสุนก็ได้ถูกยิงออกมาอย่างต่อเนื่องจากนั้นก็ปรากฏเสียงกรีดร้องโหยหวนที่น่าส่งสารดังออกมา

   โฮกกก! สัตว์ประหลาดนั่นได้คำรามออกมาอย่างเจ็บปวดทำให้มันล่าถอยผละออกไปเล็กน้อย

   หรือว่าเป็นการสนับสนุนจากสำนักงานใหญ่ อีเเวนส์ได้เปิดดวงตาขึ้นเเละจ้องมองสัตว์ประหลาดที่ถูกขับไล่ออกไป

  ฟุ่บ!

  ทันทีที่อีเเวนส์เปิดตาขึ้นเขาจ้องมองไปที่พื้นที่ด้านหน้าในอาคารที่ว่างเปล่าสัตว์ประหลาดนั่นที่ล่าถอยออกไปตอนนี้กำลังถูกล้อมรอบไปด้วยชุดเกราะไอรอนแมน สามตัว เเละ พวกเขากำลังเริ่มโจมตีสัตว์ประหลาดนั่นอย่างดุเดือด

   การสนับสนุนจากสำนักงานใหญ่ที่ว่าก็คือไอรอนแมน เห็นชุดเกราะไอรอนแมนทั้งสามตัวรุมโจมตีสัตว์ประหลาดนั่นจนไม่สามารถหนีไปไหนได้ อีเเวนส์พึมพัมออกมา

  องค์กรS.H.I.E.L.D. เเละ ไอรอนแมน โทนี่ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน เเต่ข้อมูลระดับนี้มีเเต่เจ้าหน้าที่ตัวเเทนมากกว่าระดับ 6 เท่านั้นที่รู้ ดังนั้น อีเเวนส์จึงประหลาดใจอย่างมากต่อการปรากฏตัวของ ไอรอนแมน

  ปั้งปั้ง

   โฮกก! 

   สุดยอด! เห็นชุดเกราะไอรอนแมนทั้งสามตัวทำการโจมตีอีเเวนส์รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะพวกเขาไม่ปล่อยโอกาสให้สัตว์ประหลาดนั่นได้มีโอกาสหลบหนีเเม้เเต่น้อย

  ขณะที่อีเเวนส์กำลังดูการต่อสู้ของไอรอนแมนเเละสัตว์ประหลาดจู่ ๆ ด้านหลังของเขาก็ปรากฏเสียงรองเท้าส้นสูงเดินเข้ามา เธอก็คือ สเตซี่ ที่วิ่งไปก่อนหน้านี้

   อีเเวนส์!ทำไมนายยังไม่หนีอีก! สเตซี่ ที่เลือกที่จะกลับมา เธอได้กล่าวบอกน้องชายของเธอ

  เห็นสเตซี่ดึงมือของตนเองเเละเตรียมวิ่งออกไปอีเเวนส์ได้หยิบมืออก

   พี่สาวสเตซี่!ดูเหมือนพวกเราจะไม่ต้องหนีเเล้ว! คุณลองมองดูนั่น! อีเเวนส์กล่าวบอกสเตซี่

   ดูอะไรในสถานการณ์อันตรายเช่นนี้นายยังจะให้ฉันดูอะไรอีก? ได้ยินคำพูดของน้องชาย สเตซี่ รู้สึกพูดอะไรไม่ออก

  ปั้งปั้ง ปั้ง

   โฮกกกโฮกก! 

  ช่วงที่สเตซี่หันศีรษะไปเธอก็เห็นสัตว์ประหลาดนั่นถูกยิงด้วยขีปนาวุธจากชุดเกราะไอรอนแมนทั้งสามตัวกายเนื้อที่เเข็งเเกร่งของพวกมันได้เกิดร่องรอยบาดเเผลขนาดใหญ่

   ไอรอนแมน! หลังจากเห็นสถานการณ์ต่อสู้สเตซี่ พึมพัมอย่างตกใจ

  ก่อนหน้านี้ในนิวเม็กซิโกที่เธอรอดมาได้ก็เพราะชุดเกราะไอรอนแมน ดังนั้นเธอจึงกลายเป็นเเฟนคลับของไอรอนแมนอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเมื่อเห็นชุดเกราะไอรอนแมนปรากฏขึ้นเพื่อปกป้องเธอเป็นธรรมชาติที่เธอจะรู้สึกตกใจเเละตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน

  ปั้ง!

  ร่างที่โทรมของสัตว์ประหลาดนั่นได้ถูกซัดจนไปชนเข้ากับตัวตึกเเละร่วงหล่นลงมาอย่างรุนเเรงขณะนั้นเองสัตว์ประหลาดพวกนั้นก็เตรียมจะหลบหนี

   ไอรอนแมน!ไอ้สัตว์ประหลาดนั่นกำลังจะหนีเเล้ว! เห็นสัตว์ประหลาดพวกนั้นเตรียมจะหลบหนี สเตซี่ ได้กล่าวเชียร์ไอรอนแมนอย่างเต็มที่

  ขณะที่สเตซี่ ตะโกน เเน่นอนว่าชุดเกราะไอรอนแมนทั้งสามตัวก็ได้ไล่ล่าสัตว์ประหลาดที่หลบหนีไป

   ตรวจจับคลื่นพลังชีวิตของศัตรูเหลือต่ำกว่า30% ดำเนินการเพื่อจัดการโดยสมบูรณ์ J.A.R.V.I.S ได้คำนวณผลลัพธ์ที่สเเกน

  สเตซี่เเละ อีเเวนส์ หารู้ไม่ว่าก่อนที่ J.A.R.V.I.S จะส่งชุดเกราะไอรอนแมนมาจัดการสัตว์ประหลาดพวกนี้ เขาได้ทำการวิเคราะห์ศัตรูจนละเอียดเเล้ว

  เดิมJ.A.R.V.I.S ต้องการวางเเผนจับเป็นพวกมัน เเต่ตอนนี้หากปล่อยสัตว์ประหลาดนี่หนีออกไปได้อาจสร้างความเสียหายขนาดใหญ่ให้กับ ลอนดอน ดังนั้น J.A.R.V.I.S จำเป็นจะต้องเปลี่ยนเเผน

  ��

 

ฉันต้องการความช่วยเหลือ

  โลก,ในย่านชานเมืองลอนดอนหลังจากได้รับเเจ้งข่าวจาก อีเเวนส์ สำนักงานใหญ่ของ S.H.I.E.L.D. ก็ได้ส่งคนมาปกป้องพื้นที่มิติเเห่งนี้ สำหรับ เดซี่ เธอค่อนข้างเหนื่อยล้า เธอได้นั่งหลบพักอยู่ใกล้เสาหันถัดไป เป็นระยะเวลาหลายนาทีเเล้วหลังจากที่ ธอร์ เเละ เเจ็คสัน หายตัวไป เธอรู้สึกเป็นห่วงพวกเขามาก

   ทำไมพวกเขาถึงยังไม่ออกมากันอีก สเตซี่ครุ่นคิดในใจ

  เดิมสเตซี่ต้องการจะใช้สิ่งของที่เเจ็คสันมอบไว้ให้ก่อนจะจะจากไปเเต่เธอก็ยังตัดสินใจรออีกฝ่ายด้วยความหวังโดยไม่รู้ว่าพวกเขาจะกลับมาหรือไม่

  หึ่ม!

  ขณะที่สเตซี่กำลังทำหน้าเบื่อหน่ายอย่างกงัวลจู่ๆ พื้นที่มิติด้านหน้าก็ปรากฏคลื่นความผันนผวนอย่างฉับพลันดูเหมือนจะมีบางสิ่งเกิดขึ้น

   พี่สาวสเตซี่ ! ดูเหมือนจะมีอะไรเกิดขึ้น! เห็นความผันผวนของพื้นที่มิติที่ถูกส่งออกมาอีเเวนส์เตือนด้วยเสียงดัง

  ในเวลาเดียวกันเขาก็หยิบปืนพกที่พกเก็บเงียบออกมาเมื่อได้ตัดสินว่าพื้นที่มิติอวกาศนี่เป็นพื้นที่มิติอวกาศที่เชื่อมต่อกับโลก ดังนั้น หากสิ่งที่ออกมาไม่ใช่ ธอร์ เจน หรือ เเจ็คสัน มันย่อมต้องเป็นสิ่งลี้ลับจากต่างดาวเเน่นอน

  !

   เอ๋,จริงงั้นหรอหรือว่าพวกธอร์จะกลับมาเเล้ว? ได้ยินเสียงเตือนจากอีเเวนส์ สเตซี่ ดีดตัวลุกขึ้นจากพื้น

   นี่…นายไปเอาปืนพกนั่นมาจากไหนกัน เห็นปืนพกที่อยู่ในมือของอีเเวนส์สเตซี่ กล่าวถาม

   ไว้เดี๋ยวผมค่อยเล่าให้ฟังเราจะต้องเตรียมหากสิ่งที่ออกมาไม่ใช่พวกธอร์! อีเเวนส์ไม่ต้องการอธิบายว่าทำไมตนเองถึงมีปืนพกได้เขาได้จ้องมองไปที่พื้นที่มิติอวกาศด้านหน้า

   ไม่ใช่พวกธอร์ นายคงไม่ได้หมายถึง… ได้ยินคำตอบของอีเเวนส์ท่าทีของสเตซี่ได้เปลี่ยนไปทันที

  ฟุ่บ!

  จากนั้นคลื่นความผันผวนก็ส่งออกมาอย่างรุนเเรงก่อนที่จะถึงค่าสูงสุดจากนั้นก็ปรากฏเงาร่างสองร่างที่ปรากฏขึ้นเหนือลานกว้างเเต่เงาร่างนั้นไม่ได้ทำให้ อีเเวนส์ เเละ สเตซี่ รู้สึกดีใจ เพราะมันไม่ใช่ธอร์ หรือ เเจ็คสัน เเต่มันเป็นสัตว์ประหลาดที่เหมือนกับสุนัข

   เวรเอ้ย!นี่มันเรื่องบังเอิญหรือยังไง เห็นสัตว์ประหลาดสองตัวที่ปรากฏตัวขึ้นอีเเวนส์ขมวดคิ้วเเน่น

  ขณะเดียวกันเขาก็ใช้มือซ้ายพยายามส่งข้อความสื่อสารให้กับองค์กรS.H.I.E.L.D. โดยตรง สถานการณ์ตรงหน้าคือเหตุการณ์ระดับ S ตอนนี้ เขาจะต้องขอกำลังสนับสนุนจาก องค์กรS.H.I.E.L.D. ในทันที

   พวกมันคือสัตว์ประหลาดงั้นหรอ เห็นสัตว์ประหลาดสองตัวที่ปรากฏตัวขึ้นสเตซี่ รู้สึกตกใจเเละหวาดกลัวอย่างมากเธอต้องการจะหลบหนีออกจากที่นี่

  อีแวนส์ … 

  เห็นสเตซี่วิ่งหนีออกไปทำให้อีเเวนส์รู้สึกพูดอะไรไม่ออกอย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ออกปากเพื่อที่จะหยุดสเตซี่ เเน่นอนว่าสัตว์ประหลาดสองตัวนั่นคือสัตว์ร้ายอันตรายสำหรับคนธรรมดาเเล้ว เขาเองก็ไม่ต้องการให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้

  เเม้เธอจะเป็นพี่สาวของเขาเเต่ก็มีสถานะปกติเป็นคนธรรมดาซึ่งเเตกต่างจากเขาเป็นเจ้าหน้าที่ลับขององค์กรS.H.I.E.L.D.ในการสถานการณ์เช่นนี้เขาไม่สามารถหลีกหนีได้

   ถอยไปซะ!อย่าเข้ามา! อีเเวนส์จ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดสองตัวที่ออกมาเขาจ้องมองไปที่พวกมันเเละกล่าวออกมา

  ตราบใดที่สัตว์ประหลาดพวกนี้ไม่ก้าวร้าวเเละพุ่งโจมตีเขาเขาก็จะยังไม่ลงมืออะไรมัน เพราะพวกมันยังอยู่ในพื้นที่มิติอวกาศถึงเเม้เขาจะลงมือไปก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะสามารถทำร้ายมันได้

   โฮกกก! สัตว์ประหลาดทั้งสองตัวนั่นได้คำรามออกมาอย่างดุร้าย

  จากนั้นมันก็เริ่มเดินออกมาจากพื้นที่มิติตรงนั้นอย่างเชื่องช้า

   บัดซบ!อย่าขยับ! อีเเวนส์ชี้ปืนพกไปที่พวกมันเเละเตรียมเหนี่ยวไกล

  ฟุ่บ!

  ทันทีที่สัตว์ประหลาดนั่นก้าวขาออกจากเขตพื้นที่มิติทันใดนั้นเสียงปืนก็ได้ดังขึ้นอย่างรวดเร็ว

  ปั้งปั้ง

  อีเเวนส์ได้เปิดฉากยินไปที่ขาของสัตว์ประหลาดที่อยู่ด้านหน้า

  เเต่เเล้วอย่างไรก็ตามหลังจากเห็นผลลัพธ์สีหน้าของเขากลายเป็นหน้าเกลียดอย่างมากกระสุนของเขายิงถูกที่ขาของสัตว์ประหลาดก็จริงเเต่มันก็ราวกับไม่ได้เป็นอะไรเลย

   โฮกก~~~~ สัตว์ประหลาดนั่นได้คำรามออกมาอย่างดุร้ายอีกครั้งเเละพยายามจะพุ่งเข้าใส่อีเเวนส์

   เวรเอ้ย! เมื่อเห็นว่าตนเองไม่สามารถป้องกันสัตว์ประหลาดตนนี้ได้อีเเวนส์ได้เลือกที่จะโยนปืนพกทิ้งเเละเตรียมจะวิ่งหนี

  ฟุ่บ

   ติดต่อสำนักงานใหญ่!ติดต่อสำนักงานใหญ่! นี่คือเจ้าหน้าที่ตัวเเทนระดับ 3 อีเเวนส์ ฉันต้องการกองกำลังสนับสนุนทางทหาร ย้ำ ฉันต้องการกองกำลังสนับสนุนทางทหาร! เมื่อถอยกลับอย่างรวดเร็วอีเเวนส์ได้หยิบเครื่องมือสื่อสารออกมาพูดอย่างรวดเร็ว

 

ไล่ตามทัน

  ขณะที่ธอร์เเละเจนเตรียมจะหลบหนีออกจากที่นี่จู่ๆ ด้านหลังของพวกเขาก็เกิดเสียงระเบิดขึ้น ธอร์เข้าใจได้ในทันทีว่า เเจ็คสันกำลังเผชิญหน้ากับอันตรายอยู่เพื่อช่วยเหลือพวกเขาดังนั้นถึงพวกเขาอยู่ไปก็รั้งเเต่จะเป็นภาระเเจ็คสันเปล่า ๆ

   อืม,ฉันจะทำตามที่คุณบอก! ได้ยินคำพูดของธอร์เจนพยักหน้าตอบรับ

  จากนั้นเจนก็พยุงร่างกายที่อ่อนล้าของเธอเดินไปข้างหน้าที่หลุมพื้นที่มิติอวกาศทันทีที่เขาก้าวเข้าไปข้างในนี้เขาจะออกจากที่นี่ทันที

   ไปกันเถอะ! หลังจากถึงเบื้องหน้าหลุมพื้นที่มิติอวกาศธอร์ก็กล่าวพูดในที่สุด

  ฟุ่บ!

  พริบตาต่อมาธอร์ เเละ เจน ก็ได้กอดคอกันกระโดดเข้าไปข้างในพื้นที่มิติเเละหายตัวไปอย่างรวดเร็ว

  …

  บึ้ม!

  ขณะที่ธอร์ เเละ เจนหายตัวไป จู่พื้นที่มิติอวกาศก็สั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง

  จากนั้นผ่านไปประมาณ10 วินาทีมันก็สงบลง ทางด้าน เเจ็คสัน ตอนนี้เขากำลังหลบหนีพวกดาร์คเอลฟ์อยู่ ดังนั้นเขาจะต้องรีบไปยังพื้นที่มิติอวกาศเพื่อหลบหนี

   หึ่ม!หากพวกเเกสามารถเเลกเปลี่ยนเป็นรางวัลได้ฉันคงจะอยู่ต่อเพื่อกำจัดพวกเเกเเล้ว! เมื่อเข้าใกล้พื้นที่มิติอวกาศเเจ็คสันได้จ้องมองไปที่ช่องทางด้านหลังเเละกระซิบกระซาบอย่างไม่เต็มใจ

  ก่อนหน้านี้หลายวินาทีเเจ็คสันได้หลบหนีออกมาเเละสะบัดหลุดการไล่ตามของพวกดาร์คเอลฟ์ได้ทันเเต่พวกมันราวกับว่ามีความพยายามในการตามจับตัวเขาให้ได้ เดิม เเจ็คสันคิดว่าหากกำจัดพวกดาร์คเอลฟ์สองตัวนั่นเเล้ว พวกดาร์คเอลฟ์ที่เหลือจะเกรงกลัวเเละไม่กล้ไล่ตามเขา เเต่นี่มันกลับกันอย่างมาก

  พละกำลังความเเข็งเเกร่งของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์สูงส่งจนน่าเกรงขามไม่เพียงเเต่อีกฝ่ายมีอาวุธเทคโนโลยีที่เเข็งเเกร่งเเต่ความสามารถตรวจจับยังอันตรายทั้งที่นี่ยังเป็นถิ่นของศัตรู ทางที่ดีการหลบหนีออกจากที่นี่ก็คือทางเลือกที่ดีที่สุด

  ช่วงที่เเจ็คสันหลบหนีเขาพยายามที่จะวางกับดักพวกนันกรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่ไล่ตามมาเพื่อถ่วงเวลาเอาไว้นอกเหนือจากนี้เขายังพยายามหลอกล่อศัตรูให้ไปยังทิศทางอื่นด้วยความสูงสุดของเขา

  ในขณะเดียวกันเขาก็ครุ่นคิดถึงเเผนการต่างๆ จำนวนมาก ในตอนนี้เเจ็คสันมีระเบิดขนาดเล็กอยู่ในมือจำนวนมากเขานำมันมาจากที่ไซบีเรียมันถูกออกแบบโดยใช้พลังงานเดียวกับเตาพลังงานปฏิกรณ์อาร์ค เเต่เพราะมันเป็นรุ่นทดลองประสิทธิภาพจึงไม่ร้ายกาจเท่าที่ควร

  นอกจากระเบิดขนาดเล็กเหล่านี้เเจ็คสันยังมีหัวใจเเห่งชีวิตเขาสามารถใช้มันเพื่อเเลกเปลี่ยนเป็นเเต้มรางวัลขนาดใหญ่ได้ หากถูกต้อนจน จนมุมไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะเเลกเปลี่ยนมันเพื่อซื้อไอเทมที่สามารถช่วยเหลือตนเองได้

  ก่อนหน้านี้หลังจากประสบความสำเร็จในการได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์ในใจของเขาก็สำรวจร้านค้าในระบบเเละเจอของที่น่าสนใจหลายอย่างเเต่ว่าราคาของมันก็ค่อนข้างเเพง

  เเต่ถ้ามันเป็นสถานการณ์ที่จวนตัวเขาจริงๆ มันคงไม่เป็นปัญหาหากเขาจะใช้มันมันเพื่อเเลกเปลี่ยนสิ่งที่ว่านั่นท้ายที่สุด เขาก็พยายามข่มกลั้นไม่ให้เเลกเปลี่ยนหัวใจเเห่งชีวิตเเละลูกบาศก์เวทมนตร์หากไม่จนตัวจริง ๆ

  เมื่อกำลังไตร่ตรองนึกคิดอยู่เเจ็คสันก็ดึงลูกระเบิดขนาดเล็กออกมาหลายลูกจากนั้นเขาก็วางกับดักโดยการใช้ความเเม่นยำของตนเองพุ่งปาไปยังทิศทางต่าง ๆ ตามลำดับ

  ก่อนที่พวกดาร์คเอลฟ์จะไล่ตามเขามาทันเเจ็คสันจะต้องเตรียมรับมือกับพื้นที่มิติตรงนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาจะต้องทำลายมันเเละไม่ปล่อยให้พื้นที่นี้เชื่อมต่อกับโลกเพื่อให้นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์หลุดรอดไปบนโลกได้

  ตึกตึก !

  เมื่อเเจ็คสันโยนระเบิดไปยังตำเเหน่งที่เหมาะสมตามเส้นทางจู่ๆ ด้านหลังของเขาก็ปรากฏเสียงฝีเท้าดังเข้ามากใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ

  ช่วงที่เเจ็คสันกำลังเตรียมเเผนการพวกดาร์คเอลฟ์พวกนี้ก็ไล่ตามกันมาอย่างสุดชีวิตโดยไม่ชะลอความเร็วไม่เเปลกที่พวกเขาจะไล่ตามเเจ็คสันทัน

  ทันทีที่พวกดาร์คเอลฟ์เห็นตัวเเจ็คสันจากด้านหลังเเละเห็นพื้นที่มิติอวกาศที่ด้านหน้าในสายตาของพวกเขาได้บ่งบอกถึงความรู้สึกหลายอย่างโดยเฉพาะพื้นที่มิติอวกาศนั่นมันเเปลกประหลาดอย่างมาก

   ผู้นำกลุ่มดาร์คเอลฟ์ได้ตะโกนเเละชี้นิ้วมือไปที่ด้านหน้าพื้นที่มิติอวกาศที่อยู่เบื้องหน้าของเเจ็คสัน

   ทันทีที่ผู้นำของพวกเขาตะโกนนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่เหลือก็ตอบรับเช่นนเดียวกัน

  ฟุ่บ!

  จากนั้นนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ก็ราวกับกำลังบ้าคลั่งพวกเขาได้พุ่งเข้าไปยังทิศทางด้านหน้าด้วยความเร็วสูงสุดโดยไม่สนใจว่าศัตรูจะมีอะไรซ่อนไว้หรือไม่

   ฉันไม่สามารถล่าช้าได้หากผิดพลาดคงจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นเเน่! เห็นกลุ่มดาร์คเอลฟ์ที่ตามด้านหลังมาเเจ็คสันได้หันหลังกลับไปมองด้วยสายตาที่เบิกกว้าง

  ฟุ่บ!

  พริบตาต่อมาเเจ็คสันก็ตัดสินใจชักดาบของเขาออกมาอีกครั้งไม่ว่าอย่างไรเขาจะไม่ยอมให้พวกดาร์คเอลฟ์เหล่านี้ผ่านประตูมิติอวกาศไปได้

   อย่าได้เเม้เเต่จะคิด! 

 

พยายามหยุดศัตรู
หลังจากเเก้ไขสถานการณ์สัตว์ประหลาดในปัจจุบันเเจ็คสันรู้สึกทำอะไรไม่ถูก ไม่ใช่เพราะว่าเขาประมาทสัตว์ประหลาดที่อยู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้น เเต่มันเป็นเพราะความสามารถพิเศษของสัตว์ประหลาดตนนี้
“โฮกกก!”
“สัตว์ประหลาดนั่นมันมีบางอย่างเเปลกๆ !”เเจ็คสันจ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดในปัจจุบันพร้อมกับขมวดคิ้วเเน่น
เมื่อครู่เเจ็คสันให้ความสนใจกับตำเเหน่งของพวกดาร์คเอลฟ์ก็จริงเเต่ภายใต้เทคนิครู้เเจ้งของเขา ภายในระยะรอบตัว 50 เมตรเป็นไปไม่ได้ที่จะมีสิ่งใดเล็ดรอดเข้ามาเเต่จู่ ๆ การเคลื่อนไหวของสัตว์ประหลาดนี่ก็สามารถหลุดรอดเทคนิครู้เเจ้งของเขามาได้ อาจมีบางอย่างเกิดขึ้นที่ทำให้เทคนิครู้เเจ้งของเขาใช้การไม่ได้ผล
“ที่น่าเเปลกไปกว่านั้นคือพวกมันสามารถระบุตำเเหน่งของฉันได้เเม้ฉันจะหลบซ่อนตัวก็ตามหรือว่าเป็นเพราะสัตว์ประหลาดตัวนี้”เเจ็คสันกำดาบในมือเเน่นพร้อมกับครุ่นคิดในใจ
จากนั้นไม่นานก็มีสัตว์ประหลาดปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าของเขา7-8 ตัว โดยรวมเเล้วไม่ใช่ว่าจำนวนของพวกมันจะเป็นภัยต่อเขาเเต่ที่เเจ็คสันกลัวก็คือการเผชิญหน้ากับพวกดาร์คเอลฟ์เเละกองทัพของพวกมัน ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้เขาจะต้องหลบหนีก่อนเเละพยายามหาโอกาสในการกำจัดศัตรู
ฟุ่บ!
“โฮกก!”สัตว์ประหลาดจำนวนมากได้คำรามออกมาด้วยความโกรธก่อนที่จะวิ่งไล่ตามตำเเหน่งของเเจ็คสันไป
นอกจากนี้ราวกับว่าพวกมันได้รับคำสั่งอะไรบางอย่างเพื่อไล่ล่าศัตรูให้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ดังนั้นเเม้พวกมันจะไม่สามารถตามความเร็วของเเจ็คสันได้ทัน เเต่มันก็พยายามไล่ตามอย่างสุดกำลังจนระยะทิ้งห่างไม่ได้เพิ่มขึ้นจนในที่สุดเเจ็คสันได้หยุดระหว่างทางเเละพยายามกำจัดพวกมันทีละจำนวนน้อย ๆ
ฟวั่บ!
“หนังของพวกมันเเข็งเเละหนามากจริงๆ ! ไม่เเปลกที่ความเเข็งเเกร่งของธอร์ในตอนนี้จะไม่สามารถจัดการพวกมันได้ง่าย!”หลังจากสะบั้นลำตัวของพวกมันออกเป็นสามส่วน เเจ็คสันก็จ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดเหล่านี้ ก่อนหน้านี้ หากธอร์ไม่ได้ปลดปล่อยพลังเทพเจ้าสายฟ้าออกมา เขาคงจะไม่สามารถกำจัดพวกมันได้ง่าย ๆ
ในช่วงเวลานี้เเจ็คสันได้เผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดเเละพยายามจัดการตัวที่จู่โจมตนเอง พวกมันได้ถูกเขาฟาดเฉือนจนฉีกขาดออกจากกันอย่างต่อเนื่อง
“ฉันไม่สามารถเสียเวลาที่นี่ได้อีก!ฉันจะต้องรีบออกจากที่นี่!”หลังจากใช้เทคนิครู้เเจ้ง เเจ็คสันก็สัมผัสได้ถึงพวกดาร์คเอลฟ์ที่ใกล้เข้ามาหาเขามากขึ้นเรื่อย ๆ
เเจ็คสันได้รวบรวมพลังฉีในร่างกายก่อนที่จะดึงมันออกไปรวมตัวกันที่ใบดาบเเละใช้ท่าคลื่นสะบั้นสังหารไปยังตำเเหน่งมุมนั้นอย่างรวดเร็ว
เปรี้ยง!
โฮก!
สัตว์ประหลาดจำนวนมากได้คำรามออกมาก่อนที่พวกมันจะถูกเฉือดเฉือนจนสิ้นลมหายใจในที่สุดจากนั้นเเจ็คสันก็รีบเร่งหายตัวไปอย่างรวดเร็ว
เเต่ขณะที่เขากำลังหลบหนีจู่ ๆ ก็มีสัตว์ประหลาดตัวสุดท้ายได้พุ่งปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของเขา เเจ็คสันได้ ใช้ดาบของตนเองฟันออกไปจนสามารถจัดการมัน เพียงเเต่ว่า ด้านหลังของเขาพวกดาร์คเอลฟ์ได้ตามเขามาทันเเล้ว
สองนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่พุ่งเข้ามาหาเเจ็คสันได้ถูกความคล่องตัวของเเจ็คสันเเละความรวดเร็วอันร้ายกาจสะบั้นศีรษะเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ
ศีรษะของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์สองคนได้พุ่งกระเด็นไปชนกับกำเเพงจนนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่ตาม ๆ มาได้เห็นฉากที่เกิดขึ้น
”ผู้นำกลุ่มดาร์คเอลฟ์นี้ได้คำรามออกมาอย่างโกรธเคืองก่อนที่จะพุ่งตัวออกไปโจมตีเเจ็คสัน
คลื่นพลังงานความผันผวนได้เเพร่กระจายออกมาจากตัวของดาร์คเอลฟ์ตนนี้ก่อนที่จะปะทุออกมาเป็นพลังอันร้ายกาจเพื่อถาโถมออกไปเเน่นอนว่าเเจ็คสันก็ได้ใช้ท่าคลื่นสะบั้นสังหารอีกครั้งเพื่อต้านทาน
เปรี้ยง!
”เเรงระเบิดทั้งสองได้กระทบกันจนกระจายตัวออกนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนนี้ได้จ้องมองไปยังกลุ่มควันเพื่อค้นหาตำเเหน่งของเเจ็คสัน
ฟุ่บ!
เเต่เเน่นอนว่าพวกเขาสังเกตุเห็นการเคลื่อนไหวเหล่านั้นจึงรีบสั่งการให้ติดตามไปในทันทีโดยไม่สนใจศีรษะของสหายร่วมรบ
ตอนนี้พวกมันไม่มีสัตว์ประหลาดในการระบุตำเเหน่งของเเจ็คสันอาจเป็นไปได้ยากที่จะค้นพบตำเเหน่งของเขาได้

“ธอร์,มิราจไนท์ยังไม่มาเลยหรือว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา”เจนที่ใกล้ถึงประตูมิติได้หันหลังกลับไปมองด้วยความกังวลจากนั้นเธอจึงกล่าวถามธอร์
เเม้ว่าเจนจะไม่ค่อยรู้จักพวกซูเปอร์ฮีโร่มากนักเเต่เธอก็เห็นวีรกรรมดี ๆ ที่มิราจไนท์ได้ช่วยเหลือประชาชนทั่วไป ดังนั้นความเข้าใจเเละความคิดของเธอที่มีต่อมิราจไนท์จึงค่อนข้างอยู่ในสถานะที่ดี
“เจ้าไม่ต้องกังวล,สหายคนนี้จะต้องไม่เป็นอะไรเเม้เเต่ข้ายังอดชื่นชมในความเเข็งเเกร่งของเขาไม่ได้ เมื่อเขาเลือกที่จะเสี่ยงเพื่อพวกเราเเล้ว พวกเราก็อย่าทำให้เขากังวลเลย”ธอร์ได้กล่าวตอบกลับ
เขารู้ว่าอีกฝ่ายคือเเจ็คสัน เพื่อนที่ดีที่สุดบนโลกนี้ของเขา ถ้าไม่มีเเจ็คสัน ธอร์ก็ไม่รู้ว่าตนเองจะสามารถใช้ชีวิตที่โลกใบนี้ได้อย่างมั่นคงหรืออไม่ ไม่เพียงเเต่อีกฝ่ายช่วยเหลือเขาทั้งเขายังเสนอข้อเเนะนำความคิดดี ๆ ให้กับเขาอีก ยามนี้ เเจ็คสันได้เผชิญหน้ากับอันตราย ไม่ว่าอย่างไร เขาจะต้องเชื่อมั่นในตัวของเเจ็คสัน
“อืม,เเล้วพวกเราควรเข้าไปข้างในนี้เลยหรือไม่”
ฟุ่บ!
เจนกล่าวถามคำถามเหล่านี้ออกมาหลังจากเห็นพื้นที่อุโมงค์มิติเบื้องหน้าที่สั่นสะเทือนอย่างรุนเเรงเเละน่ากลัว
“อืม,พวกเราควรเข้าไป!”หลังจากได้เห็นสิ่งเบื้องหน้าธอร์ตอบตกลง
สถานะลับของอีเเวนส์
ปั้ง~~
หลังจากพุ่งชนเข้ากับลานบ้านเเจ็คสันรู้สึกว่าเหมือนกับว่าตนเองหลุดเข้าไปยังพื้นที่มิติอื่นเพราะเเรงโน้มถ่วงที่เขาสัมผัสได้มันต่างกัน เเต่เพราะ J.A.R.V.I.S ได้ปรับระบบไฟฟ้าอย่างรวดเร็วทำให้เขายืนหยัดอย่างมั่นคงได้ทันที
“จริงๆ เเล้วยังมีเรื่องลึกลับอีกมากที่เราจะต้องเรียนรู้ เช่นเดียวกับพื้นที่มิติที่สามารถเชื่อมต่อพื้นที่ดวงดาวอื่นได้ หากเราสามารถเชี่ยวชาญเทคโนโลยีเหล่านี้ บางที…. J.A.R.V.I.S สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ตอนนี้ได้รึไม่”เเจ็คสันได้กล่าวถาม J.A.R.V.I.S
“คุณเเจ็คสัน ดูเหมือนพื้นที่มิตินี้จะมีความเกี่ยวข้องกับอนุภาคเเอลฟา ก่อนหน้านี้มีการวิจัยเกี่ยวกับอนุภาคเเอลฟา เเละ ได้รับความคืบหน้าจำนวนมาก สิ่งสำคัญที่สุดคือ อานุภาคเเอลฟาได้รับการยืนยันเเล้วว่าเป็นหนึ่งในประเภทพลังงานที่มีผลกระทบต่อพื้นที่มิติอวกาศ ดังนั้น ความเเตกต่างของเเต่ละสถานที่จะมีความเข้มข้นของอนุภาคเเอลฟาต่างกัน”J.A.R.V.I.S ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“เฮ้อถ้านี่เป็นหลักสูตร ฉันก็คงจะยังเรียนไม่จบ เเหง ๆ โชคดีที่นายอยู่ที่นี่ด้วย เอาล่ะอย่าเสียเวลาเลยพวกเราไปกันเถอะ!”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันตอบกลับด้วยท่าทีอึดอัด
เเจ็คสันได้ปรับชุดเกราะพ่นลงจากนั้นเขาก็หล่นลงสู่ลานพื้นบ้านที่อยู่ในเขตพื้นที่มิติเขาจำเป็นจะต้องประหยัดพลังงานของชุดเกราะไอรอนแมนเผื่อเตรียมเหตุการณ์จะต้องปะทะกับพวกดาร์คเอลฟ์
“เฮ้,เเจ็คสันถ้าเธอไมกลับมาฉันควรจะทำยังไง”ขณะที่เเจ็คสันได้เข้าไปยังในอาณาเขตพื้นที่มิติ สเตซี่ ที่ยืนอยู่ขอบสนามได้กล่าวถามขึ้น
เพราะเมื่อครู่เเจ็คสันได้ตัสสินใจว่าจะเข้าไปช่วยเหลือพวกธอร์ ถ้าเกิดเเจ็คสันหายเข้าไปในประตูมิติเเล้ว เเละ ไม่กลับมา พวกเธอควรจะทำอย่างไร พวกเธอรู้สึกจนปัญญาในเรื่องนี้
ฟุ่บ!
ได้ยินเสียงของสเตซี่ เเจ็คสันยกเเขนชุดเกราะไอรแมนขึ้นเเละโยนบางอย่างออกไปหาสเตซี่
“สิ่งนี้จะช่วยคุณหากพวกเราไม่ได้กลับมาในระยะเวลาครึ่งชั่วโมงคุณสามารถติดต่อร้องขอความช่วยเหลือจากสิ่งนี้ได้”เเจ็คสันได้กล่าวบอกสเตซี่
ฟุ่บ!
รับอุปกรณ์บางสิ่งมาจากเเจ็คสันสเตซี่คว้าจับเเน่นก่อนที่ชุดเกราะไอรอนแมนจะหายไปดูเหมือนตอนนี้เเจ็คสันจะเริ่มหายเข้าไปในพื้นที่มิติลึกลับอย่างเป็นทางการ
“เเจ็คสัน,เธอจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัย!”ในมือถืออุปกรณ์บางอย่างสเตซี่จะมองไปที่ลานเปล่าด้วยสายตากังวล
สิ่งที่เเจ็คสันขว้างมาให้สเตซี่ก็คืออุปกรณ์รับส่งข้อมูลเธอสามารถติดต่อกับJ.A.R.V.I.S ได้โดยตรง หากเเจ็คสันไม่ได้กลับมา เธอสามารถร้องขอให้ J.A.R.V.I.S ช่วยติดต่อพวก โทนี่ ได้ ดังนั้น พวกสเตซี่ จึงไม่ได้ถูกตัดขาดจากความช่วยเหลือ
ในขณะที่จ้องมองไปที่ลานบ้านนอกเหนือจากสเตซี่ที่กำลังจ้องมองอย่างกังวลในมือของอีเเวนส์ได้ปรากฏเครื่องมือบางอย่างออกมาเขาได้กดปุ่มรหัสจำนวนมากเเละส่งออกไป
ฟุ่บ!
หลังจากส่งรหัสออกไปอีเเวนส์ก็เก็บเครื่องมือเหล่านี้เข้าไปในกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง
การกระทำเล็กๆ น้อย ๆ ของอีเเวนส์ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่นักเรียนธรรมดา ๆ ดูเหมือนเขาจะมีตัวตนลึกลับที่ไม่ได้บอก เเจ็คสัน หรือ เเม้เเต่ สเตซี่
เพียงเเต่ว่าข้อมูลที่อีเเวนส์ส่งไปนั้นได้ถูกดัดข้อมูลโดยJ.A.R.V.I.S,เครื่องบินส่วนตัวของ โทนี่ สตาร์ค มีโคลนของ J.A.R.V.I.S ติดตั้งอยู่ การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ของอีเเวนส์ เขาย่อมสามารถตรวจพบได้
“เป้าหมายสังเกตุการณ์ระดับS, 2 คน ได้เข้าสู่พื้นที่มิติเเล้วตอนนี้ นอกจากนี้ เจน ฟอสเตอร์ ได้หายตัวไปเป็นระยะเวลามากกว่า 1 ชั่วโมง 23 นาที อนุภาคเเอลฟาที่นี่ได้เกินระดับการควบคุมของฉันหวังว่าสำนักงานจะรีบส่งคนมาสนับสนุน”นี่เป็นข่าวที่อีเเวนส์ได้รายงานไปเมื่อไม่นานมานี้ เเต่มันได้ถูก J.A.R.V.I.S สกัดกั้นข้อมูลโดยสมบูรณ์
“เป้าหมายสังเกตุการณ์ระดับS สองคน ดูเหมือนว่า อีเเวนส์ คนนี้จะเป็นเจ้าหน้าที่ลับขององค์กร S.H.I.E.L.D.”J.A.R.V.I.S ได้กำหนดสถานะของ อีเเวนส์ ในทันที
ที่จริงเเล้วหลังจากที่ เเจ็คสันได้พบอีเเวนส์ครั้งเเรก การเเสดงออกของอีเเวนส์ก็ค่อนข้างเเปลกประหลาดใจเเล้ว ดังนั้น ชุดเกราะไอรอนแมน เเละ เครื่องบินส่วนตัวของ โทนี่ ที่ถูกควบคุมโดย J.A.R.V.I.S ได้เเอบลอบสเเกนสถานะของ อีเเวนส์อย่างลับ ๆ จากนั้นเขาก็พบเข้าจริง ๆ
J.A.R.V.I.Sได้ค้นพบสถานะของอีเเวนส์ เเละ ค้นพบอุปกรณ์ขนาดเล็กบางอย่างที่เด็กนักเรียนธรรมดาไม่ควรจะมีครอบครอง ดังนั้น J.A.R.V.I.S จึงสามามารถคาดเดาสถานะของ อีเเวนส์ได้ไม่ยาก
“เเม้ว่าฉันจะอยู่ที่นี่เเต่ถ้าหากได้รับการสนับสนุนจากองค์กร S.H.I.E.L.D. ก็เป็นสิ่งที่ดี”J.A.R.V.I.S ได้ยกเลิกการปิดกั้นข้อมูล
หลังจากที่J.A.R.V.I.S ยกเลิกการปิดกั้น ข่าวในครั้งนี้ได้ถูกส่งออกไปที่องค์กร S.H.I.E.L.D. อย่างรวดเร็ว หลังจากที่พวกเขาได้รับข่าวนี้ เเน่นอนว่าพวกเขาให้ความสนใจกันยกใหญ่ทีเดียว
เเจ็คสัน
ฟุ่บ~~
ผ่านไปเเล้วเป็นเวลาหนึ่งนาทีเเสงสีทองในประกายดวงตาของฮัมดาลล์ได้สว่างวาบขึ้นอีกครั้งเขาได้ใช้พลังงานจำนวนมากเพื่อหาตัวของธอร์ในขอบเขต9 โลก เเต่อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่้เขาได้กลับไม่น่าพึงพอใจนัก
“ดูเหมือนว่าธอร์จะถูกส่งไปยังพื้นที่มิติพิเศษจริงๆ คราวนี้คงต้องรายงานต่อกษัตริย์โอดินเเล้ว”หลังจากถอนหายใจเล็กน้อยฮัมดาลล์ก็กล่าวออกมาอย่างช่วยไม่ได้
ฮัมดาลล์ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความปลอกภัยของธอร์เพราะอย่างไรก็ตามภายในร่างของธอร์มีพลังของโอดินสถิตอยู่มันสามารถช่วยปกป้องธอร์ไม่ให้ตายได้ถึงอย่างไร ธอร์ก็เป็นโอรสเเท้ ๆ ของโอดิน ไม่มีทางที่โอดินจะปปล่อยให้ลูกชายของตนเองตายอย่างเเน่นอน เเละเหตุผลที่เขาไม่คืนพลังให้ธอร์เเละส่งธอร์ไปยังต่างถิ่นก็เพื่อปกป้องเขาจากชนเผ่าดาร์คเอลฟ์ ที่มีต่อเเอสการ์ดมาเนิ่นนาน
เเม้ว่าธอร์ไม่สมควรเผชิญหน้ากับอันตรายใดๆ เเต่เขาก็หายตัวไปจากการสังเกตุการณ์ของตนเอง ยิ่งกว่านั้นยังเป็นพื้นที่มิติพิเศษอีก คงมีเเต่โอดิน เท่านั้น ที่สามารถช่วยเหลือธอร์เเละมองหาเขาได้ในพื้นที่พิเศษเเห่งนี้
ฮัมดาลล์หวังว่าจะสามารถช่วยเหลือธอร์ออกมาให้ได้โดยเร็วที่สุดเเต่ในขณะที่เขากำลังจะไปกราบทูลโอดินนั้นเขาก็เสียเวลาครุ่นคิดเรื่องนี้ไปมากกว่า 5-6 นาทีเเล้ว
ไม่ว่าอย่างไรฮัมดาลล์จะต้องรายงานโอดินเกี่ยวกับเรื่องของธอร์ให้เร็วที่สุดหลังจากนั้นค่อยฟังคำตอบจากปากของโอดินภายหลัง
“เอาล่ะข้าตัดสินใจได้เเล้ว ส่วนเจ้าหนูนั่น ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนถีบธอร์ตกลงไป ข้าเคยพบเขามากับปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน หาก เจ้าไม่มีความเกี่ยวข้องกับท่านปรมาจารย์ข้าคงจะใช้สะพานไบฟรอสไปจัดการเจ้าด้วยตนเองเเล้ว”ฮัมดาลล์พึมพัมออกมา เขากำลังจ้องมองไปที่ตัวตนนึง
ตัวตนที่ว่าก็คือเเจ็คสัน ฮัมดาลล์ จำได้ว่า เด็กหนุ่มคนนี้มาขอใช้สะพานไบฟรอสกับปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันในตอนนั้น
ในกรุงลอนดอนสภาพอากาศที่ย่ำเเย่มีฝนตก
ฟุ่บ~~
“ทำไมฉันถึงรู้สึกคนลุกเเปลกๆ !”ภายใต้การจับเวลา เเจ็คสันจ้องมองไปที่พื้นที่โดยรอบเเละเริ่มสัมผัสได้ถึงอากาศเย็นชื้นที่รุนเเรงมากขึ้น
ไม่ใช่ว่าเขามีผลกระทบต่อสภาพอากาศตอนนี้เเต่ดูเหมือนสัญชาตญาณของเขากำลังเเจ้งเตือนเกี่ยวกับการจ้องมองของ ฮัมดาลล์ ก่อนหน้านี้ ก็เหมือนกับ เอนเชี่ยนวันในตอนนี้ การจ้องมองของคนเหล่านี้ ทำให้ปฏิกิริยาการตอบสนองของเเจ็คสันได้เเจ้งเตือนตัวเอง
“ผ่านไปเเล้ว8 นาที!”ขณะที่เเจ็คสันกำลังจ้องมองไปที่พื้นที่โดยรอบอย่างสงสัย อีเเวนส์ ได้กล่าวพูดขึ้นอย่างเสียงดัง
“ฉันรู้เเล้ว!ไม่ต้องพูดเสียงดังก็ได้”ได้ยินคำพูดของอีเเวนส์ สเตซี่ กล่าวตะหวาดด้วยความโมโหก่อนที่จะเคาะหัวน้องชายของเธอ
“พี่สาว,เสียงของพี่ดังกว่าผมอีก!”อีเเวนส์ได้เอามือกุมหัวอย่างเจ็บปวด
“นายพูดว่าอะไรนะยังกล้าที่จะต่อล้อต่อเถียงฉันอีกงั้นหรออีกสักทีดีมั้ย?”ได้ยินเสียงพึมพัมของอีเเวนส์สเตซี่ยกมือขึ้นเตรียมจะเคาะหัวน้องชายของเธออีกครั้ง
“เอ๋…ป่าวนะผมเเค่ต้องการจะบอกให้พี่สาวระวังตัวเเค่นั้นเอง”เห็นท่าทางของสเตซี่ อีเเวนส์ทำได้เเต่ยอมเเพ้
“เเล้วไป!”เห็นอีเเวนส์ยอมรับความพ่ายเเพ้สเตซี่ ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เเน่นอนว่าเธอย่อมไม่ปล่อยให้น้องชายของเธอมาว่าตนเองอย่างเเน่นอน
ขณะที่สเตซี่ เเละ อีเเวนส์ กำลังทะเลาะกัน เเจ็คสันได้จ้องมองไปที่ด้านหน้าอย่างไม่พอใจ
“ดูเหมือนว่าธอร์จะเชื่อมต่อถึงพื้นที่ปลายทางเเล้ว”เเจ็คสันกล่าวอย่างสงบ
“เอ่อ…เเล้วพวกเราจะทำยังไงรออยู่ที่นี่ดีหรือไม่เผื่อว่าธอร์จะสามารถช่วยเหลือคุณฟอสเตอร์ กลับมาได้”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน สเตซี่ กล่าวถามด้วยความกังวล
กอนหน้านี้เเจ็คสันได้บอกให้พวกเขารอเป็นระยะเวลา 9 นาที กับ อีก 12 วินาที หากธอร์ไม่ปรากฏตัวออกมาเหมือนกระป๋องเครื่องดื่มก่อนหน้านี้ ตามที่เเจ็คสันคาดเดา ธอร์ น่าจะสามารถเข้าไปในพื้นที่มิติปลายทางนั่นได้สำเร็จ
“ผมรู้,เเม้ธอร์จะผ่านเข้าไปข้างในนั่นได้สำเร็จเเต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถช่วยเหลือคุณฟอสเตอร์ออกมาได้ง่ายๆ ดังนั้นผมกังวลว่าจะเกิดปัญหาที่ด้านนั้น ถ้าพิจารณาตามหลักเเล้ว ธอร์ผ่านไปได้ ผมก็สามารถผ่านไปได้ ถ้าเกิดเจอปัญหาเข้าจริง ๆ พวกเราก็สามารถช่วยเหลือได้”ได้ยินคำถามของสเตซี่ เเจ็คสัน ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
ฟุ่บ!
ขณะที่เเจ็คสันพูดชุดเกราะไอรอนแมนที่อยู่ตรงมุมถนนก็ได้พุ่งเข้ามาเปิดเกราะออกรอรับเเจ็คสันเเจ็คสันได้เข้าไปในชุดเกราะไอรอนแมนเเละเตรียมจะเข้าไปข้างในนั้น ในปัจจุบัน เขาไม่ต้องการเปิดเผยสถานะของมิราจไนท์ดังนั้นจึงต้องการยืมใช้ชุดเกราะไอรอนแมนชั่วคราว
“เเจ็คสัน,ระวังตัวด้วย!”เห็นเเจ็คสันกำลังจะเข้าไปสเตซี่ กล่าวอวยพร
“ผ่อนคลายเถอะผมจะปลอดภัย เเละยิ่งไปกว่านั้น ผมจะพาคุณฟอสเตอร์ เเละ ธอร์ กลับมาด้วยกัน”ได้ยินคำอวยพรจาก สเตซี่ เเจ็คสัน กล่าวเสร็จ จากนั้นหน้ากากชุดเกราะไอรอนแมนก็ปิดลง
ฟู่ว~~
พริบตาต่อมาชุดเกราะไอรอนแมนของเเจ็คสันก็พุ่งไปยังทิศทางลานบ้านด้านหน้าตรงนั้น
ความเเปลกใจของฮัมดาลล์
หลังจากที่ได้รับข้อมูลจากเเจ็คสัน โทนี่ เเละ คนอื่น ๆ ก็เริ่มมีส่วนร่วมกันมากขึ้น เดิม เเจ็คสันได้เเนะนำให้ทิ้งคนไว้เพื่อปกป้องฐานที่ไซบีเรียคนนึงซึ่งก็คือ โทนี่ เเต่ โทนี่ ไม่เห็นด้วย ท้ายที่สุด เขาก็ตัดสินใจเลือก เเฮร์รี่ เพราะอย่างไร เเฮร์รี่ ก็เป็นประธานของออสคอร์ป การที่จะให้เเฮร์รี่มาเสี่ยงด้วย เเจ็คสันตัดสินใจได้ยากมาก
“ทางฝั่งฉันมีชุดเกราะไอรอนแม 30 ตัว ไปพร้อมกับฉัน ชุดเกราะไอรอนแมนทั้ง 30 ตัว นี้มีฟังก์ชั่นเอื้ออำนวยผลประโยชน์จำนวนมาก เเม้ด้านหลังนั่นจะเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยท้องดาวเเต่พวกเขาก็ยังสามารถเเสดงจุดเเข็งได้ทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์”โทนี่ ได้กล่าวพูดออกมา
ตามที่ดร.แบนเนอร์ เล่ามา ด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นมีสภาพอากาศที่เลวร้ายมาก มันไม่เอื้ออำนวยต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่นั่น ดังนั้นพวกเขาจำเป็นจะต้องใส่ชุดป้องกัน เเละ ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ ก็มีความสำคัญในการปกป้องร่างกายพวกเขาเหมือนกัน
“ถ้าเรากำหนดคนที่จะไปกันได้เเล้วเช่นนั้นฉันขอเตือนอะไรอีกสักอย่าง การเดินทางครั้งนี้ เดิมทุกคนสมัครใจไปด้วยตนเอง ด้านหลังนั่นคือสถานที่นอกโลกเเละมีอารยธรรมที่พวกเราไม่เข้าใจอยู่มาก เเต่เป้าหมายของเราก็เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามที่โลกจะต้องเผชิญด้วยโอกาสอันดีงามตามข้อมูลที่เราได้รับมานั้นเเม้มันจะเอื้ออำนวยต่อพวกเราเเต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ดี”วิสัยทัศน์ของกัปตันโรเจอร์สได้จ้องมองไปที่ทุกคนในห้องประชุม
พวกเขาได้เผชิญหน้ากับความโหดร้ายของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์มาเเล้วดังนั้น กัปตันโรเจอร์ส จึงได้เตือนพวกเขาไม่ให้ประมาท ในเดินเกมในบ้านคนอื่นที่เเข็งเเกร่งกว่านั้นมีความเสี่ยงที่จะเเพ้สูงมาก เเละ ยิ่งหากศัตรูมีกองกำลังที่มากกว่าตนเองล่ะก็จุดจบของพวกเขาคงไม่สวยเท่าไหร่
อย่างไรก็ตามพวกเขาตัดสินใจเเล้วว่าจะยอมเสี่ยงถ้าข่าวที่มิราจไนท์ได้มาเป็นความจริง กองกำลังหลักเเละผู้นำของเผ่าดาร์คเอลฟ์สมควรไม่อยู่ในพื้นที่พื้นเมืองของพวกเขา
“ฉันรู้เเน่นอนว่าพวกเรารู้ศัตรูของพวกเราคือศัตรูจากนอกโลก พวกเราจะทำศึกสงครามในบ้านของพวกเขา อันที่จริงพวกเราไม่จำเป็นจะต้องเสี่ยงชีวิต เพียงเเค่หาทางป้องกันเเละจัดการพื้นที่ประตูมิติอวกาศนี้ให้ได้สำเร็จก็พอ”ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้
ก่อนหน้านี้โทนี่เคยมีประสบการณ์สู้รบกับอาวุธสงครามของเเอสการ์ดอย่างเครื่องจักรสังหารเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความเเข็งเเกร่งที่เหนือชั้นของอารยธรรมที่เเข็งเเกร่งกว่าเเละถ้าอิงตามข้อมูลที่เเจ็คสันพูดเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ดาร์คเอลฟ์เผ่าพันธุ์นี้อาจจะเป็นตัวตนที่อยู่ในระนาบเดียวกับเครื่องจักรสังหารที่เขาเคยเจอเป็นคนจาก 9 อาณาจักรที่มีอารยธรรมเเข็งเเกร่งกว่าโลก
โดยปกติเเล้วพวกเขาไม่สามารถประเมินความเเข็งเเกร่งของเผ่าดาร์คเอลฟ์ได้อย่างเเม่นยำเเต่พวกเขาก็มีความมั่นใจในตนเองตราบเท่าที่กองกำลังหลักเเละผู้นำเผ่าดาร์คเอลฟ์มาเลคิธไม่ได้อยู่ที่นั่นพวกเขามั่นใจว่าจะสามารถจัดการศัตรูได้
“โทนี่ดูเหมือนว่านายจะมั่นใจในเเผน S นี้มาก”กัปตันโรเจอร์สได้กล่าวถามโทนี่
ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์สโทนี่ เพียงพยักหน้ายิ้มตอบรับ
“เอาล่ะอีก 10 นาที พวกเราจะไปรวมตัวกันที่ด้านหน้าประตูมิติอวกาศนั่น!”กัปตันโรเจอร์สได้ยืนขึ้นเเละพูดอย่างเสียงดัง

ขณะที่โลกกำลังเตรียมการเข้าสู่ประตูมิติอวกาศเพื่อบุกเบิกพื้นที่อาณาจักรเผ่าดาร์คเอลฟ์ เเอสการ์ด ฮัมดาลล์ ผู้พิทักษ์สะพานไบฟรอส ตอนนี้เขากำลังทำอะไรบางอย่างอยู่
ฟุ่บ~~
ในดวงตาสีทองอันลึกลับของเขาเขากำลังมองค้นหา ธอร์อยู่ ตราบเท่าที่ ธอร์อยู่ในอาณาเขต 9 อาณาจักร ไม่ว่าธอร์จะอยู่ที่ไหน เขาก็จะสามารถตรวจพบ
เเต่ในช่วงหลายนาทีที่ผ่านมาฮัมดาลล์ กลับไม่สามารถมองหา ธอร์ จนพบได้
การคาดเดาของเเจ็คสันนั้นถูกต้อง เมื่อธอร์หายตัวไป เเม้เเต่ โอดิน ที่กำลังเข้าฌานอยู่ก็ได้ลืมตาตื่นขึ้น ตอนนี้ ฮัมดาลล์ ได้ค้นหาธอร์อย่างต่อเนื่อง เเต่อย่างไรก็ตามเขากลับไม่สามารถค้นหาตำเเหน่งของธอร์ในปัจจุบันได้
“พื้นที่มิติที่เชื่อมต่อกับโลกนั้นอาจเป็นไปได้ว่าเป็นพื้นที่เขตต้องห้าม”หลังจากไม่ประสบความสำเร็จในการค้นหาอีกครั้งฮัมดาลล์ ได้ขมวดคิ้วเเน่น
ในพื้นที่เขตต้องห้ามนี้คือพื้นที่พิเศษที่สามารถป้องกันดวงตาทิพย์ของ ฮัมดาลล์ ได้ เเต่การเชื่อมโยงของ ธอร์ กับพื้นที่พิเศษนี้ ทำให้ ฮัมดาลล์ รู้สึกกังวลอย่างมาก
“ข้าจะลองดูอีกครั้ง!หากไม่ได้จริง ๆ ก็คงมีเเต่จะต้องกราบทูลกษัตริย์โอดินเเล้ว”ฮัมดาลล์ ได้จมสู่นิมิตของตนเองอีกครั้ง
หากเเจ็คสันรู้ว่าพื้นที่ที่ธอร์จะถูกส่งตัวไปเป็นพื้นที่ที่ฮัมดาลล์ไม่สามารถตรวจสอบได้เขาก็คงจะไม่ทำเช่นนั้นอย่างเเน่นอน ในตอนนี้ ก็คงมีเเต่อธิษฐานภาวนาขอให้ ฮัมดาลล์ สามารถตรวจพบตำเเหนน่งของธอร์ได้เพียงเท่านั้น
คัดเลือกคน
ลอนดอนขณะที่ เเจ็คสันได้ถีบธอร์ตกไปยังพื้นที่มิติจนหายตัวไป ไซบีเรีย ฐานลับชั่วคราวของ S.H.I.E.L.D. ทางด้านฝั่งนี้ พวกกัปตันโรเจอร์สเองก็กำลังรอข่าวจาก มิราจไนท์อยู่
“โทนี่,มิราจไนท์ติดต่อมาบ้างหรือไม่”ขณะที่ทุกคนกำลังรวมตัวกันกัปตันโรเจอร์สได้เปิดปากกล่าวถาม
~~
โทนี่ไม่ได้ตอบคำถามของกัปตันโรเจอร์สเพียงเลื่อนเเท็บเล็ตในมือจากนั้นหน้าจอห้องประชุมขนาดใหญ่ก็เผยให้เห็นภาพบางอย่างขึ้น
“ดูเอาเองเเล้วกัน!”โทนี่ส่งข้อมูลที่เเจ็คสันได้ส่งมาให้เขาให้ทุกคนดู
อันที่จริงสิ่งที่เเจ็คสันส่งมายากที่โทนี่จะเชื่อได้ดังนั้นเขาไม่สามารถให้J.A.R.V.I.S ตรวจสอบข้อมูลของเเหล่งที่มาที่เเน่ชัดได้ด้วยซ้ำ โทนี่จึงทำให้เพียง J.A.R.V.I.S บอกกล่าวต่อข้อมูลที่ถูกส่งมา
“กำลังหลักของเผ่าดาร์คเอลฟ์กำลังต่อสู้กับเผ่าพันธุ์อื่นอยู่ผู้นำเผ่าพันธุ์เเละนักรบที่เเข็งเเกร่งของพวกเขาไม่ได้อยู่ที่ดาวพื้นเมืองเป็นไปได้ว่าจะไม่กลับมาในระยะเวลาอันสั้นนี้ เราสามารถใช้จุดเเข็งของพวกเราในการบุกจู่โจมในตอนนี้ได้ นอกจากนี้ ฉันไม่สามารถกลับไปที่ไซบีเรียได้ชั่วคราวฉันกำลังให้ความสนใจกับพวกดาร์คเอลฟ์ที่นี่ เเละ หากมีอะไรเกิดขึ้นฉันจะรีบเเจ้งให้ทุกคนรู้” J.A.R.V.I.S ได้กล่าวพูดตามข้อความที่ถูกส่งมา
“มิราจไนท์สามารถรู้สถานการณ์ของเผ่าดาร์คเอลฟ์เขาไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวจริงใช่มั้ยเนี่ย!”ได้ยินข่าวนั่นเเม้เเต่สไปเดอร์แมนปีเตอร์ยังอุทานออกมาด้วยเสียงต่ำ
เเน่นอนว่าปีเตอร์รู้ว่าเเจ็คสันไม่ใช่พวกมนุษย์ต่างดาวพวกเขาเรียนด้วยกันมาก็นาน เเต่เพื่อนของเขาก็ค่อนข้างมีความลึกลับมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากับเเวมไพร์ในตอนนั้น การต่อกรกับสิ่งลึกลับเหล่านี้ราวกับเป็นเรื่องที่ไม่น่าประหลาดใจสำหรับเเจ็คสัน
“มนุษย์ต่างดาววันนี้มีใครบ้างไม่เคยเห็นมนุษย์ต่างดาวมาก่อน การดำรงอยู่ของพวกเขาคือตัวตนลึกลับ ที่เรามาประชุมในวันนี้ก็เพื่อเเก้ไขสถานการณ์ไม่ใช่มานั่งจับผิด”โทนี่ตอบกลับ
โทนี่ได้เผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาวเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาเช่นนิวเม็กซิโก ที่เขาเผชิญหน้ากับเรื่องลึกลับ ตั้งเเต่นั้นมาโทนี่ก็ให้ความสนใจสิ่งมีชีวิตที่อยู่นอกโลกมากขึ้นเขาตั้งใจที่จะทำการศึกษาเรื่องนี้ให้ละเอียดมากกว่าเดิม เเน่นอนว่าสิ่งที่เเจ็คสันมอบให้เขาเกี่ยวกับพวกเนื้อเยื่อชีวภาพเหล่านั้นโทนี่เองก็ให้ความสำคัญกับมันมากจริง ๆ
“ดี,เราจะเลิกสนใจว่ามิราจไนท์ จะได้รับข่าวของพวกดาร์คเอลฟ์มาได้อย่างไร ตราบใดที่ข้อมูลที่พวกเราได้รับเป็นเรื่องจริง”เเม้ว่ากัปตันโรเจอร์สเองก็รู้สึกสงสัยว่ามิราจไนท์ได้รับข้อมูลของพวกเผ่าดาร์คเอลฟ์มาได้อย่างไร เเต่ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเน่ชัดว่า กัปตันโรเจอร์ส ก็ไม่ตั้งใจที่จะกล่าวถามอีก
“ฉันเชื่อมั่นในตัวมิราจไนท์ ไม่ว่าเขาจะได้รับข่าวสารมาอย่างไร เเต่เห็นได้ชัดว่าเขาอยู่ฝั่งเรา ตอนนี้ พวกดาร์คเอลฟ์กำลังต่อสู้กับอิทธิพลอื่น อยู่ ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง พวกเราควรเริ่มอนุมัติเเผน S โดยเร็วที่สุด”โทนี่ กล่าวตอบ
เดิมโทนี่ไม่เห็นด้วยกับเเผนการของกัปตันโรเจอร์สเเต่หลังจากที่ เเจ็คสันได้เข้ามายุ่ง โทนี่ ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้ เขามีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับพวกดาร์คเอลฟ์ที่เป็นมนุษย์ต่างดาวจากอารยธรรมอื่น โทนี่ ไม่มีทางล้มเลิกเเผนที่จะตรวจสอบพวกเขาอย่างเเน่นอน
“ดี,ฉันก็เชื่อในตัวของมิราจไนท์ดังนั้นพวกเราจะทำตามเเผน S ในฐานะของผู้นำทีม X-MEN ฉันจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”หลังจากโทนี่ยืนยันเห็นด้วยศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็เปิดปากขึ้น
ในฐานะผู้นำของทีมX-MEN ศาสตราจารย์ชาร์ลส์มีการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวมาโดยตลอด ไม่เพียงเเต่เขาจะต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับครอบครัวของตนเอง เขายังเป็นห่วงเพื่อนเก่าอย่างเเมกนีโตด้วย ดังนั้นเพื่ออนาคตที่สดใสของโลกเเละตัวของพวกเขาในฐานะมนุษย์คนนึงเขาพร้อมที่จะเสียสละเเละให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
เห็นโทนี่เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เห็นด้วย กัปตันโรเจอร์ส รู้สึกพูดอะไรไม่ออก เดิมเขาเสนอเเผนนี้ เเต่สหายของเขาทั้งสองคนกลับไม่เห็นด้วย พอมิราจไนท์เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งสองคนกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เเต่ในเมื่อได้รับการสนับสนุนจาก โทนี่ เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ กัปตันโรเจอร์สก็รู้สึกหายห่วง
เพราะไม่ว่ามิราจไนท์จะทำให้พวกเขาเปลี่ยนความคิดจริงหรือไม่เเต่อย่างน้อยเเผนการของกัปตันโรเจอร์สก็ได้รับการสนับสนุน
“ดังนั้นเราจะยึดตามเเผนนี้คนที่จะเข้าไปทางฝั่งฉัน มีทีม K ,ทีม S รวมสมาชิกทั้งหมด 29 คน นอกจากนี้ยังมี สมาชิกทีมอเวนเจอร์สอีก ทางด้าน ทีมX-MEN เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ พวกคุณจะส่งใครไปบ้าง”เนืน่องจากในปัจจุบันพวกเขาไม่มีเวลามากพอที่จะมานั่งวางเเผนการกันระยะยาวดังนั้นกัปตันโรเจอร์สจึงต้องการสอบถามอย่างเร่งด่วน
“ทีมX-MENนำโดย ฉัน , มี เเฮงค์, สตอร์ม บลิงก์ เเละ คิตตี้ รวมทั้งหมด 5 คน”ได้ยินคำถามของกัปตันโรเจอร์ส ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ
คนที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตั้งใจส่งไปตรวนี้เป็นมิวแทนท์อันดับ ต้น ๆ ของโลก โดยเฉพาะศาสตราจารย์ชาร์ลส์ความสามารถของเขาอาจเป็นไปได้ว่าจะสามารถรับมือกับพวกดาร์คเอลฟ์ได้ดี ท้ายที่สุดเเล้ว สมาชิกทีม X-MEN ทุกคนก็มีจุดเเข็งความสามารถที่เเตกต่างกันเเต่ก็สามารถสนับสนุนพวกเขาทั้งหมดได้
“อืม,เเละทีม พันธมิตรผู้พิทักษ์ล่ะ พวกคุณใครจะไปบ้าง”กัปตันโรเจอร์สได้จ้องมองไปที่ เเดร์เดวิล เมื่อรู้ว่ามิราจไนท์ไม่อยู่ คนที่สามารถนำทีมได้ในตอนนี้ก็คงมีเเต่ เเดร์เดวิล
“นอกจากดาร์คไนท์ เเล้ว พวกเราทุกคนล้วนไป”ได้ยินคำถามของกัปตันโรเจอร์สเเดร์เดวิลกล่าวตอบ
เก้านาทีสิบสองวินาที
เมื่อเผชิญหน้ากับการซักถามของสเตซี่เเจ็คสันเพียงให้ความเงียบกับเธออยู่ครู่นึง
“นี่เป็นวิธีการจัดการที่ดีที่สุดตอนนี้ คุณฟอสเตอร์ ติดอยู่ข้างในมิติอื่นดังนั้นคงมีเเต่ธอร์เท่านั้นที่สามารถช่วยเธอได้”เเจ็คสันได้มอบคำตอบเเละอธิบายสั้น ๆ เพียงเท่านั้น
“เธอบอกว่านี่เป็นการช่วยเหลือคุณฟอสเตอร์เธอพูดอะไรออกมาพวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้างในพื้นที่มิตินี้เป็นอันตรายหรือไม่?”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน สเตซี่ รู้สึกไม่เข้าใจการกระทำของเเจ็คสัน
“ผมเข้าใจดี,เเต่พี่สาวสเตซี่คุณจะต้องเชื่อผม ครั้งก่อน ผมก็สามารถจัดการเรื่องทุกอย่างได้อย่างไม่มีปัญหาเลยไม่ใช่หรอ”เเจ็คสันอธิบายอีกครั้ง
หลังจากได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน สเตซี่ ในที่สุดก็เงียบลง เธอรู้ดีว่าเด็กหนุ่มด้านหน้าเธอนี้ไม่ใช่เด็กหนุ่มธรรมดา ในปัจจุบันเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับ โทนี่ สตาร์ค ทั้งยังเป็นตัวตนเฝ้าระวังที่องค์กร S.H.I.E.L.D. คอยจับตามองอีก
“หวังว่าธอร์จะไม่พบกับอันตรายใดๆ เเต่ยังไงก็เถอะ เธอไม่ควรจะถีบธอร์แบบนั้น เดิมเขาก็วางเเผนที่จะกระโดดลงไปที่นั่นด้วยตนเองอยู่ก่อนเเล้ว!”สเตซี่ ย้อนเเย้ง ในเรื่องนี้ การกระทำของเเจ็คสันมันไม่เหมาะสมเอามาก ๆ
ได้ยินคำพูดของสเตซี่เเจ็คสันทำได้เพียงเเต่ยิ้มอย่างขมขื่น เป็นเพราะเขาลืมคิดเรื่องนี้ไป เขาต้องการสร้างสถานการณ์ให้ฮัมดาลล์ช่วยเหลือธอร์ ถ้า ฮัมดาลล์ รู้ว่าธอร์ไม่ได้อยู่ที่โลกเขาจะต้องตามหาอย่างเเน่นอน
เเละตอนนี้ที่ธอร์หายตัวไปเเจ็คสันเชื่อว่า ฮัมดาลล์ เองก็น่าจะสังเกตุได้เเล้วเหมือนกัน เเต่เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะตอบสนองต่อผลลัพธ์ที่เขาต้องการมากน้อยเเค่ไหน
“พี่สาวสเตซี่คุณยังจำก่อนหน้านี้ได้หรือไม่ว่า หลังจากคุณโยนกระป๋องเครื่องดื่มนั่นไป หลังจากที่มันไปเเละกลับมาเป็นระยะเวลาเท่าไหร่”เเจ็คสันได้กล่าวถามสเตซี่เรื่องนี้
“เอ่อ…ฉันเองก็ไม่ได้จดบันทึกเวลาเเต่ไม่น่าจะเกิน10 นาที”สเตซี่ ตอบกลับ
“9นาที 12 วินาที”หลังจากที่สเตซี่ กล่าวตอบ อีเเวนส์ น้องชายของเธอ ก็กล่าวพูดเเทรกขึ้น ไม่รู้ว่าเขาสามารถจดจำมันได้ยังไง เเต่ดูเหมือนเขาจะจำเวลาที่เเน่นอนได้
“ดี,ฉันจะรอที่นี่9 นาที 12 วินาที ถ้าเกิดผ่านเวลา 9 นาที 12 วินาที ไปเเล้ว,เเละธอร์ไม่ปรากฏตัวออกมาเเสดงว่าเขาสามารถเชื่อมต่อพื้นที่มิตินั้นได้สำเร็จ”เเจ็คสันพยักหน้าพูด
เจนฟอสเตอร์ ได้ติดอยู่ในพื้นที่มิติอื่น ถ้าเกิดธอร์ที่หลุดเข้าไปในพื้นที่มิตินั้นเเละเชื่อมต่อได้สำเร็จก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ตามพล็อตเรื่องเดิม ไม่มีความผกผันเช่นนี้เกิดขึ้น ทั้งธอร์ในตอนนี้ยังฟื้นความเเข็งเเกร่งของตนเองได้ไม่ถึงครึ่งส่วนด้วยซ้ำเขายังเป็นไก่อ่อนที่อ่อนเเออยู่ เเต่ไก่ตัวนี้ก็มีความเเข็งเเกร่งของมัน เเม้ ฮัมดาลล์ จะไม่ลงมือตรวจสอบเเละช่วยเหลือธอร์ หากจวนตัวจริง ๆ เเจ็คสันย่อมหาทางทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้พวกเขาทั้งคู่ตกอยู่ในอันตรายเเน่นอน
“ถ้าเกิดรอจนครบ9 นาที 12 วินาที เเล้ว ธอร์ไม่ปรากฏตัวออกมาล่ะ พวกเราจะทำยังไง”สเตซี่ กล่าวถามอีกครั้ง
“ฉันคิดว่าที่คุณ เเจ็คสัน พูดก็ถูกนะ เอาเป็นว่าเรามารอกันก่อน หลังจากผ่านไป 9 นาที 12 วินาที เราก็จะรู้คำตอบเอง”หลังจากสเตซี่ กล่าวถามเเจ็คสัน อีเเวนส์ ที่อยู่ใกล้เคียงได้พูดเเย้งขึ้น
เปรียบเทียบกับสเตซี่น้องชายของเธอนั้นมีความสามารถความเข้าใจในเรื่องนี้มากกว่า ยิ่งหลังจากมองเเจ็คสันด้วยเเล้วเขาสามารถสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
สำหรับสเตซี่เธอเองก็รู้ว่าเเจ็คสันไม่ใช่คนธรรมดา เด็กคนนี้มีอะไรซ่อนเร้นมากกว่าที่เธอคิด ดังนั้นเมื่อเห็นท่าทีอันลึกลับเเละการกระทำที่เหนือความคาดหมายมันก็ยิ่งทำให้เธออยากรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของเขามากขึ้นไปอีก
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะถ้าผ่านไปเเล้ว เเละ ธอร์ไม่ปรากฏตัวขึ้นมาเล่า”สเตซี่ ยังคงทักท้วงหัวข้อนี้
“ถ้าเวลาผ่านไปเเล้วเเละ ธอร์ไม่ปรากฏตัวออกมา ผมจะเข้าไปตามหาเขาด้วยตนเอง”
“ผ่อนคลายเถอะผมมีความมั่นใจมากเมื่อเทียบกับคุณผมสามารถทำอะไรได้หลายสิ่งมากกว่านี้เยอะ!”เห็นสเตซี่ เป็นกังวล เเจ็คสันได้ปลอบประโลมเธอ
“เธอนี่มัน!เเม้ว่าเธอจะเป็นคนที่พิเศษก็เถอะ เเต่ไม่เห็นจะต้องทำเต๊ะวางมาดเเบบนั้นเลย นอกจากนี้ เธอยังอายุน้อยกว่าฉันนะ!”เห็นการกระทำของเเจ็คสัน สเตซี่ ทำได้เพียงเเต่ทำปากบุ้ยด้วยความไม่พอใจ
“เเล้วนี่เธอมาที่นี่คนเดียวอย่างงั้นหรอคนของ S.H.I.E.L.D. เเละ โทนี่ สตาร์ค เล่า ไปไหน?”หลังจากทำท่าทีเเสดงความไม่พอใจ สเตซี่ ก็ยังคงกล่าวถามต่อ
ครั้งก่อนระหว่างการเข้าพักในนิวเม็กซิโกสเตซี่ ได้มีประสบการณ์อย่างการเข้าปะทะของกองทัพไอรอนแมน เเละ อาวุธสงครามรูปแบบมนุษย์ที่มาจากสะพานไบฟรอส เหตุการณ์ครั้งนั่นเป็นเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตของเธอ ดังนั้น เห็นว่าเเจ็คสันมาที่นี่คนเดียว เธอหวังว่าเขาจะได้รับการสนับสนุนจากคนอื่น ๆ ภายหลัง
“ที่มาก็มีเเค่ผมเท่านั้นธอร์ ได้ติดต่อหาผมให้ช่วยเหลือเขา เเละ เรื่องนี้ก็คงไม่มีใครสามารถช่วยเหลือเขาได้ดีไปกว่าผมอีกเเล้ว”เเจ็คสันสั่นศีรษะเล็กน้อย
เเม้ว่าเขาจะสามารถขอให้J.A.R.V.I.S รวบรวมชุดเกราะไอรอนแมนมาช่วยเหลือเขาได้ เเต่เขาก็ต้องประเมินสถานการณ์โดยรวมเสียก่อนในปัจจุบันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพื้นที่มิติ เเจ็คสันต้องการตรวจดูสถานการณ์ หากเป็นไปได้อย่างราบรื่นเขาก็คงไม่จำเป็นต้องกังวลมากนัก
“จริงด้วยก็เพราะว่าธอร์เป็น…”สเตซี่ได้บ่นพึมพัมออกมาเล็กน้อยก่อนที่เธอจะฉุดคิดอะไรได้เเละได้หยุดพูดไป
เห็นการสนทนาระหว่างพี่สาวกับเเจ็คสันอีเเวนส์ที่อยู่ใกล้เคียงรู้สึกสนใจอย่างมาก เขาเเทบจะไม่กระพริบตาเลยไม่มีใครรู้ว่าในหัวของเขาตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่มากน้อยเเค่ไหน
ถีบส่ง
ได้ยินคำพูดของธอร์เเจ็คสันไม่ได้ตอบทันที เรื่องนี้เกี่ยวพันกับชีวิตของเจน เเละ อีเธอร์ ตอนนี้เผ่าดาร์คเอลฟ์กำลังบุกเเอสการ์ดเพื่อหาอีเธอร์อยู่ ทางด้านไซบีเรียเองพวกกัปตันโรเจอร์สก็กำลังรอข่าวจากเขาดังนั้นเเจ็คสันจะประมาทไม่ได้
หลังจากสังเกตุพื้นที่อย่างระวังเเจ็คสันก็สามารถคาดเดาได้ว่าเจน ฟอสเตอร์ คงจะติดอยู่ในพื้นที่มิติอื่น เเจ็คสันได้ให้ J.A.R.V.I.S ประมวลผลองค์ประกอบกับประตูมิติอวกาศที่ปรากฏขึ้นที่ไซบีเรียเพื่อเชื่อมต่อข้อมูลเเละวิเคราะห์ออกมา
“เเจ็คสันสรุปเจ้าคิดอย่างไร”หลังจากรอมาซักพักนึงธอร์ก็กล่าวถามอีกครั้ง
“นั่นมัน!”ขณะที่ ธอร์กำลังกล่าวถามเเจ็คสัน จู่ ๆ อีเเวนส์ ก็ชี้นิ้วไปที่ตำเเหน่งด้านหน้าอย่างตกใจ
ฟวั่บ!
ทุกสายตาได้หันไปพบกับบางสิ่งบางอย่างมันเป็นกระป๋องเครื่องดื่มที่ปรากฏขึ้นที่บนลานกว้างโดยตรง
“ก่อนหน้านี้พวกเราโยนมันเเละมันได้หายไปตอนนี้มันกลับมาเเล้ว! หรือว่าตรงนั้นเป็นพื้นที่มิติจริง ๆ !”อีเเวนส์กล่าวอธิบาย
“หรือว่านี่คือการเชื่อมต่อกับมิติโลกอื่นเเต่ช่องทางนี้ได้ถูกตัดขาดบางส่วนทำให้มีช่องว่างขนาดใหญ่จนส่งกระป๋องเครื่องดื่มนี่กลับมา !”หลังจากอีเเวนส์ตะโกน สเตซี่ ก็กล่าวอธิบาย
เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันเเจ็คสันได้เงียบลง จนถึงตอนนี้ เขายังไม่สามารถสรุปออกมาได้ เดิมเขามีเเผนที่จะกระโดดเข้าไปในพื้นที่มิตินี้โดยตรงเเต่ถ้าด้านหน้านี้ช่องทางถูกตัดขาดจริง ๆ เขาคงจะสูญเสียพลังงานไปเปล่า ๆ
“ธอร์คุณสามารถติดต่อ ฮัมดาลล์ ตอนนี้ได้หรือไม่”ขณะที่เเจ็คสันกำลังกังวล เขาก็กล่าวถาม ธอร์
ฮัมดาลล์เป็นผู้พิทักษ์ สะพานไบฟรอสของเเอสการ์ด เขาสามารถมองเห็นทุกสรรพสิ่งที่อยากจะเห็นใน เก้าโลกได้ ตราบเท่าธอร์สามารถติดต่อ ฮัมดาลล์ได้ เเละ สามารถขอให้เขาช่วยมองหาเจน เเจ็คสันเชื่อว่านี่จะต้องเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในตอนนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
“ติดต่อฮัมดาลล์ คงจะไม่ได้ เเม้ฮัมดาลล์ จะได้ยินเสียงข้า เเต่ข้าก็ถูกท่านพ่อลงโทษอยู่ เขาคงจะไม่ตอบรับเสียงเรียกของข้า”ได้ยินคำพูดของ เเจ็คสัน ธอร์ตอบกลับอย่างหมดหนทาง
“ถึงจะไม่ตอบรับเเต่เขาก็ได้ยิน เช่นนั้นบางทีเราควรลองดูก่อนดีหรือไม่”เเจ็คสันตอบกลับ
เห็นการเเสดงออกของเเจ็คสันธอร์ ไม่รู้ว่าเเจ็คสันกำลังคิดอะไรอยู่ เเต่เขาก็คงจะไม่อาจปฏิเสธความคิดของสหายคนนี้ของเขาได้
หากฮัมดาลล์ได้ยินเสียงเรียกของธอร์บางทีเขาอาจจะช่วยเหลือธอร์อย่างลับ ๆ ในการมองหาตัว เจน ที่หายตัวไป ถึงอย่างไรเจนก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ลำพังเเค่มนุษย์ธรรมดาคนนึง ฮัมดาลล์ไม่น่าจะสูญเสียพลังมากในการค้นหา
“ถ้าเกิดธอร์หายตัวไปจากโลกฮัมดาลล์ จะต้องให้ความสนใจอย่างเเน่นอน เเม้ว่าโอดินจะเนรเทศธอร์ เเต่ย่อมไม่ปล่อยให้เลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองต้องตกตาย”เเจ็คสันได้ครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเเจ็คสันก็จ้องมองไปที่ธอร์พร้อมกับส่งยิ้มเเปลกๆ ไปให้
“ธอร์,ฉันเชื่อว่าคุณจะต้องไม่เป็นอะไร!”เเจ็คสันได้จ้องมองไปที่ธอร์เเละกล่าวพูดขึ้น
ฟุ่บ!
พริบตาต่อมาต่อสายตาเบื้องหน้าของสเตซี่ เเละ อีเเวนส์ เเจ็คสัน ได้ถีบก้นของธอร์โดยตรง
ฟุ่บ!
ธอร์ที่ยืนอยู่บนขอบสนามเขาที่ถูกถีบโดยเเจ็คสันได้กระเด็นลอยไปด้านหน้าเเม้ว่าธอร์จะมีพละกำลังทางกายที่เเข็งเเกร่ง เเต่ เเจ็คสันก็ไม่ใช่คนธรรมดา ทั้งเขายังใช้ความเเข็งเเกร่งของตนเองส่งธอร์บินลอยไปไกลหลายเมตรจนชนเข้าที่ลานบ้านด้านหน้า
ปั้ง
หลังจากผ่านไปสิบวินาทีธอร์ เเละ กระป๋องเครื่องดื่ม ก็หายไปอีกครั้ง
เเจ็คสันได้ดึงขาที่เตะธอร์ลอยไปไกลดึงกลับมาอีกครั้งจากนั้นก็เงยหน้ามองขึ้นบนฟ้า”ฮัมดาลล์ถ้าคุณได้ยิน คุณจะต้องเลือกเเล้วว่าจะมองหา เจ้าชายคนสำคัญของเเอสการ์ดหรือไม่”
ฟุ่บ!
ได้เห็นเเจ็คสันถีบธอร์กระเด็นออกไปสเตซี่ เเละ อีเเวนส์ ได้ดึงสติกลับมา
“เเจ็คสัน!เธอทำบ้าอะไรหน่ะ”ภายใต้ความกังวลสเตซี่ ได้กล่าวถามอย่างรุนเเรงเเละต้องการฟังคำตอบจาก เเจ็คสัน
เเม้ธอร์เพื่อนจากต่างโลกคนนี้จะมีความเเข็งเเกร่งที่รุนเเรง เเต่หากต้องเผชิญหน้ากับอันตรายเช่นพื้นที่มิตินี้ สเตซี่ กังวลว่าธอร์จะได้รับบาดเจ็บ ไม่ใช่เพียงเเค่เธอจะสูญเสีย เจน ฟอสเตอร์ไปเท่านั้น ด้วยพฤติกรรมของ เเจ็คสัน ตอนนี้ เธอมีโอกาสที่จะสูญเสียธอร์ อดีตคนรักของ เจน ฟอสเตอร์ไปด้วย ไม่มีใครรู้ว่าเเจ็คสันได้ทำไปเพราะอะไร เเต่การกระทำของเขาในสายตาของพวกเธอคือการฆาตกรรมอย่างเห็นได้ชัด
เดินทางมาถึง
หลังจากสเตซี่ เเละ น้องชายของเธอหันกลับไปก็พบชายหนุ่มรูปร่างหล่อเหลากำลังยิ้มทักทายพวกเขาอยู่ ได้เห็นใบหน้า ชัดเจนของเด็กหนุ่มคนนั้น สเตซี่ รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
“พี่สาวสเตซี่ พี่รู้จักเขางั้นหรอ”น้องชายของเธอได้กล่าวถามถึงเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนนั้น
ฟุ่บ!
“เเจ็คสัน,เธอเองก็มาด้วยงั้นหรอเนี่ย!เดิมฉันได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับธอร์ ไม่คิดเลยว่าเขาจะส่งเธอมาช่วยเหลือด้วย!”หลังจากที่น้องชายของเธอกล่าวถาม สเตซี่ ได้กล่าวตะโกนออกมา
เเจ็คสันได้ขับชุดเกราะไอรอนแมนบินตรงมาจากไซบีเรียความเร็วของชุดเกราะไอรอนแมนเเน่นอนว่าย่อมมากกว่าเครื่องบินส่วนตัวของโทนี่ ดังนั้น เขาจึงเดินทางมาถึงก่อนธอร์
~~
สเตซี่จ้องมองไปที่เเจ็คสันที่้เดินเข้ามาเธอเหยียดเเขนออกเตรียมจะกอดเด็กหนุ่มเเจ็คสันคนนี้ เดิมเธอก็เป็นคนประเภทชอบผู้ชายหล่อเหลาอยู่เเล้ว ยิ่งรู้มาว่าภูมิหลังของเเจ็คสันไม่ธรรมดาทำให้เธอยิ่งหลงชอบเด็กหนุ่มคนนี้มากขึ้นไปอีก
“เอ่อ…พี่สาวสเตซี่เเม้ว่าพวกเราจะไม่ได้เจอกันเเน่ เเต่การทักทายที่อบอุ่นแบบนี้มันก็”เเจ็คสันที่ถูกโอบกอดโดยสเตซี่ เขายิ้มออกมาทันที
~~
“ฮ่าฮ่าใช่ พวกเราไม่ได้พบกันนานเลย น้อง เเจ็คสัน ดูท่าเธอจะมีความสุขดีนะ!”ภายใต้การเตือนของเเจ็คสันสเตซี่ ได้คลายเเขนทั้งสองข้างของเธอออก
ตั้งเเต่เเยกจากกันที่นิวเม็กซิโกนับตั้งเเต่นั้นเธอเเละเเจ็คสันก็ไม่ได้ติดต่อหากันเลยเธอรู้ว่า เเจ็คสันมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ โทนี่ สตาร์ค โดยธรรมชาติเธอเองก็รู้ว่าเเจ็คสันก็คงจะงานยุ่งเหมือนกัน
“พี่สาวสเตซี่,พี่จะไม่เเนะนำผมหน่อยหรอเขาเป็นเเฟนพี่ใช่มั้ย”เห็นการทักทายของ พี่สาว เเละ เด็กหนุ่มเเจ็คสันคนนั้น น้องชายที่โง่เขลาคนนี้ ได้กล่าวถามออกมา
“เขาเเฟนของฉัน…ไม่ๆ เขาเป็นเพียงน้องชายที่มาฝึกงานเหมือนกับฉันตอนนั้น”ได้ยินคำพูดของน้องชายที่โง่เขลาของเธอสเตซี่รีบปฏิเสธทันที เธอรู้ว่าตนเองกับ เเจ็คสันไม่มีทางพัฒนาความสัมพันธ์การเป็นคนรักกันได้
“นี่น้องชายของคุณงั้นหรอพี่สาวสเตซี่?”ได้ยินคำพูดของสเตซี่ เเจ็คสันได้เดินไปข้างหน้าเเละกล่าวทักทาย
เห็นอีกฝ่ายเดินมาที่เบื้องหน้าของตนเองน้องชายคนนี้จ้องมองไปที่อีกฝ่ายเเละยื่นมือออกมาอย่างเร่งรีบ”สวัสดี,ฉันชื่อ อีเเวนส์ , อีเเวนส์ โรเบิร์ต”
เเจ็คสันได้จ้องมองไปที่อีกฝ่ายที่มีท่าทีตึงเครียดโดยปกติเเล้วเเน่นอนว่าเขาอาจจะไม่คุ้นเคยกับตนเองจึงเเสดงอาการแบบนั้นออกมา
“อีเเวนส์ ดี อีเเวนส์ เรียกฉันว่า เเจ็คสัน หลิน, นายสามารถเรียกฉันว่า เเจ็คสันได้ ยินดีที่ได้รู้จัก!”เเจ็คสันได้ถอนมือออกพร้อมกับกล่าวทักทาย
“อืม,ยินดีที่ได้รู้จักเเจ็คสัน!”
หลังจากทั้งสามคนกล่าวทักทายกันเสร็จห่างจากพวกเขาไม่ไกลเสียงเครื่องยนต์ก็ได้ดังเเทรกกระเเสลมอย่างรุนเเรงจนทำให้สายลมเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
“หืมนั่นธอร์งั้นหรอ?เขาไม่เห็นบอกว่าจะนั่งเครื่องบินมา”ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มสเตซี่ กล่าวพึมพัมเล็กน้อย
“อืม,ดูเหมือนเขาจะมาถึงเเล้ว”เเจ็คสันพยักหน้า
จากนั้นสเตซี่ เเจ็คสัน เเละ อีเเวนส์ ก็จ้องมองไปที่ทิศทางของเสียง
ด้านหน้าของพวกเขาเป็นถนนโล่งที่ไม่ได้เปิดให้เข้าชมในพื้นที่ตรงนั้นมีเครื่องบินเจ็ตลำนึงได้ลงจอดอย่างรวดเร็ว
ท่ามกลางห่าสายฝนจำนวนมากเครื่องบินเจ็ตลำนี้หลังจากลงจอดสำเร็จประตูด้าหนน้าก็ถูกเปิดออกธอร์ที่ใจร้อนรีบกระโดดลงมาโดยไม่ใช้บรรไดจากความสูงหลายเมตร เขารีบวิ่งไปยังทิศทางของพวกเเจ็คสันทันที
“นั่นคือเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวงั้นหรอ เขาคือเเฟนเก่าของ ศาสตราจารย์ฟอสเตอร์ ทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทของ โทนี่ สตาร์ค ?”หลังจากเห็นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว อีเเวนส์ ได้จ้องมองไปที่มันอย่างตกตะลึง
ก่อนหน้านี้สเตซี่ ได้บอก อีเเวนส์ เกี่ยวกับสถานะของธอร์ เเน่นอนว่าเธอไม่ได้บอกว่าธอร์เป็นมนุษย์ต่างดาว เเต่เเค่เเนะนำในฐานะเเฟนเก่าของ เจน
นอกเหนือจากเรื่องนี้สเตซี่ ก็ยังเล่าเรื่องของธอร์อีกมากถึงความพิเศษของเขา
“หืมธอร์เขาไม่ใช่เพื่อนสนิทของ โทนี่ สตาร์ค หลอกนะ เป็นเด็กหนุ่มข้าง ๆ เธอต่างห่าง นายไม่สังเกตุเห็นชุดเกราะไอรอนเเมนที่จอดอยู่ตรงมุมนั่นงั้นหรอ? ฉันคิดว่านายรู้อยู่ก่อนเเล้วว่าเเจ็คสันได้ขับชุดเกราะไอรอนแมนนั่นมาซะอีก”เห็นอาการตกใจของน้องชาย สเตซี่ กล่าวอธิบาย
ได้ยินคำพูดของสเตซี่อีเเวนส์ ได้จ้องมองไปยังตำเเหน่งมุมถนน เขาเห็นชุดเกราะไอรอนแมนที่เป็นเอกลักษณ์ เเละคือชุดเกราะตัวจริงเสียงจริง
“ชุดเกราะไอรอนแมน!”

“ดูเหมือนว่าพื้นที่นี้จะมีความผิดปกติทางมิติจริงๆ ปัจจุบันเราไม่รู้ว่าคุณฟอสเตอร์จะปลอดภัยหรือไม่”ผ่านไปหลายนาทีเเจ็คสันที่ยืนอยู่ตรงลานข้าง ๆ ได้ตรวจสอบเเละกล่าวออกมา
เพียงการปรากฏตัวของเขาเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้สำหรับ ธอร์ เองก็เช่นเดียวกัน เพราะพลังเหนือธรรมชาติของตนเองได้ฟื้นฟูกลับมาส่วนนึงทำให้สามารถสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของที่นี่
“เเจ็คสันตอนนี้ พวกเราจะเอายังไงกันดี หรือจะให้ข้ากระโดดเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ดูเองเลยดีหรือไม่?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ธอร์กล่าวถามอย่างกังวล มันก็ผ่านไปนาทีเเล้วหลังจากเขามาถึง ดังนั้นธอร์จึงรู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก
พื้นที่มิติปิดกั้นที่ปั่นป่วน
ลอนดอนขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเเห่งหมอกที่โด่งดังที่สุดในโลกสภาพอากาศที่นั่นไม่ค่อยดีนักถ้าจะบอกให้ถูกก็คือ สภาพอากาศที่นั่นค่อนข้างเลวร้ายเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพราะมีฝนตกอย่างต่อเนื่องทำให้นักท่องเที่ยวเเละชาวเมืองต่างก็ไม่ค่อยอยากจะออกไปไหนกันในชานเมือง สเตซี่ ได้พาน้องชายของเธอเข้าไปในกรุงลอนดอนเพื่อตามหาอะไรบางอย่าง
“พี่สาว,พวกเราเดินมาตั้งนานเเล้วเเต่ก็ไม่พบคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ของคุณฟอสเตอร์เลย พวกเรารีบกลับดีไหม นี่มันน่ากลัวมาก ๆ !”น้องชายของเธอได้หลบข้างหลังสเตซี่เเละกล่าวอย่างหวาดกลัว
“น่ากลัวอะไร! ก็เเค่ฝนตกเล็กน้อย นอกจากนี้ นายเป็นผู้ชายนะ มาหลบหลังฉันแบบนี้หมายความว่าไง”เห็นความขี้ขลาดของน้องชายตนเอง สเตซี่ บ่นอย่างไม่สบอารมณ์
ได้ยินคำพูดของพี่สาวตนเองเขาได้กลับมาฮึกเฮิมอีกครั้งเเม้ในใจของเขาจะรู้สึกหวาดกลัวก็ตาม
“ฮึ่ม!เอ๊ะ ด้านหน้า สัมผัสได้ถึงคลื่นสัญญาณ มันมาจากตรงนั้น”น้องชายของเขากล่าวออกมา
ทิศทางที่เขาชี้ไปคือสถานที่ที่มีอาคาร5 หลังติดดเป็นพื้นที่ลานกว้างเเต่เเถวนี้ไม่ค่อยมีใครสัญจรผ่านไปมา เเม้ฝนจะตกเเต่ก็ไม่มีความอับชื้นในบริเวณนั้นเเม้เเต่น้อย
“หืม”สเตซี่จ้องมองไปที่พื้นที่นั้นด้วยความสงสัย
จากนั้นเธอก็เร่งเดินก้าวเข้าไปยังพื้นที่นั้นโดยไม่รอให้น้องชายของเธอต้องพูดอะไร
“ฝนหยุดตกเเล้วงั้นหรอเดี๋ยวนะ ก็ยังไม่หยุดนิ!”สเตซี่จ้องมองขึ้นไปบนฟ้าเเละจ้องมองจุดพื้นที่ที่เธอยืนอยู่อย่างระวังเเละสังเกตุอย่างมั่นคง
“มันเป็นปรากฏการณ์พิเศษงั้นหรอ”น้องชายของเธอได้เดินตามมาถึงเเละจ้องมองไปที่สเตซี่ด้วยความประหลาดใจ
ในเวลานี้เธอ เเละ น้องชายยืนอยู่บนสนามกลางอาคารที่เป็นลานกว้าง ด้านบนไม่มีอะไรปิดกั้นด้านล่างเเม้เเต่น้อย เเม้ฝนจะตกลงมาเเต่กลับไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่อยู่ด้านล่างนี้ ดังนั้นพวกเขาทั้งสองคนจึงรู้สึกเเปลกใจอย่างไม่ชอบมาพากล
สเตซี่พยายามเงื้อมหูฟังเสียงโดยรอบเเต่ก็ไม่พบอะไรทำให้เธอรู้สึกหดหู่อย่างมาก
“ว่าเเล้วจะต้องไม่เจออะไรง่ายๆ สงสัยจะต้องตรวจสอบพื้นที่เเถวนี้อย่างละเอียด!”พิจารณาจากสถานการณ์ในปัจจุบัน สเตซี่ บ่นพึมพัมเล็กน้อย
“พี่สาวเราควรทำยังไงดีคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ของคุณ ฟอสเตอร์ มาจากพื้นที่เเถวนี้จริง ๆ หรือว่าที่นี่จะมีพื้นที่มิติปิดกั้นอย่างที่พี่พูดถึงจริง ๆ งั้นหรอ?”ได้ยินเสียงของสเตซี่ น้องชายคนนี้ กล่าวถามด้วยความกังวล
“ถ้ามีพื้นที่มิติปิดกั้นอย่างที่คิดจริงๆ ก็คงไม่เเปลกที่เครื่องตรวจจับจะไม่เห็น”ได้ยินคำถามของน้องชาย สเตซี่ ตอบกลับด้วยอารมณ์ไม่ดี
หลายเดือนที่ผ่านมาสเตซี่ได้ติดตามเจน ฟอสเตอร์ จนพบกับเรื่องราวเเปลกประหลาดมากมายไม่ว่าจะเป็น สะพานไบฟรอส มนุษย์๖างดาว หรืออาวุธสงครามจากอารยธรรมอื่น ๆ ตั้งเเต่นั้นเป็นต้นมามุมมองในความคิดของเธอก็กว้างไกลมากขึ้น เธอเชื่อว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่เธอยังต้องเรียนรู้อีกมากโดยเฉพาะเรื่องลึกลับ
“ความหนาเเน่นของอนุภาคเเอลฟากำลังปะทุอย่างรุนเเรง!”ภายใต้การจ้องมองของสเตซี่น้องชายของเธอที่ถือเครื่องตรวจจับได้ตรวจพบคลื่นอนุภาคเเอลฟาที่เกินขีดจำกัดการตรวจ
“อืม,คลื่นอนุภาคเเอลฟาถูกนำมาใช้พื้นการวิจัยเเละทดสอบที่นี่ดังนั้น คุณฟอสเตอร์ น่าจะใช้คลื่นพวกนี้แบบพิเศษทำให้ภายในพื้นที่มีการกักเก็บอนุภาคเเอลฟามากเกินไปจนเกิดปัญหา”สเตซี่ได้หยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเป้ด้านหลังของเธอ
ดูเหมือนว่าเธอจะพยายามหยิบเครื่องดื่มกระป๋องออกมาจากเป้สะพานหลังเห็นการกระทำของพี่สาวของเธอ น้องชายคนนี้รู้สึกสงสัยอย่างมาก ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่กำลังตกอยู่ในสถานการลึกลับบางอย่าง พี่สาวของเขายังจะมีอารมณ์มากินเครื่องดื่มกระป๋องอีกงั้นหรอ
ฟุ่บ!
ขณะที่น้องชายคนนี้กำลังสงสัยสเตซี่ ก็ได้โยนเครื่องดื่มกระป๋องไปที่ลานกว้างด้านหน้าพวกเธอโดยตรง
ทันทีที่เครื่องดื่มกระป๋องได้กระทบลงกับพื้นที่ห่างออกไปหลายเมตรพวก สเตซี่ ก็จ้องมองไปที่ทิศทางนั้นอย่างตระหนักได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
~~
หลังจากที่เครื่องดื่มกระป๋องกลิ้งไปได้ประมาณ10 เมตร มันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“มัน!… มันหายไป พี่เห็นไหม เครื่องดื่มกระป๋องนั่นมันหายไปเเล้ว!”น้องชายที่ได้เห็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อได้เกิดขึ้นเขาตะโกนขึ้นมาอย่างลั่น
“ใช่ฉันเห็น,มันหายไปดูเหมือนว่าที่นี่จะมีพื้นที่มิติปิดกั้นจริง ๆ เเละ คุณฟอสเตอร์ ก็ควรจะติดอยู่ข้างในนั้น!”เทียบกับความตกใจของน้องชาย สเตซี่ ยังคงสงบกว่ามาก
เท่านี้พวกเธอก็สามารถยืนยันได้ว่าที่นี่มีพื้นที่มิติปิดกั้นจริงๆ เเละ คุณฟอสเตอร์ ก็คงจะไม่ได้อยู่ที่นี่เเต่หลุดไปยังอยู่ในพื้นที่มิติปิดกั้นที่เป็นอีกโล ตอนนี้ สเตซี่ รู้สึกกังวลมาก
ในปัจจุบันพวกเธอจ้องมองไปที่ลานเปล่าด้านหน้าอย่างไม่ทราบว่าควรจะทำอะไรต่อดีขณะที่ พวกเขากำลังครุ่นคิด จู่ ๆ ก็มีกระเเสลมปั่นป่วนรอบพื้นที่เเห่งนี้
~~
เห็นคลื่นกระเเสลมที่เปลี่ยนไปสเตซี่ เเละ น้องชายได้หันศีรษะกลับไป พวกเขาทั้งสองคนมองเห็นคนผู้นึงตัวเล็กค่อนข้างมีเสน่ห์ เขาอยู่ห่างไม่ไกลจากตำเเหน่งของพวกเธอ
“ไม่ได้เจอกันนานคุณสเตซี่ !”
ที่ไม่น่าเชื่อ
ผ่านไปสองนาทีหน้าจอนำเสนอภาพได้หายไปอีกครั้งการสนทนากับพวกกัปตันโรเจอร์สได้สิ้นสุดลง เเจ็คสันได้หายใจเข้าออกลึก ๆ นี่ไม่ใช่ครั้งเเรกที่ กัปตันโรเจอร์ส ไอรอนแมน โทนี่ หรือ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะทำเรื่องสุ่มเสี่ยง
“ไม่คิดเลยว่านอกเหนือจากโทนี่กัปตันโรเจอร์สจะมีความคิดบ้าระห่ำขนาดนี้”เเจ็คสันพึมพัมออกมา
จากความเข้าใจของเเจ็คสันกัปตันโรเจอร์สตามพล็อตเรื่องเดิมเป็นคนสุขุมเยือกเย็นอย่างมากเเละ โทนี่ สตาร์ค ก็คือเพลย์บอยหนุ่มอารมณ์ร้ายเเละหัวรุนเเรง เเต่มาตอนนี้ราวกับว่าเรื่องทั้งหมดมันค่อย ๆ กลับกัน อย่างนั้น
“ดูเหมือนฉันจะต้องชี้เเจงเรื่องพวกดาร์คเอลฟ์ให้เร็วขึ้นกว่านี้ยังมีเรื่อง เจน กับ อีเธอร์ อีก”เเจ็คสันกล่าวพึมพัมออกมา
“J.A.R.V.I.S,เครื่องบินส่วนตัวของคุณสตาร์คพร้อมหรือยัง”เเจ็คสันได้กล่าวถามJ.A.R.V.I.S,
“กำลังเตรียมการอีกหนึ่งนาทีจะถึงปลายทางคุณสามารถให้เพื่อนของคุณรอบนสนามหลังบ้านบนถนนสายนั้นได้”J.A.R.V.I.S,ได้กล่าวตอบกลับ
หลังจากเมื่อครู่นี้เเจ็คสันได้ให้ J.A.R.V.I.S, ส่งข้อความหาโทนี่โดยตรงเขาไม่ได้อธิบายว่าต้องการเครื่องบินไปทำอะไรเเต่เเน่นอนว่า โทนี่ ก็อนุญาติเเละจะรอฟังคำตอบจากเขาภายหลัง
“ดี,ฉันจะโทรบอกธอร์นอกจากนี้ ฉันควรจะเดินทางไปยังไงดี”เเจ็คสันหยิบโทรศัพท์ออกมาเเละเดินขณะพูด
เขาต้องการไปที่ลอนดอนเพื่อดูสถานการณ์เป็นการส่วนตัวเเม้ไซบีเรียที่นี่จะมีประตูมิติอวกาศที่เป็นเรื่องสำคัญ เเต่ ถ้าเจน พบ อีเธอร์ เเล้ว ล่ะก็มันก็คนละเรื่องกันเเล้ว ถ้าจะให้พูดก็คือ ขุมพลังอย่างอินฟินิตี้สโตนนั้นสำคัญมาก เขาจะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปทั้งที่มีโอกาส
“ชุดเกราะไอรอนแมนสเเตนบายรอเเล้วครับคุณสามารถใช้งานได้!”ขณะที่เเจ็คสันออกจากห้องทางการเเพทย์ก็มีชุดเกราะไอรอนแมนรอเขายุก่อนเเล้ว
“!”
ฟุ่บ~~
ผ่านไปสิบวินาทีประตูด้านหน้าฐานลับใต้ภูเขาหิมะก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้งคราวนี้มันได้เปิดออกเพียงครึ่งเมตรจากนั้นก็มีเงาร่างบางอย่างพุ่งตรงออกมาเเละหายไปอย่างรวดเร็ว

นิวยอร์กพื้นที่สนามหลังบ้านในสถานที่รับเลี้ยงสุนัขจรจัดตามที่เเจ็คสันเล่ามาเขาควรจะรอที่สนามหลังบ้านเเห่งนี้เพื่อรอเครื่องบินมารับเขา
“เอ๋!ธอร์ ไม่ใช่ว่าคุณขอให้เพื่อนช่วยติดต่อเดินทางไปยังลอนดอนหรอกหรอเเล้วมาทำอะไรหลังบ้านนี่กัน?”เห็นธอร์เดินไปยังพื้นที่หลังบ้าน บุ๊ก ได้เดินตามเขาไป
“ข้าไปที่สนามบ้านเพื่อรอเครื่องบินส่วนตัวมารับเพื่อนของข้าบอกว่าน่าจะใกล้ถึงเเล้วตอนนี้”ธอร์ตอบกลับอย่างสงบ
“เครื่องบินส่วนตัวจะมาจอดที่นี่เป็นไปไม่ได้เเม้ว่าเพื่อนของนายจะรวยเเละมีเฮลิคอปเตอร์ติดบ้านเเต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะพานายบินไปลอนดอน!”บุ๊กกล่าวอย่างไม่เชื่อ
“ข้าไม่รู้ว่าเครื่องบินกับเฮลิคอปเตอร์ที่เจ้าพูดถึงมีอะไรเเตกต่างเเต่ข้าจะรออยู่ที่นี่เเหละ”
“ดี,ฉันเองก็อยากจะเห็นเหมือนกันเพื่อนนายคงล้อนายเล่นเเน่ ๆ เขาคงกำลังเเกล้งนายอยู่”เห็นธอร์ไม่ประสีประสา บุ๊กยังคงไม่เชื่อในสิ่งที่ธอร์พูด
~~
ขณะที่ธอร์ เเละ บุ๊ก กำลังรออยู่ที่หลังบ้าน จู่ ๆ อากาศบริเวณนั้นก็เริ่มมีสายลมอ่อน ๆ พัดมาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่ดังเข้ามาใกล้
“มีเครื่องบินมารับจริงๆ !”ได้ยินเสียงเเปลก ๆ ที่ว่านี้ บุ๊ก รู้ได้ในทันทีว่าเป็นเครื่องบิน จากนั้นไม่นานมันก็ลงจอด
ฟุ่บ~~
ทันทีที่ธอร์ก้าวเดินออกไปเบื้องหน้าประตูด้านหน้าก็ถูกเปิดออกมานี่เป็นสิ่งที่ทำให้บุ๊กประหลาดใจมากที่เขาเห็นเบื้องหน้า คือเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวที่หรูหรา ตัวเครื่องมีความยาวมากกว่า 20 เมตร ทั้งลำเป็นสีเทาบริสุทธิ์ไม่ได้มีการปรับเเต่งมากมายเเต่การปรากฏขึ้นของมันกลับสร้างความเเตกตื่นอย่างมากโดยเฉพาะสัญลักษณ์ตรงท้องเครื่อง
“สตาร์ค! เครื่องบินส่วนตัวของ โทนี่ สตาร์ค !”หลังจากเห็นสัญลักษณ์ที่ว่านั่น บุ๊ก เเทบจะล้มหงายหลังลงพื้น
ในปัจจุบันเขาไม่รู้ว่าเพื่อนของตนเองธอร์ ไปรู้จักกับคนใหญ่คนโตอย่างโทนี่ สตาร์ค ได้ยังไง
นอกจากนี้ธอร์ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับโทนี่ สตาร์ค จนเขาสามารถให้ยืมเครื่องบินส่วนตัวได้ ถ้าเช่นนั้นเเล้วเหตุผลอะไรที่ธอร์ถึงเลือกมาทำงานที่สถานรับเลี้ยงสุนัขจรจัดกัน นี่มันย้อนเเย้งอย่างมาก
“เครื่องบินลำนี้ใช้ได้เลยเเม้จะค่อนข้างเล็กไปหน่อย เเต่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการบรรจุคนหลายคน”ธอร์ยิ้มออกมาเล็กน้อย
ธอร์ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเครื่องบินมากนักเเต่ในเเอสการ์ดนั้่นก็มีพาหนะบินบนอากาศมันคือยานอวกาศขนส่งของพวกเขา ในความคิดของเขาเครื่องบินลำนี้ยังใหญ่ไม่เทียบเท่ากับยานอวกาศขนส่งที่พวกเขามี
“นายบอกว่าเครื่องบินลำนี้เล็กอย่างงั้นหรอ!”ได้ยินคำพูดของธอร์บุ๊ก เเทบจะเป็นลมล้มลงตรงนี้
ธอร์ไม่ได้พูดอะไรอีกเขาก้าวเดินขึ้นไปบนเครื่องอย่างรวดเร็วทิ้งไว้เพียงความอิจฉาในสายตาของบุ๊กเพียงเท่านั้น
ฟุ่บ!
หลังจากธอร์ขึ้นไปข้างบนเครื่องเครื่องบินส่วนตัวก็ดังกึกก้องอีกครั้งผ่านไปหลายวินาทีเเรงดันใต้ท้องเครื่องได้ส่งให้เครื่องบินเจ็ตลำนี้บินขึ้นไปสูงขึ้นกว่าร้อยเมตร
“เอ๋…จริงสิธอร์ ยังไม่ได้บอกเลยว่าเขาจะไปที่ลอนดอนเพื่อทำอะไร ไม่งั้นฉันคงขอติดตามไปด้วยเเล้ว!”จนกระทั่งเครื่องบินเจ็ตบินขึ้นเหนือชั้นเมฆไป บุ๊ก รู้สึกเสียใจอย่างมาก เเต่ไม่เหมือนกับธอร์ ตอนนี้เขาเป็นกังวลเพราะอดีตเเฟนสาวของเขากำลังตกอยู่ในอันตราย
สนับสนุนความคิด
หลังจากภาพบนหน้าจอปรากฏเเจ็คสันได้เห็นบุคคลจำนวนมากยืนอยู่ด้านหลังของโทนี่
เเจ็คสัน”…”
เดิมเขาต้องการจะพูดว่าต้องการยืมเครื่องบินส่วนตัวเเต่พอหลังจากเห็นคนเหล่านี้เเจ็คสันรู้สึกพูดอะไรไม่ออก
ในเวลานี้ในหน้าจอนั้นปรากฏคนอย่างน้อย7-8 คน มีโทนี่ กัปตันโรเจอร์ส เเละ คนที่นั่งอยู่บนรถเข็นซึ่งก็คือศาสตราจารย์ชาร์ลส์ นอกเหนือจากนี้ ยังมีสไปเดอร์แมนปีเตอร์ นาตาชา เเฮงค์ เเละ คนอื่น ๆ
เกี่ยวกับการโทรมาของมิราจไนท์ทำให้เขาตกเป็นเป้าสนใจของทุกคนพวกเขารู้ดีว่ามิราจไนท์มีความสัมพันธ์ที่ดีกับโทนี่ดังนั้นการที่อีกฝ่ายโทรหาโทนี่พวกเขาไม่เเปลกใจเลย
“สวัสดี,คุณสตาร์คกัปตันโรเจอร์ส เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์!”เเจ็คสันจ้องมองไปที่ทั้งสามคนเเละกล่าวทักทาย
“คุณมองหาฉันมีธุระอะไรงั้นหรอ”โทนี่กล่าวถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ใช่,ตอนนี้พวกเรากำลังประชุมกันอยู่มิราจไนท์ คุณมีเรื่องสำคัญอะไรเร่งด่วนหรือไม่”คนอื่น ๆ กล่าวถาม
“เรื่องสำคัญหรือไม่…คือฉันต้องการสอบถามประตูมิติอวกาศมีเหตุการณ์เเปลก ๆ เกิดขึ้นอีกหรือไม่?”ได้ยินเสียงคำถามของพวกโทนี่ เเจ็คสัน กล่าวถามอย่างเร่งรีบ
“ไม่มีเลย…เเต่ตอนนี้พวกเรากำลังประชุมเรื่องเเผนการณ์บ้าระห่ำของกัปตันโรเจอร์สอยู่”โทนี่สั่นศีรษะเเละกล่าวตอบ
“มิราจไนท์ฉันวางเเผนจะเข้าไปข้างในประตูมิติอวกาศเพื่อต้านรับศึกข้างในนั้น ด้วยวิธีนี้จะทำให้โลกไม่ต้องได้รับผลกระทบไปด้วย”เห็นโทนี่เกริ่นนำมา กัปตันโรเจอร์ส ได้อธิบายโดยตรง
“คุณมีเเผนรับมือกับพวกดาร์คเอลฟ์งั้นหรอ”สีหน้าจริงจังของเเจ็คสันได้กล่าวถามกัปตันโรเจอร์ส
ได้ยินว่ากัปตันโรเจอร์สจะเข้าไปข้างในประตูมิติอวกาศเพื่อต้านรับพวกดาร์คเอลฟ์ข้างในนั้นเเจ็คสัน รู้สึกตกใจอย่างมาก ความเเข็งเเกร่งของพวกดาร์คเอลฟ์เเข็งเเกร่งกว่ามนุษย์ ไม่ใช่ว่าทีมของพวกเขาไม่เเข็งเเกร่ง เเต่ตัวตนอย่างพวกเขาไม่อาจเทียบเคียงเหมือนกับธอร์เทพเจ้าสายฟ้าได้
อีกเหตุผลที่เเจ็คสันกังวลก็คือเเฟนสาวของธอร์เจน ฟอสเตอร์ได้หายตัวไป หากเป็นการดำเนินเรื่องตามปกติ หัวหน้าเผ่าดาร์คเอลฟ์ มาเลคิธ ควรจะนำกองทัพบุกไปในเเอสการ์ดเพื่อหาอีเธอร์ ถ้าหากอีเธอร์ตกไปสู่ร่างกายของเจนตามพล็อตเรื่องเดิมจริง ๆ เช่นนั้นเจนก็ตกอันตรายอย่างมากถ้าเธอโดนรู้เข้า
“กัปตันโรเจอร์สเเผนของคุณทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมันไม่เป็นไปตามที่คุณคิด คุณไม่คิดว่าโลกจะพบกับการสูญเสียครั้งใหญ่งั้นหรอ”หลังจากไตร่ตรองเล็กน้อยเเจ็คสันก็พยักหน้าเเสดงมุมมองของตนเอง
“เเล้วคุณคิดเห็นอย่างไรมิราจไนท์”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์เกี่ยวกับเเผนการของกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ กล่าวถามออกมา
“ถ้าเราคิดจะยึดเอาเเผนที่ว่านี้จริงเราจะต้องชี้เเจงรายละเอียดสถานการณ์ทั้งหมดให้ตนเองเเละพรรคพวกเข้าใจอย่างสมบูรณ์เพื่อรับเอาชัยชนะที่สมบูรณ์แบบมา”
“นอกจากนี้เรายังจะต้องเข้าใจศัตรูที่เรากำลังเผชิญหน้าอยู่เพื่อเตรียมเเผนการรับมือ”ไม่ต้องรอให้โทนี่กล่าวถามเเจ็คสันจ้องมองไปที่คนเหล่านั้นเเละพูดขึ้น
“คุณหมายถึงให้เรารู้ขีดจำกัดความสามารถของเราเเละประเมินความสามารถของฝ่ายตรงข้ามใช่หรือไม่เช่นนั้นมิราจไนท์ คุณรู้จักพวกดาร์คเอลฟ์มากน้อยเเค่ไหน”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์สกล่าวถาม
ได้ยินคำถามของกัปตันโรเจอร์สโทนี่เองก็ให้ความสนใจที่มิราจไนท์
“กัปตันโรเจอร์สมิราจไนท์เพิ่งฟื้นตัวขึ้นมา เกี่ยวกับเรื่องนี้เราค่อยพูดคุยกันทีหลังเป็นไง”
“….”ได้ยินคำถามของกัปตันโรเจอร์สเเละ การช่วยเหลือของโทนี่ เเจ็คสันเงียบไปเล็กน้อย
เขาค่อนข้างกังวลอย่างเเท้จริง
“กัปตันโรเจอร์สฉันเพิ่งฟื้่นขึ้นมาตอนนี้ฉันกำลังปะติดปะต่อความคิดอยู่ นอกจากนี้ฉันมีธุระเร่งด่วนที่จะต้องออกจากสหรัฐอเมริกาชั่วคราว”
เเจ็คสันได้เข้าประเด็นสำคัญของการติดต่อครั้งนี้
“ออกจากสหรัฐอเมริกานายจะไหนหนะ?”คราวนี้ไม่ต้องรอให้กัปตันโรเจอร์สกล่าวถาม โทนี่ กล่าวถามทันที
“ใช่เเล้วมิราจไนท์คุณเพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นาน คุณจะไปไหนงั้นหรอ”หลังจากโทนี่กล่าวถาม สไปเดอร์เเมนปีเตอร์เองก็สงสัยเช่นเดียวกัน
“เรื่องนี้ฉันจะส่งรายละเอียดข้อมูลให้พวกคุณฉันจะไม่อยู่ชั่วคราวเกี่ยวกับเรื่องประตูมิติอวกาศนั่นหากพวกคุณตั้งใจจะเข้าไปจริง ๆ ฉันเเนะนำให้คุณจัดตั้งทีมที่ดีที่สุด เราไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้าอันตรายอะไรข้างในบ้าง”
ฟุ่บ!
เเจ็คสันได้บอกให้J.A.R.V.I.S ช่วยส่งข้อความหาโทนี่เป็นการส่วนตัว
“อืม”เดิมโทนี่เองก็ไม่รู้ว่าเเจ็คสันจะไปไหน เเต่เขาก็กลับสู่สภาวะปกติ ทันทีที่ได้รับข่าวจากJ.A.R.V.I.S
“คุณจะบอกว่าคุณสนับสนุนเเผนการของฉันเเล้วใช่มั้ย”กัปตันโรเจอร์สไม่รู้ว่ามิราจไนท์มีธุระเร่งด่วนอะไรเเต่มันจะต้องสำคัญมากเเน่นอนดังนั้นเมื่อมิราจไนท์เห็นด้วยกับเเผนของเขาการชักชวน โทนี่ เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็จะง่ายขึ้นมาก
“ใช่,ฉันสนับสนุนความคิดของคุณ!”
พล็อตเรื่องที่บิดเบือน
ฮึบ!
ในขณะเดียวกันเเจ็คสันก็ลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ไม่ไกลจากตัวของเขา
“สายจากธอร์งั้นหรอ”เเจ็คสันจ้องมองไปที่รายชื่อบนโทรศัพท์
ก่อนหน้านี้J.A.R.V.I.S ได้บอกว่ามันเป็นสายจากธอร์ ,ธอร์ได้โทรหาเขาสองสายเเต่เขาก็ไม่ได้รับ เเจ็คสันได้เงยหน้ามองกล้องตรวจสอบที่อยู่ในห้องรักษาเเห่งนี้เเละครุ่นคิดในใจ
“มีอะไรเกิดขึ้นกับธอร์งั้นหรอหรือว่าเขาต้องการให้ฉันช่วยอะไรสักอย่าง?ไม่ได้ฉันจะต้องรีบโทรหาเขา”หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่นึง เเจ็คสันก็กดโทรออกไปที่หมายเลขของธอร์ทันที
ก่อนหน้านี้เเจ็คสันได้วางโทรศัพท์เอาไว้เเละปล่อยให้ J.A.R.V.I.S ตรวจสอบเเละเเจ้งเขาภายหลังว่ามีใครโทรเข้ามาหรือไม่ท้ายที่สุดธอร์ก็โทรหาเขาเเต่เเจ็คสันไม่ได้อยู่รับสัญญาณจึงได้ตัดไป
ตู๊ดด!
“เเจ็คสัน!”หลังจากได้ยินเสียงโทรศัพท์ธอร์ ได้ตะโกนชื่อเรียกของ เเจ็คสันออกมาอย่างรุนเเรง
“ว่าไงธอร์คุณตะโกนซะเสียงดังเชียว มีอะไรเกิดอะไรขึ้น งั้นหรอ”เห็นธอร์ตะโกนเรียกชื่อเขาด้วยเสียงดัง เเจ็คสัน รู้สึกอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก
เเม้ว่าธอร์จะคือเจ้าชายผู้ยิ่งใหญ่เเห่งเเอสการ์ดเเต่การใช้ชีวิตอยู่บนโลกธอร์ก็ไม่ต่างอะไรไปจากมนุษย์ธรรมดา เขาได้เรียนรู้วัฒนธรรมเเละพื้นฐานการใช้ชีวิตเบื้องต้นได้อย่างสมบูรณ์ ในปัจจุบันไม่น่าจะตกขาดบกพร่องอะไรยกเว้นเเต่จะมีเรื่องบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เเละมันจะต้องเป็นเรื่องที่ ธอร์ ที่ฟื้นคืนพลังกลับมาเพียงเเค่ 1 ส่วน 10 ก็ไม่สามารถจัดการด้วยตนเองได้
“เจนกำลังตกอยู่ในอันตราย!”ธอร์ได้กล่าวพูดอย่างจริงจัง
ได้ยินคำตอบของธอร์เเจ็คสันรู้สึกราวกับว่ามีสายฟ้าผ่าเข้ากลางหัวใจของเขา
“เจน คุณหมายถึง คุณ เจน ฟอสเตอร์ งั้นหรอ? เกิดอะไรขึ้น”เเจ็คสันถามกลับทันที
นี่มันจะเหมาะเจาะเกินไปในไซบีเรีย พวกเขาเพิ่งค้นพบ นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ มันเป็นช่วงเวลาที่เกิดขึ้นไร่เรี่ยกับพล็อตเรื่องเดิมทื่ เจน ฟอสเตอร์ ได้หายตัวไป เเต่พล็อตเรื่องเดิมนั้นธอร์ได้ฟื้นคืนพลังกลับมาเเล้ว ทั้งโลกก็ไม่มีการเเทรกเเซงจากอารยธรรมอื่น ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือการผสมผสานระหว่างพล็อตเรื่องเดิมกับพล็อตเรื่องที่ถูกเเก้ไข
“เธอหายตัวไป,ก่อนหน้านี้เจนได้ไปทำการศึกษาวิจัยที่ลอนดอน เป้าหมายของเธอคือหนึ่งในอนุภาคพิเศษทางมิติอวกาศ เเละ ตอนนี้ คลื่นสัญญาณโทรศัพท์ดาวเทียมของเจนได้หายไป ข้าสงสัยว่า เจนจะติดอยู่ในพื้นที่มิติปิดกั้น!”ธอร์ได้อธิบายสถานการณ์โดยรวมให้ เเจ็คสัน เข้าใจ
“เป็นอย่างที่คิดจริงๆ !”ได้ยินคำอธิบายของ ธอร์ เกี่ยวกับการหายตัวไปของ เจน จุดเริ่มเรื่องของของพล็อตเรื่องดั้งเดิมเทพเจ้าสายฟ้าภาค 2 กำลังถูกดึงมาใช้
ในช่วงเวลาที่เจนหายตัวไปเธอได้หลุดเข้าไปยังพื้นที่มิติเเห่งนึงจนพบเข้ากับหินขนาดใหญ่ เธอได้เข้าไปสำรวจเเละพบว่ามีของเหลวบางอย่างพุ่งเข้าใส่ร่างของเธอ ซึ่งนั่นก็คือ อีเธอร์
ได้ยินคำพูดพึมพัมของเเจ็คสันธอร์ไม่ได้ใส่ใจสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการตามหาเเละช่วยเหลือเจนให้ได้โดยเร็วที่สุด
“ข้าต้องการขอร้องเจ้าข้าจะต้องรีบไปลอนดอนเพื่อตามหาเจน ข้าต้องการพาหนะที่สามารถไปถึงที่นั่นได้โดยเร็วที่สุด”ธอร์ไม่มีเวลามามัวโต้เถียงกับเเจ็คสันเขากล่าวบอกความตั้งใจของตนเอง
“ก็ได้,ฉันจะช่วยเหลือคุณให้เดินทางไปยังลอนดอนได้โดยเร็วที่สุดเเน่นอนว่า ฉันเองก็จะไปด้วย!”เเจ็คสันรู้ว่าตอนนี้ธอร์เป็นกังวลเกี่ยวกับเจนมาก เขาจึงตอบกลับทันที
“เจ้าจะมาด้วยงั้นหรอดีหากได้เจ้าช่วยเหลือข้าเชื่อว่าพวกเราจะต้องพบตัวเจนในเร็ว ๆ นี้อย่างเเน่นอน!”ได้ยินว่าเเจ็คสันจะไปที่ลอนดอนกับเขาด้วย ธอร์ เเม้จะไม่เข้าใจ เเต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ถึงอย่างไรเเจ็คสันก็คือสหายคนนึงของเขา
“คุณยังอยู่ที่ทำงานใช่หรือไม่ฉันจะรีบไปรับคุณทันที”
“ไม่ต้องกังวล,คุณฟอสเตอร์จะต้องไม่เป็นอะไร”เเจ็คสันกล่าวปลอบธอร์
“อืม,ข้าจะรอ!”
จากนั้นเเจ็คสันก็วางหูโทรศัพท์ไปเนื่องเพราะเรื่องของธอร์จำเป็นอย่างมากในตอนนี้มันมีผลเกี่ยวกับเทพเจ้าสายฟ้าธอร์ ดังนั้น เเจ็คสันจะต้องไปดูที่นั่นด้วยตนเอง
“J.A.R.V.I.Sนายได้ยินเรื่องทั้งหมดเเล้วใช่มั้ย”หลังจากวางสายโทรศัพท์ เเจ็คสัน ก็กล่าวถาม J.A.R.V.I.S
“ครับ,คุณต้องการให้ผมช่วยอะไรมั้ย”J.A.R.V.I.Sกล่าวตอบกลับ
“ช่วยจัดเที่ยวบินส่วนตัวของคุณสตาร์คไปลอนดอนให้ฉันตอนนี้ได้หรือไม่”เเจ็คสันกล่าวถาม
“สิ่งนี้,คุณจำเป็นจะต้องขออนุญาติคุณสตาร์คก่อนครับ”J.A.R.V.I.Sกล่าวตอบ
“เเค่เครื่องบินส่วนตัวเขาน่าจะให้ฉันยืมได้อย่างไม่มีปัญหาJ.A.R.V.I.S ต่อสายคุณสตาร์คให้ฉันที” เเจ็คสันตอบกลับ
“ครับ,กำลังเชื่อมสายกับคุณ สตาร์ค!”
~~
หลังจากJ.A.R.V.I.S ได้ต่อสายหาโทนี่ เพียงระยะเวลาสองวินาที หน้าจอภาพก็ร่างของโทนี่ขึ้นบนหน้าจอเเสง เห็นภาพฐานใหญ่ด้านหลังของ โทนี่ เเจ็คสันได้รีบสวมหน้ากากกลับไปเป็นมิราจไนท์อย่างรวดเร็ว เพราะนอกเหนือจากโทนี่เเล้วยังมีคนอื่น ๆ อยู่อีก
“ว่าไงมิราจไนท์ คุณฟื้นฟูหายดีเเล้วอย่างงั้นหรอ?”
ต้องการความช่วยเหลือ
ฟุ่บ!
หลังจากวางสายจากสเตซี่ ธะอร์ ก็วิ่งออกจากห้องอาบน้ำทันทีโดยไม่รอให้ชุดของเขาเเห้งเลยเเม้เเต่น้อย
“บุ๊ก!บุ๊ก! ข้ามีเรื่องสำคัญ ข้าจะต้องรีบไป ขอตัวก่อนล่ะ!”ธอร์ที่วิ่งออกมาจากห้องน้ำเขาตะโกนขึ้นทันที
“เดี๋ยวๆ นายจะลางั้นหรอ สีหน้านายดูเเตกตื่นอย่างมาก มีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่?”เพื่อนร่วมงานที่พักผ่อนอยู่ในห้องโถงได้ยินเสียงตะโกนของธอร์เขากล่าวถามทันที
เกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของธอร์ที่นี่ก็ได้เพื่อนคนนี้สอนซึ่งธอร์เองก็เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน ธอร์ทำงานอย่างขยันขันเเข็ง มีน้อยมากที่ธอร์จะเเสดงสีหน้าแบบนี้นอกเหนือจากเด็กหนุ่มที่ชื่อเเจ็คสันนั่นมา
ฟุ่บ!
“ข้ามีธุระสำคัญที่จะต้องไปจริงสิ เจ้ารู้หรือไม่ว่าทางไปลอนดอนมันไปทางไหน เเละต้องเดินทางไปโดยใช้อะไรถึงเร็วที่สุด!”ธอร์กล่าวถามทันที
“ไปลอนดอนงั้นหรอในนิวยอร์กมีเที่ยวบินหลายลำเลยเเล้วนายมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกันเเน่เนี่ย!”เห็นธอร์ไม่ตอบคำถามของตนเอง บุ๊ก พยายามล้วงข้อมูลให้ได้
“เที่ยวบินเจ้าหมายถึงเครื่องบิน?ถ้าเดินทางโดยไอนั่นจะต้องไปถึงที่นั่นเร็วเเน่ ๆ !”ธอร์กล่าวพึมพัมออกมาเขาจำได้ว่ายานพาหนะที่บินอยู่บนฟ้านั้นเรียกว่าเครื่องบิน
“เเล้วนายซื้อตั๋วเป็นงั้นหรอ”บุ๊กกล่าวถามถึงหัวข้อสำคัญ
“เอ่อ…ไม่เป็น!”ได้ยินคำถามนี้ธอร์กล่าวตอบตามตรง
เเม้ว่าเขาจะอยู่อาศัยบนโลกนี้เป็นเวลาหลายเดือนเเละคุ้นเคยกับทักษะชีวิตขั้นพื้นฐาน เเต่เขาก็ยังไม่เคยขึ้นเครื่องบินดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าจะซื้อตั๋วเครื่องบินยังไง
“งั้นนายเอาเลขหนังสือเดินทางมาฉันจะช่วยนายซื้อตั๋วเครื่องบินให้!”บุ๊กราวกับเดาถูกว่า ธอร์ ไม่รู้วิธีซื้อตั๋วเครื่องบินดังนั้นเขาจึงกล่าวถามอีกครั้ง
“หนังสือเดินทางมันคืออะไรข้าไม่มีหรอก”ได้ยินคำถามของบุ๊ก ธอร์ ตอบกลับอย่างเบื่อหน่าย
“ฮ่ะไม่มีหนังสือเดินทาง!ในปัจจุบันชาวอเมริกันคนใดบ้างไม่มีหนังสือเดินทาง?”บุ๊กเเทบจะล้มหงายหลังลงจากเก้าอี้เมื่อได้ยินคำตอบของธอร์
“ข้าไม่มีหนังสือเดินทางนอกจากนี้ข้าเองก็ไม่ใช่คนอเมริกัน”ธอร์ไม่สนใจท่าทีการเเสดงของบุ๊ก
“โอ้วสวรรค์ นายไม่ใช่คนอเมริกัน ทั้งยังไม่มีหนังสือเดินทาง ธอร์ หรือว่า นายลักลอบเข้าประเทศงั้นหรอ”บุ๊กกล่าวถามธอร์อย่างจริงจัง
“ลักลอบข้ามประเทศไม่เลย ข้าถูกส่งมาที่นี่โดยท่านพ่อของข้า เเต่นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ที่สำคัญคือข้าต้องการขึ้นเครื่องบินไปลอนดอนโดยเร็วที่สุด”ธอร์คร้านจะอธิบายเขากล่าวพูดอย่างรวดเร็ว
“ถ้านายไม่มีหนังสือเดินทางฉันเองก็หมดหนทางที่จะช่วยเหลือนายคงทำได้เเต่ช่วยพานายไปสมัครพาสปอร์ตเพื่อขอหนังสือเดินทางเพื่อขึ้นบินไปลอนดอน”บุ๊กสั่นศีรษะอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ฮึ่ม!ถ้ารู้เเต่เเรก ข้าก็คงไม่เสียเวลาพูดคุยกับเจ้านานนักหรอก!”ธอร์กล่าวตอบทันที
โดยเเน่นอนเเล้วยังมีคนอื่นที่จะพอช่วยเหลือเขาได้ซึ่งก็คือ เเจ็คสัน เขามีเเต่จะต้องขอร้องเพื่อนคนนี้เพียงเท่านั้น
ติ๊ดตู๊ดดด
“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…”ได้ยินเสียงดังเตือนในโทรศัพท์สีหน้าของธอร์น่าเกลียดมาก
นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถติดต่อกับเเจ็คสันได้ธอร์ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
“บัดซบทำไมมันถึงต้องเป็นตอนนี้!”ธอร์กำโทรศัพท์ในมือของเขาเเน่น เขารู้สึกโกรธตนเองที่ไร้พลังไม่สามารถพึ่งพาอะไรตนเองได้
ถ้าหากเขาสามารถฟื้นคืนพลังเหนือธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์เขาจะสามารถบินไปยังลอนดอนได้โดยตรง เเม้ว่าเขาอาจจะหลงทางบ้าง เเต่เมื่อเทียบกับการรอคอยอย่างไร้ประโยชน์ที่นี่เเล้วมันกลับดีกว่ามาก
อย่างไรก็ตามขณะที่ธอร์กำลังโมโหเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ได้ดังขึ้น
ฟุ่บ!
“เฮ้,เเจ็คสัน!”ธอร์ได้หยิบขึ้นมาดูเเละรีบยกหูทันที
“เกิดอะไรขึ้นธอร์ทำไมต้องตะโกนเสียงดังขนาดนั้น”ได้ยินเสียงของธอร์เเจ็คสันกล่าวถามด้วยความสงสัย

ก่อนหน้านี้ในขณะที่ธอร์กังวลเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เจนกำลังเผชิญอยู่เเจ็คสันเองก็ยังคงอยู่ในห้องฐานลับในไซบีเรีย
“J.A.R.V.I.Sนายอยู่รึเปล่า”หลังจากตื่นขึ้นมา เเจ็คสันก็กล่าวถามหา J.A.R.V.I.Sเป็นอันดับเเรก
เเม้ว่าเขาจะหลับลึกไปเเต่ด้วยสัมผัสอันเฉียบคมเเละร่างกายที่เเข็งเเกร่งทำให้เขาสามารถรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นโดยรอบได้อย่างง่ายดาย
“ครับ,คุณเเจ็คสัน”ได้ยินเสียงของเเจ็คสัน J.A.R.V.I.S ตอบกลับทันที
หลังจากได้ยินเสียงของJ.A.R.V.I.S เเจ็คสันก็มองไปรอบ ๆ เพื่อสังเกตุ เป็นระยะเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงที่เขาหลับไปมีหลายสิ่งภายในห้องเปลี่ยนเเปลงไปมาก
“มีอะไรให้ผมช่วยงั้นหรอครับ”หลังจากถอดอุปกรณ์เหล่านี้เสร็จJ.A.R.V.I.S ก็กล่าวถาม
“J.A.R.V.I.Sนายคุ้นเคยกับอุปกรณ์สร้างภาพเสมือนจริงหรือไม่”เเจ็คสันได้กล่าวถามบางอย่างออกมา
“คุณหมายถึงโปรเจ็คเตอร์ สร้างภาพเสมือนจริงงั้นหรอ ผมไม่ได้มีสิ่งนั้นอยู่ในมือตอนนี้ เเต่ในระบบของคุณสตาร์คมีข้อมูลไว้อยู่ครับ”J.A.R.V.I.S ตอบกลับ
“งั้นหรอ…”ราวกับได้รับคำเซอร์ไพร์สจากJ.A.R.V.I.S เเจ็คสันยิ้มเพียงเล็กน้อย
เสียงของปัญญาประดิษฐ์นั้นค่อนข้างดูน้อยเกินไปสำหรับเเจ็คสัน เขาอยากจะได้เครื่องฉายภาพเสมือนจริงที่สามารถดึงข้อมูลของ J.A.R.V.I.S ออกมาเพื่อสร้างร่างสติปัญญาเพื่อพูดคุยกับเขาได้ มันถือว่าเป็นการพัฒนาเครือข่ายของ J.A.R.V.I.S ให้ยกระดับไปอีกขั้น
“คุณเเจ็คสัน ก่อนหน้านี้มีคนโทรศัพท์มาหาคุณ”เห็นเเจ็คสันเงียบไป J.A.R.V.I.S ได้เปลี่ยนหัวข้อทันที ก่อนหน้านี้มีคนโทรศัพท์เข้าหาเครื่องของ เเจ็คสัน เเต่มันไม่ได้เปิดเครื่องเอาไว้
ได้ยินคำพูดของJ.A.R.V.I.S เเจ็คสันยกเลิกความคิดในการพัฒนาสิ่งที่เขาคิดทันที
“สายจากใครงั้นหรอ”เเจ็คสันกล่าวถามออกไป
การคาดเดาของสเตซี่
ได้ยินพี่สาวสเตซี่พูดออกมาน้องชายวัยประถมคนนี้ได้กลืนน้ำลายลงเฮือก”ใช่เเล้ว!เเสดงว่าคุณฟอสเตอร์ค้นพบอนุภาพก่อนหน้านี้เเล้วงั้นหรอ”
เทียบกับความเป็นห่วงของธอร์เพื่อผลการเรียน น้องชายของสเตซี่สนใจการศึกษาทดลองมากกว่า ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือผลลัพธ์ของการทดลองเหล่านี้
“ไม่ใช่ว่าคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ของคุณฟอสเตอร์หายไปเเต่มันถูกรบกวนโดยคลื่นความผันผวนของอนุภาพพิเศษ ดังนั้น คุณฟอสเตอร์ควรจะอยู่ใกล้คลื่นความผันผวนของอนุภาคพิเศษนี้”สเตซี่ กล่าวพึมพัมเล็กน้อย
“ว่าไง,พวกเจ้าสามารถติดต่อเจน ได้หรือไม่”ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายของทั้งสองคน ธอร์ที่คาสายโทรศัพท์ได้กล่าวถามอย่างรุนเเรง
“ธอร์,พวกเราตรวจพบตำเเหน่งของคุณฟอสเตอร์ก็จริงเเต่มันอ่อนมากเราไม่สามารถติดต่อกับเธอได้ มันน่าจะเป็นพื้นที่อนุภาคพิเศษของคลื่นความผันผวนนั่น”ได้ยินเสียงตะโกนของธอร์ สเตซี่ ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
เหมือนกับพล็อตเรื่องเทพเจ้าสายฟ้าภาค2 เจนได้ค้นพบคลื่นอนุภาคพิเศษเหล่านั้นเเละหลุดไปยังพื้นที่มิติพิเศษไม่ทราบว่าสถานการณ์ของเธอตอนนี้เหมือนกับพล็อตเรื่องในเทพเจ้าสายฟ้าภาค 2 มากเเค่ไหน
เเต่การตรวจสอบของเธอในคราวนี้เธอคงได้พบเข้ากับพื้นที่มิติปิดกั้นทำให้เธอน่าจะหลุดไปยังพื้นที่คลื่นอนุภาคพิเศษเเห่งนึง
“พื้นที่อนุภาคพิเศษเจนติดอยู่ข้างในนั้นงั้นหรอ?”ได้ยินคำตอบของสเตซี่ ธอร์กล่าวถามอย่างรุนเเรง
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่ถ้าหากที่ สเตซี่เล่ามาเป็นความจริง เธอที่เป็นมนุษย์ธรรมดาเเละติดอยู่ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับมิติเธอคงจะไม่สามารถกลับมาได้ตลอดกาล
“บอกตำเเหน่งปัจจุบันของเจ้ามาเร็ว!ข้าจะรีบไปหาทันที! นอกจากนี้ คอยส่งข้อมูลหาเจนเเละพยายามติดต่อหาเธอให้ได้!”ธอร์กล่าวพูดอย่างจริงจัง
“ดี,เราจะพยายามค้นหาคุณฟอสเตอร์ทุกวิถีทางนี่คือที่อยู่ของเรา ครั้งนี้เราต้องการให้คุณช่วยด้วยเเล้วธอร์”ได้ยินคำพูดของธอร์ สเตซี่ ตอบกลับ
ถ้าเจนติดอยู่ในพื้นที่มิติจริงๆ มันก็คือสถานที่อีกโลกที่ สเตซี่ ไม่รู้จักทั้งยังไม่มีวิธีช่วยเธอได้ ดังนั้นนอกจากธอร์ที่เป็นคนจากโลกอื่นเเล้ว เธอก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครที่ไหน
“อืม,ฉันจะรีบไปหาทันที!”ธอร์กล่าวตอบพร้อมกับวางสายโทรศัพท์ไป
ติ๊ด~~
“ดูเหมือนธอร์จะเป็นห่วงคุณฟอสเตอร์มากไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาต้องเลิกกันทั้ง ๆ ที่ธอร์เองก็รักคุณฟอสเตอร์ คุณฟอสเตอร์เองก็ยังรักธอร์อยู่!”หลังจากเห็นสัญญาณโทรศัพท์ตัดไป สเตซี่ กระซิบกระซาบอย่างไม่เต็มใจ
“เอ๋…เจ้าน้องชายนายเเสดงสีหน้าบ้าอะไรของนาย”เห็นน้องชายของตนเองจ้องมองมาที่ตนเองด้วยดวงตาเบิกกว้าง สเตซี่กล่าวถาม
“พี่…พี่สาว!ไหนพี่บอกว่านี่เป็นหนึ่งในงานวิจัยในการตรวจสอบอนุภาคอย่างง่ายไง เเล้วทำไมตอนนี้ มันถึงวุ่นวายไปหมด อาจารย์ฟอสเตอร์ ติดอยู่ในพื้นที่มิติ นี่มันอะไรกัน”คำพูดของสเตซี่เเละการสนทนากับธอร์เมื่อครู่ทำให้ น้องชายคนนี้รู้สึกตกใจอย่างมาก
“เจ้าน้องชาย!ยังมีอีกหลายเรื่องที่นายจะต้องเรียนรู้อีกเยอะ!”
“ยิ่งไปกว่านั้นนี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาฉันไม่สามารถบอกนายได้ทั้งหมดเอาเป็นว่าตอนนี้เราพยายามหาตัวคุณฟอสเตอร์ก่อนเถอะ!”สเตซี่กล่าวตอบ
“นี่เป็นเรื่องอันตรายนะพี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะช่วยเหลือได้ เราจะต้องติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้!”น้องชายกล่าวตอบอย่างรุนเเรง
“เเน่นอนฉันรู้,เเต่สถานการณ์ในตอนนี้ไม่เหมาะสมทั้งความสัมพันธ์ของเรากับหน่วยงานพิเศานั่นไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันขนาดนั้น”ได้ยินคำพูดของน้องชายสเตซี่ ตอบกลับโดยตรง เธอจำได้เกี่ยวกับการปรากฏตัวของ เจ้าหน้าที่ โคลสัน จากหน่วยงานองค์กรS.H.I.E.L.D. มันทำให้พวกเธอในตอนนั้นรู้สึกเเย่มาก ๆ
ดังนั้นเธอไม่คาดหวังว่าจะยุ่งกับหน่วยงานองค์กรS.H.I.E.L.D. อีก
“เเต่ว่า…”ได้ยินคำตอบของพี่สาวน้องชายค่อนข้างลังเล
“ไม่ต้องเเต่เเล้วนี่เป็นสถานการณ์เร่งด่วน ทั้งมันยังจะมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับเรา!”ได้ยินคำพูดที่น่าเบื่อของน้องชาย สเตซี่ ตัดบทพูดทันที
เทียบกับเด็กหนุ่ม เเจ็คสัน หลิน คนนั้นเเล้ว สเตซี่ คิดว่าน้องชายของเธอเทียบกับเขาไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเสน่ห์หรือความฉลาด ท้ายที่สุดน้องชายของเธอก็ไม่มีอะไรเทียบเคียงกับเขาได้
“หึ่ม!ก็ได้พี่สาว ถ้าผมช่วยเหลือพี่ พี่จะต้องช่วยเหลือเรื่องผลการเรียนของผม!”น้องชายตัวน้อยกล่าวตอบอย่างรุนเเรง
“เเน่นอน!ฉันจะช่วยเหลือนายอย่างเต็มที่”สเตซี่ตอบกลับ
“ก็ได้,ถือว่าตกลงกันเเล้วนะ!”
“อืม”
สเตซี่ครุ่นคิดในใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่พวกเธอกำลังเผชิญ
จากนั้นสเตซี่เเละน้องชายของเธอก็ค้นหาข้อมูลเเละพยายามติดต่อเจนให้ได้ในขณะเดียวกัน พวกเธอก็รอการติดต่อจาก ธอร์
สายเรียกเข้าจาก เจน
เห็นโทรศัพท์ตนเองดังขึ้นธอร์ได้ล้างมือเเละหมุนมือไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ด้านข้างของเขา
“หืม”ธอร์จ้องมองไปที่รายชื่อที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์เขารู้สึกสงสัยอย่างมาก
มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ธอร์ได้เมมชื่อเบอร์เอาไว้นอกเหนือ จาก เเจ็คสัน เเละ คนอื่น ๆ ไม่กี่คน หนึ่งในนั้นคือเเฟนสาวของเขา เจน ฟอสเตอร์
หลังจากจ้องมองไปที่ชื่อบนหน้าจอมือถือการเเสดงออกของธอร์ค่อนข้างเเปลกใจอย่างมากเนื่องเพราะมันเป็นเบอร์จากเเฟนเก่าของเขา เจน ฟอสเตอร์ เป็นระยะเวลานานเเล้วที่เขาไม่ได้ติดต่อกับเธอ
ธอร์นั้นรักเจนมากเขาจึงตั้งใจฟื้นพลังเหนือธรรมชาติของตนเองเพื่อกลับไปยังเเอสการ์ดหลังจากนั้นก็เค้นความจริงจากโลกิน้องชายของเขาเพื่อให้รู้ว่าน้องชายตัวดีของเขาไปพูดอะไรกับเจนกันเเน่
“ทำไมเจนถึงโทรหาข้า”ธอร์พึมพัมออกมาเล็กน้อย
จากนั้นธอร์ก็กดรับโดยตรงเขาไม่ใช่คนปอดเเหกที่จะยอมท้อถอยกับอะไรง่ายๆ แบบนี้
ติ๊ด~~
หลังจากธอร์กดรับโทรศัพท์เสียงจากปลายสายไม่ได้ดังขึ้นจากนั้นสายก็ถูกตัดไปธอร์สงสัยว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญงั้นหรอ
“เกิดอะไรขึ้น”เห็นสายถูกตัดไปธอร์รู้สึกไม่สบายใจ
เกี่ยวกับสายเรียกเข้าของเจนธอร์รู้สึกสงัสยอย่างมากมันเป็นเพราะธอร์บังเอิญไปเผลอกดเบอร์ของเขาหรือเพราะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอกันเเน่ทำให้สายของเธอถูกตัดไป
“เจน,หรือว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้ากันเเน่”ธอร์รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
ฟุ่บ!
จากนั้นธอร์ก็เลื่อนมองหารายชื่อในโทรศัพท์ของเขาตอนนี้เขาไม่สามารถโทรหาเจนได้สิ่งที่เขาควรทำเพื่อความสะบายใจนั่นก็คือการโทรหาคนรอบตัวของเธอ
ติ๊ด
“เอ๋…เอ่อธอร์ คุณโทรหาฉันมีอะไรงั้นหรอ”หลังจากกดรับสายของธอร์เสียงของหญิงสาวคนนึงได้ดังขึ้น
เธอก็คือสเตซี่ เดซี่ เด็กฝึกงานที่ทำงานร่วมกับ เจน เพราะผลการเรียนของเธอค่อนข้างย่ำเเย่เธอจึงขอติดตามเจนเพื่อเรียนรู้เเละทำการวิจัย ภายหลัง เธอได้กลายเป็นเด็กฝึกงานเป็นผู้ช่วยประจำ นอกจากเธอเเล้วยังมีเด็กฝึกงานอีกคนนั่นก็คือน้องชายของเธอที่เรียนอยู่ชั้นประถม
“สเตซี่เจ้ารู้หรือไม่ว่า เจน ตอนนี้อยู่ที่ไหน เมื่อครู่เธอโทรหาข้า เเต่ว่าสายถูกตัดไปข้าไม่สามารถติดต่อเธอได้”ธอร์กล่าวถามทันที
“เอ๋…คุณฟอสเตอร์ โทรหาคุณงั้นหรอ ตอนนี้เธอกำลังทำการค้นคว้างานวิจัยอยู่ที่ลอนดอน เเต่ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่กับเธอหรอก!”ได้ยินคำพูดของธอร์ สเตซี่ กล่าวตอบกลับ
เมื่อหลายเดือนก่อนหลังจากที่เจน เเละ เอริค ได้เผชิญหน้ากับเเขกผู้มาเยือนจากเเอสการ์ด พวกเขาทั้งคู่ก็ทำงานศึกษาวิจัยอนุภาพพิเศษจากสะพานไบฟรอส เมื่อเร็ว ๆ นี้พวกเขาได้ค้นพบอนุภาพพิเศษที่ว่านั่น ดังนั้นพวกเขาจึงได้ทำการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
หลังจากมาถึงลอนดอนความผันผวนพิเศาของอนุภาพนั่นได้หายไป จริง ๆ เเล้ว เจน ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะพบอะไรพิเศษง่าย ๆ ดังนั้นเธอจึงต้องการอยู่ต่อที่นั่นเพื่อทำการศึกษาเเละค้นคว้าต่อ ปล่อยให้ เดซี่ เเละ น้องชายของเธอ คอยดูเเลอยู่ที่สำนักงานใหญ่ในลอนดอน
เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลลั่วไหลท้ายที่สุด เจน ก็ไม่ได้บอกคนรอบข้างเกี่ยวกับสิ่งที่พบเจอ เเม้เเต่ สเตซี่ คนใกล้ตัวของเธอ ก็ยังไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน
“ตอนนี้เจ้าอยู่ที่ลอนดอนด้วยหรือไม่”ได้ยินคำตอบของสเตซี่ธอรขมวดคิ้วเเน่นด้วยความกังวล
“อืม,ถ้าคุณเป็นห่วงคุณฟอสเตอร์ขนาดนั้นฉันจะช่วยดูให้คุณเเล้วกัน เเต่ความผันผวนของอนุภาพที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ความรุนเเรงมาก เราจึงนำโทรศัพท์ดาวเทียม GPS มาติดตั้งตลอด 24 ชั่วโมง ฉันจะลองช่วยค้นหาให้”สเตซี่ กล่าวตอบ
“ขอบคุณ!”ได้ยินว่าสเตซี่ จะช่วยเหลือตนเอง ธอร์เเสดงความขอบคุณอย่างเร่งรีบ
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอกฉันเองก็เป็นห่วงคุณฟอสเตอร์เหมือนกัน เมื่อครู่นี้ฉันเองก็ลองโทรหาเธอเเต่ก็ยังไม่มีสัญญาณตอบรับเลย”
สเตซี่ได้ให้น้องชายของเธอช่วยค้นหาตำเเหน่งของเจนบนดาวเทียมโทรศัพท์เเต่อย่างไรก็ตามสีหน้าที่น้องชายของเธอเเสดงออกมานั้นค่อนข้างเเปลก
“ได้เรื่องว่าไงบ้าง”เห็นการเเสดงออกของน้องชายที่เเปลกไปสเตซี่ กล่าวถามอย่างรวดเร็ว
“ไม่มี…สัญญาณโทรศัพท์ดาวเทียมของคุณ ฟอสเตอร์ ลดต่ำมาก มันถูกรบกวนด้วยอนุภาคพลังงานบางอย่าง”น้องชายของเธอกล่าวตอบ
“หรือว่าเป็นคลื่นความผันผวนของอนุภาพที่เราตรวจพบ”เห็นการเเสดงออกของน้องชายสเตซี่ กล่าวพึมพัมด้วยความตกใจ
การยืนยันคำของกัปตันโรเจอร์ส
รวบรวมเเละสร้างทีมที่เเข็งเเกร่งที่สุดเพื่อบุกเบิกด้านในประตูมิติอวกาศนี่เป็นเเผนของกัปตันโรเจอร์สที่เล่าให้ โทนี่ สตาร์ค เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเน่นอนว่าพวกเขาทั้งคู่ก็คิดว่ามันเสี่ยงเกินไป
“เเต่พวกคุณไม่คิดว่าการเฝ้าระวังอยู่ที่นี่อย่างเดียวจะทำให้พวกเราต้องกดดันมากกว่าหรอ”กัปตันโรเจอร์สรู้ได้ในเหตุผลที่พวกเขาไม่เห็นด้วยเเต่เขาก็บอกเหตุผลที่ตนเองรู้สึกออกมา
“พวกคุณทั้งสองคนไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุไม่ได้เห็นเเละเผชิญหน้ากับมนุษย์ต่างดาวทั้งสามคนนั้นตามที่มิราจไนท์เล่ามา ทั้งสามคนเป็นนักรบของเผ่าดาร์คเอลฟ์พวกเขามีความเเข็งเเกร่งที่น่ากลัวอย่างมาก ถ้าเกิดพวกเรารอเฝ้าระวังเเละป้องกันอยู่แบบนี้เกิดพวกเขาสามารถรวบรวมกองทัพเเละบุกมาหาพวกเราไม่ใช่ว่าที่นี่จะกลายเป็นสนามรบที่รุนเเรงหรอกหรอ…!”ไม่ต้องรอให้ โทนี่ เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ตอบ กัปตันโรเจอร์สพูดต่อทันที
“กัปตันโรเจอร์เเต่เเผนการของนายนั้นคือการดึงโลกเข้าไปเผชิญหน้ากับอีกหนึ่งอารยธรรมที่อยู่นอกโลก!”โทนี่ กล่าวตอบ
“ใช่,สงครามในครั้งนี้คงไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงได้เเละ ฉันก็เชื่อว่าพวกคุณทั้งสองคงรู้เเก่ใจดี!”ได้ยินคำตอบของโทนี่ กัปตันโรเจอร์ส กล่าวตอบ
“พวกเรารู้ความหมายที่คุณต้องการจะสื่อดี!”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เข้าใจความคิดของกัปตันโรเจอร์สเขาเองก็เข้าใจในเหตุผลข้อนี้
“เช่นนั้นนายต้องการที่จะสร้างกองกำลังเพื่อพิทักษ์เเละเปิดสงครามที่โลกฝั่งนั้นเเทนหรือไม่”โทนี่กล่าวถามในหัวข้อนี้
“ถูกต้อง!พวกเราจะต้องสกัดไม่ให้สัตว์ประหลาดพวกนี้หลุดเข้ามายังโลกของเราได้ เเม้ว่าจะเสี่ยง เเต่ฉันเชื่อว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุด!”กัปตันโรเจอร์สตอบกลับอย่างจริงจัง
“นายคงเตรียมพร้อมรับผลที่ตามมาดีเเล้วใช่มั้ย”เห็นกัปตันโรเจอร์สมั่นใจเช่นนั้นโทนี่ ยังคงกล่าวถามต่อ
เเม้ว่านี่จะเป็นประโยคถามเเต่ความจริงเเล้วมันก็เหมือนคำถามที่บ่งบอกว่ากัปตันโรเจอร์สคงจะเสียสติไปเเล้วที่คิดจะนำพาตนเองเเละคนอื่น ๆ ไปเสี่ยงอันตรายนอกโลก
เเต่เพื่อปกป้องโลกจากอารยธรรมที่น่ากลัวในความคิดของกัปตันโรเจอร์ส หากชีวิตอันน้อยนิดของพวกเขาสามารถช่วยเหลือโลกได้เเล้วล่ะก็เขาคิดว่ามันก็คุ้มค่าอย่างมาก
“ใช่!”กัปตันโรเจอร์สตอบกลับอย่างมั่นใจ
หลังจากที่กัปตันโรเจอร์สยืนยันในคำเดิมโทนี่ เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ก็เงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะผ่านไปหลายวินาทีจนโทนี่ได้เปิดปากพูดตอบกลับ”เรื่องนี้จะต้องคิดอย่างรอบคอบอีกที ฉันรู้ว่านายมั่นคงในคำพูดเหล่านั้น เเต่เราต้องหารือกันเพิ่มเติม เกี่ยวกับข้อมูลของเผ่าดาร์คเอลฟ์ ฉันจะลองถาม มิราจไนท์ อีกที เผื่อจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม”
“โทนี่สตาร์ค พูดถูกต้องเเล้ว ฉันคิดว่าพวกเราควรหารือเรื่องนี้กันอีกที ฉันจะรีบติดต่อบลิงก์เพื่อดำเนินการทันที!”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เห็นด้วยในข้อนี้
“เข้าใจเเล้ว!โทนี่ เเล้วตอนนี้นายอยู่ที่ไหน”กัปตันโรเจอร์สกล่าวถาม
“ฉันฉันกำลังมุ่งหน้าไปยังเส้นทางไซบีเรีย!”โทนี่ กล่าวตอบ
“เเล้วมิราจไนท์ เล่า นายเจอเขาเเล้วหรือไม่?”
“เขาไม่เป็นไรไม่จำเป็นต้องเป็นเป็นห่วง!”โทนี่ กล่าวตอบ เขาไม่ได้บอกทั้งสองคนเกี่ยวกับฐานลับในไซบีเรีย
“ดี,ฉันจะรอการมาถึงของนาย!”
จากนั้นภาพของพวกเขาก็ตัดไปการหารือในครั้งนี้ สำคัญมากเพราะมันอาจส่งผลกระทบต่อโลกทั้งใบ
ฟุ่บ!
“J.A.R.V.I.Sดูเหมือนว่าฉันจะไม่มีเวลามากพอจะไปหา เเจ็คสันเเล้ว นายช่วยลดความเร็วของเครื่องยนต์ที ฉันต้องการกะเวลาให้พอเหมาะก่อนที่จะไปถึงที่หมายของ โรเจอร์ส”โทนี่ กล่าวพูดขึ้น
เดิมโทนี่ ตั้งใจว่าจะไปหา เเจ็คสัน เเละ ช่วยศึกษาลูกบาศก์เวทมนตร์ เเต่ ทางด้านฝ่ายกัปตันโรเจอร์สกลับวางเเผนที่จะเข้าสำรวจพื้นที่ด้านหลังประตูมิติอวกาศ โทนี่ เห็นว่าเรื่องนี้สำคัญกว่าดังนั้น ในฐานะที่เขาคือไอรอนแมน หนึ่งในกำลังรบหลักเขาจำเป็นจะต้องไปที่นั่น
“เข้าใจเเล้วครับ!”ได้ยินคำสั่งของโทนี่J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

ขณะที่เเจ็คสันกำลังพักรักษาตัว เเละ โทนี่ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ รวมถึง กัปตันโรเจอร์ส กำลังคิดเเผนการไปเยือนต่างโลก ชานเมืองในเขตนิวยอร์ก ธอร์ ยังคงอยู่ในสถานรับเลี้ยงสุนัขจรจัด เขากำลังอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยง
“ทำไมเจ้าถึงโง่เขลาเพียงนี้ หัดดูตัวอื่น ๆ เป็นตัวอย่างซะบ้าง!”ในขณะที่ธอร์กำลังอาบน้ำให้สุนัขเขาก็กล่าวบ่นพึมพัมออกมา
“โฮ่ง!โฮ่ง! ~~”ดูเหมือนสุนัขที่ถูกธอร์ด่าว่า จะตะโกนเห่าตอบรับไม่รู้ว่ามันเข้าใจคำพูดที่ธอร์ต้องการจะสื่อหรือไม่เเต่มันก็เห่าตอบโต้
“~~~~”ในระหว่างที่ธอร์กำลังอาบน้ำให้พวกสุนัขพวกมันก็เห่าออกมาอย่างไม่หยุดยั้งดูเหมือนพวกมันจะไม่ชอบการอาบน้ำเอามากๆ
“เห้อ,เสร็จซักทีเอาล่ะ พวกเจ้าไปวิ่งเล่นในสนามหญ้าก่อน อย่าไปคลุกพื้นดินเล่า เดวข้าจะเหนื่อยเปล่า ๆ !”จากนั้นธอร์ก็ปล่อยสุนัขหลายตัวไปวิ่งเล่นในสนามหญ้า
“~~”สุนัขเหล่านั้นได้เห่าตอบโต้พร้อมกับพุ่งตัวออกไปวิ่งเล่นในสนามหญ้าทันที
“ถ้าโลกิกับ ท่านพ่อ รู้ว่า ข้าใช้วิธีเหล่านี้ในการฟื้นฟูพลังเหนือธรรมชาติกลับมา ไม่รู้ว่าพวกเขาจะคิดอย่างไร”ธอร์ได้ล้างมือปัดเศษฟองสบู่ที่ติดตามตัวเขาออกก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างโง่เขลา
ธอร์ได้ทำงานอยู่ที่สถานรับเลี้ยงสุนัขจรจัดเเห่งนี้มานานเขาค่อนข้างคุ้นเคยกับสุนัขจรจัดเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม สุนัขเหล่านี้ก็ไม่ค่อยเชื่อฟังเขาเวลาอาบน้ำ ธอร์จึงใช้มาตราการพิเศษคือการใช้พลังเหนือธรรมชาติของเขาในการทำให้สุนัขเหล่านี้เชื่อฟังโดยง่าย
“ไม่รู้ว่าเเจ็คสัน เพื่อนคนนี้ เป็นอย่างไรบ้าง ตั้งเเต่ตอนนั้นเขาก็ไม่ได้ติดต่อข้ามาหลาย!”ธอร์บ่นพึมพัมเล็กน้อย
ขณะที่ธอร์กำลังบ่นพึมพัมเเละกำลังทำความสะอาดร่างกายที่เปื้อนเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น

การสังเกตุการณ์ของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์

  ตุบ~~

  ในผืนป่าอันกว้างขางเงาร่างของคนตัวใหญ่ได้เดินมาจนอยู่ห่างจากประตูมิติอวกาศในระยะไม่ถึง50 เมตร เขาจ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศเเละร่องรอยการต่อสู้ที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน เทียบกับนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ทั้งสามคนก่อนหน้านี้เเล้ว บุคลิกเเละรูปลักษณ์ของเพื่อนคนนี้คล้ายจะให้ความรู้สึกที่เย็นเฉียบกว่ามาก

   …… % ¥ …… & ; แอมป์ ; …… & ; amp; * …… % ¥  หลังจากเขาจ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศด้วยสายตาคู่นั้นเขาก็บ่นพึมพัมอะไรบางอย่างออกมา

  ธรรมชาติคงมีเเต่เผ่าดาร์คเอลฟ์คนอื่นๆ ที่สามารถเข้าใจสิ่งที่เขาพูด การหายตัวไปของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ทั้งสามคน ทำให้ เขาเกิดความสงสัยจนมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุด้วยตนเองจนพบกับประตูมิติอวกาศที่่น่าจะเป็นต้นตอของเรื่องทั้งหมด

  กองทัพดาร์คเอลฟ์ได้ระดมกองกำลังกับยักษ์น้ำเเข็งเพื่อร่วมศึกโจมตีเเอสการ์ดอยู่ก็จริงในทางกลับกันพวกเขาก็เฝ้าตามหาอีเธอร์สมบัติลับของพวกเขาที่สูญหายไปตลอดระยะเวลาหนึ่งพันปี มาเลคิธ ผู้นำเผ่าดาร์คเอลฟ์ได้รับข่าวเกี่ยวกับอีเธอร์ นั่นเป็นเหตุผลที่ เผ่าดาร์คเอลฟ์ได้สนับสนุนเผ่ายักษ์น้ำเเข็งในการบุกโจมตีเเอสการ์ดพวกเขาหวังว่าจะได้รับสมบัติลับอีเธอร์นี้กลับมา

  ตราบเท่าที่มาเลคิธ สามารถได้รับอีเธอร์กลับมา เขาจะสามารถกลืนกินเก้าอาณาจักรเเละทำให้ทั่วทั้งจักรวาลตกอยู่ในความมืดนิรันดร์ เขาจะขยายอาณาเขตปกครองของเผ่าดาร์คเอลฟ์ไปทั่วทุกมุมโลกเเละครอบครองจักรวาลในที่สุด ท้ายที่สุดเเล้วจักรวาลก็จะเป็นของพวกเขาเผ่าพันธุ์ดาร์คเอลฟ์

  ธรรมชาตินี่เป็นความคิดตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเเต่จนปัจจุบันพวกเขายังไม่ได้พบกับอีเธอร์ ทั้งยังได้ส่งกองกำลังไปตรวจสอบเเละเเทรกซึมเข้าไปในเเอสการ์ดเพื่อหาข้อมูลเเต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังไม่ได้รับข้อมูลอะไร ทั้งศึกในเเนวหน้าเองก็น่าเป็นห่วงเพราะกองกำลังเเนวหน้าของเเอสการ์ดที่นำโดยโลกิได้บุกไล่ต้อนพวกเขากลับไป เเต่อย่างไรก็ตามในอนาคตอันใกล้ มาเลคิธก็เชื่อว่าตนจะได้รับกับอีเธอร์เร็ว ๆ นี้อย่างเเน่นอน

  ทันทีที่ดาร์คเอลฟ์คนนี้มาถึงหน้าประตูมิติอวกาศเขาไม่ได้เข้าไปข้างในเพื่อทำการตรวจสอบอย่างไรก็ตามเขากับมองไปโดยรอบเเละสำรวจพื้นที่เพื่อส่งข้อความกลับไป

  เทียบกับนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่ตกตายไปก่อนหน้า3 คน ดาร์คเอลฟ์ที่เพิ่งมาใหม่นี้คล้ายจะมีองค์ความรู้สติปัญญาที่ฉลาดหลักเเหลมมาก เขาน่าจะเป็นหน่วยข่าวกรองของเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่มีหน้าที่สำคัญในการตรวจสอบ

   …… % ¥ & ; …… & ;! ดาร์คเอลฟ์คนนี้จ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศเเละสำรวจมันอีกครั้ง

  ภายใต้การสำรวจอย่างละเอียดเขาได้รับข้อมูลมากมายเกี่ยวกับมันเเต่ก็ยังไม่ได้เคลื่อนไหวตามอำเภอใจ

  ในช่วงเวลานี้การปรากฏขึ้นของประตูมิติอวกาศไม่ใช่เรื่องดีสำหรับพวกเขาเพราะผู้นำของพวกเขามาเลคิธ ได้ส่งกองกำลังของตนเองไปบุกเเอสการ์ดอย่างเต็มกำลัง

  นี่ทำให้ภายในฐานทัพใหญ่ของเผ่าดาร์คเอลฟ์หลงเหลือนักรบที่เเข็งเเกร่งเพียงหยิบมือเเละ การหายตัวไปของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ทั้งสามคนก็ทำให้ พวกเขาเกิดความสงสัย สถานะของนักรบทั้งสามคนนั้นเเน่นอนว่าไม่ใช่นักรบระดับล่าง ไม่งั้นผู้นำของพวกเขาคงไม่ส่งเขามาตรวจสอบที่นี่

  การที่กัปตันโรเจอร์สเลือกที่จะส่งชุดทีมเข้ามายังโลกฝั่งนี้นับเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะนี่เป็นตอนที่เผ่าดาร์คเอลฟ์มีการป้องกันหละหลวมมากที่สุด

  การเปิดขึ้นของประตูมิติอวกาศที่เชื่อมกับโลกของเผ่าดาร์คเอลฟ์ถือเป็นผลประโยชน์เอื้ออำนวยกับโลกมากจริงๆ

  ~~

  ด้านหน้าประตูมิติอวกาศดาร์คเอลฟ์ผิวเทาเข้มได้ยืนนิ่งด้านหน้าอย่างสงบจากนั้นก็มีนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์คนอื่นๆ มาสนับสนุนเเละรวมตัวกันที่ด้านหน้าทางเข้า การรวมตัวของพวกเขาเเน่นอนว่าทางด้านของกัปตันโรเจอร์สไม่มีใครรู้เรื่องนี้

  …

  โลก,S.H.I.E.L.D.ฐานพิเศษชั่วคราวในไซบีเรีย กัปตันโรเจอร์ส ที่ได้ยินคำเตือนของ ดร.แบนเนอร์ ในตอนนี้เขากำลังคิดวางเเผนอย่างรอบคอบ ไม่ใช่เพราะว่าเขาเลือกที่จะเชื่อฟัง ดร.แบนเนอร์ เเต่เป็นเพราะความคิดของเขาได้ถูกปฏิเสธโดยคนของทีมX-MEN พวกเขาไม่เห็นด้วยกับความคิดของกัปตันโรเจอร์ส

  ในสถานการณ์เช่นนี้โทนี่ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเละ กัปตันโรเจอร์ส พวกเขาได้เข้าร่วมประชุมชั่วคราวได้ยินเเผนการอันบ้าระห่ำของกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้มีสีหน้าเเปลกใจ

   โรเจอร์สฉันคิดว่าฉันนั้นเป็นคนบ้าระห่ำเเล้วนะ เเต่ไม่คิดเลยว่าเมื่อเทียบกับฉัน นายยังบ้าระห่ำกว่าฉันอีก ดูเหมือนนายเองก็ค่อนข้างชอบเสี่ยงพนันเหมือนกัน! ในปัจจุบันหน้าจอโปร่งเเสงเเสดงให้เห็นถึงภาพของโทนี่ ที่กล่าวพูดออกมา

   กัปตันโรเจอร์สคุณคิดว่าเเผนนี้มันจะดีจริง ๆ งั้นหรอ เเผนที่คุณว่ามาอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายโดยไม่จำเป็น! ในอีกทางหนึ่งเสียงของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ยังถูกส่งออกมา

 

ความคิดบ้าระห่ำของกัปตันโรเจอร์ส

  ฮึ่ม!

  จ้องมองไปที่อุปกรณ์จำนวนมากรอบๆ พื้นที่ประตูมิติอวกาศ กัปตันโรเจอร์ส ถอนหายใจออกมา เขาไม่รู้ว่าด้วยสิ่งประดิษฐ์จำนวนมากขนาดนี้ จะยังพอช่วยเหลือป้องกันไม่ให้มีใครผ่านเล็ดลอดออกมาจากประตูมิติอวกาศได้หรือไม่

   ดร.แบนเนอร์ตามความคิดของคุณ การป้องกันเหล่านี้ เพียงพอเเล้วจริง ๆ งั้นหรอ กัปตันโรเจอร์ส ได้กล่าวถาม ดร.แบนเนอร์ ที่อยู่ด้านข้าง

  ได้ยินคำถามของกัปตันโรเจอร์สดร.แบนเนอร์ได้เปิดปากตอบกลับทันที ด้วยการป้องกันระดับนี้รวมกับกองกำลังทางทหารของเราเท่านี้น่าจะเพียงพอที่จะหยุดสัตว์ประหลาดเเละมนุษย์ต่างดาวทั้งสามคนที่เคยปรากฏตัวขึ้นได้เเม้มนุษย์ต่างดาวพวกนั้นจะเเข็งเเกร่งก็ตาม เเต่… 

   เเต่อะไร ได้ยินคำเบรกเหล่านี้กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามอย่างเร่งรีบ

   เเต่ข้อมูลที่เรามีเกี่ยวกับฝ่ายตรงข้ามนั้นน้อยเกินไปที่เรารู้จากปากของมิราจไนท์ ก็มีเเต่ เผ่าพันธุ์ดาร์คเอลฟ์ เป็นเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ต่างดาวพวกนี้ รายละเอียดที่เขาเล่าให้เราฟังมันมีน้อยเกินไป… 

  เห็นดร.แบนเนอร์ ถอนหายใจออกมา กัปตันโรเจอร์ส เองก็เข้าใจดี มิราจไนท์ ได้บอกว่า พวกดาร์คเอลฟ์พวกนี้เเข็งเเกร่งมาก ถ้าเกิดว่าพวกมันยกทัพขนาดใหญ่มาบุกโลกจริง ๆ การป้องกันเหล่านี้เกรงว่าจะพังทลายในพริบตา

  เเต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่ยอมเเพ้เฝ้าระวังประตูมิติอวกาศนี้กันอย่างต่อเนื่องกัปตันโรเจอร์สไม่อาจประมาทเเม้เพียงเสี้ยววินาทีได้ ตอนนี้ เขาต้องการเสริมการป้องกันการเฝ้าระวังพื้นที่เเละอุปกรณ์ป้องกันให้มากขึ้นกว่าเดิม เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นท้ายที่สุดเเล้วจะมีอะไรออกมาอีกมั้ย

   เพราะแบบนี้เราถึงไม่อาจลดการป้องกันลงได้เลย 

   สิ่งที่เราทำได้ก็มีเพียงเเค่รอไม่รู้ว่าศัตรูจะปรากฏตัวออกมาหรือไม่ เเต่ถึงเเม้จะเลี่ยงสงครามไม่ได้ ทางฝั่งด้านนี้ก็ยังเป็นกลยุทธ์ของเรา ถ้าเกิดพวกเราชิงความได้เปรียบมาก่อนล่ะ มองไปที่ประตูมิติอวกาศกัปตันโรเจอร์สพึมพัมออกมา

  คำพูดของกัปตันโรเจอร์สคล้ายว่าจะเป็นการปลอบใจซะส่วนมากส่วนคำพูดของเขานั้นคล้ายเเฝงนัยบางอย่างเอาไว้เเม้ว่ามันจะเป็นวิธีที่ดีเเต่มันจะสามารถนำไปใช้ปฏิบัติจริง ได้จริง ๆ งั้นหรอ

   กัปตันโรเจอร์สคุณคงไม่ได้หมายถึง … คุณตั้งใจจะส่งทีมเข้าไปในประตูมิติอวกาศเพื่อยึดทำเลเตรียมพร้อมรบงั้นหรอ? ดร.แบนเนอร์ กล่าวถามออกมาด้วยความประหลาดใจ

  เเม้ดร.แบนเนอร์ จะเข้าสู่ประตูมิติอวกาศเเละกลับมาอย่างปลอดภัยจากดวงดาวที่มีสิ่งมีชีวิตอย่างพวกดาร์คเอลฟ์อาศัยอยู่ เเต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักดวงดาวเเห่งนั้นเป็นดวงดาวที่มีสภาพเเวดล้อมรุนเเรงมาก การส่งทีมทหารเข้าไปไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่

   นี่ถือเป็นการชิงความได้เปรียบมาก่อนท้ายที่สุด เราเองก็ต้องการศึกษาข้อมูลอารยธรรมอื่น ๆ ให้มากขึ้น ในอนาคตพวกเราอาจจะมีส่วนในการเผชิญหน้ากับอารยธรรมอื่น ๆ อีกก็ได้ กัปตันโรเจอร์สตอบกลับอย่างรวดเร็ว

   นั่นก็ถูกเเต่ว่า ถ้าทำเช่นนั้น พวกเราจะต้องเตรียมพร้อมหลายอย่าง ท้ายที่สุดเเล้วทางฝั่งด้านนั้นก็ไม่ใช่สถานที่ของเรา เราควรตั้งรับศึกในบ้านถึงจะถูก! 

   ฉันเข้าใจดีว่าที่ทางฝั่งนั้นไม่ใช่เกมทางฝั่งบ้านของเราเเต่เราจะต้องผ่านมันไปให้ได้ ทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ! กัปตันโรเจอร์สตัดสินใจในที่สุด

  หากพวกเขารั้งรออยู่ที่นี่ก็มีเเต่การรอคอยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีอะไรเกิดขึ้นสู้พวกเขาเป็นฝ่ายเปิดเกมก่อนกัปตันโรเจอร์สคิดว่าความคิดนี้ถือเป็นการตอบโจทย์สถานการณ์ในตอนนี้ได้ดีที่สุดเเล้ว

   ดี,ถ้าคุณมั่นใจขนาดนั้นพวกเราจะไปพูดคุยโน้นมน้าวคนอื่น ๆ ให้สนับสนุนการตัดสินใจของคุณยังไง! 

   ฉันมั่นใจว่าทำได้! กัปตันโรเจอร์สตอบกลับอย่างจริงจัง

  …

  ขณะที่ทางด้านกัปตันโรเจอร์สกำลังถกเถียงกันเรื่องประตูมิติอวกาศ ภายในสถานการณ์ด้านในประตูมิติอวกาศบนเนินเขาเเห่งนึง มีสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์คล้ายว่าจะเป็นดาร์คเอลฟ์ได้ยืนสำรวจเเละเฝ้ามองไปรอบ ๆ พื้นที่

  เป็นเพราะการหายตัวไปของนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ทั้งสามทำให้ทางกองทัพส่งคนออกมาติดตามหาข้อมูลเกี่ยวกับการหายตัวไป

  เพราะนักรบที่หายตัวไปนั้นเป็นถึงนายพลชั้นเเนวหน้าของทางกองทัพไม่เเปลกที่พวกเขาจะมีปฏิกิริยาตอบรับกันเช่นนี้หลังจากสำรวจพื้นที่โดยรอบ

  ฟุ่บ!!

   โฮก!! !! !! เสียงเห่าหอนได้ดังคำรามไปทั่วผืนป่าใกล้ ๆ ยอดเขามันเป็นกลุ่มฝูงสัตว์ประหลาดยักษ์ที่จ้องมองลองไปที่ด้านล่างที่เกลื่อนไปด้วยซากศพ

  พวกมันได้ถอยกลับเข้าไปในส่วนลึกอีกครั้งจากนั้นก็มีเงาร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากส่วนลึกภายในป่าอย่างช้าๆ

 

โทนี่ไปสังเกตุการณ์ด้วยตนเอง

  ขณะที่เเจ็คสันโน้มตัวนอนลงบนเตียงJ.A.R.V.I.S ก็ได้ช่วยเหลือดำเนินการเปิดระบบเตียงรักษาที่เป็นอุปกรณ์ทางการเเพทย์เหล่านี้เพื่อกระตุ้นการรักษาร่างกายของเเจ็คสันอย่างระวัง

  ภายใต้การช่วยเหลือของJ.A.R.V.I.S บาดเเผลของ เเจ็คสันได้เริ่มฟื้นฟูตนเองทีละน้อย J.A.R.V.I.S เองก็เฝ้ามองการรักษาเเละติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันทางด้านนิวยอร์ก

  ~~

  โทนี่กำลังถือหลอดดทดลองบนมือเเละตั้งใจฟังข้อมูลจากปากของJ.A.R.V.I.S

   เจ้านายครับ,คุณเเจ็คสันขอให้ผมช่วยเหลือในการสร้างอุปกรณ์ไฮเทคที่พวกไฮดร้าเอาไว้ศึกษาวิจัยลูกบาศก์เวทมนตร์ ผมคิดว่าหลังจากนี้ผ่านไปครึ่งชั่วโมงเขาจะใช้ห้องทดลองในไซบีเรียเหล่านี้เพื่อศึกษาลูกบาศก์เวทมนตร์ J.A.R.V.I.S ได้เเจ้งข้อมูลของ เเจ็คสันต่อ โทนี่

  เกี่ยวกับการที่เเจ็คสันไม่คิดจะกลับในเร็วๆ นี้ อยู่ในความคาดหมายของโทนี่ เพราะ โทนี่ รู้ว่า ฐานลับในไซบีเรียได้ถูกปรับปรุงจนใกล้จะเสร็จสมบูรณ์เเล้ว เมื่อ J.A.R.V.I.S ได้เเจ้งเรื่องนี้ต่อเขา ทำให้ โทนี่ รู้ทันทีว่าเเจ็คสันคงไม่เลือกที่จะกลับมา เเม้จะคิดเช่นนี้ เเต่เขาก็หาได้วางใจ

  ลึกๆ เขาเองก็เป็นห่วงความปลอดภัยของ เเจ็คสัน ไม่ว่าจะเป็นภูมิประเทศหรือสถานที่เเห่งนั้น หรือเเม้เเต่ลูกบาศก์เวทมนตร์ โทนี่ รู้มาว่า เเจ็คสันได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์หลังจากออกเดินไปในระยะเวลาอันสั้นเขากลับมาพร้อมกับลูกบาศก์เวทมนตร์เเละบาดเเผลทั่วร่างจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างทางเเน่นอน

   เจ้าเด็กนี่ชักจะเอาใหญ่ซะเเล้วสิ!เเม้ว่าอุปกรณ์ไฮเทคของพวกไฮดร้าจะสามารถดึงพลังงานมิติอวกาศส่วนนึงออกมาจากลูกบาศก์เวทมนตร์ได้ เเต่ใครจะไปรับประกันได้ว่าจะไม่มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้น ถ้าเกิดพลังงานนั่นเกิดปั่นป่วนขึ้นมา เเม้เเต่ฐานขนาดใหญ่นั่นอาจจะถูกระเบิดโดยไม่เหลือซาก! โทนี่ ได้วางหลอดทดลองใมือ

  เขาหมายถึงเกี่ยวกับการปะทุควบเเน่นของพลังงานมิติอวกาศที่เกิดความผิดปกติเดิมเเจ็คสันก็ได้รับบาดเจ็บอยู่เเล้ว หากโดนพลังงานนั่นปะทุเข้าใส่ล่ะก็ จะต้องมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับเขาเเน่นอน

   เจ้านายครับจากการคำนวณของผมเกี่ยวกับการเข้าดูระบบชุดอุปกรณ์ที่ถูกพัฒนาต่อยอดเเล้ว สมควรไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น! ขณะที่ โทนี่ กำลังกังวล J.A.R.V.I.S ได้กล่าวปลอบ

   ข้อมูลที่นายได้รับก็เพียงเเค่อ้างอิงมาจากอุปกรณ์ชุดเก่าของพวกไฮดร้าเเต่หาได้ทดลองจริง ๆ นั่นก็เพราะ เดิมพวกเราไม่มีลูกบาศก์เวทมนตร์ในมือ ดังนั้นฉันจึงไม่ได้มีความสนใจจะทำการศึกษาเครื่องมือนั่นในตอนนั้น ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ตอบกลับ

   เช่นนั้นคุณจะให้ผมหยุดสร้างเครื่องมือนั่นเลยหรือไม่ J.A.R.V.I.Sกล่าวถาม โทนี่ ประโยคนึง

   ไม่จำเป็นเเล้วอาการบาดเจ็บของ เเจ็คสันเป็นยังไงบ้าง โทนี่ กล่าวถาม

   อัตราการเต้นของหัวใจเขาอยู่ในระดับที่ต่ำมากเเต่ความเข้มข้นของคลื่นสมองยังทำงานปกติ ทางด้านร่างกายกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง! ได้ยินคำถามของ โทนี่ J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

   ดี,J.A.R.V.I.S นายคิดว่าด้วยระยะเวลาหนึ่งชั่วโมง เเจ็คสัน เจ้าเด็กนี่จะสามารถฟื้นตัวได้มากน้อยเเค่ไหน โทนี่กล่าวถามอีกครั้ง

   จากการตรวจสอบองผมด้วยระยะเวลาหนึ่งชั่วโมง คุณเเจ็คสันจะสามารถฟื้นฟูได้มากที่สุดอย่างน้อยก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวปกติ เเต่จุดเเข็ง หลาย ๆ อย่างของเขา คาดว่าไม่อาจจะสามารถหักโหมนำออกมาใช้ ได้ เเต่นี่ก็เป็นเเค่การวิเคราะห์ของผม เพราะผมไม่สามารถประเมินความเเข็งเเกร่งที่เเท้จริงของเขาได้ เผชิญหน้ากับคำถามของ โทนี่ J.A.R.V.I.S ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

   อืม,ไม่เเปลกที่นายไม่สามารถประเมินความเเข็งเเกร่งของเด็กคนนั้นได้เขามีพัฒนาการ การเติบโตที่รวดเร็วเกินไป! โทนี่ พึมพัมออกมา

   ฉันเองก็กังวลว่าเจ้าเด็กนี่จะสร้างปัญหาอะไรต่อจากนี้ดังนั้นฉันจะต้องไปอยู่ข้าง ๆ เขา! โทนี่ จ้องมองไปที่ทิศทางตะวันออกทางด้านไซบีเรีย

   ครับ,เเต่เจ้านายครับเเล้วเดตมื้อค่ำกับคุณ เป็ปเปอร์  J.A.R.V.I.S กล่าวเตือนเรื่องนี้

  เพราะโทนี่ได้อยู่ในห้องเเลปของเขาเป็นระยะเวลาหลายวันเขาจึงรู้สึกเบื่อๆดังนั้นเขาจึงนัด เป็ปเปอร์ ไปเดตมื้อค่ำในวันนี้

   อ๊ะ…J.A.R.V.I.Sช่วยฉันสั่งกุหลาบช่อใหญ่ ๆ ช่อนึง ส่งไปที่ห้องทำงานของ เป็ปเปอร์ บอกว่าฉันขอโทษ ที่ไปตามนัดไปได้ ถ้าเธอถาม ก็บอกว่าฉันไปช่วยโลก! ได้ยินการเตือนจาก J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวตอบ

   ครับ 

  จากนั้น5 นาทีต่อมา ชุดเกราะไอรอนแมน 2 ทีม ได้บินออกจากวิลล่าส่วนตัวของโทนี่อย่างรวดเร็ว

  …

  ขณะที่เเจ็คสันกำลังนอนพักฟื้นตัวอยู่ในฐานลับในไซบีเรีย เเละ โทนี่ ก็ได้เคลื่อนไหว กัปตันโรเจอร์ส เเละ คนอื่น ๆ ตอนนี้พวกเขากำลังปกป้องประตูมิติอวกาศเบื้องหน้า

  ฟุ่บ!

  การปิดล้อมมีผลเร่งด่วนอย่างมากเพียงใช้ระยะเวลาไม่นานรอบๆประตูมิติอวกาศก็เต็มไปด้วยเครื่องโลหะผสมพิเศษที่เเข็งเเกร่งจำนวนมาก มันคือเครื่องปรับสมดุลเเละป้องกันการปะทุพลังของคลื่นมิติอวกาศนี่เป็นเครื่องมือที่ ดร.แบนเนอร์ วิจัยเเละสร้างมันขึ้น ไม่อย่างนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่มันจะมีระบบต้านทานเกี่ยวกับพลังมิติอวกาศเหล่านี้

 

ความคิดของเเจ็คสัน

  ในดวงตาทั้งสองข้างของเขาสะท้อนใหห้เห็นถึงรัศมีพลังสีฟ้าอ่อนๆ จากลูกบาศก์เวทมนตร์ ไม่รู้ว่าตอนนี้เเจ็คสันกำลังคิดอะไรอยู่เขาเหมือนกับคนสติหลุด

  ฟุ่บ~~

  หลังจากจ้องลูกบาศก์เวทมนตร์นานหลายวินาทีเเจ็คสันกลับไม่ได้นำมันวางลงกล่อทันที ในใจของเขาได้จ้องมองมันเเละคิดถึงสิ่งตอบเเทนที่เขาต้องจ่ายมันออกไป

  ไม่มีใครรู้ว่าหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน เเละ ไอซ์แมน ได้ถูกขังอยู่ในพื้นที่มิติปิดกั้น เเละได้เผชิญหน้ากับอันตรายมากน้อยเเค่ไหน กว่าจะได้มาซึ่งลูกบาศก์เวทมนตร์นั้น เป็นพวกเขาที่ลงทุนลงเเรงไปมาก เเจ็คสันได้ดำดิ่งเข้าสู่จิตใจของเขาเเละเข้าสู่ร้านค้าระบบเพื่อตรวจสอบข้อมูลของลูกบาศก์เวทมนตร์

   1.5ล้านเเต้มคะแนน ! นี่มันเทียบเท่ากับวัตถุระดับ S อย่างไม่ต้องสงสัย! ในจิตใจของเขา เเจ็คสันได้มองเห็นอัตราตัวเลขที่ถูกตีค่าออกมา

  ลูกบาศก์เวทมนตร์หรือ สเปซอินฟินิตี้สโตน ระบบได้ประเมินค่าของมันออกมาเป็นเลข 1.5 ล้านเเต้มคะแนน เป็นที่ชัดเจนว่า 1.5 ล้านเเต้มคะแนน หากเเจ็คสันได้ครอบครองมันเขาจะสามารถกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าเกรงขามมากขนาดไหน

  เเจ็คสันสามารถนึกภาพตนเองถือค้อนเทพเจ้าสายฟ้าเเละสามารถใช้พลังของเทพเจ้สายฟ้าได้ เเต่การใช้พลังของเทพเจ้าสายฟ้าเเจ็คสันจะต้องมีความเเข็งเเกร่งที่เพียงพอ นอกจากนี้ เพื่อกำจัดพลังงานเหนือธรรมชาติของโอดิน เเจ็คสันจะต้องบรรลุวัตถุประสงค์ในการใช้เเต้มคะเเนนมากกว่า 1.5 ล้านเเต้ม กล่าวอีนัยนึงคือ ด้วยเเต้มคะแนน 1.5 ล้านเเต้มคะแนน จะสามารถทำให้เเจ็คสันมีความเเข็งเเกร่งเทียบเท่ากับสถานะของ โอดิน นั่นเอง

  ในตอนนี้เขามีโอกาสที่จะเเลกเปลี่ยนมันเป็น1.5 ล้านเเต้มคะแนน ด้วยคะแนนนี้เขาจะสามารถเติบโตได้ในระยะเวลาอันสั้น ผลลัพธ์ดังกล่าวเป็นที่เเน่นอนว่าในอนาคตเขาจะเหนือกว่า ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน เเละ โอดิน ในเร็ว ๆ นี้อย่างเเน่นอน เขาอาจกระทั่งสามารถนำพาจักรวาลโลกไปมุ่งพิชิตอารยธรรมอื่น ๆ เเละกลายเป็นหนึ่งในอารยธรรมใหญ่ได้

  เเต่ในใจของเขาก็ยังคงมีอีกความคิดนึงลูกบาศก์เวทมนตร์สามารถช่วยสนับสนุนวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีของโลกได้ หากเเจ็คสันเเลกเปลี่ยนมันไป เเม้เขาจะเเข็งเเกร่งขึ้น เขาก็ไม่สามารถทำให้วิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีของโลกพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด

   ถ้าฉันเเลกเปลี่ยนลูกบาศก์เวทมนตร์นี้ไปเช่นนั้น จักรวาลก็จะไร้ซึ่ง สเปซอินฟินิตี้สโตน เช่นนั้น อินฟินิตี้สโตน อีก 5 เม็ดที่เหลือเล่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน เเต่ฉันสามารถฉกฉวยโอกาสครั้งนี้ในการสร้างผลประโยชน์ให้ตนเองได้ เเจ็คสันได้ครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว ถ้าเกิดเขาเเลกเปลี่ยนสเปซอินฟินิตี้สโตนไป เขาก็สามารถจัดการต้นตอของเพลิงร้ายอย่างเช่นการรวบรวมอินฟินิตี้สโตนทั้ง 6 เม็ด เพื่อกำจัดผู้คนในจักรวาลทั้งครึ่งนึงได้

   ถ้าฉันเเลกเปลี่ยนมันจริงๆ โทนี่ กัปตันโรเจอร์ส เเละ คนอื่น ๆ จะคิดยังไง 

   เเม้ว่าเเต้มคะแนนเหล่านี้จะมีจำนวนที่มากจนสามารถล่อลวงฉันได้เเต่ฉันก็ไม่อาจทำแบบนี้ได้โดยไร้ซึ่งสามัญสำนึก! เเจ็คสันไม่คิดว่าเขาควรจะครอบครองลูกบาศก์เวทมนตร์เพียงคนเดียว

   จะเอายังไงดีจะเลือกแบบไหน? เเจ็คสันรู้สึกงุนงง เขาต้องการลูกบาศก์เวทมนตร์ เเละ ก็ต้องการเเต้มคะแนนจำนวนมาก การที่เเจ็คสันขาดเเคลนเรื่องเเต้มคะแนนในตอนนี้เป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขามาก

   ถ้าเกิดฉันลองอีกวิธีเล่า ขณะนั้นเองเเจ็คสันเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้เขานึกถึงสิ่งที่พวกไฮดร้าเคยทำนั่นก็คือการสกัดพลังงานบางส่วนของลูกบาศก์เวทมนตร์ออกมา ถ้ามันได้ผลเขาจะสามารถใช้มันเเลกเปลี่ยนเเต้มคะแนนในร้านค้าระบบได้โดยไม่ต้องสูญเสียลูกบาศก์เวทมนตร์ไป

   ฉันจะลองวิธีนี้ดู! หลังจากนึกขึ้นได้เเจ็คสันก็ยืนยันในความคิดของเขา

   J.A.R.V.I.S ฉันต้องการของบางอย่าง ก่อนหน้านี้ที่พวกเราไปจัดการฐานลับสูงสุดของไฮดร้า นายใช่เก็บเครื่องมือศึกษาลูกบาศก์เวทมนตร์เหล่านั้นกลับมาด้วยหรือไม่ ฉันต้องการเครื่องมือเหล่านั้น เเจ็คสันตะโกนบอก J.A.R.V.I.S

  ตั้งเเต่ที่เขาได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์นี้มาเเจ็คสันก็ต้องการเครื่องมือสนับสนุนในการสกัดพลังงานบางส่วนของลูบาศก์เวทมนตร์ออกมา

   เครื่องมือเหล่านั้นเกรงว่าจะไม่สะดวกในตอนนี้เเต่ถ้าคุณต้องการใช้มันจริง ๆ ผมสามารถรวบรวมเเละติดตั้งมันให้พร้อมใช้ในหนึ่งชั่วโมง! ได้ยินคำถามของ เเจ็คสัน J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

  เเม้ฐานเเห่งนี้จะไม่มีเครื่องมือประเภทนั้นเเต่ก่อนหน้านี้ J.A.R.V.I.S ได้ศึกษาเครื่องมือของพวกไฮดร้าเเละทำได้ทำการวิจัยเเละปรับปรุงออกมาเป็นธรรมชาติเขาสามารถสร้างมันขึ้นมาให้พร้อมใช้ได้

   หนึ่งชั่วโมง ดี ฉันจะรอฟังข่าวดีจากนาย! ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสัน กล่าวตอบด้วยความดีใจ

  ในหนึ่งชั่วโมงนี้เขาสามารถพักรักษาตัวก่อนที่จะเริ่มทำการทดลองของเขาได้

   ดี,เข้าใจเเล้วผมจะรีบเตรียมการโดยเร็วที่สุด เเต่ตอนนี้ ผมเเนะนำให้คุณพักผ่อนเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บทันที!  J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

   เข้าใจเเล้ว,ขอบคุณJ.A.R.V.I.S เเจ็คสันกล่าวตอบ

   ไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมหรอกครับคุณเเจ็คสัน! 

  ~~

  วินาทีต่อมาเเจ็คสันก็นอนลงบนเตียงด้วยอาการอ่อนล้าเขาถือลูกบาศก์เวทมนตร์ในมือเเน่นเเละพิจารณามันอย่างระวัง

 

ฐานลับเเห่งใหม่

  ฟุ่บ!

  หลังจากที่เเจ็คสันเข้าสู่ด้านในฐานประตูด้านหลังของเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนย้ายเข้าหากันอีกครั้งจนปิดสนิทลงในที่สุด

  ตุบ~

  เสียงเท้าที่ชัดเจนได้ดังก้องอยู่ภายในทางเดินห้องโถงเเจ็คสัน ที่อยู่ภายในชุดเกราะไอรอนแมนได้สำรวจพื้นที่รอบ ๆ ภายใต้การสังเกตุของเขา เขารู้สึกชื่นชม การเปลี่ยนเเปลงในครั้งนี้มากจริง ๆ ดูเหมือนความพยายามของ โทนี่ กับ J.A.R.V.I.S จะลงเเรงไปกับที่นี่อย่างมาก เพราะมันได้เปลี่ยนเเปลงไปมากจนเเจ็คสันรู้สึกว่านี่ไม่เหมือนกับฐานลับไฮดร้าเก่าเลย

  เเม้ว่าก่อนหน้านี้ฐานลับของไฮดร้าจะค่อนข้างไฮเทคก็จริงเเต่มันก็ผ่านมามากกว่า60 ปี วิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีในช่วง 60 ปีมานี้ ได้พัฒนาขึ้นอย่างมาก ดังนั้น เทคโนโลยีในฐานของไฮดร้าจึงล้าหลังกว่าเทคโนโลยีของโลกในปัจจุบันเกือบ 20 ปปี เเต่เพราะการจัดการของ โทนี่ เเละ J.A.R.V.I.S ทำให้ ฐานเเห่งนี้กลับมาพร้อมใช้งานอีกครั้ง

  ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนไม่ว่าจะเป็นการตกเเต่ง การปรับปรุง การพัฒนา เเละ สิ่งอื่น ๆ โทนี่ ได้ดึงเทคโนโลยีในปัจจุบันมาใช้สนับสนุนฐานเเห่งนี้ภายใต้ฝีมือของโทนี่ ฐานเเห่งนี้จะกลายเป็นหนึ่งในฐานลับที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก

   J.A.R.V.I.Sนี่คือการเปลี่ยนเเปลงทั้งหมดตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนจริง ๆ งั้นหรอ จ้องมองไปที่สไตล์การตกเเต่ง เเจ็คสัน กล่าวถาม J.A.R.V.I.S

   ใช่ครับ,เหลือเพียงเก็บกวาดนิดหน่อยก็สามารถนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันได้เเล้วอุปกรณ์เหล่านั้นมีต้นกำเนิดเชื่อมกับเตาปฏิกรณ์อาร์ค นอกจากนี้ เครือข่ายระบบของที่นี่ทั้งหมด ได้ปรับเปลี่ยนเเละพัฒนาให้มีมาตราฐานมากขึ้น ได้ยินคำถามของ เเจ็คสัน J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

   งั้นหรอน่าทึ่งมากจริง ๆ! เเจ็คสันถอนหายใจด้วยความรู้สึกหลากหลาย

  ฟุ่บ~

  ขณะที่เเจ็คสันกำลังเดินเขาก็ได้มาถึงหน้าห้องควบคุมเเล้วในเวลานี้ ห้องควบคุมเดิมได้เเตกต่างอย่างสิ้นเชิง ตำเเหน่งของคอมพิวเตอร์ยักษ์ที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าได้หายไป ทดเเทนด้วยคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเเละระบบปฏิบัติการที่ล้ำสมัยกว่ามาก มันค่อนข้างออกแบบมาคล้ายกับศูนย์ควบคุมอากาศยานขององค์กร S.H.I.E.L.D. บางที J.A.R.V.I.S อาจอ้างอิงข้อมูลส่วนหนึ่งมาจากฐานภายในขององค์กร S.H.I.E.L.D .

  เเจ็คสันที่เดินสำรวจรอบๆ ห้องทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรขึ้นได้บางอย่าง

  ธรรมชาติเขาไม่โง่พอที่จะถามJ.A.R.V.I.S เพราะ J.A.R.V.I.S ได้เข้าควบคุมศูนย์ข้อมูลทุกอย่างภายในฐานเเห่งนี้ทั้งหมด

  เเจ็คสันไม่รู้ว่าJ.A.R.V.I.S ได้ค้นพบอะไรมากน้อยเเค่ไหนเเต่เขาก็ไม่กล้าที่จะถามออกมาเพราะกลัวว่าจะมีผลกระทบกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นภายหลัง

   คุณเป็นอะไรหรือป่าวครับ ขณะที่เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดคลื่นสมองของเขาก็ได้เปลี่ยนไปจน J.A.R.V.I.S สังเกตุเห็นความผิดปกติเเละกล่าวถามออกมา

  ที่จริงเเล้วJ.A.R.V.I.S ได้เปลี่ยนเเปลงฐานเนเห่งนี้ก็จริง เเต่เขาก็ไม่น่าจะค้นพบข้อมูลที่เเจ็คสันกังวลก่อนหน้านี้ นั่นก็เพราะเขาได้ทำความสะอาดเเละจัดการมันทั้งหมดไปเเล้ว คาดว่า J.A.R.V.I.S ไม่น่าจะค้นพบข้อมูลใด ๆ หลงเหลืออีก

  สิ่งที่เเจ็คสันพูดถึงก็คือบันทึกข้อมูลปฏิบัติการลับของวินเทอร์ โซลเยอร์ ถ้า J.A.R.V.I.S ค้นพบข้อมูลนี้จริง ก็ควรจะเเจ้งต่อโทนี่เเล้ว เมื่อคิดได้เช่นนั้น เเจ็คสันจึงได้ออกจากห้องควบคุมเเละไปเตะตาเข้ากับห้องปฏิบัติการลับสร้างทหารวินเทอร์โซลเยอร์ ในเวลานี้ห้องนี้ได้ถูกเปลี่ยนเเปลงเป็นห้องศึกษาเทคโนโลยีชีวภาพ เเต่เเน่นอนว่าในห้องยังมีโลงน้ำเเข็งอยู่มันสามารถรักษาสภาพเเละคงสภาพศพได้ดี เเม้จะเเช่เเข็งมนุษย์นานนับ 10 ปี เขาก็ยังไม่ตาย J.A.R.V.I.S ได้พัฒนาเเละอัพเกรดระบบของเครื่องนี้อีกด้วย

  ถ้าจะบอกว่าเครื่องนี้ดียังไงก็เปรียบเทียบสมมุติมีพ่อค้าที่ร่ำรวยมากเเต่ไม่อยากตายพวกเขาก็สามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อชีวิตในการอยู่ในโลงศพน้ำเเข็งนี้ได้

  จนกว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของโลกจะพัฒนาจนสามารถรักษาความเเก่ชราลงพวกเขาก็จะยังสามารถมีชีวิตต่อไปได้จนถึงวันนั้น

   คุณเเจ็คสัน ภายในห้องทางการเเพทย์นั้นมีเครื่องมือเพียงพอที่จะให้คุณรักษาตัว เเต่ด้วยอาการบาดเจ็บของคุณตอนนี้อาจเป็นไปได้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร J.A.R.V.I.S ได้กล่าวพูดขึ้น

   อืม,ฉันรู้J.A.R.V.I.S นายสามารถช่วยฉันเตรียมเครื่องมือผนึกภายในห้องเเห่งนี้ให้ฉันหน่อยได้หรือไม่ เเจ็คสันกล่าวถาม J.A.R.V.I.S

   คุณจะใช้เก็บลูกบาศก์เวทมนตร์ งั้นหรือครับ J.A.R.V.I.S กล่าวถาม

   ใช่เเล้ว 

   ดี,ผมจะเตรียมให้คุณทันที! 

  จากนั้น5 นาทีต่อมาเเจ็คสันก็ออกมาจากชุดเกราะไอรอนแมน เขาได้นั่งลงภายในห้องทางการเเพทย์เหล่านี้ จากนั้นไม่นาน J.A.R.V.I.S ก็นำพากล่องเเก้วที่เป็นผนึกมาเตรียมไว้ตามคำขอของ เเจ็คสัน

   ลูกบาศก์เวทมนตร์… เเจ็คสันได้จ้องมองไปที่ด้านหน้าที่เป็นกล่องใสสำหรับใส่ผนึกลูกบาศก์เวทมนตร์

  ฟุ่บ~

  วินาทีต่อมาเเจ็คสันได้ใช้มือคว้าเงื้อมหยิบไปที่กระเป๋าของเขาจากนั้นก็ดึงก้อนลูกบาศก์สีน้ำเงินออกมา มันได้ถูกเผยอยู่ในมือขวาของเขา เเสงสีฟ้าอ่อน ๆ ค่อย ๆ เคลื่อนตัวจนกระทั่งกระตุ้นความสนใจในประกายดวงตาของเขา

 

ฐานลับที่ถูกปรับปรุง

   J.A.R.V.I.S ฉันสามารถอยู่พักรักษาตัวที่นี่ได้หรือไม่ เเจ็คสันได้กล่าวพูดกับ J.A.R.V.I.S ปีเตอร์กับเขา กำลังจะกลับ นิวยอร์ก เเต่เมื่อพิจารณาว่าประตูมิติอวกาศได้เชื่อมต่อกับอารยธรรมเผ่าดาร์คเอลฟ์ เเจ็คสันไม่ต้องการห่างไกลจากที่เกิดเหตุ

   ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วงสถานการณ์ที่นี่ เเต่มิราจไนท์ สภาพอาการบาดเจ็บของคุณในตอนนี้ไม่เหมาะเกินไป เเม้ว่า ฐานเเห่งนี้จะถูกสร้างขึ้นเเละมีอุปกรณ์รักษาเเต่อุปกรณ์เหล่านั้นก็ยังคงล้าสมัยเกินไป อาการบาดเจ็บของคุณเป็นไปได้ว่าอาจจะฟื้นฟูช้า  J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ เขาหมายถึง ฐานลับของไฮดร้าในไซบีเรีย

   J.A.R.V.I.Sฉันรู้ว่านายคิดยังไง เเต่ถ้าหากฉันรั้งอยู่ที่นี่หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นฉันจะได้เข้าตอบสนองได้ในทันที ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันกล่าวเเย้ง

   เช่นนั้นคุณลองติดต่อกับคุณ สตาร์ค ดูก่อนไหม เเต่ผมเชื่อว่า คุณสตาร์คคงไม่ยอมให้คุณอยู่ที่นี่เเน่นอน รู้ว่า เเจ็คสันต้องการอะไร J.A.R.V.I.S ยังคงอ้างชื่อโทนี่ขึ้นมา

   เอ่อ… ได้ยินคำตอบของJ.A.R.V.I.S ที่อ้างโทนี่เข้ามาเกี่ยว เเจ็คสัน รู้สึกจนมุม

  จนในเวลานี้ปีเตอร์ที่พาเเจ็คสันไปด้านหน้าชุดเกราะไอรอนแมนหลายชุดมีกลุ่มทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้รอเขาอยู่ก่อนเเล้ว

   มิราจไนท์คุณกลับไปพักรักษาตัวก่อนเถอะ เรื่องดูเเลความปลอดภัยที่นี่ให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเอง! จ้องมองไปที่มิราจไนท์ที่นั่งอยู่บนรถเข็น เเฮร์รี่ กล่าวพูดขึ้น

  เทียบกับอาการบาดเจ็บของคนอื่นๆ เช่น ไอซ์แมน หรือ โคลอสซัสเเล้ว สมาชิกทีมพันมิตรผู้พิทักษ์ นอกเหนือจาก เเจ็คสัน อาการบาดเจ็บของพวกเขาเเทบจะเรียกได้ว่าเบาบาง เเม้เเต่ เเจ็ค ก็ยังได้รับบาดเเผลเพียงเล็กน้อยอย่างมากก็เเค่ใช้เวลาฟื้นฟูไม่มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของเขา เเม้ มิราจไนท์จะไม่ได้อยู่ เเต่ในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ก็ยังมีสมาชิกที่อยู่ที่นี่มากกว่า 4 คน

   เข้าใจเเล้ว…ฉันจะรีบรักษาตัวเเละรีบกลับมาที่นี่โดยเร็วที่สุด ในที่สุดเเจ็คสันก็ตัดสินใจที่จะกลับไป

   อืมพวกเราจะอยู่ที่นี่รอคุณ 

  จากนั้นภายใต้ความช่วยเหลือของเพื่อนๆ เเจ็คสันได้ถูกส่งเข้าไปในชุดเกราะไอรอนแมน

   J.A.R.V.I.Sพวกเราไปกันเถอะ! 

  ฟุ่บ!

  จากนั้นสไปเดอร์แมนเเละคนอื่น ๆ ก็จ้องมองชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัวที่ถูกยิงขึ้นไปบนฟ้าเเละหายไปยังทิศทาง ทางกลับนิวยอร์ก

  ฟุ่บ!

   จริงสิJ.A.R.V.I.S ก่อนหน้านี้นายบอกว่าการปรับปรุงฐานนั่นเป็นไปได้ด้วยดีใช่มั้ย เเจ็คสันที่อยู่ในชุดเกราะไอรอนแมนได้กล่าวถาม J.A.R.V.I.S

  ที่เขาหมายถึงก็คือฐานไฮดร้าในไซบีเรียเเจ็คสันต้องการรู้การเปลี่ยนเเปลงของฐานลับเเห่งนี้ว่ามีการเปลี่ยนเเปลงมากน้อยเเค่ไหน

  อันที่จริงเขาอยากที่จะรักษาตัวอยู่ที่นั่นเเม้อาการบาดเจ็บของเขาจะรุนเเรงเเต่ในในร้านค้าระบบของเขาเเจ็คสันยังคงมีเเต้มรางวัลมากพอที่จะเเลกเปลี่ยนน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ มาใช้รักษาอาการบาดเจ็บของเขาได้อยู่

  เท่าที่เขารู้จาก J.A.R.V.I.S ก่อนหน้านี้ ฐานไฮดร้ามีเทคโนโลยีที่ค่อนข้างล้าสมัย เเม้การเปลี่ยนเเปลงภายในของฐานจะดำเนินการไปได้ด้วยดี เเต่ก็ยังมีบางส่วนที่ต้องปรับปรุง

  ได้ยินคำถามของเเจ็คสันJ.A.R.V.I.S สามารถคาดเดาได้ในทันที ดูเหมือนมิราจไนท์ต้องการจะทราบสถานการณ์การเปลี่ยนเเปลงภายในฐานซึ่งฐานลับเเห่งนั้นก็ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตำเเหน่งของพวกเขา

  ฟุ่บ!

  จากนั้นไม่นานชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัวก็มาถึงหน้าฐานเก่าของไฮดร้าตอนนี้ภายใต้การเปลี่ยนเเปลงของ J.A.R.V.I.S ฐานเเห่งนี้ถูกซ่อนจากที่ตรวจจับเเละเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้

   ดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนเเปลงอย่างมาก! เเจ็คสันได้ยืนอยู่ที่หน้าทางเข้าของฐานเขากล่าวพูดอย่างตื่นเต้น

   J.A.R.V.I.Sเปิดประตูให้ฉันหน่อย! 

   ครับ,คุณเเจ็คสัน จากนั้นJ.A.R.V.I.S ก็ปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว

  ฟุ่บ~~

  คลื่น~~

  กำเเพงหินที่ดูธรรมดาได้ถูกเลื่อนเปิดออกจากกันอย่างช้าๆเสียงกลไกจำนวนมากได้ถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้น

  ครื่นน~~

  จากนั้นเพียงเวลาสองวินาทีกำเเพงหนาด้านหน้าของเเจ็คสันก็เเยกออกจากกัน ประตูที่มีความสูงกว่า 5 เมตร ตอนนี้ ได้เเยกออกจากกันจนเผยให้เห็นเส้นทางเข้าด้านใน

   ค่อนข้างอบอุ่นจริง ๆ! หลังจากประตูถูกเปิดออกเเจ็คสันสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอบอุ่นที่ถูกส่งออกมา

  ฐานขนาดใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งหิมะเหล่านี้เดิมควรจะมีความรู้สึกที่เย็นมากๆ เเต่อย่างไรก็ตามเเต่เเจ็คสันรู้สึกกลับเป็นสัมผัสเเละบรรยากาศที่อบอุ่นเหมาะสำหรับการใช้ชีวิต

  จากนั้นเเจ็คสันก็ได้เดินเข้าไป นี่เป็นครั้งเเรกที่เขาได้สัมผัสกับฐานลับที่ถูกปรับปรุงขึ้นมาใหม่มันให้ความรู้สึกที่เเตกต่างอย่างมาก

 

เจตนารมณ์เเละความตั้งใจ

   หากไม่คิดจะเสี่ยงก็คงไม่ได้อะไรกลับมา! กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

  ในความคิดของกัปตันโรเจอร์สมิราจไนท์ ที่ได้ออกไปผจญภัยในต่างโลกน่าจะได้สัมผัสกับประสบการณ์มากมายไม่ว่าจะเป็นความรู้ในเรื่องสิ่งเเปลกประหลาดเหล่านี้เเละความเข้าใจในสถานการณ์เเละการตัดสินใจมากขึ้น

   ดังนั้นมิราจไนท์ คุณรู้ข้อมูลอะไรบ้างเกี่ยวกับพวกเผ่าดาร์คเอลฟ์พวกนี้อีก ดวงดาวที่พวกเขาอาศัยอยู่เป็นแบบไหน กัปตันโรเจอร์สกล่าวถาม มิราจไนท์

  ธรรมชาติเขาต้องการข้อมูลของพวกเผ่าดาร์คเอลฟ์ให้มากกว่านี้ปัจจุบันสถานการณ์ของโลกค่อนข้างเลวร้ายการเผชิญหน้ากับศัตรูที่ไม่มีข้อมูลจะทำให้พวกเขาประสบปัญหาใหญ่หลวง

  ดังนั้นการเรียนรู้ข้อมูลของศัตรูถือเป็นการกระทำที่สำคัญที่สุดยิ่งเป็นศัตรูในต่างโลกด้วยเเล้วกัปตันโรเจอร์สไม่ต้องการให้คนของพวกเขาไปเสี่ยงอันตราย

  เท่าที่ฟังมาเผ่าดาร์ฟเอลฟ์พวกนี้ทรงพลังอำนาจมากหากพวกมันบุกโลกจริงเเม้เเต่ตัวกัปตันโรเจอร์สยังต้องรู้สึกตึงเครียดไม่ใช่ว่าโลกเป็นอารยธรรมที่อ่อนเเอเเต่อารยธรรมของเผ่าดาร์คเอลฟ์นั้นเเข็งเเกร่งเกินไป ด้วยวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีในปัจจุบันของโลกเป็นไปไม่ได้เลยที่โลกจะมีโอกาสชนะ

  ท้ายที่สุดการยึดครองเเละตอบโต้อีกฝ่ายเพื่อผลประโยชน์นั้นก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างนึงมันสามารถที่จะช่วยโลกพัฒนาความรู้เเละเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์จากสิ่งของของอารยธรรมของพวกเขาได้

   ถ้าจะให้อธิบายทั้งหมดก็คงจะยาวดังนั้นกัปตันโรเจอร์ศ ฉันจะบอกเรื่องนี้กับคุณภายหลังอย่างเเน่นอน ได้ยินคำถามของกัปตันโรเจอร์ส เเจ็คสันกล่าวตอบ

  เเจ็คสันรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเผ่าดาร์คเอลฟ์จากความทรงจำของเขาอันที่จริงเขาเองก็ตั้งใจจะไปหาธอร์ที่น่าจะรู้ข้อมูลดีกว่าเขาตามปกติเเล้ว หากได้ธอร์มาช่วยเหลือในเรื่องวิจัยเเละการหาข้อมูลจากพวกดาร์คเอลฟ์เเจ็คสันคิดว่าธอร์น่าจะเป็นตัวเเปรที่ดีที่สุด

   ก็ได้,เข้าใจเเล้วฉันจะรอคุณอย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเราจะต้องปิดกั้นประตูมิติอวกาศนี้อย่างสมบูรณ์ เเละ จัดตั้งทีมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะมีตัวอะไรเล็ดลอดออกมาพวกเราจะต้องจัดการมันไม่ให้หลุดออกไปจากฐานเเห่งนี้ได้ ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์สพยักหน้าพร้อมกับกล่าวออกคำสั่ง

   หากโชคของเราดีบางทีคงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นไปสักพัก! เเจ็คสันจ้องมองไปที่นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ที่นอนในกล่องเเละกล่าวพึมพัมออกมา

  หากเผ่าดาร์คเอลฟ์ได้กำลังทำสงครามกับเเอสการ์ดอยู่จริงพวกเขาก็คงไม่จำเป็นต้องกังวลมากในตอนนี้เพราะถึงอย่างไรก็มีเพียงเเค่นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์ 3 คนนี้เพียงเท่านั้นที่หลุดมาที่โลก

  นักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์เเค่3 คนไม่ถือว่าทำให้กองทัพของเผ่าดาร์คเอลฟ์เสียหายการหายตัวไปของพวกเขาไม่น่าจะสลักสำคัญอะไรจนทำให้ทัพหลักต้องสงสัย

  …

  กัปตันโรเจอร์สได้จ้องมองไปที่กล่องโลหะผสมพิเศษที่มีนักรบเผ่าดาร์คเอลฟ์นอนอยู่อีกครั้งเขาได้สั่งให้ปิดกล่องนั่นจากนั้นก๊าซความเย็นระดับต่ำก็ถูกปลดปล่อยออกมาเพื่อรักษาสภาพศพเอาไว้

  ไม่กี่นาทีผ่านไปกัปตันโรเจอร์ส ก็ให้คนอื่น ๆ นำร่างศพทั้งสามไปเก็บไว้ในห้องรักษาเเละสั่งคุ้มกันอย่างเเน่นหนา

   มิราจไนท์บางทีฉันคิดว่าเราควรจะเเจ้งข่าวให้กับ ทีมX-MEN เเละ โทนี่ เกี่ยวกับข้อมูลเผ่าดาร์คเอลฟ์ อันที่จริงฉันเองก็จะรอคำตอบที่ดีเกี่ยวกับข้อมูล 9 อาณาจักรใหญ่เเละอื่น ๆ จากคุณ ยืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าห้องลับ กัปตันโรเจอร์ส ได้กล่าวพูดกับมิราจไนท์

   เเน่นอน,ฉันจะรีบเเจ้งข่าวดีกับคุณ เเจ็คสันกล่าวตอบ

  ในวันนี้เขาประสบความสำเร็จในการได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์มาก็จริงเเต่ก็ยังมีปัญหาที่ยังไม่ได้จัดการอย่างประตูมิติอวกาศที่เชื่อมกับอารยธรรมเผ่าดาร์คเอลฟ์ เเม้ทางองค์กร S.H.I.E.L.D. จะสั่งปิดกั้นพื้นที่ เเต่ เเจ็คสันก็ยังคงไม่หายกังวลเขาตั้งใจจะรักษาอาการบาดเจ็บให้เร็วที่สุดเเละรีบกลับมาดูสถานการณ์ที่นี่ในทันที

   ดี,เช่นนั้นฉันไม่รบกวนเเล้วมิราจไนท์ คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ! เห็นสีหน้าท่าทางที่อ่อนล้าของมิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์ส พูด

  จากนั้นภายใต้การช่วยเหลือของปีเตอร์เเจ็คสัน ก็ได้เดินออกจากที่นี่ไปยังจุดที่ชุดเกราะไอรอนแมนกำลังรอสเเตนบายพวกเขาอยู่

 

อธิบาย

  โดยเเน่นอนเเล้วเผ่าพันธุ์ดาร์คเอลฟ์ หรือ 9 อาณาจักรใหญ่ กัปตันโรเจอร์สล้วนไม่เค้าใจราวกับคนเขลา ตอนนี้เขาหลงเหลือเพียงบุคลิกเเละอารมณ์ที่ค่อนข้างสนใจเพียงเท่านั้น

   มิราจไนท์ดาร์คเอลฟ์ เเละ 9 อาณาจักรใหญ่ คืออะไรกันเเน่ พวกมันคือชื่อของ เผ่าพันธุ์ของมนุษย์ต่างดาวพวกนี้ เเละ 9อาณาจักรนั่น คือโลกอื่น งั้นหรอ หลังจากกัปตันโรเจอร์ส กล่าวถาม นาตาชา เองก็สงสัยในเวลาเดียวกัน

  ความสามารถทางสติปัญญาของนาตาชา นั้นสูงมาก เเละบุคลิกทางอารมณ์ของเธอก็ค่อนข้างสูง ดังนั้น เธอจึงค่อนข้างเข้าใจ ความหมายที่ มิราจไนท์ กำลังสื่อ

  ได้ยินคำถามของนาตาชา เเจ็คสัน จ้องมองไปที่ เธอด้วยดวงตาที่สว่างวาบ ทั้งชื่นชมในใจ อย่างน้อย เธอก็ยังสามารถเดาได้ถึงต้นกำเนิดว่าดาร์คเอลฟ์คือเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ต่างดาวที่อยู่เบื้องหน้านี้ อย่างไรก็ตาม 9 อาณาจักรไม่ใช่เพียงเเค่โลกใบอื่น เเต่มันคือสถานที่พิเศษอีกด้วย

   เช่นนั้นฉันจะอธิบายอย่างรวบรัดให้เลยเเล้วกัน ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้มันคงจะไม่ดีหากจะให้เล่าที่มาทั้งหมด เเจ็คสันกล่าวพูดออกมาเขาไม่ได้มีเเผนจะอธิบายเรื่องทั้งหมดอย่างชัดเจนในตอนนี้

  นอกจากนี้เขาเองก็ยังไม่รู้สถานการณ์อื่นๆ ของ อาณาจักรทั้ง 9 ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการให้ข้อมูลผิด ๆ อีกด้วย

   อืม… กัปตันโรเจอร์สพยักหน้าเล็กน้อย

  อันที่จริงกัปตันโรเจอร์สจะไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องราวในต่างโลกก็ไม่เเปลกเขาเองก็พึ่งตื่นขึ้นมาจากชั้นน้ำเเข็งเเละเพิ่งเรียนรู้วัฒนธรรของโลกในปัจจุบันได้ไม่นานถ้าเขาจะล่วงรู้ไปทุกเรื่องก็คงไม่ใช่ เเต่ความอยากรู้อยากเห็นนั้นได้กระตุ้นต่อมความรู้สึกของเขาในตอนนี้อย่างมาก

   ฉันจะเริ่มเล่าเลยล่ะกันเริ่มจาก พวกเขา ,พวกเขาคือนักรบของเผ่าพันธุ์ที่น่าเกรงขามที่ชื่อว่า ดาร์คเอลฟ์ เผ่าพันธุ์ของพวกเขาเมื่อเทียบกับโลกในปัจจุบันถือว่าเเข็งเเกร่งกว่าพวกเราหลายเท่า เเจ็คสันเริ่มอธิบาย

   เปรียบเทียบกับโลกเเข็งเเกร่งกว่าหลายเท่า ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์กัปตันโรเจอร์สย่นคิ้วด้วยความตกใจ

  เเน่นอนว่าเกณฑ์วัดของมิราจไนท์ที่บอกว่าหลายเท่านั้นจะต้องสูงมากอย่างเเน่นอนหากทั้งสองอารยธรรมต้องมาเผชิญหน้ากันจริง ๆ โลกก็คงจะต้องพบจุดจบอย่างเลี่ยงไม่ได้

   ใช่,ธรรมชาติพวกเขาเเข็งเเกร่งกว่าเรามากเพียงเเค่นักรบระดับล่าง ๆ ก็สามารถสร้างเเรงกดดันให้กับพวกเราได้เเล้ว เมื่อเห็นความกังวลของกัปตันโรเจอร์สเเจ็คสันกล่าวอธิบายอีกครั้ง

  ข้อมูลเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ดาร์คเอลฟ์ในควาทรงจำของเขานั้นมีไม่มากเเจ็คสันได้จำมาจากภาพยนตร์เรื่องธอร์เทพเจ้าสายฟ้าภาค 2 เเต่ถ้าจะให้พูดกันตามตรงเขาก็ไม่สามารถอ้างอิงเรื่องราวได้ทั้งหมด ซึ่งเเจ็คสันก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้

  เเต่เผ่าพันธุ์ดาร์คเอลฟ์นั้นเป็นที่เเน่นอนว่าเเข็งเเกร่งอย่างมากหากพวกเขาบุกโลกในตอนนี้ล่ะก็โลกคงจะถูกกลืนกินอย่างเเน่นอนเเต่ถ้าหากให้เเจ็คสันคาดเดาสถานการณ์ในปัจจุบัน พวกดาร์คเอลฟ์จะต้องยังไม่ได้ครอบครองอีเธอร์เเน่ในตอนนี้ ควาเเข็งเเกร่งของ เรียลลิตี้สโตน นั้นรุนเเรงมาก หากพวกเขาครอบครองอยู่ตอนนี้ เผ่าพันธุ์ดาร์คเอลฟ์ก็คงไม่ตกต่ำลงถึงในปัจจุบัน

   ดี,ฉันเข้าใจเเล้วมิราจไนท์เช่นนั้น คุณก็คงพอจะรู้ต้นกำเนิดของันใช่หรือไม่ เเล้วยังมีอย่างอื่นอีกหรือป่าว? กัปตันโรเจอร์สรับรู้ได้ถึงความเเข็งเเกร่งของเผ่าพันธุ์ดาร์คเอลฟ์ดังนั้นเขาจึงอยากจะรู้ข้อมูลอื่นอีก

   เรื่องนี้… ได้ยินคำถามของกัปตันโรเจอร์สเเจ็คสัน ลังเลเล็กน้อยไม่รู้จะพูดสิ่งใดออกไปดี

   ที่ฉันอยากจะถามก็คือดูเหมือนคุณจะรู้จักพวกเขาดี เช่นนั้นพวกเขามีจุดอ่อนอะไรแบบนี้หรือไม่ ถ้าเกิดมีพวกเราอาจจะสามารถใช้มันเพื่อตอบโต้การโจมตีพวกเขาเเละเปลี่ยนเราเป็นฝ่ายได้ผลประโยชน์เเทนได้ กัปตันโรเจอร์สกล่าวพูดอีกครั้ง

  อันที่จริงเขาเองก็เป็นกังวลเกี่ยวกับความเเข็งเเกร่งของนักรบดาร์คเอลฟ์เหล่านี้เพราะความเเข็งเเกร่งในปัจจุบันของทีมพันธมิตรของพวกเขาคงไม่สามารถเทียบกับอีกฝ่ายที่มีเป็นกองทัพได้อย่างเเน่นอน

  ดังนั้นตั้งเเต่รู้ว่าอีกฝ่ายมาจากอารยธรรมชนเผ่านอกโลกกัปตันโรเจอร์สจึงต้องการศึกษาพวกเขาอย่างละเอียดให้ถี่ถ้วนเพื่อที่จะจัดการตัวตนระดับนี้เขาจำเป็นจะต้องมีข้อมูลที่เพียงพอ

   กัปตันโรเจอร์สคุณคิดงั้นจริง  ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส ไม่ว่าใครก็คงจะสามารถคาดเดาได้ว่ากัปตันโรเจอร์สต้องการจะสื่ออะไร

  อารยธรรมของเผ่าดาร์คเอลฟ์นั้นน่าสนใจอย่างมากหากโลกสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์กลับมาได้มันยิ่งจะช่วยพัฒนาความก้าวหน้าของโลกให้มากขึ้น

 

ดาร์คเอลฟ์

  ฟุ่บ!

  ได้ยินเสียงของมิราจไนท์กัปตันโรเจอร์ส จ้องมองไปที่ กล่องโลหะผสมพิเศษ เเละรอผลวิเคราะห์จากมิราจไนท์

   นี้ก็คือสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์ทั้งสามคน กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบมิราจไนท์

   เปิดให้ฉันดูหน่อย! ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์สเเจ็คสัน กล่าวออกมาอย่างไม่เกรงใจ

  ฟุ่บ!

  ไม่ต้องรออะไรกัปตันโรเจอร์ส เปิดกล่องโลหะพิเศษออกด้วยตัวเอง ก่อนหน้านี้ พวกเขาต่างเฝ้าระวังความปลอดภัยของสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์นี้อย่างระวัง เเต่เพื่อที่ว่ามิราจไนท์อาจจะรู้อะไรบางอย่าง กัปตันโรเจอร์สจึงคาดหวังในเรื่องนี้อย่างมาก

  หลังจากกล่องโลหะผสมพิเศษถูกเปิดขึ้นไอเย็นได้เเพร่กระจายออกมาไอเย็นระดับนี้รุนเเรงมากเเม้มันจะไม่มีผลกับเเจ็คสันในสภาพปกติเเต่ตอนนี้สภาพของเเจ็คสันได้รับบาดเจ็บรุนเเรงเขาจึงรู้สึกหนาวสั่นระรัว

   เป็นอะไรมั้ย กัปตันโรเจอร์สที่เห็นมิราจไนท์สั่นเทาด้วยความหนาวเย็นเขากล่าวถาม

  เเต่ว่าเเจ็คสันหาได้สนใจเขาจ้องมองไปที่มนุษย์ต่างดาวรูปแบบมนุษย์ในกล่องโลหะพิเศษนั่น

   นี่มัน… เห็นรูปร่างหน้าตาของมนุษย์ต่างดาวรูปแบบนุษย์อย่างใกล้ชิดจิตใจของเเจ็คสันสั่นระรัวกว่าที่ผ่านมาในที่สุดความทรงจำที่อยู่ในสมองของเขาก็ได้รับการกระตุ้นอีกครั้ง

   นักรบของเผ่าดาร์คเอลฟ์! เเจ็คสันอุทานออกมาอย่างรุนเเรง

  เเม้อาการบาดเจ็บของเขาจะรุนเเรงเเต่เเจ็คสันก็ข่มมันไว้ด้วยอาการตกตะลึงธรรมชาติบาดเเผลบาดเจ็บรุนเเรงเเค่นี้ไม่อาจหยุดความตกใจของเขาได้

   เเค่กๆ ! เเจ็คสันไอออกมาอย่างรุนเเรงบาดเเผลภายในของเขาได้เริ่มเจ็บปวดมากขึ้น

   คุณไม่เป็นอะไรนะมิราจไนท์  เห็นการเปลี่ยนเเปลงของมิราจไนท์อย่างกระทันหัน ปีเตอร์ ได้เปิดปากถามอย่างเร่งรีบ

  เพราะปีเตอร์รู้ดีว่าเเจ็คสันได้รับบาดเจ็บหนัก เขาเป็นห่วงมากเพราะว่าตอนนี้เเจ็คสันกำลังสะกดข่มอาการบาดเจ็บของตนเอง ได้ยินคำถามของสไปเดอร์แมน ทุกคนได้จ้องมองไปที่ มิราจไนท์พร้อมกัน

   ไม่เป็นอะไร…เเค่ตื่นเต้นนิดหน่อย เเจ็คสันได้กล่าวตอบราวกับว่าไม่ต้องการให้อาการบาดเจ็บของเขามาเป็นตัวขัดขวางความตกใจในครั้งนี้

  ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์วิสัยทัศน์ของทุกคนได้เปลี่ยนเเปลงไปเล็กน้อยพวกเขารู้ดีว่า มิราจไนท์คงไม่ต้องการให้ใครมาเเสดงความเห็นใจในสภาพของเขาตอนนี้

   ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ อาการบาดเจ็บของฉัน กำลังค่อย ๆ ฟื้นฟูตนเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเรามารวมตัวกันที่นี่เพื่อศึกษาต้นกำเนิดของมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้ นี่เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เเจ็คสันถอนหายใจออกมา

   เข้าใจเเล้วสไปเดอร์แมน นายไปคอยอยู่เคียงข้างเพื่อช่วยเหลือมิราจไนท์เถอะ! ได้ยินคำตอบของ มิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์ส กล่าวบอก สไปเดอร์แมน

   จริงสิมิราจไนท์ ดูเหมือนคุณจะรู้จักพวกเขา กัปตันโรเจอร์สจำได้ว่ามิราจไนท์ได้อุทานชื่อบางอย่างออกมาก่อนหน้านี้ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสนใจมาก

  ได้ยินคำถามของกัปตันโรเจอร์สเเจ็คสัน จ้องมองไปที่ มนุษย์ต่างดาวที่อยู่ในกล่องโลหะผสมพิเศษอีกครั้ง

   ใช่,ฉันรู้จักพวกเขาดูเหมือนพวกเขาจะเป็นนักรบของเผ่าดาร์คเอลฟ์ เป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ของ 9 อาณาจักรใหญ่! เเจ็คสันกล่าวตอบอย่างจริงจัง เผ่าดาร์คเอลฟ์ เผ่ายักษ์น้ำเเข็ง เเอสการ์ด เเละ มิดการ์ด นี่เป็นหนึ่งในรัฐของ 9 อาณาจักรใหญ่ ในสหัสวรรษที่ผ่านมา ดาร์คเอลฟ์นั้นถือว่าเป็นชนเผ่าที่มีพลังเทียบเท่ากับเเอสการ์ดเพราะพวกเขาครอบครอง เรียลลิตี้ สโตน เเต่เพราะการนำทัพของโอดินเขาได้นำเเอสการ์ดไปปราบเผ่าดาร์คเอลฟ์จนยอมสยบได้

  เพื่อที่จะไม่ให้เผ่าดาร์คเอลฟ์ ได้กลับมามีอำนาจเเละใช้พลังของ เรียลลิตี้สโตน หรือที่เรียกว่า อีเธอร์ อีกครั้งโอดิน ได้ซ่อน อีเธอร์ ไว้ในสถานที่ที่ไม่มีใครรู้ จากนั้นก็ไม่มีใครพบข้อมูลของอีเธอร์อีกเลย

  ในเรื่องเทพเจ้าสายฟ้าภาค 2 มีการบ่งบอกถึงอีเธอร์เเละการปรากฏตัวของมัน มันได้ไปสิงสถิตอยู่ในตัวของ เเฟนสาวของธอร์ เจน ฟรอสเตอร์ เพราะความบังเอิญจากนั้นธอร์ที่ตกใจกับความผิดปกติของเจนก็พา เจน ฟรอสเตอร์ กลับไปที่เเอสการ์ดเเละพบว่าในร่างของเจน มีสสารที่เรียกว่า อีเธอร์ อยู่ เเม้เเต่โอดินในตอนนั้นยังตกใจ เพราะอีเธอร์ ก็คือขุมพลังขนาดใหญ่ที่พวกดาร์คเอลฟ์ใช้กัน

  ดังนั้นหลังจากเห็นกล่องโลหะพิเศษที่มีศพของพวกนักรบของเผ่าดาร์คเอลฟ์อยู่เเจ็คสันจึงรู้สึกตกใจมาก ก่อนหน้านี้ที่เขาเห็นอีกฝ่ายก็ว่าทำไมถึงคุ้นเคย เเต่เพราะไม่ได้เห็นใกล้ ๆ เขาจึงไม่สามารถยืนยันได้ในตอนนั้น

   ดาร์คเอลฟ์ เป็นชื่อที่เเปลกจริง ๆ ! ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์ส ขมวดคิ้วเเน่น

  เเต่ดูจากการเเสดงออกของมิราจไนท์กัปตันโรเจอร์สเชื่อว่า มิราจไนท์ คงจะรู้จักเผ่าพันธุ์ของอีกฝ่าย อย่างไรก็ตาม กัปตันโรเจอร์สกลับไม่คุ้นเคยชื่อ ดาร์ค เอลฟ์เลยเเม้เเต่น้อย

  ��

 

คำพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์

  ขณะที่เเจ็คสันจ้องมองสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์ที่มาจากต่างดาวนี้กับ พวกกัปตันโรเจอร์ส ทีมX-MEN คนอื่น ๆ ได้ขอตัวออกไปทำธุระ

   ไอซ์แมนฟังจากสถานการณ์ที่นายรายงานมา ดูเหมือน โคลอสซัส จะได้รับบาดเจ็บหนักสินะ เช่นนั้นให้ บลิงก์ ส่งเขากลับมารักษาตัวที่ฐานของเรา บนหน้าจอขนาดใหญ่ชายหัวล้านศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้กล่าวพูดขึ้น

  ทันทีที่พบลูกบาศก์เวทมนตร์ไอซ์แมน ก็รายงานศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เเต่ดูเหมือนศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะให้ความสนใจกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง โคลอสซัสที่บาดเจ็บเป็นอันดับเเรก

   ฉันเข้าใจเเล้วเเต่อย่างไรก็ตามทางเราจะต้องส่งคนมาสนับสนุนที่นี่ด้วย ไอซ์แมนกล่าวตอบศาสตราจารย์ชาร์ลส์

  นอกเหนือจากการได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์มาก็ยังมีเรื่องประตูมิติอวกาศอยู่ ซึ่งอาจจะมีกองทัพมนุษย์ต่างดาวมาบุกโลกก็ได้เมื่อถึงตอนนั้น กองกำลังที่เเข็งเเกร่งเป็นสิ่งจำเป็น หากขาดทีม X-MEN อย่างพวกเขาไป กองกำลังของ S.H.I.E.L.D. เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ย่อมไม่พอ

   ฉันรู้เช่นนั้นฉันจะส่งเเฮงค์ไปที่นั่น ฉันคิดว่าเขาจะต้องสนใจ ดร.แบนเนอร์ อย่างเเน่นอน รู้ว่าไอซ์แมนเป็นห่วงอะไร ศาสตราจารย์กล่าวตอบ

   เเฮงค์! เช่นนั้นฉันก็รู้สึกโล่งใจ ได้ยินว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะส่งเเฮงค์มา ไอซ์แมน ค่อนข้างรู้สึกโล่งใจ

  เเฮงค์เป็น มิวแทนท์กลายพันธุ์ นี่คือชื่อเล่นของเขา ชื่อจริงของเขาคือ เฮนรี่ ฟิลลิป แม็คคอย ไม่เพียงเเต่เขามีพละกำลังทางกายที่สูงความฉลาดทางสติปัญญายังสูงอีกด้วย เขาเป็นหนึ่งในทีมX-MEN เเละ เป็นสมาชิกที่มีพรสวรรค์ทางด้านวิทยาศาสตร์สูง

  ลักษณะของเเฮงค์ คล้ายกับ ดร.แบนเนอร์ ทั้งสองคนมีความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ชั้นยอด ทั้งยังมีพละกำลังทางกายภาพที่เเข็งเเกร่ง เเม้ความสามารถทางกายของเเฮงค์จะด้อยกว่า ฮัลค์ เเต่การเปลี่ยนร่างของเขาสามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์

   อืม,เเฮงค์จะต้องสนใจประตูมิติอวกาศเเละลูกบาศก์เวทมนตร์อย่างเเน่นอน ฉันจะส่งเขาไปที่นั่นโดยเร็วที่สุด ศาสตราจารย์ชาร์ลส์พูดขึ้น

   เข้าใจเเล้วฉันจะให้ บลิงก์ช่วยพาฉันเเละโคลอสซัสกลับไปโดยเร็ว  ไอซ์แมนพยักหน้ากล่าวตอบ

   อืม,หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นให้รีบเเจ้งฉันทีนทีจริงสิ มิราจไนท์ เขาได้ว่ายังไงบ้าง ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวถามเรื่องสำคัญ

   มิราจไนท์ไม่นิเขาไม่ได้พูดอะไร ไอซ์แมนได้กล่าวตอบ เขาเเละโคลอสซัสจะกลับไปที่สำนักงานใหญ่ส่วนคนที่อยู่ที่นี่ก็คือสตอร์ม นอกเหนือจากพวกเขาทั้งสองเเล้ว ที่นี่จะเหลือเเค่เพียงเธอในตอนนี้

   อืม 

  ฟุ่บ~

  จากนั้นการสื่อสารทั้งสองก็ตัดขาดออกจากกันศษสตราจารย์ชาร์ลส์ ได้เตือนไอซ์แมนเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ทำให้ ไอซ์แมนจำได้เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้น

   ไอซ์แมนทำไมเมื่อกี้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ถึงพูดถึง มิราจไนท์ เเทนที่จะเป็นพวกกัปตันโรเจอร์ส  สตอร์มกล่าวถามอย่างสงสัย

   เรื่องนี้…ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ไอซ์แมนยิ้มกล่าวตอบ

  ไม่ว่าอย่างไรความสัมพันธ์ของไอซ์แมนเเละมิราจไนท์ก็ดีมาก ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ น่าจะพูดคุยอะไรบางอย่างกับไอซ์แมนก่อนหน้านี้นี่คือสิ่งที่เธอไม่รู้

   งั้นหรอ…เอาล่ะฉันจะรอเเฮงค์อยู่ที่นี่ พวกนายรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ! ไม่ได้รับคำตอบจากไอซ์แมน สตอร์ม ได้กล่าวพูดขึ้น

   ฉันเองก็อยากจะใช้ความสามารถส่งพวกนายกลับไปโดยเร็วเเต่ดูเหมือนพื้นที่โดยรอบจะทำให้ฉันไม่สามารถใช้ความสามารถได้อย่างเต็มที่! เสียงของบลิงก์ได้ดังขึ้น

  ตอนนี้ความสามารถพื้นที่มิติของบลิงก์ได้ถูกระงับบางส่วนดังนั้นเธอจึงได้จ้องมองไปที่พรรคพวกของเธอเเละกล่าวพูดขึ้น

   อืม,ส่งพวกเรากลับไปบริเวณใกล้ๆ โรงเรียนก็ได้  ไอซ์แมนกล่าวพูดขึ้น

   ก็พอทำได้อยู่เเค่ลดความสามารถในการเปิดพื้นที่มิติเเต่อาจจะสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว! บลิงก์กล่าวตอบพร้อมกับสร้างประตูมิติอวกาศขึ้น

  ฟุ่บ~

  ประตูมิติอวกาศได้ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วจากนั้นบลิงก์ก็พาไอซ์แมน เเละ โคลอสซัสที่ได้รับบาดเจ็บเข้าไปในประตูมิติอวกาศนี้

  …

  ขณะที่ไอซ์แมนติดต่อ กับศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ทางด้านกัปตันโรเจอร์ส เขากับ มิราจไนท์ กำลังจ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดยักษ์ที่ถูกเก็บรักษาไว้ในกล่องโลหะผสมพิเศษขนาดใหญ่มันเป็นกล่องทำความเย็น

   สัตว์ประหลาดพวกนี้ออกมาจากประตูมิติอวกาศงั้นหรอดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีอะไรพิเศษมาก! เเจ็คสันจ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดรูปแบบสุนัขก่อนเป็นอันดับเเรกเเละครุ่นคิดในใจ

  จากประสบการณ์ในการเดินทางไปยังดวงดาวที่เเตกต่างของเขาเเจ็คสันได้ค้นพบว่า สัตว์เหล่านี้เปลี่ยนเเปลงไปตามภูมิประเทศของที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ หรือ สิ่งเเวดล้อมของโลก ล้วนมีผลกระทบต่อสัตว์เหล่านี้ทั้งสิ้น ดังนั้นยิ่งเป็นดาวเคราะห์ที่โหดร้ายหากมีสิ่งมีชีวิตที่สามารถรอดชีวิตอยู่บนนั้นได้ร่างกายของพวกมันจะต้องปรับสมดุลให้มีความร้ายกาจมากตามไปด้วย

   เเล้วสัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์นั่น! เเจ็คสันจ้องมองไปที่ร่างไร้ชีวิตขนาดใหญ่ยักษ์เบื้องหน้า

 

ครุ่นคิด

  ตอนนี้เเจ็คสันได้ปล่อยให้พวกกัปตันโรเจอร์ส ตรวจสอบ ลูกบาศก์เวทมนตร์ เขาไม่ได้วางเเผนที่จะทิ้งมันไว้ที่นี่เพื่อความปลอดภัย เเจ็คสันจะต้องเตรียมพื้นที่ห้องลับที่มีการป้องกันที่เเข็งเเกร่งในไซบีเรียเเห่งนี้ยังมีฐานลับไฮดร้าที่ได้รับการบูรณะใหม่อยู่

   ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จในการได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์มาเท่านี้สงครามในนิวยอร์ก็คงจะไม่เกิดขึ้น! ขณะที่ คนอื่น ๆ กำลังตรวจสอบลูกบาศก์เวทมนตร์ เเจ็คสันได้ครุ่นคิดถึงพล็อตเรื่องเดิม

  ในพล็อตเรื่องเดิมสงครามในนิวยอร์กเป็นเหตุการณ์ที่ใหญ่มาก นั่นก็เพราะที่นั่นได้มีการรวมตัวของซูเปอร์ฮีโร่จำนวนมากเเละปะทุสงครามในนิวยอร์ก เเต่สิ่งนี้คงจะไม่เกิดขึ้น เเต่ทว่าการเเทรกเเซงของเเจ็คสันก็มักจะนำพาการเปลี่ยนเเปลงมาให้เสมอ

  โดยปกติการเปลี่ยนเเปลงพล็อตเรื่องของเเจ็คสันได้เปลี่ยนเเปลงอะไรไปหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นบุคลิกนิสัยหรือกระทั่งตัวตน

  ยกตัวอย่างเช่นโลกิตามพล็อตเรื่องเดิม หลังจาก ที่โลกิรับรู้ว่า ตนเองมีสายเลือดของเผ่ายักษ์น้ำเเข็ง เขาจะต้องเข้าร่วมกับเผ่ายักษ์น้ำเเข็งเพื่อจัดการโอดิน เเต่เหตุการณ์กลับไม่ได้เป็นแบบนี้

  เดิมธอร์จะต้องกลับไปที่เเอสการ์ดเพื่อร่วมต่อสู้ในฐานะเจ้าชายเเห่งเเอสการ์ดสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์นั้นรุนเเรงมาก

  ยักษ์น้ำเเข็งที่มีเผ่าดาร์คเอลฟ์มาเข้าร่วมทำให้เเอสการ์ดไม่สามารถรับมือได้การรวมตัวของสองเผ่าพันธุ์สามารถกดดันเเอสการ์ดได้ เเต่การต่อสู้นี้หากไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นถ้าจะให้รู้ผลเเพ้ชนะก็คงจะต้องรออีกหลายปี

  ดังนั้นหากให้อ้างอิงตามเดิมธอร์ในตอนนี้ยังไม่สามารถฟื้นคืนพลังได้สำเร็จ ถึงแบบนั้นเขาก็ยังคงมีเวลาเตรียมตัวเพื่อที่จะกลับไปช่วยเหลือเเอสการ์ดได้ทันหากเป็นดังที่เขาคาดเอาไว้เเจ็คสันตั้งใจว่าจะเดินเเผนการตามรูปแบบของเขา

  ตราบเท่าที่ลูกบาศก์เวทมนตร์อยู่ในมือของเเจ็คสันเขามีความมั่นใจที่จะทำให้สงครามในนิวยอร์กไม่เกิดขึ้นเเละ ส่งเสริมอิทธิพลของโลกโดยการพัฒนาเทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตร์ของโลกนี้ นอกเหนือจากนี้ อิทธิพลของลูกบาศก์เวทมนตร์หากสามารถควบคุมได้ดั่งใจนึกเขายังสามารถส่งทีมคณะของโลกไปสำรวจในอวกาศได้อีก

   เเม้ว่าฉันจะมีความมั่นใจในเรื่องนี้อยู่หลายส่วนเเต่ทุกอย่างที่ฉันคิดคงไม่ง่ายดายแบบนั้น! เห็นเเรงผลักดันเเละอุปสรรคที่จะต้องเผชิญเเจ็คสันครุ่นคิดเล็กน้อย

  ขณะที่เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดจู่ ๆ กัปตันโรเจอร์ส ก็ได้เดินมาที่เบื้องหน้าของเขา

   มิราจไนท์คุณคงจะเห็นซากศพของสัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์เหล่านั้นเเล้ว พวกมันจะถูกนำไปไว้ที่ห้องวิจัย ซากศพของสัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์พวกนี้จะต้องถูกเก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์เพื่อการศึกษาวิจัย ฉันคงต้องรบกวนคุณด้วย! 

  เหตุผลที่กัปตันโรเจอร์สพูดกับมิราจไนท์แบบนี้ก็เพราะว่าซากศพของสัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์พวกนี้สำคัญอย่างมากเเละตอนนี้คนที่จะสามารถศึกษาวิจัยมันได้ดีที่สุดคงจะไม่พ้น โทนี่ สตาร์ค มิราจไนท์ ,ศาสตราจารย์ เเละ ดร.แบนเนอร์ เพราะแบบนี้ กัปตันโรเจอร์สจึงต้องการวานมิราจไนท์เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

  สำหรับประตูมิติอวกาศที่กำลังเปิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกในอนาคตสิ่งที่พวกเขาทำได้ก็คือวางกำลังป้องกันเพื่อเตรียมพร้อมต่อสู้ตลอดเวลา

   เรื่องนี้… ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์สเเจ็คสันคิดไตร่ตรองเล็กน้อย

   มิราจไนท์ฉันรู้ว่า คุณมีธุระอื่นที่กำลังให้ความสนใจ เเต่คราวนี้คุณจำเป็นจะต้องช่วยเหลือพวกเราในการเเก้ไขสถานการณ์ปัจจุบัน! กัปตันโรเจอร์ส กล่าวพูดกับมิราจไนท์ด้วยสีหน้าจริงจัง

  ก่อนหน้านี้มิราจไนท์ เเละ เดดพูล ได้หลุดไปยังต่างโลกเเละได้รับประสบการณ์เกี่ยวกับการสำรวจพื้นที่ในจักรวาลที่เเตกต่าง ประสบการณ์ของพวกเขาสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย เเต่ถึงอย่างนั้นก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย

   ก็ได้…ฉันจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ถึงเเม้ว่าฉันจะไม่คุ้นเคยกับพวกเขาเท่าไหร่ก็ตาม! เเจ็คสันตอบกลับอย่างงุ่มง่าม

  ฟุ่บ!

  จากนั้นประตูห้องลับก็ถูกเปิดขึ้นกลุ่มทหารจำนวนมากได้เเบกร่างของสัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์เข้ามาพวกเขานำเข้ามาเพื่อเตรียมนำไปเข้าศึกษาในห้องวิจัย

  …

 

หวนกลับ

   ทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคยแบบนี้หรือว่าเบื้องหลังของเพื่อนเหล่านี้จะเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์อารยธรรมที่ปรากฏขึ้นในพล็อตเรื่อง เเจ็คสันจ้องมองไปทีศพอีกฝ่ายเเละกล่าวครุ่นคิดในใจ

  ฟุ่บ!

  ภายใต้การควบคุมของJ.A.R.V.I.S เเจ็คสัน เเละไอซ์แมนได้ลงจอดบนพื้นดินอย่างมั่นคง จากนั้นพวกเขาก็เดินไปยังทิศทางที่พวกกัปตันโรเจอร์สเเละคนอื่น ๆ อยู่ ครั้งนี้พวกเขาหายไปถือว่ามีส่วนผิดก็จริงเเต่การที่พวกเขาได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์กลับมาก็ถือว่าคุ้มค่ามาก

  ทุกคนที่อยู่ที่นี่รู้ว่าลูกบาศก์เวทมนตร์คืออะไรมันคือสมบัติของจักรวาลที่มีพลังงานมหาศาลเเฝงอยู่ภายในนั้น

  เเจ็คสันเเละไอซ์แมนได้เดินโซเซไปยังทิศทางของพวกกัปตันโรเจอร์หนึ่งในเงาร่างที่คุ้นเคยได้พุ่งเข้าพยุงพวกเขาอย่างรวดเร็ว

   มิราจไนท์คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ย! เสียงของสไปเดอร์แมน ปีเตอร์ ได้ดังขึ้น

  ทางด้านไอซ์แมนฮอว์กอาย สตอร์ม เเละ บลิงก์ ได้รับเข้าไปช่วยเหลือทันที J.A.R.V.I.S ได้เเจ้งสถานการณ์ของ เเจ็คสัน เเละ ไอซ์แมน ให้ทุกคนฟังเเล้วเเต่หลังจากเห็นทั้งสองคนพวกเขาก็ยังเกิดความกังวล

   ฉันไม่เป็นอะไรเเต่คงต้องพักฟื้นหลายวัน! เเจ็คสันยิ้มออกมาอย่างขมขื่นเพื่อกล่าวตอบ

  เดิมเเจ็คสันกลับจากต่างดาวในตอนนั้นเขาตั้งใจว่าจะพักผ่อนระยะยาวเเต่ก็ต้องมาจัดการกับ คิลเลี่ยน เเละ ทหารเอ็กซ์ทรีมิส อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่อง เเมกนีโต เเละ สไตรเกอร์ นอกเหนือจากนี้เขายังได้รับบาดเจ็บจากฮัลค์เมื่อสองวันก่อน มาตอนนี้เขายังได้รับบาดเจ็บจากการตามหาลูกบาศก์เวทมนตร์อีก ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เขาได้รับบาดเจ็บเเละรู้สึกเหนื่อยมากจริงๆ

  เเม้บาดเเผลภายนอกเขาจะได้รับบาดเจ็บมากขนาดไหนเเต่บาดเเผลเหล่านั้นก็สามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วเเต่อาการบาดเจ็บภายในนั้นรุนเเรงที่สุด มันได้ทำให้ เเจ็คสันรู้สึกเจ็บปวดมากในช่วงนี้ เเต่เพื่อตามหาลูกบาศก์เวทมนตร์ หนึ่งในไอเทมที่ทรงพลังของโลกมาร์เวล เเจ็คสันยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อที่จะได้รับมันมา เพื่อเปิดโอกาสให้โลกได้เสริมโอกาสในการยกระดับอารยธรรมให้เเข็งเเกร่งมากขึ้น

   ดีเเล้ว!พวกเราทุกคนเป็นห่วงคุณมาก ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน ปีเตอร์ เเฮร์รี่ เเละ คนอื่น ๆ ก็รู้สึกผ่อนคลายเช่นเดียวกัน

  ปีเตอร์เเฮร์รี่ เเละ เเจ็คสัน พวกเขาทั้งสามคนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ยามเมื่อเห็นเพื่อนรักได้รับบาดเจ็บกลับมาเป็นธรรมชาติที่พวกเขาจะรู้สึกกังวล

  ขณะที่ปีเตอร์กำลังพูดคุยกับเเจ็คสันจู่ ๆ กัปตันโรเจอร์ส ก็เดินเข้ามาที่ด้าหน้าของพวกเขา

   มิราจไนท์คุณพบลูกบาศก์เวทมนตร์จริงงั้นหรอ กัปตันโรเจอร์สไม่ได้อ้อมค้อมเขากล่าวถามถึงประเด็นสำคัญ

  ก่อนหน้านี้กัปตันโรเจอร์สได้รับข่าวจากJ.A.R.V.I.S เเล้วเรื่องที่ มิราจไนท์ เเละ ไอซ์แมน ได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์กลับมา เเละเหตุผลสำคัญที่พวกเขามารวมตัวกันที่นี่ก็เพราะลูกบาศก์เวทมนตร์ หากพวก มิราจไนท์สามารถนำมันกลับมาได้จริงนี่สมควรเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก

   ดูเหมือนว่าคุณจะใจร้อนมากเลยนะกัปตันโรเจอร์ส เเจ็คสันจ้องมองไปที่กัปตันโรเจอร์สเเละกล่าวพูดขึ้น

   ฉันเป็นคนชอบพูดตรงๆ ! ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ เเน่นอนว่าคำถามของกัปตันโรเจอร์สทำให้ บลิงก์ เเละ ไอซ์แมน เเละคนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ ได้หันไปมองที่ทางด้านมิราจไนท์

   คุณต้องการที่จะเห็นมันตอนนี้เลยงั้นหรอ เเจ็คสันกล่าวถามอีกครั้ง

  ในปัจจุบันอีกฝ่ายได้กล่าวถามหาลูกบาศก์เวทมนตร์เเจ็คสันไม่ได้เเปลกใจเเม้เเต่น้อยเพราะอย่างไรก็ตามลูกบาศก์เวทมนตร์ก็ยังถือเป็นอาวุธเเห่งจักรวาลมีอานุภาพมากพอที่จะช่วยเหลือประโยชน์ให้กับโลกได้ด้วย

  ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์อีกครั้งดวงตาของกัปตันโรเจอร์สสว่างวาบขึ้น

   เอาเป็นว่าเราเข้าไปพูดคุยข้างในกันดีกว่า! หลังจากได้รับคำยืนยันว่ามิราจไนท์ได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์กลับมาจริงกัปตันโรเจอร์ส ได้กล่าวพูดอีกครั้ง

  จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็เดินไปที่ห้องลับทางด้านหลังฮอว์กอายเเละคนอื่น ๆได้ติดตามกัปตันโรเจอร์สไปอย่างรวดเร็ว

   คุณได้พบลูกบาศก์เวทมนตร์จริงงั้นหรอ ปีเตอร์ที่อยู่ด้านข้างได้กล่าวถามเเจ็คสัน

   อืม,เข้าไปข้างในกันเถอะ! เเจ็คสันได้กล่าวตอบจากนั้นเขาก็ได้ปีเตอร์ช่วยพยุงเดินเข้าไปข้างใน

   พวกเราก็ไปกันเถอะเกี่ยวกับลูกบาศก์เวทมนตร์นั่น มันเป็นวัตถุที่น่าดึงดูดมากจริง ๆ ! เห็นคนอื่น ๆ ของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้ติดตามเข้าไปกันเเล้ว ไอซ์แมนได้กล่าวบอก บลิงก์ สตอร์ม เเละ โคลอสซัส

  …

  หลังจากนั้นทุกคนก็ได้เข้าสู่พื้นที่ห้องลับเเห่งนี้อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้สีหน้าของทุกคนมีการเเสดงออกที่คล้ายคลึงกันอย่างมาก นั่นคือความรู้สึกสับสนเเละความรู้สึกครอบงำที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์

  ยกตัวอย่างเช่นดร.แบนเนอร์ สีหน้าของเขาเเลดูบ้าคลั่งอย่างมาก ทันทีที่เขาเห็นลูกบาศก์เวทมนตร์นี้การเเสดงออกของ ดร.แบนเนอร์ ค่อนข้างคลั่งไคล้เเละอยากที่จะรีบศึกษามันในตอนนี้

 

ความคิดของโทนี่
สหรัฐอเมริกา,บ้านพักตากอากาศชายทะเลในนิวยอร์กของโทนี่,ในขณะที่โทนี่ ได้นั่งดื่มไวน์เเดงในห้องรับรองของเขาบนโซฟานุ่ม ๆ เขาได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นที่ไซบีเรียทางฝั่งนั้นหมดเเล้ว
J.A.R.V.I.Sได้ส่งข่าวหลายอย่างมาอย่างต่อเนื่องมาให้โทนี่รับรู้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นที่ด้านหลังประตูมิติอวกาศที่เชื่อมต่อกับอีกหนึ่งสถานที่ที่อยู่นอกโลกทั้งยังมีสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพันธุ์ปรากฏตัวออกมาด้วย เกี่ยวกับเรื่องนี้ โทนี่ว่าจะไปหารือกับกัปตันโรเจอร์สเป็นการส่วนตัว
นอกจากนี้เขายังรู้มาอีกว่ากัปตันโรเจอร์สได้สั่งปิดกั้นรอบๆ พื้นที่ประตูมิติอวกาศซึ่งโทนี่คิดว่านี่เป็นวิธีการป้องกันความปลอดภัยที่ดีที่สุดเเล้ว ถ้าเป็นโทนี่ เขาเองก็จะทำเช่นนั้น เกี่ยวกับสถานการณ์ที่นั่นเริ่มมีความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนโทนี่ตั้งใจว่าจะไปสำรวจที่นั่นด้วยตนเอง
ตอนนี้โทนี่ได้ส่งทีมชุดเกราะไอรอนแมนไปยังพื้นที่ไซบีเรียเพื่อช่วยป้องกันระวังรอบๆพื้นที่ประตูมิติอวกาศอีกทั้งโทนี่ยังให้ J.A.R.V.I.S ติดตามเรื่องของ เเจ็คสันที่หายตัวไปด้วย
ธรรมชาติเขาค่อนข้างเป็นห่วงเเจ็คสันเพราะเด็กคนนี้ชอบทำอะไรเกินตัวเเละไม่ฟังเหตุผลคำพูดของเขา
“เจ้านายครับ,เจอคุณเเจ็คสันเเละคุณไอซ์แมนเเล้ว!”ขณะที่โทนี่กำลังยกเเก้วไวน์ในมือเสียงของ J.A.R.V.I.S ได้ส่งออกมา
“ที่ไหนมีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขาหรือไม่?”ได้ยินเสียงของJ.A.R.V.I.S โทนี่วางเเก้วไวน์ในมือลงเเล้วกล่าวถาม
“ดูเหมือนพวกเขาจะค้นพบลูกบาสก์เวทมนตร์เเล้ว!”J.A.R.V.I.Sกล่าวพูดประเด็นสำคัญออกมา
โทนี่”…”
โทนี่ไม่คิดเลยว่าเเจ็คสันเด็กคนนี้ที่หายตัวไปหลังจากพบเจอจะได้ข่าวเกี่ยวกับลูกบาศก์เวทมนตร์ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่เต็มไปด้วยคำถามในใจเขาไม่รู้จะพูดอะไรออกมา
“เเล้วสถานการณ์ทางด้านพวกเขาเป็นยังไงบ้าง”โทนี่ได้เรียกคืนสติของตัวเองก่อนจะกล่าวถามอย่างผ่อนคลาย
“เนื่องเพราะลูกบาศก์เวทมนตร์ได้สร้างพื้นที่มิติปิดกั้นทำใหห้คุณ เเจ็คสัน เเละ คุณไอซ์แมนถูกขังอยู่ภายในนั้นเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง เเต่เมื่อไม่นานมานี้พวกเขาได้หลุดออกมาได้ทั้งยังได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาได้ฟื้นฟูไปบางส่วนเเล้วเเละตอนนี้กำลังมุ่งหน้ากลับไปยังฐานพิเศษชั่วคราวของS.H.I.E.L.D.”
“ได้รับบาดเจ็บเจ้าเด็กบ้านี่ เขาไม่เคยหยุดทำให้ฉันเป็นห่วงได้สักที!”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S ว่าเเจ็คสันได้รับบาดเจ็บ คิ้วของโทนี่บึ้งตึงเล็กน้อย
“เอาเถอะเขาปลอดภัยก็ดีเเล้ว J.A.R.V.I.S ส่งทีมชุดเกราะไอรอนแมน อีกหนึ่งทีมไปสมทบที่นั่น ฉันกังวลว่าการควบคุมประตูมิติอวกาศที่นั่นจะไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด จริงสิ นายบอกว่า สิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์ที่ออกมาจากประตูนั่นเเข็งเเกร่งสินะ เเม้ว่าจำนวนที่ออกมาจะมีจำนวนเพียงน้อยนิดเเต่อย่าได้ประมาทเชียว!”โทนี่ กล่าวสั่งการ J.A.R.V.I.S
“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.Sตอบกลับพร้อมกับเตรียมส่งทีมชุดเกราะไอรอนแมนออกไป
“เเล้วอีกอย่างหากไม่มีเรื่องเร่งด่วนอย่าได้รบกวนฉัน ฉันจะเตรียมการทดลองต่อไปให้เสร็จ!”โทนี่บอกกล่าว J.A.R.V.I.S อีกเรื่อง
จากนั้นโทนี่ก็เดินลงไปที่ชั้นใต้ดินอีกครั้งเขาได้ครุ่นคิดอะไรบางอย่างในใจ
“อารยธรรมต่างดาวงั้นหรอช่างน่าสนใจจริง ๆ !”

ทางด้านเเจ็คสัน,เขาเเละไอซ์แมนได้ขับชุดเกราะไอรอนแมนกลับไปถึงที่ฐานของS.H.I.E.L.D. ที่ไซบีเรีย พวกเขาเห็นสิ่งก่อสร้างจำนวนมากที่ล้อมรอบ ประตูมิติอวกาศทั้งยังมีเศษซากสัตว์ประหลาดที่ตกตายเกลื่อน
“มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นที่นี่จำนวนมากเเต่ดูเหมือน กัปตันโรเจอร์ส จะจัดการเรื่องทั้งหมดไว้เเล้ว!”เเจ็คสันได้จ้องมองลงไปด้านล่างเเละครุ่นคิดในใจ
จากการบอกเล่าขอองS.H.I.E.L.D. เเจ็คสันได้พิจารณาเเล้วว่าด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นคือภัยคุกคามขนาดใหญ่ที่เป็นภัยต่อโลกดังนั้นพวกเขาจะต้องปิดกั้นพื้นที่เเห่งนี้เเละไม่ปล่อยให้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ข้างในนั้นหลุดรอดออกไป
ถึงเเม้ความเเข็งเเกร่งของสัตว์ประหลาดเหล่านี้จะเเข็งเเกร่งเเต่เหล่าพันธมิตรของพวกเขาก็ไม่เเตกต่างกัน พวกเขาคือทีมพันธมิตรที่เเข็งเเกร่งที่สุดในโลกหากพันธมิตรของพวกเขาไม่สามารถรับมือสัตว์ประหลาดพวกนี้ได้โลกอาจจะพบเจอภัยพิบัติอย่างเเท้จริง
ดังนั้นปราการด่านสุดท้ายของพวกเขาก็คือการป้องกันประตูมิติอวกาศเเละหาทางจัดการทำอะไรกับมันให้ได้โดยเร็วที่สุด
“ไปกันเถอะ,พวกกัปตันโรเจอร์สอยู่ตรงนั้น”ภายใต้การเเนะนำของJ.A.R.V.I.S เเจ็คสัน เเละ ไอซ์แมน ได้ร่อนลงไปข้างล่างฐานอย่างรวดเร็ว
เเจ็คสันได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์ที่ออกมาจากประตูมิติอวกาศนี้เเม้ว่ามันจะไร้ชีวิตเเล้วเเต่ด้วยร่างกายขนาดใหญ่ของมันกลับสามารถเเผ่ออร่าที่น่าเกรงขามออกมาได้ อีกทั้งยังให้ความรู้สึกคุ้นเคยเกี่ยวกับตัวตนของพวกเขา
พักฟื้นเเละกลับฐาน
เห็นว่าพวกตนเองได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์มาครอบครองในตอนนี้ความรู้สึกจำนวนมากได้ถาโถมข้างในจิตใจของไอซ์แมน
“J.A.R.V.I.S,นายยังมีโพชั่นรักษาติดตัวมั้งไหมของฉันหมดเเล้ว!”หลังจากได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์ เเจ็คสัน เงยหน้าไปมองหา J.A.R.V.I.S
เเจ็คสันใช้เเต้มคะแนนของตัวเองไปกับการผจญภัยในดวงดาวที่เเตกต่างจนหมดซึ่งของที่ได้รับติดไม้ติดมือกลับมากลับเป็นของพวกทรัพยากรเหล่านั้นเเทน ดังนั้นตอนนี้ เขาจึงมีความขาดเเคลนด้านทรัพยากรประเภทรักษาตนเอง
“มีครับ!”J.A.R.V.I.Sตอบกลับอย่างรวดเร็ว
จากนั้นชุดเกราะไอรอนแมนสองตัวก็ลอยลงมาหยุดที่ด้านข้างของทั้งสองคนจากนั้นก็เปิดชุดเกราะขึ้นโทนี่ รู้ว่าจะมีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเขาจึงได้เตรียมพร้อมโพชั่นรักษาอาการบาดเจ็บเเละโพชั่นเเก้พิษตัวชุดเกราะไอรอนแมนเอาไว้ด้วย ชุดเกราะไอรอนแมนไม่เพียงเเต่เป็นยุทโธปกรณ์ประเภทสู้รบเเต่ยังเป็นประเภทสนับสนุนอีกด้วย
ด้วยความช่วยเหลือของJ.A.R.V.I.S เเจ็คสัน เเละ ไอซ์แมน ได้รับโพชั่นรักษาฉีดกันคนละหนึ่งหลอดตามลำดับ จากนั้นพวกเขาก็นั่งฟื้นฟูอาการบาดเจ็บอยู่บนลานหิมะเหล่านั้น เเม้อาการบาดเจ็บของพวกเขาจะหนักหนาสาหัสเเต่สภาพเเวดล้อมเหล่านี้กลับไม่สามารถทำอันตรายอะไรพวกเขาได้
“จริงสิJ.A.R.V.I.S ทางฝั่งนั้นเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้พวกเราพบลูกบาศก์เวทมนตร์ ประตูมิติอวกาศที่อยู่ที่นั่นน่าจะมีความเปลี่ยนเเปลงอะไรบ้างใช่มั้ย”เเจ็คสันที่นั่งฟื้นอาการบาดเจ็บ ได้กล่าวถาม J.A.R.V.I.S
ก่อนหน้านี้ที่เเจ็คสัน เเละ เดดพูล ได้เข้าไปในประตูมิติอวกาศเเละหลุดเข้าไปยังดวงดาวที่เเตกต่างพวกเขาได้พบเจอกับสถานการณ์อันตรายที่อยู่ที่นั่นดังนั้นเเจ็คสันจึงเป็นกังวลว่าประตูมิติอวกาศที่ปรากฏขึ้นที่ไซบีเรียเเห่งนี้จะเชื่อมต่อกับสถานที่บางเเห่งที่อันตราย
ได้ยินคำถามของเเจ็คสัน J.A.R.V.I.S เงียบไปเล็กน้อย ก่อนที่จะทำการประมวลผลอย่างรวดเร็ว
“มิราจไนท์ช่วงที่พวกคุณหายออกจากฐานไปราวครึ่งชั่วโมง กัปตันโรเจอร์ส ได้ส่งยานพาหนะสองกลุ่มเข้าไปด้านในประตูมิติอวกาศเพื่อสำรวจพื้นที่ข้างในนั้น ข้อมูลที่พวกเขาได้รับกลับมาคือความเเตกต่างระหว่างสภาพพื้นที่ของโลก เเต่เพราะขีดจำกัดทของยานพาหนะไร้คนขับ ทำให้พวกเขาได้ข้อมูลไม่มากพวกเขาจึงตัดสินใจ…”
“ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนั้น!”หลังจากได้ยินคำตอบจากJ.A.R.V.I.S เเจ็คสัน กล่าวถามอีกครั้ง
“นี่เป็นเพราะดร.บรูซ เเบนเนอร์ เขายืนยันว่าจะเข้าไปในประตูมิติอวกาศเองให้ได้!”J.A.R.V.I.S ตอบกลับ
ได้ยินคำตอบของJ.A.R.V.I.S เเจ็คสัน เเละ ไอซ์แมน เกือบจะเป็นบ้าตาย ดร.บรูซ เเบนเนอร์ เขาคนนี้ได้นำพาตนเองเข้าไปเสี่ยงทั้ง ๆ ที่พวกเขาทั้งคู่ไม่อยู่ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นไม่เพียงเเต่พวกเขาจะเกิดการสูญเสียโดยไม่จำเป็น ไอซ์แมน กับ เเจ็คสัน ที่ไม่ได้อยู่ในสถานที่เเห่งนั้นก็จะรู้สึกผิดไปด้วย เเต่ถึงอย่างนั้นถ้าจะให้โทษก็คงต้องโทษความบ้าวิทยาศาสตร์ของ ดร.แบนเนอร์ ที่ไม่สนใจเเม้กระทั่งนำพาชีวิตตนเองเข้าไปเสี่ยง
“ก่อนที่เขาจะเข้าไปเเล้วกัปตันโรเจอร์สไม่ห้ามเขาหรอ”ก่อนที่เเจ็คสันจะกล่าวถามไอซ์แมน ได้กล่าวถามก่อน
“กัปตันโรเจอร์สได้พยายามห้ามเเล้วเเต่เพราะความดื้อรั้นของดร.แบนเนอร์ ทำให้ กัปตันโรเจอร์สจำต้องจำใจปล่อยผ่านไป…”
“เป็นเช่นนี้!”ได้ยินคำตอบอีกครั้งไอซ์แมน จะเรียกว่าชื่นชม ดร.แบนเนอร์ หรือว่าจะว่ากล่าวดี ในสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้กลับเป็นฝ่ายดื้อรั้นพยายามเเม้คนอื่นจะห้ามไม่ให้ไป
“J.A.R.V.I.Sเช่นนั้นตอนนี้ ดร.แบนเนอร์ กลับมาเเล้วใช่มั้ย บางทีในขณะที่พวกเราไม่อยู่คงจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นใช่หรือไม่”คราวนี้ เเจ็คสันเป็นฝ่ายกล่าวถาม
“ใช่ครับ,หลังจากดร.แบนเนอร์ เข้าประตูมิติอวกาศไปได้ไม่นาน จู่ ๆ ก็มีสัตว์ประหลาดจำนวนมากโผล่มาจากต่างสถานที่เเละพุ่งเข้าหากัปตันโรเจอร์ส เเละ คนอื่น ๆ หลังจากพวกเขาจัดการสัตว์ประหลาดเหล่านี้ มีสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์ได้ออกมาจากประตูมิติอวกาศเขามีพละกำลังที่เเข็งเเกร่งมาก เเต่ท้ายที่สุดเขาก็ถูกจัดการโดย ทีมอเวนเจอร์ส ทีมX-MEN เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์”J.A.R.V.I.S ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“สัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์ที่เเข็งเเกร่งงั้นหรอด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นได้เชื่อมต่อสถานที่เเห่งใดไว้กันเเน่?”เเจ็คสันพึมพัมออกมา
“จากการคาดการณ์น่าจะเป็นดวงดาวชีวิตเเห่งนึงที่มีอารยธรรมที่เเข็งเเกร่ง!”J.A.R.V.I.Sตอบกลับ
“เเล้วนอกเหนือจากนั้นยังมีสิ่งใดเกิดขึ้นอีกหรือไม่”ไอซ์แมนได้กล่าวถามซ้ำอีกครั้ง
“มี,ในช่วงระหว่างที่ดร.แบนเนอร์ กลับออกมาอย่างปลอดภัย กัปตันโรเจอร์สก็สั่งให้ปิดกั้นพื้นที่โดยรอบพื้นที่ประตูมิติอวกาศเเละตอนนี้พวกเขากำลังรวบรวมเครื่องมือประเภทต่าง ๆ อย่างเต็มกำลัง!”ได้ยินคำถามของไอซ์แมน J.A.R.V.I.S ตอบกลับ
“ดร.แบนเนอร์กลับออกมาอย่างปลอดภัยทั้งที่ข้างในนั้นมีสิ่งมีชีวิตที่เเข็งเเกร่งงั้นหรอ”ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S ไอซ์แมน รู้สึกอย่างรู้อยากเห็น
เทียบกับความอยากรู้อยากเห็นของไอซ์แมนเเจ็คสันกลับไม่เเปลกใจ ดร.แบนเนอร์ มีฮัลค์อยู่ภายในร่างกาย หากมีอะไรเกิดขึ้นกับ ดร.แบนเนอร์ ฮัลค์ก็จะปรากฏตัวขึ้นเพื่อรักษาชีวิตของ ดร.แบนเนอร์
“ทางด้านนั้นดูเหมือนจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายอย่างอันที่จริงพวกเราควรจะรีบกลับไปที่นั่นในทันที!”หลังจากตัดสินใจได้ เเจ็คสันก็กล่าวออกมา
จากนั้นเเจ็คสันเเละไอซ์แมนก็นั่งพักชั่วครู่ก่อนที่จะขับชุดเกราะไอรอนแมนกลับไปยังฐานพิเศษชั่วคราวที่นั่น

  ฟุ่บ!

  ในขณะที่เเจ็คสัน เเละ ไอซ์แมน กำลังนอนเเผ่ราบ เหนือศีรษะของพวกเขาได้ปรากฏกองทัพไอรอนแมนที่ถูกควบคุมโดย J.A.R.V.I.S

   มิราจไนท์ไอซ์แมน พวกคุณทั้งคู่ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย กองทัพไอรอนแมนกว่า 10 ตัว ได้ถ่ายทอดเสียงของ J.A.R.V.I.S ออออกมา

   โชคดีไม่ถึงตาย ครั้งนี้ต้องขอบคุณไอซ์แมนเขา! ถูกล้อมรอบไปด้วยกองทัพไอรอนแมน เเจ็คสัน รู้สึกปลอดภัยเขาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

   ขอบคุณฉัน หึ้ม ให้มันได้อย่างนี้สิ! ได้ยินคำตอบของ มิราจไนท์ ไอซ์แมน พึมพัมออกมา

  ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ ไอซ์แมน รู้สึกไม่พอใจอย่างเเปลกประหลาด ในฐานะมิวแทนท์ระดับ 5 ไอซ์แมนมีพละกำลังที่เเข็งเเกร่งมาก เเต่ถึงอย่างนั้นเขากลับหมดพลังไปกับการลากเข้ามาพัวพันเกี่ยวกับสถานที่เเห่งนี้

   ฮ้ะฮ้ะ,ฉันรู้ว่าคุณเเข็งเเกร่ง หากไม่คุณพวกเราคงเเย่เเน่ ๆ ! เเจ็คสันอธิบายอย่างตื่นเต้น

  เขาได้พึ่งพาประสิทธิภาพในการป้องกันของไอซ์แมนเกือบครึ่งชั่วโมงหากไม่ได้การป้องกันของไอซ์แมน พวกเขาอาจจะไม่รอดมาถึงตรงนี้

  ก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมงเเจ็คสัน เเละ ไอซ์แมน ได้ค้นพบตำเเหน่ง คลื่นความผันผวนพลังงานมิติอวกาศอย่างรุนเเรง จากนั้น เเจ็คสัน เเละ ไอซ์แมน ก็ถูกดูดเข้าพื้นที่มิติปิดกั้นทำให้ตัดขาดจากโลกภายนอก

  ด้วยความร่วมมือของเเจ็คสัน เเละ ไอซ์แมน พวกเขาได้เผชิญหน้ากับคลื่นความผันผวนภายในเเละฟันฝ่าพื้นที่มิติปิดกั้นออกมา เเต่สภาพของพวกเขาก็อย่างที่เห็นหมดสภาพกันทั้งคู่

  เเต่สิ่งที่พวกเขาค้นพบกลับคุ้มค่ามากด้วยพลังจิตที่เเข็งเเกร่งของ เเจ็คสัน ทำให้เขาค้นพบลูกบาศก์เวทมนตร์ มันได้ถูกซ่อนอยู่ในพื้นที่ความผันผวนที่รุนเเรงนั่น

  หลังจากค้นพบตำเเหน่งที่เเน่ชัดของลูกบาศก์เวทมนตร์เเจ็คสัน เเละ ไอซ์แมน ก็ไม่ลังเลเลยที่จะเสี่ยงกันครั้งเเล้วครั้งเล่า

  ส่วนไอซ์แมนเขาได้ฝืนข้อห้ามของมิวแทนท์นั่นก็คือการฝืนใช้ขีดจำกัดในการต้านทานคลื่นพลังมิติอวกาศที่รุนเเรงเพื่อปล่อยโอกาสให้ เเจ็คสันเข้าไปถึงตำเเหน่งของลูกบาศก์เวทมนตร์

  โชคดีที่ลูกบาศก์เวทมนตร์ไม่ได้ปะทุพลังมิติที่เเข็งเเกร่งออกมาไม่อย่างนั้นเเจ็คสันที่เข้าใกล้มันมากที่สุดร่างก็คงเเหลกระเบิดภายใต้อานุภาพเเห่งจักรวาลเเต่ทว่า

  ขณะที่เเจ็คสันกำลังจะเก็บเกี่ยวลูกบาศก์เวทมนตร์ในตอนนั้น จู่ ๆ พื้นที่มิติปิดกั้น ก็ปล่อยคลื่นความผันผวนพิเศษออกมาอีกครั้งทำให้ ไอซ์แมนที่รับศึกเเละเป็นปราการป้องกันให้กับเเจ็คสันต้องถอดสีหน้าด้วยความตกใจ เห็นได้ชัดว่าการได้มาซึ่งลูกบาศก์เวทมนตร์ในคราวนี้ไม่ได้ง่ายดายแบบที่เขาคิด

  ทันทีที่เเจ็คสันคว้าจับลูกบาศก์เวทมนตร์ได้สำเร็จพื้นที่มิติปิดกั้นก็หายไปเศษชิ้นส่วนมิติอวกาศเหล่านั้นก็ทรุดตัวถูกทำลายลงในเวลาต่อมา จากนั้น ไอซ์แมน เเละ เเจ็คสันก็หมดสภาพอย่างที่้เห็น

   หากพวกคุณทั้งคู่เป็นอะไรไปพวกเพื่อน ๆ ของพวกคุณคงไม่ยอมอยู่เฉยกันเเน่! J.A.R.V.I.S ได้กล่าวพูดขึ้นหลังจากเห็นท่าทีของ เเจ็คสัน

   อืม,ฉันรู้เเต่คราวนี้พวกเราก็ได้รับการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่กลับไป! เเจ็คสันตอบกลับJ.A.R.V.I.S

   การเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่มิราจไนท์ คุณหมายถึง ลูกบาศก์เวทมนตร์ งั้นหรอ  J.A.R.V.I.S กล่าวถาม มิราจไนท์

   ฮ่าฮ่าJ.A.R.V.I.S นายนี่ฉลาดจริง ๆ ใช่เเล้ว พวกเราค้นพบลูกบาศก์เวทมนตร์! เเจ็คสันตอบกลับอย่างไม่ปิดบัง

  ฟุ่บ!

  จากนั้นเเจ็คสันก็ยื่นมือขวาออกมาเผยให้เห็นลูกบาศก์ก้อนนึงที่ปล่อยรัศมีพลังสีฟ้าอ่อนๆ นี่ก็คือลูกบาศก์เวทมนตร์

   นี่ก็คือลูกบาศก์เวทมนตร์ มันดูน่าดึงดูดอย่างมาก! จ้องมองไปที่ลูกบาศก์เวทย์มนตร์ ไอซ์แมน กล่าวพูดอย่างชื่นชม

   ใช่นี่ก็คือลูกบาศก์เวทมนตร์! มันมีอินฟินิตี้สโตนอยู่ข้างใน เป็นหนึ่งในขุมพลังที่เเข็งเเกร่งที่สุดในจักรวาล! เเจ็คสันจ้องมองไปที่ลูกบาศก์เวทมนตร์ในมือด้วยอารมณ์ตื่นเต้น

   ลูกบาศก์เวทมนตร์… หลังจากเเจ็คสันเผยลูกบาศก์เวทมนตร์ในมือJ.A.R.V.I.S ก็ตรวจสอบมันเขาได้สเเกนมันอย่างง่าย ๆ เเต่ถึงอย่างนั้นระบบของเขากลับได้รับข้อความเเปลกประหลาดจำนวนมาก

  ฟุ่บ!

  ในที่สุดไอซ์แมนเเละเเจ็คสันก็ประสบความสำเร็จในการได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์กลับมาตราบเท่าที่ลูกบาศก์เวทมนตร์อยู่ในมือพวกเขาพวกเขาสามารถใช้มันเพื่อเปิดประตูโลกไปสู่อนาคตที่สดใสได้

  อย่างไรก็ตามพวกเขาหารู้ไม่ว่ามีบางสิ่งบางอย่างได้เกิดขึ้นที่ฐานพิเศษชั่วคราวของ S.H.I.E.L.D. ก่อนหน้านี้

 

เเก้ไขปัญหา

  ห่างจากฐานพิเศษชั่วคราวขององค์กร S.H.I.E.L.D.

  เนื่องเพราะเเจ็คสัน ได้ตัดขาดการติดต่อกับ J.A.R.V.I.S ทำให้ J.A.R.V.I.S ได้ส่งชุดเกราะไอรอนแมนไปยังฐานของไฮดร้าที่ถูกทิ้งร้างมาหลายปี

  อย่างไรก็ตามชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัวได้ออกค้นหารอบๆ ภูมิภาคเเห่งนี้อย่างระวังเเต่ก็ไม่พบเบาะเเสของเเจ็คสัน เเละ ไอซ์แมน เเม้เเต่น้อย เเม้จะตามหาร่องรอยไม่พบ เเต่ J.A.R.V.I.S ก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในการออกค้นหาอย่างต่อเนื่อง

  ฟุ่บ!

  ทันใดนั้นชุดเกราะไอรอนแมนหมายเลข18 ที่ถูกควบคุมโดย J.A.R.V.I.S ได้ไปเตะต้องตาคลื่นความผันผวนของภูมิภาคเเห่งนี้โดยฉับพลัน J.A.R.V.I.S ได้ทำการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว

   คลื่นพลังงานความผันผวนของช่องว่างมิติอวกาศดูเหมือน คุณ เเจ็คสัน จะค้นพบวี่เเววของลูกบาศก์เวทมนตร์จริง ๆ !  J.A.R.V.I.S กล่าววิเคราะห์อย่างเงียบ ๆ

  ฟุ่บ! 

  ขณะที่J.A.R.V.I.S กำลังตรวจสอบคลื่นความผันผวนของพื้นที่มิติ ช่องว่างตรงกลางบริเวณพื้นที่ได้ถูกระเบิดออกอย่างฉับพลันพริบตาต่อมาเศษน้ำเเข็งเเละเกล็ดหิมะได้ปกคลุมไปทั่วรอบพื้นที่

   หืมคุณเเจ็คสัน กับคุณ ไอซ์แมน อยู่ตรงนั้น? ชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัวได้จ้องมองไปที่กึ่งกลางของพื้นที่เเห่งนี้เเละทำการวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง

   เจาะพื้นที่พิเศษนั่น!!  J.A.R.V.I.S ได้สั่งการชุดเกราะไอรอนแมนให้โจมตีออกไป

  ปั้ง

  บึ้ม!

  หลังจากที่ชุดเกราะไอรอนแมนโจมตีออกไปกำเเพงพลังงานที่มองไม่เห็นได้เเตกออกพร้อมกับปล่อยคลื่นสนามพลังเยือกเเข็งออกมา ตอนนี้ J.A.R.V.I.S สามารถตรวจจับคลื่นสัญญาณของมิราจไนท์ หรือ เเจ็คสัน ได้เเล้ว

   ไอซ์แมนจัดการมันซะ! หลังจากที่ J.A.R.V.I.S ทำการตรวจสอบความผันผวนของพลังงาน เสียงของ เเจ็คสันได้เล็ดลอดออกมา ซึ่ง J.A.R.V.I.S สามารถระบุได้ ว่ามันคือ เสียงของ เเจ็คสันจริง ๆ

  บึ้ม!

  ภายใต้การสเเกนของJ.A.R.V.I.S เขาเห็นเศษน้ำเเข็งเเละเกล็ดหิมะจำนวนมากปะทุขึ้นมาปะทะเข้ากับ คลื่นพลังงานสีฟ้าที่โจมตีมา

   เเข็งไปซะ! หลังจากที่คลื่นพลังงานสีฟ้าปลดปล่อยออกมาสนามพลังเยือกเเข็งของไอซ์แมนเเละการโจมตีของเเจ็คสันได้พุ่งปะทะเพื่อโจมตี

  บึ้ม!

  รัศมีพลังสีฟ้าสาดกระจายไปทั่วรอบพื้นที่

  J.A.R.V.I.Sที่สังเกตุการณ์เขามองเห็นฉากที่เกิดขึ้นเบื้องหน้านี้เหมือนกับ ตอน สะพานโกลเด้นเกต ตอนที่ คลื่นพลังงานความผันผวนสีฟ้านี้ถูกปล่อยออกมาจากประตูมิติอวกาศรัศมีพลังโจมตีของมันนั้นรุนเเรงมาก

  หลังจากระเบิดพลังเข้าปะทะเงาร่างของไอซ์แมน ได้ปกคลุมไปด้วยรัศมีพลังที่อ่อนโทรมลง

  จากนั้นเกล็ดน้ำเเข็งรอบตัวของเขาก็ค่อยๆ หลุดออกจากกัน

  ในเวลานี้ร่างของไอซ์แมนเเละมิราจไนท์ได้ปรากฏขึ้นบนพื้นที่หิมะอีกครั้ง พื้นที่เยือกเเข็งที่เป็นสกิลท่าของไอซ์แมนก็ได้ค่อย ๆ สลายหายไปอย่างช้า ๆ

   ศึกครั้งนี้เมื่อเทียบกับครั้งก่อน ๆ มันเหนื่อยมากจริง ๆ ทั้งยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก!

  เสียงของไอซ์แมนได้ดังขึ้นสภาพของเขาในตอนนี้น่าสังเวชอย่างเเท้จริง ส่วน มิราจไนท์ ที่อยู่ใกล้ ๆ เองก็มีสภาพไม่ต่างกันนิ้วของพวกเขาเเทบจะขยับไม่ได้ตอนนี้

   ฟู่ว~ ~ คิดซะว่ามันเป็นการฝึกฝนไม่ดีอย่างงั้นหรอ เเจ็คสันพึมพัมออกมา

  ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ไอซ์แมนรู้สึกพูดอะไรไม่ออก ใครกันเล่าที่ลากเขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

  …

 

ปิดล้อมประตูมิติอวกาศ

  ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์สปีเตอร์ เเละ คนอื่น ๆ ได้ละทิ้งซึ่งความสนใจในปัญหาของ ดร.แบนเนอร์ ปัจจุบันพวกเขามีสิ่งสำคัญกว่าที่จะต้องทำ

  จากนั้นดร.แบนเนอร์ อธิบายสิ่งที่เขาเข้าใจหลังจากเข้าไปในประตูติมิอวกาศสถานที่เเห่งนั้นมีสัตว์ประหลาดจำนวนมากทั้งยังมีสัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์ ข้อสรุปของเขาก็คือ ด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นคืออารยธรรมนึงที่มีศักยภาพที่เเข็งเเกร่งเเละรุนเเรงมากกว่าอารยธรรมโลก

  หลังจากได้ข้อมูลเเละวิเคราะห์ประตูมิติอวกาศกัปตันโรเจอร์ส ก็ได้ให้ความช่วยเหลือ ดร.แบนเนอร์ ในการสนับสนุนเครื่องมือวิจัยเเละศึกษาประตูมิติอวกาศมากขึ้น

  ทันทีที่รู้ว่าด้านหลังประตูมิติอวกาศเชื่อมต่อกับอารยธรรมที่เเข็งเเกร่งนี้กัปตันโรเจอร์ส ท้ายที่สุดก็วางเเผนที่จะทำลายประตูมิติอวกาศนี่ทิ้งเพื่อป้องกันไม่ให้โลกเผชิญหน้ากับภัยพิบัติขนาดใหญ่

   ดร.แบนเนอร์เรื่องประตูมิติอวกาศฉันยกให้คุณจัดการ ในตอนนี้คุณคงจะรู้ดีมากที่สุดว่าจะต้องทำอะไร กัปตันโรเจอร์สกล่าวบอก ดร.แบนเนอร์ ไอรีนโนเวล

   ฉันรู้เเต่ฉันขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน! ดร.แบนเนอร์ กล่าวตอบ

   เอ่อ…เเน่นอน เห็นร่างกายที่ล่อนจ้อนของดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์ส พยักหน้าเล็กน้อย

  จากนั้นดร.แบนเนอร์ ก็หอบกางเกงตัวใหญ่เดินออกจากห้องลับเเห่งนี้ หลงเหลือเพียง กัปตันโรเจอร์ส เเละ คนอื่น ๆ ที่คอยเฝ้าระวังด้านหน้าประตูมิติอวกาศเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ

   ปีเตอร์นายสามารถติดต่อกับ โทนี่ สตาร์ค ได้หรือไม่ ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องรีบเเจ้งให้เขา จนถึงตอนนี้ เเจ็คสันเองก็ยังไม่กลับมา ฉันกังวลว่าจะมีสถานการณ์อะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เเฮร์รี่ ที่อยู่ใกล้ปีเตอร์ เขาได้กล่าวกระซิบอีกฝ่าย

  นอกเหนือจากพวกเขาที่อยู่มุมห้องเเล้วคนอื่น ๆ ก็เเยกย้ายกันไปเฝ้าระวังเเต่ละตำเเหน่ง สตอร์ม โคลอสซัส ที่ได้รับบาดเจ็บ พวกเขาเองก็ยังคงติดต่ออไปหาศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเละเเจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น

   ติดต่อคุณ สตาร์ค งั้นหรอ ฉันจะลองดู J.A.R.V.I.S น่าจะอยู่ในระบบชุดสไปเดอร์แมนของฉัน! ได้ยินคำพูดของเเฮร์รี่ ปีเตอร์ กล่าวตอบ

   J.A.R.V.I.S.คุณยังอยู่ใช่มั้ย 

   สวัสดีปีเตอร์คุณต้องการให้ผมช่วยอะไรงั้นหรอ หลังจากได้ยินเสียงของปีเตอร์ เสียงของ J.A.R.V.I.S. ได้กล่าวตอบ

  จริงๆ เเล้ว J.A.R.V.I.S. ได้ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับชุดคลุมสไปเดอร์แมนของปีเตอร์ ก่อนหน้านี้ โทนี่ ได้สร้างชุดสไปเดอร์แมนให้ปีเตอร์ใหม่มันช่วยให้ปีเตอร์สามารถดึงศักยภาพความเเข็งเเกร่งที่เเท้จริงให้ออกมาได้มากกว่าเดิม

   ฉันรู้ว่าคุณเองก็เห็นสถานการณ์ที่้เกิดขึ้นทั้งหมดที่นี่ฉันรู้ว่าตอนนี้คุณสตาร์คกำลังยุ่ง เเจ็คสันเองก็ยังไม่กลับมา บางทีเรื่องนี้อาจจะต้องขอความเห็นของคุณสตาร์คสักหน่อย! ปีเตอร์กล่าวถามอีกครั้ง

   เเน่นอนว่าผมเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นสถานการณ์ทั้งหมดผมได้เเจ้งต่อคุณสตาร์คเเล้ว สำหรับ คุณ เเจ็คสัน ระบบสื่อสารของผมที่อยู่กับเขาได้ถูกตัดออกไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ผมได้ส่งชุดเกราะไอรอนแมนไปยังตำเเหน่งล่าสุดของเขาเพื่อร่วมกันค้นหาเเล้ว หลังจาก ปีเตอร์กล่าวถาม J.A.R.V.I.S. กล่าวตอบอย่างสงบ เขาได้จัดการเรื่องทั้งหมดก่อนที่ปีเตอร์จะถถามเสียอีก

   อะไรการสื่อสารของเเจ็คสันถูกตัดขาดงั้นหรอ?ดี ถ้าคุณพบเขาได้โปรดเเจ้งให้ฉันทราบด้วย หรือถ้าเกิดต้องการขอความช่วยเหลือให้รีบบอกฉันทันที! ได้ยินว่า J.A.R.V.I.S. อาสาหาตัวของ เเจ็คสัน ปีเตอร์ กล่าวตอบ

   คุณไม่จำเป็นต้องกังวลก่อนหน้าที่ผมจะตัดขาดการติดต่อกับคุณ เเจ็คสัน ผมได้เห็นภาพสถานการณ์ของคุณเเจ็คสันว่าอยู่ดีไม่ได้เผชิญหน้ากับอันตรายใดๆ บางที เขากับ คุณ ไอซ์แมน คงจะไปต้องตาเข้ากับประตูมิติอวกาศอื่น ๆ ทำให้ส่งผลกระทบต่อคลื่นสัญญาณติดต่อ J.A.R.V.I.S. กล่าวตอบ

   เข้าใจเเล้วฝากคุณด้วย J.A.R.V.I.S.! ปีเตอร์พยักหน้าตอบ

   คุณไม่จำเป็นจะต้องสุภาพกับผมหรอกนี่คือสิ่งที่ผมควรทำ 

  จากนั้นบทสนทนาของปีเตอร์ เเละ J.A.R.V.I.S. ก็สิ้นสุดลง ปีเตอร์รู้เเล้วว่า โทนี่ เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดอยู่ก่อนเเล้ว เเต่สำหรับ เรื่องของ เเจ็คสัน เขาเองยังรู้สึกกังวลอยู่

   ได้ความว่าไงบ้าง เเฮร์รี่ได้กล่าวถามปีเตอร์อีกครั้ง

   อืม,ดูเหมือนJ.A.R.V.I.S. จะเเจ้งให้คุณสตาร์ครู้เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเเล้วทางด้านคุณสตาร์คเองก็คงกำลังเตรียมพร้อมบางอย่าง สำหรับ เเจ็คสัน ดูเหมือนสัญญาณของเขาจะถถูกตัดขาด บางทีเขาอาจไปเจอเข้ากับประตูมิติอวกาศอื่น ๆ ฉันรู้สึกเป็นห่วงเขา ได้ยินคำถามของ เเฮร์รี่ ปีเตอร์ ตอบกลับ

   ไม่ต้องกังวลหรอกเเจ็คสันจะต้องไม่เป็นอะไร หากเขาไปเจอกับประตูมิติอวกาศอื่นจริง ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องสามารถเเก้ไขปัญหาได้ เเฮร์รี่ ตบไหล่ของปีเตอร์เล็กน้อย

   ฉันเองก็หวังอย่างนั้น! 

  จากนั้นนอกเหนือจากการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ได้เฝ้าระวังรอบ ๆ ประตูมิติอวกาศพร้อมกับเคลื่อนย้ายเครื่องมือพิเศษจำนวนมากมาตั้งล้อมรอบประตูมิติอวกาศเเห่งนี้

 

ฮัลค์ ? ดร.บรูซ เเบนเนอร์

  หลังจากสไปเดอร์แมนเเละคนอื่นๆ เห็นการปรากฏตัวของฮัลค์ พวกเขาก็เตรียมพร้อมรับศึกครั้งใหญ่ในทันที ยกเว้น กัปตันโรเจอร์ส นาตาชา ทีมอเวนเจอร์ส เเละ องค์กร S.H.I.E.L.D. พวกเขารู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก การปรากฏตัวขึ้นของ ฮัลค์ นั่นก็เท่ากับว่า ดร.บรูซ เเบนเนอร์ ยังปลอดภัยดี

   ลดการป้องกันลงเถอะเขาไม่ใช่ศัตรูของเรา! กัปตันโรเจอร์สกล่าวพูดขึ้นพร้อมกับผายมือกล่าวบอก สไปเดอร์แมน เเละ คนอื่นๆ

  เพียงเเต่ปีเตอร์ไม่ทันได้ฟังกัปตันโรเจอร์สเขาจำได้เกี่ยวกับการปรากฏตัวของฮัลค์ที่สร้างบาดเเผลให้กับเเจ็คสัน ดังนั้นเขาจึงต้องการจัดการอีกฝ่าย

  ฟุ่บ!

  ใยเเมงมุได้ถูกยิงเข้าใส่ฮัลค์พร้อมกับการดีดตัวเข้าหาของสไปเดอร์แมนในตอนนี้สไปเดอร์แมนได้พุ่งเข้าไปจู่โจมอย่างรวดเร็ว

  เห็นสไปเดอร์แมน โจมตี กัปตันโรเจอร์ส นาตาชา เเละ คนอื่น ๆ รู้สึกกังวล ฮัลค์ คือ ดร.แบนเนอร์ หากให้มีการต่อสู้ที่ไม่จำเป็นเกิดขึ้นก็คงไม่ดี

  ทางด้านฮัลค์หลังจากเห็นใยเเมงมุมของสไปเดอร์แมนเขาได้เงยหน้ามอองเล็กน้อยเเละคว้าจับใยเเมงมุมนั่นทันที

  เพียงพริบตาเดียวใยเเมงมุมที่เหนียวเเน่นของสไปเดอร์แมนก็ถูกฮัลค์จับเเละคว้าเหวี่ยงร่างเล็กๆ ของสไปเดอร์แมนที่พุ่งเข้ามาไปไกล

  ปีเตอร์ที่ถูกโจมตีอย่างกระทันหันเขาได้กระเด็นลอยไปไกลเเต่เพราะความคล่องตัวที่สูงทำให้เขาสามารถทรงตัวกลางอากาศเเละลงพื้นได้อย่างปกติ

   เเข็งเเกร่งมาก! ปีเตอร์จ้องมองไปที่ฮัลค์

  นอกเหนือจากเขาเเล้วคนอื่นๆที่เห็นการโจมตีสวนกลับของฮัลค์พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงความรุนเเรงของอีกฝ่าย

  พละกำลังของทั้งสองเเตกต่างกันมากเกินไปทั้งการโจมตีของฮัลค์เเละสไปเดอร์แมนก็ยังเป็นการโจมตีแบบกายภาพดังนั้นจึงไม่เเปลกที่สไปเดอร์แมนจะเสียเปรียบ

   ดีจริงๆ ! เห็นว่าฮัลค์ไม่ได้โกรธที่เห็นการโจมตีของสไปเดอร์แมน กัปตันโรเจอร์ส รู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก เดิมปกติ เวลาฮัลค์เห็นใครโจมตีใส่ตนเองเขาจะเล็งไปที่คนคนนั้นเเละพุ่งเข้าจัดการทันที

   ฮัลค์!ต้องพักผ่อน ภายใต้สายตาของทุกคนฮัลค์ได้กล่าวพูดออกมา

  ฟุ่บ!

  จากนั้นไม่ได้รอให้คนอื่นๆ ได้ตอบสนอง ร่างกายของฮัลค์ได้หดเล็กลงมาจนถึงขนาดของคนปกติเเละเปลี่ยนร่างเป็น ดร.บรูซ เเบนเนอร์ ที่ไม่สวมเสื้อหลงเหลือเพียงกางเกงในขนาดใหญ่เพียงเท่านั้น จากนั้น ดร.แบนเนอร์ ก็ได้เดินไปยังทิศทางของกัปตันโรเจอร์ส

   เรื่องมันซับซ้อนเอาไว้ฉันจะเล่าให้ฟังอย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับประตูมิติอวกาศเราจะต้องทำลายมันไม่งั้นโลกจะเผชิญหน้ากับหายนะครั้งใหญ่ ดร.แบนเนอร์ ดึงกางเกงขนาดใหญ่นั่นโดยไม่สนใจคนอื่น เขากล่าวพูดกับ กัปตันโรเจอร์ส

  ได้ยินคำพูดของดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์ส ไม่ลังเลที่จะเตรียมพร้อมอย่างรวดเร็วเเละออกคำสั่งในทันที

  ตั้งเเต่ดร.แบนเนอร์ กลับมา เเละอธิบายสิ่งเหล่านี้ก็เป็นอันเเน่ชัดว่าด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นคือสถานที่อีกโลกนึงที่อันตราย

   ที่เเท้คุณก็คือ ฮัลค์  ขณะเดียวกัน ด้านหลังของกัปตันโรเจอร์ส เเจ็ค ได้เดินมาถึงพร้อมกับกล่าวถามด้วยความประหลาดใจ

  เมื่อหลายวันก่อนเเจ็ค เห็นการต่อสู้ระหว่างมิราจไนท์ เเละ ฮัลค์ ขนาดมิราจไนท์ที่เป็นตัวตนที่เเข็งเเกร่งสำหรับเขา ยังพลาดท่าได้รับบาดเจ็บหนักจากการโจมตีของฮัลค์ ดังนั้น เมื่อเห็น ฮัลค์ เเท้จริงเเล้วคือ ดร.บรูซ เเบนเนอร์ ทำหใ เเจ็ค รู้สึกเเปลกใจ

  เเต่เเน่นอนว่าเขาเองก็เริ่มเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นหลายวันก่อนไม่เเปลกที่ทำไมจู่ๆ ฮัลค์ ถึงหายไปอย่างไร้ร่องรอย

   ใช่,ฉันเอง เห็นเเจ็คกล่าวถามดร.แบนเนอร์ กล่าวตอบอย่าง งุ่มง่าม

  ฟุ่บ!

   เเจ็คคุณรู้จักเขาอย่างงั้นหรอ ในเวลานี้ สไปเดอร์แมน ได้กระโดดมาตกที่บนนหลังคาเเละกล่าวถามเเจ็คที่อยู่ไม่ไกล

  เมื่อครู่ฮัลค์ ได้เปลี่ยนร่างเป็น ดร.แบนเนอร์ ทุกคนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เเม้เเต่สไปเดอร์แมน ปีเตอร์ ก็ยังรู้สึกประหลาดใจ เเม้ว่าเขาจะเคยพบพวกตัวประหลาดอย่าง ทหารเอ็กซ์ทรีมิส เเวมไพร์ เเละ พวกมิวแทนท์ คนอื่น ๆ เเต่เขาก็ยังคงรู้สึกตกใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนร่างของ ดร.แบนเนอร์

   ใช่,เขาคือคนที่ทำร้ายมิราจไนท์ เเต่ มิราจไนท์ ก็รู้อยู่เเล้วว่าเป็นเขา เเจ็คตอบคำถามอย่างรวดเร็ว

   เดิมเป็นเขา!ดร.บรูซ เเบนเนอร์! หลังจากที่เเจ็คกล่าวตอบปีเตอร์ คนอื่น ๆ ที่อยู่ไม่ไกล ก็ได้ยินเเละเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด

   เขาคือคนที่ทำร้ายมิราจไนท์ ได้ยินคำตอบของเเจ็คปีเตอร์ ไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เเต่เพื่อนคนนี้ทำร้ายเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาอย่างเเจ็คสันนี่ไม่ใช่สิ่งที่จะยอมกันได้ง่าย ๆ

   สไปเดอร์แมนเเจ็ค นี่ไม่ใช่เวลามามัวพูดคุยกันเรื่องนี้ ฉันจะบอกพวกนายเกี่ยวกับเรื่องนี้ภายหลัง อันที่จริง มิราจไนท์ ก็รู้เรื่องราวทั้งหมดพวกนายสามารถามเขาภายหลังได้ สำหรับปัจจุบันเรื่องที่เราสมควรให้ความสนใจก็คือ ประตูมิติอวกาศนี่ หากปล่อยเอาไว้ จะต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับโลกเเน่! เห็น เเจ็ค เเละ สไปเดอร์แมน กำลังจะทะเลาะกันเรื่องของ ดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์ส ได้กล่าวห้าม

 

การปรากฏตัวของฮัลค์อีกครั้ง

  หึ่ม!

  ฟุ่บ!

  หลังจากประตูมิติอวกาศส่งคลื่นความผันผวนออกมาเงาร่างบางอย่างก็ปรากฏขึ้นในสายตาของกัปตันโรเจอร์สเเละ คนอื่น ๆ พวกเขาได้ถอยร่นเเละเตรียมพร้อมต่อสู้เต็มรูปแบบ

   เตรียมพร้อม! กัปตันโรเจอร์สไม่มีเวลามากพอที่จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเงานั้นคือใครเขาได้ยกโล่ขึ้นมาเเละเตรียมรับศึกด้านหน้า

  กัปตันโรเจอร์สส่งสัญญาณพร้อมกับเตรียมออกคำสั่ง

  คนอื่นๆ ที่ได้ยินเสียงของกัปตันโรเจอร์สพวกเขาเตรียมพร้อมต่อสู้ในทันที จากนั้นพวกเขาก็เห็นเงาร่างของคนสองคนบินลอยออกมาจากประตูมิติอวกาศ

   หืม… เห็นเงาร่างที่ดำมือพุ่งตรงลงไปที่พื้นดินกัปตันโรเจอร์สจ้องมองอย่างใจจดใจจ่อ

  เพื่อนคนนึงถือเคียวขนาดใหญ่ยักษ์เป็นรูปแบบสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์ส่วนอีกคนถือค้อนศึกขนาดยักษ์คล้ายกับตัวที่ปรากฏก่อนหน้าพวกเขาน่าจะมาจากสถานที่เดียวกัน

  นอกเหนือจากตัวก่อนหน้านี้เเล้วยังมีมนุษย์ต่างดาวคนอื่นๆ บุกมาที่โลกในเวลานี้หรือไม่ นี่เป็นความคิดของกัปตันโรเจอร์ส เเละ คนอื่น ๆ ไอลีนโนเวล

  หึ่ม!

  ทันทีที่เห็นเงาร่างนั้นบินลอยออกมากัปตันโรเจอร์สก็เตรียมพร้อมเข้าต่อสู้ทันทีเขาตั้งใจจะเปิดฉากโจมตีก่อน

   จู่โจม! กัปตันโรเจอร์สได้ออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว

  ทันทีที่กัปตันโรเจอร์สออกคำสั่งคนอื่นๆ ก็กระจายกำลังพุ่งเข้าไปพร้อมกับเตรียมเปิดเผยการโจมตีที่เเข็งเเกร่งที่สุดของเเต่ละคนออกมา

  อย่างไรก็ตามเงาร่างที่ลอยออกมานั้นกลับไม่ได้เคลื่อนไหวทำให้กัปตันโรเจอร์สยกมือห้ามขึ้น พวกเขาค้นพบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนี่มันเเปลกประหลาดเเละสงบเกินไป

   เพื่อนคนนี้…สไปเดอร์แมนเเจ็ค! กัปตันโรเจอร์สได้ตะโกนเรียกชื่อของทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว

  สไปเดอร์แมนเเละ เเจ็ค เข้าใจความหมายของกัปตันโรเจอร์ส พวกเขาได้พุ่งเข้าไปตรวจสอบอีกฝ่ายทันที

  เเต่เเน่นอนว่าเเจ็ค ได้ใช้เชือกเวทมนตร์ของเขาพุ่งเข้าไปจับกุมก่อนจากนั้นสไปเดอร์แมนก็ใช้ใยเเมงมุมเหล่านั้นพันธนาการทั้งสองคนเอาไว้

  เงาร่างทั้งสองถูกมัดด้วยเชือกเวทมนตร์เเละใยเเมงมุมที่เหนียวเเน่นของปีเตอร์ไม่ต้องสงสัยว่าหากอีกฝ่ายจะดิ้นรนย่อมเป็นไปได้ยากที่จะหลุดออกจากพันธนาการนี้

  หลังจากทำการจับกุมอีกฝ่ายได้สำเร็จเเจ็คก็ได้เดินเข้าไปตรวจสอบสภาพสถานการณ์ของทั้งสองคน

  ทางด้านกัปตันโรเจอร์สพวกเขาได้เฝ้ามองอยู่ห่างๆ ด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นมีพวกสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์พวกนี้อยู่อีก ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เขาจะต้องครุ่นคิดพิจารณาเรื่องการช่วยเหลือ ดร.แบนเนอร์ อีกรอบ เพราะหากเขานำทุกคนเข้าไปเสี่ยงอันตรายเเละเจอภัยพิบัติเข้าจริง ๆ จุดจบของพวกเขาคงไม่สวยนัก

   กัปตันโรเจอร์ส!พวกเขาทั้งคู่ ตายเเล้ว ขณะที่ กัปตันโรเจอร์สกำลังครุ่นคิด เเจ็ค เเละ สไปเดอร์แมน ได้ตะโกนเปิดปากขึ้น

  ได้ยินเสียงของเเจ็คเเละ สไปเดอร์แมน กัปตันโรเจอร์ส จ้องมองไปที่ทั้งสองคนอย่างดุเดือด

  พวกเขาทั้งสองคนหลุดออกมาจากประตูมิติอวกาศมันเกิดอะไรขึ้นด้านหลังนั่นกันเเน่ขณะที่กัปตันโรเจอร์สครุ่นคิดอีกรอบประตูมิติอวกาศก็เกิดความผันผวนอีกครั้ง

  คราวนี้ไม่ได้มีอะไรบินลอยออกมาเเต่มันเป็นกระเเสลมที่บ้าคลั่งที่ติดตามเงาบางอย่างที่กำลังเดินออกมาจากประตูมิติอวกาศกัปตันโรเจอร์ส ที่อยู่ด้านหน้าสุด เขาได้ยกมือสั่งการให้เตรียมพร้อมอีกครั้ง

  ฟุ่บ!

  ทันใดนั้นเองเงาร่างสีเขียวขนาดยักษ์ก็เริ่มเผยให้เห็นเด่นชัดมากขึ้นเเน่นอนว่าเจ้าของเงาร่างที่ว่าก็คือ ฮัลค์ ฮัลค์ ได้ปรากฏตัวออกมาผ่านประตูมิติอวกาศ

   ฮัลค์! หลังจากที่เหยียบบนฐานเเห่งนี้ฮัลค์ ก็คำรามออกมา

   สัตว์ประหลาดตัวเขียวในวันนั้น!มันมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้ยังไง ขณะที่ ฮัลค์ปรากฏตัวขึ้น สตอร์ฒ จ้องมองไปที่อีกฝ่ายพร้อมกับกล่าวพึมพัมออกมา

   เเต่เพื่อนตนนี้มีขนาดที่ใหญ่กว่านะ สไปเดอร์แมนกระโดดขึ้นไปบนหลังคาฐานเพื่อเตรียมสังเกตุการณ์

   หรือว่าด้านหลังประตูมิติอวกาศนี่ไม่ได้เชื่อมต่อที่จักรวาลนอกโลกเเต่เป็นพื้นที่ทดลองลับของกองทัพสหรัฐงั้นหรอ หลังจากเห็นการปรากฏตัวของ ฮัลค์ เเจ็ค จ้องมองไปที่อีกฝ่ายเชิงพิจารณา

  ไม่เเปลกใจที่สไปเดอร์แมน สตอร์ม เเละ เเจ็ค จะประหลาดใจกับการปรากฏตัวของฮัลค์ เพราะหลายวันที่ผ่านมา สัตว์ประหลาดตัวเขียวนี่ได้สร้างปัญหาขนาดใหญ่ มันได้เเสดงศักยภาพที่เเข็งเเกร่งออกมา กระทั่ง มิราจไนท์ ยังได้รับบาดเจ็บรุนเเรง จากนั้น ฮัลค์ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

  เเน่นอนว่ากัปตันโรเจอร์ส เเละ เเจ็คสัน ไม่ได้บอกให้คนเหล่านี้รู้ พวกเขาเเค่อธิบายสถานการณ์ของเพื่อนร่วมทีมใหม่อย่าง ดร.บรูซ แบนเนอร์เพียงเท่านั้น ดังนั้น ไม่เเปลกที่พวกเขาจะเห็นฮัลค์เป็นศัตรูตัวฉกาจ

 

การต่อสู้เเละการช่วยเหลือ

  ฟู่ว~~

  โลก,ไซบีเรียฐานพิเศษชั่วคราวของ S.H.I.E.L.D. ในห้องลับกัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศเเละสัตว์ประหลาดยักษ์รูปแบบมนุษย์ 2 ตัวบนพื้้นดิน รูปแบบมนุษย์ทั้งสองตัวนี้มาจากประตูมิติอวกาศ มันได้ถูก พันธมิตรอเวนเจอร์ส ทีม X-MEN เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ร่วมกันโจมตีจนถูกจับตัวไว้ได้

  อย่างไรก็ตามเพื่อที่จะจัดการเพื่อนทั้งสองคนนี้ทีมพันธมิตรที่อยู่ที่นี่ทั้งหมดก็ใช้ออกด้วยราคาบางส่วน โคลอสซัส สไปเดอร์แมน เเละ เเดร์เดวิล ได้รับบาดเจ็บหนักอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่คนอื่น ๆ เรี่ยวเเรงเเละพละกำลังเหล่านั้นได้หมดไปพร้อมกับบาดเเผลเล็ก ๆ จำนวนมาก

  เเม้ว่าพวกเขาจะชนะสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์มาเเต่อีกฝ่ายก็มีความสามารถที่น่ากลัวถ้าหากที่นี่ไม่มีทีมพันธมิตรที่เเข็งเเกร่งรวมตัวกันอยู่คงไม่พ้นล่มจมกันทั้งหมดความน่ากลัวของอีกฝ่ายเห็นได้ชัดคือพละกำลังที่มากโข กัปตันโรเจอร์ส,สไปเดอร์แมน เเดร์เดวิล เเละ คนอื่น ๆ ที่มีความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดเเทบจะได้รับบาดเเผลสาหัสทุกคน

   ถ้าหากด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นคืออารยธรรมที่มีชนเผ่าที่มีความเเข็งเเกร่งทางร่างกายสูงแบบนี้โลกในปัจจุบัน ไม่สามารถรับมือได้เเน่ นี่ไม่ใช่โอกาส เเต่มันคือหายนะ! กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่ศพอีกฝ่ายที่ถูกจับกุม เขาบ่นพึมพัมออกมาอย่างรุนเเรง

  จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่เหล่าสหายที่เหนื่อยล้าจากอาการบาดเจ็บเช่น เเดร์เดวิล เเละ โคลอสซัส ด้านหลังประตูนั่นมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอาศัยอยู่ กัปตันโรเจอร์ส คิดตั้งใจที่จะตัดทางเชื่อมระหว่างสองโลก อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้นจะต้องช่วยเหลือ ดร.แบนเนอร์ ออกมาก่อน

  กัปตันโรเจอร์สเดินไปที่ด้านข้างประตูมิติอวกาศขณะนั้นเองปีเตอร์ที่อยู่ไม่ไกลจากเเดร์เดวิลก็เดินเข้าไปทักทาย ไอรีนโนเวล

   เเดร์เดวิลคุณไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย ปีเตอร์กล่าวทักทาย เเดร์เดวิล อย่างระวัง

  ในด้านศักยภาพของร่างกายกัปตันโรเจอร์ส เเละ สไปเดอร์แมน มีความสามารถรักษาตนเองที่สูง ดังนั้น กัปตันโรเจอร์ส เเละ สไปเดอร์แมน จึงสามารถรักษาตัวเองได้ สำหรับเเดร์เดวิลนั้นเขามีพละกำลังทางกายที่เเข็งเเกร่งก็จริงเเต่ก็ยังอยู่ในขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์

   ได้รับบาดเจ็บภายในนิดหน่อย! เเดร์เดวิลกุมหน้าอกเเล้วกล่าวตอบ

  เขาได้พัฒนาศักยภาพร่างกายของตัวเองอย่างมากในช่วงเร็วๆ นี้ ดังนั้น เเม้ร่างกายของเขาจะไม่สามารถเทียบเท่ากัปตันโรเจอร์สหรือคนอื่น ๆ เเต่ความสามารถทางกายของเขาก็มีความเเข็งเเกร่งที่เพียงพอ

   อืม,เจ้าบ้าพวกนั้นมันเเข็งเเกร่งจริงๆ ! ฉันเกือบจะถูกทุบโดยขวานยักษ์นั่นเเล้ว! ได้ยินคำตอบของเเดร์เดวิล ปีเตอร์ รู้สึกโล่งใจ

   อืม,พวกมันเเข็งเเกร่งมากจริงๆ เเต่อย่างไรก็ตามนี่ไม่สามารถโทษใครได้คงได้เเต่โทษตัวพวกเราเองที่มีความเเข็งเเกร่งไม่เพียงพอ ฉันมีลางสังหรณ์ว่าในอนาคตศัตรูที่เราจะพบเจอคือศัตรูระดับนี้ เเดร์เดวิล กล่าวพูดขึ้น

   เอ๋ นี่มัน พวกเขาเป็นมนุษย์ต่างดาว คุณจะบอกว่าศัตรูในอนาคตของพวกเราจะเป็นมนุษย์ต่างดาวอย่างงั้นหรอ? ปีเตอร์กล่าวถามอย่างประหลาดใจ

   ทำไมจะไม่มีโอกาสเป็นไปไม่ได้หากประตูมิติอวกาศนี่ไม่ได้รับการเเก้ไข  เเดร์เดวิลตอบกลับ

   โลกที่เต็มไปด้วยท้องฟ้าเหล่านี้มีศัตรูที่เเข็งเเกร่งมากมายหากพวกเราต้องเผชิญหน้ากับพวกมันจริงๆ ฉันคิดว่าพวกเราคง…. ปีเตอร์ยิ้มออกมาอย่างเฝื่อน ๆ

  เเดร์เดวิล …. 

  ขณะเดียวกันกัปตันโรเจอร์ส ก็ได้รักษาคนที่บาดเจ็บ เเละ วางกำลังพลป้องกันรอบ ๆ ประตูมิติอวกาศ เขาต้องการจัดตั้งทีม เพื่อเข้าไปด้านในประตูมิติอวกาศเพื่อช่วยเหลือ ดร.แบนเนอร์

  อย่างไรก็ตามมันก็มีความเสี่ยงมากที่ศัตรูที่พวกเขาพบจะอันตรายอย่างมาก

  กัปตันโรเจอร์สได้ติดต่อกองกำลังของ ทีม S.H.I.E.L.D. รวมถึงพันธมิตรอเวนเจอร์ ทีมX-MEN เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ว่าพวกเขาจะยังเข้าสำรวจด้านหลังประตูมิติอวกาศอยู่อีกหรือไม่

  ปีเตอร์เเดร์เดวิล เเละ คนอื่น ๆ ได้เข้าร่วมทีม ด้วย สรุปคนที่จะเข้าไปทั้งหมดรวมกันได้ประมาณ 15 คน โดยมี กัปตันโรเจอร์ส เป็นหัวหน้าทีม

   ทุกคน!พวกเราคือทีมที่สมบูรณ์แบบ ฉันหวังว่าพวกเราทั้ง 15 คนจะรอดกลับมาด้วยกัน! กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่เพื่อนร่วมทีม คนอื่น ๆ

   ผ่อนคลายเถอะพวกเราจะต้องช่วย ดร.แบนเนอร์ กลับมาให้ได้! 

   ใช่! 

  หลังจากนั้นคนอื่นๆ ก็ตะโกนตอบรับกัปตันโรเจอร์ส

   ดี! ถ้างั้นพวกเรา… ขณะที่กัปตันโรเจอร์สเตรียมจะกล่าวต่อ จู่ ๆ ด้านหลังประตูมิติอวกาศก็ปรากฏคลื่นความผันผวนรุนเเรง

  หึ่ม!

  ด้านหน้าประตูมิติอวกาศมีอะไรบางอย่างกำลังจะออกมา

  ��

 

ฮัลค์ไร้เทียมทาน

  ปั้ง!

  สิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์ที่ถือขวานนั่นได้ต้านรับหมัดของฮัลค์ด้วยขวานเพียงเเต่มันกลับประมาทการโจมตีของฮัลค์มากเกินไปพละกำลังอันบ้าคลั่งของฮัลค์ได้ทะลวงขวานยักษ์ของมันเเละซัดเข้าที่ศีรษะโดยตรง

  ปั้ง!

  พริบตาเดียวเงาร่างขนาดยักษ์ได้ถูกซัดกระเด็นจนลงไปนอนอาบเลือดกับพื้นสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์อีกสองตัวที่เห็นพรรคพวกของตนเองถูกจัดการอย่างรวดเร็วพวกมันสั่นสะท้านอย่างรุนเเรง

  ฟุ่บ!

  เห็นฮัลค์กระโดดพุ่งตรงมาทางพวกเขาอีกครั้งสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์ได้กระจายตัวกันอีกครั้ง

   %& ; @ # …… % # & ; …… % #!  เพื่อนคนนึงที่ถือค้อนประหลาดได้ตะโกนบอกสหายของเขาด้วยข้อความบางอย่าง

  หลังจากฮัลค์เปิดเผยความเเข็งเเกร่งออกมาพวกเขาก็เชื่อว่าตนเองย่อมไม่ใช่คู่มือของฮัลค์ เเม้กระทั่งสัตว์ประหลาดลูกสมุนจำนวนมากของพวกเขายังถูกจัดการโดยใช้ระยะเวลาไม่กี่นาที เเน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่กำลังพลของเขาเพียงสองคนจะสามารถชนะอีกฝ่าย ดังนั้นพวกเขาจะต้องรีบกลับไปขอความช่วยเหลือ

  อย่างไรก็ตามเพื่อนอีกคนที่ถือเคียวเหล็กขนาดใหญ่ไม่ได้มีความกังวลเหมือนเพื่อนของเขามือของเขาสั่นเล็กน้อยก็จริง เเต่มันไม่ใช่ความหวาดกลัว มันคือความท้าทายที่อยากจะเอาชนะอีกฝ่าย ดูเหมือนเพื่อนคนนี้จะรักการต่อสู้เหมือนกัน

  ฟุ่บ!

  เห็นเพื่อนตนเองคนที่ถือเคียวเหล็กเพื่อนที่ถือค้อนมีสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อยจากนั้นเขาก็กำชับค้อนในมือเเน่นพุ่งตรงเข้าไปยังทิศทางของฮัลค์ Aileen-novel

  สำหรับฮัลค์ไม่สนว่าศัตรูจะมีกี่คนฮัลค์ได้คำรามออกมาเเละพุ่งเข้าหาเพื่อที่จะกำจัดสิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านหน้าของเขา

  ฟวั่บ!

  ใบดาบของเคียวได้ฟาดฟันไปยังทิศทางของฮัลค์ในสภาพร่างกายที่ราวกับอมตะฮัลค์ได้ยกเเขนขึ้นต้านรับการโจมตีของอีกฝ่าย ธรรมชาติ สัญชาตญาณของฮัลค์คือการพุ่งชนเอาตัวเข้าเเลกอย่างเดียวไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครหรืออะไรเป้าหมายของฮัลค์คือชัยชนะ

  ปั้ง!

  เคียวที่ดุร้ายได้ลากฟันยาวไปบนตัวของฮัลค์เเต่เพราะร่างกายที่เเข็งเเกร่งของฮัลค์ทำให้บาดเเผลที่เขานั้นไม่สามารถทะลวงผ่านไปได้ลึกมากนัก

  อึก!

  เห็นการโจมตีของตนเองไม่ได้ผลเขาได้กระโดดถอยล่นออกไป ขณะเดียวกันเพื่อนอีกคนนึงที่ใช้อาวุธศึกเป็นค้อนขนาดใหญ่ได้ควงเข้ามาจู่โจมทางด้านหลังของฮัลค์ทันที

  เปรี้ยง!

  เพียงพริบตาเดียวฮัลค์ได้ถูกซัดกระเด็นลอยไปไกลความดุร้ายเเละความเเข็งเเกร่งทางกายภาพของอีกฝ่ายย่อมไม่ธรรมดาธรรมชาติ หากฮัลค์ประมาทก็ย่อมเสียเปรียบอีกฝ่ายที่มีมากกว่าตนเอง

   โฮก! ถูกโจมตีจนเลือดกลบปากฮัลค์ได้ดีดตัวลุกขึ้นจากพื้นเเละกระโจนออกไปอีกครั้ง

  การโจมตีของฮัลค์เป็นการโจมตีที่เรียบง่ายเป็นการเคลื่อนไหวด้วยพละกำลังทางกายล้วนๆ เเต่ความเร็วในการดีดตัวของฮัลค์เเทบจะเทียบเท่ากับความเร็วเสียงทำให้เพียงเสี้ยงวินาทีก็สามารถเข้าประชิดศัตรูอีกครั้ง

  สหายทั้งสองคนเห็นเพียงเงาภาพเลือนลางของยักำษ์ตัวเขียวจากนั้นพวกเขาก็เห็นอีกฝ่ายปรากฏตัวเบื้องหน้าของตนเอง

  ภาพที่เห็นราวกับเทพเเห่งหายนะที่กำลังจะมอบความตายให้กับพวกเขา

  ปั้ง!

  เเขนขนาดใหญ่ของฮัลค์ได้ขว้าจับไปที่ศีรษะของคนทั้งสองคนเเละกำเเน่นจนอยู่หมัดดวงตาสีเเดงของพวกเขาเบิกกว้าจนเเทบจะถลนออกมาพวกเขาได้ถูกฮัลค์เขวี้ยงโยนออกไปไกลอีกครั้ง

  ปั้ง!

  ห่างไม่ไกลจากพวกเขาคือประตูมิติอวกาศขนาดใหญ่ที่ปลดปล่อยคลื่นพลังความผันผวนอย่างต่อเนื่องพวกเขาได้เเบกสังขารตนเองพยายามจะหลบหนีจากสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวที่กำลังไล่ตามเข้ามา

  ฟุ่บ!

  เห็นจุดจบของชีวิตพวกเขาที่กำลังคืบใกล้เข้ามาเพื่อนคนที่ถือเคียวยักษ์รู้สึกคิดผิดอย่างมาก หากเขาไม่ดื้อรั้นที่จะสู้ต่อ ไม่สิหากเขาไม่คิดจะบุกโจมตีอารยธรรมด้านหลังประตูนั่นพวกเขาก็คงไม่มีจุดจบที่น่าอนาถเช่นนี้

  เพราะความหุนหันพลันเเล่นของพวกเขาคงต้องโทษที่ความโง่เขลาของพวกเขาเอง

   ฮัลค์! 

  เพียงใช้ระยะเวลาไม่กี่นาทีเสียงทั้งหมดภายในสถานที่เเห่งนี้ก็เงียบลงนอกเหนือจากเสียงคำรามที่ร้ายกาจของฮัลค์ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้ถูกจัดการลงที่นี่

  จากนั้นเงาร่างขนาดใหญ่ของฮัลค์ก็มุ่งตรงไปยังทิศทางของประตูมิติอวกาศอย่างไม่สั่นคลอน

 

จัดการขัดขวาง

  ปั้งปั้ง ปั้ง!

   โฮก… 

  กร๊าซ!

  ภายในพื้นที่อาณาเขตบริเวณเเห่งนี้เสียงของสัตว์ป่าจำนวนมากได้ดังกึกก้องเเละเริ่มที่จะเงียบหายไปเหลือเพียงร่องรอยโลหิตสดๆ ที่ไหลลิน

  สัตว์ประหลาดเหล่านี้ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับฮัลค์ได้พวกมันมีจำนวนที่มากเเละออกล่อเหยื่อกันเป็นหมู่หากศัตรูของพวกมันไม่ใช่ตัวตนแบบฮัลค์ย่อมถูกล่าอย่างสมบูรณ์

  ขณะเดียวกันตำเเหน่งไม่ไกลจากฮัลค์ได้ปรากฏรูปแบบศัตรูรูปร่างมนุษย์เดินมาจากระยะไกล

  นัยน์ตาของพวกมันเป็นสีเเดงเดือดทั้งลักษณะออร่าเเละกลิ่นอายพลังยังรุนเเรงระดับเดียวกับฮัลค์

  ค้นพบศัตรูที่อยู่ห่างไม่ไกลจากตนเองฮัลค์ได้จ้องมองไปที่อีกฝ่ายด้วยประกายตาสีเขียวสัตว์ป่าเดิมที่มีอยู่เต็มพื้นที่ตัวที่รอดชีวิตต่างพากันหลบหนีอย่างรวดเร็ว

  ฟุ่บ!

  เป็นครั้งเเรกที่ฮัลค์ได้พบกับศัตรูรูปแบบมนุษย์ในโลกเเห่งนี้ดังนั้นธรรมดาที่ฮัลค์จะตอบสนองต่อการมีอยู่ของอีกฝ่ายมากกว่าสถานที่เเห่งนี้ราวกับอารยธรรมนึงที่มีสิ่งมีชีวิตต่างดาวอาศัยทั้งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นบ้านของพวกเขา

  กลุ่มชนเผ่าอารยธรรมที่สามารถอยู่รอดบนดวงดาวเเห่งนี้ได้พวกเขาจะต้องมีศักยภาพพลังที่มากพอที่จะอยู่รอดดังนั้นไม่เเปลกใจหากชนเผ่าอารยธรรมที่นี่จะมีร่างกายที่เเข็งเเกร่งที่ไม่เเตกต่างไปจากฮัลค์ ทั้งเผ่าพันธุ์นี้ยังเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่อันตราย

  ฟุ่บ!

  ฮัลค์ได้กระโดดพุ่งเข้าไปหาศัตรูในทันทีสัญชาตญาณของเขาร้องเตือนให้รีบจัดการอีกฝ่ายลงอย่างรวดเร็ว ศัตรูในระยะสายตาของเขามากันสามคน พวกเขาเองก็จ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวเบื้องหน้า

   @ # & ;% ……   สิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์ที่ถือขวานได้กล่าวพูดอะไรกับเพื่อนของเขาทั้งสองคน

  หลังจากพูดออกมาเพื่อนทั้งสองของเขาก็เกิดการเปลี่ยนเเปลงอย่างเห็นได้ชัด

   %@  # …… %! # ในดวงตาสีเเดงของพวกเขาได้ส่องประกายเจิดจ้ามากขึ้น

  เสียงของพวกเขาได้พูดคุยกันเเละจ้องมองไปที่ซากศพจำนวนมากเเละสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวที่พุ่งเข้ามาหาพวกเขา

  เมื่อเห็นศัตรูบุกโจมตีพวกเขาทั้งสามคนได้กระจายตัวออกเพื่อเตรียมรับมือกับอีกฝ่ายดูเหมือนสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์เหล่านี้จะมีปัญญาที่เฉียบคมพวกเขาคือชนเผ่าที่มีความคิดเป็นของตนเอง

  ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับทั้งสามคนฮัลค์ ได้พุ่งเข้าไปโดยไม่สนใจสิ่งใด คนเหล่านี้คือตัวเเทนของอารยธรรมต่างสถานที่ พวกเขาได้เตรียมทัพเตรียมจะบุกไปที่โลกเเต่เพราะการปรากฏตัวของฮัลค์ทำให้ ทัพสัตว์ป่าเหล่านั้นได้ถูกกวาดล้างไปจำนวนมาก

  เเน่นอนว่าฮัลค์ไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งนี้เเต่ฮัลค์ได้ต่อสู้ตามสัญชาตญาณของตัวเองการจัดการศัตรูของฮัลค์ถือเป็นการช่วยเหลือโลกในเวลาเดียวกัน

  ปั้ง!

  บึ้ม

  เพียงพริบตาเดียวการปะทะก็เกิดขึ้นฮัลค์ได้คำรามออกมาอย่างรุนเเรงเเละโจมตีไปที่สิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์ที่ถือขวาน

  เห็นพรรคพวกของตนเองถูกโจมตีพวกที่เหลืออีกสองคนได้จ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวเเละเริ่มลงมือจู่โจมพร้อมกัน

 

คำเหยียดหยาม

  !

  หลังจากฮัลค์คำรามออกมาเขาได้ฉีกเสื้อตนเองจนขาดรุ่งริ่งด้วยร่างกายที่เเข็งเเกร่งของฮัลค์ก็เพียงพอเเล้วที่จะต้านรังสีในจักรวาลที่หลากหลายเหล่านี้

  เเม้ที่นี่จะไม่ใช่ดาวเคราะห์โลกเเละ สภาพเเวดล้อมในปัจจุบันทั้งหมดไม่เหมาะกับมนุษย์โลกที่จะมาอาศัยเเละเอาชีวิตรอดอยู่ได้ เเต่การปรากฏตัวของฮัลค์ภายใต้สภาพเเวดล้อมเช่นนี้ ราวกับว่ามันไม่มีผลกระทบใด ๆ กับ ฮัลค์ จิตใต้สำนึกของ ดร.แบนเนอร์ รู้สึกดีใจที่ฮัลค์ปรากฏตัวออกมาเพื่อรักษาชีวิตนของตนเอง

  หลังจากที่ดร.แบนเนอร์ ปล่อยฮัลค์ออกมา จิตใต้สำนึกของเขาก็เริ่มทรุดตัวลงสู่ห้วงลึก ก่อนหน้านี้ ดร.แบนเนอร์ ตั้งใจจะทดสอบองค์กร S.H.I.E.L.D. ด้วยการใช้ความเเข็งเเกร่งของฮัลค์ เเต่มันก็เหนือความคาดหมาย ฮัลค์ ได้อาละวาดอย่างบ้าคลั่งจนเขาไม่สามารถควบคุมได้

  เเต่ในเวลานี้ดร.แบนเนอร์ ได้ยกการควบคุมทั้งหมดให้กับ ฮัลค์ เพราะที่นี่ไม่มีสิ่งที่ ดร.แบนเนอร์ ให้ความสนใจ เเละไม่มีความจำเป็นจะต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย

   โฮกก~~ ~~ เห็นการปรากฏตัวของฮัลค์ สัตว์ป่าที่ดุร้ายนั่นสั่นกลัวอย่างรุนเเรง

  ฟุ่บ!

  ได้ยินเสียงที่ดังมาจากด้านหลังดวงตาสีเขียวของฮัลค์ ได้สว่างวาบขึ้นจากนั้น เขาก็หันไปจ้องมองเงาร่างของสัตว์ป่าที่อยู่ไม่ไกลจากตนเอง ไอลีนโนเวล

  ฟุ่บ!

  ร่างกายของฮัลค์เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วพุ่งโจมตีไปที่สัตว์ป่านั้นทันทีสัตว์ป่านั่นเเม้จะมีสติปัญหาไม่สูงเท่าไหร่เเต่ธรรมชาติของสัตว์ป่ามันย่อมมีสัญชาตญาณการเอาตัวรอด เห็น ฮัลค์ เคลื่อนไหวตัวมันรีบพุ่งตัวหลบหนีในทันที

  ทันทีที่เจ้าสัตว์ป่านั่นหลบหนีฮัลค์ได้ถีบขาของตนเองพุ่งเข้าไปเข้าหาประชิดตัวอย่างรวดเร็วเพียงพริบตาเดียวเขาก็สามารถถึงตัวเป้าหมายอีกฝ่ายได้

  กึบ!

  เเขนขนาดใหญ่ของฮัลค์ได้ขว้าจับร่างเล็กๆ ของสัตว์ป่านั่นก่อนที่จะขยำทิ้งเเละโยนขว้างราวกับขยะที่ไร้ค่าไร้ราคา

   อ่อนเเอเกินไป! จ้องมองสัตว์ป่าที่โจมตีตัวเองเมื่อครู่นี้ฮัลค์ กล่าวดูถูกอย่างเหยียดหยาม

  ตั้งเเต่ดร.แบนเนอร์ เปลี่ยนร่างเป็นฮัลค์ เขาก็สามารถกู้สถานการณ์ที่ยากลำบากของตนเองได้อย่างรวดเร็ว เเต่ลักษณะนิสัยของฮัลค์ได้ปรากฏออกมาเเละมองหาศัตรูที่เเข็งเเกร่ง

   โฮกกก! เห็นเพื่อนของตนเองถูกฆ่าตายสัตว์ป่าเหล่านั้นได้ปรากฏตัวออกมาจำนวนมากราวกับว่านี่เป็นอาณาเขตของมัน

  มันคำรามเเละพุ่งเข้าโจมตีใส่ฮัลค์โดยไม่สนใจสิ่งใดเเม้จะไม่สามารถสร้างบาดเเผลให้กับอีกฝ่ายได้เเต่ลักษณะนิสัยที่ดุร้ายเเละทำงานเป็นทีมของพวกมันย่อมสามารถสร้างความลำบากให้กับอีกฝ่าย

   โฮกก! 

  เห็นสัตว์ประหลาดจำนวนมากพุ่งเข้ามารุมตัวเองฮัลค์คำรามใส่เเละพุ่งเข้าจัดการอย่างรวดเร็ว ด้วยอารมณ์ที่รุนเเรงของเขาในตอนนี้ความคิดเดียวของฮัลค์ก็คือการฆ่าเพียงเท่านั้น

  ปั้ง!

  สองเเขนของฮัลค์ได้พุ่งคว้าจับอีกฝ่ายเเละบดขยี้ราวกับเศษหินเศษดิน

   ฮัลค์จะจัดการให้หมด! ฮัลค์คำรามอย่างโกรธเคืองพร้อมกับตะบบฝ่ามือคู่ยักษ์โจมตีอย่างต่อเนื่อง

  ฟุ่บ!

  ปั้ง

  สัตว์ป่าจำนวนมากได้ถูกกวาดล้างโดยตรง

  ฝูงสัตว์ป่าเหล่านี้ได้ถูกฆ่าล้างไปจำนวนมากเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชได้ดังไปทั่วอาณาเขตบริเวณเเห่งนี้

  ทุกๆ พื้นที่ เต็มไปด้วยซากของสัตว์ป่าเหล่านี้ พวกมันเผชิญหน้ากับความตายที่โหดร้ายจากการถูกฆ่าอย่างทารุณ

  เเม้จะเผชิญหน้ากับสัตว์ป่าจำนวนมากเหล่านี้ฮัลค์ก็ได้รับบาดเเผลเพัยงดเล็กน้อยเท่านั้นพวกมันไม่สามารถผ่านการป้องกันของฮัลค์เข้ามาได้กรงเล็บของพวกมันสามารถสร้างได้เพียงเเค่รอยขีดข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ

   อ่อนเเอเกินไป!อ่อนเเอเกินไป! ฮัลค์ตะบบสัตว์ป่าเเละฆ่าพวกมันอย่างโหดร้าย

  ภายใต้สภาพเเวดล้อมที่เป็นถิ่นฐานของพวกมันเช่นนี้สัตว์ป่าพวกนี้ราวกับไม่เข้าใจ เหยื่อเพียงตัวเดียวสามารถที่จะทำให้สหายของพวกมันถูกฆ่าจำนวนมากนี่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่พวกมันเคยพบเคยเห็นมาก่อน

 

เปลี่ยนร่างฮัลค์

  ปั้ง!

  ฟุ่บ!~~

  บุฟ!~~

  เสียงเเตกต่างที่เกิดจากการต่อสู้ได้ดังติดต่อกันหลายครั้งมันเป็นการโจมตีของ กัปตันโรเจอร์ส เเละ เเดร์เดวิล ในเวลาต่อมา ซึ่งก็คือทั้งสองคนได้รุมโจมตีศัตรูที่ถูก เเส้สีทอง เเละ ใยเเมงมุม พันธนาการเอาไว้

  เเม้ว่าการโจมตีของทั้งสองจะรุนเเรงเเค่ไหนกลับไม่สามารถทำอันตรายอีกฝ่ายได้เลยเเม้เเต่น้อย

  ฟุ่บ!

   โจมตีโจมตี โจมตี! กัปตันโรเจอร์สเเละเเดร์เดวิล ได้โจมตีอย่างต่อเนื่อง ส่วนสไปเดอร์แมนก็ใช้ความยืดหยุ่นของตนเองในการปล่อยใยเเมงมุมเเละโจมตีศัตรูอย่างกระทันหัน

  อย่างไรก็ตามเเม้ใยเเมงมุมของปีเตอร์จะปล่อยออกมาจำนวนมากเเต่ผลกระทบเเละผลัพธ์ที่ได้กลับไม่ได้ใหญ่มากนัก เพียงพริบตาเดียว พันธนาการที่ผูกรัดเพื่อนคนนี้เอาไว้ก็เริ่มหลุดลอกมากขึ้น

  !

  ขณะที่สไปเดอร์แมนเข้าไปพัวพันกับการโจมตีเเฮร์รี่ เเละ ฟอลคอน ก็เตรียมการโจมตีพร้อมโดยสมบูรณ์ พริบตาต่อมา ขีปนาวุธขนาดจิ๋ว เเละ กระสุนเลเซอร์ หลายสิบนัดได้พุ่งโจมตีเข้าหาศัตรูทันที

  บึ้ม! ไอรีนโนเวล

  เปลวไฟได้ปรากฏขึ้นเเละล้อมรอบเพื่อนคนนั้น

   !!!!!!!!!   เพื่อนคนนี้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธเห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกเเย่มากภายใต้การโดนรุมโจมตีเหล่านี้

  ได้ยินเสียงโกรธของศัตรูกัปตันโรเจอร์ส ที่อยู่ไม่ไกล มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก เขารู้ว่าการโจมตีนี้ย่อมไม่สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้ ทั้งยังจะไปกระตุ้นให้อีกฝ่ายเอาจริงอีก

   กัปตัน!ระดับพลังงานภายในประตูมิติอวกาศกำลังเพิ่มสูงขึ้น! ขณะที่กัปตันโรเจอร์สถอยร่นเตรียมตั้งรับ เขาก็ได้ยินเสียง เจ้าหน้าที่ กล่าวอธิบายสถานการณ์

  ได้ยินเสียงเตือนเหล่านี้กัปตันโรเจอร์ส จ้องมองไปที่ ประตูมิติอวกาศ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับประตูมิติอวกาศที่จะนำพามาซึ่งภัยพิบัติเเล้วล่ะก็ กัปตันโรเจอร์สจะต้องทำลายมันไม่ว่าจะต้องจ่ายด้วยอะไรก็ตาม

  ด้านหลังกัปตันโรเจอร์สตามมาด้วย สไปเดอร์แมน,เเดร์เดวิล ฮอว์กอาย ฟอลคอน สตอร์ม เเละ เเจ็ค พวกเขาก็คิดเช่นเดียวกับกัปตันโรเจอร์ส หากมีสิ่งใดออกมาจากประตูมิติอวกาศอีก เขาจะต้องทำลายประตูมิติอวกาศนี้ทิ้งให้ได้

  ฟู่วว!

  ขณะที่พวกกัปตันโรเจอร์สให้ความสนใจกับการเปลี่ยนเเปลงของประตูมิติอวกาศเงาขนาดใหญ่ของสัตว์ประหลาดที่ราวกับปีศาจที่ออกมาจากนรกได้เดินออกมาจากกองไฟที่กำลังลุกไหม้ราวกับเปลวไฟเหล่านั้นไม่มีผลอะไรกับเขา

   ระดมการโจมตีอย่างเต็มที่! กัปตันโรเจอร์สตะโกนออกมาเเละ กระโดดพุ่งเข้าหาศัตรู

  หากศัตรูที่ออกมาเป็นเหมือนกับสัตว์ประหลาดตัวที่พวกเขาจะจัดการล่ะก็สถานการณ์มันจะยิ่งเเย่อย่างเเน่นอนดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้พวกเขามีเเต่จะต้องตัดสินใจทำลายประตูมิติอวกาศนี่้ซะ

  ขณะที่อีกฝั่งบนโลกกำลังเกิดเหตุการณ์อยู่ทางด้าน ดร.แบนเนอร์ เขากำลังศึกษาสิ่งเเวดล้อมของดวงดาวนี้เเละจดบันทึกอย่างตั้งใจ

  เนื่องเพราะสภาพเเวดล้อมองที่นี่มีความเเตกต่างกับโลกมากดร.แบนเนอร์ ไม่ได้มีโอกาสปล่อยครั้งที่จะศึกษาสิ่งเหล่านี้

  ขณะที่เขากำลังเดินเเละเก็บรวมรวบข้อมูลอย่างระวังเขาก็รู้สึกได้ถึงสัญญาณอันตรายบางอย่างเเละเเรงกดดันจำนวนมากที่ตรงมาจากทางด้านหลัง

   อ๊ะ! ดร.แบนเนอร์หันกลับไปพร้อมกับอุทานอย่างตกใจ

  ร่างกายที่บอบบางของดร.แบนเนอร์ ถูกโจมตีล้มลงอย่างกระทันหัน เสื้อผ้าของเขาถูกฉีกขาดจนเป็นรูขนาดใหญ่

  ดูเหมือนสิ่งที่โจมตีนั้นจะเป็นสิ่งมีชีวิตบางอย่างเป็นที่ชัดเจนว่าที่นี่มีความเเตกต่างกับโลกจริง สภาพอากาศของที่นี่ไม่เหมาะเเก่การใช้ชีวิตอย่างเเน่นอนหากมีสิ่งมีชีวิตที่สามารถอยู่รอดในที่เเห่งนี้ได้มันจะต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่เเข็งเเกร่งเพราะสามารถปรับสภาพเข้ากับสภาพเเวดล้อมได้สำเร็จ

  ระหว่างที่ดร.แบนเนอร์ ล้มลง เขาก็จ้องมองไปที่ สิ่งมีชีวิตที่ประหลาดเเละกรงเล็บที่เเหลมคมของมันมันได้เดินเข้าหาเขา เเละ พยายามจะใช้กรงเล็บนั่นโจมตีตนเอง สีหน้าของ ดร.แบนเนอร์ ย่ำเเย่อย่างมาก เเต่ว่าเพียงพริบตาเดียว ในประกายตาของเขาก็บังเกิดประกายเเสงสีเขียว

  !

  ผิวของดร. แบนเนอร์ เริ่มเปลี่ยนไปเป็นสีเขียวความกับขนาดตัวของเขาที่กำลังขยายใหญ่ขึ้น ขณะที่ สิ่งมีชีวิตนั้นใช้กรงเล็บโจมตี ดร.แบนเนอร์ มันก็พบว่ากรงเล็บของตนเองไม่สามารถเฉือนเนื้อของอีกฝ่ายได้ มันรู้สึกกดดันเเละหวาดกลัวกับเหยื่อรายนี้ทำให้มันคิดที่จะหลบหนีอย่างรวดเร็ว

   ฮัลค์! หลังจากการเปลี่ยนร่างสำเร็จฮัลค์ ได้ตะโกนออกมาอย่างรุนเเรง

 

ประสานงานร่วมโจมตี

  ไม่เเปลกที่เหล่าทีมพันธมิตรอเวนเจอร์ทีมX-MEN เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์จะหวาดกลัวอีกฝ่าย ด้วยร่างกายที่ทรงพลังที่สามารถทนทานการโจมตีจำนวนมากได้ หากมีคนเช่นนี้อยู่บนโลกจริง ๆ ตัวตนนี้ก็เพียงพอเเล้วที่จะกวาดล้างโลกทั้งใบได้

  เเม้เเต่โคลอสซัสชายร่างเหล็กที่มีพละกำลังทางกายที่เเข็งเเกร่งเพียงโดนการโจมตีเดียวเขาก็ตกอยู่ในสภาพบาดเจ็บรุนเเรงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ๆ เเล้วล่ะก็อาจถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็เป็นได้

  ดังนั้นทุกคนจึงให้ความสำคัญกับศึกครั้งนี้เเละศัตรูที่ปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าพละกำลังที่เเข็งเเกร่งนั่นหากพวกเขาประมาทคงไม่ใช่เเค่บาดเจ็บเเน่นอน

  การปรากฏตัวของเพื่อนคนนี้นำมาซึ่งความหวาดกลัวที่ฝังลึกเข้าไปในจิตใจของทุกคนพฤติกรรมที่อีกฝ่ายเเสดงให้เห็น บ่งบอกถึงตัวเเทนที่มาจากอารยธรรมระดับที่สูง หากอารยธรรมที่ว่านี้บุกโจมตีโลกจริง ๆ ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าโลกจะไม่ถึงคราวจุดจบ

  ฟู่ว

  เมื่อกัปตันโรเจอร์สเเละคนอื่นๆ จ้องมองไปที่การกระทำของของเพื่อนคนนี้ จู่ ๆ เพื่อนคนนี้ก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง เขาได้ก้าวเดินพร้อมกับขวานขนาดยักษ์นั่นด้วยท่าทีที่ไม่สนใจสิ่งใด

   ลงมือ! กัปตันโรเจอร์สตะโกนบอกคนอื่นๆ เเละ กล่าวสั่ง

  ไม่ว่าเพื่อนคนนี้จะทำอะไรปัจจุบันพวกเขาจะต้องร่วมมือร่วมใจกันป้องกันเเละหยุดเพื่อนคนนี้ให้ได้ นอกเหนือจากนี้ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรอยู่ด้านหลังประตูมิติอวกาศหรือไม่หรือกระทั่งความปลอดภัยของ ดร.แบนเนอร์ เองก็เช่นเดียวกัน

  เเม้ว่าดร.แบนเนอร์ จะยังมีชีวิตอยู่ข้างในนั้นจริง พวกกัปตันโรเจอร์สก็สามารถเลือกที่จะทำลายประตูมิติอวกาศนี้ได้ หากมันจะทำให้โลกต้องเกิดภัยพิบัติจริง ๆ การสูญเสียหนึ่งชีวิตเพื่อรักษาอารยธรรมโลกเอาไว้ ถือว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอย่างเเน่นอน เเต่อย่างไรก็ตามกัปตันโรเจอร์สไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ เขาไม่เพียงเเต่จะไม่ ทำลายประตูมิติอวกาศนั่นเเต่ยังจะต้องจัดการเพื่อนคนนี้ เพื่อช่วยเหลือ ดร.แบนเนอร์ ที่อยู่ข้างใน ไอลีนโนเวล

  !

  ทันทีที่เสียงของกัปตันโรเจอร์สส่งออกมาทุกคนก็เริ่มเคลื่อนไหวกันอีกครั้ง เนื่องจาก โคลอสซัสได้รับบาดเจ็บ สตอร์ม ที่อยู่ข้างกายเขาย่อมช่วยเหลือเเละคอยระวังอีกฝ่าย สำหรับสถานการณ์ทั่วไป เธอย่อมปฏิเสธที่จะรับคำสั่งคนนอก เเต่ในเมื่อนี่เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินการทำงานเป็นทีมย่อมสำคัญที่สุด

  ปั้ง

  สตอร์มได้ใช้พลังของเธอสร้างสายฟ้าที่เเข็งเเกร่งโจมตีไปที่ศัตรูจากระยะไกลเธอได้สนับสนุนเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ ในการโจมตีอีกฝ่าย เเม้การโจมตีนี้จะเข้าเป้าหมายโดยตรงเเต่ราวกับว่าอีกฝ่ายเเทบจะไม่ได้รับความเสียหายเเม้เเต่น้อย

  หลังจากสตอร์มลงมือฮอว์กอาย ได้เริ่มโจมตีมั้ง เเม้การโจมตีของเขาจะไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ เเต่ลูกธนูของฮอว์กอายก็ยังปักคาร่างกายของคนคนนี้ เเน่นอนว่าการโจมตีของเขาก็ต้องได้ผลบ้างไม่มากก็น้อย

  ฟุ่บ!

  ลูกธนูของฮอว์กอายที่ถูกยิงออกไปทันทีที่เกือบจะถูกศัตรูเพื่อนคนนี้ก็ได้ยกขวานขึ้นพร้อมกับผ่าลูกธนูนั่นออกเป็นเสี่ยง ๆ

  การโจมตีดังกล่าวเเทบจะทำให้เพื่อนคนนี้ไม่ได้ให้ความสนใจเขาเริ่มตอบโต้การโจมตีเเละพุ่งกระโดดเข้าหาคนอื่น ๆ ทันที

  เห็นสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นบุกโจมตีพวกตนเองเเจ็คได้สร้างเเส้สีทองหลายเส้นในการหยุดการเคลื่อนไหวอีกฝ่าย เเจ็คได้รับบาดเจ็บรุนเเรงเเละรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเเต่เพราะความอันตรายของเพื่อนคนนี้ทำให้ เเจ็คต้องสะกดข่มอาการบาดเจ็บเเละช่วยเหลือคนอื่น ๆ

  เเส้สีทองนั้นมีความยืดหยุ่นมากมันได้รัดกุมเเขนขาทั้งสี่ของเป้าหมายเเละผนึกการเคลื่อนไหวเอาไว้ทำให้เปิดโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ระดมการโจมตีเข้าใส่เป้าหมายอย่างเต็มกำลัง

  บึ้ม~~~~

  การโจมตีจำนวนมากได้ถาโถมเข้าใส่สัตว์ประหลาดยักษ์นั่นเเต่ว่ามันกลับไม่เป็นอะไร เเส้สีทองที่ยึดจับกุมมันไว้เริ่มที่สั่นไหวอย่างรุนเเรง

   เร็วเข้า! เพื่อรักษาเสถียรภาพของเเส้เวทมนตร์ที่เหลืออยู่เเจ็คตะโกนพูดออกมา

  ฟุ่บ!

  เห็นเเจ็คเเทบจะไม่สามารถฝืนใช้พลังได้ต่อเงาร่างสีเเดงก็พุ่งตรงไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับใยเเมงมุมสีเขียวที่ถูกพ่นออกมา

  ฟ้าว!

  ใยเเมงมุมที่มีความเหนียมเเละทนทานได้พันรอบตัวอีกฝ่ายปีเตอร์ ได้ใช้ทักษะไต่บนร่างกายของสัตว์ประหลาดร่างยักษ์นั่นจนวนรัดพันหลายรอบการประสานงานของปีเตอร์ด้วยใยเเมงมุมเเละเเส้เวทมนตร์ของเเจ็ค ถือเป็นพันธนาการจับกุมที่เหนี่ยวเเน่นที่สุด

  หลังจากเเจ็คเเละสไปเดอร์แมนลงมือจัดการเเขนขาทั้งสี่ของศัตรูจนขยับเขยื้อนไม่ได้กัปตันโรเจอร์ส เเละ เเดร์เดวิล ที่มาพร้อมกับ โล่กัปตันอเมริกา เเละ ใบดาบที่ออกมาจากไม้เท้าคลำทาง ได้พุ่งเข้าหาศัตรูในทันที

 

โคลอสซัสถูกซัดปลิว
ฟู่ววว
สายลมได้พัดพาฝุ่นเเละกลุ่มควันออกไปเผยให้เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าณ ตอนนี้
“เป็นไปได้ยังไงเจ้าบ้านั่น มันไม่เป็นอะไรเลย!”สิ่งที่ปีเตอร์รับรู้ก็คืออีกฝ่ายมีพละกำลังที่เเข็งเเกร่งมากเขาได้ใช้ขวานยักษ์นั่นส่งตัวเองจนบินลอยไปไกล ในตอนนี้ ทั้งปีเตอร์ เเละ กัปตันโรเจอร์ส ล้วนตกตะลึงที่เห็นอีกฝ่ายที่ถูกระดมโจมตีกลับไม่เป็นอะไรเเม้เเต่น้อย
ไม่ใช่เเค่ปีเตอร์เเละกัปตันโรเจอร์สเพียงเท่านั้นเเม้เเต่ เเดร์เดวิล เเละ คนอื่น ๆ ก็รู้สึกตื่นตะลึงโดยสมบูรณ์ เมื่อครู่ พวกเขาได้ระดมการโจมตีเเทบจะเรียกได้ว่าในโลกนี้ไม่มีกองกำลังพันธมิตรไหนที่จะมีประสิทธิภาพโจมตีร่วมกันรุนเเรงได้มากขนาดนี้เเล้ว
อย่างไรก็ตามร่างโครงกระดูกของอีกฝ่ายราวกับไม่เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อนนอกเหนือจากตำเเหน่งทรวงอกที่มีลูกธนูปักบาดเเผลอื่น ๆ ก็ไม่มีเลยเเม้เเต่น้อย
“ฉันจัดการเอง!”หลังจากฟื้นสติกลับมาได้โคลอสซัสคำรามออกมา เเละ พุ่งเข้าใส่ทันที
ความสามารถของเขาเป็นความสามารถทางกายภาพที่ใช้ต่อสู้ระยะไกลธรรมชาติเขาจะต้องพุ่งเข้าใส่ศัตรูเเละอีกฝ่ายดูเหมือนจะมีค่าพละกำลังทางกายที่สูงน่าจะเป็นสายต่อสู้ระยะประชิดเหมือนกับตัวเอง
ฟุ่บ~
“ระวังด้วยโคลอสซัส!”เห็นโคลอสซัสวิ่งนำหน้าพวกเขาขึ้นไป สตอร์ม ที่อยู่ไม่ไกล ได้ตะโกนบอก
ไม่รู้ว่าสตอร์มเห็นอะไรเเต่เธอสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดาเลยเพราะอีกฝ่ายสามารถป้องกันการโจมตีทั้งหมดจากพวกเธอได้โดยไม่เป็นอะไร ลำพังกำลังของโคลอสซัสคนเดียวคงจะไม่สามารถต่อกรอีกฝ่ายได้
ปั้ง! ไอรีนโนเวล
พริบตาต่อมากำปั้นของโคลอสซัสก็พุ่งตรงไปที่หน้าของศัตรูสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็คืออีกฝ่ายได้ยกขวานยักษ์นั่นขึ้นมาป้องกันอย่างง่ายดายทั้งร่างกายยังไม่ได้ผลกระทบเเม้เเต่น้อยราวกับต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีที่ไม่โอนเอนตามลมตามพายุที่ซัดเข้าหา ทันทีที่อีกฝ่ายป้องกันการโจมตีได้ทั้งยังรับได้แบบชิว ๆ สีหน้าของทุกคนกลายเป็นบึ้งตึงอีกทั้งยังสัมผัสได้ถึงอันตรายที่เสียบเเทงหัวใจข้างใน
“รับนี่ไปซะ!”เห็นการโจมตีของตนเองไม่ได้ผลโคลอสซัสได้ยกหมัดอีกข้างพุ่งโจมตีตอบโต้ในทันที
ปั้ง!
หมัดของโคลอสซัสได้ซัดเข้าหน้าบนใบหน้ายักษ์ของอีกฝ่ายเเต่ร่างกายของอีกฝ่ายเเข็งเเกร่งเเละหนักหน่วงมากเเทบจะไม่มีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นเลยเเม้เเต่น้อยขณะเดียวกันขวานยักษ์ของอีกฝ่าย ก็ถูกยกขึ้นมาพร้อมกับเหวี่ยงฟาดไปที่ร่างของโคลอสซัสจนร่างเหล็กของโคลอสซัสบุบเเละพุ่งบินลอยไปไกล
ตุบ~~
ร่างขนาดใหญ่ของโคลอสซัสได้บิดเบี้ยวกลับหัวกลับหาเสียการควบคุมชั่วคราวตกจากความสูงเเละความเร็วเช่นนี้ ย่อมได้รับบาดเจ็บหนักเเน่นอน หากร่างกายของโคลอสซัสเป็นเหมือนคนธรรมดา คาดว่าน่าจะตกตายจากการโจมตีนี้ไปเเล้ว

“เฮ้….”ปีเตอร์ที่เห็นพี่ใหญ่คนนี้บินมาตกใกล้ตนเองเขารีบเข้าไปดูอาการทันที
“เฮ้,โคลอสซัสนายไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”หลังจากปีเตอร์เข้ามาดูอาการ สตอร์ม เอง ก็ตามมาติด ๆ เธอจ้องมองไปที่เขาด้วยความกังวล
เหตุผลที่เมื่อครู่สตอร์มเตือนโคลอสซัส ก็เพราะ เธอสัมผัสได้ว่าประตูมิติอวกาศนั่นมีการเปลี่ยนเเปลงอะไรบางอย่างจากนั้นโคลอสซัสก็ถูกซัดโจมตีกลับมาอย่างเสียท่า
“เเค่กๆ ยังไม่ตายหรอกน่า!”โคลอสซัสยก มือกุมหน้าอกของตัวเองเเละไอออกมาอย่างรุนเเรง
“ทางที่ดีนายควรจะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ระยะประชิดจะดีกว่า!”จ้องมองไปที่โคลอสซัส สตอร์ม มีสีหน้าที่ย่ำเเย่อย่างมาก
สถานการณ์ของพวกเขาในตอนนี้เข้าขั้นเรียกได้ว่าย่ำเเย่อย่างเเท้จริงผู้นำของทีม X-MEN คราวนี้ อย่างไอซ์แมน ก็ไม่อยู่ด้วย
“ให้ฉันพักฟื้นซักหน่อยน่าจะหายดี…”ได้ยินคำพูดของสตอร์มโคลอสซัส กล่าวตอบ
ก่อนหน้านี้โคลอสซัสก็เห็นการเปลี่ยนเเปลงของประตูมิติอวกาศเหมือนกัน ก่อนที่ตัวเขาจะถูกซัดโจมตีเเละถูกส่งลอยออกมา ตัวเขาเองไม่เเปลกใจเลยที่อีกฝ่ายมีพละกำลังที่เเข็งเเกร่งเเละซัดตัวเองลอยมาไกลแบบนี้ เพราะเเม้เเต่การโจมตีของทุกคนอีกฝ่ายยังเเทบจะเรียกว่าไร้บาดเเผล
ในเวลานี้กัปตันโรเจอร์ส เเละ ทุกคนได้จ้องมองไปที่ ด้านหน้าของประตูมิติอวกาศ นอกเหนือจาก สัตว์ประหลาดยักษ์เบื้องหน้าเเล้ว พวกเขาหาได้สนใจสัตว์ประหลาดตัวอื่นไม่ เพราะเขาเชื่อว่าตัวการสำคัญก็คืออีกฝ่าย
ความสามารถทางร่างกายที่เเข็งเเกร่งมากกว่ามนุษย์พละกำลังที่ยากจะจินตนาการสิ่งเหล่านี้ทำให้พวกกัปตันโรเจอร์สคิดสงสัยทำไมศัตรูที่น่าเกงขามเช่นนี้ถึงมาปรากฏตัวขึ้นที่อารยธรรมที่เเสนจะอ่อนเเอที่เรียกว่าโลก

ร่วมกำลังกันโจมตี
ฟู่วว!
คลื่นลมที่รุนเเรงกวาดไปทั่วสนามรบเเห่งนี้ใครกันจะคิดว่าจุดประสงค์เดิมที่มาเพื่อศึกษาค้นหาลูกบาศก์เวทมนตร์จะชักนำสงครามที่อันตรายแบบนี้มาให้
การปรากฏตัวขึ้นของสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์ขนาดยักษ์ได้สะกดสายตาของทุกผู้คนเเฮร์รี่ สตอร์ม เเละ คนอื่น ๆ ที่จัดการสัตว์ประหลาดตนอื่นอยู่ได้สังเกตุเห็นตัวตนเเห่งภัยพิบัติที่กำลังเผชิญหน้ากับกัปตันโรเจอร์ส
ปั้ง!
เพียงพริบตาเดียวเบื้องหน้าสายตาของเขาเงาร่างของคนสองคนได้ถูกซัดกระเด็นลอยไปไกลเห็นได้ชัดว่าเจ้าของหนึ่งในเงาร่างนี้เป็นใคร เขาก็คือ กัปตันโรเจอร์ส ที่ถูกขวานยักษ์นั่นซัดโจมตีมา เเม้เขาจะป้องกันด้วยโล่เเต่ก็ได้รับบาดเจ็บหนัก
ส่วนเจ้าของเงาร่างอีกเงาก็คือปีเตอร์ สไปเดอร์แมน สีหน้าของเขาตอนนี้ย่ำเเย่มาก เมื่อครู่สัญชาตญาณเเมงมุมของเขาร้องเตือนให้รีบไปช่วยเหลือ กัปตันโรเจอร์ส ดังนั้นเมื่อครู่เขาจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือกัปตันจนถูกซัดกระเด็นลอยมาไกล หากไม่ได้สไปเดอร์เเมนช่วย กัปตันโรเจอร์สคงไม่ใช่เพียงเเค่ได้รับบาดเจ็บหนักอย่างเเน่นอน
“เเค่ก!”กัปตันโรเจอร์สไอออกมาเป็นเลือดเขาได้ถ่มน้ำลายทิ้งทันที
จ้องมองไปที่ศัตรูที่สวมชุดเกราะโครงกระดูกทั้งตัวกัปตันโรเจอร์สรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากหากไม่ได้การช่วยเหลือจาก เเจ็ค เเละ สไปเดอร์แมน เขาคงจะถูกฆ่าไปเเล้วสองรอบ เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงโจมตีตนเอง ทั้งที่เขาพยายามจะสื่อสารด้วย เเต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่มีท่าทีจะญาติดีเช่นนั้นทำให้ผลที่ตามมาไม่เป็นอย่างที่เขาคิด Aileen-novel
เห็นสถานการณ์ทางด้านกัปตันโรเจอร์สไม่ค่อยดีคนอื่น ๆ นอกเหนือจากเขาพยายามรีบกำจัดเเละละทิ้งศึกในการจัดการสัตว์ประหลาดเหล่านั้นเเละรีบมาช่วยเหลือกัปตันโรเจอร์ส
!
จากนั้นนอกเหนือจากกัปตันโรเจอร์ส สไปเดอร์แมน ที่ถูกส่งลอยไปไกล คนอื่น ๆ ได้มายืนหน้าประตูมิติอวกาศทุกคน สัตว์ประหลาดเบื้องหน้านี้ร้ายกาจเกินไปมันไม่ใช่สิ่งที่กำลังของคนคนเดียวจะสามารถต่อกรได้
ฟุ่บ!
ฮอว์กอายได้ซุ่มยิงอีกฝ่ายจากระยะไกลด้วยลูกศรของเขานี่เป็นครั้งเเรกที่พวกเขาได้เผชิญหน้ากับตัวตนจาการอารยธรรมอื่นที่เป็นมนุษย์ต่างดาว
นอกเหนือจากฮอว์กอายเเล้วฟอลคอน เเละ คนอื่น ๆ ก็ทำเช่นเดียวกัน เเต่การโจมตีเหล่านี้มีผลประสิทธิภาพเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ศัตรูมีร่างกายที่เเข็งเเกร่งกระทั่งอาจจะเหนือกว่าฮัลค์ด้วยซ้ำ ในปัจจุบัน ทั้ง องค์กร S.H.I.E.L.D. ทีมอเวนเจอร์ส ทีม X-MEN เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ได้ร่วมผนึกกำลังกันโจมตี
ปั้ง
บึ้ม!
เปลวเพลิงได้เผาไหม้พื้นที่รอบๆ ประตูมิติอวกาศจนปกคลุมไปทั่วร่างของสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์
ในขณะที่เปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ลงไม่มีใครรู้ว่าสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์นั้นยังคงไม่ได้ถูกกำจัดมันยังคงยืนอยู่ภายในั้น
สิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์นี้ได้เข้าโจมตีทุกคนที่อยู่ใกล้ซึ่งเเดร์เดวิลได้ตกเป็นเป้าหมาย ด้วยพละกำลังความเร็วที่เเตกต่างเป็นไปไม่ได้ที่เเดร์เดวิลจะหลบหลีกได้ทัน โชคดีที่สนามรบมีการช่วยเหลือของสไปเดอร์แมนอยู่ทำให้พวกเขาสามารถหลบหลีกการโจมตีได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น
“สไปเดอร์แมนนายไม่เป็นอะไรนะ!”เห็นสไปเดอร์แมนช่วยเหลือตนเอง เเดร์เดวิล กล่าวถามอีกฝ่ายเพราะก่อนหน้านี้ สไปเดอร์แมนได้ถูกซัดกระเด็นไปไกล
“ไม่เป็นไรฉันยังสู้ไหว!”ปีเตอร์สะกดข่มอาการบาดเจ็บของตนเองเเละกล่าวตอบในใจของเขายังรู้สึกยินดีอยู่ไม่น้อยเพราะตนเองได้ช่วยเหลือวีรบุรุษของโลกอย่างกัปตันอเมริกาเอาไว้ได้
ได้ยินคำตอบของสไปเดอร์แมนเเดร์เดวิลได้หันไปหากัปตันโรเจอร์สที่อยู่ด้านข้าง
สถานการณ์ในตอนนี้ย่ำเเย่อย่างมากพวกเขาเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด
“กัปตัน,คุณโอเคมั้ย”เเดร์เดวิลกล่าวถามอาการของกัปตันโรเจอร์สเขารู้ดีว่าพละกำลังร่างกายของกัปตันโรเจอร์สเเข็งเเกร่งขนาดไหน เเต่ศัตรูนั้นมีพละกำลังมหาศาลอย่างเเท้จริง
“ฉันคิดว่าซี่โครงน่าจะหักสองสามซี่!”ได้ยินคำถามของเเดร์เดวิล กัปตันโรเจอร์ส ตอบกลับทันที
โชคดีที่ร่างกายของกัปตันโรเจอร์สเเข็งเเกร่งซี่โครงสองสามซี่ย่อมไม่ได้สร้างอาการบาดเจ็บให้กับเขามากนัก เเต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามามัวคิดเรื่องนี้ พวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย
“พวกมันเป็นใครกันทำไมถึงปรากฏตัวขึ้นเเละจู่โจมพวกเรา?”ปีเตอร์กล่าวถามอย่างสงสัยอีกฝ่ายปรากฏตัวขึ้นเเละโจมตีกัปตันโรเจอร์สอย่างไร้เหตุผล
ปั้ง
ฟุ่บ~~
ได้ยินคำถามของสไปเดอร์แมนเเน่นอนว่าทั้งกัปตันโรเจอร์สเเละเเดร์เดวิลไม่รู้จะตอบอย่างไรดีเดิมคำถามพวกนี้มันก็อยู่ในใจของพวกเขาเเม้เเต่ตัวพวกเขาเองยังไม่รู้คำตอบเลยขณะที่พวกเขากำลังครุ่นคิดจู่ ๆ เงาร่างขนาดใหญ่ก็ปรากฏออกมาจากกองเพลิงอีกครั้งสีหน้าของพวกเขาเผยให้เห็นใบหน้าเเห่งความกังวล

โจมตีกระทัน
หลังจากที่เเดร์เดวิลเห็นเงาร่างของคนตัวใหญ่ผ่านประตูมิติอวกาศออกมาเช่นเดียวกัน กัปตันโรเจอร์ส บลิงก์ เเละ เเจ็ค ก็เห็นอย่างเเน่นอน ทั้งพวกเขายังอยู่ใกล้มากที่สุด เเต่ก็ไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อนเพียงหยังเชิงกันเท่านั้น ไอลีนโนเวล
ฟุ่บ!
ภายใต้สายตาการจ้องมองของคนหลายคนเงาร่างของคนตัวใหญ่ได้เดินออกมาจากประตูมิติอวกาศจนเผยให้เห็นรูปลักษณ์อย่างสมบูรณ์ลักษณะของคนคนนี้มีขนาดใหญ่โตมากกว่า โคลอสซัส เเละ สัตว์ประหลาดรูปแบบมนุษย์ที่โคลอสซัสกำลังต่อสู้อยู่ รูปร่างของเขาสูงใหญ่บนหัวสวมด้วยหมวกที่เป็นรูปลักษณะของโครงกระดูกผิวหนังของเขาเเลดูน่ากลัวทั้งยังมีหนามที่เเปลมคมปรากฏออกมามากมายด้านหลังของเขาคืออาวุธศึกขนาดใหญ่ขวานที่มีขนาดใหญ่ไม่น้อยไปกว่าร่างกายของเขา
เพียงเเต่การเเต่งตัวของเพื่อนคนนี้คล้ายกับมนุษย์โลกทั้งรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายก็เเทบไม่ต่างไปจากมนุษย์ยกเว้นร่างกายที่เต็มไปด้วยผิวสีเทาเข้มหน้าตาอันอัปลักษณ์เเละลักษณะอันป่าเถื่อนของสัญชาตญาณสัตว์ร้าย
หลังจากออกมาจากประตูมิติอวกาศคนคนนี้ก็จ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดจำนวนมากที่ถูกฆ่าตายภายใต้สายตาของเขา เขาได้กวาดผ่านไปทั่วทุกคน เเต่ก็ไม่ได้ลงมืออะไร จนในที่สุดสายตาของเขาก็สะดุดเข้ากับ กัปตันโรเจอร์ส บลิงก์ เเละ เเจ็ค
”@ #% & ; @% # * & ; …… ”จ้องมองไปที่ทั้งสามคนเพื่อนตัวใหญ่คนนี้ได้เปิดเปลือกปากที่เหี่ยวเฉาเเละพูดอะไรบางอย่างที่พวกเขาไม่สามารถฟังออก
ได้ยินเพื่อนมนุษย์ต่างดาวคนนี้เปิดปากพูดพวก กัปตันโรเจอร์ส จ้องมองไปที่อีกฝ่ายด้วยดวงตาที่เป็นประกาย ปัจจุบัน พวกเขาไม่เข้าใจว่าเพื่อนคนนี้ต้องการจะสื่ออะไร เเต่ถ้าอารยธรรมทั้งสองสามารถเเลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้บางทีอาจจะสามารถหลีกเลี่ยงสงครามในครั้งนี้
“ฉันไม่เข้าใจว่าคุณพูดอะไรเเต่อย่างไรก็ตาม คุณจะสามารถช่วยหยุดการโจมตีจากเหล่าสัตว์ประหลาดพวกนี้ก่อนได้หรือไม่”กัปตันโรเจอร์สพูดพร้อมกับทำสัญลักษณ์มือเชิงบอก
เเม้ว่าโลกนี้ภาษาพูดจะมีมากมายนับไม่ถ้วนเเต่การสื่อสารโดยใช้ภาษามือมักจะได้รับการยกเว้น ดังนั้น กัปตันโรเจอร์สจึงเชื่อว่าตราบเท่าที่อีกฝ่ายไม่ใช่คนโง่ ย่อมสามารถเข้าใจเจตนารมณ์ที่เขาต้องการจะสื่อได้
หลังจากที่กัปตันโรเจอร์สเปิดปากพูดอีกฝ่ายเพียงจ้องมองมาที่เขาทั้งยังไม่ได้ตอบสนองอะไร
ในช่วงที่กัปตันโรเจอร์สรู้สึกผ่อนคลายจิตใจจนคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะเข้าใจเจตนารมณ์ที่ตนเองต้องการจะสื่อจู่ ๆ อาวุธด้านหลังของคนร่างยักษ์คนนั้นก็ถูกหยิบออกมาทั้งพุ่งโจมตีไปที่กัปตันโรเจอร์สในัทนที
เห็นขวานของศัตรูพุ่งเข้ามาที่ด้านหน้ากัปตันโรเจอร์สยกโล่ของตนเองขึ้นมาป้องกันอย่างรวดเร็ว
“เวรเอ้ย!”จ้องมองไปที่ขวานยักษ์ที่พุ่งเข้าหาตนเองเเม้กัปตันโรเจอร์สจะยกโล่ขึ้นมาป้องกันอย่างรวดเร็วเเต่เขาเชื่อว่าการตอบสนองของเขาย่อมไม่เพียงพอ
ปั้ง
ทันทีที่นั่นเกือบจะกระทบถูกโล่ของกัปตันโรเจอร์สจู่ ๆ บาเรียสีทองก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเขา ดูเหมือน เเจ็คจะลงมืออย่างรวดเร็สพร้อมกับสร้างบาเรียเวทมนตร์เพื่อปกป้องกัปตันโรเจอร์ส
บึ้ม!
เพียงพริบตาเดียวโล่สีทองที่เเจ็คสร้างขึ้นกลับสามารถถูกทำลายได้อย่างง่ายดายมันไม่สามารถหยุดการโจมตีของขวานยักษ์นั่นได้
เห็นโล่สีทองของตนเองเเตกสลายลงคลื่นพลังเหล่านั้นได้ส่งผลให้กัปตันโรเจอร์สกระเด็นถอยไปเเม้การป้องกันของตนเองจะถูกทำลายอย่างน้อยเขาก็ยังสามารถช่วยเหลือกัปตันโรเจอร์สเอาไว้ได้
“เกือบไปเเล้ว!”เห็นโล่สีทองที่ปกป้องตนเองถูกทำลายกัปตันโรเจอร์สกลืนน้ำลายอย่างหนักหน่วงเมื่อครู่นี้เเม้เขาจะยกโล่ขึ้นมาได้ทันเเต่หากถูกการโจมตีนั่นเข้าไปเขาจะต้องถูกสับทะลุหน้าอกอย่างเเน่นอน
คลื่นเเรงหวดอันทรงพลังของขวานยักษ์นั่นสร้างกระเเสลมที่ปั่นป่วนไปทั่วสนามรบจนเเม้เเต่คนที่อยู่ห่างไกลก็ยังสามารถสัมผัสได้
~~~~
กัปตันโรเจอร์สได้ถอยร่นออกไปยังตำเเหน่งที่อยู่ไม่ไกลจากอีกฝ่ายก่อนที่สายตาของเขาจะจดจ้องการเคลื่อนไหวของศัตรูอย่างไม่ละสายตา
….

สิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์
ความรู้สึกไม่สบายใจได้เเพร่กระจายไปทั่วหัวใจของกัปตันโรเจอร์ศเขาได้โบกมือออกคำสั่งอย่างเต็มที่”จัดการพวกนี้อย่าให้เหลือเราจำเป็นจะต้องปิดกั้นภูมิภาคเเห่งนี้!”
ไม่ว่าประตูมิติอวกาศจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตามกัปตันโรเจอร์ส ตั้งใจจะปิดกั้นพื้นที่ภูมิภาคเเห่งนี้ สัตว์ประหลาดจำนวนมาก ได้เริ่มถูกจัดการลงอย่างรวดเร็ว ภายใต้การร่วมมือกันระหว่าง S.H.I.E.L.D. ทีม X-MEN เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ด้วยขุมกำลังระดับนี้พวกเขาสามารถปิดกั้นที่นี่ได้อย่างสมบูรณ์หากมีอะไรเกิดขึ้นพวกเขาก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
หลังจากที่กัปตันโรเจอร์สออกคำสั่งจัดการสัตว์ประหลาดพวกนี้ทั้งหมดเเดร์เดวิล เเละ คนอื่น ๆ ก็เริ่มลงมืออย่างจริงจัง ทีมX-MEN เองก็เข้าร่วมต่อสู้ การจัดการปัญหาของพวกเขาเเทบจะไม่ได้เป็นรององค์กร S.H.I.E.L.D. เลย
สำหรับเเจ็ค เเละ บลิงก์ พวกเขาทั้งคู่ อยู่ใกล้ประตูมิติอวกาศมากที่สุด เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประตูมิติอวกาศพวกเขาตัดสินใจที่จะเป็นทัพหลังเฝ้าอยู่ที่นี่
นอกเหนือจากกัปตันโรเจอร์ส เเจ็ค เเละ บลิงก์ สามคน ที่เฝ้าอยู่ทัพหลัง สมาชิกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ เเดร์เดวิล เเละ เเฮร์รี่ ได้ปกป้องเช่นทางด้านหน้า โชคดีที่สัตว์ประหลาดเหล่านี้ไม่ได้เเข็งเเกร่งมากพวกเขาจึงจัดการได้อย่างง่ายดาย ทางด้านทีม X-MEN สตอร์ม เเละ โคลอสซัส พวกเขาได้ปกป้องเส้นทางด้านหลังเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ประหลาดพวกนี้หนีไป นอกเหนือจากนี้ยังมี ฮอว์กอาย เเละ ฟอลคอน คอยสังเกตุการณ์ศัตรูเเละสนับสนุน
ฟุ่บ!
จากนั้นไม่นานก็มีสัตว์ประหลาดรูปร่างมนุษย์ปรากฏตัวขึ้นขนาดของมันใหญ่อย่างมากพละกำลังเเละความเเข็งเเกร่งของมันเองก็ไม่ธรรมดามันได้จัดการสมาชิกทีมS.H.I.E.L.D. ไป เเละ มุ่งหน้าไปยังทิศทางของ โคลอสซัส
โคลอสซัสจ้องมองไปยังทิศทางของ สัตว์ประหลาดรูปร่างมนุษย์ตนนี้ เขาต้องการเผชิญหน้ากับมันจนสั่งให้ สตอร์มถอยออกไป ธรรมชาติศัตรูที่มีพละกำลังทางกายจะมีพลังป้องกันที่เเข็งเเกร่งหน้าที่นี้มันเหมาะกับเขาที่มีความสามารถทางกายมากกว่า
ฟุ่บ!
“เเดร์เดวิลยังติดต่อมิราจไนท์ไม่ได้อีกหรอ”ขณะที่เเฮร์รี่ไล่ยิงพวกสัตว์ประหลาดเหล่านี้โดยใช้อาวุธปืนบนเครื่องร่อน เขาก็กล่าวถาม เเดร์เดวิล
เเฮร์รี่ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้เพราะต้องการช่วยเหลือเเจ็คสันเเต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะต้องมารับศึกหนักกับการเผชิญหน้าพวกสัตว์ประหลาดจำนวนมาก โชคดีที่ร่างกายของเเฮร์รี่ เเข็งเเกร่งเพราะยายีนพิเศษ เเละ เพราะมีเทคโนโลยีชุดเกราะจากออสคอร์ปทำให้เเฮร์รี่สามารถร่วมศึกต่อสู้ในครั้งนี้ได้
“ฉันไม่สามารถติดต่อหาเขาได้อย่างไรก็ตามฉันให้ เจอร์รี่ ตรวจสอบตำเเหน่งของมิราจไนท์เเล้ว ทั้งยังให้ J.A.R.V.I.S ไอรอนแมน ตรวจสอบเพิ่มด้วยอีกคน”เเดร์เดวิลตอบกลับคำถาม
การที่มิราจไนท์หายตัวไปเเดร์เดวิล ก็ชักเริ่มเป็นกังวลเหมือนกัน
“นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย!เเม้ว่าสัตว์ประหลาดพวกนี้จะไม่เเข็งเเกร่งมากนัก เเต่ทันทีที่มิราจไนท์จากไปไม่นาน พวกมันก็ปรากฏตัวขึ้นราวกับมีจุดประสงค์บางอย่าง!”
“นายจะบอกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เป็นเพราะการจากไปของมิราจไนท์งั้นหรอ”เเดร์เดวิลได้จัดการสัตว์ประหลาดสองตัวก่อนที่จะกล่าวตอบกลับเเฮร์รี่ในปัจจุบันเขาก็ชักสงสัยเเล้วว่ามิราจไนท์มีความลับอะไรกันเเน่ มีเรื่องหลายอย่างที่เขาไม่รู้เกี่ยวกับอีกฝ่ายมากเกินไป
“ไม่…คงไม่ใช่แบบนั้นเขาคงไม่ใช่ตัวซวยเหมือนเดดพูล!”เเดร์เดวิลพึมพัมในใจ
ในสายตาของเขามองเห็นเงาร่างบางอย่างออกมาจากประตูมิติอวกาศคราวนี้ประตูมิติอวกาศได้ส่งคลื่นความผันผวนรุนเเรงมากกว่าเดิมทั้งยังส่งผลให้พวกเขารู้สึกกดดันอย่างมาก
คราวนี้ในประตูมิติอวกาศได้ปรากฏสัตว์ประหลาดในสิ่งมีชีวิตรูปแบบมนุษย์
หลังจากที่ทีมX-MEN ค้นพบ ประตูมิติอวกาศนี้ จนถึงตอนนี้เวลาล่วงเลยผ่านไปราว 10 ชั่วโมง ความเสถียรภาพของประตูมิติอวกาศยังอยู่ดีเเต่สิ่งที่ต่างออกไปคือการปรากฏตัวของสัตว์ประหลาดพวกนี้
เเต่คนที่เสี่ยงมากที่สุดก็คือดร.แบนเนอร์ ที่อยู่ข้างในนั้น เขาได้ถูกส่งออกไปยังต่างโลกเป็นโลกที่เต็มไปด้วท้องฟ้าเเละดวงดาว ตอนนี้ไม่มีใครสามารถติดต่อเขาได้ ทั้งยังต้องพัวพันจัดการสัตว์ประหลาดพวกนี้อีก หากในสถานที่เเห่งนี้ ไม่มีขุมกำลังพันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่อย่างเช่น S.H.I.E.L.D. ทีมX-MEN เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ สถานที่เเห่งนี้คงถูกทำลายไปเเล้วอย่างเเน่นอน
เเต่อย่างไรก็ตามสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกพวกมันน่าจะมาจากต่างดาวในปัจจุบันพวกมันราวกับสัตว์ป่าดุร้ายที่น่าหวาดกลัว หากโลกไม่พัฒนาอารยธรรมให้เเข็งเเกร่งมากขึ้น ในอนาคต โลก คงไม่พ้นชะตาจากการถูกทำลาย

ฝูงสัตว์ประหลาดที่ปรากฏตัวอย่างกระทันหัน
หลังจากตกลงกันได้เเล้วว่าจะทำอย่างไรเพื่อพิสูจน์เวลาผ่านไปไม่นานเเจ็คสันได้นั่งรอฟื้นคืนพลังจิตของตนเองให้กลับมาเหมือนเดิมคราวนี้เขาตั้งใจจะจับคลื่นความผันผวนนั่นเเละระบุตำเเหน่งของมันให้ได้ ไม่นาน เเจ็คสันก็หลับตาลงอีกครั้งพร้อมกับปล่อยพลังจิตให้เเล่นผ่านออกไปยังพื้นที่โดยรอบ โดยมี ไอซ์แมนคอยเฝ้าระวังให้
ฟุ่บ!
ขณะที่เเจ็คสันเร่งระดับพลังจิตถึงขีดสุดไอซ์แมน ก็เปิดพื้นที่อาณาเขตเยือกเเข็งของตนเองเหมือนกัน
ฟู่ววว!
ไม่นานห่างไม่ไกลจากพวกเขา คลื่นความผันผวนบางอย่างก็ได้เริ่มปรากฏขึ้นภายใต้การรุกรานของเเจ็คสัน มันได้ปล่อยคลื่นพลังโจมตีสวนกลับออกมา
“!”เห็นระลอกคลื่นพลังงานสีฟ้าถูกปล่อยออกมายังตำเเหน่งของพวกเขาอย่างกระทันหันไอซ์แมน จ้องมองไปที่มันด้วยยความตกใจ ผลกระทบของคลื่นความผันผวนนี้เเน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะป้องกัน
“ในที่สุดก็เผยตำเเหน่งออกมา!ไอซ์แมน ต้องพึ่งคุณในการป้องกันเเล้ว!”เห็นไอซ์แมนเตรียมพร้อม เเจ็คสัน ได้กล่าวพูดออกมาอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน คลื่นความผันผวนนี้เเข็งเเกร่งมาก เเจ็คสัน รู้ว่า ท่าป้องกันของไอซ์แมนนั้นสามารถป้องกันการโจมตีนี้ได้
ฟุ่บ!
ได้ยินคำพูดของไอซ์แมนผลึกเยือกเเข็งรอบตัวของไอซ์แมนได้หนาขึ้นก่อนที่อุณหภูมิโดยรอบจะลดตัวลงจนก่อสร้างบาเรียน้ำเเข็งขึ้นมาล้อมรอบ ไอซ์แมน เเละ มิราจไนท์อยู่ด้านใน
เห็นบาเรียน้ำเเข็งของไอซ์แมนปกคลุมไปรอบพื้นที่ที่ตัวเองอยู่เเจ็คสันเตรียมพร้อมที่จะรับเเรงปะทะจากการโจมตีของคลื่นพลังนี้
เปรี้ยง!
เพียงเเค่ระยะเวลาสั้นๆ บาเรียกำเเพงน้ำเเข็งของตนเองก็ได้เเตกลงอย่างรวดเร็วทั้งมันยังคงพุ่งทำลายอย่างไม่หยุดยั้ง ไอซ์แมนได้พยายามสร้างกำเเพงน้ำเเข็งหนาหลายชั้นในการทบมันเพื่อต้านทานการโจมตีจนเขารู้ว่ามันใกล้จะเกินขีดจำกัดตนเองเเล้ว
“ฉันต้านมันไว้ไม่อยู่เเน่!มิราจไนท์ คุณต้องทำอะไรสักอย่างเเล้ว!”เห็นกำเเพงบาเรียน้ำเเข็งของตนเองถูกลายอย่างต่อเนื่อง ไอซ์แมนตะโกนบอก มิราจไนท์
ฟุ่บ!
ทันทีที่ไอซ์แมนตะโกนออกมาชั้นน้ำเเข็งด่านปราการสุดท้ายก็ไม่สามารถต้านทานคลื่นพลังนั้นได้อีกมันได้พุ่งเข้าหาพวกเเจ็คสันโดยตรง
“คุณจะทำอะไรต้องรีบทำเเล้วตอนนี้”เห็นชั้นน้ำเเข็งหายไปไอซ์แมน พึมพัมออกมาอย่างกังวลตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก
!
ขณะเดียวกันเเจ็คสันก็ได้หยิบดาบสปิริตซอร์ดของตนเองออกมาพร้อมกับเเสงสีฟ้าที่ทอประกายบนใบดาบเห็นกำเเพงน้ำเเข็งของไอซ์แมนถูกทำลายเเจ็คสันได้รวบรวมคลื่นพลังเเละปลดปล่อยมันออกไป
“หายไปซะ!”เเจ็คสันตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ฟวั่บ!
คลื่นพลังของเเจ็คสันได้สั่นสะเทือนคลื่นพลังความผันผวนเหล่านั้นจนทำลายมันได้ไปในที่สุดหลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์วิกฤติในตอนนี้ไปเเขนขาของไอซ์แมนก็รู้สึกสั่นสะท้าน ในปัจจุบันร่างกายชั้นน้ำเเข็งของเขาได้ลอกเเตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เนื่องเพราะเขาฝืนใช้พลังมากเกินไป

ในขณะที่เเจ็คสัน เเละ ไอซ์แมน พบเหตุการณ์ฉุกเฉินในสถานที่ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร ในฐานของ S.H.I.E.L.D. ในปัจจุบันมีการระเบิดขึ้นภายในฐาน
ดูเหมือนว่าภายในฐานเองก็จะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นเหมือนกัน
ภายในฐานลำเเสงของปืนเลเซอร์จำนวนมากได้ถูกยิงออกไปยังรูปแบบสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่ไม่ใช่มนุษย์
“บ้าเอ้ย!พวกมันเร็วเกินไป ติดต่อทีม S ส่งพวกเขาไปป้องกันพื้นเอเรียที่ 8 กับ 9 !”เผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตลึกลบ กัปตันโรเจอร์ส กล่าวบอก ทีม K
“ครับ,กัปตัน!” ไอรีนโนเวล
“คนที่เหลือมากับฉันพวกเราจะต้องปิดกั้นพวกมัน!”
ทีมK รับฟังคำสั่งของ กัปตันโรเจอร์ส พร้อมกับติดตามกัปตันโรเจอร์สไปอย่างรวดเร็ว
เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเร็วมากเมื่อไม่นานนี้ประตูมิติอวกาศได้ส่งคลื่นความผันผวนพิเศษบางอย่างออกมาจากนั้นก็มีสิ่งมีชีวิตลึกลับปรากฏตัวออกมาบุกโจมตีฐานของS.H.I.E.L.D. ในทันที
โชคดีที่ที่เเห่งนี้ได้มีเหล่าผู้คนที่เเข็งเเกร่งจำนวนมากภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้พวกเขายังสามารถรับมือกับพวกมันได้
ปั้ง!
โล่ของกัปตันโรเจอร์สได้ถูกขว้างปาออกไปมันได้กระทบไปยังส่วนหัวของสัตว์ประหลาดเหล่านี้สัตว์ประหลาดเหล่านี้มีรูปร่างเหมือนสุนัขเเต่ตัวของมันกลับใหญ่กว่าเเละมีพละกำลังความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
เผชิญหน้ากับการโจมตีของสัตว์ประหลาดที่บ้าคลั่งเหล่านี้พวกเขาได้พยายามปกป้องฐานเเห่งนี้อย่างเต็มกำลัง เเม้ว่าจะสามารถฆ่าพวกมันไปได้มาก เเต่จำนวนของพวกมันราวกับไม่ได้ลดลงเลย
“เกิดอะไรขึ้นกับประตูมิติอวกาศกันเเน่!เเล้ว ดร.แบนเนอร์ จะเป็นยังไงบ้าง”กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศอย่างกังวลใจ
จู่ๆ ก็มีสัตว์ประหลาดเหล่านี้โผล่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้มาโจมตีฐานเเห่งนี้เเละพยายามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับประตูมิติอวกาศ กัปตันโรเจอร์สกังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นภายในนั้น

การเชื่อมต่อทั้งหมดถูกตัดขาด
ไอซ์แมนจ้องมองไปที่พื้นที่โดยรอบเเละสังเกตุความผิดปกติ
“เป็นไปไม่ได้ถ้าพวกเราตกอยู่ในพื้นที่มิติอวกาศปิดกั้นจริง พวกเราจะอยู่รอดปลอดภัยจนถึงตอนนี้ได้อย่างไร”ไอซ์แมนกล่าวถามออกมา
มิติอวกาศปิดกั้นคือหลักการทำงานของมิติอย่างหนึ่งตอนนี้ในทีมของพวกเขา บลิงก์ เเม้ตอนนี้เธอจะสามารถใช้ได้เพียงเเค่เชื่อมต่อพื้นที่มิติอวกาศเเละเปิดประตูไปสู่อีกมิติได้ เเต่ในอนาคตเธอย่อมสามารถสร้างพื้นที่มิติอวกาศปิดกั้นได้ ยังมีอีกกลุ่มคนที่สามารถใช้สิ่งเหล่านี้ได้ พวกนั้นก็คือเหล่าพ่อมด ธรรมชาติ พวกพ่อมดเหล่านี้สามารถบิดเบือนเเละเรียกมิติอวกาศปิดกั้นนี้ว่าโลกมิติกระจก
ดังนั้นไอซ์แมนจึงรู้รายละเอียดความสามารถของพื้นที่มิติออวกาศปิดกั้นดีหากมันเป็นอย่างที่มิราจไนท์บอกจริง ๆ สถานที่เเห่งนี้จะต้องไม่ปลอดภัยอย่างเเน่นอน เเม้ ตัวเขา กับมิราจไนท์ จะเเข็งเเกร่ง เเต่พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานคลื่นความผันผวนของมิติอวกาสปิดกั้นได้
“หากมันคือมิติอวกาศปิดกั้นจริงพวกเราคงจะถูกเเรงอัดของมิติอวกาศกดทับไปเเล้วไม่มีทางที่พวกเราจะอยู่รอดปลอดภัยอย่างเเน่นอน”ไอซ์แมนยังคงยืนยันคำเดิม
“ฉันรู้ว่าคุณไม่เชื่อฉันฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน เเต่นี่คือความจริง ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เเปลกคือทำไมเราถึงเข้ามายังพื้นที่มิติอวกาศปิดกั้นได้ หรือว่ามันจะเป็นเพราะลูกบาศก์เวทมนตร์?”เเจ็คสันขมวดคิ้วเเน่นกล่าวตอบ
เหตุผลที่เเจ็คสันสรุปเช่นนี้เป็นเพราะครึ่งชั่วโมงก่อนอหน้าเขาใช้พลังจิตในการสเเกนพื้นที่บริเวณเเถบนี้อย่างระวังธรรมชาติมันย่อมดูดกลืนพลังงานทางจิตของเขาอย่างมหาศาลเเม้จะสูญเสียพลังงานทางจิตไปมากเเต่เเจ็คสันก็ตระหนักได้ถึงความผันผวนที่รุนเเรงของพื้นที่จางๆ มันได้ถูกซ่อนอยู่ในเเต่ละตำเเหน่งของภูมิภาคเเห่งนี้
เเต่ในขณะที่เขาค้นพบเขากลับไม่สามารถตรวจสอบบริเวณนั้นได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เเจ็คสันสรุปได้ว่าตนเองหลุดเข้าไปในพื้นที่มิติอวกาศปิดกั้นทำให้ไม่สามารถตรวจจับหาคลื่นพลังงานความผันผวนที่ว่านี้ได้อย่างชัดเจน
“คุณบอกว่านี่เป็นผลมาจากพลังของลูกบาศก์เวทมนตร์งั้นหรอเช่นนั้นคุณพบลูกบาศก์เวทมนตร์เเล้วหรือไม่?”ไอซ์แมนกล่าวถาม
เขาเลิกสนใจที่ว่าตอนนี้ตนเองหลุดเข้ามาในพื้นที่มิติอวกาศปิดกั้นจริงหรือไม่เขาได้มุ่งเน้นคำถามไปที่ลูกบาศก์เวทมนตร์
“ยัง…”เเจ็คสันตอบกลับอย่างงุ่มง่าม
เเจ็คสันได้ค้นพบสถานที่เเปลกๆ ในพื้นที่เเห่งนี้อย่างเเท้จริง เเต่เขาไม่สามารถวิเคราะห์พื้นที่ความผันผวนเเละตรวจจับมันได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาติดเเหง็กอยู่แบบนี้เเละไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้
“ไม่ใช่ว่าคุณยังไม่สามารถยืนยันอะไรได้เลยไม่ใช่หรอเเม้เราจะอยู่ในพื้นที่มิติอวกาศปิดกั้นจริง เเต่พื้นที่เเห่งนี้ก็ราวกับว่าไม่มีอะไรส่งผลกระทบต่อเรา”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ ไอซ์แมน กล่าวตอบ
“ก็จริง!เเต่พวกเราก็เข้าใกล้ความเป็นจริงเเล้วอีกก้าว เเม้ในตอนนี้พวกเราจะยังไม่พบลูกบาศก์เวทมนตร์ เเต่ฉันมีลางสังหรณ์ว่าลูกบาศก์เวทมนตร์อาจจะอยู่เเถว ๆ นี้ก็เป็นได้”เเจ็คสันตอบกลับ
อันที่จริงเขารู้ว่าไอซ์แมนไม่สบายใจกับสิ่งที่เขาเพิ่งพูดออกไปเเต่มันคือความจริง นอกจากนี้ลางสังหรณ์ที่เขาหมายถึง เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันอยู่ตรงไหน
เเต่เขารู้ดีว่าในไม่ช้าลูกบาศก์เวทมนตร์จะต้องปรากฏขึ้น เนื่องจากพื้นที่ความผันผวนเเปลก ๆ ที่เขาสัมผัสได้นี้ มันจะดีมากหากเขาพบมันโดยเร็ว
“ลางสังหรณ์ ฉันเองก็เคยรู้จัก มิวแทนท์ ที่มีความสามารถในการทำนายออนาคต เเต่จริง ๆ เเล้วสิ่งเหล่านั้นก็ไม่ใช่ว่าจะถูกต้องเสมอไป”ไอซ์แมนเเสดงความคิดเห็น
“ก็จริง,เอาเถถอะยังไงสภาพเเวดล้อมที่นี่ก็เหมาะกับคุณมากที่สุด หากที่นี่คือพื้นที่มิติอวกาศปิดกั้นจริง ความสามารถของคุณถือเป็นจุดเเข็งในการพาพวกเราออกจากที่นี่!”เเจ็คสันตอบกลับ
ฟุ่บ!
ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ไอซ์แมนเพียงพยักหน้าตอบรับ
“J.A.R.V.I.S,นายตรวจพบอะไรไหม”ขณะที่นั่งลงบนพื้นที่หิมะ เเจ็คสันได้ กล่าวถามหา J.A.R.V.I.S, เป็นระยะเวลากว่าครึ่งชั่วโมงเเล้ว ที่เเจ็คสันได้ปลดปล่อยพลังจิตออกมา เเละ หลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงตอบรับจาก J.A.R.V.I.S, เลย
เเม้ว่าJ.A.R.V.I.S, จะไม่สามารถวิเคราะห์หรือตรวจพบสถานการณ์อะไร เขาก็น่าจะตอบกลับทันทีที่ได้ยินคำถาม
“หืมการเชื่อมต่อถูกตัดขาดงั้นหรอ?ทางด้านทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเละ ก็ S.H.I.E.L.D. “เเจ็คสันค้นพบว่าการเชื่อมต่อของเขาถูกตัดขาด
“ไอซ์แมนคุณสามารถติดต่อ ทีมX-MEN หรือ S.H.I.E.L.D. ได้หรือไม่”เเจ็คสันกล่าวถามไอซ์แมน
“ทำไมจะ….หืมไม่มีสัญญาณงั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ ไอซ์แมนได้พยายามลองติดต่อดูเเต่ก็พบว่าสัญญาณถูกตัดขาดเหมือนกัน
“พวกเราถูกตัดขาดสัญญาณดูเหมือนว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่จริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นมันเพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้!”เเจ็คสันพยายามติดต่อ J.A.R.V.I.S เเต่ก็ได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม

มิติอวกาศปิดกั้น
ดร.แบนเนอร์ยังปลอดภัยดีอยู่!”หลังจากเห็นข้อมูลเเละหุ่นยนต์ไร้คนขับที่กลับมากัปตันโรเจอร์สตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจ
จะบอกว่าเขารู้สึกโล่งอกก็ไม่เเปลกเพราะหากต้องสูญเสีย ดร.แบนเนอร์ ไปจริง ๆ มันไม่ใช่สิ่งที่จะยอมรับผลที่ตามมาได้โดยง่าย หาก ดร.แบนเนอร์ ยังปลอดภัยอยู่จริง เขาย่อมส่งข่าวผ่านหุ่นยนต์ไร้คนขับที่เหลืออยู่ข้างในนั้นได้
คนอื่นๆ ที่ได้ยินเสียงของกัปตันโรเจอร์ส เองก็รู้สึกผ่อนคลายเช่นเดียวกัน เเม้การสูญเสียนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกคนนึงไปในสายตาของพวกเขาจะดูรุนเเรง เเต่ก็ไม่สามารถเทียบกับชื่อเสียงสถานะของกัปตันโรเจอร์สได้
“ดร.แบนเนอร์เข้าไปข้างในอย่างปลอดภัย ดูเหมือนว่าตอนนี้คงจะไม่ต้องรีบเเจ้งมิราจไนท์เเล้วสินะ ว่าเเต่เขาเองก็หายตัวไปนานเหมือนกัน”เห็น ดร.แบนเนอร์ ปลอดภัย เเดร์เดวิล กล่าวถามหามิราจไนท์
“ไม่จำเป็นต้องกังวลหรอกเขาเพียงเเค่ออกไปเดินเล่นไม่มีทางที่จะเกิดอุบัติเหตุอย่างเเน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น คนของ ทีมX-MEN ไอซ์แมนก็อยู่กับเขาด้วย ความเเข็งเเกร่งของไอซ์แมนนั้นรุนเเรงมาก หากเจออันตรายจริง ๆ พวกเขาร่วมมือรับศึกนั้นได้อย่างไม่ยากเย็น”เห็นความกังวลของ เเดร์เดวิล เเจ็ค กล่าวด้วยน้ำเสียงปลอบใจ
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น,ฉันรู้สึกว่าจะมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้น!”

ขณะที่ฐานของฟุ่บ!
จ้องมองไปที่คลื่นประตูมิติอวกาศที่มั่นคงทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเเล้วเเต่ทำอะไรไม่ถูก ตั้งเเต่ที่ ดร.แบนเนอร์ ก้าวข้ามผ่านประตูมิติอวกาศไป โลกเเห่งนั้นก็คือสถานที่ที่เต็มไปด้วยดวงดาว ไม่มีใครรู้ว่ามีสิ่งใดซ่อนอยู่ข้างหลังประตูมิติอวกาศนี้กันเเน่
ทางด้านดร.แบนเนอร์ หลังจากหลุดเข้าไปยังพื้นที่ข้างในสิ่งที่เขาเห็นก็คือพื้นที่ทุ่งราบอันกว้างขวางนอกเหนือจากพื้นที่ทุ่งราบเหล่านี้ก็ไม่มีสิ่งใดอื่นอีก มีเพียงหุ่นยนต์ไร้คนขับที่ถูกส่งมาก่อนหน้านี้
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่”ดร.แบนเนอร์ถอนหายใจออกมา
จากนั้นดร.แบนเนอร์ ก็เดินไปเรื่อย ๆ เขามองเห็นชิ้นส่วนหินสีดำที่กระจัดกระจายจำนวนมาก
นอกเหนือจากนั้นดร.แบนเนอร์ ได้สำรวจตัวเองก็พบว่า สายเชื่อมต่อตนเองกับโลกได้ถูกตัดขาดออกจากกัน สีหน้าของ ดร.แบนเนอร์ ปรากฏความกังวลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คิดเอาไว้เเต่ ดร.แบนเนอร์ ก็ยังยึดมั่นทำตามเเผนเดิมคือการสำรวจพื้นที่โดยรอบเมื่อถึงเวลาเข้าค่อยกลับออกไป
“เเรงโน้มถ่วงของที่นี่กับโลกเเทบจะไม่เเตกต่างกันมากนักมันมากกว่าโลกเพียงเเค่ 1.3 เท่า … ดูเหมือนเครื่องมือถ่ายภาพทุกตัวที่นำมาจะเสียซะเเล้ว!”ดร.แบนเนอร์ ได้เข้าสู่จิตวิญญาณของนักวิทยาศาสตร์คนนึงว เขาเลื่อมใสที่นี่เเละเริ่มที่อยากจะศึกษาพวกมัน
เเม้สถานที่เเห่งนี้จะคือทุ่งราบรกร้างที่ว่างเปล่าเเละ มีหินสีดำ เพียงเท่านั้น เเต่ด้วยพรสวรรค์ในการค้นคว้าเเละวิเคราะห์ของ ดร.แบนเนอร์ เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องได้รับบางสิ่งบางอย่างกลับไปเเน่นอน

“กัปตัน!คุณไม่ควรเข้าไปข้างในนั้น!”เห็น ดร.แบนเนอร์หายไป ใกล้ประตูมิติอวกาศ นาตาชา ได้กล่าวห้ามกัปตันโรเจอร์ส
สายเชื่อมต่อของดร.แบนเนอร์ กับ โลกได้ถูกตัด ขาดเป็นเวลาน้อยกว่าหนึ่งนาทีที่ กัปตันโรเจอร์สได้เตรียมพร้อมใส่ชุดเตรียมจะเข้าไปค้นหา ดร.แบนเนอร์ ข้างในนั้น
ด้านหลังของกัปตันโรเจอร์สคือ ฟอลคอน เเละ ฮอว์กอาย เเม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เปิดปากพูด เเต่การกระทำของพวกเขาก็ชัดเจนว่าจะป้องกันไม่ให้ กัปตันโรเจอร์สเข้าไปเสี่ยง องค์กร S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้เป็นที่ชัดเจนว่าไม่อาจสูญเสียกัปตันโรเจอร์สไปได้
“นาตาชาคุณไม่สามารถห้ามฉันได้!”เห็นการห้ามปรามของ นาตาชา กัปตันโรเจอร์สพูดอย่างจริงจัง
“กัปตันโรเจอร์สเเม้จะต้องส่งคนไปเพื่อช่วยเหลือ ดร.แบนเนอร์ เเต่คนคนนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นคุณ!”ได้ยินคำพูดของ กัปตันโรเจอร์ส นาตาชา กล่าวห้ามอีกครั้ง
“ฉันเป็นคนขอร้องให้เขาเข้าร่วมองค์กรS.H.I.E.L.D. เป็นธรรมชาติหากเขาตกอยู่ในอันตราย ฉันจะต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ”กัปตันโรเจอร์สเชื่อว่านี่คือความรับผิดชอบของเขา
“กัปตันโรเจอร์สดร.แบนเนอร์ หายตัวไปยังไม่ถึง 10 นาที บางทีเขาอาจจะไม่เป็นอะไร”เห็นกัปตันโรเจอร์สเตรียมจะวิ่งเข้าไปข้างใน เเดร์เดวิล ได้เดินมาที่ด้านหลังเเละพูดขึ้น
เเดร์เดวิลรู้ดีว่ากัปตันโรเจอร์สเป็นกังวลมากขนาดไหน ความสำคัญของ ดร.แบนเนอร์ นั้นมีมากเกินไป มันไม่ใช่สิ่งที่จะสูญเสียไปเเละจะได้รับกลับมา
“มันจะต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นเเน่ฉันมั่นใจ!”ได้ยินคำพูดของ เเดร์เดวิล กัปตันโรเจอร์สกล่าวตออบ
“เเม้จะเป็นเช่นนั้นจริงคุณก็น่าจะรู้ตัวเองดี หากคุณหลุดเข้าไปข้างในนั้นอีกคนเเละไม่ได้กลับออกมา ความสูญเสียเดิมที่ลดน้อยมันจะเพิ่มมากขึ้น”เเดร์เดวิล เปลี่ยนวิธีชักชวน
ตอนนี้ความสำคัญของกัปตันโรเจอร์ส เองก็มีมาก S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้ไม่สามารถขาดกัปตันโรเจอร์สไปได้ อีกทั้งกัปตันโรเจอร์สยังเป็นสะพานเชื่อมของ S.H.I.E.L.D. ระหว่างพันธมิตรคนอื่น ๆ
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้กัปตันโรเจอร์ส ก็เริ่มใช้อารมณ์ส่วนตัวที่พลุ้งพล่านเเละหันมาใช้หัวคิดเเทน เขาตั้งใจว่าจะรอหุ่นยนต์ไร้คนขับอีก 10 ตัวที่ยังไม่กลับมา หาก ดร.แบนเนอร์ ปลอดภัยยังอยู่ข้างในนั้น เขาก็ย่อมสามารถกลับมาได้ เเต่เมื่อถึงเวลาครบ 10 นาทีเเละ ดร.แบนเนอร์ ยังไม่กลับมา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่ฟังเหตุผลอะไรทั้งสิ้น
ฟุ่บ!
ขณะนั้นเองหุ่นยนต์ไร้คนขับของกัปตันโรเจอร์สก็ออกมาจากประตูมิติอวกาศทั้งยังได้ขนบางอย่างกลับมาด้วย
นอกเหนือจากสิ่งของเเล้วยังมีข้อมูลบันทึกที่น่าจะมาจากมนุษย์อีกเเสดงว่า ดร.แบนเนอร์ยังรอดปลอดภัยข้างในนั้นเเละกำลังศึกษาค้นคว้าพื้นที่เเถวนั้นอยู่
“ดูเหมือนดร.แบนเนอร์ จะปลอดภัยดีสินะ!”
ขณะที่ภายในฐานกำลังวุ่นวายเเละกลับมารู้สึกโล่งใจเพราะความปลอดภัยของดร.แบนเนอร์ ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร เเจ็คสัน เเละ ไอซ์แมน ได้ยืนอยู่ในตำเเหน่งทุ่งหิมะเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมงโดยไม่ขยับ
ก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมงเเจ็คสัน ได้บอกต่อไอซ์แมนว่าอาจมีวิธีที่จะสามารถค้นหาลูกบาศก์เวทมนตร์ที่นี่ได้ ดังนั้น เเจ็คสันจึงปล่อยพลังจิตออกมา ซึ่งไอซ์แมนก็เฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ พร้อมกับคอยเตรียมพร้อมสนับสนุนการกระทำของ มิราจไนท์ต่อไป
ฟุ่บ!
เห็นมิราจไนท์ยังคงเพ่งสมาธิอยู่อีกครั้งไอซ์แมนได้เเผ่ตัวนอนราบลงบนพื้นหิมะพร้อมกับใช้พื้นที่เยือกเเข็งในการสร้างหลุมนอนของตนเออง
“….”วินาทีนั้นเองเเจ็คสันได้ลืมตาขึ้นพร้อมกับจ้องมองไปที่การกระทำของไอซ์แมน
เเจ็คสันเห็นไอซ์แมนนอนราบเเผ่ลงไปกับพื้นเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความรุนเเรงของกลิ่นอายเยือกเเข็งที่ไอซ์แมนปลอดภัยออกอมาอย่างเต็มประสิทธิภาพ
“ไอซ์แมนการที่คุณทำแบบนี้มันช่วยพัฒนาความสามารถของคุณงั้นหรอ”เเจ็คสันไม่รู้ว่าไอซ์แมนกำลังทำอะไร เขากล่าวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ฟุ่บ!
ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ไอซ์แมนได้ใช้สองเเขนดันตัวเองลุกออกมาก่อนที่จะใช้พื้นที่เยือกเเข็งในการบัดเศษน้ำเเข็งเเละหิมะที่เกาะตัวเขาให้หลุดออกไป
“คุณมีเวลามาสนใจฉันด้วยงั้นหรอ”ไอซ์แมนกล่าวตอบกลับ
เมื่อครู่ไอซ์แมนได้เค้นคำตอบจากมิราจไนท์ เพียงเเต่มิราจไนท์ไม่ได้ยอมบอกอะไรเลยทำให้ใบหน้าของไอซ์แมนได้กลายเป็นมืดครึ้มก่อนที่เขาจะตัดสินใจนอนเเผ่ราบลงไปที่พื้นเพื่อรอมิราจไนท์ตื่นขึ้่นมาอีกครั้ง
“ฉันก็เเค่อยากรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่!”เผชิญหน้ากับคำถามของไอซ์แมนเเจ็คสันตอบกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“ทีคุณยังไม่บอกฉันเกี่ยวกับการค้นพบเมื่อครู่นี้เลย!”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ ไอซ์แมนตอบกลับ
“เอ่อ…ก็ได้!”เเจ็คสันได้เกาหัวเล็กน้อยพร้อมกับเเสดงสีหน้าอย่างจริงจังอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมงเเจ็คสันที่รู้ว่าศพของ เร้ด สกัลล์หายไป เขาได้ปลดปล่อยพลังจิตของตนเองออกมา จากนั้นเขาก็ค้นพบสถานที่เเปลก ๆ เเห่งนึงที่อยู่ไม่ไกลจากตำเเหน่งของเขา เเต่เพราะพลังจิตของเขาได้หมดลงทำให้เขาต้องพักฟื้นฟูอีกครั้ง
หลังจากที่ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับพื้นที่เเปลกๆ นี้ เเจ็คสัน คิดว่าพื้นที่ที่ว่านี้น่าจะถูกพลังงานของลูกบาศก์เวทมนตร์รบกวนทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ ดังนั้น เเจ็คสันจึงได้สเเกนด้วยพลังจิตของตนเองอีกรอบหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ในที่สุดเขาก็ค้นพบมันจนได้
“คุณเจออะไร”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ไอซ์แมนกล่าวถามอย่างรวดเร็ว
“ฉันค้นพบพื้นที่ความผันผวนอีกเเห่ง!ทั้งยังรุนเเรงมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า!”เเจ็คสันกล่าวตอบความจริง
ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ไอซ์แมนจ้องมองไปที่เขาอย่างชัดเจน อะไรคือพื้นที่ความผันผวนที่มีความรุนเเรงมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า หากเป็นคนธรรมดาเเน่นอนว่าย่อมไม่เข้าใจในจุดนี้
“คุณพูดอะไรออกมาพื้นที่ความผันผวนที่มีความรุนเเรงมากกว่า 10 เท่า”ไอซ์แมนกล่าวถามต่อ
“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงอย่างไรก็ตามภูมิภาคเเห่งนี้มีขนาดใหญ่อย่างมากอาจเป็นไปได้ว่าสิ่งที่ฉันค้นพบจะเป็นความจริง”เเจ็คสันตอบกลับ  “พื้นที่ที่เราอยู่ตรงนี้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของคลื่นความผันผวนที่รุนเเรงนี้!”เเจ็คสันได้กล่าวเสริมจุดนี้
จากนั้นเขาก็เดินไปทั่วท่ามกลางลานหิมะเหล่านี้พร้อมกับสังเกตุพื้นที่โดยรอบจนพบกับคลื่นความผันผวนที่รุนเเรงอย่างว่าจริงๆ
“พวกเราอยู่ภายในมิติอวกาศปิดกั้นงั้นหรอ”ไอซ์แมนพึมพัมออกมา

เริ่มสำรวจอีกครั้ง
ฟุ่บ!
จ้องมองไปที่คลื่นประตูมิติอวกาศที่มั่นคงทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเเล้วเเต่ทำอะไรไม่ถูก ตั้งเเต่ที่ ดร.แบนเนอร์ ก้าวข้ามผ่านประตูมิติอวกาศไป โลกเเห่งนั้นก็คือสถานที่ที่เต็มไปด้วยดวงดาว ไม่มีใครรู้ว่ามีสิ่งใดซ่อนอยู่ข้างหลังประตูมิติอวกาศนี้กันเเน่
ทางด้านดร.แบนเนอร์ หลังจากหลุดเข้าไปยังพื้นที่ข้างในสิ่งที่เขาเห็นก็คือพื้นที่ทุ่งราบอันกว้างขวางนอกเหนือจากพื้นที่ทุ่งราบเหล่านี้ก็ไม่มีสิ่งใดอื่นอีก มีเพียงหุ่นยนต์ไร้คนขับที่ถูกส่งมาก่อนหน้านี้
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่”ดร.แบนเนอร์ถอนหายใจออกมา
จากนั้นดร.แบนเนอร์ ก็เดินไปเรื่อย ๆ เขามองเห็นชิ้นส่วนหินสีดำที่กระจัดกระจายจำนวนมาก
นอกเหนือจากนั้นดร.แบนเนอร์ ได้สำรวจตัวเองก็พบว่า สายเชื่อมต่อตนเองกับโลกได้ถูกตัดขาดออกจากกัน สีหน้าของ ดร.แบนเนอร์ ปรากฏความกังวลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คิดเอาไว้เเต่ ดร.แบนเนอร์ ก็ยังยึดมั่นทำตามเเผนเดิมคือการสำรวจพื้นที่โดยรอบเมื่อถึงเวลาเข้าค่อยกลับออกไป
“เเรงโน้มถ่วงของที่นี่กับโลกเเทบจะไม่เเตกต่างกันมากนักมันมากกว่าโลกเพียงเเค่ 1.3 เท่า … ดูเหมือนเครื่องมือถ่ายภาพทุกตัวที่นำมาจะเสียซะเเล้ว!”ดร.แบนเนอร์ ได้เข้าสู่จิตวิญญาณของนักวิทยาศาสตร์คนนึงว เขาเลื่อมใสที่นี่เเละเริ่มที่อยากจะศึกษาพวกมัน
เเม้สถานที่เเห่งนี้จะคือทุ่งราบรกร้างที่ว่างเปล่าเเละ มีหินสีดำ เพียงเท่านั้น เเต่ด้วยพรสวรรค์ในการค้นคว้าเเละวิเคราะห์ของ ดร.แบนเนอร์ เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องได้รับบางสิ่งบางอย่างกลับไปเเน่นอน

“กัปตัน!คุณไม่ควรเข้าไปข้างในนั้น!”เห็น ดร.แบนเนอร์หายไป ใกล้ประตูมิติอวกาศ นาตาชา ได้กล่าวห้ามกัปตันโรเจอร์ส
สายเชื่อมต่อของดร.แบนเนอร์ กับ โลกได้ถูกตัด ขาดเป็นเวลาน้อยกว่าหนึ่งนาทีที่ กัปตันโรเจอร์สได้เตรียมพร้อมใส่ชุดเตรียมจะเข้าไปค้นหา ดร.แบนเนอร์ ข้างในนั้น
ด้านหลังของกัปตันโรเจอร์สคือ ฟอลคอน เเละ ฮอว์กอาย เเม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เปิดปากพูด เเต่การกระทำของพวกเขาก็ชัดเจนว่าจะป้องกันไม่ให้ กัปตันโรเจอร์สเข้าไปเสี่ยง องค์กร S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้เป็นที่ชัดเจนว่าไม่อาจสูญเสียกัปตันโรเจอร์สไปได้
“นาตาชาคุณไม่สามารถห้ามฉันได้!”เห็นการห้ามปรามของ นาตาชา กัปตันโรเจอร์สพูดอย่างจริงจัง Aileen-novel
“กัปตันโรเจอร์สเเม้จะต้องส่งคนไปเพื่อช่วยเหลือ ดร.แบนเนอร์ เเต่คนคนนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นคุณ!”ได้ยินคำพูดของ กัปตันโรเจอร์ส นาตาชา กล่าวห้ามอีกครั้ง
“ฉันเป็นคนขอร้องให้เขาเข้าร่วมองค์กรS.H.I.E.L.D. เป็นธรรมชาติหากเขาตกอยู่ในอันตราย ฉันจะต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ”กัปตันโรเจอร์สเชื่อว่านี่คือความรับผิดชอบของเขา
“กัปตันโรเจอร์สดร.แบนเนอร์ หายตัวไปยังไม่ถึง 10 นาที บางทีเขาอาจจะไม่เป็นอะไร”เห็นกัปตันโรเจอร์สเตรียมจะวิ่งเข้าไปข้างใน เเดร์เดวิล ได้เดินมาที่ด้านหลังเเละพูดขึ้น
เเดร์เดวิลรู้ดีว่ากัปตันโรเจอร์สเป็นกังวลมากขนาดไหน ความสำคัญของ ดร.แบนเนอร์ นั้นมีมากเกินไป มันไม่ใช่สิ่งที่จะสูญเสียไปเเละจะได้รับกลับมา
“มันจะต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นเเน่ฉันมั่นใจ!”ได้ยินคำพูดของ เเดร์เดวิล กัปตันโรเจอร์สกล่าวตออบ
“เเม้จะเป็นเช่นนั้นจริงคุณก็น่าจะรู้ตัวเองดี หากคุณหลุดเข้าไปข้างในนั้นอีกคนเเละไม่ได้กลับออกมา ความสูญเสียเดิมที่ลดน้อยมันจะเพิ่มมากขึ้น”เเดร์เดวิล เปลี่ยนวิธีชักชวน
ตอนนี้ความสำคัญของกัปตันโรเจอร์ส เองก็มีมาก S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้ไม่สามารถขาดกัปตันโรเจอร์สไปได้ อีกทั้งกัปตันโรเจอร์สยังเป็นสะพานเชื่อมของ S.H.I.E.L.D. ระหว่างพันธมิตรคนอื่น ๆ
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้กัปตันโรเจอร์ส ก็เริ่มใช้อารมณ์ส่วนตัวที่พลุ้งพล่านเเละหันมาใช้หัวคิดเเทน เขาตั้งใจว่าจะรอหุ่นยนต์ไร้คนขับอีก 10 ตัวที่ยังไม่กลับมา หาก ดร.แบนเนอร์ ปลอดภัยยังอยู่ข้างในนั้น เขาก็ย่อมสามารถกลับมาได้ เเต่เมื่อถึงเวลาครบ 10 นาทีเเละ ดร.แบนเนอร์ ยังไม่กลับมา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่ฟังเหตุผลอะไรทั้งสิ้น
ฟุ่บ!
ขณะนั้นเองหุ่นยนต์ไร้คนขับของกัปตันโรเจอร์สก็ออกมาจากประตูมิติอวกาศทั้งยังได้ขนบางอย่างกลับมาด้วย
นอกเหนือจากสิ่งของเเล้วยังมีข้อมูลบันทึกที่น่าจะมาจากมนุษย์อีกเเสดงว่า ดร.แบนเนอร์ยังรอดปลอดภัยข้างในนั้นเเละกำลังศึกษาค้นคว้าพื้นที่เเถวนั้นอยู่
“ดูเหมือนดร.แบนเนอร์ จะปลอดภัยดีสินะ!”

สูญเสียการติดต่อ
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงดร.แบนเนอร์ ก็เตรียมพร้อมอย่างสมบูรณ์ เขาได้เเต่งตัวอยู่ในชุดป้องกันที่เหมือนกับชุดอวกาศ ในระยะเวลาครึ่งชั่วโมงนี้ ดร.แบนเนอร์ ได้ทำการศึกษา หุ่นยนต์ไร้คนขับอย่างระมัดระวังหลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบเเล้ว การข้ามผ่านประตูมิติอวกาศอาจไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับการข้ามผ่านมากนัก
เเต่เพื่อความปลอดภัยดร.แบนเนอร์ จึงได้ทดลองกับสัตว์เล็ก ๆ เช่นกระต่ายก่อน เขาได้ใส่สิ่งมีชีวิตไว้ในตระกร้าจากนั้นก็โยนมันเข้าไปข้างในเเละใช้เยือกที่ผูกติดไว้ถึงกลับมา หลังจากดึงกลับมา สภาพของกระต่ายตัวนั้นก็ไม่มีอะไรบาดเจ็บ ในที่สุด กัปตันโรเจอร์สที่เห็นการทดลองนี้ก็รู้สึกโล่งใจอยู่บ้าง
“คงได้เวลาที่ฉันจะเข้าไปเเล้ว!”ทันทีที่เตรียมใจเเละเตรียมพร้อมเสร็จดร.แบนเนอร์ เตรียมที่ก้าวผ่านเข้าไป
“ระวังตัวด้วย!ไม่ว่าคุณจะพบอะไรด้านในนั้นหรือไม่หากครบกำหนด 10 นาที ฉันจะดึงคุณกลับมาทันที!”กัปตันโรเจอร์ส พูดอย่างจริงจัง
“เข้าใจเเล้ว!”จากนั้นดร.แบนเนอร์ ก็ยิ้มออกมาพร้อมกับเดินไปที่เบื้องหน้าประตูมิติอวกาศ
ภายใต้สายตาของกัปตันโรเจอร์ส ฟอลคอน เเดร์เดวิล เเละ คนอื่น ๆ พวกเขาเห็น ดร.แบนเนอร์ ผ่านเข้าไปในประตูมิติอวกาศโดยตรง
“ตรวจดูข้อมูลการเปลี่ยนเเปลงของดร.แบนเนอร์ อย่างต่อเนื่อง หากมีอะไรเกิดขึ้น ให้รีบดึงเขากลับมาทันที!”หลังจากเห็น ดร.แบนเนอร์หายไป กัปตันโรเจอร์สได้บอกต่อเจ้าหน้าที่ S.H.I.E.L.D.
“ครับกัปตัน!”
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตัวเเทนก็เฝ้าสังเกตุการณ์ข้อมูลปัจจุบันของดร.แบนเนอร์ ผ่านเครื่องมือตรวจสอบ สีหน้า กัปตันโรเจอร์ส ไม่สู้ดีอย่างมาก เขาหวังว่าจะให้ 10 นาทีนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็วในทันที เพราะเขากังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับ ดร.แบนเนอร์
ธรรมชาติเเล้วเเล้วนอกเหนือจาก ความกังวลของ ดร.แบนเนอร์ เเจ็ค เเละ เเดร์เดวิล ก็กำลังพูดคุยกันถึง มิราจไนท์
“เเดร์เดวิลพวกเราควรเเจ้งบอกมิราจไนท์ เรื่องที่ ดร.แบนเนอร์ เข้าไปข้างในหรือไม่”เเจ็คจ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศด้านหน้าเเละกล่าวถาม
“คงไม่จำเป็นหรอกตั้งเเต่ที่มิราจไนท์ขอตัวออกไปเดินเล่นเเละป่านนี้ยังไม่กลับ ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องมีธุระสำคัญอะไรอย่างเเน่นอน”ได้ยินคำถามของ เเจ็ค เเดร์เดวิล ตอบกลับ
“หวังว่าเรื่องสำคัญที่ว่านี้จะเกี่ยวข้องกับลูกบาศก์เวทมนตร์เเต่ถึงอย่างนั้่น ประตูมิติอวกาศนี่ก็ดูเเปลกเกินไป ด้วยขนาดเเละความเสถียรที่มันปล่อยออกมาเเล้ว ฉันรู้สึกกังวลบางอย่าง…”เเจ็คย่นคิ้วเล็กน้อย
“คงมีเเต่ต้องรอให้มิราจไนท์กลับมาถึงจะรู้ว่าเขาหายตัวไปไหนส่วนเรื่องของ ดร.แบนเนอร์ ตอนนี้เราทำได้เพียงเฝ้ามองอย่างเชื่อมั่นเพียงเท่านั้น”เเดร์เดวิล กล่าวตอบ
“อืม,จริงสิตั้งเเต่ที่ฉันเข้ามายังพื้นที่เเห่งนี้ พื้นที่โดยรอบนี้ทำให้ฉันไม่สามารถใช้เวทย์มนตร์มิติได้ เหตุผลน่าจะเป็นเพราะคลื่นความผันผวนที่ประตูมิติอวกาศนี่ปล่อยออกมา”เเจ็คพึมพัมออกมาเล็กน้อย
“เป็นเรื่องจริงงั้นหรอเช่นนั้นนายลองถาม บลิงก์ จาก ทีมX-MEN ดูหรือยัง ความสามารถของเธอ ถูกระงับด้วยหรือไม่?”ได้ยินว่า เเจ็คไม่สามารถใช้ประตูมิติเวทมนตร์ได้ เเดร์เดวิล เปลี่ยนเป็นคำถามทันที
“บลิงก์ทีมX-MEN ฉันยังไม่ได้ถามใครเลยเพราะฉันไม่ค่อยรู้จักพวกเขา”เเจ็คกล่าวตอบ
หลังจากที่เเจ็คตอบคำถามตนเองเเล้วเเดร์เดวิล ก็เดินไปที่ทางด้านทีมX-MEN เพื่อกล่าวถาม บลิงก์ จากนั้นไม่นาน เเดร์เดวิล ก็เดินกลับมา
“ผู้หญิงคนนั้นว่ายังไงบ้าง”เเจ็คกล่าวถามอย่างเร่งรีบ
“เป็นอย่างที่คิด,ความสามารถด้านมิติของบลbงก์ เองก็ถูกระงับ จากตำเเหน่งเเละระยะทางรอบ ๆ 100 เมตร เธอไม่สามารถใช้พลังมิติของเธอได้”เเดร์เดวิล กล่าวตอบ
“ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะประตูมิติอวกาศนี่จริงๆ มันได้สร้างผลกระทบทำให้ความสามารถด้านมิติต้องถูกระงับไป…”ได้ยินคำตอบของ เเดร์เดวิล เเจ็คขมวดคิ้วเเน่นด้วยความกังวล เเม้คนในโลกจะมีคนที่เเข็งเเกร่งเเละมีความสามารถที่โดดเด่นหลายคน เเต่คนที่มีความเเข็งเเกร่งทางด้านพลังมิตินั้นมีน้อยมาก นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าผู้ที่สามารถใช้พลังมิติได้จึงมีความสำคัญขนาดไหน
“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าต้นเหตุคือประตูมิติอวกาศนี่หรือไม่เเต่คงจะต้องเฝ้าระวังต่อไปเพียงเท่านั้น”เเดร์เดวิล เองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง เขากล่าวบอกสิ่งที่ตนเองคิด
เนื่องจากคำถามของพวกเขาไม่ได้รับการเเก้ไขเเดร์เดวิล เเละ เเจ็ค ก็เลิกที่จะถามคำเหล่านี้พวกเขาจ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศด้านหน้า หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านไปเเล้ว 5 นาที
ฟุ่บ! ไอลีนโนเวล
ขณะที่พวก เเดร์เดวิล กำลังจ้องมองประตูมิติอวกาศ พื้นที่ทางด้านฝั่งกัปตันโรเจอร์สก็มีเสียงเตือนภัยดังขึ้นอย่างรวดเร็ว สายตาของทุกคนในที่เเห่งนี้ได้รีบหันไปยังทิศทางเสียงที่ว่านี้ทันที
“เกิดอะไรขึ้น”ได้ยินเสียงเตือนภัยกัปตันโรเจอร์ส รีบกล่าวถามเจ้าหน้าที่ตัวเเทนด้วยลางสังหรณ์ที่รู้สึกไม่ดี
“ทางเรากำลังสูญเสียการติดต่อกับดร.แบนเนอร์!”เจ้าหน้าที่กล่าวตอบอย่างรวดเร็ว
ฟุ่บ!
จากนั้นประตูมิติอวกาศก็เกิดความผันผวนจำนวนมากส่งผลให้กัปตันโรเจอร์ส เเละ คนอื่น ๆ รู้สึกกังวลเกี่ยวกับ ดร.แบนเนอร์ ตอนนี้พวกเขากำลังจะสูญเสียการติดต่อกับ ดร.แบนเนอร์ หากไม่สามารถดึง ดร.แบนเนอร์ ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
“บ้าเอ้ย!เตรียมชุดสูทให้ฉัน!”กัปตันโรเจอร์สกำกำปั้นเเน่นด้วยความกังวล
สายเชื่อมต่อกับร่างของดร.แบนเนอร์ เองก็ถูกตัด ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถระบุได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับ ดร.แบนเนอร์ ข้างในหรือไม่ดังนั้น กัปตันโรเจอร์ส จึงต้องการเตรียมพร้อมเเละเข้าไปช่วยเหลือ ดร.แบนเนอร์ ด้วยตัวเอง
“ในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้มิราจไนท์ หายไปไหนกันนะ!”เห็นสถานการณ์ปัจจุบันไม่ค่อยดี เเจ็ค ย่นคิ้วเเน่นด้วยความกังวล

อารมณ์เดือดดาล
เป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงเเล้วหลังจากที่พวกเเจ็คสันได้ออกไปข้างนอกในเวลานี้ ประตูมิติอวกาศถูกปกคลุมไปด้วยโครงเหล็กเเละเเผ่นโลหะผสมจำนวนมาก ดูเหมือน องค์กร S.H.I.E.L.D. จะทุ่มทุนสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ฐานเเห่งนี้ได้เปลี่ยนกลายเป็นฐานเเห่งนึงที่เต็มไปด้วยมาตราฐานระดับสูงอย่างน้อยมันก็สามารถรักษาความปลอดภัยจากการรุกรานได้ในระดับนึงเบื้องหลังของสิ่งก่อสร้างเหล่านี้คือการควบคุมประตูมิติอวกาศให้อยู่ในเสถียรภาพที่ดีตอนนี้
“อุปกรณ์เเละทรัพยากรชุดที่สาม ใช้เวลา 10 นาทีในการติดตั้ง หากสามารถติดตั้งอุปกรณ์นั้นได้ฉันก็ค่อนอข้างรู้สึกโล่งใจเล็กน้ออย”หลังจากยืนสังเกตุการณ์ประตูมิติอวกาศ ดร.แบนเนอร์ ได้จ้องมองไปที่เเสงสีฟ้าเบื้องหน้า
เเม้ว่าด้านหลังของประตูมิติอวกาศเหล่านั้นจะมีท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวเเต่พวกเขาก็เตรียมพร้อมสำหรับเกิดอุบัติเหตุขึ้น ธรรมชาติ ดร.เเบนเนอร์ มีเเผนจะพาตนเองเข้าไปด้านหลังประตูมิติอวกาศนี้
“หุ่นยนต์สำรวจที่เข้าไปเริ่มสูญเสียการติดต่อเเล้วฉันจะต้องรีบดึงพวกที่เหลือกลับมาไม่งั้นสิ่งที่ทำไปคงเสียเวลาเปล่า…”หลังจากปรับโครงสร้างของพื้นที่เเถบนี้ ดร.แบนเนอร์ ก็ครุ่นคิดบางอย่าง
ฟุ่บ!
หลังจากนั้นการประชุมในองค์กรS.H.I.E.L.D. ก็เริ่มต้นอีกครั้ง เสียงดังของกัปตันโรเจอร์สได้เเทรกออกมา
“ไม่ได้,ฉันไม่อนุญาติ!”กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่ดร.แบนเนอร์ เเละ กล่าวพูดในปัจจุบัน
“กัปตันโรเจอร์สฉันเคยบอกกับคุณเเล้วว่า ฉันจะเข้าร่วมกับ องค์กร S.H.I.E.L.D. เเละ พันธมิตรอเวนเจอร์ เเต่ความสัมพันธ์ของเราก็เป็นเเค่ความสัมพันธ์เชิงพันธมิตร ฉันไม่ใช่สมาชิกอย่างเต็มตัว ดังนั้นฉันไม่สนใจว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่”ได้ยินคำพูดของ กัปตันโรเจอร์ส ดร.แบนเนอร์ กล่าวตออบ
“ดร.แบนเนอร์ฉันรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราเป็นความสัมพันธ์เชิงร่วมมือ เเต่ฉันไม่เห็นด้วยที่คุณจะทำแบบนี้”
เมื่อไม่นานมานี้ดร.แบนเนอร์ บอกกับ กัปตันโรเจอร์สว่าเขาจะสวมชุดป้องกันพลังงานเเอลฟ่าเเละเดินเข้าไปในประตูมิติอวกาศ ปัจจุบันหุ่นยนต์สำรวจที่ส่งไปยังไม่ได้กลับมาไม่มีหลักอะไรรับประกันว่าหลังจากที่ ดร.เเบนเนอร์ เข้าไปเเล้ว จะได้รับผลกระทบอะไรหรือไม่
เเต่ดูเหมือนดร.แบนเนอร์ จะไม่ฟังเหตุผลของกัปตันโรเจอร์สเเม้เเต่น้อย มันสมองของ ดร.แบนเนอร์ เป็นสิ่งมีค่ามาก ด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นดูอันตรายเกินไป หากมีอะไรเกิดขึ้นกับ ดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์ส คงเสียใจไปตลอดชีวิต
“หุ่นยนต์สำรวจนั่นสามารถเเสดงประสิทธิภาพได้อย่างจำกัดเพื่อการสำรวจที่ดีนั้นควรจะส่งผู้เชี่ยวชาญอย่างฉันเข้าไปถึงจะถูก คุณเองก็รู้ถึงสถานะประหลาดภายในร่างกายของฉันดีไม่ใช่หรอ”เห็น กัปตันโรเจอร์ส กังวล ดร.แบนเนอร์ อธิบาย
“เเต่ฉันไม่สามารถปล่อยให้คุณไปเสี่ยงได้!เเม้ ฮัลค์ จะเเข้งเเกร่งจริง เเต่คุณยังไม่สามารถควบคุมเขาได้อย่างสมบูรณ์”ได้ยินคำพูดของ ดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์ส กล่าวตอบ
ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจออร์สดร.แบนเนอร์ เข้าใจดีว่าอีกฝ่ายคงไม่ต้องการให้เขาไปเสี่ยง เเต่การค้นพบด้านหลังประตูมิติอวกาศไม่สามารถหยุดความอยากรู้อยากเห็นของ ดร.แบนเนอร์ ได้ เเม้จะต้องเสี่ยงเขาก็ยอม
“กัปตันโรเจอร์สคุณเองก็รู้จักนิสัยของฉันดี ถ้าฉันอยากจะทำอะไรเเม้ใครจะบอกว่าไม่ฉันก็จะทำ!”เผชิญหน้ากับคำตอบปฏิเสธของกัปตันโรเจอร์ส ดร.แบนเนอร์ ได้ต่อต้านทันที
ฟุ่บ!
หลังจากที่ดร.แบนเนอร์ พูดคำเหล่านี้ออกมา ประกายเเสงสีเขียวในนัยน์ตาของ ดร.แบนเนอร์ ก็สว่างวาบขึ้น ไอรีนโนเวล
“เฮ้,เพื่อนยากใจเย็น ๆ !”ในใจของ ดร.แบนเนอร์ ได้ตะโกนคำเหล่านี้อยู่ในลำคอ
เห็นการเปลี่ยนเเปลงของดร.แบนเนอร์ เเละ ประกายเเสงสีเขียวในนัยน์ตาคู่นั้น สีหน้าของกัปตันโรเจอร์สเริ่มเเปรเปลี่ยนเป็นตึงเครียดมากขึ้น หาก ฮัลค์ ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ฐานเเห่งนี้คงไม่รอดมอดวายเป็นเเน่
“ก็ได้ถ้าคุณยืนกรานเช่นนั้น ฉันก็จะไม่ห้ามคุณ!”ท้ายที่สุด กัปตันโรเจอร์ส ก็ไม่สามารถห้ามปราบอีกฝ่ายได้ ทำได้เเต่ยอมรับผลลัพธ์ในตอนนี้
“ฮ่าฮ่า,คุณตัดสินใจได้ถูกเเล้วผ่อนคลายเถอะ ฉันรับประกันว่าจะนำพาการเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่มาให้คุณ!”เห็นสีหน้าของ กัปตันโรเจอร์ส ดร.แบนเนอร์ ได้ยิ้มออกมา
“ดร.แบนเนอร์หวังว่าการตัดสินใจของคุณในครั้งนี้ คุณจะยอมรับผลที่ตามมานะ การกระทำของคุณอาจมีผลตอบเเทนด้วยค่าใช้จ่ายที่สูง!”ได้ยินคำพูดของ ดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์ส พูดอีกครั้ง
“สบายใจได้ฉันรู้อยู่เเก่ใจว่ากำลังทำอะไร นอกจากนี้ หุ่นยนต์ไร้คนขับได้กลับมาเเล้ว 3 เครื่อง พวกเขานำของติดไม้ติดมือกลับมามากมาย คุณไม่ต้องเป็นห่วงฉันจะรอดปลอดภัยกลับมา”ได้ยินคำพูดของ กัปตันโรเจอร์ส ดร.แบนเนอร์ กล่าวตอบ
“ขอให้เป็นอย่างนั้น!”
จากนั้นดร.แบนเนอร์ก็เตรียมสัมภาระของตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเข้าประตูมิติอวกาศ

การค้นพบของเเจ็คสัน
หลังจากหยุดนิ่งอธิยายเป็นระยะเวลากว่าสองนาทีเเจ็คสันก็ถอนหายใจออกมา
“เดิมเป็นเช่นนี้ไม่ใช่ว่าคุณตัดสินใจเเล้วว่า เร้ด สกัลล์ ได้ตายไปเเล้วหรอกหรอเช่นนั้นทำไมต้องมองหาเขาออีก?”ฟังการอธิบายของมิราจไนท์ ไอซ์แมนกล่าวถามอย่างุนงง
“ก็อาจจะ…ดูบางทีฉันก็รู้สึกไม่โลกใจแปลกๆ !”ได้ยินคำพูดของไอซ์แมน เเจ็คสันตอบกลับ
ที่จริงเเล้วเกี่ยวกับการตายของ เร้ด สกัลล์ เเจ็คสันก็ยังขาดความมั่นใจในจุดนี้ เเม้ระบบจะส่งรางวัลให้ เเต่ในโลกมาร์เวลอะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าเกิด เร้ด สกัลล์ ตายไปเเล้วจริงๆ อะไรกันที่ทำให้ ศพของ เร้ด สกัลล์ หายไป
“ดี,ฉันจะช่วยเหลือคุณหากเป็นสภาพเเวดล้อมที่นี่ฉันคงพอจะช่วยอะไรได้บ้าง”ได้ยินคำอธิบายที่ไม่สมเหตุผลของ มิราจไนท์ ไอซ์แมนตอบกลับ
“ฮ่าฮ่าขอบคุณไอซ์แมน”เเจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
เเม้ในครั้งนี้เขาจะออกมาเพื่อหาเร้ด สกัลล์ ก็จริง เเต่เขาก็เเค่มาเพื่อยืนยันด้วยตาตัวเองก็เท่านั้น
“เดิมด้วยด้วยสภาพอากาศที่ย่ำเเย่ของที่นี่ถึงอีกฝ่ายจะมีชีวิตอยู่จริงก็ไม่น่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้หรอก”ไอซ์แมนกล่าวพูดลอย ๆ
“ไว้ไปดูเองเดี๋ยว ก็รู้”เเจ็คสันตอบกลับ
“เป็นเพื่อนที่เเปลกคนจริงๆ!”เห็นมิราจไนท์ก้าวเดินออกไป ไอซ์แมนได้กระซิบกระซาบในใจ
จากนั้นไอซ์แมนก็เปิดพื้นที่เยือกเเข็งเเละติดตามมิราจไนท์ไปยังตำเเหน่งที่เร้ด สกัลล์ อยู่ก่อนหน้านี้

ขณะที่ไอซ์แมน เเละ มิราจไนท์ ออกไปเดินเล่นนอกฐาน ในฐานของS.H.I.E.L.D. ดร.เเบนเนอร์ กำลังศึกษาวิจัยเกี่ยวกับคลื่นพลังงานด้านหลังประตูมิติอวกาศ สีหน้าของเขาราวกับคนบ้ามากตอนนี้
“นี่มันน่าสนใจมากน่าสนใจจริง ๆ ! ไม่คิดเลยว่าสิ่งเหล่านี้จะมีอยู่ในจักรวาลอื่น ๆ “ดร.แบนเนอร์ จ้องมองไปที่ ข้อมูลเเผ่นเเท็บเล็ตในมือ
มองจากสถานการณ์ในปัจจุบันเเม้การค้นหาด้านหลังประตูมิติอวกาศจะไม่เจอลูกบาศก์เวทมนตร์ก็จริง เเต่ ดร.แบนเนอร์ เชื่อว่าพวกเขาจะสามารถเก็บเกี่ยวสิ่งต่าง ๆ กลับมาได้จำนวนมาก จักรวาลอื่นนั้นคือสถานที่ที่เเตกต่าง สถานที่เหล่านั้นเต็มไปด้วยทรัพยากรที่น่าสนใจเเละอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการศึกษาขอองพวกเขา
“เนื่องจากหุ่นยนต์ที่เราส่งไปนั้นเป็นแบบไร้คนขับเราจึงทำอะไรได้อย่างค่อนข้างจำกัด”ดร.แบนเนอร์ ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ประตูมิติอวกาศที่ปรากฏขึ้นนี้มีรัศมีพลังที่เเตกต่างไม่เหมือนของกับ ทีมX-MEN บลิงก์ หรือพวกสายเลือดเเรกเริ่มของโลก พวกพ่อมด คลื่นพลังที่ประตูมิติอวกาศนี้ส่งออกมาเป็นทิศทางที่ลึกลับเเละครอบคลุมทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน
“ค่าพลังถูกปลดปล่อยออกมาในทิศทางเดียวกันอย่างไรก็ตาม…”ดร.แบนเนอร์ ครุ่นคิด
“หากคลื่นพลังในทิศทางนี้มีพลังรุนเเรงมากพอยิ่งเป็นระดับพลังงานที่มากล้นจนเกินไปล่ะก็อาจกระทั่งสามารถทำให้โลกถูกทำลายได้เลย”ดร.แบนเนอร์ อุทานออกมา
“ดังนั้นพวกเราจะต้องคอยควบคุมระดับพลังความผันผวนของพื้นที่มิติอวกาศนี้ให้ได้”ดร.แบนเนอร์ ได้พูด เบา ๆ

“เดิมเร้ด สกัลล์ ได้อยู่ในตำเเหน่งเเถวนี้งั้นหรอ”ไอซ์แมนได้จ้องมองไปรอบ ๆ พร้ออมกับกล่าวถาม มิราจไนท์
“อืม,ที่นี่เเหละ ตามข้อมูลอ้างอิงที่ J.A.R.V.I.S ให้มา เป็นเเถวนี้ไม่ผิดเเน่ เเต่ฉันจำไม่ได้ว่าตรงไหนที่ฉันได้นอนล้มบาดเจ็บในตอนนั้น”ได้ยินคำถามของ ไอซ์แมน เเจ็คสันตอบกลับ
หลังจากถูกส่งออกมาจากประตูมิติอวกาศเเจ็คสันก็ได้รับบาดเจ็บหนักเขาได้ฟื้นคืนสติในเวลาต่อมา เเละเห็น หนูหิมะ ที่กำลังเเทะโลมนิ้วของเขา จากนั้น เเจ็คสัน ก็ได้เดินทางหาฐานลับไฮดร้า จนพบกับ เร้ด สกัลล์ ระหว่างทาง
“ที่นี่มีหิมะครอบคลุมหนามากคงไม่อาจระบุตำเเหน่งได้อย่างเเม่นยำ ถ้าเกิด ศพของ เร้ด สกัลล์ อยู่เเถวนี้จริง ๆ อาจเป็นไปได้ว่า การคำนวณของ J.A.R.V.I.S นั้นผิดพลาด”เเจ็คสันพึมพัมออกมาเล็กน้อย
ฟุ่บ! Aileen-novel
จากนั้นเเจ็คสันก็ปลดปล่อยพลังจิตที่น่าเกรงขามอออกมาถ้าระบบของ J.A.R.V.I.S ไม่สามารถค้นหาได้ เเจ็คสัน ก็มีเเต่จะต้องลองใช้พลังจิตเท่านั้น
ภายใต้คลื่นพลังจิตที่เเข็งเเกร่งขอองเเจ็คสัน พื้นที่ทุ่งหิมะโดยรอบ ได้ถูกเขาสเเกนอย่างสมบูรณ์
ฟุ่บ!
สุดท้ายพอยืดระยะออกไปได้มากพอเเจ็คสันที่สูญเสียพลังจิตไปกว่าครึ่งได้ถอนพลังจิตกลับมา ดูเหมือน ศพของ เร้ด สกัลล์ จะหายไปจริง ๆ
“มิราจไนท์คุณไม่เป็นอะไรนะ ผิวของคุณดูไม่ดีอย่างมาก บาดเจ็บหรือไม่?”เห็นมิราจไนท์หอบหนักหลังจากทำอะไรบางอย่าง ไอซ์แมน กล่าวถามอย่างรวดเร็ว
“ไม่เป็นไรเเค่เหนื่อยจากการใช้พลังจิตไปมากเพียงเท่านั้น”ได้ยินคำถามของไอซ์แมน เเจ็คสันตอบกลับ
อย่างไรก็ตามคำตอบของเเจ็คสัน ทำให้ ไอซ์แมน เบิกดวงตาขึ้นกว้าง
“พลังจิตฮ่าฮ่า พลังจิต ไม่เเปลก !”ไอซ์แมนหัวเราะออกมาเบา ๆ
“มิราจไนท์คุณโอเคนะ?”เห็นมิราจไนท์มีท่าทีเเปลก ๆ ในเวลาต่อมา ไอซ์แมนตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ไอซ์แมนบางทีเราอาจสามารถหาลูกบาศก์เวทมนตร์ที่นี่ได้!”ได้ยินคำถามของไอซ์แมน เเจ็คสันจ้องมองไปที่พื้นที่ด้านหน้าราวกับครุ่นคิดอะไรได้ ก่อนที่เขากล่าวออกมาอย่างจริงจัง

เดินเล่นในทุ่งหิมะ
หลังจากมิราจไนท์พูดคำเหล่านี้ออกมาทุกคนในห้องประชุมก็จ้องมองไปที่พวกเขาทิวทัศน์ของทุ่งหิมะเหล่านี้เเทบจะไม่มีอะไรพิเศษเเม้เเต่น้อย เเต่มิราจไนท์กลับบอกขอออกไปเดินเล่นชมทิวทัศน์ เดิมสิ่งที่พวกเขาควรสนใจตอนนี้คือการค้นหาลูกบาศก์เวทมนตร์ไม่ใช่หรอ
“ฮ่าฮ่า,จริงๆ เเล้ว ฉันเองก็อยากจะออกไปเดินเล่นด้วย มิราจไนท์ พวกเราไปด้วยกันเถอะ “จากนั้นไอซ์แมนก็เปิดปากขึ้น
เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ เเล้ว สถานที่ภายนอกที่มีลมหนาวเเละทิวทัศน์ทุ่งหิมะที่ดูธรรมดา สำหรับ ไอซ์แมนเเล้วมันเป็นบรรยากาศที่เเสนสบายเเละช่วยให้เขาผ่อนคลาย ความสามารถของไอซ์แมนมาจากยีนกลายพันธุ์พิเศษในร่างกาย สภาพเเวดล้อมของที่นี่มีผลความสามารถในการส่งผลกระทบต่ออการเปลี่ยนเเปลงความสามารถของเขา หากเขาอยู่ในสถานที่เเห่งนี้ ความสามารถของไอซ์แมนสามารถดึงออกมาใช้ได้อย่างสูงสุด
“เเน่นอน!”ได้ยินคำพูดของไอซ์แมน เเจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“คนอื่นๆ ที่เหลือ ก็มาเตรียมพร้อมกันเถอะ จัดอุปกรณ์ที่จำเป็น สำหรับสถานการณ์อื่น ๆ จริงสิ ฉันหวังว่าพวกคุณจะรีบกลับมาโดยเร็วที่สุด”หลังจากตัดสินใจว่าจะเข้าไปค้นหาลูกบาศก์เวทมนตร์ด้านหลังประตูมิติอวกาศ กัปตันโรเจอร์ส ก็พูดขึ้น
“ผ่อนคลายเถอะพวกเราจะรีบกลับมา! ไปกันเถอะ มิราจไนท์”หลังจากกล่าวบอกกัปตันโรเจอร์ส ไอซ์แมน ก็เดินนำหน้า มิราจไนท์ไป
“ตรงนี้ขอฝากนายด้วยล่ะ”เเจ็คสันจ้องมองไปที่เเฮร์รี่ พร้อมกับส่งสายตา
“อืม”
จากนั้นเเจ็คสันก็เดินออกจากห้องประชุมพร้อมกับไอซ์แมน คนอื่น ๆ ที่เหลือ ก็เเยกทางกันตามลำดับ กัปตันโรเจอร์ส นั้นได้กลับไปดูประตูมิติอวกาศเเละพื้นที่ใกล้เคียง ธรรมชาติเขาจะต้องเฝ้าระวังเหตุเตรียมพร้อมสำหรับการรวมตัวที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้

สิบนาทีผ่านไปเเจ็คสัน เเละ ไอซ์แมน ได้เดินออกมาจากฐานของS.H.I.E.L.D. ค่อนข้างห่างไกล ทัศนียภาพโดยรอบของพวกเขาคือทุ่งหิมะอันไร้สิ้นสุด
ตุบตุบ
บนพื้นที่หิมะที่เย็นเฉียบเหล่านี้เเจ็คสัน ได้เดินต้านเเรงลมหิมะด้วยเรี่ยวเเรงที่มากล้นของเขา เเต่สำหรับไอซ์แมนการก้าวเท้าของเขาเป็นเพียงการก้าวเท้าเบา ๆ ที่เรียบง่ายเพียงเท่านั้น
“ไอซ์แมนคุณปล่อยพื้นที่เยือกเเข็งแบบนี้ ไม่ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานงั้นหรอ”เเจ็คสันหันไปกล่าวถามไอซ์แมนที่อยู่ด้านข้าง
เหตุผลที่ไอซ์แมนสามารถเดินบนพื้นที่นี้ได้อย่างฉิวๆ เป็นเพราะเขาเป็นใช้งานพื้นที่เยือกเเข็งของตนเอง ลมหนาวจากภายนอกไม่มีผลกระทบอะไรต่อเขาเเม้เเต่น้อย
“ฮ่าฮ่าถ้าเป็นที่นี่ล่ะก็ไม่เป็นไร อันที่จริงการเปิดใช้พื้นที่เยือกเเข็งของฉันที่นี่ ก็เหมือนกับการอุ่นร่างกายเพียงเท่านั้น”ได้ยินคำถามของมิราจไนท์ ไอซ์แมนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
ไอซ์แมนได้ให้เหตุผลเกี่ยวกับร่างกายของเขาเเละสภาพเเวดล้อมของที่นี่มันช่วยให้ตนเองได้วอร์มร่างกายทั้งยังสามารถส่งเสริมการใช้ความสามารถของตนเองด้วย
เมื่อเทียบกับความสามารถกลายพันธุ์ของคนอื่นๆ เเล้ว ความสามารถกลายพันธุ์ของไอซ์แมนค่อนข้างรุนเเรงกว่าคนอื่น ๆ เเต่ความสามารถของพวกคนเหล่านี้ มักจะเติบโตได้ช้า หากเติบโตเร็วเกินไปความสามารถเหล่านั้นรั้งเเต่จะเป็นผลเสีย นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้มิวแทนท์ที่มีความสามารถที่น่ากลัวจะต้องค่อย ๆ พัฒนาเเละฝึกฝนไปได้อย่างยากลำบาก
การฝึกฝนนั้นเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนายีนกลายพันธุ์ของมิวแทนท์ในมุมมองของมิวแทนท์จำนวนมาก การพัฒนาความสามารถนั้นเป็นไปได้ยาก นอกซะจากความเข้ากันได้ของพลังที่มากจนเกินไป
ความเข้ากันได้ของพลังนั้นจะทำให้ยีนกลายพันธุ์เเข็งเเกร่งเเละรุนเเรงมากขึ้นประสิทธิภาพของมันมักจะสูงกว่ายีนกลายพันธุ์อื่น ๆ เพราะแบบนี้คนเหล่านี้มักจะตกเป็นเหยื่อของการทดลองอย่างเช่นกลุ่มของพวกสไตรเกอร์ พวกมันได้จับพวกมิวแทนท์ที่มียีนพิเศษเหล่านี้มาทดลองกับมนุษย์เเละทำให้มนุษย์เหล่านั้นเปลี่ยนกลายเป็นมิวแทนท์ที่มีลักษณะพันธุกรรมที่เหมือนกับตัวต้นแบบ อีกทั้งความสามารถของพวกรุ่นสองอาจจะกลายพันธุ์ซึ่งนำไปสู่การวิวัฒนาการของยีนต้นแบบได้
สำหรับการวิวัฒนาการของคนต้นแบบนั้นสามารถวิวัฒนาการได้หลายปัจจัยเช่นผ่านสภาพเเวดล้อม หรือ การฝึกฝน อย่างไอซ์แมน เขาสามารถใช้สภาพเเวดล้อมของที่นี่ในการฝึกฝนความสามารถของตนเองได้ ทั้งยังจะช่วยพัฒนายีนกลายพันธุ์ของเขาให้เเข็งเเกร่งมากขึ้นไปอีก
“อืม,”ได้ยินคำตอบของไอซ์แมน เเจ็คสัน ตอบกลับเบา ๆ
เขาเริ่มเข้าใจเกี่ยวกับความสามารถเเละยีนกลายพันธุ์ของพวกมิวแทนท์มากขึ้นในใจของเขา ก็ค่อนข้างชื่นชมความสามารถของยีนกลายพันธุ์เหล่านี้ เเต่ก็อย่างที่เขารู้มา ยีนกลายพันธุ์พวกนี้มีทั้งข้อดีเเละข้อเสียในตัวของมันเอง
“มิราจไนท์คุณออกมาเดินเล่นเพราอะไรงั้นหรอ คงไม่ใช่จะเพราะมาชมทิวทัศน์ของทุ่งหิมะเหล่านี้หรอกใช่มั้ย?”ได้ยินคำตอบของ มิราจไนท์ ไอซ์แมนกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับลดความรุนเเรงในการควบคุมพื้นที่เยือกเเข็งของตนเอง
ฟุ่บ!
เห็นไอซ์แมนลดการควบคุมพื้นที่เยือกเเข็งของตนเองเเจ็คสัน ได้ดึงสติกลับมา
“เอ๋…เอ่ออันที่จริงฉันก็ไม่ได้คิดจะออกมาเดินเล่นหรอก เเต่เพราะคาใจเรื่องอะไรบางอย่างเพียงเท่านั้น”เเจ็คสันตอบกลับอย่างเร่งรีบ
“เรื่องอะไรงั้นหรอ”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ไอซ์แมนได้กล่าวถามกลับ
ฟุ่บ!
จากนั้นพวกเขาก็หยุดเดินชุดเเพนท่อมสูทของเเจ็คสันได้ปลิวไปตามเเรงลมขณะที่ไอซ์แมนกำลังรอคำตอบจากเขา

การประชุมที่เรียบง่าย
ขณะที่พวกเขารอทีมสำรวจที่ไปสำรวจประตูมิติอวกาศให้กลับมาคนอื่น ๆ ทั้งหมดก็มารอกันที่ห้องประชุมใหญ่ เเจ็คสัน ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ทีมX-MEN เเละ S.H.I.E.L.D. ยกเว้น ไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ค ขุมกำลังขนาดใหญ่ที่เป็นพันธมิตรกันได้มารวมกันอย่างยิ่งใหญ่
“มิราจไนท์คุณมีอะไรจะอธิบายเกี่ยวกับลูกบาศก์เวทมนตร์อีกมั้ย ประตูมิติอวกาศได้ประกฏความผันผวนส่งไปยังพื้นที่ต่างโลก หากเราเข้าไปเเละไม่พบลูกบาศก์เวทมนตร์เเล้วพวกเราจะทำอย่างไร เรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์เองก็ไม่สามารถปล่อยผ่านได้เหมือนกัน”ขณะที่ทุกคนได้นนั่งลงในห้องประชุมกัปตันโรเจอร์ส ได้จ้องมองไปที่ มิราจไนท์
“เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับลูกบาศก์เวทมนตร์ฉันได้บอกไปทั้งหมดก่อนหน้านี้เเล้ว นอกจากนี้ฉันไม่มีวิธีอื่นที่จะทำให้โอกาสค้นหาของเราเพิ่มขึ้น เเต่ฉันคิดว่าการติดตามคลื่นความผันผวนของพื้นที่มิตินั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องเเล้ว”ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส เเจ็คสันตอบกลับ
ที่จริงเเล้วเเจ็คสันเองก็มีลางสังหรณ์ว่าหากพวกเขาเข้าไปข้างในเเละค้นหาลูกบาศก์เวทมนตร์พวกเขาก็อาจจะพบกับลูกบาศก์เวทมนตร์เเต่ในอีกลางสังหรณ์นึงเขาก็รู้สึกว่าอาจจะไม่ได้พบ อันที่จริงความรู้สึกแบบนี้เขาเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน
เป็นเพราะการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโลกของเเจ็คสันทำให้เกิดการเปลี่ยนเเปลงของพล็อตเรื่องเดิม โลกิสมควรทรยศเเออสการ์ด เเละ ชิงลูกบาศก์เวทมนตร์มาเพื่อใช้โจมตีโลก สงครามนั้นเกิดขึ้นในนิวยอร์ก เเต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่เป็นเช่นนั้น
หากสงครามในนิวยอร์กปรากฏขึ้นผลลัพธ์ จะเป็นอย่างไร เเจ็คสันก็ไม่สามารถคาดเดาได้เหมือนกัน เเต่ปัจจุบัน พวกเขายังไม่พบลูกบาศก์เวทมนตร์ เเจ็คสันให้ความสำคัญกับลูกบาศก์เวทมนตร์เเละพื้นที่มิติอวกาศที่กำลังปรากฏอยู่มาก เขากังวลว่าอีกฟากนึงของประตูมิติอวกาศจะมีสัตว์ประหลาดร้ายรอพวกเขาอยู่
“นี่ก็เท่ากับว่าเราต้องพึ่งโชคชะตาอย่างงั้นหรอ”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์ส พูดอย่างหมดหนทาง
ถึงเเม้ว่าS.H.I.E.L.D. ในตอนนี้่จะอยู่ภายใต้การควบคุมของกัปตันโรเจอร์สโดยสมบูรณ์ ภายนอก องค์กร S.H.I.E.L.D. เป็นองค์กรใหญ่ที่สุดในโลกจริง เเต่ด้านขุมพลัง ไม่สามารถเปรียบเทียบกับเหล่าพันธมิตรของเขาได้ เเม้จะนับรวม ดร.เเบนเนอร์ เข้าไปเเล้ว ก็ยังไม่มีความมั่นใจอยู่ดี เพราะเขาไม่สามารถชั่งน้ำหนักกับ การปรากฏตัวขึ้นของ ฮัลค์ ได้อย่างมั่นใจ ส่วนเรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์ เป็นธรรมชาติที่ กัปตันโรเจอร์ส จะกังวล ฟังจากที่มิราจไนท์เล่าให้ฟังเเล้ววัตถุระดับนี้สามารถที่จะนำมาศึกษาเเละพัฒนาเทคโนโลยีของโลกได้ หากได้มันมาไม่เพียงเเต่จะช่วยส่งเสริมวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีเเต่ยังจะสามารถเสริมเเกร่งความมั่นคงเเละความปลอดภัยของโลกได้อีก
ดังนั้นกัปตันโรเจอร์สจึงคิดว่า เเม้เขาจะมีทีมอเวนเจอร์ส เเต่ก็ไม่มีจุดเเข็งที่เพียงพอ ยิ่งหากทีมอเวนเจอร์สขาดเขาไป ความเเตกต่างทางด้านกำลังคนก็จะลดลง นอกเหนือจากเขาเเล้วก็มี ฮอว์กอาย เเละ ฟอลคอน ทั้งสองคนไม่ได้มีพละกำลังเหนือมนุษย์ พวกเขาพึ่งพาเทคโนโลยีในการสู้รบ ถ้าหากอาวุธเทคโนโลยีของพวกเขาอยู่ในเกณฑ์ระดับต่ำ พวกเขาจะไม่สามารถเเสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่ อันที่จริง กัปตันโรเจอร์ส ก็รู้สึกอิจฉามิราจไนท์อยู่เหมือนกัน อีกฝ่ายไม่เพียงเเต่มีเทคโนโลยีที่น่าค้นหา ทั้งยังมีพละกำลังทางกายที่เเข็งเเกร่งอีก เขาไม่สามารถเทียบกับอีกฝ่ายได้เลย
“ถึงครั้งนี้เราจะไม่สามารถหาลูกบาศก์เวทมนตร์พบเเต่เราย่อมมีการเก็บเกี่ยวที่มากมายกลับไปไม่นานมานี้ ฉันได้ตรวจพบอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ ซึ่งฉันอยากที่จะศึกษาค้นคว้ามัน”เห็นกัปตันโรเจอร์สทำตัวไม่ถูก ดร.แบนเนอร์ ได้เดินเข้ามาในที่ประชุมเเละกล่าวพูดขึ้น
ในฐานะนักวิทยาศาสตร์พรสวรรค์ในการเรียนรู้ของดร.แบนเนอร์ นั้นสูงมาก ไม่จำเป็นจะต้องเป็นลูกบาศก์เวทมนตร์ก็ได้
ดังนั้นสิ่งที่เขาสนใจย่อมเป็นสิ่งที่มีค่าเสมอมันคือความหนาเเน่นของอนุภาคเเอลฟ่าที่สูงอย่างผิดปกติ
“เเต่…ด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นคือสถานที่ต่างดาวนอกโลก”กัปตันโรเจอร์สกล่าวอย่างกังวล
ไม่นานมานี้เขาได้ยินจาก ดร.แบนเนอร์ว่า ด้านหลังประตูมิติอวกาศคือจักรวาลที่เต็มไปด้วยดวงดาว มันคือดวงดาวที่ไม่ใช่โลก อีกทั้งประตูมิติอวกาศที่เสถียรภาพเช่นนี้พวกเขาก็ไม่รู้ว่ามันจะมีท่าทีเเปลกเพียงใดในภายหลัง หากเขาเข้าไปข้างในเเละเกิดความผิดปกติตามมาผลลัพธ์ที่ตามมาคงไม่ดีเท่าไหร่นัก
“กัปตันโรเจอร์สพวกเรา ทีมX-MEN มาที่นี่เพื่อค้นหาลูกบาศก์เวทมนตร์ ดังนั้นพวกเราจะไม่ยกเลิกภารกิจไม่ว่าอย่างไรก็ตาม”ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส ไอซ์แมน เเละ สตอร์ม ได้เปิดปากพูดขึ้น ไอลีนโนเวล
“เเม้ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ของเราจะไม่มีเครื่องมือระบบการวิจัย เเต่ความมั่งคั่งที่อาจค้นหาได้ในจักรวาลอื่นพวกเราเองก็ต้องการเช่นเดียวกัน”หลังจาก พวก สตอร์ม เปิดปากพูด เเจ็คสัน ได้กล่าวต่อ
เดิมเขาไม่ได้มีความคิดที่จะโน้มน้าวอีกฝ่ายเเต่ในเมื่อพวก สตอร์ม ตอบตกลงเห็นด้วยในการค้นหาอีกฟากนึงของจักรวาล เป็นธรรมชาติ ที่เเจ็คสันจะไม่ปฏิเสธ
“อันที่จริงเรื่องนั้นมันก็คือวัตถุประสงค์ที่พวกเรามารวมกันที่นี่นั่นเเหละ!”ได้ยินคำพูดของพวกสตอร์ม เเละ มิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์ส ยิ้มออกมา
กัปตันโรเจออร์สไม่ได้นำพาองค์กร S.H.I.E.L.D. มาเพื่อผูกขาดทรัพยากรเหล่านี้ ถึงเเม้ว่าระบบการวิจัยของ S.H.I.E.L.D. จะสมบูรณ์แบบที่สุด เเต่ในด้านการเก็บเกี่ยวนั้นพวกเขาอาจจะได้ไม่เท่าที่ควร
“ถ้าพวกเราตัดสินใจได้เเล้วก็ไม่จำเป็นจะต้องรั้งรอกันอยู่ที่นี่เเล้วจริงสิ ฉันขอตัวออกไปเดินเล่นชมทัศนียภาพของทุ่งหิมะสักครู่ เเล้ว จะกลับมาโดยเร็วที่สุด”เเจ็คสันตัดสินใจเเล้วว่าจะเข้าสำรวจด้านหลังประตูมิติอวกาศ ดังนั้นเขาจึงกล่าวพูดขึ้น
อันที่จริงเขาต้องการค้นหาศพของเร้ด สกัลล์ ที่เลิกคิดไปเมื่ออครู่ เเม้ J.A.R.V.I.Sบอกว่าจะไม่ตรวจพบศพอีกฝ่าย เเต่เเจ็คสันก็อยากจะยืนยันด้วยตัวเอง
….

สำรวจพื้นที่ด้านหลังประตูมิติอวกาศ
หลังจากนั้นหนึ่งนาทีทางS.H.I.E.L.D. ได้เตรียมหุ่นยนต์ไร้คนขับจัดตั้งเป็นทีมเพื่อส่งเข้าประตูมิติอวกาศขนาดใหญ่ หากข้างหลังประตูนั้นมีประสบการณ์เเบบเดียวกับ มิราจไนท์ เเละ เดดพูล ก่อนหน้านี้ ก็อันตรายไม่ใช่น้อย ดังนั้นก่อนหน้านี้ กัปตันโรเจอร์ส จึงให้องค์กร S.H.I.E.L.D. สร้างกองทัพหุ่นยนต์สำรวจจำนวนมากขึ้นมาเพื่อสำรวจพื้นที่ด้านหลังประตูนี้
ตึกตึก~~
ภายใต้การจ้องมองของเเจ็คสัน เเละ คนอื่น ๆ หุ่นยนต์ไร้คนขับที่มีฟังก์ชั่นมากกว่า 20 ฟังก์ชั่น ได้ถูกส่งเข้าประตูมิติอวกาศจากนั้นพวกเขาก็รออย่างสงบ
“คลื่นสัญญาณได้รับผลกระทบอย่างมาก!อย่างไรก็ตามสัญญาณยังไม่ได้ถูกตัดออกทั้งหมด!”หลังจากหุ่นยนต์๖วสุดท้ายเข้าไป เจ้าหน้าที่ขั้นสูงของ S.H.I.E.L.D. ได้กล่าวเเจ้งต่อ กัปตันโรเจอร์ส
สัญญาณไม่ได้ถูกตัดขาดอย่างสมบูรณ์นั่นอธิบายได้ว่าพื้นที่ด้านหลังประตูนั่นยังอยู่ในโลก
“ด้านหลังประตูนั่น,คือพื้นที่ในโลกนี้งั้นหรอ”ได้ยินเสียงของลูกน้องตนเองกัปตันโรเจอร์ส พึมพัมออกมา
ประตูมิติอวกาศที่ส่งพวกมิราจไนท์เเละเดดพูลไปได้นำพาไปสู่ดวงดาวอื่นในจักรวาล เเม้สถานที่เเละข้อมูลเหล่านี้เขาจะฟังมาจากการเล่าจากปาก เเต่กัปตันโรเจอร์ส ก็เชื่อมั่น ทั้งยังทำการวิเคราะห์ออกมา เพราะฉะนั้นประตูมิติอวกาศขนาดใหญ่เช่นนี้ เขาจึงให้ความสำคัญอย่างมาก
“กำลังประมวลผลรวบรวมภาพของสภาพเเวดล้อมโดยรวมอย่างสมบูรณ์”ได้ยินคำถามของกัปตันโรเจอร์สหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชารีบกล่าวตอบ
“อืม,พวกเรารออยู่”กัปตันโรเจอร์สพยักหน้าตอบ
ประตูมิติอวกาศคือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากพลังลึกลับของลูกบาศก์เวทมนตร์ดังนั้นกัปตันโรเจอร์สจึงไม่รีบร้อนที่จะเเสดงอาการร้อนรนต่อพื้นที่ด้านหลังนั่น
“คราวนี้ไม่ได้นำพาไปยังดาวเคราะห์อื่นเเต่อยู่ในโลกงั้นหรอ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี!”ได้ยินคำพูดการสนทนาระหว่างกัปตันโรเจอร์ส เเละ หนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาคนนั้น เเจ็คสันครุ่นคิดเงียบ ๆ
เเม้ว่าสิ่งที่ประตูมิติอวกาศจะพาไปจะเป็นการสุ่มเอกภพนั้นกว้างใหญ่ไพศาล ดวงดาวเเละดาวเคราะห์อื่น ๆ ก็มีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด การที่ประตูมิติอวกาศเลือกที่จะสุ่มในพื้นที่บางเเห่งบนโลกถือเป็นเรื่องที่ดี
ธรรมชาติก่อนหน้านี้เเจ็คสัน ก็คิดว่าด้านหลังประตูมิติอวกาศนี้น่าจะเป็นดวงดาวของอารยธรรมอะไรซักอย่าง เพื่อที่จะช่วยเหลือให้พวกเขาได้ประโยชน์ในอนาคต เเต่ในเมื่อมันเป็นเช่นนี้ ก็ดีไปอีกแบบ พวกเขาจะได้ลดจำนวนผลกระทบที่จะส่งผลต่อพวกเขาเองด้วย
สำหรับเเจ็คสันเเล้วถ้าประตูมิติอวกาศนี้ส่งไปยังดาวเคราะห์อื่นที่เเตกต่างกัน เขาก็ยังสามารถเก็บประสบการณ์เเละกอบกู้ผลประโยชน์จากดาวเคราะห์นั้น ๆ กลับมาโลกได้ เเม้โลกจะไม่ได้ขาดทรัพยากรมากมายในตอนนี้ เเต่สิ่งหนึ่งที่โลกต้องการคือการพัฒนาอารยธรรมให้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
“หืมดูเเล้วมันน่าจะไม่ใช่สถานที่บางเเห่งในโลกนี้!”ขณะที่เเจ็คสันกำลังคิดเรื่องสำคัญอยู่ จู่ ๆ ดร.แบนเนอร์ ก็ส่งเสียงออกมา ไอรีนโนเวล
เจ้าหน้าที่ตัวเเทนของS.H.I.E.L.D. เละ คนอื่น ๆ ก็หยุดชะงัก ดร.แบนเนอร์ ได้เดินไปที่เครื่องตรวจสอบพร้อมกับคีย์ข้อมูลจำนวนมากลงไปซึ่ง เจ้าหน้าที่ตัวเเทนคนนี้รู้สึกตกใจอย่างมาก
“ดร.แบนเนอร์คุณค้นพบอะไรงั้นหรอ”ได้ยินคำพูดของ ดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์ส กล่าวถาม
“อืม,จากการตรวจสอบอนุภาพในปัจจุบันหลังจากเข้าไปข้างในประตูมิติอวกาศอย่างน้อยมันก็ไม่ใช่อนุภาพสภาพเเวดล้อมของโลกในปัจจุบัน เเม้โลกของเราจะมีสภาพเเวดล้อมที่เลวร้ายที่สุด เเต่ก็ไม่เหมือนอานุภาพความหนาเเน่พิเศษนี้”ได้ยินคำถามของกัปตันโรเจอร์ส ดร.แบนเนอร์ กล่าวตอบ
“อนุภาพเเอลฟ่าพวกนี้มีความหนาเเน่นระดับสูง ดังนั้นด้านหลังประตูมิติอวกาศนี้น่าจะเป็นสถานที่ใดสถานที่หนึ่งในจักรวาล”หลังจาก ดร.แบนเนอร์ ได้เลือกลงมือเองเขาก็กล่าวพูดออกมาอย่างระวัง
โชคดีที่พวกที่ถูกส่งไปเป็นหุ่นยนต์ไร้คนขับซึ่งเเม้องค์กร S.H.I.E.L.D. จะเป็นองค์กรระดับโลก เเต่การทำภารกิจในจักรวาลอื่น ๆ พวกเขาก็ยังไม่เคยได้รับประสบการณ์ หากพวกเขาส่งคนเข้าไปผลกระทบที่ตามมารั้งเเต่จะมีผลเสีย
“คุณมั่นใจใช่มั้ย”หลังจากได้ยินคำพูดของดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์ส ได้กล่าวถามยืนยันอีกครั้ง
“ครับ,ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่ดร.แบนเนอร์ บอก ด้านหลังประตูมิติอวกาศนั่นคือจักรวาลที่เต็มไปด้วยดวงดาวบนท้องฟ้า!”หลังจากที่ได้เห็นผลวิเคราะห์ของ ดร.แบนเนอร์ เจ้าหน้าที่ของ S.H.I.E.L.D. คนนั้นได้ตอบกลับ
“รวบรวมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในนั้นให้ได้มากที่สุดจากนั้นส่งกองทัพพวกนั้นกลับมา เราจำเป็นจะต้องได้รับข้อมูลการประมวลผลจากข้างในนั้น”ภายใต้การพิจารณาของ กัปตันโรเจอร์ส เขาได้กล่าวสั่งการอย่างรวดเร็ว
“ครับ!”เจ้าหน้าที่ตัวเเทนคนนั้นได้ควบคุมหุ่นยนต์ไร้คนขับเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
“ในช่วงระหว่างที่รอเก็บเกี่ยวข้อมูลเราจะปิดภูมิภาคเเห่งนี้โดยสมบูรณ์หน้าที่ของพวกเราคือ ประมวลผลอนุภาพในจักรวาลที่เเตกต่างนี้ให้ได้เเละหาข้อมูลออกมาให้ได้มากที่สุด”ดร.แบนเนอร์ กล่าวตอบ
“อืม,”
กัปตันโรเจอร์สได้พยักหน้าพร้อมกับเดินออกจากที่นี่เเม้การสำรวจจะเริ่มขึ้นไปเเล้ว เเต่กัปตันโรเจอร์สไม่จำเป็นจะต้องรั้งรออยู่ที่นี่
“ฮอว์กอายนี่เป็นครั้งเเรกที่ ฉันจะมอบหมายหน้าที่ให้คุณ หากมีอะไรเกิดขึ้น คุณ กับ เจ้าหน้าที่ โคลสัน ควรจะรู้นะว่าจะต้องทำอย่างไร”กัปตันโรเจอร์ส ได้หันไปกล่าวบอก ฮอว์กอาย
ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส ฮอว์กอายพยักหน้าตอบอย่างเงียบ ๆ จากนั้น เขาก็เดินไปยังทิศทางของพวกมิราจไนท์ที่ยืนรออยู่ใกล้ตำเเหน่งของประตูมิติอวกาศ

ประตูมิติอวกาศขนาดใหญ่พิเศษ
เห็นปีเตอร์กระโดดอย่างดีใจเเละมีรูปลักษณ์ที่ผ่อนคลายอย่างไรก็ตามโทนี่รู้ว่า ที่ปีเตอร์มีความสุขไม่ใช่เพราะว่าจะได้กลับบ้าน เเต่เขาจะไปที่ไซบีเรียเพื่อสมทบกับ เเจ็คสัน ก่อนหน้านี้ โทนี่ ได้ข่าวลูกบาศก์เวทมนตร์เเล้ว ปีเตอร์ เองก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น โทนี่ จึงปล่อยให้ปีเตอร์กลับบ้านได้
“เจ้าเด็กคนนี้!รีบๆ ไปได้เเล้ว คิดหรอว่าฉันไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่!”หลังจากเห็นปีเตอร์ไล่เก็บสิ่งทดลองที่ทำค้างเอาไว้เขาก็เตรียมจะออกจากห้องลับเเห่งนี้
“ฮ่าฮ่าขอบคุณ คุณสตาร์ค!”ได้ยินคำพูดของ โทนี่ ปีเตอร์รีบวิ่งไปที่ทางเข้าห้องทดลองทันที
“ไปที่ห้องประตูถัดไปเลือกชุดเกราะไอรอนแมนไปเเล้วกัน ฉันจะให้ J.A.R.V.I.S ไปส่งเธอ!”โทนี่กล่าวเริม
“ขอบคุณครับ!”หลังจากนั้นปีเตอร์ก็ออกไป
ในที่สุดห้องทดลองขนาดใหญ่นี้ก็เหลือโทนี่ เพียงคนเดียวพร้อมกับการทดลองจำนวนมากที่ถูกวางเอาไว้ ในห้องทดลองนี้มีเครื่องทดลองความเเม่นยำสูงหลายตัว โทนี่ ให้ความสำคัญกับมันมาก
“เจ้านายครับ,ผมจะอยู่สนับสนุนคุณที่นี่ต่อเอง”เห็นโทนี่อยู่คนเดียวในห้องเเล็ปเเห่งนี้ เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้ดังขึ้น
“ฮ่าฮ่าฉันรู้อยู่เเล้ส นอกจากนี้ นายก็คือส่วนหนึ่งของฉัน J.A.R.V.I.S สัญญากับฉัน ว่านายจะคอยอยู่เคียงข้างฉันอย่างต่อเนื่อง”ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ยิ้มออกมา
“เจ้านายครับ,ผมจะเฝ้าคอยติดตามคุณถ้าคุณต้องการผม ผมก็ยินดีติดตามคุณอย่างต่อเนื่อง”ได้ยินคำพูดของ โทนี่ J.A.R.V.I.S ตอบกลับ
“ฉันเชื่อนาย,เอาล่ะในเมื่ออีกทางด้านนึงกำลังพยายามหาสิ่งที่เรียกว่าลูกบาศก์เวทมนตร์อยู่ ก็ให้พวกเขาจัดการไปเเล้วกัน ส่วนฉัน จะรั้งอยู่ที่นี่ทำการศึกษาวิจัยต่อ J.A.R.V.I.S มาช่วยกันหน่อย!”โทนี่ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องทางนั้น เขายังมีการศึกษาวิจัยจำนวนมากรออยู่ เเม้ว่ามันจะเทียบกับลูกบาศก์เวทมนตร์ จะเป็นสิ่งเล็กน้อยก็ตาม
“ครับเจ้านาย!”

ขณะที่ปีเตอร์ ขับชุดเกราะไอรอนแมนมุ่งมายังทิศทางของไซบีเรียอย่างรวดเร็ว ทางด้านเเจ็คสัน เขาก็ได้เข้าสู่ฐานชั่วคราวของ S.H.I.E.L.D. เเล้ว เขาเห็นสมาชิกของทีม X-MEN หลายคน เเต่คราวนี้ ศาสตราจาย์ชาร์ลส์ไม่ได้มาด้วย ผู้นำของทีมX-MEN คราวนี้ ก็คือ ไอซ์แมน โรเบิร์ต ในสภาพเเวดล้อมที่หนาวเย็นเช่นนี้ ความสามารถของไอซ์แมน นั้นถือว่าเหมาะสมอย่างมาก
“ฮ่าฮ่า,มิราจไนท์คุณเองก็มาด้วยงั้นหรอ ดูเหมือนคุณจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่เเล้วสินะ!”เห็นมิราจไนท์เดินเข้ามา ไอซ์แมน เดินเข้าไปทักทายด้วยรอยยิ้ม
“อืม,ขอโทดที่มาช้าเเละ ก็ขอบคุณ ไอซ์แมน”เเจ็คสันได้สวมกอดไอซ์แมนอย่างเรียบง่ายพร้อมตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“เป็นเรื่องที่ดี,เอาล่ะนอกเหนือจากโทนี่ สตาร์ค ทุกคนก็มาครบกันเเล้ว พวกเรามาเริ่มการดำเนินการสำรวจประตูมิติอวกาศกันดีกว่า”เห็นการทักทายของ มิราจไนท์ เเละ ไอซ์แมน กัปตันโรเจอร์สไม่ต้องการเสียเวลามาเกินไป เขากล่าวพูดขึ้น
อันที่จริงเเม้โทนี่ จะไม่ได้มา เเต่เขาก็ยังส่งเครือข่ายสำคัญ อย่าง J.A.R.V.I.S มาช่วยเหลือ ทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขา โทนี่ จะรับรู้ทั้งหมด
“มิราจไนท์คุณยังไม่เห็นประตูมิติอวกาศที่ปรากฏขึ้นสินะ ถ้าคุณเห็นมัน คุณจะต้องประหลาดใจมากเเน่นอน!”หลังจากได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส ไอซ์แมนได้ผละกอดออกจากมิราจไนท์เเละเดินกอดคอเขาเดินตรงไปที่ศูนย์กลางของฐาน
ภายใต้การนำของไอซ์แมนกัปตันโรเจอร์ส เเละ คนอื่น ๆ ก็เดินติดตามไปอย่างรวดเร็ว เพียงระยะเวลา 3 นาที เเจ็คสัน ก็สามารถสัมผัสคลื่นพลังความผันผวนของพื้นที่มิติพิเศษได้ทันที มันเป็นการเหนี่ยวนำพลังที่รุนเเรงอย่างมาก เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ คลื่นความผันผวนครั้งนี้ ทรงพลังกว่าหลายเท่า
ฟู่ว~~
จากนั้นบางสิ่งก็ปรากฏขึ้นในสายตาของพวกเขา
ด้านหน้าคือสนามพื้นที่หิมะโดยรอบระหว่างสนามพื้นที่นั้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางก็คือประตูมิติอวกาศสูงกว่า5 เมตร เพราะการปิดกั้นล้อมรอบของพวก S.H.I.E.L.D. ทำให้ พื้นที่ภายในนั้นเเทบจะไม่มีลมหนาวเล็ดรอด อย่างไรก็ตาม มีบางครั้งที่ประตูมิติอวกาศได้ส่งคลื่นไอความเย็นออกมา การปรากฏขึ้นของประตูมิติอวกาศในคราวนี้ ยิ่งใหญ่อย่างมาก เเละ ยังเสถียรภาพอีกด้วย
เทียบกับการปรากฏตัวของประตูมิติอวกาศที่ส่งพวกเเจ็คสัน เเละ เดดพูล ไปยังโลกที่เเตกต่างเเล้ว ประตูมิติอวกาศในคราวนี้ กลับทรงพลังกว่าโดยไม่ต้องสงสัย เเละ ประตูมิติอวกาศที่เสถียรเช่นนี้ ก็ยากที่รักษาสภาพไว้ได้นานยิ่งนานจนกระทั่งมันถูกคนของ S.H.I.E.L.D. ตีฐานล้อมรอบเอาไว้ได้ Aileen-novel
“มิราจไนท์คุณรู้สึกสงสัยมั้ยว่าทำไมประตูมิติอวกาศขนาดใหญ่ที่ถูกค้นพบจนถึงปัจจุบัน ถึงมีเสถียรภาพขนาดนี้”เห็นมิราจไนท์จ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศ กัปตันโรเจอร์ส ได้เปิดปากถาม
“อืม,ประตูมิติอวกาศขนาดใหญ่เช่นนี้ไม่ควรจะรักษาเสถียรภาพไว้ได้นาน อย่างน้อยมันก็คงไม่อยู่รอจนพวกเรามาถึง”ได้ยินคำถามของกัปตันโรเจอร์ส เเจ็คสันพยักหน้าตอบ
“ใช่,นี่เองก็เป็นผลลัพธ์ที่เราพูดคุยกันก่อนหน้านี้เดิมเราคาดว่าคลื่นความผันผวนที่เราสัมผัสได้จะมาจากลูกบาศก์เวทมนตร์เเต่กลับมาจากประตูมิติอวกาศนี่ซะได้”กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ
“อืม,ไม่พบสินะ…”ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์สเเจ็คสันรู้สึกไม่สบายใจ
เขาจ้องมองไปที่ประตูมิติอวกาศขนาดใหญ่ด้วยความสงสัย
“มิราจไนท์คุณคิดเห็นอย่างไร”เเจ็คที่ อยู่ด้านข้าง มิราจไนท์ ได้เปิดปากกล่าวถาม การที่เขาเห็นประตูมิติอวกาศที่มั่นคงในสภาพนี้ เขาเองก็รู้สึกได้ถึงความไม่สบายใจ
“ไม่รู้เหมือนกัน,ดูเหมือนว่าพวกเราจำเป็นจะต้องสำรวจด้านหลังประตูมิติอวกาศนี้!”เเจ็คสันสั่นศีรษะพร้อมกับเสนอความคิดเห็น
“อืม,พวกเราได้เตรียมหุ่นยนต์สำรวจไร้คนขับพร้อมเเล้ว,พวกเราสามารถเริ่มได้ทันที”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์ส ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้องรอเเล้ว!เริ่มเลยเถอะ!”

ดร.แบนเนอร์ มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ต่ำ
ได้ยินคำตอบที่ชัดเจนของJ.A.R.V.I.S,คิ้วของเเจ็คสันขมวดเเน่นขึ้นด้วยความสงสัย ตามระยะทางที่เขาเดินจากตรงนั้นไปยังฐานเก่าไฮดร้า มันน่าจะอยู่ในระยะทางที่เขาบอกอย่างเเน่นอน ถ้าเกิดว่า…เร้ด สกัลล์ ยังไม่ตาย ไม่สิมันไม่ถูกในเวลานั้นระบบได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่าเขาได้ฆ่า เร้ด สกัลล์ ไปเเล้ว ทั้งยังได้รางวัลภารกิจด้วย
“ระบบไม่น่าจะผิดพลาด เป็นไปไม่ได้ที่ เร้ด สกัลล์ จะยังไม่ตาย ดังนั้นเรื่องความตายของ เร้ด สกัลล์ ฉันกล้ารับรอง! อย่างไรก็ตาม ทำไมไม่พบศพของเขา หรือตำเเหน่งที่ฉันให้ไปไม่ถูกต้อง หรือว่ามีสัตว์ท้องถิ่นลากศพ เร้ด สกัลล์ ไปกิน?”หลังจากที่หาศพ เร้ด สกัลล์ ไม่เจอ เเจ็คสันได้ครุ่นคิดหนทางที่พอจะเป็นไปได้
“J.A.R.V.I.S,ไม่พบร่องรอยสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เลยงั้นหรอ”เเจ็คสันกล่าวถามอีกครั้ง
“ไม่มีครับในระยะทางรอบ ๆ ไม่มีรอยเท้าหรือร่องรอยของสัตว์ท้องถิ่นทิ้งเอาไว้ นอกจากนี้ยังไม่มีร่องรอยจุดที่ศพของเร้ด สกัลล์ อยู่เเม้เเต่น้อย”ราวกับรู้ว่าเเจ็คสันคิดอะไร J.A.R.V.I.S, ตอบกลับทันที
“นี่มันเเปลกเกินไป!”ได้ยินคำตอบของJ.A.R.V.I.S, ,เเจ็คสันขมวดคิ้วเเน่นอีกครั้ง
“บางทีฉันควรจะลืมเรื่อง เร้ด สกัลล์ไป เเม้ว่าจะหาศพไม่พบ เเต่ในความเป็นจริง เร้ด สกัลล์ ก็เป็นเพียงเเค่ทหารทดลองผู้ล้มเหลว ไม่ได้มีค่าต่อการวิจัยมากนัก”เเจ็คสันได้ครุ่นคิดในใจ
“J.A.R.V.I.S,หลังจากจบเรื่องนี้เเล้ว ฉันจะไปสำรวจที่ ฐานข้างหน้าดู ฉันจะดูว่ามันถูกเตรียมพร้อมสำหรับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์มากน้อยเเค่ไหน”เเจ็คสันเลิกกังวลเกี่ยวกับศพของ เร้ด สกัลล์ จากนั้นเขาก็ตอบกลับ J.A.R.V.I.S,
“เข้าใจเเล้ว,มิราจไนท์!”
ฟุ่บ~~
“มิราจไนท์กัปตันโรเจอร์สมาเเล้ว”ขณะที่ เเจ็คสัน กำลังสนทนากับ J.A.R.V.I.S. เสียงเเฮร์รี่ ก็ได้ดังขึ้นเพื่อเตือนสติของเขา
เมื่อครู่เเจ็คสัน ได้ขอตัวปลีกเเยกออกไปยังที่ลับตา เขาได้เเอบสนทนากับ J.A.R.V.I.S. ซึ่งพวกเเฮร์รี่ได้รู้เขาจึงไม่จำเป็นจะต้องเเอบฟังเเจ็คสัน เเต่ตอนนี้พวกเขาเดินมาถึงทางเข้าฐานชั่วคราวของ S.H.I.E.L.D. เเล้ว เเละ กัปตันโรเจอร์ส ก็กำลังรอพวกเขาอยู่
ดังนั้นเมื่อเเจ็คสันได้ยินเสียงเตือนของเเฮร์รี่กัปตันโรเจอร์ส ก็เดินออกมาจากภายในฐานเเละต้อนรับพวกเขา ด้านข้างของกัปตันโรเจอร์ส มีหนึ่งชายเเละหญิงสาวเดินคู่กันมา หญิงสาวคนนั้นคือ นาตาชา เเบล็ควิโดว์ เเละ ก็ ดร.แบนเนอร์ ฮัลค์ พวกเขาได้ติดตามกัปตันโรเจอร์สมาด้วย
“สวัสดีมิราจไนท์ เเละ สมาชิกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ทุกคน”หลังจากสังเกตุเห็นการมาถึงของพวกเขาทั้ง 4คน กัปตันโรเจอร์สยิ้มทักทาย
“สวัสดีกัปตันโรเจอร์ส,มิส นาตาชา เเละ ก็ ดร.แบนเนอร์”หลังจากกัปตันโรเจอร์สเปิดปากทักทาย เเจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“มิราจไนท์คุณสุดยอดมาก! จากอาการบาดเจ็บหนักเพียงระยะเวลาสองวันคุณกลับสามารถฟื้นฟูกลับมาได้โดยไม่คาดคิด!”ดร.แบนเนอร์ ที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวทักทาย
เเม้ว่าสองวันก่อนหน้านี้คนที่ทำร้ายมิราจไนท์จริงๆ จะเป็น ฮัลค์ เเต่ ดร.แบนเนอร์ ก็สามารถสัมผัสรู้ได้ว่า การเคลื่อนไหวสุดท้ายของฮัลค์ ทรงพลังเเค่ไหน ในเวลานั้น มิราจไนท์ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างเเท้จริง เเต่ผ่านไปสองวัน รูปร่างหน้าตาที่เจ็บป่วยก่อนหน้านี้ กลับดีขึ้นอย่างน่าเเปลกใจ มันทำให้ สีหน้าของ ดร.แบนเนอร์ ในปัจจุบัน รู้สึกความีความสุข
“ฮ่ะฮ่ะ,ได้ข่าวว่าคุณเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน”ได้ยินเสียงของ ดร.แบนเนอร์ เเจ็คสันตอบกลับเบา ๆ ไอลีนโนเวล
เขารู้สึกประหลาดใจมากเมื่อถึงคิดคำพูดของ ดร.แบนเนอร์ ,ดร.แบนเนอร์ เองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน เเต่ความสามารถทางด้านการรักษาของร่างกายเขา สุดยอดมาก ไม่นานเเผลทั้งหมด ก็หายดี
“เอ๋,คุณว่าอะไรนะ”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ดร.แบนเนอร์ รู้สึกสงสัย
จู่ๆ นาตาชา ที่อยู่ด้านข้าง ก็เดินมาจับไหล่ของ ดร.แบนเนอร์ เพื่อบอกให้เขาปล่อยผ่าน เเม้ ดร.แบนเนอร์ จะฉลาด เเต่เเน่นอนว่าเขาไม่เข้าใจความคิดที่ มิราจไนท์ ต้องการจะถากถางเขาตอนนี้ เเละ ดร.แบนเนอร์ นั้นเป็นคนที่มีภาวะทางอารมณ์ต่ำ นาตาชา ไม่อยากจะให้เกิดเรื่องขึ้นที่นี่
เห็นการกระทำของนาตาชา เเจ็คสันยิ้มออกมาที่มุมปาก เกี่ยวกับภาวะทางอารมณ์ที่ตกต่ำของ ดร.แบนเนอร์ ไม่เเปลกใจ ที่นาตาชา จะห้าม หาก ดร.แบนเนอร์ รู้สึกตัวถึงคำถากถางของเขา
“เข้าไปข้างในกันเถอะ,ลมข้างนอกค่อนข้างหนาว”เห็นการเเสดงออกของทุกคนเเจ็คสันกล่าวพูดกับ กัปตันโรเจอร์ส
“อ่า,เเม้ว่าฐานนี้จะถูกสร้างขึ้นมาอย่างชั่วคราวเเต่ก็สามารถป้องกันสภาพอากาศที่หนาวเย็นของไซบีเรียนี้ได้”ได้ยินคำพูดของ มิราจไนท์ กัปตันโรเจอร์ส ตอบกลับ
“ฟู่ว!เข้าไปกันเถอะ! ฉันหนาวจะตายอยู่เเล้ว!”ดร.แบนเนอร์ ไม่ได้สนใจการกระทำของ นาตาชา เขาได้สาวเท้าเดินออกไป
จากนั้นภายใต้การนำของกัปตันโรเจอร์ส เเจ็คสัน เเละ สมาชิกทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์คนอื่น ๆก็เดินเข้าไปภายในฐานทัพ
..
ขณะที่พวก เเจ็คสัน ตรงดิ่งไปที่ ไซบีเรีย ในห้องปฏิบัติการของโทนี่ ในนิวยอร์ก โทนี่ ได้ทำการทดลองรอบใหม่อีกครั้ง มันคือวัสดุทดลองที่มาจากดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ที่เเจ็คสันทิ้งไว้ให้ โทนี่ ต้องการจัดการขั้นตอนเเละเก็บพวกมัน
“ปีเตอร์,ตัวทดลองที่13 พยาพยามยื้อสภาวะเเละตรวจสอบมันดี ๆ ฉันรู้สึกได้ถึงความโดดเด่นพิเศษของมัน”ขณะที่ โทนี่ กำลังถือลูกปัดทรงกลมสีเขียว เขาก็ตะโกนบอก
“เข้าใจเเล้ว!คุณสตาร์ค คุณสมบัติของตัวทดลองที่ 13 ค่อนข้างดุร้ายจริง ๆ มันเกือบจะทำหลอดเเก้วละลายอีกเเล้ว!”ปีเตอร์ตอบกลับ
“เอาล่ะเดี๋ยว ฉันจัดการที่เหลือต่อเอง!”โทนี่ พึมพัมออกมา จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่ลูกปัดสีเขียวในมือ
“ฟู่ว!ในที่สุดก็ได้กลับบ้านสักที!”ได้ยินคำพูดของโทนี่ ปีเตอร์ ได้บิดขี้เกียจเล็กน้อย
��

ประตูมิติอวกาศอีกครั้ง
จากนั้นเเจ็คสันก็ใช้เวลาในการอธิบายเรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์เป็นระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงเชี่ยวเดียวกับอินฟินิตี้สโตนอื่นๆ ให้ เเดร์เดวิล เเละ คนอื่น ๆ ฟังอย่างระวัง เกี่ยวกับอิทธิพลของลูกบาศก์เวทมนตร์อาจกระทั่งสามารถนำภัยจากนอกโลกมายังโลกของตนเองได้ ดังนั้น เเจ็คสันจึงบอกถึงการร่วมมือของพวกเขากับ S.H.I.E.L.D. รวมถึง ทีม X-MEN เพื่อเสริมสร้างความเเข็งเเกร่งโดยใช้อำนาจพลังของลูกบาศก์เวทมนตร์
“ลูกบาศก์เวทมนตร์มีพลังลึกลับที่น่ากลัวจริงๆ ! เดิมฉันคิดว่ามันมีเพียงหนึ่งเดียวที่มีพลังของจักรวาลเสียอีก!”ได้ฟังคำอธิบายของเเจ็คสัน เเฮร์รี่ เเสดงออกถึงอาการตกใจ
นอกจากเเฮร์รี่เเจ็ค เเละ เเดร์เดวิล เเม้พวกเขาจะไม่พูด เเต่ในสายตาของพวกเขาก็บ่งบอกถึงอาการตกตะลึง เกี่ยวกับมุมมองของพวกเขาที่มีต่อลูกบาศก์เวทมนตร์ได้เปลี่ยนเเปลงไป
“มิราจไนท์ความหมายของนายคือนายต้องการให้พวกเราใช้จุดเเข็งความเเข็งเเกร่งของลูกบาศก์เวทมนตร์ในการสร้างรากฐานความมั่นคงของพวกเราเองใช่หรือไม่”เเดร์เดวิลกล่าวถาม
“ใช่,นี่เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ของพวกเราพวกเราจำต้องเร่งรีบพัฒนาวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีของโลกในปัจจุบันให้เตรียมรับศึกที่จะมาในอนาคต”ได้ยินคำถามของเเดร์เดวิล เเจ็คสันกล่าวตอบ
“วิกฤตจากจักรวาลนอกโลก!ฉันเองก็รู้สึกว่าในไม่ช้ามันจะต้องมาอย่างเเน่นอน!”ได้ยินการอธิบายของมิราจไนท์ เเจ็ค กระซิบพูดออกมาเบา ๆ
นับตั้งเเต่เขาเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเหล่าพ่อมดวิสัยทัศน์ที่เขามีก็ไม่ได้จำกัดอยู่ที่เเค่โลกเล็กๆ เเห่งนี้อีกต่อไป ความรับผิดชอบในฐานะพ่อมดคือการปกป้องโลกจากภัยคุกคามต่าง ๆ ที่อยู่ในจักรวาลนอกโลก
เดิมเเจ็คได้เรียนรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อโลกใบนี้ ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ ทำให้เขาชัดเจนเกี่ยวกับการเฝ้าระวังภัยในอนาคต
ได้ยินคำพูดของเเจ็ค,นัยน์ตาของเเจ็คสันเปล่งประกายเล็กน้อยมหันตภัยอันตรายจากนอกโลกนั้นมีอยู่จำนวนมาก เเละ อารยธรรมโลกในตอนนี้ถือเป็นอารยธรรมระดับต่ำ มันมักจะเป็นเป้าหมายของพวกอารยธรรมหัวรุนเเรงอื่น ๆ ดังนั้นหนทางเดียวที่พวกเขาจะสามารถอยู่รอดได้ก็คือการพัฒนาตนเองให้เเข็งเเกร่งพอจะต้านทานภัยเหล่านั้น
“เราจะเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสเพื่อรับประกันว่าในอนาคตพวกเราจะมีความสามารถมากพอที่จะป้องกันภัยคุกคามเหล่านั้น ดังนั้นพวกเราไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลมากเกินไป หากเราสามารถส่งเสริมความเเข็งเเกร่งของเราเเละรวมกันเป็นหนึ่งได้เเล้วล่ะก็ไม่ว่าจะเป็นอันตรายแบบไหนฉันคิดว่าพวกเราจะสามารถผ่านมันไปได้ด้วยกัน”เเจ็คสันจ้องมองไปที่เหล่าผู้คนของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเละกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ประกายในนัยน์ตาของทุกคนมีความมุ่งมั่นมากขึ้น พวกเขาจำต้องสามัคคีกันเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคจำนวนมาก
“ดี!พวกเราจำเป็นจะต้องรีบคว้าโอกาสนี้เอาไว้!”เเฮร์รี่ได้พูดขึ้นเป็นคนเเรก
หลังจากเเฮร์รี่พูดออกมาทันใดนั้น เดดพูล ก็ได้ส่งเสียงบางอย่าง
“เอ่อ…”ขณะที่กำลังนั่งรับฟังการสนทนาของคนอื่นๆ เดดพูลได้ส่งเสียงพูดขึ้น
ฟวั่บ!
ได้ยินเสียงของเดดพูลเเจ็คสัน เเละ คนอื่น ๆ ได้จ้องมองไปที่เขาทันที
“ปัจจุบันพวกเราได้รับข่าวเกี่ยวกับลูกบาศก์เวทมนตร์มาเเล้วใช่หรือไม่เช่นนั้นพวกเราต้องออกค้นหามันไหม?”เดดพูลกล่าวถามออกมาอย่างสงสัย

ได้ยินคำพูดของเดดพูลความประทับใจในตอนเเรกของ เเจ็คสัน เเละ คนอื่น ๆ ก็กลายเป็นอ่อนเเอลงทันที มันเป็นความจริงที่ว่าตอนนี้พวกเขาเพียงได้รับข่าวเกี่ยวกับมันเพียงเท่านั้น ยังไม่ได้มันมาครอบครอง
“อืม,พวกเราเพียงเเค่ได้รับข่าวเกี่ยวกับลูกบาศก์เวทมนตร์ตอนนี้ คนของทีมX-MEN ได้ทำการออกค้นหาอยู่ ได้ยินว่าพวกเขาบอกว่าตรวจพบคลื่นความผันผวนที่รุนเเรงมาก”เเจ็คสันได้ดึงอารมณ์กลับมาเป็นปกติก่อนที่จะกล่าวตอบ
“ไม่ใช่ว่ามันเป็นคลื่นพลังของประตูมิติอวกาศงั้นหรอ …มิราจไนท์คุณคงจะไม่ลืมประสบการณ์ที่ขมขื่นนั่นหรอกใช่มั้ย?”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ เดดพูล กล่าวถามอีกครั้ง
“ฉันก็หวังให้มันไม่เป็นแบบนั้น!”เเจ็คสันพูดตอบกลับเขาหวังจะได้รับลูกบาศก์เวทมนตร์มาครอบครองให้ได้โดยเร็วที่สุดไม่งั้นพวกเขาจะไม่สามารถส่งเสริมความเเข็งเเกร่งของตนเองเพื่อเตรียมรับศึกที่จะมาในอนาคตได้
เเต่เเจ็คสันก็ลืมเรื่องสำคัญนี้ไปจริงๆ เหมือนที่เดดพูลพูด ทีมX-MEN ได้ตรวจพบคลื่นสัญญาณของลูกบาศก์เวทมนตร์เพียงเท่านั้นไม่ได้พบลูกบาศก์เวทมนตร์โดยตรง นั่นอาจจะมีเเนวโน้มที่จะเป็นประตูมิติอวกาศก็เป็นได้
ติ๊ด!
หลังจากเเจ็คสันพูดจบจู่ ๆ เจอร์รี่ ก็ได้ยินเสียงข้อความ เขาได้รีบตรงไปที่คอมพิวเตอร์เเละเปิดอ่านข้อความดู
“มิราจไนท์,ดูเหมือนทีม X-MEN จะส่งข่าวตอบกลับมาเเล้ว พวกเขาค้นพบประตูมิติอวกาศที่มีเสถียรภาพในทุ่งหิมะในไซบีเรีย ตอนนี้ พวกเขาได้เข้าควบคุมเเละปิดกั้นพื้นที่เอาไว้เเล้ว นอกเหนือจากนี้พวกเขายังไม่ได้วางเเผนเคลื่อนไหวอะไรเพิ่มเติม”หลังจากจ้องมองไปที่ข้อความเจอร์รี่ พูดขึ้น
ฟุ่บ!
ได้ยินคำพูดของเจอร์รี่สีหน้าของ เเจ็คสัน รู้สึกบิดเบี้ยวอย่างมาก จากนั้นวิสัยทัศน์ของเขาก็จ้องมองไปที่เดดพูลอย่างรุนเเรง Aileen-novel
“ปากนั่นชอบพาซวยจริงๆ …”หลังจากจ้องมองไปที่เดดพูล เเจ็คสันก็สบถพูดออกมาอย่างไร้อารมณ์
“เอ่อ…ฉันขอโทษเรื่องนี้จะโทษฉันก็ไม่ได้…”เห็นมิราจไนท์กล่าวโทษตัวเอง เดดพูล ได้รีบพูดห้ามทันที
“เจอร์รี่,ทางด้านS.H.I.E.L.D. ส่งกองกำลังไปที่ไซบีเรียเเล้วหรือยัง”เเจ็คสันเลือกสนใจปากพาซวยของเดดพูลเเล้วหันไปกล่าวถามหาเจอร์รี่
“อืม,ดูเหมือนทางS.H.I.E.L.D. จะส่งทีม เข้าไป 3 ทีม เพื่อประสานงานกับ ทีมX-MEN ในการสร้างฐานพักรับรองที่นั่น ตำเเหน่งของประตูมิติอวกาศที่ปรากฏขึ้นนั้นอยู่ในเขตตอนเหนือบนสุด คนธรรมดาทั่วไปไม่น่าจะผ่านไปทางนั้น”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ เจอร์รี่ ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“เข้าใจเเล้ว!เฮ้อ ถึงเเม้สิ่งที่ปรากฏขึ้นจะเป็นประตูมิติอวกาศ เเต่ฉันหวังว่าข้างในนั้นจะมีลูกบาศก์เวทมนตร์อยู่จริง ๆ ล่ะกัน”เเจ็คสันได้พึมพัมออกมาจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืน
ทันทีที่เเจ็คสันยืนขึ้นคนอื่น ๆ ก็ลุกขึ้นยืนเช่นเดียวกัน เดดพูล เองก็เตรียมจะลุกขึ้น เเต่เเจ็คสันได้จ้องมองอย่างรุนเเรงไปที่เขา
“เดดพูลนายอยู่รอสนับสนุนที่นี่เเหละ!”เห็นเดดพูลเตรียมจะลุกขึ้นยืน เเจ็คสันได้กล่าวเปิดปากทันที
เดดพูล”…”

บุคคลลึกลับ
เมื่อเเจ็คสันเตรียมจะบอกทุกคนเกี่ยวกับลูกบาศก์เวทมนตร์จู่ ๆ เขาก็มองเห็นที่มุมห้องด้านหลังเป็นเงาของคนคนนึงนอนอยู่บนพื้น ไม่ผิด เเจ็คสันเห็นเป็นเงาของคนจริง ๆ เเต่นี่คือฐานของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์จะมีคนนอกเข้ามาได้ยังไงนอกจากนี้เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในสภาวะปกติ
“คะ…คุณกำลังพูดอะไรหน่ะมิราจไนท์”ได้ยินเสียงพูดของมิราจไนท์เดดพูลที่นั่งตรงข้ามได้พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ฉันบอกว่าพื้นที่ตรงนั้นมีคนอยู่พวกนายไม่เห็นงั้นหรอ”เเจ็คสันชี้ไปยังตำเเหน่งมุมห้อง
จริงๆ หลังจากที่ได้ยินเสียงของเดดพูล เเจ็คสันก็สามารถคาดเดาได้ อีกฝ่ายน่าจะมีความสัมพันธ์กับเดดพูล เเต่เขารู้สึกเเปลกใจที่คนอื่น ๆไม่ทักท้วงในเรื่องนี้เลยอย่างงั้นหรอ ไม่มีใครพูดกับเขาถึงเรื่องนี้เลยสักคน
ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์เดดพูลไม่ได้ส่งเสียงตอบอย่างไรก็ตาม เเจ็ค กับ เเฮร์รี่ ยิ้มเพียงเล็กน้อย เเดร์เดวิล เเละ เจอร์รี่ ได้สั่นศีรษะอย่างช่วยไม่ได้ อาจเป็นเพราะเเดร์เดวิลเองก็ได้พบคนคนนั้นเมื่อไม่นานมานี้ เเละ เจอร์รี่ ก็รู้สถานการณ์อยู่ก่อนเเล้วพวกเขาทั้งสองจึงไม่ได้อะไร
“ไม่มีใครคิดจะอธิบายให้ฉันฟังหน่อยหรอ”เห็นคนอื่นๆ หลบสายตาของตนเอง เเจ็คสันได้พูดขึ้นอย่างรวดเร็ว
“เกี่ยวกับเรื่องนี้ปล่อยให้เดดพูล อธิบายล่ะกัน พวกเราเองก็ไม่รู้รายละเอียดมากนัก”เเจ็คกล่าวพร้อมกับมองไปที่เดดพูลด้วยสายตาเย็นชา
“เอ๋…ทำไมฉันจะต้องอธิบาย!”เห็นเเจ็คมองมาที่ตนเองเดดพูล ตะโกนขึ้นด้วยความไม่พอใจ
“ก็นายเป็นคนพาเขามาเห็นได้ชัดว่ามันต้องเป็นนายที่จะต้องอธิบายในเรื่องนี้!”เเจ็คพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเเละตอบกลับ
ฟู่ว~~
ได้ยินคำพูดของเเจ็คเดดพูล รู้สึกนิ่งค้างเพราะทำตัวไม่ถูก
“เดดพูลนายเป็นคนพาเขามางั้นหรอเพื่ออะไรกันทำไมนายถึงพาศพคนอื่นมาอยู่ที่นี่?”ได้ยินคำพูดของเเจ็ค เเจ็คสันจ้องมองไปที่เดดพูลเเละกล่าวถามอย่างรุนเเรง
เขาได้จ้องมองไปที่มุมห้องอย่างระวังอย่างไรก็ตามเพื่อนคนนั้นไม่ได้ขยับตัวเเม้เเต่น้อยดังนั้นเเจ็คสันจึงประมวลผลตามสถานการณ์นอกจากนี้เขายังสามารถสัมผัสพลังชีวิตของอีกฝ่ายได้เเต่มันน้อยนิดมาก ดังนั้นเเจ็คสันจึงตัดสินอีกฝ่ายว่าเป็นคนตาย
“ใครบอกว่าเขาตายกันเขายังมีชีวิตอยู่!”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์เดดพูล ตะโกนขึ้นกล่าวตอบ
“ไม่สนว่าเขาจะเป็นหรือตายทำไมนายไม่ลองหาเหตุผลดี ๆ มาอธิบายสถานการณ์ปัจุบันให้ฉันฟัง เร็วเข้า ฉันไม่ต้องการเสียเวลามากนัก”เเจ็คสันจ้องมองไปที่เดดพูล เขาต้องการรู้คำตอบเเละเหตุผลของอีกฝ่ายในตอนนี้
“ก็ได้,เพื่อนคนนั้นฉันพบเมื่อสองวันก่อนในสนามรบที่พวกเราจากมาฉันเองก็ไม่รู้จักเขา เเต่ฉันสัมผัสได้ถึงบางอย่าง เพื่อนคนนี้มีความพิเศษที่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับฉัน”ได้ยินคำถามของมิราจไนท์นที่สุด เดดพูล ก็เปิดปากเล่าเรื่องทั้งหมด
ได้ยินคำตอบของเดดพูลเเจ็คสันจ้องมองไปที่อีกฝ่ายอย่างสงสัย สองวันก่อนหน้านี้ เดดพูลไม่ได้ร่วมศึกสงครามเเละตอนที่พวกเขาจากไปในตอนเเรก เดดพูลก็ไม่ได้ปรากฏออกมาเเม้เเต่น้อยดังนั้นมันอาจจะเป็นไปได้ว่า เดดพูล ได้เข้ามาในสนามรบภายหลังเเละพาคนคนนี้กลับมา
เดดพูลในศึกสงครามก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือพวกเราในการต่อสู้ เเละ มาตอนนี้เขาคิดจะทำตัวเป็นพ่อพระในการช่วยเหลือเพื่อนคนนี้นี่มันเเปลกเกินไปเเล้ว
“สองวันก่อนหน้านี้เป็นศึกสงครามระหว่าง สมาคมพี่น้องมิวแทนท์ เเละ องค์กรมิวแทนท์ ศึกครั้งนั้นมีผู้บาดเจ็บเเละล้มตายจำนวนมาก โทนี่ สตาร์ค เองก็สูญเสียชุดเกราะไอรอนแมนไปหลายตัว ทางเราเเละทีมX-MEN เองก็ได้เข้าไปช่วยเหลือทำให้สถานการณ์สิ้นสุดลง เเต่สิ่งที่ประหลาดใจมากที่สุดในตอนนั้นก็คือ ทหารเปลี่ยนร่างของทางกองทัพ ฉันคิดว่าทางกองทัพน่าจะเร่งพัฒนาการทดลองที่ว่าให้เสร็จสมบูรณ์ในเร็วๆนี้”เเจ็คสันกล่าวพูดขึ้น ไอลีนโนเวล
“ได้ยินว่าทหารเปลี่ยนร่างนั้นเป็นคนของทางกองทัพใช่มั้ย”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันเเฮร์รี่ เปิดปากกล่าวถาม
เขาไม่ได้เข้าร่วมศึกสงครามเเต่ก็มีข้อมูลการต่อสู้ในช่วงสองวันที่ผ่านมาดังนั้นเขาเองจึงค่อนข้างให้ความสนใจกับการต่อสู้ในครั้งนั้น
“อืม,ดังนั้นเพื่อนคนนี้น่าจะเป็นหนึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้น”เเจ็คสันพยักหน้าตอบ
“คุณคงไม่คิดที่จะ…”เดดพูลกล่าวถามด้วยเสียงสั่นเครือ
เขาพาคนคนนี้กลับมาเพราะมีสัมผัสพิเศษที่รู้สึกคุ้นเคยดังนั้นเดดพูล จึงคิดว่าเพื่อนคนนี้มีอะไรบางอย่างที่มีความสัมพันธ์กับเขา เเต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้จักสถานะของอีกฝ่ายดี
เห็นการจ้องมองของทุกคนเดดพูลรู้สึกหมดหนทางจริงๆ”ก็ฉันรู้สึกว่าเพื่อนคนนี้มีอะไรพิเศษแบบนั้นจริง ๆ !”

“ก็ได้ฉันจะไม่ซักถามเรื่องนี้ เดดพูล ในเมื่อนายพาเขามา เช่นนั้นนายก็จะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ หากมีปัญหาเกิดขึ้น นายต้องรับผิดชอบ!”เเจ็คสันตัดสินใจได้ในที่สุด
“ฉันจะรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดเอง!”
“ดี,เอาล่ะพวกเรามาเข้าประเด็นสำคัญเกี่ยวกับลูกบาศก์เวทมนตร์เถอะ…”

การรวมตัวของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์
หลังจากมิราจไนท์เปิดปากถามเเดร์เดวิลก็กล่าวตอบ
“มิราจไนท์นายมาช้านะ อันที่จริงเราเเค่ไม่ได้เจอหน้ากันเเค่ 2-3 วันไม่ใช่หรอ”เเดร์เดวิลตอบกลับมิราจไนท์
ก่อนหน้านี้มิราจไนท์ได้หายตัวไปเเดร์เดวิลเป็นกังวลอย่างมากเขาได้ใช้เส้นทางของS.H.I.E.L.D. ในการค้นหาอีกฝ่ายด้วยทุกอย่างที่มี เเต่หลังจากนั้นมิราจไนท์ก็กลับมา อันที่จริงพวกเขาก็พบกันเเล้วตอนที่ โทนี่ นอนหมดสติอยู่ในห้องบำบัดรักษาขององค์กร S.H.I.E.L.D.
“อาจเป็นไปได้ว่าฉันลืม…”เเจ็คสันตอบกลับอย่างงุ่มง่าม
ในเวลานั้นเเจ็คสันให้ความสนใจกับโทนี่ทำให้เขาจำไม่ได้ว่าเคยพบหน้าของเเดร์เดวิลเมื่อเร็วๆ นี้ อันที่จริงเเดร์เดวิลได้ยืนเฝ้าระวังอยู่ด้านหลังของเขาอย่างห่าง ๆ ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสได้คุยกัน
“คุณดูเเข็งเเกร่งมากมากขึ้นใช่มั้ยเนี่ย”หลังจากสังเกตุทั่วร่างของเเดร์เดวิลอย่างระวังเเจ็คสันกล่าวตอบ
หลังจากที่้เเดร์เดวิลกลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่างทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเละS.H.I.E.L.D.เขาก็ไม่ค่อยได้กลับมาที่ฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเดร์เดวิลได้เข้าร่วมทีมอเวนเจอร์สเเละมีพัฒนาการอย่างก้าวหน้า อาจเป็นเพราะเเจ็คสันไม่ได้สังเกตุอีกฝ่ายเเละไม่ได้เจอหน้ากันบ่อยครั้งเหมือนเเต่ก่อน ทำให้เขาเห็นพัฒนาการที่ก้าวกระโดดของเเดร์เดวิล
“สไปเดอร์แมนไม่สามารถมาได้ชั่วคราวส่วนคนอื่นๆ ก็มาถึงกันเเล้ว”เเดร์เดวิลไม่ได้สนใจคำถามของมิราจไนท์เขากล่าวเตือนในเรื่องนี้
“อ๋อ…ไปกันเถอะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับลูกบาศก์เวทมนตร์พวกเรามีเรื่องต้องพูดคุยกันอย่างระวัง”เเจ็คสันพยักหน้าตอบกลับ
จากนั้นทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในฐานของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

ตึกตึก!
ปั้ง!
ขณะที่เเจ็คสันเเละเเดร์เดวิลเข้าสู่ฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์พวกเขาได้ยินเสียงการต่อสู้บางอย่างดังออกมาจากภายในห้องโถง
“เเจ็ค!”เห็นเงาร่างทั้งสองคนเสียงของเเจ็คสัน เเละ เเดร์เดวิลได้ดังขึ้น
พวกเขาเห็นเงาร่างคนบางคนบินกระเด็นมายังเบื้องหน้าของตนเองเเดร์เดวิล เเละ เเจ็คสันได้วิ่งไปตรวจดูอาการของอีกฝ่ายทันที
เงาร่างที่ว่านี่ก็คือเงาร่างของเดดพูลเเขนขาทั้งสองข้างของเขาบิดขึ้นอย่างผิดรูป
เเจ็คสันได้ใช้ความเเข็งเเกร่งของตนเองในการดัดเเขนขาของอีกฝ่ายให้กลับเข้าสู่รูปร่างเดิม
“เเจ็คนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่”จากนั้นเเจ็คสันก็หันไปกล่าวถามเงาอีกร่างนึงซึ่งก็คือเเจ็ค
หึ่ม!
เห็นการมาถึงของเเดร์เดวิลเเละ มิราจไนท์ เเจ็คได้สลายโล่เเสงในมือก่อนที่จะยิ้มตอบกลับ
“คือเดดพูลอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับความสามารถของฉันดังนั้นเขาจึงต้องการทดสอบพลังของฉัน!”
ฟุ่บ!ไอลีนโนเวล
ได้ยินคำพูดของเเจ็คเงาร่างที่ใต้เท้าของเเจ็คสันได้กระโดดดิ้นอย่างดุเดือด”เเจ็คไม่ใช่ว่าพวกเราทำข้อตกลงว่าจะเล่นกันแบบเบา ๆ ไม่ใช่หรอ นี่เป็นนายรังเเกฉันทั้งเพ!”
หลังจากที่เดดพูลเดินทางมายังฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เขาได้เห็น เเจ็ค อยู่ก่อนเเล้ว ในความที่ตนเองรู้สึกสนใจเวทมนตร์ของเเจ็คทำให้เขามีความคิดที่ยากจะประลองฝีมือกับอีกฝ่าย เขาหวังว่าตนเองจะสามารถทำให้เเจ็คบาดเจ็บเล็กน้อยได้ เเต่ที่ไหน ตนเองกลับถูกซัดกลับอยู่ฝ่ายเดียว
“ฮ่าฮ่าเป็นไงล่ะเดดพูลทีนี้นายก็รู้จักเวทมนตร์เเละได้เรียนรู้เเล้วใช่หรือไม่”ได้ยินคำพูดของเเจ็ค เเจ็คสันได้หันไปกล่าวพูดกับเดดพูลดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกสะใจอีกฝ่ายไม่มากก็น้อย
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ!อย่างไรก็ตาม มหัศจรรย์มากจริง ๆ เวทมนตร์นั่น มิราจไนท์คุณยังจำได้มั้ยตอนที่พวกเรากลับมาจากดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์นั่น!”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ เดดพูลตอบกลับอย่างตื่นเต้น
ตั้งเเต่ตนเองมีประสบการณ์เเละรับรู้ความเเข็งเเกร่งที่เเท้จริงของเอนเชี่ยนวันรวมถึงพบเห็นสิ่งพิเศษที่เเข็งเเกร่งอื่นๆ ในดาวเคราะห์พวกนั้นทำให้ เดดพูล ตระหนักได้ถึงความเเข็งเเกร่งอันน้อยนิดของตนเอง ดังนั้นเดดพูลจึงมีความอยากรู้อยากเห็นมากเกี่ยวกับเวทมนตร์อันลึกลับ
“เช่นนั้นนายก็ได้รับประสบการณ์เเล้วเป็นไงบ้างล่ะ”เเจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“เเข็งเเกร่ง! สุดยอด! น่าทึ่ง ไม่มีคำอะไรจะมาใช้สรรเสริญความเเข็งเเกร่งของเวทมนตร์เเล้ว!”เดดพูลตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง
“ถ้าฉันสามารถเรียนรู้มันได้บ้างก็คงจะดีไม่น้อย!”เดดพูลพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ
“เข้าใจเเล้วเกี่ยวกับเรื่องเวทมนตร์เอาไว้เราค่อยพูดคุยกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากนายสนใจจริง ๆ นายสามารถปรึกษาเเจ็คในภายหลังได้!”เเจ็คสันตอบกลับเดดพูล
“ฮ่าฮ่า!เเต่ฉันไม่คิดว่าเดดพูลจะเหมาะกับการศึกษาเวทมนตร์หรอกนะ”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ เเจ็ค จ้องมองไปที่เดดพูลพร้อมกับหัวเราะ
การสืบเชื้อสายของพวกพ่อมดหรือการเข้ารับเป็นศิษย์นั้นค่อนข้างเคร่งครัดเเละคนอย่างเดดพูล ก็ไม่มีทางที่จะผ่านบททดสอบที่เคร่งครัดเหล่านี้เเน่นอน
“มิราจไนท์ยินดีที่คุณกลับมา”หลังจากเเจ็คสันนั่งลงเเฮร์รี่ ที่อยู่ไม่ไกลได้เปิดปากพูดขึ้น
“อืม,ฉันเองก็รู้สึกดีใจที่ได้เห็นคุณเช่นเดียวกัน!”เเจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
นอกเหนือจากสไปเดอร์แมนเเล้ว สมาชิกทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ คนอื่น ๆ ได้มาถึงกันหมดเเล้ว เเจ็คสันได้นั่งลงตรงตำเเหน่งตรงกลาง พร้อมกับเตรียมเริ่มการประชุม
“เอาล่ะพวกเรามาหารือหัวข้อสำคัญกันดีกว่า!”วิสัยทัศน์ของเเจ็คสันได้กวาดมองไปโดยรอบพร้อมกับถอนหายใจ
“หืมนั่นอะไรหน่ะ?”ขณะที่เเจ็คสันเตรียมจะพูดเรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์เขาก็สังเกตุเห็นบางสิ่งที่เเอบหลบอยู่ที่มุมห้องโถง

ธอร์กล่าวให้คำมั่น
ก่อนหน้านี้เเจ็คสันไม่ได้วางเเผนที่จะบอกธอร์เรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์เเต่เขาจำได้ว่าธอร์น่าจะรู้จักลูกบาศก์เวทมนตร์ทั้งต้องเคยเห็นมันมาก่อนเเล้ว
เเต่ลูกบาศก์เวทมนตร์นั้นไม่มีฟังก์ชั่นการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเเอสการ์ดอย่างน้อยมันก็เคยเป็นสมบัติหลังบ้านของโอดินพ่อของธอร์บางทีถ้าเขาได้ยินเรื่องนี้อาจจะสามารถช่วยเหลือเเจ็คสันในการค้นหามันหรือกระทั่งสามารถควบคุมมันได้
“ลูกบาศก์เวทมนตร์ ข้าจำได้ว่าท่านพ่อของข้าได้เก็บสิ่งนี้ได้เเละผนึกมันไว้ในห้องสมบัติ!”ธอร์กล่าวพูดขึ้น
ในสมัยก่อนที่จะเป็นเก้าอาณาจักรในโลกมิดการ์ดมีตำนานเกี่ยวกับเเอสการ์ดจำนวนมากยิ่งไปกว่านั้นยังมีเรื่องของลูกบาศก์เวทมนตร์เข้ามาเกี่ยวข้องลูกบาศก์เวทมนตร์ได้ตกเป็นของเเอสการ์ด เเละ ลอร์ดโอดิน ได้เก็บรักษามันไว้ตั้งเเต่นั้นเป็นต้นมา เเต่ทำไมลูกบาศก์เวทมนตร์ถึงมาปรากฏขึ้นที่นี่ได้ เขาไม่รู้เรื่องนี้อย่างเเท้จริง
“อืม,ลูกบาศก์เวทมนตร์มันถูกค้นพบเมื่อหลายปีก่อนในช่วงเวลานั้นมันได้ถูกควบคุมโดยองค์กรลับไฮดร้า หลังจากที่พวกเรากำจัดพวกไฮดร้าได้ ลูกบาศก์เวทมนตร์ก็ได้สูญหายไป ตอนนี้พวกเราค้นพบร่องรอยของมันเเล้ว”ภายใต้การสังเกตุอย่างระวัง เเจ็คสันกล่าวพูดขึ้น
ดูเหมือนว่าธอร์ในตอนนี้จะไม่มีความสนใจในลูกบาศก์เวทมนตร์มากนักเเม้ อินฟินิตี้สโตน จะมีพลังลึกลับที่เเข็งเเกร่ง เเต่ความเเข็งเเกร่งของธอร์เมื่อตื่นขึ้นก็น่ากลัวเช่นเดียวกัน ดังนั้น เขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีอินฟินิตี้สโตนในการครอบครอง เเต่อินฟินิตี้สโตนทั้ง 6 นี้มีพลังลึกลับที่เเข็งเเกร่งหากตกไปอยู่ในมือของพวกชั่วร้ายจักรวาลจะโกลาหลทันที
ดังนั้นก่อนหน้านี้โอดินจึงไม่ได้ใช้มันเพื่อเสริมสร้างความเเข็งเเกร่งของตนเองเเต่เลือกที่จะเก็บมันไว้ในห้องสมบัติหลังบ้าน อาจเป็นเพราะความเเข็งเเกร่งทางพลังเวทย์ของโอดินนั้นสูงล้ำ เขาจึงไม่จำเป็นต้องการ เเต่เขาก็ไม่อยากปล่อยสมบัติที่มีพลังระดับจักรวาลให้หลุดรอดออกไปเพราะกลัวจักรวาลจะเสียสมดุล
“เเจ็คสัน,เจ้าต้องการลูกบาศก์เวทมนตร์เพื่อยกระดับความเเข็งเเกร่งงั้นหรอ”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันธอร์กล่าวถามเขา
ธอร์ไม่ได้ถามว่าทำไมเเจ็คสันถึงมองหาลูกบาศก์เวทมนตร์ เเต่เขาย่อมรู้ว่าเพื่อนลึกลับคนนี้ของตนเองรู้ว่าลูกบาศก์เวทมนตร์เเท้จริงเเล้วก็คือ อินฟินิตี้สโตน ไอรีนโนเวล
“นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นพลังงานลึกลับของลูกบาศก์เวทมนตร์คือสิ่งที่เราต้องการในตอนนี้หากเราได้มันมาเราจะสามารถยกระดับความเเข็งเเกร่งได้ในระยะเวลาอันสั้น อีกอย่างคือสิ่งที่ฉันกังวลมากที่สุด หากมันตกไปอยู่ในมือของคนไม่ดี คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเวลาต่อมา”ได้ยินคำถามของธอร์ เเจ็คสันกล่าวตอบ
“เจ้าหมายถึงลูกบาศก์เวทมนตร์จะสามารถช่วยเจ้าพัฒนาเทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตร์ของโลกใบนี้ได้ใช่หรือไม่ ดังนั้นพวกเจ้าถึงต้องการมัน”ธอร์กล่าวถามอีกครั้ง
ตัวตนของลูกบาศก์เวทมนตร์ถูกเก็บไว้ในสมบัติหลังบ้านของเเอสการ์ดเป็นระยะเวลาหลายปีโอดินไม่ได้วางเเผนที่จะนำมันออกมาใช้เเม้เเต่น้อย อาจเป็นเพราะเเอสการ์ดมีขุมกำลังที่เเข็งเเกร่งอยู่เเล้ว ไม่งั้นคงไม่สามารถเป็นผู้ปกครองทั้ง 9 อาณาจักรได้
อย่างไรก็ตามดาวโลกเป็นเพียงดาวเคราะห์ขนาดเล็กมนุษย์เป็นอารยธรรมตัวจ้อยในบรรดา 9 อาณาจักรทั้งหมด เเต่พวกเขาก็มีจุดเด่นก็คือ เทคโนโลยีเเละการพัฒนา วิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีของพวกเขาสามารถยกระดับขึ้นเพื่อเทียบเท่ากับอารยธรรมอื่น ๆ ได้ ดังนั้นนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม เเจ็คสันถึงต้องการลูกบาศก์เวทมนตร์ในการพัฒนาเทคโนโลยีของโลก
“อืม,เพราะฉันกังวลว่าในอนาคตอาจจะมีการคุกคามจากอารยธรรมอื่นๆ ในจักรวาลข้างนอกนั่น ลูกบาศก์เวทมนตร์อาจเป็นหนทางที่ดีสำหรับการช่วยเหลือโลกของเรา ฉันจะไม่ปล่อยให้โอกาสแบบนี้หลุดมือไปได้อย่างเเน่นอน ไม่งั้นในอนาคตหากเราไม่มีความเตรียมพร้อมพวกเราคงถูกบุกจู่โจมอย่างเเน่นอน”ได้ยินคำถามของธอร์ เเจ็คสันกล่าวตอบตามตรง
ในจักรวาลมีศัตรูที่ทรงพลังจำนวนมากเเต่เเจ็คสันไม่กลัว เขาเลือกที่จะปกป้องโลกใบนี้ด้วชีวิตของตนเอง เเละ เขาจะไม่อนุญาติให้คนอื่นมาทำลายความสงบสุขของโลก
เมื่อได้ยินคำพูดของเเจ็คสันธอร์ยิ้มออกมาบนใบหน้า
“เข้าใจเเล้ว!เเจ็คสันข้ารู้ว่าข้าไม่ได้มองเจ้าผิดไป เเต่ถ้าหากวันนั้นมาถึง โปรดจำไว้ว่า เจ้ายังมีข้าคนนี้ ธอร์ โอดิน วูด ข้าคือสหายที่ดีของเจ้า!”ราวกับว่าจิตวิญญาณเเห่งการต่อสู้ของตนเองได้ลุกโชนอย่างรุนเเรง ธอร์ พูดตอบด้วยเสียงดัง
“อืม,เช่นนั้นฉันหวังว่าคุณจะรีบฟื้นคืนพลังของตนเองให้กลับมาได้โดยเร็วที่สุดเพราะฉันมีลางสังหรณ์ว่าเหตุการณ์อันตรายพวกนั้นจะมาถึงในอีกไม่ช้า”ได้ยินคำพูดของธอร์ เเจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“ผ่อนคลายเถอะข้าจะไม่ทำให้ เจ้า เเละ ท่านพ่อผิดหวัง ! ข้าเองก็อยากกลับไปที่เเอสการ์ดเพื่อจัดการโลกิเกี่ยวกับปัญหาก่อนหน้านี้ด้วย!”ธอร์กำกำปั้นเเน่นด้วยความมุ่งมั่น
“ดี,พวกเราเเยกกันตรงนี้ล่ะกันหลังจากกลับมาฉันเองก็คงต้องหาเหตุผลดี ๆ ในการบอกพ่อของฉัน หลังจากคุณกลับไปรบกวนคุณช่วยบอกพ่อของฉันด้วยว่าฉันมีเรื่องเร่งด่วน วันนี้อาจจะไม่กลับ”
หลังจากนั้นเเจ็คสันเเละธอร์ก็เดินกลับไปที่บ้านก่อนที่เเจ็คสันจะมุ่งตรงไปที่รถสปอร์ตสีน้ำเงินเเละขับออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว
ธอร์ที่ถูกทิ้งไว้ได้เดินเข้าไปในบ้านของเเจ็คสันเเละบอกกับพ่อของเขาก่อนที่จะขอตัวกลับไปทำงานที่สถานรับเลี้ยงสุนัขจรจัดของตนเอง
ทางด้านเเจ็คสันเขาได้มุ่งหน้ากลับไปยังฐานของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์นอกเหนือจาก สไปเดอร์เเมน ปีเตอร์ ที่อยู่ช่วยเหลือโทนี่เเล้วคนอื่น ๆ ได้มากันครบเเล้ว
“เเดร์เดวิลไม่ได้พบกันซะนาน!”เห็นเเดร์เดวิลปรากฏตัวขึ้นในสายตาตนเอง เเจ็คสันกล่าวทักทาย
เเดร์เดวิลคือตัวตนที่เป็นคนคอยเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์เเละ S.H.I.E.L.D. ดังนั้นบ่อยครั้งที่เขาจะไม่ค่อยเห็นเขากลับมาที่ฐานของตนเอง

“หืมเจ้าหมายความว่ายังไง…”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ธอร์กล่าวถามในทันที
“เเม้ตอนนี้เเอสการ์ดจะถูกเผ่ายักษ์น้ำเเข็ง เเละ ดาร์คเอลฟ์ ผนึกกำลังร่วมโจมตี เเต่สถานการณ์ในปัจจุบันเเอสการ์ดน่าจะยังรับมือได้อยู่ ดังนั้นภารกิจสำคัญของคุณในตอนนี้คือจะต้องรีบฟื้นคืนพลังให้กลับมาได้อย่างเร็วที่สุด”เเจ็คสันกล่าวพูดอย่างจริงจัง
“เจ้าคิดงั้นจริงหรอ”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันธอร์กล่าวถาม
ธอร์มีความมั่นใจในเเอสการ์ดบ้านเกิดของเขาเเละมีความมั่นใจเกี่ยวกับความเเข็งเเกร่งของพ่อของเขาโอดิน นี่คือความเชื่อมั่นของธอร์
“เเน่นอน!ถ้าเเอสการ์ดไม่สามารถรับศึกได้ไหวจริง ๆ คุณคิดว่าท่านพ่อของคุณจะไม่ต้องการความเเข็งเเกร่งของคุณ”เเจ็คสันตอบกลับในความคิดของเขา
“เอาล่ะข้าเข้าใจเเล้ว เจ้าสามารถมั่นใจได้เลย ข้าน่าจะสามารถฟื้นคืนพละกำลังความเเข็งเเกร่งของตัวเองกลับมาอย่างสมบูรณ์ได้ในเร็ว ๆ นี้เเน่นอน”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ธอร์กล่าวตอบอย่างจริงจัง
หลังจากได้ยินคำพูดหลายอย่างจากปากของเเจ็คสันธอร์ก็มั่นใจในคำพูดนั้นทั้งเขายังเชื่อมั่นเเอสการ์ดนอกจากนี้เขายังรู้สึกขอบคุณเเจ็คสันที่มีกำลังใจในการช่วยเหลือเขาให้รีบฟื้นฟูความเเข็งเเกร่งกลับมา
เเต่อย่างไรก็ตามธอร์กลับไม่รู้ว่าตนเองจะสามารถฟื้นคืนพลังกลับมาทั้งหมดได้ตอนไหนในใจเขาก็รู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อย
“ฮ่าฮ่านั่นเเหละ ฉันเชื่อว่าคุณจะต้องฟื้นฟูพละกำลังที่เเท้จริงของคุณกลับมาเร็ว ๆ นี้ได้อย่างเเน่นอน”เห็นจิตวิญญาณเเห่งการต่อสู้ในประกายดวงตาของธอร์ เเจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“เเจ็คสันเจ้าต้องการลองทดสอบมันดูหรือไม่”หลังจากสลัดความกังวลทิ้งออกไปธอร์จ้องมองไปที่เเจ็คสันอีกครั้ง
เเม้พละกำลังของตนเองจะฟื้นฟูกลับมาส่วนหนึ่งเเต่ธอร์ก็อดไม่ได้ที่จะอยากรู้อยากลองว่าพละกำลังของเขาฟื้นฟูกลับมาได้มากน้อยเเค่ไหนเเละเขาต้องการทดสอบความเเข็งเเกร่งของตัวเองในตอนนี้
“ฮืมคุณต้องการที่จะต่อสู้กับฉันงั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของธอร์เเจ็คสันรู้สึกเเปลกใจก่อนที่จะกล่าวถาม
เกี่ยวกับพละกำลังความเเข็งเเกร่งของเทพเจ้าสายฟ้าเเม้จะเป็นส่วนหนึ่งในใจของเเจ็คสันก็อยากจะทดสอบกำลังของตัวเองเช่นเดียวกัน
“เจ้าไม่ต้องการงั้นหรอ”เห็นเเจ็คสันราวกับไม่มีความสนใจธอร์กล่าวถามอย่างจริงจัง
“ไม่เลย…อันที่จริงฉันเองก็อยากลองทดสอบดูเเต่สถานที่ที่นี่ไม่เหมาะสมเท่าไหร่ พวกเราไปยังสถานที่อื่นกันเถอะ”เเจ็คสันกล่าวตอบ ไอลีนโนเวล
เเม้เเจ็คสันจะใช้สถานะของโทนี่ในการอำพรางอิทธิพลจากพวกS.H.I.E.L.D. จนทำให้การตรวจสอบเฝ้าระวังเขานั้นน้อยลงเเต่สถานที่เเห่งนี้ก็อยู่ใกล้บ้านเขาทั้งธอร์ ยังจัดอยู่ในสถานะบุคคลพิเศษ เขาถูกเฝ้าระวังเเละจับตามองโดย S.H.I.E.L.D. ตลอดเวลา เเต่หลัง ๆ มานี้ การเฝ้าระวังติดตามเริ่มน้อยลงมากขึ้นเรื่อย ๆ เเต่ถึงยังไงสถานที่สวนอุทยานเเห่งนี้ก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่
“ข้าตั้งหน้าตั้งตารอเวลานี้มานานเเล้วหวังว่าเจ้าคงจะไม่โดนข้าซัดทีเดียวจนหมอบหรอกนะ ไม่งั้นเจ้าคงไม่ควรค่าเเก่การให้ข้า ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้าผู้นี้ ชื่นชม!”เห็นเเจ็คสันตอบรับคำของตนเอง ธอร์พูดขึ้นในทันที เป็นเพราะเขามั่นใจในความเเข็งเเกร่งของตนเอง
“ฉันก็หวังอย่างนั้น!”
ติ๊ดด~~
ขณะที่เเจ็คสันเเละธอร์กำลังสนทนากันจู่ๆ อุปกรณ์สื่อสารของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ที่อยู่ในตัวของเเจ็คสันก็ได้ดังขึ้น
ฟุ่บ!
เเจ็คสันหยิบสมอลทอร์คขึ้นมาสวมอย่างรวดเร็วจากนั้นเสียงของเจอร์รี่ก็ดังขึ้นในทันที”มิราจไนท์ได้ข่าวของลูกบาศก์เวทมนตร์เเล้ว!”
ได้ยินข่าวจากเจอร์รี่ท่าทีของเเจ็คสันได้เปลี่ยนไปทันที ซึ่งมันทำให้ธอร์ที่อยู่ข้าง ๆ เขารู้สึกเเปลกใจกับการเปลี่ยนเเปลงของเเจ็คสัน
“ดูท่าข้าคงจะต้องเลื่อนการต่อสู้ระหว่างเราไปก่อน มองจากสีหน้าของเขาเเล้ว น่าจะมีงานสำคัญเร่งด่วนเข้ามา!”ธอร์สัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนเเปลงของเเจ็คสันเขาครุ่นคิดเงียบ ๆ
“อยู่ที่ไหน”เเจ็คสันกล่าวถามออกไป
“ในไซบีเรีย!ทีม X-MEN ได้ตรวจพบคลื่นความผันผวนมาจากที่นั่น ตอนนี้ พวกเขาได้ส่งกำลังคนไปเฝ้าระวังพื้นที่นั้นไว้เเล้ว”ได้ยินคำถามของมิราจไนท์ เจอร์รี่ตอบกลับทันที
“ไซบีเรีย….”เเจ็คสันครุ่นคิดในใจอย่างเงียบๆ
“เอาล่ะขอบคุณมาก เจอร์รี่ นายช่วยเเจ้งสมาชิกทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ ให้ด้วย ฉันจะรีบกลับไปที่ฐานโดยเร็วที่สุด ไว้พวกเราค่อยหารือกันเรื่องนี้อีกที”เเจ็คสันตอบกลับเจอร์รี่
“เข้าใจเเล้วมิราจไนท์ ฉันจะรอคุณอยู่ที่ฐาน”เจอร์รี่ตอบกลับ
“ถ้ามีข่าวหรือการเคลื่อนไหวอะไรรีบเเจ้งให้ฉันรู้ทันที”หลังจากพูดทิ้งท้ายไว้เเจ็คสันก็ตัดสายไป
เห็นสายตาที่มุ่งมั่นของเเจ็คสันธอร์ได้จ้องมองเขาอย่างเงียบๆ
“ธอร์ดูเหมือนว่า ฉันจะไม่มีเวลาอยู่เล่นกับคุณเเล้ว ฉันต้องรีบไปยังสถานที่เเห่งนึง”เเจ็คสันกล่าวพูดกับธอร์ที่อยู่ด้านหน้า
“เกิดอะไรขึ้น”เเม้ว่าธอร์จะไม่ได้ยินเสียงเเต่เขาก็สามารถคาดเดาได้ มันน่าจะเป็นเรื่องสำคัญมากอย่างเเน่นอน
“จริงสิเกี่ยวกับเรื่องในคราวนี้มันมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับเเอสการ์ดอยู่เหมือนกัน”ได้ยินคำพูดของธอร์ เเจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“หืมมีความเกี่ยวข้องกับเเอสการ์ด?มันคืออะไรกัน?”ธอร์ที่ได้ยินเช่นนี้เขาเองก็มีท่าทีเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ลูกบาศก์เวทมนตร์คุณเคยได้ยินชื่อนี้หรือไม่”

ในขณะที่เเจ็คสันมีประสบการณ์ในการพัฒนาฝีมือเเละความเเข็งเเกร่งอิทธิพลของเขาก็ส่งผลต่อพล็อตเรื่องมากขึ้นเท่านั้น
ก็เหมือนเหตุการณ์ของคิลเลี่ยนก่อนหน้านี้เดิม เป็ปเปอร์ จะต้องถูกคิลเลี่ยนจับตัวไป เพื่อบีบบังคับให้โทนี่ยอมจำนน เเต่เรื่องราวทั้งหมดกลับตาลปัดเมื่อมีการเเทรกเเซงของเเจ็คสันเข้ามาเกี่ยวข้อง
นอกเหนือจากนี้ยังมีเหตุการณ์การเเทรกเเซงของลูกบาศก์เวทมนตร์อีกประตูมิติอวกาศที่ส่งพวกเเจ็คสันเเละเดดพูลไปยังต่างโลกดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์อันเเสนอันตรายที่มีสิ่งที่ถูกผนึกสัตว์ประหลาดระดับ S
อุบัติเหตุเหล่านี้เป็นจุดเเข็งของเเจ็คสันก็ว่าได้ราวกับว่ามันคือบททดสอบเพื่อพัฒนาความเเข็งเเกร่งของเขาในอนาคตเเน่นอนว่าย่อมมีเรื่องเหล่านี้เข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้นไปอีก  อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นคราวนี้ทำให้เเจ็คสันรู้จักกับพวกสตาร์ลอร์ดเเละ ทีมพิทักษ์จักรวาล ในเนื้อเรื่องคนเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับพาวเวอร์สโตน ในอนาคตอาจมีความเป็นไปได้ที่มันจะส่งผลต่อการเปลี่ยนเเปลงของพล็อตเรื่องอื่น ๆ อีก
ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถานสิ่งมีชีวิตสัตว์ประหลาดหรือตัวละครหลักที่มีความเปลี่ยนเเปลงทางด้านความสามารถอื่นๆ สิ่งเหล่านี้อาจจะเข้ามาเกี่ยวข้องภายหลัง
ดังนั้นเเจ็คสันจึงได้กล่าวบอกต่อธอร์ล่วงหน้าว่าเเอสการ์ด กำลังถูก ยักษ์น้ำเเข็งเเละดาร์คเอลฟ์ร่วมมือกันโจมตี เขาไม่อาจปล่อยให้ธอร์ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในช่วงเวลานี้ได้ การมาของโลกิ คือสัญญาณของการเริ่มต้น เเจ็คสันจะต้องกระตุ้นให้ธอร์ฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้ากลับมาให้ได้ทั้งหมดเสียก่อนเเละเมื่อเวลาที่ธอร์สามารถปลุกพลังของเขาให้ตื่นขึ้นได้อย่างสมบูรณ์เขาจะมีความเเข็งเเกร่งในระดับเดียวกับ โอดิน พ่อของเขา  “เจ้าว่าอะไรนะ”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันดวงตาของธอร์เปล่งประกายอย่างรุนเเรง
“คือฉันได้ยินมาจากปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันฉันคิดว่าตอนนี้สถานการณ์ที่เเอสการ์ดคงจะไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คุณคิด!”เห็นการตอบสนองของธอร์ เเจ็คสันกล่าวกระตุ้นอีกครั้ง
ได้ยินการยืนยันจากเเจ็คสันในดวงตาของธอร์ปรากฏเเสงไฟสีฟ้าสว่างวาบขึ้นเล็กน้อย
เรื่องบ้านเกิดของเขาเเอสการ์ดทำให้จิตใจของธอร์รู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมากอาจกล่าวได้ว่าเเอสการ์ดคือสถานที่สำคัญของเขาก็ไม่ผิด
“มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่! เเม้ว่าข้าจะทำผิดจริง เเต่ถ้าเเอสการ์ดกำลังถูกพวก เผ่ายักษ์น้ำเเข็ง เเละ ดาร์คเอง ผนึกกำลังร่วมกันโจมตีเเอสการ์ดเเล้วล่ะก็ ทำไมท่านพ่อไม่ให้ข้ากลับไปยังเเอสการ์ด!”ธอร์กำกำปั้นเเน่นด้วยความโกรธ  เเม้โอดิน พ่อของเขา จะผนึกกำลังของตนเองเอาไว้ เเต่ถ้าอีกฝ่ายต้องการฟื้นคืนพลังให้เขาเพื่อร่วมสงครามต้านทานอีกฝ่ายมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
“ธอร์คุณไม่คิดหาเหตุผลหรอว่าทำไมพ่อของคุณถึงไม่ให้คุณกลับไปยังเเอสการ์ด นี่เพื่อความปลอดภัยของคุณ หรือเพื่อการลงโทษกันเเน่”เเจ็คสันพูดบอกธอร์
“ถ้ามันเป็นการลงโทษเล่าข้าจะต้องทำยังไงถึงจะกลับไปยังเเอสการ์ดได้”ธอร์กล่าวถามเเจ็คสัน
ดูเหมือนว่าตอนนี้ธอร์กำลังสับสนอยู่มากการต่อสู้ของเเอสการ์ดเเละยักษ์น้ำเเข็งเกิดขึ้นเพราะความผิดพลาดของตนเอง เรื่องนี้ ธอร์ ยอมรับ เเต่ธอร์ไม่เข้าใจเหตุผลที่พ่อของเขาต้องการจะบอกเขาเเม้เเต่น้อย
“ธอร์ในตอนนี้คุณสามารถใช้ส่วนหนึ่งของจุดเเข็งของคุณได้ ทำไมคุณไม่ลองค้นหามันเล่า ค้นหาว่าตัวตนของคุณในตอนนี้เเตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างไร”เเจ็คสันจ้องมองไปที่ธอร์เเละพูดขึ้น
ในปัจจุบันเขากำลังเดิมพันกับธอร์ธอร์จะต้องรับรู้สิ่งที่เขาคิดได้ในช่วงเวลาที่เขาใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์ธรรมดา เมื่อเขาสามารถทำได้สำเร็จ พลังเทพเจ้าสายฟ้าของเขาก็จะตื่นขึ้นเเละฟื้นกำลังกลับมาอย่างสมบูรณ์
“เดี๋ยวก่อนนะ! เจ้ารู้ได้ยังไง”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ธอร์ จ้องมองไปที่เเจ็คสันอย่างจริงจัง
ก่อนหน้านี้ธอร์ใช้ชีวิตในฐานะคนธรรมดามาโดยตลอดหลังจากที่สูญเสียความเเข็งเเกร่งที่เเท้จริงของตนเองไป หลังจากผ่านไปไม่นานธอร์ก็สามารถฟื้นคืนพลังส่วนหนึ่งของตนเองกลับมาได้ ธรรมชาติ เขาคิดว่าหากดำเนินชีวิตแบบธรรมดาพวกนี้ต่อไปในอนาคตอันใกล้เขาจะต้องฟื้นคืนพลังกลับมาได้อย่างเเน่นอน เเต่เรื่องนี้เขายังไม่ได้บอกให้เเจ็คสันรู้เเล้วทำไมอีกฝ่ายถึงล่วงรู้ได้ ไอรีนโนเวล
“ฉันรู้ได้ยังไงงั้นหรอฉันก็เเค่คาดเดา ส่วนรายละเอียดนั้นเป็นความลับ!”เเจ็คสันตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
เห็นอีกฝ่ายสามารถคาดเดาตนเองธอร์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“เจ้าบอกว่าเจ้าคาดเดามันงั้นหรอเเล้วความลับเล็กน้อยที่เจ้าหมายถึง…เอาเถอะสักวันนึงข้าจะล่วงรู้ให้ได้”ธอร์กล่าวตอบกลับ
“เเต่ข้าก็ยังสงสัยอยู่ดีหากท่านพ่อของข้าต้องการความช่วยเหลือจากข้าจริง เขาย่อมคืนพลังของข้าเเล้วควรให้ข้ากลับไปยังเเอสการ์ดสิถึงจะถูกตัวตนเเละพลังของข้าสามารถเเสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่เมื่ออยู่ในสนามรบ”
“เรื่องนี้…บางทีในสถานการณ์ของสนามรบปัจจุบันคงไม่จำเป็นต้องมีคุณก็ได้ คุณไม่คิดงั้นหรอ”เเจ็คสันกล่าวตอบประเด็นของธอร์

เเม้ว่าเเจ็คสันจะมีพรสวรรค์ในการเรียนรู้เวทมนตร์อยู่ในระดับที่ต่ำเเต่เขาก็ไม่ได้ท้อถอยในเรื่องนี้อันที่จริงเขาสามารถเเข็งเเกร่งขึ้นได้ตามการฝึกในระบบของเขา ในอนาคต เขายังสามารถกลายเป็นบุคคลที่ทรงพลังที่เเข็งเเกร่งได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลาเพียงเท่านั้น
“อืม,ข้าเชื่อเจ้า!”เห็นสีหน้าที่จริงจังเเละความมุ่งมั่นของเเจ็คสันธอร์ ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
เเม้ตอนนี้ธอร์จะสามารถฟื้นคืนพลังส่วนหนึ่งของพลังเทพเจ้าสายฟ้ากลับมาได้เเต่ถ้าเกิดเข้าปะทะกับเเจ็คสันเต็มกำลังตอนนี้จริง ๆ เขาเชื่อว่าตนเองอาจจะไม่มีสิทธิ์ชนะเลยก็ได้ ถ้าเกิดเขาฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้ากลับมาได้เต็มที่ ธอร์เชื่อว่าเขาย่อมสามารถเหนือกว่าเเจ็คสันได้อย่างไม่ยากเย็น
“อืม,ดูเหมือนคุณจะดูเป็นกังวลมากเมื่อเห็นการปรากฏขึ้นของสะพานไบฟรอส”เเจ็คสันกล่าวถาม
“เป็นเช่นนั้นจริงตอนนี้ เเอสการ์ด สมควรกำลังทำสงครามกับพวกยักษ์น้ำเเข็ง เเต่ฉันก็เชื่อมั่นในเเอสการ์ด โลกิ ในฐานะเจ้าชายเเห่งเเอสการ์ดอีกคน เเม้ความเเข็งเเกร่งของเขาจะด้อยกว่าข้า เเต่ลำพังเเค่เขาข้าก็เชื่อว่าเพียงพอ”ธอร์รู้สึกสบายใจในส่วนนี้นิดนึง
“จริงสิเมื่อครู่ เจ้ายังไม่เล่าให้ข้าฟังเลยว่า เจ้าหลุดไปยังจักรวาลนอกโลกได้อย่างไร”ธอร์กล่าวถามในจุดนี้
“ฮ่าฮ่า…นึกว่าคุณจะไม่ถามซะเเล้ว”เเจ็คสันยิ้มกล่าวตอบ
จากนั้นเเจ็คสันก็อธิบายอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นให้ธอร์ฟังอย่างละเอียดภายใต้การอธิบายของเเจ็คสันธอร์มีสีหน้าการเปลี่ยนเเปลงจำนวนมาก
“เเจ็คสัน,ข้าสามารถบอกได้เลยว่าเจ้าเป็นมนุษย์โลกคนเเรกที่ข้ารู้สึกชื่นชม!”ธอร์พูดตอบกลับเเจ็คสัน
หลังจากฟังเรื่องของเเจ็คสันธอร์ รู้สึกได้ถึงประสบการณ์ผจญอันตรายของตนเองในช่วงเวลาของเขาธอร์ได้ทำศึกสงครามจำนวนมาก เกี่ยวกับสัตว์ประหลาด ยักษ์ที่ เเจ็คสันอธิบาย ธอร์ไม่ได้เเปลกใจ สัตว์ประหลาดต่างดาวพวกนี้มีอิทธิพลที่น่าเกรงกลัว การที่พวกมันสามารถอยู่รอดบนดาวเคราะห์ดวงนั้นได้ก็คงเป็นเพราะอิทธิพลเเละนิสัยที่ก้าวร้าวของพวกมัน
“ฮ่าฮ่า,ไม่คิดเลยว่าเจ้าชายผู้ยิ่งใหญ่เเห่งเเอสการ์ดจะเอ่ยปากชมฉัน ฉันค่อนข้างรู้สึกภูมิใจมากจริง ๆ !”ได้ยินคำพูดของธอร์ เเจ็คสันยิ้มเล็กน้อย
“เจ้านี่ก็ไม่มีความละอายเลยหรือยังไง….เอาเถอะตั้งเเต่ที่รู้ว่าการปรากฏขึ้นของสะพานไบฟรอสไม่ใช่คนของเเอสการ์ดข้าเองก็สบายใจ”ธอร์รู้สึกโล่งใจ
เกี่ยวกับสถานการณ์ของเเอสการ์ดตอนนี้ธอร์ทำได้เพียงเฝ้าระวังอยูห่างๆ เพียงเท่านั้น เขาเชื่อมั่นว่าเเอสการ์ดจะต้องชนะศึกสงครามอย่างเเน่นอน Aileen-novel
“เเม้ว่าฉันจะอยู่ที่เเอสการ์ดเพียงไม่นานเเต่ฉันก็พอรู้สถานการณ์ปัจจุบันของเก้าโลกจากปากของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน ดูเหมือนพวกยักษ์น้ำเเข็งจะซุ่มโจมตีท่านพ่อของคุณจนเขาได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้สถานการณ์ของ โอดิน ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก เเต่เรื่องนี้ไม่เป็นไร โลกิ น้องชายของคุณ สามารถเข้ารับศึกหน้าในการทดเเทนส่วนที่เหลือนี้ได้อย่างไรก็ตาม…”เห็นการเเสดงออกของธอร์ เเจ็คสันกล่าวพูดขึ้น
เผ่ายักษ์น้ำเเข็งเเละเเอสการ์ดทำสงครามกันเรื่องนี้ ธอร์ รู้อยู่เเล้ว เพราะช่วงเวลาที่โลกิมถึงโลกเขาได้เล่าเกี่ยวกับสถานการณ์ในสนามรบให้ ธอร์ ฟัง เรื่องนี้เเจ็คสันเชื่อว่าธอร์ย่อมไม่เเปลกใจ
“เกิดอะไรขึ้นพวกเผ่ายักษ์น้ำเเข็งมันทำไม?”
“ในช่วงเวลานี้เเอสการ์ดน่าจะใกล้จบศึกสงครามกับพวกยักษ์น้ำเเข็งเเล้วข้าเชื่อว่าโลกิจะสามารถนำชัยชนะกลับมาได้ เจ้ารู้อะไรมารีบบอกข้าเร็ว!”ธอร์รู้ว่ากองทัพทหารเเอสการ์ดภายใต้การชี้นำของโลกิย่อมสามารถจัดการทัพของพวกยักษ์น้ำเเข็งได้อย่างไม่มีปัญหา
“ฉันรู้ว่าด้วยพลังของเเอสการ์ดย่อมสามารถปราบปรามพวกเผ่ายักษ์น้ำเเข็งได้เเต่อย่างไรก็ตามฉันได้ยินมาว่า เผ่า ดาร์คเอลฟ์ ได้เข้าร่วมสงครามด้วยพวกเขากับเผ่ายักษ์น้ำเเข็งด้วยร่วมมือกัน”เเจ็คสันกล่าวตอบ
เรื่องนี้เเจ็คสันไม่ใช่ได้ยินมาจากเอนเชี่ยนวันเขารู้มาจากพล็อตเรื่องดั้งเดิมเพราะเรื่องทั้งหมดถึงยังไงเผ่าพันธ์ดาร์คเอลฟ์ก็ยังเข้าร่วมสงครามนี้อยู่ดี
ในพล็อตเรื่องเดิมธอร์ ได้โดนโจมตีจากเครื่องจักรสังหารของเเอสการ์ดจนได้รับบาดเจ็บหนักช่วงเวลานั้นเขาได้ฟื้นคืนพลังเเละได้กลับไปยังเเอสการ์ดเเต่หลังจากมีการเเทรกเเซงของเเจ็คสันพล็อตเรื่องกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ในความทรงจำของเเอสการ์ดตามพล็อตเรื่องเดิมหลังจากเผ่าพันธ์ดาร์คเอลฟ์เข้าร่วมสงครามพวกเขาก็ได้ทำให้ เเม่ของ ธอร์ เสียชีวิตในเวลาต่อมา สิ่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับ เรียลลิตี้สโตน ที่อยู่ในร่างของ เจน อดีตเเฟนสาวของธอร์
“เเม้พล็อตเรื่องจะเปลี่ยนเเปลงไปครั้งใหญ่เเต่สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้น ฉันคงไม่อาจเมินเฉยมันได้อย่างเเน่นอน”เเจ็คสันครุ่นคิดในใจพร้อมกับเฝ้าสังเกตุอาการของธอร์
เขาต้องการดูสีหน้าของอีกฝ่ายเเละต้องการกระตุ้นให้ธอร์รู้ว่าการคุกคามที่เเท้จริงนั้นไม่ใช่โลกิหรือคนอื่นๆ เขาต้องการจะบอกธอร์ว่าหายนะที่เเท้จริงกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าเพื่อให้ธอร์กระตุ้นพลังเทพเจ้าสายฟ้ากลับมาให้ได้โดยเร็ว เพราะในอนาคต เเจ็คสันต้องการยืมพลังของอีกฝ่าย

ในช่วงเวลานี้เเสงเเดดยามบ่ายค่อนข้างอบอุ่น บางพื้นที่มีชั้นเมฆหนาครึ้ม เเต่ถึงอย่างนั้นธอร์เเละเเจ็คสันก็ไม่ได้สนใจบรรยากาศในตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนได้ออกไปเดินเล่นข้างนอก
“เจ้าบอกว่าเจ้าเพียงเเค่อาศัยสะพานไบฟรอสกลับมาที่โลกเพียงเท่านั้น ไม่เห็นสถานการณ์อื่น ๆ ภายในของเเอสการ์ดอย่างงั้นหรอ”ขณะที่เดินเล่นกันอยู่ ธอร์ ได้กล่าวพูดอย่างผิดหวัง
เมื่อครู่เเจ็คสันได้อธิบายว่าทำไมตนเองถึงไปใช้สะพานไบฟรอสได้เพียงเเค่อาศัยพลังของสะพานไบฟรอสในการกลับมาที่โลกไม่มีเวลามากพอจะดูสถานการณ์ในปัจจุบันของเเอสการ์ด
“อืม,ฉันได้หลุดไปยังสถานที่เเห่งนั้นเป็น ปรมาจารย์ท่านหนึ่งที่ช่วยเหลือพวกเราเอาไว้ เขาได้ช่วยเหลือพวกเราในการยืมใช้สะพานไบฟรอสเเละช่วยพากลับมาที่โลก หากไม่ได้เขาช่วย คราวนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าพวกเราจะกลับมาที่โลกอีกทีตอนไหน”เเจ็คสันพูดขึ้นก่อนที่จะเอาเท้าเตะหินที่อยู่ใต้เท้า
เกี่ยวกับคำถามของธอร์ธอร์ให้ความสนใจกับการปรากฏขึ้นของสะพานไบฟรอสมากดังนั้นเมื่อเเจ็คสันบอกว่าเป็นเขาที่ใช้งานสะพานไบฟรอสธอร์จึงรู้สึกสงสัยเเละถามเรื่องนี้
“ปรมาจารย์ท่านนึงใครกัน เขาสามารถกระทั่งของยืมสิทธิ์ในการใช้งานสะพานไบฟรอสได้ ใช่เป็นมนุษย์โลกหรือไม่?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน ธอร์ กล่าวถมอีกครั้ง
ธอร์รู้ดีเเน่นอนว่า สะพานไบฟรอสไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะสามารถยืมใช้ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้ยินจากปากเเจ็คสันว่าหลุดไปยังดาวเคราะห์อื่นมา หากปรมาจารย์คนที่เเจ็คสันกล่าวถึงเป็นมนุษย์โลกล่ะก็สถานะของคนคนนั้นจะต้องยิ่งใหญ่มากเเน่นอน เพราะไม่มีทางที่ท่านพ่อของเขาโอดินจะยินยอมให้บุคคลธรรมดาได้รับสิทธิ์ในการใช้งานสะพานไบฟรอส
“ใช่,เขาเป็นมนุษย์โลกยิ่งไปกว่านั้นฉันคิดว่าคุณน่าจะรู้จักเขาด้วย”เห็นการเปลี่ยนเเปลงของธอร์ เเจ็คสันรู้ว่าธอร์คิดอะไรอยู่ตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้วางเเผนที่จะปิดบังอีกฝ่าย
“ชาวมนุษย์โลกที่สามารถยืมใช้สะพานไบฟรอสของเเอสการ์ดได้ บุคคลดังกล่าวคงมีเพียงเเค่…”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันธอร์ขมวดคิ้วเเน่นเล็กน้อย เขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับบุคคลนี้
ตึก!
หลังจากคิดไตร่ตรองเพียงครู่นึงธอร์ ก็จ้องมองไปที่เเจ็คสันเเละพยายามพูดชื่อที่ตนเองคิดออกมา
“เจ้าคงจะไม่ได้หมายถึงปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน หรอกใช่มั้ย”ธอร์กล่าวพูดออกมาอย่างลังเล  เห็นสีหน้าของธอร์ที่กังวลกับคำตอบเเจ็คสันระงับรอยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ดูเหมือนว่า เจ้าชายผู้ยิ่งใหญ่เเห่งเเอสการ์ด เทพเจ้าสายฟ้าธอร์ ก็ยังรู้จัก ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน จอมขมังเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่
“อืม,เป็นปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน”เเจ็คสันพยักหน้าตอบกลับอย่างรวดเร็วไอลีนโนเวล
ได้ยินคำตอบยืนยันจากปากของเเจ็คสันธอร์ รู้สึกไม่เเปลกใจ ที่อีกฝ่ายสามารถยืมใช้สะพานไบฟรอสได้
“เขาเป็นคนที่ยากที่จะพบพานเเม้เเต่ข้าเองก็ไม่ค่อยได้เจอเขาบ่อยนัก!”ธอร์พูดออกมาเล็กน้อย
ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันบุคคลที่มีอิทธิพลระดับเดียวกับท่านพ่อของเขา โอดิน ในสมัยโบราณ ความสัมพันธ์ของพวกเขาค่อนข้างดี ดังนั้นหลายตาหลายครั้งเขาจึงเห็นการมาเยี่ยมเยือนของเอนเชี่ยนวันที่เเอสการ์ดในอดีต ในตอนนั้นธอร์ค่อนข้างมีความรู้สึกอยากรู้อยากลองเขาต้องการวัดคุณสมบัติกับอีกฝ่าย เเต่เมื่อได้เห็นสถานที่เเท้จริงของอีกฝ่ายธอร์กลับไม่มั่นใจเเม้เขาจะมีพลังของเทพเจ้าสายฟ้าเเต่เขาก็ไม่กล้าที่จะพูดเต็มปากว่าจะชนะเมื่อยืนต่อหน้าจอมขมังเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่
บางทีถ้าเกิดเขาสามารถปลุกพลังของตนเองได้อย่างสมบูรณ์ในเวลานั้นเขาอาจจะพละกำลังเเละพลังเท่าเทียมกับจอมขมังเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นเเต่ไม่รู้ว่าวันนั้นเมื่อไหร่จะมาถึง
“อืม,เขาได้ปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยเหลือฉัน”
ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันธอร์ได้จ้องมองไปที่เเจ็คสันพร้อมกับจับบ่าทั้งสองข้างของเขาเเละจ้องพินิจบางอย่าง
“มันไม่ถูกต้องไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นผู้สืบทอดของเขางั้นหรอ เเต่เเปลกทำไมข้าไม่สามารถสัมผัสพลังเวทมนตร์จากตัวเจ้าได้เลย ข้าเชื่อว่าความสามารถระดับเจ้า ย่อมต้องสามารถเรียนรู้เวทมนตร์ได้อย่างเเน่นอน เเต่ทำไมกัน เพราะอะไร….”ธอร์กล่าวถามเเจ็คสันด้วยความสงสัย
ตั้งเเต่เริ่มเเรกที่ธอร์พบกับเเจ็คสันเขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่เเข็งเเกร่งจากตัวอีกฝ่ายเบื้องหลังของเเจ็คสันจะต้องไม่ธรรมดาอย่างเเน่นอน ดังนั้น ธอร์ จึงคิดว่า เเจ็คสันคือผู้ที่มีคุณสมบัติจะสืบทอดพลังของจอมขมังเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่
อย่างไรก็ตามวันนี้เเจ็คสันกล่าวว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงเเค่ปรมาจารย์ที่ช่วยเหลือตนเอง ถ้าอีกฝ่ายคือศิษย์อาจารย์กัน เเจ็คสัน จะต้องเรียกอีกฝ่ายว่าอาจารย์ เเต่ดูเหมือนมันจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิด
“เอ่อ…ฉันเเละปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันเป็นเพียงเเค่คนรู้จักกัน เเต่เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้นเเม้ว่าฉันจะชื่นชอบเวทมนตร์มากเเค่ไหน เเละมีคนเต็มใจที่จะสอนฉัน เเต่พรสวรรค์ในการเรียนรู้เวทมนตร์ของฉันอยู่ในระดับที่ต่ำมาก หากฝึกฝนอาจเป็นไปได้ที่ยากจะประสบความสำเร็จ”เเจ็คสันกล่าวตอบอย่างไม่เต็มใจ  เมื่อนึกถึงจุดเเข็งของเเจ็คที่เขาเห็นในช่วงสองวันก่อนเขาเองก็ยังรู้สึกอิจฉา เเจ็คเป็นมิวแทนท์ระดับ 3 มีคุณสมบัติร่างกายที่เเข็งเเกร่งทั้งยังมีความสามารถในการเรียนรู้เวทมนตร์ได้เป็นอย่างดี เเม้ในใจเขาจะรู้สึกอิจฉาอีกฝ่าย เเต่เมื่อคิดถึงผลรวมตอนนี้ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ก็เหมือนได้ยกระดับความเเข็งเเกร่งขึ้นไปอีกครั้ง
“ไม่มีพรสวรรค์ในการเรียนรู้เวทมนตร์…ฮ่าฮ่าข้าล่ะเเปลกใจจริง ๆ “ธอร์จ้องมองไปที่เเจ็คสันด้วยรอยยิ้้ม
เดิมธอร์คิดว่าอีกฝ่ายมีพรสวรรค์ที่มากล้นกระทั่งสามารถเรียนรู้เวทมนตร์ได้อย่างไม่ยากเย็นเเต่พอดูรวม ๆ คนที่มีพรสวรรค์อย่างเเจ็คสัน ก็ยังมีข้อเสียกับเขาอยู่เหมือนกัน
“ใช่,เเต่ถึงฉันจะไม่สามารถเรียนรู้เวทมนตร์ได้ฉันก็ยังมีจุดเเข็งอื่นอยู่”เผชิญหน้ากับการหัวเราะของธอร์ เเจ็คสันตอบกลับอย่างมั่นคง

ห่างจากบ้านเเจ็คสันไม่ไกลบ้านของทอมทอมจ้องมองออกไปที่นอกหน้าต่างเขาเห็นเเจ็คสันสนทนากับลุงไมค์ทอมเองก็ให้ความสนใจในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
“เเจ็คสัน,ฉันละอยากมีอิสระทำเรื่องที่อยากจะทำเหมือนนายจริงๆ “เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนเเล้วหลังจากที่ทอมกลับมาบ้านเขาได้ซ่อนตัวอยู่ในห้องนอนที่มืดมิดของตนเอง
เป็นระยะเวลากว่าหนึ่งเดือนเเล้วหลังจากที่เเจ็คสันช่วยเหลือทอมออกมาสมาชิกในครอบครัวของทอมรู้สึกดีใจอย่างมากที่เห็นเขากลับมาพวกเขากลับมามีความสุขอีกครั้ง เเต่ก็มีบางครั้งทีพวกเขารู้สึกสงสัย มันเป็นการเปลี่ยนเเปลงของทอม เพราะหลังจากที่ทอมกลับมา เขาไม่ค่อยพูดค่อยจาทั้งยังชอบเก็บตัวอยู่ในห้องมืดคนเดียวไม่ออกไปข้างนอกไม่ไปโรงเรียน
หลายครั้งที่ครอบครัวของเขาพยายามจะถามเขาถึงเรื่องเพื่อนบ้านอย่างเเจ็คสันเเละโทนี่สตาร์ค ซึ่งทอมก็ไม่ได้พูดอะไร ครอบครัวของเขาพยายามจะถามเขาถึงสาเหตุที่ตนเองหายไป ซึ่งทอมก็ไม่ได้บอกพวกเขามันเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดมาก มันไม่ใช่เรื่องที่ดีที่เขาจะบอกกล่าวให้คนในครอบครัวฟัง
ดังนั้นในปัจจุบันทอมจึงการเป็นเด็กที่ชอบเก็บตัวอยู่ในห้องไม่พูดไม่จากับคนอื่นๆ เรื่องนี้ทำให้ ครอบครัวเป็นห่วงเขามาก พวกเขาหวังว่าสักวันทอมจะกลับมาเป็นปกติ เเม้ว่าพวกเขาอยากจะรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเเต่ทอมก็ไม่ยอมบอก เเต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขารู้นั่นคือสภาพของทอมในปัจจุบันดูเป็นทุกข์ออย่างมากหากเป็นแบบนี้ต่อไปเขาจะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตของคนทั่วไปได้
ฟุ่บ!
จ้องมองไปยังตำเเหน่งของเเจ็คสันที่หายไปทอมได้จับลูกบอลโลหะเล่นในมือก่ออนที่จะบดมันด้วยความเเข็งเเกร่งของตนเองร่างกายของทอมถูกพวกไฮดร้าเปลี่ยนเป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์ พละกำลังที่เหนือกว่าคนธรรมดา ยังอยู่ในร่างกายของเขา
หลังจากบีบลูกบอลโลหะในมือเเตกทอมได้สติกลับมาเขาจ้องมองไปที่เศษลูกบอลที่เเตกในมือพร้อมกับครุ่นคิดบางอย่าง
“หลังจากเผชิญหน้าผ่านพ้นปัญหาเหล่านั้นมาฉันยังจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตคนธรรมดาทั่วไปได้อีกงั้นหรอ”ทอมขว้างเศษลูกบอลโลหะทิ้งในถังขยะ
เเม้เเจ็คสันจะใช้วิธีการบางอย่างในการกู้ความทรงจำของทอมกลับมาได้เเต่มันไม่มีวิธีที่จะลบความทรงจำในช่วงที่ทอมกลายเป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์เเละฆ่าคนจำนวนมากเป็นที่ชัดเจนว่าตัวเขากำลังสับสนตัวเอง สับสนเกี่ยวกับการใช้ชีวิตต่อจากนี้
ถ้าทอมเลือกที่จะกลับไปใช้ชีวิตปกติแบบคนอื่นมันก็คงจะยากเพราะเรื่องที่พวกไฮดร้าเคยสั่งเขาตอนที่เป็นทหารวินเทอร์โซลเยอร์ให้ลงมือทำ เขาจะมีความคิดเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเมื่อเทียบกับคนรุ่นราวคราวเดียวกัน เขาไม่สามารถยอมรับในเรื่องนี้เเละทำใจกลับไปใช้ชีวิตประจำวันในโรงเรียนได้ เพราะในสายตาของเขาตัวเขามันเหมือนกับตัวประหลาดตัวนึง
“ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์S.H.I.E.L.D.? ทีมX-MEN บางทีสถานที่เเห่งนี้คงจะเหมาะกับฉันมากกว่า!”ทอมเคาะนิ้วเล็กน้อยที่มุมโต๊ะไอรีนโนเวล
ตึก!
“เเจ็คสันถึงเเม้ว่านายจะไม่ต้องการให้ฉันเสี่ยงอันตรายไปพร้อมกับนายเเต่ว่าฉัน…”ทอมพูดออกมาก่อนที่สายตาของเขาจะเปล่งประกายอย่างเเปลก ๆ

ในห้องนั่งเล่นพ่อของเเจ็คสันหลิน ไฮ่ ได้ตักอาหารใส่จานของทุกคน วันนี้ ลูกชายของเขานาน ๆ ทีจะกลับมาบ้าน เป็นธรรมดาที่ หลิน ไฮ่ จะทำเมนูโปรดของลูกชายพร้อมกับทุ่มฝีมือสุดตัวเพื่อทำอาหารออกมาให้อร่อยที่สุด
“ธอร์,คุณมานั่งตรงนี้เร็ว เพื่อนของเเจ็คสัน ก็เหมือนเเขกของบ้านเรา”หลิน ไฮ่ กล่าวพูดกับธอร์
“เอ่อ…ข้าขอนั่งตรงนี้ดีกว่า!”ธอร์กล่าวพูดเล็กน้อย
เห็นว่าธอร์พูดออกมาเเละทำท่าทีอย่างสุภาพดวงตาของ เเจ็คสันจ้องมองไปที่เขาก่อนที่จะเผยรอยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
“ฮ่าฮ่าไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้ ธอร์ ดูจากรูปร่างหน้าตาของคุณ คุณน่าจะไม่ใช่นักเรียนใช่มั้ย คุณทำงานในบริษัทอุตสาหกรรมสตาร์คอินดัสตรีท์ด้วยงั้นหรอ?”หลิน ไฮ่ กล่าวถาม ธอร์
“เอ่อ…ข้าไม่ใช่นักเรียนปีนี้ข้าอายุ 26 ปีเเล้ว ข้าไม่ได้ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมสตาร์ค เเต่ว่าทำงานอยู่กับครอบครัว ที่เรียกว่า สถานรับเลี้ยงสุนัขจรจัด”ได้ยินคำถามของ หลิน ไฮ่ ธอร์ได้วางตะเกียบในมือลงพร้อมกับพูดอย่างตะกุกตะกัก เขาเกือบที่จะหลุดพูดอายุที่เเท้จริงของตนเองออกไปเเล้ว
“คุณ~~”ได้ยินคำตอบของธอร์หลิน ไฮ่ ตกใจเล็กน้อย
ถ้าหากธอร์ไม่ใช่เพื่อนที่ทำงานอยู่ที่อุตสาหกรรมสตาร์คเช่นนั้น ลูกของเขาเเจ็คสันไปรู้จักอีกฝ่ายได้อย่างไร เรื่องนี้เขาจำเป็นจะต้องสอบถามอีกฝ่ายเพื่อความชัดเจน
“คือผมไปรู้จักธอร์ตอนที่ไปทัศนศึกษาที่นิวเม็กซิโกพวกเราได้รู้จักกันตอนนั้น จากนั้น ธอร์ ได้ย้ายมาอยู่ที่ นิวยอร์ก เขาไม่มีเพื่อนอยู่ที่นี่ ดังนั้น ผมเลยช่วยเขามองหางาน เราจึงค่อนข้างสนิทกัน”เมื่อรับรู้ถึงความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพ่อตนเอง เเจ็คสันได้เปิดปากพูดขึ้น
“ฮ่าฮ่าเป็นเช่นนี้นั่นเอง เอาล่ะ กินข้าวกันเถอออะ ธอร์ คุณใช้ตะเกียบเป็นไหม ในครัวของเรามีช้อนเเละส้อม ถ้าคุณไม่สะดวกเดวฉันจะไปหยิบให้”หลังจากได้ยินคำพูดของลูกชาย หลิน ไฮ่ ยิ้มออกมา เเละ จ้องมอองไปที่ธอร์  “เอ่อ…ไม่มีปัญหาหลังจากมาถึงนิวยอร์ก เเจ็คสันได้สอนข้าหลายอย่างเเน่นอนว่าการใช้ตะเกียบด้วยเหมือนกัน”ธอร์หยิบตะเกียบขึ้นมาลองคีบดู
จากนั้นธอร์ เเละ เเจ็คสัน ก็อยู่ร่วมรับประทานอาหารกลางวันภายในบ้านของเเจ็คสัน หลังจากทานอาหารกลางวันกันเสร็จ หลิน ไฮ่ ได้เก็บจาน เเละบอกให้เเจ็คสันไม่ต้องช่วยออกไปเดินเล่นกับเพื่อน ท้ายที่สุด ธอร์ เเละ เเจ็คสันก็ออกไปเดินเล่นกัน หลิน ไฮ่ มองว่า ธอร์คนนี้ ค่อนข้างมีความลึกลับทีเดียว เเต่ถ้า ลูกชายของเขาโอเค เขาก็ไม่มีปัญหาอะไร

  เมื่อเห็นเจ้าหนูเเจ็คสันหายหน้าหายตาไปนานลุงไมค์วางสายยางก่อนที่จะเดินไปที่เบื้องหน้าของเเจ็คสัน
“ได้ยินว่าเธอ หายตัวไปนานไปเป็นผู้ช่วย โทนี่ สตาร์ค เป็นไงมั่งละ เค้าให้กลับมาเเล้วงั้นหรอ”ลุงไมค์จ้องมองไปที่รถสปอร์ตสุดหรูที่จอดด้านหลังก่อนจะถามเเจ็คสันด้วยรอยยิ้ม
เนื่องเพราะเเจ็คสันทำงานให้กับโทนี่สตาร์ค เขาจึงไม่ค่อยได้ไปโรงเรียนทั้งยังไม่ค่อยได้กลับบ้าน เเม้ว่าฐานะนักเรียนของเเจ็คสันจะดูย่ำเเย่ในสายตาคนอื่น ๆ เเต่คนเหล่านี้ไม่กล้าที่จะนินทาลูกบ้านนี้เเม้เเต่น้อย จะมีสักกี่คนที่มีความสามารถมากพอจะเป็นผู้ช่วยเหลือของ โทนี่ สตาร์ค ได้
“อืม,คุณสตาร์คปล่อยให้ผมกลับมาพักผ่อนสักพักนึงเพราะถึงยังไงก็เป็นเวลานานเเล้วที่ผมไม่ได้กลับบ้าน”เเจ็คสันตอบกลับ ลุงไมค์ พร้อมกับยิ้มออกมา
“ฮ่าฮ่าดูเหมือน โทนี่ สตาร์ค จะให้ความสนใจกับเธอเป็นพิเศษ จริงสิ เจ้าหนู เเจ็คสัน ลูกของฉันกำลังจะจบการศึกษาในสถาบันเทคโนโลยีเเสซาซูเซตส์ในปีนี้เขาใช้เวลาสองปีในการศึกษาเธอพอจะ…”ลุงไมค์อ้ำอึงเล็กน้อย
ลูกๆ ของเขาใกล้ที่จะเรียนจบเเล้ว ลุงไมค์ตั้งใจจะฝากเเจ็คสันให้ไปพูดคุยกับโทนี่สตาร์คหน่อย เเต่พอคิดว่ามันจะเป็นการรบกวนอีกฝ่ายมากเกินไปทำให้ ลุงไมค์หยุดชะงักเล็กน้อย
เเต่เเจ็คสันรู้ดีว่าลุงไมค์ต้องการจะพูดอะไรลูกชายของลุงไมค์นั้นเป็นที่มีความสามารถเเละมีผลการเรียนที่ดีอย่างน้ออยในสถาบันเทคโนโลยีเเมสซาชูเซตส์ก็เป็นนักเรียนดีเด่น เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้เเจ็คสันจะลองพยายามติดต่อโทนี่ดูให้ในภายหลัง
ลุงไมค์นิ่งเงียบไปครู่นึงเขาไม่รู้จะกล่าวพูดออกมาดีหรือไม่มันจะดีเเน่หรือที่ใช้ความสัมพันธ์เพื่อนบ้านในการขอให้เเจ็คสันช่วยเหลือลูกของเขาให้ได้ทำงานกับ โทนี่ สตาร์ค
“เอ่อ…ลุงไมค์เพื่อนของผมรออยู่ในบ้านนานเเล้ว ผมขอตัวเข้าบ้านก่อน!”เเจ็คสันได้โบกมือลาพร้อมกับเดินไปที่ลานบ้านของตนเอง
“อ้ะ…เดี๋ยวก่อนเจ้าหนูเเจ็คสัน”เห็นเเจ็คสันเดินจากไปลุงไมค์กล่าวพูดออกมาเเต่ดูเหมือนจะไม่ทันซะเเล้ว
จากนั้นไม่นานลุงไมค์ที่เตรียมจะหันหลังกลับไปเขาสังเกตุเห็นชายรูปร่างสูงใหญ่เเละเเข็งเเรงเดินออกมาจากประตูบ้านของเเจ็คสันเกี่ยวกับชายคนนั้น ลุงไมค์ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเเต่รัศมีที่น่าเกรงขามเเละกดดันกลับปล่อยออกมาจากชายคนนั้น เมื่อเห็นว่าตนเองรู้สึกไม่ค่อยดี ลุงไมค์ได้เดินไปหยิบสายยาเเละเริ่มดูเเลสวนต่อ
ฟุ่บ!
“เฮ้,ธอร์ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!”เเจ็คสันกล่าวทักทายธอร์ด้วยรอยยิ้ม  อย่างไรก็ตามธอร์กลับไม่ได้ตอบสนองต่อเเจ็คสันเขาจ้องมองไปที่อีกฝ่ายราวกับกำลังบอกว่าทำไมกลับมาช้าแบบนี้
ฟุ่บ!
เห็นท่าทีของธอร์ที่กำลังจะทำอะไรบางอย่างจู่ ๆ ธอร์ก็กำหมัดเเน่นขึ้นพร้อมกับเตรียมจะชกเเจ็คสันที่อยู่เบื้องหน้า
ซิ๊ดด!
“เวรล่ะ!ที่นี่เป็นทางเข้าหน้าบ้านของฉัน ด้านนอกยังมีพวกตัวเเทนเฝ้าระวังขององค์กร S.H.I.E.L.D. ซุ่มอยู่ เเม้ว่าตอนนี้ฉันจะไม่จำเป็นที่จะต้องซ่อนตัวตนอีกต่อไป เเต่ฉันก็ไม่อยากเปิดเผยสถานะของฉัน!”เห็นประกายไฟฟ้าในสายตาของธอร์ เเจ็คสันรู้สึกทำอะไรไม่ถูก
สถานะมิราจไนท์ของเเจ็คสันถูกปกปิดโดยโทนี่อยู่ในตอนนี้เเต่องค์กร S.H.I.E.L.D. ก็ไม่ลดละความพยายามในการทราบสถานะที่เเท้จริงของมิราจไนท์ เพราะตอนนี้พวกเขาเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน เขาเองก็อยากจะรู้ข้อมูลของอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
เห็นหมัดของธอร์ที่พุ่งเข้ามาที่ใบหน้าของตนเองเเจ็คสันได้สร้างกำเเพงพลังงานภายในที่มองไม่เห็นเพื่อต้านรับการโจมตีของธอร์
ฟุ่บ!
หมัดของธอร์ไม่ทันได้โดนกำเเพงพลังงานภายในของเเจ็คสันธอร์ได้หยุดหมัดลงเล็กน้อยกระเเสลมจำนวนมากได้ซัดผ่านไปหน้าของเเจ็คสันไป เเจ็คสันสามารถสัมผัสได้ถึงความเเข็งเเกร่งของพลังงานสายฟ้าในร่างกายของธอร์ หรือว่านี่เป็นการทักทายของธอร์ การทักทายเช่นนี้ไม่ใช่วิธีที่ปกติที่คนอื่นเขาคิดจะทำ
“อืม,ไม่ได้เจอกันนานจริงๆ “หลังจากเห็นท่าทีของเเจ็คสันธอร์ที่หยุดกำปั้นลงได้ถอนหมัดของเขากลับไป
“ฮ่าฮ่า,ธอร์คุณดูดีขึ้นเยอะเลยนะ!”ธอร์ในตอนนี้จะมีรูปร่างค่อนข้างสมส่วนไม่อ้วนเหมือนเเต่ก่อน ดังนั้นเเจ็คสันจึงกล่าวชมออีกฝ่าย
จากนั้นเเจ็คสันก็คลายกำเเพงพลังงานภายในที่มองไม่เห็นออกก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้ตำเเหน่งเบื้องหน้าของธอร์
“ฮ่าฮ่า,มาเถอะพ่อของเจ้ากำลังทำอาหารที่เจ้าชอบเตรียมไว้ให้”เห็นเเจ็คสันพยายามจะต้านทานหมัดเมื่อครู่ของตนเอง ธอร์ ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
จากนั้นธอร์ก็เดินกลับเข้าไปในบ้านทิ้งไว้เพียงเเจ็คสันที่ยืนงงอยู่หน้าบ้านเล็กน้อย
“ธอร์!หากเมื่อครู่เขาโจมตีฉันด้วยพลังเต็มที่เเล้วล่ะก็ฉันที่ถึงเเม้จะใช้การป้องกันก็คงได้รับบาดเจ็บ เพราะบาดเเผลของฉันยังไม่ฟื้นตัวดี”เห็นธอร์เดินกลับเข้าไปเเจ็คสันพึมพัมออกมาเล็กน้อย
จากนั้นเเจ็คสันก็เดินตามธอร์เข้าไปในสถานที่บางเเห่งได้มีการเคลื่อนไหวการเฝ้าระวังอย่างเเปลกๆ เกี่ยวกับการทักทายของทั้งสองคนเมื่อครู่นี้ เกือบที่จะทำให้พวกเขาได้เเตกตื่นกันยกใหญ่เเต่ดูเหมือนสถานการณ์จะไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาหวังดังนั้นพวกเขาก็คงมีเเต่จะต้องเฝ้าระวังอยู่ห่างๆ ต่อไป

เมื่อเห็นเจ้าหนูเเจ็คสันหายหน้าหายตาไปนานลุงไมค์วางสายยางก่อนที่จะเดินไปที่เบื้องหน้าของเเจ็คสัน
“ได้ยินว่าเธอ หายตัวไปนานไปเป็นผู้ช่วย โทนี่ สตาร์ค เป็นไงมั่งละ เค้าให้กลับมาเเล้วงั้นหรอ”ลุงไมค์จ้องมองไปที่รถสปอร์ตสุดหรูที่จอดด้านหลังก่อนจะถามเเจ็คสันด้วยรอยยิ้ม
เนื่องเพราะเเจ็คสันทำงานให้กับโทนี่สตาร์ค เขาจึงไม่ค่อยได้ไปโรงเรียนทั้งยังไม่ค่อยได้กลับบ้าน เเม้ว่าฐานะนักเรียนของเเจ็คสันจะดูย่ำเเย่ในสายตาคนอื่น ๆ เเต่คนเหล่านี้ไม่กล้าที่จะนินทาลูกบ้านนี้เเม้เเต่น้อย จะมีสักกี่คนที่มีความสามารถมากพอจะเป็นผู้ช่วยเหลือของ โทนี่ สตาร์ค ได้
“อืม,คุณสตาร์คปล่อยให้ผมกลับมาพักผ่อนสักพักนึงเพราะถึงยังไงก็เป็นเวลานานเเล้วที่ผมไม่ได้กลับบ้าน”เเจ็คสันตอบกลับ ลุงไมค์ พร้อมกับยิ้มออกมา ไอลีนโนเวล
“ฮ่าฮ่าดูเหมือน โทนี่ สตาร์ค จะให้ความสนใจกับเธอเป็นพิเศษ จริงสิ เจ้าหนู เเจ็คสัน ลูกของฉันกำลังจะจบการศึกษาในสถาบันเทคโนโลยีเเสซาซูเซตส์ในปีนี้เขาใช้เวลาสองปีในการศึกษาเธอพอจะ…”ลุงไมค์อ้ำอึงเล็กน้อย
ลูกๆ ของเขาใกล้ที่จะเรียนจบเเล้ว ลุงไมค์ตั้งใจจะฝากเเจ็คสันให้ไปพูดคุยกับโทนี่สตาร์คหน่อย เเต่พอคิดว่ามันจะเป็นการรบกวนอีกฝ่ายมากเกินไปทำให้ ลุงไมค์หยุดชะงักเล็กน้อย
เเต่เเจ็คสันรู้ดีว่าลุงไมค์ต้องการจะพูดอะไรลูกชายของลุงไมค์นั้นเป็นที่มีความสามารถเเละมีผลการเรียนที่ดีอย่างน้ออยในสถาบันเทคโนโลยีเเมสซาชูเซตส์ก็เป็นนักเรียนดีเด่น เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้เเจ็คสันจะลองพยายามติดต่อโทนี่ดูให้ในภายหลัง
ลุงไมค์นิ่งเงียบไปครู่นึงเขาไม่รู้จะกล่าวพูดออกมาดีหรือไม่มันจะดีเเน่หรือที่ใช้ความสัมพันธ์เพื่อนบ้านในการขอให้เเจ็คสันช่วยเหลือลูกของเขาให้ได้ทำงานกับ โทนี่ สตาร์ค
“เอ่อ…ลุงไมค์เพื่อนของผมรออยู่ในบ้านนานเเล้ว ผมขอตัวเข้าบ้านก่อน!”เเจ็คสันได้โบกมือลาพร้อมกับเดินไปที่ลานบ้านของตนเอง
“อ้ะ…เดี๋ยวก่อนเจ้าหนูเเจ็คสัน”เห็นเเจ็คสันเดินจากไปลุงไมค์กล่าวพูดออกมาเเต่ดูเหมือนจะไม่ทันซะเเล้ว
จากนั้นไม่นานลุงไมค์ที่เตรียมจะหันหลังกลับไปเขาสังเกตุเห็นชายรูปร่างสูงใหญ่เเละเเข็งเเรงเดินออกมาจากประตูบ้านของเเจ็คสันเกี่ยวกับชายคนนั้น ลุงไมค์ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเเต่รัศมีที่น่าเกรงขามเเละกดดันกลับปล่อยออกมาจากชายคนนั้น เมื่อเห็นว่าตนเองรู้สึกไม่ค่อยดี ลุงไมค์ได้เดินไปหยิบสายยาเเละเริ่มดูเเลสวนต่อ
ฟุ่บ!
“เฮ้,ธอร์ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!”เเจ็คสันกล่าวทักทายธอร์ด้วยรอยยิ้ม
อย่างไรก็ตามธอร์กลับไม่ได้ตอบสนองต่อเเจ็คสันเขาจ้องมองไปที่อีกฝ่ายราวกับกำลังบอกว่าทำไมกลับมาช้าแบบนี้
ฟุ่บ!
เห็นท่าทีของธอร์ที่กำลังจะทำอะไรบางอย่างจู่ ๆ ธอร์ก็กำหมัดเเน่นขึ้นพร้อมกับเตรียมจะชกเเจ็คสันที่อยู่เบื้องหน้า
ซิ๊ดด!
“เวรล่ะ!ที่นี่เป็นทางเข้าหน้าบ้านของฉัน ด้านนอกยังมีพวกตัวเเทนเฝ้าระวังขององค์กร S.H.I.E.L.D. ซุ่มอยู่ เเม้ว่าตอนนี้ฉันจะไม่จำเป็นที่จะต้องซ่อนตัวตนอีกต่อไป เเต่ฉันก็ไม่อยากเปิดเผยสถานะของฉัน!”เห็นประกายไฟฟ้าในสายตาของธอร์ เเจ็คสันรู้สึกทำอะไรไม่ถูก
สถานะมิราจไนท์ของเเจ็คสันถูกปกปิดโดยโทนี่อยู่ในตอนนี้เเต่องค์กร S.H.I.E.L.D. ก็ไม่ลดละความพยายามในการทราบสถานะที่เเท้จริงของมิราจไนท์ เพราะตอนนี้พวกเขาเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน เขาเองก็อยากจะรู้ข้อมูลของอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
เห็นหมัดของธอร์ที่พุ่งเข้ามาที่ใบหน้าของตนเองเเจ็คสันได้สร้างกำเเพงพลังงานภายในที่มองไม่เห็นเพื่อต้านรับการโจมตีของธอร์
ฟุ่บ!
หมัดของธอร์ไม่ทันได้โดนกำเเพงพลังงานภายในของเเจ็คสันธอร์ได้หยุดหมัดลงเล็กน้อยกระเเสลมจำนวนมากได้ซัดผ่านไปหน้าของเเจ็คสันไป เเจ็คสันสามารถสัมผัสได้ถึงความเเข็งเเกร่งของพลังงานสายฟ้าในร่างกายของธอร์ หรือว่านี่เป็นการทักทายของธอร์ การทักทายเช่นนี้ไม่ใช่วิธีที่ปกติที่คนอื่นเขาคิดจะทำ
“อืม,ไม่ได้เจอกันนานจริงๆ “หลังจากเห็นท่าทีของเเจ็คสันธอร์ที่หยุดกำปั้นลงได้ถอนหมัดของเขากลับไป
“ฮ่าฮ่า,ธอร์คุณดูดีขึ้นเยอะเลยนะ!”ธอร์ในตอนนี้จะมีรูปร่างค่อนข้างสมส่วนไม่อ้วนเหมือนเเต่ก่อน ดังนั้นเเจ็คสันจึงกล่าวชมออีกฝ่าย
จากนั้นเเจ็คสันก็คลายกำเเพงพลังงานภายในที่มองไม่เห็นออกก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้ตำเเหน่งเบื้องหน้าของธอร์
“ฮ่าฮ่า,มาเถอะพ่อของเจ้ากำลังทำอาหารที่เจ้าชอบเตรียมไว้ให้”เห็นเเจ็คสันพยายามจะต้านทานหมัดเมื่อครู่ของตนเอง ธอร์ ยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
จากนั้นธอร์ก็เดินกลับเข้าไปในบ้านทิ้งไว้เพียงเเจ็คสันที่ยืนงงอยู่หน้าบ้านเล็กน้อย
“ธอร์!หากเมื่อครู่เขาโจมตีฉันด้วยพลังเต็มที่เเล้วล่ะก็ฉันที่ถึงเเม้จะใช้การป้องกันก็คงได้รับบาดเจ็บ เพราะบาดเเผลของฉันยังไม่ฟื้นตัวดี”เห็นธอร์เดินกลับเข้าไปเเจ็คสันพึมพัมออกมาเล็กน้อย
จากนั้นเเจ็คสันก็เดินตามธอร์เข้าไปในสถานที่บางเเห่งได้มีการเคลื่อนไหวการเฝ้าระวังอย่างเเปลกๆ เกี่ยวกับการทักทายของทั้งสองคนเมื่อครู่นี้ เกือบที่จะทำให้พวกเขาได้เเตกตื่นกันยกใหญ่เเต่ดูเหมือนสถานการณ์จะไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาหวังดังนั้นพวกเขาก็คงมีเเต่จะต้องเฝ้าระวังอยู่ห่างๆ ต่อไป

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้าที่เเมกนีโตเดินออกไปยังพื้นที่ทางเดินของโรงเรียนในขณะนั้นเองก็มีวัยรุ่นหนุ่มสาว 4 คน ที่สังเกตุเห็นการกระทำนั้นพวกเขก็คือพวก ไพโร ก่อนหน้านี้พวกเขาตั้งใจต่อสู้หมายเอาชนะคนของทีมX-MEN เเต่ได้พ่ายเเพ้เเละถูกจับขังไว้ที่นี่ อันที่จริงจะเรียกว่าจับขังก็ไม่ได้เพราะอีกฝ่ายก็ไม่ได้ลงไม้ลงมือกับพวกเขา
“ไพโรนายคิดว่า บอสกับ ศาสตราจารย์ X คุยเรื่องอะไรกันทำไมพวกเขาถึงมีท่าทีการเเสดงออกที่เปลี่ยนไปขนาดนั้น?”เมื่อจ้องมองลงไปข้างล่างด้านนอกทางเดิน เร้ด เเท้งค์ ได้กล่าวถาม ไพโร
ได้ยินคำถามของเร้ด เเท้งค์ ไพโพรไม่ได้กล่าวตอบเขายังคงให้ความสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่ เเมกนีโต เเละ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์พูดคุยกัน เเน่นอนว่ามันจะต้องเป็นเรื่องสำคัญมากอย่างเเน่นอนถึงขนาดเข้าไปคุยกันในห้องลับ
“นายคิดว่าไงตอบหน่อยสิ”เห็นไพโรไม่ตอบ เร้ด เเท้งค์ ยังคงดื้อดึงอีกครั้ง
เนื่องจากความสามารถกลายพันธุ์ของเร้ดเเท้งค์ทั้งหมดคือความสามารถทางกายภาพอาการบาดเจ็บในศึกสงครามเมื่อสองวันก่อนของเขาจึงหายเร็วกว่าคนอื่นๆ เเต่อย่างไรก็ตาม คนอื่น ๆ ก็มีสภาพร่างกายเเละฟื้นฟูกลับมาดีขึ้นเเล้ว นี่ไม่ใช่ปัญหาที่ ไพโร ไม่ได้เลือกที่จะตอบคำถามเขา
ขณะที่ไพโรกำลังจ้องมองอีกฝ่ายเเละถูกรบกวนโดยเร้ดเเท้งค์เขาได้หยิบถังเหล็กที่อยู่ข้างๆ มาคลุมหัวอีกฝ่ายทันที
“อื้อ…”ถูกคลุมหัวโดยถังเหล็กในที่สุดเร้ดเเท้งค์ก็ไม่ได้ตอบสนองโดยใช้คำพูดเขาเพียงส่งเสียงอื้ออึงออกมาไม่กี่ครั้ง
ขณะที่ไพโรลงมือเพราะความรำคาญต่อเร้ด เเท้งค์ จู่ ๆ ไม่นาน เเมกนีโต ก็เดินมายังหน้าห้องของพวกเขา  “พวกเรารีบไปกันเถอะ!”เเมกนีโตจ้องมองไปที่ทั้งสี่ คนเเละกล่าวอย่างจริงจัง
จากนั้นไม่นานพวกเเมกนีโตก็จากไปโดยใช้รถยนต์ที่จอดอยู่ด้านหน้าโรงเรียนขณะนั้นเองก็มีเงาร่างสองคนปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของศาสตราจารย์ชาร์ลส์
“ศาสตราจารย์พวกเขาไปเเล้วงั้นหรอ เขาให้คำสัญญากับคุณหรือไม่?”เห็นพวกเเมกนีโตจากไป ไอซ์แมน โรเบิร์ต ได้กล่าวถามศาสตราจารย์ชาร์ลส์
พวกเขาได้เฝ้าระวังความปลอดภัยของศาสตราจารย์ชาร์ลส์อย่างห่างๆ อาจเป็นเพราะตัวเขาเองก็ไม่มีความไว้ใจในตัวของเเมกนีโตไปทั้งหมด
“ไอซ์แมนนายคิดมากเกินไปเเล้ว เอริค คนนี้ เขารักคนในครอบครัวมากกว่าใคร ๆ เเล้วยิ่งได้มีโอกาสเห็นหน้าพวกเขาอีกครั้งมีหรือที่เขาจะยอมทนอยู่เฉยได้”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ
“ก็หวังเช่นนั้นดูเเล้ว เเมกนีโต คนนี้ ไม่น่าจะเห็น ลูก ๆ ของตนเองสำคัญมากขนาดนี้”ไอซ์แมนสั่นศีรษะเล็กน้อย
“ไม่เลยฉันเชื่อในคำพูดของเขา”เห็นความเห็นที่เเตกต่างของ ไอซ์แมน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์สั่นศีรษะเล็กน้อยเเละกล่าวตอบ
“จริงสิศาสตราจารย์ ฮงค์ ค้นพบคลื่นความผันผวนของลูกบาศก์เวทมนตร์ที่หายไปเเล้ว”ไอซ์แมนไม่ได้โยงเข้าเรื่อง เเมกนีโต อีกเขาได้เปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“อืม,ฉันรู้เเล้วค้นของเราได้ค้นพบคลื่นความผันผวนของลูกบาศก์เวทมนตร์ในไซบีเรีย ครั้งนี้ คลื่นที่มันส่งออกมานั้นรุนเเรงมาก”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ
ไอซ์แมนเเละ สมาชิกทีมX-MEN คนอื่น ๆ รับรู้ว่าลูกบาศก์เวทมนตร์นั้นมีพลังงานลึกลับที่สามารถสร้างพื้นที่มิติอวกาศได้ เเต่พวกเขาไม่รู้ว่าในความเป็นจริงมันคือสมบัติเเห่งจักรวาล สเปซอินฟินิตี้สโตน อย่างไรก็ตามเพียงเเค่ความสามารถควบคุมมิติของมันก็สามารถสร้างความสนใจให้เเก่ทุกคนได้เเล้ว  ในการค้นหาครั้งนี้มีS.H.I.E.L.D. ไอรอนแมน เเละ ทีมX-MEN รวมถึงทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ที่ช่วยกันค้นหามัน ก่อนหน้านี้ มิราจไนท์ ของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้ให้ข้อมูลหลังจากปิดฉาก เร้ด สกัลล์ ผู้นำองค์กรไฮดร้า ได้ ลูกบาศก์เวทมนตร์ได้หายไปในตอนนั้น
พวกเขาได้ออกค้นหามันเป็นระยะเวลาหลายเดือนจนในที่สุดก็ได้รับข่าวเพราะคลื่นความผันผวนที่มันส่งออกมาอย่างรุนเเรง
“เเล้วศาสตราจารย์เรื่องนี้ต้องเเจ้งกับ มิราจไนท์ด้วยหรือไม่”ตอนนี้พวกเขาได้รับข่าวเรื่องลูกบาศก์เวทมนตร์เเล้ว ไอซ์แมนกล่าวถามด้วยเสียงเบา
เเม้ว่าทีมX-MEN S.H.I.E.L.D. เเละ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์จะมีความสัมพันธ์เชิงพันธมิตร เเต่ความสามารถของลูกบาศก์เวทมนตร์นั้นยิ่งใหญ่มาก เขารู้สึกกังวลว่าสิ่งนี้อาจจะนำมาซึ่งการเเตกหักของพวกเขา
“ไอซ์แมนข้อมูลเกี่ยวกับมันที่เรารู้มีน้อยมาก มันไม่สำคัญถึงเเม้ว่าพวกเราจะเก็บไว้เองก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่าพวกเราจะสามารถควบคุมมันได้อย่างอิสระ ดังนั้น เเจ้งให้พวกเขารู้ก่อนดีกว่า บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด”
ลูกบาศก์เวทมนตร์คือสมบัติของจักรวาลมันมีค่าอย่างมาก เเต่การที่ลูกบาศก์เวทมนตร์ปรากฏขึ้นที่โลกนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะมันจะนำภัยคุกคามเเห่งจักรวาลติดตามมันมาด้วย ไอลีนโนเวล
“เข้าใจเเล้ว”ไอซ์แมนได้พยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“จริงสิมันจะดีกว่าหากฉันส่งนายไปยังพื้นที่ไซบีเรีย อย่างไรก็ตามพื้นที่เเถบนั้นก็เหมาะสมกับนายมากที่สุด”
“เข้าใจเเล้ว!”

บรื้น
ขณะเดียวกันทางด้านเเจ็คสันเขาได้ขับรถสปอร์ตสีเงินที่ด้านนอกประตูบ้านรถสปอร์ตที่เขาขับมานั้นค่อนข้างเตะตาเพื่อนบ้านหลายคน
“อ้าว!เจ้าหนูเเจ็คสันคนนั้นนี่!”เห็นเงาร่างของเเจ็คสันลงมาจากรถ ลุงไมค์ที่เหลือบไปเห็นได้กล่าวทักทายทันที
“สวัสดี!ลุงไมค์!”เห็นว่าใครเป็นคนทักตนเอง เเจ็คสันยิ้มพร้อมกับโบกมือทักทาย

หลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีเเมกนีโต ก็ออกจากพื้นที่เเผนกสนับสนุนของทีม X-MEN เเละติดตามศาสตราจารย์ชาร์ลส์กลับไปยังทางเดินอีกครั้ง อย่างไรก็ตามคราวนี้เเมกนีโตไม่ได้สนใจการเปลี่ยนเเปลงของทีมX-MEN เเล้ว เขาได้มุ่งเน้นไปที่จุดประสงค์หลักของตนเองที่มาที่นี่
“ชาร์ลส์นายเองก็รู้ว่าจุดประสงค์หลักที่ฉันมาที่นี่คืออะไรตอนนี้นายจะพาฉันไปพบพวกไพโรได้หรือยัง”ขณะที่กำลังเดิน เเมกนีโต ได้เปิดปากพูดขึ้น
“เเน่นอนว่าฉันรู้นายมาเพื่อพาพวกเขากลับไปใช่มั้ย ผ่อนคลายเถอะ พวกเขาสบายดี อีกไม่นานนายก็จะได้พบพวกเขาเเล้วนอกจากนี้ฉันมีบางอย่างที่อยากจะพูดคุยกับนาย”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ
“มีบางอย่างที่จะพูดคุยกับฉันชาร์ลส์นายก็รู้ว่าฉันไม่เห็นด้วยกับความคิดของนายเเสงสว่างในใจ
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาทีเเมกนีโต ก็ออกจากพื้นที่เเผนกสนับสนุนของทีม X-MEN เเละติดตามศาสตราจารย์ชาร์ลส์กลับไปยังทางเดินอีกครั้ง อย่างไรก็ตามคราวนี้เเมกนีโตไม่ได้สนใจการเปลี่ยนเเปลงของทีมX-MEN เเล้ว เขาได้มุ่งเน้นไปที่จุดประสงค์หลักของตนเองที่มาที่นี่
“ชาร์ลส์นายเองก็รู้ว่าจุดประสงค์หลักที่ฉันมาที่นี่คืออะไรตอนนี้นายจะพาฉันไปพบพวกไพโรได้หรือยัง”ขณะที่กำลังเดิน เเมกนีโต ได้เปิดปากพูดขึ้น
“เเน่นอนว่าฉันรู้นายมาเพื่อพาพวกเขากลับไปใช่มั้ย ผ่อนคลายเถอะ พวกเขาสบายดี อีกไม่นานนายก็จะได้พบพวกเขาเเล้วนอกจากนี้ฉันมีบางอย่างที่อยากจะพูดคุยกับนาย”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ
“มีบางอย่างที่จะพูดคุยกับฉันชาร์ลส์นายก็รู้ว่าฉันไม่เห็นด้วยกับความคิดของนายมันเป็นไปไม่ได้ที่เราสองคนจะร่วมมือกันภายใต้ความคิดนั้น”เอริคกล่าวหยุดเล็กน้อยเพราะเขาคาดเดาว่าชาร์ลส์คงจะโน้มน้าวตนเองอีก
“ฉันรู้ว่านายรู้สึกยังไงเเน่นอนว่าฉันไม่ได้ต้องการบีบบังคับนายเเต่อย่างใด ฉันเพียงเเค่ต้องการจะพูดคุยกับนายถึงเรื่องบางอย่าง”ชาร์ลส์ยังคงพูดต่อไป
“ชาร์ลส์นายคิดจะพูดอะไรกันเเน่”เอริคกล่าวถามอย่างสงสัย
“มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับนายในวันที่พวกเราเผชิญหน้ากันที่สนามรบเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวพูดอีกครั้ง
“เรื่องอะไร”เอริคกล่าวถามด้วยความสงสัย
“ในวันนั้นคนอื่นอาจจะไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเเต่ฉันเห็นมันทั้งหมด”เผชิญหน้ากับความมึนงงของเอริค ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ย้ำถึงเรื่องบางเรื่อง  ได้ยินคำพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเมกนีโตทำหน้าทีสีสงสัยเล็กน้อยเรื่องอะไรกันที่ชาร์ลส์รู้เห็นเกี่ยวกับเขาในวันนั้น
“เเล้วนายเห็นอะไรกันเเน่ชาร์ลส์”เอริคกล่าวถามด้วยเสียงนุ่มลึก
สองวันที่ผ่านมาศาสตราจารย์ชาร์ลส์เห็นการปรากฏตัวของลูกๆ ของเเมกนีโต สกาเล็ต วิช เเละ ควิกซิลเวอร์ ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์จำได้ดี
“นายคงจำเรื่องตอนที่นายเกือบจะถูกมนุษย์เปลี่ยนร่างพวกนั้นจัดการได้หรือไม่”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จ้องมองไปที่เเมกนีโตเเละกล่าวถาม
“”ภายใต้คำถามของชาร์ลส์เเมกนีโตจำได้ดีไม่มีวันลืม
“ทั้งสองคนปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยนายเเละ ฉันก็รู้ว่าเหตุผลที่นายมองหาสไตรเกอร์ก็เพราะพวกเขาทั้งสองคน”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวเข้าประเด็น  เเมกนีโต”…”
เมื่อเเมกนีโตได้ยินคำพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์สีหน้าของเขาได้เเปรเปลี่ยนไปเป็นหมองคล้ำเล็กน้อยในวันนั้นเขาจำได้ดีเกี่ยวกับการปรากฏตัวของ ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช เขาตามหาทั้งสองคนถึงขนาดคิดเปิดฉากทำสงครามกับสไตรเกอร์
“เกี่ยวกับเด็กสองคนนั้นนายไม่มีอะไรจะพูดหน่อยงั้นหรอ เอริค”เห็นเอริคเงียบไปนาน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวพูดอีกครั้ง
“พูดจะให้ฉันพูดอะไรนายก็คงเห็นพวกเขาปรากฏตัวขึ้นอย่างกระทันหันเพื่อช่วยเหลือฉันเพียงเท่านั้น”เอริค กล่าวตอบอย่างเลี่ยงปัญหา
“ควิกซิลเวอร์เเละ สกาเล็ต วิช นั่นเป็นชื่อเล่นของพวกเขาใช่มั้ย”เห็นเอริคยังคงปิดปากไม่พูดอะไร ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวพูดขึ้น ไอรีนโนเวล
“นาย…นายรู้จักพวกเขานายรู้เรื่องราวตั้งเเต่ต้นเลยใช่มั้ย?”ได้ยินคำพูดของชาร์ลส์เเมกนีโต ได้กล่าวซักถามเพื่อนคนนี้ของตนเอง
หากชาร์ลส์รู้ว่าทั้งสองคนเป็นลูกของตนเองตั้งนานเเล้วเเละจงใจที่จะปิดบังเขา เเมกนีโต ย่อมไม่ให้อภัยเขาอย่างเเน่นอน หลายครั้งหลายคราที่เขาต้องสูญเสียไปมาก หากชาร์ลส์ตั้งใจปกปิดเรื่องนี้จริง เขาจะไม่ยอมให้เรื่องนี้จบง่าย ๆ เเน่
“ฉันเองก็เพิ่งรู้ถึงสถานะของพวกเขาทั้งสองเมื่อไม่นานมานี้”เห็นเอริคพูดออกมาอย่างรุนเเรงศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้กล่าวพูดขึ้นอีกครั้ง
“เเล้วทำไมนายไม่บอกฉันทำไมกัน”เเมกนีโต กล่าวถากถางในเรื่องนี้
“เหตุผลที่ฉันไม่ได้บอกนายก็เพราะนายได้ออกตามหาพวกเขาอยู่ก่อนเเล้วนอกจากนี้ ฉันไม่รู้ตำเเหน่งที่เเน่นอนของพวกเขา ฉันสงสัยว่าในวันนั้นหลังจากที่พวกเขาช่วยเหลือนายให้รอดพ้นจากอันตราย พวกเขาได้เต็มใจจากไปทั้ง ๆ ที่รู้ว่านั่นคือพ่อของพวกเขาหรือไม่”ได้ยินคำพูดของเอริค ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตอบกลับทันที
“นาย…ไม่ว่าอย่างไรฉันก็เป็นพ่อของพวกเขาไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะต้องยอมรับฉันอย่างเเน่นอน!”เมื่อนึกถึงสถานการณ์ตอนที่ควิกซิลเวอร์ เเละ สกาเล็ต วิช จากไป ในใจของ เอริค รู้สึกเจ็บปวดอย่ามาก
“ก็ได้,ถ้านายคิดแบบนั้นทำไมเราไม่มาลองพิสูจน์เรื่องนี้กันเลยล่ะ”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวพูดขึ้น
“อะไรนายรู้ว่าจะหาพวกเขาได้จากที่ไหนงั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของชาร์ลส์เอริคกล่าวถามอย่างตื่นเต้น
“เเม้ว่าจะไม่รู้ตำเเหน่งที่เเน่ชัดเเต่ยังสามารถระบุพื้นที่ได้ ตั้งเเต่ฉันรู้ว่าทั้งสองคนเป็นมิวแทนท์ระดับสูง เเละ เป็นลูกของนาย ฉันก็ให้ความสนใจกับพวกเขาทั้งสองคนมาโดยตลอด ดังนั้น ฉันจะเฝ้าติดตามพวกเขาอย่างไม่ล่ะสายตา นายอาจจะยังไม่รู้ถึงความสามารถของพวกเขา เเต่ฉันนั้นรู้ดีว่าเด็ก ๆพวกนั้นเเข็งเเกร่งเพียงใด”เมื่อเห็นเอริคกินเหยื่อ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ยังคงกล่าวพูดต่อ
“ฮ่าฮ่า,นั่นมันก็เป็นเรื่องเเน่นอนอยู่เเล้วก็พวกเขาเป็น ลูก ๆ ของฉัน เเมกนีโต เอริค คนนี้ มันจะเป็นไปได้ยังไงที่พวกเขาจะเป็นเเค่มิวแทนท์ธรรมดา ๆ “เเม้ว่าชาร์ลส์จะบอกว่าสามารถระบุตำเเหน่งทั่วไปได้ เอริค ก็รู้สึกมีความสุขมาก หากเขาสามารถพบทั้งสองคนเร็วขึ้นอีกหน่อย ก็ถือเป็นเรื่องดีสำหรับตนเอง
“เเล้วตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหนกัน”หลังจากกล่าวออกมาอย่างภาคภูมิใจเอริคได้จ้องมองไปที่ชาร์ลส์อีกครั้ง

ตอนที่ 668 การเปลี่ยนเเปลงของทีมX-MEN
ได้ยินคำถามของเเมกนีโตศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ได้ตอบในทันที เเต่ยังคงเข็นรถเข็นเดินไปข้างหน้าก่อนที่จะหยุดที่ศูนย์กลางของห้องลับเเห่งนี้
“พวกเขาเป็นเเผนโลจิสติกส์ของทีมX-MEN ของเรา ส่วนสมาชิกคนอื่น ๆ กำลังทำภารกิจกันอยู่”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตอบง่าย ๆ
“เเผนกที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังเเล้วนายกำลังทำอะไรอย่าบอกนะว่าที่พวกนายกำลังทำคือการศึกษายีนกลายพันธุ์?”เเมกนีโตกล่าวออกมาอย่างรุนเเรง
ตั้งเเต่เด็กเเมกนีโตค่อนข้างมีอารมณ์พฤติกรรมด้านลบกับการกระทำเหล่านี้อาจเป็นเพราะเขาเป็นมิวแทนท์ที่มีระดับสูงกว่าคนปกติทั่วไป ยีนของเขาสมบูรณ์แบบมาก จนเขาไม่มีความคิดที่จะทำสิ่งเหล่านี้เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง  “เเผนสนับสนุนของเรานั้นได้ทำการสนับสนุนทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้พวกเราได้รับความปลอดภัยเเละความเเข็งเเกร่ง”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ
“เช่นนั้นพวกนายเลยต้องศึกษายีนกลายพันธุ์”เอริค กล่าวถามอีกครั้ง
ชาร์ลส์รู้ดีว่าเอริค ไม่ชอบพวกคนที่ทำการศึกษา ยีนกลายพันธุ์ของมิวแทนท์ เเต่เพื่อความก้าวหน้าของพวกเขาเหล่ามิวแทนท์การศึกษาเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น
เพราะทุกวันการจัดลำดับชั้นของมิวแทนท์ค่อนข้างกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบไปเเล้วพวกมิวแทนท์ระดับล่างนั้นมีพลังที่อ่อนเเอกว่ามิวแทนท์ระดับสูงพวกนั้นดังนั้นเพื่อให้เกิดสมดุลที่เทียบเคียงกันการศึกษาเรื่องยีนเพื่อพัฒนาให้เหล่ามิวแทนท์มีสถานะเท่าเทียมกันถือเป็นสิ่งที่ดีในการจัดการเรื่องนี้
ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ต้องการให้พวกมิวแทนท์ที่ทรงอิทธิพลมีความคิดครองโลกเขาต้องการปรับสมดุลระหว่างกลุ่มมิวแทนท์ด้วยกันเองโดยมีพวกมิวแทนท์เฉลี่ยที่มีระดับพลังเท่าเทียมกันก็เหมือนกับกลุ่มอิทธิพลของเเมกนีโต พลังของกลุ่มพวกเขาเพียงพอที่จะสามารถคุกคามโลกใบนี้ได้
“อุปกรณ์พวกนั้นเล่ามันคืออะไรกัน”เอริค ชี้ไปที่โต๊ะทำงานที่มีชุดเกราะบางอย่างถูกวางเอาไว้
ด้านหน้าของพวกเขาเป็นโต๊ะทำงานสีทำมีเส้นหลักเป็นสีน้ำเงินมันกำลังปรับเเต่งชุดเกราะบางอย่างที่ดูเเล้วน่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัยของพวกทีม X-MEN
“นั่นเป็นอุปกรณ์ส่วนหนึ่งที่เราวิจัยเเละพัฒนาเพื่อการรับมือกับอิทธิพลที่เเข็งเเกร่งอื่น ๆ เเล้ว พวกเราเหล่า X-MEN ไม่สามารถหยุดพัฒนาสิ่งเหล่านี้ได้ ไม่งั้นในอนาคตไม่มีสิ่งใดมารับประกันว่าพวกเราเหล่ามิวแทนท์จะไม่เกิดการสูญเสีย”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ
“ชาร์ลส์นายคิดมากเกินไป หากยังมีฉันอยู่ไม่มีทางที่พวกเขาจะเป็นอันตราย”เเมกนีโตกล่าวออกมา
ในตอนนี้เเมกนีโตถือเป็นหนึ่งในผู้นำเหล่ามิวแทนท์เเละมีอิทธิพลมากที่สุดในโลกนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำก็เพื่อให้พวกเขาเหล่ามิวแทนท์มีสถานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เเต่ดูเหมือนว่าพวกมนุษย์เองก็ได้พัฒนาอาวุธต่อต้านมิวแทนท์ออกมาเเล้ว ไม่ว่าอย่างไร เเมกนีโต จะไม่ยอมให้อาวุธพวกนี้ถูกพัฒนาจนเสร็จถึงขั้นสมบูรณ์
“ก็อาจจะจริงตราบเท่าที่นายยังอยู่เเต่นั่นก็เป็นเพียงชั่วระยะเวลาสั้น ๆ อีริค นายจะสามารถสนับสนุนพวกเขาไปได้อีกสักกี่ปีกัน”ชาร์ลส์กล่าวถามอีริค
เกี่ยวกับเพื่อนเก่าคนนี้ชาร์ลส์รู้สึกเป็นห่วงอย่างมากท้ายที่สุดเเล้ว เขาก็ยังคงเป็นกังวลต่ออีกฝ่ายเเม้ตอนนี้พวกเขาจะมีความเห็นไม่ลงรอยกัน
“พวกเราเองก็เเก่ตัวลงมากความสามารถในการใช้พลังก็เริ่มถดถอด เเต่ในเมื่อมีกลุ่มคนที่คิดต่อต้านพวกเราเหล่ามิวแทนท์อยู่ นายคิดว่า พวกมิวแทนท์รุ่นใหม่ในอนาคตพวกเขาจะมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร ทุกคนไม่ได้คิดเเละมองโลกที่เรียบง่ายแบบนายหรอกนะ ชาร์ลส์!”เอริค ตอบกลับอย่างจริงจัง
ชาร์ลส์เองก็รู้ดีว่ามันเป็นไปได้ยากที่จะโน้มน้าวเอริค เพื่อนของเขา ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อ เพียงพาเอริค เดินเล่นในห้องลับเเห่งนี้
ติ๊ดๆ
ขณะที่ชาร์ลส์กำลังพาเอริคเดินเที่ยวชมภายในห้องลับเเห่งนีน้ จู่ ๆ หน้าจอบนโต๊ะทำงานด้านนึงก็ได้ปรากฏเสียงเเจ้งเตือนดังขึ้น
ฟุ่บ!
จากนั้นเงาร่างสีน้ำเงินก็พุ่งไปยังโต๊ะนั้นทันทีมันเป็น เเฮงค์ เขาได้รีบไปตรวจสอบรายงานที่เเจ้งเตือนเข้ามา
ติ๊ด~ ~
“นั่นเกี่ยวข้องกับภารกิจหรือไม่”เห็นข้อมูลบางอย่างปรากฏขึ้นที่หน้าจอเเละเปลี่ยนเเปลงตลอดเวลาเเมกนีโต กล่าวถามต่อชาร์ลส์
เเมกนีโตรู้ดีถึงภารกิจที่ว่าของทีมX-MEN,เดิมทีมX-MEN ถูกก่อตั้งเพื่อปกสันติสุขของพรรคพวกเเละโลกใบนี้ ดังนั้นเมื่อชาร์ลส์ส่งคนของทีมX-MEN ไปทำภารกิจเเน่นอนว่าย่อมเป็นเรื่องที่อาจก่อให้เกิดภาวะสงครามที่อาจส่งผลเสียต่อโลกหรือพรรคพวกของพวกเขา
“ภารกิจนั่นเป็นภารกิจอย่างนึงไม่ใช่สิ่งที่นายต้องกังวลหรอกเนื่องจากมีพันธมิตรของเราได้ร้องขอความช่วยเหลือพวกเราจึงทำได้เพียงเเต่ส่งคนไปช่วยเหลือให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”ชาร์ลส์ตอบกลับเบา ๆ
เเต่อย่างไรก็ตามเอริค รู้ว่านั่นไม่ใช่ภารกิจธรรมดา เพราะเเสงสีเเดงที่ปรากฏบนหน้าจอนั้นเป็นสีเเดงเข้มพิเศษนั่นจะต้องเป็นภารกิจบางอย่างที่สำคัญเเน่นอน
“ฉันจะไถามว่านายกำลังวางเเผนอะไรเอาไว้ชาร์ลส์เเต่ทีมX-MEN ภายใต้การชี้นำของนายตอนนี้ ถูกเปลี่ยนเเปลงไปในทางที่ดีขึ้น ฉันละรู้สึกประหลาดใจมากจริง ๆ ที่มันเปลี่ยนไปมากขนาดนี้”เอริค พึมพัมออกมาเล็กน้อย
“อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในอดีตหลายอย่างนำมาซึ่งความเปลี่ยนเเปลงในวันนี้”ชาร์ลส์ตอบกลับเอริคอย่างจริงจัง
เอริค”….”
“พวกเราออกจากที่นี่กันเถอะให้ฉันได้พานายไปเดินเล่นข้างนอก มันก็เป็นเวลาหลายปีเเล้วที่นายไม่ได้กลับมาบางทีอาจจะยังมีสถานที่บางเเห่งที่นายหลงลืมไปเเล้ว”ชาร์ลส์ได้กล่าวพูดขึ้นพร้อมกับเข็นรถเข็นเตรียมออกไปเดินข้างนอก

ฟุ่บ!
เเมกนีโตได้เดินเข้ามาภายในโรงเรียนเเละกำลังเดินเล่นอยู่ในสนามหญ้าหน้าโรงเรียนเซเวียร์ด้านหน้าของเขาเป็นเหล่าเด็กหนุ่มสาวที่วิ่งเล่นกันอย่างเรียบง่ายโดยไม่มีใครให้ความสนใจกับตัวเขา เเม้ว่าชื่อเสียงของเเมกนีโต จะค่อนข้างยิ่งใหญ่ เเต่ก็มีน้อยคนที่เคยพบเจอเขา นอกจากนี้ เเมกนีโต ไม่ได้มีเจตนามุ่งร้ายต่อที่นี่ เขามาในฐานะของชายชราคนนึง
ฟุ่บ!
“เอ๋…คุณปู่ต้องการผมช่วยเหลืออะไรหรือไม่”เห็นเเมกนีโตเดินมาถึงสนามฟุตบอลเล็ก ๆ เด็กอายุสิบขวบกว่าคนนึงได้มุ่งตรงมาที่เขาเเละกล่าวถามอย่างสงสัย
เพราะในโรงเรียนเซเวียร์มีเหล่าผู้สูงอายุน้อยมากคนส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงหมู่วัยรุ่นหรือวัยกลางคนเพียงเท่านั้นเเละคนเหล่านี้ก็เป็นพวกครูในโรงเรียนนอกเหนือจากครูใหญ่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่เป็นผู้สูงอายุที่สุดในโรงเรียนเเล้วในโรงเรียนเซเวียร์ก็ไม่มีใครคนอื่นอีก ดังนั้น เด็กคนนี้ จึงสงสัยว่า ชายชราคนนี้เป็นใคร
“ฮ่าฮ่าไม่เป็นไร ฉันเเค่มาเดินเที่ยวชมเพียงเท่านั้น”จ้องมองไปที่เด็ก คนนี้ เเมกนีโต ยิ้มออกมา
“คุณต้องการเดินเที่ยวชมโรงเรียนของเรางั้นหรอให้ผมพาคุณไปเดินเล่นดีหรือไม่?เพราะสถานที่บางเเห่งในโรงเรียนของเราค่อนข้างซับซ้อนคุณอาจจะหลงทางได้”เด็กคนนึงได้พูดขึ้น
“ไม่เป็นไรฉันค่อนข้างคุ้นกับโรงเรียนนี้พอสมควร น่าจะนะ ไม่จำเป็นที่พวกเธอจะต้องมาสนใจคนเเก่อย่างฉันหรอก ไปเล่นเถอะ”เเมกนีโตตอบกล่าวตอบ
ได้ยินคำพูดของเเมกนีโต จู่ ๆ ดวงตาของเด็กคนที่ถามก็เบิกกว้างเล็กน้อย หรือว่า ชายชราคนนี้จะเคยอาศัยอยู่ในโรงเรียนนี้ เเต่ว่าเขาก็ไม่เคยพบอีกฝ่ายมาก่อน
“ปู่เคยอยู่ที่นี่มาก่อนงั้นหรอ”เด็กคนนั้นกล่าวถามอีกครั้ง
“ฮะฮะ,ก็อาจจะใช่ มันก็เป็นเรื่องเมื่อนานมาเเล้ว ฉันได้กลับมาที่นี่เพื่อเยี่ยมเพื่อนเก่าคนนึง”เเมกนีโตตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“เดี๋ยวนะทำไมผมรู้สึก คุ้น ๆ ใบหน้าของคุณจัง หรือว่าคุณคือ…”เด็กคนนี้จ้องมองไปที่ใบหน้าของเเมกนีโตอย่างชัด ๆ ก่อนที่จะตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ
“ชู่ว…”เห็นการจ้องมองของเด็กคนนี้เเมกนีโต ได้ทำสัญญาณมือไม่ให้อีกฝ่ายเปิดเผยตัวตนของตนเอง
อุ๊บ
เห็นสัญญาณมือของเเมกนีโตเด็กคนนี้ไม่ได้เปิดปากขึ้นอีก เขาเคยได้ยินเรื่องราวของเเมกนีโตมาบ้างทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายตรง ๆ ดังนั้น เขาจึงทำตัวว่าง่ายเพราะกลัวอีกฝ่ายจะทำอันตรายเเก่ตนเอง
“เอริคนายคงไม่ได้กลับมาที่นี่เพื่อหยอกล้อเด็ก ๆ พวกนี้หรอกใช่มั้ย”เห็นเเมกนีโตพูดคุยกับเด็ก ๆ เสียงที่อบอุ่นได้ดังตรงมาจากทางด้านหลังของเขา
“ศาสตราจารย์ชาร์ลส์!”เด็กคนนั้นที่ได้ยินเสียงของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เขารีบวิ่งไปหลบหลังของศาสตราจารย์ชาร์ลส์อย่างรวดเร็ว
ฟุ่บ!
“สวัสดี,ชาร์ลส์”ได้ยินเสียงของชาร์ลส์เพื่อนเก่าของเขาเเมกนีโต ได้หันศีรษะกลับไปช้า ๆ เเละ จ้องมองชายชราหัวล้านที่นั่งอยู่บนรถเข็น
“สวัสดี,เอริค”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จ้องมองไปที่เเมกนีโตเพื่อนของเขา เห็นอีกฝ่ายทักทายตนเอง เขาก็ทักทายกลับเช่นเดียวกัน

ตึกตึก~~  ผ่านไปหลายนาทีภายในทางเดินภายในฐานของโรงเรียนเซเวียร์ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้เข็นรถเข็นวิ่งไปพร้อมกับเเมกนีโตที่อยู่ข้าง ๆ ,สายตาของเเมกนีโตได้กวาดผ่านจ้องมองไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ที่คุ้นเคย ทำให้เขารู้สึกถึงภาพจาง ๆ ในอดีต ที่เเวบผ่านเข้ามาในสมองของเขา
“เหมือนกับเมื่อก่อนไม่มีผิด”เอริคได้เปิดปากพูดขึ้น
“ใช่ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่เปลี่ยนเเปลงไปเเต่มันก็ไม่เป็นเช่นนั้น”ได้ยินคำพูดของเอริค ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวอย่างสงบ
โรงเรียนเซเวียร์เเห่งนี้ได้มีการเปลี่ยนเเปลงไปหลายอย่าง โดยเฉพาะภายในคฤหาสน์หลังนี้ มันคือสถานที่ที่เรียกว่าบ้านเเละครอบครัวของเขา หลายสิบปีก่อน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเละเเมกนีโต ได้สร้างทีม X-MEN รุ่นเเรก เเละสถานที่เเห่งนี้ก็คือฐานลับของเขา มันเป็นความทรงจำที่ยิ่งใหญ่ที่ เขาไม่อาจหลงลืมมันได้ เเต่เเล้วหลังจากนั้นต่อมาศาสตราจารย์ชาร์ลส์เเละเเมกนีโตก็ได้เเยกทางกัน เหลือทิ้งไว้เเต่ความทรงจำอันวันวานเพียงเท่านั้น
นอกเหนือจากนี้คฤหาสน์หลังนี้เกือบที่จะถูกทำลายมาเเล้วหลายครั้งเเต่ในที่สุดมันก็ได้ถูกบำรุงรักษาเเละเเต่งเติมเมื่อเทียบกับอดีตเเล้วทุกสิ่งทุกอย่างภายในดูจะมีการเพิ่มเเละพัฒนามากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
“เป็นเวลาหลายปีเเล้วที่ฉันไม่ได้กลับมาที่นี่อีก!”เอริคได้พูดขึ้น
“ใช่,เป็นเวลานานเเล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ที่นี่คล้ายจะเหมือนเดิมทุกอย่าง เเต่ภายในก็ได้เปลี่ยนเเปลงไปเเล้ว พวกเราเองก็เช่นเดียวกัน”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก
หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินทางมาถึงหน้าทางเข้าห้องลับในเวลานี้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้จ้องมองไปด้านหน้าก่อนที่เครื่องฉายรังสีสองลำที่ซ้อนกันจากศูนย์ของประตูจะสเเกนไปที่เรือนร่างของศาสตราจารย์ชาร์ลส์  ฟุ่บ!
“ยินดีต้อนรับศาสตราจารย์ชาร์ลส์!”หลังจากยืนยันสถานะได้สำเร็จ ระบบเสียงอัจฉริยะก็ได้พูดขึ้น
ฟืดดด~~
จากนั้นประตูด้านหน้าของพวกเขาก็เปิดขึ้นโดยอัตโนมัติศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้เข็นรถเข็นของตนเองเข้าไปอย่างช้าๆ ส่วน เอริค ธรรมชาติเขาไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรเขาได้เดินตามเข้าไปอย่างไม่ลังเล
ตุบ!
หลังจากที่พวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์เข้ามาเสร็จประตูด้านหลังของเขาก็ปิดลง เเมกนีโต ได้จ้องมองไปยังพื้นที่ห้องลับที่กว้างขวางมีขนาดใหญ่ผนังห้องเป็นสีเงินเเละสีขาวทำให้รู้สึกถึงข้อมูลทางเทคนิคที่หลากหลาย นอกเหนือจากนั้นยังมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยอยู่จำนวนมากวางเรียงเอาไว้ราวกับว่าห้องนี้เหมือนกับห้องพวกเเลปวิจัยไม่มีผิด  ภายในห้องมีคนอื่นๆ อยู่อีก 7-8 คน หนึ่งในนั้นคือมนุษย์คนนึงที่มีร่างกายเหมือนสัตว์อสูรร่างกายของเขามีสีฟ้า ในเวลานี้คนเหล่านั้นกำลังลงมือทำอะไรบางอย่างกับพวกเครื่องจักรเหล่านั้น เเมกนีโต ได้จ้องมองไปที่การกระทำของพวกเขา เเต่ถึงอย่างนั้นเขากลับไม่อาจทำความเข้าใจได้
“พวกเขา…ชาร์ลส์นายกำลังทำอะไรอยู่กันเเน่”เเมกนีโตกล่าวถามออกมาอย่างสงสัยหลังจากเห็นสิ่งที่อยู่ภายในเครื่องจักรพวกนั้น

“คุณสตาร์คผมขอตัวก่อนนะครับ!”
ฟุ่บ!
เเจ็คสันได้บอกกล่าวกับโทนี่เขาได้ขอตัวอออกจากห้องทดลองก่อนหลังจากรับโทรศัพท์เมื่อครู่โทนี่สังเกตุว่าเเจ็คสันได้โทรหาที่บ้าน จากนั้นก็เห็นเหมือนเเจ็คสันรับสายใครบางคน หากเป็นเรื่องที่บ้าน โทนี่ก็คงจะได้เเต่ปล่อยเลยตามเลย ส่วนปีเตอร์ เขาไม่รู้ว่าทำไมเเจ็คสันถึงเร่งรีบขนาดนั้นหลังจากรับสายจากทางบ้าน
“คุณสตาร์ค,เเจ็คสันเขา…”ปีเตอร์กล่าวถามโทนี่อย่างสงสัย
“ฉันก็ไม่รู้บางทีอาจจะเป็นเเฟนสาวเขาล่ะมั้ง”โทนี่ไม่รู้ว่าทำไมเเจ็คสันถึงเร่งรีบขนาดนั้น
เเต่ถึงยังไงการทดลองของพวกเขาก็ไม่มีกำหนดระยะเวลาเสร็จอันใกล้นี้ดังนั้นโทนี่ตั้งใจจะปล่อยให้เเจ็คสันพักผ่อนบ้างหลังจากที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์อันตรายเเละได้รับบาดเจ็บหนักมา
“เเฟนเขามีเเฟนด้วยหรอ?”ได้ยินคำตอบของโทนี่ปีเตอร์ กระซิบออกมา
“พึมพัมอะไรคนเดียวไปทำงานได้เเล้วหลังจากที่เธอทำส่วนนั้นเสร็จจะกลับบ้านเลยก็ได้เจ้าเเมงมุมน้อย”โทนี่กล่าวพูดออกมา
“เข้าใจเเล้ว,ผมจะรีบเคลียส่วนของผมให้เสร็จเร็วขึ้นอีกหน่อยผมเองก็อยากรีบกลับบ้านเเล้ว”เป็นเวลากว่าสองวันเเล้วที่ปีเตอร์ไม่ได้กลับบ้านดังนั้นเขาจึงต้องการเร่งมือทำส่วนของตนเองให้เสร็จ ในใจของเขาก็กังวลเกี่ยวกับคำพูดของโทนี่ บางทีอาจจะเป็นเเฟนสาวของเเจ็คสันจริง ๆ ก็ได้
บรื้นน~~
ขณะที่ปีเตอร์เเละโทนี่ได้ลงมือทำงานต่อในห้องปฏิบัติการเเจ็คสันก็ได้ขับรถสปอร์ตส่วนตัวของโทนี่ออกจากโรงรถ เขาต้องการกลับบ้านด้วยสถานะของเเจ็คสันดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นมิราจไนท์เเละบินกลับไป เเน่นอนว่าการใช้ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ก็ไม่เหมาะสมเช่นเดียวกันการเดินทางด้วยรถนี่เเหละเหมาะสมสุดเเล้ว
ก่อนหน้านี้ที่เขาโทรศัพท์คุยกับธอร์เกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อสองวันก่อนที่สะพานไบฟรอสปรากฏขึ้นธอร์ ได้ขอให้เเจ็คสันกลับบ้านมาทันทีเพื่ออธิบายให้เขาฟังอย่างละเอียด ก่อนหน้านี้ธอร์ถูกเนรเทศมาที่ดาวเคราะห์โลกหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้กลับไปที่เเอสการ์ดอีกเลย หากเเจ็คสันไปเยือนที่เเอสการ์ดจริง ธอร์ก็อยากจะฟังรายละเอียดจากปากของเขาให้มากขึ้น
เเต่ทว่าเเจ็คสันที่ไปเยือนเเอสการ์ดเขาก็ไม่ได้สังเกตุหรือเฝ้ามองอะไรที่สำคัญเขาได้ไปเยือนที่นั่นเพื่อขอใช้สะพานไบฟรอสเพียงเท่านั้นเเต่เเจ็คสันตั้งใจขอตัวออกมาจากห้องทำงานของโทนี่เพราะเขาเองก็ต้องการที่จะกลับบ้านเหมือนกัน
บรื้น~~  ด้วยบรรยากาศขณะที่นั่งขับรถสปอร์ตสุดหรูขอองโทนี่เเจ็คสันได้นั่งตากลมชิวจนเส้นผมของเขาปลิวสไว เมื่อเทียบบรรยากาศขณะที่ขับเคลื่อนชุดเกราะไอรอนแมน หรือ ใช้ท่า เหยียบอากาศ มันเป็นความรู้สึกที่ดีกว่ามาก
ทายที่สุดอาจจะเป็นเพราะว่าทั้งสองอย่างที่เขาอธิบายไปนั้นจะใช้ในเหตุการณ์สำคัญอย่างการต่อสู้เมื่อเป็นการขับรถกินลมธรรมดาจึงให้บรรยากาศที่เเจ็คสันโหยหามานานก็เป็นได้
“J.A.R.V.I.Sอากาศวันนี้เป็นยังไงบ้าง”เเจ็คสันได้กล่าวถาม J.A.R.V.I.S หลังจากเห็นบรรยากาศคลื่นทะเลที่ส่งระลอกคลื่นเป็นระยะ
“อุณหภูมิปัจจุบัน26.7 องศา ความชื้นในอากาศ 50% สภาพอากาศเบาบางมีเมฆเล็กหนาเล็กน้อย”ได้ยินคำถามของ เเจ็คสัน ในรถยนต์ เสียงของ J.A.R.V.I.S ได้ดังขึ้น
“ขอบคุณJ.A.R.V.I.S”   “ยินดีครับ”J.A.R.V.I.Sตอบกลับอย่างสงบ
เเจ็คสัน”…”
บรื้นน!
“J.A.R.V.I.Sนายเคยคิดไหมว่าเดิมทีโลกก็สงบสุขในแบบของมัน คงเป็นเพราะฉันที่คิดที่จะเปลี่ยนเเปลงมันจนทำให้เกิดการทำลายล้างเเละสงครามเกิดขึ้น”
เเจ็คสันได้เปิดปากกล่าวถามJ.A.R.V.I.S คราวนี้ J.A.R.V.I.S ไม่ได้ตอบกลับอย่างรวดเร็วเหมือนอดีต ราวกับว่า J.A.R.V.I.S กำลังไตร่ตรองคำถามนี้อย่างจริงจัง เเน่นอนว่า เเจ็คสัน ที่กำลังชมวิวทะเลด้านข้าง เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการไตร่ตรองของ J.A.R.V.I.S เพียงจ้องมองโลกที่สงบสุขในแบบของมัน
“คุณเเจ็คสันคำถามของคุณซับซ้อนเกินไป ผมไม่สามารถให้คำตอบที่คุณต้องการได้ เเต่ถ้าประมวลผลตามการอ้างอิง สิ่งที่คุณทำไม่ใช่ว่าเป็นการป้องกันหรอกหรือ ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องครอบครัว,เพื่อนเเละกระทั่งโลก ผมไม่คิดว่าคนที่มีความคิดกล้าที่จะเปลี่ยนเเปลงด้วยเจตนารมณ์เเห่งการปกป้องจะมีเจตนาที่ชั่วร้ายต่อโลก ดังนั้น ผมจึงคิดว่าสิ่งที่คุณเเจ็คสันทำคือการปกป้องความสงบสุขของดาวดวงนี้”J.A.R.V.I.Sตอบกลับในที่สุด
ได้ยินคำตอบของJ.A.R.V.I.S ความรู้สึกบนใบหน้าของเเจ็คสันได้เเปรเปลี่ยนเป็นหลายอารมณ์
“ก็อาจจะจริง~J.A.R.V.I.Sนายเริ่มเหมือนมนุษย์มากขึ้นจริง ๆ อย่างที่นายบอกใครก็ตามที่ต้องการทำลายดาวดวงนี้เเละความสงบสุขที่ฉันต้องการคนเหล่านั้นก็คือศัตรูของฉัน ฉันจะปกป้องในสิ่งที่ฉันรักเเละพยายามเพื่อเป้าหมายของตนเอง”เเจ็คสันได้เปิดปากพูดขึ้น
“J.A.R.V.I.Sสามารถเร่งความเร็วขึ้นอีกได้มั้ย”หลังจากเหยียบคันเร่งลึกลงไปเเจ็คสันพบว่าความเร็วของรถสปอร์ตไม่ได้เร็วเพิ่มขึ้นเขาจึงกล่าวถาม J.A.R.V.I.S
“หากคุณต้องการเช่นนั้น”
บรื้นน!!
ด้านท้ายรถสปอร์ตได้ปล่อยไอพ่นสีฟ้าอ่อนออกมาจากท่อจากนั้นรถสปอร์ตของเเจ็คสันก็เพิ่มความเร็วมากขึ้น

ขณะเดียวกันโรงเรียนเซเวียร์หลังจากผ่านศึกสงครามอันรุนเเรงเมื่อสองวันก่อน วันนี้ที่โรงเรียนเซเวียร์ได้มีเเขกคนนึงที่คาดไม่ถึงปรากฏตัวขึ้น เขาก็คือ : เเมกนีโต
ฟุ่บ!
เสียงฝีเท้าของเเมกนีโตได้หยุดอยู่ที่ทางเข้าหน้าโรงเรียนเซเวียร์จากนั้น เเมกนีโตได้ยกศีรษะจ้องมองไปที่โรงเรียนที่อยู่ด้านหลังประตู
หลังจากยืนที่ทางเข้าครู่นึงเเมกนีโต ได้ยกมือขึ้นเล็กน้อยจากนั้นประตูเหล็กที่ถูกปิดก็ได้เปิดออกอย่างช้า ๆ  ฟู่ว!
กว่าหลายสิบปีเตอร์เเล้วที่เเมกนีโตไม่ได้มาเหยียบที่โรงเรียนเซเวียร์เเห่งนี้ในที่สุดหลังจากผ่านไปหลายสิบปีเเมกนีโตก็ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง
“คุณสตาร์คผมขอตัวก่อนนะครับ!” ไอลีนโนเวล
ฟุ่บ!
เเจ็คสันได้บอกกล่าวกับโทนี่เขาได้ขอตัวอออกจากห้องทดลองก่อนหลังจากรับโทรศัพท์เมื่อครู่โทนี่สังเกตุว่าเเจ็คสันได้โทรหาที่บ้าน จากนั้นก็เห็นเหมือนเเจ็คสันรับสายใครบางคน หากเป็นเรื่องที่บ้าน โทนี่ก็คงจะได้เเต่ปล่อยเลยตามเลย ส่วนปีเตอร์ เขาไม่รู้ว่าทำไมเเจ็คสันถึงเร่งรีบขนาดนั้นหลังจากรับสายจากทางบ้าน
“คุณสตาร์ค,เเจ็คสันเขา…”ปีเตอร์กล่าวถามโทนี่อย่างสงสัย
“ฉันก็ไม่รู้บางทีอาจจะเป็นเเฟนสาวเขาล่ะมั้ง”โทนี่ไม่รู้ว่าทำไมเเจ็คสันถึงเร่งรีบขนาดนั้น
เเต่ถึงยังไงการทดลองของพวกเขาก็ไม่มีกำหนดระยะเวลาเสร็จอันใกล้นี้ดังนั้นโทนี่ตั้งใจจะปล่อยให้เเจ็คสันพักผ่อนบ้างหลังจากที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์อันตรายเเละได้รับบาดเจ็บหนักมา
“เเฟนเขามีเเฟนด้วยหรอ?”ได้ยินคำตอบของโทนี่ปีเตอร์ กระซิบออกมา
“พึมพัมอะไรคนเดียวไปทำงานได้เเล้วหลังจากที่เธอทำส่วนนั้นเสร็จจะกลับบ้านเลยก็ได้เจ้าเเมงมุมน้อย”โทนี่กล่าวพูดออกมา
“เข้าใจเเล้ว,ผมจะรีบเคลียส่วนของผมให้เสร็จเร็วขึ้นอีกหน่อยผมเองก็อยากรีบกลับบ้านเเล้ว”เป็นเวลากว่าสองวันเเล้วที่ปีเตอร์ไม่ได้กลับบ้านดังนั้นเขาจึงต้องการเร่งมือทำส่วนของตนเองให้เสร็จ ในใจของเขาก็กังวลเกี่ยวกับคำพูดของโทนี่ บางทีอาจจะเป็นเเฟนสาวของเเจ็คสันจริง ๆ ก็ได้
บรื้นน~~  ขณะที่ปีเตอร์เเละโทนี่ได้ลงมือทำงานต่อในห้องปฏิบัติการเเจ็คสันก็ได้ขับรถสปอร์ตส่วนตัวของโทนี่ออกจากโรงรถ เขาต้องการกลับบ้านด้วยสถานะของเเจ็คสันดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นมิราจไนท์เเละบินกลับไป เเน่นอนว่าการใช้ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ก็ไม่เหมาะสมเช่นเดียวกันการเดินทางด้วยรถนี่เเหละเหมาะสมสุดเเล้ว
ก่อนหน้านี้ที่เขาโทรศัพท์คุยกับธอร์เกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อสองวันก่อนที่สะพานไบฟรอสปรากฏขึ้นธอร์ ได้ขอให้เเจ็คสันกลับบ้านมาทันทีเพื่ออธิบายให้เขาฟังอย่างละเอียด ก่อนหน้านี้ธอร์ถูกเนรเทศมาที่ดาวเคราะห์โลกหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้กลับไปที่เเอสการ์ดอีกเลย หากเเจ็คสันไปเยือนที่เเอสการ์ดจริง ธอร์ก็อยากจะฟังรายละเอียดจากปากของเขาให้มากขึ้น
เเต่ทว่าเเจ็คสันที่ไปเยือนเเอสการ์ดเขาก็ไม่ได้สังเกตุหรือเฝ้ามองอะไรที่สำคัญเขาได้ไปเยือนที่นั่นเพื่อขอใช้สะพานไบฟรอสเพียงเท่านั้นเเต่เเจ็คสันตั้งใจขอตัวออกมาจากห้องทำงานของโทนี่เพราะเขาเองก็ต้องการที่จะกลับบ้านเหมือนกัน
บรื้น~~
ด้วยบรรยากาศขณะที่นั่งขับรถสปอร์ตสุดหรูขอองโทนี่เเจ็คสันได้นั่งตากลมชิวจนเส้นผมของเขาปลิวสไว เมื่อเทียบบรรยากาศขณะที่ขับเคลื่อนชุดเกราะไอรอนแมน หรือ ใช้ท่า เหยียบอากาศ มันเป็นความรู้สึกที่ดีกว่ามาก
ทายที่สุดอาจจะเป็นเพราะว่าทั้งสองอย่างที่เขาอธิบายไปนั้นจะใช้ในเหตุการณ์สำคัญอย่างการต่อสู้เมื่อเป็นการขับรถกินลมธรรมดาจึงให้บรรยากาศที่เเจ็คสันโหยหามานานก็เป็นได้
“J.A.R.V.I.Sอากาศวันนี้เป็นยังไงบ้าง”เเจ็คสันได้กล่าวถาม J.A.R.V.I.S หลังจากเห็นบรรยากาศคลื่นทะเลที่ส่งระลอกคลื่นเป็นระยะ
“อุณหภูมิปัจจุบัน26.7 องศา ความชื้นในอากาศ 50% สภาพอากาศเบาบางมีเมฆเล็กหนาเล็กน้อย”ได้ยินคำถามของ เเจ็คสัน ในรถยนต์ เสียงของ J.A.R.V.I.S ได้ดังขึ้น
“ขอบคุณJ.A.R.V.I.S”
“ยินดีครับ”J.A.R.V.I.Sตอบกลับอย่างสงบ
เเจ็คสัน”…”
บรื้นน!
“J.A.R.V.I.Sนายเคยคิดไหมว่าเดิมทีโลกก็สงบสุขในแบบของมัน คงเป็นเพราะฉันที่คิดที่จะเปลี่ยนเเปลงมันจนทำให้เกิดการทำลายล้างเเละสงครามเกิดขึ้น”
เเจ็คสันได้เปิดปากกล่าวถามJ.A.R.V.I.S คราวนี้ J.A.R.V.I.S ไม่ได้ตอบกลับอย่างรวดเร็วเหมือนอดีต ราวกับว่า J.A.R.V.I.S กำลังไตร่ตรองคำถามนี้อย่างจริงจัง เเน่นอนว่า เเจ็คสัน ที่กำลังชมวิวทะเลด้านข้าง เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการไตร่ตรองของ J.A.R.V.I.S เพียงจ้องมองโลกที่สงบสุขในแบบของมัน
“คุณเเจ็คสันคำถามของคุณซับซ้อนเกินไป ผมไม่สามารถให้คำตอบที่คุณต้องการได้ เเต่ถ้าประมวลผลตามการอ้างอิง สิ่งที่คุณทำไม่ใช่ว่าเป็นการป้องกันหรอกหรือ ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องครอบครัว,เพื่อนเเละกระทั่งโลก ผมไม่คิดว่าคนที่มีความคิดกล้าที่จะเปลี่ยนเเปลงด้วยเจตนารมณ์เเห่งการปกป้องจะมีเจตนาที่ชั่วร้ายต่อโลก ดังนั้น ผมจึงคิดว่าสิ่งที่คุณเเจ็คสันทำคือการปกป้องความสงบสุขของดาวดวงนี้”J.A.R.V.I.Sตอบกลับในที่สุด
ได้ยินคำตอบของJ.A.R.V.I.S ความรู้สึกบนใบหน้าของเเจ็คสันได้เเปรเปลี่ยนเป็นหลายอารมณ์
“ก็อาจจะจริง~J.A.R.V.I.Sนายเริ่มเหมือนมนุษย์มากขึ้นจริง ๆ อย่างที่นายบอกใครก็ตามที่ต้องการทำลายดาวดวงนี้เเละความสงบสุขที่ฉันต้องการคนเหล่านั้นก็คือศัตรูของฉัน ฉันจะปกป้องในสิ่งที่ฉันรักเเละพยายามเพื่อเป้าหมายของตนเอง”เเจ็คสันได้เปิดปากพูดขึ้น
“J.A.R.V.I.Sสามารถเร่งความเร็วขึ้นอีกได้มั้ย”หลังจากเหยียบคันเร่งลึกลงไปเเจ็คสันพบว่าความเร็วของรถสปอร์ตไม่ได้เร็วเพิ่มขึ้นเขาจึงกล่าวถาม J.A.R.V.I.S
“หากคุณต้องการเช่นนั้น”
บรื้นน!!
ด้านท้ายรถสปอร์ตได้ปล่อยไอพ่นสีฟ้าอ่อนออกมาจากท่อจากนั้นรถสปอร์ตของเเจ็คสันก็เพิ่มความเร็วมากขึ้น

ขณะเดียวกันโรงเรียนเซเวียร์หลังจากผ่านศึกสงครามอันรุนเเรงเมื่อสองวันก่อน วันนี้ที่โรงเรียนเซเวียร์ได้มีเเขกคนนึงที่คาดไม่ถึงปรากฏตัวขึ้น เขาก็คือ : เเมกนีโต
ฟุ่บ!
เสียงฝีเท้าของเเมกนีโตได้หยุดอยู่ที่ทางเข้าหน้าโรงเรียนเซเวียร์จากนั้น เเมกนีโตได้ยกศีรษะจ้องมองไปที่โรงเรียนที่อยู่ด้านหลังประตู
หลังจากยืนที่ทางเข้าครู่นึงเเมกนีโต ได้ยกมือขึ้นเล็กน้อยจากนั้นประตูเหล็กที่ถูกปิดก็ได้เปิดออกอย่างช้า ๆ
ฟู่ว!
กว่าหลายสิบปีเตอร์เเล้วที่เเมกนีโตไม่ได้มาเหยียบที่โรงเรียนเซเวียร์เเห่งนี้ในที่สุดหลังจากผ่านไปหลายสิบปีเเมกนีโตก็ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง

หลังจากได้เห็นร่างสูงใหญ่กำยำเเละเเข็งเเรงรวมถึงใบหน้าที่คุ้นเคยเเจ็คสันรู้สึกตกใจในทันที
“เจ้าลูกชายเขาบอกว่าเขา ชื่อ ธอร์ โอดิน วูดส์ เขาเป็นเพื่อนของลูกงั้นหรอทำไมลูกไม่เล่าถึงเขาเลย ไว้ลูกกลับมาบ้านเล่าให้พ่อเเม่ฟังเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดด้วยล่ะ”หลังจากปรากฏรูปของชายร่างยักษ์ เสียงของพ่อเเจ็คสันก็ทิ้งท้ายเอาไว้
“เฮ้,เเจ็คสัน”หลังจากพ่อเเจ็คสันทิ้งให้ตนเองพูดคุยธอร์ ได้ยิ้มออกมา
“ธอร์คุณมาได้ยังไง”เเจ็คสันรู้สึกประหลาดใจเเละตะโกนเรียกชื่อเขาออกมา
เนื่องจากเเจ็คสันช่วยมองหางานให้ธอร์ช่วงนี้ เขาจึงไม่รู้ว่า ธอร์ได้ฟื้นคืนพลังเหนือธรรมชาติขงตนเองไปเเล้วหรือยัง เเน่นอนว่าช่วงนี้เขาเองก็ไม่ได้ติดต่ออีกฝ่ายเลย  เห็นการเเสดงออกของเเจ็คสัน ธอร์ รู้สึกเหมือนถูกกระตุ้นด้วยอารมณ์บางอย่าง ดูเหมือนว่าเเจ็คสันใกล้จะลืมเขาไปเเล้วยังไงยังงั้น
“เอาล่ะเช่นนั้นพ่อจะปล่อยให้ลูกคุยกับเพื่อนของลูกล่ะกัน พ่อขอตัวไปทำอาหารเย็นก่อนล่ะ!”ได้ยินลูกชายของตนเองตะโกนชื่อธอร์อออกมา หลิน ไฮ่ ได้บอกลูกของเขาทันที
ฟุ่บ!
จากนั้นเเจ็คสันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของหลิน ไฮ่ ที่จากไป ดูเหมือนพ่อของเขาจะเดินไปทำอาหารเย็นที่ครัว
“สวัสดี,ธอร์พวกเราไม่ได้เจอกันนานเลย คุณเป็นยังไงบ้าง”เเจ็คสันกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
เขาไม่รู้ว่าทำไมธอร์ถึงมองหาตนเองเเต่สีหน้าของธอร์ตอนนี้ไม่ได้ดูดีใจเหมือนก่อนหน้านี้เลย
“ข้าก็ดีชีวิตความเป็นอยู่ของข้าก็ดีทั้งยังดีมากขึ้นเรื่อย ๆ !”ได้ยินคำถามของเเจ็คสันธอร์ตอบกลับอย่างเย็นชา
ฟู่วว!
จากนั้นเเจ็คสันก็มองเห็นนัยน์ตาของธอร์มีเเสงสีฟ้าที่เป็นไฟฟ้าจางๆ วิ่งผ่านอยู่ ดูเหมือนว่าอารมณ์ของธอร์ตอนนี้จะไม่ค่อยสู้ดีนัก
“เอ่อ…ธอร์คุณใจเย็น ๆ ลงก่อน ไม่งั้น บ้านของฉันคงต้องระเบิดเเน่ ๆ เลย!”เห็นว่าธอร์สามารถควบคุมพลังสายฟ้าได้เเล้ว เเจ็คสันรีบตะโกนออกมา ไอรีนโนเวล
เเจ็คสันไม่รู้ว่าธอร์โกรธตนเองเรื่องอะไรเเละ อีกฝ่ายฟื้นคืนพลังเทพเจ้าสายฟ้าเเล้วหรือยัง เเต่ดูเหมือนอีกฝ่ายตอนนี้จะสามารถควบคุมพลังสายฟ้าได้เเล้ว เเจ็คสันจึงพยายามระงับอารมณ์ให้ธอร์เย็นลง
“หึ่ม!”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันธอร์ ได้ส่งเสียงหึในลำคอก่อนที่ประกายเเสงสีฟ้าในนัยน์ตาจะค่อย ๆ จางหายไป  เห็นธอร์เชื่อฟังเเต่โดยดีเเจ็คสันได้เงียบเเละสูดลมหายใจเข้าลึกธอร์ได้ฟื้นฟูพลังเทพเจ้าสายฟ้ากลับมาเเล้วจริง ๆ เมื่อครู่ นี้เเค่เพียงมองผ่านการสนทนาทางวิดิโอเเจ็คสันก็รับรู้ได้ถึงเเรงกดดัน
“จริงสิคุณหาบ้านของฉันเจอได้ยังไง ”หลังจากเงียบไปชั่วครู่ เเจ็คสันได้กล่าวถามอย่างจริงจัง
“หากข้าสามารถติดต่อเจ้าผ่านโทรศัพท์ได้ข้าคงไม่ดั้นด้นมองหาบ้านของเจ้าหรอก”ธอร์กล่าวตอบอย่างเย็นชา
“เอ่อ…โทรศัพท์มือถือของฉันเหมือนจะเสียฉันว่าจะไปหาซื้อหลายครั้งเเล้วเเต่ยังไม่มีโอกาส”เเจ็คสันพูดออกมาอย่างงุ่มง่ามในเรื่องนี้
โทรศัพท์มือถือขอองเเจ็คสันได้พังที่ดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ดังนั้นตั้งเเต่กลับมาเขาก็ยุ่งตลอดเวลาจนไม่มีเวลามองหาโทรศัพท์ใหม่
“มันไม่ใช่เหตุผลที่เจ้าควรจะเเก้ตัวถึงเเม้เจ้าจะไม่มีเวลามองหาโทรศัพท์ใหม่จริง เเต่เจ้าก็ยังหาช่องทางอื่นติดต่อข้าได้ เเต่เจ้ากลับไม่เเม้เเต่จะติดต่อมา หากข้าไม่มาหาเจ้าที่บ้านวันนี้ก็คงไม่รู้ว่าข้าจะได้พบเจ้าอีกทีตอนไหน”
“เอ่อ…ฉันขอโทษช่วงสองวันมานี้ฉันค่อนข้างยุ่ง ๆ เลยไม่ได้ติดต่อกลับไป”เเจ็คสันกล่าวตอบ
“จริงสิสองวันก่ออน ข้าเห็น สะพานไบฟรอสปรากฏขึ้นที่ท่าเรือในเขตชานเมืองนิวยอร์กอยู่ห่างจากสถานที่ทำงานของข้าไม่ไกล ข้าสงสัยว่า อาจจะเป็นคนของเเอสการ์ดมาเยือนยังโลกเเห่งนี้ ดังนั้นข้าจึงรีบเร่งไปยังสถานที่เเห่งนั้น เเต่สะพานไบฟรอสได้หายไปเเล้ว ข้ากังวลว่าโลกิจะชักนำหายนะมาสู่โลกข้าจึงต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”ธอร์คาดเดาเเละพูดออกมา
ได้ยินคำพูดของธอร์เเจ็คสัน ครุ่นคิดในใจบางอย่างก่อนที่จะเเสดงสีหน้าเหมือนรู้อะไรเข้า  “สองวันก่อนวันที่สะพานไบฟรอสปรากฏขึ้นที่ชานเมืองนิวยอร์กมันอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ทำงานของธอร์งั้นหรอ ไม่ใช่ว่าเขากำลังหมายถึงช่วงเวลาที่พวกเรากลับมาที่โลกใช่มั้ย?”เเจ็คสันครุ่นคิดในใจ
ธอร์”…”
“คุณบอกว่าคุณเห็นมันเมื่อ2 วันก่อนใช่หรือไม่ มันเป็นช่วงเวลาเที่ยงใช่มั้ย ที่สะพานไบฟรอสปรากฏขึ้น?”หลังจากยืนยันความคิดของตนเองได้ เเจ็คสัน ก็กล่าวถามธอร์
“เจ้าก็เห็นมันงั้นหรอ”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันธอร์กล่าวตอบอย่างตื่นเต้น
“ถ้าเป็นการปรากฏขึ้นของสะพานไบฟรอสในช่วงเวลานั้นฉันรู้ว่า พวกเขาเป็นใคร”เเจ็คสันตอบกลับ
“หืมเจ้ารู้พวกเขาเป็นใครกัน? ใช่พวกโลกิหรือไม่? หรือว่าเขาข่มขู่เจ้า!”ธอร์กล่าวถามอย่างเร่งรีบ
ก่อนหน้านี้โลกิได้มองหาธอร์เเละชักนำปัญหามาสู่เขาไม่เพียงเท่านั้นโลกิยังวางเเผนทำให้เจนเลิกกับตนเองอีกทั้งยังข่มขู่ เเจ็คสัน ดังนั้นจึงไม่เเปลกที่ธอร์จะคิดว่านั่นจะเป็นการมาของโลกิ
“เจ้าไม่จำเป็นจะต้องกังวลที่จะบอกกล่าวต่อข้าตอนนี้ข้าสามารถชักนำพลังสายฟ้าของข้ากลับมาได้เเล้วอีกไม่นานข้าน่าจะได้ค้อนโยเนียร์ของข้ากลับคืนมา เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะกลับไปที่เเอสการ์ดเเละสั่งสอนเขาให้เข็ด”ธอร์กล่าวบอกเเจ็คสัน
“ป่าวเลย…นั่นไม่ใช่โลกิเเต่เป็นคนอื่น”เเจ็คสันยังคงสั่นศีรษะเเละตอบกลับ
“หืมไม่ใช่โลกิเเละพวกเขาเป็นใคร?”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสันธอร์รู้สึกสงสัยอย่างมากหากไม่ใช่พวกคนที่มาจากเเอสการ์ดเเละจะเป็นใคร
สะพานไบฟรอสดูควบคุมดูเเลโดยฮัมดาลล์เขาเป็นนักรบที่ซื่อสัตย์ที่สุดของเเอสการ์ดเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหักหลังเเอสการ์ดอย่างเเน่นอน เเละเเน่นอนว่าสะพานไบฟรอสก็ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะสามารถเข้าถึงเเละได้รับอนุญาติให้ใช้มัน
“เป็นฉันกับเพื่อนอีกสองคน”เผชิญหน้ากับคำถามของธอร์ เเจ็คสันตอบกลับความจริง

ตอนที่ 664 อาการเป็นห่วงของธอร์
สองวันผ่านไปเเจ็คสัน โทนี่ เเละ ปีเตอร์ ทั้งสามคนไม่ได้ออกจากห้องปฏิบัติการใต้ดินเลย นั่นก็เพราะ เเจ็คสันได้นำบางสิ่งบางอย่างที่เก็บได้จากดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ออกมาทำให้พวกเขาให้ความสนใจในการศึกษาพวกมันอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากสิ่งมีชีวิตเช่นเวน่อมเเล้ว เป็นอีกครั้งที่โทนี่ได้สัมผัสกับวัตถุต่างดาวเเม้จะเป็นเเค่พืชพรรณก็ตาม
ดังนั้นในช่วงนี้โทนี่จะไม่มีเเผนให้ทั้งสองคนกลับบ้านเขาได้ให้ เเจ็คสัน เเละปีเตอร์ อยู่เป็นลูกมือในการวิเคราะห์เเละจัดหมวดหมูภายในห้องปฏิบัติการ โทนี่ตั้งใจจะสร้างห้องสำหรับศึกษาเเละวิจัยวัตถุต่างดาวโดยเฉพาะ
ก่อนหน้านี้เเจ็คสันได้ให้ J.A.R.V.I.S ช่วยติดต่อที่บ้านให้เขาเเล้ว ทางครอบครัวของเขาเองก็รู้สึกสบายใจเเละไม่ได้ติดค้างอะไร เพราะลูกชายของพวกเขาได้อยู่ภายใต้การดูเเลของ โทนี่ สตาร์ค เเน่นอนว่าย่อมมีสายติดต่อที่ไม่คุ้นเคยดังเข้ามาทำให้ J.A.R.V.I.S ต้องบอกเเจ้งเตือนกับ เเจ็คสัน เเต่ เเจ็คสันไม่มีเเผนจะรับสายเเปลกในตอนนี้

ตู๊ดดด
ปั้ง!
ในนิวอยร์กห่างจากชานเมืองไม่ไกลเสียงกระเเทกที่รุนเเรงได้ดังขึ้นที่สนามหลังบ้านของศูนย์รับเลี้ยงสุนัขจรจัด
“เจ้าบ้าเเจ็คสัน!เจ้าหายไปไหนกัน ทำไมไม่รับโทรศัพท์เเละอ่านข้อความที่ข้าส่งไปให้”
ธอร์ได้ต่อยกำปั้นทุบไปที่กำเเพงด้านหน้าของตนเองจนเกิดเป็นรอยไหม้สีดำขนาดใหญ่เป็นเวลาหลายวันเเล้วที่เขาไม่สามารถติดต่อเเจ็คสันได้ในช่วงนี้ ความเป็นอยู่ของธอร์ได้คุ้นเคยกับโลกมากขึ้นความเย่อหยิ่งเเต่เดิมที่มีฐานะเป็นเจ้าชายเเห่งเเอสการ์ดได้ค่อย ๆ มลายหายไป ลงเหลือเเต่ฐานะคนธรรมดาเพียงเท่านั้น
สมบัติค้อนโยเนียร์ของเขาได้ค่อยๆ คืบคลานกลับไปที่ร่างของธอร์มาขึ้นเรื่อย ๆ เเม้ปัจจุบันธอร์จะยังไม่ได้ครอบครองค้อนของตัวเอง เเต่เขาสามารถสัมผัสได้ถึงตำเเหน่งของค้อนได้อย่างชัดเจน อีกทั้งพละกำลังของเขาก็เเข็งเเกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้เขาสามารถใช้จุดเเข็งที่เป็นพลังสายฟ้าของตนเองได้เเล้ว
ก่อนหน้านี้สองวันธอร์ มองเห็นเเสงของสะพานไบฟรอสพุ่งตรงตกลงมาที่ใจกลางเมืองนิวยอร์ก ธอร์ คิดว่าอาจจะเป็นคนของโลกเเอสการ์ดมาเยือนที่นี่ ดังนั้นเขาจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบเเต่ดูเหมือนสะพานไบฟรอสจะหายไปเเล้ว
เเน่นอนว่าธอร์ได้ออกตามหาเเขกของเเอสการ์ดจึงได้เริ่มเข้าใจโลกนี้มากขึ้นนอกเหนือจากความสัมพันธ์ของเขาเเละเเจ็คสันเเล้ว ธอร์ได้ค้นพบอุบัติเหตุที่น่าเหลือเชื่อโลกนี้ไม่ได้สงบสุขแบบที่เขาคิด  “สองสามวันที่ผ่ามามีการโจมตีจากทหารเอ็กซ์ทรีมิสสมาชิกทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ได้ปรากฏตัวขึ้น เเต่ ดูเหมือนมิราจไนท์ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาก็มีเพียงเเต่สไปเดอร์แมนที่ปรากฏตัวขึ้นที่ทำเนียบขาว เเล้ว เเจ็คสันหายไปไหน”ธอร์ดึงกำปั้นของตัวเองกลับมา
ธอร์อาศัยอยู่ที่โลกเป็นเวลานานเขาเริ่มเข้าใจวิถีชีวิตของคนธรรมดาเกี่ยวกับข่าวเเละเหตุการณ์เมื่อสองวันที่เเล้ว ที่ ทหารเอ็กซ์ทรีมิสโจมตีเมืองเขาเองก็ติดตามการรายงานข่าวเเต่ไม่มีสักช่องที่เผยรูปของมิราจไนท์ เเน่นอนว่าธอร์รู้ว่ามิราจไนท์เเท้จริงเเล้วคือเเจ็คสัน
“หรือว่าข้าจะลองไปที่บ้านของเเจ็คสันดู”
“ข้าไม่เคยไปบ้านของเขามาก่อนเเต่ข้าพอจะรู้ว่ามีใครรู้จักบ้านของเขาเอาเถอะข้าว่าจะลองไปเยี่ยมครอบครัวของเขาดูก็ไม่เสียหายหลังเลิกงานข้าจะไปบ้านของเเจ็คสันเเละทำความรู้จักกับครอบครัวของเขา”ในที่สุดธอร์ก็ตัดสินใจมองหาบ้านของเเจ็คสัน
เพียงเเต่เมื่อธอร์หันไปมองรอบๆ เขาก็เห็นกลุ่มสุนัขจำนวนมากที่จ้องมองมาที่เขา ธอร์ได้มองไปที่กำเเพงที่เขาเพิ่งทำลายไปจนสีหน้าของเขาเผยเเววสลดออกมา สนามบ้านหลังนี้เป็นที่พักผ่อนสำหรับสุนัขจรจัด เห็นที ธอร์คงต้องหาทางเเก้ไขกำเเพงนี่ใหม่ซะเเล้ว
“เฮ้อ,ดูเหมือนว่าจะต้องใช้เงินจำนวนมากพอสมควร”ธอร์บ่นออกมาอย่างไม่เต็มใจ

ฟุ่บ!
ในห้องปฏิบัติการใต้ดินในนิวยอร์กโทนี่กำลังวิเคราะห์ผลข้อมูลจากเเท็บเล็ตที่เเจ็คสันส่งให้มันคือข้อมูลของเนื้อเยื่อพืชต่างดาวขณะนั้น ดูเหมือนโทรศัพท์ของเขาจะดังขึ้นมันเป็นสายจากทางบ้าน
เเจ็คสันได้วางสิ่งของทั้งหมดจากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ฟุ่บ!   เเจ็คสันได้กดรับโทรศัพท์พร้อมกับปัดเป็นวิดิโอคอลด้านหลังของเขาคือห้องปฏิบัติการโล่งไม่มีความจำเป็นจะต้องปิดบังอะไร
“สวัสดีพ่อ!”หลังจากเปิดการสนทนาทางวิดีโอเเจ็คสันก็เห็นใบหน้าของ หลินไฮ่ พ่อของเขา
เพราะสถานะมิราจไนท์ของตนเองทำให้บ่อยครั้งเเจ็คสันไม่ได้กลับบ้านเลยช่วงนี้เขาได้ใช้โทนี่เป็นที่กำบังให้กับตนเองในการหาเหตุผลที่ไม่กลับบ้านเเต่อย่างไรก็ตามคนในครอบครัวก็คือคนในครอบครัวการเจอหน้ากันตรง ๆ ย่อมเป็นการดีที่สุด
“ฮ่าฮ่า,เจ้าลูกชายเมื่อไหร่ลูกจะกลับบ้านกัน เเม่ของลูกคิดถูกลูกมากรู้ไหม พ่อไม่รู้หรอกนะว่าลูกทำการทดลองอะไร การทดลองที่ว่ายังไม่เสร็จอีกงั้นหรอ ช่วงนี้พ่อกับเเม่ไม่ได้เห็นหน้าลูกมาสักพักเเล้ว ”เห็นใบหน้าที่มีเสน่ห์ของลูกชาย หลิน ไฮ่ กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“อืม,~ ดูเหมือนจะไม่มีกำหนดที่เเน่นอนเเต่ผมว่าผมจะหาเวลาหยุดพักผ่อนในเร็ว ๆ นี้เเหละ ผมจะไปพูดเรื่องนี้กับคุณสตาร์ค”ได้ยินคำพูดของ พ่อตนเอง เเจ็คสันกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าฮ่าเป็นเรื่องที่ดี จริงสิ วันนี้มีคนมาที่บ้านของเราเขาบอกว่าเป็นเพื่อนของลูก”
“ใครกัน”เเจ็คสันรู้สึกสงสัยใครกันที่มองหาเขาถึงขนาดมาที่บ้านของตนเอง
ฟุ่บ!
ขณะที่เเจ็คสันถามออกไปจู่ๆ มุมกล้องของโทรศัพท์ก็ถูกเปลี่ยนไปยังตำเเหน่งร่างสูงใหญ่เเละเเข็งเเรง ใบหน้าที่คุ้นเคยได้ปรากฏสู่เเนวสายตาของเเจ็คสัน

ตอนที่ 663 การบอกเล่าของเเจ็คสัน
โทนี่เเละปีเตอร์ได้สอบถามเเจ็คสันอย่างรอบคอบเกี่ยวกับช่วงระยะเวลาที่เขาหายตัวไปว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างเเม้เดดพูลจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังมาบ้างเเล้ว เเต่โทนี่ไม่เชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นจากการเล่าของเดดพูล
ภายใต้การซักถามของโทนี่เเละปีเตอร์เเจ็คสัน ได้ระมัดระวังในคำพูดเเละเล่าประสบการณ์ที่อยู่บนต่างดาวของเขาออกมาอย่างสมบูรณ์ สีหน้าของโทนี่เเละปีเตอร์ ที่ได้ฟังนั้นเริ่มเเปลกออกไป ทุกอย่างที่เเจ็คสันเล่าออกมาคล้ายกับสิ่งที่เดดพูลพูด เเต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ถูกเล่าออกมาจากปากของเเจ็คสันจะน่าเชื่อถือกว่ามาก
“พวกเราได้ไปเยือนดาวเเอสการ์ดก่อนที่จะอาศัยความช่วยเหลือของพวกเขากลับมาที่โลก”เป็นเวลาเกือบชั่วโมงที่เเจ็คสันเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นทำให้เขารู้สึกปากเเห้งลิ้นเเห้งเล็กน้อย  ตึก!
ตึกตึก
เสียงหัวใจของโทนี่เเละปีเตอร์ได้เต้นรัวไม่เป็นจังหวะโทนี่ที่ตกใจได้หยิบไวน์เเดงของเขาขึ้นมาดื่ม เเจ็คสันเองก็ได้เทส่วนของตัวเองเเละเริ่มดื่มมัน
“อ่า…”ขณะที่เเจ็คสันกำลังดื่มไวน์เเดงดูเหมือนโทนี่จะได้สติเเละส่งเสียงออกมา
“!เเจ็คสันประสบการณ์ของนายมันจะน่าตื่นเต้นเกินไปเเล้ว! ดาวนั่นมีทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่เเละป่าบริสุทธิ์ที่มีอายุหลายหมื่นปี รวมถึงสัตว์ประหลาดพวกนั้น หากฉันไม่ได้ฟังจากปากนายตรง ๆ ฉันอาจจะคิดว่าสิ่งที่เดดพูลเล่ามาอาจจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมดก็เป็นได้”หลังจากโทนี่ส่งเสียงเรียกสติกลับมา ปีเตอร์ เองก็ส่งเสียงออกมาอย่างตื่นเต้นพร้อมกับจ้องมองไปที่เเจ็คสัน
“สัตว์ประหลาดพวกนั้นอาศัยอยู่ในป่าบริสุทธิ์นั่นนอกจากนี้พวกมันยังเเข็งเเกร่งมากอีกด้วย หากเป็นไปได้ฉันก็ไม่อยากไปยั่วยุพวกมันหรอก”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ เเจ็คสันกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“เมื่อครู่เธอพูดถึงร่องรอยอารยธรรมโบราณใช่หรือไม่เธอพอจะรู้รายละเอียดของมันเพิ่มเติมไหมฉันรู้สึกสนใจเเละอยากจะศึกษาอารยธรรมต่างดาวซะเเล้วสิ”โทนี่ที่เห็นเเจ็คสันจิบไวน์ไปหนึ่งเเก้วเขาได้เปิดปากถามอีกครั้ง
“คือสถานการณ์ในตอนนั้นมันเร่งด่วนเกินไปเพื่อที่จะมีชีวิตผมเลยไม่ได้มีเวลามากพอที่จะศึกษาร่องรอยอารยธรรมนั่น!”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันตอบกลับความจริง
“เเล้วคนพวกนั้นเล่าเป็นพวกเอเลี่ยนงั้นหรอฉันหมายถึง คนที่เธอเล่า สตาร์ลอร์ด เเละ ร็อคเก็ต เเรคคูน อีกทั้งยังมีกรูซ ฉันรู้สึกสนใจพวกเขาจริง ๆ โดยเฉพาะต้นไม้พูดได้ เธอพอจะมีกิ่งก้านอะไรของเขาทำนองนี้ไหม?”โทนี่ต้องการตรวจสอบร่างกายของมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้เผื่อมันจะช่วยเหลืออะไรในงานวิจัยในอนาคตของเขาได้  ท้ายที่สุดเเล้วในความคิดของโทนี่เเจ็คสัน อาจจะเป็นคนเเรกของโลกที่ได้ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้อีกทั้งเเจ็คสันยังบอกว่าเป็นเพื่อนกับพวกเขา ดังนั้นโทนี่จึงต้องการรู้รายละเอียดสิ่งที่เเจ็คสันพบเจอเพิ่มเติม
ได้ยินคำพูดของโทนี่เเจ็คสัน ได้สั่นศีรษะทันที เขาจะไปมีเวลารวบรวมสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร
“เอ่อไม่มีหรอก…เเต่มีบางสิ่งที่ผมพอเก็บเกี่ยวมาได้บ้าง”เเจ็คสันได้สั่นศีรษะปฏิเสธก่อนที่จะพูดบางอย่างออกมา
“หืมอะไรงั้นหรอ?”ไม่ว่าจะเป็นอะไรที่เป็นวัตถุต่างดาวที่เเจ็คสันสามารถนำติดไม้ติดมือกลับมาได้โทนี่ก็รู้สึกต้องการเเละกระหายในความอยากรู้ของเขา
ได้ยินคำพูดของโทนี่เเจ็คสันไม่ได้หยิบสิ่งของที่ว่าออกมาทันที เเต่เลื่อนสายตาของเขาออกไปทางนอกห้องประตู
“พวกเราไปที่ห้องปฏิบัติการกันก่อนดีหรือไม่ที่นี่ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่”เเจ็คสันกล่าวออกมา
ฟุ่บ!
“ดี,พวกเราไปที่ห้องปฏิบัติการกัน”ราวกับว่าได้รับการเตือนจากเเจ็คสันโทนี่ ได้ลุกขึ้นยืนทันที
“ไม่ใช่ว่าเวลานี้พวกเราสมควรมานั่งสนทนากันอย่างผ่อนคลายหรอกหรอ”ปีเตอร์กล่าวเเย้งออกมาเบาๆ
“การสนทนาอย่างผ่อนคลายคืออะไรพวกเรามีเวลามากพอที่จะใช้มันเพื่อพูดคุยกัน?ถ้าเธอยังไม่รีบลุกฉันจะโยนงานทดลองบางอย่างไปให้เธอทำในตอนนี้”เเม้ว่าเสียงของปีเตอร์จะส่งออกมาเบามาก เเต่โทนี่ ก็ได้ยิน
ฟุ่บ!
“ไปเดี๋ยวนี้เเหละ!”เห็นโทนี่ตอบกลับตัวเองปีเตอร์ได้ดีดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีพร้อมกับวิ่งออกประตูไป
“หึ่ม!เจ้าเด็กคนนี้ … ไปกันเถอะ”โทนี่ได้หันไปกล่าวกับเเจ็คสัน
“อืม”เเจ็คสันได้ตอบกลับเเม้อาการบาดเจ็บของเขาจะยังไม่หายดีเเต่เขาก็ไม่มีปัญหาในการเดินไปยังห้องปฏิบัติการใต้ดินกับโทนี่
หลังจากผ่านไปสองสามนาทีเเจ็คสัน เเละ ปีเตอร์ ได้เดินทางมาถึงห้องปฏิบัติการใต้ดินของโทนี่ เนื่องจากช่วงนี้โทนี่มีอย่างอื่นให้ศึกษานอกจากชุดเกราะไอรอนแมน เขาจึงสร้างพื้นที่เเละขยายขนาดของห้องปฏิบัติการให้กว้างขึ้นตอนนี้ เเทบจะพื้นที่ใต้ดินของวิลล่าทั้งหมดของโทนี่ ได้เปลี่ยนเป็นห้องปฏิบัติการใต้ดินขนาดใหญ่
นอกจากนี้โทนี่ยังส่งเสริมชุดเกราะไอรอนแมนเเละสั่งการให้พวกนั้นเฝ้าระวังภายในบ้านเพื่อความปลอดภัยในการทำการทดลองห้องทดลองของโทนี่เต็มไปด้วยหมายเลขโปรเจ็ควิจัยจำนวนมากหนึ่งในห้องเหล่านี้ก็มีห้องเย็นทำอุณหภูมิที่เอาไว้เเช่เเข็งพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิส ส่วนห้องที่พวกเขามาตอนนี้เป็นห้องปฏิบัติการที่ใหม่เอี่ยมเเละมีขนาดใหญ่พิเศษเหมาะที่จะทำการทดลองทางชีววิทยาได้อย่างไม่มีปัญหา
“เวน่อมในตอนนี้เป็นยังไงบ้างก่อนหน้านี้มันได้ซ่อนอยู่ในตัวของคุณเเละดูดซับพลังงานจำนวนมากคาดว่าน่าจะฟื้นฟูกลับมาเเล้วตอนนี้”เเจ็คสันไม่ได้เริ่มประเด็นของเขาในทันที เขากล่าวถามหา เวน่อม
“เจ้านั่นงั้นหรอ”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันดวงตาของโทนี่สว่างวาบก่อนที่จะยื่นส่งเเท็บเล็ตให้เขาโดยตรง
เเจ็คสันรีบเเท็บเล็ตมาดูเขาได้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในทำให้สีหน้าของเเจ็คสันเเปลกใจเล็กน้อยสถานการณ์ปัจจุบันของเวน่อมที่เเสดงอยู่ในเเท็บเล็ตนั้นคือมันถูกขังอยู่ในกล่องโลหะผสมพิเศษขนาดเล็ก โดยรอบกล่องมีอุณหภูมิไฟฟ้าเเรงสูงเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ทำร้ายมัน
เเจ็คสัน”….”
“นี่เป็นการลงโทษงั้นหรอโทนี่ก็ชั่งโหดร้ายจริงๆ !”เห็นสภาพของเวน่อมที่ถูกขังอยู่ในกล่องโลหะผสมพิเศษ เเละ ถูกกระตุ้นด้วยไฟฟ้าเเรงสูงจนร่างกระตุกไปมา เเจ็คสันครุ่นคิดในใจอย่างเงียบ ๆ

ตอนที่ 662 การต่อว่าของโทนี่

“เอ๋…พวกคุณทั้งสองกำลังพูดอะไรเกี่ยวกับฉันหรือป่าว?” หลังจากประตูเปิดขึ้น เงาร่างที่คุ้นเคยก็ส่งเสียงทักทาย โทนี่ และ ปีเตอร์ ด้วยรอยยิ้ม คนที่ผลักประตูเปิดขึ้นนี้จะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากแจ็คสัน

“แจ็คสัน! นายดีขึ้นแล้วงั้นหรอ?” เห็นแจ็คสันเดินเข้ามาปีเตอร์กระโดดขึ้นจากโซฟาอย่างดีใจ

ฟุบ!

จากนั้นปีเตอร์ก็พุ่งสวมกอดแจ็คสันอย่างรวดเร็วโดยไม่สนว่าแจ็คสันจะยังบาดเจ็บอยู่หรือไม่เพราะนี่คือกอดแห่งมิตรภาพที่เขารู้สึกคุ้นเคย

“ขอโทษนะ!” เห็นใบหน้าแห่งความกังวลบนสีหน้าของปีเตอร์ แจ็คสันรีบกล่าวขอโทษทันที

“อย่าใส่ใจเลยไฉันรู้อยู่แล้วว่าเทคโนโลยีการรักษาของคุณสตาร์คนั้นสุดยอด ทั้งยังมียายืนรักษารุ่นล่าสุดที่แฮร์รี่ส่งมาให้ฉันอีกฉันเชื่อว่าหากนายได้พักผ่อนซักหน่อยน่าจะกลับมาดีเหมือนเดิม”ได้ยินคำขอโทษจจาก แจ็คสัน ปีเตอร์ ยิ้มออกมา

ที่จริงแล้ว J.A.R.V.I.S ได้ประเมิณศักยภาพร่างกายของแจ็คสันแล้ว ดูเหมือนร่างกายของแจ็คสันจะมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูตนเองสูง ดังนั้นเมื่อได้รับยารักษาขั้นสูงหลายชนิด แจ็คสันก็สามารถฟื้นฟูตัวได้อย่างรวดเร็ว ที่เหลือก็แค่รอเวลาเพียงเท่านั้น

“อืม” แจ็คสันพยักหน้าเล็กน้อย

จากนั้นแจ็คสันและปีเตอร์ ก็เดินไปทางโทนี่ เพียงแต่สีหน้าของโทนี่ไม่ได้เหมือนกับว่ากำลังดีใจอยู่แม้แต่น้อย

“หึม!อันที่จริงเธอนอนพักต่ออีกหน่อยก็ดี แต่ว่าเรื่องนี้หากเธอไม่ชักปัญหาเข้าไปหาฮัลค์และต่อสู้เธอก็คงไม่จำเป็นจะต้องมานอนซมล้มเจ็บแบบนี้หรอก” โทนี่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ก่อนหน้านี้โทนี่กับมิราจในท์ถือเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกันความเป็นห่วงก็อยู่ในฐานะหนึ่งในเพื่อนร่วมทีมที่เป็นพันธมิตรแต่ภายหลัง หลังจากรู้ว่า มิราจในท์ คือ แจ็คสัน ความเป็นห่วงของเขาก็เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่ามิราจในท์จะแข็งแกร่งมากขนาดไหน แต่ในสายตาของโทนี่ เขาก็ยังเป็นแค่เด็กอายุ 17 ปีเท่านั้น

เมื่อเห็นว่าแจ็คสันได้ฝืนตัวเองในฐานะฮีโร่คนนึง โทนี่ก็อยากจะชื่นชม แต่เมื่อต้องเห็นเขาขัดคำพูดของตนเองและมาได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้โทนี่รู้สึกโกรธอยู่ในใจ

“ฮิฮิ… คุณสตาร์คอุปกรณ์เทคโนโลยีรักษาของคุณนั้นดีมาก! ผมคิดว่าผมกำลังนอนหลับฝันดีและกำลังเพลิดเพลินกับห้วงความฝันอย่างไงยังงั้น”ได้ยินโทนี่ตำหนิตัวเอง แจ็คสันได้เปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที

ได้ยินคำพูดของแจ็คสันโทนี่ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว

“อย่าเปลี่ยนเรื่อง! เธอไม่เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บหนัก หากเธอเป็นอะไรขึ้นมา เธอคิดว่าครอบครัวของเธอจะรู้สึกยังไง เพื่อนของเธอ และ ฉัน เธอไม่คิดหรอว่าพวกเขาจะรู้สึกยังไง?” เห็นการละเล่นของแจ็คสัน โทนี่ กล่าวตะโกนไปที่ด้านหน้าของแจ็คสัน

เมื่อเผชิญหน้ากับอารมณ์ของโกรธของโทนี่ แจ็คสันทำได้แต่ยอมรับความจริง อาจเป็นที่เขาเองที่ดั้นด้นอยากจะเผชิญหน้ากับฮัลค์เพื่อทดสอบความแข็งแกร่ง และ ตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าฮัลค์นั้นแข็งแกร่งมากขนาดไหน

“เอ่อ…ผมว่าผมไปหาของว่างมาเสริฟดีกว่า”เห็นบรรยากาศตรึงเครียดของโทนี่และแจ็คสันปีเตอร์ลอบกลืนน้ำลายก่อนที่จะพูดด้วยเสียงต่ำ

“ฉันไม่ให้ไป!”

“อย่าไปเชียว!”

โทนี่ไม่อนุญาติให้ปีเตอร์เดินหนีออกจากบรรยากาศสนทนาในครั้งนี้ส่วนแจ็คสันก็ไม่อยากให้ปีเตอร์ไปเพราะเขาไม่ต้องการทนฟังคำบ่นของโทนี่เพียงคนเดียว แม้จิตใจลึก ๆ ของแจ็คสันจะไม่ใช่เด็กอายุ 17 แต่เขาก็รู้สึกดีว่าการถูกดุด่าว่ากล่าวนั้นให้ความรู้สึกเช่นไร ไม่เหมือนกับปีเตอร์ที่เป็นเจ้าหนูอายุ 17 เขาเชื่อฟังโทนี่เป็นพิเศษอาจเป็นเพราะโทนี่ได้ช่วยเหลือปีเตอร์หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาชุดสไปเดอร์แมนและ อื่น ๆ

ดังนั้นคำพูดของโทนี่ ในมุมมองของ แจ็คสัน และ ปีเตอร์ จึงแตกต่างออกไป แจ็คสันเพียงแค่ต้องการหาเพื่อนอยู่ร่วมฟังคำบ่นของโทนี่ด้วยกัน

“ก็ได้” ได้ยินคำพูดของโทนี่ และ แจ็คสัน ปีเตอร์ ได้พูดเสียงต่ำเล็กน้อย

“ทำไมเธอไม่หัดเอาตัวอย่างเหมือนปีเตอร์บ้าง?เขาเป็นห่วงครอบครัว และ ทำตัวเหมือนนักเรียนมัธยมปลายส่วนเธอ มันไม่เหมือนสักนิด!”โทนี่ตวาดเล็กน้อย

แจ็คสัน”..”

เมื่อเผชิญหน้ากับอารมณ์โกรธของโทนี่ แจ็คสันได้นิ่งเงียบเป็นเวลานาน

“บ่อยครั้งที่เธอได้ออกไปผจญสถานที่อันตราย และ หายตัวไป เธอรู้ไหมว่า…” โทนี่ได้สาธยายออกมาเป็นคำพูดด้วยความรู้สึกในใจ

คำพูดของโทนี่ได้ทำให้สีหน้าของ แจ็คสันเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย จนเวลาล่วงเลยผ่านไป สีหน้าของโทนี่ จึงได้ผ่อนคลายลง

“…” แจ็คสันได้กระแอมไอออกมาสองครั้งด้วยความเป็นเพราะในที่สุดโทนี่ก็หยุดกล่าวผิดตนเอง

แน่นอนว่าเป็นเพราะเห็นแจ็คสันนิ่งเงียบเป็นเวลานานและรับฟังตนเองโทนี่จึงได้หยุดคำพูดลงแต่เพียงเท่านี้

“คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีก หากเธอเป็นอะไรขึ้นมาฉันจะบอกกับพ่อแม่เธอยังไง” โทนี่ได้พูดออกมาอีกครั้ง

“คุณสตาร์ค! ผมต้องขอโทษจริง ๆ ที่ทำให้คุณเป็นกังวล” หลังจากโทนหยุดคำพูดลง แจ็คสันได้ส่งแววตาที่สำนึกผิดและกล่าวขอโทษออกไป

“เหอะ, หากเธอไม่อยากทำให้ฉันรู้สึกกังวล คราวหลังเธอก็ไม่ต้องเข้าไปพัวพันกับอันตรายพวกนี้อีก” ได้ยินคำพูดของแจ็คสัน โทนี่ รู้สึกพูดไม่ออก

ไม่ใช่ว่าแจ็คสันต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความเสี่ยงเหล่านี้ แต่อันตรายในโลกมาร์เวลได้คืบคลานเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ดังนั้น แจ็คสันจึงถูกดึงเข้าไปพัวพันกับสถานการณ์เหล่านี้อย่างไม่อาจปฏิเสธได้

“จริงสิ ฉันได้ยินจากปีเตอร์แล้ว เมื่อไม่นานมานี้ เธอได้หายตัวไปจากโลกและไปปรากฏตัวบนดาวเคราะห์อื่นนอกโลกงั้นหรอ?”โทนี่ได้นั่งลงพร้อมกับกล่าวถามแจ็คสัน

“เอ๋…..อ๋อใช่”

ตอนที่ 661 ข้อความจากกัปตันโรเจอร์ส

ช่วงรอแจ็คสันเข้ารับการรักษา โทนี่ และ ปีเตอร์ ได้เข้าสู่ช่วงบทสนทนาธรรมชาติมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการหายตัวไปของ แจ็คสัน และ เดดพูล ก่อนหน้านี้

“นี่คือเรื่องที่เธอรู้มาจากเขาทั้งหมด?ทําไมฉันรู้สึกว่าเจ้าบ้าเดดพูลนี่พูดเกินจริง?”โทนี่นั่งดื่มไวน์แดงพร้อมกับวิเคราะห์ข้อมูลที่ฟังจากปีเตอร์

เมื่อไม่นานมานี้ปีเตอร์ได้ยินมาจากเดดพูลว่าเขากับมิราจไนท์ได้เดินทางออกไปนอกโลกไปยังดาวเคราะห์บางอย่าง เรื่องที่ปีเตอร์เล่าในวันนี้เป็นคําพูดที่เขาได้ยินมาจากเดดพูลทั้งหมด

“แม้ว่าเรื่องที่เดดพูลเล่าจะเวอร์วังไปมาก แต่ผมก็ไม่คิดว่าเขาจะโกหก”ได้ยินคําตอบจากโรนี่ปีเตอร์ที่หยิบอาหารเข้าปากเขาได้ยกค้างเอาไว้และพูดเสริม

ปีเตอร์เองก็รู้จักเดดพูลมาพอสมควรแม้ช่องว่างระหว่างอายุพวกเขาจะแตกต่างกันแต่ปีเตอร์ก็รู้ว่าเดดพูลไม่มีทางโกหกเรื่องที่ไปผจญภัยกับแจ็คสันอย่างแน่นอนเมื่อดูจากแววตาของเดดพูลในตอนนั้นแล้วราวกับว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ

“โผล่ไปยังดาวเคราะห์ลึกลับบางอย่างจากการปรากฏตัวของประตูมิติอวกาศ มันอาจจะมีความเป็นไปได้ แต่เรื่องนี้ ฉันคงจะต้องตรวจสอบเพิ่มเติม ส่วนเรื่อง สัตว์ประหลาดไดโนเสาร์ยักษ์สูงหลายร้อยเมตรนั่น อีกทั้งยังมีสัตว์ประหลาดรากไม้หลายพันตัว มันน่าเหลือเชื่อเกินไป นอกจากนี้เขาบอกว่าเขาเจอ ชนพื้นเมืองที่มีหน้าเหมือนเมอร์ไลออนของประเทศสิงคโปร์? พวกเขาร่วมต่อสู้กับสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์โบราณ คิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบหรือยังไง?”เผชิญหน้ากับการอธิบายของปีเตอร์ โทนี่ กล่าวปฏิเสธอย่างไม่แยแส

เรื่องที่เกิดขึ้นที่ประตูมิติอวกาศส่งพวกเขาไปยังสถานที่นึ่งอาจจะเป็นเรื่องจริง แต่โทนี่ยากที่จะยอมรับว่าสิ่งที่เดดพูลเล่ามาทั้งหมดมันมีตัวตนอยู่จริง ๆ

มันก็ไม่แปลกที่โทนี่จะไม่เชื่อในสิ่งที่ได้รับฟังมาเพราะเขาไม่เคยเห็นตัวตนเหล่านั้นจริง ๆ ชีวิตของเขาเกิดบนโลกและอยู่บนโลกมาเป็นระยะเวลานานหลายปี อาจเป็นเพราะด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันของโลกจึงไม่อาจเดินทางท่องอารยธรรมอื่น ๆ ได้

แต่ในใจของเขาก็ยังมีอีกเหตุผลเมื่อเคยพิจารณาว่าเขาเคยปฏิเสธว่าเวทมนตร์มีอยู่จริงแล้ว บางทีเรื่องที่เดดพูลเล่าอาจจะเป็นความจริงก็ได้

“บางที่เดดพูลอาจจะมีพรสวรรค์ในการเขียนหนังสือขายมากกว่าฉันว่านะ”โทนี่ยกไวน์แดงในมือขึ้นจิบอีกครั้ง

“ตอนแรกเดดพูลตั้งใจจะเขียนหนังสือเล่มนี้จากประสบการณ์ที่เขาได้รับชื่อว่า เดดพูล และ การผจญภัยในดวงดาวลึกลับของเดดพูล และ มิราจในท์” ปีเตอร์กล่าวบอกโทนี่ โทนี่””

“เจ้านายครับ ทหารเอ็กซ์ทรีมิสทั้ง 11 คนที่จับกุมได้ ได้เข้าสู่กระบวนการแช่แข็งเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ” ขณะที่โทนี่ไม่รู้จะกล่าวอะไรออกมา เสียงของป.A.R.V.I.S ก็ดังขึ้นอย่างกระทันหัน

หลังจากจบศึกกับพวก สมาคมมิวแทนท์และองค์กร มิวแทนท์ ของสไตรเกอร์เสร็จ โทนี่ให้ J.A.R.VIS พาพวก ทหารเอ็กซ์ทรีมิส ที่เคยเป็นลูกน้องของพวกคิลเลี่ยนกลับมา ทั้งเขายังให้ J.A.R.V.I.S พยายามหาวิธีปิดผนึกคนเหล่านี้ ด้วยอุณหภูมิต่ํากว่า 20 องศา เพื่อที่จะหยุดผลกระทบของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส โทนี่ จําเป็นจะต้องผนึกพวกเขาชั่วคราว

“ยืมเข้าใจแล้ว ไว้ฉันว่างฉันค่อยดําเนินการขั้นตอนต่อไปอีกครั้ง โทนี่ตอบกลับ J.A.R.V.I.S

เกี่ยวกับไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสโทนี่มีความสนใจอย่างมาก ลักษณะของพวกมันสามารถนําไปสู่การวิวัฒนาการได้ดังนั้นโทนี่ตั้งใจจะใช้เวน่อมเพื่อทดสอบพวกมันและพัฒนาการควบคุมเพื่อดําเนินการศึกษาอีกครั้ง หากเป็นไปได้ด้วยดี เขาจะสามารดึงพลังที่น่าเกรงขามออกมาเพื่อตอบสนองกับเวน่อมเพื่อให้เวน่อมกลายไปเป็นสิ่งที่โฮสต์ต้องการในอนาคต

“กัปตันโรเจอร์ส เพิ่งส่งข้อความใหม่มาครับ” หลังจากรายงานสถานการณ์เรื่องทหารเอ็กซ์ทรีมิสแล้ว J.A.R.V.I.S ก็พูดอีกครั้ง

“หืม?ว่ายังไงบ้าง?”ได้ยินว่าเป็นข่าวจากกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ ค่อนข้างสนใจ

“กัปตันโรเจอร์สให้ความสําคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ของมิราจไนท์อย่างมาก เขาบอกว่า หากต้องการให้ S.H.I.E.L.D. ช่วยเหลือเรื่องอะไร เขาจะสนับสนุนอย่างเต็มที่”

“หม! คิดว่าเครื่องมือการรักษาของฉันมีประสิทธิภาพน้อยกว่าองค์กร S.H.I.E.L.D. งั้นหรอ?” ได้ยินการรายงานของ J.A.R.V.S โทนี่พูดอย่างเหยียดหยาม

“เจ้านายครับ ที่จริงแล้ว เทคโนโลยีการรักษาขององค์กร S.H.I.E.L.D. มีประสิทธิภาพมากกว่ามากเมื่อเทียบกับเราได้ยินคําพูดของโทนี่ J.A.R.VIS เตือนความจริงเรื่องนี้

“โทนี่”

“แล้วเรื่องอื่นละ?”โทนี่ไม่ต้องการสนใจเรื่องนี้อีก ไม่ว่าอย่างไรเขาจะไม่ขอส่งตัวแจ็คสันไปรักษาตัวที่ องค์กร S.H.I.E.L.D. เด็ดขาด

“กัปตันโรเจอร์สบอกว่า ดร.บรูซ แบนเนอร์ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมมือกับเจ้านายเพื่อทําการศึกษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมีองค์กร S.H.I.E.L.D. สนับสนุนและเตรียมความพร้อมให้อย่างเต็มที่”

“หากเป็นก่อนหน้านี้ฉันคงจะดีใจมากอย่างแน่นอน”ได้ยินคําพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่ไม่ได้ประหลาดใจ

ความสามารถและพรสวรรค์ของ ดร.บรูช แบนเนอร์ อาจเรียกได้ว่าเทียบเคียงในระดับชั้นเดียวกับเขา หากเป็นก่อนหน้านี้ โทนี่ ก็หวังจะร่วมมือกับอีกฝ่ายในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพียงแต่ช่วงนี้ เขาเองก็มีโครงการมากมายให้ศึกษา โดยมี แจ็คสัน และ ปีเตอร์ เป็นลูกมือ แต่ทั้งสองคนก็มีงานอย่างเหลือล้น ยิ่งไปกว่านั้นในฐานะไอรอนแมน โทนี่ จําเป็นจะต้องไปปรากฏตัวในที่สาธารณะบ่อยครั้ง หากเป็นไปได้เขาก็อยากจะรับข้อเสนอนี้อยู่เหมือนกัน

“J.A.R.V.I.S นายตอบกลับไป เรื่องของมิราจในท์ ฉันจะเป็นดูแลเรื่องทั้งหมดเองบอกพวกเขาไม่ต้องเป็นห่วง เกี่ยวกับคําเชิญของ ดร.แบนเนอร์ ฉันรู้สึกยินดีอย่างมาก เอาเป็นว่าฉันจะเดินทางไปให้คําตอบด้วยตัวเอง”

“ครับเจ้านาย!” ได้ยินคําตอบของโทนี่ J.A.R.V.I.S ตอบกลับทันที

ฟุ่บ!

ตึก ตึก!

ขณะที่โทนี่กําลังสนทนากับ J.A.R.V.I.S จู่ ๆ ประตูห้องรับรองก็ถูกเปิดจากด้านนอก จากนั้นร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นสู่สายตาของโทนี่ และ ปีเตอร์ เขาเดินเข้ามาข้างในอย่างช้า ๆ

ตอนที่ 660 หัวใจแห่งชีวิต

ในห้องบำบัดรักษาของ สตาร์ค แจ็คสันได้นอนหลับตาอย่างสงบและนอนรักษาตัวอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้สมองของเขากำลังครุ่นคิดลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่ ตั้งแต่เขากลับมาจากดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์แจ็คสันก็ไม่มีเวลาเข้าในร้านค้าระบบเลย

“ก่อนการเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตระดับ S ฉันได้สูญเสียแต้มคะแนนไปทั้งหมด”ในความคิดของเขาแจ็คสันได้สั่นศีรษะเกี่ยวกับเรื่องนี้

ก่อนหน้าที่เอนเชี่ยนวันจะปรากฏตัวขึ้น แจ็คสันได้ใช้แต้มคะแนนในการแลกเปลี่ยนซื้อสิ่งต่างๆ เพื่อรักษาชีวิตของตนเอง ไม่งั้นเขาอาจจะไม่สามารถทนรอได้นานจนเอนเชี่ยนวันมาช่วยพวกเขาไว้ได้ทัน

“การเดินทางครั้งนี้เป็นเหตุการณ์บังเอิญที่เกิดขึ้น แม้จะเกิดการสูญเสียจำนวนมาก แต่ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้รับบางอย่างกลับมา”แม้จะสูญเสียแต้มคะแนนไปจำนวนมาก แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ได้รับสิ่งตอบแทนกลับมา

การเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตระดับ S แจ็คสันไม่สามารถต้านทานมันได้เลย ยกเว้นสิ่งมีชีวิตระดับ B สองตัวที่แจ็คสันพบเจอก่อนหน้านี้ แม้จะยากลำบากสักหน่อยแต่ท้ายที่สุดเขาก็จัดการพวกมันจนสามารถยกระดับความแข็งแกร่งของเองขึ้นได้

หลังจากจัดการพืชสัตว์ประหลาดระดับ B เสร็จ แจ็คสันก็ยังรวบรวมพืชพรรณพื้นเมืองบนดาวดึกดำบรรพ์นั่นกลับมาหลายสายพันธุ์ เขาคิดว่าสิ่งเหล่านี้น่าจะมีประโยชน์กับเขาในอนาคต

พืชพรรณในปาบริสุทธิ์นั่นมีความลึกลับที่น่าชวนค้นหาดังนั้นแจ็คสันจึงได้เก็บมันกลับมาศึกษาที่โลกเพื่อที่จะพัฒนาสภาพแวดล้อมของโลกให้ยกระดับมากขึ้นไปอีก

นอกเหนือจากเรื่องนี้ชุดแพนท่อมสูทของเขาเองก็ได้รับการพัฒนาด้วยเช่นเดียวกันการปรับสภาพแวดล้อมโดยรอบของเขามีประสิทธิภาพมากขึ้น หากในอนาคตแจ็คสันได้เดินทางไปยังดาวดวงอื่นที่ยากลำบากอีก เขาก็ไม่น่าจะมีปัญหาต่อการดำรงชีวิตอยู่

“สิ่งที่ฉันได้เก็บเกี่ยวมาจากดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์นั่น ท้ายที่สุด ก็สามารถส่งมอบพวกมันให้ ดร.แบนเนอร์ กับ โทนี่ ศึกษาได้ในด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ เรื่องนี้ ดร.แบนเนอร์ คงจะค่อนข้างเชี่ยวชาญกว่าโทนี่”แจ็คสันครุ่นคิดในใจ

เหนือสิ่งอื่นใดแจ็คสันยังเก็บเกี่ยวบางอย่างกลับมาได้เขาได้ใช้จิตสำนึกของตนเองในการลอบมองดูมัน มันคือบางสิ่งสีเขียวที่ถูกเก็บไว้ในหลอด

ตุบ ตุบ!

กลุ่มก้อนสีเขียวเหล่านี้ราวกับมีชีวิตชีวามันเป็นวัตถุทรงกลมเล็ก ๆ จำนวนมากที่เกาะติดกันทั้งยังมีเสียงสั่น ตุบ ๆ เป็นระยะ

“นี่ก็คือหัวใจของพืชสัตว์ประหลาดระดับ B” ก่อนหน้านี้เขาไม่มีเวลาที่จะศึกษามันอย่างลอบคอบ หลังจากจัดการสัตว์ประหลาดนี่ได้แจ็คสันได้เก็บมันมาอย่างระวัง

“ฉันอยากที่จะรู้ราคาของมันซะจริง?”แจ็คสันได้เลื่อนจิตของตนเองเข้าไปยังร้านค้าระบบ

ฟุบ!

“หัวใจของสิ่งชีวิตระดับ B มูลค่าสิ่งของ : 50,000 แต้มคะแนน!”แจ็คสันเห็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่เบื้องหน้าของเขา

ศูนย์การค้าของระบบได้ประเมินออกมาอย่างรวดเร็ว” หัวใจของสิ่งมีชีวิตระดับ B นี่ค่อนข้างแพงเอาเรื่อง ฉันเชื่อว่ามันจะต้องมีประโยชน์อย่างแน่นอน”

“หัวใจแห่งชีวิต – หัวใจแห่งชีวิต”แจ็คสันพึมพัมออกมา

“เจ้าสิ่งนี้มีมูลค่าตั้ง 50,000 แต้มคะแนน อยากจะบ้าตาย แค่แต้มคะแนน 10,000 กว่าแต้มฉันก็แทบจะตกตะลึงแล้ว!”แจ็คสันบ่นออกมาเล็กน้อย

ผลของหัวใจพืชสัตว์ประหลาดนี้มีสรรพคุณที่ยอดเยี่ยมอย่างมากมันมีความสามารถในการฟื้นคืนพลังที่น่ากลัวอีกทั้งยังช่วยเพิ่มพลังชีวิตถือเป็นหนึ่งในไอเทมรักษาที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุด

หัวใจแห่งชีวิตตกผลึกจากสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์เหล่านี้หลังจากที่มันตกตายมันจะตกผลึกสิ่งที่ว่านี้ออกมา

เมื่อดูสินค้ารักษาอื่น ๆ ภายในระบบ แจ็คสันก็เริ่มให้ความสำคัญกับหัวใจแห่งชีวิตทันที สิ่งเหล่านี้มีคุณภาพกว่ามากเมื่อเทียบกับน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยบรรเทาอาการและรักษาเล็กน้อย ราคาของ น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำไม่ถือว่าแพงมาก แต่ถ้าเป็นระดับสูงราคาก็อีกเรื่องนึ่ง ดังนั้น แจ็คสันจึงมองเห็นความสำคัญของ หัวใจแห่งชีวิตนี้มากทีเดียว

“ประสิทธิภาพของมันน่าจะรุนแรงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ฉันไม่คิดว่าจะได้ใช้มันเร็วๆนี้หรอก ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าการบริโภคไอเทมที่ทรงประสิทธิภาพเช่นนี้ไปในคราวเดียวจะให้ความรู้สึกที่สูญเสียมากน้อยแค่ไหน” แจ็คสันได้มองย้อนกลับความเป็นจริง

เขาตั้งใจว่าจะเก็บมันไว้ราวกับสมบัติชิ้นนึ่งหากไม่ถึงสถานการณ์ยามที่ต้องดิ้นทุรนทุรายอย่างตกตายจริง ๆ เขาไม่มีทางจะใช้มัน แน่ๆ

การเก็บเกี่ยวจากดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์นั้นได้ให้ประโยชน์ทั้งตัวแจ็คสันและการศึกษาและพัฒนาโลกในอนาคตถือเป็นประสบการณ์ที่ยากจะพบเจอ

“สิ่งนี้เองก็อาจจะมีความหมายหากให้โทนี่ช่วย วิจัยมัน แต่ฉันคิดว่าโทนี่ช่วงนี้คงจะยุ่ง ๆ มากแน่นอน”แจ็คสันกระซิบกระซาบที่หัวใจก่อนที่จะครุ่นคิดเรื่องอื่น

ตอนที่ 659 การลอบมองของศาสตราจารย์ชาร์ลส์

หลังจากเข้าสู่พื้นที่ห้องลับใต้ดินไอซ์แมนก็เห็นเก้าอี้รถเข็นของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่อยู่ด้านหน้าของโต๊ะ ไอซ์แมนได้เดินไปใกล้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ก่อนที่จะมองหาเก้าอี้และนั่งลง

ฟัง

หลังจากเวลาผ่านไปเป็นเวลาหลายนาที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ยกมือขึ้นวางบนโต๊ะและเงยห น้ามองไอซ์แมน

“โรเบิร์ต นายมองหาฉันเพราะมีเรื่องอะไรงั้นหรอ?”มองไปที่ไอซ์แมน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เปิดคําถามแรก

ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไอซ์แมนเงยหน้ามองไปที่เขาพร้อมกับกล่าวออกมา” ฉันมีเรื่องบางอย่างที่อยากจะถาม”

เกี่ยวกับมิราจไนท์?”เมื่อรู้ว่าไอซ์แมนกําลังมองหาเรื่องบางอย่างศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวคาดเดา

“อืม,ศาสตราจารย์ฉันรู้ว่านี้ไม่ควรจะถาม แต่ก่อนหน้านี้ในสนามรบฉันเห็นคุณได้ใช้พลังจิตในการอ่านความคิดของมิราจไนท์ เพราะอะไร!?”ไอซ์แมนกล่าวถามออกมา

ในตอนที่มิราจไนท์ถูกฮัลค์ชัดจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและหมดสติ ไอซ์แมนเห็นศาสตราจารย์ชาร์ลส์ใช้พลังจิตในตอนนั้นในการอ่านความคิดของมิราจในท์

อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์ชาร์ลส์ในตอนนั้นสัมผัสได้ว่ามิราจไนท์กําลังฟื้นขึ้นมาดังนั้นเขาจึงถอนพลังจิตของตนเองออก แน่นอนว่าตอนนั้นแจ็คไม่ได้รู้สึกไปเองเขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังจิตที่แข็งแกร่ง ซึ่งก็ไม่สามารถตรวจสอบได้

นอกเหนือจากแจ็คแล้ว ไอซ์แมนก็รู้ทันทีว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ลงมือทําอะไรบางอย่าง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสงสัยและได้มาถามศาสตราจารย์ชาร์ลส์โดยตรง

“โรเบิร์ตนายรู้จักมิราจไนท์มากน้อยแค่ไหน?”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวถาม

“ก็พอสมควร มิราจในท์ถือเป็นพันธมิตรที่ดีเขาควรค่าแก่การคบหาเป็นเพื่อน!”ไอซ์แมนตอบกลับอย่างไม่ลังเล

อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่ได้ยินคําตอบของไอซ์แมนเขาสั่นศีรษะเล็กน้อย”นายไม่ได้รู้จักเขาดีเลยแม้แต่น้อย ด้านที่เขาแสดงให้พวกเราเห็นจะเรียกว่าเป็นอีกด้านนึ่งของเขาก็ได้ ดังนั้นนายจึงไม่รู้จักมิราจไนท์อย่างแท้จริง”

“นี่”ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์จิตใต้สํานึกของไอซ์แมนแทบจะสั่งให้เขาตะโกนโต้แย้งออกมา

แท้จริงแล้วไอซ์แมนก็เป็นอย่างที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ว่าเขาไม่ได้รู้จักมิราจในท์จริงๆ เบื้องหลังหน้ากากนั้นเขาก็ไม่เคยเห็นใบหน้านั้น ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ไอซ์แมนจะไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของมิราจในท์

“นี่คุณกําลังบอกว่าเขาไม่ใช่คนที่ควรคบหางั้นหรอ?ไม่ใช่ว่าพวกเราทีมX-MEN ได้ร่วมมือกับเขาในการเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันและร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันหรือไม่?การอ่านความคิดของพันธมิตรตนเอง คุณไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทําหรอกหรอ?”ไอซ์แมนกล่าวความคิดของตนเองออกมา

“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น สิ่งที่ฉันต้องการจะบอกนายก็คือตัวตนในชีวิตจริงๆ ของมิราจไนท์ พวกเราไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับเขาเลยสักอย่าง สิ่งที่พวกเรารู้จักจริงๆ ก็คือด้านดีที่เขาแสดงให้เห็น มิราจไนท์ในตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก”

“แล้ว…”

“คุณคิดว่ามิราจไนท์น่าสงสัยอย่างงั้นหรอ?”

“ปาวเลย สิ่งที่พวกเราทุกคนไม่รู้อาจจะเป็นความลับบางอย่างที่สําคัญที่สุดของเขา ยกตัวอย่างเช่น เขามีความสามารถในการคาดการณ์อนาคตบางอย่าง และเป็นตัวตนที่คอยขจัดและลําดับสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ได้ สิ่งที่ฉันอธิบายไปนายอาจจะไม่เข้าใจ แต่จริงๆแล้วฉันรู้เกี่ยวกับมัน” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมา

“ดังนั้นฉันจึงไม่ได้ต้องการขัดขวางเรื่องที่เขาเป็นพันธมิตร และคู่ควรแก่การคบหา แต่มันจะดีกว่าหากเราสามารถทราบสถานะที่แท้จริงของเขา ฉันคิดว่านายควรจะถามหาเขาตรงๆ”

“ฉันคิดว่านี่ควรไม่มีปัญหาอะไร มิราจไนท์น่าจะยินดีที่จะบอกเรา”ไอซ์แมนเปิดปากพูด

“การดําเนินการของฉันในตอนนั้นได้ถูกตรวจพบโดยมิราจในท์ ดังนั้นฉันจึงรีบถอนพลังจิตออกมา” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวพูดขึ้น

” หืม?ถูกตรวจพบ?”ได้ยินว่าความสามารถอ่านใจของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ถูกตรวจจับได้ ไอซ์แมนรู้สึกตกใจอย่างมาก

“อย่าได้ประเมินตัวตนของเขาต่ําเกินไป มิราจไนท์ถือเป็นบุคคลที่ค่อนข้างลึกลับที่เดียว”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ

“เขา…”

“แม้ว่ามิราจในท์จะรู้ว่าเป็นฝีมือฉัน แต่เขากลับไม่ได้พูดมันออกมา บางทีเขาอาจกําลังรอให้ฉันไปหาเขาและถามเรื่องทั้งหมดด้วยตนเอง”เห็นไอซ์แมนกําลังสงสัย ศาสตราจารย์ชาร์ลสพยักหน้าและยิ้มพูด

ณจะไปกับฉันไหม?”ไอซ์แมนกล่าวออกมา

เพราะในความคิดของไอซ์แมนหากมิราจในท์รู้เรื่องที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์อ่านจิตใจของตนเองจริง บางทีความสัมพันธ์ของพวกเขาอาจจะลดลง ไอซ์แมนไม่ต้องการให้พวกเขามีความขัดแย้งต่อกัน

“สบายใจเถอะ มิราจในท์ไม่ใช่บุคคลที่ขาดการพิจารณา เขาอาจจะสามารถคาดเดาได้อยู่ก่อนแล้วก็ได้ว่าพวกเราต้องการอะไร” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์คาดเดาความคิดของไอซ์แมนได้ เขาพูดขึ้น

“ในปัจจุบันพวกเรายังมีเรื่องอื่นที่ต้องทําก่อน เอริคได้พบควิกซิลเวอร์ และสกาเล็ต วิช แล้วเราจะไปหาเขาหลังจากที่เราเคลียธุระพวกนี้เสร็จสิ้น”

“เข้าใจแล้วศาสตราจารย์”

ตอนที่ 658 ปัญหาของแต่ละฝ่าย

ด้านนอกห้องรักษษ โทนี่ และ ปีเตอร์ เห็นแจ็คสันขยับปากพึมพัมอะไรบางอย่าง ก่อนหน้านี้แต่พวกเขาไม่ได้ยินเสียง แน่นอนว่าพวกเขารู้ว่าแจ็คสันได้พูดอะไรบางอย่างกับ J.A.R.V.I.S และบทสนทนาของพวกเขาก็เหมือนจะไม่ใช่บทสนทนาที่เรียบง่ายทั่วไป

” J.A.R.V.I.S นายพูดอะไรกับ แจ็คสัน เมื่อครู่?”เพราะความอยากรู้อยากเห็น โทนี่ หลังจาก เห็นแจ็คสันหลับตาลงเขาจึงเลือกกล่าวถาม J.A.R.V.I.S โดยตรง

“ไม่มีอะไรหรอกคับ แค่คําถามทั่วไป” หลังจากโทนี่กล่าวถาม J.A.R.VIS ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ระบบหลักของ J.A.R.VIS ได้พัฒนาไปอีกขั้นสู่ความเป็นมนุษย์ ดังนั้นคําถามที่ไม่มีสลักสําคัญอะไร J.A.R.V.1.S คิดว่าไม่เป็นปัญหาที่จะไม่ตอบคําถามของโทนี่

“งั้นหรอ?”ได้ยินคําตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่รู้สึกสงสัยบางอย่าง

ก่อนหน้านี้ในช่วงที่แจ็คสันกําลังทําการรักษา เขาเห็นได้ชัดว่า J.A.R.V.I.S กับแจ็คสัน กําลังสนทนาอะไรบางอย่างอยู่จริง แต่ในเมื่อ J.A.R.VIS ตอบกลับเช่นนี้ โทนี่ก็ไม่ได้กล่าวถามอะไรอีก

“ระยะเวลาการรักษาดําเนินการอีก 1 ชั่วโมงถึงจะเสร็จสิ้น ตอนนี้ กระดูกของคุณแจ็คสันกําลังสมานตัวและเคลื่อนไหวปรับแต่งไปยังตําแหน่งที่เหมาะสม” เมื่อเห็นว่าโทนี่ไม่ได้กล่าวถามอะไรอีก J.A.R.V.I.S ได้รายงานสถานการณ์ตอนนี้

“อืม,ปล่อยให้แจ็คสันเข้ารับการรักษาต่อไป พวกเราไม่จําเป็นจะต้องไปรบกวนเขา”ได้ยินรายงานของ J.A.R.V.I.S โทนี ตอบกลับเบาๆ

” ครับเจ้านาย!”

“ปีเตอร์ เธอมากับฉัน ฉันได้ยินมาว่า เธอได้รู้เรื่องราวบางอย่างจากเดดพูล ในช่วงที่เขาหายตัวไปพร้อมกับแจ็คสัน ดังนั้น ฉันต้องการฟังเรื่องราวทั้งหมดที่เธอรู้ในวันนี้”เห็นว่าแจ็คสันต้องใช้เวลาสักพักในการรักษาตัวเอง โทนี่หันไปกล่าวกับปีเตอร์

“ครับ คุณสตาร์ค!”ได้ยินคําพูดของโทนี่ ปีเตอร์พยักหน้าตอบรับ

ตึก- ตึก

จากนั้นโทนี่และปีเตอร์ ก็ได้เดินออกจากห้องบําบัดแห่งนี้ ทิ้งไว้เพียงแจ็คสันที่นอนอยู่บนเตียง โดยมี J.A.R.V.1.S คอยเฝ้าตรวจดูสถานการณ์เอาไว้

ในขณะที่แจ็คสันกําลังนอนรักษาตัวอยู่บนเตียง ทางด้านกัปตันโรเจอร์ส ที่นําทีม K และ นาตาชา รวมทั้งดร.แบนเนอร์ กลับไปที่สํานักงานใหญ่ของ S.H.I.E.L.D. แต่ก็ติดที่ทางกองทัพต้องการตัวของสไตรเกอร์คืน ซึ่งกัปตันโรเจอร์สก็ไม่อยากมีปัญหาเขาจึงส่งมอบสไตรเกอร์ให้ทางกองทัพไป

แม้ว่ากัปตันโรเจอร์สจะยอมความง่ายขนาดนี้ แต่ทางกองทัพเองก็รู้ตัวเองดีเช่นเดียวกัน องค์กร S.H.I.E.L.D. ภายใต้การนําของกัปตันโรเจอร์สได้มีความแข็งแกร่งเหนือกว่ากองทัพสหรัฐดังนั้นหากกัปตันโรเจอร์ส เลือกที่จะไม่ส่งมอบสไตรเกอร์ให้พวกเขาก็คงต้องจําใจแบกหน้ากลับ แต่ถึงแม้กัปตันโรเจอร์สจะส่งมอบสไตรเกอร์กลับไปให้เขาก็ให้ทางกองทัพจ่ายค่าราคาอย่างเหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ทางองค์กร S.H.I.E.L.D. ยังมีข่าวดี นั่นก็คือการเข้าร่วมของดร.แบนเนอร์นั่นเอง

“ดรแบนเนอร์ ฉันรู้สึกมีความสุขมากที่คุณเลือกที่จะเข้าร่วมองค์กร S.H.E.I.L.D. ของเรา ฉันให้คํามั่นเลยว่าไม่ว่าคุณต้องการจะทดลองหรือวิจัยอะไร ตราบเท่าที่องค์กร S.H.I.E.L.D. ของเราสนับสนุนคุณได้ เราจะให้การสนับสนุนคุณทุกอย่าง นาตาชา พาดร.แบนเนอร์ ไปเยี่ยมชมรอบๆสํานักงานใหญ่ของเราหน่อย” กัปตันโรเจอร์สกล่าวบอกดร.แบนเนอร์และนาตาชา

“กัปตันโรเจอร์ส ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนที่น่าเชื่อถือ ดังนั้นเมื่อฉันเลือกทางเดินนี้แล้วฉันจะไม่หลบซ่อนตัวอีกต่อไป”ดร.แบนเนอร์ พูดอย่างจริงจัง

เพื่อควบคุมฮัลค์ภายในร่าง ดร.แบนเนอร์ได้หลบซ่อนตัวเป็นระยะเวลาหลายปี ทั้งตัดความสัมพันธ์กับครอบครัว และคนอื่นๆ ธรรมชาติไม่ใช่เพราะเขาต้องการแต่มันจําเป็น ในฐานะนักวิทยาศาสตร์คนนึงที่มีความสามารถระดับโลก ดร.แบนเนอร์มีงานวิจัยอันตราย จํานวนมากที่ต้องศึกษาและทดลอง

ได้ยินคําพูดของ ดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์สยิ้มออกมา” จริงสิ ดร. ตอนนี้คุณต้อองการอะไรหรือไม่?”

“สิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุดตอนนี้ไม่ใช่การทดลองหรืออะไรบางอย่าง ฉันแค่ต้องการความร่วมมือจาก โทนี่ สตาร์ค กว่าหลายปีที่ผ่านมาฉันได้เคยร่วมงานกับเขา และในช่วงนั้นฉันได้ยอมรับความสามารถว่าเขาเป็นคนนึงที่ฉันควรค่าแก่การชื่นชม”

“ต้องการความร่วมมือจากโทนี่? ฉันคิดว่าหากนี่เป็นความต้องการของคุณเอง โทนี่ย่อมไม่ปฏิเสธ” กัปตันโรเจอร์สไม่คิดว่า โทนี่จะปฏิเสธข้อเสนอที่ดีเช่นนี้แน่นอน

เพราะก่อนหน้านี้ โทนี่คาดหวังให้ ดร.แบนเนอร์กลับมามาก แต่เพราะเหตุผลเรื่องมิราจไนท์ ทําให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาอาจจะไม่เหมือนเดิม แต่ก็ไม่ถึงขั้นแตกหักกัน ดังนั้นพอมิราจไนท์หายดีแล้ว กัปตันโรเจอร์สเชื่อว่าโทนี่ย่อมไม่ติดความอะไรเรื่องของดร.แบนเนอร์อีก

“นอกจากนี้ ฉันต้อองการห้องแลปส่วนตัว ยังรวมถึงเขตอํานาจในการเข้าพื้นที่ข้อมูลขององค์กร S.H.I.E.L.D. ด้วย หวังว่าเรื่องนี้คงจะไม่เป็นปัญหาสําหรับคุณนะ กัปตันโรเจอร์ส”ดร.แบนเนอร์ ได้ขอสิ่งเริ่มต้นที่เขาต้องการ

“แน่นอนไม่มีปัญหา!”

ทางด้านโรงเรียนเซเวียร์ ทีมX-MEN หลังจากจบการต่ออสู้ พวกเขาได้กลับมาที่สํานักงานใหญ่ในทันที

ฟุบ!

ไอซ์แมนได้เดินอยู่บนทางเดินพร้อมกับเตรียมจะเคาะห้องประตูใต้ดินที่ถูกปิดไว้ แต่ดูเหมือนมันจะถูกเปิดออกพร้อมกับเผยร่างของหญิงสาวผมสีเงิน

“ไอซ์แมน?นายมหาศาสตราจารย์งั้นหรอ?”ตรงทางเข้า สตอร์มได้กล่าวทักทายไอซ์แมน

“ยืมเฉันมีธุระเล็กน้อย”ไอซ์แมนพยักหน้าตอบ

“งั้นฉันขอตัวก่อน”ได้ยินคําตอบของไอซ์แมน สตอร์มเลือกที่จะเดินจากไป

“ไอซ์แมน มาแล้วงั้นหรอ” หลังจากสตอร์มออกไป เสียงของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ดังขึ้น

ฟุบ!

ได้ยินเสียงของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไอซ์แมนได้ผลักประตูเดินเข้าไปทันที

ตอนที่ 657 บําบัดรักษา

ฟุบ!

หลังจากข้ามประตูมิติเวทมนตร์มา เดดพูลก็เหยียบลงบนพื้นภายในฐานของพวกเขาแต่สิ่งที่เดดพูลรู้สึกแปลกใจก็คือเขามองไปรอบๆ กลับไม่พบมิราจในท์ และสไปเดอร์แมน

“เดี๋ยวนะ? ไม่ใช่ว่าพวกนายกลับมาพร้อมกันหรอกหรอ แล้วมิราจไนท์และสไปเดอร์แมนไปไหนละ นอกจากนี้ นายไปเรียนเวทมนตร์พวกนี้มาจากไหนกัน?” พอไม่เห็นมิราจในท์และสไปเดอร์แมน เดดพูลกล่าวถามแจ็คทันที

“มิราจไนท์ได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ ได้ไปรักษาตัวกับ โทนี่ สตาร์ค ไอรอนแมน เพราะเครื่องมือทางการแพทย์ของพวกเราไม่เพียงพอต่อการรักษาเขาสไปเดอร์แมนก็ติดตามไปด้วย ส่วนฉัน ฉันได้ออกไปศึกษาเวทมนตร์พวกนี้เกี่ยวกับมันฉันไม่สามารถพูดออกมาได้เพราะมันเป็นความลับ”แจ็คอธิบายให้เดดพูลฟัง

“นายไปเรียนพวกนี้จากพวกพ่อมดพวกนั้นงั้นหรอ?ทําไมช่วงเวลาที่ฉันหายไปถึงไม่พบเจอประสบการณ์ที่ดีเช่นนี้บ้าง” เดดพูลพึมพัมออกมา

เพราะเดดพูล และ แจ็คสัน เพิ่งกลับมาถึงโลกได้ไม่นาน พวกเขาก็ต้องมารับมือกับ พวกคิลเลี่ยนอีก เดดพูลไม่มีเวลามากพอที่จะบอกกล่าวประสบการณ์ที่เขาไปเยือนต่างโลกมาแล้ว ดังนั้นเมื่อเห็นว่าตนเองไม่มีประสบการณ์ดีๆ นอกจากเรื่องนี้ เขาก็อยากจะอวดเรื่องนี้ให้คนอื่นๆรู้

“เดี๋ยว นายหายไปไหนมา? จริงสิ นายกับมิราจในท์ หายไปไหนมางั้นหรอ?”ได้ยินคําพูดของเดดพูล แจ็คกล่าวถามในทันที

“มันก็ค่อนข้างซับซ้อนพอสมควร..”เดดพูลอมยิ้มเล็กน้ออย

“ดูจากหน้าตานายแล้ว ดูเหมือนช่วงเวลาที่นายหายตัวไปหลายวัน คงจะมีเรื่องที่น่าจดจําเกิดขึ้นสินะ?”แจ็คกล่าวถามอีกครั้ง

“ถ้าอยากรู้มากขนาดนั้นฉันจะเล่าให้ฟังก็ได้ ในตอนนั้นช่วงที่เรากําลังเผชิญหน้ากับพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสของ คิลเลี่ยน สกาย’ อายได้บอกให้ฉันไปตรวจสอบตําแหน่งของมิราจในท์ที่หายไป จากนั้นฉันก็ไปพบอุโมงค์ประตูมิติอวกาศ” เดดพูลเริ่มนิ้วอารมณ์และพูดสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่ม

“เดี๋ยวนะ นายพาเขามาที่ฐานของเราด้วยงั้นหรอ?”มองไปที่พื้นซึ่งก็คือบุคคลนิรนามแจ็คกล่าวถามออกมา

“แจ็ค! นาย!” ถูกขัดอารมณ์โดยแจ็ค เดดพูลรู้สึกอุ่นเคืองอย่างมาก

“ฉันลืมตัว ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครแต่เห็นเขาบาดเจ็บก่อนจะเข้ามายังที่นี่ฉันจึงแบกเขาเข้ามาด้วย”เดดพูลกล่าวตอบทันที

“สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่โรงพยาบาลมันคือฐานลับของพวกเรา เมื่อมิราจในท์กลับมาฉันหวังว่า คนคนนี้จะไม่ตื่นขึ้นมาอีกทุกกรณี”แจ็คกล่าวพูด

“ชั่งเถอะ เดี๋ยวฉันจัดการเอง ฉันพูดถึงไหนแล้วนะ อุโมงค์มิติอวกาศ..”เดดพูลเริ่มบิ้วอารมณ์อีกครั้ง

หลังจากผ่านช่วงที่เดดพูลแบกคนนิรนามกลับไปยังฐานลับของที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ ทางด้านแจ็คสัน ภายใต้การช่วยเหลือของ J.A.R.V.I.S เขาได้นอนรักษาตัวอยู่บนเตียงพิเศษของสตาร์คอินดัสตรี

แม้ว่าแจ็คสันจะสามารถใช้แต้มคะแนนเพื่อแลกสิ่งของในการฟื้นคืนอาการบาดเจ็บของตนเองได้แต่เขาก็ไม่เลือกที่จะทําเพราะมันจะเป็นการสูญเสียมากเกินไป ดังนั้นเขาว่าจะเก็บมันไว้ใช้ในยามจําเป็น

“แจ็คสัน คุณกําลังคิดอะไรอยู่งั้นหรอครับ? ผมตรวจพบคลื่นสมองของคุณที่ส่งคลื่น รัวแบบผิดปกติ”ในขณะที่ทําการรักษา J.A.R.V.IS ก็พูดขึ้น

“ฮ่าฮ่า ไม่มีอะไร J.A.R.VIS ดูเหมือนนายจะเริ่มเหมือนมนุษย์มากขึ้นทุกทีแล้วนะ”ได้ยินคําพูดของ J.A.R.V.I.S แจ็คสันยิ้มออกมาเล็กน้อย

“มันไม่ดีงั้นหรอครับ?”J.A.R.V.S กล่าวถามออกมา

“ไม่ใช่มันไม่ดี แต่ฉันแค่เป็นห่วงนิดหน่อย!”ในพล็อตเรื่องในภาพยนตร์ความใกล้เคียงมนุษย์ของ J.A.R.V.I.S คือวิวัฒนาการที่แข็งแกร่ง มันสามารถสร้างเหตุการณ์ในหลายๆความหมายได้

“กังวล?คุณกังวลเกี่ยวกับอะไรงั้นหรอครับ?หรือว่าคุณกังวลว่าปัญญาประดิษฐ์จะใช้ความฉลาดในการสร้างปัญหาให้กับมนุษย์?”ได้ยินคําพูดของแจ็คสัน J.A.R.V.I.S กล่าวถามอีกครั้ง

หากการวิวัฒนาการเป็นแบบนี้ต่อไป สมองเอไอของ J.A.R.VIS สามารถพัฒนาไปเป็นเหมือนสมองของมนุษย์ปกติได้และ สิ่งที่ J.A.R.V.1.S คาดเดาก็คือการพัฒนาของปัญญาประดิษฐ์ที่มากเกินไปอาจสามารถสร้างปัญหาให้กับมนุษย์ได้

“ไม่..ฉันไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่อีกแล้ว ท้ายที่สุดมันคงจะไม่เกิดขึ้น เพราะมีหลายสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากมาย”ได้ยินคําพูดของ J.A.R.VIS แจ็คสันสั่นศีรษะทันที

“เปลี่ยนแปลง?คุณหมายถึงอะไร?” J.A.R.V.I.S ไม่เข้าใจคําพูดของแจ็คสัน

“ปาว…ไม่มีอะไร ว่าแต่ อีกนานแค่ไหนถึงจะเสร็จงั้นหรอ ฉันเริ่มรู้สึกคันแขนนิดหน่อยแล้ว”แจ็คสันได้เปลี่ยนหัวข้อคําถามทันที

“การรักษากําลังอยู่ในขั้นตอนสําคัญ ด้วยศักยภาพร่างกายที่แข็งแรงของคุณ อีกประมาณ 1 ชั่วโมงถึงจะเสร็จ” J.A.R.V.S ไม่ได้ซักถามต่อ เขากล่าวอธิบายตามหัวข้อคําถามของแจ็คสัน

จากนั้น แจ็คสันก็อยู่ภายใต้การรักษาของ J.A.R.V.I.S ในช่วงเวลานั้นแจ็คสันก็ได้ครุ่นคิดถึงประสบการณ์มากมายไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปยังต่างโลกการเผชิญหน้ากับเรื่องที่ร้ายแรงต่างๆ และประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน ในการเดินทางครั้งนี้ แจ็คสันก็ได้พบกับหนึ่งในตัวเอกของโลกมาร์เวลอีกคน ชื่อของเขาก็คือ ปีเตอร์ ควิลล์ หรือ สตาร์ลอร์ด

“ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าเราจะพบกันอีก สถานที่ต่อไปที่เราจะพบกันคงจะเป็นหนึ่งในดาวลึกลับสักดวงที่โคจรอยู่นอกโลกละมั้ง!”แจ็คสันได้ปิดตาทั้งสองข้างลงและเริ่มพักผ่อนจิตใจของเขา

ตอนที่ 656 ออกจากสนามรบ

บรรยากาศแห่งมิตรภาพได้ดําเนินไปอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะ มิราจไนท์ไม่ได้ติดใจความของดร.แบนเนอร์ เรื่องทุกอย่างจึงจบลงด้วยดี

“พวกเราไปกันเถอะ บาดแผลของนายไม่สู้ดีนัก ต้องรีบทําการรักษาโดยด่วน” เห็นว่ากัปตันโรเจอร์สยังคงเข้าบทสนทนา โทนี่ จ้องมองไปที่ แจ็คสันและกล่าวบอก

ไม่นานจากนั้นกัปตันโรเจอร์สก็ได้นําทีม K,นาตาชา และ ดร.แบนเนอร์ จากไปด้วยเช่นเดียวกัน

“พวกเราเองก็ไปกันเถอะ”ได้ยินคําพูดของโทนี่ แจ็คสันเลือกที่จะปฏิบัติตาม

แจ็คสันได้หายตัวไปนานหลายวัน จนถึงปัจจุบันเขายังไม่ได้กลับบ้านเลย อาการบาดเจ็บของเขาในตอนนี้ก็ไม่สู้ดีอย่างมาก หากพ่อกับแม่เห็นเขาสภาพนี้ จะต้องเป็นห่วงมากแน่นอน

ทางด้านสมาชิกทีมX-MEN เขาได้กล่าวทักทาย มิราจไนท์ และ แจ็ค ตอนนี้ พวกเขารู้จักตัวตนของแจ็คว่าเป็นหนึ่งในผู้สืบเชื้อสายแรกเริ่มขอองโลกแล้ว แจ็คสันเองก็รู้สึกสนใจในเวทมนตร์ลึกลับที่แจ็คเรียนมาเหมือนกัน

“พวกคุณจะกลับไปนิวยอร์กใช่มั้ย !”เห็นมิราจในท์จ้องมองมาที่ตนเอง แจ็คเหมือนจะเข้าใจได้บางออย่าง

ประตูมิติเวทมนตร์ได้เปิดขึ้นที่เบื้องหน้าของมิราจไนท์ เมื่อเทียบกับประตูมิติอวกาศของบลิงก์แล้วประตูมิติเวทมนตร์ของแจ็คดูลึกลับกว่ามากด้านหลังประตูมิติเวทมนตร์คือฐานลับของที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์

“ไปกันเถอะ! กลับนิวยอร์กกัน!”แจ็คสันตะโกนขึ้นอย่างมีความสุขก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในประตูมิติเวทมนตร์

ด้านหลังของแจ็คสันตามมาด้วยปีเตอร์และแจ็คต่อด้วยโทนี่ พวกเขาได้เข้าประตูมิติเวทมนตร์ไปทั้ง 4 คน จากนั้นประตูมิติเวทมนตร์นี้ก็หดตัวลงจนหายไปจากสายตาของพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์

“ศาสตราจารย์ พวกเราเองก็ไปกันเถอะ! วันนี้มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นมากมายจริงๆ!” หลังจากที่พวกมิราจไนท์ไปแล้ว ไอซ์แมน ก็จ้องมองไปที่เศษซากปรักหักพังจํานวนมากและพูดกับศาสตราจารย์ชาร์ลส์

“อืม”ได้ยินคําพูดของไอซ์แมน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์พยักหน้าตอบ

ฟุบ!

จากนั้นบลิงก์ก็โบกมือขึ้นช่องว่างประตูมิติอวกาศสีม่วงได้ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าขอองสมาชิกทีมX-MEN จากนั้นพวกเขาทุกคนก็เดินหายเข้าไปข้างในหลงเหลือไว้เพียงซากปรักหักพังจํานวนมากและทหารเปลี่ยร่างที่หมดสภาพเหล่านี้

หลังจากที่พวกแจ็คสันและศาสตราจารย์ชาร์ลส์จากไปเงาร่างของคนคนนึงก็เดินกลับมาที่สนามรบอีกครั้งสีหน้าของเขาดูผิดปกติอย่างมาก

“อะไรวะเนี่ย! f ~~ k! หายไปไหนกันหมด!” เดดพูลจ้องมองไปที่ภูมิภาคแห่งนี้และระเบิดเสียงตะโกนออกมา

เพื่อหลีกเลี่ยงสมาชิกทีมX-MENเดดพูลได้หลบหนีออกจากสนามรบชั่วคราวเขาตั้งใจว่าจะรอให้พวก ทีมX-MEN จากไปก่อนและค่อยเข้าไปหาพวกมิราจในท์ แต่เขาไม่คิดเลยว่า พวกมิราจไนท์จะจากไปจากที่นี่โดยไม่รอตนเอง

จากนั้นเดดพูลก็เดินไปยังกลางเศษซากปรักหักพัง

เขาเดินวนรอบสนามรบให้มากที่สุดเพราะความเบื่อหน่าย ก่อนหน้านี้เขารีบเร่งมายังสถานที่แห่งนี้แต่ได้แต่เฝ้ามองสถานการณ์อยู่ห่าง ๆ ดังนั้นสิ่งนี้จึงทําให้เขารู้สึกเซ็งอย่างมาก

หลังจากกวาดสายตาไปทั่วสนามรบ เดดพูลก็มองเห็นศพที่เท้าจํานวนมากไม่ว่าจะเป็นศพที่ถูกเศษซากขนาดยักษ์ทับตายหรือไม่ก็โดนเผาตายผลลัพธ์ของการต่อสู้ย่อมมีเจ็บและล้มตายนี่คือสงครามมันไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแม้แต่น้อย

“เพื่อนเอ๋ยขอให้พวกนายหลับสบายเถอะน!” เดดพูลกล่าวออกมา

จากนั้นเดดพูลก็เข้าไปนั่งบนเศษซากปรักหักพังก่อนที่เขาจะหยิบอะไรบางอย่างออกมา

“ฟูวเยังอยู่ ฉันจะต้องรีบติดต่อ สกาย” อาย ให้เขามารับฉัน”เดดพูลได้หยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมาพร้อมกับเริ่มติดต่อไปยังฐานที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์

ติ๊ด

“สกาย’อาย นี่ฉันเอง เดดพูล ฉันยังติดอยู่ในวอชิงตัน นายพอจะช่วยมองหาทางกลับให้ฉันหน่อยได้มั้ย? “เดดพูลกล่าวออกมา

“ได้เดี๋ยวคุณรอเดี๋ยว!”ได้ยินคําพูดของเดดพูล เจอร์รี่ ตอบกลับเล็กน้อยก่อนที่จะตัดสายไป

“เฮ้อ…ก็ว่าอยู่ว่าลืมอะไร ลืมนายไปนั่นเอง เดดพูล” ขณะนั้นเองก็มีเสียงลึกลับดังมาจากด้านหลังของเดดพูล

เดดพูลได้รีบหันไปจ้องมองทิศทางที่ด้านหลังของเขาประตูมิติเวทมนตร์สีทองได้ปรากฏออกมาจากอากาศบาง ๆ

“แจ็ค!”เห็นประตูมิติเวทมนตร์ เดดพูล เห็นด้านหลังคือฐานของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ และ แจ็ค ยืนอยู่

“ฉันมารับนายหนะ!”แจ็คกล่าวออกมาพร้อมกับคงสภาพประตูมิติเวทมนตร์เอาไว้

“โอ้ว!”ได้ยินคําพูดของแจ็ค เดดพูล ได้ดีดตัวลุกขึ้นพร้อมกับนําร่างของคนคนนึงที่อยู่ใต้เท้าที่ดูเหมือนจะมีชีวิตอยู่แบกไปด้วยก่อนที่เขาจะรีบพุ่งไปที่ด้านหลังของเขาทันที

ฟุบ!

จากนั้นเดดพูลก็เดินหายไปเข้าในประตูมิติเวทมนตร์

ตอนที่ 655 การทักทายของ ดร.แบนเนอร์

ฟุ่บ

เห็นเงาสี่คนเดินมาจากระยะไกล แจ็คสันพยายามพยุงตัวขึ้นอย่างเร่งรีบ

อั๊ก!

แต่ด้วยร่างกายที่กระดูกแตกหักจํานวนมากทําให้เขาผืนลุกได้อย่างยากลําบาก

ด้วยอาการบาดเจ็บที่สาหัสท้ายที่สุดแจ็คสันก็ไม่สามารถฝืนพยายามลุกขึ้นได้สําเร็จ

“มาให้ฉันช่วย!” เห็นลักษณะที่เป็นทุกข์ของมิราจไนท์ แจ็ค ที่อยู่ใกล้ ๆ ยื่นมือออกมาช่วยพยุงขึ้น

ภายใต้การสนับสนุนโดยอาศัยแขนของแจ็ค ในที่สุดแจ็คสันก็ยืนขึ้นได้สําเร็จ ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แน่นอนว่าอาการบาดเจ็บของเขาเป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นฟูให้หายดีดังนั้นแจ็คสันจึงพยายามสะกดข่มอาการเจ็บปวดเท่าที่เป็นไปได้

“ไม่เห็นจําเป็นต้องฝืนเลยแท้ ๆ !”โทนี่ที่เห็นแจ็คสันลุกขึ้นยืนได้อย่างยากลําบากเขาสั่นศีรษะเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปจ้องมองทั้ง 4 คน

ตึก ตึก!

ขณะที่แจ็คสันผืนลุกขึ้นยืน กัปตันโรเจอร์สเองก็เดินเข้ามาที่เบื้องหน้าของเขา ด้านหลังของเขาตามมาด้วย ดร.แบนเนอร์ ในปัจจุบัน ดร.แบนเนอร์ได้สวมชุดแต่งตัวเรียบร้อยดีด้วยรูปลักษณ์ที่ผอมบางของเขาแล้วมันยากที่จะเชื่อว่าแท้จริงเขาก็คือฮัลค์

จากนั้นก็ตามมาด้วย นาตาชา และก็ ปีเตอร์ พวกเขาทั้งหมดได้มารวมตัวกันเพื่อดูอาการของมิราจไนท์

“มิราจในท์ ฮ่าฮ่า ฉันรู้ว่าคุณจะต้องไม่เป็นอะไร!” ปีเตอร์ได้กระโดดเข้าไปหาแจ็คสันอย่างมีความสุข

“หืม?”เห็น ท่าที่สุภาพที่ สไปเดอร์แมนแสดงออก ดร.แบนเนออร์ จ้องมองไปที่ เขาอย่างประหลาดใจก่อนที่สายตาของเขาจะจดจ้องไปที่ร่างของมิราจไนท์

“อาการของแจ็คสันในตอนนี้ย่ำแย่มากฉันคิดว่าสถานการณ์คงจะยืดเยื้อออกไปอีกแน่ ๆ !”เห็นสีหน้าของแจ็คสันและการเข้าหาของกัปตันโรเจอร์สและคนอื่น ๆ โทนี่คิดว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตัดบทสนทนาในตอนนี้

ฟุบ!

“มิราจไนท์ ฉันเป็นตัวแทนของ S.H..E.L.D. อยากจะกล่าวขอโทษเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่รอให้ ดร.แบนเนอร์ เอ่ยปากพูดขึ้นก่อน กัปตันโรเจอร์สก้าวมาครึ่งก้าวด้านหน้าของมิราจไนท์และพูดขึ้น

ที่กัปตันโรเจอร์สเอ่ยปากขอโทษไม่ใช่เพราะว่านี่เป็นความผิดของฮัลค์เพียงอย่างเดียว มันผิดที่เขาด้วยที่เป็นคนดึงตัวของ ดร.แบนเนอร์กลับมาเพื่อสนับสนุนองค์กร S.H.I.E.L.D. ดังนั้นเรื่องนี้เองก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา

ได้ยินคําขอโทษจากกัปตันโรเจอร์สแจ็คสันพยักหน้าเล็กน้อยในตอนนี้พวกเขาเป็นพันธมิตรกันไม่มีความจําเป็นต้องมากพิธีดังนั้น แจ็คสันจึงรับคําขอโทษง่าย ๆ โดยไม่ได้ติดค้างคาใจอะไร

“เขาคือ ดร. บรูซ แบนเนอร์ ?ไม่คิดเลยว่าชายวัยกลางคนคนนี้จะซ่อนสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวอย่างบุคลิกฮัลค์เอาไว้”แจ็คสันจ้องมองไปที่ ดร.แบนเนอร์

เห็นมิราจในท์จ้องมองมาที่ตนเออง ดร.แบนเนอร์ ได้เดินออกไปข้างหน้า

“สวัสดี มิราจในท์! ฉัน บรูซ แบนเนอร์ ต้องขอโทษด้วยที่ฉันไม่สามารถควบคุมฮัลค์ได้และทําให้คุณได้รับบาดเจ็บ” ดร.แบนเนอร์กล่าวขอโทษ

แจ็คสันเองต้องการจะยื่นมือจับทักทายกับ ดร.แบนเนอร์ แต่เนื่องเพราะกระดูกแขนทั้งสองข้างของตนเองหักจึงไม่สามารถทําได้อย่างที่คิด

เห็นว่ามิราจไนท์พยายามจะยื่นแขนออกมาอย่างงุ่มง่าม ดร.แบนเนอร์ ได้กล่าวออกมาทันที” ขอโทษจริง ๆ ที่ฉันทําให้แขนของคุณหัก!”

“ไม่ ๆ… ไม่จําเป็นต้องขอโทษ!”ได้ยินคําขอโทษของ ดร.แบนเนอร์ แจ็คสันพยายามกล่าวห้ามอย่างเร่งรีบ

“ฮ่าฮ่า ดูเหมือนจะเคลียปัญหากันจบแล้วสินะ มิราจไนท์ และ ฮัลค์ ในอนาคตพวกคุณก็ถือเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน ดังนั้นฉันหวังว่าพวกคุณจะเข้ากันได้ดี” เห็นมิราจไนท์ยอมรับคําขอโทษของ ดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์สยิ้มออกมา

เห็นแจ็คสันยอมรับคําขอโทษ โทนี่ เองก็ไม่ได้พูดอะไร ยิ่งไปกว่านั้นเขารู้สึกเหมือนว่าแจ็คสันรู้จักตัวตนที่แท้จริงของ บรูซ แบนเนอร์ มากกว่าเขาเสียอีก

เรื่องที่ฮัลค์อาละวาดในวันนี้ก็กลายเป็นหนึ่งวันที่ไม่จําเป็นจะต้องจดจํายังมีเรื่องอื่น ๆ อีกมากที่เขาควรจะรู้สึกกังวลตออนนี้

ขณะ ที่ ดร.แบนเนอร์ กําลังขอโทษ แจ็คสัน ศาตราจารย์ชาร์ลส์ได้เงียบตลอดช่วงการสนทนา ในช่วงที่พวกเขาพูดคุยกัน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ได้เปิดปากพูดขึ้นเลยเพียงแค่สังเกตุอย่างเงียบ ๆ เท่านั้น

“โลกของเราดูเหมือนจะไม่ได้ง่ายอย่างที่พวกเราคิด! เหนือฟ้ายังมีฟ้าเหนือคนที่แข็งแกร่งก็ยังมีคนที่แข็งแกร่งกว่า”ในปัจจุบัน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กําลังครุ่นคิดอย่างเงียบๆ

เทียบกับทหารเปลี่ยนร่างเหล่านั้นฮัลค์มีความแข็งแกร่งที่แท้จริงอีกทั้งความแข็งแกร่งนั้นยังยากที่จะประเมินเป็นตัวเลขได้ ไม่ว่าอย่างไรความแข็งแกร่งทางพละกําลังทางกายก็มีข้อเสียน้อยที่สุดในยามเกิดเหตุไม่คาดฝันจริงๆ

“ดร.แบนเนอร์ นี่คือศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เขาเป็นผู้นําของ ทีมX-MEN เป็นพันธมิตรขององค์กรS.H.E.L.D. เรา!” ขณะนั้นเองกัปตันโรเจอร์สก็กล่าวแนะนําให้ ดร.แบนเนอร์ รู้จัก ศาสตราจารย์ชาร์ลส์

“ยินดีที่ได้รู้จัก ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ฉันได้ยินเรื่องของคุณมานานแล้ว ทัศนคติของคุณที่ต้องการสร้างโลกที่มนุษย์ธรรมดาสามารถอยู่ร่วมกับเหล่ามิวแทนที่ได้อย่างสงบสุขนั้น ฉันรู้สึกชื่นชอบจริงๆ!”

“ฉันเองก็รู้สึกยินดีที่ได้พบคุณ ดร.แบนเนอร์”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ยิ้มกล่าวตอบ

ตอนที่ 654 ความเป็นห่วงของโทนี่

ได้ยินคําพูดของ โทนี่ กัปตันโรเจออร์ส และ ดร.แบนเนอร์ สามารถคาดเดาได้ในทันที

“มิราจไนท์ เขาฟื้นแล้วงั้นหรอ?” กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามออกไป

“อืม มิราจในท์ เขาฟื้นแล้ว!” คราวนี้เป็นปีเตอร์ที่ตอบแทนเขาเองก็ได้รับข่าวจากแจ็คเมื่อไม่นานนี้

“เรื่องอื่น ๆ ค่อยว่ากันเอาเป็นว่าไปดูสถานการณ์ของเขาตอนนี้ก่อนแล้วกัน”โทนี้ไม่ได้สนใจกัปตันโรเจอร์สเขาได้บินขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง

ฟุบ!

โทนี่ได้จากไปจากพื้นที่ตรงนี้อย่างรวดเร็ว

“เอ่อ..”เห็นโทนจากไปด้วยความเร็ว ปีเตอร์ รู้สึกอับจนคําพูด

“กัปตันโรเจอร์สคุณจะไปกับฉันไหม?”ปีเตอร์ได้กล่าวถามกัปตันโรเจอร์ส

ได้ยินคําพูดของสไปเดอร์แมน กัปตันโรเจอร์ส ยิ้มออกมา ก่อนที่จะเดินไปจับไหล่ทั้งสองข้างของสไปเดอร์แมน เขารู้ดีว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีที่ที่ให้สไปเดอร์แมนใช้สิ่งก่อสร้างในการช่วยบินดังนั้นเขาจึงต้องการหยอกล้ออีกฝ่าย

“ขอบคุณสไปเดอร์แมน!” กัปตันโรเจอร์สยิ้มออกมาเล็กน้อย

“เอ่อ..ฉันไม่ได้หมายความแบบนี้เห็นท่าทีของกัปตันโรเจอร์ส ปีเตอร์ รีบกล่าวปฏิเสธในทันที

“ฮ่าฮ่า ฉันล้อเล่น ยังไงพวกเราก็ไปกันเถอะ” หลังจากหยอกล้อสไปเดอร์แมนเพื่อลดความตึงเครียดเสร็จ กัปตันโรเจอร์ส ก็ออกตัวเดินออกไป

สําหรับ ดร.แบนเนอร์ เขาได้เดินตามไปอย่างเงียบ ๆ ในขณะนั้นเขาก็คิดไตร่ตรองถึงการเผชิญหน้ากับ กัปตันโรเจอร์ส และ ไอรอนแมน ทั้งยังมีเรื่องของ ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ สถานการณ์ในปัจจุบันตึงเครียดอย่างมาก แต่เขาก็ไม่อาจหลีกหนีความรับผิดชอบนี้ได้

“โลกในตอนนี้ชั่งวุ่นวายจริงๆ! ฉันคิดถูกหรือไม่ที่เลือกที่จะกลับมาอีกครั้ง?”มองไปที่เศษซากปรักหักพังโดยรอบ ดร.แบนเนอร์ ครุ่นคิดอย่างเงียบๆ

ขณะที่โทนี่กําลังกลับมา แจ็ค และ ไอซ์แมน ได้สังเกตุอาการปัจจุบันของ มิราจในท์ที่ฟื้นขึ้นมา

“มิราจในท์ ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง?”เห็นมิราจไนท์ตื่นขึ้นมา แจ็ค รีบกล่าวถามอย่างกระทันหัน

“ฉันรู้สึกเจ็บที่แขนและซี่โครงตรงอกนิดหน่อย ทั้งยังเวียนหัวนิด ๆ แต่ขอแค่ได้พักหลายวันฉันคิดว่าอาการน่าจะดีขึ้น”ได้ยินคําพูดของ แจ็ค แจ็คสันกล่าวตอบอย่างเรียบง่าย

การต่อสู้ของแจ็คสันในวันนี้ดาบของเขาได้แตกเป็นเสี่ยง ๆ เนื่องมาจากการรวบรวมพลังที่สร้างเป็นดาบขนาดยักษ์เพื่อทุบฮัลค์ แต่เดิมเขาคิดว่าตนเองได้ชนะฮัลค์ไปแล้วแต่เขากลับคิดผิด

ฮัลค์สามารถรอดพ้นจากการโจมตีนี้มาได้ทั้งยังพุ่งตรงมาหาเขาด้วยความเร็วจนตัวเองไม่มีเวลาตอบสนองได้ทัน การป้องกันในตอนนั้นเป็นร่างกายของตนเองล้วนๆที่แบกรับความเสียหายทั้งหมดหากเขาไม่มีสัญลักษณ์แห่งการป้องกันแจ็คสันเชื่อว่าตนเองคงบาดเจ็บหนักกว่านี้

การเผชิญหน้ากับฮัลค์ในวันนี้นี้ได้สอนหลายอย่างให้กับเขาไม่ว่าการประมาทคู่ต่อสู้หรือการผ่อนคลายในสนามรบ ดังนั้นแจ็คสันตั้งใจจะจํามันเป็นบทเรียน

“เห้อ! ก่อนหน้านี้ที่ฉันเห็นคุณถูกซัดลอยกระเด็นไปไกล ฉันรู้สึกกังวลมาก!”ได้ยินคําตอบของมิราจในท์ ไอซ์แมนที่อยู่ใกล้เคียงกล่าวพูดขึ้น

“ฮ่าฮ่า,ไอซ์แมนต้องทําให้คุณเป็นกังวล ฉันขอโทษจริง ๆ !”ในเวลานี้ แจ็คสันเองก็สังเกตุเห็นเหล่าสมาชิกทีม X-MEN คนอื่น ๆ ด้วยเหมือนกัน

“คุณปลอดภัยก็ดีแล้ว!”ไอซ์แมนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“จริงสิตอนนี้ โทนี่ สตาร์ค กับ สไปเดอร์แมน กําลังออกไปทวงความยุติธรรมให้กับคุณอยู่”แจ็คกล่าวพูดออกมา

“อะไรนะ?”ได้ยินคําพูดของแจ็ค แจ็คสัน กล่าวตอบอย่างประหลาดใจ

ในการต่อสู้กับฮัลค์ในวันนี้ เป็นเพราะแจ็คสันอยากรู้อยากลองและทดสอบความสามารถของตนเองดู ดังนั้น หากจะว่าตามผิด เขาเองก็มีส่วนเช่นเดียวกัน ดังนั้น เขาจึงไม่อยากให้โทนี่ และ ปีเตอร์ ไปหาเรื่องฮัลค์ โดยไม่จําเป็น

“หลังจากที่คุณถูกโจมตีโดยฮัลค์ ดูเหมือนเขาเองก็หายไปเช่นเดียวกัน”แจ็คกล่าวพูดออกมาหลังจากเห็นมิราจในท์ถูกชัดลอยไปไกลตอนนั้นจนถึงตอนนี้เขาไม่สามารถตรวจจับคลื่นพลังงานของฮัลค์ได้

“หายไป?”ได้ยินคําพูดของ แจ็ค แจ็คสันราวกับไม่ประหลาดใจ

เพราะฮัลค์ไม่ได้หายไป แต่กลับร่างเป็น ดร.บรูช แบนเนอร์ ดังนั้นในตอนนี้ โทนี่ และ ปีเตอร์ ก็ไม่น่าจะได้รับอันตราย ดังนั้นแจ็คสันจึงรู้สึกโล่งใจ

ช่วงเวลาที่แจ็คสันฟื้นขึ้นมาเขาได้พูดสนทนากับไอซ์แมนหลายคํารวมถึงศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ในที่สุดเสียงไอพ่นของชุดเกราะไอรอนแมนก็ดังเข้ามาใกล้พวกเขา

ฟูว!

ชุดเกราะไอรอนแมนได้ร่อนลงตรงหน้าของ แจ็คสัน ก่อนที่หน้ากากหมวกของชุดเกราะจะเปิดขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าของโทนี่

“มิราจไนท์ ตอนนี้ นายรู้สึกยังไงบ้าง?”โทนี่กล่าวถามอย่างรวดเร็ว

“ฉันไม่เป็นไร ร่างกายของฉันมีความสามารถฟื้นฟูตนเองที่ดี ดังนั้นแผลเล็กแค่นี้แค่ได้พักสักหน่อยก็น่าจะหายดี”แจ็คสันกล่าวตอบตามจริง

“อย่าได้พูดหน่อยเลย ก่อนหน้านี้ใครกันที่บอกว่าจะไม่ฝืนตนเอง?”ได้ยินคําพูดของแจ็คสัน โทนี่กล่าวพูดอย่างจริงจัง

“เป็นฉันที่ประมาทไป ฮัลค์นั้นแข็งแกร่งจริง ๆ! จริงสิ ได้ยินว่าเมื่อครู่คุณมอองหาเขาแล้วเจอหรือไม่?”เห็นหน้าตาที่จริงจังของโทนี่ แจ็คสันเปลี่ยนหัวข้อคําถาม

“เจอแล้ว เขาตั้งใจที่จะมาขอโทษเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น โทนี่กล่าวออกมา

ของโทนี่ แจ็คสันตอบกลับด้วยความประ

“ขอโทษ?เขาจะมาขอโทษฉันงั้นหรอ?”ได้ยิน หลาดใจ

“พวกเขามานั้นแล้ว!”

หลังจากนั้นโทนี่ก็แจ้งเตือนให้แจ็คสันสังเกตุไปยังทิศทางนึงที่มีเงาร่างทั้ง 4 เดินเคียงคู่กันมา

ได้ยินคําพูดของ โทนี่ กัปตันโรเจออร์ส และ ดร.แบนเนอร์ สามารถคาดเดาได้ในทันที

“มิราจในท์ เขาฟื้นแล้วงั้นหรอ?” กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามออกไป

“อืม มิราจในท์ เขาฟื้นแล้ว!” คราวนี้เป็นปีเตอร์ที่ตอบแทนเขาเองก็ได้รับข่าวจากแจ็คเมื่อไม่นานนี้

“เรื่องอื่น ๆ ค่อยว่ากันเอาเป็นว่าไปดูสถานการณ์ของเขาตอนนี้ก่อนแล้วกัน”โทนี่ไม่ได้สนใจกัปตันโรเจอร์สเขาได้บินขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง

ฟุบ!

โทนี่ได้จากไปจากพื้นที่ตรงนี้อย่างรวดเร็ว

“เอ่อ…” เห็นโทนี่จากไปด้วยความเร็ว ปีเตอร์ รู้สึกอับจนคําพูด

“กัปตันโรเจอร์สคุณจะไปกับฉันไหม?”ปีเตอร์ได้กล่าวถามกัปตันโรเจอร์ส

ได้ยินคําพูดของสไปเดอร์แมน กัปตันโรเจอร์ส ยิ้มออกมา ก่อนที่จะเดินไปจับไหล่ทั้งสองข้างของสไปเดอร์แมน เขารู้ดีว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีที่ที่ให้สไปเดอร์แมนใช้สิ่งก่อสร้างในการช่วยบิ นดังนั้นเขาจึงต้องการหยอกล้ออีกฝ่าย

“ขอบคุณสไปเดอร์แมน!” กัปตันโรเจอร์สยิ้มออกมาเล็กน้อย

“เอ่อ.ฉันไม่ได้หมายความแบบนี้ เห็นท่าทีของกัปตันโรเจอร์ส ปีเตอร์ รีบกล่าวปฏิเสธในทันที

“ฮ่าฮ่า ฉันล้อเล่น ยังไงพวกเราก็ไปกันเถอะ” หลังจากหยอกล้อสไปเดอร์แมนเพื่อลดความตึงเครียดเสร็จ กัปตันโรเจอร์ส ก็ออกตัวเดินออกไป

สําหรับ ดร.แบนเนอร์ เขาได้เดินตามไปอย่างเงียบ ๆ ในขณะนั้นเขาก็คิดไตร่ตรองถึงการเผชิญหน้ากับ กัปตันโรเจอร์ส และ ไอรอนแมน ทั้งยังมีเรื่องของ ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ สถานการณ์ในปัจจุบันตึงเครียดอย่างมาก แต่เขาก็ไม่อาจหลีกหนีความรับผิดชอบนี้ได้

“โลกในตอนนี้ชั่งวุ่นวายจริงๆ! ฉันคิดถูกหรือไม่ที่เลือกที่จะกลับมาอีกครั้ง?”มองไปที่เศษซากปรักหักพังโดยรอบ ดร.แบนเนอร์ ครุ่นคิดอย่างเงียบๆ

ขณะที่โทนี่กําลังกลับมา แจ็ค และ ไอซ์แมน ได้สังเกตุอาการปัจจุบันของ มิราจในท์ที่ฟื้นขี้นมา

“มิราจในท์ ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง?”เห็นมิราจไนท์ตื่นขึ้นมา แจ็ค รีบกล่าวถามอย่างกระทันหัน

“ฉันรู้สึกเจ็บที่แขนและซี่โครงตรงอกนิดหน่อย ทั้งยังเวียนหัวนิด ๆ แต่ขอแค่ได้พักหลายวันฉันคิดว่าอาการน่าจะดีขึ้น”ได้ยินคําพูดของ แจ็ค แจ็คสันกล่าวตอบอย่างเรียบง่าย

การต่อสู้ของแจ็คสันในวันนี้ดาบของเขาได้แตกเป็นเสี่ยง ๆ เนื่องมาจากการรวบรวมพลังที่สร้างเป็นดาบขนาดยักษ์เพื่อทุบฮัลค์ แต่เดิมเขาคิดว่าตนเองได้ชนะฮัลค์ไปแล้วแต่เขากลับคิดผิด

ฮัลค์สามารถรอดพ้นจากการโจมตีนี้มาได้ทั้งยังพุ่งตรงมาหาเขาด้วยความเร็วจนตัวเองไม่มีเวลาตอบสนองได้ทัน การป้องกันในตอนนั้นเป็นร่างกายของตนเองล้วนๆที่แบกรับความเสียหายทั้งหมดหากเขาไม่มีสัญลักษณ์แห่งการป้องกันแจ็คสันเชื่อว่าตนเองคงบาดเจ็บหนักกว่านี้

การเผชิญหน้ากับฮัลค์ในวันนี้นี้ได้สอนหลายอย่างให้กับเขาไม่ว่าการประมาทคู่ต่อสู้หรือการผ่อนคลายในสนามรบ ดังนั้นแจ็คสันตั้งใจจะจํามันเป็นบทเรียน

“เห้อ! ก่อนหน้านี้ที่ฉันเห็นคุณถูกซัดลอยกระเด็นไปไกล ฉันรู้สึกกังวลมาก!”ได้ยินคําตอบของมิราจในท์ ไอซ์แมนที่อยู่ใกล้เคียงกล่าวพูดขึ้น

“ฮ่าฮ่า,ไอซ์แมนต้องทําให้คุณเป็นกังวล ฉันขอโทษจริง ๆ !”ในเวลานี้ แจ็คสันเองก็สังเกตุเห็นเหล่าสมาชิกทีม X-MEN คนอื่น ๆ ด้วยเหมือนกัน

“คุณปลอดภัยก็ดีแล้ว!”ไอซ์แมนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“จริงสิตอนนี้ โทนี่ สตาร์ค กับ สไปเดอร์แมน กําลังออกไปทวงความยุติธรรมให้กับคุณอยู่”แจ็คกล่าวพูดออกมา

“อะไรนะ?”ได้ยินคําพูดของแจ็ค แจ็คสัน กล่าวตอบอย่างประหลาดใจ

ในการต่อสู้กับฮัลค์ในวันนี้ เป็นเพราะแจ็คสันอยากรู้อยากลองและทดสอบความสามารถของตนเองดู ดังนั้น หากจะว่าตามผิด เขาเองก็มีส่วนเช่นเดียวกัน ดังนั้น เขาจึงไม่อยากให้โทนี่ และ ปีเตอร์ ไปหาเรื่องฮัลค์ โดยไม่จําเป็น

“หลังจากที่คุณถูกโจมตีโดยฮัลค์ ดูเหมือนเขาเองก็หายไปเช่นเดียวกัน”แจ็คกล่าวพูดออกมาหลังจากเห็นมิราจในท์ถูกขัดลอยไปไกลตอนนั้นจนถึงตอนนี้เขาไม่สามารถตรวจจับคลื่นพลังงานของฮัลค์ได้

” หายไป?”ได้ยินคําพูดของ แจ็ค แจ็คสันราวกับไม่ประหลาดใจ

เพราะฮัลค์ไม่ได้หายไป แต่กลับร่างเป็น ดร.บรูซ แบนเนอร์ ดังนั้นในตอนนี้ โทนี่ และ ปีเตอร์ ก็ไม่น่าจะได้รับอันตราย ดังนั้นแจ็คสันจึงรู้สึกโล่งใจ

ช่วงเวลาที่แจ็คสันฟื้นขึ้นมาเขาได้พูดสนทนากับไอซ์แมนหลายคํารวมถึงศาสตราจารย์ชาร์ลส์ในที่สุดเสียงไอพ่นของชุดเกราะไอรอนแมนก็ดังเข้ามาใกล้พวกเขา

ชุดเกราะไอรอนแมนได้ร่อนลงตรงหน้าของ แจ็คสัน ก่อนที่หน้ากากหมวกของชุดเกราะจะเปิดขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าของโทนี่

“มิราจในท์ ตอนนี้ นายรู้สึกยังไงบ้าง?”โทนี่กล่าวถามอย่างรวดเร็ว

“ฉันไม่เป็นไร ร่างกายของฉันมีความสามารถฟื้นฟูตนเองที่ดี ดังนั้นแผลเล็กแค่นี้แค่ได้พักสักหน่อยก็น่าจะหายดี”แจ็คสันกล่าวตอบตามจริง

“อย่าได้พูดหน่อยเลย ก่อนหน้านี้ใครกันที่บอกว่าจะไม่ฝืนตนเอง?”ได้ยินคําพูดของแจ็คสันโทนี่กล่าวพูดอย่างจริงจัง

“เป็นฉันที่ประมาทไป ฮัลค์นั้นแข็งแกร่งจริง ๆ จริงสิ ได้ยินว่าเมื่อครู่คุณมอองหาเขาแล้วเจอหรือไม่?” เห็นหน้าตาที่จริงจังของโทนี่ แจ็คสันเปลี่ยนหัวข้อคําถาม

“เจอแล้ว เขาตั้งใจที่จะมาขอโทษเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น”โทนี่กล่าวออกมา

“ขอโทษ?เขาจะมาขอโทษฉันงั้นหรอ?”ได้ยินคําพูดของโทนี่ แจ็คสันตอบกลับด้วยความประหลาดใจ

“พวกเขามานั้นแล้ว!”

หลังจากนั้นโทนี่ก็แจ้งเตือนให้แจ็คสันสังเกตุไปยังทิศทางนึงที่มีเงาร่างทั้ง 4 เดินเคียงคู่กันมา

ตอนที่ 653 ดร.แบนเนอร์ กล่าวขอโทษ

ได้ยินคําพูดเหล่านั้นจากปากของโทนี่ กัปตันโรเจอร์ส และ ดร.แบนเนอร์ เงียบไปครู่นึง เพราะกัปตันโรเจอร์สสังเกตุเห็นได้ถึงอารมณ์โกรธและท่าทางของโทนีที่รุนแรงมากขึ้น

“ไม่…ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ที่ฉันจะบอกก็คือสถานการณ์ในตอนนั้นมันไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นพวกเราเองก็หวังว่าจะช่วยให้มิราจไนท์ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น อันที่จริงฉันคิดว่าเราไม่ควรจําเหตุผลนี้มาทะเลาะกันเลย” กัปตันโรเจอร์สกล่าวอย่างจริงใจ

การได้รับการสนับสนุนจากไอรอนแมนโทนี่ และ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ถือเป็นกําลังพันธมิตรที่สําคัญสําหรับองค์กร S.H.I.E.L.D. ในการโจมตีพวกองค์กรก่อการร้ายต่าง ๆ เพื่อพัฒนาองค์กร S.H.I.E.L.D. ให้แข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก การสนับสนุนจากพวกเขาเป็นสิ่งสําคัญ

แน่นอนว่าความช่วยเหลือจาก ดร. บรูซ แบนเนอร์ เองก็เช่นเดียวกัน ท้ายที่สุดกําลังของพวกเขาทั้งสามอิทธิพลถือเป็นปัจจัยหลักที่ กัปตันโรเจอร์ส และ องค์กร S.H.I.E.L.D. ในตอนนี้ขาดไม่ได้ ดังนั้นมันจะดีกว่ามากหากพวกเราเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันและญาติดีกันไว้

“เหอะ! เรื่องของมิราจไนท์ ฉันไม่ต้องการให้นายเข้ามายุ่ง ฉันจะดูแลเขาเอง!”ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ พูดออกมาอย่างเย็นชา

เมื่อเห็นอารมณ์ที่อึดอัดของโทนี่ กัปตันโรเจอร์ส ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เดิม มิราจไนท์ ก็คือฮีโร่ คนนึงที่ปกป้องบ้านเมืองให้สงบสุขการเผชิญหน้ากับอันตรายถือเป็นเรื่องปกติสําหรับเขา แต่กัปตันโรเจอร์สก็คงไม่อาจใช้เหตุผลนี้ในการพูดคุยกับโทนได้

ฟุบ!

เมื่อกัปตันโรเจอร์สเลือกที่จะเงียบด้านหลังของเขาก็ปรากฏ ดร.แบนเนอร์ เดินก้าวออกมา

“มิสเตอร์ โที่ สตาร์ค มันก็นานหลายปีแล้วคุณยังคงดูสง่าราศีเหมือนเดิม”เห็นชุดเกราะไอรอนแมนที่โทนี่สวมในปัจจุบัน ดร.แบนเนอร์ เริ่มแสดงท่าที่สุภาพ

“มันก็นานหลายปีแล้ว ดร. บรูซ แบนเนอร์ นายเองก็ไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย!”เห็นดร.แบนเนอร์ ทักทายตนเอง โทนี่ เริ่มที่จะเหน็บแนมเรื่องที่ ดร.แบนเนอร์ ไม่สามารถควบคุมฮัลค์ได้

“โทนี่ สตาร์ค คราวนี้มันเป็นความผิดพลาดของฉัน ฉันยินดีที่จะรับโทษทั้งหมดไม่ว่าคุณจะสั่งให้ฉันทําอะไรฉันก็ยินดีรับฟังอย่างเต็มที่” ดร.แบนเนอร์ กล่าวอออกมา

คําขอโทษของ ดร.แบนเนอร์ ทําให้อารมณ์ของโทนี่เย็นลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เรื่องที่มิราจไนท์ได้รับบาดเจ็บจากฮัลค์ ก็เป็นเรื่องจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

ฟุบ!

“คุณสตาร์ค!” ขณะที่ ดร.แบนเนอร์ กล่าวขอโทษโทนี่ ด้านหลังของ ชุดเกราะไอรอนแมนโทนี่ ก็ปรากฏเสียงของสไปเดอร์แมนปีเตอร์

ตุบ!

ทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น ปีเตอร์ ก็กระโดดไปที่เบื้องหน้าของโทนี่เพื่อกั้นเขาออกทันที ปีเตอร์ จ้องมองไปที่บรรยากาศของโทนี่ กับ กัปตันโรเจอร์ส เขารู้สึกได้ถึงความกังวลของทั้งสองฝ่าย

“…” ถูกกันโดย ปีเตอร์ โทนี่ ที่อยู่ตรงข้ามกับ ดร.แบนเนอร์ ได้ส่งเสียง ที่ในลําคอ

การปรากฏตัวของสไปเดอร์แมนทําให้บรรยากาศโดยรอบเริ่มผ่อนคลายลงมาก โทนี่เองก็อารมณ์เดือดมากเกินไป เพราะเห็นสีหน้าที่ไม่สู้ดีของแจ็คสันทําให้สติของเขาขาดชั่วขณะ หากกัปตันโรเจอร์สไม่เข้ามาห้ามเอาไว้เขาคงจะฆ่า ดร.แบนเนอร์ ไปแล้วจริง ๆ แน่นอนว่า หากก่อนหน้านี้ ดร.แบนเนอร์ ออกมาขอโทษตั้งแต่ต้น โทนี่ ก็คงจะไม่ใช้มาตราการที่รุนแรงเช่นนี้

“กัปตันอเมริกา! เอ่อ สวัสดี แล้วนั่น เขาคือ?”ปีเตอร์จ้องมองไปยังทิศทางของกัปตันโรเจอร์สและ ดร.แบนเนอร์

ไม่ทันให้ กัปตันโรเจอร์ส อธิบาย ปีเตอร์ได้เปิดปากขึ้นอีกครั้ง

“หม?กางเกงนั่นใหญ่เป็นบ้า เขาสวมมันไว้งั้นหรอ?”ปีเตอร์พูดออกมา

“นายคือ..”เห็นการปรากฏตัวของสไปเดอร์แมนและจ้องมองมาที่ตนเอง ดร.แบนเนอร์ เปิดปากกล่าวถาม

“ฉันคือ สไปเดอร์แมน! สมาชิกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ นอกจากนี้ ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมิราจไนท์!” ปีเตอร์ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ตออนนี้ชื่อเสียงในปัจจุบันของสไปเดอร์แมนสูงมาก เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้จักตนเอง

“สไปเดอร์แมน! ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ เพื่อนสนิทของมิราจไนท์?”ได้ยินคําตอบของปีเตอร์ ในที่สุด ดร.แบนเนอร์ ก็รู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา

“สไปเดอร์แมน! ฉันชื่อ บรูซ แบนเนอร์ เป็นนักชีววิทยาทางกายภาพ นอกจากนี้ฉันก็คือสัตว์ประหลาดตัวเมื่อครู่ที่ปรากฏตัวเมื่อไม่นานนี้” ดร.แบนเนอร์กล่าวอธิบาย

เพื่อการขอโทษไม่มีอะไรที่เขาจําเป็นต้องปิดบังกับเพื่อนสนิทขอองมิราจไนท์

ได้ยิน ดร.แบนเนอร์ กล่าวแนะนําตัวเอง ปีเตอร์ได้กระโดดถอยหลังไปด้วยความตกใจสัญชาตญาณในร่างของเขาราวกับร้องเตือนอ

“คุณก็คือ สัตว์ประหลาดนั้นจริง ๆ!”ในปัจจุบัน ปีเตอร์ดูหวาดระแวงชายวัยกลางคนคนนี้มาก

“ใช่เขาทําร้ายมิราจไนท์ และ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด นอกจากนี้ ถึงแม้ว่านายจะขอโทษแต่ฉันจะไม่รับฟังคําขอโทษของนายโทนี่ที่อยู่ด้านหลังกล่าวออกมา

“เขายินดีรับผิดทั้งหมดแล้ว โทนี่ นายเองก็ปล่อยวางได้แล้ว” กัปตันโรเจอร์สได้กล่าวพูดบอกโทน

ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์ส ทันใดนั้นเสียงของ J.A.R.VIS ก็ได้ดังขึ้นข้างหูของโทนี่ทันที

ได้ยินเสียงและผลลัพธ์จาก J.A.R.VIS โทนี่รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย

” ก็ได้ฉันยอมรับคําขอโทษ แต่คนที่ควรตัดสินใจในเรื่องนี้ไม่ใช่ฉัน!”

ตอนที่ 652 ฟื้นคืนสติและการเผชิญหน้า

ฟุบ!

“คุณสตาร์ค!” เห็นสีหน้าที่โกรธเคืองของโทนี่ ปีเตอร์ รีบกล่าวกระตุ้นอย่างเร่งรีบ

แม้ว่าอาการบาดเจ็บของแจ็คสันจะรุนแรงมาก แต่ปีเตอร์ก็รู้ว่าแจ็คสันมีความสามารถในการฟื้นตัวเองที่สูง บาดแผลที่คนธรรมดาทั่วไปแทบจะไม่มีทางรักษาแจ็คสันสามารถฟื้นคืนมันได้เพียงแต่อาจจะต้องใช้เวลาหลายวันดังนั้นปีเตอร์จึงไม่ต้องการให้ โทนี่ เข้าไปสร้างปัญหากับ ฮัลค์

จ้องมองไปที่ลมหายใจที่มั่นคงของแจ็คสันในที่สุดปีเตอร์ก็ยืนขึ้นในที่สุด

“แจ็ค,ฝากดูแลมิราจไนท์ด้วย พวกเราจะรีบกลับมาทันที!”ไม่ต้องรอให้โทนี่เข้าไปหาเรื่องฮัลค์ ปีเตอร์ รีบกล่าวบอก แจ็คทันที

“สไปเดอร์แมน นายสบายใจเถอะ ฉันจะดูแลเขาเอง!”แจ็คตอบรับคําของสไปเดอร์แมน ก่อนที่สไปเดอร์แมนจะวิ่งพุ่งตัวออกไปไกล

หึ่ม!

ขณะที่โทนี่และปีเตอร์มุ่งหน้าไปยังทิศทางของ ดร.แบนเนอร์ กับ กัปตันโรเจอร์ส จู่ ๆ พื้นที่ความผันผวนทางมิติสีม่วงก็ปรากฏขึ้นข้าง ๆ แจ็ค

เมื่อรู้ว่าประตูมิติอวกาศนี้เป็นของคนในทีมX-MEN แจ็คไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะดูเหมือนอีกฝ่ายเองก็เป็นห่วงอาการของมิราจไนท์

ฟุบ!

ทันทีที่ประตูมิติอวกาศสีม่วงนี้ถูกเปิดออกเงาร่างของบุคคลนึงก็ปรากฏออกมาจากภายในทันที

“มิราจไนท์! คุณ…”เห็นสภาพของมิราจไนท์ที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นดินไอซ์แมนตะโกนออกมาอย่างกังวล

“เขาไม่เป็นไรมากใช่มั้ย?”ไอซ์แมนหันไปกล่าวถามแจ็คที่อยู่ใกล้ ๆ

ไอซ์แมนไม่มีความสามารถในการตรวจจับออร่าแห่งชีวิตดังนั้นเขาจึงไม่รู้สถานการณ์ของมิราจไนท์ตอนนี้ แต่เหตุการณ์สุดท้ายที่มิราจไนท์โดนฮัลค์อัดเข้าอย่างรุนแรงนั้นไอซ์แมนเห็นด้วยสองตาของตนเอง

“กระดูกแตกหักสมองได้รับการกระทบกระเทือนระดับปานกลาง แต่เขาปลอดภัยดี”ได้ยินคําถามของไซแมน แจ็ค รีบอธิบายตอบกลับ

นอกเหนือจากไอซ์แมนแล้ว สมาชิกคนอื่น ๆ ของทีมX-MEN ที่ตามมาเองก็ได้ยินเช่นเดียวกัน พวกเขากับมิราจไนท์ถือเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน เมื่อพวกพ้องได้รับบาดเจ็บเป็นธรรมชาติที่พวกเขาจะรู้สึกกังวล

“งั้นเหรอ..อาการแตกหัหักของกระดูกและผลกระทบกระเทือนทางสมองถือเป็นอาการบาดเจ็บเล็กน้อย สําหรับมิราจไนท์ ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องไม่เป็นอะไร”ไอซ์แมนกล่าวออกมาอย่างผ่อนคลาย

“อืมเขาควรจะฟื้นขึ้นมาในเร็วๆนี้”แจ็คพยักหน้าเห็นด้วย

เมื่อแจ็คพูดคําเหล่านี้ออกมาเสร็จเขาก็สัมผัสได้ถึงคลื่นความผันผวนทางจิตวิญญาณที่คลุมเคลือเมื่อแจ็คมองหาตําแหน่งของคลื่นเหล่านี้ในทันทีแต่เขาก็ไม่สามารถสัมผัสตําแหน่งที่มาของมันได้

“หืม?ฉันรู้สึกไปเองหรือไม่?”แจ็คครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ

ฟุบ!

เมื่อแจ็คคิดว่าตนเองเข้าใจผิดไปเขาก็ปล่อยวางและจ้องมองไปที่ร่างของมิราจไนท์ แต่ดูเหมือนร่างของมิราจไนท์ในคราวนี้จะเคลื่อนไหวอย่างกระทันหัน

“อั๊ก” ทันทีที่แจ็คสันขยับตัวได้เขาได้เปล่งเสียงคร่ำครวญออกมา

“มิราจไนท์ คุณฟื้นแล้ว!”ได้ยินเสียงคร่ำครวญของมิราจไนท์ แจ็คได้เลิกสนใจคลื่นความผันผวนนั่นและมองไปที่มิราจไนท์อย่างมีความสุข

“…”แจ็คสันได้ยกแขนและขยับตัวอย่างยากลําบากเขาเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้า ๆ

“สวัสดีแจ็ค ดีใจที่ได้พบนายอีกครั้ง!”

ขณะที่แจ็คสันฟื้นขึ้นมา ทางด้านโทนี่เขาได้พุ่งตัวเข้าหาทางด้าน กัปตันโรเจอร์สและ ดร.แบนเนอร์ อย่างรวดเร็ว

“ดร.แบนเนอร์ ฉันจะช่วยพูดคุยกับ สตาร์คให้ก่อนแล้วกัน” เห็นรังสีคุกคามที่ปล่อยออกมาจากชุดเกราะไอรอนแมน กัปตันโรเจอร์สกล่าวออกมา

“อืม ฉันรู้ว่าเขาคงจะโกรธฉัน แต่ฉันก็จะไม่แก้ตัวในเรื่องนี้” ดร.แบนเนอร์ พยักหน้ายอมรับสถานการณ์ในปัจจุบัน

ฟุบ!

เพียงแต่ขณะที่กัปตันโรเจอร์สเตรียมจะพูดคุยกับโทนี่เขาก็เห็นบางอย่างถูกยิงออกมาจากชุดเกราะไอรอนแมน

“โทนี่!” เห็นขีปนาวุธพุ่งตรงมาที่ทิศทางของตนเองกัปตันโรเจอร์สได้ขว้างโล่ไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

ขีปนาวุธได้ระเบิดขึ้นพร้อมกับส่งโล่ของกัปตันลอยกระเด็นไปไกล

แรงสั่นสะเทือนของขีปนาวุธที่ระเบิดขึ้นอยู่ห่างจากพวกเขาแค่ไม่หลายี่สิบเมตรดังนั้นคลื่นแรงสั่นสะเทือนจากการระเบิดย่อมส่งผลให้ กัปตันโรเจอร์ส และ ดร.แบนเนอร์ ที่อยู่ด้านหลังมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก

หลังจากขีปนาวุธถูกยิงออกไปและระเบิดขึ้นสําเร็จ โทนี่ ก็บังคับชุดเกราะไอรอนแมนลอยตกลงมาที่เบื้องหน้าของ กัปตันโรเจอร์ส และ ดร.แบนเนอร์ ก่อนที่โทนี่ จะเปิดหน้ากากขึ้น

“สตีฟ! นายคิดจะปกป้องไอ้คนที่ทําร้าย มิราจไนท์งั้นหรอ?”เห็นสีหน้าของกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ตะโกนถามออกมาอย่างรุนแรง

โทนี่ไม่สนใจว่านั่นจะเป็นอีกบุคลิกนึ่งที่เป็นของดร.แบนเนอร์หรือไม่แต่โทนี่คิดว่านี่เป็นความผิดของ ดร.แบนเนอร์ ที่ปล่อยให้ฮัลค์ออกมาอาละวาด ไม่เพียงแต่จะนําหายนะมาสู่กองทัพไอรอนแมนของเขา ยังสร้างอาการบาดเจ็บที่ร้ายแรงให้กับ แจ็คสันอีกด้วย

“โทนี่ นายใจเย็นลงก่อน ฮัลค์ได้หลุดการควบคุมและอาละวาดอย่างบ้าคลั่ง สถานการณ์ดังกล่าวไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นหรอก และอีกอย่าง มิราจไนท์ได้อาสาตนเองเข้าไปขัดขวางฮัลค์เองอีกด้วย” กัปตันโรเจอร์สรู้ว่าโทนี่กําลังเดือดดาลแต่เขาต้องพยายามระงับอารมณ์โกรธของโทนี่ก่อน

“นายจะบอกว่ามิราจไนท์แส่หาเรื่องเองว่างั้น?”ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ ตอบกลับอย่างรุนแรง

โทนี่คิดว่าเดิม สตีฟ โรเจอร์ส จะยืนอยู่ข้างตนเอง หลังจากที่ S.H.I.E.L.D. ต้องรับเคราะห์เรื่องนี้เช่นเดียวกัน แต่โทนี่ไม่คิดเลยว่า สตีฟ จะปกป้องอีกฝ่าย ปกป้องคนที่ทําร้าย มิราจไนท์ จนบาดเจ็บหนัก ดังนั้นเมื่อได้ยินคําอธิบายของ สตีฟ โทนี่ จึงรู้สึกไม่พอใจอย่างรุนแรง

ตอนที่ 651 ดร.แบนเนอร์แสร้งเป็นคนโง่

เมื่อ ดร.แบนเนอร์ หันศีรษะไปใกล้หูของเขาก็ได้ยินเสียงทักทาย แน่นอนว่า ดร.แบนเนอร์สามารถคาดเดาได้ว่าใครเป็นคนพูดทักทายคําเหล่านี้

ดร.แบนเนอร์ได้กล่าวทักทายกลับทันที”สวัสดี กัปตันอเมริกา สตีฟ โรเจอร์ส!”

ฟุบ!

ในปัจจุบันสภาพของ ดร.แบนเนอร์ ได้ยืนอยู่บนซากปรักหักพังเขาได้ยืนตระหง่านขณะที่สวมใส่กางเกงลําลอง เพียงตัวเดียวก่อนที่จะยิ้มไปที่กัปตันโรเจอร์ส

“ดร.แบนเนอร์ ในที่สุดเราก็ได้พบกันสักที!”กัปตันโรเจอร์สเบิดปากขึ้นอีกครั้ง

นับตั้งแต่กัปตันโรเจอร์สเป็นผู้บริหารองค์กร S.H.I.E.L.D. เขาก็คิดจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับภายในองค์กร อย่างขันแข็ง สิ่งที่องค์กร S.H.I.E.L.D. กําลังขาดตอนนี้ก็คือกองทัพที่แข็งแกร่งและบุคคลที่เป็นแกนนําเหล่านี้ดังนั้นกัปตันโรเจอร์สจึงต้องการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้ดีมากขึ้นเพื่อสนับสนุนยุทโธปกรณ์ทางการทหาร

ในโลกมาร์เวลแห่งนี้ อุปกรณ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งนั้นเป็นตัวแปรสําคัญที่จะพาโลกไปสู่อารยธรรมที่ดีขึ้นดังนั้นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้นจึงสําคัญกับโลกมาก

เพื่อต้องการสร้างสันติภาพให้โลกสงบสุขตราบเท่านาน กัปตันโรเจอร์ส จึงต้องการตัวของดร.แบนเนอร์ มาพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดังนั้นเขาจึงส่งนาตาชาออกไปทําภารกิจนี้โดยเฉพาะ

“ยินดีที่ได้พบกัปตันโรเจอร์ส” ดร.แบนเนอร์ ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

ฟู่ว!

สายลมเย็น ๆ ได้พัดกางเกงลําลองของเขาจน ดร.แบนเนอร์ รู้สึกหนาวที่ขา เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ทําให้เขาอย่างวิตก

“เมื่อครู่ ทำไม ฮัลค์ ถึงปรากฏตัวขึ้นงั้นหรอ?”มองไปที่ ดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์สถามคําถามสาคัญออกมา

“…” ได้ยินคําพูดของ กัปตันโรเจอร์ส ดร.แบนเนอร์ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี

ดร.แบนเนอร์ได้บอกเหตุผลบางอย่างกับนาตาชาเพื่อที่จะเปลี่ยนร่างกลายเป็นฮัลค์ แต่ดูเหมือน นาตาชา คงไม่ได้แจ้งต่อพวกกัปตันโรเจอร์ส ดังนั้น ดร.แบนเนอร์ จึงทําท่าทีแสร้งโง่ต่อไป

“อืม,ดูเหมือนคุณจะรู้สาเหตุที่ฮัลค์ปรากฏตัวออกมาการต่อสู้ในคราวนี้เกิดความสูญเสียมากมายโดยเฉพาะหนึ่งในพันธมิตรของเรา มิราจไนท์ เขาได้รับบาดเจ็บ” เห็นดร แบนเนอร์แสร้งเป็นคนโง่ กัปตันโรเจอร์ส พูดออกมาอีกครั้ง

“เรื่องนี้ฉันเองก็รู้สึกหนักใจเช่นเดียวกัน ฉันต้องขอโทษด้วย เป็นเพราะฉันไม่สามารถควบคุมฮัลค์ได้ ทําให้เขาอาละวาดอย่างบ้าคลั่ง ฉันยินดีจะยอมรับโทษในสิ่งที่เขา ทํา” ดร.แบนเนอร์กล่าวออกมาอย่างจริงใจ

ตอนนี้ ฮัลค์ ที่ได้ระบายอารมณ์ที่บ้าคลั่งไปแล้วได้นอนหลับสนิทแต่ถึงอย่างไร ฮัลค์ ก็เป็นอีกบุคลิกนึ่งของ ดร.แบนเนอร์ เขาเองจะไม่รับผิดชอบเกี่ยวกับบุคลิกอีกด้านของตนเองได้อย่าง

“ฉันเข้าใจว่านี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่คุณต้องการ ดร. !”ได้ยินคําพูดของ ดร.แบนเนอร์ กัปตันโรเจอร์สใช้เหตุผลนี้เพื่อบีบบังคับ ดร.แบนเนอร์ ในทันที มันเป็นความจริงที่มิราจไนท์ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนที่สูญเสียจริง ๆ ควรจะเป็นโทนี่มากกว่า เพราะชุดเกราะไอรอนแมนจํานวนมาก ได้ถูกทําลายไปโดยฮัลค์

“ฉันรู้สึกละอายจริง ๆ ฉันจะพยายามควบคุมไม่ให้ฮัลค์ออกมาอาละวาดแบบนี้อีก!” ดร.แบนเนอร์ พูดอีกครั้ง

“อืม,” กัปตันโรเจอร์สพยักหน้าเห็นด้วยเขาเองก็รู้สึกถึงกับความแข็งแกร่งของฮัลค์ในวันนี้

ขณะที่กัปตันโรเจอร์สกําลังสนทนากับ ดร.แบนเนอร์ ห่างออกไปหลายร้อยเมตร แจ็คสันได้นอนหมดสติอยู่บนพื้นดินในเวลานี้ โดยมี โทนี่ ปีเตอร์ และ แจ็ค ทั้งสามคนคอยช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ สภาพใบหน้าของทั้งสามคนนั้นแสดงออกได้ถึงความเป็นห่วง

“J.A.R.V.I.S ได้ผลวิเคราะห์หรือยัง? มิราจไนท์อาการเป็นยังไงบ้าง?”โทนี่กล่าวถาม J.A.R.V.I.S ด้วยน้ำเสียงกังวล

หลังจากเห็นสภาพอาการของแจ็คสัน โทนี้ ก็รู้สึกร้อนใจอย่างมาก เขารีบให้ J.A.R.V.I.S สแกนร่างของแจ็คสันทันที โชคดีที่ ชุดของแจ็คสันมีส่วนช่วยในการรับแรงกระแทกไม่งั้นสภาพร่างกายของแจ็คสันคงย่ำแย่กว่านี้

“เจ้านายครับ,ร่างกายของคุณ มิราจไนท์ มีอาการแตกหักของกระดูกจํานวนมากทั้งแขนและหน้าอกมีการแตกหักของเนื้อเยื่อ แต่อวัยวะภายในไม่ได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้สมองยังได้รับแรงสั่นสะเทือนระดับปานกลาง คงต้องรอดูอาการอีกที” J.A.R.V.I.S วิเคราะห์ออกมาอย่างรวดเร็ว

จากการรายงานของ J.A.R.V.I.S อาการบาดเจ็บของแจ็คสันดูเหมือนจะร้ายแรงอย่างมาก อาการกระดูกหักเหล่านั้นค่อนข้างน่าเป็นห่วงและสามารถกู้คืนกลับมาได้ยาก อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อสมองอีก การปรากฏตัวขึ้นของฮัลค์ในคราวนี้ แจ็คสัน เองก็มีสิ่งที่ต้องจ่ายไปด้วยราคาเช่นเดียวกัน

ได้ยินรายงานของ J.A.R.V.I.S สีหน้าของโทนี่ภายใต้หมวกไอรอนแมนได้กลายเป็นน่าเกลียดทันที เขาจ้องมองไปยังทิศทางที่ ดร.แบนเนอร์ ที่กําลังสนทนากับ กัปตันโรเจอร์สอยู่

ฟุบ!

จากนั้นโทนี่ก็จุดประกายไอพ่นที่ใต้เท้าและบินตรงไปยังทิศทางนั้นอย่างรวดเร็ว

ตอนที่ 650 การต่อสู้จบลง

“แจ็คสัน!”ในขอบสนามรบปีเตอร์ที่เห็นเงาร่างยักษ์สีเขียวเข้าปะทะกับแจ็คสันกลางอากาศ เขาตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

ฟุบ!

ปีเตอร์ต้องอการจะพุ่งตัวออกไปแต่ก็ถูกหยุดโดยโทนี่ธรรมชาติโทนี่ย่อมไม่ปล่อยให้ปีเตอร์เข้าไปเสี่ยงอันตรายในใจของเขาก็เป็นห่วงแจ็คสันเหมือนกัน

ถูกพุ่งชนอย่างกระทันหันโดยฮัลค์ร่างของแจ็คสันที่ลอยอยู่บนอากาศได้ถูกซัดกระเด็นไปราวกับกระสอบทรายเลียบไปบนพื้นดินในเวลานี้แม้แต่ ทีมX-MEN และ คนอื่น ๆ ก็แทบหัวใจหลุดลงไปอยู่แทบตาตุ่ม แจ็ค ที่เฝ้ามองสถานการณ์อยู่เขาได้รีบสร้างประตูมิติเวทย์มนตร์อย่างรวดเร็วเพื่อหวังจะเข้าไปดูสถานการณ์ของมิราจในท์

หลังจากแจ็คสันถูกซัดเลียบไปบนพื้นดินไถลไปมากกว่า 20 เมตร ด้านหลังของเขาก็ปรากฏประตูมิติเวทมนตร์สีทองจากนั้น แจ็คก็ได้ออกมาจากภายใน

แจ็คได้ยื่นมือทั้งสองข้างเข้าไปเขย่าตัวของมิราจไนท์ แต่ดูเหมือนมิราจไนท์จะไม่ตอบสนองราวกับว่าหมดสติไป การปะทะกันอย่างกระทันหันและรุนแรงขนาดนั้นสร้างแรงพลังงานจลน์อย่างมหาศาล

แจ็คได้คว้าตัวของมิราจในท์และสร้างประตูมิติเวทมนตร์ขึ้นอีกครั้งจากนั้นเขาก็ดึงมิราจไนท์เข้าไปยังประตูมิติเวทมนตร์

ทางด้านปีเตอร์กับโทนี่ ทั้งคู่ สังเกตุเห็นประตูมิติเวทมนตร์สีทองปรากฏขึ้นด้านหลังจากนั้นแจ็คก็ดึงร่างที่หมดสติของแจ็คสันออกมาจากภายใน

การปะทะอย่างกระทันหันครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุที่แจ็คสันประมาทมากเกินไปเขาไม่คิดว่าฮัลค์จะสามารถทนการโจมตีสุดท้ายได้จึงชะล่าใจละการป้องกันไว้ทั้งหมดส่งผลให้ตนเองต้องมีสภาพหมดสติเช่นนี้

ส่วนฮัลค์หลังจากลอบโจมตีครั้งสุดท้ายได้สําเร็จร่างของเขาก็เริ่มเกิดกลายเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่เดิมร่างสีเขียวขนาดใหญ่นั้นได้ลดหดลงกลายเป็นคนธรรมดา ในรูปลักษณ์ของ ดร. บรูซ แบนเนอร์

”!” หลังจากเปลี่ยนร่างกลายเป็น ดร.แบนเนอร์ บนร่างกายของ ดร.แบนเนอร์ ตอนนี้หลงเหลีอเพียงกางเกงแห่งความยิ่งใหญ่เพียงตัวเดียว

ฟุบ!

ดร.แบนเนอร์ ได้ยกศีรษะขึ้นมองไปยังทิศทางของมิราจไนท์ที่ถูก ฮัลค์ซัดไปในตอนท้ายเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด

การต่อสู้กับมิราจในท์แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แต่ ดูเหมือนฮัลค์จะมีความสุขมาก เขาได้ทุ่มสุดตัวจนพลังงานภายในร่างเดือดหายไปจนหมด ฮัลค์ไม่ต้องการที่จะยอมรับความพ่ายแพ้จึงได้ระเบิดพลังโจมตีในครั้งสุดท้ายใส่มิราจในท์

ดร.แบนเนอร์ รู้สึกปวดระบมไปทั่วทั้งร่างจากการปะทะแต่ในคราวนี้คราวแม้แต่เขาเองก็ไม่มีทางลืมตัวตนของมิราจในท์อย่างแน่นอน

“อืม…แสงสีทองนั่น! น่าจะเป็นพรรคพวกของเขาสินะ!” เห็นคนอื่นมาช่วยมิราจไนท์ไปดวงตาที่พร่ามัวของ ดร.แบนเนอร์ ได้ครุ่นคิดออกมา

ฟุบ!

หลังจากกลายร่างกลายเป็น ดร.แบนเนอร์ แล้ว ดร.แบนเนอร์ ก็เห็นสายตาของคนรอบข้างที่เดินเข้ามา เป็นคนของ ที่มX-MEN และ กัปตันโรเจอร์ส

เมื่อเห็นว่าการต่อสู้จบลง ดร.แบนเนอร์ก็สามารถคาดเดาได้ว่าคนเหล่านั้นคงจะมาเค้นความจริงของเรื่องราวทั้งหมดจากตัวเขา ขณะนั้นเอง นาตาชา ก็ได้สั่งให้เครื่องบินลํานั้นจอดลงที่พื้นในเวลาต่อมา

“เขาคือใครกันนะคนที่ฮัลค์สู้ด้วย?ดูจากสีหน้าของ โทนี่ สตาร์ค แล้ว เขาคนนั้นจะต้องสําคัญมากแน่ ๆ ” ขณะที่ ดร.แบนเนอร์ กําลังรอให้นาตาชามารับและอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็หันไปยังทิศทางของ มิราจในท์ ที่นอนหมดสติอยู่

เดิม ดรแบนเนอร์ ต้องการใช้ องค์กร S.H.I.E.L.D. เป็นคนทดลองอารมณ์ในช่วงหลายปีของเขาที่ผ่านมา เขาต้องการทดสอบตนเอง แต่เพื่อนของโทนี่ คนนั้น ดร.แบเนอร์สไม่รู้จักมาก่ออน

เป็นเพราะ ดร.แบนเนอร์ ได้หายตัวไปเป็นระยะเวลานานทําให้เขาไม่รู้จักฮีโร่คนใหม่ของนิวยอร์กคนนี้ อีกทั้งยังไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ที่เขารู้สึกจดจําอีกฝ่ายได้ในตอนนี้ก็เป็นเพราะความแข็งแกร่งที่อีกฝ่ายแสดงให้ตนเองเห็น

เมื่อเห็นความกังวลของโทนี่ สตาร์ค ดร.แบนเนอร์ จึงรู้สึกสงสัยมากขึ้นไปอีก ในใจของเขาก็ค่อนข้างรู้สึกผิดเช่นเดียวกันเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากความอยากทดสอบตนเองของเขา

หลังจากสถานการณ์ในตรงนี้จบลงเขาจะให้ความร่วมมือกับ S.H.I.E.L.D. และ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาระหว่าง โทนี่ สตาร์ค เขาว่าจะไปอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจเหตุผลด้วยตนเอง

“หวังว่าเขาจะไม่มีอคติกับตัวเรานะ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยอมรับผิดในสิ่งที่ทําแม้นั่นจะไม่ใช้ฝีมือของฉันทั้งหมดก็ตาม” ดร.แบนเนอร์ ครุ่นคิดในใจ

ดร.แบนเนอร์ ผิดเองที่คิดว่าตนเองสามารถควบคุมฮัลค์ได้อย่างสมบูรณ์ แต่เหตุการณ์อาละวาดในภายหลังเป็นเขาที่ถูกฮัลค์ควบคุมเสียเอง

ขณะที่ดร.แบนเนอร์ ลุกขึ้นมายืนบัดฝุ่นที่เปรอะเต็มกางเกงของเขา จู่ ๆ ด้านข้างของเขาก็ปรากฏเสียงดังขึ้น

“สวัสดี ดร. บรูซ แบนเนอร์!”

ตอนที่ 649 มิราจไนท์ ปะทะ ฮัลค์ 5

ฟวับ!

เมื่อแจ็คสันฟาดพลังดาบออกไปยังเงาร่างยักษ์ที่ลอยตัวอยู่บนฟ้าประกายแสงสีฟ้าได้เข้าปะทะกับร่างของฮัลค์ที่พุ่งตกลงมาอย่างรวดเร็ว

ร่างของฮัลค์ที่โดนฟันออกไปด้วยรัศมีพลังได้กระเด็นลอยตกลงไปเล็กน้อยก่อนที่จะยกศีรษะขึ้นมาจ้องมองไปยังทิศทางของแจ็คสัน

ตุบ!

เห็นศัตรูยังคงสามารถต้านทานความแข็งแกร่งของตนเองได้แจ็คสันรู้สึกชื่นชมในใจในขั้นต้นแจ็คสันไม่ได้ต้องการที่จะฆ่าอีกฝ่ายเขาจึงไม่สามารถทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อจัดการอีกฝ่ายได้ดังนั้นสิ่งที่เขาคิดตอนนี้ก็คือการทําให้อีกฝ่ายหมดสติหรือบาดเจ็บหนักจนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีกเลย

“สมแล้วที่เป็น ฮัลค์ หนึ่งในฮีโร่สุดแกร่งของโลก มาร์เวล ฉันชักจะชอบเขาเข้าให้แล้ว”แจ็คสันกุมดาบสปิริตซอร์ดในมือแน่นพร้อมกับหัวเราะในใจ

พลังงานภายในร่างของแจ็คสันได้สั่นสะเทือนออกมาอย่างรุนแรงอีกครั้งคราวนี้มันได้ปลดปล่อยและปะทุออกมารุนแรงมากกว่าเดิม

“แต่คราวนี้ ฉันจะทําให้นายไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก!”แจ็คสันกําชับดาบด้วยมือทั้งสองข้างอย่างแน่นหนา

คลื่น!

ประกายพลังงานแสงสีฟ้าได้ก่อตัวบนตัวดาบสร้างออร่าดาบขนาดใหญ่สูงชันขึ้นไปบนฟ้า

คลื่น!

ภายใต้คลื่นรัศมีดาบกระแสอากาศพลันปั่นปวนอย่างรุนแรง ฮัลค์ ได้จ้องมองไปที่ภาพแสงสีฟ้าของตัวดาบที่ราวกับภาพมายาแห่งความฝัน ด้วยความตกตะลึง

แกรัก!

ออร่าพลังงานเหล่านี้เกิดจากการบีบอัดพลังงานสูงสุดของแจ็คสันเขาต้องการจะหยุดฮัลค์ไม่ให้ลุกขึ้นมาออาละวาดได้อีก

รัศมีพลังดาบกําลังรวบรวมกลายเป็นรุนแรมากขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นตัวดาบขนาดใหญ่สีฟ้าก็กดลงไปที่พื้นที่เบื้องล่างอย่างรวดเร็ว ภายใต้รัศมีพลังแห่งดาบร่างกายสีเขียวใหญ่ของฮัลค์ได้ถูกกลืนกินเข้าไปในทันที

“ฮัลค์! ฉันคือ ฮัลค์!” เห็นรัศมีพลังแห่งดาบกลืนกินตนเองเข้าไป ฮัลค์ยกศีรษะขึ้นและคํารามอย่างโกรธเคือง

เพียงพริบตาเดียวรัศมีพลังแห่งดาบก็ตกกระทบและทุบเข้าไปที่ศีรษะของฮัลค์โดยตรงเหมือนกับในฉากของหนักที่ฮัลค์ถูกค้อนเทพเจ้าสายฟ้า

“นี่เป็นปราณดาบที่ฉันสร้างขึ้น โชคร้ายที่ฉันไม่ได้ใช้ค้อนเหมือนในหนังภาพยนตร์” หลังจากวาดผ่านรัศมีพลังแห่งดาบทุบศีรษะของฮัลค์ได้สําเร็จ แจ็คสัน ก็จ้องมองไปยังทิศทางของฮัลค์ด้วยสายตาล้ําลึก

ศีรษะของฮัลค์ได้ถูกปราณดาบฟาดเข้าเต็ม ๆ คราวนี้ ฮัลค์ไม่มีโอกาสที่จะยกมี อปัดป้องรัศมีพลังนี้ได้ทัน

ขณะที่แจ็คสันใช้ปราณดาบสีฟ้าในการล้มฮัลค์ ด้านนอกสนามรบ ก็มี คนในชุดรัดรูป สีแดงยืนสังเกตุการณ์อยู่ด้านหลังของเขาพกดาบสองเล่ม เขาก็คือ เดดพูล หนึ่งในลูกทีมของที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์

“ฉันคิดไว้แล้ว! ในตอนนั้นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวก็ยังพ่ายแพ้แก่มิราจในท์ ไม่แปลกใจที่เจ้าสัตว์ประหลาดเขียวนั่นจะไม่ใช่คู่มือขอองเขา!” เห็นการปะทุพลังที่รุนแรงของมิราจในท์ เดดพูลรู้สึกชื่นชมอย่างมาก เขาเชื่อว่า ฮัลค์ ไม่สามารถเทียบกับสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งที่เขาเจอในดา วดึกดําบรรพ์ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายจะตกเป็นรองมิราจไนท์

“จนถึงปัจจุบัน มิราจในท์ ยังไม่ได้ใช้พลังอย่างเต็มที่แล้วเอาจริงเลยด้วยซ้ํา เขาแข็งแกร่งมากจริง ๆ!”เดดพูล ครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ

“หม?นั่นพวก ทีมX-MEN งั้นหรอ? ไม่ได้ ฉันไม่ต้องการให้พวกเขาพบตัวฉัน ฉันไม่อยากถูกพวกเขาอบรมสั่งสอน”ในสายตาของเดดพูล เขาได้ตกไปกระทบอีกด้านนึงของสนามรบ

จากนั้นเดดพูลก็อ้อมเดินหนีจากสถานที่ตรงนี้ไปยังทิศทาง ทางด้านที่สไปเดอร์แมนอยู่

ในขณะที่เดดพูลเลือกที่จะถอยออกจากสนามและแล้วซ่อนตัวหลบสายตาของพวกที่มXMENทางด้านปีเตอร์ เขากําลังให้ความสนใจกับการต่อสู้ครั้งนี้ เพราะการเคลื่อนไหวของแจ็คสันคราวนี้ คือผลตัดสินแพ้ชนะ

แม้แต่โทนี่ก็ยังอดตกตะลึงไม่ได้เดิมเขาไม่คิดเลยว่าแจ็คสันจะซุกซ่อนความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้เอาไว้

“J.A.R.V.I.S,

“นายคิดว่า แจ็คสันเด็กคนนี้เติบโตมากขึ้นขนาดไหนกัน?ความแข็งแกร่งของเขามากมายกว่าแต่ก่อนเสียอีก!”มองไปที่แจ็คสันที่ลอยตัวอยู่บนอากาศกลางสนามรบ โทนี่กล่าวถาม J.A.R.V.I.S,

“เจ้านายครับ ผมเองก็ไม่สามารถประเมินออกมาเป็นตัวเลขชี้วัดได้” J.A.R.V.I.S, ตอบกลับทัน

“อึม,ไม่แปลกใจเลย”

เมื่อคนเหล่านี้ กําลังคิดว่าการต่อสู้นี้ควรจะจบลงจู่ ๆ เงาร่างขนาดใหญ่ก็พุ่งตัวออกมาจากดินอีกครั้ง มันได้พุ่งเข้าหามิราจในท์ ที่ลอยอยู่กลางอากาศโดยตรง

แจ็คสันที่ลอยอยู่กลางอากาศไม่มีเวลาตอบสนองได้ทันจนในที่สุดเงาร่างนั้นก็พุ่ง เข้าชนใส่แจ็คสันในที่สุด

ตอนที่ 648 มิราจไนท์ ปะทะ ฮัลค์ 4

ฟุบ!

ร่างสีเขียวได้วิ่งตัดผ่านกระแสลมราวกับขีปนาวุธความเร็วสูง เสียงเสียดสีของลมได้ดังเป็นระลอก ๆ เพียงแค่ 0.0 วินาที ฮัลค์ก็พุ่งมาปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของ มิราจในท์ ที่อยู่ใกลออกไปหลายเมตร

เผชิญหน้ากับฮัลค์แจ็คสันไม่ได้มีความหวาดกลัวและเลือกที่จะหลีกเลี่ยงแม้แต่น้อยจุดประสงค์ของเขาก็คือการเผชิญหน้ากับฮัลค์โดยตรง

ในเสี้ยววินาทีเองดาบในมือของแจ็คสันก็ยกขึ้นเขาได้ใช้สองมือยันดาบเอาไว้และต้านทานแรงพุ่งโจมตีของฮัลค์

ติ้ง!

แรงปะทะระหว่างความเร็วของฮัลค์และความแข็งแกร่งของแจ็คสันได้เข้าปะทะกันแต่เพราะความเร็วในพริบตาของฮัลค์ที่ดันดาบของแจ็คสันตอนนี้ทําให้แจ็คสันต้องถอยร่นไปหลายเมตร

“เกราะดาบ!”แจ็คสันคํารามออกมาแรงปะทะของพวกเขาค่อย ๆ ลดลงก่อนที่จะหยุดนิ่งในที่สุด

แรงปะทะแต่เดิมเหล่านั้นที่มากมหาศาลได้ถ่ายเถลงไปที่พื้นทั้งหมดหลังจากนั้นแรงปะทะเหล่านั้นก็หมดลงและแจก

แหน่งที่เหมาะสม

ฮัลค์จ้องมองไปที่แจ็คสันที่กระเด็นถอยไปหลายเมตรเขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะไม่สามารถจัดการอีกฝ่ายได้อีกครั้ง ณ วินาทีนั้น สายตาของฮัลค์ก็แปรเปลี่ยนไป เขาเห็นดาบในมือของศัตรูมีรูปแบบพลังงานไหลท่วมไปทั่วทั้งดาบ

“ฉันจะหยุดนายด้วยทุกอย่างที่มี!” หลังจากยกดาบขึ้นมาแล้วความคิดอันแรงกล้าข องแจ็คสันก็ปะทุขึ้นเช่นเดียวกัน

เพื่อป้องกันการโจมตีของฮัลค์แจ็คสันได้ใช้พละกําลังสวนมากไปกับเรื่องนี้ดังนั้นมันเป็นฝ่ายเขาบ้างแล้วที่จะตอบโต้การโจมตีของอีกฝ่าย

แม้ว่ากลิ่นออร่าพลังงานจะปรากฏขึ้นบนตัวดาบขอองแจ็คสันแต่ฮัลค์ก็ไม่ได้สนใจเขาเพิ่งเล็งไปที่แจ็คสันและเลือกที่จะเผชิญหน้ากับมัน

ขณะเดียวกันฮัลค์ที่เห็นอีกฝ่ายไม่ขยับเคลื่อนไหวเขาได้เปิดฉากโจมตีขึ้นอีกครั้ง ความเร็วของฮัลค์ที่เปิดเผยออกมา กําลังเผชิญหน้ากับความคล่องตัวของมิราจไนท์ ดังนั้นหากคนอื่น ๆ เช่นโทนี่และกัปตันโรเจอร์ส มาเห็นฉากปะทะของทั้งสองคนพวกเขาย่อมต้องไม่เชื่อในสายตาตนเองแน่นอน

“ J.A.R.V.I.S ยังไม่สามารถตรวจสอบสถานการณ์ของพวกเขาได้อีกงั้นหรอ?”ในปัจจุบันหมอกและฝุ่นละอองได้เต็มไปทั่วสนามรบอีกครั้ง โทนี่ ที่รู้สึกกังวลได้ กล่าวถามหา J.A.R.V.I.S

ก่อนหน้านี้ ฮัลค์ ที่ปะทุความเร็วเพื่อโจมตี แจ็คสัน ในเวลานั้น โทนี่ แทบจะมองสิ่งที่เกิดขึ้นแทบไม่เห็น ดังนั้นเมื่อเห็นว่าสนามรบถูกบดบังวิสัยทัศน์อีกครั้งเขาย่อมต้องไม่รู้สึกยินดีในใจ

“การต่อสู้ของ ฮัลค์ และ มิราจไนท์ รุนแรงมาก ด้วยระดับพลังมากที่พุ่งสูงขึ้นมากกว่าระดับ 4 ทําให้คลื่นพลังในสนามรบปั่นป่วนอย่างกระทันหันไม่สามารถตรวจสอบได้ชั่วคราว”ได้ยินคําถามของโทนี่ J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

“แล้วจะตรวจสอบสถานการณ์ของพวกเขาได้อย่างไร?”ได้ยินคําตอบของ J.A.R.VIS โทนี่รู้สึกไม่พอใจในทันที

“คุณ สตาร์ค, แจ็คสัน จะต้องไม่เป็นอะไร! ผมเชื่อมั่นในตัวเขา”เห็นความกังวลของโทนี่ปีเตอร์ที่อยู่ด้านข้างได้กล่าวพูดขึ้น

หลังจากปีเตอร์เข้าสู่สถานที่แห่งนี้ เขาก็ถูกห้ามปรามโดย โทนี่ ในทันที ปีเตอร์ได้รับรู้สถานการณ์ที่ แจ็คสัน เข้าไปเผชิญหน้ากับ ฮัลค์ ในใจของเขาเองก็รู้สึกกังวลในตอนนั้นแต่หลังจากปีเตอร์ ได้รับรู้ข้อมูลบางอย่างมาจาก เดดพูล เกี่ยวกับประสบการณ์ลึกลับหลายวันเรื่องที่เดดพูล เล่าราวกับเรื่องแต่งในเทพนิยายอะไรแบบนั้นเขาเองก็อยากจะฟังเรื่องราวที่ว่านี้จากปากแจ็คสัน ให้มากกว่านี้ ดังนั้นหากเรื่องที่เดดพูลเล่าเป็นเรื่องจริงปีเตอร์ก็เชื่อว่าฮัลค์ย่อมไม่เป็นอันตรา ยต่อแจ็คสันแน่นอน

“นี่เป็นความเชื่ออย่างมืดบอดที่เธอมีต่อเพื่อนของเธออย่างงั้นหรอ?”ได้ยินคําพูดของปีเตอร์โทนี่กล่าวถามอีกครั้ง อาจเป็นเพราะปีเตอร์ไม่รู้ว่าฮัลค์แข็งแกร่งขนาดไหนเลยพูดออกมาส่งเดช

“เดี๋ยวคุณก็ได้เห็น!” เห็นว่าโทนี่ไม่เชื่อใจในสัญชาตญาณของตนเอง ปีเตอร์ ชี้ไปที่กลางสนามรบ

ในสนามรบตอนนี้ปกคลุมไปด้วยหมอกและฝุ่นละออง เงาร่างสีดําได้พุ่งออกมาจากหมอกเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องสงสัยว่าเงาร่างนี้เป็นใคร ก็เพราะเขาคือ มิราจไนท์

“ดูเหมือนการเผชิญหน้ากับฮัลค์โดยตรงไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีนัก!”แจ็คสันได้กระโดดลอยตัวออกมาจากหมอกควันได้จ้องมองไปที่บาเรียเกราะดาบที่พังทลายลงไป

บาเรียเกราะดาบนี้เป็นการรวบรวมกําลังภายในของเขาเพื่อสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งขึ้นมาแต่เมื่อเผชิญหน้ากับฮัลค์ ถึงแม้จะหยุดการโจมตีของฮัลค์ ได้ แต่บาเรียเกราะดาบก็ได้ฟังทลายลงในทันที

เศษพลังงานเหล่านั้นได้กระจัดกระจายหายไป หากเกราะดาบเหล่านั้นหายไปและต้อองเผชิญหน้ากับฮัลค์ที่บ้าคลั่งแล้วแจ็คสันอาจจะเจ็บตัวโดยไม่จําเป็น

นอกจากนี้บาเรียเกราะดาบของตนเองยังกินพลังงานภายในมากกว่าที่คิด หากพลัง งานภายในร่างของเขาหมดลงมันจะเป็นเขาเองที่เสียเปรียบในการต่อสู้กับฮัลค์ต่อจากนี้

“หม?” ขณะที่แจ็คสันกําลังครุ่นคิดบางอย่างจู่ ๆ เขาก็เห็นเงาร่างขนาดใหญ่กระโดดขึ้นไปบนอากาศแจ็คสันได้ยกดาบสปิริตซอร์ดของตนเองขึ้นก่อนที่ปลายดาบจะสั่นไหวเล็กน้อย

ฟุบ!

พลังงานภายในของแจ็คสันได้ถ่ายโอนไปยังตัวดาบอีกครั้งจากนั้นตัวใบดาบก็ปกคลุมไปด้วยรัศมีพลังสีฟ้าที่มากล้น

“สะบั้น!”แจ็คสันได้ตวัดดาบสปิริตซอร์ดของเขาออกไปจากนั้นคลื่นรัศมีพลังสีฟ้าก็ถูกปลดปล่อยออกไปอย่างรุนแรง

ฟุบ!

ตอนที่ 647 มิราจไนท์ ปะทะ ฮัลค์ 3

ฟุบ!

เมื่อแจ็คสันหายตัวไปฮัลค์ที่พุ่งเข้ามาคว้าจับเอาไว้ก็คว้าได้แต่เพียงภาพลวงตาที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังจากนั้น แจ็คสันก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะซัดกําปั้นไปที่แก้มด้านขวาของฮัลค์อย่างหนักหน่วง

หลังจากถูกโจมตีโดยแจ็คสันฮัลค์ก็ร่วงหล่นจากบนฟ้าพุ่งตรงลงสู่พื้นดินพริบตาต่อมาใบหน้าของฮัลค์ก็ปรากฏแววตาแห่งความโกรธเคือง

ติ้ง!

ฮัลค์ได้ดีดตัวลุกขึ้นมาอีกครั้งและเอียงศีรษะจ้องมองมิราจในท์ที่ลอยอยู่บนอากาศบาดแผลเดิมที่ถูกแจ็คสันโจมตีได้เริ่มฟื้นฟูตนเองอย่างกระทันหัน แม้ฮัลค์จะมีความยืดหยุ่นในการรักษาที่แข็งแกร่งแต่ก็ยังไม่อาจจับทิศทางและตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

“โฮก!”เห็นว่าตนเองไม่สามารถโจมตีโดนมิราจไนท์ได้ ฮัลค์ คํารามออกมาอีกครั้ง

ฟุบ!

จากั้นร่างของฮัลค์ก็ถีบตนเองพุ่งขึ้นไปบนอากาศเพื่อโจมตีแจ็คสันอย่างรวดเร็วโชคดีที่แจ็คสันมีความคล่องตัวและความเร็วสูงทําให้เขาสามารถโยกหลบการโจมตีกระทันหันของฮัลค์ได้

“สิ่งนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่ เพราะฮัลค์ไม่สามารถบินบนฟ้าได้”แจ็คสันจ้องมองไปที่ฮัลค์และครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ

เขาต้องการจะทดสอบความแข็งแกร่งของตนเองดังนั้นการที่เขาบินบนฟ้าแบบนี้ก็ไม่สามารถทําให้ฮัลค์สามารถถจู่โจมเข้าได้ จุดแข็งของแจ็คสันมีมากเกินไป หากเขาต้องการทดสอบตนเองเขาจะต้องสู้กับฮัลค์อย่างสูสี

“แม้จะเสี่ยงสักหน่อยแต่เพื่อให้ฮัลค์จดจําฉันได้แล้วฉันคงต้องมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้กับเขา”ในที่สุดแจ็คสันก็ตัดสินใจที่จะไม่ใช่เทคนิคเหยียบอากาศ

ฟุบ!

เขาได้เหยียบบนอากาศหลายครั้งก่อนที่จะพุ่งเป้าไปยังทิศทางของฮัลค์พร้อมกับยกดาบสริตซอร์ดของตนเอองฟันออกไป

ฟวั่บ!

ภาพมายาของแจ็คสันที่ทิ้งไว้เบื้องหลังนั้นสามารถทําให้ผู้คนไขว้เขวได้แน่นอนว่าไม่ เว้นแม้แต่ฮัลค์แต่เพราะแจ็คสันเก็บงําความแข็งแกร่งที่แท้จริงเอาไว้และไม่ได้ต้องการที่จะสัง หารอีกฝ่ายทําให้จุดเด่นในการลอบจัดการของเขาต้องถูกฮัลค์มองเจตนาที่แท้จริงออก

ฟุบ!

ฮัลค์ได้สวนกําปั้นของตนเองไปยังตําแหน่งดาบของแจ็คสันก่อนที่จะส่งแจ็คสันลอยถอยกลับไปไกล

มือของแจ็คสันสั่นไหวเล็กน้อยหลังจากปะทะเข้ากับหมัดของฮัลค์โดยตรงหากข้อมือและพละกําลังทางกายของตนเองไม่แข็งแกร่งแจ็คสันเชื่อว่าข้อมือของเขาคงจะหักไปแล้ว

“ฟูว! เกือบไปแล้ว!” เห็นแรงปะทะจากตัวดาบที่ส่งผ่านมาที่ข้อมือของเขา แจ็คสันพึมพัมออกมาเล็กน้อย

ในปัจจุบันแจ็คสันจ้องมองไปที่ฮัลค์และเปรียบเทียบจุดแข็งที่ฮัลค์มีมันค่อนข้างน่าประใจจริงๆนั่นยิ่งกระตุ้นให้แจ็คสันอยากรู้อยากลองมากขึ้นไปอีก

ในขณะเดียวกันตําแหน่งไม่ไกลจากสนามรบก็มีหลายคนที่ตกตะลึงกับการต่อสู้ระหว่างมิราจไนท์กับฮัลค์

“ฮัลค์สามารถป้องกันการโจมตีของ มิราจไนท์ได้!” กัปตันโรเจอร์สและทีมสนับสนุนที่เฝ้ามองสนามรบจากระยะไกล เขาได้เปิดปากอุทานอย่างตกใจ

กัปตันโรเจอร์สรู้ดีถึงพละกําลังที่แข็งแกร่งของฮัลค์แต่ศักยภาพทางร่างกายของมิราจ ไนท์ก็แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน ดังนั้นมันจึงไม่แปลกที่การต่อสู้นี้จะมีสิ่งที่ทําให้คนอย่างเขารู้สึกสั่นไหวอยู่หลายครั้ง

“เตรียมพร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์อยู่ด้านนอกต้านทานพวกเขาเอาไว้ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในสนามรบหากฝ่ายตรงข้ามเริ่มตอบโต้ ให้ทําการโจมตีสวนกลับได้เลย” กัปตันโรเจอร์สได้หันไปกล่าวสั่งลูกทีมของเขา

“เข้าใจแล้วกัปตัน”ได้ยินคําสั่งของกัปตันโรเจอร์สพวกเขาตอบกลับอย่างรวดเร็ว

จากนั้นกัปตันโรเจอร์สก็มุ่งหน้าเข้าสู่สนามรบอีกครั้งดวงตาของเขาจ้องมองไปยังทิศทางทาง

“ฮัลค์! ฉันคือ ฮัลค์!”ร่างของฮัลค์ปะทุออกอมาอย่างรุนแรงและคํารามเสียงดัง

เขาได้ใช้ร่างกายของตนเองพุ่งตรงไปด้านหน้าราวกับขีปนาวุธความเร็วสูง

ฟุบ!

จากนั้นร่างกายสีเขียวก็พุ่งตรงออกไปเหนือความเร็วเสียง

ฟุบ!

เมื่อแจ็คสันหายตัวไปฮัลค์ที่พุ่งเข้ามาคว้าจับเอาไว้ก็คว้าได้แต่เพียงภาพลวงตาที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังจากนั้น แจ็คสันก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะซัดกําปั้นไปที่แก้มด้านขวาของฮัลค์อย่างหนักหน่วง

หลังจากถูกโจมตีโดยแจ็คสันฮัลค์ก็ร่วงหล่นจากบนฟ้าพุ่งตรงลงสู่พื้นดินพริบตาต่อมาใบหน้าของฮัลค์ก็ปรากฏแววตาแห่งความโกรธเคือง

ฮัลค์ได้ดีดตัวลุกขึ้นมาอีกครั้งและเอียงศีรษะจ้องมองมิราจในท์ที่ลอยอยู่บนอากาศบาดแผลเดิมที่ถูกแจ็คสันโจมตีได้เริ่มฟื้นฟูตนเองอย่างกระทันหัน แม้ฮัลค์จะมีความยืดหยุ่นในการรักษาที่แข็งแกร่งแต่ก็ยังไม่อาจจับทิศทางและตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

“โฮก!”เห็นว่าตนเองไม่สามารถโจมตีโดนมิราจไนท์ได้ ฮัลค์ คํารามออกมาอีกครั้ง

ฟุบ!

จากั้นร่างของฮัลค์ก็ถีบตนเองพุ่งขึ้นไปบนอากาศเพื่อโจมตีแจ็คสันอย่างรวดเร็วโชคดีที่แจ็คสันมีความคล่องตัวและความเร็วสูงทําให้เขาสามารถโยกหลบการโจมตีกระทันหันของฮัลค์ได้

“สิ่งนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่ เพราะฮัลค์ไม่สามารถบินบนฟ้าได้”แจ็คสันจ้องมองไปที่ฮัลค์และครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ

เขาต้องการจะทดสอบความแข็งแกร่งของตนเองดังนั้นการที่เขาบินบนฟ้าแบบนี้ก็ไม่สามารถทําให้ฮัลค์สามารถถจู่โจมเข้าได้ จุดแข็งของแจ็คสันมีมากเกินไป หากเขาต้องการทดสอบตนเองเขาจะต้องสู้กับฮัลค์อย่างสูสี

“แม้จะเสี่ยงสักหน่อยแต่เพื่อให้ฮัลค์จดจําฉันได้แล้วฉันคงต้องมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้กับเขา”ในที่สุดแจ็คสันก็ตัดสินใจที่จะไม่ใช่เทคนิคเหยียบอากาศ

ฟบ!

เขาได้เหยียบบนอากาศหลายครั้งก่อนที่จะพุ่งเป้าไปยังทิศทางของฮัลค์พร้อมกับยกดาบสปิริตซอร์ดของตนเอองฟันออกไป

ฟวั่บ!

ภาพมายาของแจ็คสันที่ทิ้งไว้เบื้องหลังนั้นสามารถทําให้ผู้คนไขว้เขวได้แน่นอนว่าไม่เว้นแม่แต่ฮัลค์ แต่เพราะแจ็คสันเก็บงําความแข็งแกร่งที่แท้จริงเอาไว้และไม่ได้ต้องการที่จะสังหารอีกฝ่ายทําให้ จุดเด่นในการลอบจัดการของเขาต้องถูกฮัลค์มองเจตนาที่แท้จริงออก

ฟุบ!

ฮัลค์ได้สวนกําปั้นของตนเองไปยังตําแหน่งดาบของแจ็คสันก่อนที่จะส่งแจ็คสันลอยถอยกลับไปไกล

มือของแจ็คสันสั่นไหวเล็กน้อยหลังจากปะทะเข้ากับหมัดของฮัลค์โดยตรงหากข้อมือและพละกําลังทางกายของตนเองไม่แข็งแกร่งแจ็คสันเชื่อว่าข้อมือของเขาคงจะหักไปแล้ว

“ฟูว! เกือบไปแล้ว!” เห็นแรงปะทะจากตัวดาบที่ส่งผ่านมาที่ข้อมือของเขา แจ็คสันพึมพัมออกมาเล็กน้อย

ในปัจจุบันแจ็คสันจ้องมองไปที่ฮัลค์และเปรียบเทียบจุดแข็งที่ฮัลค์มีมันค่อนข้างน่าประใจจริงๆ นั่นยิ่งกระตุ้นให้แจ็คสันอยากรู้อยากลองมากขึ้นไปอีก

ในขณะเดียวกันตําแหน่งไม่ไกลจากสนามรบก็มีหลายคนที่ตกตะลึงกับการต่อสู้ระหว่างมิราจไนท์กับฮัลค์

“ฮัลค์สามารถป้องกันการโจมตีของ มิราจไนท์ได้!” กัปตันโรเจอร์สและทีมสนับสนุนที่เฝ้ามองสนามรบจากระยะไกล เขาได้เปิดปากอุทานอย่างตกใจ

กัปตันโรเจอร์สรู้ดีถึงพละกําลังที่แข็งแกร่งของฮัลค์แต่ศักยภาพทางร่างกายของมิราจ ไนท์ก็แข็งแกร่งเช่นเดียวกันดังนั้นมันจึงไม่แปลกที่การต่อสู้นี้จะมีสิ่งที่ทําให้คนอย่างเขารู้สึกสั่นไหวอยู่หลายครั้ง

“เตรียมพร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์อยู่ด้านนอกต้านทานพวกเขาเอาไว้ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในสนามรบหากฝ่ายตรงข้ามเริ่มตอบโต้ ให้ทําการโจมตีสวนกลับได้เลย” กัปตันโรเจอร์สได้หันไปกล่าวสั่งลูกทีมของเขา

“เข้าใจแล้วกัปตัน”ได้ยินคําสั่งของกัปตันโรเจอร์สพวกเขาตอบกลับอย่างรวดเร็ว

จากนั้นกัปตันโรเจอร์สก็มุ่งหน้าเข้าสู่สนามรบอีกครั้งดวงตาของเขาจ้องมองไปยังทิศทางทาง

นึ่ง

“ฮัลค์! ฉันคือ ฮัลค์!”ร่างของฮัลค์ปะทุออกอมาอย่างรุนแรงและคํารามเสียงดัง

เขาได้ใช้ร่างกายของตนเองพุ่งตรงไปด้านหน้าราวกับขีปนาวุธความเร็วสูง

ฟุบ!

จากนั้นร่างกายสีเขียวก็พุ่งตรงออกไปเหนือความเร็วเสียง

ตอนที่ 646 มิราจไนท์ ปะทะ ฮัลค์ 2

คลื่น!

รัศมีพลังแสงสีฟ้าได้ปะทุออกมาจากบนอากาศตอนบนมันพุ่งเข้าใส่เบื้องหน้าของฮัลค์ที่อยู่ด้านล่าง

“คู่ต่อสู้ของฮัลค์!” ฮัลค์ราวกับอุทานคํานี้ออกมา

ตั้งแต่ฮัลค์เริ่มปรากฏตัวขึ้นในสนามรบการกระทําของเขาก็มีแต่การต่อสู้เขาให้ความสนใจแก่ศัตรูไม่ว่าจะเป็น ที่มX-MEN ไอซ์แมน สตอร์ม หรือ S.H.I.E.L.D. ทีม K กัปตันโรเจอร์สและตอน นี้ก็มาเป็นไอรอนแมน ทั้งหมดทั้งมวลไม่มีใครสามารถเอาชนะฮัลค์ได้ แต่พอมาตอนนี้เผชิญหน้ากับกลิ่นอายพลังที่แข็งแกร่ง ฮัลค์สัมผัสได้ถึงคู่ต่อสู้ของตนเอง

เผชิญหน้ากับคลื่นพลังสีฟ้าในปัจจุบันฮัลค์ได้ยกแขนทั้งสอองข้างขึ้นเพื่อป้องกัน จากนั้นไม่นานทั่วทั้งร่างของฮัลค์ก็ปกคลุมและอยู่ภายใต้ของคลื่นพลังงานนั้น

” J.A.R.V.I.S สามารถตรวจสอบสถานการณ์ของแจ็คสันได้หรือไม่?”ในสนามรบปัจจุบันที่ถูกปกคลุมไปด้วยคลื่นพลังงานสีฟ้า โทนี่ รู้สึกกังวลใจบางอย่าง

“เจ้านายครับ,สามารถตรวจสอบ มิราจไนท์ และ ฮัลค์ได้ในตอนนี้ แต่ด้วยผลกระทบทางด้านพลังงานทําให้ไม่สามารถรับสถานการณ์และประมวลผลสนามรบที่ชัดเจนได้ แต่ก็สามารถคาดการณ์ได้ว่าทั้งสองคนยังคงปลอดภัยดี”ได้ยินคําพูดของ โทนี่ J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

“ถือเป็นเรื่องที่ดี แล้วเรื่องการสนับสนุนจาก ที่มX-MEN และ S.H.I.E.L.D. ได้เรื่องว่าไงบ้าง?”โทนี่กล่าวถามอีกครั้ง

“ทางด้านทีม X-MEN พวกเขากําลังเตรียมพร้อมคงต้องใช้เวลาพอสมควร สวน กองกําลังสนับสนุนของ S.H.I.E.L.D. ได้มาถึงแล้ว แต่พวกเขาได้เข้าไปขัดขวางเจรจากับทางกองทัพเพื่อ ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับสนามรบตอนนี้ J.A.R.V.S กล่าวตอบอีกครั้ง

ได้ยินว่า ทีมX-MEN กําลังฟอร์มทีมเตรียมพร้อม โทนี่ ก็รู้สึกโล่งใจ ส่วนทางด้านกัปตันโรเจอร์ส เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะโดยไม่จําเป็น กัปตันโรเจอร์สได้เข้าไปห้ามปราบพวกคนของทางกองทัพ ดังนั้นสิ่งที่โทนี่รอตอนนี้ ก็คือ กองกําลังสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือ แจ็คสัน

หากไม่เป็นเพราะทางกองทัพเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ กองกําลังของ S.H.E.L.D. ก็คงจะมาสนับสนุนได้อย่างไม่ยาก เรื่องนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางกองทัพเต็ม ๆ เหตุผลหนึ่งในนั้นคือการทดลองลับของทางกองทัพ ที่ใช้เลือดของฮัลค์ มาเป็นตัววิจัยและพัฒนาทหารเปลี่ยนร่างพวกนั้น

เทคโนโลยีพวกนี้หากเสร็จสมบูรณ์ย่อมกลายเป็นงานวิจัยที่เทียบเท่ากับเตาปฏิกรณ์อาร์คของชุดเกราะไอรอนแมนของตนเอง มันไม่สําคัญแล้วว่างานวิจัยอีกฝ่ายสามารถเทียบเท่าตนเองได้หรือไม่แต่เขาไม่ชื่นชอบวิธีการที่ทางกองทัพใช้ที่จะรับมือกับพวกมิวแทนท์คนอื่น ๆ ดูเหมือนจบเรื่องในคราวนี้เสร็จโทนี่จะต้องทําอะไรบางอย่างบ้างแล้ว

“เจ้านายครับ,สไปเดอร์แมนมาถึงแล้ว” ขณะที่โทนี่กําลังพูดถึงเรื่องกองทัพ J.A.R.V..S ก็กล่าวเตือนโทนี่

ก่อนหน้านี้ที่เผชิญหน้ากับคิลเลี่ยน ปีเตอร์ ได้เข้าการต่อสู้และจัดการคิลเลี่ยนได้ในที่สุดหลังจากนั้น ปีเตอร์ ก็ขอตัวจากไป เขาไม่รู้เลยว่ามีเรื่องเกิดขึ้นที่วอชิงตันแห่งนี้ต่อดังนั้นเมื่อได้รับข่าวปีเตอร์ จึงรีบมาที่นี่โดยเร็วที่สุด

“ปีเตอร์? บอกเขาอย่าให้เข้าใกล้าสนามรบ ฉันไม่ต้องการเพิ่มความกังวลใจของฉันอีก”โทนี่วางแผนจะให้ ปีเตอร์ เฝ้ามองสถานการณ์อยู่ห่าง ๆ

เพราะแจ็คสันเจ้าเด็กตัวแสบนี้ไม่ค่อยฟังคําพูดของเขา หากปีเตอร์เป็นไปด้วยอีกคน โทนี่ก็ย่อมรู้สึกปวดหัวจริงๆดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เขาคิดว่าจะไปพูดกับ ปีเตอร์ โดยตรง

ฝุ่นจากการระเบิดที่เกิดขึ้นเกิดหน้านี้ค่อย ๆ จางหายไปในที่สุด จากนั้น สนามรบที่เดิมเห็นได้อย่างไม่ชัดเจน ก็ค่อย ๆ ปรากฏร่างเงาคนนึงขึ้น

“นั่น มิราจในทั้งั้นหรอ?” หลังจากหมอกควันและฝุ่นละอองค่อย ๆ หายไป ในที่สุด แจ็คที่เฝ้ามองสังเกตุการณ์อยู่ก็อุทานออกมาอย่างประหลาดใจ

ก่อนหน้านี้เขาได้ให้ความช่วยเหลือและต่อสู้ในแนวหน้าจนรู้สึกอ่อนล้า แจ็ค จึงได้ออกจากสนามรบมาเพื่อพักฟื้น แต่ตอนนั้นเอง มิราจไนท์ได้ปรากฏตัวขึ้น และ เข้าปะทะกับฮัลค์ทําให้แจ็ครู้สึกกังวลใจพอสมควร รูปแบบสีเขียวของฮัลค์ได้หายไปจากสายตาของเขาตอนนี้

“เดี๋ยวก่อน!เขาไม่ได้หายไป แต่…”

“ฮัลค์!” ขณะที่แจ็คกําลังสงสัยจู่ ๆ เสียงคํารามแห่งความโกรธก็ดังผ่านจากศูนย์กลางของนามรบ

ร่างกายขนาดใหญ่ของฮัลค์ได้ถูกซัดจมลงไปที่ใต้ดิน หลังจากได้สติฟื้นคืน ฮัลค์ก็ตะโกนออกมาและพุ่งตัวเข้าหามิราจในท์ในทันที

“แม้แต่ความแข็งแกร่ง 80% ก็ยังสามารถป้องกันได้อีกงั้นหรอ? สมแล้วที่ เป็นฮัลค์! แจ็คสันจ้องมองไปยังทิศทางของฮัลค์ที่กําลังพุ่งตัวเข้าหาตนเอง

เมื่อไม่นานมานี้ แจ็คสันได้ดึงดาบสปิริตซอร์ดของตนเองออกมาและใช้ท่าคลื่นสะบั้นผ่าวิญญาณออกไปเดิมเขาคิดว่าพละกําลังเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการฮัลค์ได้

แต่ถึงอย่างนั้นฮัลค์กลับใช้เพียงแค่แขนในการต้านรับการโจมตีสุดโหดอันนั้นไม่แปลกใจที่แจ็คสันจะชื่นชมอีกฝ่าย

“ดูเหมือนฉันจะดูถูกอีกฝ่ายมากไปหน่อย!” เห็นปัจจุบันฮัลค์เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ แจ็คสันได้กระพริบตาเล็กน้อย

ฟรี่บ!

จากนั้นร่างของแจ็คสันก็ทิ้งไว้เพียงภาพมายาก่อนที่จะหายตัวไป

ตอนที่ 645 มิราจไนท์ ปะทะ ฮัลค์ 1

ไอรอนแมนอีกตัวได้ถูกฮัลค์ฉีกกระจายชิ้นส่วนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจายไปทั่วทุกหนแห่งในใจของโทนี่รู้สึกตึงเครียดมาก แม้ว่ากองทัพไอรอนแมนของเขาจะปลดปล่อยปืนใหญ่พลังงานใส่ฮัลค์ก็ราวกับว่าไม่สามารถทําอันตรายใด ๆ ฮัลค์ได้เลย ความกลัวของชื่อฮัลค์ ค่อย ๆ สลักลงในใจโทนี่อย่างช้า ๆ

“แบนเนอร์ เพื่อนคนนี้หายตัวไปนานตั้งหลายปี?มาคราวนี้ปรากฏตัวขึ้นและเปลี่ยนร่างกลายเป็นฮัลค์อีกทั้งยังไม่สามารถควบคุมได้ เหตุผลที่แท้จริงมันคืออะไรกันแน่?”เห็น ดร.แบนเนอร์ กลายเป็นฮัลค์ในสถานการณ์ก่อนหน้านี้ โทนี่ ขมวดคิ้วแน่นอย่างสงสัย

บรูซ แบนเนอร์ หรือ ฮัลค์ ก่อนหน้านี้ มองหากัปตันโรเจอร์ส อย่างรุนแรง แต่มาคราวนี้ฮัลค์กลับเปลี่ยนเป้าหมายเป็น ตนเอง นี่ทําให้ โทนี่ รู้สึกสงสัย ฮัลค์ในตอนนี้ก็กําลังอาละวาดอย่างบ้าคลั่งทําให้ โทนี่รู้สึกราวกับหายนะที่สูญเงินของเขาออกไป

“ดูเหมือนฉันจะต้องหาทางยับยั้ง ฮัลค์ โดยเร็วที่สุด!”โทนี่กล่าวออกมาตอนนี้เขาเหลือชุดเกราะไอรอนแมนอีก 3 ตัว ที่อยู่ที่นี่

ฟุบ!

ขณะที่ โทนี่กําลังครุ่นคิดวิธีที่จะจัดการฮัลค์ จู่ ๆ เงาร่างสีดําบางอย่างก็พุ่งผ่านทิศทางของเขาไป

“เจ้านายครับ คุณมิราจไนท์ มุ่งหน้าเข้าสู่สนามรบแล้ว!” .A.R.VIS เปิดปากเตือน

“ฉันเห็นแล้ว! ทําไมเจ้าเด็กคนนี้ถึงดื้อดึงนัก แม้ฉันจะสูญเสียชุดเกราะไอรอนแมนทั้งหมดฉันก็ไม่ต้องการให้เขาได้รับบาดเจ็บ!”โทนี่ กล่าวออกมาด้วยความกังวล

ฟุบ!

โทนี่ได้เตรียมพร้อมชุดเกราะไอรอนแมนของตนเอง เขาไม่ลังเลที่จะทุ่มสุดตัวเพื่อจัดการฮัลค์เพราะเขาไม่ต้องการให้ แจ็คสัน ต้องเข้าไปเผชิญหน้ากับอันตราย

” J.A.R.V.I.S ติดต่อ กัปตันโรเจอร์ส และ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ในทันที บอกกับพวกเขาว่าสถานการณ์เช่นนี้ไม่มีเวลามามัวเล่นกันอยู่แล้ว!”โทนี่ ตะโกนบอก J.A.R.V.I.S

“ครับเจ้านาย!”ได้ยินคําพูดของโทนี่ J.A.R.VIS ปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เริ่มติดต่อกับศาสตราจารย์ชาร์ลส์ และ กัปตันโรเจอร์ส

“แจ็คสัน! เจ้าเด็กคนนี้ เขากําลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ? ทําไมถึงพุ่งเข้าไปแบบนั้น ทั้งยังเมินเฉยการติดต่อจากฉันอีก!”โทนี่ ตะโกนออกมาอด้วยความโกรธ

แจ็คสันเลือกที่จะเมินเฉยคําพูดของโทนี่และไม่ตอบกลับ เขารู้ได้ชัดว่าตนเองกําลังทําอะไรแน่นอนว่าเขารู้ขีดจํากัดของตนเองดีหากไม่สามารถจัดการฮัลค์ได้เขาก็จะเลือกที่จะถอยออกมา

“คุณ สตาร์ค คุณสบายใจได้ ผมแค่จะลองทดสอบความแข็งแกร่งของตนเองกับฮัลค์ดูแน่นอนว่าผมจะไม่ฝืนตนเองเด็ดขาด!” แจ็คสันกล่าวอธิบายตอบกลับไปเล็กน้อย

“ฝืนตนเอง?อะไรที่เรียกว่าผืนตนเอง!?”ได้ยินคําตอบของแจ็คสัน โทนี่ แทบจะรู้สึก โกรธจนเป็นบ้าแจ็คสันต้องการใช้ความแข็งแกร่งของฮัลค์ทดสอบความแข็งแกร่งของตนเอง? นี่มันใช่เรื่องที่ควรทํางั้นหรอ

ฟุบ!

“เจ้านายครับ,ระดับพลังงานภายในร่างของ คุณ แจ็คสัน พุ่งสูงขึ้นมากถึงระดับ 4″ขณะเดียวกัน J.A.R.V.I.S ก็กล่าวเตือนโทนี่

เพื่อที่จะแสดงความมั่นใจให้โทนี่ดู แจ็คสันได้ปลดล็อคชุดแพนท่อมสูทของตนเองและปลดปล่อยความแข็งแกร่งออกมาโดยตรง เพื่อให้ J.A.R.V.I.S สามารถตรวจสอบระดับพลังงานภายในร่างของเขาได้

” หม?มากถึงระดับ 4! เจ้าเด็กคนนี้เก็บงําความแข็งแกร่งเอาไว้อย่างงั้นหรอ?”โทนี่รู้สึกไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

“เจ้านายครับ….บางทีตอนนี้คุณแจ็คสันอาจเป็นเพียงคน ๆ เดียวที่สามารถต่อกรกับฮัลค์ได้ดีที่สุดในตอนนี้” J.A.R.V.I.S กล่าวแนะนํา

จากการตรวจสอบของ J.A.R.V.I.S เมื่อเทียบความแข็งแกร่งของ แจ็คสัน และ ฮัลค์ ความแข็งแกร่งของพวกเขาแทบไม่ได้แตกต่างกันเลย ดังนั้น J.A.R.VIS เชื่อว่า แจ็คสันอาจมีโอกาสที่จะสามารถจัดการกับฮัลค์ได้

“นายคิดงั้นจริงหรอ?”ได้ยินคําพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวถามอย่างจริงจัง

“ครับ,” J.A.R.V.I.S ตอบกลับอย่างมั่นใจ

“ก็ได้งั้นปล่อยให้เขาลองไป หากมีเรื่องที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้นฉันจะลงมือตอบโต้ขั้นเด็ดขาดในทันที นายเองก็เถอะเตรียมตัวไว้”โทนี่ ปล่อยให้ แจ็คสัน รับมือกับฮัลค์

” ครับ!”

เมื่อตระหนักได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งของแจ็คสัน โทนี่ เชื่อว่าแจ็คสันคงจะไม่แพ้ง่าย ๆ ดังนั้นเขาจึงไว้วางใจให้แจ็คสันรับมือกับฮัลค์ จากนั้นไม่นานดาบสปิริตซอร์ดที่อยู่ข้างเอวของเขาก็ถูกดึงออกมาใช้

“ฮัลค์ ฉันมาแล้ว!” เมื่อเข้าใกล้ตําแหน่งสนามรบและเห็นฮัลค์อยู่ภายใต้ระยะการโจมตีแจ็คสันพุ่งเครื่องร่อนของตนเองเข้าหาอีกฝ่ายด้วยความเร็วสูง

“เพื่อนคนนั้นเป็นพันธมิตรร่วมทีมของโทนี่งั้นหรอ?”เห็นแจ็คสันพุ่งเครื่องร่อนเข้ามาหาตนเองจิตใต้สํานึกของ ดร.แบนเนอร์ ได้พึมพัมออกมา แม้เขาจะมีจิตใต้สํานึกคงเหลืออยู่แต่ก็ไม่อาจห้ามปราบฮัลค์ได้

สําหรับฮัลค์ที่ฉีกชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่เป็นว่าเล่นจนคิดว่าไม่มีใครพอที่จะเป็นคู่มือของเขาได้พอเห็นแจ็คสันปรากฏตัวฮัลค์ลิงโลดด้วยความดีใจ

“ฮัลค์!” ฮัลค์คํารามออกมาพร้อมกับจ้องมองไปที่แจ็คสันและเปิดแขนทั้งสองข้างขึ้น

พริบตาต่อมาคลื่นพลังที่คุ้นเคยได้ถูกปลดปล่อยออกมาจากใบดาบของแจ็คสัน

ฟุบ!

ลําแสงสีฟ้าได้วาดผ่านออกมาจากเบื้องหน้าของแจ็คสันพุ่งเข้าหาฮัลค์ที่อยู่ด้านล่าง

ตอนที่ 644 ความอยากรู้อยากเห็นของแจ็คสัน

ตึก!

“เกิดอะไรขึ้น? ฮัลค์กําลังต่อต้านฉัน!” หลังจากการจากไปของ ทีมX-MEN ดูเหมือนฮัลค์จะมีท่าทีที่โกรธมากขึ้น

เพราะการจากไปนี้ทําให้ ฮัลค์ไม่มีคู่ซ้อมมือตนเอง ดังนั้น ดร.แบนเนอร์จึงถูกฮัลค์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธกลืนกิน หากฮัลค์อาละวาดอย่างเต็มที่ นี่ย่อมไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เขาต้องการ

“ฮัลค!”ในที่สุดประกายแสงในนัยน์ตาของฮัลค์ก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวลึกล้ำอย่างทั่วถึงก่อนที่เขาจะคํารามออกมาด้วยความโกรธ

จิตใต้สํานึกของ ดร.แบนเนอร์เริ่มที่จะจางหายไป วิสัยทัศน์ของฮัลค์จ้องมองไปที่ชุดเกราะไอรอนแมนที่อยู่ด้านหลัง มีเพียงไอรอนแมนตัวนี้เท่านั้นที่ลอยอยู่ไม่ไกลจากตัวเขา

“J.A.R.V.I.S ฉันคิดว่ามีบางอย่างแปลกไป?”เห็นฮัลค์คํารามออกมาอย่างโกรธเคือง โทนี่กล่าวถามจาก J.A.R.V.I.S

“เจ้านายครับ,ระดับพลังงานของฮัลค์ กําลังพุ่งสูงขึ้น!”ได้ยินคําพูดของโทนี่ J.A.R.V.I.S ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

“บ้าเอ้ย! นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!”ได้รับข่าวจาก J.A.R.V.S ผิวของโทนี่ กลายเป็นน่าเกลียดมากขึ้น

ขณะที่โทนี่กําลังวิเคราะห์ว่าทําไมระดับพลังงานของฮัลค์กําลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฮัลค์เองก็กําลังพุ่งตรงเข้าหาโทนี่อย่างรวดเร็ว

“เร็วเข้า รีบหลบเร็ว!” เห็นฮัลค์พุ่งเข้ามาอยู่ไม่ไกลจากตนเอง โทนี่ กล่าวสั่ง J.A.R.V.I.S

ฟุบ!

แต่ทว่าร่างของฮัลค์ได้กระโดดลอยขึ้นไปบนอากาศพร้อมกับกางแขนออกเตรียมขย้ำชุดเกราะไอรอนแมนอย่างเต็มที่

“โฮกก!”

ปั้ง!

ชุดเกราะของโทนี่ถูกฮัลค์ตบกระเด็นร่วงลงไปที่พื้นแรงสั่นสะเทือนทําให้โทนี่รู้สึกจุกจากภายใน

“อั๊ก!”

“เจ้านายครับ,ระบบไฟฟ้าเสียหาย เหลือพลังงานเพียง 30%” หลังจากถูกฮัลค์ฟาดลงมาที่พื้นดิน ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ ก็ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

ติ๊ด ติ๊ด!

“เวรเอ้ย! ทําไมเขาถึงเพ่งเล็งมาที่ฉันทันที หรือว่าพอไม่เห็นคู่ต่อสู้อื่นก็เลยเปลี่ยนตําแหน่งมาเป็นฉัน?”โทนี่กล่าวออกมาอย่างไม่เต็มใจ

เขาไม่รู้และทําได้เพียงแต่คาดเดาการกระทําของฮัลค์ ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

” J.A.R.V.I.S ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ หากเขาเปลี่ยนเป้าหมายเป็นเรา เราก็คงจะต้องอยู่เล่นกับเขา ฉันจะแสดงให้เห็นว่าชุดเกราะไอรอนแมนของฉัน ไม่ใช่ผักนุ่มที่จะสามารถเคี้ยวได้ง่าย ๆ “โทนี่ ตัดสินใจที่จะไม่หลบหนีอีกต่อไป

“ครับเจ้านาย!” J.A.R.V.I.S ได้ตอบรับคําพร้อมกับเริ่มคํานวณมุมโจมตีที่ดีที่สุด

ฟุบ!

ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ได้ลอยขึ้นกลางอากาศอีกครั้งจากนั้นชิ้นส่วนที่เสียหายก็ถูกปลดออกอย่างรวดเร็วขณะที่ชิ้นส่วนชุดเกราะใหม่หลายชิ้นได้บินเข้ามาประกอบทดแทนชิ้นส่วนเหล่านั้น

โทนี่ได้ตัดสินใจที่จะตอบโต้ฮัลค์คืนมั้ง ในเวลานี้ เขาเสียใจมากที่สั่งการชุดเกราะไอรอนแมนจํานวนมากให้กลับไปก่อนหน้านี้ไม่งั้นโทนี่ที่มีกองทัพไอรอนแมนมากกว่า 100 ตัวน่าจะสามารถเผชิญหน้ากับฮัลค์ได้พอสมควร

เมื่อได้รับคําสั่ง J.A.R.VIS ก็เริ่มบังคับชุดเกราะไอรอนแมนเพื่อทําการโจมตี ฮัลค์ ได้จ้องมองและตั้งรับการโจมตีจากชุดเกราะไอรอนแมนเหล่านั้นในระหว่างนั้นสายตาสีเขียวที่ล้ำลึกของฮัลค์ก็รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

“ฮัลค์!”ฮัลค์ตะโกนคํารามออกมาและเริ่มกระโจนเข้าหาชุดเกราะไอรอนแมนที่ลอยอยู่กลางเวหา

ปั้ง

ฮัลค์ได้ทําการโจมตีไปยังชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ที่ลอยอยู่กลางอากาศราวกับว่าสิ่งที่ฮัลค์ต้องการตอนนี้ก็คือการอาละวาดอย่างเต็มที่

“นั่นคือฮัลค์จริง ๆ อย่างงั้นหรอ? ทําไมถึงรู้สึกว่าพละกําลังมันอ่อนแอมากกว่าที่ฉันคิดเอาไว้?”มองไปที่ความแข็งแกร่งของฮัลค์ แจ็คสันที่เฝ้ามองจากระยะไกลบ่นพึมพัมออกมา

ถึงเขาจะไม่เคยเผชิญหน้ากับฮัลค์มาก่อน แต่ แจ็คสันก็สามารถวิเคราะห์สถานการณ์โดยรวมได้ ก่อนหน้านี้ ฮัลค์ได้เผชิญหน้ากับกัปตันโรเจอร์ส แต่กัปตันโรเจอร์ส ก็ยังสามารถโจมตีสวนกลับป้องกันได้ นี่แสดงให้เห็นว่าพละกําลังของฮัลค์มันขัดต่อหลักความจริง ที่แจ็คสันรู้

ปั้ง!

แต่ถึงระดับความแข็งแกร่งจะไม่ถึงขอบเขตที่แจ็คสันคํานวณเอาไว้ก็ตามแต่ด้วยพลังระดับนี้ก็เพียงพอแล้วที่ฮัลค์จะสามารถบดขยี่ชุดเกราะไอรอนแมนได้ด้วยมือเปล่า

“ฉันจะลองเข้าปะทะเผชิญหน้ากับฮัลค์เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งดูดีหรือไม่?”แจ็คสันรู้สึกสนใจในเรื่องนี้

แจ็คสันได้ตัดสินใจที่จะเผชิญหน้าและท้าทายโลก มาร์เวล แห่งนี้ แน่นอนว่าหากความแข็งแกร่งระหว่างตนเองกับศัตรูห่างชั้นมากเกินไปแจ็คสันก็ย่อมไม่เอาตนเองเข้าไปเสี่ยงอย่างแน่นอน แต่ฮัลค์นั้น เพียงแค่อาละวาด เขาไม่ใช่ศัตรูที่แจ็คสันจะต้องกําจัดทิ้ง

“เอาล่ะตัดสินใจแล้ว! หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ชุดเกราะไอรอนแมน ของโทนี่ จะถูกทําลายไปทั้งหมด!”แจ็คสันที่ตัดสินใจได้ในที่สุดเขาได้หยิบเครื่องร่อนและเริ่มเดินเครื่องอีกครั้ง

ฟุบ!

จากนั้นแจ็คสันก็ขับเคลื่อนเครื่องร่อนของตนเองมุ่งตรงเข้าไปยังทิศทางสนามรบ

ตอนที่ 643 ไม่ใช่คู่มือของฮัลค์

ฟ้าว!

ชุดเกราะไอรอนแมนที่อยู่บนอากาศจู่ ๆ ก็ถูกโจมตีจากพละกําลังอันแข็งแกร่งของฮัลค์ พริบตาเดียว ชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัวก็ถูกซัดกระเด็นและถูกทําลายภายใต้การโจมตีนี้

“เวรเอ้ย! ฮัลค์ กําลังเป็นบ้าไปแล้ว”โทนี่ ที่สูญเสียชุดเกราะไอรอนแมนหลายตัว เขาจ้องมองฮัลค์ที่ ร่วงตกลงไปในเวลาเดียวกัน

เขารู้ดีว่าพละกําลังของฮัลค์นั้นแข็งแกร่งแต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะทุ่มกําลังและจัดการบดขยี้ชุดเกราะไอรอนแมนได้ในพริบตา

ฮัลค์ในปัจจุบันดูไม่เหมือนเมื่อหลายปีก่อน ฮัลค์ในตอนนี้ดูน่ากลัวกว่าเดิมอย่างมาก โทนี่ไม่ต้องการที่จะลองของและสร้างความโกรธเคืองให้กับฮัลค์ ดังนั้น โทนี่ จึงสั่งการให้ J.A.R.V.I.S ควบคุมชุดเกราะไอรอนแมน ให้แยกย้ายออกจากกันอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าโทนี่จะไม่เต็มใจที่จะใช้วิธีนี้ แต่มันก็เป็นสิ่งจําเป็น แม้การเผชิญหน้ากับคิลเลี่ยนก่อนหน้านี้ ไอรอนแมนจะมีบทบาทสําคัญ ไม่เว้นแม้แต่การต่อสู้กับพวกสมาคมมิวแทนท์ ไอรอนแมนก็ยังมีบทบาทสําคัญอยู่ แต่หลังจาก แมกนีโต จากไป และ ตอนนี้พวกเขามาเผชิญหน้ากับฮัลค์ ชุดเกราะไอรอนแมนที่เป็นจุดแข็งของโทนี่ ที่ไม่สามารถใช้การได้กับแมกนีโต ตอนนี้ศัตรูที่เขาควรกังวลก็มีเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งนั่นก็คือฮัลค์ ชุดเกราะไอรอนแมนทุกตัวล้วนเป็นทรัพย์สินของเขาพวกมันเปรียบเสมือนเงินของตนเอง หากชุดเกราะไอรอนแมนของตนเองถูกทําลายก็เหมือนกับเขาสูญเสียเงินไปนั่นเอง

“เจ้านายครับ โค้ดเนม ดูไบ อาวุธลับของเรากําลังเข้าสู่ตําแหน่งวงโคจรในระยะยิง แต่จําเป็นจะต้องใช้เวลาในการประมวลผลเนื่องจากเปิดใช้งานครั้งแรก” J.A.R.V.I.S กล่าวออกมา

ดูไบ เป็นโค้ดเนมลับของอาวุธใหม่ล่าสุดของ สตาร์คอินดัสตรีท เนื่องจากก่อนหน้านี้บนสะพานโกลเด้นเกทในระหว่างที่เผชิญหน้ากับไฮดร้า พวกเขาได้ใช้พลังเวทย์มนตร์ของลูกบาศก์เวทมนตร์ในการก่อกวนคลื่นสัญญาณต่าง ๆ ทําให้การโจมตีของพวกโทน ทั้งหมดถูกจับทางได้ ดังนั้นโทนี่ จึงเตรียมพร้อมอาวุธยุทธโธปกรณ์ที่โจมตีจากทางอากาศ มันมีส่วนที่คล้ายกับระบบดราม่าคริซิส ที่เป็นระบบฟื้นฟูสัญญาณของ โทนี่ เรื่องนี้ มีS.H.I.E.L.D. เข้ามาเกี่ยวข้อง โทนี่ไม่ได้มีอํานาจในส่วนนี้อย่างเต็มที่

ก่อนหน้านี้ที่โทนี่จะสร้างระบบอาวุธนี้เสร็จ เขาได้รับการสนับสนุนจากกัปตันโรเจอร์สเป็นอย่างดี ดังนั้นตัวของระบบจึงใช้เวลาสร้างไม่นานกว่าที่เขาคิดเอาไว้ ส่วนชื่ออาวุธ เป็น แจ็คสันที่เป็นคนตั้ง และ โทนี่ ก็ไม่ได้คัดค้านข้อเสนอแนะของแจ็คสัน

“ยกเลิกทั้งหมด ฉันไม่ต้องการใช้ ดูไบ ในตอนนี้”ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S โทนี่ กล่าวอย่างสงบ

เผชิญหน้ากับฮัลค์ที่ดุร้ายเช่นนี้เขาไม่กล้าที่จะเสี่ยงใช้ความรุนแรง ฮัลค์ คือบุคลิกที่รุนแรงดังนั้นโทนี่ จึงไม่อยากจะเผยไพ่ตายนี้ออกมาด้วย เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะสามารถต้านทานการโจมตีของตนเองได้หรือไม่ แต่พลังภายในร่างของฮัลค์ตอนนี้มีสูงมากกว่าระดับ 4

โทนี่เองก็ไม่ต้องการให้ชุดเกราะไอรอนแมนของตนเองถูกทําลายไปมากกว่านี้ แต่เขาก็อยากจะหยุดฮัลค์ให้ได้ นอกจากนี้ ฮัลค์ ก็คือ ดร.แบนเนอร์ เขาไม่สามารถทุ่มกําลังเพื่อจัดการฆ่าอีกฝ่ายได้

เห็นไอรอนจากไป ฮัลค์ ได้จ้องมองไปยังทิศทางนั้น จู่ ๆ จิตใต้สํานึกของ ดร.แบนเนอร์ ก็ผุดขึ้นมา ไม่รู้ว่าเขามีสติฟื้นขึ้นมาตอนไหน หรือว่านี่เป็นแผนการอะไรบางอย่างของเขากันแน่

“คิดถูกแล้วที่เลือกที่จะจากไป”จิตใต้สํานึกของ ดร.แบน พูดในใจ

เขาไม่สามารถตามชุดเกราะไอรอนแมนไปได้ อีกทั้ง ฮัลค์ ยังเริ่มกวาดวิสัยทัศน์ไปรอบ ๆ เป้าหมายของเขาก็ยังคงเป็นกัปตันโรเจอร์สอยู่เหมือนเดิม ความแข็งแกร่งของกัปตันโรเจอร์สนั้นรุนแรงมากก็จริง ดังนั้น ฮัลค์ จึงต้องการจะท้าทาย กัปตันโรเจอร์ส ไม่มีใครรู้ว่า นี่เป็นจิตใต้สํานึกของ ดร.แบนเนอร์ หรือ ฮัลค์ กันแน่ที่ต้องการจะทําอย่างนี้

“พวกเขาเองก็น่าสนใจ ฉันเองก็ต้องการจะทดสอบพวกเขาดูเหมือนกัน” นอกเหนือจากทิศทางของกัปตันโรเจอร์ส ฮัลค์จ้องมองไปยังทิศทางด้านของพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์และกลุ่ม X-MEN

เป็นกันที่แน่ชัดแล้วว่า ฮัลค์เพียงต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของตนเอง ฮัลค์รู้สึกได้ถึงพละกําลังที่น่าเกรงขามของพวกมิวแทนท์เหล่านี้ โดยเฉพาะเพื่อนที่สามารถปลดปล่อยพลังเยือกแข็งได้ อีกทั้งหญิงสาวสายฟ้า สตอร์ม นั่นก็ดี หากไม่ใช่เพราะร่างกายที่แข็งแกร่งของตนเองคงไม่สามารถต้านทานอีกฝ่ายได้แน่

“เดิมฉันก็ไม่ได้ต้องการให้ฮัลค์ทําแบบนี้ แต่ฉันไม่ลังเลที่จะทําให้ทุกคนได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของฮัลค์” จิตใต้สํานึกของ ดร.แบนเนอร์ กล่าวออกมา

เห็นสายตาที่ฮัลค์มองมา กัปตันโรเจอร์ส และ พวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์เองก็สัมผัสได้

โดยเฉพาะศาสตราจารย์เขาขมวดคิ้วแน่นเล็กน้อย

“สายตาของพวกเขาราวกับว่ากําลังมองมาที่เรา พวกเรารีบไปจากที่นี่กันเถอะ?”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จ้องมองไปที่ฮัลค์อย่างสงสัย และจ้องมองไปที่บลิงก์

ฟุบ!

เห็นสายตาของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ บลิงก์ ได้เปิดประตูมิติอวกาศขึ้นอย่างรวดเร็วจากนั้นสมาชิกคนอื่น ๆ ของทีม X-MEN ก็เริ่มที่จะถอยกลับเข้าไปในประตูมิติอวกาศ

จากนั้นสมาชิกทั้งหมดของทีมX-MEN ก็หายตัวไปจากที่นี่ในทันที

ตอนที่ 642 ไอรอนแมนถูกโจมตีอย่างกระทัน

ฟู่วว!

กลุ่มหมอกควันได้ลอยคงทั่วกลางสนามรบ ๆ หลังจากหมอกค่อย ๆ จางออกไป บนสนามรบก็ปรากฏเงาร่างขนาดใหญ่และเล็กสองคน เผชิญหน้ากัน กัปตันโรเจอร์สได้ชันเข่าลุกขึ้นมา

“เพื่อนกัปตันคนนี้สามารถต้านรับกําปั้นของฮัลค์ได้จริง ๆ ?”เห็นกัปตันโรเจอร์สสามารถรอดพ้นจากกําปั้นอันทรงพลังของฮัลค์ได้ โทนี่ที่คอยสังเกตุการณ์รู้สึกประหลาดใจ

เดิมโทนไม่คิดเลยว่า กัปตันโรเจอร์สจะสามารถป้องกันการโจมตีของฮัลค์ได้ ต้องบอกก่อนว่า พละกําลังของฮัลค์นั้นรุนแรงมาก สิ่งที่กัปตันโรเจอร์สครอบครองเป็นเพียงส่วนหนึ่งของพละกําลังเหนือมนุษย์ส่วนน้อยเท่านั้น เซรุ่มซูเปอร์โซลเดอร์นั้นทรงพลังก็จริงแต่มันก็คือเทคโนโลยีที่มีมานานมากกว่าหลาย 10 ปีก่อน

หากเทียบกับผลข้างเคียงด้านศักยภาพของพลังมันย่อมไม่สามารถนํามาเปรียบเทียบกับพละกําลังของฮัลค์ได้

“ฮัลค์ ใช้พละกําลังทั้งหมดแล้วจริงงั้นหรอ?”โทนี่ คาดเดาสิ่งที่สามารถเป็นไปได้

เขาไม่รู้เหตุผลว่าทําไม ดร.แบนเนอร์ หรือ ฮัลค์ มีเป้าหมายเป็นทีม K และ กัปตันโรเจอร์ส สิ่งรอบตัวของเขา ฮัลค์ ไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นทีม X-MEN หรือ คนอื่น ๆ ราวกับเป้าหมายของเขามีเพียงพวกกัปตันโรเจอร์สเพียงอย่างเดียว

อาจเป็นไปได้ว่าสัญชาตญาณของ ฮัลค์ นั้นสามารถตรวจพบความแข็งแกร่งที่มาจาก แหล่งพลังงานที่คล้ายเคียงกันของกัปตันโรเจอร์ส ดังนั้น ฮัลค์ หรือ ดร.แบนเนอร์ จึงเพ่งเล็งไปที่ กัปตันโรเจอร์ส โดยปริยาย

กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่ฮัลค์ที่อยู่เบื้องหน้า พละกําลังของเขาถูกลดทอนไปมากหลังจากต้านรับหมัดอันทรงพลังของฮัลค์ แต่ กัปตันโรเจอร์สไม่ได้สะทกสะท้าน เขายังมีไฟตายที่เป็นอาวุธพิเศษอยู่

“ฉันเองก็ไม่อยากจะใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาเลย ให้ตายสิ” กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่ฮัลค์

หลังจากหลายปีผ่านไป ดร.แบนเนอร์ ได้พยายามสะกดข่มฮัลค์และปรับตัวให้อยู่กับมันได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถควบคุมอารมณ์โกรธของตนเองได้ เขายังสามารถคงสติได้ ขณะที่อยู่ร่างฮัลค์อีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม อิทธิพบในการเปลี่ยนร่างของ ดร.แบนเนอร์ อาจจะมีผลข้างเคียง เพราะบุคลิกภาพของฮัลค์แข็งแกร่งเกินไป ทําให้ ดร.แบนเนอร์ ไม่สามารถควบคุมได้

หลังจากตรวจสอบอีกฝ่ายสําเร็จ ในที่สุดกัปตันโรเจอร์สก็เตรียมพร้อมเข้าปะทะอีกครั้ง

ขณะเดียวกันดวงตาของฮัลค์ก็ปรากฏประกายไฟสีเขียวแวบผ่านรุนแรงมากขึ้นพละ กําลังของฮัลค์ราวกับว่ากําลังแข็งแกร่งมากกว่าเดิม

ฮัลค์จ้องมองไปยังตําแหน่งนึ่งมันเป็นตําแหน่งของเพราะไอรอนแมน

นักวิทยาศาสตร์ระดับชั้นแนวหน้าของโลกอย่าง ดร.แบนเนอร์ เอง ก็รู้จัก โทนี่ สตาร์ค แน่นอนว่า โทนี่ สตาร์ค ถือเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้เก่งกาจคนนึง แม้แต่คนอย่างเขาก็นับถือ แต่ไม่รู้ว่าทําไม ดร.แบนเนอร์ ในร่าง ฮัลค์ ตอนนี้ ถึงจ้องมองไปที่ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่

โทนี่ ที่เห็น ฮัลค์ จ้องมองมาที่ตนเอง เขารู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย

“ J.A.R.VIS เขากําลังจ้องมองมาที่เราใช่มั้ย?”เห็นฮัลค์จ้องมองมาที่ตนเอง โทนี่ กล่าวถาม J.A.R.V.I.S

“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นครับ!”วิเคราะห์จากรูปลักษณ์ลักษณะท่าทางและเส้นสายตา J.A.R.V.I.S ได้ให้คําตอบอย่างรวดเร็วโทนี่”

จากนั้นร่างของฮัลค์ก็ย่อตัวลงเล็กน้อยเขากําลังนั่งยอง ๆ เพื่อที่จะทําอะไรบางอย่าง ขณะเดียวกัน ร่างของฮัลค์ก็ดีดตัวขึ้นจากพื้นขึ้นไปบนอากาศ

ฟ้าว!

” ตรวจพบเจตนาในการโจมตีของเป้าหมาย! ดําเนินการหลีกเลี่ยงอย่างรวดเร็ว!”เห็นฮัลค์ พุ่งเคลื่อนไหวเข้ามาหาตนเอง J.A.R.VIS วิเคราะห์อย่างรวดเร็ว และ เริ่มบังคับชุดเกราะไอรอนแมนเพื่อหลีกเลี่ยง

ฟุ่บ!

กองทัพไอรอนแมนของโทนี่ ได้กระจายตัวออกไปภายใต้คําสั่งของ J.A.R.V.I.S แต่ทว่า การดีดตัวของ ฮัลค์นั้นรวดเร็วอย่างมาก

“ไม่ทันแล้ว!”

ตอนที่ 641 ฮัลค์ ปะทะ กัปตันอเมริกา

ฟุ่บ!

เงาร่างสีเงินได้ปรากฏตัวขึ้นและเคลื่อนไหวเข้าใกล้ประชิดตัวของฮัลค์ ขณะนั้นเองกระแสอากาศเยือกแข็งขนาดใหญ่ก็ค่อย ๆ ปิดผนึกรางของฮัลค์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าของเงาร่างนี้เป็นใคร เขาก็คือ ไอซ์แมน ทีมX-MEN ในสถานการณ์ปัจจุบันศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่อาจปล่อยให้ พวกของกัปตันโรเจอร์ส เผชิญหน้ากับศัตรูอยู่ฝ่ายเดียวได้

ร่างกายของฮัลค์เต็มไปด้วยไอเย็นปกคลุมจากนั้นไม่นานร่างกายของฮัลค์ก็เริ่มก่อร่างกลายเป็นประติมากรรมน้ําแข็ง

แกร๊ก!

หลังจากแช่แข็งฮัลค์สําเร็จ ไอซ์แมนก็คลายสภาพร่างเยือกของตนเองเพื่อกลับคืนสู่ร่างมนุษย์ปกติ เขาเชื่อว่าอีกฝ่ายย่อมไม่สามารถดิ้นหลุดจากการจับกุมของตนเองไปได้

ไอซ์แมนเลือกที่จะเดินหันหลังกลับพร้อมกับยกมือบอกกัปตันโรเจอร์สว่ามันจบแล้ว เพียงแต่กัปตันโรเจอร์สไม่ได้คลายความกังวลลงแม้แต่น้อยเขายังคงจ้องมองไปยังรูปปั้นประติมากรรมน้ําแข็งด้านหลังของไอซ์แมน จู่ ๆ สายตาของกัปตันโรเจอร์สก็เห็นนัยน์ตาสีเขียว ภายในนั้นของฮัลค์ได้สว่างวาบขึ้น

“ระวัง!”

“มีเรื่องอะไรที่ต้องกังวลอย่างงั้นหรอ?” เห็นรูปลักษณ์ของกัปตันโรเจอร์ส ไอซ์แมนราวกับไม่เข้าใจ เพียงแต่ จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่ดังใกล้ ๆ หูของเขา

แกร๊ก!

แกร๊ก!

ไอซ์แมนได้มองย้อนหันกลับไปเขาเห็นรูปปั้นน้ําแข็งเดิมขนาดใหญ่ตอนนี้ได้เริ่มเกิดรอยร้าว และรอยแตกมาขึ้นจากนั้นร่างกายขนาดใหญ่ก็หลุดพ้นจากการแช่แข็งและพุ่งตรงเข้าหาไอซ์แมนที่อยู่ไม่ไกลทันที

“เป็นไปไม่ได้!”ไอซ์แมนตะโกนออกมาอย่างไม่เชื่อสายตา

ฟุ่บ!

จากนั้นร่างของไอซ์แมนก็กลับเป็นร่างผลึกน้ําแข็งอีกครั้งเขาได้ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นสบัดออกและสร้างกําแพงน้ําแข็งขนาดใหญ่ล้อมรอบตัวอย่างรวดเร็ว ร่างขนาดใหญ่ของฮัลค์ได้พุ่งชนเข้ากับกําแพงน้ําแข็ง แต่ทว่าฮัลค์กลับไม่ได้ยอมแพ้เขาเริ่มยกมือต่อยไปที่กําแพงน้ําแข็งอย่างรีบร้อน

ปั้ง

เสียงแรงสั่นสะเทือนจากการปะทะกันของกําปั้นและกําแพงน้ําแข็งได้ดังสนั่นไปทั่วพื้นที่กําแพงน้ําแข็งของไอซ์แมน เริ่มที่จะปริแตกออกภายใต้การโจมตีของฮัลค์

หลังจากกําแพงน้ําแข็งถูกทําลายฮัลค์ได้ชัดฝามือออกไปจนร่างของไอซ์แมนได้ถูกซัดกระเด็นเหมือนกับสมาชิกทีม K สองคนก่อนหน้านี้ ความแข็งแกร่งของฮัลค์รุนแรงกว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก

“ฮัลค์มต้านทานบรรยากาศเยือกแข็งด้วยงั้นหรอ?” หลังจากเห็นไอซ์แมนถูกส่งบินลอยไป กัปตันโรเจอร์ส บ่นพึมพัมออกมา

ตึง! ตึง

จากนั้นฮัลค์ก็มุ่งหน้าวิ่งไปยังทิศทางของกัปตันโรเจอร์ส ราวกับว่าเป้าหมายของฮัลค์คือ S.H.I.E.L.D. และกัปตันโรเจอร์ส คนอื่น ๆ ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา ขณะนั้นเองจู่ ๆ เหนือศีรษะของฮัลค์ก็ปรากฏสายฟ้าผ่าลงมากลางตัวเขาเต็ม ๆ

!

สายฟ้าเหล่านั้นเป็นการโจมตีของ สตอร์ม เธอได้ปลดปล่อยการโจมตีลงบนร่างของฮัลค์ แต่ถึงอย่างนั้นการโจมตีของเธอก็สร้างได้แค่รอยขีดข่วนเพียงเท่านั้น ฮัลค์มีภูมิต้านทานอากาศ ความเย็น แน่นอนว่าย่อมต้องมีภูมิต้านทานไฟฟ้าด้วย

ร่างของฮัลค์อยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากกัปตันโรเจอร์ส ด้วยมัดกล้ามและกางเกงขาสั้นที่เด่นสะดุดตาไม่นาน ฮัลค์ก็ปรากฏตัวที่ด้านหน้าของกัปตันโรเจอร์สและชัดการโจมตีด้วยหมัดขนาดยักษ์ออกไป

ฟุ่บ!

แต่ขณะที่กัปตันโรเจอร์สเตรียมยกโล่เตรียมรับแรงปะทะจู่ ๆ ด้านหลังของเขาก็ปรากฏประตูมิติอวกาศขึ้น ดูเหมือนศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะให้บลิงก์ทําการสนับสนุนกัปตันโรเจอร์สให้หลุดจากการโจมตีของฮัลค์เพราะเขาเชื่อว่ากัปตันโรเจอร์สย่อมไม่สามารถเผชิญหน้ากับฮัลค์โดยตรงได้

กัปตันโรเจอร์สมองไปที่ประตูมิติอวกาศที่อยู่ด้านหลังเขาสามารถเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อหลบเข้าไปข้างไหนได้ แต่มีหรือที่กัปตันโรเจอร์สจะกลัว ฮัลค์มีเป้าหมาย คือตนเอง เป็นธรรมชาติที่เขาจะไม่เลือกหนีจากการต่อสู้

ฟุ่บ!

กัปตันโรเจอร์สไม่สนใจประตูมิติอวกาศที่อยู่ด้านหลัง เขาสไลด์ตัวผ่านระหว่างขาของฮัลค์เพื่อหลบการโจมตี

ปั้ง

การโจมตีครั้งแรกของฮัลค์ได้พลาดเป้าแต่ฮัลค์ก็ไม่รีรอโจมตีไปที่กัปตันโรเจอร์สอีกครั้ง

ปั้ง

กัปตันโรเจอร์สได้ยกโล่ของตนเองขึ้นมาปะทะกับกําปั้นของฮัลค์พละกําลังของฮัลค์ส่งผลให้กัปตันโรเจอร์สจําต้องเข่าทรุดลงอย่างเจ็บปวด

คลื่นแรงกระแทกจากการปะทะของทั้งสองคนส่งผลให้ประตูมิติอวกาศที่ปรากฏขึ้นได้หายไป ศาสตราจารย์ชาร์ลส์และคนอื่น ๆ เองก็ได้ล่าถอยออกไปจากระยะโจมตีของฮัลค์

หมอกและฝุ่นได้ปกคลุมไปทั่วบริเวณแห่งนี้ การเผชิญหน้ากันระหว่างกัปตันโรเจอร์ส และ ฮัลค์ก็ยังคงอยู่ กัปตันโรเจอร์ส เป็นฝ่ายตั้งรับตลอดระยะเวลาที่สู้กัน

ถ้าจะให้พูดก็คือพละกําลังของฮัลค์เหนือกว่าพละกําลังทางกายของกัปตันโรเจอร์ส เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่กัปตันโรเจอร์สก็พยายามใช้ความคล่องตัวในการหลบหนีการโจมตีของฮัลค์อย่างต่อเนื่อง

จากนั้นเขาก็ส่วนกลับการโจมตีไปที่ใบหน้าของฮัลค์ ฮัลค์ ได้คว้ามือของกัปตันโรเจอร์สและเหวี่ยงกระเด็นลอยออกไป กัปตันโรเจอร์สได้หมุนตัวกลางอากาศและล้มลงบนพื้นอย่างมั่นคง

เขาได้กําโลในมือของตนเองแน่นและจ้องมองไปที่ฝ่ายตรงข้ามที่อยู่เบื้องหน้าอย่างดุเดือด

ตอนที่ 640 ทุบทําลาย

ขณะที่แจ็คสันโดดลงมาจากเครื่องบิน ควินเจ็ท,J.A.R.V.1.S ก็ได้แจ้งเตือนคําพูดของเขา ให้โทนี่รู้ หลังจากได้ยินข้อความจาก J.A.R.V.S การแสดงออกของโทนี่ค่อนข้างไม่สบอารมณ์ เขาเองก็รู้มานานแล้วว่า แจ็คสัน ไม่ค่อยเชื่อฟังและปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ วัยรุ่นเช่นแจ็คสัน อาจกําลังอยู่ในช่วงวัยต่อต้าน

“ไม่เป็นไร ยังไง การจัดการ ดร.แบนเนอร์ ในคราวนี้ก็ไม่รู้ผลลัพธ์ที่แน่ชัด หากเขาจะอยู่ดูการต่อสู้ก็ชั่งเขาเถอะ”โทนี่ได้แต่ปลอบใจตัวเอง

“J.A.R.V.I.S ให้ความสนใจในการตรวจจับพลังงานของ ดร.แบนเนอร์ เมื่อความรุนแรงมากกว่า 4 ให้รีบบอกฉันทันที”โทนี่ ได้กล่าวบอก J.A.R.V.I.S

“ครับเจ้านาย” J.A.R.V.I.S ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ฟุ่บ!

จากนั้นโทนี่ก็ขับชุดเกราะไอรอนแมนของเขาบินไปข้างหน้า โทนี่ไม่ได้วางแผนที่จะเข้าปะทะกับฮัลค์บนเวทีสนามรบในตอนนี้ เขาหวังที่จะรอดูผลลัพธ์ในตอนแรกเสียก่อน

ฟ้าว!

ขณะที่โทนี้ไม่สามารถป้องกันความอยากรู้อยากเห็นของแจ็คสันได้สําเร็จ อีกทางด้านนึง กัปตันโรเจอร์สได้นําทีม K ไปสู่ใจกลางสนามรบ

“สมาชิกทีม K ทุกคน จัดตั้งบวนสร้างฟิลดพื้นที่เยือกแข็ง” กัปตันโรเจอร์สตะโกนออกมา

ฟุ่บ

ได้ยินคําสั่งจากกัปตันโรเจอร์สมาชิกทุกคนได้หันปืนอาวุธสนามพลังและยิงออกไปข้างหน้า จากนั้นภูมิภาคสนามพลังเยือกแข็งก็ถูกปกคลุมไปรอบพื้นที่ตําแหน่งของฮัลค์ที่อยู่ตรงกลาง ในเวลานี้ หากเป็นไปได้เขาก็ไม่ต้องการที่จะสู้กับ ฮัลค์ ในคราวนี้

ปั้ง

ฮัลค์ที่เห็นสนามพลังล้อมรอบตนเองเขาได้กระโดดขึ้นและทุบกําปั้นลงที่พื้นอย่างรุนแรง

“ไม่ดีแล้ว! กระจายตัว กระจายขนาดสร้างขอบเขตสนามพลังเพิ่มขึ้น!” เห็นฮัลค์เริ่มลงมือ กัป ตันโรเจอร์ส กล่าวสั่งอีกครั้ง

ฟู่วว!

แม้คําสั่งของกัปตันโรเจอร์สจะสั่งการในทันที แต่การตอบสนองของทีมK นั้นค่อนข้างช้า สมาชิกทีม K สองคนได้โดนคลื่นแรงกระแทกจนส่งตัวพวกเขากระเด็นลอยไป

ฟุ่บ!

หลังจากสมาชิกทีม K สองคนบินลอยไป หมอกและฝุ่นควันได้ปกคลุมภูมิภาคแห่งนี้ แม้ กระทั่งกัปตันโรเจอร์สก็ยังตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มืดบอด

“กระจายกําลังออกไป! เปิดใช้งานอาวุธโจมตีระยะไกล!” กัปตันโรเจอร์สตะโกนออกคําสั่ง

เผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดในร่างมนุษย์ กัปตันโรเจอร์สย่อมไม่รู้สึกยินดี เขาไม่คิดเลยว่า ดร.แบนเนอร์ จะปรากฏตัวขึ้นที่สนามรบแห่งนี้ ยิ่งไปกว่านั้น สมาชิกทีม K ของเขาเองก็ค่อนข้างเหนื่อยล้า ไม่เว้นแม้แต่สมาชิกทีม X-MEN และ คนอื่น ๆ

ได้ยินคําสั่งของกัปตันโรเจอร์สคราวนี้สมาชิกทีม K ได้กระจายตัวออกไปอย่างรวดเร็วนอกเหนือจากอาวุธสนามพลังแล้วพวกเขายังมีอาวุธโจมตีระยะไกลพิเศาอีกด้วย แม้ว่ากระบวนทัพจะถูกทําลายเพราะขาดสมาชิกสองคนที่โดนโจมตีกระเด็นไป แต่คนอื่น ๆ ของสมาชิกทีม K ก็ไม่ได้หวั่นเกรง ถึงแม้พละกําลังทางด้านกายภาพจะไม่สามารถไม่สู้ฮัลค์ได้ แต่พวกเขาก็ทดแทนมันด้วยความชํานาญในการใช้อาวุธเทคโนโลยีระดับสูง

ฟุ่บ!

หลังจากที่สมาชิก ทีม K กระจายตัวออกไปพวกเขาก็หยิบปืนคลื่นแรงสั่นสะเทือนออกมา พลังงานคลื่นแรงสั่นสะเทือนกว่า 10 ครั้ง ได้ถูกยิงออกไปตรงทิศทางของฮัลค์

เห็นการโจมตีของสมาชิกทีม K ประกายแสงสีเขียวในดวงตาของฮัลค์ได้กระพริบวาบขึ้น จากนั้นแขนของฮัลค์ทั้งสองข้างก็เหยียดออกมาจากกัน

“ฮว๊าก โฮก-“ฮัลค์ใช้มือที่เหยียดออกทุบที่อกและคํารามออกมา

ฟุ่บ!

คลื่นสั่นสะเทือนเหล่านั้นล้วนไร้ผลเมื่ออยู่ต่อเบื้องหน้าของฮัลค์ราวกับว่าพละกําลังที่เด็ดขาดนี้ไม่มีผลกระทบต่อการโจมตีแม้แต่น้อย

ฟุ่บ!

ฮัลค์ได้กระโดดออกไปก่อนที่จะขัดสมาชิกทีม K หลายคนกระเด็นไป อุปกรณ์ในมือของพวกเขาล้วนถูกทําลายอย่างรวดเร็วกัปตันโรเจอร์สที่อยู่ไม่ไกลได้ยกโล่ของตนเองขึ้นและพุ่งเข้าปะทะกับฮัลค์

ด้านหน้าของฮัลค์กัปตันโรเจอร์สได้ชัดโล่ต่อยไปที่หน้าของเขาจากนั้นก็สวนกลับการโจมตีหลายอย่าง

เผชิญหน้ากับการโจมตีของกัปตันโรเจอร์สอย่างเต็มที่บนใบหน้าของฮัลค์ปรากฏรอยขีดข่วนเล็กน้อยแต่มันก็แค่รอยขีดข่วนไม่สามารถนํามาเทียบจริงกับบาดแผลได้ ดูเหมือนความแข็งแกร่งทางกายภาพของกัปตันโรเจอร์สจะไม่สามารถเทียบกับฮัลค์ได้

ขณะที่ฮัลค์กําลังพุ่งเข้าหากัปตันโรเจอร์ส จู่ ๆ เงาร่างสีฟ้าของคน ๆ นึง ก็พุ่งเข้าหาเขา จากนั้นกระแสอากาศเยือกแข็งขนาดใหญ่ก็ได้โจมตีเข้าใส่ฮัลค์โดยตรง

ตอนที่ 639 แจ็คสันกลับมาถึง

หลังจาก ดร.แบนเนอร์ กระโดดลงมา จู่ ๆร่างของเขาก็เปล่งแสงสีเขียวมากขึ้นเรื่อย ๆ จนปกคลุมไปทั่วร่างของเขา

“ฮัลค์ได้เวลาพานายออกไปเดินเล่นแล้ว!”

ฟุ่บ!

จากนั้นร่างของ ดร.แบนเนอร์ ก็ขยายมากขึ้นเรื่อย ๆ มวลกล้ามอันหนาแน่นได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วเสื้อผ้าสไตล์ตะวันตกของเขาที่สวมใส่อยู่ได้ฉีกขาดหายไป นอกเหนือจากการพองตัวของร่างกายแล้ว สีผิวของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นสีเขียวรูปลักษณ์เดิมของเขาได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด

คลื่น

ผ่านไปหลายวินาที ดร.แบนเนอร์ ได้ร่วงลงสู่พื้นสําเร็จ พื้นที่โดยรอบถูกเปลี่ยนเป็นหลุมขนาดยักษ์ ในขณะนี้บนร่างของฮัลค์หลงเหลือเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียวเพียงเท่านั้นส่วนอื่น ๆ ของร่างกายล้วนเปลือยเปล่าทั้งหมด กล้ามเนื้อที่ปรากฏค่อนข้างเด่นชัดอย่างมาก

ตึง

จากนั้นร่างของฮัลค์ได้เดินออกมาจากหลุมขนาดยักษ์จนร่างของเขาปรากฏตัวสู่วิสัยทัศน์ของพวกกัปตันโรเจอร์ส และ สมาชิก ทีม K

ทุกการเคลื่อนไหวของฮัลค์จะสร้างแรงสั่นสะเทือนบนพื้นที่ดุดันออกมา จากนั้นฮัลค์ก็กวาดสายตาไปโดยรอบก่อนที่จะจ้องไปยังตําแหน่งของ พวกกัปตันโรเจอร์ส และ คนอื่น ๆ

….

“เจ้านายครับ อุปกรณ์ หมายเลข 2 เตรียมพร้อมแล้ว คุณต้องการที่จะเปิดทํางานเลยหรือไม่?”เห็นฮัลค์กระโดดลงมาถึงพื้น J.A.R.V.I.S. ได้แจ้งเตือน โทนี่

“เตรียมพร้อมรอคําสั่งของฉัน”โทนี่สั่นศีรษะเล็กน้อย

จากการตรวจสอบของ J.A.R.V.I.S. ฮัลค์ ในปัจจุบัน มีพลังงานความผันผวนมากถึงระดับ 4 อีกทั้งยังเป็นพลังงานที่บริสุทธิ์มากกว่าสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวนั่นอีก โทนี่ ต้องการจะรอดูผลลัพธ์ระหว่าง ทีมX-MEN กับ พวกกัปตันโรเจอร์สซะก่อน หากไม่ไหวจริงๆ เขาจะเผยอาวุธลับนี้ออกมา

“ครับเจ้านาย! เริ่มนับถอยหลัง 80 วินาที”ได้ยินคําตอบของโทนี่ J.A.R.V.I.S. เริ่มต้นเตรียมพร้อมใช้งานในทันที

ติ๊ด ๆ

เพียงแต่ว่าหลังจาก J.A.R.V.I.S. เริ่มนับถอยหลัง จู่ ๆ เขาก็ได้รับข้อความด่วนพิเศษ

“เจ้านายครับ คุณ มิราจในท์ มาถึงแล้ว”J.A.R.V.S. แจ้งเตือนแก้โทนี่

“หืม? แจ็คสัน มาถึงแล้ว?”ได้ยินรายงานของ J.A.R.VI.S. โทนี่ แสดงออกอย่างแจ่มแจ้ง

“แม้ว่าแจ็คสันจะกลับมา แต่ก็ไม่อาจประมวลผลสถานการณ์ได้ใหม่! ความแข็งแกร่งของฮัลค์ ไม่ใช่สิ่งที่จะประเมินได้ง่าย ๆ แจ้งข่าวต่อแจ็คสัน เรื่องนี้เขาไม่จําเป็นจะต้องมีส่วนร่วมได้”โทนี่ กล่าวบอก J.A.R.V.I.S.

….

“ครับเจ้านาย!” J.A.R.V.I.S. ปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ ดร.แบนเนอร์ กระโดดลงมาและแปลงร่างเป็นฮัลค์ อีกทางด้านนึง เครื่องบินควินเจ็ทของ S.H.I.E.L.D ตอนนี้ แจ็คสันได้อยู่บนเครื่องนั้นเขาเพิ่งนั่งกลับมาจากเม็กซิโกด้วยความเร็วสูงสุดของตัวเครื่องแล้ว

ขณะที่แจ็คสันอยู่ในห้องนักบิน เขาก็จ้องมองสถานการณ์ด้านล่าง จากนั้นในหูของเขาก็ปรากฏเสียงของ J.A.R.V.S ขึ้น

“คุณ มิราจไนท์,ตอนนี้แมกนี้โตได้ออกจากสนามรบไปแล้ว ทหารเปลี่ยร่างของทางกองทัพเองก็ถูกควบคุมตัวแล้วเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น ดร. แบนเนอร์ ได้ปรากฏตัว และเปลี่ยนร่างกลายเป็นฮัลค์ เพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้โดยไม่จําเป็น คุณสตาร์ค ให้ผมมาแจ้งคุณว่า คุณไม่จําเป็นจะต้องเข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้”

ได้ยินเสียงของ J.A.R.VIS แจ็คสันขมวดคิ้วแน่นขึ้น มีหลายอย่างเกิดขึ้นที่นี่ แมกนีโต ได้ปรากฏตัวขึ้นและบุกกองกําลังของสไตรเกอร์ แต่เพราะมีทีมX-MEN เข้ามาร่วมต่อสู้ด้วย สถานการณ์จึงไม่บานปลาย เรื่องนี้ทําให้เขารู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทําให้แจ็คสันประหลาดใจก็คือเรื่องทหารเปลี่ยนร่างของทางกองทัพ ดูแล้วมันฟังดูน่าเหลือเชื่ออย่างมาก อีกทั้งกองทัพยังมีอาวุธพิเศษที่สามารถระงับพลังกลายพันธุ์ได้อีก นอกเหนือจากเรื่องนี้ก็ยังมีเรื่องของ ดร.แบนเนอร์

“ทําไม ดร.แบนเนอร์ ถึงปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้?อีกทั้งเขายังเปลี่ยนร่างกายเป็นฮัลค์?ถ้าฉันจําไม่ผิด ดร.แบนเนอร์ ในตอนนี้ยังมีสองบุคลิกในร่างเดียวอยู่ หากบุคลิกอีกด้านนึงของเขาออกมา บุคลิกเดิมของเขาก็จะหลับไป”แจ็คสันพึมพัมในใจ

ดร.แบนเนอร์นั้นเป็นนักชีววิทยา ความฉลาดของเขาถูกจัดอยู่ในระดับสูง ขณะเดียวกัน อีกบุคลิกนึง ฮัลค์ นั้นก็ถูกจัดอยู่ในตัวตนของซูเปอร์ฮีโร่ที่น่าเกรงขามมากที่สุดคนนึ่งของโลกมาร์เวล อย่างน้อยแจ็คสันก็คิดแบบนั้น

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะไปมองด้วยตาของฉันเอง หากเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง หากมีธอร์อยู่ด้วยล่ะก็ ก็คงจะพอฟัดพอเหวี่ยงได้บ้าง”แจ็คสันบ่นพึมพัมในใจ

“J.A.R.V.I.S แจ้งคุณสตาร์ค บอกว่าฉันจะไม่ทําตัวไร้เหตุผล”แจ็คสันตอบกลับ J.A.R.V.I.S

จากนั้น แจ็คสันก็เดินไปยังตําแหน่งห้องเครื่องและให้นักบินเปิดประตูห้องโดยสารออก

ฟุ่บ

แจ็คสันได้คว้าเครื่องร่อนและกระโดดลงไปโดยตรง!

ตอนที่ 638 การตัดสินใจของ ดร.แบนเนอร์

ก่อนหน้านี้หลายนาทีก่อนที่สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวยักษ์จะปรากฏขึ้น มีเครื่องบินลํานึงได้ลอยเหนือน่านฟ้ากลางสนามรบ เครื่องบินลํานี้เป็นเครื่องบินขององค์กร S.H.I.E.L.D.

ฟุบ!

ถูกต้องนี่คือเครื่องบินขององค์กร S.H.I.E.L.D. มีคนสองคนยืนอยู่ข้างกระจกห้องนักบิน ด้านหลังเป็นชายหญิงดูเหมือนพวกเขาอยากรู้อยากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นด้านล่างมาก

“ดร.แบนเนอร์ พวกเราตรงไปที่สํานักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. กันเลยหรือไม่?” หญิงสาวคนนึงได้เปิดปากกล่าวถามชายวัยกลางคน

หากแจ็คสันอยู่ที่นี่เขาย่อมจําเสียงนี้ได้อย่างแน่นอนเพราะนี่คือเสียงที่หายไปนาน ใช่แล้วเธอก็คือสมาชิกขององค์กร S.H.I.E.L.D. นาตาชา เธอได้หายตัวไปเพื่อทําภารกิจค้นหาวของ ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้าง ๆ เธอ ดร.แบนเนอร์ ชายคนนี้เป็นหนึ่งในซูเปอร์ฮีโร่ที่โด่งดังที่สุดของโลกมาร์เวล

นาตาชา ได้อยู่ช่วย ดร.แบนเนอร์ ในการช่วยเหลือผู้คนในสถานที่แห่งนึ่ง หลังจากผ่า นไปเกือบสองสัปดาห์ ดร.แบนเนอร์ ในที่สุดก็ยินยอมกลับไปที่องค์กร S.H.I.E.L.D. กับนาตาชา อย่างไรก็ตาม ดร.แบนเนอร์ จะเข้าร่วมกับ S.H.I.E.L.D. หรือไม่ อันนี้เขาขอคิดพิจารณาก่อน

ขณะที่ นาตาชา กําลังพา ดร.แบนเนอร์ ไปที่สํานักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. ด้านล่างก็เกิดสงครามระหว่าง แมกนีโต และ สไตรเกอร์ ดร.แบนเนอร์ ได้เฝ้ามองสถานการณ์อยู่ห่าง ๆ หากเขาคิดจะเข้าร่วมกับ S.H.I.E.L.D. เขาจําเป็นจะต้องเข้าใจอีกฝ่ายเสียก่อนและบุคคลที่เขาสนใจและต้องการเห็นเป็นอย่างมากก็ดี กัปตันอเมริกา

แต่สิ่งที่ ดร.แบนเนอร์ พบในขณะที่สังเกตุการณ์อยู่ก็คือ ทางกองทัพ ได้สร้างสัตว์ประหลายักษ์ตัวเขียวที่เหมือนกับเขา มันได้กระตุ้นอารมณ์ไม่พอใจของ ดร.แบนเนอร์ จนเขารู้สึกโกรธเคือง

อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นสีหน้าของ ดร.แบนเนอร์นาตาชาพยายามเกลี่ยกล่อมเขาให้ใจเย็นลง

“คุณไม่คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าสนใจงั้นหรอ?” ดร.แบนเนอร์กล่าวออกมา

เอง ดร.แบนเนอร์ การแสดงออกของนาตาชาค่อนข้างแข็งที่อ” ดร.แบนเนอร์ คุณคงไม่คิดที่จะ…”

“สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวเหล่านั้นเป็นผลจากการทดลองลับของทางกองทัพ ในอดีตที่ผ่านมาฉันได้ทํางานให้กับพวกเขา หลังจากหลายปีผ่านไปไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะสร้างสิ่งบกพร่องเหล่านี้ขึ้นมา”ดร.แบนเนอร์ ไม่ได้ฟังคําพูดของนาตาชา เขาอธิบายและเดินไปที่ด้านหลังห้องเครื่องยนต์

ได้ยินคําอธิบายของ ดร.แบนเนอร์ นาตาชา สามารถรับรู้ได้ถึงความเกลียดชังที่ออกมาจากน้ําเสียงเหล่านี้

“ดร.แบนเนอร์!”เห็น ดร.แบนเนอร์ เดินไปยังทิศทานด้านหลังห้องเครื่องยนต์ นาตาชา วิงตามไปด้วยความกังวล

ในเวลานี้ นาตาชา สามารถคาดเดาได้ว่า ดร.แบนเนอร์ คิดจะทําอะไร ดร.แบนเนอร์ ไม่พอใจสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวเหล่านั้น เขาคิดจะโดดลงไปปรากฏตัวขึ้นกลางสนามรบแต่ทว่าการปรากฏตัวของ ดร.แบนเนอร์ อาจทําให้ ทั่วทั้งสนามรบเกิดความสับสน

“ไม่ใช่ว่าคุณต้องการให้ผมเข้าร่วมองค์กร S.H.I.E.L.D. งั้นหรอ? ไม่คิดว่านี่เป็นโอกาสดีที่ผมจะได้แสดงจุดแข็งของตนเองออกมาเพื่อช่วยเหลือพวกเขา?” ดร.แบนเนอร์กล่าวพูดกับนาตาชาที่วิ่งตามมา

“ดร.แบนเนอร์ คุณ…”ได้ยินคําพูดของ ดร.แบเนอร์ นาตาชา ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ดี เธอเห็นประกายสีเขียวที่แวบผ่านดวงตาของ ดร.แบนเนอร์

“เปิดประตูห้องโดยสารให้ผม คุณก็รู้ว่าผมไม่เป็นอะไรง่าย ๆ หรอก!” ดร.แบนเนอร์ กล่าวออกมา

“ก็ได้”ในที่สุด นาตาชา ก็ยอม

สิ่งที่นาตาชากลัวก็คือ ทางด้านที่มพันธมิตร และ กองกําลังของ S.H.I.E.L.D. จะเข้าใจผิดแต่ถึงอย่างนั้น นาตาชา ก็เชื่อว่ากัปตันโรเจอร์ส จะสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้หากไม่แล้ว ธอก็คิดว่า พวกของเธอน่าจะสามารถหยุด ดร.แบนเนอร์ได้หลายปีมานี้ดร.แบนเนอร์สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีขึ้น ราวกับว่าบุคคลิกภาพอันดุร้ายปาเถื่อนนั้นไม่เป็นปัญหากับเขาอีก

ฟุบ!

หลังจากนาตาชาพยักหน้าตอบเธอก็สั่งให้นักบินเปิดประตูห้องโดยสารออกจากนั้นกระแสลมจากด้านนอกก็พัดโหมกระหน่ําเข้ามาในตัวเครื่องจนนาตาชาต้องหาที่จับให้มั่นคง

“ขอบคุณ!”ดร.แบนเนอร์หันศีรษะไปมองนาตาชาก่อนที่จะกล่าวขอบคุณและกระโดดลงไป

ฟบ!

จากนั้นร่างของ ดร.แบนเนอร์ ก็ปลิวหายไปกับกระแสลม

“หวังว่าทางด้านกัปตัน จะไม่มีปัญหานะ” จากนั้นประตูห้องโดยสารก็ถูกปิดอย่างช้า ๆ นาตาชาได้บ่นพึมพัมออกมาเล็กน้อย

ตอนนี้ ดร.แบนเนอร์ ได้โดดลงไปแล้ว ดังนั้นสิ่งที่นาตาชา สามารถทําได้ก็คือรอดูผลลัพธ์ทางด้านกัปตันโรเจอร์สเพียงเท่านั้น

ตอนที่ 637 เหตุการณ์กระทันหัน

การจากไปของแมกนีโตไม่ได้เป็นจุดสนใจของใคร ๆ นั่นก็เพราะไม่มีใครเห็นการจากไปของเขาแต่ทว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์นั้นรู้เห็นทุกอย่าง เขาให้ความสนใจเพื่อนคนนี้ของตนเองมาเป็นระยะเวลาหลายปี ก่อนหน้านี้เขาก็สัมผัสได้ลาง ๆ ถึงการมาถึงของพวกลูก ๆ แมกนีโตแต่ทว่าเขาก็ไม่ได้เข้าไปขัดขวางการพบกันของพ่อลูกเหล่านั้น

“ไอซ์แมน ถูกเหมือนผลระงับความสามารถของพวกเราจะหมดไปแล้ว นายใช้ความสามารถเยือกแข็งของนายในการจัดการคนเหล่านี้อย่างน้อยก็ช่วยลดจํานวนผู้เสียชีวิตโดยไม่จําเป็น” หลังจากละสายตาออกจากทิศทางของแมกนีโต ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็บอกกล่าวกับไอซ์แมน

เนื่องเพราะความสามารถจับกุมของไอซ์แมนสูงที่สุดในบรรดาคนในทีม X-MEN ก่อนหน้านี้พวกเขาได้เลือกซ่อนตัวด้านหลังกัปตันโรเจอร์สและทีม K เพราะว่าพลังถูกระงับ นั่นเองก็เป็นเหตุผลที่ทําให้ไอซ์แมนรู้สึกไม่พอใจ ตอนนี้พลังของเขาฟื้นคืนกลับมาแล้วไอซ์แมนไม่ต้องการที่จะ ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังคนอื่น ๆ อีก

ฟุบ!

ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไอซ์แมนได้เปลี่ยนร่างของตนเองเป็นผลึกน้ําแข็งอีกครั้งเขาได้กระโดดพุ่งเข้าไปในวงล้อมของพวกสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวหลายตัวก่อนที่จะทําการแช่แข็งพวกมันอย่างต่อเนื่อง

“ไหม?ดูเหมือนพลังของพวกเขาจะฟื้นคืนกลับมาแล้ว”เห็นไอซ์แมนลงมืออย่างรวดเร็ว กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่ เขาอย่างเงียบ ๆ

จากนั้นกัปตันโรเจอร์สก็ได้นําทีม K ของเขา ประสานงานกับ ไอซ์แมน ในการจัดการสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวเหล่านี้ แน่นอนว่า กองทัพไอรอนแมนเองก็ช่วยเหลือเช่นเดียวกัน

หลังจากผ่านไปครึ่งนาที่สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวตัวสุดท้ายก็ถูกจัดการโดยไอรอนแมนและทีม K ทันทีที่จัดการสัตว์ประหลาดเหล่านี้เสร็จพวกเขาก็ช่วยกันควบคุมตัวพวกมันเอาไว้กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่สมาชิกทีม K ที่บาดเจ็บ รอยย่นบนคิวของเขาปรากฏขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลัง จากผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ไปดูเหมือนกัปตันโรเจอร์สจะต้องเร่งพัฒนากองกําลังของเขาให้มากกว่านี้

“กัปตันโรเจอร์ส,แมกนีโต ได้ไปแล้ว ฉันคิดว่า ศึกครั้งนี้ก็คงจะจบลงแต่เพียงเท่านี้ แม้จะเกิดความสูญที่เกินคาดหมายไปนิดหน่อย แต่อย่างน้อยพวกเราก็ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ขยายออกไปเพิ่มขึ้น” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่อยู่ข้าง ๆ กัปตันโรเจอร์สกล่าวพูดขึ้น

การต่อสู้ระหว่างมิวแทนท์ด้วยกันนั้นสามารถสร้างภัยคุกคามขนาดใหญ่เป็นวงกว้างได้แน่นอนว่าการสูญเสียไม่ได้จํากัดเฉพาะแค่กําลังคนแต่รวมถึงไปถึงสิ่งก่อสร้างเช่นตัวเมืองคราวนี้แมกนีโต ได้ระเบิดพลังอย่างบ้าคลั่งเพียงครั้งเดียว ทําให้ไม่เกิดผลกระทบต่อวอชิงตันมากนักผลลัพธ์ในตอนนี้ถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็ว่าได้

“อืม ฉันมีความสุขมากที่ได้ร่วมพิทักษ์บ้านเมืองร่วมกับทีมX-MENของพวก คุณ” ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์กัปตันโรเจอร์สตอบกลับ

แม้กัปตันโรเจอร์สจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งอะไรมากนัก แต่เขาก็ยอมรับความแข็งแกร่งของทีมX-MEN ว่าเหนือกว่าทีมอเวนเจอร์สของเขา พวกเขาในตอนนี้มีแต่จะต้องเร่งพัฒนาอุปกรณ์ไฮเทคอย่างต่อเนื่อง หากเผชิญหน้ากับ แมกนีโต ครั้งต่อไป พวกเขาหวังว่าจะไม่เกิดผลลัพธ์เช่นเดิมอีก

“เกี่ยวกับการบุกโจมตีสไตรเกอร์ของแมกนีโตในครั้งนี้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์คุณพอจะรู้อะไรบ้างไหม?”กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามเพื่อต้องการคําอธิบาย

“กัปตันโรเจอร์สเกี่ยวกับเรื่องเพื่อนคนนี้ฉันไม่ขอบอกเหตุผลกับคุณได้มั้ย”ได้ยินคํา ถามของกัปตันโรเจอร์ส ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวพูดและเตรียมจะอธิบาย

“นั่นมันอะไร?”กัปตันโรเจอร์สไม่ได้ฟังคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เขาจ้องมองไป ที่บนท้องฟ้าและตะโกนออกมา

“อะไร..?”เห็นท่าทีของกัปตันโรเจอร์สศาสตราจารย์ชาร์ลส์เองก็ยกศีรษะขึ้นจ้องมองด้วยความสงสัย

วินาทีต่อมาศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็สังเกตุเห็นเงาบางอย่างที่ลอยอยู่กลางอากาศจากนั้นเงาของบุคคลนั้นก็พองตัวและกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวขนาดใหญ่

“นั่นคือทหารเปลี่ยนร่างอีกคนอย่างงั้นหรอ?”เห็นสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวที่ดิ่งลงมาจากบนอากาศศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมา

“ไม่! เขาไม่ใช่คนของกองทัพ เวรเอ้ย! ทําไมเขาถึงทําแบบนั้นได้?”กัปตันโรเจอร์สสบถค่าออกมา

จากนั้นเขาก็หยิบโล่ขึ้นมาเตรียมพร้อม

“ถ้าเขาไม่ใช่คนของกองทัพแล้วเขาเป็นใคร?”ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์สศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้สึกสงสัย

“ทีม K เตรียมพร้อมเข้าปะทะ!” กัปตันโรเจอร์สไม่ได้ตอบข้อสงสัยของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เขากล่าวเรียกทีม K ที่กําลังพักฟื้นอยู่ ด้วยน้ําเสียงดุดัน

ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์ส ทีม K ได้ปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน โทนี่ ที่ลอยอยู่กลางอากาศ ก็ตรวจจับสิ่งผิดปกติที่อยู่ข้างบนได้

“สัตว์ประหลาดตัวจริงกําลังจะมาแล้ว!”โทนี่ที่เห็นการสแกนของ J.A.R.V.I.S สีผิวของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย

จากการตรวจสอบของ J.A.R.V.I.S สัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวนี้ค่อนข้างคุ้นเคย ก็ไม่แปลกเพราะอีกฝ่ายคือ ดร.แบนเนอร์

“J.A.R.V.1.S อาวุธลับของเราจะสามารถทนได้นานแค่ไหน?”โทนี่กล่าวถาม J.A.R.V.I.S

เมื่อเผชิญหน้ากับ ฮัลค์ตัวจริง ลําพังเพียงแค่ชุดเกราะไอรอนแมนย่อมไม่เพียงพอ เขาหวังว่าอาวุธลับของตนเองจะสามารถควบคุมสถานการณ์นี้ได้

” 1 นาที 30 วินาที ครับ!” J.A.R.V.I.S ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

”เตรียมพร้อมในทันที!” หลังจากเห็นสัตว์ประหลาดยักษ์ที่ว่านั่นร่วงหล่นลงสู่พื้นโทนี่ตะโกนอย่างรีบเร่ง

” ครับเจ้านาย!”

ตอนที่ 636 การลอบโจมตีและจุดจบ

ลําแสงสีแดงได้พุ่งมาที่แมกนีโตอย่างฉับพลัน แมกนีโต ได้ยกมือขวาขึ้นสร้างคลื่นสนามพลังแม่เหล็กเพื่อต้านทานการโจมตีนี้แต่เพราะความสามารถกลายพันธุ์ของตนเองเพื่อกลับมาสนามพลังแม่เหล็กของแมกตีโตจึงยังช้ากว่าการโจมตีที่ว่านี้ จากนั้นไม่นานลําแสงสีแดงก็พุ่งกระทบเข้ากับไหล่ของแมกนีโตโดยตรง

ฟุบ!

แมกนีโตทรุดตัวลงเล็กน้อยเดิมเขาที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้วก็กลายเป็นบาดเจ็บหนักขึ้นไปอีกแมกนีโตได้มองไปยังตําแหน่งทิศทางที่ลําแสงสีแดงโจมตีเขาในที่สุดเขาก็เห็นตัวตนของอีกฝ่าย ดูเหมือนจะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากลูกน้องของสไตรเกอร์ชายคนนี้ถูกเรียกว่าหมายเลข 2

แมกนีโตได้ควบคุมคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของตนเองเพื่อโจมตีสวนกลับไปยังทิศทางของหมายเลข 2 อย่างรวดเร็วเพียงแต่ว่า หมายเลข 2 เองก็หลบหลีกการโจมตีของแมกนีโตได้

“ไม่คิดเลยว่าแกจะมีความสามารถที่สามารถช่วยฟื้นฟูตนเองได้!” แมกนีโตจ้องมองไปที่หมายเลข 2 และ กล่าวอย่างเย็นชา

ก่อนหน้านี้เขาถูกคุกคามโดยการโจมตีของหมายเลข 2 และ แมกนีโตก็ยอมรับความสามารถกลายพันธุ์ของคนคนนี้ มีน้อยคนมากที่จะสามารถโจมตีถึงตัวของแมกนีโตทั้ง ๆ ที่เขาใช้คลื่นสนามพลังแม่เหล็กได้ นั่นแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ร้ายกาจของอีกฝ่าย

แมกนีโตในตอนนี้อยู่ในจุดสูงสุดของมิวแทนท์ระดับ 4 ความสามารถการควบคุมคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของโลกนั้นเป็นความสามารถที่แข็งแกร่งและอันตราย แต่ก็อยู่ในสายควบคุมพลังจิต หากอีกฝ่ายเป็นสายควบคุมพลังจิตเหมือนตนเอง และ แมกนีโตไม่มีหมวกป้องกันพลังจิตเขาก็อาจจะเสียเปรียบได้

“ห์เลี่ยงจุดสําคัญไปได้เรอะ!” หมายเลข 2 บ่นออกมาอย่างพึมพัมเมื่อเห็นการโจมตีของตนเองพลาดเป้าไปโดนเพียงแค่แขนของอีกฝ่าย

ที่หมายเลข 2 มีความสามารถในการฟื้นฟูก็เพราะการทดลองของสไตรเกอร์นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมหมายเลข 2 ถึงมีความสามารถหลายอย่าง เดิมเขาก็เห็นแมกนีโตต่อสู้กับสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวทั้งสองตัวอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้เข้าไปร่วมด้วย เพราะคิดว่าแมกนีโตจะถูกจัดการแต่ไม่คิดเลยว่าแมกนีโตจะสามารถรอดมาได้เพราะการช่วยเหลือจากคนนอกหลังจากนั้นไม่นอนคลื่นพลังงานอาวุธลับของกองทัพก็สลายหายไป

ความสามารถกลายพันธุ์ของเขาเองก็กลับมาอีกครั้ง แต่ก่อนหน้านี้การปรากฏตัวของควิกซิลเวอร์และสกาเล็ตวิช ทําให้เขารู้สึกหวาดกลัว แต่หลังจากทั้งสองคนจากไปและเห็นแมกนี้ โตกําลังเหม่อลอย หมายเลข 2 ได้หาโอกาสลอบโจมตีอีกฝ่ายเพื่อหวังปลิดชีพแต่ไม่คิดเลยว่าอีก ฝ่ายจะไหวตัวทัน

แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังโจมตีสร้างบาดแผลให้กับแมกนีโตได้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะรีบจัดการแมกนีโตให้จบตั้งแต่ที่นี่

ฟุบ!

หลังจากเห็นชัดเจนว่าอีกฝ่ายเป็นใครคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของแมกนีโตได้กระจายพื้นที่ออกไปเป็นวงกว้างเห็นอีกฝ่ายที่ควรจะได้รับบาดเจ็บจากเขาก่อนหน้านี้ได้ฟื้นกลับมาแมกนีโตจําเป็นจะต้องจบศึกนี้ให้เร็วที่สุด

ฟรีบ!

เห็นแมกนีโตสร้างคลื่นสนามพลังแม่เหล็กกระจายไปยังพื้นที่รอบด้านหมายเลข 2 ราวกับว่ารู้ว่าแมกนีโตกําลังจะทําอะไร เขาได้แยกร่างออกเป็นหลายร่างพร้อมกับกระจายตัวไปยังทิศทางในตําแหน่งต่าง ๆ

ร่างแยกเหล่านั้นที่กระจายตัวออกไปดูเหมือนจะสร้างความผันผวนและเริ่มโจมตีสนา มพลังแม่เหล็กของแมกนีโตอีกครั้ง

“หึ! มุขเดิม ๆ ฉันไม่ได้ผลกับฉันเป็นครั้งที่สอง!” แมกนีโตบ่นพึมพัมออกมา

จากนั้นวิสัยน์ทัศน์ของเขาก็กวาดไปโดยรอบ

จากนั้นแมกนีโตก็เรียกพายุเศษโลหะจํานวนมากขึ้นมาลอยเหนือศีรษะของเขาคราวนี้เขาไม่ได้ต้องการปราณีอีกฝ่ายและใจจดใจจ่อที่จะกําจัดอีกฝ่ายโดยตรง

เห็นการโจมตีของแมกนีโต หมายเลข 2 รู้สึกตกใจอย่างมากเพราะเขาได้แบ่งร่า งแยกพลังจิตออกไปปั่นป่วนคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของแมกนีโตจนไม่สามารถส่งเสริมการโจมตีหรือป้องกันได้

แม้ร่างแยกเหล่านั้นจะสามารถช่วยบดบังวิสัยน์ทัศน์ร่างที่แท้จริงของตนเองแต่ดูเหมือนแมกนีโตจะเล็งมาที่ร่างหลักของเขาโดยตรง

“เวรเอ้ย!” หมายเลข 2 ตะโกนออกมาพร้อมกับเตรียมจะพุ่งกระโดดหลบหนี

ฟุบ!

เศษโลหะจํานวนมากพุ่งทะลุแทงร่างกายของหมายเลข 2 อย่างต่อเนื่อง

ฟ้าว!

พายุหะเศษโลหะเหล่านั้นทะลวงทะลุจนร่างของหมายเลข 2 เป็นรูพรุน ในเวลานี้ เสียงของหมายเลข 2 ในที่สุดก็เงียบแน่นิ่งไป

“นี่จะเป็นการยืนยันว่าแกจะไม่โผล่มาให้ฉันเห็นหน้าอีก!”แมกนีโตจ้องมองไปที่ร่างที่ถูกเจาะเป็นรูพรุนของหมายเลข 2 และกล่าวออกมาอย่างเย็นชา

จากนั้นแมกนีโตก็หันหลังเดินออกจาไปจากสนามรบแห่งนี้

ตอนที่ 635 พ่อลูกพบหน้า

เมื่อ สกาเล็ต วิช และ ควิกซิลเวอร์ หันมาให้ความสนใจแมกนีโต,แมกนีโตได้จ้องมองไปที่ทั้งสองคนด้วยใบหน้าแตกตื่นยินดี

“พวกเธอ…พวกเธอชื่ออะไร?”แมกนีโตกล่าวถาม ควิกซิลเวอร์ และ สกาเล็ต วิช ตอนนี้เขารู้สึกว่าหัวใจของตนเองเต้นแรงอย่างผิดปกติ

” พวกเรา?ฉันชื่อ ควิกซิลเวอร์ ส่วนเธอน้องสาวของฉันเธอชื่อ สกาเล็ต วิช!”เห็นสีหน้าที่แปลกใจของแมกนีโต ควิกซิลเวอร์ตอบกลับมากที่สุดเท่าที่จะทําได้

“ควิกซิลเวอร์และสกาเล็ต วิช? ไม่ฉันต้องการทราบชื่อจริงของพวกเธอ? เธอชื่อ เปโตรใช่มั้ย? เปโตร แม็กซิมอฟฟ์ !”ได้ยินคําตอบของควิกซิลเวอร์ แมกนีโต กล่าวถามอีกครั้ง

“คุณรู้จักพวกเรา คุณเป็นใครกันแน่?”คราวนี้ไม่ต้องรอให้ควิกซิลเวอร์กล่าวถาม สกาเล็ตวิชได้เดินมาที่เบื้องหน้าของ แมกนีโต

“เพราะฉัน…”ได้ยินคําพูดของสกาเล็ต วิช แมกนีโต ค่อนข้างตื่นเต้น เขาอยากที่จะตะ โกนออกไปว่าฉันคือพ่อของพวกเธอ

” พี่ชาย พวกเราต้องรีบออกจากที่นี่กันแล้ว!” เพียงแต่ว่าสกาเล็ต วิช ไม่ได้รอคําตอบจากแมกนีโตเธอหันไปกล่าวถาม ควิกซิลเวอร์ทันที

เหตุผลที่ควิกซิลเวอร์ และ สกาเล็ตวิช ปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยเหลือ แมกนีโต นั้นเป็นเรื่องบังเอิญ หลังจากที่ ควิกซิลเวอร์ และ สกาเล็ตวิช แยกตัวออกจาก พวกไฮดร้า พวกเขาก็เร่ร่อนอยากจะใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป แต่เพราะการมีอยู่ของทีม X-MEN พวกเขาจึงได้ตระเวณไปทั่วอย่างไร้จุดหมาย

เพื่อหลีกเลี่ยงการค้นหาของพวกทีมX-MEN ควิกซิลเวอร์ และ สกาเล็ต วิช ได้ตะลอนไปทั่วเนื่องเพราะเมื่อไม่นานมานี้พลังของสกาเล็ต วิช ได้ตื่นขึ้นมา และ สามารถใช้ป้องกันจิตวิญญาณของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงมีโอกาสที่จะตอบโต้พวกทีม X-MEN แต่ถึงอย่างนั้นใจจริงของพวกเขาก็คือการมองหาแม่ของตนเอง แต่หลังจากนั้นพวกเขาได้รับข่าวว่าแม่ของต นเองที่ไม่ได้พบมาหลายปีเธอได้จากไปแล้วแต่เขาก็ได้รับข่าวที่น่าตกใจมานั่นก็คือพ่อของพวก เขายังมีชีวิตอยู่

แม่ของพวกเขาได้ทิ้งข่าวเอาไว้ให้ว่าพ่อของเขาคือ แมกนีโต ดังนั้น พวกเขาจึงมาที่วอชิงตันที่นี่เพื่อตามหาเขา แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่พบตัวตนของอีกฝ่ายเลย อาจเป็นเพราะพวกเขาไม่คุ้นเคยหรือเคยเห็นใบหน้าพ่อของตนเองมาก่อน

สกาเล็ต วิช ได้ยินชื่อเสียงของ แมกนีโต มาพอสมควร เธอได้ยินการกระทําที่โหดร้ายของพ่อคนนี้ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอยากที่จะเห็นใบหน้าพ่อของเธออีกสักครั้ง

“แวนด้า!”ควิกซิลเวอร์ได้กล่าวเรียกเธอ

แมกนีโตที่ได้ยินเช่นนั้นในที่สุดเขาก็สามารถยืนยันสถานะของทั้งสองคนได้อย่างเต็มร้อยเปอร์เซ็นในฐานะพ่อคนนึงแล้วเขาปราถนาที่จะพบทั้งสองคนมาโดยตลอด

“แวนด้า!?เธอคือลูกของฉันจริง ๆ !”แมกนีโตรู้สึกอบอุ่นในใจ

แมกนีโตได้เดินไปข้างหน้า เขาต้องการที่จะบอกกับลูกๆของตนเองทั้งสองคนว่าแท้จริงแล้วเขาคือพ่อของพวกเธอ

ฟุบ!

เพียงแต่ว่าแมกนีโตได้เดินออกไปก้าวนึ่งและหยุดลง เพราะแสงสีแดงอ่อน ๆ บางอย่างได้หยุดร่างของเขาเอาไว้ ดูเหมือน สกาเล็ต วิช จะยังมีข้อเคลือบแคลงใจในตัวของเขาอยู่

“ไปกันเถอะ สกาเล็ตวิช กล่าวบอก ควิกซิลเวอร์

“อืม” ควิกซิลเวอร์กล่าวตอบ

ฟุบ!

แมกนีโตไม่ได้ทันได้ส่งเสียงอะไรจากนั้นควิกซิลเวอร์ก็ได้พาตัว สกาเล็ตวิช หายตัวไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว

“แวนด้า…เปโตร” หลังจาก ควิกซิลเวอร์ และ สกาเล็ตวิช จากไป แมกนีโต ได้จ้องมองไปที่ทิศทางที่ทั้งสองคนจากไป สีหน้าของเขาโศกเศร้ามาก

ฟุบ!

แต่ขณะที่แมกนีโตกําลังจ้องมองไปที่ยังทิศทางที่พวกเขาจากไป เขาก็เหลือบไปเห็นเศษกระดาษเล็ก ๆ ได้ลอยมาตกที่พื้น แมกนีโตได้เอื้อมลงไปเก็บและอ่านข้อความบนกระดาษนั้นมันเป็นเบอร์โทรศัพท์และข้อความบางอย่าง

“เปโตร แวนด้า”

“ไม่ว่าอย่างไรฉันจะทําให้พวกเธอจําฉันให้ได้”แมกนีโตรับเศษกระดาษมาจากนั้นก็บ่นพึมพัม เล็กน้อย

ฟุบ!

หลังจากรับเศษกระดาษมา แมกนีโต รู้สึกว่าร่างกายของเขาที่ถูกระงับความสามารถก่อนหน้านี้ได้ถูกเรียกคืนกลับมาแล้ว ดูเหมือนเวลาส่งผลของอาวุธลับทางกองทัพจะมีเวลาจํากัดที่ค่อนข้างสั้น แม้มันจะอยู่ได้เพียงแค่ 2 นาที แต่ก็ส่งผลต่อสนามรบหรือพวกมิวแทนท์อย่างมหาศาล

“หืม! ฉันได้เจอลูก ๆ ของฉันแล้ว คราวนี้ฉันจะปล่อยพวกแกไปก่อน อย่างไรก็ตาม พวกแกได้เผยอาวุธลับที่พวกแกภาคภูมิใจออกมาแล้ว ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็จะหาทางทําลายมันไม่งั้นพวกเราเหล่ามิวแทนท์จะไม่มีที่ยืนบนโลกใบนี้”แมกนีโตจ้องมองไปที่ สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวที่อยู่ไม่ไกล

ฟุบ!

แมกนีโตได้สร้างเศษโลหะขนาดยักษ์และจัดการสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวทั้งสองตัว

“ควรได้เวลาจากไปแล้ว”แมกนีโตจ้องมองไปยังทิศทางของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เล็กน้อย

สําหรับสมาชิกของสมาคมมิวแทนท์ของเขา แมกนีโต รู้ดีว่า ชาร์ลส์จะไม่ทําอันตรายคนเหล่านั้น เมื่อถึงเวลา แมกนีโต จะไปที่โรงเรียนเซเวียร์ และ พูดคุยกับชาร์ลส์โดยตรง

ฟุบ!

ขณะที่แมกนีโตตัดสินใจที่จะออกจากที่นี่จู่ ๆ ก็มีลําแสงสีแดงยิงตรงมาจากด้านข้างของเขาแมกนีโตได้หันศีรษะไปยังทิศทางที่ว่าในทันที

ตอนที่ 634 การมาถึงของคู่พี่น้อง

แมกนีโตไม่คิดเลยว่าตนเองจะได้รับการช่วยเหลือในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตยิ่งไปกว่านั้นตัวตนที่ปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยเหลือเขา เขาไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงอีกฝ่ายได้

“โฮก!”

ขณะที่แมกนีโตจ้องมองไปที่อีกฝ่าย และ มองหาเหตุผลที่อีกฝ่ายช่วยเหลือเขา จู่ ๆ เสียงคํารามของสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียว ตัวนึง ก็พุ่งเข้ามายังทิศทางของแมกนีโตและจู่โจมเขา

เงาร่างสีเงินได้ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของแมกนีโตอีกครั้งและจับมือขนาดยักษ์ที่พุ่งโจมตีแมกนีโตซัดเหวี่ยงลอยไปไกล คราวนี้แมกนีโตสามารถมองเห็นคนคนนี้ได้อย่างชัดเจนผู้ชายคนนี้ ดูแล้วอายุไม่ถึง 30 ปี มีผมสีเงิน ใบหน้ามั่นคงและแน่วแน่อีกทั้งแมกนีโตยังค่อนข้างรู้สึกคุ้นเคย

“โฮกก!” สัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวนี้ที่ถูกเหวี่ยงโดย ควิกซิลเวอร์ ด้วยความเร็วสูงได้ลงไปกองจนน้ําลายฟูมปาก

ถูกต้องคนที่เข้ามาช่วยเหลือชีวิตของแมกนีโต ก็คือ ควิกซิลเวอร์ ลูกชายของแมกนีโตไม่รู้ว่า ทําไมเขาถึงปรากฏตัวขึ้นที่นี่และช่วยเหลือแมกนีโต แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้รับผลกระทบจากอาวุธลับของทางกองทัพนั่นแสดงให้เห็นว่าเขาพึ่งจะมาถึงเมื่อไม่นานนี้

“เขารูปร่างหน้าตาของเขา!”เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของควิกซิลเวอร์แมกนีโตรู้สึกตกใจอย่างมาก

ก่อนหน้านี้แมกนีโตรู้สึกคุ้นเคยเป็นพิเศษเห็นได้ชัดว่าความรู้สึกผูกพันทางสายเลือดของเขามันได้ตอบสนองสัญชาตญาณของตนเอง

“เขาคือเปโตร! ลูกชายของฉัน!”แมกนีโตตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น

ไม่คิดเลยว่าคนที่ช่วยเหลือตนเองจะเป็นลูกชายของเขาเปโตร ดังนั้นใบหน้าของแมกนีโตจึงปรากฏความร่องรอยแห่งความสุข มันค่อนข้างคุ้มค่ากับที่ตัวเขาบุกทุ่มสุดตัวในการโจมตีพวกสไตรเกอร์

บั้ง ทั้ง

“โฮก!!” ขณะที่แมกนีโตรู้ว่าอีกฝ่ายคือลูกชายของตนเองจู่ ๆ สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวสองตัวที่ถูก ควิกซิลเวอร์จัดการก็ได้ลุกขึ้นมาอีกครั้งคราวนี้เป้าหมายของมันคือ ควิกซิลเวอร์

“ระวัง!”เห็นสัตว์ประหลาดทั้งสองตัวลุกขึ้นมาและจู่โจม ควิกซิลเวอร์อย่างรวดเร็ว ใบหน้าของ แมกนีโต ปรากฏความกังวล

หืม!

ควิกซิลเวอร์ที่ได้ยินเสียงเรียกตะโกนพยายามที่จะหลีกเลี่ยงแต่ว่าอีกฝ่ายเองก็รวดเร็วอย่างมาก แมกนีโตในตอนนี้ไม่ลังเลที่จะฝืนใช้ความสามารถของตนเองแม้ว่าเขาจะได้รับผลย้อนกลับที่ตามมาก็ตาม จู่ ๆ วัสดุโลหะรอบข้าง ก็ถูกควบคุมอีกครั้งแมกนีโตได้ฝืนใช้ความสามารถของตนเองในการป้องกันศัตรูที่โจมตีควิกซิลเวอร์ที่เผลอ

สัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวถูกการโจมตีของแมกนีโตจนมึนงงเล็กน้อยซึ่งเปิดโอกาสให้ควิกซิลเวอร์ใช้จังหวะนี้ในการกู้สัญชาตญาณการตอบสนองของตนเองกลับมาอีกครั้ง

บัง บั้ง!

การโจมตีของสัตว์ประหลาดยักษ์ได้พลาดเป้า แมกนีโตหลังจากใช้ความสามารถร่างกายของเขากลับทรุดตัวลงอย่างอ่อนแออีกครั้ง

“เจ้าพวกคนของกองทัพ! ถ้าลูกชายของฉันแมกนีโตคนนี้เป็นอะไรล่ะก็ ฉันไม่ปล่อยพวกแกไว้แน่!”

“ถึงจะต้องตายฉันก็จะตามจองเวรพวกแกให้ถึงที่สุด!”แมกนีโตจ้องมองไปที่ควิกซิลเวอร์อย่างกังวล

ควิกซิลเวอร์ได้พุ่งหลบการโจมตีของสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวอย่างต่อเนื่องเหตุเพ ราะพวกมันคราวนี้ได้เพ่งเล็งการโจมตีมาที่ควิกซิลเวอร์โดยตรงจนแทบจะไม่เปิดโอกาสให้ควิกซิลเวอร์ได้โจมตีกลับ

แมกนีโตได้พยายามฝืนใช้ความนสามารถของตนเองอีกครั้งแต่ดูเหมือนครั้งนี้จะไม่สําเร็จควิกซิลเวอร์ที่กําลังตกที่นั่งลําบาก จู่ ๆ ก็มีพลังงานสีแดงพุ่งเข้ามาหยุดการเคลื่อนไหวของสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวทั้งสองตัว

กําปั้นที่เดิมทุ่งโจมตีอย่างต่อเนื่องได้หยุดโจมตีลงจากนั้นการเคลื่อนไหวทั้งหมดก็ถูกหยุดโดยสมบูรณ์

จากนั้นไม่นานร่างของพวกมันก็ถูกส่งลอยไปโดยพลังงานสีแดงที่ว่านี้

หลังจากสัตว์ประหลาดยักษ์ถูกเหวี่ยงลอยไป ควิกซิลเวอร์ได้คลานลุกขึ้นมาจากพื้นดินพร้อมกับตบฝุ่นออกจากร่างกาย เมื่อครู่เขาพลาดเกือบที่จะถูกโจมตีแล้ว

ในตําแหน่งไม่ไกลจากพวกเขาจู่ ๆ ก็มีเงาร่างสีแดงปรากฏขึ้น ควิกซิลเวอร์ ได้เดินเข้าไปหาคนคนนี้ แมกนีโต เองก็จ้องมองไปที่ทั้งสองคนอย่างตื่นตะลึง เพราะอีกคน คงจะเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจาก สกาเล็ต วิช แวนด้า

“ฉันบอกพี่แล้วให้ระวังตัว เห็นไหม พี่ได้รับบาดเจ็บอีกแล้ว!” สกาเล็ต วิช จ้องมองไปที่ควิกซิลเวอร์อย่างกังวล

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก บาดแผลแค่นี้ นอกจากนี้ฉันยังมีเธอคอยระวังหลังให้ ดังนั้นฉันจึงไม่รู้สึกกังวลเท่าไหร่” ควิกซิลเวอร์กล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม

จากนั้นทั้งคู่ก็หันเหความสนใจไปยังทิศทางของแมกนีโต

ตอนที่ 633 เงาร่างสีเงิน

แจ็คถูกล้อมรอบไปด้วยสัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวหลายตัว ก่อนหน้านี้เขาได้เผชิญหน้ากับแมกนีโตและใช้พลังเวทย์ไปมากดังนั้นเขาจึงค่อนข้างเหน็ดเหนื่อยพอสมควร กัปตันโรเจอร์สกับแจ็ค ในตอนนี้ ได้ถูกล้อมไปด้วยฝูงสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียว

บัง บั้ง!

ในตําแหน่งไม่ห่างไกลจากแจ็ค ที่มพิเศษทีม K ของ S.H.I.E.L.D. ก็ตกที่นั่งลําบากเหมือนกันไม่เว้นแม้แต่กัปตันโรเจอร์ศ โล่ ในมือของเขาได้ถูกโยนออกไปกระแทกสัตว์ประหลาดยักษ์และเด้งกลับมาจนถึงตอนนี้กัปตันโรเจอร์สได้ใช้พลังกําลังในร่างกายอย่างมากในการจัดศัตรูที่ล้อมรอบตนเอง

ฟุบ!

เป็นอีกครั้งที่สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวที่ล้อมรอบเขาได้พุ่งโจมตีกรูเข้ามาพร้อมกัน กัปตันโรเจอร์สได้ยกโล่ในมือของเขาต้านทานหมัดยักษ์ของสัตว์ประหลาดนั่นจนเขาของเขาทรุดลงเล็กน้อยแต่กัปตันโรเจอร์สก็ใช้ความคล่องตัวของตนเองในการสวนกลับอีกฝ่ายและล่าถอยออกไปตั้งหลักตึก!

“สตาร์คนายจะมัวยืนรออีกนานไหม?”กัปตันโรเจอร์สเบิดปากพูดขึ้นขณะที่กําลังจัดการพวกสัตว์ประหลาดพวกนี้ไปด้วย

หืม!

หลังจากกัปตันโรเจอร์สกล่าวออกมาจู่ ๆลําแสงสีขาวหลายสิบสายก็พุ่งลงมาจากบนอากาศลําแสงเหล่านี้ได้หลบหลีกพวกกัปตันโรเจอร์สและสมาชิกของทีมK พุ่งเป้าอย่างแม่นยําโจมตีไปที่สัตว์ประหลาดยักษ์เหล่านั้น

“ฉันรู้แล้วน่า แค่วิเคราะห์สถานการณ์อยู่ก็เท่านั้น” จากนั้นเสียงของโทนี่ก็เปล่งข้าง หูของกัปตันโรเจอร์ส

ได้ยินคําพูดของโทนี่ กัปตันโรเจอร์สยนคิ้วเล็กน้อยเพราะเขารู้ดีว่า โทนี่ เป็นคนยังไง โทนี่ต้องการเข้ามาช่วยในวินาทีที่พวกเขากําลังตกที่นั่งลําบาก เพราะความสําคัญของกองทัพไอรอนแมนในตอนนี้สูงมากเนื่องเพราะความสามารถกลายพันธุ์ของเหล่ามิวแทนท์ถูกระงับ ประสิทธิภาพของชุดเกราะไอรอนแมนจะสามารถเชิดฉายมากที่สุดในตอนนี้ก็ไม่แปลก

ยิ่งไปกว่านั้นกําลังของกัปตันโรเจอร์สคนเดียวย่อมไม่สามารถกําจัดศัตรูได้หมดแม้สมาชิกทีมK ของตนเองจะมีเทคโนโลยีระดับสูงอยู่กับตัว แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าของตนเองได้ดังนั้นเมื่อได้กองทัพไอรอนแมนมาช่วยย่อมช่วยเบาแรงของตนเองไปเยอะ

“ประสานงานกับ กองทัพไอรอนแมน ช่วยกันหยุดสัตว์ประหลาดยักษ์พวกนี้ พวกมันย่อมไม่สามารถคงสภาพนี้ได้นานนัก” กัปตันโรเจอร์สกล่าวสั่งทีม K ของเขา

ไม่ว่าทางกองทัพจะวางแผนจัดการแมกนีโตเด็ดขาดขนาดไหนแต่พวกเขาก็ย่อมมีขีดจํากัดซึ่งกัปตันโรเจอร์สเชื่อว่ากองทัพสัตว์ประหลาดยักษ์นี่ย่อมอยู่ได้ไม่นาน หากไม่สามารถจัดการแมกนีโตลงได้ทางกองทัพที่สูญเสียไพ่ตายทั้งหมดย่อมต้องถอยทัพกลับไปดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือเวลา

บั้ง ทั้ง

กัปตันโรเจอร์สประสานงานกับชุดเกราะไอรอนแมนหลายสิบตัวเพื่อเข้าปะทะกับสัตว์ประหลาดตัวเขียวจํานวนมากเหล่านี้

ขณะที่กัปตันโรเจอร์สกําลังเผชิญหน้ากับการต่อสู้ ทางด้านแมกนีโต เขาที่ตัวคนเดียวในเวลานี้ดูเหมือนสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวสองตัวกําลังเดินหน้าหาเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ความสามารถควบคุมโลหะเดิมเขาไม่สามารถควบคุมมันได้ในตอนนี้

“ไม่คิดเลยว่าทางกอทัพจะได้ศึกษาอาวุธประเภทนี้ขึ้นมา มันถือเป็นอันตรายต่อพวกเราเหล่ามิวแทนท์อย่างแท้จริง หากพวกมันยังคงศึกษาวิจัยอาวุธประเภทนี้ต่อไปไม่นานทั่วทั้งโลกจะไม่มีที่ยืนให้พวกเราเหล่ามิวแทนท์”ในใจของแมกนีโตรู้สึกโกรธเคืองอย่างมาก

แม้สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวจะอยู่ห่างจากตนเองไม่ไกลเท่าไหร่แต่ในใจของแมกนีโตเวลานี้รู้สึกสงบจนถึงที่สุด

“ชาร์ลส์ถึงแม้ว่านายจะเปลี่ยน แต่โลกนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนไปเช่นเดิม มันไม่ เปลี่ยนไปแม้แต่น้อยแม้จะอยู่ในช่วงนาทีสุดท้ายของชีวิต แมกนีโต ก็ไม่สนใจและบ่นพึมพัมกับตนเอง

แมกนีโตรู้สึกเสียใจกับช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตตนเองมากไม่ใช่ว่าเขากลัวตายแต่เขารู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถพบเจอลูก ๆของตนเองอีกครั้ง อย่างน้อยในช่วงสุดท้ายของชีวิตเขาเขาก็อยากจะพบเจอทั้งสองคน

“แวนด้า เปโตร หวังว่าลูก ๆ จะสามารถใช้ชีวิตที่สงบสุขบนโลกนี้ได้ ชาร์ลส์ฉันหวังว่านายจะสามารถช่วยให้พวกเราเหล่ามิวแทนท์มีอนาคตที่สดใส”แมกนีโตจ้องมองไปที่กําปั้นขนาดยักษ์ที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึง 5 เมตร

เขาได้หลับตาลงอย่างช้า ๆ

ฟุบ!

จู่ ๆ แมกนีโตก็สัมผัสได้ถึงแรงลมที่ด้านหน้าจากนั้นร่างของสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวก็ถูกเหวี่ยงออกไปจากเบื้องหน้าของเขาด้วยความเร็วสูง

แมกนีโตได้เปิดเปลือกตาขึ้นเขาเห็นรูปแบบเงาสีเงินลาง ๆ พุ่งผ่านตนเองไป เป็นเพราะความเร็วของคนคนนี้รวดเร็วมากจนแมกนี้โตไม่สามารถมองได้ทัน

“เขาเป็นใครกัน?”แมกนีโตจ้องมองไปที่เงาสีเงินที่รวดเร็วจนมองไม่เห็นเขารู้สึกสงสัยว่าเจ้าของเงาร่างที่ว่านี้เป็นใคร

ตอนที่ 632 ความสามารถที่แข็งแกร่ง

ทันทีที่คลื่นความผันผวนเหล่านั้นถูกปลดปล่อยออกมา ทําให้พวกศาสตราจารย์ ชาร์ลส์และแมกนีโตถูกระงับความสามารถกลายพันธุ์ เพราะงี้ ชุดเกราะไอรอนแมน ของโทนี่จึงหลุดจากคลื่นสนามพลังของแมกนีโต

ความแข็งแกร่งของแมกนีโต ทําให้โทนี่รู้สึกหวาดกลัวอย่างแท้จริง หากให้ต้องเลือกสู้กับสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวและแมกนีโต โทนี่ขอเลือกสู้สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวยังดีซะกว่า

หลังจากที่คลื่นสนามพลังของแมกนีโตหายไป ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ก็ฟื้นกลับมาอย่างช้าๆ

จากนั้นฟังก์ชั่นทั้งหมดของชุดเกราะไอรอนแมนก็ฟื้นสภาพโดยสมบูรณ์

“J.A.R.V.1.S ส่งกองทัพของเราเข้าไปขัดขวางพวกสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวพวกนี้ ถ่วงเวลาไว้ให้ได้นานที่สุด ฉันไม่เชื่อว่าพวกเขาจะสามารถคงสภาพได้นานมากกว่า 3 นาที ไปเร็ว!”โทนี่กล่าวออกมา ก่อนหน้านี้เขาได้ยินสัญญาณขอความช่วยเหลือจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์

“ครับเจ้านาย!”ได้ยินคําพูดของโทนี่ J.A.R.VIS ตอบกลับทันที

พริบตาต่อมา โทนี่ได้บังคับชุดเกราะไอรอนแมน จากนั้นก็พุ่งตรงขึ้นสู่ท้องฟ้า

ปั้ง ปั้ง

ทางด้านสัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวพวกมันพุ่งเข้าหากพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์และแมกนีโตที่อยู่ไม่ไกล แม้ว่าทางด้านแมกนีโตจะมีพวกสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวหลายตัวพุ่งเข้ามา แต่ก็ยังไม่เท่าทางด้านพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์

“กัปตันโรเจอร์สดูเหมือนว่าพวกเราต้องพึ่งคุณลงมือแล้ว”เห็นพลังจิตของตนเองถูกระงับเอาไว้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้สึกทําอะไรไม่ถูก เขากล่าวบอกกัปตันโรเจอร์ส

“ไม่ต้องกังวล พวกเราจะปกป้องคุณเอง” กัปตันโรเจอร์ศได้นําทีมพิเศษ K เพื่อเข้าต้านทานสัตว์ประหลาดพวกนั้น

แม้จะเป็นมิวแทนท์ที่แข็งแกร่งขนาดไหน หากความสามารถกลายพันธุ์ของตนเองถูกระงับ ย่อมไม่ต่างอะไรไปจากมนุษย์ธรรมดา ซึ่งพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์เองในตอนนี้ก็เป็นแบบนั้นสมาชิกของทีม X-MEN ทุกคนตอนนี้คือพลเรือนธรรมดานั่นเอง

ทางกองทัพดูเหมือนจะสร้างอุปกรณ์เทคโนโลยีที่สามารถระงับพลังของพวกมิวแทนท์ขึ้นมา เพื่อใช้ในการควบคุมพวกมิวแทนท์เหล่านี้ พวกเขาไม่ต้องการให้พวกมิวแทนท์ใช้พลังอํานาจเหล่านั้นมากดดันประเทศให้ต้องพบกับภัยพิบัติ

หากทางกองทัพมีความสามารถในการระงับพวกมิวแทนท์อย่างสมบูรณ์ในเวลาต่อมา พวกมิวแทนท์ย่อมไม่กลายเป็นภัยคุกคามต่อพวกเขาอีก ท้ายที่สุดแล้ว พวกมิวแทนท์ก็จะถูกควบคุมตัวโดยสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นมิวแทนท์ระดับ 4 หรือระดับ 5 อนาคตของพวกเขาก็คงไม่ต่างอะไรไปจากมนุษย์ธรรมดาที่ถูกควบคุมตัว

ในเวลานี้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ค่อนข้างคลายกังวลนิดนึงเพราะมีกัปตันโรเจอร์สอยู่ด้วย ความสามารถของกัปตันโรเจอร์สคือพลังทางกายภาพแน่นอนว่าเขาเหมือนกับมิราจในท์ดังนั้นความสามารถเหล่านี้จึงไม่มีผลกระทบต่อคลื่นพลังความผันผวนนั่น

ขณะที่กัปตันโรเจอร์สนําทีม K ของตนเองเข้าระงับพวกสัตว์ประหลาดยักษ์เหล่านั้นทางด้านแจ็คเขาเองก็ถูกระงับความสามารถกลายพันธุ์ แต่เขาในตอนนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะตอนนี้แจ็คคือหนึ่งในเหล่าพวกพ่อมด เขายังคงสามารถใช้พลังเวทย์ได้อยู่

“แม้ว่าฉันจะรู้ไม่ว่าพวกนายเป็นใคร แต่ฉันจะไม่ยอมให้พวกนายทําร้ายพันธมิตรของฉัน”แจ็คได้วาดสัญลักษณ์มือและตะโกนขึ้น

ฟุบ!

สัญลักษณ์สีทองของแจ็คได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นเชือกเส้นยาว มันได้พุ่งไปยังสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวเหล่านั้น โดยอัตโนมัติและจับกุมพวกมันไว้

“ดี!”เห็นสัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวหลายตัวถูกจับกุมแจ็ครู้สึกดีใจเล็กน้อย

จากนั้นเชือกสีทองของเขาก็พุ่งเข้าไปหยุดการเคลื่อนไหวของสัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวหลายตัว สัตว์ประหลาดยักษ์พวกนั้นพอเห็นเชือกสีทองมัดตัวเองเอาไว้ดวงตาของพวกมันเผยแวดุร้ายมากขึ้น

โฮก!

แต่ทว่าไม่ว่าพวกสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวจะดิ้นมากเท่าไหร่พวกมันก็ไม่อาจสลัดหลุดจากเชือกสีทองเหล่านี้ได้

จากนั้นเชือกสีทองเหล่านั้นก็มัดทั้งมือและเท้าของพวกมันจนพวกมันแน่นิ่งไป

แจ็คถอนหายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อยการใช้เชือกสีทองเหล่านี้จํานวนมาก ค่อนข้างกินพลังเวทย์ของเขาพอสมควร

“เขาคือหนึ่งในสมาชิกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์?เขาแข็งแกร่งมาก ทําไมก่อนหน้านี้เราถึงไม่เคยเห็นเขากันนะ?”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เห็นแจ็คที่ช่วยจัดการแมกนีโตก่อนหน้านี้ เขาค่อนข้างประทับใจในตัวของอีกฝ่ายพอสมควร

ปิ้ง ปิ้ง ปิ้ง

ขณะที่แจ็คช่วยสนับสนุนในการหยุดพวกสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียว กัปตันโรเจอร์สก็นําทีม K ของตนเองในการเข้าจัดการศัตรูที่เหลือ

ตอนที่ 631 อาวุธลับสุดร้ายกาจของทางกองทัพ

เมื่อศาสตราจารย์ชาร์ลส์ปล่อยจิตวิญญาณของตนเองสแกนไปยังทางพวกกองทัพที่ล่าถอย แท้จริงแล้วเขากลับพบว่าอีกฝ่ายไม่ได้ล่าถอยแต่เลือกซ่อนตัวและจัดกองกําลังที่ภาคพื้นดิน พร้อมกับนําอาวุธที่ไม่เป็นที่รู้จักเตรียมออกมา ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ต้องการจะถามกัปตันโรเจอร์ส แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไปอาวุธที่ว่านั่นถูกยิงออกมาแล้ว

ฟุบ!

“นั่นมันอะไรหนะ?”เห็นแสงไฟที่เหมือนกับดาวหางสีขาวพุ่งขึ้นไปบนฟ้า กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามอย่างแปลกใจ

อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์ชาร์ลส์เองก็ไม่ได้มีเวลามากพอที่จะตอบปัญหาเช่นเดียวกัน และอีกอย่างเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร แต่ดูเหมือนทางกองทัพจะมั่นใจกับอาวุธนี้มาก

อีกทางด้านนึ่งของสนามรบ แมกนีโตที่ถูกคลื่นพายุสายฟ้ากลืนกิน เขาได้ใช้ความ แข็งแกร่งของตนเองสลัดออกมาได้ในเวลาต่อมา แต่พายุสายฟ้านั่นเองก็แข็งแกร่งมากทําให้แมกนีโตแสดงความเหนื่อยล้าออกมาตั้งแต่เริ่มแมกนีโตได้เผชิญหน้ากับการระเบิดอย่างไม่หยุดยั้ง แม้เขาจะทรงพลัง แต่ร่างกายก็ยังมีขีดจํากัด

คลื่น

ในสถานการณ์ที่ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น วัตถุแสงบางอย่างได้พุ่งตรงไปยังทิศทางภูมิภาคของพวกเขา และระเบิดขึ้นท่ามกลางแมกนีโตและตําแหน่งของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ แต่ว่าระยะห่างก็ยังไกลมากอยู่ดี หากนั่นเป็นขีปนาวุธจริงแรงระเบิดจากระยะนั้นก็ไม่สามารถทําอันตรายอะไรแมกนีโต หรือพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ แต่ผิวของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ได้แสดงออกถึงความโล่งใจ เพราะหลังจากมันระเบิดขึ้นรัศมีระเบิดทําลายล้างกลับไม่ปรากฏให้เห็น

ฟุบ

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ใช้พลังจิตของตนเองสอดส่องขีปนาวุธที่ถูกยิงมาอีกครั้ง หลังจากมันระเบิดขึ้น แรงระเบิดไม่ได้ส่งผลกระทบ แต่กลับปล่อยคลื่นความผันผวนบางอย่างที่ดูลึกลับออกมา

“มันคืออะไร?” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์สัมผัสได้ถึงคลื่นความผันผวนที่น่ากลัวเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันส่งผลให้จิตวิญญาณของเขาสัมผัสได้ถึงสัญชาตญาณแห่งการหลบหนี

“ความรู้สึกนี้ ไม่ดีแล้ว! บลิงก์ รีบพาทุกคนออกจากที่นี่เร็ว!”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่มีเวลามากพอจะอธิบาย เขากล่าวตะโกนไปยังทิศทางของบลิงก์

บลิงก์ที่ได้ยินเสียงของศาสตราจารย์ชาร์ลส์เธอได้ยกมือขึ้นสร้างประตูมิติอวกาศขึ้นมา แต่ดูเหมือนประตูมิติอวกาศของบลิงก์จะแปลกๆไป ตั้งแต่คลื่นความผันผวนที่ว่านั่นเริ่มทํางาน พริบตาต่อมาเรื่องที่ชวนน่าเหลือเชื่อก็ปรากฏขึ้น พลังงานประตูมิติอวกาศของบลิงก์เริ่มที่จะไม่มั่นคง ก่อนที่พลังทั้งหมดจะสลายหายไปต่อเบื้องหน้าของเธอ

“ความสามารถของฉัน ถูกทําลาย?”เห็นประตูมิติอวกาศหายไปจากด้านหน้าของเธอ บลิงก์รู้สึกไม่เชื่อในสายตาตนเอง

หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกแปลกๆอีกครั้ง ความสามารถกลายพันธุ์ที่เธอครอบครองอยู่กลับหายไปโดยไม่คาดคิด ตอนนี้เธอไม่สามารถควบคุมพลังที่เธอมีได้ เพราะแบบนี้ ตอนนี้เธอจึงไม่ต่างอะไรไปจากคนธรรมดาที่ไม่มีพลังวิเศษใดๆ หลังจากประตูมิติอวกาศของบลิงก์หายไป ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เองก็สัมผัสได้ถึงความแปลกๆ ความสามารถกลายพันธุ์ของตนเองก็หายไปด้วยเช่นเดียวกัน

“อาวุธลับของทางกองทัพแท้จริงคือสิ่งนี้? มันสามารถระงับพลังของพวกมิวแทนที่ได้!”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์บ่นพึมพัมออกมา

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์สามารถตระหนักได้ว่าพลังจิตของตนเองยังคงมีอยู่ก็จริง แต่เขาไม่อาจใช้งานมันได้ ตอนนี้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้แล้วว่าอาวุธลับที่แท้จริงของทางกองทัพมีความสามารถในการระงับพลังกลายพันธุ์ของพวกเขา

ไอซ์แมนเองก็รู้สึกได้เช่นเดียวกัน เขาไม่สามารถปลดปล่อยพลังของตนเองออกมาใช้ได้แม้จะรู้ถึงการคงอยู่ของพลัง เวลานี้ ศักดิ์ฐานะของมิวแทนท์ที่เข้าใกล้ระดับ 5 มากที่สุด ย่อมไม่ต่างอะไรไปจากคนธรรมดา

“บัดซบ!”ไอซ์แมนที่ไม่สามารถควบคุมพลังของตนเองได้ เขาสบถค่าออกมาอย่างไม่สบอารมณ์

แม้แต่แมกนีโตที่ขึ้นชื่อว่าร้ายกาจ พลังของเขาก็ถูกระงับอย่างสมบูรณ์นี่เป็นครั้งแรกที่แมกนีโตเผยให้เห็นความตกใจถึงขีดสุด

คลื่น!

จากนั้นขีปนาวุธจํานวนมากก็พุ่งออกมาทิศทางของพวกเขาและระเบิดขึ้นหลายแห่งจนกลายเป็นบ่อหลุมยักษ์จํานวนมาก

ปั้ง ปั้ง

หลังจากการระเบิดหลายครั้งตามมาด้วยเสียงคํารามที่ฟังดูคุ้นเคย ใช่แล้ว มันคือเสียงคํารามของสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวหลายตัว พวกมันทั้งหมดได้คลานออกมาจากหลุมยักษ์เหล่านั้นตามทิศทางที่ขีปนาวุธถูกยิงออกไป

“โฮก! โฮก!”เสียงคํารามของสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวหลายตัวได้คํารามออกมาอย่างโกรธแค้น ก่อนที่จะแบ่งออกเป็นสองทิศทางและมุ่งหน้าไปยังทิศทางของแมกนีโต และศาสตราจารย์ชาร์ลส์

“เจ้านายครับ,ระบบได้ฟื้นคืนเป็นปกติแล้ว”ขณะที่พวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์กําลังวิตกกังวลเพราะอาวุธลับของทางกองทัพ ชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ เดิมที่สูญเสียการควบคุมได้ฟื้นระบบกลับมาเป็นปกติ

“อืม,ช่างมาได้ถูกเวลาจริงๆ !”โทนี่กล่าวพูดออกมา

ตอนที่ 630 กองทัพเลือกที่จะล่าถอย?

กึก! ครืน!

ในตําแหน่งของแมกนีโต พลังงานพายุไฟฟ้าลูกใหญ่ได้ซัดเข้าหาทิศทางของตนเอง แมกนีโตได้ยกเลิกการควบคุมระยะไกลและหันมาป้องกันตัวเองในทันที

คลื่น!!

ขณะที่แมกนีโตถูกโจมตีด้วยพลังงานสายฟ้าของสตอร์ม แมกนีโตก็ไม่อาจอยู่สู้สภาพ ในดั้งเดิมเขาเขาจําเป็นต้องล่าถอยออกจากตรงนี้ชั่วคราว

เห็นแมกนีโต เลือกที่จะถอยก่อน ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จ้องมองไปที่ไอซ์แมน

“ไอซ์แมน คลายพื้นที่ของเธอซะ!” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวกับไอซ์แมน

ฟุบ!

ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ไอซ์แมนได้คลายพื้นที่เยือกแข็งของตนเอง ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นสตอร์มหรือไอซ์แมน พวกเขาได้ฝืนใช้พลังงานจํานวนมากพวกเขาจําเป็นต้องพัก

พลังงานของพวกเขาถูกชุ่มไปกับการหยุดการโจมตีของแมกนีโต แต่เพื่อปกป้องศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็เต็มใจที่จะอุทิศตนเองเพื่อปกป้องคนคนนี้

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จ้องมองไปยังทิศทางของทางกองทัพ ในเวลานี้ พวกเขาราวกับว่ากําลังทําอะไรบางอย่าง แม้จะเผชิญหน้ากับความร้ายกาจของแมกนีโต พวกเขาก็ไม่ได้มีท่าทีถอยกําลังกลับไปที่ฐานแม้แต่น้อย

“พวกแกจะทําอะไรกันแน่?” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวอย่างกังวล

“กัปตันโรเจอร์ส คุณได้รับข่าวจากทางกองทัพบ้างไหม?”เห็นทหารของทางกองทัพ เหล่านั้นถอยร่นไปที่ละน้อยแต่ไม่ได้กลับไปสมบูรณ์ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวถามด้วยความสงสัย เขาคิดว่าบางที ทาง S.H.I.E.L.D. อาจจะได้รับข้อมูลแจ้งเตือนอะไรมาบ้าง

“ไม่เลย ทางกองทัพไม่ได้ส่งข้อความมา แต่ทางทําเนียบขาวได้ส่งข้อมูลมาบ้าง”ได้ยินคําถามของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

ก่อนหน้านี้กัปตันโรเจอร์สได้รับข่าวจากทางทําเนียบขาวหลายครั้ง ประธานาธิบดีรู้ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้น เลยอยากให้องค์กร S.H.I.E.L.D. วางตัวเป็นกลาง นั่นคือปล่อยให้ทุกสิ่งเป็นไปตามสถานการณ์ต่องมัน

ที่ทําเนียบขาวเดิมถูกโจมตีจากพวกผู้ก่อการร้ายและทหารเอ็กซ์ทรีมิส ประธานาธิบดีได้จัดตั้งประชุมด่วน และการประชุมเหล่านั้นก็เกิดขึ้นได้ไม่นาน เพราะว่ามีแรงสั่นสะเทือนดังมาจากชานเมืองวอชิงตัน ประธานาธิบดีได้รับข่าว และรู้ว่าที่แห่งนั้นกําลังเกิดสงครามขึ้น เพื่อแสดงความแข็งแกร่งของประเทศมหาอํานาจให้เป็นที่ประจักษ์ประธานาธิบดีจึงกระตุ้นคําสั่งให้ทาง กองทัพเคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือและถอยทัพ

เพราะสงครามที่กําลังเกิดขึ้นมาจากแผนกลับของทางกองทัพ ประธานาธิบดีให้ความสําคัญและให้เงินทุนเกี่ยวกับแผนกรับนี้อย่างมาก เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายที่โจมตีคือพวกสมาคมมิวแทนท์ ทําให้ประธานาธิบดีได้ติดต่อกัปตันโรเจอร์สมาเพื่อพูดคุย

ประธานาธิบดีตั้งใจจะหยุดสงครามครั้งนี้และให้ S.H.E.L.D. เป็นคนจัดการอย่างเต็มกําลัง แต่ดูเหมือนทางกองทัพจะไม่ได้ฟังคําสั่งของประธานาธิบดีโดยสมบูรณ์ ดังนั้น คนเหล่านั้นจึงกลายร่างเปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาดยักษ์เขียว

” ท่านประธานาธิบดีสั่งให้พวกเขาถอยทัพ?”ได้ยินคําตอบของกัปตันโรเจอร์ส ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้สึกสงสัย

ฟุบ!

แม้จะมีคําสั่งนี้จริงแต่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กลับไม่คิดว่าทางกองทัพจะรามือง่ายๆ เขาได้ปลดปล่อยพลังจิตอันน่าเกรงขามของตนเองออกไป พลังจิตของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้เชื่อมโยงกับเครื่องบินรบของทางกองทัพลํานึงที่อยู่ไปในระยะทางหลายกิโลเมตร

หลังจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์หลับตาลง กัปตันโรเจอร์สและคนอื่นๆก็ไม่ได้ก่อกวน พวกเขารู้ดีว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์กําลังใช้สมาธิในการตรวจสอบอีกฝ่าย

ทันทีที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ปล่อยพลังจิตออกไป เขาก็เห็นทางกองทัพได้ล่าถอยจริงแต่ไม่ใช่ล่าถอยกลับไปพวกเขาราวกับได้เตรียมการมาบางอย่างที่นอกเหนือจากแผนช่วยเหลือสไตรเกอร์

จากนั้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็เห็นเครื่องบินรบลํานึงที่ดูเหมือนเป็นกําลังเสริมแต่มันก็ดูน่าสงสัยเกินไปเพราะบุคคลในเครื่องมีเพียงแค่ 10 กว่าคนเพียงเท่านั้น

ไม่ดีแล้วสิ!” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมา

ทางกองทัพไม่ได้ตัดสินใจที่จะถอยทัพตั้งแต่แรกพวกเขาตั้งใจจะทดสอบอาวุธอะไรบางอย่าง เพื่อจัดการกับแมกนีโต แม้ชีวิตของสไตรเกอร์จะตกตายพวกเขาก็ไม่ได้สนใจ

หลังจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์เบิดตาขึ้นเขาก็เห็นแสงสีขาวพุ่งมายังทิศทางกลางอากาศในภูมิภาคของพวกเขาอย่างรวดเร็ว

ตอนที่ 629 ฝ่ายศาสตราจารย์ชาร์ลส์เริ่มลงมือ

ฟุบ!

ทันทีที่แมกนีโตยื่นมือออกไป เครื่องบินรบของทางกองทัพที่อยู่ระยะไกลหลายกิโลเมตรก็ราวกับว่าพวกเขาสูญเสียการควบคุม ไม่ว่าพวกเขาจะเร่งประสิทธิภาพเครื่องยนต์มากขึ้นแค่ไหนก็ไม่อาจหลบหนีเงื้อมมือที่มองไม่เห็นนี้ได้ จากนั้นเครื่องบินเหล่านี้ก็ร่วงตกลงมาและระเบิดขึ้น แต่ดูเหมือนทหารที่อยู่ภายในนั้นจะไม่ได้เปลี่ยนร่างกลายเป็นสัตว์ประหลาดตัวเขียวอีก

“ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ พวกเราไม่อาจปล่อยให้มีการสูญเสียมากไปกว่านี้ได้แล้ว คุณไม่มีวิธีหยุดแมกนีโตงั้นหรอ?”กัปตันโรเจอร์สที่อยู่ภายในกําแพงน้ําแข็งกล่าวถามศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เพราะตอนนี้ แมกนีโตกําลังโจมตีกองทัพ

ดูเหมือนว่าพอแมกนีโตระเบิดพลังที่แท้จริงออกมาทางกองทัพก็แทบจะหมดโอกาสต่อต้านแมกนีโตในทันที ความแข็งแกร่งอันทรงพลังของแมกนีโตแม้จะเป็นองค์กร S.H.I.E.L.D. ก็ยังยากที่จะต่อกร

ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์ส ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ขมวดคิ้วแน่น ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้ซึ้งดีถึงความแข็งแกร่งของแมกนีโต ดังนั้นเขาจึงหวังพึ่งทางกองทัพว่าจะมีไม้เด็ดอะไรช่วยบั่นทอนกําลังของแมกนีโตบ้าง แต่ดูเหมือนทางกองทัพเองก็หวังพึ่งไม่ได้มากนัก ท้ายที่สุด อาจเป็นเขาที่ต้องลงมือหยุดแมกนีโตเองเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียมากไปกว่านี้

“สตอร์ม,บลิงก์ พวกเธอคอยเตรียมพร้อม!” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์หันกล่าวไปถามสตอร์มและบลิงก์

ฟุบ!

ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ สตอร์มและบลิงก์ได้ก้าวเดินออกไปข้างหน้า จากนั้น ดวงตาของสตอร์มก็ปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาว ร่างกายของบลิงก์เองก็ปรากฏคลื่นความฝันผวนออกมา

“ลงไปซะ!” แมกนีโตขยับมืออีกครั้ง

ฟุบ!

การเคลื่อนไหวของเขาส่งให้เครื่องบินรบจํานวนมากต้องลอยเข้ามาใกล้ตนเอง ก่อนที่เขาจะส่งพวกมันลงไปกองกับพื้นด้านล่าง และเปลี่ยนพวกมันเป็นเศษซากปรักหักพัง

บึ้ม บึ้ม !

“อ๊ากกก อ๊าก”

“อ้ากก

“โฮกกก!”

แสงแผดเผาคํารามของสัตว์ร้ายได้ดังออกมาอีกครั้ง สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวมากกว่า 10 ตัวได้กระโดดออกมาจากเครื่องบินรบที่ถูกทําลายไป ดวงตาของพวกมันแดงราวกับสัตว์ร้ายภายใต้ความดุดันของแมกนีโต พวกเขาตัดสินใจที่จะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดเช่นนี้

“หึม! คิดจะสู้ฉันด้วยจํานวนงั้นหรอ?”เห็นสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวที่มากกว่า 10 ตัว กําลังพุ่งเข้ามายังทิศทางตนเอง แมกนีโตส่งเสียงคํารามในคอ

ฟุบ!

บนท้องฟ้าเหนือศีรษะแมกนีโตเศษโลหะบางๆ ที่เหมือนกระแสน้ําอันเชี่ยวกรากได้กรูเข้าใส่สัตว์ประหลาดยักษ์หลายสิบตัวพวกนั้น

ผ่านไปเพียงไม่นานแมกนีโตไม่ได้รีรอให้พวกมันพุ่งโจมตีเข้าหาเขา เขาสร้างลูกบอลเหล็กโลหะขนาดยักษ์ขึ้นหลายลูกและใช้คลื่นสนามพลังแม่เหล็กของตนเองในการโจมตีศัตรูอย่างเต็มที่

เปรี้ยง เปรี้ยง – –

ปริมาณน้ําหนักของลูกเหล็กโลหะเหล่านั้นมีมากกว่าหลายกิโล มันสามารถกลืนกินสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวเหล่านั้นให้หายไปได้ในทันที ส่วนจํานวนเหล่านั้นแน่นอนว่าแมกนีโตย่อมไม่อาจกําจัดได้หมด เขาก็แค่รอเวลาให้ผลของฤทธิ์ยาหมดก็ได้แล้ว

“ดูเหมือนอาวุธลับของทางกองทัพจะไม่สามารถหยุดแมกนีโตได้ สตอร์ม บลิงก์ ลงมือเลย พวกเราไม่อาจปล่อยให้มีการสูญเสียมากขึ้นกว่านี้ได้อีกแล้ว”เห็นแมกนีโตกําจัดสัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียว ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เผยแววตาเฉียบคม

ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ สตอร์มและบลิงก์ ที่เตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว พลังงานประจุไฟฟ้าที่สตอร์มได้รวบรวมเอาไว้ตอนแรกได้ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง พลังงานเหล่านั้น เริ่มก่อตัวจนสร้างคลื่นลมคลื่นสายฟ้าจํานวนมาก จากนั้น ทั้งสองมือของสตอร์มก็เริ่มกางออกจากกันอย่างช้าๆ

“บลิงก์ ตอนนี้แหละ!”เมื่อเห็นว่าพลังงานของตนเองปะทุออกมาอย่างเต็มกําลัง สตอร์มตะโกนออกมา

ฟุบ!

จากนั้นคลื่นพลังประจุไฟฟ้าของสตอร์มก็ปลดปล่อยออกไปที่ด้านหน้าในทิศทางของประตูมิติอวกาศสีม่วงของบลิงก์ สตอร์มได้ส่งผ่านการโจมตีของตนเองโจมตีผ่านประตูมิติอวกาศนี้ พวกกัปตันโรเจอร์สที่อยู่ใกล้กับสตอร์ม เดิมรู้สึกกังวลอย่างมาก เขากลัวว่าพลังงานประจุสายฟ้าเหล่านั้นจะระเบิดออกมาเลยเสียด้วยซ้ํา

ครืนน!

เสียงปะทุของสายฟ้าได้เคลื่อนย้ายผ่านประตูมิติอวกาศจากนั้นก็ไปโผล่ยังอีกด้านของประตูมิติอวกาศที่อยู่ใกล้กับแมกนีโต

“นี่มัน?”

แมกนีโตแทบไม่ทันได้ตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าของเขาปรากฏแสงสีขาวฉับพลันที่ถูกปลดปล่อยออกมา

ตอนที่ 628 พลังที่แท้จริงของแมกนีโต

ติ๊ดด ติ๊ดด

ในการตรวจสอบของ J.A.R.V.I.S ระดับพลังงานภายในร่างของสัตว์ประหลาดตัวเขียวได้ลดลงอย่างผิดปกติ J.A.R.V.I.S ได้ส่งเสียงเตือนสองครั้ง จากพลังงานระดับ 4 ลดลงเหลือระดับ 3 จากนั้นเสียงแจ้งเตือนของ J.A.R.V.IS ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ระดับ 2 และระดับ 1

“หืม?พวกเขาสามารถแปลงร่างได้เพียง 3 นาทีงั้นหรอ?”เห็นเดิมสัตว์ประหลาดทั้งสามตัวร่างใหญ่กว่า 5 เมตร กลายเป็นทหารที่เป็นมนุษย์ปกติ โทนี่สามารถคาดเดาบางอย่างได้

เทคโนโลยีลับของทางกองทัพ มีส่วนผสมมาจากเลือดของดร.แบนเนอร์ ดังนั้นจึงสามารถให้กําเนิดสัตว์ประหลาดยักษ์สามตัวนั้นได้ แต่ความสามารถเหล่านี้ก็อยู่ไม่นาน โทนี่รู้สึกดีอกดีใจ หากเป็นกองทัพไอรอนแมนของเขาเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย เขาก็แค่ถ่วงเวลาเอาไว้ หลังจากนั้นค่อยเผด็จศึกภายหลัง

ขณะที่โทนี่ตั้งข้อสังเกตุสัตว์ประหลาดสีเขียวที่กลายร่างกลับเป็นมนุษย์ กัปตันโรเจอร์สและคนอื่นๆก็รู้สึกตกใจเช่นเดียวกัน แม้จะกลับร่างกลายเป็นคนธรรมดาแล้ว แต่สติของคนเหล่านั้นกลับดูเหมือนจะเหม่อลอยแบบแปลกๆ

“นอกเหนือจากผลลัพธ์การแปลงร่างแล้ว ดูแล้วน่าจะมีผลข้างเคียงบางอย่างตามมาด้วย” กัปตันโรเจอร์สครุ่นคิดในใจ

สําหรับศาสตราจารย์ชาร์ลส์เขาเพียงจ้องมองไปที่อีกฝ่าย เมื่อครู่ก่อนหน้านี้ที่เขาเห็นแมกนีโตถูกสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสามตัวรุมอัด เขาค่อนข้างกังวล แต่เมื่อเห็นความแข็งแกร่งของแมกนีโตที่ไม่ได้ลดลงไปเลย ดูเหมือนเขาจะคิดมากเกินไป

แมกนีโตที่เห็นสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวกลายร่างเป็นมนุษย์ธรรมดา เขาได้จ้องมองไปที่ทั้งสามคน ทั้งสามคนนั้นเหม่อลอยแบบแปลกๆ แมกนีโตเดินเข้าไปหาทั้งสามคนก่อนที่จะใช้พลังจิตของตนเองในการเรียกเศษโลหะพุ่งโจมตีทหารเหล่านั้น ดูเหมือนแมกนีโตต้องการจัดการต้นตอของปัญหา ไม่ให้มารบกวนเขาภายหลัง หลังจากจัดการตรงนี้เสร็จเขาจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลภายหลังในขณะที่ต้องเผชิญหน้ากับคนของกองทัพไปด้วย

ฟุบ!

หลังจากจัดการตัวปัญหาทั้งสามคนเสร็จ แมกนีโตก็เงยหน้าขึ้นไปมองด้านบนท้องฟ้า เขาเห็นขีปนาวุธหลายลูกพุ่งมาที่ตนเอง ขีปนาวุธเหล่านั้นถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันพลังของเขา หากเขาคิดจะควบคุมมันย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย

” หึ่ม! ลูกไม้เดิมๆ ใช้ไม่ได้ผลหรอก!”เห็นขีปนาวุธเข้ามาใกล้ตนเองเรื่อยๆ ประกายในดวงตาของแมกนีโตสะท้อนแสงออกมา

จากนั้นแมกนีโตก็กระพริบตาด้วยกลิ่นอายอันเยือกเย็น ความผันผวนพลังงานบางอย่างได้ ถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของแมกนีโต กวาดไปรอบพื้นที่ในระยะหลายกิโลเมตร คลื่นความผันผวนนี้ได้ลบวิถีการยิงของขีปนาวุธทําให้มันหมดสนามและท้ายที่สุดก็ร่วงหล่นราวกับเศษเหล็ก

ฟุบ!

ผ่านไปสองวินาที่ด้านหน้าของแมกนีโตขีปนาวุธเหล่านั้นได้ร่วงหล่นกลายเป็นเศษซากปรักหักพังที่อยู่ด้านล่าง

“ท่าไม่ดีแล้ว! ไอซ์แมนรีบสร้างขอบเขตพื้นที่ของนายเร็ว!”เห็นคลื่นความผันผวนของแมกนีโต ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ กล่าวออกมาอย่างตกใจ

ฟุบ!

ไอซ์แมนไม่รีรอเร่งพลังของตนเองสร้างพื้นที่เยือกแข็งของเขาก่อนที่บาเรียน้ําแข็งจํานวนมาก จะผุดขึ้นมาป้องกันคลื่นพลังงานการโจมตีของแมกนีโต

“เอริค นายมันบ้าไปแล้ว!” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของไอซ์แมน เขาที่อยู่ภายในสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานที่รุนแรงของแมกนีโต

นอกเหนือจากพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์แล้ว ไอรอนแมน โทนี่ที่อยู่ไกลๆ ย่อมได้รบผลกระทบเข้าไปเต็มๆ

ฟุบ!

คลื่นความผันผวนเหล่านี้ได้กวาดผ่านชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ และกองทัพไอรอนแมนอีก 10 กว่าตัว ระบบพลังงานเหล่านั้นได้ล่มลงอย่างรวดเร็ว การเชื่อมต่อทั้งหมดได้ถูกยกเลิกในทันที

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?ทําไมระบบถึงล้มเหลว?”

ตุบ ตุบ ตุบ

จากนั้นโทนี่และชุดเกราะไอรอนแมนอื่นๆก็ร่วงหล่นลงสู่พื้น แต่เพราะด้วยความสามารถการป้องกันที่ดีของชุดเกราะไอรอนแมนทําให้โทนี่ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เขาก็ยังติดอยู่ในชุดเกราะ

ไอรอนแมน

“J.A.R.V.S! J.A.R.V.SI” โทนี่ที่ร่วงหล่นลงมาเขารีบตะโกนเรียก J.A.R.V.S แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ตอบสนอง

“เวรเอ้ย! นี่มันแย่แน่ๆ !”เมื่อสูญเสียการติดต่อจาก J.A.R.V.I.S โทนี่ก็ได้ติดอยู่ในชุดเกราะไอรอนแมน นี่เป็นปัญหาใหญ่อย่างมาก เขาในตอนนี้จะไม่สามารถทําการสนับสนุนพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้เลย

ความแข็งแกร่งของแมกนีโต ได้กวาดกองทัพไอรอนแมน จํานวนมากภายในพื้นที่แห่งนี้ให้ร่วงหล่นลง แมกนีโตได้จ้องมองไปยังทิศทางของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ทั้งสองจ้องกันอย่างดุเดือด

“แมกนีโต นายเป็นบ้าไปแล้วอย่างงั้นหรอ!”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมาอย่างรุนแรง

“ชาร์ลส์! ไม่ใช่ว่านายอยากให้ฉันเห็นการเปลี่ยนแปลงของนาย?เช่นนั้นก็แสดงให้ฉันดูซะ แต่ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยว่าการเปลี่ยนแปลงของนายไม่มีผลต่อความคิดของฉัน!” แมกนีโตตะโกนเข้าไปยังพื้นที่น้ําแข็งด้วยเสียงดัง

เห็นความบ้าคลั่งของแมกนีโต คิ้วของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ขมวดเข้าหากันแน่น วันนี้ไม่ว่ายังไงเขาจะต้องหยุดแมกนีโตให้ได้

“กลิ้งมาหาฉันซะ!”แมกนีโตจ้องมองไปยังทิศทางอีกด้านนึงที่มีเครื่องบินรบหลายลําของทางกองทัพรอเตรียมพร้อมอยู่

ตอนที่ 627 เบื้องหลังของสัตว์ประหลาดตัวเขียว

กึก!

แมกนีโตได้รวบรวมเศษเหล็กโดยรอบก่อสร้างเป็นลูกบอลโลหะขังสัตว์ประยักษ์สีเขียวไว้ข้างใน พริบตาต่อมา แมกนีโตก็กํามือแน่นเขาต้องการอัดสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นให้แหลกตายคาที่

“โฮก!” สัตว์ประหลาดยักษ์พยายามอย่างหนักในการต้านทานแรงบีบของแมกนีโต,แมกนีโตที่เห็นท่าไม่ดีเขาส่งเสียงออกมาอย่างเย็นชาก่อนที่จะโยนมันไปอีกทิศทางนึง

บอลโลหะขนาดยักษ์ที่มีสัตว์ประหลาดตัวสีเขียวอยู่ข้างในได้ถูกโยนไปยังอีกทิศทาง มันได้ใช้พละกําลังของตนเองในการแหวกฝ่าบอลโลหะออกมา เพียงแต่ว่ามันได้ถูกส่งไปไกลพอสมควร จะไม่สามารถโจมตีสวนแมกนีโตได้ในทันที

แมกนีโตค่อยๆ ร่อนลงมาที่พื้นอย่างช้าๆ เขาหอบหายใจอย่างรุนแรง แม้ว่าเขาจะส่งสัตว์ป ระหลาดยักษ์นั่นไปไกลหลายกิโลเมตร แต่มันก็คงจะกลับมาได้ในไม่ช้านี้ แมกนีโตได้หันไปมองสัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวอีกตัวที่ถูกเขาน็อคก่อนหน้า ดูเหมือนมันจะฟื้นขึ้นอย่างรวดเร็ว

แมกนีโตได้หันไปยังทิศทางของมัน แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้มาตัวคนเดียว คราวนี้สัตว์ประหลาดตัวสีเขียวได้ปรากฏตัวขึ้นข้างหน้าเขาเป็น 2 ตัวอีกครั้ง แมกนีโตจ้องมองไปที่พวกมันด้วยความหวาดกลัว

มือขวาของแมกนีโตเริ่มเคลื่อนไหวกระแสพายุโลหะขนาดยักษ์ได้พุ่งเข้าหาสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองอีกครั้ง เหตุการณ์ในวันนี้แมกนีโตได้ใช้พลังไปเยอะมาก ดังนั้นการควบคุมพายุโลหะขนาดใหญ่เช่นนี้ ก็ย่อมกินพลังจิตของเขามากเช่นเดียวกัน เขาต้องการจบศึกที่นี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

“โฮก! โฮก!”

“โฮก!”

สัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวไม่ได้สนใจการโจมตีของแมกนีโตแม้แต่น้อยพวกมันพุ่งเข้าหาแมกนีโตอย่างโกรธเคือง

ฟุบ!

“มันไม่สามารถทําอันตรายฉันได้ หากฉันสามารถเอาชนะแมกนีโตได้ ฉันจะได้กลับบ้าน ฉันอยากกลับบ้าน!”เสียงของสัตว์ประหลาดยักษ์ได้ถูกส่งออกมา เหตุผลที่พวกมันโกรธเคืองแมกนีโตและต้องการจัดการแมกนีโตโดยเร็วที่สุดก็คือ คําสั่งที่พวกมันได้รับมา

ฟุบ!

“แก!”ได้ยินคําพูดเหล่านั้น แมกนีโตหน้าซีดเล็กน้อย เขาได้ขยับโบกมืออย่างช้าๆ

กระแสโลหะขนาดใหญ่ได้ปิดกั้นเส้นทางด้านหน้าของสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัว ก่อนที่จะส่งพวกมันลอยไปไกลหลายเมนตรตั้งแต่เริ่มต้น แมกนีโตประมาทเกินไป ดูเหมือนทางกองทัพจะเตรียมอาวุธลับเหล่านี้มาจัดการเขา มันก็คือสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียว 3 ตัวนี้

“แกทําได้แค่นี้?”ในที่สุดสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวสีเขียวอีกตัวก็กลับมา ทั้งสามตัวมองไปยังแมกนีโตและพึมพัมออกมา มุมปากของพวกมันพยอยกขึ้นอย่างดีอกดีใจ

นอกเหนือจากสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสามตัวแล้วทางกองทัพยังสนับสนุนยิงขีปนาวุธต่อต้านมายังทิศทางของแมกนีโตอีกด้วย ตอนนี้แมกนีโตได้เผชิญหน้ากับศึกสองด้าน ระหว่างสัตว์ประหลาดตัวเขียว กับขีปนาวุธต่อต้านพลังของเขา ดังนั้น แมกนีโตจึงได้แต่ตั้งรับอย่างเดียวในตอนนี้

“J.A.R.V.I.S ได้เรื่องมั้ย?เบื้องหลังของสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวทั้งสามตัวคืออะไร?” ขณะที่แมกนีโตกําลังเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดยักษ์ตวเขียว โทนี่ที่ซ่อนตัวอยู่ ก็กล่าวถาม J.A.R.VIS อีกครั้ง

แน่นอนว่าตลอดการต่อสู้โทนี่ได้วิเคราะห์และสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสามตัวนี้ เขาเชื่อว่าพละกําลังของพวกมันเมื่อเทียบกับชุดเกราะไอรอนแมนของเขาแล้ว พละกําลังเหล่านั้นสามารถบดขยี้กองทัพไอรอนแมนของเขาได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นโทนี่จึงรู้สึกสนใจและกังวลในเวลาเดียวกัน

นอกจากความกังวลเหล่านั้นแล้วโทนี่ก็คิดกลับกันหากเป็นเขาที่ต้องเผชิญหน้ากับ พวกมันแทนแมกนีโต ปัจจุบันกองทัพไอรอนแมนของเขามีมากกว่า 100 ตัว หากร่วมมือกันจนเร่งระดับพลังงานสูงสุด เขาจะสามารถกําจัดสัตว์ประหลาดยักษ์นี้ได้หรือไม่

“ผลการตรวจสอบออกมาแล้ว พวกเขาคือหนึ่งในการทดลองลับของทางกอทัพ” J.A.R.V.I.S ได้ส่งข้อมูลให้โทนี่ดูในปัจจุบัน

ข้อมูลที่ J.A.R.V.I.S หามานั้น คือข้อมูลของมนุษย์ทดลองที่สามารถเปลี่ยนร่างกายเป็นยักษ์ตัวเขียวได้ แน่นอนว่าแหล่งที่มาของข้อมูลนี้ค่อนข้างน่าตกใจ

นั่นก็เพราะคนเหล่านี้คือมนุษย์ทดลองที่เกิดจากการฉีดซีรั่มพิเศษที่ทางกองทัพปรับแต่ง

” พวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีลับของดร.แบนเนอร์งั้นหรอ?”โทนี่กล่าวพึมพัมออกมา

“น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ” J.A.R.VIS เองก็กล่าวคาดเดา ลักษณะท่าทางเหล่านั้นของมันไม่ต่างอะไรไปจากฮัลค์แม้แต่น้อย

“ไม่คิดเลยว่าทางกองทัพจะมีอาวุธลับที่ร้ายกาจเช่นนี้อยู่!”โทนี่จ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียวทั้งสามตัว

ตั้งแต่เริ่ม โทนี่เชื่อว่าเทคโนโลยี ชุดเกราะไอรอนแมนของเขาถือว่าเป็นเทคโนโลยีระดับสูงที่สุดของโลกในตอนนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปโลกเขาก็ราวกับรับรู้ความจริงของโลกมากขึ้น นอกเหนือจาก เทคโนโลยีชุดเกราะไอรอนแมนของตนเอง ก็ยังมีเทคโนโลยีอื่นๆที่ทรงพลัง ที่อาจจะเหนือกว่าเทคโนโลยีของเขาเสียอีก

“เจ้านายครับ,พลังงานในร่างของพวกเขาเริ่มอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว!” ขณะที่โทนี่กําลังเหม่อลอย J.A.R.V.I.S ก็ส่งเสียงเตือนในทันที

“หืม?”

ตอนที่ 626 สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเขียว

ติ๊ด ติ๊ด!

“เจ้านายครับตรวจพบคลื่นความผันผวนพลังงานระดับ 4!” ขณะที่แมกนีโตกําลังเผชิญหน้ากับอะไรบางอย่าง ใกล้หูของโทนีก็ปรากฏเสียงเตือนของ J.A.R.V.I.S

ขณะที่ J.A.R.VIS ส่งเสียงเตือนด้านหน้าของโทนี่ J.A.R.V.I.S ก็ได้สแกนพื้นที่โดยรอบจนทําให้โทนี่พบเห็นลักษณะรูปร่างของเงาที่ว่านั้น

“นั่นมัน? ฮัลค์งั้นหรอ?”เห็นสัตว์ประหลาดสองตัวพุ่งเข้าหาแมกนีโต โทนี่ตะโกนออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง

ภายใต้การสแกนของ J.A.R.V.I.S พวกเขาพบสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวสีเขียวสูง 5 เมตร พวกมันได้พุ่งชนเข้าสนามพลังแม่เหล็กของแมกนีโต และจัดการแมกนีโตจนทําให้เขาตกที่นั่งลําบาก โทนี่เองก็ค่อนข้างรู้สึกคุ้นเคยผิวหนังสีเขียวของสัตว์ประหลาดที่ว่านี้มันคล้ายกันอย่างมาก แต่แน่นอนว่ามันย่อมไม่ใช่คนที่เขารู้จักแน่นอน

“เป็นไปไม่ได้,ฮัลค์จะมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ได้ยังไง”โทนี่พึมพัมออกมาอย่างช่วยไม่ได้

“แต่เดี๋ยว พวกมันมีสองคน แม้ลักษณะรูปร่างจะคล้ายกับฮัลค์แต่พวกมันกลับไม่ใช่”ในที่สุด โทนี่ก็เริ่มใจเย็นลงได้เขาได้พยายามคิดทบทวนอีกครั้ง

“J.A.R.VIS ตรวจสอบวิเคราะห์พวกเขาในทันที! ฉันต้องการจะรู้ว่าพวกเขาคือตัวอะไรกันแน่” หลังจากฟื้นฟูจากอาการตกใจ โทนี่ได้กล่าวบอก J.A.R.VIS

“ครับเจ้านาย!”ได้ยินคําพูดของโทนี่ J.A.R.VIS ปฏิบัติการอย่างรวดเร็ว เขาเริ่มทําการวิเคราะห์สัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวนั้น

“นี่มันตัวอะไรกัน!” เผชิญหน้ากับเงาร่างสีเขียวทั้งสองร่าง แมกนีโตรู้สึกตกใจอย่างมาก

การโจมตีและการป้องกันของเขาถูกปัดป้องเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย อีกฝ่ายสามารถทําลายคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของตนเองด้วยพละกําลังทางกายภาพที่น่าเหลือเชื่อนั่น เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่ชัดเจนของสัตว์ประหลาดทั้งสองตัวไม่แปลกที่แมกนีโตจะตกใจ

“โฮก!” ขณะที่แมกนีโตกําลังตกตะลึง สัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวก็เคลื่อนที่เข้าหาเขาอีกครั้ง ร่างกายสีเขียวกํายําอันใหญ่โต ได้พุ่งมาที่ด้านหน้าของแมกนีโตอย่างรวดเร็ว

“ใสหัวไป!” แม้คลื่นสนามพลังแม่เหล็กของตนเองจะถูกทําลาย แต่แมกนีโตก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาได้ตะโกนออกมาพร้อมกับส่งเศษชิ้นส่วนโลหะจํานวนมากพุ่งไปด้านหน้า

ฟุบ ฟุบ ฟุบ!

แม้แต่ชุดเกราะไอรอนแมนที่อยู่ไม่ไกลก็ถูกดึงเข้ามาในขอบเขตพลังของเขา แมกนีโตได้ใช้ชุดเกราะไอรอนแมนนั่นโจมตีเข้าใส่สัตว์ประหลาดยักษ์เขียวทั้งสองนี้

หลังจากโดนการโจมตีของแมกนีโตร่างของสัตว์ประหลาดยักษ์ที่สูงนับ 5 เมตร ได้ร่วงลงไปที่ด้านล่างในทันที แมกนีโตได้ใช้การโจมตีของเศษซากปรักหักพังซ้ําเติมลงไปอย่างต่อเนื่อง จุดแข็งของสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวนั่นก็คือพละกําลัง ข้อเสียที่พวกมันเสียเปรียบมากที่สุดก็คือการที่พวกมันไม่สามารถบินได้

ทันทีที่สัตว์ประหลาดยักษ์นั่นร่วงลงไปพื้นดินโดยรอบก็เกิดรอยบุบกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ พละกําลังและขนาดตัวของพวกมันกระทั่งสามารถสร้างรอยแตกของพื้นดินได้ เห็นได้ชัดว่ามันไม่ธรรมดาแม้แต่น้อย

หลังจากจัดการสอยสัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวร่วงลงไป แมกนีโตก็ถอนหายใจออกมาอย่างกังวล เขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะต้องตกสู่สถานการณ์ที่ยากลําบากถึงเพียงนี้ แมกนีโตยังคงควบคุมพลังของตนเองและสร้างบาเรียเศษชิ้นส่วนโลหะในการเตรียมตั้งรับ

เห็นกําแพงโลหะขนาดยักษ์ปรากฏขึ้น สัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวจ้องมองไปที่ทิศทางของแมกนีโตอย่างโกรธเคือง ก่อนที่มันทั้งคู่จะคํารามออกมา

โฮก!

สัตว์ประหลาดยักษ์ทั้งสองตัวได้กระโดดพุ่งตัวเข้าหาแมกนีโตอีกครั้ง แต่ทว่าภายใต้การควบคุมกําแพงโลหะขนาดยักษ์ของแมกนีโต เขาย่อมไม่เปิดโอกาสให้สัตว์ประหลาดยักษ์นั่นเข้าถึงตัวของเขาได้อีกครั้ง สัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวได้พยายามต่อยทะลายกําแพงเบื้องหน้าของพวกมันอย่างบ้าคลั่ง

ปั้ง ปั้ง ปั้ง

กําแพงโลหะขนาดยักษ์ของแมกนีโต ได้ถูกต่อยจนหลุดออกไปทีละเล็กละน้อย กําปั้นขนาดยักษ์นั่นได้ชัดเข้าไปที่กําแพงโลหะจนพลังจิตของแมกนีโตเริ่มไม่คงที่

อีก!

แมกนีโตได้พยายามถอยร่นออกห่างจากสัตว์ประหลาดยักษ์นั้นอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าพละกําลังทางกายภาพของอีกฝ่ายกลับรุนแรงมากเกินไป

ปิ้ง ปิ้ง

“เวรเอ้ย!” เห็นความน่ากลัวของสัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวที่ว่านี้ แมกนีโตอุทานออกมาอย่างหยาบคาย

ระยะห่างของพวกเขายิ่งมายิ่งใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ หากกําแพงโลหะของเขาถูกทําลายไม่ต้องสงสัยเลยว่าแมกนีโตย่อมไม่สามารถทนรับหมัดของศัตรูได้อย่างแน่นอน

ฟุบ!

แมกนีโตได้เร่งพลังจิตของตนเองอีกครั้งรวบรวมเศษโลหะจํานวนมากเข้ามาเสริมแกร่งให้กับ กําแพงโลหะที่โดนต่อยทําลายอยู่ขณะนี้

เห็นกําแพงโลหะของตนเองกลับมาหนามากกว่าระดับของสัตว์ประหลาดสีเขียวอีกครั้ง แมกนีโตได้เผยรังสีฆ่าฟันออกมาอย่างรุนแรง

“ตายไปซะ!”แววตาของแมกนีโตได้เผยความเยือกเย็นออกมา เขาได้ซัดเศษชิ้นส่วนโลหะจํานวนมากเข้าปะทะกับสัตว์ประหลาดยักษ์เขียวนี่

เปรี้ยง!

สัตว์ประหลาดยักษ์สีเขียวถูกคลื่นเศษโลหะชัดจนกระเด็นออกไปอีกครั้ง แต่ทว่าแมกนีโตไม่ได้ยอมหยุดแค่นั้น ในมือของเขายังคงเร่งพลังจิตของตนเองอย่างบ้าคลั่ง

“ตายซะ!”

ลูกบอลโลหะขนาดยักษ์ที่อยู่เหนือศีรษะของแมกนีโตได้พุ่งตรงลงไปหาสัตว์ประหลาดยักษ์นั้นในทันที

ตอนที่ 625 แมกนีโตปะทะอาวุธลับของกองทัพ

” J.A.R.V.I.S,นายคิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะจบลงด้วยผลลัพธ์แบบใด ดูเหมือนทางกองทัพจะเตรียมมาตราการตอบโต้แมกนีโต้มาด้วย”โทนกล่าวถาม J.A.R.V.I.S

“เจ้านายครับ,ในธนาคารข้อมูลพิเศษของทางกองทัพสหรัฐ เกี่ยวกับ แมกนีโต เอริค มีน้อยมาก แม้จะเป็นองค์กร S.H.I.E.L.D. และทีม X-MEN ถึงพวกเขาจะรวมข้อมูลเข้าด้วยกัน ผมก็ไม่สามารถสรุปออกมาเป็นค่าได้แน่ชัด” J.A.R.V.I.S กล่าวตอบโทนี่

“อืม,เช่นนั้นพวกเราก็เฝ้ามองจากระยะไกลนี่แหละ จริงสิ สิ่งที่ฉันให้นายเตรียมเป็นไงมั่ง!”ได้ยินคําตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี่กล่าวถามอีกครั้ง

“อีกสามนาทีจะสามารถเตรียมการรายละเอียดย่อยเสร็จ ส่วนรายละเอียดส่วนใหญ่คงต้องใช้เวลามากกว่า 10 นาที” J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

“รวมทั้งหมด 13 นาทีสินะ ดูเหมือนฉันคงจะต้องรออีกสักพักได้ยินคําตอบของJ.A.R.V.I.S โทนี่ พึมพัมออกมา

“เจ้านายครับ ผมว่าหากเราใช้สิ่งนั้น เกรงว่าจะเป็นการสูญเสียมากเกินไป เราไม่จําเป็นจะต้องใช้มัน”

“ฉันรู้ แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว…”

ขณะที่ โทนี่กําลังสนทนากับ J.A.R.V.S สถานการณ์ในสนามรบก็เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง

ฟุบ!

ขีปนาวุธหลายสิบลูกได้ปล่อยบางอย่างลอยพุ่งไปทางแมกนีโตก่อนที่จะเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

บึ้ม บึ้ม

คลื่นแรงระเบิดส่งผลให้แมกนีโตลอยกระเด็นถออยไปเล็กน้อย การระเบิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบต่อคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของแมกนีโตอีกด้วย

” ทําการบ้านมาดี แต่ยังดีไม่พอ! เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเตรียมพร้อมบางอย่างมาเพื่อจัดการตนเอง แมกนีโตจ้องมองไปที่กองทัพเครื่องบินรบพวกนั้น

ฟุบ!

แมกนีโตได้ยื่นมือออกไปเบื้องหน้า จากนั้นเครื่องบินรบความเร็วสูงเหล่านั้นก็ถูกเขาควบคุมพลังควบคุมของแมกนีโตนั้นมีขีดจํากัด ยิ่งวัตถุมีขนาดใหญ่มากเพียงใด แรงควบคุมที่ต้องใช้ก็มากเพียงเท่านั้น ยิ่งเป็นระยะทางที่ไกลด้วยแล้วการควบคุมก็ย่อมไม่ใช่เรื่อองง่าย แต่หากแมกนีโตเพ่งจิตเต็มที่แล้ว การควบคุมอีกฝ่ายก็ย่อมไม่ใช่เรื่องยากอะไร

ติ๊ด ติ๊ด!

ทันทีที่เครื่องบินนั้นถูกควบคุมบนห้องคนขับเสียงเตือนก็ได้ดังแพร่กระจายไปทั่วห้อง เครื่องบินลํานี้ได้สูญเสียการควบคุมโดยสมบูรณ์ แรงบีบอัดจํานวนมาก ได้กระแทกตัวเครื่องบินที่ว่า จนเกิดความเสียหาย

“เครื่องบินได้รับความเสียหาย เตรียมพร้อมลงจอดฉุกเฉิน เครื่องบินได้รับความเสียหาย เตรียมพร้อมลงจอดฉุกเฉิน!” ภายใต้การควบคุมของแมกนีโต ในที่สุดเครื่องบินลํานี้ก็เสียการควบคุมและร่วงตกลงไปที่พื้น

เพียงพริบตาเดียวเครื่องบินรบนั่นก็กลายเป็นซากปรักหักพังที่พื้นดิน เงาร่างของคนสามคนได้ออกมาจากนั้นก็ได้หายตัวไป

“แฮ่กๆ!”แมกนีโตถอนหายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อยการควบคุมวัตถุขนาดใหญ่นั้นค่อนข้างกินพลังของเขามาก

บางคนอาจจะคิดว่าเพราะแมกนีโตเริ่มอายุมากแล้วความแข็งแกร่งเลยด้อยกว่าแต่ก่อน แต่ผิดแล้ว เป็นเพราะเขาใช้พลังมากเกินไป แมกนีโตในวันนั้นก็ยังคงเป็นแมกนีโตในวันนี้ ตัวตนของเขาสามารถทําให้โลกตกอยู่ในความหวาดกลัวได้

หลังจากจัดการเครื่องบินรบ และทําให้พวกมันถอยร่นไปจากระยะสังเกตุการณ์ของเขา แมกนีโตก็หันศีรษะจ้องมองไปยังพื้นดิน เป้าหมายของเขาก็คือสไตรเกอร์ ตอนนี้ สไตรเกอร์อยู่ในการควบคุมของ S.H.I.E.L.D. และสมาชิกทีมX-MEN คนอื่นๆ

รวมถึงศาสตราจารย์ชาร์ลส์ นอกเหนือจากคนเหล่านี้แล้ว ก็ยังมีกัปตันโรเจอร์ส ผู้ที่มีชื่อเสียงระดับโลกของประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็ยังมีกองทัพไอรอนแมนของโทนี่ สตาร์ค กองทัพที่เผยอยู่เบื้องหน้าเขาในตอนนี้คือการรวมตัวของผู้ที่มีพลังมากที่สุด แม้จะเป็นความแข็งแกร่งทั้งหมดของตนเอง ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะอีกฝ่าย

“ชาร์ลส์ นี่คือสิ่งที่นายต้องการจะให้ฉันเห็นงั้นหรอ?ความแข็งแกร่งของพันธมิตรเหล่านี้?”แมกนีโตจ้องมองไปที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์และบ่นกระซิบออกมา

“เอริค ตอนนี้นายก็เห็นแล้ว?นี่แหละคือความเปลี่ยนแปลงของฉัน!” เห็นแมกนีโตจ้องมองมาที่ตนเอง ศาสตราจารย์ชาร์ลส์พึมพัมในใจ

โฮก!

ใกล้พื้นที่ซากปรักหักพังของเครื่องบินปรากฏเสียงคํารามที่ดังกึกกังดังออกมาจากนั้นเงาร่างขนาดใหญ่ก็วิ่งผ่านหมอกฝุ่นละออง พุ่งเข้าหาตําแหน่งของแมกนีโต

“โฮก!”เสียงคํารามที่ราวกับสัตว์ร้ายได้กระจายออกไปทั่วพื้นที่แห่งนี้

พริบตาต่อมาเงาร่างยักษ์ใหญ่นั่นก็โจมตีเข้าหาแมกนีโตโดยตรง แต่โดยรอบแมกนีโตมีการป้องกันของคลื่นสนามพลังแม่เหล็ก แต่ดูเหมือนว่าคลื่นสนามพลังแม่เหล็กจะไม่สามารถต่อต้านการโจมตีของเงายักษ์ใหญ่นี้ได้

เปรี้ยง!

ทันทีที่หมอกควันหายไป เงาร่างขนาดใหญ่นี้ก็เผยให้แมกนีโตเห็นลักษณะที่แท้จริงของมัน จากนั้นเขาก็ถูกเหวี่ยงโดยเงาร่างยักษ์นั่นพุ่งตรงลงมาที่พื้นดิน

ปั้ง!

ตอนที่ 624 ทางกองทัพเคลื่อนไหว

ระหว่างที่กัปตันโรเจอร์สและศาสตราจารย์ชาร์ลส์กําลังสนทนากันบนท้องฟ้าในพื้นที่สนามรบเครื่องบินรบ และเฮลิคอปเตอร์ของทางกองทัพกําลังมุ่งหน้ามาทางนี้ เครื่องบินรบเหล่านี้หลังจากอยู่ในรัศมีโจมตีของตนเอง พวกเขาได้เล็งเป้าหมายไปที่แมกนีโต และเปิดใช้ขีปนาวุธทันที

ฟุบ!

ขีปนาวุธหลายสิบนัดได้พุ่งออกอออกไปยังทิศทางของ แมกนีโต สตอร์ม และ แจ็ค พื้นที่ขอบเขตการโจมตีของมันนั้นแพร่กระจายเป็นวงกว้าง

ปั้ง ปั้ง ปั้ง

“หนีก่อนเร็วเข้า!”เห็นขีปนาวุธโจมตีมายังพื้นที่ตนเอง แจ๊คได้ทําสัญลักษณ์มือวาดวงเวทย์สีทองขึ้นเพื่อเตรียมจะหลบหนีออกไปจากพื้นที่ตรงนี้

แจ็คได้วาปไปยังตําแหน่งของสตอร์มเพื่อเตรียมจะพาเธอหลบหนี สตอร์มเองก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์เธอได้มุ่งหน้าไปหาแจ็คและหลบหนีจากพื้นที่แห่งนี้ด้วยประตูมิติเวทย์มนตร์

หลังจากพวกแจ็คได้ทําการหลบหนีออกจากพื้นที่สนามรบ ตําแหน่งของแมกนีโต ก็เต็มไปด้วยขีปนาวุธจํานวนมากที่ระเบิดแตกออกจากกัน

แรงระเบิดได้สั่นสะเทือนพื้นที่โดยรอบที่แมกนีโตอยู่ เพียงแต่แมกนีโตไม่มีท่าทีตื่นตระหนกแม้แต่น้อย คลื่นสนามพลังแม่เหล็กของเขาได้ปลดปล่อยออกมา และหยุดการระเบิดก่อนที่จะถึงตนเอง

“หึม!” ทางด้านสตอร์มและแจ็คที่วาปไปไม่ไกลจากสนามรบพวกเขาเองก็เห็นรัศมีแรงระเบิดที่เกิดขึ้น

“เหอะ! ทางกองทัพคิดจะเข้ามายุ่งเรื่องฉัน? เช่นนั้นฉันจะทําให้พวกแกลิ้มรสความเจ็บปวด!” แมกนีโตได้กระพริบสายตาออกมาอย่างเย็นชา

ฟุบ!

ขณะที่แมกนีโตตัดสินใจกําลังจะทําอะไรบางอย่าง ด้านข้างของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็ปรากฎประตูมิติเวทมนตร์ขึ้น จากนั้น แจ็คและสตอร์มก็ปรากฏตัวออกมา

” พวกเธอทําได้ดีมาก ตอนนี้เรามาดูทางกองทัพหามาตราการตอบโต้แมกนีโตกันก่อนดีกว่า” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมา

“ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ทางกอทัพจะสามารถสู้แมกนีโตได้งั้นหรอ?” หลังจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมา กัปตันโรเจอร์สที่อยู่ใกล้ๆกล่าวถาม

“กัปตันโรเจอร์ส คุณเป็นห่วงว่าคนของกองทัพจะพ่ายแพ้เอริค”ได้ยินคําถามของกัปตันโรเจอร์ส ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวถามคืน

” ก็นิดหน่อย!” กัปตันโรเจอร์สตอบอย่างจริงจัง

กัปตันโรเจอร์สแค่กังวลว่ากองทัพสหรัฐจะสามารถหยุดแมกนีโตได้จริงหรือเพราะแม้แต่ S.H.I.E.L.D. ที่เป็นองค์กรพิเศษ พวกเขาก็ยังหวั่นเกรงในพลังของแมกนีโตยิ่งเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงเช่นนี้ด้วยแล้ว กัปตันโรเจอร์สกังวลว่าจะเกิดความสูญเสียโดยไม่จําเป็น

“กัปตันโรเจอร์ส หากกองทัพคิดจะรามือก็สามารถทําได้ แต่ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะหยุดแค่นั้น ท้ายที่สุด แผนกองค์กรที่สไตรเกอร์ควบคุมอยู่ก็เป็นความลับและข้อมูลสําคัญของประเทศพวกเขาไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปอย่างแน่นอน นอกจากนี้ฉันคิดว่าทางกองทัพน่าจะมีอะไรซ่อนเอาไว้อย่างแน่นอน” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมาอย่างสงสัย

“หืม?คุณหมายถึง…”ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ กัปตันโรเจอร์สเหมือนจะคิดอะไรได้บางอย่าง

เพียงแต่ว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้เบนสายตาไปยังทิศทางของแมกนีโตอีกครั้งตอนนี้ขีปนาวุธ หลายสิบนัดได้พุ่งโจมตีไปยังแมกนีโต แม้แมกนีโตจะสามารถลอยตัวได้ก็ไม่มีทางที่จะหลบรัศมีพลังระเบิดนี้ได้เลย

” ทางกองทัพได้ซ่อนอะไรเอาไว้กันแน่” กัปตันโรเจอร์สเองก็หันศีรษะไปยังทิศทางของแมกนีโต

กัปตันโรเจอร์สในตอนนี้กําลังควบคุมองค์กร S.H.I.E.L.D. อยู่ ดังนั้นเขาจึงรู้ดีว่าสิ่งที่ซ่อนไว้นั้นสมควรมีความร้ายกาจเพียงใด ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ตอนที่เขาได้ต่อสู้กับองค์กรไฮดร้า พวกมันได้แสดงสิ่งที่ซ่อนเร้นออกมาจนทําให้โลกต้องตกตะลึง ดังนั้น หากทางกองทัพได้เผยบางสิ่งที่ดูน่ากลัวออกมา มันก็ช่วยไม่ได้ที่กัปตันโรเจอร์สจะกังวล

เพราะทางกองทัพเองก็มีส่วนวิจัยและทดลองลับเหมือนกับ S.H.I.E.L.D. ยิ่งเป็นแผนวิจัยมิวแทนท์ที่สไตรเกอร์เป็นคนคุมด้วยแล้ว การทดลองย่อมไม่เรียบง่ายเหมือนที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กังวลอย่างแน่นอน

“ฉันเองก็อยากจะรู้ว่าทางกองทัพซ่อนสิ่งใดไว้กันแน่!”วิสัยทัศน์ของกัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่เบื้องหน้าอย่างเงียบๆ

ขณะที่ขีปนาวุธถูกยิงออกไป ขีปนาวุธเหล่านั้นก็พุ่งชนเข้ากับสนามพลังแม่เหล็กของแมกนีโต จากนั้นมันก็ร่วงลงสู่พื้นดินแต่ทว่าขณะที่มันกําลังร่วงอยู่ จู่ๆไฟด้านท้ายของขีปนาวุธก็ดับลงอย่างรวดเร็วจากนั้นก็มีบางสิ่งหลุดออกมาจากภายในปรากฏขึ้นบนอากาศ

“หรือว่านั่นคือเทคโนโลยีที่ใช้ต่อกรกับแมกนีโต?”โทนี่ที่จ้องมองผ่านการสแกนของ J.A.R.V.I.S เขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน

ตอนที่ 623 ควบคุมสถานการณ์อย่างสมบูรณ์

ฟุบ!

ไอซ์แมน และ ไพโร ตอนนี้พลังของพวกเขากําลังเข้าปะทะกันอย่างดุเดือดเปลวเพลิงของไพโรดูเหมือนจะถูกพลังความเย็นของไอซ์แมนดับลงจะพูดให้ถูกก็คือถูกแช่แข็งโดยสมบูรณ์

“จอห์น! ตอนนี้นายไม่ใช่คู่มือของฉันแล้ว ฉันได้เฝ้าฝึกฝนมาเป็นระยะเวลาหลายปี ฉันไม่ใช่คนเดิมอีกแล้วดังนั้นจะดีกว่าหากนายยอมหยุดตั้งแต่ตอนนี้!”ไอซ์แมน จ้องมองไปที่ไพโรที่อยู่ด้านหน้าของเขา

เมื่อตอนเด็ก ๆ พวกเขาทั้งสองคนเคยเรียนอยู่ที่โรงเรียนเซเวียร์เหมือนกัน และ ไพโร ก็เหมือนเป็นเพื่อนสนิทของเขาคนนึงตอนนั้น ไพโร มีพละกําลังที่แข็งแกร่งและเหนือกว่าตนเองมากไอซ์แมนรู้สึกยอมรับในตัวของเพื่อนคนนี้ แต่หลังจาก ไพโร ได้แยกตัวไปอยู่สมาคมมิวแทนท์พวกเขาก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย

“โรเบิร์ต ไม่ว่านายจะแข็งแกร่งมากขึ้นขนาดไหน ฉันจะไม่ยอมแพ้นายหรอก!”ได้ยินคําพูดของไอซ์แมนไพโรกล่าวตอบ

เขายิ้มออกมาและระลึกถึงช่วงในวัยหลังพวกเขาเคยต่อสู้กันมานับครั้งไม่ถ้วนและเป็นตัวเขาที่คอยกลั่นแกล้งไอซ์แมนมาตลอด แต่ดูเหมือนหลังจากความสามารถของไอซ์แมนได้ตื่นขึ้นโดยสมบูรณ์ เขาจะไม่ใช่คู่มือของไอซ์แมนแล้ว พลังของพวกเขาคือขั้วตรงกันข้าม ความสามารถของน้ํา ย่อม เหนือ กว่าไฟ โดยปกติ

“เช่นนั้นอย่าโทษฉันแล้วกันน!”ไอซ์แมนไม่ต้องการยื้อเวลาอยู่ที่นี่ เขาจะต้องรีบไปช่วยเหลือพี่น้องมิวแทนท์คนอื่น ๆ ร่วมต่อสู้

ฟุบ!

หลังจากไอซ์แมนพูดคําเหล่านี้ออกมาดวงตาของเขาก็กระพริบแสงสีฟ้าออกมาอย่างดุเดือดบรรยาอากาศเยือกแข็งได้ปลดปล่อยออกมารอบตัวของเขาอย่างรุนแรง เพียงแค่บรรยากาศเยือกแข็ง ก็โหมกระหน่ําโจมตีไฟของไพโรที่ถูกปลดปล่อยออกมาได้แล้ว ไอซ์แมน ไม่ได้ตั้งใจจะฆ่า ไพโร เขาต้องการที่จะหยุดเพื่อนคนนี้และยุติการต่อสู้ที่ไร้เหตุผลนี้สักที

ขณะที่ไอซ์แมนกําลังหยุดไพโร กลุ่มของสมาคมมิวแทนท์อื่น ๆ ก็ยังเหลือแมกนีโต ที่เป็นผู้นํา ตอนนี้เขากําลังปะทะกับสตอร์ม,สตอร์มได้เข้าต่อกรกับแมกนีโตแต่แน่นอนว่าความสามารถของเธอเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหยุดแมกนีโตได้การต่อสู้ของพวกเขาดําเนินการอยู่บนอากาศทําให้คนอื่นไม่สามารถสนับสนุนพวกเขาได้เหมือนกัน

ในการต่อสู้สตอร์มได้ปลดปล่อยความแข็งแกร่งของเธอออกมา เธอเป็นมิวแทนท์ที่เข้าใกล้ระดับ 5 แล้วเหมือนกัน แต่ผลกระทบของพลังของเธอมีมากเกินไป หากเธอรีดเค้นพลังทั้งหมดออ มา เธอจะสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโดยรอบและทําให้เกิดผลกระทบวงกว้างได้ เมื่อถึงตอนนั้น วอชิงตัน อาจจะพลอยโดนลูกหลงไปด้วย แต่เมื่อเทียบกันแล้ว แมกนีโตในตอนนี้ไม่สนใจเหตุผลอะไรทําให้เขาสามารถโจมตีสตอร์มได้อย่างเด็ดขาด

ขณะที่การโจมตีของแมกนีโตจะมาถึงตัวสตอร์ม จู่ ๆ บาเรียสีทองก็ปรากฏขึ้นป้องกันการโจมตีของแมกนีโต,แมกนีโตรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก การโจมตีของสนามพลังแม่เหล็กของตนเองไม่มีผลกับการป้องกันของพลังสีทองนี้ แจ็คได้พยายามสนับสนุนสนามรบและคอยช่วยเหลือพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์ในการแก้ไขจัดการแมกนีโต

“ขอบคุณศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่ช่วยเหลือพวกเรา” ปีศาจสาวที่ช่วยเหลือสไตรเกอร์ได้สําเร็จเธอได้มาอยู่ข้างกายของศาสตราจารย์ชาร์ลส์และกล่าวขอบคุณ ด้านข้างของเธอ ตามมาด้วย สไตรเกอร์ และ กัปตันโรเจอร์ส

“เรื่องสไตรเกอร์ ฉันจะปล่อยให้คุณจัดการ กัปตันโรเจอร์ส ฉันคิดว่าคุณคงรับมือกับปัญหานี้ได้ดีกว่าฉัน” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวออกมา

แม้สไตรเกอร์จะเป็นหนึ่งในตัวต้นเหตุที่ก่อสงครามสร้างความร้าวฉานระหว่างมิวแทนท์ แต่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ไม่ได้สนใจเขา เขาไม่อยากให้ทางกองทัพที่กําลังจะมาสนับสนุนในอีกไม่ช้ารู้ว่าสไตรเกอร์ตกอยู่ในมือของทีมX-MEN ไม่งั้นมันคงจะเป็นเรื่องยากที่จะปรับความเข้าใจดังนั้น ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ จึงมอบหน้าที่นี้ให้กัปตันโรเจอร์สจัดการแทน

“เข้าใจแล้ว ศาสตราจารย์ชาร์ลส์!”ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์กัปตันโรเจอร์ส รู้สึก ขอบคุณ

พวกของสไตรเกอร์ถือว่าเป็นกลุ่มพวกหัวรุนแรงที่ยุยงให้พวกมิวแทนท์ทําสงครามกันหากศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตั้งใจจะจัดการสไตรเกอร์ กัปตันโรเจอร์สก็คงไม่อาจหักห้ามได้ ดังนั้นเมื่อเห็นว่าศาสตราจารย์ชาร์ลส์ยอมปล่อยมือจากสไตรเกอร์ กัปตันโรเจอร์สจึงรู้สึกขอบคุณอย่างมากๆ

“เดิมฉันก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับทางกองทัพอยู่แล้ว”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จ้องมองไปที่การต่อสู้บนฟ้าตอนนี้

กัปตันโรเจอร์สเองก็จ้องมองไปที่พวกเขาเช่นเดียวกัน การต่อสู้ของแมกนีโต นั้นรุนแรงมาก ตอนนี้สไตรเกอร์ถูกควบคุมตัวส่วนเรื่องพี่น้องมิวแทนท์คนอื่น ๆ ก็เริ่มถูกจัดการแล้ว สถานการณ์ก็คงจะถูกคลี่คลายในอีกไม่นานนี้

“กัปตันโรเจอร์ส คุณคิดว่า หลังจากที่เอริคสูญเสียผู้ช่วยของตนเองไปแล้วเขาจะเลือกที่จะ ยอมแพ้?”เห็นกัปตันโรเจอร์สกําลังครุ่นคิดบางอย่างศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวถาม

“ไม่ใช่งั้นหรอ?ตอนนี้แมกนีโตก็ไม่ต่างอะไรกับตัวคนเดียววัตถุประสงค์ของเขาก็คือการจัดกา รกับสไตรเกอร์ตอนนี้ทางกองทัพเริ่มยื่นมือเข้ามาช่วยแล้ว มันก็มีความเป็นไปได้ที่เขาจะเลือกที่จะถอยกลับ” กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

“เอริค ไม่ใช่ตัวตนที่เรียบง่ายขนาดนั้น เพราะเขาให้ความสําคัญกับความตั้งใจของตนเองนอกจากนี้คุณคิดว่า นี่คือทุกอย่างที่เอริคมีแล้วงั้นหรอ?”ได้ยินคําพูดของกัปตันโรเจอร์สศาสตรา จารย์ชาร์ลส์กล่าวตอบ

“ว่าไงนะ…”

ตอนที่ 622 การสนับสนุนของ S.H.I.E.L.D. และ ไอร…

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ตัดสินใจก่อนที่จะกล่าวถามกัปตันโรเจอร์สในเวลานี้

“กัปตันโรเจอร์ส ฉันต้องการความช่วยเหลือจากคุณ!”

ทางด้านกองกําลัง S.H.I.E.L.D. พวกเขากําลังปะทะกับพวกทหารของกองทัพอยู่ ทหารของกองทัพพวกนั้นเต็มไปด้วยอาวุธไฮเทคจํานวนมากเหมือนกันส่งผลให้กองกําลังพิเศษของ S.H.I.E.L.D. ต้องตกที่นั่งลําบาก

“โทนี่ สตาร์ค ฉันต้องรบกวนคุณแล้ว แมกนีโต กําลังจะเริ่มลงมืออีกครั้ง ฉันจะต้องรีบหยุด เขาดังนั้น ฉันจึงอยากจะขอร้องให้คุณไปช่วยเหลือกัปตันโรเจอร์สในการต่อต้านคนอื่น ๆ “ศาสต ราจารย์ชาร์ลส์กล่าวบอกโทนี่

“ต้องการความร่วมมือจากฉัน?เข้าใจแล้ว กะอีแค่รับมือกับพวกทหารธรรมดาเหล่านี้ ฉันจะจัดการให้!”ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เสียงของ โทนี่ กล่าวตอบ

“J.A.R.V.I.S ส่งกองทัพของเราเข้าไปขัดขวางกองทัพพวกนั้นซะ!”

” ครับเจ้านาย!”

– – –

พริบตาต่อมาชุดเกราะไอรอนแมนของโทนี่ ก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

“เชื่อมต่อข้อมูลสนามรบแชร์ข้อมูลสนามรบกับที่มพิเศษของ S.H.I.E.L.D. !!”

” พวกเรามาเริ่มเคลียร์สนามรบทางด้านหน้านี้กันเถอะ ฉันอยากจะรีบจัดการมันให้จบเร็ว ๆที่สุด!”โทนี่จ้องมองไปที่สนามรบเบื้องหน้า

” ครับเจ้านาย!”

ฟุบ!

บนเศษซากปรักหักพังจํานวนมาก มิวแทนท์ 2 คนกําลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดด้วยกําปั้นพลังหมัดของแต่ละฝ่ายนั้นรุนแรงอย่างมาก ทั้งสองคนก็คือ โคลอสซัส และ เร้ดแท้ง

เพียงแต่ว่าร่างกายของโคลอสซัสราวกับว่าได้รับบาดเจ็บมากกว่า ทางด้านเร้ดแท้งเขาได้รัวหมัดใส่โคลอสซัสถึงร่างกายของโคลอสซัสจะเป็นโลหะและดูไม่น่าจะเกิดบาดแผลได้แต่แผลที่ว่านี้ก็คือรอยบุบบนร่างกายของโคลอสซัสนั่นเอง

โคลอสซัสได้พยายามหลบเลี่ยงการโจมตีของเร้ดแท้งและมองหาโอกาส

” หืม?”เห็นการล่าถอยของโคลอสซัส เร้ดแท้ง รู้สึก สงสัยอย่างมาก

ขณะที่เร้ดแท้งกําลังพุ่งตามโคลอสซัสไป จู่ ๆ ร่างของเขาก็ถูกยิงเข้าด้วยแสงสีแดงบางอย่าง

“อัก!”นี่เป็นการโจมตีของชุดเกราะไอรอนแมน เร้ดแท้ง ได้จ้องมองไปที่ กองทัพไอรอนแมนที่อยู่กลางอากาศที่เข้ามาปั่นป่วนสนามรบแห่งนี้

เปรี้ยง!

“…”เร้ดแท้งได้ยกสองมือตั้งเป็นรูปตัวกากบาทต้านทานการโจมตีของแสงเลเซอร์ที่พุ่งเข้ามาหาเขา

บาง – บาง บาง – บาง –

“อย่ามายั่วโมโหฉัน!”เร้ดแท้งตะโกนออกมาอย่างโกรธเคืองก่อนที่จะใช้หมัดยักษ์ของตนเอง ฟาดไปยังชุดเกราะไอรอนแมนที่อยู่ใกล้เขา

ณ ตอนนั้น เอง ศีรษะของ เร้ดแท้ง ดูเหมือนจะถูกโจมตีด้วยของแข็งบางอย่างนั่นคือหมัดของโคลอสซัส เขาได้ฉวยโอกาสตอน เร้ดแท้ง ถูกปันประสาท โดยพวกกองทัพชุดเกราะไอรอนแมนหมัดขนาดยักษ์นี้ส่งผลให้ เร้ดแท้ง รู้สึกมึนงงอย่างหนักหน่วง

ขณะที่กองทัพไอรอนแมนเข้าสู่สนามรบ,สนามรบของทีมสัมพันธมิตรทั้งหลายก็เริ่มกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง โทนี่ ได้สั่งการกองทัพไอรอนแมนของเขาให้ช่วยเหลือพรรคพวกทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ ต ราบใดที่ไม่ได้เผชิญหน้ากับ แมกนีโต โทนี่ มั่นใจว่ากองกําลังของเขาจะสามารถสนับสนุนได้เต็มที่

ระหว่างที่ โคลอสซัสกําลังจัดการกับเร้ดแท้งด้วยความช่วยเหลือของไอรอนแมน ทีมของ S.H.I.E.L.D. ก็กําลังเผชิญหน้ากับมิวแทนท์หนุ่มที่ใช้คลื่นแรงสั่นสะเทือน

ฟูว – –

คลื่นแรงสั่นสะเทือนได้สร้างความเสียหายต่อทีมของ S.H.I.E.L.D. อย่างหนักหน่วงจนพวกเขาไม่มีโอกาสตอบโต้ได้แม้แต่น้อย

นอกเหนือจากพวกเขาเหล่านี้ก็ยังมีมิวแทนท์อีก สองคน ที่กําลังต่อสู้กันอย่างรุนแรงการต่อสู้ของพวกเขากินอาณาเขตพื้นที่เป็นวงกว้างเพราะรัศมีพลังที่รุนแรงของพวกเขา

ตอนที่ 621 ทีมX-MEN ปะทะ สมาคมมิวแทนท์

คนที่ปรากฏตัวขึ้นก็คือคนจากสมาคมมิวแทนท์พวกเขาปรากฏตัวออกมาราวกับภาพมายาและเคลื่อนที่ไหวเข้าหาสไตรเกอร์ที่ถูกแมกนีโตปล่อยร่วงลงมา

สไตรเกอร์ที่โดนปล่อยร่วงลงมาก่อนหน้านี้คิดว่าแมกนีโตตั้งใจจะปล่อยเขาแต่ที่ไหนได้คนของพวกแมกนีโตได้ปรากฏตัวออกมาปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของตนเองเอาไว้

“คิดจะไปไหนงั้นหรอ?” เสียงของไพโรได้ดังขึ้นเขากล่าวออกมาอย่างเย้ยหยัน

ไพโรเตรียมที่จะจัดการสไตรเกอร์ทิ้งซะตรงนี้แต่ทว่าจู่ ๆ ด้านหลังของเขาปรากฏคลื่นพลังความเย็นพิสดารสายหนึ่งมันได้หยุดการเคลื่อนไหวของตนเอง

ฟุบ!

ไอซ์แมนได้ปปรากฏตัวออกมาไพโรที่เห็นเช่นนั้นเขาได้ปลดปล่อยพลังของตนเองออกมาเช่นเดียวกันคลื่นพลังงานทั้งสองสายได้เข้าปะทะกันอย่างรุนแรงจนระเบิดกลายเป็นไอน้ําทางด้านทีมX-MEN คนอื่น ๆ ก็พุ่งตัวเข้าหาสนับสนุนศาสตราจารย์ชาร์ลส์ส่วนทางด้านสมาคมมิวแทนท์สมาชิกคนอื่น ๆ ก็พุ่งเข้าสนับสนุน แมกนีโต

ปังปัง!

หลังจากไอซ์แมนปรากฏตัว คนของทีม X-MEN เองก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นเดียวกัน แม้แต่โคลอสซัส ชายร่างเหล็กก็เตรียมเข้าปะทะ หากว่ากันตามตรง ความสามารถของ โคลอสซัส ที่เปลี่ยนร่างกายให้เป็นเหล็กนั้น ย่อมพ่ายแพ้ต่อแมกนีโตโดยสมบูรณ์ แต่ว่าหากเป้าหมายตนเองไม่ใช้แมกนีโตก็ไม่เป็นไร

แมกนีโตจ้องมองไปที่โคลอสซัส และ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ตอนนี้ จากนั้นชายคนนึงที่เป็นพรรคพวกของเขาก็พุ่งเข้าไปยังทิศทางของโคลอสซัส ,สตอร์มที่เห็นเช่นนั้นก็เตรียมพร้อมอย่างรวดเร็วเธอสร้างเมฆพายุออกมาเห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้ต้องการออมมืออีกต่อไป

สตอร์มปลดปล่อยคลื่นลมหมุนพายุออกมาพุ่งตรงไปยังชายหัวล้านที่พุ่งเข้ามาด้านหน้า!

” หืม!!”

ลมพายุสายฟ้าได้หมุนวนล้อมรอบร่างของชายคนนั้นเพียงแต่ว่าดูเหมือนลมพายุของเธอจะไม่สามารถทําอะอันตรายอะไรชายคนนั้นได้จากนั้นไม่นานชายคนนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางลมพายุของเธออีกครั้ง

“ฉันจัดการเอง!”

โคลอสซัสเห็นชายคนนั้นพุ่งเข้ามาเขาได้อาสาออกไปจัดการ จากนั้นไม่นานร่างใหญ่ยักษ์ของทั้งสองคนก็ได้เข้าปะทะกัน ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเป็นมิวแทนท์สายเสริมพลังทางกายภาพเหมือนกับของตนเอง ดังนั้นไม่แปลกใจที่สตอร์มจะไม่สามารถทําอะไรเขาได้

ขณะนี้ ที่มX-MEN และ สมาคมมิวแทนท์ กําลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ไอซ์แมน และ ไพโรได้ เผชิญหน้ากัน พลังพิเศษของทั้งสองคนราวกับน้ําและไฟที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ ทุกครั้งที่พวกเขาปลดปล่อยพลังออกมาพื้นที่โดยรอบก็กลายเป็นรัศมีพลังของแต่ละคน

ทางด้านโคลอสซัส ตอนนี้ เขากําลังเผชิญหน้ากับมิวแทนท์ที่ชื่อว่า เรดแท้ง ในปัจจุบัน ทั้งสองคนเป็นชายร่างยักษ์ที่มีพลังเสริมกายภาพเหมือนกัน การต่อสู้ของทั้งสองคนแทบจะเรียกได้ว่ากินกันไม่ขาด การตัดสินแพ้ชนะของพวกเขาย่อมเป็นไปได้ช้าที่สุด

แมกนีโตเองก็จ้องมองไปยังสถานการณ์การต่อสู้ของพวกเขา ทางด้านชาร์ลส์ยังคงมีสตอร์มที่รอเตรียมพร้อมอยู่ แมกนีโตต้องการจบศึกนี้โดยเร็วที่สุดดังนั้นเขาจึงยกมือขึ้นเพื่อสร้างคลื่นสนามพลังแม่เหล็ก

“เขากําลังจะสร้างคลื่นสนามพลังแม่เหล็ก! ระวังตัวด้วย”ขณะนั้นเองก็ปรากฏเสียง ของผู้หญิงคนนึงดังขึ้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้หันไปมองก็พบ ผู้หญิงคนนั้นกําลังไปช่วยสไตรเก

“อย่าได้หวัง!” เพียงแต่ว่าตอนนั้นเองก็ปรากฏเสียงของเด็กหนุ่มคนนั้นพร้อมกับ ปลดปล่อยคลื่นพลังจิตออกมา

ฟุบ!

คลื่นพลังจิตของชายคนนี้ได้กระแทกเข้ากับร่างของหญิงสาวคนนั้นจนเธอต้องตั้งรับอย่างยากลําบาก

“หึม!” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่เห็นเช่นนี้ เขารีบลงมืออย่างรวดเร็ว พลังจิตของชายคนนั้นรุนแรงมากเขาจะต้องรีบสนับสนุนเธอคนนั้น

“เป็นอย่างที่คิด!”เห็นศาสตราจารย์ชาร์ลส์ช่วยป้องกันการโจมตีของชายคนนั้นผู้หญิงคนนี้ออกมา

เธอจ้องมองไปยังทิศทางของสไตรเกอร์ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ง่ายเลยที่จะพาสไตรเกอร์หลบหนีออกไปจากสถานการณ์ตอนนี้ ดังนั้น เธอจะต้องหวังพึ่งพวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์

เห็นการโจมตีของตนเองถูกสวนกลับมาชายคนนี้ได้หยุดการโจมตีลงพร้อมกับถอยล่นกลับไป

“หากคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของบอสถูกสร้างขึ้นเสร็จพวกเขาก็คงจะหมดหวัง!” ชายคนนี้ไม่ได้ทําการโจมตีต่อเขากําลังครุ่นคิดอย่างใจเย็น

หากแมกนีโต ปลดปล่อยคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของตนเองออกมาได้พวกเขาจะสามารถหยุดทีม X-MEN ได้ทุกคน

“เอริคกําลังลงมือเอาจริงแล้ว” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จ้องมองไปที่ แมกนีโต สีหน้าของเขาไม่สู้ดีอย่างมาก

“บลิงก์,เธอไปช่วย หญิงสาวคนนั้นซะ” เห็นแมกนีโตเริ่มลงมือศาสตราจารย์ชาร์ลส์จะต้องทําอะไรสักอย่างตอนนี้

เขากล่าวสั่งการบลิงก์ บลิงก์ที่ได้รับคําสั่งได้เปิดประตูมิติอวกาศของเธอและไปปรากฏตัวข้างๆหญิงสาวคนนั้นเพื่อทําการช่วยเหลือ

“ฉันจะต้องทําให้เอริคกลับมามองโลกในปัจจุบันให้ได้!” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์จ้องมองไปที่แมกนี้โตและกล่าวอย่างจริงจัง

ตอนที่ 620 แมกนีโตและศาสตราจารย์ชาร์ลส์

เห็นท่าทีที่ดูไม่สะทกสะท้านของสไตรเกอร์ แมกนีโตเริ่มที่จะไม่สบอารมณ์มากขึ้น

“แกคิดว่าฉันไม่กล้าฆ่าแกจริง ๆ ว่างั้น?”แมกนีโตกล่าวออกมาอย่างรุนแรง

แมกนีโตต้องการรู้ว่าลูกๆของเขาอยู่ไหนเพียงเท่านั้นหากสไตรเกอร์ไม่คิดจะบอกเขาละก็เขาจะฆ่าสไตรเกอร์ทิ้งตรงนี้เดี๋ยวนี้

“ฮ่าฮ่า, อย่าทําอะไรไร้เหตุผลเลยน่า! หากนายต้องการที่จะรู้ว่าลูกๆของนายอยู่ไหนนายต้องพึ่งฉัน!” สไตรเกอร์กล่าวตอบ แมกนีโตอย่างเร่งรีบ

แม้ว่าในปัจจุบันเขาจะถูกจับตัวโดยแมกนีโตและมีโอกาสที่จะถูกฆ่าตายสูงเมื่อรู้ว่านี่เป็นไฟต่อของเขาธรรมชาติเขาย่อมไม่ปล่อยให้มันหลุดมือ

“ฉันคิดว่าแกสําคัญตัวเองผิดไป!”แมกนีโตยกมือขึ้นข้างนึงก่อนที่เศษโลหะบางอย่าง ได้ลอยขึ้น

*แก!”

ฟุบ!

ขณะนั้นเองเศษโลหะจํานวนมากที่ลอยขึ้นก่อนหน้านี้ก็ได้พุ่งเข้ายังทิศทางศีร ษะของสไตรเกอร์

เพียงแต่ว่าช่วงเวลานั้นกลับปรากฏพลังงานบางอย่างปิดกั้นความสามารถของแมกนีโตเอาไว้ได้ทัน

“คิดจะเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉันหรือยังไง?”แมกนีโตจ้องมองไปยังทิศทางนึง

เขามองเห็นสตอร์มและศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่อยู่ไม่ไกลจากตนเอง

“เอริค”ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้ยกศีรษะขึ้นและจ้องมองไปที่แมกนีโตที่ลอยอยู่บนอากาศ

ก่อนหน้านี้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรแมกนีโตถึงมองหาสไตรเกอร์แต่ตอนนี้เพียงแค่คาดเดาเขาก็สามารถเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้ตําแหน่งของควิกซิลเวอร์ และ สกาเล็ตวิช แม้จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกลี่ยกล่อมแมกนีโต แต่เขาก็หวังว่าแมกนีโตจะระงับอารมณ์โกรธในตอนนี้ลงเสียก่อน

คลื่นพลังงานบางอย่างที่หยุดเศษโลหะของแมกนีโตก็คือพลังของสตอร์มเธอไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรอีกหลังจากหยุดการโจมตีของแมกนีโต ธรรมชาติ สตอร์ม ตั้งใจจะยืนดูการเคลื่อนไหวของแมกนี้โตก่อนหากแมกนีโตเริ่มเคลื่อนไหวอีกเธอก็จะลงมือตอบโต้

นอกเหนือจากแมกนีโตที่จับสไตรเกอร์เอาไว้แล้ว ไพโร ที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้ ๆ พร้อมกับสมาชิกหลักคนอื่น ๆ ของสมาคมมิวแทนท์พวกเขาก็ถูกพวกกัปตันโรเจอร์สและคนอื่น ๆ หยุดเอาไว้เช่นเดียวกัน สําหรับไอรอนแมน โทนี่ เขาได้ใช้กองทัพไอรอนแมนของตนเองปิดล้อมสถานที่แห่งนี้เอาไว้และเฝ้ามองสถานการณ์ทั้งสองฝั่งจากระยะไกล

สงครามได้แบ่งออกเป็นสามฝ่าย ซึ่งก็คือ องค์กรมิวแทนท์,สมาคม มิวแทนท์ และ ทางฝั่งทีมX-MEN สนามรบในตอนนี้ใกล้ที่จะจบลงเต็มที่เพราะการห้ามปรามของมือที่ 3

แมกนีโตเองก็จ้องมองไปยังสนามรบข้าง ๆ เขาเห็นพรรคพวกของชาร์ลส์กําลังหยุดสงครามที่ว่านี้อยู่

“ชาร์ลส์ไม่ได้พบกันหลายวัน นายกลับมีพลพรรคพวกขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”เห็นกองทัพไอรอนแมน และ พวกคนของกัปตันโรเจอร์ส แมกนีโต กล่าวพึมพัมออกมา

ได้ยินคําพูดของแมกนีโต ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่ได้แตกตื่นเขากลับทําสีหน้าสงบอย่างมาก”เอริค โลกได้เปลี่ยนไปแล้วมันไม่ใช่โลกแบบเดิมที่พวกเราคุ้นเคย ดังนั้นฉันคิดว่านายควรรามีอซะตั้งแต่ตอนนี้”

“ฮ่าฮ่า จนถึงตอนนี้นายก็ยังคิดที่จะหยุดฉัน?นายคิดว่าโลกของเราได้เปลี่ยนไปแล้วงั้นหรอ? ปาวเลยความแตกต่างในจิตใจของผู้คนระหว่าง มนุษย์ธรรมดากับพวกมิวแทนท์อย่างเราก็ยังมีช่องว่างแบ่งกันอยู่ พวกเขาไม่มีทางยอมรับตัวตนนอกรีตอย่างพวกเราหรอก เพราะแบบนี้ฉันถึงต้องทําตามปณิธานของตนเอง เพื่อชีวิตที่สงบสุขของพวกเราเหล่ามิวแทนท์อย่างแท้จริง!”แมกนี้โตกล่าวตอบ

จากนั้นแมกนีโตก็จ้องมองไปที่ทิศทางของสไตรเกอร์ที่อยู่ในมือ

“เช่นเดียวกับมัน หากไม่มีคนแบบมันอยู่ พวกเราเหล่ามิวแทนท์ ก็ไม่จําเป็นจะต้องหลบซ่อนตัวอีกต่อไป แมกนีโตกล่าวพูดอย่างโกรธเคือง

“เอริค ฉันไม่ได้คิดที่จะหยุดนายจากปณิธานอันนั้น ฉันแค่อยากจะบอกว่าตอนนี้เรามีทางเลือกที่ดีกว่าตราบใดที่เรา….”

“เราอะไร?ตราบใดที่เราต้องยอมรับให้ความสําคัญกับคนแบบมันงั้นหรอ? ชาร์ลส์ตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้นายไม่เคยเปลี่ยนไปเลย!”แมกนีโตกล่าวหยุดคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์

ได้ยินคําพูดของแมกนีโต ศาสตราจาร์ยไม่ได้ตอบกลับในทันที ความคิดและควา มตั้งใจของแมกนีโตนั้นสูงมาก เขาแทบจะไม่ฟังเหตุผลของตนเองเลย

“ศาสตราจารย์ตอนนี้คุณจะทํายังไง?ทีมทหารของฉันกําลังจะต้านเอาไว้ไม่อยู่พวกเขากําลังจะไปสนับสนุนที่นั่นในอีก 1 นาที คุณจะทําอะไรก็ต้องรีบทําแล้วตอนนี้” เห็นแมกนีโตและศาสตราจารย์ชาร์ลส์กําลังสนทนากัน กัปตันโรเจอร์ส ได้กล่าวพูดขึ้น

กัปตันโรเจอร์สได้พาทีมและกําลังคนมาด้วยเพียงน้อยนิดเขาได้ส่งคนของตนเองเข้าไปหยุดกองทัพของสไตรเกอร์ที่เป็นกองกําลังสนับสนุนและสมาคมมิวแทนท์ของแมกนีโต

“ดูเหมือนว่าคงจะหลีกเลี่ยงการปะทะไม่ได้สินะ”

ฟูบ!

จากนั้นไม่นานเงาร่างของบุคคลจํานวนมากก็ปรากฏขึ้นในระยะสายตาของศาสตราจารย์ชาร์ลส์

ตอนที่ 619 สไตรเกอร์ถูกจับตัว

ร่างทั้งร่างของหมายเลข 2 ถูกเศษชิ้นส่วนโลหะจํานวนมากแทงทะลุร่างกายจากนั้นแมกนีโตก็ขยับมือเล็กน้อยส่งให้ร่างของหมายเลข 2 ลอยมาทางเขา

แมกนีโตรู้สึกชื่นชมอีกฝ่ายมากที่ทําให้ตนเองได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน ความสา มารถกลายพันธุ์ของหมายเลข 2 ถือว่ารุนแรงอย่างมากสามารถทําลายสนามพลังแม่เหล็กของตนเองได้ก็นับว่าชื่นชมแล้วหากอีกฝ่ายไม่ประมาทตนเองอาจเป็นไปได้ว่าฝ่ายที่จะต้องจบอาจเป็นเขาเอง

แมกนีโตได้ลากศพของหมายเลข 2 ลอยมา ก่อนที่วางร่างของหมายเลข 2 ไว้ข้าง ๆ ตัวเขาแมกนีโตค่อยข้างให้เกียรติแก่ศัตรูที่เขาชื่นชมหลังจากวางร่างของหมายเลข 2 เสร็จ แมกนีโตก็หันไปทางด้านสไตรเกอร์

“ที่นี้ก็เป็นตาของแกแล้วสไตรเกอร์” หลังจากจัดการหมายเลข 2 ได้สําเร็จ แมกนีโต ก็พุ่งเป้าไปที่สไตรเกอร์อีกครั้ง

เพียงแต่ว่าตําแหน่งที่สไตรเกอร์เคยอยู่แต่เดิมเขาได้หายตัวไปแล้ว ในขณะที่หมายเลข 2 กําลังเข้าปะทะกับตนเอง สไตรเกอร์คงจะใช้โอกาสนั้นในการหลบหนี แต่แมกนีโตเชื่อว่าอีกฝ่ายก็คงหลบหนีไปได้ไม่ไกล แมกนีโตได้ลอยตัวขึ้นสูงอีกครั้งก่อนที่จะจ้องมองออกไปเบื้องหน้าและกวาดสายตาไปโดยรอบ

สไตรเกอร์ในตอนนี้ได้หลบหนีพร้อมการสนับสนุนของหมายเลข 1 ,ความสามารถของหมายเลข 1 ไม่สามารถแทรกแซงและหยุดการโจมตีของแมกนีโตได้ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังพยายามช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่

“คิดจะวิ่งหนีฉันพ้นงั้นหรอ ฝันไปเถอะ!”มองดูไปยังตําแหน่งที่สไตรเกอร์หลบหนี มุมปากของแมกนีโตขดขึ้นก่อนที่แขนของเขาจะกางออกอีกครั้ง

ฟูบ!

แมกนีโตได้ลอยตัวไปปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของพวกสไตรเกอร์ในเวลาต่อมาแม้ตอน นี้พวกสไตรเกอร์จะมีหมายเลข 1 คอยสนับสนุน แต่อีกฝ่ายก็ไม่สามารถทําร้ายแมกนีโตได้ สถานการณ์ทางฝั่งของสไตรเกอร์เริ่มที่จะจนมุมอย่างช้า ๆ

สไตรเกอร์จ้องมองไปที่แมกนีโตอย่างหวาดกลัวเขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะต้องมามีชะตากรรมเช่นนี้

“สไตรเกอร์แกเคยคิดว่าแกจะมีวันนี้บ้างไหม?”แมกนีโตกล่าวจ้องมองไปที่สไตรเกอร์อย่างดุดัน

“แมกนีโต พวกเราเคยมีความขัดแย้งต่อกันหรืออย่างไร?ฉันไม่เข้าใจว่าทําไมนายถึงพยายามมองหาฉันตลอดในช่วงหลายปีมานี้” ถูกจับโดยแมกนีโต สไตรเกอร์กล่าวถามด้วยความสงสัย

“เหอะ! เคยมีความขัดแย้งต่อกันหรือไม่งั้นหรอ? คิดว่าที่ฉันมองและตามหาแกไม่ใช่เพราะว่าเรื่องความขัดแย้งหรือยังไง? หนึ่งในเหตุผลเหล่านั้นคือ ฉันเพิ่งได้รับข่าวมาเมื่อสองสามวันก่อนเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว แกได้ลักพาตัวคู่พี่น้องมิวแทนท์มาจากเมืองเล็ก ๆ ใน รัฐนิวเจอร์ซีย์ เรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่ ตอบฉันมา?”

เหตุผลที่แมกนีโตมองหาสไตรเกอร์ก็เพราะว่าเขาได้รับข่าวหลังจากที่ภรรยาตนเองเสียชีวิตว่าลูก ๆ ของเขายังมีชีวิตอยู่ แต่พวกเขาถูกส่งไปยังองค์กรมิวแทนท์ในเวลาต่อมา

แมกนีโตไม่ได้วางแผนจะฆ่าสไตรเกอร์เขาแค่ต้องการลูก ๆ ของเขาคืนเพียงเท่านั้นดังนั้นเขาจึงอยากรู้คําตอบจากสไตรเกอร์ในตอนนี้

“เหตุผลที่แมกนีโตไล่ล่าฉัน ก็เพราะเรื่องนี้นั้นหรอ?”ได้ยินคําถามของแมกนีโต สไตรเกอร์ราวกับจําอะไรได้บางอย่าง

“ดูเหมือนสีหน้าแบบนั้นแกคงจะนึกออกแล้วสินะ ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน?”เห็นการแสดงออกของสไตรเกอร์มือขวาของ แมกนีโต ได้บีบเข้าไปที่ลําคอของสไตรเกอร์อย่างรุนแรง

“นายดูเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก…พวกเขาเกี่ยวข้องยังไงกับนายกันแน่?”สไตรเกอร์พยายามกล่าวถามเพื่อต้องการที่จะรู้ข้อมูลมากกว่านี้

“หม! ฉันไม่ได้ให้แกตั้งคําถามฉัน บอกฉันมาตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน!”แมกนีโตไม่ต้องการบอกว่าทั้งสองคนนั้นเป็นลูกของตนเอง

ขณะที่ถามแมกนีโตก็บีบคอของสไตรเกอร์แน่นจนสไตรเกอร์เริ่มที่จะหายใจไม่ออก

“ฮ่าฮ่าในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้ว ทําไมนายถึงมีอาการเช่นนี้ เจ้าเด็กสองคนนั้นมีความสา มารถกลายพันธุ์ที่ไม่ธรรมดา ไม่แปลกใจเลยก็เพราะว่าพวกเขาเป็นลูก ๆ ของนายนั่นเอง ฮ่า ฮ่า!” หลังจากพิจารณาและไตร่ตรองดูดี ๆ สไตรเกอร์ก็สามารถคาดเดาได้ทั้งหมด

ในขั้นต้น สไตรเกอร์ได้ตั้งใจจะรวบรวมเด็ก ๆ เหล่านั้นมาเพื่อศึกษาและทําการทดลอง แต่ความสามารถของ ควิกซิลเวอร์ และ สกาเล็ตวิช แม้ตอนนั้นพวกเขาจะยังเด็ก แต่ก็โดดเด่นอย่างมาก สไตรเกอร์ไม่สามารถควบคุมพวกเขาทั้งสองคนได้ หลังจากเกิดอุบัติเหตุขึ้นทั้งสองคนก็หลบหนีไป ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สไตรเกอร์ก็ไม่ได้ข่าวพวกเขาเลย

ในหลายปีที่ผ่านมา สไตรเกอร์ได้เก็บงําความสงสัยนี้เอาไว้ในใจตลอด ไม่คิดเลยว่า เบื้องหลังที่แท้จริงของคู่พี่น้องมิวแทนท์นั่นจะเป็นลูก ๆ ของ แมกนีโต หากสไตรเกอร์รู้ว่าพวกเขาทั้งสองค นเป็นลูกของแมกนีโต เขาคงไม่เลิกสนใจทั้งสองคนและติดตามเด็กทั้งสองคนให้ถึงที่สุด

เห็นท่าทีสไตรเกอร์ที่หัวเราะราวกับกําลังเย้ยหยันตัวเอง แมกนีโต เริ่มเพิ่มแรงบีบมากขึ้นอีกครั้ง

“ฮี แกคิดว่าหลังจากที่แกรู้ความจริงเรื่องนี้แล้ว แกไม่กลัวว่าฉันจะลงมือฆ่าแกทิ้งตอน นี้งั้นหรอ?”แมกนีโตพยายามควบคุมความโกรธของตนเองและกล่าวพูดออกไป

ตอนที่ 618 สงครามมิวแทนท์ 6

ฟุ่บ!

หลังจากเห็นบุคคลที่ว่าดวงตาทั้งสองข้างของแมกนีโตเบิกกว้างขึ้นราวกับกําลังจ้องเหยื่อที่ตนเองกําลังเพ่งเล็งอยู่

“แกเป็นใคร?”แมกนีโตปลดปล่อยน้ําเสียงออกมาอย่างโกรธเคืองพร้อมกับกล่าวถามหมายเลข 2

ฟุบ!

แมกนีโตได้ปลดปล่อยแรงกดดันเพื่อทําให้อีกฝ่ายรู้สึกหวั่นเกรงเขา

” หืม?” หมายเลข 2 รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเขาได้ปลดปล่อยแรงดันจิตวิญญาณออกมาต้านทานแรงกดดันของแมกนีโต

“อ่า แกเองก็คงจะเป็นสุนัขของสไตเกอร์สินะ แม้ว่าแกจะพอดูมีแววแต่ก็ยังไม่ใช่คู่ มือของฉัน!” เห็นหมายเลข 2 ไม่ตอบตนเอง แมกนีโต พูดออกมาอย่างไม่ไว้หน้า

สิ่งที่แมกนีโตคาดเดานั้นถูกต้องหมายเลข 2 คือมิวแทนท์ของสไตรเกอร์ และ สุนัขทุกตัวที่เป็นคนของสไตรเกอร์ไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน แมกนีโตก็ไม่เคยกลัวตราบเท่าที่ การป้องกันสนามพลังแม่เหล็กของตนเองไม่ถูกทําลายเขาก็มีโอกาสชนะสูงแน่นอนว่าหากคิดจะ ใช้พลังจิตเพ่งเล็งมาที่ตัวของเขาโดยตรงก็ไม่มีทางเป็นไปได้เพราะเขาสวมหมวกป้องกันพลังจิตอ ยู่แม้แต่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ที่มีความสามารถพลังจิตที่แข็งแกร่งหากคิดจะเอาชนะแมกนีโตก็คง ต้องใช้จ่ายออกด้วยราคาจํานวนมาก

หมายเลข 2 ไม่ได้สนใจแมกนีโต เขาได้กระพริบตาเล็กน้อยจากนั้นบนร่างของเขาก็ปรากฏความสามารถของตนเองออกมา

ฟุบ!

ร่างของหมายเลข 2 ได้แยกเป็นสี่ร่างจากนั้นก็เป็นแปดร่าง แมกนีโต ขยิบตาเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ ร่างทั้งหมดของหมายเลข 2 กําลังสร้างคลื่นแรงสั่นสะเทือนเพื่อที่จะทําการหยุดยั้งสนามพลังแม่เหล็กของเขา

“หึม! คิดจะทําลายสนามพลังแม่เหล็กของฉัน?อย่าได้หวัง!” เห็นร่างทั้ง 8 ร่างของหมายเลข 2 แมกนีโตตะโกนออกมา

จากนั้นแมกนีโตก็กางมือออกกวัดแกว่งเศษชิ้นส่วนโลหะเล็ก ๆ ไปยังร่างทั้ง 8 ของหมายเลข 2 อย่างรวดเร็ว

ฟุบ!

เพียงแต่ว่าร่างของหมายเลข 2 ได้เคลื่อนไหวและวาปหลบหนีโดยตรง ดูเหมือนร่างทั้ง 8 นี้จะมีความยืดหยุ่นที่พิเศษอย่างมากแม้ว่ามันจะไม่สามารถทําร้ายแมกนี้โตได้แต่พวกมันก็มีความสามารถพอที่จะช่วยซื้อเวลาให้สไตรเกอร์หลบหนี

ปั้ง ปั้ง

ภายใต้การโจมตีของแมกนีโต หมายเลข 2 ได้เคลื่อนไหวร่างทั้งแปดเพื่อสร้างคลื่นก่อกวนสนามพลังแม่เหล็กอย่างต่อเนื่อง จนสนามพลังแม่เหล็กของแมกนีโตเริ่มที่จะสั่นไหว แมกนีโตที่เห็นสถานการณ์ไม่ดีเขารีบเร่งพลังของตนเองจนระเบิดเศษชิ้นส่วนโลหะและกําจัดร่างของหมายเลข 2 ไปได้สองร่าง

“ไม่ดีแล้ว!”เห็นร่างที่เหลืออีก 6 ร่าง ที่กําลังก่อกวนสนามพลังแม่เหล็กของตนเองแมกนี้โตพึมพัมอย่างไม่สบอารมณ์

จากนั้นไม่นานพลังจิตของแมกนีโตที่ควบคุมคลื่นสนามพลังแม่เหล็กก็ได้หายไป

เผชิญหน้ากับการขัดขวางของหมายเลข2จนทําให้สนามพลังแม่เหล็กของตนเองถูกทําลายแมกนีโตจ้องมองไปที่เขาอย่างโกรธเคืองและตะโกนออกมา”ใสหัวไปให้พ้น”

เศษชิ้นส่วนโลหะจํานวนมากได้พุ่งขึ้นมาอยู่ข้างกายของแมกนีโตอย่างบ้าคลั่ง ภูมิภาคในพื้นที่แห่งนี้เริ่มกลายเป็นวังวนเศษชิ้นส่วนโลหะทีละเล็กละน้อย

แมกนีโตที่สูญเสียความเยือกเย็นเขาได้ถูกหมายเลข 2 ระเบิดพลังจิตเข้าใส่และจากนั้นไม่นานร่างกายของหมายเลข 2 ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเขาและซัดเขาจนลอยกระเด็นตกลงไปที่พ้น

“อัก!”แมกนีโต ไอ ออกมาอย่างบาดเจ็บ แม้จะเป็นเพียงร่างกายเปลือยเปล่าที่ชกเข้าหาตนเอง แต่แมกนีโตไม่เคยมีประสบการณ์ที่ถูกเหยียบย่ําเช่นนี้มาก่อน แม้ความสามารถของเขาจะแข็งแกร่งแต่ร่างกายของตนเองก็เป็นร่างกายที่เข้าสู่วัยชราเมื่อเทียบกับร่างกายของคนหนุ่มแล้วแน่นอนว่ามันย่อมมีความแตกต่างที่เห็นได้ชัด

แมกนีโตที่ถูกโจมตีจนร่วงลงมาที่พื้นดินพลังจิตของตนเองได้สลายหายไป หมายเลข 2 ได้ใช้ โอกาสนี้ในการเริ่มประชิดตัวของแมกนีโตใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับเผยรอยยิ้มแห่งชัยชนะเขาเชื่อว่าหากตนเองประชิดตัวแมกนีโตและจัดการศัตรูในยามที่กําลังเสียเปรียบตอนนี้ชัยชนะคงไม่หลุดลอยไปจากเขา

เห็นหมายเลข 2 เดินเข้ามาตนเองแมกนีโตแสยะยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยจู่ ๆ ร่างของเขาก็ระเบิดพลังงานสีแดงออกมาคลื่นพลังจิตของแมกนีโตได้ยกระดับจนถึงระดับสูงสุดเศษโลหะจํานวนมากจากทุกทิศทางได้ลอยขึ้นราวกับว่ากําลังรอคําสั่งการของแมกนีโต

“นี่มัน..!”เห็นแมกนีโตระเบิดพลังจิตวิญญาณที่รุนแรงที่เหนือกว่าตนเองหมายเลข 2 รู้ สึกตกใจอย่างมากท่าที่จองหองที่มองไปที่แมกนีโตเมื่อครู่กลับกลายเป็นตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว

พริบตาต่อมาเศษชิ้นส่วนโลหะจํานวนมากก็พุ่งเข้าหาหมายเลข 2 จากทุกทิศทางแทบจะไม่มีเวลาให้เขาได้ทันตั้งหลัก

“แกเก่งมากที่ทําให้ฉันจนมุมได้ถึงขนาดนี้ แต่ถ้าจะโทษก็โทษตัวเองเถอะที่ประมาทศัตรูมากเกินไปจนไม่เจียมตัวเองแบบนี้”แมกนีโตกล่าวพูดลอย ๆ ออกมา

หมายเลข 2 ได้พยายามต่อต้านแต่เพราะเขาเข้ามาใกล้อาณาเขตพลังของแมกนีโต มากเกินไปและถูกล้อมรอบด้วยการโจมตีของแมกนี้โตแบบนี้อีกโอกาสรอดของเขาถือว่าหมดหวังแล้ว

“มันจบแล้ว!”

ตอนที่ 617 สงครามมิวแทนท์ 5

ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!

ขณะที่แมกนีโตกําลังจะไล่ตามสไตรเกอร์เขาก็ถูกหยุดจนต้องเผชิญหน้ากับหมายเลข 5 ที่ เป็นมิวแทนท์ทดลองของสไตรเกอร์แม้ว่าความสามารถป้องกันของหมายเลข 5 จะแข็งแกร่งมากแต่ก็ไม่อาจต้านทานแมกนีโตเอาไว้ได้นาน

ปั้ง!

เศษโลหะจํานวนมากได้เจาะทะลุเกราะของหมายเลข 5 โดยตรงในตอนนี้ ร่างกายของเขาถูกทิ่มจนเป็นรูพรุนเห็นได้ชัดว่าเขาไม่อาจยื้อต่อไปไว้ได้อีก

” หมายเลข 2 ทําไมนายถึงไม่รีบมาช่วยพวกเรา!?” ขณะนั้นเอง หมายเลข 1 ได้ตะโกนกล่าวออกมา

มิวแทนท์หมายเลข 2 เป็นมิวแทนท์สายพลังจิต มิวแทนท์สายพลังจิตนั้นจะมีความสามารถที่ต่อต้านการควบคุมอื่น ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ฟังคําสั่งของสไตรเกอร์และหมายเลข 1 ในขณะที่สถานการณ์กําลังสิ้นหวัง หมายเลข 1 ได้กล่าวถาม หมายเลข 2

” ฉัน?คิดว่าฉันเข้าไปจะทําอะไรได้?”ได้ยินคําพูดของหมายเลข 1 หมายเลข 2 กล่าวออกมาอย่างไม่สบอารมณ์

“หึ่ม! นายคิดจริงๆ หรอว่าหากพวกเราพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์และแมกนีโตจะปล่อยนายไป? อย่าลืมว่านายเองก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มมิวแทนท์ทดลอง”ได้ยินคําพูดของหมายเลข 2 หมายเลข 1 ตะโกนออกมาอย่างโกรธเคือง

“มิวแทนท์ทดลอง2ก็จริง แต่ฉันนั้นแตกต่างจากเธอ”ได้ยินคําพูดของหมายเลข 1 หมายเลข 2 รู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องนี้มาก

“นายกลัว?ที่จริงนายคิดว่าความสามารถของตนเองไม่สามารถสู้พวกมันได้ว่างั้น?ถ้านายคิดจะลงมือแม้แต่แมกนีโตก็ต้องหันมาสนใจนาย บางทีสไตรเกอร์อาจให้ความสําคัญกับนายมาก ขึ้นก็ได้!” หมายเลข 1 พยายามจะกล่าวโน้มน้าว หมายเลข 2

“เหอะ ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ฉันไม่มีทางให้คนอื่นมาดูถูกฉันเด็ดขาด ไม่ว่า จะเป็นพวกสมาคมมิวแทนท์ หรือ ทีมX-MEN ก็ตาม ฉันจะทําให้พวกมันรู้ว่าพวกมันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน!” เผชิญหน้ากับการกระตุ้นของหมายเลข 1 ในที่สุดหมายเลข 2 ก็ตัดสินใจได้ในที่สุด

” เช่นนั้นก็ช่วยแสดงให้พวกเราดูหน่อย!”

ฟุบ!

จากนั้นไม่นานหมายเลข 2 ก็หายตัวไปจากตําแหน่งที่เขาเคยอยู่เขาได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะไปสนับสนุนสไตรเกอร์ในอีกด้านนึง ความเร็วของหมายเลข 2 นั้นเร็วมาก เขาที่เป็นมิวแทนท์สายพลังจิตเดิมไม่น่าจะมีความเร็วที่มากขนาดนี้

“เปิดทางให้ฉันซะ!”แม้ว่าเขาจะไม่ใช่สายต่อสู้โดยตรงแต่ความสามารถของเขาสามารถถ่ายโอนไปยังร่างกายของตนเองได้ เขาได้ฟันฝ่าศัตรูจํานวนมากในทิศทางตนเองเพื่อรีบเร่งไปสนับสนุนทันที

ทางด้านหมายเลข 5 ที่กําลังมีสภาพร่อมร่อ หมายเลข 1 ได้สร้างคลื่นพลังจิตที่แข็งแกร่งในการป้องกันช่วยเหลือหมายเลข 5 เอาไว้

ร่างกายของหมายเลข 5 กลายเป็นสีแดงฉานพร้อมกับปลดปล่อยออร่าออกมาอย่า งดุเดือด

การกระตุ้นทางจิตวิญญาณของหมายเลข 1 ช่วยให้ร่างกายของหมายเลข 5 แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก ร่างกายของหมายเลข 5 เริ่มกลายเป็นสีแดงฉานเหมือนกับสีของเลือด

หมายเลข 5 ได้ใช้พละกําลังของตนเองที่ได้รับการสนับสนุนจากหมายเลข 1 ในการต้านทานการโจมตีของแมกนีโตอีกครั้ง

พลังจิตของแมกนีโตนั้นแข็งแกร่งมากแม้หมายเลข 5 จะมีพละกําลังที่ได้รับการสนับสนุนจากหมายเลข 1 แต่เขาก็หาได้หวั่นเกรงอีกฝ่ายเขายังคงพุ่งการโจมตีด้วยเศษโลหะพวกนั้นอย่างต่อเนื่อง

ปั้ง ~ ปัง!~ ปัง!~

การโจมตีสามครั้งติดของแมกนีโตเริ่มที่จะทะลวงเกราะของหมายเลข 5 อีกครั้ง

“เร็วเข้า คุณต้องรีบหนีออกจากที่นี่!” หมายเลข 1 ได้พยายามสนับสนุนการป้องกันของหมาย เลข 5 พวกเขาได้อาสาที่จะหยุดแมกนีโตที่นี่เพื่อซื้อเวลาให้ สไตรเกอร์หลบหนี

ได้ยินคําพูดของหมายเลข 1 สไตรเกอร์ กํากําปั้นของตนเองแน่น ในวันนี้เขาได้รับการช่วยเหลือจากหมายเลข 1 และมิวแทนท์ คนอื่น ๆ ของเขา ไม่ว่ายังไงเขาจะต้องหลบหนีออกจากที่นี้ให้

ฟุบ!

แมกนีโตที่เห็น หมายเลข 1 และ หมายเลข 5 ที่กําลังเผชิญหน้ากับตนเอง เขาเลือกที่จะไม่สนใจ เขาได้ลอยขึ้นไปบนอากาศสูงขึ้นอีกครั้งและจ้องมองไปยังตําแหน่งของสไตรเกอร์ที่เป็นเป้าหมายของเขา

แมกนีโตตัดสินใจแล้วไม่ว่ายังไงวันนี้เขาจะต้องจัดการสไตรเกอร์ให้ได้ ทางด้านสไตรเกอร์ ความสามารถเคลื่อนย้ายระยะสั้นของหมายเลข 4 ในที่สุดก็ถึงขีดจํากัดทําให้พวกเขาไม่อาจใช้ความสามารถได้อีกพักนึง

ขณะนั้นเองคลื่นพลังที่รุนแรงของแมกนี้โตก็ได้ล้อมรอบหมายเลข 4 และ สไตรเกอร์ ที่อยู่ห่างออกไป แมกนีโต ได้ล็อคตําแหน่งของทั้งสองคนและไม่มีทางคิดจะปล่อยไปง่าย ๆ จากนั้นคลื่นสนามพลังแม่เหล็กกราวกับกําลังเริ่มทํางานอีก

ฟุบ!

แต่ทว่าคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของแมกนีโตที่กําลังปลดปล่อยออกมาราวกับว่ากําลังถูกสั่นคลอนโดยพลังของใครคนนึง แมกนีโต ได้จ้องมองไปยังทิศทางของตําแหน่งพลังที่กําลังก่อกวนเขา

ตอนที่ 616 สงครามมิวแทนท์ 4

ทันทีที่โดนหยุดการเคลื่อนไหว สีหน้าของสไตรเกอร์ย่ําแย่มาก

” คลื่นสนามพลังแม่เหล็ก?” หมายเลข 4 กล่าวออกมาอย่างไร้อารมณ์สีหน้าของเขานั้นยากพอๆ กับสไตรเกอร์

ในฐานะที่เป็นมิวแทนท์ระดับ 4 สูงสุด ความสามารถกลายพันธุ์ของแมกนี้โตมีพลังทําลายล้างที่รุนแรงมาก คลื่นสนามพลังแม่เหล็ก ความสามารถนี้ของแมกนีโต ก็เพียงพอที่จะทําให้โลกเกิด ความโกลาหลแล้ว แมกนีโต ได้ใช้ท่าสร้างคลื่นสนามพลังแม่เหล็กขึ้นมาทําให้การเคลื่อนไหวประเภทส่งคนข้ามมิติของหมายเลข 4 ถูกหยุดชะงัก

“เวรเอ๊ย! หากฉันไม่สามารถทําลายคลื่นสนามพลังแม่เหล็กนั่นได้ ฉันจะต้องลําบากแน่ ๆ แมกนีโต ไอ่บัดซบ!” เห็นว่าตนเองถูกแมกนี้โตปิดทางหนีทั้งหมด สไตรเกอร์สบถต่าออกมา

“หมายเลข 1 หาทางจัดการพลังของแมกนี้โตให้ได้!”สไตรเกอร์ติดต่อหมายเลข 1 เขาหวังว่า อีกฝ่ายจะหาทางจัดการอะไรได้

“คงจะยาก แมกนีโตสวมหมวกต่อต้านพลังจิตฉันไม่สามารถทําอะไรเขาได้!”ได้ยินคํา ขอของสไตรเกอร์ หมายเลข 1 กล่าวออกมา พลังจิตของแมกนีโตเชื่อมโยงกับสนามพลังแม่เหล็กที่อยู่ใต้ดิน เธอไม่มีทางหยุดมันได้เลย

“งั้นคงมีแต่จะต้องยอมเสียสละหมายเลข 6 แล้ว!”ได้ยินคําตอบสไตรเกอร์ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากสไตรเกอร์เป็นศัตรูกับพวกสมาคมมิวแทนท์มานานหลายปีทําให้รู้จักนิสัย ใจคอของแมกนีโตดี แมกนีโต ใช้คลื่นพลังสนามแม่เหล็กในปัจจุบันเพื่อตัดทางหนีเขามันไม่มีทาง อื่นนอกจากจะใช้วิธีนี้เท่านั้น

” หมายเลข 6 ระเบิดตัวเองสร้างคลื่นรบกวนสนามพลังแม่เหล็กนี้เพื่อซื้อเวลาให้ฉันหลบหนีซะ” สไตรเกอร์ตัดสินอย่างเด็ดขาด

ฟุบ!

ทันทีที่เขาออกคําสั่ง ชายคนนึงที่มีโคดเรียกหมายเลข 6 ได้เริ่มเคลื่อนไหวพุ่งตัวไปยังพื้นที่กลางสนามรบ

ฟุบ!

จากนั้นคลื่นพลังงานความผันผวนพิเศษก็ออกมาจากร่างของหมายเลข 6 พื้นที่โดยรอบตัว ของเขาปรากฏพลังงานทําลายล้างที่รุนแรง

ปั้ง

คลื่นระเบิดที่รุนแรงได้สั่นคลอนคลื่นสนามพลังแม่เหล็กของแมกนีโตให้ตีกลับ แม้ว่าการระเบิดของ หมายเลข 6 จะสําเร็จผล หมายเลข 4 และ สไตรเกอร์ ก็ยังไม่สามารถหลบหนีได้

การเสียสละหมายเลข 6 นั้นถือว่าเป็นความสูญเสียของสไตรเกอร์อย่างแท้จริงเพราะบุคคลคนนี้เป็นคนสําคัญและการทดลองที่ประสบความสําเร็จนั้นเอง

ฟุบ!

แมกนีโตที่เห็นสนามพลังแม่เหล็กของตนเองถูกทําลายเขาจ้องมองไปยังสไตรเกอร์ที่อยู่ไม่ไกลจากตนเอง

ถึงสนามพลังแม่เหล็กจะถูกทําลายไปแมกนีโตก็ยังไม่ยอมแพ้เขาได้ยกมือขึ้นอีกครั้งจากนั้นเศษวัสดุโลหะจํานวนมากที่แตกกระจายก็ถูกเขาควบคุมและพุ่งไปยังทิศทางของสไตรเกอร์

เห็นเศษวัสดุโลหะจํานวนมากพุ่งเข้ามา หมายเลข 5 ที่เปรียบเสมือนเกราะของสไตรเกอร์ได้พุ่งเข้ามาต้านรับอย่างรวดเร็ว

เพร้ง!

เห็นโล่ป้องกันมนุษย์ของตนเองเข้ามาขวางทางเอาไว้ สไตรเกอร์รีบสั่งให้หมายเลข 4 พาเขาหลบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ อย่างไรก็ตามระยะทางเคลื่อนที่ของพวกเขาก็ไปไม่ได้ไกลนักเพราะถูกขัดขวางโดยแมกนีโต หลายครั้งที่แมกนี้โตยังคงพยายามควบคุมคลื่นสนามพลังแม่เหล็ก เพื่อขัดขวางการหลบหนีของอีกฝ่าย

แมกนีโตได้ใช้สกิลวงกว้างของตนเองในการเปิดทางเพื่อไล่ตามสไตรเกอร์แต่ทว่าก็ติดที่อีกฝ่ายยอมเสียสละแม้จะเป็นทหารตนเองเพื่อให้ตนเองรอด

หากเป็นตามแผนเดิมของแมกนีโตเขาคงจะจัดการสไตรเกอร์ได้ไปแล้วแต่เพราะตนเองวู่วามและรีบร้อนเกินไป ทําให้สร้างโอกาสหลบหนี้ให้กับสไตรเกอร์

เหตุผลที่แมกนีโตนํากองกําลังหัวกระทิของตนเองมาร่วมศึกในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะจัดการสไตรเกอร์ให้ได้ในคราวนี้

“ หึ่ม! มันคิดจะกัดฉันไม่ปล่อยเลยหรือยังไง?”สไตรเกอร์บ่นพึมพัมออกมา

ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้สึกสงสัยบางอย่าง เดิมเขาได้ขอกําลังเสริมจากทางกองทัพไปแล้วแต่ดูเหมือนกําลังเสริมที่ว่านี้ก็ยังไม่มาแม้แมกนีโตจะทรงพลังแต่ทางกองทัพและหน่วยพิเศษก็มีอาวุธประเภทต่อต้านพวกมิวแทนท์ แต่ตอนนี้กองกําลังที่ว่าก็ยังไม่ปรากฏตัว

ที่จริงแล้วไม่ใช่ว่ากําลังเสริมของทางกองทัพยังมาไม่ถึง แต่เพราะทางด้านกัปตันโรเจอร์ส S.H.I.E.L.D. ได้ไปสร้างสถานการณ์และหยุดพวกเขาเหล่านั้นเอาไว้ ดังนั้นกําลังเสริมของพวกเขาจึงไม่ได้มาสนับสนุนในตอนนี้ เหตุผลก็เพราะกัปตันโรเจอร์สไม่ต้องการให้เหตุการณ์ครั้งนี้มีการสูญเสียมากเกินไป

ตอนที่ 615 สงครามมิวแทนท์ 3

ขณะที่พวกศาสตราจารย์ชาร์ลส์และกัปตันโรเจอร์สมาถึง ทางด้าน แมกนีโต พรรคพวกของเขาก็ยังคงเข้าปะทะกับพรรคพวกของ สไตรเกอร์อยู่

ฟุบ!

ไพโร ลูกน้องของแมกนีโตตอนนี้ในมือของเขาได้ปรากฏเปลวไฟลูกใหญ่เขาได้พุ่งซัดการโจมตีไปที่ปีศาจสาวคนนั้น การเผชิญหน้าในครั้งนี้ ดูเหมือนไพโรจะไม่สามารถประมาทได้เลยลูกน้องของสไตรเกอร์แต่ละคนมีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา

ในฐานะมิวแทนท์ระดับ 4 ไพโร แรกเริ่มเคยเรียนอยู่ที่โรงเรียนเซเวียร์ และ ยังคบไอซ์แมน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ในเวลาต่อมาเขาได้เห็นด้วยกับแมกนีโตและเลือกที่จะหันหลังให้กับพี่น้องมิวแทนท์เหล่านั้น เมื่อเทียบความสามารถของเขากับไอซ์แมนแล้วพวกเขาใกล้เคียงกับคําว่ามิวแทนท์ระดับ 5 มากที่สุด แต่เพราะ ธาตุของไพโร คือ ไฟ ดังนั้นจึงได้เปรียบไอซ์แมน อย่างมาก

ด้านหน้าของไพโร ปีศาจสาวคนนั้นได้สร้างบาเรียพลังจิตขึ้นมาอีกครั้งมันได้ต้านทานลูกบอลเพลิงยักษ์ของไพโรจนสลายหายไป เหลือทิ้งไว้เพียงอุณหภูมิความร้อนสูงที่แผดเผาไปรอบพื้นที่

แน่นอนว่าไพโรเลือกที่จะไม่ยอมแพ้เขาเริ่มเข้าประชิดศัตรูมากขึ้นเรื่อย ๆ และ กระหน่ําการโจมตีเข้าไปอย่างไม่ยั้ง

เห็นพรรคพวกของตนเองเริ่มกดดันภายในฐานลับของสไตรเกอร์ได้ปรากฏแสงสีแดง พุ่งออกมามันได้พุ่งไปโจมตีจิตวิญญาณและกดดัน ไพโร ทําให้เขาเคลื่อนไหวได้ไม่เต็มที่

อั๊ก

ทันทีที่ถูกโจมตีทางจิตวิญญาณ เปลวเพลิงในมือของไพโร ได้สลายหายไปและเขาเริ่มที่จะสูญเสียการเคลื่อนไหวที่ละน้อย

“ไม่คิดเลยว่าจะเล่นวิธีต่ําช้าขนาดนี้!”ไพโรจ้องมองไปที่หญิงสาวเบื้องหน้าที่ได้รับการสนับสนุนจากสไตรเกอร์”

” พลังกลายพันธุ์ของนายแข็งแกร่งก็จริงแต่ก็รับมือกับพวกผู้ใช้พลังพิเศษสายพลังจิต ดังนั้น ไม่แปลกใจหากนายจะคิดแบบนี้” หญิงสาวคนนี้กล่าวพึมพัมออกมา

” บอส?”ได้ยินคําพูดของหญิงสาวคนนี้เดิมไพโรให้ความสนใจเพียงเล็กน้อยแต่ว่าหลังจากเขาล้มลงเขาเหลือบมองไปเห็นแมกนีโตที่ลอยอยู่กลางอากาศ

เหนือฐานลับใต้ดินของสไตรเกอร์บุคคลที่แต่งตัวประหลาดได้กําลังขยายขอบเขตความสามารถของตนเอง ความสามารถที่ว่านี้เป็นสายพลังจิตและเป็นของ แมกนีโต

“บอสนั่นเขากําลังทําอะไร?”ได้ยินคําพูดของไพโร หญิงสาวคนนี้เงยหน้าขึ้นพร้อมกับเห็นแมกนี้โตที่กําลังเคลื่อนไหว

ฟุบ!

แมกนีโตในตอนนี้กําลังกางแขนออกราวกับว่ากําลังรวบรวมพลังของตนเองอยู่

” หืม? บอสกําลังจะลงมือแล้ว ฉันจะต้องรีบออกจากที่นี่!” หลังจากเห็นการเคลื่อนไหวของแมกนี้โต ไพโร ตะโกนออกมา

“ไม่ได้การ เขากําลังจะลงมือแล้ว!”หญิงสาวคนนี้เองก็รู้สึกเห็นด้วยกับไพโร เธอจะต้องออกจากสถานที่ตรงนี้

ฟุบ!

จากนั้น ไพโร และ ปีศาจสาวก็ออกจากสถานที่รงนี้ในเวลาเดียวกัน พวกเขาได้เลือกที่จะถอยกลับไป

โพโรจ้องมองไปที่แมกนีโตที่กําลังกํามือขวาเข้าหากันอย่างช้า ๆ จากนั้นผืนอากาศก็เริ่มสั่นไหวอย่างแปลก ๆ

กึก!

ทางด้านสไตรเกอร์หลังจากเห็นผืนอากาศและผืนดินกําลังสั่นไหวจู่ ๆ สีหน้าของเขาก็กลายเป็นตื่นตะลึงอย่างหวาดกลัว

เพราะชิ้นส่วนโลหะภายในฐานลับใต้ดินเริ่มที่จะถูกดึงดูดออกไป

“สถานการณ์ไม่ดีแล้ว ฉันจะต้องรีบออกจากที่แห่งนี้ หมายเลข 4!”เห็นการสั่นสะเทือนของพื้นดินที่รุนแรงมากขึ้น สีหน้าของ สไตรเกอร์ เริ่มเปลี่ยนไป เขาตะโกนออกมาอย่างเร่งรีบ

ทันทีที่สไตรเกอร์ตะโกนออกมา บุคคลในชุดคลุมขาวก็ปรากฏตัวที่เบื้องหน้าของเขา ในองค์กรของ สไตรเกอร์ เขามีมิวแทนท์จําเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสนับสนุน และ ต่อสู้ หน้าที่ของหมายเลข 5 คือจู่โจม หมายเลข 2 และ หมายเลข 1 สนับสนุนโจมตี ส่วนหมายเลข 4 นั้น มีความสามารถในการช่วยเหลือสนับสนุน

ฟุบ!

ทันทีที่หมายเลข 4 ปรากฏตัวข้างเขา สไตรเกอร์ก็ยื่นมือออกไปจับแขนขวาของคนคนนี้จากนั้นไม่นานพวกเขาก็หายตัวไปอย่างรวดเร็วเพียงแต่ว่าพวกเขาก็ไปปรากฏยังสถานที่ไม่ไกลมากนักดูเหมือนการเคลื่อนที่ของพวกเขาจะถูกหยุดสกัดเอาไว้

ตอนที่ 614 กําลังเสริมชุดสอง

ฟุบ!

ไอซ์แมนและแจ็คได้มองขึ้นไปข้างบนพร้อมกันพวกเขาเห็นกองทัพไอรอนแมนนับ 10ตัวที่บินลงมาลอยเหนือหัวพวกเขาพร้อมกับจ้องปืนเลเซอร์นับ10ไปที่ทั้ง2คน

หลังจากที่แจ็คเห็นชุดเกราะไอรอนแมนลอยอยู่บนอากาศหน้ากากของไอรอนแมนตัวนึง ก็เปิดออกเผยให้เห็นใบหน้าของโทนี่

“หืม? โทนี่สตาร์ค?ทําไมนายถึงมาหยุดฉัน?”

“สตาร์คนี้มั่นหมายความว่าไง?”

หลังจากเห็นโทนี่ลอยมาหยุดพร้อมเขาทั้งสองคน แจ็ค กับ ไอซ์แมน รู้สึกสงสัยอย่างมากพวกเขาต้องการคําอธิบายจากโทนี่

” หากฉันไม่ลงมาหยุดฉันคิดว่าสถานการณ์มันคงจะบานปลายไปมากกว่านี้” เห็นแจ็คและไอซ์แมนสงสัยโทนี่ลอยลงมาคั่นกลางระหว่างพวกเขา

ที่จริงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แจ็คและไอซ์แมนจะไม่รู้จักกันเพราะพวกเขายังไม่เคยพบกัน อย่างเป็นทางการ แม้ว่าไอซ์แมนจะรู้ว่าในทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ มีสมาชิกเป็ฯมิวแทนท์อยู่ แต่ก็ ไม่รู้ว่าคือแจ็คสําหรับ แจ็คแล้วเขาก็เคยได้ยินชื่อไอซ์แมนของทีม X-MEN มาก่อนเหมือนกันแต่เขาไม่เคยพบหน้ามาก่อน

“สตาร์ค เขาเป็นพันธมิตรอย่างงั้นหรอ?ทําไมฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าพันธมิตรของพวกเราจะมี คนที่พลังน่าเกรงขามเช่นนี้อยู่อีก”ได้ยินคําพูดของโทนี่ ไอซ์แมนรู้สึกโล่งใจก่อนที่จะคลายร่างผลึกน้ําแข็งออก

จากนั้นไอซ์แมน และ แจ็ค ก็เดินเข้าหากัน เห็นไอซ์แมนคลายสกิลออกแจ็คก็ไม่ได้ทําท่าที่กังวลอะไร

“เขาเป็นเพื่อนร่วมทีมของพวกเรา เป็นสมาชิกของ ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์”โทนี่ กล่าวตอบ

” สมาชิกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ ?ทําไมฉันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน”ได้ยินคําตอบของโทนี่ ไอซ์แมน จ้องมองไปที่แจ็คอย่างประหลาดใจ

” เช่นนั้นนายก็คือ ไอซ์แมน จากทีม X-MEN?”แจ็คกล่าวพูดลอยๆออกมา

เขารู้จักดีเกี่ยวกับ ทีมX-MEN และมีความประทับใจอย่างมาก หากจะให้ว่ากันชื่อเสียงของ ไอซ์แมนในฐานะสมาชิกทีมX-MEN นั้นค่อนข้างโด่งดังเขาสามารถจัดการศัตรูได้อย่างมากมาย ดังนั้นแจ็คจึงรู้สึกชื่นชม

“หม?นายรู้จักฉันด้วย?นายเป็นสมาชิกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์จริงๆงั้นหรอ?หรือว่าเป็นเด็ก ใหม่?”ได้ยินแจ็คเรียกชื่อเล่นของตนเองไอซ์แมนกล่าวถามอย่างประหลาดใจ

ไม่ฉันเป็น

“มันก็เป็นเรื่องดีที่พวกนายทั้งคู่จะจับมือพูดคุยกัน แต่ว่าเรื่องนี้เอาไว้ก่อนตอนนี้พวกเรามี เรื่องเร่งด่วนที่จะต้องรีบจัดการ”เห็นแจ็คและไอซ์แมนเตรียมที่จะต่อบทสนทนากัน โทนี่ ก็จ้อง มองไปยังสถานที่ไม่ไกลจากตําแหน่งของพวกเขา

“จริงด้วย! ฉันมาที่นี้ก็เพื่อต้องการหยุดสงครามระหว่างมิวแทนท์ที่กําลังเกิดขึ้น” ได้ยินคําพูด ของโทนี่ แจ็คตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ได้ยินคําพูดของ แจ็ค ไอซ์แมน จ้องมองไปที่ เขาด้วยสายตาชื่นชมมีน้อยคนมากที่รู้สึกเป็นห่ วงเรื่องของพวกมิวแทนท์ และ ใครก็ตามที่มีความรู้สึกเช่นนี้จะทําให้ไอซ์แมน รู้สึกอ่อน ไหวกับคนเหล่านี้เป็นพิเศษ

ขณะที่โทนี่กําลังปรับความเข้าใจผิดให้ แจ็ค และ ไอซ์แมน ยานควินเจ็ทของกัปตันโรเจอร์ส ก็ลงมาที่ซากปรักหักพังที่พวกเขาอยู่ภายใต้การจ้องมองของพวกเขา กัปตันโรเจอร์สได้ส่งทีมช่วย เหลือมา 23 คน

“นี่คือกองหนุนงั้นหรอ?หากมีแค่นี้ก็คงไม่พอหรอกมั้ง”มองไปที่กองกําลังของกัปตันโรเจอร์ส โทนี่ ขมวดคิ้วแน่นเล็กน้อย

หากต้องเผชิญหน้ากับแมกนีโตที่มีความสามารถในการควบคุมสสารเหล็กชุดเกราะไอรอนแม นของโทนี่ย่อมไร้ประสิทธิภาพโดยสมบูรณ์ดังนั้นเขาในตอนนี้จึงต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของ ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์,ทีมX-MENและองค์กร S.H.I.E.L.D. แต่ดูเหมือนองค์กร S.H.I.E.L.D. เองก็ ไม่สามารถส่งกองกําลังสนับสนุนมาได้เท่าที่ต้องการ ทีมX-MEN ในตอนนี้ก็ส่งมาแค่ไอซ์แมนเพียงคนเดียวที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ก็มีแค่แจ็คที่มาถึง แม้พลังของแจ็คจะน่าตกตะลึงแต่มันก็ยังไม่พอหยุดความกังวลเรื่องขาดกําลังคนของพวกเขาได้

“แจ็คสัน เพื่อนตัวน้อยจะมาถึงในอีก 10 นาที ชุดเกราะของฉันในตอนนี้คงทําได้แค่เพียงส นับสนุน ดังนั้นสิ่งที่พวกเราต้องการก็คือเวลาคนที่พอจะพึ่งพาได้ก็คงมีแต่ ทีมX-MEN เพียง เท่านั้นตอนนี้” หลังจากคํานวณสถานการณ์โดยรวมแล้วโทนี่ ก็ได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว

“ไอซ์แมน นาย…”โทนี่เตรียมจะพูดกล่าวถามว่า ทีมX-MEN พวกเขาจะส่งกําลังเสริมมาช่วย ไอซ์แมนอีกหรือไม่

ฟุบ!

โทนี่ไม่ทันได้พูดจบจากตําแหน่งไม่ไกลจากพวกเขาก็ปรากฏประตูมิติอวกาศสีม่วงขึ้น จากนั้ นร่างกายขนาดใหญ่ของชายคนนึงที่เป็นเหล็กก็ผลักชายวัยกลางคนที่นั่งรถเข็นเดินออกมา ชายบ นรถเข็นคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากศาสตราจารย์ชาร์ลส์ส่วนชายร่างยักษ์ก็คือ โคลอสซัส ตาม มาด้วย สตอร์ม บีสต์ และก็บลิงก์

ทีม X-MEN ได้ส่งกําลังเสริมที่นําโดยศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตอนนี้พวกเขามาอยู่กันพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็น ศาสตราจารย์ชาร์ลส์, ไอซ์แมน สตอร์ม โคลอสซัสบีสต์ และ ก็บลิงก์ แม้ทีมX-MEN จะมีจํานวนคนไม่มาก แต่บุคคลที่คัดมาก็คือหัวกระทิของโรงเรียนเซเวียร์

พวกเขาทั้ง 6 คน มีพลังมากพอที่จะทําให้ทั่วทั้งโลกสั่นคลอนได้

“ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ดีใจที่คุณมา” เห็นศาสตราจารย์ชาร์ลส์อยู่ไม่ไกล โทนี่ได้เดินเข้าไปทักทาย

“ยินดีที่ได้เจอ สตาร์ค สวัสดี กัปตันโรเจอร์ส” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์กล่าวทักทาย

ฟุบ!

“สวัสดี ศาสตราจารย์ชาร์ลส์” หลังจากที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์เรียกชื่อของตนเอง กัปตันโรเจ อร์สก็เดินมากล่าวทักทายพร้อมกับหน่วยพิเศษของเขา

” พวกเรารีบเร่งกันเถอะ ฉันรู้ว่า หากอีริค ลงมือแบบเอาจริงแล้วล่ะก็เขาจะไม่สนใจสิ่ง ใดทั้งนั้น แม้โลกจะต้องพังทลายเขาก็จะไม่หยุดลงมือ” ศาสตราจารย์ชาร์ลส์พึมพัมออกมา

ได้ยินคําพูดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ โทนี่ และ คนอื่น ๆ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ พวก เขาได้จัดการแบ่งกลุ่มกันอย่างรวดเร็วและพุ่งไปยังตําแหน่งตามแผนที่วางเอาไว้

ตอนที่ 613 กําลังเสริมชุดแรก

บนหมวกไอรอนแมน J.A.R.V.I.S ได้แสดงภาพสถานที่ที่แตกต่างกันทั้งสองแห่งที่อยู่ไม่ไกลกัน มาก ทิศทางแรกคือประตูมิติอวกาศสีม่วงที่เป็นความสามารถของบลิงก์ ทิศทางที่สองเป็นประตูมิ ติอวกาศเวทย์มนตร์สีทองที่เป็นของเหล่าพ่อมด

“หืม?ทําไมคนที่ออกจากประตูมิติอวกาศทั้งสองจึงมีแค่ประตูละคนเดียว?”โทนี่ค่อนข้างประ หลาดใจ

เขาคิดว่าประตูมิติอวกาศทั้งสองนี้จะปรากฏคนออกมาจํานวนมาก

“เจ้านายครับทางด้านแรกเป็น คุณ ไอซ์แมน และ ทางด้านสองเป็นของที่มพันธมิตรผู้พิทั กษ์ คุณแจ็ค” J.A.R.V.I.S สแกน และระบุสถานะของทั้งสองคน

“ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ แจ็ค? เขาเดินผ่านประตูมิติอวกาศเวทมนตร์มางั้นหรอหรือว่าเขาก ลายเป็นส่วนนึ่งของพวกพ่อมดไปแล้ว?”ได้ยินรายงานของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ตะโกนออกมาด้วยค วามตกใจ

ทางด้านทีม X-MEN เป็นไอซ์แมน โทน ไม่ค่อยประหลาดใจเท่าไหร่ แต่สําหรับที่มพันธมิตรผู้ พิทักษ์แจ็ค โทนี่ ไม่ค่อยคุ้นเคเลยจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นตัวของแจ็คตอนนี้ยังสวมใส่เสื้อคลุมสีเทาที่ให้ความรู้สึกที่ประหลาด

ขณะที่โทนี่กําลังประหลาดใจกับการปรากฏตัวของแจ็คด้านหลังไอซ์แมนประตูมิติ อวกาศก็ได้หายไป ดูเหมือนบลิงก์จะไม่ได้ตามมาด้วยเธอคงจะกลับไปเตรียมพร้อมกับคนอื่น ๆ ที่โรงเรียนเซเวียร์

“พวกเขาคงกําลังจะเตรียมพร้อมกันอยู่”เห็นประตูมิติอวกาศทั้งสองหายไปโทนี่ เข้าใจสถานการณ์ของทางฝั่ง ไอซ์แมน

“เจ้านายครับมพวกเราจะล่าถอยกันก่อนหรือไม่?”ในสนามรบเห็นพันธมิตรของพวกตนเองปรากฏตัวออกมา J.A.R.V.S กล่าวถาม โทนี่

“ทางด้าน แจ็คสัน และ กัปตันโรเจอร์ส ละ พวกเขาจะมาถึงตอนไหน?”ได้ยินคําพูดของ J.A.R.V.I.Sโทนี่กล่าวถามอีกครั้ง

“คุณแจ็คสัน จะมาถึงในอีก 10 นาที ทางด้านกัปตันโรเจอร์สเขามาถึงก่อนทีม X-MEN เมื่อ 5 นาทีที่แล้ว” J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

“หม ?พวกเขามาถึงอยู่ก่อนแล้ว? “ได้ยินคําตอบของ J.A.R.V.I.S โทนี้สแกนไปรอบ ๆ และตร วจพบกองยานจํานวนมาก

โทนี่หันไปมองก็เห็นเครื่องบินเจ็ทจํานวนมากที่มากันอย่างพร้อมเพรียง

“ดูเหมือนที่มพันธมิตรของพวกเราจะมากันพร้อมหน้าเลยสินะทีนี้ฉันไม่เชื่อว่าพวกเราจะไม่ สามารถหยุดคนพวกนี้ได้!”เห็นพวกกัปตันโรเจอร์สให้การสนับสนุนมาด้วยโทนี่ พึมพัมออกมา

” พวกเราเองก็ไปกันเถอะ!”

จากนั้นกองทัพไอรอนแมนของโทนี่ก็เริ่มเคลื่อนไหวเหมือนกัน

“หืม?พวกเขากําลังทําสงครามกันอยู่งั้นหรอ?” ขณะที่โทนี่กําลังเคลื่อนไหวกองทัพไอรอนแมน แจ็ค ที่เพิ่งมาถึงก็กําลังสํารวจสถานการณ์ในตอนนี้

ก่อนหน้านี้เขาได้รับข่าวจาก เจอร์รี่ อีกรอบ ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ทุกคนกําลังจะรีบเร่ง มาสมทบให้เร็วที่สุดแต่เพราะแจ็คใช้ประตูมิติอวกาศเวทมนตร์เขาจึงมาถึงก่อนคนอื่น ๆ

” ที่ตรงนั้นมีคนอยู่!” หลังจากมองสํารวจสถานการณ์โดยรอบแจ็คก็เห็นเงาบุคคลที่อยู่ไม่ไกล จากเขา

พริบตาต่อมาเขาก็ดีดฝ่าเท้าของตนเองและพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็วในฐานะที่เป็นมิว แทนท์ที่มีความสามารถในการเสริมพลังทางกายภาพความสามารถทางร่างกายของเขาจึงไม่ได้อยู่แม้แต่น้อย

“หืม?ศัตรูนั้นหรอ?” เห็นเงาของบุคคลพุ่งมายังทิศทางของตนเองไอซ์แมนที่ออกมาเดินสํารวจซากปรักหักพังเขาก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้น

ฟุบ!

ไอซ์แมนได้ยกมือขึ้นพร้อมกับปลดปล่อยหมอกไอเย็นออกมาพริบตาเดียวหนามน้ําแข็งก็ ปรากฏขึ้นพุ่งโจมตีออกไป

“หม?”แจ็คที่พุ่งตัวเข้ามาไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามคือใครสิ่งที่เขาเห็นตอนนี้ก็คือหนามน้ําแข็งที่พ่งเข้ามาใส่ตนเอง

ฟุบ ฟุบ

แจ็คได้ยกสองมือขึ้นและทําสัญลักษณ์มือบางอย่างจากนั้นโล่สีทองก็ปรากฏขึ้นในมือของเขาเขาได้ยกมั่นต้านทานหนามน้ําแข็งที่พุ่งเข้ามา

ปั้ง ปั้ง

หนามน้ําแข็งที่เข้าปะทะกับโล่สีทองได้แตกสลายอย่างรวดเร็วจากนั้นแจ็คก็สวนกลับการโจม ตีไปเขได้สร้างลูกศรสีทองขึ้นและโจมตีไปยังทิศทางของไอซ์แมน

เห็นลูกศรสีทองโจมตีมาที่ตนเองไอซ์แมนได้ควบคุมอุณหภูมิพื้นที่ใกล้ตัวและเรียกเสาน้ําแข็งขึ้นมาป้องกันที่ด้านหน้าของเขา

ฟุบ!

เพียงแต่ว่าไอซ์แมนประมาทเกินไปศรสีทองนั้นไม่ได้พุ่งเข้ามาที่เบื้องหน้าของเขาแต่มันกลับสามารถล็อคเป้าตําแหน่งและยังคงพุ่งเข้าหาตนเองราวกับเครื่องติดตาม

คลื่น!

ไอซ์แมนได้เปลี่ยนสภาพร่างกายของตนเองเป็นผลึกน้ําแข็งเพื่อป้องกันการโจมตีที่พุ่งเข้ามา

เปรี้ยง

“เป็นการโจมตีที่รุนแรงมาก หากฉันไม่สร้างผลึกน้ําแข็งซ้อนฉันคงได้รับบาดเจ็บ ไปดแล้ว” เห็นการโจมตีของศรสีทองเจาะปราการผลึกน้ําแข็งบนร่างของตนเองได้ ไอซ์แมนประหลาดใจอย่างมาก

จากนั้นตําแหน่งของไอซ์แมน และ แจ็ค ก็อยู่ไม่ไกลจากกัน พวกเขาได้พุ่งเข้าหากันและกันอีกครั้งราวกับว่าพวกเขากําลังเผชิญหน้ากับศัตรูอุณหภูมิรอบตัวของไอซ์แมนได้สูงขึ้นขณะที่บนร่างของแจ็คก็ปรากฏออร่าสีทอง

หืม!

การโจมตีของไอซ์แมนและแจ็คเข้าปะทะกันอยู่หลายกระบวนท่าต่างฝ่ายต่างพลัดกันโจม ตีและตั้งรับราวกับว่าทั้งสองแทบจะไม่ได้มีความแตกต่างกันเลย

การปะทะของทั้งสองคนได้สร้างแรงระเบิดจนเกราะน้ําแข็งของไอซ์แมนและโล่สีทองของแจ็คได้แตกออกมันสร้างความประหลาดใจให้กับทั้งสองคนในขณะนี้

หลังจากเกิดการระเบิดขึ้นร่างกายของพวกเขาก็กระเด็นถอยออกไป ไอซ์แมน และ แจ็คได้ยืนจ้องมองเผชิญหน้ากันอีกรอบแต่ทว่าจู่ ๆ ก็มีเงาร่างปรากฏขึ้นด้านบนเหนือศีรษะของพวกเขา

ตอนที่ 612 สงครามมิวแทนท์ 2

.

ที่ม!

ลําแสงสีแดงได้พุ่งออกมาจากฐานลับใต้ดินของสไตรเกอร์มันพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว

“มาแล้ว!”เห็นการโจมตีทางฝั่งพวกสไตรเกอร์แมกนีโตแลพพรรคพวก5คนได้เข้าเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้

ชายคนนึงได้กระโดดออกไปข้างหน้าของทั้ง 4 คน แขนทั้งสองข้างของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเหล็กกล้าที่เป็นกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งเขาได้พุ่งออกไปต้านรับแสงสีแดงที่พุ่งมาทางพวกเขา

เปรี้ยง!

ฟุบ ! ฟุบ! ฟุบ!

แสงสีแดงนั่นได้พุ่งชนร่างของชายคนนี้พร้อมกับส่งเขาลอยกระเด็นไปไม่ไกลเท่าไหร่ แสงสีแดงที่ว่านี้ก็คือ ก้อนหินขนาดใหญ่ที่ถูกบีบอัดพลังบางอย่างเข้าไปแม้ความรุนแรงของมันจะสูงแต่ก็ไม่สามารถทําอันตรายร่างกายของชายคนนี้ได้

หลังจากกระเด็นไปไม่ไกลมากเท้าของชายคนนี้ที่ต้านรับแรงกระแทกได้จมลงดินมากกว่า 20 เมตร จนในที่สุดมันก็หยุดลง

“นี่คงจะเป็นการโจมตีจากยัยผู้หญิงนั่น! ไพโร ต่อไปตานายออกโรงแล้ว!” เผชิญ หน้ากับการโจมตีทางฝั่งสไตรเกอร์แมกนีโตกล่าวออกคําสั่ง

“ฮิฮิ ฉันรอคําพูดนี้มานานแล้ว สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดก็คือการเฝ้ามองศัตรูจากระยะไกลนี่แหละ”ได้ยินคําสั่งของแมกนีโตชายคนนึงได้ก้าวเดินออกมา

ฟุบ!

ในทิศทางเบื้องหน้าของแมกนีโต ได้ปรากฏหญิงสาวคนนึง ไพโร ได้ก้าวเดินออกไปเผชิญ หน้ากับเธออย่างไม่เกรงกลัว พริบตาเดียว ร่างของไพโร ก็วิ่งพุ่งเข้าไปการโจมตีของหญิงสาวคนนี้ เป็นการโจมตีระยะไกลดังนั้นไพโรที่มีการโจมตีแค่ ระยะกลางย่อมไม่อาจใช้ไฟของเขาในการจัดการหล่อนได้

เห็นไพโร พุ่งเข้ามา หญิงสาวคนนี้ ได้เข้าเผชิญหน้าเช่นเดียวกันทางด้านแมกนีโตตอนนี้เขากําลังเฝ้ามองดูศัตรูจากระยะไกลพร้อมกับพรรคพวกอีก 3 คน

“ยัยปีศาจขาวนั้นสามารถบล็อคตําแหน่งจิตวิญญาณของคนอื่นได้อย่างงั้นหรอ?”แมกนีโต ที่ จ้องมองการต่อสู้ เขากล่าวบ่นพึมพัมออกมา

ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้ใช้พลังจิตเดิมแมกนีโตสามารถล็อคตําแหน่งของสไตรเกอร์และฆ่าเขา ในการโจมตีได้ แต่เนื่องจากการมีอยู่ของผู้หญิงคนนี้ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลย หากเขาต้อง การจัดการ สไตรเกอร์ เขาจะต้องจัดการผู้หญิงคนนี้

” พลังจิตของอีกฝ่ายเทียบเท่ากับฉันหากมีเธอคอยอยู่ป้องกันก็เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะจัดการสไต รเกอร์ได้”แมกนีโตกล่าวออกมา

จากนั้นเขาก็ลอยตัวขึ้นไปบนฟ้า

แมกนีโตสามารถควบคุมสสารแม่เหล็กได้ดังนั้นเขาจะมีความสามารถในการบินก็ไม่แปลก ประหลาดเพราะภายใต้ซากปรักหักพังเหล่านี้มีแท่งวัสดุโลหะเหล็กมากมาย

จากนั้นแมกนีโตก็ลอยตัวเหนือพื้นดินมากกว่า 50 เมตร เขาจ้องมองไปยังตําแหน่งของฐาน ลับของแมกนีโตและยกมือขึ้นอย่างช้า ๆ

“เจ้านายครับ,ตรวจพบคลื่นสนามพลังแม่เหล็กแรงงานสูงผมขอแนะนําให้คุณรีบออกจากที่นี้โดยทันที” หลังจากแมกนีโตลอยขึ้นไปบนอากาศ J.A.R.V.I.S ที่ซ่อนตัวอยู่ตรวจพบคลื่นความผันผวนของสนามพลังแม่เหล็ก

“ดูเหมือน แมกนีโต จะเริ่มลงมือแล้ว!” โทนี้มองเห็นแมกนีโตที่ลอยอยู่บนอากาศเขา ไม่ได้แปลกปใจแม้แต่น้อย

พลังงานที่สามารถควบคุมสสารเหล็กได้ไม่แปลกที่จะสามารถควบคุมสนามพลังแม่เหล็กบางส่วนของโลกไดความสามารถระดับนี้ แม้จะเป็นชุดเกราะไอรอนแมนที่แข็งแกร่งของโทนี่ก็คงสูญเสียความสามารถไปโดยสมบูรณ์

“พวกเราจะล่อถอยไปคอยเฝ้าสังเกตุการณ์จากระยะไกลทิ้งชุดเกราะไอรอนแมน 10 ตัว ไว้ ใกล้ ๆ สถานที่แห่งนี้ฉันต้องการดูผลกระทบทั้งหมดที่กําลังจะเกิดขึ้น”โทนี่กล่าวสั่ง J.A.R.V.S

“ครับเจ้านาย!”J.A.R.V.I.S ตอบกลับ

จากนั้น J.A.R.V.S ก็บังคับชุดเกราะไอรอนแมนที่เหลือไปยังทิศทางสถานที่ห่างไกลจาก ตําแหน่งศูนย์กลางของที่นี่

พวกเขาสามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างฉลาดเพราะถึงจะอยู่ไปก็ไม่สามารถทําอะไรได้

คลื่น!

“เจ้านายครับตรวจพบคลื่นพลังงานพื้นที่ความผันผวน” ขณะที่โทนี่กําลังถอยหลังเพื่อหนี J.A.R.V.I.S ก็กล่าวเตือน

“หมอพื้นที่ความผันผวน?ที่ไหน?”ได้ยินคําตอบของ J.A.R.V.S โทนี่หยุดลงเล็กน้อยและกล่าวถาม

โทนี่มีประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับคลื่นความผันผวนของพื้นที่เขารู้จักรูปแบบพลังงานที่สา มารถทําให้เกิดคลื่นความผันผวนพื้นที่นี้ 3 ทางหนึ่งคือวัตถุลึกลับลูกบาศก์เวทย์มนตร์ สองคือ ทีม X-MEN หญิงสาวที่ชื่อบลิงก์และ 3 สายเลือดของเหล่าพ่อมดประตูมิติอวกาศเวทมนตร์

“ตรวจพบคลื่นพลังงานความผันผวนทางพื้นที่แตกต่างกัน2อย่าง” J.A.R.V.I.S กล่าวรายงานอีกรอบ

” คงจะเป็น ทีมX-MEN กับ พวกพ่อมดสิ้นะ!”

ตอนที่ 611 สงครามมิวแทนท์ 1

ปั้ง

ขณะที่โทนี่กําลังเฝ้ามองสถานการณ์ดูเหมือนข้างล่างจะเกิดการต่ออสู้กันแล้วแม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะค้นพบกองทัพไอรอนแมนบนอากาศแต่พวกเขาก็ไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด ภายใต้พลังทําลายล้างที่แข็งแกร่งของมิวแทนท์ระดับ 4 พื้นที่ทิ้งร้างได้ล่างได้เปิดเผยใต้ลับใต้ดินที่สไตรเกอร์ซ่อนตัวอยู่

ทันทีที่ค้นพบฐานลับใต้ดินของสไตรเกอร์ พรรคพวกของแมกนีโต ก็เตรียมพร้ออมบุกเข้าไปในทันที

แต่แน่นอนว่าหากพวกเขาคิดจะจัดการสไตร์เกอร์ไม่ใช่เรื่องง่าย ในฐานะผู้นําองค์กรมิวแทนท์ที่อยู่มาอย่างยาวนานหลายปี การที่เขาสามารถอยู่รอดมาได้จนถึงทุกําวันนี้ก็เพราะความสามารถของเขาดังนั้นแม้พรรคพวกของแมกนีโตจะแข็งแกร่ง แต่ทางด้านสไตรเกอร์เองก็ย่อมมีวิธีการรับมืออยู่

เหตุผลที่สไตรเกอร์เกลียดชังเหล่ามิวแทนท์พวกนี้เป็นเพราะเขาได้เผชิญหน้ากับประสบการณ์อันเจ็บปวด ภรรยาของเขาได้ตายไปในเงื้อมมือของมิวแทนท์ โชคดีที่เขายังรักษาลูกชายไว้ได้ แต่ลูกชายของเขาพออายุ 10 ปี สไตรเกอร์ก็พบว่าลูกของตนเองได้รู้ตื่นและเบิกความสามารถพลังของมิวแทนท์ขึ้น ดังนั้นเขาจึงส่งลูกชายของตนเองไปเรียนที่โรงเรียนเซเวียร์เพื่อหวังว่าจะให้ลูกของเขากลับมาเป็นปกติ แต่โชคร้ายที่ตัวเขาได้รับรู้ความจริง ทันทีที่คนเหล่านี้ตื่นรู้พวกเขาก็ไม่สามารถกลับมาเป็นคนปกติได้ ดังนั้น สไตรเกอร์จึงออุ้มลูกชายกลับมาและเริ่มการทดลองเกี่ยวกับพวกมิวแทนท์

เนื่อองจากความสามารถในการเข้ากันได้ของพลังของลูกชายของเขาสูงมาก มันสามารถเทียบได้กับมิวแทนท์ระดับ 4ดังนั้น สไตรเกอร์จึงทําการทดลองลับกับลูกชายของตนเอง กล่าวได้ว่าหากเขาไม่มีลูกชาย สไตรเกอร์ก็จะไม่สามารถกลายเป็นอย่างทุกวันนี้ได้

ในการทดลองสไตรเกอร์ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับมิวแทนท์มากขึ้นเรื่อย ๆ เขาได้ถลําลึกเข้าไปจนแทบจะถอนตัวไม่ขึ้น หลายปีก่อน สไตรเกอร์ได้ประสบอุบัติเหตุในการทดลองและปล่อยมิวแทนท์ ที่ชื่อว่า โลแกน หลุดรอดออกไป ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าสไตรเกอร์กําลังทําอะไรอยู่ตอนนี้ บางทีเขาอาจจะกําลังประสบความสําเร็จในการทดลองลับบางอย่างก็เป็นได้

” หึ่ม! แมกนีโต อีริค คิดหรอว่าฉันจะยอมถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว!”ในตําแหน่งฐานลับใต้ดินสไตรเกอร์จ้องมองไปที่ภาพเบื้องหน้าที่กองกําลังของเขากําลังถูกทําลาย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาได้ปะทะกับกองกําลังมิวแทนท์พวกนี้และได้รับชัยชนะและแพ้มาร่วมกันเพียงแต่ว่าตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้สาเหตุที่ แมกนีโต โจมตีตนเอง ตลอดช่วงระยะเวลาหลายปีเลย

“หมายเลข 3!ทางด้านนั้นมีข่าวอะไรคืบหน้างไหม?” สไตรเกอร์กล่าวถามลูกทีมของเขา

“ พลตรี สไตรเกอร์ ข่าวทางด้านนี้ยังไม่ได้รับการตอบกลับครับ” หมายเลข 3 ตอบกลับทันที

“ยังไม่ได้ตอบกลับ?พวกมั่นอยู่นอกเขตพื้นที่อับสัญญาณหรือยังไง!” สไตร์เกอร์บ่นพึมพัมออกมา

สไตรเกอร์ค่อนข้างมีอิทธิพลและอํานาจมากในปัจจุบันเขาได้รับการสนับสนุนจากทางกองทัพ ดังนั้นประเทศสหรัฐอเมริกาในตอนนี้จึงกําลังสนับสนุนเขา แน่นอนว่าการวิจัยของสไตรเกอร์เป็นประโยชน์กับประเทศชาติอย่างมาก แม้ว่าข้อมูลความลับนี้จะเก็บเป็นข้อมูลลับสุดยอดก็ตาม

หึ่ม!

ปั้ง!

เห็นคลื่นพลังที่กระทบพุ่งเข้ามายังฐานลับใต้ดินสไตรเกอร์รู้สึกตกใจอย่างมาก

“ หมายเลข 5!”สไตรเกอร์ตะโกนออกมา

หลังจากสไตรเกอร์ตะโกนออกมาายหัวล้านคนนึงก็กระโดดออกมาจากมุมนึงและบล็อคลื่นพลังที่โจมตีเข้ามาที่ฐานลับแห่งนี้

หึ่ม!

บาเรียโปร่งแสงได้ต้านทานคลื่นพลังที่พุ่งเข้ามาจนสลายหายไปทั้งหมด

สไตรเกอร์รู้สึกดีใจอย่างมากเขามั่นใจในคนของตนเองว่าจะสามารถช่วยเหลือและต้านรับคลื่นกระแทกเหล่านั้นได้

“หม ฉันจะไม่ยอมให้พวกมันเหิมเกริมแบบนี้ต่อไปแน่ ฉัน สไตรเกอร์ ไม่ใช่คนที่จะยอมถูกรังแกอยู่ฝ่ายเดียว!” สไตรเกอร์พึมพัมออกมา

” หมายเลข 1! เชื่อมต่อทุกคน รับคําสั่งของฉันและตอบโต้จัดการพวกมันซะ!” สไตรเกอร์กล่าวออกมา

ฟุบ!

จากนั้นหญิงสาวคนนึงที่สวมผ้าปิดตาอยู่ คลื่นความผันผวนทางจิตวิญญาณของเธอได้ปลดปล่อยออกมาจากร่างกายจากนั้นก็เชื่อมต่อสมาชิกทุกคน

หึ่ม!

ตอนที่ 610 ลางสังหรณ์ของ กัปตันโรเจอร์ส

ฟุบ!

หลังจากเจ้าหน้าที่สื่อสารคนนั้นผลักประตูเข้ามาเขาก็ตรงดิ่งเข้าไปหากัปตันโรเจอร์สโดยตรง

“เจ้าหน้าที่ ไคล์ มีเรื่องอะไรงั้นหรอ?” เห็นเจ้าหน้าที่สื่อสารของตนเองผลักประตูเข้ามาอย่างเร่งรีบ กัปตันโรเจอร์ส เข้าใจในทันทีว่าจะต้องเป็นเรื่องสําคัญ

“กัปตัน! มีข้อความส่วนมาจาก โทนี่ สตาร์ค!”เจ้าหน้าที่ ไคล์ ดกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ยื่นส่งบันทึกข้อความให้

ได้ยินคําพูดของ ไคล์ กัปตันโรเจอร์ส มีสีหน้าจริงจังมากขึ้น เขารับสิ่งของที่ไคล์ให้มา จากนั้นก็เปิดอ่านดู แม้การแก้ปัญหาเรื่องที่สภานี้จะจบลงและทําให้เขารู้สึกมีความสุข แต่ข่าวเรื่อง มิวแทนท์ และ สไตร์เกอร์ นั้นสําคัญมากจริงๆ เพราะเรื่องนี้อาจเกิดสงครามระหว่างพวกมิวแทนที่ขึ้น

“กัปตันโรเจอร์ส เรื่องจัดการทหารเอ็กซ์ทรีมิสที่เหลือ ค่อยว่ากัน ตอนนี้ ฉันคิดว่า ปัญหาเรื่อง มิวแทนท์ พวกนี้สําคัญกว่ามาก”นอกอจากนี้ยังมีเสียงข้อความของโทนี่ด้วย

“แม้แต่ โทนี่ ยังรู้สึกได้ถึงความอันตราย ดูเหมือนศึกครั้งนี้จะหนักหนาจริง ๆ !”ได้ยินเสียงของโทนี่ กัปตันโรเจอร์สพอจะสามารถคาดเดาได้

“เจ้าหน้าที่โคลสัน ทั้งสามคนนี้ ฉันปล่อยให้คุณจัดการต่อแล้วกัน ตอนนี้ฉันมีเรื่องสําคัญที่จะต้องรีบไปจัดการ” กัปตันโรเจอร์สเดินไปที่หน้าประตูและกล่าวกับ โคลสัน

” เข้าใจแล้ว กัปตัน!” ภายใต้คําสั่งของกัปตันโรเจอร์ส เจ้าหน้าที่โคลสันตอบรับอย่างรวดเร็ว

เห็นกัปตันโรเจอร์สจากไป วุฒิสมาชิกสภา ทั้งสามคนที่อยู่ในห้องเตรียมที่จะหลบหนีออกจากห้องนี้แต่แล้วพวกเขาก็ถูกบล็อคโดย เจ้าหน้าที่ โคลสัน

” พวกท่านทั้งสามคนยังมีประชุมต่อที่นี่กับผม”เจ้าหน้าที่โคลสันยืนขวางทางวุฒิสมาชิกสภาทั้งสามคนและกล่าวอย่างไม่เกรงกลัว

“แก!” เห็นเจ้าหน้าที่โคลสัน เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยที่กล้าปิดกั้นตนเอง วุฒิสมาชิกสภาเคลย์ชี้นิ้วไปที่หน้าของเขาพร้อมกับเตรียมจะพูดอย่างเดือดดาล แต่เขาก็ต้องกลืนคําพูดนั้นกลับไปเพราะเขารู้ดีว่าตอนนี้เขาจนมุมแล้ว หาก มายา แฮนเซ่น และ แมนดาริน ที่ถูกจับตัวให้การกับคนเหล่านี้ไป เขาก็ถึงคราวจบจริงๆ

“ขอบคุณให้ความร่วมมือ” เห็นวุฒิสมาชิกสภาทั้งสามคนเลิกต่อต้าน เจ้าหน้าที่โคลสันกล่าวยิ้มออกมา

“เจ้าหน้าที่ไคล์ คุณรู้ข้อมูลเกี่ยวกับข่าวที่ได้มามากน้อยแค่ไหน” หลังจากมอบหน้าที่จับวุฒิสมาชิกสภาทั้ง 3 คนให้ เจ้าหน้าที่โคลสันจัดการ กัปตันโรเจอร์ส กล่าวถามกับเจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้

“หลังจาก ที่ โทนี่ สตาร์ค ส่งข้อความมา ผมก็ได้ลองตรวจสอบคร่าว ๆดูแล้ว ศัตรู ก็คือ พวกสมาคมมิวแทนท์ แต่ว่า…”ได้ยินคําถามของกัปตันโรเจอร์ส เจ้าหน้าที่ สื่อสารตอบกลับอย่างรวดเร็ว

“อะไร?ไม่จําเป็นต้องกังวล พูดออกมาเลย” เห็นว่าเจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้ชะงักไป กัปตันโรเจอร์สรีบเร่งทันที

“เรื่องนี้มีพวกหน่วยงานลับของทางกองทัพเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแผนกนี้ก่อตั้งมามากกว่า 40 ปี ทั้งยังมีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับพลังของพวก มิวแทนท์ พวกเขาคือแผนกที่ก่อตั้งเพื่อกําจัดผู้มีพลังพิเศษอย่างพวกมิวแทนท์ ดังนั้นเรื่องนี้จึงค่อนข้างน่ากังวล” ภายใต้การเร่งเร้าของกัปตันโรเจอร์ส เจ้าหน้าที่สื่อสารกล่าวตอบตามจริง

แม้แต่อํานาจของ S.H.I.E.L.D. ยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนลับของหน่วยงานลับนี้ได้ พวกเขาคือแผนกลับที่ศึกษาเรื่องของมิวแทนท์ ดังนั้น พวกเขาจึงจัดอยู่ในส่วนของข้อมูลลับสุดยอด

“เจ้าหน้าที่ไคล์ หน่วยงานลับของทางกองทัพนี้มีหัวหน้าคือ สไตร์เกอร์ใช่มั้ย?” กัปตันโรเจอร์สกล่าวถาม

กัปตันโรเจอร์สพอจะรู้ข้อมูลเล็กน้อยเกี่ยวกับ องค์กร มิวแทนท์ ที่ถูกก่อตั้งโดยทางกองทัพพวกเขาถือเป็นปรปักษ์ต่อพวกมิวแทนท์จํานวนมาก

“ใช่ครับ,ดูเหมือนพวกเขาเตรียมจะปะทะกันในอีกไม่ช้า หากเรื่องนี้เกิดขึ้นทั่วทั้งวอชิงตันไม่สิโลก จะต้องตกสู่ความโกลาหลแน่นอน” เจ้าหน้าที่ไคล์กล่าวตอบ

“พวกเขาช่างมองหางานเพิ่มให้ฉันเสียจริง! “กัปตันโรเจอร์สพิ่มพมออกมา

พวกเขาจะต้องหยุดสงครามระหว่างมิวแทนท์ให้ได้ไงน กัปตันโรเจอร์ส เองก็รู้สึกได้ถึงประชาชนผู้บริสุทธิ์จํานวนมาก อาจจะต้องรับเคราะห์กรรมจากผลปะทะของพวกเขาไปด้วย

“กัปตัน คุณจะเอายังไงต่อ?”เจ้าหน้าที่ไคล์กล่าวถาม

“เรื่องแผนลับของทางกองทัพนี้คงต้องหาข้อมูลเพิ่มให้มากกว่านี้ คราวนี้ฉันอาจจะไม่สามารถออกนอกหน้าช่วยได้อย่างเต็มที่ แต่จะคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเพื่อหยุดยั้งไม่ให้สงครามเกิดขึ้น” กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

“เจ้าหน้าที่ไคล์ พวกเรามี ทีมกี่คนที่พร้อมทําภารกิจใน องค์กร S.H.I.E.L.D. ตอนนี้?” กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามเจ้าหน้าที่ไคล์

“มี 23 คน ครับกัปตัน พวกเขาเตรียมพร้อมเหลือแค่รอคําสั่ง”เจ้าหน้าที่ไคล์กล่าวตอบ

“แค่ 23 คนใช่มั้ย? ไม่เป็นไร สั่งทีมพวกเขาให้เตรียมพร้อมเอาไว้ ฉันเชื่อว่าเหตุการณ์ที่กําลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้จะไม่ง่ายอย่างที่พวกเราคิดแน่นอน”

“ครับ”

ตอนที่ 609 เปลี่ยนคนคุมเกม

วอชิงตัน สํานักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. ตอนนี้กัปตันโรเจอร์ศกําลังนั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับกําลังโดนใต่สวนโดยสมาภาความมั่นคงของโลก ด้านหน้าของพวกเขา คือสมาชิกวุฒิสภาความมั่นคงของโลกทั้ง 3 คน

“กัปตันโรเจอร์ส เรื่องที่คุณพูดออกมาทั้งหมด ใช่กําลังจะกล่าวหาพวกเรางั้นหรอ?”ในขณะเดียวกัน หนึ่งในวุฒิสมาชิกสภาความมั่นคงของโลก เคลย์ กําลังกล่าวถามเขา

“กล่าวหาพวกคุณ?ไม่เลย นี่เป็นคําฟ้องร้องที่ฉันยื่นให้กับพวกคุณ” เผชิญหน้ากับคําถามของ เคลย์ กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

กัปตันโรเจอร์ส ได้ยื่นคําฟ้องร้องปฏิเสธข้อหาที่สมาชิกสภาพความมั่นคงเหล่านี้กล่าวหาเขาเพราะคนเหล่านี้ กังวลว่าจะไม่สามารถควบคุม องค์กร S.H.I.E.L.D. ได้ จึงกล่าวหาว่ากัปตันโรเจอร์ส ใช้อํานาจขององค์กร S.H.E.L.D. ไปช่วยเหลือเหล่าฮีโร่ที่เป็นศาลเตี้ยเหล่านั้น เพราะสภาความมั่นคงของโลกไม่สามารถควบคุมองค์กร S.H.I.E.L.D. ได้ และยิ่งกัปตันโรเจอร์ส ยังมีการติดต่อกับ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ พวกนี้ด้วยแล้ว ทําให้ฐานอํานาจของพวกเขาเริ่มสั่นคลอน

“คุณจะปฏิเสธว่าคุณไม่ได้ใช้ประโยชน์จากองค์กร S.H.E.L.D. ในการช่วยเหลือ ศาลเตี้ยเหล่านั่งนหรอ? คุณรู้ตัวหรือไม่ว่าทําอะไรลงไป คนเหล่านี้เป็นพวกปิดบังซ่อนเร้นตัว หากพวกเขามีความคิดแอบแฝงคุณจะรับผิดชอบเรื่องที่จะเกิดขึ้นได้งนหรอ?”ได้ยินคําตอบของกัปตันโรเจอร์ส เคลย์ ยกระดับเสียงของตนเองและกล่าวถามอย่างดุดัน

ตั้งแต่จบศึกกับ ไฮดร้า องค์กร S.H.I.E.L.D. ถูกยกระดับชื่อเสียงจนมีอิทธิพลต่อสาธารณชนจํานวนมาก ดังนั้นเขาจึงใช้ประโยชน์จากจุดนี้ในการโจมตี กัปตันโรเจอร์ส

” ท่าน วุฒิสมาชิกสภา เคลย์ ท่านกังวลมากเกินไปแล้วละมั้ง” กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

“กังวลมากไป? ที่ผมพูดหมายถึงตอนนี้คุณกําลังทําผิกฏ คุณคิดว่า กฏมีไว้ทําอะไร ล่ะกัปตัน?” เคลย์กล่าวถามอย่างดุเดือด

“แล้วพวกท่านทั้งสองมีความเห็นอื่น ๆนอกเหนือจากท่านวุฒิสมาชิกสภา เคลย์ อีกหรือไม่?” กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามทั้งสองคนที่เหลือ

“พวกเราเห็นด้วยกับคําพูดของท่านวุฒิสมาชิกสภาพเคลย์ ดังนั้น กัปตันโรเจอร์ส คุณควรรู้ว่าตอนนี้คุณกําลังทําผิดกฏร้ายแรงอยู่”ได้ยินคําถามของกัปตันโรเจอร์ส ทั้งสองคนตอบอย่างมั่นใจ

“ผิดกฏเก็นั่นสินะอาจจะจริงอย่างที่พวกคุณว่าก็ได้” กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

“โรเจอร์ส คุณหมายถึงอะไร? “ได้ยินคําพูดไร้สาระที่ไม่น่าออกมาจากปากของกัปตันโรเจอร์ส วุฒิสมาชิกสภาพเคลย์เตือนด้วยเสียงดัง

ฟุบ!

ตึก ๆ

ขณะที่ เคลย์ เตรียมจะกดดันโรเจอร์สภายในห้องประชุมนี้ จู่ ด้านนอก เจ้าหน้าที่ โคลสันก็เปิดประตูเดินเข้ามา เจ้าหน้าที่โคลสัน คือเจ้าหน้าที่อาวุธโสของ S.H.I.E.L.D. เขาเข้ามาพร้อมกับเอกสารหลายฉบับ ที่ดูแล้วน่าจะเป็นเอกสารสําคัญอย่างมาก

“เจ้าหน้าที่โคลสัน นายกําลังทําอะไร?” เห็นเจ้าหน้าที่โคลสันเปิดประตูเข้ามา ใบหน้าของเคลย์รู้สึกตึงเครียดอย่างมาก

” ท่านวุฒิสมาชิกสภา เคลย์ ผมมีเรื่องที่จะต้องรายงานโดยด่วน แน่นอนว่าไม่ใช่คุณ แต่เป็นกัปตันโรเจอร์ส”เจ้าหน้าที่โคลสันตอบกลับอย่างไม่สั่นกลัว

“นาย…” เห็นท่าทางของเจ้าหน้าที่โคลสัน วุฒิสมาชิกสภา เคลย์ รู้สึกโกรธอย่างมาก เห็นเอกสารที่เจ้าหน้าที่โคลสันพกมาด้วยทําให้เขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี

” กัปตัน นี่คือเอกสารสําคัญและข้อมูลอื่น ๆ ที่คุณต้องการเจ้าหน้าที่โคลสันหลังจากตอบกลับวุฒิสมาชิกสภา เคลย์ไปแล้ว เขาก็เดินปรี่เข้าหากัปตันโรเจอร์สและยื่นเอกสารโดยตรง

“อืม” กัปตันโรเจอร์สรับเอกสารมา

จากนั้นเขาก็ได้เปิดอ่านเอกสารภายในนั้นอย่างรวดเร็ว จนเห็นข่าวทั้ง สาม ที่ น่าดีใจ ดูเหมือนเขาจะคิดถูกพันธมิตรและทีมของเขาสามารถเชื่อถือได้ทุกคน

” ท่านวุฒิสมาชิกสภา เคลย์ ดูเหมือนคุณจะต้องอธิบายเรื่องพวกนี้ให้กระจ่างหน่อยแล้วละ?”กัปตันโรเจอร์สโยนเอกสารในมือไปที่เบื้องหน้าของ เคลย์

ฟุบ!

ได้รับเอกสารจากกัปตันโรเจอร์ส เคลย์ ที่เห็นภาพบนเอกสารเหล่านี้ ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาวอย่างรวดเร็ว เพราะรูปเหล่านี้คือแมนดาริน และ มายา แฮนเซ่น ที่ถูกควบคุมตัวเอาไว้อยู่

“มายา แฮนเซ่น และ แมนดาริน ตอนนี้กําลังถูกคุมตัวโดยคนของเราอยู่” เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของ เคลย์ กัปตันโรเจอร์สกล่าวพูดขึ้น

เคลย์ ”…”

“โชคไม่ดี คิลเลี่ยน ได้เสียชีวิตภายใต้เงื้อมมือของ โทนี่ สตาร์ค คุณอย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้จัก คิลเลี่ยน ในมือของเรามีหลักฐานมากพอที่จะพิสูจน์ความสัมพันธ์ของคุณกับเขา ดังนั้น ท่านวุฒิสมาชิกสภาพ เคลย์ คุณมีอะไรจะสารภาพหรือไม่?หรือต้องการให้ฉันไปกล่าวถามหาความจริงจากแมนดาริน พวกเรามีวิธีการมากมายที่จะทําให้เขาพูดความจริง” กัปตันโรเจอร์สยังคงกล่าวต่อไป

“แก…” เผชิญหน้ากับการกดดันจากกัปตันโรเจอร์ส วุฒิสมาชิกสภาพเคลย์แทบจะเก็บอาการไม่อยู่

เขารู้ตัวดีว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับ แมนดาคริน และ มายา แฮนเช่น เหตุผล ก็เพราะไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านั้นจะบอกว่าเขามีส่วนร่วมและเป็นหนึ่งในตัวการสําคัญก็ไม่ผิดแม้แต่น้อย

“วันนี้พวกเรามาเปลี่ยนหัวข้อประเด็นในการประชุมจากการฟ้องร้องฉัน เป็นการสอบสวนท่านวุฒิสมาชิกสภา เคลย์ กันดีหรือไม่? ในฐานะหัวหน้าขององค์กร S.H.I.E.L.D. ฉันขอใช้อํานาจในการสอบสวนและตรวจสอบสถานะของคุณ หวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือ” กัปตันโรเจอร์สพูดออกมาก่อนที่จะลุกเดินไปด้านหน้าของเคลย์

“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้! พวกมันทําล้มเหลวได้ยังไงกัน?แกกําลังหลอกฉัน ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน!” เห็นกัปตันโรเจอร์สเดินมาที่ตนเองอย่างช้า ๆ เคลย์ ลุกขึ้นยืนและเดินถอยหลังไปทีละก้าวด้วยความหวาดกลัว

ใบหน้าของเคลย์ในตอนนี้ซีดขาวอย่างมาก ตอนนี้เขาไม่มีวิธีที่จะดิ้นหลุดรอดไปจากสถานการณ์ในตอนนี้ได้

ปั้ง!

เพียงแต่ว่าขณะที่กัปตันโรเจอร์สกําลังจะจัดการสอบสวนเคลย์จู่ ๆ ประตูห้องประชุมก็ถูกเปิดออกจากด้านนอกอีกครั้ง เจ้าหน้าที่สื่อสารส่วนตัวของกัปตันโรเจอร์สได้รีบวิ่งเข้ามาอย่างแตกตื่น

ตอนที่ 608 ที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ เคลื่อนไหว

“ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาอื่นมาเพิ่มอีกแล้วสินะ!” หลังจากได้รับข่าวแจ็คสันก็บ่นพึมพัมออกมา

จากนั้นเขาก็ก้มมองลงไปที่ข้างใต้เท้าของตนเองที่มีร่างของแมนดารินโดนเท้าของเขากดทับเอาไว้อยู่ แจ็คสันได้ยกดาบสปิริตซอร์ดในมือของเขาขึ้นและเตรียมจะแทงลงไปที่ร่างของแมนดาริน

“!”แมนดารินที่เห็นดาบที่กําลังจะพุ่งลงมาปักตนเองได้ตะโกนร้องออกมาก่อนที่จะหมดสติ ไปในที่สุด

“ฮอว์กอาย ฉันมีเรื่องที่จะต้องรีบไปจัดการ ฝากเคลียที่เหลือพร้อมกับเจ้าแมนดารินที่ถูกฉันจับตัวไว้ด้วย ชีวิตของเขาอยู่ในมือของคุณแล้ว” หลังจากทําให้แมนดารินหมดสติไป แจ็คสัน ก็กล่าวพูดกับฮอว์กอาย

“งั้นหรอ? เข้าใจแล้ว ฉันจะให้คนของฉันขับยานควินเจ็ทไปส่งคุณกลับวอชิงตัน” ฮอว์กอายกกล่าวตอบ

ฟุ่บ!

จากนั้นแจ็คสันก็กระโดดขึ้นไปด้านบนพร้อมกับหยิบเครื่องร่อนของตนเองออกมาเมื่อครู่เขา ได้รับข่าวปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นที่วอชิงตัน ดังนั้น เขาจึงอยากที่จะรีบกลับไปให้เร็วที่สุด ไม่นานร่างของเขาก็ถึงบนยานควินเจ็ทเป็นที่เรียบร้อย

จากนั้นยานควินเจ็ทก็ออกตัวและมุ่งหน้าไปยังทิศทางวอชิงตันในทันที

“อืม,ไม่รู้ว่าทางด้านวอชิงตันกําลังมีปัญหาอะไร ดูเหมือนฉันจะต้องรีบจัดการเรื่องที่นี่ให้เร็วที่สุด จับตัว แมนดารินกลับไปและช่วยเหลือกัปตันโรเจอร์ส” หลังจากมิราจในท์จากไป ฮอว์กอายก็ จ้องมองไปที่ แมนดารินและบ่น ด้วยเสียงเบา ๆ

ขณะที่แจ็คสันกําลังมุ่งหน้าจากเม็กซิโกไปยังวอชิงตัน สมาชิกคนอื่น ๆ ของทีม พันธมิตรผู้พิทักษ์ก็ได้รับข่าวเช่นเดียวกัน ก็คือ สมาคมมิวแทนท์ ดูเหมือนพวกเขาจะเริ่มเคลื่อนไหวกันแล้ว การเคลื่อนไหวของพวกเขาสามารถทําให้โลกเกิดความปั่นป่วนได้ ดังนั้น แจ็คสัน จึงได้ติดต่อลูกทีมของเขาในทันที

ทางด้านที่มพันธมิตรผู้พิทักษ์ ก็ยังมีคนคนนึงที่หายตัวไปเป็นระยะเวลานานอย่าง แจ็ค ตอนนี้ เขาที่กําลังนั่งไขว่ห้างอยู่ พอได้รับข่าวก็มีอาการตื่นตัวทันที

“แจ็ค เนื่องจาก นายตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกับพวกเราแล้ว เรื่องบางเรื่องนายเองก็จําเป็นจะ ต้องยอมแพ้” เห็นว่าแจ็คต้องการจะทําอะไร พ่อมด รุ่ยเคอ กล่าวเตือน

หากแจ็คสันอยู่ที่นี่เขาจะต้องประหลาดใจมากอย่างแน่นอน ที่รู้ว่า แจ็ค ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของพวกพ่อมดไปแล้ว ก่อนหน้าที่แจ็คจะตัดสินใจร่วมกับพวกพ่อมด เขาได้ ไตร่ตรองตนเองเป็นอย่างดีถึงความแข็งแกร่งของเขาที่แสนอ่อนแอเมื่อเทียบกับสมาชิกของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ ดังนั้นเขาจึงตั้งใจมาศึกษาเวทย์มนตร์จากเหล่าพ่อมด

แจ็คมีพรสวรรค์ในการเรียนเวทย์มนตร์อย่างมาก แค่ระยะเวลาสั้น ๆ เพียงหนึ่งเดือน แจ็ค ก็สามารถกลายเป็นจอมเวทย์ขั้นพื้นฐานได้แล้ว ตั้งแต่เขาตัดสินใจเข้าร่วมกับเหล่าพ่อมด เขาก็รู้ตัวดีว่าเรื่องเหตุการณ์ที่ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ต้องเผชิญเขาอาจจะไม่มีส่วนร่วมมากเหมือนในอดีต ดังนั้นก่อนหน้านี้เขาจึงได้ปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารไป แต่ดูเหมือนวันนี้เขาได้ลืมปิดมันทําให้ได้ รับรู้ข้อมูลสถานการณ์ที่พรรคพวกของเขากําลังเผชิญ

พ่อมดรุ่ยเคอ ที่เห็น แจ็ค กําลังลังเล ที่จะใช้อุปกรณ์สื่อสารอยู่ เขาได้จ้องมองไปที่แจ็คอย่างคาดหวังกฎของพวกเขาเหล่าพ่อมดก็คือการไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก ดังนั้นเขาจึงรู้สึกคาดหวังอย่างมาก แน่นอนว่าข่าวเรื่องที่กําลังจะเกิดขึ้นเขาเองก็ได้รับมาเช่นเดียวกันดูเหมือนศึกที่กําลัง จะเกิดขึ้นนั้นคือศึกของเหล่ามิวแทนท์

แจ็คเองก็เป็นหนึ่งในมิวแทนท์ คือ มนุษย์กลายพันธุ์ สงครามระหว่างมิวแทนท์นั้นอาจมีผลกระทบส่งต่อถึงโลก มิวแทนท์เหล่านี้มีพลังที่คนธรรมดายากที่จะจินตนาการหากพวกเขาเกิดการ ปะทะกันอย่างรุนแรงขึ้นมาจริง ๆ โลกจะต้องตกอยู่ในความโกลาหลอย่างแน่นอน

” พ่อมด รุ่ยเคอ ฉันต้องขอโทษคุณด้วย แต่ครั้งนี้ ฉันจําเป็นจะต้องไปจริง ๆ แม้ว่ากฏของเรา จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก แต่เรื่องที่กําลังจะเกิดขึ้นนี้ ฉันเองที่เป็นมิวแทนท์ ก็มีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนั้นได้โปรดละเว้นด้วย หลังจากเรื่องเหตุการณ์ครั้งนี้จบลง ฉันจะกลับมาในทันที”แจ็คได้เงยหน้าขึ้นและกล่าวพูดกับ พ่อมด รุ่ยเคอ อย่างจริงจัง

“แจ็คเก็ได้นายไปได้” พ่อมดรุ่ยเคอ รู้ดีว่าถึงจะห้ามไปก็ไม่มีประโยชน์ดังนั้นเขาจึงปล่อยไปในครั้งนี้

ที่จริงแล้วเขาเองก็ไม่รู้ว่า แจ็ค ต้องการเรียนเวทย์มนตร์เพราะอะไร แต่เพราะเขาเห็นความตั้งใจของแจ็ค ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสนใจและยอมสอนเวทย์มนตร์ให้

หากเป็นพ่อมดคนอื่น ๆ อาจจะไม่คิดแบบเดียวกันกับเขา ตั้งแต่เขารู้จักกับมิราจไนท์มามันทําให้ทุกสิ่งรอบตัวของเขาต้องมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นเสมอ เรื่องครั้งนี้ก็คงมีมิราจในท์ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน

” ขอบคุณ พ่อมดรุ่ยเคอ”แจ็คกล่าวขอบคุณพ่อมดรุ่ยเคอ และ เดินออกจากที่นในทันที

หลังจากออกมาแจ็คได้ยกมือซ้ายขึ้นมาและวาดสัญลักษณ์บางอย่างเป็นวงกลมจากนั้นรัศมีแสงสีทองก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของเขา ดูเหมือน แจ็คจะสําเร็จวิชาประตูมิติเวทย์มนตร์แล้ว

ทันทีที่ประตูมิติเวทย์มนตร์นี้ปรากฏขึ้น แจ็ค ก็หันกลับไปมอง พ่อมดรุ่ยเคอ ที่ยืนรออยู่ที่ข้างหลังของเขา จากนั้นแจ็คก็เดินเข้าไปในประตูมิติเวทย์มนตร์ในที่สุด

“แจ็ค หวังว่านายจะรอดปลอดภัยกลับมา”เห็นแจ็คเดินเข้าไปในประตูมิติเวทย์มนตร์และ หายไป พ่อมด รุ่ยเคอ กล่าวพูดด้วยเสียงเบา ๆ

ตอนที่ 607 ทีม X-MEN เคลื่อนไหว

ฟ้าว!

ปั้ง ปั้ง ปั้ง

ลําแสงสีแดงนั้นพุ่งเข้ามาทางพวกเขาเร็วเกินไป โชคดีที่ J.A.R.V.I.S สามารถตอบสนองได้ทัน บังคับชุดเกราะไอรอนแมน 3 ตัว ไปข้างหน้าและรับการโจมตีแทน

ฟุ่ม!

ชุดเกราะไอรอนแมนที่ถูกทําลายได้ร่วงหล่นลงไปข้างร่างอย่างรวดเร็ว J.A.R.V.I.S ได้เร่งประสิทธิภาพของชุดเกราะโทนี่เพื่อถอยห่างจากสถานที่ตรงนั้น

“การโจมตีเมื่อครู่มีความรุนแรงของพลังงานมากกว่าระดับ 4 !”เห็นลําแสงสีแดงที่ทําลายชุดเกราะไอรอนแมนของตนเองไป โทนี่ รู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก

โทนี่มองไปที่กองทัพไอรอนแมนของเขาที่อยู่รอบด้านคลื่นพลังจากแรงทําลายนั้นส่งผลเสียหายให้กับกองทัพไอรอนแมนบางส่วนของเขา โชคดีที่ชุดเกราะไอรอนแมนที่ตนเองสวมอยู่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษไม่งั้นคงได้รับผลกระทบไปด้วย

“หึ่ม! ฉันไม่ได้เป็นคนหาเรื่องพวกมันก่อนแต่พวกมันกลับคิดจะจัดการฉันทันทีที่เห็น! ฉัน โทนี่ สตาร์ค ไม่ยอมอยู่นิ่งเฉยแบบนี้แน่ ๆ J.A.R.V.I.S เตรียมคําสั่งนาทัพ ฉันจะจัดการ สมาคมมิวแทนท์พวกนี้ ในฐานะพันธมิตรของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ถือซะว่าฉันจะช่วยพวกเขาในการจัดการปัญหาไปด้วยซะเลย”เห็นการโจมตีที่เพ่งเล็งมาที่ตนเอง โทนี่ รู้สึกโกรธมาก

“เจ้านายครับ ผมคิดว่านี้ไม่ใช่ความคิดที่ดี ผมไม่แนะนําให้คุณรู่วาม”ได้ยินคําพูดของโทนี่ J.A.R.V.I.S ไม่ได้ปฏิบัติตามคําสั่งแต่กล่าวเตือน

จากผลการวิเคราะห์ของ J.A.R.V.I.S พลังงานของ มิวแทนท์พวกนั้นแข็งแกร่งมาก และ ข้อมูลของศัตรูที่เขามีนั้นน้อยเกินไป หากโทนี้ ดื้อดึงเข้าปะทะกับศัตรูอาจนํามาซึ่งความเสียหายของ กองทัพไอรอนแมนจํานวนมาก นอกจากนี้อีกฝ่ายยังมี แมกนีโต ที่มีความสามารถในการควบคุม โลหะทุกชนิด ดังนั้น ชุดเกราะไอรอนแมนที่มีส่วนสร้างมาจากโลหะผสม ย่อมถูกจัดการและไม่สามารถดึงความแข็งแกร่งออกมาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

“ไม่ใช่ความคิดที่ดี?ทําไม ฉัน โทนี่ สตาร์ค จะต้องกลัวเพียงเพราะเรื่องแค่นี้? “ได้ยินคําพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่ รู้สึกไม่พอใจ

“แน่นอนว่าย่อมไม่เป็นเช่นนั้น แต่พวกเราควรแจ้งศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก่อนเพื่อได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขา” ภายใต้การซักถามของ โทนี่ J.A.R.V.I.S แนะนําอีกครั้ง

“นายต้องการให้ ฉัน ไอรอนแมน คอยหลบหลังคนอื่นเวลาต่อสู้หรือยังไง J.A.R.V.I.S นายเริ่ม มีความรู้สึกเหมือนมนุษย์ขึ้นทุกที ก็ได้ ฉันจะแจ้งข่าวให้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้และรอคําตอบ จากพวกเขา ตอนนี้พวกเราคงเป็นได้แค่ของเล่นของพวกมันเท่านั้นละมั้ง?”โทนี่ รู้สึกสนใจในคําพูดของ J.A.R.V.I.S

ปั้ง

ปั้ง

จากนั้นการโจมตีประหลาดก็พุ่งมาอีกครั้ง โทนี่ ได้บังคับชุดเกราะไอรอนแมนบินขึ้นไปข้างบน จากนั้น ก็แจ้งศาสตราจารย์ชาร์ลส์และรอคําตอบจากฝั่งนั้น โทนี่ ได้คอยสังเกตุเฝ้าระวังอยู่ห่าง ๆ ภายใต้การตรวจสอบของ J.A.R.V.I.S พวกเขาตรวจพบคลื่นพลังจากมิวแทนท์ที่แข็งแกร่งเหล่านั้น

ขณะที่โทนี่กําลังลอยบนอากาศและคอยสังเกตุการณ์ตอนนี้ ไอซ์แมน และ บลิงก์ กําลังดื่มกาแฟและสนทนากันที่คาเฟ่ ในวอชิงตัน ก่อนหน้านี้ พวกเขาเป็นกังวลเรื่องมิราจในท์ที่หายตัวไป แต่ตอนนี้มิราจในท์ได้กลับมาแล้วไม่มีอะไรต้องกังวล มิราจไนท์ขณะนี้ได้ ถูกส่งออกไปจัดการแมนดาริน ดังนั้น ตอนนี้พวกเขาจึงไม่มีอะไรให้ทําเลยนั่งพักผ่อนในวอชิงตันเล่นสักพัก

“มิราจไนท์ ออกไปจัดการปัญหาแล้ว คงไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องกังวล นอกจากนี้ฉันชักอยากจะรู้จักใบหน้าที่แท้จริงภายใต้หน้ากากของเขาซะแล้วสิ”ไอซ์แมนยกแก้วกาแฟและกล่าวออกมา

เมื่อครู่ ไอซ์แมนได้ดูการถ่ายทอดสดของ โทนี่ สตาร์ค และ รู้ว่า โทนี่ ได้จัดการผู้ก่อการร้ายที่บุกทําเนียบขาวสําเร็จแล้ว ดังนั้นตอนนี้ ในวอชิงตัน จึงค่อนข้างกลับมาสงบสุขอีกครั้ง

“อืม.เขาแข็งแกร่งมาก และฉันก็เชื่อว่าเขาเป็นคนที่น่าควรคบหาเอาไว้”ได้ยินคําพูดของ ไอซ์แมน บลิงก์กล่าวเห็นด้วย

“ใช่,ฉันเองก็คิดแบบนั้น ฉันว่า…”ไอซ์แทนที่กําลังจะพูดอะไรต่อ เขาได้ยินเสียงแจ้งเตือนบนกําลังไลข้อมือ

ได้ยินเสียงแจ้งเตือนที่กําไลข้อมือ ไอซ์แมน และ บลิงก์ ก็มีสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที จากนั้น บนข้อมือของเขาก็ปรากฏหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ขึ้น

“โทนี่ สตาร์ค ตรวจพบ สมาคมมิวแทนท์ที่กําลังเคลื่อนไหว ตอนนี้เขากําลังปะทะกับพวกสไตรเกอร์อยู่ รีบส่งพวกเราไปสมทบทันที และ จัดการควบคุมสถานการณ์ให้ได้”ใบหน้าของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้โผล่ออกมาแจ้งเตือนข่าวสารกับไอซ์แมน

” พวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว? บลิงก์พวกเรารีบไปกันเถอะ”ไอซ์แมนตอบรับคําสั่งในทันทีและกล่าวกับบลิงก์

“อืม”

ฟุบ!

ไอซ์แมน และ บลิงก์ ได้เดินออกจากคาเฟ่ ไปบนพื้นถนน จากนั้นก็เดินไปยังตรอกซอยที่ไร้ผู้คน ไม่นาน บลิงก์ ได้ใช้ความสามารถของเธอออกมาทันที

ปลายทางของพวกเขาก็คือฐานใหญ่ของทีม X-MEN พวกเขาจะต้องรวบรวมกําลังคนและเตรียมพร้อมต่อกรกับสมาคมมิวแทนท์เหล่านี้ แมกนีโต ได้ส่งกองกําลัง มิวแทนท์ หัวกระทิของตนเองออกมา ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ให้ความสําคัญกับเรื่องนี้มาก ดังนั้น พวกเขาจะต้องวางแผนและเคลื่อนไหวหยุดคนเหล่านั้นโดยเร็วที่สุด

ทางด้านแจ็คสันในเม็กซิโก แจ็คสัน ที่กําลังเคลื่อนไหวจัดการ แมนดารินอยู่ เขาก็ได้รับข่าวล่าสุดจากพวกโทนี่ ว่าสามารถระงับเหตุทั้งหมดใน วอชิงตันได้แล้ว

ตอนที่ 606 สมาคมมิวแทนท์

จนถึงตอนนี้โทนี่ก็ยังคงถูกคลื่นสัญญาณรบกวนอยู่ทําให้ไม่สามารถระบุสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลที่เขารู้สึกได้ โทนี่ พยายามที่จะสํารวจต่อไป

ขณะที่โทนี่พยายามสํารวจ J.A.R.V.S ก็ตรวจพบคลื่นพลังงานที่แข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง

“เจ้านายครับ,ตรวจพบคลื่นพลังที่มีความรุนแรงมากกว่าระดับ 3 อีกครั้ง!”

หืม!

ทันทีที่ J.A.R.V.I.S กล่าวเตือนเสร็จ อาคารด้านล่างก็ปรากฏแรงสั่นสะเทือนอย่างแปลกประหลาด คลื่นพลังที่มองไม่เห็นได้กระแทกศูนย์กลางย่านตัวเมืองที่ด้านล่าง สิ่งที่เกิดขึ้นนี้แม้จะเป็น โทนี่ ในตอนนี้ก็ไม่อาจประเมินสถานการณ์ได้ ไม่เพียงแค่ตัวอาคารรอบด้านเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แม้แต่ชุดเกราะไอรอนแมน หลายสิบตัวก็ได้รับความเสียหายจากคลื่นแรงกระแทกนี้

คลื่น!

J.A.R.V.I.S เองก็เริ่มวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นแต่เพราะเวลาน้อยเกินไปทําให้ไม่สามารถด่วนสรุปได้ คลื่นความรุนแรงเหล่านี้เริ่มที่จะส่งผลกระทบต่อชุดเกราะไอรอนแมนมากขึ้นเรื่อย ๆ

” J.A.R.V.S นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ถูกคลื่นพลังบางอย่างรบกวนชุดเกราะไอรอนแมน โทนี่ บ่นพึมพัมออกมา

“เจ้านายครับ คลื่นพลังที่ปรากฏขึ้นมีความแข็งแกร่งและแรงสั่นไหวที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม ชุดเกราะไอรอนแมนของเราสร้างจากชิ้นส่วนโลหะผสมที่ดีที่สุด คุณไม่จําเป็นว่าชุดเกราะไอรอน แมนจะได้รับความเสียหาย” J.A.R.V.IS กล่าวเตือน

“ฉันรู้ว่าชุดเกราะของฉันใช้ชิ้นส่วนโลหะผสมสร้างมันขึ้นมา แต่ฉันต้องการรู้สถานการณ์ที่กําลังจะเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? นอกจากนี้ ชุดเกราะไอรอนแมนยังได้รับผลกระทบจากคลื่นพลังที่ว่านี้ โทนี่ กล่าวถามออกมา

เดิมเขาคิดว่าต้นต่อแท้จริงแล้วคือพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสที่หลบซ่อนตัวอยู่ แต่หลังจากลงมาที่ ข้างล่างโทนกลับพบคลื่นพลังงานที่แปลกประหลาดซ้ํายังโจมตีตนเอง

“กําลังสแกนโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง” J.A.R.V.S กล่าวตอบ

ภายใต้การสแกนที่รุนแรงของ J.A.R.V.I.S การวิเคราะห์เสียงของเขารุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ J.A.R.VIS สามารถได้ยินเสียงรอบด้านที่เกิดในภูมิภาคแห่งนี้ได้ชัดเจน

ฟุ่บ!

หลังจาก J.A.R.V.I.S ได้สแกนพื้นที่ภูมิภาคแห่งนี้พวกเขาก็ตรวจพบคลื่นเสียงที่มีด้วยกันหลายคนจากนั้นภาพเงาจํานวนมากก็ปรากฏขึ้นบนหน้ากากหมวกของโทนี่

โทนี่ ได้จ้องมองไปที่ข้อมูลสําคัญที่ J.A.R.V.I.S เพิ่งตรวจค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ เท่าที่ดูจากการพูดคุยของพวกเขา โทนี่ รู้ได้ในทันทีว่าคนเหล่านี้ คือสมาคมมิวแทนท์ ทั้งพวกเขายังดําเนินการเคลื่อนไหวบางอย่าง

“สมาคมมิวแทนท์?นี้ไม่ใช่ว่าพวกเขาคือศัตรูของ ทีมX-MEN ของศาสตราจารย์ชาร์ลส์หรอกหรอ?”โทนี่ บ่นพึมพัมออกมา

“จากการตรวจสอบข้อมูลใบหน้ารูปพรรณจากพวกเขาทั้ง 5 คน ตรงตามข้อมูลที่ศาสตราจารย์ชาร์ลส์แจ้งบอกต่อเรา และ บุคคลสําคัญของ สมาคมมิวแทนท์อย่าง แมกนีโต มิวแทนท์ระดับ 4 ก็อยู่ในกลุ่มตอนนี้ด้วย ส่วนพวกที่เหลือ ก็คือ สมาชิกหลักของสมาคมมิวแทนท์ พวกเขาเป็น มิวแทนท์ระดับ 4เป็นอย่างต่ำ” J.A.R.V.IS ระบุตัวตนของเป้าหมายให้โทนี่รู้

“หืม? แมกนีโต ก็อยู่ที่นี่ด้วย?”ได้ยิน J.A.R.V.1.S บอกว่า แมกนีโต เองก็อยู่ที่นี่ สีหน้าของโทนี่ ไม่ค่อยสู้ดีนัก

เหตุผลที่โทนี้มีสีหน้าไม่สู้ดีก็เพราะ ชุดเกราะไอรอนแมน ,ชุดเกราะไอรอนแมนเป็นผลงานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับสูง ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ประสิทธิ์ ภาพการต่อสู้สามารถเทียบได้กับกองทัพหนึ่งกองทัพ ยิ่งเป็นชุดเกราะไอรอนแมนรุ่นล่าสุดด้วยแล้วประสิทธิภาพย่อมดีขึ้นอย่างมาก หาก เป็นชุดเกราะไอรอนแมนในตอนนี้ เผชิญหน้า กับ ควิกซิลเวอร์อีกครั้ง โทนี่ ยังจะพอจัดการเคลียปัญหาเก่า ๆ ได้

อย่างไรก็ตามชุดเกราะไอรอนแมนถูกสร้างขึ้นจากโลหะผสมนวนมากทั้งยังเป็นวัสดุเทคโนโลยีระดับสูง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นโลหะอยู่ดี และ แมกนีโต มีความสามารถในการควบคุมโลหะทุกชนิด หากต้องเผชิญหน้ากับแมกนีโต ด้วยชุดเกราะไอรอนแมนของเขา โทนี้ เชื่อว่าชุดเกราะไอรอนแมนของตนเองย่อมไม่สามารถแสดงความแข็งแกร่งของตนเองออกมาได้แม้จะเป็น เพียงแค่ 10 % ก็ตาม

“แมกนีโต ได้เคลื่อนขุมพลังสมาชิกหลักของเขาอาจเป็นไปได้ว่าเขามีแผนการบางอย่าง”โทนี่ รู้สึกสงสัยอย่างมาก

“ไม่สามารถระบุสิ่งที่อีกฝ่ายจะทําได้อย่างแน่ชัด จากคําแนะนําของผม ฝ่ายตรงข้าม แข็งแกร่งเกินไป ผมแนะนําให้คุณหลีกเลี่ยงพวกเขาในตอนนี้ J.A.R.V.I.S กล่าวแนะนํา

“ฉันรู้ พวกเราต้องซ่อนตัวกันก่อนไว้ค่อยว่ากันอีกที เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะจัดการเองคน เดียวได้ คงจะต้องแจ้งให้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้” พอเห็นว่าศัตรูคือแมกนีโตทั้งยังพาสมาชิกแต่ละคนที่แข็งแกร่งมาด้วย โทนี่ ไม่ต้องการเข้าไปยุ่ง เขารู้ดีว่าหากตนเองเข้าไปแบบไม่เตรียมแผนการอะไรมาเลยย่อมมีจุดจบไม่ค่อยดีนัก

“เข้าใจแล้วครับ ผมจะแจ้งต่อศาสตราจารย์ชาร์ลส์ตอนนี้พวกเราควรออกจากที่นี่ก่อนโดย เร็ว”ได้ยินคําพูดของโทนี่ J.A.R.V.I.S ควบคุมชุดเกราะไอรอนแมนเตรียมจะบินไปจากที่นี่

ฟุ่บ!

ขณะที่โทนี่ไม่ได้วางแผนเตรียมที่จะเข้าไปยุ่งกับสถานการณ์ที่กําลังจะเกิดขึ้น จู่ ๆ ก็มีแสง สีแดงประหลาดพุ่งทะลุอาคารด้านล่างตรงมายังตําแหน่งพวกเขา

“แย่แล้ว!”เห็นแสงสีแดงพุ่งเข้ามาทางด้านตนเอง โทนี อุทานออกมา

คิลเลี่ยนได้สั่งการทหารเอ็กซ์ทรีมิสของเขาที่วางกำลังไว้ในสาขาเมืองใหญ่ทั้ง 12 เมืองของ สหรัฐให้เคลื่อนไหวตอนนี้เขาต้องการปล่อยให้ทั่วทั้งโลกได้สัมผัสความน่ากลัวที่เเท้จริงของทหารเอ็กซ์ทรีมิส ส่วนตัวคิลเลี่ยน เขายืนอยู่หน้าทำเนียบขาวเพื่อต้องการที่จะดูผลงานชิ้นเองของตัวเอง

คิลเลี่ยนได้เเฝงตัวพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสไปกับฝูงนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมชมทำเนียบขาวหลังจากได้รับคำสั่งจากคิลเลี่ยน พวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสที่ซ่อนตัวใต้เสื้อผ้าของพวกเขาปรากฏคลื่นรังสีพลังสีเเดงอย่างรวดเร็ว จุดที่พวกเขาจะระเบิด คือพื้นที่โดยรอบ หากพวกเขาทำสำเร็จจะสร้างความเเตกตื่นไปทั่วพื้นที่เเห่งนี้

พวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสที่ได้รับคำสั่งต่างต้องการมองหาสถานที่ทิ้งระเบิดชีวภาพสสารในร่างกายของพวกเขาตอนนี้กำลังเดือดพล่านจนถึงขีดสุด คิลเลี่ยนภูมิใจกับทหารเหล่านี้มากเพราะทหารเหล่านี้ได้รับไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสชนิดพิเศษนับว่าเป็นทหารเอ็กซ์ทรีมิสที่สมบูรณ์แบบ เเม้จะเป็นสิ่งก่อสร้างอย่างทำเนียบขาวก็คงไม่สามารถต้านทานได้อย่างเเน่นอน

เพียงเเต่ว่าคิลเลี่ยนหาได้รู้ว่าในทำเนียบขาวนั้นได้ซ่อนกองทัพไอรอนแมนกว่า 100 ตัว หาก คิลเลี่ยนต้องการที่จะระเบิดทำเนียบขาวก็คงไม่อาจหลีกเลี่ยงการต่อสู้ได้อย่างเเน่นอน

“หืม?เเปลก ๆ !”ขณะนั้นเองคิลเลี่ยนราวกับมองเห็นการเคลื่อนไหวที่เเปลก ๆ เเละทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ

“คนพวกนั้น”คิลเลี่ยนได้ใช้เเว่นส่องทางไกลมองไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็วในที่สุดเขาก็พบสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ

ในขั้นต้น คิลเลี่ยน พบ กลุ่มนักท่องเที่ยว ก่อนหน้านี้ที่เดินเข้ามายังทิศทางทำเนียบเขาพร้อมเพรียงกัน มันดูเเปลกมากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นยังทำท่าทีสังเกตุเเละเฝ้ามองสถานการณ์โดยรอบอีกด้วย ดูเเล้วไม่ใช่นักท่องเที่ยวธรรมดา

“ฉันถูกพบตัวเเล้วงั้นหรอ?ไม่…ถึงจะเป็นอย่างนั้นจริง พวกมันก็ไม่มีทางหยุดฉันได้”คิลเลี่ยน พึมพัมออกมา

ขณะเดียวกันสถานที่ที่คิลเลี่ยนอยู่ จู่ ๆ ก็มีชายคนนึงสวมเเว่นตาสีดำเดินเข้ามาหาเขา ท่าทีของคนคนนี้ดูสงบอย่างมากราวกับว่าไม่ได้สะทกสะท้านเเม้เเต่น้อย

“ไม่ว่าเเกจะเป็นคนของกองทัพหรือ S.H.I.E.L.D. ก็ตาม เเกคิดหรอว่าจะสามารถจัดการฉันได้ด้วยตัวคนเดียว?”เห็นคนที่ยืนบล็อคขวางทางตนเองอยู่ด้านหน้าคิลเลี่ยนกล่าวออกมา

ฟุ่บ!

คิลเลี่ยนได้ปล่อยรังสีพลังเอ็กซ์ทรีมิสในร่างกายของตนเองเเละพุ่งเข้าหาชายคนนี้ ด้วยความเเข็งเเกร่งในปัจจุบันของเขา เขาเชื่อว่าตนเองจะสามารถบดขยี้อีกฝ่ายได้ในพริบตาเดียว

เพียงเเต่ว่าเมื่อคิลเลี่ยนเข้ามาอยู่ห่างไม่ไกลจากชายคนนี้ จู่ ๆ ชายคนนี้ก็เริ่มเคลื่อนไหวยกเเท่งเหล็กที่พกมาเเละเข้ารับการโจมตีของคิลเลี่ยน

“!”เห็นเเท่งเหล็กที่ต้านรับการโจมตีของตนเอง คิลเลี่ยน เเสยะยิ้มออกมา

ปั้ง!

ชายคนนั้นที่ยกเเท่งเหล็กขึ้นมาต้านรับการโจมตีจากคิลเลี่ยนได้ถูกส่งลอยกระเด็นไปไกล เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถต้านพละกำลังของคิลเลี่ยนได้ เเต่ อย่างไรก็ตาม คิลเลี่ยน ก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ อีกฝ่ายจงใจถอยร่นเพื่อลดความเสียหายจากเเรงปะทะของเขาเห็นได้ชัดว่าคนคนนี้ที่อยู่เบื้องหน้าของเขาไม่ใช่คนธรรมดา

คิลเลี่ยนได้เฝ้ามองไปที่ชายคนนั้นที่ถูกซัดกระเด็นถอยไปไม่นานชายคนนั้นก็ลุกกลับมาในสภาพเดิมพร้อมกับดึงเเท่งเหล็กยาวของตัวเองเเยกออกเป็นสองท่อน

“ดูเหมือนเพื่อนคนนี้จะไม่ใช่คนที่จะจัดการง่าย ๆ ซะเเล้ว”ชายคนนี้หลังจากดึงเเยกเเท่งเหล็กออกเป็นดาบสองท่อนเขาก็พึมพัมออกมา

เห็นชายคนนั้นดึงเเท่งเหล็กออกมาเป็นดาบคู่ จู่ ๆ คิลเลี่ยนก็รู้สึกได้ถึงเเรงกดดันบางอย่าง ดังนั้นคิลเลี่ยน จึงเริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น

“หึ่ม! เเกเป็นใครกัน? ฉันว่าฉันจัดการไอรอนแมนไปเเล้ว ไม่น่าจะมีพวกคนโง่ลุกมาต่อต้านฉันอีก”ได้ยินคำพูดพึมพัมของชายคนนั้น คิลเลี่ยน ที่รู้สึกสงสัย จ้องมองไปที่เขาเเละกล่าวถาม

“ฉัน?ฉัน เเดร์เดวิล สำหรับเรื่องที่นายบอกว่านายจัดการไอรอนแมนไปเเล้ว ไม่คิดว่าจะคิดเข้าข้างตนเองมากไปหน่อยหรอ?”ได้ยินคำถามจากคิลเลี่ยน เเดร์เดวิล กล่าวตอบอย่างเยือกเย็น

ถูกต้องชายคนนี้ก็คือเเดร์เดวิล หลังจากได้รับคำสั่งเขาก็รีบตรงมาที่นี่ในทันที

“เเกคือเเดร์เดวิล?ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ นอกจากนี้ เรื่องที่เเกพูดเมื่อครู่หมายความว่ายังไงกัน?”ได้ยินคำตอบจากเเดร์เดวิล คิลเลี่ยน ที่เดิมรู้สึกเเค่สงสัย คราวนี้เขารู้สึกเดือดดาลอย่างมาก

“ก็หมายความตามที่พูดนั่นเเหละ!”

ฟุ่บ!

ขณะเดียวกันก็มีเสียงนึงดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของคิลเลี่ยน

กัปตันโรเจอร์สนั้นไม่ได้เป็นห่วงเรื่องความกังวลเกี่ยวกับสภาความมั่นคงของโลกเเม้เเต่น้อย เพราะเมื่อศาสตราจารย์ชาร์ลส์รู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพวกคิลเลี่ยน เเละ ทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้ก็คือคนในสภาความมั่นคงของโลก เท่านี้ทุกอย่างก็ลงตัว

หนึ่งในคณะสภาความมั่นคงของโลกเหล่านี้เคยปฏิเสธตัวตนของ นิว ฟิวรี่ เเละ เลือกกัปตันอเมริกา เข้ามาบริหารองค์กร S.H.I.E.L.D. เเทน เเต่ถึงอย่างนั้น นิค ก็ยังทิ้งขุมกำลังหรือคนรู้จักของตัวเองเอาไว้ หลังจากกัปตันโรเจอร์สเข้ามาบริหารองค์กร S.H.I.E.L.D. ,องค์กรS.H.I.E.L.D. ก็ถูกเปิดเผยตัวตนต่อสาธารณชน ดังนั้นพวกคนเหล่านั้นคงคิดว่ากัปตันโรเจอร์สคงไม่สามารถทำอะไรอย่างเปิดเผยได้

ดังนั้นสมาชิกสภาความมั่นคงของโลกคนนี้คงต้องการดับอนาคตของ นิค ฟิวรี่ เเละ กัปตันโรเจอร์ส จริง ๆ พวกเขาไม่ต้องการให้องค์กร S.H.I.E.L.D. มีอำนาจเหนือกว่าพวกเขา เเต่อย่างไรก็ตาม กัปตันโรเจอร์ส ก็มีโอกาสที่จะสามารถกำจัดคณะสมาชิกสภาความมั่นคงของโลกทั้งหมดได้ในคราวเดียว เนื่องเพราะพวกเขาบางคนกล้าที่จะใช้ทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านั้นมาข่มขู่ สาธารณชน ดังนั้น กัปตันโรเจอร์ส จะไม่ยอมอ่อนข้อให้อีก

“วอชิงตัน,นิวยอร์ก,ลอสเเองเจลิส ชิคาโก เเละ เมืองอื่น ๆ หากตรวจพบการปรากฏตัวของทหารเอ็กซ์ทรีมิส สั่งการชุดเกราะไอรอนแมนเพื่อสนับสนุนการโจมตีในทันที”ในสำนักงาน S.H.I.E.L.D. วอชิงตัน เสียงของโทนี่ ได้กล่าวบอก J.A.R.V.I.S

ในสำนักงานใหญ่โทนี่ที่ฟื้นคืนสภาพบาดเเผลได้กลับมาควบคุมกำลังทหารของตนเองอีกครั้ง เเต่คราวนี้ ตนเองมี มิราจไนท์ เเจ็คสัน เเละ สไปเดอร์แมน ปีเตอร์ คอยสนับสนุน เเผนการอยู่เบื้องหลัง

ข่าวเรื่องที่โทนี่ฟื้นตัวนั้นยังไม่ได้ถูกเปิดเผยออกไป เพราะไม่งั้นจะสร้างความตื่นตัวให้พวกคนในคณะสภาความมั่นคงของโลก ดังนั้น โทนี่ จึงเเสร้งว่าตนเองบาดเจ็บสาหัส เเละ เเอบเคลื่อนไหวอย่างลับ ๆนอกจากนี้ โทนี่ เเละ กัปตันโรเจอร์สยังขอให้ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ช่วยอำพรางสถานที่เเห่งนี้ในห้องพยาบาลให้อีกด้วย เเม้บุคคลภายนอกจะผ่านมาเห็นก็คงมองไม่ออกถึงความจริงที่พวกเขาซ่อนเอาไว้

“เจอตัวคิลเลี่ยนหรือยัง?”ขณะที่โทนี่กำลัฝวางเเผนซุ่มโจมตีอย่างเงียบ ๆ เขาก็จ้องมองไปที่ เเผนที่โฮโลเเกรมที่ส่องสว่างเบื้องหน้า

ในเวลานี้โทนี่ต้องขอบคุณ คิลเลี่ยน ที่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพนี้ เพราะงี้เขาถึงมีโอกาสที่จะซุ่มโจมตีคิลเลี่ยนเเละปิดฉากในทีเดียว เเน่นอนว่า โทนี่ จะต้องตอบเเทนคิลเลี่ยนให้สาสมกับบาดเเผลที่ตนเองได้รับอย่างเเน่นอน

“ยังตรวจไม่พบวี่เเววของเขา เเต่ ดูเหมือน จะตรวจพบทหารเอ็กซ์ทรีมิส ในวอชิงตัน เเละ เมืองอื่น ๆ เท่าที่ตรวจสอบ พวกมันมีมากกว่า 50 คน เเละ ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ “ได้ยินคำถามของโทนี่ J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

“เป็นอย่างที่ฉันคิดเอาไว้ บางทีพวกมันอาจคิดจะยึดทำเนียบขาวก็เป็นได้”ได้ยินคำพูดของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ราวกับว่าสามารถคาดเดาได้

“ทำเนียบขาว?ฟังดูน่าตื่นเต้นไม่น้อย!”เเจ็คสันที่อยู่ด้านหลังได้ยินคำพูดของโทนี่เขารู้สึกตื่นเต้นในใจอย่างบอกไม่ถูก

ก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน เคยดูภาพยนตร์หลายเรื่อง เเละ หนึ่งในนั้นมีเรื่องที่เกี่ยวกับ ศาสตราจารย์ X เเละ เเมกนีโต,ในเรื่องนี้ ศาสตราจารย์ X ได้ปกป้องทำเนียบขาวจากการรุกรานเเละบุกยึดของ เเมกนีโต ได้

ดังนั้นเเจ็คสันจึงมีความคาดหวังเล็กน้อยว่าจะเห็นพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้บุกยึดทำเนียบขาว

“มิราจไนท์ คุณคิดว่าไง? คิลเลี่ยน ดูเหมือน จะมีจุดประสงค์เเอบเเฝงจริง ๆ หรือว่า เขาตั้งใจที่จะระเบิดเมืองใหญ่ตามเเห่งต่าง ๆ ?”เห็นการเเสดงออกของเเจ็คสัน ปีเตอร์ กล่าวถามออกมา

“การโจมตีด้วยระเบิด ฉันคิดว่ามันคงจะเกิดขึ้นอย่างเเน่นอน เเรงระเบิดชีวภาพของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส สามารถสร้างความหวาดกลัวให้สาธารณชนจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ หากไม่ได้ ผู้สืบเชื้อสายเเรกเริ่มของโลก อย่างเหล่าพ่อมด ช่วยเอาไว้ นครนิวยอร์กในตอนนั้นคงเกือบโดนลบหายออกไปจากเเผนที่ ดังนั้น สิ่งที่พวกเราต้องพึงระวังคือจะต้องไม่เปิดโอกาสให้พวกมันมีโอกาสได้ทำอีกครั้ง”ได้ยินคำพูดของปีเตอร์ เเจ็คสัน ตอบกลับอย่างไม่ลังเล

“ใช่เเล้ว คุณ สตาร์ค หากพวกเราปล่อยมันทำได้สำเร็จ จะต้องมีผู้บริสุทธิ์จำนวนมากต้องบาดเจ็บล้มตายอย่างเเน่นอน ดังนั้น ตอนนี้ พวกเราจะต้องร่วมมือกัน ไอรอนแมน ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ S.H.I.E.L.D. เเละ ทีม X-MEN เพื่อเเก้ไขปัญหาเเละหยุดยั้งทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้ พวกเราจะต้องทุ่มเต็มกำลัง”ได้ยินคำตอบของเเจ็คสัน ปีเตอร์ เชื่อมั่นในเส้นทางนี้

“หลังจากเราเเก้ไขปัญหาสถานการณ์ทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้ได้สำเร็จ เรื่องมอง หา คิลเลี่ยน ฉันคิดว่าไม่นานก็คงเจอตัวเขาอย่างเเน่นอน เมื่อเขาเห็นว่าคุณสตาร์คปรากฏตัวขึ้น เขาจะต้องร้อนรนจนเเทบอยากจะออกมาหาคุณไม่ไหวเเน่ ๆ”เเจ็คสันสามารถคาดเดาสถานการณ์คร่าว ๆ ได้ คิลเลี่ยน ได้ส่งทหารเอ็กซ์ทรีมิสเหล่านี้ ออกมาสร้างปัญหา เเละ ถ้าหาก กองทัพไอรอนแมนหรือสัมพันธมิตร ได้รับชัยชนะ คิลเลี่ยน จะต้องออกมาเคลื่อนไหวเเผนต่อไปอย่างเเน่นอน

หากรวมกองกำลังทั้งหมดที่พวกเขามีเข้าด้วยกัน เเจ็คสัน คิดว่า คราวนี้คงไม่มีปัญหาที่จะจัดการพวก ทหารเอ็กซ์ทรีมิส ยิ่งไปกว่านั้น หน้าที่ กำจัดหนอนอย่างพวกสภาความมั่นคงของโลก ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ ของกัปตันโรเจอร์ส

“เจ้านายครับ ตรวจพบตัวของคิลเลี่ยน ในวอชิงตัน.”ขณะที่พวกเเจ็คสันเเละคนอื่น ๆ กำลังสนทนากัน เสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ได้เเจ้งเตือน

“คิลเลี่ยน ในที่สุดเเกก็ปรากฏตัว!”ได้ข่าวว่าคิลเลี่ยนปรากฏตัว ดวงตาของ โทนี่ เผยเเววตาที่รุนเเรงออกมา

“ทำเนียบขาว เป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ฉันชักอยากจะรู้เเล้วว่าถ้ามันถูกลบหายไปด้วยระเบิด จะสร้างความหวาดกลัวให้ผู้คนได้มากน้อยเเค่ไหนกันนะ ชักตื่นเต้นเเล้วสิ”ขณะเดียวกัน คิลเลี่ยน ที่ยืนไม่ไกลจากทำเนียบขาว ได้กล่าวพูดออกมา

เเจ็คสันนั้นพอจะสามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวของคิลเลี่ยนได้ก็จริง เเต่เขาก็คงไม่คาดคิดว่าเป้าหมายของคิลเลี่ยนไม่ใช่การยึดทำเนียบขาวเเต่เป็นการทำลาย เเต่ที่น่าเสียดายก็คือ ตอนนี้ คิลเลี่ยน ได้ถูกพบโดย J.A.R.V.I.S เสียก่อน เเผนการทำลายทำเนียบขาวของเขาคงจะไม่ง่ายดายนัก

“เริ่มเเผนการได้!”คิลเลี่ยนมองไปที่ทำเนียบขาวพร้อมกับกล่าวสั่งการผ่านวิทยุสื่อสารของเขา

“ไอรอนแมนหายไปไหน?”

“พวกเราต้องการไอรอนแมน!”

“ไอรอนแมนได้รับบาดเจ็บสาหัส?นี่เป็นความจริงงั้นหรอ?พวกเราไม่เชื่อพวกเราต้องการความจริง”

“S.H.I.E.L.D.? ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์?กัปตันอเมริกา พวกคุณจะไม่ออกมาอธิบายสถานการณ์หน่อยหรอ?”

ในขณะนี้ทาง S.H.I.E.L.D. กำลังเร่งควบคุมเหตุการณ์ชลมุนเกี่ยวกับการเเสดงความคิดเห็นของประชาชนอยู่ ข่าวที่ไอรอนแมนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกเเพร่กระจายออกไปตามสื่อต่าง ๆ เพราะชื่อเสียงของไอรอนแมนสูงมากทำให้พวกเขาไม่สามารถปิดบังเรื่องของไอรอนแมนเอาไว้ได้

ดูเหมือนว่าคิลเลี่ยนจะวางเเผนเเพร่กระจายข่าวสารออกไปเรื่องที่ไอรอนแมนได้รับบาดเจ็บสาหัสหากนี่เป็นจริงขึ้นมา ผู้คนก็จะหวาดกลัว ทหารเอ็กซ์ทรีมิสมากขึ้น ศัตรูที่ไอรอนแมนไม่สามารถจัดการได้ คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถต้านทานได้อย่างไร ดังนั้นคิลเลี่ยนจึงบรรลุจุดประสงค์เเรกก็คือการทำให้ผู้คนธรรมดาทั่วไปต่างหวาดกลัวจากนั้นเมื่อไม่มีคนที่จะสามารถหยุดเขาได้เขาก็จะโค่นล้มอำนาจทางการเมืองของประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดของโลกนี้เป็นอันดับต่อไป

ในเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ออกไปไกลจากนครนิวยอร์ก หลังจากสั่งปฏิบัติการโจมตีโทนี่เสร็จ คิลเลี่ยน ก็เลือกมาซ่อนตัวในเมืองเล็ก ๆ เเห่งนี้ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ข่าวของไอรอนแมน

“โทนี่ สตาร์ค เเกโชคดีที่สามารถรอดไปได้ เเต่อย่างไรก็ตามเเม้เเกจะยังมีชีวิตอยู่เเต่สภาพของเเกในปัจจุบันก็คงไม่ต่างจากตายทั้งเป็น เมื่อไม่มีเเกอยู่ ใครเล่าจะเต็มใจยอมสละตนเองมาปกป้องคนอื่น ๆ ? เท่านี้พวกเราก็จะเริ่มเเผนการต่อไปได้ซักที”หลังจากเฝ้าระวังข้อมูลของไอรอนแมนอยู่ในที่ลับ คิลเลี่ยน ได้บ่นพึมพัมออกมา

เพื่อให้เเผนการก่อนหน้านี้สำเร็จ คิลเลี่ยน ได้มองข้ามเเมนดารินเเละเลือกปฏิบัติการเเผนของตนเองอย่างลับ ๆ เเละก็เป็นดั่งที่เขาคาด โทนี่ ได้เเอบติดต่อกับ มายา เเฮนเซ่น อย่างลับ ๆ

ผลการโจมตีครั้งก่อนนี้เเม้จะประสบความสำเร็จด้วยดี เเต่ก็ไม่ทำให้คิลเลี่ยนรู้สึกพึงพอใจ เพราะเขาไม่ได้ฆ่าโทนี่โดยตรง ดูเหมือนจะมีคนเข้ามาช่วยเหลือโทนี่ได้ทัน เเม้จะสามารถช่วยเหลือโทนี่ได้ เเต่คิลเลี่ยนเชื่อว่าโทนี่คงได้รับบาดเจ็บหนักพอสมควร หนทางที่อาจจะทำให้โทนี่ฟื้นตัวขึ้นมาได้ในเร็ว ๆ นี้ มันเเทบไม่มียกเว้นเเต่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสนี้ หากเป็นร่างกายพลังงานของไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสการจะกลับมาเป็นปกติไม่ใช่เรื่องยาก

“ฉันคาดหวังกับนายไว้มากหลังจากจัดการโทนี่ได้สำเร็จสัญลักษณ์เเห่งสันติภาพพวกนั้นก็ย่อมถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง”ขณะเดียวกันบุคคลตรงข้ามคิลเลี่ยน ได้กล่าวออกมา

ดูเหมือนพวกเขาจะสื่อสารโดยใช้อุปกรณ์สื่อสารที่เปิดเผยภาพได้

“ความหวาดกลัวของสาธารณชนในตอนนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เราดำเนินเเผนการในขั้นต่อไปได้เเล้ว”บุคคลคนนี้ได้กล่าวพูดคุยกับคิลเลี่ยน

“ในที่สุดก็จะเริ่มเเผนการขั้นต่อไป?ฉันคิดว่าจะต้องซ่อนตัวไปอีกซักพักเสียอีก”ได้ยินคำพูดของฝ่ายตรงข้าม ใบหน้าของคิลเลี่ยนเผยให้เห็นความรุนเเรงอย่างเห็นได้ชัด

“เเม้ว่าจะเหลือกลุ่มต่อต้านอย่างพวก S.H.I.E.L.D. อยู่ เเต่เพื่อนกัปตันอเมริกาคนนี้ ไม่ใช่ศูนย์รวมกำลังใจเหมือนอดีตอีกเเล้ว มันก็เเค่ตะเกียงไฟที่ไร้เชื้อเพลิง สิ่งที่เราต้องการก็คือความหวาดกลัวที่สาธารณชนเเสดงออกมา ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี”ฝ่ายตรงข้ามคาดเดาความคิดของคิลเลี่ยนได้

“ฉันรู้,”ได้ยินคำพูดของฝ่ายตรงข้ามคิลเลี่ยนตอบกลับ

“อืม,ฉันรู้ว่านายเข้าใจเรื่องนี้ดีอย่างไรก็ตามมันไม่สำคัญกับฉันว่านายจะคิดยังไง นอกจากนี้ เเมนดาริน เพื่อนของนาย ครั้งนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยชอบพฤติกรรมของนายเท่าไหร่”ได้ยินคำพูดอขงคิลเลี่ยน พฤติกรรมที่เขาหมายถึงก็คือคิลเลี่ยนใช้มายา เเฮนเซ่น เป็นเหยื่อล่อ เพื่อจัดการโทนี่

“ฮ่าฮ่า , ไม่พอใจ! เเล้วยังไง ทำอย่างกะฉันสนงั้นละ? มันก็เป็นเพียงเเค่หุ่นเชิด คิดว่าตนเองจะสามารถทำอะไรได้กัน”ได้ยินคำพูดของบุคคลคนนี้ คิลเลี่ยน พูดจาอย่างเหยียดหยาม

คิลเลี่ยนที่ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเมื่อไม่นานมานี้ เป็นเพียงหุ่นเชิดที่เก่งทักษะในการเเสดงเพียงเท่านั้น เเต่เพราะหุ่นเชิดคนนี้มีทักษะการเเสดงที่เก่งมากทำให้ ตัวตนของเเมนดารินค่อนข้างสมบูรณ์แบบ เเต่ คิลเลี่ยน ก็รู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังดี

“เรื่องความขัดเเย้งของนายฉันจะไม่เข้าไปยุ่ง ตราบใดที่มันไม่ส่งผลกระทบต่อเเผนการใหญ่ของเรา”บุคคลผู้นี้รู้ว่ คิลเลี่ยนไม่พอใจเเมนดาริน

“ไม่ต้องพูดอะไรเเล้ว ฉันจะไม่ให้เรื่องนี้มากระทบเเผนของเราอย่างเเน่นอน คุณ สามารถมั่นใจได้ ทุกอย่างเป็นไปตามเเผนที่ฉันวางเอาไว้”คิลเลี่ยนดูมั่นใจในเรื่องนี้อย่างมาก

“ฉันเองก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”หลังจากพูดคำนี้ออกไปการสื่อสารลับนี้ก็สิ้นสุดลง

จากนั้นคิลเลี่ยนก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เเละเดินไปที่หน้าต่างในบ้านธรรมดาเเห่งนี้ เนื่องเพราะเเผนการต่อไปของเขาไม่จำเป็นจะต้องหลบซ่อนตัวอีกต่อไป ตั้งเเต่วันนี้ คิลเลี่ยนจะทำให้ทั่วโลกรู้จักความหวาดกลัวที่เเท้จริง หากปราศจากการปกป้องของไอรอนแมน คนเหล่านี้ ก็ไม่ต่างจากไม้ประดับที่สามารถถูกทำลายได้อย่างง่าย เพื่อให้มีชีวิตรอดพวกมันจะต้องปฏิบัติตามกฏของผู้เเข็งเเกร่ง ตราบเท่าที่เเผนการของตนเองสำเร็จ ในอนาคตทั่วทั้งโลกจะตกเป็นของเขา เทคโนโลยีเอ็กซ์ทรีมิสจะครองทั่วทั้งโล

ขณะที่พวกคิลเลี่ยนกำลังจะเริ่มเเผนการของตนเอง ทาง S.H.I.E.L.D. ก็เริ่มเคลื่อนไหวเหมือนกัน กัปตันโรเจอร์ส ได้สอบสวนบุคคลที่เป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังที่ซ่อนตัวอยู่ในสภาความมั่นคงของโลก

ก่อนหน้านี้พวกปีเตอร์ที่เพิ่งเข้ามาได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่ผิดปกติดังนั้นพวกเขาจึงรีบเร่งเข้ามายังห้องผู้ป่วยเเห่งนี้

“ฉันไม่เป็นไรไม่ต้องห่วง!”

“คุณสตาร์คเองก็ปลอดภัยเเล้วเช่นเดียวกัน”ได้ยินเสียงของปีเตอร์ เเจ็คสันตอบกลับอย่างรวดเร็ว

“ฮ่าฮ่า, ฉันรู้อยู่เเล้ว มิราจไนท์ ทันทีที่คุณกลับมาย่อมพาเรื่องดี ๆ มาให้พวกเราเสมอ”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ไอซ์แมนพูดอย่างมีความสุข

ได้ยินว่า โทนี่ สตาร์ค ปลอดภัย ปีเตอร์ เองก็ผ่อนคลายลง ไอรอนแมน คือสัญลักษณ์ตัวเเทนเเห่งความสงบสุขของโลกในปัจจุบัน เเละ เเจ็คสันสามารถช่วยเหลือ ไอรอนแมนได้ นี่ย่อมเป็นข่าวดีอย่างเเน่นอน

นอกเหนือจากสายตาของปีเตอร์คนอื่น ๆ ที่อยู่นอกห้องผู้ป่วยเห็นเพียงเเค่โทนี่ที่นอนล้มอยู่บนเตียงเพียงเท่านั้นพวกเขาไม่เห็นเวน่อมที่ดิ้นไปมาอยู่ที่อีกมุมห้องนึง เเน่นอนว่าทัศนวิสัยน์ของพวกเขาตอนนี้ย่อมต้องให้ความสำคัญกับโทนี่ก่อนเป็นอันดับเเรก

ภายใต้สายตาของทุกคนดูเหมือนนิ้วมือของโทนี่จะเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยดวงตาทั้งสองข้างของเขาค่อย ๆ เปิดขึ้นอย่างช้า ๆ

“ดูเหมือนว่าพอเเยกเวน่อมออกจากร่างกายของโทนี่ได้ โทนี่ก็สามารถฟื้นคืนสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว”เห็นการเปลี่ยนเเปลงของโทนี่ มุมปากของเเจ็คสันยกขึ้นเล็กน้อย

เพราะโทนี่ถูกเวน่อมสิงอยู่ในร่างกายผลประสิทธิภาพการรักษาทั้งหมดย่อมถูกเวน่อมดูดซับไป เเต่พอหลังจากเวน่อมไม่อยู่ ผลประสิทธิภาพเหล่านั้นย่อมดำเนินการกับร่างกายของโทนี่ให้เขาฟื้นกลับมาโดยตรง

เห็นโทนี่เปิดตาทั้งสองข้างขึ้น กัปตันโรเจอร์ส ปีเตอร์ เเละ คนอื่น ๆ จ้องมองมาที่โทนี่พร้อมเพรียงกัน

“หืม?”

“ยินดีต้อนรับกลับมา คุณสตาร์ค”เห็นโทนี่เปิดตาขึ้น เเจ็คสันที่อยู่ข้างเตียงกล่าวพูดเป็นคนเเรก

“ยินดีด้วย โทนี่ ที่นายฟื้นขึ้นมาจากความตายได้สำเร็จ”เห็นมิราจไนท์กล่าวพูด กัปตันโรเจอร์ส เองก็พูดเเสดงความยินดี

อั๊ก!

“นี่ฉันหมดสติไปกี่วัน?”หลังจากฟื้นคืนสติกลับมาได้เสียงที่โทนี่กล่าวดูเงียบสงบอย่างเห็นได้ชัด

“เจ้านายครับ,คุณหมดสติไปทั้งหมด 27 ชั่วโมง 13 นาที 8 วินาที”หลังจากโทนี่กล่าวถาม เสียงของJ.A.R.V.I.S ได้ตอบกลับเขา

“J.A.R.V.I.S นายเองก็อยู่ด้วย?นี่ฉันอยู่ที่ไหน ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของฉันใช่มั้ย”ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S โทนี่ ถามอย่างสงสัย

“ที่นี่คือ วอชิงตัน, สำนักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. หลังจากที่นายถูกโจมตีโดยพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสจนหมดสตินายก็ถูกส่งมาที่นี่ โชคดีที่มิราจไนท์สามารถช่วยนายได้ไม่งั้นนายคงนอนหมดสติอีกหลายวัน”ได้ยินปัญหาของโทนี่ กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

“มิราจไนท์?อ่อ นายช่วยฉันไว้?”ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส ว่า มิราจไนท์ ช่วยตนเอง โทนี่ เกือบจะหลุดพูดชื่อ เเจ็คสัน ออกมา เเต่ก็ห้ามเสียงได้ทัน

เพราะโทนี่รู้ว่าในปัจจุบัน มิราจไนท์ ไม่ได้ปรากฏตัวในฐานะของเเจ็คสัน เเม้ เเจ็คสันจะเป็นเด็กน้อยที่เรียนอยู่โรงเรียนมัธยมยังไม่จบ เเต่เขาก็ได้ช่วยเหลือตนเองซ้ำเเล้วซ้ำเล่า เหมือนตอนก่อนหน้านี้ หากไม่มีสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันของเขา ตนเองคงจะบาดเจ็บสาหัสจนตายไปเเล้ว

“คุณสตาร์ค หากคุณร้องเช่นนั้นคุณจะเหนื่อยเอานะ!”เเจ็คสันยิ้มออกมา

“คุณสตาร์ค!”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันปีเตอร์เองก็จ้องมองไปที่โทนี่

ใบหน้าของโทนี่ปรากฏน้ำตาเล็กน้อยหลังจากที่โทนี่สูญเสียพ่อเเม่เขาก็ตัวคนเดียวมาตลอดตอนนี้เขามีพรรคพวกที่สามารถไว้ใจได้ดังนั้นโทนี่จึงรู้สึกอยากจะขอบคุณพวกเขามาก

ขณะที่โทนี่ปั้นหน้ายิ้มอยู่เขาก็จ้องมองไปที่มุมห้องผู้ป่วยเขาเห็นเวน่อมที่กำลังดิ้นอยู่ใบหน้าที่ยิ้มเเย้มก่อนหน้านี้ได้พลันหายไปอย่างรวดเร็ว

จากนั้นเเจ็คสันก็จัดการเก็บเวน่อมเเละให้โทนี่ดื้มน้ำพุศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง เนื่องเพราะสถานการณ์เกี่ยวกับคิลเลี่ยนยังไม่จบตอนนี้สิ่งที่พวกเขาทำได้ก็คือต้องเร่งฟื้นฟูให้โทนี่หายกลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ระหว่างที่มิราจไนท์กำลังช่วยเหลือโทนี่ในการฟื้นฟู กัปตันโรเจอร์ส ก็ได้รับข้อความเร่งด่วนเกี่ยวกับเหตุการณ์เอ็กซ์ทรีมิส

เรื่องที่ศาสตราจารย์ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ส่งมานั้นคือเรื่องที่เขาทำลายการป้องกันทางจิตวิญญาณของมายา เเฮนเซ่น เเละ ได้รับข่าวสำคัญมานั่นคือ : คนที่เรียกตัวเองว่าเเมนดารินนั้น เเท้จริง เป็นเพียงหุ่นเชิดที่ถูกคนอื่นชักใยอยู่เบื้องหลัง สถานะของคนคนนี้ลึกลับมา เเต่เขาคนนี้ก็คือ สมาชิกคนสำคัญของสภาความมั่นคงของโลก

ข่าวอีกอย่างคือพวกคิลเลี่ยน ได้เเพร่กระจายเขาที่จัดการโทนี่ ไอรอนแมน เพื่อทำลายความเชื่อมั่นของประชนชาชน ตอนนี้ คนที่ราบข่าวได้กลายเป็นชลมุนกันยกใหญ่ เเม้ว่าทาง S.H.I.E.L.D. จะพยายามปกปิดข่าวเรื่องนี้ไม่ให้ทุกคนรู้ เเต่ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะต้องรู้อย่างเเน่นอน

“หากตอนนี้ฉันยังคงนอนหมดสติอยู่ เเผนของพวกมันก็คงจะสำเร็๗ไปเเล้ว การทำลายความเชื่อมั่นของคนที่ไว้ใจเราคือการโจมตีทางจิตใจที่เเรงที่สุด”โทนี่ ที่ได้เห็นข้อความเหล่านั้นเขาสามารถคาดเดาสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปได้

จากนักวิทยาศาสตร์ธรรมดา ที่ร่ำรวย อำนาจชื่อเสียงเเละเงินทอง ได้ผันตัวมาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ปกป้องผู้คนทั่วโลก หากตัวตน คน ๆ นี้หายไป ทั่วทั้งโลกจะต้องเกิดความโกลาหล

“หากพวกมันมั่นใจว่าเเผนของมันสำเร็จ เช่นนั้นทำไมไม่ปล่อยให้พวกมันคิดอย่างนั้นไปก่อนเเล้วค่อยตลบหลังพวกมัน ฉันคิดว่าบางทีพวกเราอาจได้ดูละครฉากเด็ดก็เป็นได้”ได้ยินคำพูดของโทนี่ เเจ็คสันยิ้มออกมา

“ฮ่าฮ่า,ฉันเองก็อยากจะเห็นเหมือนกัน”

อึ้ก!

ขณะที่ของเหลวสีเขียวกำลังไหลลงคอของโทนี่ เเจ็คสันก็ได้ปลดปล่อยพลังจิตของตนเองออกมาเพื่อดูความเคลื่อนไหวของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังไหลลงร่างกายของโทนี่

ฟู่วว!

ภายใต้การสเเกนด้วยพลังจิตอันเเข็งเเกร่งของเเจ็คสัน เขาสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลลงตั้งเเต่ปากของโทนี่เข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว

เพียงเเต่ว่าภายผ่านไปไม่นานผลของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ยังไม่ทันได้เเสดงผลจู่ ๆ น้ำพุศักดิ์สิทธิ์นั่นก็ถูกบางสิ่งบางอย่างดึงเข้าไปเป็นของตนเอง

“ดูเหมือนจะใช่อย่างที่ฉันคิดจริง ๆ !”เห็นบางสิ่งบางอย่างถึงสิ่งที่ควรจะเป็นของโทนี่จากไป เเจ็คสันกวาดจิตสำผัสเข้าไปโดยตรง

เเจ็คสันที่เพ่งจิตเข้าไปภายในร่างกายของโทนี่ด้ายที่สุดเขาก็เห็นบางสิ่งซ่อนตัวอยู่ที่ด้านหลังของโทนี่มันได้หลอมรวมเข้ากับกระดูกสันหลังของเขาพร้อมกับซึมซับน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เข้าไปเป็นของตนเอง หากตรวจสอบด้วยวิธีธรรมดาย่อมไม่สามารถตรวจพบสิ่งเเปลกปลอมนี้ได้อย่างเเน่นอน

“มันคือเวน่อม ,มันยังมีชีวิตรอดอยู่ จริง ๆ !”เห็นชิ้นส่วนที่ผสานเข้ากับกระดูกสันหลังของโทนี่ พลังจิตของเเจ็คสันจ้องมองมันด้วยความดุเดือด

ก่อนหน้านี้เวน่อมได้ถูกโจมตีจากเเรงระเบิดของทหารเอ็กซ์ทรีมิสเเละได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่ดังนั้นมันจึงเลือกที่จะหลุดจากการควบคุมของโทนี่ เเละ ใช้สัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดของมันที่ไม่คิดยอมเสียสละตนเองมุดเข้าไปทางบาดเเผลของโทนี่เข้าสู่ร่างกายของเขา จากนั้นเมื่อโทนี่ ได้รับความช่วยเหลือ มันก็ดึงสิ่งเหล่านั้นมารักษาตนเองดังนั้นผลลัพธ์ที่โทนี่ควรจะได้ย่อมทำให้ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

ในฐานะที่เป็นสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก ไม่ว่าจะเป็น ยายีน หรือ น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ มันย่อมปลาบปลื้มยินดีอย่างเเน่นอน หลังจากดูดซับ ยายีน เเละ น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ลงไปถึง สองขวด บาดเเผลของ เวน่อมได้ฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว เพราะภายในโรงพยาบาลนี้ได้รับการดูดเเลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้มันไม่ยอมเคลื่อนไหว หากไม่มีคนคอยเฝ้าจับตามองอยู่ บางทีมันคงเลือกจะหนีไปพร้อมกับร่างกายของโทนี่เเล้ว

“ตั้งเเต่ที่ฉันพบเเก ฉันจะดึงเเกออกมาเอง!”เเจ็คสันเเผ่จิตคุกคามที่รุนเเรงใส่ตำเเหน่งที่เวน่อมเกาะร่างกายของโทนี่อยู่

เเม้ว่าพลังจิตของเเจ็คสันจะไม่เพียงพอที่จะควบคุมวัตถุให้บินหรืออะไรเเต่หากคุกคามอย่างสิ่งมีชีวิตเช่นเวน่อมมันย่อมเพียงพอ เมื่อพลังจิตของเเจ็คสันกระเเทกเข้าใส่ร่างของเวน่อม ดูเหมือนว่าเวน่อมจะตอบสนองต่อจิตคุกคามที่มีต่อมัน

ฟุ่บ!

จู่ ๆ โทนี่ ที่หมดสติก็ได้ลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับตอบโต้การโจมตีของเเจ็คสันที่โลกข้างนอก

“เวรเอ้ย!”เมื่อรู้ว่าเวน่อมวางเเผนจะทำอะไร เเจ็คสันเตรียมจะกระโดดถอยออกไปเพียงเเต่

ฟุ่บ!

เเขนทั้งสองข้างของโทนี่ได้ขยับเคลื่อนไหวเเละพุ่งการโจมตีใส่เเจ็คสันอย่างรวดเร็วเเต่ด้วยการตอบสนองที่เเข็งเเกร่งของเเจ็คสันทำให้เขาสามารถรับหมัดทั้งสองของโทนี่ที่ถูกควบคุมได้

หลังจากพลักหมัดทั้งสองออกไป เเจ็คสัน ก็เห็น ร่างของโทนี่ ที่ถูกควบคุม เตรียมจะหลบหนีออกไปจากที่นี่

“มันคิดจะหลบหนี?อย่าได้หวัง!”เเจ็คสันรีบกระโดดเข้าไปคว้าจับเเขนทั้งสองข้างของโทนี่เเละเหวี่ยงเขากลับลงไปที่เตียง

ปั้ง!

ไม่นานดาบซอร์ดสปิริตก็ปรากฏขึ้นในมือของเเจ็คสันเขาได้ใช้พลังจิตในการส่งคลื่นพลังดาบฟาดฟันลงไปยังร่างของโทนี่เพื่อตัดเนื้อร้ายที่กัดกินโทนี่อยู่

“โทนี่!”เห็นโทนี่ถูกมิราจไนท์เหวี่ยงกลับลงไปที่เตียง กัปตันโรเจอร์ส ที่อยู่ด้านนอกรู้สึกตกใจอย่างมากเขารีบวิ่งเข้ามาข้างในทันที

ได้ยินเสียงของกัปตันโรเจอร์ส เเจ็คสันไม่ได้สนใจ เขาเร่งเร้าพลังจิตจำนวนมากก่อนที่จะขับไล่สิ่งที่อยู่ในร่างกายของโทนี่ให้คลานออกมาจากนั้นไม่นานวัตถุโปร่งใสก็หลุดออกมาจากปากของโทนี่ เเจ็คสันได้คว้าจับมันเเละโยนไปที่มุมห้องอย่างรวดเร็ว

เวน่อมที่ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้เเละไม่มีร่างของโฮสต์ให้คอยควบคุมสิ่งที่มันทำได้ในตอนนี้คือการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“นั่นมันอะไร?”เห็นโทนี่ฟุบกลับลงไปที่เตียงอีกครั้งเเละการเคลื่อนไหวของมิราจไนท์ที่สบัดบางสิ่งออกไปที่มุมห้อง กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามอย่างสงสัย

เเจ็คสันเองที่เห็นสีหน้าอาการตกใจของกัปตันโรเจอร์สเขาเองก็ลืมไปว่ากัปตันโรเจอร์สคงไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งนี้ดังนั้นจึงไม่เเปลกใจที่พวกเขาไม่สามารถตรวจพบสิ่งเเปลกปลอมที่อยู่ภายในร่างกายของโทนี่เพราะ เวน่อม ได้ทำตัวกลมกลืนเข้ากับร่างกายของโทนี่เเละรอรับผลการรักษา

“มันคือสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก เวน่อม เหตุผลที่ อาการของโทนี่ ไม่ดีขึ้น ส่วนนึงก็มาจากมันนี่ล่ะ…”ได้ยินคำพูดของกัปตันโรเจอร์ส เเจ็คสันได้อธิบายอย่างใจเย็น

“สิ่งมีชีวิตจากนอกโลก?มันอยู่ในร่างกายของโทนี่งั้นหรอ?”เห็นมิราจไนท์ตอบคำถามของตนเอง กัปตันโรเจอร์ส รู้สึกตกใจอย่างมาก

ขณะที่กัปตันโรเจอร์สกำลังสงสัยเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกนี้ จู่ ๆ นอกห้องผู้ป่วยก็ปรากฏเสียงฝีเท้าขึ้น มันเป็นเสียงเท้าวิ่งของ สไปเดอร์แมน ปีเตอร์ พวกไอซ์แมน เเละ เเดร์เดวิล กัปตันโรเจอร์ส ได้อนุญาติให้คนเหล่านี้เข้าออก S.H.I.E.L.D. ได้ตามต้องการ ภายใต้เงื่อนไขบางอย่างเล็กน้อยดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีอุปสรรคที่จะเข้ามาที่นี่

“มิราจไนท์!”หลังจากเห็นเเจ็คสันภายในห้องผู้ป่วย สไปเดอร์แมน ปีเตอร์ ตะโกนออกมาเป็นคนเเรก

หลังจากตามกัปตันโรเจอร์สมาถึงวอชิงตัน ในโรงพยาบาล นอกห้องผู้ป่วย เเจ็คสัน เฝ้ามองโทนี่ที่นอนไม่ได้สติอยู่ภายในห้อง

ก่อนหน้านี้เเจ็คสันได้ให้สัญลักษณ์เเห่งการป้องกันกับโทนี่ไปด้วยเหมือนกันเเต่ดูเหมือนสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันนั่นจะไม่สามารถป้องกันความเสียหายจากทหารเอ็กซ์ทรีมิสจำนวนมากได้

“สถานการณ์ในปัจจุบันของเขาเป็นแบบไหน?”เเจ็คสันกล่าวถามกัปตันโรเจอร์สที่เฝ้ามองโทนี่นอกห้องเหมือนกับเขา

“บาดเเผลส่วนมากได้รับการฟื้นฟูเเล้ว อาการเเตกหักของกระดูกเองก็เริ่มฟื้นฟูอย่างเต็มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีของเรา เเต่อย่างไรก็ตามเเรงระเบิดของทหารเอ็กซ์ทรีมิสพวกนั้นก็รุนเเรงอย่างมาก อวัยวะภายในของเขาได้รับความเสียหายอย่างรุนเเรง ตอนนี้เราได้ให้ยายีนที่ทางออสคอร์ปเป็นคนผลิตเเก่เขาไปเเล้ว เเต่ผลที่ได้รับก็ไม่ได้มากเท่าที่ควรดังนั้นเราจึงไม่สามารถให้การสนับสนุนเขาเเละรักษาแบบวิธีธรรมดาได้”กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบ

“เเม้จะบำบัดรักษาด้วยยายีนความเสียหายของอวัยวะภายในก็ไม่ได้ดีขึ้นงั้นหรอ?หรือว่าบาดเเผลที่เกิดจากพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสจะส่งผลพิเศษ?”เเจ็คสันที่ได้ยินคำตอบของกัปตันโรเจอร์ส เขาย่นคิ้วในเวลาเดียวกัน

หากเป็นอาการบาดเจ็บภายในธรรมดายายีนที่ทางออสคอร์ปมอบให้กับ S.H.I.E.L.D. รวมถึงเทคโนโลยีทางการเเพทย์ที่ก้าวหน้าย่อมสามารถช่วยเหลือโทนี่ได้ไม่ยาก เเต่ดูเหมือนผลลัพธ์จะไม่ได้เป็นอย่างที่หวังกันไว้

“พวกเราเองก็คิดว่าส่วนนึงอาจจะมาจากผลของ ไวรัสเอ็กซ์ทรีมิส เเต่พวกเราก็ไม่สามารถทำการตรวจสอบผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของโทนี่ได้”เมื่อเห็นว่ามิราจไนท์คิดอะไรอยู่ กัปตันโรเจอร์ส กล่าวตอบล่วงหน้า

“ไม่สามารถทำการตรวจสอบได้ เพราะอะไร?”ได้ยินคำตอบของกัปตันโรเจอร์ส เเจ็คสันรู้สึกสงสัยอย่างมาก สาเหตุที่อาจทำให้โทนี่นอนหมดสติอยู่ตอนนี้ อยู่ภายในร่างกายของโทนี่ เเต่พวกเขาไม่สามารถทำการตรวจสอบได้

“ส่วนนึงมาจาก กระสุนที่อยู่ในหัวใจของโทนี่ พวกเราไม่มีความก้าวหน้าทางการเเพทย์มากพอที่จะทำการผ่าตัดมันออก ดังนั้นพวกเราจึงไม่สามารถทำการตรวจสอบร่างกายที่อ่อนเเอของโทนี่ในตอนนี้ได้”กัปตันโรเจอร์สกล่าวเสริม

กระสุนที่อยู่ในหัวใจของโทนี่คือปัญหาใหญ่ที่เป็นอุปสรรคต่อการรักษาในตอนนี้

“กระสุนในหัวใจ?ฉันพอจะหาทางให้คนช่วยเรื่องนี้ได้อยู่ก่อนอื่นเราจะต้องนำกระสุนนี่ออกมาก่อนไม่เช่นนั้นก็คงไม่สามารถดำเนินการผ่าตัดตรวจสอบได้”เเจ็คสันกล่าวพูดขึ้น

“หืม?มิราจไนท์ คุณรู้จักศัลยเเพทย์ที่มีฝีมือมากพอที่จะทำเรื่องนี้ได้งั้นหรอ?”กัปตันโรเจอร์สไม่ได้สงสัยในคำพูดของมิราจไนท์เเต่เขารู้สึกสนใจ

“อืม,ก่อนอื่น ฉันขอเข้าไปดูอาการ โทนี่ ก่อนเเล้วกัน บางทีอาจมีอะไรที่พวกเรามองข้ามไปจนไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของเขาได้”เเจ็คสันต้องการตรวจสอบร่างกายของโทนี่เป็นการส่วนตัว

“เเน่นอน”กัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบทันที

ฟุ่บ!

จากนั้นห้องผู้ป่วยที่ได้รับการคุ้มกันเเน่นหนา ประตูกระจกใสก็ถูกเปิดขึ้น เเจ็คสันได้เดินเข้าไปอย่างเรียบง่าย

หลังจากผ่านไปสองนาทีขณะที่เเจ็คสันตรวจสอบร่างกายของโทนี่เสร็จ เขาก็ย่นคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างที่กัปตันโรเจอร์สพูด เเม้จะได้รับการรักษาจากเทคโนโลยีชั้นนำของโลกเเต่อาการของโทนี่กลับฟื้นฟูช้ามากราวกับว่าอาการภายในของโทนี่ไม่สามารถตอบสนองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เเจ็คสันรู้สึกสงสัยมากที่สุดก็คือเมื่อครู่เขาได้ให้น้ำพุศักดิ์สิทธิ์เเก่โทนี่ไป เพราะเขาคิดว่าผลของน้ำพุศักดิ์สิทธิ์อาจจะสามารถช่วยเหลือโทนี่ให้ดีขึ้นได้ เเต่ผลลัพธ์กลับว่าพลังงานเหล่านั้นกลับหายไป

“มันหายไป?เป็นไปได้ยังไง กัปตันโรเจอร์ส คุณสามารถเชื่อมต่อกับ J.A.R.V.I.S ได้หรือไม่?”เเจ็คสันที่รู้สึกงุนงงเขาได้หันศีรษะกลับไปมองกล่าวถามกัปตันโรเจอร์ส

“J.A.R.V.I.S?ฉันจะเชื่อมต่อกับเขาให้”กัปตันโรเจอร์สเเม้ไม่รู้ว่าทำไม มิราจไนท์ ถามหาถึงระบบอัจฉริยะ J.A.R.V.I.S เเต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ

“คุณมิราจไนท์ คุณต้องการให้ผมช่วยอะไรงั้นหรอครับ?”หลังจากกัปตันโรเจอร์สกล่าวตอบเสียงของ J.A.R.V.I.S ก็ปรากฏขึ้นภายในห้องผู้ป่วยเเห่งนี้

“J.A.R.V.I.S บอกฉันเกี่ยวกับสถานการณ์ตอนที่โทนี่ถูกโจมตี”ได้ยินเสียงของ J.A.R.V.I.S เเจ็คสันกล่าวถามโดยตรง

บางทีสิ่งนี้อาจมีเรื่องอะไรที่เขามองข้ามไป ทำให้ ผลการรักษาไม่สามารถทำงานได้ ดังนั้น เเจ็คสันจึงรู้สึกสงสัยอย่างมาก

“ก่อนที่เหตุการณ์พวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสจะระเบิดตัวเอง คุณ สตาร์ค ได้ติดตั้งชุดเกราะกลายพันธุ์เเละรับความเสียหายมากกว่า 95% ความเสียหายระดับนี้ทำให้ คุณ สตาร์ค ได้รับบาดเจ็บสาหัสเเละตัวชุดเกราะได้ถูกทำลายไประหว่างต่อสู้”ได้ยินคำถามของ เเจ็คสัน J.A.R.V.I.S กล่าวตอบ

ได้ยินคำตอบของ J.A.R.V.I.S ดวงตาของเเจ็คสันกระพริบสว่างวาบ ก่อนเหตุการณ์ระเบิดโทนี่ได้ติดตั้งชุดเกราะกลายพันธุ์เเละรับความเสียหายมากกว่า 95% หากพูดให้ถูกคือความเสียหายระดับนี้หากเป็นสิ่งของก็เหมือนกับใกล้พัง ก่อนหน้านี้เเจ็คสันให้สัญลักษณ์เเห่งการป้องกันระดับต่ำมอบให้กับโทนี่ หากเดิมเเท้จริงเเล้วโทนี่ต้องรับความเสียหายเต็ม 100% เล่า? เเต่เพราะสัญลักษณ์เเห่งการป้องกันทำให้ช่วยลดความเสียหายลงมาได้ส่วนนึง

“มาให้ฉันดูว่าฉันคิดถูกหรือไม่?”ขณะที่เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดในใจ จู่ ๆ ขวดขนาดเล็กน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ที่เขาเเลกมาจากระบบร้านค้าก็ปรากฏขึ้นในมืออีกครั้ง

หลังจากได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ J.A.R.V.I.S เเละ กัปตันโรเจอร์ส ไม่ได้กล่าวถามอะไรออกมา ดูจากคำพูดของมิราจไนท์ ดูเหมือนเขาจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับอุปกรณ์ใหม่ของโทนี่,ก่อนหน้าที่โทนี่จะไปเจอมายา เขาไม่ได้พกชุดเกราะไอรอนแมนไปด้วย พกไปเเค่เทคโนโลยีใหม่ที่ว่านี้ไป เเต่ถึงอย่างนั้นมันกลับสามารถช่วยโทนี่จากสถานการณ์ที่คุกคามชีวิตได้เเม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับมาก็ตาม เห็นได้ชัดว่าอาวุธนี้มีประสิทธิภาพขนาดไหน อย่างไรก็ตาม โทนี่ ก็ยังคงเป็นนักวิทยาศาสตร์เเละมีความสามารถที่ชาญฉลาดอยู่กับตัว

ขณะที่กัปตันโรเจอร์สกำลังครุ่นคิดสายตาของเขาก็จดจ้องไปที่มิราจไนท์ที่กำลังให้โทนี่ดื่มของเหลวบางอย่างในขวดที่เขาถือ

ฟุ่บ!

ขณะที่ เเจ็คสัน กำลังพูดคุย กับเจอร์รี่ จู่ ๆ ด้านนอกฐานก็ปรากฏเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว นี่ก็คือเดดพูลเป็นเพราะ เเจ็คสันโดดลงมาจากเครื่องร่อนก่อนหน้านี้เเละใช้ความเร็วตนเองเข้ามาดังนั้นเดดพูลจึงตามมาทีหลัง

“เอ่อ…นายเป็นใคร?”เห็นการมาถึงของเดดพูลอย่างฉับพลัน เจอร์รี่ รู้สึกสงสัยอย่างมาก เพราะเสื้อผ้าที่เดดพูลสวมใส่นั้นเป็นชุดธรรมดาที่เเจ็คสันมอบให้เพียงเท่านั้นดังนั้น เจอร์รี่ จึงไม่รู้ว่าเขาคือใคร

“เเล้วนี่ละพอจะรู้หรือยัง?”เดดพูลได้หยวดหมวกขาดของตนเองออกไป

“อ๋อ”เห็นหมวกขาดที่เป็นเอกลักษณ์ของเดดพูล เจอร์รี่ เข้าใจทันที

ก่อนหน้านี้เดดพูลไม่ได้คิดว่าตนเองจะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายจนต้องทำให้ชุดขาดวุ่นวิ่นดังนั้นเขาจึงไม่มีชุดสำรอง เขาไม่เหมือนกับ สไปเดอร์เเมน หรือ มิราจไนท์ ที่มีชุดไฮเทค ที่เเทบจะไม่พังในการต่อสู้เเม้เเต่น้อย ดังนั้น เดดพูล จึงครุ่นคิดว่าต่อไปหากเขาไม่มีเสื้อผ้าใครเล่าจะรู้ว่าเขาคือเดดพูลตัวจริง สิ่งที่เขาต้องทำก็คือชุดสำรอง

“คุณ เดดพูล ได้เห็นคุณอีกครั้งฉันก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก”เห็นภายใต้หน้ากากของเดดพูลที่มีริ้วรอยอยู่เต็มใหน้า เจอร์รี่ พูดอย่างติดขัด

“หึ่ม! ไม่ต้องพูดห่างไกลขนาดนั้นก็ได้ คนกันเองเเท้ ๆ “ได้ยินคำพูดของเจอร์รี่ เดดพูล กล่าวตอบ

ขณะนั้นเองดูเหมือนคอมของ เจอร์รี่ จะส่งเสียงเเจ้งเตือนออกมา

เจอร์รี่ได้กวาดสายตาไปครู่นึงก่อนที่จะหันไปทางมิราจไนท์”มิราจไนท์ ดูเหมือน ยานควินเจ็ท ของ กัปตันโรเจอร์ส จะมารออยู่ข้างนอกฐานเเล้ว”

ฟึ่ม!

ไม่ต้องรอให้เจอร์รี่ พูด เเจ็คสัน เเละ เดดพูล ก็ยังได้ยินเสียงเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่บินอยู่บนท้องฟ้า ดูเหมือนว่า กัปตันโรเจอร์ส จะเร่งรีบมากทันทีที่ได้ข่าวของเขา ก็รีบมาที่นี่ในทันที

“ฉันไปก่อนละ”เเจ็คสันเดินไปที่ทางเข้าหน้าฐานก่อนที่จะหันไปมองทางเดดพูลเล็กน้อย

“ฉันขอผ่านล่ะกัน,วาเนสซ่ากำลังรอฉันอยู่ที่บ้าน ดังนั้น ฉันจะต้องกลับไปรายงานเธอก่อน”เห็นมิราจไนท์มองมาที่ตนเอง เดดพูล โบกมือขอผ่าน

เห็นว่าเดดพูลไม่ต้องการจะไปเเจ็คสันก็ไม่ได้ยื้อเขาไว้พริบตาเดียวร่างของเเจ็คสันก็หายไปจากเบื้องหน้าของ เดดพูล เเละ เจอร์รี่ ดูเหมือน มิราจไนท์จะเเข็งเเกร่งขึ้นอย่างมาก นี่ทำให้ เจอร์รี่ รู้สึกประหลาดใจอย่างเเท้จริง เเต่เมื่อเทียบกับเดดพูล เเล้ว เขารู้ดีเกี่ยวกับมิราจไนท์ เพราะก่อนหน้านี้เขาเผชิญหน้ากับมันด้วยตาคู่นี้มาเเล้ว

ไม่นานเเจ็คสันก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้า เขาเห็นยานควินเจ็ทที่ค่อย ๆ ร่อนลงมา ส่วนท้ายยานได้ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็วจากนั้นก็ปปรากฏชายรูปร่างกำยำที่ยืนอยู่ตรงส่วนท้ายยาน นี่ก็คือ สตีฟ โรเจอร์ส ดูเหมือน เขาจะมารับตนเองด้วยตัวของเขาเอง

เเจ็คสันเองก็เดินไปที่ส่วนของท้ายยานก่อนที่จะหยุดลงที่ด้านหน้าของกัปตันโรเจอร์ส

“กัปตันโรเจอร์ส ฉันดีใจที่ได้เห็นคุณอีกครั้ง”เเจ็คสันกล่าวทักทายออกไป

“ฉันเองก็มีความสุขมากที่ได้เห็นคุณอีกครั้ง มิราจไนท์”กัปตันโรเจอร์สกล่าวอย่างจริงจัง

หลังจากทักทายกันเสร็จ เเจ็คสันก็เดินขึ้นยานควินเจ็ทไปในทันที เขารู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช่เวลามามัวเเสดงความดีใจ สิ่งที่เขาต้องการจะรู้มากที่สุดก็คือสถานการณ์ของโทนี่ในตอนนี้ หลังจากเเจ็คสันเดินขึ้นยานเสร็จ ส่วนท้ายยานก็ถูกปิดอย่างรวดเร็ว

ไม่นานยานควินเจ็ทก็ลอยตัวขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่เส้นทางวอชิงตันในทันที

ขณะที่ เเจ็คสัน กำลังติดตามกัปตันโรเจอร์สกลับไปที่ วอชิงตัน ข่าวเรื่องที่ มิราจไนท์ ได้กลับมาเเล้ว ได้เเจ้งเเก่ทุกคน ซึ่งปีเตอร์ เองก็รู้ เขาที่กำลังเข้าเรียนได้โดดเรียนออกมาจากห้งเรียนในทันที

สำหรับปีเตอร์ การที่ เเจ็คสันกลับมาย่อมเป็นข่าวที่ดี เเต่ตอนนี้ อาการของโทนี่ ย่ำเเย่มาก ดังนั้น ปีเตอร์ จึงไม่ต้องการเสียเวลาที่นี่อีก เขาได้ออกจากโรงเรียนพร้อมกับฉีกเสื้อของตนเองเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดสไปเดอร์แมนเเละเริ่มินเเกว่งไปยังอาคารหลายหลัง

ฟุ่บ!

หลังจากปีเตอร์ร่อนลงไปยังหลังคาเเห่งนึงไม่นานประตูมิติอวกาศสีม่วงก็ปรากฏขึ้นข้าง ๆ เขา จากนั้น บลิงก์ เเละ ไอซ์แมนก็เดินออกมาจากข้างใน

“ดูเหมือน มิราจไนท์ จะกลับมาเเล้วสินะ”ไอซ์แมนที่ เห็น สไปเดอร์แมน เขากล่าวถามออกมา

“อืม,ดูเหมือนเขากำลังมุ่งหน้าไปที่ วอชิงตันเเล้ว”ปีเตอร์พยักหน้าอย่างเร่งรีบ

“ฮ่าฮ่า ฉันรู้อยู่เเล้วว่าเขาจะต้องไม่เป็นอะไร”ได้รับคำตอบจากสไปเดอร์แมน ไอซ์แมน รู้สึกดีใจอย่างมาก

จากนั้นไม่นานก็มีเงาร่างนึงปรากฏขึ้นบนอากาศก่อนที่จะร่อนลงมาตรงที่พวกเขาอยู่ นี่ก็คือ เเฮร์รี่ ดูเหมือน เเฮร์รี่ เองก็ได้รับข่าวเรื่องที่ มิราจไนท์กลับมาเเล้ว

“มากันครบเเล้ว,พวกเรารีบไปกันเถอะ”ปีเตอร์กล่าวพูดขึ้น

ฟุ่บ!

บลิงก์เองก็พยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะสร้างประตูมิติอวกาศขึ้นที่ด้านหน้าของพวกเขา ปีเตอร์ ได้เดินเข้าไปคนเเรก จากนั้นก็เป็น ไอซ์แมน เเละ บลิงก์ เเฮร์รี่ ที่พึ่งมาถึงได้เก็บเครื่องร่อนของตนเอง เเละตามเข้าไปในประตูมิติอวกาศโดยตรงจากนั้นพวกเขาก็หายไปจากหลังคาของอาคารนี้

ขณะที่พรรคพวกของเเจ็คสันกำลังตามไปหา ทางด้านโรงเรียนเซเวียร์ ทีม X-MEN ฐานใต้ดินดูเหมือนตอนนี้ในห้องลับจะมีปฏิบัติการลับอะไรบางอย่างอยู่

ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ได้สวมหมวกนิรภัยบางอย่งก่อนที่จะใช้ความสามารถอ่านใจ ตอนนี้เป้าหมายของเขาก็คือบุคคลด้านหน้าซึ่งก็คือ มายา เเฮนเซ่น เมื่อวานนี้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ได้ใช้พลังจิตในการควบคุมจิตใจของเธอ เเต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ราวกับว่า ไวรัส เอ็กซ์ทรีมิสได้เปลี่ยนเเปลงร่างกายมนุษย์ให้มีพัฒนาการในส่วนต่าง ๆ กระทั่งสมองหรือส่วนจิต ดังนั้น มายา จึงมีความสามารถในการต้านทานการบุกรุกจิตใจ

เเต่ทั้งหมดนี้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ก็ไม่ได้ยอมเเพ้ เขารู้ดีว่าหากฝืนทำต่อย่อมประสบความสำเร็จอย่างเเน่นอน

ฟุ่บ!

ภายใต้พลังจิตที่เเข็งเเกร่งของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ไม่นานการป้องกันของมายาก็พังทลายลง จากนั้นความคิดของศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็มุ่งตรงไปที่ใจของมายาเพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ ไวรัส เอ็กซ์ทรีมิส เเละ ข่าวของ เเมดนาริน เเละ คิลเลี่ยน

“นี่มัน…”หลังจากเห็นความทรงจำในใจของมายาศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็เปิดตาทั้งสองข้างขึ้นดูเหมือนเรื่องที่เขาอยากรู้ก็รับรู้เเล้วเหมือนกันในตอนนี้

จากนั้นศาสตราจารย์ชาร์ลส์ก็รีบเข็นรถเข็นของตนเองออกไปเขาจะต้องรีบเเจ้งเรื่องนี้ให้กัปตันโรเจอร์สทราบ

ขณะที่เเจ็คสันเเละเดดพูลกำลังรีบมุ่งหน้าไปยังใจกลางเมืองนิวยอร์กอย่างรวดเร็ว เจอร์รี่ ที่อยู่ในฐานลับทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เขานั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะคอม สำหรับวันนี้ เขาก็ทำหน้าที่เหมือนเดิม คือการค้นหามิราจไนท์ เเละ เดดพูล ที่หายตัวไป เจอร์รี่ไม่เพียงเเต่ระดมกองกำลังเพื่อนเเฮ็กเกอร์หลายคนของเขา เเต่เขายังสละเวลานอนพักของตนเองจนเเทบจะไม่ได้พักผ่อน

อย่างไรก็ตามไม่ว่าพวกเขาจะตรวจสอบเเละสามารถควบคุมเครือข่ายหลายพื้นที่ได้สำเร็จ พวกเขาก็ไม่พบวี่เเววของมิราจไนท์เเละเดดพูลเเม้เเต่น้อย ยิ่งไปกว่านี้ เมื่อวาน ก็มีข่าวที่สะเทือนใจเข้ามาอีก ไอรอนแมน โทนี่ ได้รับบาดเจ็บรุนเเรง ชะตากรรมของคน ๆ นี้ ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง เจอร์รี่ รู้ได้ในทันทีว่านี่จะต้องเป็นฝีมือของพวก คิลเลี่ยน เเละ เเมนดาริน เเละ ทหารเอ็กซ์ทรีมิของพวกเขาอย่างเเน่นอน ดังนั้นหากตอนนี้พวกเขาต้องรับมือกับคนเหล่านี้ ทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เอง ก็คงจะต้องสูญเสียหนักเช่นเดียวกัน

ขณะที่เจอร์รี่กำลังหยิบจานอาคารของเขาขึ้นมากินอย่างเรียบง่ายหน้าคอมพิวเตอร์ จู่ ๆ บนคอมของเขาก็ปรากฏเสียงเเจ้งเตือนมันเป็นเสียงเเจ้งเตือนสำหรับเครือข่ายภายในเมื่อได้รับข่าวเกี่ยวกับ มิราจไนท์

“หรือว่าเป็นข่าวของมิราจไนท์?”ได้ยินเสียงเเจ้งเตือนเครือข่ายภายในเจอร์รี่รีบกดเเป้นพิมพ์ในคอมพิวเตอร์ทันที

“เฮ้,ฉันเจอร์รี่ ได้ข่าวว่าไงมั่ง”เจอร์รี่เข้าสู่ห้องเเชทสนทนากลุ่มทันที

ในเขตเมืองนิวยอร์กร่างสองร่างได้ใช้เครื่องร่อนบินผ่านเหนือน่านฟ้าของเขตเมืองนิวยอร์ก ความเร็วที่พวกเขาใช้นั้นรวดเร็วมากหากไม่สังเกตุอย่างระวังจะไม่รู้ตัวเลยว่ามีอะไรบินผ่านไป

“นั่น มิราจไนท์ ไม่ใช่หรอ?”หลังจากเห็นบุคคลนึงที่คุ้นเคย เพื่อนคนนึงที่อยู่ด้นล่าง ชี้ไปที่ด้านบนอย่างสงสัย

“ไม่น่าจะใช่หรอกมั้ง มิราจไนท์ จะไม่ปรากฏตัวในตอนกลางวัน เเต่เสื้อผ้าของเขาก็ค่อนข้างคุ้น ๆ นะเนี่ย คงจะเป็นพวกฮีโร่หน้าใหม่ละมั้ง”หลังจากบุคคลนั้นถามเพื่อนสนิทของเขา เพื่อนคนนี้ก็ตอบกลับ

“ก็มีความเป็นไปได้ เเต่นายก็เห็นเสื้อผ้านั่นนี่ นั่นเป็นเสื้อผ้าชุดของมิราจไนท์ไม่ผิดเเน่”

“ฉันคิดว่านายอาจจะคิดมากเกินไป”

ขณะนั้นเองพวกเเจ็คสันก็เร่งเครื่องร่อนมุ่งตรงสู่ฐานทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์

สำหรับเดดพูล เหตุผลที่คนอื่น ๆ ไม่สังเกตุเห็นชุดสีเเดงที่สะดุดตาของเขาก็เพราะมันได้ถูกทำลายไปเมื่อตอนที่อยู่ดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์นั่น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใส่เสื้อคลุมตัวเก่งเหมือนกับมิราจไนท์ เพียงเป็นชุดบ้าน ๆ ธรรมดาเพียงเท่านั้น

หลังจากถึงที่หมาย เเจ็คสันได้กระโดดลงไปที่ด้านล่างอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกกังวลอย่างมากว่าคนอื่น ๆ จะคิดยังไง เขาหายตัวไปมากกว่า 2 วัน มันก็เพียงพอที่จะทำให้คนอื่น ๆ เป็นห่วงเเล้ว

สำหรับเรื่องของโทนี่ เเจ็คสันยังไม่รู้รายละเอียดมากนักดังนั้นเขาจึงต้องการไต่ถามเจอร์รี่เป็นการส่วนตัว

“เจอร์รี่ ฉันกลับมาเเล้ว”ไม่นาน เเจ็คสันก็เดินเข้าไปในฐานพร้อมกับปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของเจอร์รี่

“มิราจไนท์ คุณกลับมาเเล้ว พวกเราตามหาคุณ เเทบจะพลิกเเผ่นดินกันเลยทีเดียว”เห็นมิราจไนท์ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของตนเอง เจอร์รี่ ตะโกนอย่างตื่นเต้น

เเม้ว่าพวกเขาจะพลิกเเผ่นดินหาตนเองเเจ็คสันก็คิดว่าพวกเขาคงจะไม่เจอหรอกเพราะตัวเขาเองไม่ได้อยู่ที่โลกนี้เเต่ถูกส่งไปนอกโลก

“เกิดอะไรขึ้น?ฉันเพิ่งเห็นข่าวว่า ไอรอนแมน โทนี่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส”เเจ็คสันกล่าวถามออกมาอย่างรวดเร็ว นี่เป็นเรื่องที่เขาสนใจมากที่สุดตอนนี้

“ดูเหมือน คุณ สตาร์คจะนัดเจอกับ มายา เเฮนเซ่น เป็นการส่วนตัว โดยไม่พกชุดเกราะไอรอนแมนไปด้วย เเต่ดูเหมือนเขาจะพกอุปปกรณ์ป้องกันแบบใหม่ไป นี่ก็เป็นเรื่องที่ฉันรู้มา อย่างไรก็ตาม คิลเลี่ยน นั้น ร้ายกาจเกินไป พวกมันไม่สนใจความปลอดภัยของมายา เเม้เเต่น้อย เมื่อ คุณ สตาร์ค ไปถึง ก็มีทหารเอ็กซ์ทรีมิสหลายคนปรากฏขึ้นทำลายตนเองโดยตรง โชคดีที่พวกกัปตันโรเจอร์สเข้าสนับสนุนคุณสตาร์คได้ทัน เเต่ก็โชคไม่ดี ดูเหมือนตอนนี้เขาจะนอนพักรักษาตัวในสำนักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. ที่วอชิงตัน เเต่ว่าเขายังไม่ได้สติเลยจนถึงตอนนี้”ได้ยินความกังวลของมิราจไนท์ เจอร์รี่ รีบตอบคำถามอย่างรวดเร็ว

“ไม่คิดเลยว่าเพื่อนคนนี้จะบ้าระห่ำขนาดนี้”ได้ยินคำตอบจากเจอร์รี่ เเจ็คสันกำหมัดเเน่น

เเจ็คสันรู้ดีว่าที่โทนี่ไม่ได้เอาชุดเกราะไอรอนแมนไปเพราะต้องการซื้อใจ มายา เเฮนเซ่น เเต่เขาก็ไม่ประมาทเกินไปเเละยังพกชุดเกราะกลายพันธุ์ไปด้วยเพียงเเต่ชุดเกราะกลายพันธุ์เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทหารเอ็กซ์ทรีมิหลายคน มันก็คงไม่สามารถช่วยปกป้องโทนี่ได้ถึงที่สุด โชคดีที่ กัปตันโรเจอร์สมาช่วยไม่งั้นโทนี่คงเเย่

การระเบิดพลังของพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิจำนวนมากนั้น เเม้จะเป็นชุดเกราะกลายพันธุ์ ก็ไม่สามารถป้องกันได้อย่างสมบูรณ์แน่นอน

“มิราจไนท์ คุณกลับมาก็ดีเเล้ว ตอนนี้ฉันได้เเจ้งให้ทุกคนรู้ก่อนหน้านี้ว่าคุณกลับมาเเล้ว”เจอร์รี่ ที่ได้สติกลับมารีบกล่าวพูดขึ้น

“อืม,บอกS.H.I.E.L.D. ให้ส่ง ยานควินเจ็ท มารับฉันด้วย ฉันจะไปที่ วอชิงตัน เพื่อดูอาการของโทนี่”เเจ็คสันพูดออกไปอย่างรวดเร็วเขาได้ติดต่อหาครอบครัวก่อนที่จะมาที่นี่เเล้ว ดังนั้นพอได้ข่าวว่า โทนี่ ได้รับบาดเจ็บ เเจ็คสัน ก็รู้สึกเป็นห่วงในทันที

“พวกเขาได้ส่งยานออกมาเเล้วก่อนหน้าคาดว่าอีกไม่นานก็คงจะถึง”เห็นว่ามิราจไนท์รู้สึกไม่สบายใจ เจอร์รี่ ตอบกลับในทันที

“อืม,เจอร์รี่ ฉันต้องขอบคุณนายมาก”ดูจากลักษณะใบหน้าของเจอร์รี่ เเจ็คสัน ก็รู้ได้ในทันทีว่า เจอร์รี่ เเทบจะไม่ได้พักผ่อนเลย ดังนั้น เเจ็คสันจึงยื่นมือออกไปตบไหล่เพื่อกล่าวขอบคุณ

“คุณไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ นี่เองก็เป็นหน้าที่ของฉัน จริงสิ คุณพอจะมีวิธีช่วยเหลือคุณสตาร์คหรือไม่?”เจอร์รี่กล่าวถามออกมา

“ก็อาจจะ…”

ห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาล โทนี่ ยังคงนอนหลับไม่ได้สติ กัปตันโรเจอร์ส ได้เฝ้ามองเขาผ่านนอกห้องกระจก ตอนนี้ความรู้สึกของเขาไม่ค่อยสู้ดีนัก เขารู้ดีว่า คิลเลี่ยน เเละ เเมนดาริน ต้องการจะฆ่าโทนี่ เเต่เขาก็ยังยอมรับเเผนบ้า ๆ ของโทนี่ ที่ให้โทนี่เอาตนเองไปเสี่ยง หากผิดพลาดนิดเดียว โทนี่ อาจตายได้ในทันที

เหตุผลที่เเมนดารินต้องการจะฆ่าโทนี่ก็เพราะ ไอรอนแมน ถือว่าได้รับความเชื่อมั่นจากผู้คนทั่วโลก หากสามารถกำจัดไอรอนแมนได้ ทั่วทั้งโลกจะต้องตกสู่ความเกรงกลัวอย่างเเน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น เเมนดาริน ยังสามารถเเฮค ระบบ J.A.R.V.I.S ได้อีก หากพวกเขาสามารถครอบครองชุดเกราะไอรอนแมนของ โทนี่ ได้สำเร็จ เเม้เเต่ S.H.I.E.L.D. เเละ กัปตันโรเจอร์ส เอง ก็ต้องตกที่นั่งลำบาก

ทางด้าน มายา เเฮนเซ่น ทางS.H.I.E.L.D. กำลังให้ความคุ้มครองเธออยู่ เมื่อวานนี้ หลังจาก นัด มายา เเฮนเซ่นมา ไม่รู้ว่า เป็นเพราะข่าวการนัดพบระหว่าง โทนี่ กับ มายา รั่วไหลหรือไม่ คิลเลี่ยน จึงสามารถลอบโจมตี โทนี่ได้

ในช่วงเหตุการณ์ครั้งนั้นมายาได้ฉีดไวรัสเอ็กซ์ทรีมิสเข้าสู่ร่างกาย เธอที่ยังไม่ปรับตัวเกือบจะตายเพราะการระเบิดโดยตรง เเต่เนื่องจากเธอได้รับบาดเจ็บจากเเรงระเบิดก่อนผลของระเบิดที่มาจากตัวเธอจึงหยุดลง ดังนั้น ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ จึงช่วยควบคุมจิตใจของเธอให้เธอสูญเสียสติสัมปชัญญะเเละปล่อยให้ กัปตันโรเจอร์ส ดูเเล

ตอนนี้พวกเขาไม่รู้ว่าทางด้านเเมนดาริน จะเคลื่อนไหวยังไงต่อไป

“นี่มันคงเป็นชะตากรรมที่นายต้องเผชิญสินะ ฝ่ายตรงข้ามไม่ลังเลที่จะเสียสละทหารเอ็กซ์ทรีมิสหลายคนเพื่อที่จะฆ่านายให้ได้”กัปตันโรเจอร์สถอนหายใจออกมาเบา ๆ

เมื่อนึกถึงอาการของโทนี่ในตอนนี้ การที่จะประคองให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเเล้วดังนั้นเรื่องที่โทนี่จะฟื้นขึ้นมาในระยะเวลาอันสั้นย่อมเป็นไปได้ยากมาก

“มีอะไร?”ขณะนั้นเองจู่ ๆ นาฬิกาข้อมือของกัปตันโรเจอร์สก็ปรากฏเสียงเเจ้งเตือนเขาได้กดรับ

“มิราจไนท์ เเละ เดดพูล ที่หายตัวไปดูเหมือนเขาจะกลับมาเเล้วครับ”เจ้าหน้าที่คนนึงได้กล่าวรายงานกัปตันโรเจอร์สอย่างรวดเร็ว

“ข่าวนี้น่าเชื่อถือมากเเค่ไหน?”กัปตันโรเจอร์สกล่าวถามด้วยอารมณ์ตื่นเต้น

“พวกเขาเพิ่งปรากฏตัวในนครนิวยอร์ก”เจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้กล่าวตอบ

ได้ยินการรายงานจากเจ้าหน้าที่สื่อสารคนนี้ โทนี่ ที่ปัจจุบันเป็นกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของโทนี่ เขารู้สึกชื่นใจขึ้นมาเล็กน้อย มิราจไนท์ ถือเป็นความหวังของเขา

“คงต้องปล่อยให้โทนี่นอนพักฟื้นไปก่อน ฉันเชื่อว่าอาการของเขาคงไม่ทรุดตัวลง นอกจากนี้ เเดร์เดวิลยังบอกอีกว่า ถ้าพบมิราจไนท์ บางที เขาอาจจะสามารถช่วยโทนี่ได้”

กัปตันโรเจอร์สจ้องมองไปที่โทนี่ในห้องผู้ป่วยในโรงพยาบาลก่อนที่เขาจะก้าวเดินออกไป

ก่อนหน้านี้หลายนาทีในเขตชานเมืองนิวยอร์กเเสงสีรุ้งได้ทะลุผ่านชั้นเมฆเเละปรากฏตัวขึ้นในสถานที่เเห่งนึงจากนั้นก็หายไป หลังจากลำเเสงหายไปเมฆสีดำเเละปรากฏการณ์ฟ้าร้องเองก็หายไปอย่างรวดเร็ว บนพื้นดินนั้นหลงเหลือเพียงสัญลักษณ์เเละปรากฏบุคคลทั้งสามคนขึ้น

ฟู่ว!

“ในที่สุดก็ได้กลับบ้านสักที”เดดพูล ที่กลับมาถึงดาวเคราะห์โลกเขาสูดอากาศเเละหายใจเข้าด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

การเดินทางครั้งนี้ของเขาได้รับประสบการณ์ที่ขมขื่นมากมาย เเต่ก็ยังมีเรื่องน่าดีใจอย่างการใช้งานสะพานไบฟรอส เขาได้เห็นสิ่งที่น่าทึ่งที่เป็นเทคโนโลยีของพวก เเอสการ์ด นี่ก็เพียงพอเเล้วที่เดดพูลจะสามารถคาดเดาได้ว่าเเอสการ์ดนั้นทรงพลังขนาดไหน

“นี่คือความรู้สึกหลังจากใช้สะพานไบฟรอสสองครั้งติดสินะ?”เเจ็คสันรู้สึกได้ถึงความรู้สึกเเปลกใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

เอนเชี่ยนวันนั้น ได้ไปที่เเอสการ์ดเเละขอความช่วยเหลือจากพวกเขาในการยืมสะพานไบฟรอส มาเพื่อช่วยพวกตนเอง นี่ทำให้ เเจ็คสัน รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก

“ที่นี่คือเขตชานเมืองในนครนิวยอร์ก ที่เหลือพวกเจ้าก็เดินทางกันเองต่อเเล้วกัน ได้เวลาที่ข้าจะต้องกลับไปเเล้ว”ขณะนั้นเอง เอนเชี่ยนวันก็จ้องมองไปที่ เเจ็คสัน เเละ เดดพูล ดูเหมือนว่าหน้าที่ต่อจากนี้เขาจะไม่เข้าไปยุ่งอีก

“ต้องขอบคุณ คุณอีกครั้ง ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน!”เเจ็คสันโค้งคำนับด้วยความนอบน้อมพริบตาต่อมาร่างของเอนเชี่ยนวันหายไปอย่างรวดเร็ว

“มิราจไนท์ ดูเหมือนการเดินทางครั้งนีน้ของเราจะไม่สูญเปล่าสินะ ฉันคิดว่าฉันจะลองเขียนหนังสือสักเล่มดูดีไหม? เอาเป็นชื่อว่า เดดพูลผู้หล่อเหลา เเละ มิราจไนท์ ผู้ลึกลับ กับการเดินทางข้ามจักรวาล คุณคิดว่าจะดีหรือไม่?”หลังจากเอนเชี่ยนวันจากไป เดดพูล ก็ถอนหายใจออกมา ตอนนี้ในหัวของเขาเต็มไปด้วยจินตนาการจำนวนมาก

“หากนายคิดจะเขียนฉันก็ไม่ได้ว่า เเต่ว่าตอนนี้พวกเรารีบไปกันเถอะ พวกเราได้หายตัวไปมากกว่า 2 วัน ไม่รู้ว่าคนอื่น ๆ จะคิดยังไงกันบ้าง”ได้ยินคำพูดของเดดพูล เเจ็คสัน ไม่ได้สนใจเเม้เเต่น้อย เขาต้องการที่จะกลับไปโดยเร็วที่สุด

“อืม,วาเนสซ่า ที่รัก ของฉัน ก็คงจะกำลังเป็นกังวลอยู่เเน่เลย”เดดพูล พยักหน้าอย่างรวดเร็วจากนั้นเขาก็เริ่มวิ่งติดตาม มิราจไนท์ไปอย่างใกล้ชิด

ฟุ่บ!

ทางด้านสตาร์ลอร์ด,เเรคคูน เเละก็ กรูซ หลังจากถูกเเสงสีทองกลืนกินเข้าไปพวกเขาก็ไปโผล่ยังสถานที่เเห่งนึง

ฟุ่บ!

พวกสตาร์ลอร์ดได้ลุกขึ้นยืนขึ้นเเละตอบสนองอย่างไม่สบอารมณ์

“หึ่ม! ฉันกำลังจะบอกว่าเดี๋ยวก่อนไม่คิดจะฟังกันเลยใช่มั้ย!”สตาร์ลอร์ดสบถออกมาอย่างรุนเเรง

จากนั้นด้านหน้าของพวกเขาก็ปรากฏสิ่งก่อสร้างจำนวนมากซึ่งมันเหมือนกับถนนเส้นทางก่อนหน้านี้เพียงเเต่ในเวลานี้มียานพาหนะเเละผู้คนสัญจรไปมาอย่างต่อเนื่อง

“นี่คือโลกเเห่งความจริง?เช่นนั้นก่อนหน้านี้พวกเราอยู่ในโลกเสมือนจริงงั้นหรอ?”หลังจากสังเกตุอย่างระวัง เเรคคูน คิดอย่างสงสัย

“เอาล่ะดูเหมือนว่าว่าเราจะต้องสอบถามเกี่ยวกับที่นี่ก่อนเป็นอันดับเเรกสินะ”หลังจากมาถึงเมืองที่ไม่คุ้นเคยเเน่นอนว่าสิ่งเเรกที่พวกเขาจะต้องทำก็คือศึกษาพื้นที่

เนื่องจากเพื่อนของมิราจไนท์ได้ส่งเขามายังดาวเคราะห์ที่เจริญอารยธรรมเเล้วก็จริงเเต่พวกเขาก็ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับที่นี่ ทั้งเขายังต้องหาทางติดต่อ กาโมร่า เเละ เดร็ก อีกด้วย หลังจากนั้นเขาก็จะนำทีมของเขาออกตามหาพ่อของตนเอง

“เห้ย,อย่ามายืนขวางทางรถวิ่งสิวะ!”ขณะนั้นเองจู่ ๆ ก็มีชายคนนึงตะโกนออกมาจากห้องตัวยานพาหนะ

ฟุ่บ!

เพียงเเต่ว่าขณะที่เขากำลังตะโกนด่า เเรคคูน ก็ได้ยกปืนชี้ไปที่ศีรษะของชายคนนั้นพร้อมกับเปิดระบบอาวุธเตรียมพร้อม

“เอ๋…เอ่อ ข้าเเค่ล้อเล่นหน่ะ ทางที่ดีพวกเจ้าถอยไปหน่อยจะดีกว่า”ชายคนนั้นที่เห็นเเรคคูนชี้ปืนมาที่ตนเองเขารีบมุดหัวกลับเข้าไปในยานพาหนะเเละรีบเเจ้นออกไปในทันที

สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน จ้องมองหน้ากันก่อนที่จะพยักหน้าอย่างเห็นพ้องต้องกันเพราะพวกเขายังมีอะไรที่จะต้องจัดการอีกเยอะดังนั้นเขาไม่ควรมาเสียเวลาที่นี่อย่างเปล่าประโยชน์

ขณะที่พวกสตาร์ลอร์ดกลับสู่โลกความจริง ก็ยังมีพวกเเจ็คสันทั้งสามคนที่ยังอยู่ในโลกเสมือนจริง เเจ็คสันได้คุยกับเอนเชี่ยนวันเรื่องอนาคตที่ไร้สิ้นสุดของตนเองจากนั้น เเจ็คสันที่จบเรื่องนั้นก็กังวลเกี่ยวกับเรื่องทางบ้าน

“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน พวกเราจะวาปกลับโลกเลยหรือไม่?”เเจ็คสันได้กล่าวถามเอนเชี่ยนวันโดยตรง

“ระยะทางของประตูมิติเวทย์มนตร์นั้นมีจำกัด เเละสถานที่เเห่งนี้อยู่ไกลจากโลกมากเกินไปดังนั้น เราจึงต้องการความช่วยเหลือ”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันเอนเชี่ยนวันยิ้มออกมา

“หืม?ความช่วยเหลือ?”เเจ็คสันรู้สึกสงสัยอย่างมาก ใครกันที่ เอนเชี่ยนวันต้องการขอความช่วยเหลือดังนั้นเขาจึงรู้สึกสงสัยอย่างมาก

จากนั้นเเสงสีทองก็ครอบคลุมร่างของพวกเเจ็คสัน ไม่นาน พวกเเจ็คสันก็มาปรากฏตัวในทุ่งหญ้าสีเขียวที่ไร้สิ้นสุดเห็นได้ชัดว่าตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่ในโลกเสมือนจริงอีกเเล้ว

ใต้เท้าตรงสนามหญ้าที่พวกเขาอยู่เเจ็คสันได้มองเห็นสัญลักษณ์เเปลก ๆ ที่วาดเอาไว้

“นี่มัน…ทำไมมันถึงดูคุ้นเคยนักเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน?”

ขณะที่เเจ็คสันกำลังครุ่นคิดเขาก็เหมือนจะนึกได้ว่าตอนธอร์ตกลงมาที่โลกก็มีสัญลักษณ์นี้เหมือนกัน ดังนั้นไม่เเปลกใจที่ เเจ็คสันจะค่อนข้างคุ้นเคย

“หรือว่าความช่วยเหลือที่เขาพูดถึงคือ เเอสการ์ด? สะพานไบฟรอส?”เเจ็คสันครุ่นคิดในใจ

~~~ฟุ่บ

จากนั้นท้องฟ้าสีใสก็ปรากฏคลื่นพลังความผันผวนที่รุนเเรงจนกลุ่มเมฆเเตกกระจาย

“เป็นสะพานไบฟรอสจริง ๆ !”เห็นเเสงสีรุ้งที่พุ่งทะลุชั้นเมฆตรงลงมาที่ตำเเหน่งของตนเอง เเจ็คสันอุทานออกมาเล็กน้อย

จากนั้นเเสงสีรุ้งก็ได้กลืนพวกเขาทั้งสามคนหายไปจากพื้นที่ทุ่งหญ้าสีเขียวเเห่งนี้เหลือไว้เพียงรอยไหม้เกรียมที่เป็นสัญลักษณ์อันจำเพาะของสะพานไบฟรอส

ที่โลก,ช่วงเวลาที่มิราจไนท์หายตัวไป ก็คือ 4 วัน ดูเหมือนความเร็วที่โลกนั้นจะเร็วกว่าที่ดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์อยู่สองเท่า ช่วงที่ มิราจไนท์ เเละ เดดพูลหายไป คนของทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ก็เป็นกังวลอย่างมาก เพราะเมื่อไม่นานมานี้ ไอรอนแมน โทนี่ สตาร์ค ได้รับบาดเจ็บสาหัสเเละนอนรักษาตัวพักฟื้นอยู่

~~

ในห้องไอซียูสำนักงานใหญ่ S.H.I.E.L.D. ในวอชิงตัน โทนี่ ได้นอนหลับตาลงอยู่บนเตียงสีขาวบริสุทธิ์รอบข้างของเขาคือเครื่องมือทางการเเพทย์ที่ใช้ตรวจสอบสภาพร่างกาย

เมื่อวานในขณะที่โทนี่ไปพบ มายา เเฮนเซ่น เขาได้ถูกลอบโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส เเม้ โทนี่ เเละ พวกกัปตันโรเจอร์ส จะเตรียมพร้อมอยู่ก่อนเเล้ว เเต่เพราะ โทนี่ ไม่ได้เอาชุดเกราะไอรอนแมนไป โชคดีที่ โทนี่ พกชุดเกราะกลายพันธุ์ไปด้วยทำให้เขาสามารถหลบหนีออกมาได้ ดูเหมือน โทนี่ เเละ กัปตันโรเจอร์ส จะประเมินพวก คิลเลี่ยนต่ำเกินไปจริง ๆ

โทนี่ เเละ มายา ได้นัดพูดคุยกันที่ร้านอาหารเล็ก ๆ ริมถนน ที่เเห่งนี้ไม่ค่อยเป็นที่สะดุดตาเท่าไหร่นัก เเต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ถูกลอบโจมตี ไม่รู้ว่านี่เป็นเเผนของมายาหรือไม่ เเต่โชคดีที่โทนี่ตัดสินใจถูกที่พกชุดเกราะกลายพันธุ์มาด้วย เเม้ชุดเกราะกลายพันธุ์จะเเข็งเเกร่ง เเต่ด้วยความที่ว่าต้องเผชิญหน้ากับพวกทหารเอ็กซ์ทรีมิสหลายคน โทนี่ ที่ยังปรับปรุงชุดเกราะไม่เสร็จย่อมเป็นฝ่ายเสียเปรียบเขาโดนระเบิดชีวภาพเข้าอย่างจัง ๆ จนได้รับบาดเเผลรุนเเรง

หลังจากพวกเขาหายไป เเจ็คสัน ก็รู้สึกว่าบรรยากาศโดยรอบของพวกเขามีการเปลี่ยนเเปลงเล็กน้อย เอนเชี่ยนวัน ได้วาดสัญสักษณ์มือบางอย่างขึ้น

“นั่น…ฉันเหมือนเห็นใครเดินผ่านเลย”เดดพูลที่คิดว่าบรรยากาศเเปลก ๆ เขามองไปที่หนึ่งที่มีเเสงสว่างปรากฏขึ้นตรงมุมถนน

ฟุ่บ!

ได้ยินเสียงของเดดพูล เเจ็คสัน เองก็จ้องมองไปยังทิศทางนั้น

“คงจะเป็นเวทย์มนตร์ของปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันเเหละไม่ต้องคิดมาก”เผชิญหน้ากับบางสิ่งบางอย่างที่เเปลกประหลาดเเจ็คสันพึมพัมออกมา

หลังจากเเจ็คสันเปิดปากพูดขึ้น เอนเชี่ยนวัน ก็หันมามองที่เขา สายตาของเเจ็คสันเองก็รู้สึกสงัสยอย่างมาก จากนั้นไม่นานเอนเชี่ยนวันก็ยิ้มออกมา

“ก็อย่างที่เจ้าว่านั่นเเหละไม่ต้องใส่ใจ ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเองก็อยากรู้อยากเห็นเรื่องของเจ้าว่าเจ้าจะสามารถเปลี่ยนเเปลงโลกของเราไปในทิศทางใด”เอนเชี่ยนวันกล่าวออกมา

“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน คุณหมายถึงอะไรกันเเน่?”ได้ยินคำพูดของเอนเชี่ยนวัน เเจ็คสันรู้สึกสงสัย

“เด็กน้อยเอ๋ย จำเอาไว้ว่าถึงข้าจะสนับสนุนเจ้า เเต่พวกเราเหล่าพ่อมด ไม่ใช่พันธมิตรของเจ้า”เอนเชี่ยนวันไม่ได้ตอบคำถามของเเจ็คสันเพียงพูดทางอ้อม เเจ็คสัน จะทำเรื่องอะไรต่อจากนี้ พวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพียงเเต่หากเส้นทางที่เเจ็คสันเลือกเดินเเละทำให้โลกถึงคราวอันตรายเเล้วล่ะก็ เอนเชี่ยนวัน เองก็จะหันคมดาบใส่เขาทันที นี่ก็คือความหมายที่เอนเชี่ยนวันจะสื่อ

“ฉันรู้ เเต่ทั้งหมดที่ฉันทำก็เพื่อปกป้องโลก ดังนั้น คุณคงไม่คิดว่าทุกอย่างที่ผมทำไปจะทำให้คุณกังวลหรอกใช่มั้ย?”ได้ยินคำพูดของเอนเชี่ยนวัน เเจ็คสัน เข้าใจความหมายของเขา

หน้าที่ของเอนเชี่ยนวันเเละเหล่าพ่อมดคือการปกป้องโลกดังนั้นไม่ว่าเเจ็คสันจะทำอะไรพวกเขาจะไม่สอดมือเข้ามายุ่งหากเเต่ว่าเเจ็คสันเองก็ไม่คิดว่าตนเองที่ตกที่นั่งลำบาก เอนเชี่ยนวัน ยังอุส่าถ่อมาช่วยเขาถึงที่นี่ ดังนั้น เเจ็คสัน จึงรู้สึกขอบคุณอยู่ไม่น้อย

เดิมเเล้วกฏของเหล่าพ่อมดก็คือไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลกเพียงเเต่ตั้งเเต่เเจ็คสันเข้ามา เหล่าพ่อมดก็ถูกดึงเข้ามาร่วมชะตากรรมเหล่านี้ด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ เอนเชี่ยนวัน รู้สึกเคลือบเเคลงในตัวตนของเเจ็คสัน ตัวตนของเด็กคนนี้ จะชักนำทุกคนเข้ามาสู่ชะตากรรมที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

“เจ้าเองก็คงรู้ว่าข้าหมายถึงอะไร”เอนเชี่ยนวันยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อย

“เเน่นอน,ฉันย่อมรู้ว่าคุณหมายถึงอะไร เเต่นี่คือความจริงที่ฉันสามารถบอกคุณได้”เเจ็คสันยืนยันในคำพูดของตนเองอย่างหนักเเน่น

“งั้นหรอ!อืม…เจ้าคิดว่าเพราะอะไรพ่อมดอย่างพวกเราถึงเฝ้าจับตามองโลกเเละไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก”เอนเชี่ยนวันกล่าวถามออกมา

“ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือกัน”เเจ็คสันรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น

ฟุ่บ~~

เอนเชี่ยนวันไม่ได้ตอบเเจ็คสันเพียงยกมือกวัดเเว้งเพียงเล็กน้อยจากนั้นภาพเส้นทางสามสีที่เเตกต่างกันก็ปรากฏขึ้นเส้นทางเเรกคือเส้นทางสีทองเส้นทางที่สองคือเส้นทางสีฟ้า เเละ เส้นทางที่สามคือเส้นทาง สีเเดง สิ่งเหล่านี้ได้ยืดยาวออกไปไม่รู้ว่าเส้นทางปลายสายนั้นกว้างไกลเเค่ไหน

“หรือว่า…”เห็นเส้นทางเหล่านั้นเเจ็คสันเหมือนจะเข้าใจความหมายที่เอนเชี่ยนวันต้องการจะสื่อ

“เส้นทางเเรกคือเส้นทางอดีต เส้นทางที่สองคือเส้นทางอนาคต ทุกครั้งที่เส้นทางสีทองเปลี่ยนไป เส้นทางสีฟ้าก็จะเปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน สำหรับเส้นทางที่สามมันคือเส้นทางไร้กฏเกณฑ์เส้นทางนี้คือตัวชี้นำที่จะเปลี่ยนเเปลงอดีตอนาคตทั้งหมด ดังนั้น ตัวตนของพวกเราก็คือการเฝ้าจับตาระวังเส้นทางที่ 3 นี้”เอนเชี่ยนวันกล่าวออกมา

“เส้นทางไร้กฏเกณฑ์?”การเเสดงออกของเเจ็คสันเเปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“อืม!”เอนเชี่ยนวันตอบกลับเบา ๆ

เส้นทางที่สามได้เเสดงเส้นเเตกเเยกเเขนงออกไปหลายเส้นทางมันไม่อาจคาดเดาได้ว่ามันจะสิ้นสุดตรงไหนเมื่อไหร่เเละตอนไหน ดังนั้น มันถึงได้ชื่อว่าเส้นทางไร้กฏเกณฑ์

“คุณต้องการจะบอกอะไรกันเเน่…?”เเจ็คสันกล่าวถามออกไปด้วยความสงสัย

ตอนนี้เส้นทางทั้งสามสีได้หมุนวนล้อมรอบเเจ็คสันอย่างรวดเร็วโดยเส้นทางสองเส้นทางก่อนเเรกนั้นเเทบจะถูกเส้นทางที่สามกลืนกินหายไป

“นี่คือเส้นทางของเจ้า เส้นทางไร้กฏเกณฑ์ ข้าเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เเต่ดูเหมือนชะตากรรมของเจ้าจะทำให้ อดีต เเละ อนาคต สามารถเปลี่ยนเเปลงได้ ดังนั้น ข้าจึงไม่อาจคาดเดาอนาคตที่ไร้ที่สิ้นสุดของเจ้าได้”เอนเชี่ยนวันตอบกลับ

“อนาคตไร้สิ้นสุด?ฉันไม่ได้ต้องการสิ่งเหล่านี้สักหน่อย”ได้ยินคำอธิบายของเอนเชี่ยนวัน เเจ็คสัน รู้สึกเหมือนได้รับการกระตุ้น

อนาคตที่ไร้สิ้นสุดของตนเอง ก็ไม่เเปลก เพราะเเจ็คสันในปัจจุบันมีความคิดหลายอย่างที่จะชักนำโลกมาร์เวลเเห่งนี้ให้เดินไปยังเส้นทางที่ปลอดภัยเเละถูกต้อง

“ดังนั้นถึงเเม้เจ้าจะรู้เช่นนี้ เจ้าก็ยังอยากที่จะเปลี่ยนเเปลงอนาคตของตนเองอยู่อีกหรือไม่?”ได้ยินคำอุทานของเเจ็คสัน เอนเชี่ยนวัน กล่าวถามออกมา

“เเน่นอน!”

หลังจากสังเกตุอย่างละเอียดในผืนป่าบริสุทธิ์เเห่งนั้น กลุ่มผู้บัญชาการกองร้อยพวกนี้ต่างก็ค้นพบความผิดปกติที่เกิดขึ้น หากเป็นร่องรอยทั่วไปย่อมไม่มีผลกระทบวงกว้างเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่ปกติ

นอกจากนี้ยังมีเศษคราบเลือดอยู่เต็มพื้นที่เเถวนั้นน สิ่งมีชีวิตโดยรอบเองก็เเทบจะไม่หลงเหลืออยู่

“หืม?รอบทับ ยังมีร่องรอยอื่นอยู่อีกงั้นหรอ?”ได้ยินชายคนนึงกล่าว ยอนดู รู้สึกประหลาดใจ

“มีร่องรอยอื่นอยู่ด้วยอีกหรือไม่? ไม่น่าจะใช่ เห็นได้ชัดว่านั่นมีเเค่เจ้าสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์ตัวเดียว!”

ยอนดูรู้สึกประหลาดใจเเปลก ๆ ดังนั้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์?จะเกิดขึ้นต่อไป เขาจะต้องวางเเผนเเละเตรียมการกันก่อน

“ยอนดู พวกเราตรวจสอบพื้นที่โดยรอบเเล้ว ดูเหมือนจะไม่พบอันตรายใด ๆ “บนหน้าจออุปกรณ์เพื่อนในชุดคลุมสีดำกล่าวตอบ

“เข้าใจเเล้ว ข้าไม่รู้ว่ารอบทับอีกอย่างนึงคืออะไร เเต่ข้าคิดว่าตอนนี้เราไม่ควรไปยุ่งกับมันบางทีอาจมีสิ่งที่น่ากลัวรอเราอยู่ข้างในนั้น”ยอนดูพยักหน้าเล็กน้อย

“อืม”

จากนั้นเเสงหน้าจอก็ดับไปยอนดูได้เก็บอุปกรณ์สื่อสารของเขา

หลังจากยอนดูเสร็จสิ้นการสนทนากับหุ้นส่วนเก่าเมื่อไม่นานนี้ผู้ช่วยของเขาได้เดินเข้ามาเเละกล่าวถาม”บอส เจ้าสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นถูกกำจัดเเล้วงั้นหรอ?”

ในความคิดของผู้ช่วยคนนี้ เจ้าสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นเเข็งเเกร่งอย่างมาก หากใครที่สามารถกำจัดมันได้ ย่อมเป็นบุคคลที่พวกเขาควรพึงระวังเป็นที่สุด เพราะคนที่จะสามารถกำจัดสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นได้จะต้องเเข็งเเกร่งอย่างมาก

เเม้ยอนดูจะเคยเผชิญหน้ากับ พาวเวอร์สโตน ที่ถูกครอบครองโดย โรเเนน ก่อนหน้านี้ มาก่อน เขาก็ไม่เคยรู้สึกกดดันเท่านี้มาก่อน เพราะบุคคลที่กำจัดสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นได้ เป็น จอวเวทย์ที่มาจากดาวเคราะห์โลก

“เรื่องนี้มีเงื่อนงำมากเกินไป หากสัตว์ประหลาดนั่นถูกกำจัดไปเเล้วจริง ๆ บางทีนั่นอาจไม่ใช่ร่างที่เเท้จริงของมัน ข้าไม่คิดว่าเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นจะตายโดยบุคคลผู้นั้นหรอกนะ”ได้ยินคำพูดของผู้ช่วย ยอนดูเเสดงความคิดเห็นของตนเองออกม

“เเล้ว สตาร์ลอร์ด เล่า ? ท่านจะปล่อยให้เขาตามหาพ่อของตนเองจริง ๆ ?”

“ข้าไม่สามารถปิดกั้นเขาได้ ถ้าเขาต้องการจะไปก็ให้เขาไป จากนั้นเขาจะได้รู้ว่าตนเองนั้นคิดผิดขนาดไหนที่เลือกเส้นทางนี้”

“เข้าใจเเล้วครับ”

ขณะที่ยอนดูกำลังสนทนากับผู้ช่วย เเรคคูน ที่ พากรูซไปเดินเล่น ก็บังเอิญได้ยินการสนทนาของพวกเขาทั้งหมด

“กรูซ มนุษย์นี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนจริง ๆ !”

“เอ่อ…ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน คุณพอจะช่วยส่งเขาไปยังดาวเคราะห์กลางใกล้เคียงได้หรือไม่?”เเจ็คสันกล่าวถามเอนเชี่ยนวัน

“ดาวเคราะห์กลางใกล้เคียง?ง่ายมาก เจ้าต้องการจะเดินทางตอนนี้เลยหรือไม่?”ได้ยินคำพูดของเเจ็คสัน เอนเชี่ยนวัน หันหน้าไปถาม สตาร์ลอร์ด

เอนเชี่ยนวันได้ใช้มิติเวทย์มนตร์ในการเดินทางเขาได้ก้าวผ่านหลายดาวเคราะห์กลางจำนวนมาก เพราะ ว่าสะพานไบฟรอส ไม่สามารถส่งเขามายังดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์นี่ได้โดยตรง

“ขอบคุณ เเต่ฉันคงต้องรอเพื่อนอีกสองคนของฉันก่อน”

ขณะที่สตาร์ลอร์ดกล่าว ดูเหมือน เเรคคูน กับ กรูซ จะกลับมาเเล้ว

“มารวมตัวกันตรงนี้”เห็นพรรคพวกของสตาร์ลอร์ดมาถึง เอนเชี่ยนวัน กวักมือเเล็กน้อย

จากนั้นรัศมีพลังเเสงสีทองที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของสตาร์ลอร์ดก่อนที่จะจากกัน เเจ็คสัน ได้ยื่นมือออกไปทักทายสตาร์ลอร์ด

ขณะนั้นเองทางด้านยอนดูที่กลับมาเขาได้เห็นพลังรัศมีเเสงสีทองที่เกิดขึ้น

เพราะก่อนที่เขาจะกลับมาเขาเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงรู้สึกตกใจอย่างมาก

“คุณ!…คุณ!…”มองไปที่เอนเชี่ยนวัน ยอนดู เเทบไม่อยากจะเชื่อในสายตาของตนเอง

“มีอะไรงั้นหรอ?”เห็นการเเสดงออกที่ตกใจของยอนดู เดดพูล กล่าวถาม

“ปล่าว?ไม่มีอะไร”เห็นพลังที่เอนเชี่ยนวันสำเเดงออกมา ยอนดู รู้สึกตื่นตะลึงโดยสมบูรณ์ เขาได้พยายามเรียกความสงบกลับคืนมา

ยอนดูได้จ้องมองไปที่สตาร์ลอร์ดที่ยืนอยู่หน้าประตูมิติ

“ยอนดู ฉันตัดสินใจเเล้วว่าไม่ว่ายังไงก็จะไปให้ได้”เผชิญหน้ากับยอนดูก่อนที่จะจากสตาร์ลอร์ดได้พูดขึ้น

เเม้เขาจะถูกเลี้ยงดูมาโดยยอนดู ตลอด 20 กว่าปี เเต่ความสัมพันธ์เหล่านี้ก็ไม่ได้มาจากสายเลือดเนื้อไขเเท้ ๆ ของเขาดังนั้นเขาจึงต้องการออกตามหาพ่อของตนเอง

“สตาร์ลอร์ด…เจ้า”เห็นสตาร์ลอร์ด ดื้อรั้นหัวชนฝา ผู้ช่วยของยอนดู ทำได้เพียงเเต่ชี้นิ้วกรนด่า

“เหมือนที่ข้าบอกไป หากเจ้าต้องการจะไป ข้าก็จะไม่ห้ามเจ้า”ยอนดูได้ยกมือห้ามผู้ช่วยของเขาพร้อมกับกล่าวตอบสตาร์ลอร์ด

เห็นลักษณะท่าทีที่เงียบสงบของยอนดู สตาร์ลอร์ด ไม่ได้กล่าวอะไรอีก เขากวักมือเรียก เเรคคูน เเละ กรูซ ที่อยู่ไม่ไกล หลังจากรู้ข่าวพ่อของตนเอง สตาร์ลอร์ด ไม่ต้องการที่จะล่าช้าอีกต่อไป ตอนนี้เขาได้สูญเสียยานอวกาศ ดังนั้นสถานการณ์ในปัจจุบันของเขา เขาจะต้องหายานอวกาศก่อนเป็นอันดับเเรก หลังจากนั้นก็ออกตามหาพ่อของตนเอง

ฟุ่บ~~

ทางด้านยอนดูหลังจากที่เขาส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือออกไปตอนนี้อุปกรณ์สื่อสารของเขาก็ได้ปรากฏเเสงกระพริบอยู่สามจุด ไม่นานก็มีบุคคลทั้งสามคนปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเขา

“หึ่ม ยอนดู เจ้ามีอะไรถึงส่งขอกำลังเสริมไปหาพวกเรา…ไม่สิ เจ้าปลอดภัยดีสินะ?”ขณะนั้นเองชายในชุดคลุมสีดำก็จ้องมองไปที่ยอนดูที่อยู่ด้านหน้า ดูเหมือนว่า เขาจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“ยอนดู ศีรษะ เจ้า?”

“ไม่ต้องห่วง เขาไม่ตายง่าย ๆหรอกน่า”

หลังจากชายคนนั้นเปิดปากพูดขึ้นอีกสองคนก็เปิดปากพูดตาม สองคนที่เหลือนี้ คือ ชาย เเละ หญิง ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาคือหัวหน้ากองยานรบที่ยอนดูขอความช่วยเหลือไป

“ขอบคุณ ที่พวกเจ้าสละเวลามา”ยอนดูจ้องมองไปที่ไฟกระพริบทั้งสามเเละกล่าวตอบ

ได้ยินคำพูดของยอนดู ทั้งสามคนเงียบไปชั่วครู่นึงความสัมพันธ์ของพวกเขากับยอนดูนั้นซับซ้อนมาก เเต่สิ่งนึงที่ชัดเจนก็คือหากยอนดูตกที่นั่งลำบากพวกเขาก็ยินดีที่จะช่วยเหลือ

“ทำไมพวกเราจะไม่มาในเมื่อเจ้าขอความช่วยเหลือเราไป ยิ่งไปกว่านั้นพวกเรากับกลุ่มราเวนเจอร์ของเจ้าก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน”ชายในชุดคลุมสีดำกล่าวตอบ

“ใช่ ๆ พวกเราถือเป็นหุ้นส่วนที่ดีต่อกัน”หลังจากชายคนนั้นตอบ ผู้หญิง เเละ ผู้ชายอีกคนก็กล่าวเห็นด้วย

ได้ยินคำพูดของทั้งสามคน ยอนดู ยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่า หุ้นส่วนเก่าของเขาเหล่านี้ จะให้ความช่วยเหลือเเม้เขาจะตกที่นั่งลำบาก

“ไม่สิ นี่ไม่ใช่เวลามามัวรำลึกความหลัง ยอนดู เจ้าส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไป บอกว่าเป็นสถานการณ์เร่งด่วนนี่มันหมายความว่ายังไง?”ชายในชุดคลุมสีดำกล่าวถามออกมา

พวกเขาทั้งสามคนได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากยอนดู ทันทีที่ได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือพวกเขาก็เร่งมาที่นี่ในทันที

ได้ยินคำพูดของเพื่อนในชุดคลุมสีดำ ยอนดูลูบเขาของเขาเล็กน้อยด้วยความเเปลกใจ

“พวกเจ้าตรวจไม่พบอย่างงั้นหรอ? คลื่นพลังงานความผันผวนระดับเเรกนั่น?”ยอนดูกล่าวถามออกมา

“คลื่นพลังงานความผันผวนระดับเเรก?มีสิ่งนั้นด้วยอย่างงั้นหรอ ตั้งเเต่พวกเรามาถึง พวกเราได้กระจายกองกำลังยานไปตรวจดูเเล้ว ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ”ชายคนนั้นกล่าวตอบ

ตั้งเเต่พวกเขาทั้งสามคนเป็นโจรสลัดอวกาศมาพวกเขายังไม่เคยเพบคลื่นสัญญาณความผันผวนระดับเเรกเเม้เเต่ครั้งเดียว

“เป็นไปไม่ได้! หรือว่าเจ้าสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่น ถูกกำจัดโดยชายคนนั้น?”

พอได้ยินว่าสิ่งที่เคยมีกลับไม่มีเเละหายไปโดยสมบูรณ์ยอนดูยากที่จะเชื่อเมื่อสิบนาทีก่อนสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นมันยังอยู่เลยเเท้ ๆ หากเป็นอย่างที่เขาคิดจริง คนคนนั้นจะต้องเเข็งเเกร่งอย่างมาก ถึงสามารถกำจัดสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นได้

“มันไม่น่าเป็นไปได้ ข้าจะส่งตำเเหน่งก่อนหน้านี้ให้กับพวกเจ้า พวกเจ้าช่วยตรวจสอบมันที”หลังจากนั้นยอนดูก็ส่งสัญญาณตำเเหน่งออกไป

“หืม? เข้าใจเเล้ว”พวกเขาตอบกลับ

จากนั้นพวกเขาที่เป็น ผู้บัญชาการกองยานได้ทำการล็อคตำเเหน่งที่ยอนดูส่งให้

หลังจากล็อคตำเเหน่งเป้าหมายได้เเล้ว ผู้บัญชาการผู้หญิงคนนั้นในที่สุดก็ตรวจพบตำเเหน่งที่ยอนดูส่งมาให้ หลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ผิวของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“นั่นเป็นร่องรอยโบราณงั้นหรอ?”

“ร่องรอยโบราณที่ถูกเปิดผนึก…”

“ไม่ถูกต้อง มันมีรอยทับ นี่มัน….”

หลังจากที่ทั้งสามคนเห็ฯสิ่งที่เกิดขึ้นพวกเขาก็สามารถคาดเดาสิ่งต่าง ๆ ได้ในทันที ในตำเเหน่งป่านั้นนอกจากร่องรอยโบราณเเล้วพวกเขายังเห็นยานอวกาศเเละผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เห็นได้ชัดว่าสถานที่เเห่งนี้เคยเกิดการต่อสู้ขึ้นมาก่อนหน้านี้

ไม่นานพวกเขาก็กระจายตำเเหน่งระยะสัมผัสในการตรวจจับเพิ่มขึ้นจนสามารถเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เช่นรอยเเยกที่ถูกเปิดออกเเละบ่อหลุมขนาดใหญ่

“ยอนดู…เจ้ากำลังจะบอกว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นจากร่องรอยโบราณก่อนหน้านี้ใช่หรือไม่?”

“เอ๋,เอ่อ ฉันไม่เป็นอะไร ทางที่ดีคุณอย่าเพิ่งตัดสินใจดีกว่า คิดให้รอบคอบอีกหน่อย ยังไงคุณก็ยังมีเวลาอีกเยอะใช่มั้ย จริงสิ ฉันจำได้ว่าคุณบอกว่ามีภารกิจอยู่?”เเจ็คสันที่รู้สึกตัวจากการกระตุ้นของสตาร์ลอร์ดเขาก็กล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

“พวกเราตัดสินใจที่จะพักเรื่องภารกิจเอาไว้ก่อน อันที่จริงเป้าหมายที่เราทำภารกิจก็เพราะรางวัลเท่านั้น”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ สตาร์ลอร์ด อธิบาย ดูเหมือนเขาจะยกเรื่องพ่อของตนเองขึ้นมาเป็นอันดับเเรกในตอนนี้

“อา…ดูเหมือนว่าพล็อตเรื่องเเม้จะเปลี่ยนไปมาก เเต่ เรื่องของ ยอนดู เเละ สตาร์ลอร์ด รวมถึงพ่อของเขา จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ มันราวกับบททดสอบที่ สตาร์ลอร์ดจะต้องผ่านไปให้ได้”เเจ็คสันครุ่นคิดในใจ

“หากคุณตัดสินใจเช่นนั้น ฉันก็คงจะห้ามอะไรไม่ได้ เช่นนั้นก็ระวังตัวด้วย พวกเราจะช่วยส่งคุณไปยังดาวอารยธรรมใกล้เคียง เเต่ตอนนี้ ก็คงต้องรอให้เขาคนนั้นกลับมาก่อนละนะ”เเจ็คสันกล่าวตอบ

เเจ็คสันตั้งใจจะขอร้องให้เอนเชี่ยนวันช่วยสตาร์ลอร์ดซึ่งเขาคิดว่า เอนเชี่ยนวันไม่น่าจะปฏิเสธคำขอเล็กน้อยเช่นนี้จากปากของเขา

หึ่ม!

ขณะที่เเจ็คสันเเละสตาร์ลอร์ดกำลังสนทนากัน มิติวงกลมเเสงสีทองก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของพวกเขาจากนั้นก็มีร่างเงาร่างนึงเดินออกมา

เห็นรัศมีพลังเเสงสีทองที่ปรากฏขึ้น ความสนใจของเเจ็คสันได้เปลี่ยนไป พวกสตาร์ลอร์ด เองก็เช่นเดียวกัน พวกเขาทั้งหมดได้หันความสนใจไปที่เงาร่างที่กำลังเดินออกมา

“สวัสดี ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน เรื่องที่คุณมาช่วยพวกเรา ต้องขอบคุณอย่างมาก!”เห็นชายวัยกลางคนสวมชุดยาวเดินออกมา เเจ็คสันพูดออกมา

หากเอนเชี่ยนวันไม่ปรากฏตัว เเจ็คสันไม่รู้ว่าตนเองกับพวกสตาร์ลอร์ดจะยังคงรักษาชีวิตของตนเองเอาไว้ได้หรือไม่ เเม้ว่า สตาร์ลอร์ด จะเป็นหนึ่งในตัวเอกของโลกมาร์เวล เเต่ สัตว์ประหลาดระดับ S นั่นก็เเข็งเเกร่งอย่างมาก เเจ็คสันไม่คิดว่าพวกเขาจะรอดออกมาได้

“อืม”เอนเชี่ยนวันที่ได้ยินการเเสดงความขอบคุณจากเเจ็คสันเขาพยักหน้าตอบรับเล็กน้อย

จากนั้นทั้ง 4 คนก็เงียบไม่มีใครกล่าวพูดอะไรออกมา เเม้เเต่ เดดพูล ที่ได้รับฉายาว่าปากปืนกล ก็ญังไม่หน้าด้านพูดขึ้นในเวลานี้ สำหรับ สตาร์ลอร์ด พวกเขาไม่รู้จะพูดอะไรออกมา สิ่งที่เขาคิดตอนนี้ก็คือเรื่องพ่อของตนเองเพียงเท่านั้น

เห็นทั้งสามคนไม่ได้กล่าวอะไรออกมาพร้อมกับเเสดงสีหน้าอย่างตึงเตรียดเอนเชี่ยนวันยิ้มออกมาเบา ๆ

“เอ่อ…ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน เเล้วสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นล่ะ? คุณกำจัดไปเเล้วงั้นหรอ?”เเจ็คสันได้มองหาโอกาสพูดทำลายบรรยากาศอันเงียบสงบนี้ เเม้เขาจะได้รับข้อความเเจ้งเตือนจากระบบ เเต่เขาก็เเสร้งทำเป็นไม่รู้

“ประมาณนั้น”ได้ยินคำถามจากเเจ็คสัน เอนเชี่ยนวันพูดเล็กน้อยเเละยิ้มออกมาที่มุมปากเขาไม่ได้พูดว่าตนเองได้ฆ่าสัตว์ประหลาดนั่นไปเพียงเเค่ฝังมันกลับลงไปในผนึกอีกครั้ง

“คุณ…คุณเเข็งเเกร่ง จริง ๆ! สัตว์ประหลาดนั่นดุร้ายเป็นอย่างมาก เเต่คุณก็ยังสามารถกำจัดมันได้ ทำไมฉันถึงไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าโลกของเรามีผู้พิทักษ์ที่เเข็งเเกร่งขนาดนี้!”หลังจากเเจ็คสันกล่าวทำลายความเงียบสงบ เดดพูล ที่ไม่สามารถทนกับบรรยากาศแบบนั้นได้ ก็พยายามพูดออกมา

ได้ยินเสียงของเดดพูล เอนเชี่ยนวัน เพียงชายตามองร่างของเดดพูลเเวบนึงก่อนที่จะถอนสายตากลับไป

“มีอะไรงั้นหรอ?”เห็นว่าเอนเชี่ยนวันจ้องมองมาที่ตนเอง เดดพูล รู้สึกใจคอไม่ดี หรือว่าเมื่อครู่นี้เขาพูดอะไรไม่ดีออกไป

เอนเชี่ยนวัน เป็นบุคคลที่เเข็งเเกร่งหากเขาต้องการจัดการตนเอง เเน่นอนว่า เดดพูลเชื่อว่าตนเองไม่มีทางตอบโต้ได้เลย

“ดูเหมือนเพื่อนคนนี้จะมีชะตากรรมที่ข้ายากจะคาดเดาอีกเเล้ว ทุกครั้งที่ข้าเห็นบุคคลใกล้ตัวเขา อนาคตต่าง ๆ เริ่มที่จะเปลี่ยนไปทีละน้อย หรือว่า นี่เป็นความสามารถส่วนหนึ่งของเขา?”เอนเชี่ยนวันครุ่นคิดในใจอย่างเงียบ ๆ

เเต่เดิมเอนเชี่ยนวันจ้องมองไปที่เดดพูล เขาสามารถมองเห็นอนาคตของเดดพูลได้อย่างสมบูรณ์ ในฐานะจอมเวทย์สูงสุด เอนเชี่ยนวันมีความสามารถในการมองเห็นอนาคต นอกจากนี้ เขายังมี ดวงตาเเห่งอากาโมโต้ ทำให้เขาสามารถใช้ความสามารถมองเห็นอนาคตที่ไกลมากขึ้น เเต่ความสามารถเหล่านั้นกลับเริ่มไร้ผลกับเเจ็คสันเเละคนรอบตัวของเขา

“สวัสดี เอ่อ…คุณจอมเวทย์ ฉันชื่อ สตาร์ลอร์ด”ขณะนั้นเอง สตาร์ลอร์ดก็รีบเดินไปกล่าวทักทายเเนะนำตัวเอง

หลังจากได้เห็นสตาร์ลอร์ดเอนเชี่ยนวันได้ละสายตาจากเดดพูลเเละจ้องมองมาที่สตาร์ลอร์ดอย่งประหลาดใจ

“เป็นไปได้อย่างไร…เขาคือลูกหลานของผู้สืบเชื้อสายโบราณ?”เอนเชี่ยนวันลอบกระซิบในใจอย่างเงียบ ๆ

เอนเชี่ยนวันได้ลอบมองอนาคตของทุกคน เขาไม่สามารถมองเห็นอนาคตของเเจ็คสันได้ สำหรับเดดพูล เขาคิดว่าอาจเป็นเพราะพันธุกรรมมิวแทนท์ หรือ เพราะมีความเกี่ยวข้องกับเเจ็คสัน จนในที่สุด สายตาของเขาก็ตกไปที่ร่างของสตาร์ลอร์ดเขาได้มองอนาคตของคนคนนี้ เเละ พบว่า สตาร์ลอร์ด คือลูกหลานของผู้สืบเชื้อสายโบราณ

ผู้สืบเชื้อสายโบราณคือหนึ่งในเผ่าพันธุ์โบราณที่มีลักษณะจำเพาะพิเศษโดยเฉพาะร่างกาย

คนพวกนี้มีเเหล่งพลังชีวิตที่สูงเเละสามารถมีชีวิตได้อย่างยืนยาว เเต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้กำเนิดทายาทโดยทั่วไปเเล้ว ผู้สืบเชื้อสายโบราณมีความสามารถในการพัฒนาเเหล่งอารยธรรมของพวกเขาที่สูงพวกเขามีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่นพ่อของสตาร์ลอร์ด ตัวตนที่เเท้จริงของเขาคือดาวเคราะห์ดวงนึง

ดังนั้นหลังจากมองเห็นสถานะของสตาร์ลอร์ดเอนเชี่ยนวันจึงเเสดงความประหลาดใจจนเเทบไม่ไม่สามารถปกปิดได้ เทียบกับสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่น เรื่องของสตาร์ลอร์ดดูจะน่าสนใจกว่าเยอะ เเต่หลังจากสังเกตุดี ๆ เอนเชี่ยนวันก็พบว่า สตาร์ลอร์ด เเม้จะเป็นลูกหลานของผู้สืบเชื้อสายโบราณ เเต่เขายังไม่ได้ปลุกความเเข็งเเกร่งของตนเองขึ้นมา

“เเจ็คสัน เด็กคนนี้ บุคคลรอบตัวเขากับอนาคตที่เขาเป็นคนชักนำ ดูเเล้วไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะคาดเดา”เอนเชี่ยนวันยิ้มออกมาก่อนที่สายตาของเขาจะตกไปที่ร่างของเเจ็คสัน

“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย?”เห็นการเเสดงออกที่ผิดปกติหลังจากที่เอนเชี่นวันจ้องมองไปที่ เดดพูล เเละ สตาร์ลอร์ด เเจ็คสันจึงกล่าวถามออกมา

“ข้าสบายดี!”เอนเชี่ยนวันตอบกลับเบา ๆ

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมบัติที่เเข็งเเกร่งที่สุดในโลกมาร์เวล ไทม์อินฟินิตี้สโตน นั้นถือว่าเป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างมาก น้อยครั้งมากที่สิ่งของชิ้นนี้จะถูกใช้งาน เเละ มันได้ถูกครอบครองโดยเอนเอชี่ยนวัน หากเป็นไปได้ เอนเชี่ยนวัน ก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งหรือทำลายกฏเเห่งเวลา

“สามารถทำให้ข้าต้องหันไปพึ่งพาความเเข็งเเกร่งของ ดวงตาแห่งอากาโมโต้ ได้ เจ้านับว่าคุณสมบัติพอที่จะชื่นชมตัวเอง”เอนเชี่ยนวันได้ขยายพลังงานเวทมนตร์สีเขียวออกมาเป็นจำนวนกว้าง

ฟุ่บ!

จากนั้นเวทมนตร์ขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางได้เเผ่กระจายขยายออกไปหลายกิโลเมตร จนกระทั่งปกคลุมหนวดยักษ์ทั้งหมดรวมถึงร่างหลักที่อยู่ข้างล่างด้วย

กร๊าชช!

ไม่รู้ว่าทำไมคราวนี้หนวดยักษ์นั่นเริ่มกวัดเเกว่งไปมาอย่างบ้าคลั่งเพื่อให้หลุดจากเวทมนตร์ขนาดใหญ่ที่เอนเชี่ยนวันสร้างในเวลานี้เวทมนตร์เหล่านั้นได้เริ่มลอยกดต่ำลงมาจนกระทั่งเอนเชี่ยนวันประกบมือทั้งสองข้างเข้าหากัน

ฟุ่บ!

ทันทีที่เอนเชี่ยนวันประกบมือเสร็จเเสงพลังงานสีเขียวก็เข้ากดทับร่างทั้งหมดของสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นจนมันดิ้นทุรนทุรายกรีดร้องออกมา

จากนั้นร่างกายขนาดใหญ่ของหนวดยักษ์นั่นก็เริ่มถูกเปลี่ยนให้สลายหายไปทีละเล็กละน้อยไม่ต้องสงสัยเลยว่า มณีเเห่งเวลานี้ มีความเเข็งเเกร่งมากขนาดไหน เพียงเเค่เศษเสี้ยวของพลังก็สามารถทำให้สัตว์ประหลาดยักษ์ตนนี้ต้องกรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวชได้

เสียงกรีดร้องที่ดังออกมาจากร่างหลักได้ดังลั่นไปทั่วป่าบริสุทธิ์เเห่งนี้ ทันทีที่มหาเวทมนตร์ขนาดยักษ์กดทับลงมาหนวดยักษ์เหล่านั้นก็มีชะตากรรมที่จะต้องจบลงอย่างไม่ต้องสงสัย

ผ่านไปไม่กี่วินาที ร่างของหนวดยักษ์นั่นได้หายไปจากสายตาของเอนเชี่ยนวัน การต่อสู้ที่ยาวนานในที่สุดก็จบลง

หลังจากหนวดยักษ์หายไป เอนเชี่ยนวัน จ้องมองไปที่พื้นที่เดิมที่สูญสลายเพราะเเรงภัยพิบัติจากหนวดยักษ์จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่สิ่งของที่อยู่ตรงหน้าอกของตนเองที่เปล่งเเสงสีเขียวออกมา

“หลับให้สบายซะ นับว่าเป็นโชคร้ายสำหรับเจ้า ที่ออกมาก่อนเวลาอันควร”จ้องมองไปที่ทุ่งหญ้าที่ว่างเปล่าในปัจจุบันเอนเชี่ยนวันพึมพัมเล็กน้อย

เขาได้จัดการผนึกสัตว์ประหลาดยักษ์นี่ไปเเล้วโดยใช้กฏเเห่งเวลาในการเปลี่ยนมันกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง เพื่อกักขังสัตว์ประหลาดตนนี้ชนเผ่าจากอารยธรรมโบราณเเห่งนึงได้สร้างผนึกที่เเข็งเเกร่งขึ้นเพื่อที่จะผนึกมันไว้ตลอดกาลโชคร้ายที่มันหลุดออกมา ดังนั้น มันจึงถูกลบล้างให้หายไปจากวัฏจักรชีวิตโดยสมบูรณ์

“หืม?ดูเหมือนว่าจะมีเเขกที่ไม่ได้รับเชิญมามากขนาดนี้ คงถึงเวลาที่ข้าจะต้องไปจากที่นี่ซักที”เอนเชี่ยนวันได้วาดสัญลักษณ์มือขึ้นจากนั้นไม่นานร่างของเขาก็หายไปจากสถานที่เเห่งนี้

ขณะที่เอนเชี่ยนวันหายตัวไปรอบนอกพื้นที่ของดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ยานอวกาศหลายร้อยลำได้พุ่งเข้ามาใกล้ดาวเคราะห์ดวงนี้อย่างรวดเร็ว บนตัวของยานอวกาศเหล่านั้นดูเหมือนว่าจะมีสัญลักษณ์ของพวกสลัดอวกาศอยู่ การมาถึงของกองยานสลัดอวกาศขนาดใหญ่เช่นนี้ คงเป็นเพราะสัญญาณขอความช่วยเหลือจากยอนดูที่ส่งหาพวกเขา

“ฉันวางเเผนจะตามหาพ่อของฉัน ฉันไม่เชื่อในคำพูดของยอนดู ดังนั้นฉันอยากจะถามนาย นายจะช่วยพาฉันไปด้วยได้หรือไม่?ไปส่งฉันที่ดาวเคราะห์กลางก็ได้”บนชายหาด สตาร์ลอร์ด จ้องมองไปที่ มิราจไนท์ที่อยู่เบื้องหน้าของเขา

“สตาร์ลอร์ด ฉันคิดว่าบางทีคุณควรลองฟังคำพูดของยอนดู ท้ายที่สุด เขาก็เป็นคนเลี้ยงดูเเลคุณมามากกว่า 20 ปปี”ได้ยินว่าสตาร์ลอร์ดต้องการมองหาพ่อของตนเอง เเจ็คสัน ขมวดคิ้วเเน่นเล็กน้อย

ในพล็อตเรื่อง กาเดี้ยน ออฟ เดอะ กาเเลคซี ยอนดู ที่ช่วยเหลือสตาร์ลอร์ด ได้เสียชีวิตลงในดาวเคราะห์พ่อสตาร์ลอร์ด ดังนั้นสตาร์ลอร์ดจึงรู้เนื้อเเท้ที่เเท้จริงของพ่อของตนเอง

“ไม่จำเป็นต้องห้ามปรามฉันหรอก ไม่ว่ายังไงฉันก็จะตามหาพ่อของฉันอย่างเเน่นอน เเม่ของฉัน ได้เสียชีวิตที่ดาวเคราะห์โลก เเละ ตอนนี้ฉันก็ได้รับข่าวของพ่อที่ตามหามานานหลายปี ฉันไม่อยากที่จะยอมเเพ้ในเรื่องนี้”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ ไม่ว่าอย่างไร สตาร์ลอร์ด ก็จะออกตามหาพ่อของเขา

“หากคุณว่าเช่นนั้น…”หลังจากจ้องมองไปที่สีหน้าเอาจริงเอาจังของสตาร์ลอร์ด เเจ็คสันไม่รู้จะพูดอะไรออกมา เเต่ในขณะนั้นเองระบบในจิตใจของเขาก็ส่งเสียงเเจ้งเตือน

“สำเร็จเควสภารกิจลับ :ผนึกเเละจัดการมหาภัยคุกคามสิ่งมีชีวิตระดับ S”

“ของรางวัล : เเต้มคะแนน 100,000 เเต้มจุด”นี่คือเสียงภายในระบบจิตใจของเเจ็คสัน มันได้บอกว่าเขาเสร็จสิ้นเควสภารกิจลับ นี่ทำให้เเม้เเต่ตัวเเจ็คสันเองก็ประหลาดใจโดยไม่คาดคิด

“เเต้มคะแนน 100,000 เเต้ม? ฉันได้รับความสำเร็จจากเควสภารกิจลับนี่ด้วยอย่างงั้นหรอ?”ได้ยินเสียงเเจ้งเตือนของระบบเเละของรางวัล เเจ็คสันคิดว่ามันอาจจะเป็นความผิดพลาด

ก่อนหน้านี้ที่เเจ็คสันเสร็จสิ้นเควสภารกิจลับไปได้ก็คือเควสกำจัดองค์กรไฮดร้า คราวนั้นเขาได้รับเเต้มคะแนนมาจำนวนมหาศาลเเต่มันก็หมดไปเพราะเเจ็คสันได้ซื้อสิ่งของบางอย่างเพื่อรักษาชีวิตของเขาในตอนนี้ดังนั้นการได้รับเเต้มคะแนนมากกว่า 100,000 เเต้มคะแนนในตอนนี้ทำให้เขารู้สึกดีใจอย่างมาก

“ไม่คิดเลยว่า ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน จะสามารถจัดการผนึกสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นได้สำเร็จจริง ๆ !”เเจ็คสันพึมพัมในใจที่น่าเเปลกใจก็คือสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่้นไม่ได้ถูกฆ่าเเต่ถูกผนึกเเทน

“เอ๋,นายเป็นอะไรไปหน่ะ?”เห็นมิราจไนท์มีท่าทีเหมือนไม่ได้ฟังตนเอง สตาร์ลอร์ด กล่าวถามเพื่อเรียกสติมิราจไนท์ให้กลับมา

คลื่น!

บนดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์นี้ไม่ทราบว่าชายทะเลตำเเหน่งที่พวกเเจ็คสันอยู่นั้นคือส่วนไหนของดาวเคราะห์กันเเน่ ในเวลานี้ บนสนามรบเเห่งนึงการต่อสู้ก็ยังคงดำเนินต่อไป

ฟุ่บ!

เอนเชี่ยนวันได้ทำสัญลักษณ์มือวาดวงกลมสีทองที่เป็นบาเรียป้องกันเพื่อรับการโจมตีจากสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนี้

เปรี้ยง!

“ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเเข็งเเกร่งขนาดนี้ ข้าประเมินเจ้าต่ำเกินไปจริง ๆ !”หนวดที่ออกมาจากร่างหลักของสัตว์ประหลาดยักษ์ได้เข้าจู่โจมบาเรียเวทมนตร์ของเอนเชี่ยนัวนอย่างต่อเนื่อง

หนึ่งนาทีก่อนหน้านี้ เอนเชี่ยนวัน ตั้งใจจะปิดฉากการต่อสู้นี้อย่างรวดเร็วเเต่เพราะหนวดหลักที่งอกออกมาใหม่นี้ทำให้เอนเชี่ยนวันต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในทันทีจากนั้นหนวดยักษ์ทั้ง 16 ที่โดนผนึก ก็เริ่มดิ้นทุรนทุรายอย่างบ้าคลั่ง

หลังจากหนวดยักษ์หลุดออกมาจากการจับกุมได้ เอนเชี่ยนวัน ก็เตรียมเข้าสู่มาตราการตั้งรับ เป็นเพราะความเเข็งเเกร่งของหนวดยักษ์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ ศึกในครั้งนี้ เขาต่อสู้ได้ลำบากอย่างมาก

เเต่เอนเชี่ยนวันก็คอยสร้างโอกาสให้กับตนเอง เขาได้เข้าเผชิญหน้ากับศัตรูเเละผสานเวทมนตร์มิติเข้าเพื่อลอบโจมตีจากทิศทางต่าง ๆ

เอนเชี่ยนวันได้สร้างเวทมนตร์ใบดาบขึ้นมาจากนั้นก็ลงมืดฟาดฟันตัดลงไปยังหนวดยักษ์ที่พุ่งเข้าใส่เขา หนวดยักษ์ที่ถูกตัดนี้คือหนวดจากร่างหลักที่งอกขึ้นมาใหม่

หลังจากถูกตัดหนวดนั่นก็ละลายหายไปในทันทีราวกบัไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นจากนั้นร่างของหนวดยักษ์ที่ถูกตัดก็เริ่มฟื้นฟูตัวเองในพริบตา

เพียงใช้เวลาไม่นานตำเเหน่งบาดเเผลทั้งหมดที่ได้รับก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนสามารถรักษาเเผลได้อย่างสมบูรณ์ นี่เป็นความสามารถฟื้นตัวที่น่าเกรงขามเลยก็ว่าได้

หึ่ม!

“เเม้ว่าข้าจะตัดมันอีกกี่หนผลก็คงเหมือนเดิม ความสามารถฟื้นฟูของสหายคนนี้เเข็งเเกร่งจริง ๆ ไม่รู้ว่าศึกครั้งนี้จะยืดเยื้อไปอีกนานเเค่ไหนเเละใครจะเป็นฝ่ายชนะหรือพ่ายเเพ้”เอนเชี่ยนวันที่เห็นพลังฟื้นฟูที่เเข็งเเกร่งของอีกฝ่ายเขาได้หายตัวไปโผล่ยังสถานที่ห่างไกลเเละอุทานออกมา

หากเป็นไปได้ เอนเชี่ยนวัน ก็ไม่อยากยั่วยุเพื่อนคนนี้ เขาสามารถเลือกที่จะหลบหนีออกไปจากดาวเคราะห์ดวงนี้ได้เลย เเต่อย่างไรก็ตาม เอนเชี่ยนวัน กลับไม่ต้องการเช่นนั้น หากเขาจากไปในตอนนี้ล่ะก็ เขาอาจจะเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้ดาวเคราะห์ดวงนี้ถูกทำลาย ด้วยความเเข็งเเกร่งของหนวดยักษ์นี้ เพียงใช้เวลาไม่นานมันย่อมสามารถกลืนกินดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ดวงนี้ได้อย่างสมบูรณ์

เเม้ความรับผิดชอบของเอนเชี่ยนวันจะคือการปกป้องโลก เเต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาที่เห็นตัวตนที่สามารถคุกคามจักรวาลหรือดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ได้ ปรากฏตัวขึ้น เเละ เขาจะปล่อยผ่านไป ดังนั้น เอนเชี่ยนวัน จึงเลือกที่จะสู้ต่อ

หนวดขนาดยักษ์ที่ฟื้นฟูกลับมาใหม่มีความเเข็งเเกร่งประหลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเเม้ปริมาณของหนวดจะไม่เพิ่มมากขึ้นเเต่ด้านผลลัพธ์ถือว่าเลวร้ายอย่างมาก

“หืม?เด็กน้อยนั่น ฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดไว้อีกนะเนี่ย”ในขณะที่ลอยอยู่กลางอากาศเเละเผชิญหน้ากับการโจมตีของหนวดประหลาด เอนเชี่ยนวัน เลิก คิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

ดูเหมือนว่า เเจ็คสัน จะสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่ เอนเชี่ยนวันคาดไว้

ปั้ง!

ระหว่างที่เผชิญหน้ากับหนวดประหลาด เอนเชี่ยนวัน ได้สูญเสียสมาธิเล็กน้อย กำเเพงเวทมนตร์ของเขาได้ถูกโจมตีโดยหนวดยักษ์เเละทำลายในเวลาเดียวกัน ตอนนี้เอนเชี่ยนวันไม่สามารถตอบสนองได้ทัน

ฟุ่บ!

เอนเชี่ยนวันที่เห็นหนวดยักษ์พุ่งเข้ามาเขาที่ไม่มีเวลาร่ายเวทมนตร์ได้ทัน เขาได้เปลี่ยนไปใช้บางสิ่งบางอย่างจากนั้นเเสงสีเขียวก็ได้ก่อเกิดขึ้นด้านหน้าของเขา

เวทมนตร์สีเขียวนี้ได้เริ่มหมุนวนเป็นรูปทวนเข็มนาฬิกา

ในเวลาต่อมา กำเเพงเวทมนตร์ที่เดิมถูกทำลายไปก็ฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว ด้วยความสามารถของการย้อนกระเเสเวลา กำเเพงเวทมนตร์เหล่านั้นได้ฟื้นตัวกลับมาเเละป้องกันการโจมตีจากหนวดยักษ์อีกครั้ง

เปรี้ยง!

หนวดยักษ์ที่โจมตีเข้ามาเเม้มันจะสามารถทำลายกำเเพงเวทมนตร์ได้เเต่หนวดยักษ์ประหลาดนั่นก็กระเด็นถอยไปอย่างน่าสังเวช

“หึ่ม! เเม้เจ้าจะเเข็งเเกร่งเเล้วอย่างไร ภายใต้กฏเเห่งเวลา เจ้าไม่นับเป็นตัวตนอันใดด้วยซ้ำ”หลังจากป้องกันการโจมตีได้ เอนเชี่ยนวัน ได้พึมพัมเล็กน้อย

หากจะบอกว่าสิ่งที่เขากำลังใช้นี้ก็คือความเเข็งเเกร่งของกฏเวลาก็ไม่ผิด บนฝ่ามือของเอนเชี่ยนวัน ได้ปรากฏเป็นเวทย์เเผ่นดิสก์เเสงสีเขียว จากนั้น เอนเชี่ยนวัน ก็ดึงพลังของ ไทม์อินฟินิตี้สโตน มาใช้ เมื่อผนวกสิ่งนี้เข้ากับเอนเชี่ยนวัน เขาจะกลายเป็นตัวตนที่เเข็งเเกร่งสุด ๆ

วิ๊ดด!

บริเวณชายขอบทะเลเรื่องร่างของเเจ็คสันปกคลุมไปด้วยเเสงสีทอง,เเสงสีทองเหล่านี้ราวกับว่ามีชีวิตทุกครั้งที่ เดดพูล จ้องมองไปที่ ร่างกายของเเจ็คสัน พวกมันได้เคลื่อนไหวอย่างเเปลกประหลาด ขณะนั้นเอง เดดพูลสังเกตุพื้นทรายใกล้บริเวณที่เเจ็คสันอยู่มันได้ขยับ

“หึ่ม! คิดว่าจะรอดพ้นสายตาจากชั้นคนนี้งั้นหรอ!”เดดพูลจ้วงมือลงไปที่พื้นทรายขยับเขยื้อนอย่างรวดเร็ว

ฟุ่บ!

จากนั้นเดดพูลก็ได้ดึงสิ่งมีชีวิตทรงยาวขึ้นมาจากใต้หาดทราย สิ่งมีชีวิตตัวนี้มีความยาวมากกว่า 20 เซนติเมตร ร่างกายเป็นสีเเดงเข้ม ไม่รู้ว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหน เเต่มันสามารถมีชีวิตรอดอยู่บนหาดทรายได้

ทันทีที่เดดพูลจับมันขึ้นมา เจ้าตัวน้อยนี่ได้เคลื่อนไหวดิ้นไปมาอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะให้หลุดจากการจับกุมของเดดพูล เพียงเเต่เดดพูล ได้จับส่วนหัวของมันเเน่น จนเเทบจะคลายไม่ออก เจ้าตัวน้อยตัวนี้ได้ใช้ปลายเล็ก ๆ ที่ยื่นออกมาจากส่วนที่คล้ายกับใบหน้าจิ้มลงไปที่ร่างกายของเดดพูล

“อ๊ากก~ เจ้าตัวเล็กนี่ ร้ายนักนะ!”ทันทีที่ตนเองถูกโจมตีจากเจ้าตัวเล็กเขาได้สะบัดมืออย่างเจ็บปวดขณะที่กำมันไว้เเน่น

ตึก ตึก~~

ขณะนั้นเองวิสัยทัศน์ของเดดพูล ได้จ้องมองไปเจ้าตัวเล็กที่อยู่บนมือ ดูเหมือนว่าหลังจากที่มันกัดเขา เจ้าตัวน้อยนี่ก็ราวกับกำลังเติบโตขึ้น ร่างกายที่สีเเดงเข้มของมัน เริ่มที่จะโปร่งใสจนเห็นอวัยวะ เดดพูล รู้สึกตกตะลึงกับเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวน้อยนี้

“หืม?”ขณะที่เดดพูล กำลังสังเกตุเพื่อนตัวน้อยนี้ด้วยความเบื่อหน่ายเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาจากข้างหลัง

เดดพูล ได้หันศีรษะกลับไปมองก็พบว่า สตาร์ลอร์ด ค่อย ๆ เดินมาทางเขา ดูเหมือนว่า สตาร์ลอร์ด จะพูดคุยกับยอนดูเสร็จเเล้ว เเละ ผลลัพธ์ของบทสนทนาเเล้วหากให้คาดเดาก็คงไม่ดีอย่างเเน่นอน

เห็นว่าสตาร์ลอร์ดกำลังเดินมาทางนี้ เดดพูล ได้หันกลับไปมองมิราจไนท์ ดูเหมือนว่าเเสงสีทองนั่นจะยังไม่ได้จางหายไป เดดพูล เลิกสนใจสิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่อยู่ในมือ เขาได้เดินไปทางสตาร์ลอร์ด

จากนั้นเดดพูลก็ปิดกั้นทางเดินของสตาร์ลอร์ด เพื่อไม่ให้เขาเข้าไปรบกวน มิราจไนท์ สตาร์ลอร์ดได้บอกกับเดดพูลเรื่องที่เขากับยอนดูจะเเยกทางกัน สตาร์ลอร์ด ที่สูญเสียยานอวกาศ ตอนนี้คนที่เขาจะสามารถขอความช่วยเหลือได้ก็มีเพียงมิราจไนท์เพียงเท่านั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เดดพูล ไม่ได้เเสดงความคิดเห็นอะไรออกมา เขาได้ยืนขวางทางสตาร์ลอร์ดเเละบอกไม่ให้ไปรบกวน มิราจไนท์

….

ทางด้านเเจ็คสันเขาไม่ได้สนใจว่า สตาร์ลอร์ด จะทะเลาะอะไรมากน้อยเเค่ไหนกับยอนดู เขาได้เพ่งจิตไปที่การฟื้นฟูการรักษาตนเองเพียงเท่านั้น เเสงสีทองที่รายล้อมอยู่รอบตนเองได้ซึมซับเข้าสู่ร่างกายอย่างอบอุ่น พละกำลังเเต่เดิมที่หายไปได้ค่อยฟื้นฟูสภาพกลับมาทั้งยังเป็นการฟื้นฟูที่เจาะลึกลงไปถึงเซลล์

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เเจ็คสันรู้สึกประหลาดใจมาก พละกำลังของเขาได้กลับคืนสู่สภาพเดิม ไม่สิ หากเทียบกับเมื่อก่อนคล้ายจะเเข็งเเกร่งขึ้นมาหน่อย กล่าวอีกนัยนึงคือ ความสามารถของเเสงสีทองที่อบอุ่นนี้ไม่เพียงเเต่จะช่วยรักษาเขาเเต่ยังช่วยเสริมสร้างความเเข็งเเกร่งให้กับร่างกายของเขาอีกด้วย

เเม้อาการบาดเจ็บของเเจ็คสันจะได้รับการเยียวยาเเละรักษาไปทั้งหมดเเต่เเสงสีทองเหล่านั้นก็ยังไม่หายไป ขณะนั้นเองเเสงสีทองก็ได้มุ่งเป้าไปที่ด้านบนศีรษะของเขา เเสงสีทองเหล่านั้นได้ทะลักเข้าสู่ภายในศีรษะของเขาเเละตรงดิ่งเข้าไปยังทะเลจิตสำนึกของตนเอง เมื่อเเสงสีทองเหล่านั้นเข้าไปยังพื้นที่ทะเลจิตสำนึกของตนเอง เเจ็คสันได้เข้าไปในจิตของตนเองอย่างรวดเร็วเพราะในจิตสำนึกของเขาได้ซ่อนความลับเอาไว้มากมาย

“หึ่ม! เจ้าเเสงพวกนี้ คิดจะบุกล้ำอาณาเขตจิตสำนึกของฉันขณะที่มีโอกาสงั้นหรอ?”เเจ็คสันจ้องมองไปที่กลุ่มก้อนพลังงานสีทอง

หากเอนเชี่ยนวันต้องการบุกรุกจิตสำนึกของเขาก่อนหน้านี้ เอนเชี่ยนวันย่อมสามารถทำได้ เพราะท้ายที่สุดเเล้วความเเข็งเเกร่งของเเจ็คสันในตอนนั้นเเทบจะไม่มีทางต้านทานได้เลย

ฟุ่บ!

เพียงเเต่ว่าความกังวลของเเจ็คสันมันไม่ได้เกิดขึ้นจริง กลุ่มเเสงสีทองเหล่านั้นไม่ได้บุกรุกเข้าไปในจิตสำนึกของเขา

“หืม?มันคิดจะทำอะไรกันเเน่?”เห็นว่ากลุ่มก้อนพลังสีทองเคลื่อนย้ายไปยังบ่อพลังจิตของตนเอง เเจ็คสันรู้สึกประหลาดใจ

ฟ้าว ~ ~

จากนั้นกลุ่มก้อนพลังสีทองก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเเละหายเข้าไปในบ่อพลังจิตของเเจ็คสัน ขณะเดียวกัน พลังจิตที่ได้รับความเสียหายก่อนหน้านี้ก็ฟื้นตัวกลับคืนมาในทันที นอกจากจะช่วยฟื้นฟูเเล้วมันยังช่วยส่งเสริมให้พลังจิตของเขาเเข็งเเกร่งขึ้นเล็กน้อย

“อาการบาดเจ็บทั้งหมดหายไปเเล้ว?”เห็นว่าตนเองฟื้นฟูทั้งพลังจิตเเละพลังกายกลับมาทั้งยังช่วยส่งเสริมความเเข็งเเกร่งได้อีก เเจ็คสันรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

ตอนนี้บ่อพลังจิตของเเจ็คสันปกคลุมไปด้วยพลังงานสีทองที่เข้มข้น พื้นที่ด้านนอกเเสงสีทองเหล่านั้นได้หายไปอย่างสมบูรณ์ เเจ็คสันที่นั่งไขว่ห้างอยู่ใกล้ชายขอบทะเล เขาก็ได้เปิดตาทั้งสองข้างขึ้น

ฟุ่บ!

พริบตาที่เเจ็คสันเปิดตาทั้งสองข้างขึ้น เเสงสีทองอ่อน ๆ ได้ส่องประกายผ่านดวงตาทั้งสองของเขา

“ไม่คิดเลยว่า ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน จะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ขนาดนี้ให้กับฉัน!”เมื่อรู้สึกว่าทั้งร่างกายเเละพลังจิตฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ เเจ็คสันเเอบลอบปลาบปลื้มในใจ

คลื่น~~

บรรยากาศเบื้องหน้านี้คือน้ำทะเลที่สวยงามเเละบริสุทธิ์น้ำทะเลที่ใสสะอาดพร้อมกับคลื่นน้ำที่ซัดกระหน่ำเข้าฝั่ง เเจ็คสัน เเละ เดดูล ได้เดินเล่นอยู่ชายขอบทะเลนี้

“มิราจไนท์ ดูเหมือน สตาร์ลอร์ด จะต้องการความช่วยเหลือจากเราในตอนนี้นะ คุณไม่คิดจะยื่นมือเข้าไปช่วยหน่อยหรอ?”ระหว่างที่เดินเล่น เดดพูล เปิดปากกล่าวถามขึ้น

“มันก็มีบางเรื่องที่เราไม่ควรเข้าไปยุ่ง เช่นในขณะนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ฉันไม่อยากให้พวกเขารู้อะไรบางอย่าง”ได้ยินคำถามของเดดพูล เเจ็คสัน กล่าวตอบเบา ๆ

“หืม?คุณมีเรื่องอะไรที่ปิดบังไว้งั้นหรอ?”เดดพูลกล่าวถามอย่างสงสัย

“เรื่องเล็กน้อยนิดหน่อยไม่ต้องใส่ใจหรอก จริงสิ เดดพูล นายเองก็ไปเดินเล่นรอบ ๆ ก่อนก็ได้ ฉันต้องการสภาพเเวดล้อมที่สงบสุข เเละไม่อยากถูกรบกวน”ได้ยินคำพูดของเดดพูล เเจ็คสันตอบกลับ

“เอ๋ ? จะให้ทำแบบนั้นได้ยังไง หากคุณ…”เดดพูล เร่งเร้าตอบออกไป

“ไม่จำเป็นหรอก ฉันเเค่ต้องการพักผ่อนจิตใจ เเละฟื้นฟูการรักษษ สภาพของฉันตอนนี้เเค่เดินก็ลำบากเเล้ว ไม่รู้ว่ากว่าจะฟื้นตัวให้ดีขึ้นจะต้องใช้เวลานานเเค่ไหน”หลังจากเดินไปเเล้วเอาเท้าจุ่มทะเลเล็กน้อย เเจ็คสัน ก็นั่งลงบนชายขอบที่น้ำทะเลซัดเข้ามา

เมื่อไม่นานมานี้ก่อนที่เเจ็คสันเข้าสู่ประตูมิติเวทมนตร์เขาตรวจพบว่าภายในร่างกายของเขามีกระเเสพลังงานสีทองที่อบอุ่นไหลเวียนอยู่ เเจ็คสัน ได้ตรวจสอบมันอย่างระวัง เเละ พบว่ามันน่าจะเป็นฝีมือของ เอนเชี่ยนวัน ,เอนเชี่ยนวัน ได้ชักนำพลังสีทองนี้เพื่อการรักษาของตนเอง ดังนั้นเมื่อเขาฉุดคิดได้เเจ็คสันก็ตั้งใจที่จะเพ่งสมาธิไปที่การรักษาตนเอง

“เอ่อ…หากคุณต้องการพักผ่อนรักษาตัว ฉันจะช่วยเฝ้าให้เอง”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ เดดพูล กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

เดดพูล เเทบไม่ได้รับบาดเจ็บมากมากจากการหลบหนีในครั้งนี้ เเม้ว่าจะได้รับบาดเเผลมาเล็กน้อย เเต่เพราะความสามารถกลายพันธุ์ของตนเองทำให้เขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เเต่อาการบาดเจ็บของมิราจไนท์นั้นรุนเเรงกว่ามาก จุดเริ่มต้นก็ตั้งเเต่ สู้กับสัตว์ประหลาดระดับ B เเละได้รับบาดเจ็บ เเม้จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วภายใต้สมบัติอย่างน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เเต่พลังงานภายในของเขากลับไม่ได้ฟื้นตัวอย่างเต็มประสิทธิภาพเขาได้ฝืนตัวเองเพื่อปกป้องคนอื่นจากหนวดประหลาดยักษ์นั่นทำให้ได้รับบาดเจ็บเเทรกซ้อนดังนั้นมันจึงเป็นช่วงเวลาที่ยากที่เขาจะฟื้นฟูอาการบาดเจ็บกลับมาได้

ฟุ่บ!

หลังจากที่เดดพูลพูดเช่นนั้น เเจ็คสันก็ปิดตาลงเเละไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกกระเเสพลังงานสีทองที่อบอุ่นได้ไหลผ่านไปทั่วร่างของเขา หลังจาก เเจ็คสันหลับตาลง เดดพูล ที่ช่วยเฝ้าระวังให้ ก็เห็นกระเเสพลังงานสีทองอันอบอุ่นรายล้อมไปทั่วร่างกายของเเจ็คสัน

“ไม่เเปลกใจเลยที่คุณคิดจะฟื้นฟูรักษาตนเองในตอนนี้ คุณมีความลับมากน้อยเเค่ไหนกันนะ?”เห็นมิราจไนท์โอบล้อมไปด้วยพลังงานสีทองที่อบอุ่น เดดพูล ครุ่นคิดในใจอย่างเงียบ ๆ

ขณะที่ เเจ็คสัน เเละ เดดพูล เเยกไปทางอีกฝั่งนึง บรรยากาศ ระหว่าง สตาร์ลอร์ด เเละ ยอนดู ก็ยังเผยความตึงเครียดออกมา ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีเท่าไหร่นักสำหรับสตาร์ลอร์ด การที่เขาได้ยินเรื่องพ่อเเท้ ๆ ของตนเองจากปากของยอนดูที่เก็บเงียบมาหลายปีทำให้เขารู้สึกโกรธอย่างมาก ไม่เพียงเเต่ยอนดู ลักพาตัวเขามาเพียงเท่านั้น เเต่ยังปกปิดเรื่องพ่อของตนเองอีก สำหรับคำพูดของยอนดูที่ว่าพ่อของเขาไม่ใช่คนที่ดี สตาร์ลอร์ดคิดว่า ยอนดู ก็คงไม่เเตกต่างกันเท่าไหร่

ในตอนเเรกยอนดูฝ่าฝืนกฏของกลุ่มสลัดอวกาศเดินทางข้ามดวงดาวไปลักพาตัวเด็กคนนึงมา เเละ คราวหลังมาบอกว่านี่เป็นภารกิจ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นภารกิจที่มาจากพ่อเเท้ ๆ ของตนเอง ยังไงตามสตาร์ลอร์ดไม่เชื่อในคำพูดของยอนดู

“คุณบอกว่าพ่อของฉันไม่ใช่คนที่ดี?คุณรู้อะไรมากันเเน่ นอกจากนี้ดูจากคำพูดของคุณ ดูเหมือนว่าคุณไม่อยากให้ฉันกลับไปหาพ่อของตนเอง?”เผชิญหน้ากับยอนดู สตาร์ลอร์ด ยังคงถามต่อไป

ตั้งเเต่เล็กจนโต สตาร์ลอร์ด เติบโตขึ้นในสภาพเเวดล้อมของพวกสลัดอวกาศ เขาไม่เคยรู้สึกได้รับความรักความอบอุ่นแบบครอบครัวเเม้เเต่น้อยเพราะเป้าหมายเเต่ละคนก็เพราะสมบัติหรือรางวัลต่าง ๆ ดังนั้นในตอนนี้หลังจากได้ยินเรื่องพ่อของตนเอง สตาร์ลอร์ด จึงดีใจอย่างยิ่ง

“หากเจ้าไม่เชื่อข้าก็ไม่เป็นไร ข้าเพียงทำได้เพียงบอกความจริงต่อเจ้าเพียงเท่านั้น”ยอนดูไอออกมาพร้อมพิษอาการบาดเจ็บก่อนที่จะกล่าวตอบ

เผชิญหน้ากับสตาร์ลอร์ด ยอนดู คาดหวัง การเเสดงออกของสตาร์ลอร์ดอย่างมาก ไม่เเปลกที่สตาร์ลอร์ดจะมีท่าทีเช่นนี้ เพราะเขาพรากจากพ่อเเท้ ๆ ตั้งเเต่เด็ก

“บอส! คุณไม่เป็นอะไรนะ?”เห็นว่ายอนดูบอสของเขาเริ่มไอ ผู้ช่วยของ ยอนดู ได้กล่าวเรียก

“สตาร์ลอร์ด เจ้าอย่าได้ใจให้มันมากนัก! บอสเตือนเจ้าด้วยความหวังดี หากเจ้าไม่เชื่อเจ้าจะออกไปตามหาพ่อของเจ้าก็ได้! พวกเราจะไม่ขวางทางเจ้า”หลังจากเห็นสถานการณ์เริ่มไม่ดี ผู้ช่วยของยอนดู ตะโกนด่าสตาร์ลอร์ด

ผู้ช่วยคนนี้เป็นคนที่สนิทที่สุดของยอนดู ดังนั้นเขาจึงรู้เรื่องราวทั้งหมด เขารู้ว่า พ่อของสตาร์ลอร์ดไม่ใช่คนที่ดี เเละ ถือว่าเป็นบุคคลที่เลวร้ายยิ่งกว่าพวกเขาเลยก็ได้

“กรีน ข้าไม่เป็นอะไร นอกจากนี้ เจ้าช่วยเงียบไปก่อน”เห็นผู้ช่วยออกปากเเทนเขา ยอนดู ยกมือกล่าวห้ามลูกน้องของเขา

“บอสเเต่ว่า…”

“หุบปาก!”

“เข้าใจเเล้ว”

หลังจากได้ยินคำด่าจากบอสผู้ช่วยคนนี้ได้ปิดปากลงอย่างรวดเร็ว

ยอนดูจ้องมองไปที่สตาร์ลอร์ดพร้อมกับสีหน้าจริงจัง

“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่เชื่อคำพูดของข้า เเต่ข้าจะพูดความจริงที่ว่านี้ออกมา เรื่องที่ข้าลักพาตัวเจ้ามาจากดาวเคราะห์บ้านเกิดเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ข้าเป็นคนผิดเอง เเต่หากเจ้าคิดจะออกตามหาพ่อของเจ้าจริง ๆ ข้าก็จะไม่ปิดกั้นเจ้า”ยอนดูพูดบอกสตาร์ลอร์ด

ได้ยินคำพูดของยอนดู สตาร์ลอร์ดในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะออกตามหาพ่อของตนเอง

“ฉันจะออกตามหาเขาเเน่นอน หากคุณคิดจะขวางอย่าได้หวัง”

ได้ยินคำพูดของยอนดู สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน รู้สึกสงสัยอย่างมาก เฝ้าระวังจับตามองพวกเขา?เรื่องนี้ไม่จำเป็นจะต้องให้ยอนดูบอกเขาก็พอจะรู้เนื่องเพราะบทบาทสำคัญหลังจากจบภารกิจช่วยดาวเคราะห์เเซนดร้าสตาร์ลอร์ดจึงเป็นที่รู้จักมากขึ้น

“หรือว่าเป็นพวกที่อยู่เบื้องหลังของ โรเเนน?”สตาร์ลอร์ดกล่าวถามด้วยความสงสัย

หากเป็นพวกที่อยู่เบื้องหลังโรเเนนหากจะมีจุดประสงค์ร้ายกับเขาก็ไม่เเปลกเพราะหลังจากกำจัดโรเเนนได้สำเร็จทีม กาเดี้ยน ก็เป็นที่รู้จักกันมาก หากจะให้ว่าถึงเบื้องหลังของโรเเนนก็คือ พ่อบุญธรรมของ กาโมร่า : ชนเผ่าไททัน ธานอส

“หืม?เจ้ากำลังหมายถึงเจ้ายักษ์ม่วงนั่น? ไม่ใช่เขา เเต่เป็นคนอื่น”ยอนดูกล่าวตอบ

“ไม่ใช่เขาเช่นนั้นเเล้วเป็นใคร?พวกเราไม่เคยไปทำอะไรให้ใครขุ่นเคืองนอกซะจากเพื่อนคนนี้จะอิจฉาในชื่อเสียงของพวกเรา”สตาร์ลอร์ดกล่าวตอบด้วยความสงสัย

หากจะมีคนอิจฉาในชื่อเสียงของพวกเขาก็ไม่เเปลก เเต่ นี่ก็เป็นเเค่ความคิดส่วนตัวของสตาร์ลอร์ดเพียงเท่านั้น หากคนที่เขาคิดไม่ใช่ พ่อบุญธรรมของกาโมร่า ไททัน ธานอส เเล้วล่ะก็ จะเป็นใครไปได้อีก

“เรื่องนี้…”ได้ยินสตาร์ลอร์ดถาม ยอนดู รู้สึกลังเลเล็กน้อยเขายังไม่ได้อธิบายไปในทันที

ฟุ่บ!

ขณะที่ยอนดูกำลังจะบอกเล่าเรื่องสำคัญบางอย่างให้สตาร์ลอร์ดฝั่ง เเจ็คสันที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นก็ได้เคลื่อนไหวเเละลุกขึ้น

“เฮ้! คุณจะไปไหนหน่ะ คุณยังบาดเจ็บอยู่นะ”เห็นมิราจไนท์ลุกเดินออกไป เดดพูล ได้กล่าวถามขึ้น

“ฉันว่าจะไปตากลมเเถวชายทะเลสักหน่อย”ได้ยินคำถามของเดดพูล เเจ็คสันอธิบาย

เกี่ยวกับสิ่งเมื่อครู่ เเจ็คสันได้ยินบทสนทนาของยอนดู กับ สตาร์ลอร์ด หากเเจ็คสันเดาไม่ผิด สิ่งที่เขารู้มาจากภาพยนต์เรื่อง กาเดี้ยน ออฟ เดอะกาเเลคซี่ สิ่งที่ ยอนดูกำลังจะอธิบายก็คือ พ่อของสตาร์ลอร์ด ตัวตนพ่อที่เเท้จริงของสตาร์ลอร์ดนั้นก็คือคนเเปลกหน้าสำหรับสตาร์ลอร์ดเพียงเท่านั้น

“เฮ้,พวกเราไม่รู้ว่าในทะเลนั่นมีสัตว์ประหลาดหรือไม่ คุณไม่กลัวว่า…”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ เดดพูล ได้กล่าวเตือน มิราจไนท์ด้วยความเป็นห่วง

“หากที่นั่นมีสัตว์ประหลาดอยู่จริง ๆ นายก็คงจะรีบมาช่วยฉันใช่มั้ยล่ะ?”เเจ็คสันฉีกยิ้มออกมาพร้อมกับกล่าวตอบเดดพูล

เดดพูล”…”

จากนั้นเเจ็คสันเเละเดดพูล ก็เดินไปที่ชายทะเล ขณะที่ พวก เเจ็คสันเดินออกไป สายตาของ ยอนดู ก็เปล่งประกายเล็กน้อย

“เพื่อนร่วมทีมใหม่ของเจ้าไม่เลวเลย”เห็นมิราจไนท์เดินไปยังชายทะเล ยอนดู กล่าวพูดกับสตาร์ลอร์ด เมื่อไม่นานมานี้ มิราจไนท์ ได้เเสดงให้เห็นถึงความเเข็งเเกร่งที่ไม่ธรรมดา ดังนั้น ยอนดู จึงรู้สึกชื่นชม

“เพื่อนร่วมทีม?น่าเสียดาย หากเป็นไปได้ฉันก็อยากดึงเขามาเข้าร่วมทีมอยู่ พวกเขาก็เเค่เพื่อนที่มาจากดาวเคราะห์บ้านเกิดของฉัน”สตาร์ลอร์ดกล่าวอธิบาย

“เพื่อนที่มาจากดาวเคราะห์บ้านเกิด?พวกเขามาจากดาวเคราะห์โลกนั่น?”ได้ยินคำตอบของสตาร์ลอร์ด ยอนดู รู้สึกตกใจอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงกล่าวถามเพื่อให้เเน่ใจ

“ใช่,ใครจะไปคิดล่ะว่าโลกจะมีบุคคลที่เเข็งเเกร่งเช่นนี้อยู่ เเล้วอีกอย่าง บุคคลที่ปรากฏตัวออกมาช่วยเหลือเราก่อนหน้านี้ก็มาจากโลกเหมือนกัน ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าดาวเคราะห์บ้านเกิดของฉันนั้นเเท้จริงเเล้วลึกลับมากเเค่ไหนกันเเน่”สตาร์ลอร์ดเองก็รู้สึกสัยในเรื่องนี้

“โลกเป็นสถานที่ที่ลึกลับอย่างเเท้จริง”

“เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ คุณมีอะไรที่อยากจะบอกฉันกันเเน่?”เห็นยอนดูเปลี่ยนเรื่องบทสนทนาของพวกเขาเมื่อครู่นี้ สตาร์ลอร์ด รู้สึกคาใจอย่างมาก

“เจ้าเคยสงสัยไหมว่าทำไมข้าถึงไปที่ดาวเคราะห์โลกเเละลักพาตัวเจ้ามา?”ในที่สุดยอนดูก็เปิดความในใจที่เก็บไว้มานานหลายปี

“เพราะอะไรล่ะ?เรื่องนี้ผ่านมาหลายปีฉันเองก็ยังสงสัยอยู่ คงไม่ใช่ว่าคุณเลือกสุ่มไปยังดาวเคราะห์ต่าง ๆ เพื่อลักพาตัวคนอื่น ๆ มาเพื่อเข้าร่วมกลุ่มสลัดอวกาศหรอกนะ?”สตาร์ลอร์ดกล่าวถามในทันที

“ป่าวเลย…เหตุผลที่ข้าลักพาตัวเจ้ามาเป็นเพราะข้าได้รับภารกิจนี้มา”

“ภารกิจ?ภารกิจอะไร? เเล้วใครเป็นคนให้ภารกิจคุณ”ได้ยินว่าเหตุการลักพาตัวของตนเองมาเป็นหนึ่งในภารกิจสตาร์ลอร์ดจึงกล่าวถามอย่างรวดเร็ว

ก่อนหน้านี้ที่เขาช่วยเหลือดาวเคราะห์เเซนดร้าเเละกำจัดโรเเนนได้สำเร็จ เขาก็ได้รับข้อมูลบางอย่างมา มันเป็นข้อมูลที่มาจากผู้บริหารดาวเคราะห์เเซนดร้า เขากล่าวกับ สตาร์ลอร์ดว่า ช่วงชีวิตของตนเองนั้นจะไม่เรียบง่าย ดังนั้น สตาร์ลอร์ดจึงรู้สึกสงสัย ตั้งเเต่เขาจำความได้เขาเกิดขึ้นบนดาวเคราะห์โลก เป็นเเม่ที่เลี้ยงดูเขาในตอนนั้น ส่วนเรื่อง พ่อของเขา สตาร์ลอร์ด ไม่มีข้อมูลเลยเเม้เเต่น้อย

“จะบอกว่านั่นคือพ่อของเจ้าก็คงไม่ได้ผิด”เห็นการเเสดงออกของสตาร์ลอร์ด ยอนดู เปิดเผยความในใจที่เก็บมามากกว่า 20 ปี

ตึก ตึก

ได้ยินว่าภารกิจนั่นมาจากพ่อของตนเอง หัวใจของ สตาร์ลอร์ด เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เเม้ เเต่เเรคคูน ที่อยู่ไม่ไกล ที่อุ้มกรูซอยู่ ก็รู้สึกตกใจด้วยเช่นเดียวกัน

“ทำไมคุณถึงเพิ่งมาบอกฉัน?หรือว่าเหตุผลที่ส่งฉันไปอยู่ที่กลุ่มสลัดอวกาศนั่นมากกว่า 20 ปี ก็เป็นคำขอของพ่อ?”สตาร์ลอร์ดตะโกนถามในทันที

ในเวลานี้เขารู้สึกโกรธมาก เขาเคยรู้สึกสงสัยว่าสถานะพ่อของเขานั้นคืออะไร เขาอยากจะเจอพ่อของตนเองสักครั้ง เเละ ยอนดู ที่รู้ความจริงบางอย่าง กลับไม่คิดจะบอกเขาเเละปกปิดมันมานานมากกว่า 20 ปี

“นั่นก็เพราะว่าพ่อของเจ้าไม่ใช่คนดี!”เผชิญหน้ากับการซักถามของสตาร์ลอร์ด ยอนดู ถอนหายใจก่อนที่จะกล่าวตอบตามจริง

ฟุ่บ~~

ณ สถานที่เเห่งนึง สถานที่ที่เเสงเเดดสาดส่องกระทบกับผิวน้ำให้บรรยากาศที่สวยงาม รอบด้านคือหาดทรายขาวบริสุทธิ์ที่อุบอุ่น

“นี่มันสวยมาก!”หลังจากเดินทางมาถึงหาดทรายขาวเดดพูลในปัจจุบันถอนหายใจออกมาด้วยอารมณ์ชื่นชม

นอกเหนือจากเดดพูล,เเจ็คสัน เเละ พวกสตาร์ลอร์ดนั้น คิดว่าฉากสวยงามที่ว่านี้ค่อนข้างเเปลกประหลาด นี่คือสถานที่ที่อยู่หลังประตูมิติเวทย์มนตร์ของเอนเชี่ยนวัน

ตุบ!

เเจ็คสันมองไปที่ฉากอันสวยงามเบื้องหน้าเเต่เขาก็ไม่ได้คิดสงสัยอะไรต่อเพียงทิ้งก้นนั่งลงบนหาดทรายนุ่ม ๆ นี้

“อั๊ก ~”เเจ็คสันไอออกมาเล็กน้อยเขาได้รับบาดเจ็บภายในรุนเเรงจากการฝืนตนเองมากเกินไป

ก่อนหน้านี้เเจ็คสันได้ต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับสัตว์ประหลาดพืชนั่นเเละเขาได้รับบาดเจ็บภายในมาก่อนหน้านี้เเละหลังจากนั้นเขายังต้องฝืนเข้าสู่สนามรบทั้งที่เขายังไม่ฟื้นตัวดีอีก

“เห้อ,โชคร้ายจริง ๆ หากเอนเชี่ยนวัน ปรากฏตัวก่อนหน้านี้หลายวินาทีฉันคงจะสามารถกักเก็บเเต้มคะแนนไว้ได้จำนวนมากเเท้ ๆ ! ตอนนี้ฉันเหลือเเต้มคะแนนไว้พอเเค่เเลกน้ำพุศักดิ์สิทธิ์เพียงเท่านั้น”

เดิมเเจ็คสันตั้งใจจะเก็บเเต้มคะแนนจำนวนมากจากภารกิจที่ดาวเคราะห์ดวงนี้หลังจากกลับโลกเขาคิดว่าตนเองจะสามารถใช้จ่ายได้อย่างอิสระเพียงเเต่ว่าระยะเวลาสองวันที่อยู่ที่นี่เเจ็คสันได้เเลกเปลี่ยนเเต้มคะแนนของเขาไปจนหมด จนเหลือไม่กี่พันเเต้มคะแนน ดังนั้นเเม้เขาในตอนนี้จะได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งร่างกายเขาก็ไม่เต็มใจที่จะใช้คะแนนที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดในการรักษาตนเองอย่างเเน่นอน

“มิราจไนท์ คุณได้รับบาดเจ็บ”เห็นมิราจไนท์นั่งลงบนหาดทราย เดดพูล ที่ได้สติกลับมาเขากล่าวถามในทันที

“อืม,มันเป็นก่อนหน้านี้ที่สู้กับพืชสัตว์ประหลาดนั่นหน่ะ!”ได้ยินคำพูดของเดดพูล เเจ็คสันตอบกลับเเม้จะได้รับบาดเจ็บเเต่เขาก็ไม่พยายามเเสดงออกทางสีหน้า

ฟุ่บ!

ขณะนั้นเองเเจ็คสันก็จับไปที่เข็มขัดของตนเองจากนั้นกล่องเล็ก ๆ ก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของเขา เเม้ว่าเเจ็คสันจะไม่ต้องการเเลกน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เเต่ในพื้นที่มิติของเขาก็ยังมีสิ่งของอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติในการรักษาอยู่ ยกตัวอย่างเช่น ยายีนที่บริษัทออสบอร์นผลิตขึ้น เเม้ประสิทธิภาพจะด้อยกว่าน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เเต่ก็ยังสามารถช่วยเหลืออาการของเขาได้

“ช่วยฉีดให้ฉันหน่อยได้มั้ย”เห็นเดดพูลจ้องมองมาที่กล่องเเจ็คสันกล่าวขอความช่วยเหลือ

“อ…อืม”เดดพูลกล่าวตอบพร้อมกับหยิบกล่องขนาดเล็กขึ้นมาเเละเปิดฝากล่อง

ฟุ่บ!

จากนั้นเดดพูลก็ใช้ตัวยาที่เป็นเข็มเจาะฉีดเข้าไปในร่างกายของเเจ็คสัน ทันทีที่ตัวยาเข้าสู่ร่างกาย เเจ็คสันรู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก เเม้ประสิทธิภาพการรักษาจะไม่เเสดงผลในทันที เเต่อาการบาดเจ็บภายในของเเจ็คสันก็ได้รับการรักษาอย่างช้า ๆ

ขณะที่เเจ็คสันให้เดดพูลช่วยเหลือในการรักษาอาการบาดเจ็บของตนเอง อีกด้านหนึ่ง สตาร์ลอร์ด เเละ คนอื่น ๆ ก็มารวมตัวกัน เมื่อครู่ พวกเขาเพิ่งเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดยักษ์ที่เกือบจะเอาชีวิตของตนเองไป

“เเล้วกลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์จะเอายังไงต่อ?คุณสูญเสียกำลังคนไปจำนวนมาก?”สตาร์ลอร์ดเอ่ยปากกล่าวถามออกมา

“กลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์ยังไม่จบสิ้น ตราบเท่าที่ข้ายังอยู่ ข้าไม่มีทางยอมให้มันเกิดขึ้น”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด ยอนดู กล่าวตอบ

ในฐานะผู้บัญชาการกองร้อยของกลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์ ยอนดู คือบุคคลที่เป็นเสาหลักของกลุ่ม หากเขายังอยู่ กลุ่มสลัดอวกาศก็ยังไม่ตายไปง่าย ๆ

“บอสพูดถูกเเล้ว พวกเรายังมีภารกิจอีกจำนวนมากรออยู่”ขณะนั้นเองผู้ช่วยของยอนดูก็กล่าวพูดขึ้น เเม้ศึกครั้งนี้ กลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์จะสูญเสียอย่างหนัก เเต่ก็ไม่มีทางล่มสลายอย่างเเน่นอน

“เเล้วไงต่อ?หลังจากนี้คุณจะไล่จับฉันอีกหรือไม่?ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนยังไง”เห็นยอนดูไม่ตอบสตาร์ลอร์ดกล่าวถามอีกครั้ง

ได้ยินคำถามของสตาร์ลอร์ดรูปลักษณ์ของยอนดูเปลี่ยนไปเล็กน้อยจากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่ มิราจไนท์ เเละ เดดพูล ที่อยู่ใกล้เคียง

“เจ้าคิดว่าข้าจะสามารถทำได้?เหตุผลที่ข้าไล่ตามเจ้าก็เพราะเจ้าหักหลังพวกเรา”ยอนดูกล่าวตอบ

“ใช่,ฉันต้องการจะออกจากกลุ่ม เเต่ไม่ว่าอย่างไร ฉันก็เป็นคนผิดจริง ๆ “ได้ยินคำพูดของยอนดู สตาร์ลอร์ดยอมรับผิดเเต่โดยดี

เดิมสตาร์ลอร์ดต้องการเเยกตัวออกจากกลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์ดังนั้นหลังจากได้รับภารกิจเขาจึงเเอบลอบทำภารกิจในตอนนั้นเเละหลบหนีออกมา เหตุผลที่สตาร์ลอร์ดหนีออกมาได้ก็เพราะความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าที่เป็นเป้าหมาย หลังจากนั้นสตาร์ลอร์ดก็สร้างทีมทหารรับจ้างของตนเองขึ้น

“เจ้าคิดว่าโทษของเจ้าควรเป็นโทษสถานใด? ข้าไม่สนหรอกนะว่าเจ้าจะทำอย่างไรต่อ เเต่ข้าได้รับหน้าที่มานั่นเป็นเหตุผลที่ข้าจะต้องปฏิบัติตามคำสั่ง”ยอนดูกล่าวตอบ

“นั่นคือเหตุผลที่คุณไล่ตามฉัน?เพื่อรางวัลหรือไม่?”สตาร์ลอร์ดรู้สึกสงสัย

“เจ้าจะว่าเช่นนั้นก็ได้ เเต่เหตุผลที่เเท้จริงเเล้วข้าก็มีเรื่องสำคัญที่อยากจะเตือนเจ้าเอาไว้”ยอนดูพูดอย่างลอย ๆ

“เรื่องสำคัญอะไร?”ได้ยินคำพูดของยอนดู สตาร์ลอร์ดรู้สึกสงสัย เเละเขาเเสดงสีหน้าออกมาอย่างจริงจัง

“มีคนกำลังเฝ้าระวังจับตามองเจ้าอยู่!”

เกี่ยวกับความรู้สึกที่หนวดขนาดยักษ์สัมผัสได้ก็คือพื้นที่กระเเสมิติที่ราวกับกำลังปั่นป่วนพร้อมกับใบหน้าที่เผยรอยยิ้มของเอนเชี่ยนวัน

ปั้ง!

พลังเวทย์ภาพลวงตาได้ทะลุออกมาจากร่างของเอนเชี่ยนวันพร้อมกับครอบคลุมพื้นที่พื้นที่เเถบนี้ สิ่งที่ปรากฏในภาพลวงตาก็คือภาพจำลองหนวดขนาดยักษ์ที่เหมือนกับสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่น

เมื่อเทียบกับเหล่าพ่อมดทั่วไปเเล้ว วิชาเวทย์ของเอนเชี่ยนวันถือว่าเหนือล้ำกว่ามาก ขอบเขตการใช้เวทย์มนตร์ของเขาอยู่ในจุดสูงสุดทุกเเขนงดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเวทย์ลี้ลับอะไรเขาก็สามารถใช้ได้หมด นี่จึงเป็นที่มาของจอมเวทย์สูงสุดของโลก

หลังจากภาพลวงตาหนวดประหลาดของเอนเชี่ยนวันปรากฏขึ้นมันก็ได้เข้าปะทะกับหนวดขนาดยักษ์ที่พุ่งเข้ามาโจมตีเขา

“เป็นโชควาสนาของเจ้าที่สามารถหลุดพ้นออกมาจากผนึกที่กักขังมาหลายปีได้ เเต่อย่างไรก็ตามหากเจ้ายังดื้อดันที่จะจัดการข้า ข้าก็คงไม่อาจละเว้นเจ้าได้”เอนเชี่ยนวันบังคับหนวดประหลาดของเขาพุ่งเข้าโจมตีในทันที

สัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นี้คือสิ่งมีชีวิตระดับ S คือสัตว์ประหลาดที่เเข็งเเกร่งที่ถูกผนึกอยู่ในผนึกโบราณเป็นระยะเวลาหลายปี หากเอนเชี่ยนวันต้องการกำจัดมันเเน่นอนว่าก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นเดียวกันเเต่เพราะมันหลับใหลมาหลายปีทำให้พละกำลังดั้งเดิมของมันอ่อนเเอลงไปหลายส่วนดังนั้นเอนเชี่ยนวันจึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหาถ้าคิดจะกำจัดมัน

ฟุ่บ!

เอนเชี่ยนวันได้ทำสัญลักษณ์มือบางอย่างจากนั้นเเสงสีทองก็ก่อรูปร่างขึ้นเป็นดาบเวทมนตร์ขนาดใหญ่จากนั้นมันก็พุ่งไปยังตำเเหน่งลูกตาประหลาดที่เป็นร่างหลักของหนวดยักษ์นี้ ธรรมชาติหากคิดจะกำจัดศัตรูก็จะต้องเล่นที่ร่างหลักหรือจุดอ่อนของมันเป็นที่เเรก

ฟุ่บ!

เทียบกับความเเข็งเเกร่งของเเจ็คสันก่อนหน้านี้ ดาบพลังของเอนเชี่ยนวันนับว่าเหนือกว่าอยู่หลายขุมดังนั้นดาบพลังงานของเขาจึงสามารถฝ่าชั้นพลังของลูกตาประหลาดนั่นได้

เปรี้ยง!

ขณะที่เอนเชี่ยนวันกำลังลงมือดูเหมือนหนวดขนาดยักษ์นั่นจะหลุดจากภาพลวงตาของเขามาได้ หนวดยักษ์ทั้ง 16 ได้เคลื่อนไหวกลับมายังตำเเหน่งลูกตาที่เป็นร่างหลักอีกครั้งเพียงเเต่ว่า ดาบเวทมนตร์ขนาดยักษ์ของเอนเชี่ยนวันได้สับผ่าลงไปเเล้ว

เปรี้ยง!

พลังงานเวทมนตร์อันสุดยอดจากใบดาบเวทมนตร์ได้ผ่าลูกตาขนาดยักษ์นั่นเเละส่งคลื่นพลังกระจายไปทั่วอาณาเขตเเห่งนี้

กึก

หลังจากคลื่นพลังกระจายไปทั้งหมด เอนเชี่ยนวันก็มองเห็นหมอกทมิฬที่เข้ามาบดบังการโจมตีของเขาในการสังหารลูกตายักษ์นี่ หมอกทมิฬนั่นได้กลืนกินพลังงานเวทมนตร์ของเอนเชี่ยนวันเข้าไปจนสามารถปกป้องร่างหลักได้ไม่นานหนวดขนาดยักษ์ทั้ง 16 ก็กลับมาสนับสนุนร่างหลักของมันได้สำเร็จมันได้ทำการตอบโต้โจมตีเอนเชี่ยนวันทันที

เอนเชี่ยนวันที่เห็นหนวดยักษ์ตอบโต้การโจมตีของตนเองเขาได้สร้างบาเรียเวทมนตร์ครอบคลุมไปทั้งตัวของเขา เพื่อป้องกันการโจมตีเอนเชี่ยนวันได้ถ่ายโอนพลังเวทมนตร์จำนวนมากใส่ลงบาเรียของเขาจากนั้นมือของเขาก็ทำสัญลักษณ์อีกครั้งเพื่อสร้างกำเเพงเวทมนตร์บางอย่างออกมา

กำเเพงเวทมนตร์นี้ได้พุ่งออกไปกักขังหนวดยักษ์ทั้ง 16 เเละหยุดการเคลื่อนไหวของมัน พละกำลังของหนวดยักษ์นั้นเเข็งเเกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย เเม้จะเป็นเอนเชี่ยนวันหากจะต้องรับมือศัตรูหลายทิศทางก็ลำบากพอตัวดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะใช้เวทมนตร์หยุดการเคลื่อนไหวของศัตรู

“หึ่ม! ดูเหมือนว่าเจ้าจะเร่งฟื้นคืนพลังให้กลับมาได้มากที่สุดอยู่สินะ”หลังจากหยุดการเคลื่อนไหวของหนวดยักษ์ได้สำเร็จ เอนเชี่ยนวันก็จ้องมองไปที่ตำเเหน่งของลูกตา

หนวดยักษ์เหล่านี้ได้ถูกหยุดการเคลื่อนไหวไปเเล้ว เเต่สิ่งที่เหลือที่เอนเชี่ยนวันรู้สึกกังวลก็คือ หมอกทมิฬบางอย่างที่มุ่งหน้าไปยังทิศทางของป่าเเละกลืนกินสรรพชีวิตจำนวนมาก หลังจากที่มันกลืนกินสรรพชีวิตของสัตว์จำนวนมากได้สำเร็จมันก็เปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นมาเป็นพลังงานของตนเองเเละส่งเสริมให้ตนเองเเข็งเเกร่งขึ้น

ปั้ง!

ทุกช่วงขณะที่พลังเหล่านั้นเเปรเปลี่ยนมาเป็นความเเข็งเเกร่งของตนเองหนวดยักษ์ก็เริ่มดิ้นรนเเละพยายามทุบตีกำเเพงเวทมนตร์ของเอนเชี่ยนวันเพื่อที่จะทลายออกมา ทางด้านลูกตายักษ์นั่นมันไม่ได้เคลื่อนไหวมาพักนึงเเล้วรอบด้านของมันคือหมอกทมิฬที่คอยคุ้มครองมันอยู่

เห็นกำเเพงเวทมนตร์ของตนเองถูกหนวดยักษ์ทุบตีอย่งต่อเนื่องเอนเชี่ยนวันไม่ได้เเสดงสีหน้าใด ๆ ออกมา เขายังคงรักษาความสงบเยือกเย็นของตนเองเอาไว้พร้อมกับส่งเสริมเสถียรภาพของกำเเพงเวทมนตร์

ฟุ่บ!

ขณะที่เอนเชี่ยนวันกำลังส่งเสริมกำเเพงเวทมนตร์เเละหยุดการเคลื่อนไหวของหนวดยักษ์เหล่านั้นอยู่ จู่ ๆ ร่างหลักที่เป็นลูกตายักษ์นั่นก็ปรากฏหนวดสีดำยาวประหลาดพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว

“หึ่ม!ไม่คิดเลยว่าเจ้ายังจะซ่อนลูกไม้เเบบนี้เอาไว้อีก?”เห็นการเคลื่อนไหวของหนวดประหลาดสีหน้าของเอนเชี่ยนวันปรากฏความตึงเครียดเล็กน้อย

ฟุ่บ!

จากนั้นใบดาบเวทมนตร์ก็ปรากฏออกมาจากกลางอากาศอีกครั้งพร้อมกับพุ่งโจมตีไปยังทิศทางหนวดประหลาดที่ปรากฏออกมาทันที

ฟู่ว!

พวกสตาร์ลอร์ดเดิมที่รู้สึกสิ้นหวังได้ยินคำพูดของมิราจไนท์พวกเขากลับกลายเป็นมีความหวังมากขึ้น

“มิราจไนท์ นั่นใช่พวกพ่อมดจริง ๆ ใช่มั้ย?”เดดพูล รีบวิ่งไปหามิราจไนท์เเละกล่าวถามด้วยความตื่นเต้น

อันที่จริงเขาก็พอรู้จักคนเหล่านี้อยู่เหมือนกัน คนเหล่านี้เคยโผล่ออกมาช่วยมิราจไนท์ พวกเขาโผล่ ๆ หายๆ ราวกับวิญญาณที่ไม่มีตัวตน สำหรับสถานะของพวกเขา เดดพูล ไม่รู้อะไรมากนัก

“ใช่,เขาเป็นหนึ่งในพวกพ่อมด ทั้งยังเป็นตัวตนที่ทรงพลังที่สุด!”เเจ็คสันกล่าวตอบ

ในเวลานี้เเม้เเจ็คสันจะมีบาดเเผลเต็มไปทั่วร่างกาย เเต่เขาก็ฝืนลุกขึ้นยืนขึ้นเพราะเขาต้องการดูสถานการณ์ว่า เอนเชี่ยนวัน จะทำอย่างไรต่อไป เเม้ความเเข็งเเกร่งของเอนเชี่ยนวันจะเป็นของจริง เเต่ความเเข็งเเกร่งของสิ่งมีชีวิตระดับ S ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน

“มิราจไนท์?เช่นนั้นก่อนหน้านี้ที่คุณบอกว่าจะไม่ยอมให้พวกเราตายใช่รู้มาก่อนเเล้วว่าเขาจะมาช่วยหรือไม่?”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์เดดพูล กล่าวถามด้วยความสงสัย ก่อนหน้านี้ มิราจไนท์พูดว่าจะช่วยให้พวกเขาหลบหนีออกไปได้ อาจเป็นไปได้ว่า มิราจไนท์รู้อยู่ก่อนเเล้วว่าพ่อมดคนนี้จะปรากฏตัว

“เรื่องนี้…”ได้ยินคำถามของเดดพูล เเจ็คสัน เตรียมที่จะอธิบาย

“ฉันรู้ คุณ ไม่ต้องอธิบายเเล้ว คุณกับพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ฉันไม่เเปลกใจที่เขาจะรีบบึ่งมาช่วยพวกเราตอนที่กำลังตกอยู่ในอันตราย”ไม่ต้องรอให้มิราจไนท์อธิบาย เดดพูล กล่าวเเทรกขึ้น

เเจ็คสัน”…”

อันที่จริงเขามีความสัมพันธ์กับเอนเชี่ยนวันอยู่นิดหน่อยก็จริง เเต่เอนเชี่ยนวันไม่ใช่พรรคพวกกลุ่มของพวกเขา มันจึงเป็นเรื่องเเปลกใจสำหรับเเจ็คสันเพราะเขาไม่คิดเลยว่า เอนเชี่ยนวันจะเดินทางมาเป็นระยะทางค่อนข้างไกลเพื่อช่วยเหลือตนเอง นี่เป็นเรื่องเซอร์ไพรซ์ที่สุดเท่าที่เขารู้สึกได้ในตอนนี้

กึก

ขณะที่พวกเเจ็คสันกำลังสนทนากันเรื่องเอนเชี่ยนวัน หนวดขนาดยักษ์ที่ถูกบล็อคการโจมตีคราวนี้มันได้หยุดการเคลื่อนไหวราวกับว่ามันกำลังรู้สึกหวาดระเเวงอยู่

“พ่อมด?มิราจไนท์ นายบอกว่าบุคคลที่ปรากฏขึ้นคนนี้คือพ่อมด?เช่นนั้นเขาจะสามารถรับมือหนวดยักษ์ประหลาดได้ใช่มั้ย?”เห็นหนวดยักษ์หยุดการเคลื่อนไหวไม่ห่างจากตนเองมากนัก สตาร์ลอร์ด กล่าวถามออกมา

“ใช่,เขาคือพ่อมด เเต่เขาไม่ใช่พ่อมดธรรมดา ตัวตนของเขาคนนี้ คือปรมาจารย์จอมเวทย์ที่เเข็งเเกร่งที่สุดในโลก สำหรับเรื่องที่คุณถามว่าเขาจะสามารถรับมือหนวดยักษ์นั่นได้ไหมฉันคิดว่ามันไม่น่าเป็นปัญหาสำหรับเขา”ได้ยินคำถามของสตาร์ลอร์ด เเจ็คสัน อธิบาย

เท่าที่เเจ็คสันรู้มา เอนเชี่ยนวัน คือปรมาจารย์จอมเวทย์ที่เเข็งเเกร่งที่สุดของโลก ในเรื่องของความเเข็งเเกร่งก็ไม่มีความจำเป็นต้องสงสัย หากเป็นไปได้เเจ็คสันก็อยากดึงเอนเชี่ยนวันเข้ามาร่วมทีมพันธมิตรของตนเอง

“จริงงั้นหรอ?เช่นนั้นก็วิเศษไปเลย”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ สตาร์ลอร์ดรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

“หากเจ้าว่าเช่นนั้นพวกเราก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องอยู่ที่สนามรบที่นี่ต่อเเล้วปล่อยให้เขาจัดการเถอะ”เห็นพวกสตาร์ลอร์ดจ้องมองเอนเชี่ยนวัน ยอนดู ได้สาวเท้าเดินหน้าต่อ

เเจ็คสันเเละสตาร์ลอร์ดจ้องมองไปที่ยอนดูที่เดินนำไปด้วยการยืมเเขนของผู้ช่วย ก่อนหน้านี้ ยอนดูได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุยานตก หากจะให้พูดก็คือ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้ยอนดูต้องสูญเสียจำนวนมาก

“คุณไม่เป็นอะไรนะ?”เห็นผิวของยอนดูที่ซีดลงเล็กน้อยสตาร์ลอร์ดกล่าวถามด้วยความเป็นห่วง

อันที่จริงเขาก็ไม่ได้มีอะไรผูกพันธ์กับยอนดูมากนัก เเต่ สตาร์ลอร์ด ก็เป็นห่วงคนคนนี้ อย่างน้อยคนคนนี้ก็เคยเป็นพ่อบุญธรรมของเขา

“ข้าไม่ตายง่าย ๆ หรอกน่า”ยอนดูกล่าวออกมาอย่างไร้อารมณ์

“เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ,ฉันไม่อยากมองเห็นเงาของหนวดยักษ์นั่นอีกเเล้ว”หลังจากยอนดูพูดจบ เดดพูล พูดขึ้นอย่างเร่งรีบ

ได้ยินคำพูดของยอนดูเเละเดดพูล เเจ็คสัน หันศีรษะจ้องมองไปทาง เอนเชี่ยนวันอีกครั้ง เป็นอย่างที่ยอนดูพูด สิ่งที่พวกเขาทำได้ในตอนนี้ก็คือหลบหนีออกจากที่นี่ ถึงอยู่ไปพวกเขาก็ไม่สามารถช่วยอะไรเอนเชี่ยนวันได้

“…”

ขณะที่เเจ็คสันเตรียมจะพูดอะไรจู่ ๆ ด้านหลังของพวกเขาก็ปรากฏเเสงวงกลมสีทองขึ้น เห็นได้ชัดว่านี่ก็คือประตูมิติเวทย์มนตร์

ด้านหลังประตูมิติเวทย์มนตร์นี้คือสถานที่อีกสถานที่นึงที่มีสภาพเเวดล้อมที่เเตกต่างโดยสิ้นเชิง

“เข้าไป!”เห็นประตูมิติเวทมนตร์ปรากฏขึ้น เดดพูล ตะโกนขึ้นเป็นคนเเรก

หลังจากเดดพูลตะโกน ยอนดู จ้องมองสังเกตุพื้นที่ด้านหน้าอย่างระวังจากนั้นเขาก็เดินเข้าไป สำหรับเเจ็คสันเเล้วเขาจ้องมองคนอื่น ๆ เดินเข้าไปส่วนตัวธรรมชาติเขาอยากจะอยู่ต่อที่นี่เเละดูการต่อสู้ของเอนเชี่ยนวัน

ฟุ่บ!

เพียงเเต่ว่ามองดูสภาพร่างกายที่ย่ำเเย่ของตนเองเเจ็คสันทำได้เเต่ยอมตัดใจเเละเดินเข้าไปในประตูมิติเวทมนตร์ก่อนที่เขาจะหายเข้าไปโดยสมบูรณ์เเจ็คสันได้หันศีรษะกลับมามองทางเอนเชี่ยนวันอีกครั้งก่อนที่จะหันกลับไป พริบตาที่เเจ็คสันเข้าไปเป็นคนสุดท้าย ประตูมิติเวทมนตร์ก็ปิดตัวลงในทันที

ปั้ง ปั้ง

ทางด้านเอนเชี่ยนวัน หนวดขนาดยักษ์เริ่มที่จะโจมตีเขาอีกครั้งเเต่เขาก็ได้สร้างบาเรียเวทมนตร์ในการสะท้อนการโจมตีมันกลับใบ

“เห้อ,เจ้าเด็กน้อยคนนี้ ไม่คิดเลยว่าจะสร้างปัญหาอย่างการปลุกสัตว์ประหลาดยักษ์นี่ขึ้นมา”มุมปากของเอนเชี่ยนวันกระตุกเล็นน้อยก่อนที่จะเผยรอยยิ้ม

จริงๆเเล้วเอนเชี่ยนวันได้ใช้สะพานไบฟรอสเเละใช้ประตูมิติเวทมนตร์ของตัวเองเดินทางมาถึงก่อนหน้านี้ เเต่เพราะเอนเชี่ยนวันต้องการดูว่า เเจ็คสันจะทำอย่างไรในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ เเละสิ่งที่เเจ็คสันได้ทำลงไปก็ไม่ทำให้เขารู้สึกผิดหวัง ดังนั้น เอนเชี่ยนวัน ที่เห็นสถานการณ์ไม่ดีจึงปรากฏตัวขึ้นในเสี้ยววินาที

ฟุ่บ!

หนวดขนาดยักษ์อยู่ห่างไม่ไกลจากเอนเชี่ยนวันมากนักมันกำลังสับสนบางอย่างคล้ายกับต้องมนตร์ลวงตาท่าทีของมันในตอนนี้ก็เหมือนกับเอนเชี่ยนวันคือการค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่เเปลกประหลาด

ขณะที่การโจมตีของหนวดพุ่งเข้ามาตรงหน้าของเขา เเจ็คสันได้รวบรวมความคิดเเละจมดิ่งเข้าสู่จิตใจเเละทำการเเลกเปลี่ยนความคุ้มครองจากระบบร้านค้าโดยตรง ธรรมชาติ มันย่อมเป็นการป้องกันที่สูงมาก

เพร้ง!

พวกสตาร์ลอร์ดที่เห็นเหตุการเขาเเทบจะตะโกนออกมาบาเรียสีทองที่ก่อตัวขึ้นเบื้องหน้ามิราจไนท์สามารถบล็อคการโจมตีของหนวดยักษ์ที่พุ่งงเข้ามาโจมตีได้ เเต่เเล้ว บาเรียสีทองนั้นหลังจากถูกโจมตีมันก็เเตกสลายหายไปในทันที

ครื่น!

ทางการการโจมตีคลื่นพลังของเเจ็คสันสิ่งที่เขาเล็งไปก็คือวัตถุสีดำทรงกลมที่เป็นร่างหลักของมันเขาได้ระเบิดพลังเฮือกสุดท้ายไปเเล้วเเต่พอการโจมตีกระทบตัวของมัน มันกลับหายไปราวกับว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เมื่อเห็นว่าการโจมตีของตนเองไร้ผลเเละหนวดยักษ์ที่มีความรุนเเรงมากกว่าครั้งก่อนโจมตีมาที่ตนเองอีกครั้ง เเจ็คสันที่ไร้การป้องกันได้หลับตาลงทันที

ฟุ่บ!

“ดูเหมือนว่าฉันจะมาได้เเค่นี้สินะ!”เเจ็คสันที่หลับตาลงได้พึมพัมออกมาด้วยการป้องกันของชุดสูทของเขาเพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันการโจมตีที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ได้อย่างเเน่นอน

เพียงเเต่ว่าขณะที่หนวดยักษ์นั่นกำลังจะคุกคามชีวิตของตนเอง จู่ ๆ ด้านหน้าของเเจ็คสันก็ปรากฏคลื่นพลังสีทองที่ต้านทานการโจมตีจากหนวดยักษ์เเละสะท้อนมันกลับไป

“หืม?เกิดอะไรขึ้น…”

หลังจากเห็นความผิดปกติเเจ็คสันได้ลืมตาขึ้นพร้อมกับมองเห็นคลื่นพลังสีทองที่บล็อคการโจมตีเเละส่งให้หนวดนั่นกระเด็นถอยกลับไป จากนั้นในสถานที่ตำเเหน่งไม่ไกลจากเเจ็คสันเขาก็มองเห็น ลำเเสงวงกลมสีทองที่ปรากฏขึ้นกลางอากาศ

อา…

เเจ็คสันจ้องมองไปที่ลำเเสงวงกลมสีทองที่คุ้นเคย เขาจ้องมองมันด้วยความตกตะลึง ลำเเสงวงกลมสีทองอยู่ไม่ไกลจากตำเเหน่งของเขาจากนั้นไม่นานก็เหมือนมีบางสิ่งก้าวออกมาจากภายในนั้น

“นั่นมัน…”เห็นบางสิ่งบางอย่างที่ปรากฏตัวออกมาจากลำเเสงวงกลามสีทองเเจ็คสันอุทานออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

“เวทย์มนตร์ประตูมิติ!!”ในที่สุดเขาก็เปร่งเสียงที่คุ้นเคยออกมา

ในเวลานี้ นอกเหนือจาก เเจ็คสันเเล้ว เดดพูล ที่อยู่ไม่ไกลจากตำเเหน่งของเเจ็คสันมากเขาเองก็สังเกตุเห็นประตูมิติอวกาศเวทมนตร์ที่ปรากฏขึ้น ในฐานะที่เขาเป็นคนของโลก เขาที่เคยร่วมต่อสู้กับมิราจไนท์มา ย่อมรู้จักกับ ผู้สืบเชื้อสายเเรกเริ่มของโลก พวกจอมเวทย์

“ฉันรอดเเล้ว! ฉันรอดเเล้ว!”เดดพูลตะโกนออกมาอย่างดีใจหลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

ได้ยินคำพูดของเดดพูล พวก สตาร์ลอร์ด เองก็มองเห็นลำเเสงสีทองวงกลมที่ปรากฏขึ้น เเต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด ดังนั้นเขาจึงจ้องมองไปทางเดดพูล

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เเล้ววงกลมสีทองนั่นคืออะไร?”สตาร์ลอร์ดกล่าวถามเดดพูลในทันที

สตาร์ลอร์ดนั้นไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้คืออะไรดังนั้นเขาจึงรู้สึกอดสงสัยไม่ได้เเน่นอนว่าคนอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน

เเจ็คสันที่รอดพ้นจากความตายเขาได้บังคับเครื่องร่อนกลับมายังตำเเหน่งของทุกคนพร้อมกับจ้องมองสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป

“ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน!”หลังจากเห็นคนที่ปรากฏออกมาจากประตูมิติอวกาศเวทมนตร์เเจ็คสันได้อุทานออกมาอย่างดีใจ

จริง ๆ เเล้ว ทันทีที่เห็นประตูมิติอวกาศเวทมนตร์เเจ็คสันก็สามารถคาดการณ์ได้ในทันทีว่านั่นจะต้องเป็นหนึ่งในพวกเหล่าพ่อมดอย่างเเน่นอน

เเต่ใครจะไปคิดว่า ตัวตนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวัน จอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก จะเป็นคนปรากฏตัวขึ้นที่นี่ นั่นเป็นเหตุผลที่เเจ็คสันในตอนนี้รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

“ไม่คาดคิดเลยว่า ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันจะมาด้วยตัวเองแบบนี้”เเม้จะรู้สึกตื่นเต้นเเต่ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกสงสัย

เริ่มเเรก ก่อนหน้านี้ เเจ็คสัน เคยพูดคุยกับปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันเป็นการส่วนตัว ในตอนนั้น เอนเชี่ยนวัน ได้ยอมรับ เเจ็คสัน เเละมองว่าเขาเป็นคนที่น่าสนใจคนนึง เเต่เเน่นอนว่า เอนเชี่ยนวันก็ไม่ได้ยอมรับตนเองไปทั้งหมด สิ่งที่เขายอมรับก็คือความคิดของเเจ็คสัน ความคิดที่กล้าจะเปลี่ยนเเปลง ความคิดที่อยากจะปกป้องโลก ดังนั้นเอนเชี่ยนวันในตอนนั้นจึงทิ้งสัญลักษณ์บางอย่างไว้ในร่างกายของเเจ็คสันเพื่อเฝ้าจับตามองการกระทำของเเจ็คสัน

“มิราจไนท์ นั่นเป็นคนรู้จักของนายอย่างงั้นหรอ?”เห็นมิราจไนท์อุทานชื่อใครบางคนออกมา สตาร์ลอร์ด เเละ คนอื่น ๆ จ้องมองมาที่เขาพร้อมกับยิงคำถามด้วยความสงสัย

สตาร์ลอร์ดนั้นเกิดบนดาวเคราะห์โลก เเละ โลกก็คือบ้านเกิดของเขา เท่าที่เขารู้มา ดาวเคราะห์บ้านเกิดของตนเองมีสถานะที่ต่ำเป็นอย่างมาก เเต่ในช่วงเวลา 2 วันที่อยู่ด้วยกันกับพวก มิราจไนท์ เเละ เดดพูล ความคิดเดิมที่สตาร์ลอร์ดเชื่อเกี่ยวกับโลกมาตลอดกับได้พังทลายลง เพราะในปัจจุบัน คนรู้จักของมิราจไนท์ ที่สตาร์ลอร์ดเห็นในตอนนี้ ดูท่าเเล้วน่าจะเเข็งเเกร่งเอามาก ๆ

“ใช่,ฉันรู้จักเขา!”ได้ยินคำพูดของสตาร์ลอร์ด เเจ็คสันพยักหน้าในทันที

ตั้งเเต่ที่ปรมาจารย์เอนเชี่ยนวันปรากฏตัวขึ้น เเม้ว่าพวกเขาจะไม่มีวิธีกำจัดสัตว์ประหลาดระดับ S ที่น่ากลัวนี้ เเต่เเจ็คสันก็มีความมั่นใจว่าตนเองจะสามารถรอดกลับออกไปจากดาวเคราะห์ดวงนี้ได้อย่างปลอดภัย

อึ้ง!

หลังจากเเจ็คสันเอ่ยปากพูดขึ้นผู้คนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ต่างมีท่าทีตกใจพร้อมกับหันศีรษะจ้องมองไปทางเขาอย่างรวดเร็ว เเน่นอนว่ามันเป็นความสงสัย พวกสตาร์ลอร์ดหลังจากที่เห็นหนวดรูปร่างประหลาดนั้นพวกเขาก็เเทบตัดใจที่จะหลบหนีออกจากที่ เเต่ เเล้ว มิราจไนท์กลับบอกว่าจะไม่ยอมให้พวกเขาตาย หรือว่า มิราจไนท์มีหนทางช่วยเหลือพวกเขาในตอนนี้?

“ฮ่าฮ่า! มิราจไนท์ คุณคงไม่ได้อำพวกเราเล่นใช่มั้ย?”เดดพูลเป็นคนเเรกที่จ้องมองไปที่มิราจไนท์ด้วยท่าทีมีความหวัง

เดดพูลนั้นมอบความไว้เนื้อเชื่อใจมิราจไนท์เป็นอย่างมาก ดังนั้น เขาไม่ได้สงสัยในคำพูดของมิราจไนท์เเม้เเต่น้อย เเต่อย่างไรก็ตามเเต่เขาก็อยากรู้ว่ามิราจไนท์จะหาหนทางออกจากสถานการณ์ตรงนี้ยังไง

“มิราจไนท์ นายมีวิธีที่จะพาพวกเราออกไปจากที่นี่อย่างงั้นหรอ?”หลังจากเดดพูลกล่าวถามออกไป สตาร์ลอร์ด ที่รู้สึกสงสัย ก็ถามออกมา

“ก็อาจจะ…”เเจ็คสันพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะหันศีรษะจ้องมองไปยังสถานที่ห่างไกลซึ่งก็คือร่างหลักของหนวดยักษ์เหล่านี้

พลังงานภายในร่างกายของเเจ็คสันในตอนนี้ฟื้นฟูมาได้เป็นจำนวนมากเขาได้จ้องไปทางเดดพูลก่อนที่จะหยิบเครื่องร่อนที่ฝากไว้กับเดดพูลมา จากนั้น เเจ็คสัน ก็กระโดดขึ้นไปเเละพุ่งออกไปในทันที

ฟ้าว!

พริบตาที่มิราจไนท์กระโดดขึ้นเครื่องร่อนเเละจากไป สีหน้าของ เดดพูล เเละ คนอื่น ๆ ก็เปลี่ยนไปในทันที

เพราะเห็นได้ชัดว่ามิราจไนท์ตั้งใจจะทำอะไร พวกเดดพูล เเละ สตาร์ลอร์ดที่จ้องมองอยู่ที่ทุ่งหญ้าบนหุบเขา เขาเห็นมิราจไนท์ พุ่งเข้าไปยังทิศทางที่หนวดยักษ์เหล่านั้นเคลื่อนตัวเข้ามา

ฟุ่บ!

พริบตาต่อมาเเจ็คสันได้ควบเเน่นพลังของตัวเองลงบนดาบสปิริตซอร์ดของเขาไม่รู้ว่าตั้งเเต่เมื่อไหร่ที่เขาดึงดาบนี่ออกมา

“กลืนกินพลังงานเข้าไปซะ!”ภายในร่างกายของเเจ็คสัน ดาบสปริตซอร์ดของเขาได้ดูดกลืนพลังงานภายในของเขาอย่างบ้าคลั่ง

ฟู่วว!

การควบเเน่นพลังลงบนดาบนั้นเเม้เเต่ตาเปล่าของผู้คนทั่วไปก็สามารถสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังที่ถาโถมออกมาอย่างรุนเเรง จากนั้นเเจ็คสันก็บังคับเครื่องร่อนมุ่งหน้าไปยังทิศทางเป้าหมาย

หลังจากเห็นเป้าหมายข้างหน้าขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง เเจ็คสันได้ตวัดดาบของเขาออกไปพร้อมกับปลดปล่อยพลังงานที่สะสมอยู่ในตัวดาบทั้งหมดออกไป

ฟวั่บ!

ขณะที่ มิราจไนท์ ห่างจากตำเเหน่งของตัวเองออกไปมากกว่า 1 กิโลเมตร เเละ ทำท่าทางบางอย่างพร้อมกับระเบิดพลังงานจำนวนมากออกมา คลื่นพลังงานสีฟ้าที่มองเห็นด้วยตาเปล่า ทำให้ พวกสตาร์ลอร์ดรู้สึกตื่นตะลึง เพราะสิ่งนี้เขาเคยเห็นมันมาก่อนมันคือการโจมตีอันทรงพลังของมิราจไนท์

“นั่นมัน…”เดดพูล เเละ เเรคคูน รวมถึงคนอื่น ๆ ได้อุทานออกมาพร้อมกันใบหน้าของพวกเขากลายเป็นตกใจในทันที

เดดพูล จ้องมองไปที่คลื่นพลังดาบสีฟ้าที่ถูกปลดปล่อยออกมามันได้พุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงราวกับว่าสามารถตัดผ่านได้ทุกสิ่ง

ก่อนหน้านี้ เเจ็คสันตัดสินใจที่จะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อเเละบอกให้พวกสตาร์ลอร์ดหนีไป เเต่ถ้าเขาบอกออกไปว่าจะให้ตนเองเป็นเหยื่อล่อพวกสตาร์ลอร์ดคงไม่ยอมอย่างเเน่นอน ดังนั้น เเจ็คสันจึงไม่ได้บอกอะไรพวกเขาเเละตัดสินใจหยิบเครื่องร่อนเเละพุ่งออกมาเลย สัญชาตญาณการตอบสนองของเเจ็คสันบอกว่า หากเขาไม่ทำอะไรเลย ท้ายที่สุดพวกเขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้น เเจ็คสันตั้งใจจะใช้พลังงานทั้งหมดที่เขามีในการเดิมพันจัดการศัตรูดู

เหตุผลที่เขาใช้เครื่องร่อนก็เป็นเพราะเเจ็คสันได้เปิดจุดพลังงานของเขาทั้งหมดเเละรวมมันเอาไว้ที่ตัวดาบ เขาเดิมพันกับการโจมตีที่ทุ่มสุดตัวทั้งหมดของตัวเอง จนสามารถระเบิดพลังงานขนาดใหญ่เเละปลดปล่อยมันออกมาได้เพียงเสี้ยววินาที

หากให้อธิบายการระเบิดพลังก่อนหน้านี้ที่เเจ็คสันใช้กำจัด สัตว์ประหลาดระดับ B พืชสัตว์ประหลาด เขาใช้ความเเข็งเเกร่งเพียงเเค่ 30% เพียงเท่านั้น เเต่ตอนนี้หากให้พูดอีกอย่างก็คือเขาได้ทุ่มสุดตัวทั้งหมดก็คือพลังงาน 99% ที่มีอยู่

ท่าคลื่นผ่าวิญญาณของตนเองได้ถูกระเบิดออกมาด้วยพลังงานทั้งหมดของเขา

สตาร์ลอร์ดที่เห็นสถานการณ์ไม่ดี เขารีบตะโกนออกมาอย่างรวดเร็ว

“เร็วเข้า,รีบหนีไป!”เเจ็คสันที่ปลดปล่อยพลังออกไปเเล้วเขาได้กัดฟันเเน่นเเละตะโกนบอกคนอื่น ๆ ที่อยู่ห่างไกลออกไป

อา…

เสียงที่เต็มไปด้วยเเรงกดดันที่มาจากมิราจไนท์ได้กระตุ้นเตือนให้พวกสตาร์ลอร์ดได้สติกลับมา

เเจ็คสันได้ระเบิดการโจมตีออกไปเเล้วเเต่ด้านหน้าของเขาเงาสีดำขนาดใหญ่ที่เป็นหนวดยักษ์ได้พุ่งเข้ามาหาตนเอง เเจ็คสันในตอนนี้อยู่ในสภาพที่อ่อนเเออย่างมาก ดังนั้นหากเขาถูกโจมตีในตอนนี้เขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

“ทำยังไงดี?”เห็นหนวดยักษ์ที่เข้ามาใกล้จิตใจของเขาในตอนนี้รู้สึกอ่อนเเอมาก

!

เสียงของเเจ็คสันเริ่มที่จะเเหบพร่าเขาได้จมดิ่งเข้าไปในจิตใจของตนเองเเละเริ่มดำเนินการบางอย่าง

ฟุ่บ!

จากนั้นเเสงสีทองก็ไหลออกมาจากร่างกายของเขาพริบตาที่เเสงสีทองไหลออกมา พวกสตาร์ลอร์ด ที่มัวเเเต่ตะลึงกับการกระทำของมิราจไนท์ ได้กลายเป็นตื่นตกใจโดยสมบูรณ์พวกเขาไม่รู้ว่ามิราจไนท์กำลังจะทำอะไรเเต่หนวดยักษ์นั่นได้พุ่งเข้าหามิราจไนท์อย่างรวดเร็ว

วินาทีต่อมาพวกเขาก็เห็นหนวดยักษ์นั่นพุ่งเข้าโจมตีใส่มิราจไนท์เข้าไปเต็ม ๆ

ตึง~~

หนวดยักษ์ทั้ง 16 ได้หยุดการเคลื่อนไหวเเละกำลังตอบสนองต่อวัตถุทรงกลมขนาดยักษ์ที่กำลังปริเเตกออกมา ธรรมชาติภายในวัตถุทรงกลมขนาดยักษ์ไม่ใช่ร่างของสัตว์ประหลาดปลาหมึกยักษ์ เเม้จะมีหนวดที่คล้ายกันเเต่คุณลักษณะของมันกลับเเตกต่างจากปลาหมึกยักษ์มาก

กึก!

ทันทีที่บอลทรงกลมเริ่มปริเเตกออกสิ่งที่โผล่ออกมาจากภายในเริ่มที่จะขยายร่างอย่างรวดเร็วรูปลักษณ์ประหลาดได้เปิดเผยออกมาดวงตาขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางได้เปิดขึ้น

ฟุ่บ!

ทันทีที่ดวงตาขนาดใหญ่ตรงกลางเปิดขึ้นหนวดยักษ์ทั้ง 16 ก็เคลื่อนไหวลงกลับไปใต้ดินอีกครั้งเเละเริ่มส่งเสียงประหลาดดังออกมา

ปั้ง ~ ~ ~

คราวนี้หนวดยักษ์เหล่านั้นไม่ได้โผล่ออกมาเเค่ปลายอีกเเล้วมันโผล่ออกมาทั้งโคนเหมือนกับหางมีลักษณะความยาวคล้ายกับงูยักษ์เเน่นอนว่าเสียงเต้นของหัวใจที่ได้ยินก่อนหน้านี้ก็ดังรุนเเรงขึ้นมากกว่าเดิม

หลังจากหนวดอันเเรกโผล่ออกมาหนวดอันต่อ ๆ ไปที่หลุดจากผนึกโดยสมบูรณ์ก็ทยอยหลุดขึ้นมาเเละดูมีขนาดกล้าเเกร่งกว่าเดิม

ตรงกลางของหนวดยักษ์ท้ง 16 มีลูกกระตาสีดำจำนวนมากราวกับว่านี้คือส่วนเสริมที่ช่วยระวังการเฝ้ามองของร่างหลักที่มีลูกตายักษ์เพียงดวงเดียว

สัตว์ประหลาดก้อนกลมที่หลุดออกมาจากผนึก มันได้จ้องมองดวงตาขนาดยักษ์ไปยังทิศทางนึงคราวนี้ไม่มีอะไรมากีดกั้นขวางทางมันได้อีกเเล้ว ผนึกทั้งหมดที่กักขังมันไว้ได้พังทลายหายไปเเล้ว ตอนนี้มันต้องการอาละวาดให้ถึงที่สุด

~ ~ ~ ~

หนวดยักษ์ทั้ง 16 ที่มีความยาวมากกว่า 3,000 เมตร ได้เริ่มเคลื่อนไหวเข้าสู่ตำเเหน่งทิศทางป่าที่มีทุ่งหญ้า

ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ!

ทางด้านเเจ็คสันเขาได้ใช้เทคนิครู้เเจ้งสัมผัสทิศทางรอบด้านเขาสัมผัสได้ว่าหนวดขนาดยักษ์ทั้ง 16 ได้เคลื่อนไหวเเละเป้าหมายของพวกมันก็คือทิศทางของพวกเขา

“เวรเอ้ย! มันตรวจพบสถานที่ของพวกเราเเล้ว”เเจ็คสันตะโกนออกมา

เขาคิดว่าถ้าอยู่ห่างไกลคงจะไม่ได้ผลกระทบจากสิ่งมีชีวิตระดับ S เเต่ เเจ็คสันประมาทเกินไป เพราะการใช้พลังจิตเมื่อครู่ส่องร่างหลักมันเมื่อกี้ทำให้ตำเเหน่งของพวกเขาถูกจับได้

“นั่นมัน?…หนวดยักษ์ที่พวกเราเห็นก่อนหน้านี้ พวกมันกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้!”เห็นมิราจไนท์บ่นพึมพัมออกมา เดดพูล ที่จ้องมองไปที่ด้านหลังตะโกนขึ้นอย่างตกใจ

“ว่าไงนะ?”ได้ยินเสียงเตือนของ เดดพูล เเละ มิราจไนท์ คนอื่น ๆ ตะโกนออกมาทันที

พวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปที่ด้านหลังตอนนี้พวกเขาเห็นเงาร่างขนาดใหญ่ยักษ์ที่เคลื่อนไหวอย่างเเพรวพราวมุ่งหน้ามายังทิศทางของพวกเขา

“อะไรกัน?ทำไมมันถึงรวดเร็วขนาดนี้?”สตาร์ลอร์ดร้องตะโกนด้วยความตกใจ

“นี่คือสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่ถูกฝังอยู่ในผนึกนั่น โอกาสที่พวกเราจะรอดไม่มีเเล้ว?”

ยอนดูจ้องมองไปที่หนวดยักษ์ทั้ง 16 ที่กำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขาด้วยความรวดเร็ว

ก่อนหน้านี้เเม้ยอนดูจะส่งข้อความขอกำลังเสริมไปเเล้ว เเต่การช่วยเหลือที่เร็วที่สุดก็ยังคงต้องใช้เวลา ยิ่งไปกว่านั้นถึงเเม้กลุ่มสลัดอวกาศที่เป็นพันธมิตรจะมาที่นี่ได้สำเร็จ ก็ไม่มีใครกล้ารับประกันว่าจะสามารถจัดการสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้

“โอกาสที่พวกเราจะหนีรอด เเทบไม่มี เห็นที ฉันคงต้องใช้เเค้มคะแนนทั้งหมดเพื่อกอบกู้สถานการณ์ตรงนี้ให้ได้”เห็นสีหน้าเเละท่าทางไม่สู้ดีของคนอื่น เเจ็คสันพยายามจะดิ้นรนสุดชีวิต

“ยอนดู นายรู้เกี่ยวอะไรกับตราผนึกนั่นมากน้อยเเค่ไหน?ตอนนี้ชีวิตของพวกเราทุกคนอยู่ในมือของนายเเล้ว”สตาร์ลอร์ดจ้องมองไปที่ยอนดูพร้อมกับกล่าวถามเรื่องตราผนึกที่ผนึกสิ่งมีชีวิตที่เเข็งเเกร่งตัวนี้

“ข้าเองก็ไม่รู้มากนักหรอก รู้เเค่ว่าผนึกนั่นคือผนึกชั้นยอดที่เเข็งเเกร่ง ยิ่งไปกว่านั้น เจ้ายังจะคาดหวังอะไรจากข้า ถึงข้าจะรู้ว่าสิ่งมีชีวิตนั่นคืออะไรเเล้วพบจุดอ่อนของมัน เจ้าคิดว่าพวกเราที่เเสนอ่อนเเอจะมีโอกาสได้ตอบโต้สถานการณ์ในตอนนี้?”

“สิ่งที่พวกเราทำได้ก็คือรอความตายอยู่ที่นี่ ดูเหมือนข้าคงต้องปล่อยวางเเผนการทั้งหมดที่วางเอาไว้ให้มันจบลงที่นี่ตรงนี้”ยอนดูกล่าวออกมาด้วยสีหน้าปลดทุกข์มันไม่สำคัญเเล้วว่าพวกเขาจะรอดไปได้ยังไง

“หึ่ม ฉันจะไม่ยอมให้พวกเรามาตายที่นี่หรอก!”ขณะนั้นเองเเจ็คสันที่นิ่งเงียบครุ่นคิดอยู่นานก็เปิดปากพูดขึ้นท่ามกลางความหวาดกลัวของผู้คนทั้งหมด

ตุบ ตุบ!

คราวนี้ระหว่างที่หนวดทั้ง 16 เคลื่อนไหวทุกการเคลื่อนไหวของมันได้สร้างเสียงที่คล้ายกับเสียงหัวใจเต้นดังออกมา เสียงที่เกิดขึ้นในตอนนี้ได้ดังออกมาเป็นจังหวะ

ตุบ ตุบ ~ ~

เมื่อเวลาผ่านไปจังหวะการเต้นของหัวใจก็ดังมากขึ้นเรื่อย ๆ เเละเริ่มรุนเเรงดังกระจายไปทั่วพื้นที่ภายนอก ส่วนเเกนกลางที่เป็นวัตถุทรงกลมขนาดใหญ่มันก็เริ่มปลดปล่อยพลังงานเเห่งความมืดออกมาเป็นกลุ่มหมอกสีดำที่รุนเเรงปกคลุมไปทั่วหนวดทั้ง 16

ตุบ ~~~

ขณะที่หนวดทั้ง 16 เคลื่อนไหวจนทำลายผนึกลูกบาศก์ได้สำเร็จ พวก เเจ็คสัน เเละ คนอื่น ๆ ก็ได้หลบหนีออกจากพื้นที่เห่งนี้ไปได้ไกลพอสมควร สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวนี่ ถูกทิ้งไว้ข้างหลังมากขึ้นเรื่อย ๆ

เห้อ~

“ที่นี่ไกลพอรึยัง?”จากนั้นไม่นานพวกเขาก็เลือกหยุดที่สถานที่เเห่งนี้ สตาร์ลอร์ด เป็นคนเปิดปากขึ้นเป็นคนเเรกพร้อมกับจ้องมองไปที่ยอนดู เเจ็คสัน เเละ คนอื่น ๆ

พวกสตาร์ลอร์ดได้ตัดสินใจหลบหนีออกมาจากพื้นที่ตำเเหน่งรอยเเยกให้ไกลที่สุด เเละ ในตอนนี้เขาก็คิดว่าตนเองได้หลบหนีมายังจุดปลอดภัยเเล้ว ที่เหลือก็เเค่ความกลัวที่หยั่งรากลึกติดมากับเขา เพราะเขาเป็นคนทำลายผนึกที่ว่าเเละปลดปล่อยสัตว์ประหลาดตัวนี้ออกมา หากมันยังไม่ถูกเเก้ไขนี่ก็เหมือนกับตราบาปสำหรับเขาไม่ผิดเเม้เเต่น้อย

เห็นสตาร์ลอร์ดเลือกที่จะหยุดวิ่งเเละกล่าวถามออกมา ยอนดู เเละ เเจ็คสัน ก็หยุดลงเช่นเดียวกัน คราวนี้พวกเขาหันกลับไปมองยังทิศทางด้านหลังกลับมองไม่เห็นหนวดขนาดยักษ์นั่นเเล้ว ก่อนหน้านี้พวกเขาเห็นหนวดนั่นสั่นไหวอย่างรุนเเรง เเต่พวกเขาก็ไม่รู้เเน่ชัดว่ามีอะไรเกิดขึ้นกันเเน่

“มิราจไนท์ คุณพอจะรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้มั้ย?”หลังจากมองไปทิศทางด้านหลังอย่างระวัง เดดพูล กล่าวถามมิราจไนท์

ได้ยินคำพูดของเดดพูล เเจ็คสันได้ปิดตาลงอย่างเงียบ ๆ จากนั้นเขาก็ใช้เทคนิครู้เเจ้งของตนเอง เป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีที่กำลังจะเกิดขึ้น ดังนั้น เเจ็คสันเองก็ตั้งใจจะใช้เทคนิคสัมผัสรู้เเจ้งเพื่อสอดส่องดูอยู่เเล้ว

หลังจากเเจ็คสันปล่อยเทคนิครู้เเจ้งออกมา ยอนดู เเละ สตาร์ลอร์ด รวมถึงคนอื่น ๆ ก็มีท่าทีเปลี่ยนไปเล็กน้อย สตาร์ลอร์ด เคยเห็น มิราจไนท์ใช้พลังจิตนั่นมาก่อน ส่วนยอนดู ก็สามารถคาดเดาได้ว่า มิราจกำลังใช้พลังจิต ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความเเตกต่างอย่างมากเเม้ว่าจะเป็นพลังจิตเหมือนกับตัวเอง

วู๊ม!

พลังจิตที่เเข็งเเกร่งของเเจ็คสันได้รวมตัวกันเเละเหนี่ยวนำการใช้เทคนิครู้เเจ้งทำให้สัมผัสของเเจ็คสันกว้างไกลมากขึ้นตอนนี้เขาสามารถมองย้อนกลับไปยังทิศทางส่วนลึกของป่าดูได้

ติง ติง ติง~~

ขณะที่ เเจ็คสันใช้เทคนิครู้เเจ้งกวาดเข้าไปยังส่วนลึกของป่า จู่ ๆ ก็มีบางสิ่งโจมตีเข้ามาสู่ภายในจิตใจของเขา มันเป็นคลื่นพลังที่น่ากลัวเเละรุนเเรง เเจ็คสันไม่เคยคิดเลยว่า ปราการพลังจิตของตนเองจะถูกทำลายอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ดี เเจ็คสันรีบถอนพลังจิตของตัวเองกลับมาทันที

อั๊ก!

พลังจิตของเเจ็คสันได้ถูกโจมตีเสียหายจนม่านปราการพลังจิตได้เเตกกระจายสิ่งนี้ส่งผลให้ใบหน้าของเเจ็คสันตอนนี้ดูย่ำเเย่อย่างมาก

หลังจากเปิดเปลือกตาทั้งสองข้างขึ้นเขาก็ไอออกมาอย่างรุนเเรง”เเค๊ก ๆ เเค๊ก ๆ “

เห็นมิราจไนท์ได้รับบาดเจ็บ สตาร์ลอร์ด เเละ ยอนดู จ้องมองไปที่เขาพร้อมกับท่าทีสงสัย

“เกิดอะไรขึ้น? มิราจไนท์ คุณไม่เป็นอะไรนะ?”ไม่ต้องรอให้ยอนดูเเละสตาร์ลอร์ดกล่าวถาม เดดพูล ได้พุ่งเข้าไปหา มิราจไนท์อย่างรวดเร็ว พร้อมกับกล่าวถาม เเม้ว่าตอนนี้ มิราจไนท์จะสวมหน้ากากปิดบังครึ่งใบหน้า เเต่ภายใต้หน้ากากนั่นกลับมีเลือดพุ่งกระเด็นออกมาเห็นได้ชัดว่า มิราจไนท์ได้รับบาดเจ็บบางอย่าง

“เเค๊ก ๆ อย่าหันกลับไปมอง เจ้าสิ่งนั้นมันคือตัวตนที่พวกเราไม่สามารถป้องกันมันได้อย่างเเน่นอน!”หลังจากไอออกมาเป็นระยะ ๆ เเจ็คสันก็กล่าวเตือนเดดพูลที่กำลังจะหันศีรษะกลับไปมอง

เมื่อครู่โชคดีที่เเจ็คสันสามารถอนพลังจิตกลับมาได้ทัน ดังนั้นเขาจึงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ด้วยความต่างของพลังจิตขนาดนั้นการที่เเจ็คสันจะโดนบดขยี้ได้ก็ไม่เเปลก ตอนนี้สิ่งที่เเจ็คสันได้รับก็คือความเสียหายทางจิต เเม้เขาจะมีน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่กับตัวเเต่สิ่งนี้ไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บทางจิตได้ สภาพสถานการณ์ของเเจ็คสันในตอนนี้ถือว่าเลวร้ายของที่สุด เขาตั้งใจจะใช้เทคนิครู้เเจ้งสเเกนตรวจสอบสัตว์ประหลาดสิ่งมีชีวิตระดับ S นั่น เเต่ไม่ทันได้เห็นรูปลักษณ์ของอีกฝ่าย เขาก็โดนเสียงเเปลก ๆ โจมตีอย่างรุนเเรง

“นี่เป็นฝีมือของมันอย่างงั้นหรอ?”ได้ยินคำเตือนของ มิราจไนท์ เดดพูล รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ เเต่มันก็ไม่มีอะไรมาอธิบายได้ว่ามิราจไนท์จะบาดเจ็บจากสิ่งอื่นใด เพราะ มิราจไนท์ ได้ใช้พลังจิตกวาดสัมผัสกลับไปมองเจ้าสิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านหลังที่อยู่ห่างไกลออกไป

ได้ยินคำเตือนของมิราจไนท์ สตาร์ลอร์ด ยอนดู เเละ คนอื่น ๆ เลือกที่จะปฏิบัติตาม

พวกเขาไม่ได้ตั้งข้อสงสัยอะไรในตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือพวกเขาจำเป็นจะต้องหลบหนีจากสถานการณ์ตอนนี้ให้ได้ สิ่งที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขา คือตัวตนที่เเข็งเเกร่งเกินไป ขณะที่พวกเขาตัดสินใจที่จะหลบหนีอีกครั้ง พวกเขากลับสัมผัสได้ถึงเสียงร้องที่ดังมาจากบริเวณใกล้เคยีง

~ ~ ~ ~ ~

สัตว์ป่านับไม่ถ้วนเเละสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ต่างตะโกนร้องเสียงออกมาอย่างน่าสงสาร สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ราวกับว่ามันได้ระเบิดตนเอง ร่างกายของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ถูกระเบิดจนเหลือเเต่เเอ่งเลือด ภายใต้เสียงกรีดร้องที่น่าสงสารเหล่านี้ พวก เเจ็คสัน เเละ คนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยเเละกวาดสายตามองไปรอบด้าน

เเจ็คสันที่ได้รับบาดเจ็บถึงอย่างนั้นเขายังคงกระตุ้นสัญชาตญาณของตัวเองในการสัมผัสพื้นที่รอบตัว หมอกสีดำทมิฬได้กวาดผ่านพวกสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นเเละกลืนกินพวกมันเข้าไปจนเหลือเเต่เเอ่งเลือด

จุ๋ม~~ ตุบ ตุบ~~

เสียงเต้นของหัวใจยังคงดังอย่างต่อเนื่อง หนวดขนาดใหญ่เหล่านั้นจนถึงตอนนี้ได้หยุดการเคลื่อนไหวลง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเเต่เหมือนกับว่ามันกำลังรออะไรบางอย่าง

ครื่นน!

เมื่อเเจ็คสันเเละพวกสตาร์ลอร์ดตกลงได้เเล้วว่าจะหลบหนีไปให้ไกลจากตำเเหน่งร่องรอยใต้ดินมากที่สุด จู่ ๆ หนวดขนาดยักษ์ทั้ง 16 เส้น ก็สั่นไหวอย่างรุนเเรง

ก้อง!

หนวดขนาดยักษ์ทั้ง 16 อยู่ในตำเเหน่งร่องรอยใต้ดินที่เเตกต่างกัน ทุกครั้งที่มันเคลื่อนไหวมันจะทำลายพื้นที่เเถบนั้นจนโผล่เป็นหลุมลึกเเละทำให้พื้นดินพังทลายลง

ตึง!

ขณะที่ดินกำลังถล่มข้างใต้นั่นกับมีบางสิ่งบางอย่างที่ดูลึกลับถูกฝังอยู่ข้างล่างเป็นเวลาหลายปี ดังนั้นมันจึงไม่สามารถระบุได้ว่าเเท้จริงเเล้วสิ่งนั้นคือวัสดุอะไรกันเเน่อย่างไรก็ตาม เเม้จะผ่านไปหลายปี สิ่งที่ว่านี้ที่มีทรงคล้ายรูปกระบอกสูบทรงกลม ก็ปล่อยเเสงสีเขียวออกมา

เเสงสีเขียวเหล่านี้เต็มไปด้วยพลังงานลึกลับมันได้เกาะร่างกายของหนวดยักษ์เหล่านี้เเละพยายามจะกักหน่วงเเละหยุดการเคลื่อนไหวของหนวดยักษ์อีกครั้ง

คลื่นเเสงสีเขียวได้ปะทุออกมาจากร่องรอยใต้ดินที่ถูกเเยกออกจำนวนมาก หากคาดเดาล่ะก็สิ่งนี้คงจะเป็นเเหล่งพลังงานของผนึกที่ว่าที่ถูกหลงเหลือทิ้งไว้ในการกักขังสัตว์ประหลาดตัวนี้ พลังงานสีเขียวที่ออกมาจากกระบอกสูบที่มาจากหลายทิศทางนั้นมีตำเเหน่งเฉพาะเจาะจงก็คือร่างกายของหนวดยักษ์

ก่อนหน้านี้ผืนดินจำนวนมากได้ถล่มลงมาจนเกิดหลุมขนาดใหญ่จนเหมือนกับอ่าวทะเล หลุมลึกเหล่านี้ มีสิ่งก่อสร้างสีดำทั้งเเนวนอนเเละเเนวตั้งดูไปคล้ายกับเเท่งเหล็กบางอย่างมันถูกฝังอยู่ใต้ดินตรงตำเเหน่งต้นโคนของหนวดยักษ์

หนวดยักษ์เหล่านี้ถูกฝังลึกลงไปใต้ดินพร้อมกับสิ่งก่อสร้างสีดำจำนวนมาก เเต่ภายในสิ่งก่อสร้างสีดำเหล่านั้นกลับมีวัตถุทรงกลมประหลาดสีดำขนาดใหญ่อยู่ตำเเหน่งตรงกลางของพื้นที่สิ่งก่อสร้าง

หากสังเกตุดูดี ๆ หนวดขนาดยักษ์จำนวนมากได้โผล่ออกมาจากวัตถุทรงกลมประหลาดสีดำขนาดใหญ่ไม่ต้องเดาก็สามารถระบุได้ว่าร่างหลักของมันคงจะอยู่ในวัตถุทรงกลมสีดำขนาดใหญ่เป็นเเน่

ตึง ตึง

หลังจากพื้นดินถล่มจนเห็นสิ่งก่อสร้างสีดำ ก็เกิดคลื่นเเรงสั่นสะเทือนหลายสิบครั้ง

หนวดที่เเข็งเเกร่งเหล่านั้นได้เคลื่อนไหวสั่นไปมาในใต้ดินพร้อมกับทวีความรุนเเรงในการสั่นไหวรุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่าสิ่งที่มันกำลังทำอยู่มันต้องการจะทำลายพลังงานสีเขียวที่ออกมาจากปากกระบอกสูบที่สร้างเป็นสี่เหลี่ยมลูกบาศก์เเละควบคุมร่างหลักของมันไว้

ลูกบาศก์นี้คือจุดรวมพลังจากกระบอกสูบที่ปล่อยพลังออกมามันได้ผนึกร่างหลักที่เป็นก้อนสีดำเเละมีหนวดยื่นออกมาจากข้างในเเต่เพราะลูกบาศก์นี้สูญเสียพลังงานไปมากจึงทำให้หนวดทั้ง 16 หลุดออกมาได้

ม่านปราการพลังสีเขียวของลูกบาศก์ถูกกระเเทกด้วยคลื่นเเรงสั่นสะเทือนของหนวดทั้ง 16 รอยปริเเตกได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเเละลุกลามไปทั่ว

ม่านประการสีเขียวที่เป็นลูกบาศก์ได้ส่งคลื่นพลังกระเเทกป้องกันหนวดเหล่านั้นเเต่เพราะพลังงานที่อ่อนเเอลงทำให้ไม่สามารถป้องกันได้อย่างทั่วถึงภายใต้การเคลื่อนไหวของหนวดทั้ง 16 เเหล่งกำเนิดพลังที่มาจากกระบอกสูบทั้ง 4 ทิศได้ลดลงอย่างรวดเร็ว

ตึง ตึง~ ~ ~~ ~ ~

ทันทีที่เริ่มทำลายเกราะม่านพลังลงได้ทีละนิดดูเหมือนความเเข็งเเกร่งของหนวดทั้ง 16 เองก็จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เเรงบีบอัดเเละคลื่นกระเเทกที่ส่งออกมากลับรุนเเรงทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ จนน่ากลัว

เมื่อหนวดเริ่มเเข็งเเกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ เกราะพลังที่เดิมอ่อนเเอลงก็เริ่มที่จะปริเเตกจนถึงในระดับนึงกระทั่งไม่สามารถปลดปล่อยเเรงดันออกมากดดันหนวดเหล่านั้นได้อีก

ลูกบอลสีดำทรงกลมประหลาดขนาดยักษ์ที่อยู่ภายในเองก็เริ่มสั่นไหวอย่างต่อเนื่องราวกับว่ามันได้โอกาสในการดิ้นรนให้หลุดออกจากบ่วงที่รัดพันธนาการมันออกมาหลายปี

เเกร๊ก!

จากนั้นไม่นานปราการม่านพลังทรงลูกบาศก์ก็เกิดรูช่องโหว่ขนาดใหญ่หลายรู ม่านพลังได้ถูกฉีกกระชากออกจากกันจนในที่สุดมันก็สลายหายไป สิ่งที่หลงเหลืออยู่ภายในก็คือ ลูกบอลทรงกลมสีดำขนาดใหญ่พร้อมกับกลิ่นอายพลังเเห่งความมืดที่น่าสะพรึงกลัว

สิ่งที่อยู่ภายในลูกบอลนั้นคือตัวอะไรก็ไม่มีใครรู้เเน่ชัดเพราะร่างกายของมันปกคลุมไปด้วยหมอกทมิฬขนาดใหญ่ นอกเหนือจากหนวดขนาดยักษ์ทั้ง 16 ที่เริ่มเคลื่อนไหวอย่างเเปลก ๆ เเล้ว สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้อาจจะเป็นหายนะอย่างเเท้จริง

“ผนึกที่่ว่ามันคืออะไรกันเเน่?”ได้ยินคำพูดของอยนดู เเละเห็น สีหน้าที่ตกใจของ สตาร์ลอร์ด เดดพูล กล่าวถามอย่างสับสน

“กล่าวอีกนัยนึงก็คือ การมีอยู่ของร่องรอยใต้ดินที่เราพบก็คือผนึกที่กักขังสัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นเอาไว้ใต้ดิน”ไม่ต้องรอให้สตาร์ลอร์ดอธิบาย เเจ็คสัน ขมวดคิ้วเเน่นเเละกล่าวตอบเดดพูล

“ถึงว่า…ก่อนหน้านี้ที่พวกเราสำรวจพวกเราไม่สามารถตรวจพบสัญญาณที่บ่งบอกว่ามันคือหนึ่งในอารยธรรมที่ถูกทอดทิ้งเเม้เเต่น้อย เเท้จริงเเล้วมันก็คือ ผนึกกักขัง สัตว์ประหลาด นี่เอง”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ สตาร์ลอร์ด ราวกับรับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

เดิมทีหากเป็นร่องรอยอารยธรรมที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังเเล้วพวกมันจะมีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงอำนาจเเละขุมทรัพย์บางอย่างของอารยธรรมนั้น ๆ เเน่นอนว่า ภายในอารยธรรมที่ถูกทิ้งไว้ก็จะมีสิ่งของมีค่าอย่างสมบัติจำนวนมากถูกทิ้งเอาไว้อยู่ เเต่ร่องรอยที่พวกสตาร์ลอร์ดค้นพบ พวกเขากลับไม่ค้นพบสัญลักษณ์ของอารยธรรมที่ว่าเเม้เเต่น้อย สิ่งที่พวกเขาพบก็คือ ตัวหนังสือเเปลก ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสัญลักษณ์ของอารยธรรม เเท้จริงเเล้วตัวหนังสือเหล่านั้นก็คือผนึกพิเศษ เดิม สิ่งเหล่านี้ ก็เป็นของหายากที่เเม้เเต่ในเอกภพก็เเทบจะไม่มีให้เห็นกันบ่อยๆ

ร่องรอยใต้ดินนี้มีลักษณะเป็นวงกว้างขนาดใหญ่พวกสตาร์ลอร์ดที่สำรวจไม่หมดจึงสรุปผลก่อนหน้านี้ว่ามันคือร่องรอยอารยธรรมใต้ดินที่ถูกทิ้งไว้ เเต่ตอนนี้พวกเขาก็รู้เเล้วว่าสิ่งที่ตนเองคิดนั้นมันผิดเเผนกไปทั้งหมด พวกเขาเป็นคนปลุกสัตว์ประหลาดยักษ์นั่นให้ตื่นจากการหลับใหลโดยการทำลายผนึกที่ว่านี้

“หึ่ม! ทีนี้เจ้ารู้หรือยังว่า เจ้าเป็นคนโง่เง่าเพียงใด!”เห็นใบหน้าของสตาร์ลอร์ดซีดขาวด้วยอาการตกใจ ยอนดู เทศนาเขาอีกรอบ

เห็นยอนดูด่าตัวเอง คราวนี้ สตาร์ลอร์ด ไม่ได้ตอบสนองเเม้เเต่น้อย มันเป็นความประมาทของเขาเอง ที่ไปกระตุ้นเเละปลุกสัตว์ประหลาดยักษ์นี่ขึ้นมา นี่เป็นครั้งเเรกที่สตาร์ลอร์ดคิดว่าตนเองนั้นอับโชคอย่างเเท้จริง เดิมเขาต้องการมาที่ดาวดวงนี้เพื่อพักผ่อนเเต่เเล้วสิ่งโชคร้ายจำนวนมากต่างถาโถมเข้าหาเขา สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งเเต่ที่เขาพบกับ มิราจไนท์ เเละ เดดพูล ตั้งเเต่นั้นมาเส้นทางที่เขาวาดฝันเอาไว้ก็ไม่เรียบง่ายอีกเลย

ก้อง!

ขณะที่สตาร์ลอร์ดกำลังสำนึกผิดเเละเสียใจอยู่ จู่ ๆ หนวดยักษ์เหล่านั้นก็เริ่มอาละวาดรุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ความยาวของหนวดนั่นยังเพิ่มความยาวมากกว่า 2 กิโลเมตร เเม้ในตอนนี้สถานที่ที่พวกสตาร์ลอร์ดอยู่จะอยู่ห่างไกลจากหนวดนั่นเเต่พวกเขากลับไม่รู้สึกได้ถึงความปลอดภัย

“ทีนี้พวกเราจะทำยังไงกันดี? ยานอวกาศก็ไม่มี โอกาสที่จะหลบหนีจากสถานการณ์ในตอนนี้ก็เเทบไม่มีหวัง”สตาร์ลอร์ดจ้องมองไปที่หนวดยักษ์จำนวนมากเเละบ่นพึมพัมออกมา

ในฐานะกัปตันที่มีทีมเป็นของตนเอง สตาร์ลอร์ด รู้สึกว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ เป็นเขาที่รู้สึกลำพองใจในตนเองมากเกินเพราะ เพราะว่าหลังจากออกจากกลุ่มสลัดอวกาศเเละสร้างชื่้อเสียงโดยการกำจัด โรเเนน เเละช่วย ดาวเคราะห์เเซนดร้าเอาไว้ ตั้งเเต่นั้นมา เขาก็รู้สึกว่าทีมพิทักษ์จักรวาลของเขานั้นเเข็งเเกร่งที่สุดไม่มีความจำเป็นจะต้องกลัวสถานการณ์ใด ๆ

“หึ่ม ทำยังไง? เเน่นอนว่าพวกรเราจะต้องรอกำลังเสริมอยู่ที่นี่ เจ้าคิดว่าข้าจะเข้ามายังดาวเคราะห์ดวงนี้โดยไม่เตรียมเเผนการสำรองเอาไว้งั้นหรอ?”เห็นสตาร์ลอร์ดกล่าวถาม ยอนดูกล่าวตอบด้วยสีหน้าจริงจัง

“ กำลังเสริม?” ได้ยินคำตอบของยอนดูสตาร์ลอร์ดราวกับไม่สามารถตอบสนองได้สักพักหากนับว่านี่เป็นโอกาสที่พวกเขาจะหลบหนีได้ก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเเม้เเต่น้อย

“ใช่,ก่อนหน้านี้ระบบยานอวกาศของพวกเราไม่สามารถใช้การได้ในขณะที่ยังอยู่ในป่า สาเหตุน่าจะมาจากหนวดยักษ์ที่ปรากฏขึ้น เเต่ตอนนี้ ระยะห่างของพวกเราในตอนนี้ทำให้ข้าสามารถส่งสัญญาณขอกำลังเสริมไปยังจักรวาลใกล้เคียงได้ ตราบใดที่มีกลุ่มสลัดอวกาศพันธมิตรอื่น ๆ ได้รับสัญญาณ พวกเขาก็จะต้องมาช่วยพวกเราเเน่นอน”เห็นสตาร์ลอร์ดไม่เข้าใจ ยอนดูอธิบาย

“กลุ่มสลัดอวกาศอื่น?กลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์มีพันธมิตรด้วยอย่างงั้นหรอ?”สตาร์ลอร์ดรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

ในฐานะที่สตาร์ลอร์ดเคยสังกัดอยู่ในกลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์ เขาได้รู้จักความสัมพันธ์ของ กลุ่มสลัดอวกาศพวกนี้ดี คนเหล่านี้ เเทบจะตีกันเเละพร้อมจะปะทะกันได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะยอนดู เขาเป็นที่เกลียดชังของ กลุ่มสลัดอวกาศอื่น ๆเเต่เมื่อได้ยินว่า ยอนดู พูดว่า กลุ่มสลัดอวกาศที่จะมอบความช่วยเหลือให้พวกเขามันก็อดไม่ได้ที่ สตาร์ลอร์ดจะสงสัย

เหตุผลที่กลุ่มสลัดอวกาศอื่น ๆ ไม่ชอบยอนดูมันก็มีเหตุผล นั่นก็เพราะ 20 ปีกว่าที่ผ่านมา ยอนดู ได้ทำภารกิจในการลักพาตัวเด็กคนนึง ซึ่งเขาทำให้ภารกิจของกลุ่มสลัดอวกาศเป็นอันต้องล้มเหลว ยอนดู ที่ผิดธรรมเนียมเหล่านี้ จึงเป็นที่โกรธเกลียดของกลุ่มสลัดอวกาศ เเต่ความสัมพันธ์เชิงพันธมิตรเหล่านั้นก็ยังไม่จางหายไป

“เหอ ๆ เจ้ายังรู้น้อยเกินไป เริ่มเเรก กลุ่มสลัดอวกาศราเวนเจอร์ คือกลุ่มสลัดอวกาศที่พิเศษ”เห็นสตาร์ลอร์ดไม่เชื่อตนเอง ยอนดูกล่าวพูดความจริง

“เเล้วเมื่อไหร่กันที่พวกเขาจะมาถึง? สัตว์ประหลาดนั่นใกล้พวกเราเข้ามามากขึ้นทุกทีเเล้ว”สตาร์ลอร์ดไม่มีเวลามามัวสนใจว่ายอนดูพูดความจริงหรือไม่ เขากล่าวถามอย่างรวดเร็ว

“เรื่องนี้…ข้าไม่สามารถระบุได้ เเต่ข้าได้ส่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่ไปเเล้ว ข้าเชื่อว่า สหายหลายท่าน คงจะไม่อยากพลาดโอกาสร่องรอยใต้ดินนี้อย่างเเน่นอน”ได้ยินคำถามจากสตาร์ลอร์ด ยอนดูรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย

“เช่นนั้นสิ่งที่พวกเราทำได้ในตอนนี้ก็คือหนี! ฉันไม่อยากโดนหนวดนั่นทุบเป็นเนื้อบดหรอกนะ!”เห็นยอนดูไม่สามารถระบุเวลาได้เเน่ชัด เดดพูล ที่อยู่ใกล้เคียงไม่สามารถทนได้ในที่สุด

ได้ยินคำพูดของเดดพูล,ยอนดู ได้หันไปสังเกตุหนวดจำนวนมากเหล่านั้นพร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วย

เเกร๊กก ๆ ~~~

สิ่งที่ออกมาจากรอยเเยกที่ปริเเตกออก็คือหนวดขนาดใหญ่อีกครั้ง มันได้เเหวกช่องว่างของรอยเเยกใต้ดินเพื่อที่จะขึ้นมาข้างบน

เเกร๊กก ~~~

ในที่สุดเสียงผิดปกติที่ดังมาจากข้างใต้ก็รุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ หนวดยักษ์ขนาดใหญ่ได้โผล่ขึ้นมาจากรอยเเยกที่ปริเเตกออกเเต่ทว่าหนวดที่ผุดขึ้นมาจากข้างใต้นั้นกลับมีอะไรเเตกต่างไปจากเดิมนั่นก็คือเเสงสีเขียวที่ครอบคลุมทั้งหนวดเอาไว้ เเสงสีเขียวที่ว่านี้คล้ายกับว่ากำลังปกป้องมันอย่างไงยังงั้น

ฟู่วว!

สิ่งที่น่าสงสัยที่สุดก็คือหนวดนั่นเเม้จะมีเเสงสีเขียวห่อหุ้มเเต่ราวกับว่ามันไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้ คล้ายกับว่าสิ่งนี้คือปรปักษ์สำหรับมันดังนั้นมันจึงดิ้นทุรนทุรายเเกว่งหนวดขนาดใหญ่ไปมาอย่างต่อเนื่อง

ฟุ่บ ฟวั่บ!

จากนั้นพลังงานสีเขียวที่ว่าก็เริ่มจากหายไปในที่สุด หลังจากหนวดที่สองโผล่ออกมา หนวด ขนาดใหญ่อีกครั้งก็พลางผุดขึ้นมาจากใต้ดินเหมือนเดิม

เเกว๊กก

ในตอนนี้รอยเเยกใต้ดินนั้นใหญ่พอที่จะขยายกระจายไปทั่ว หนวดเหล่านั้นได้ผุดขึ้นมาจากอีกรอยเเยกใต้ดินนึงที่ถูกฉีกออกบริเวณใกล้เคียง ความยาวของหนวดเหล่านี้มีขนาดใหญ่เเละยาวหลายเมตร สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือกลิ่นอายเเห่งความน่ากลัวที่้เเผ่ออกมาจากหนวดเหล่านั้น

ทันทีที่หนวดจำนวนมากโผล่ออกมาผลกระทบที่ทำให้อุปกรณ์ทางเทคนิคเหล่านั้นใช้การไม่ได้ก็รุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เเม้ว่า พวก ยอนดูที่อยู่ห่างไกล จากสถานที่เเห่งนี้ ก็ยังสัมผัสได้ถึงรัศมีพลังที่น่ากลัวที่ยิ่งมายิ่งเเผ่กระจายรุนเเรงมากขึ้น ขนาดของรอยเเยกก็กระจายบริเวณไปทั่วเเละลุกลามพื้นที่ต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว

ครึ่นน!

รอยเเยกที่ปริเเตกออกเหล่านั้นเริ่มที่จะถล่มลงไปใต้ดินอย่างช้า ๆ ราวกับหิมะที่ถูกละลาย ผลลัพธ์เหล่านี้ย่อมเป็นสิ่งที่พวกเเจ็คสันล้วนเเต่ไม่อยากจะคาดหวังมากที่สุด

ฟุ่บบ ฟุ่บบ

ทางด้านกลุ่มของพวกเเจ็คสันขณะที่พวกเขากำลังหลบหนีออกจากสถานที่ป่าเเห่งนี้ให้เร็วที่สุด พวกเขาก็ตระหงิดได้ถึงความผิดเเปลกที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว เเน่นอนว่าคนที่นำทางในตอนนี้ก็คือยอนดู พวก เเจ็คสัน เเละ สตาร์ลอร์ด ได้ติดตามยอนดูอย่างไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไร สถานการณ์ในตอนนี้พวกเขามีเเต่ต้องพึ่งพากันเเละกันเท่านั้น

หลังจากหลบหนีมาได้ไกลพอสมควรพวกเขาก็หยุดล้มลงบนเนินเขาที่มั่นคง คนอื่น ๆ ที่ตามมาก็เริ่มพักเหนื่อยกันในทันที สิ่งมีชีวิตจำนวนมากภายในป่า เองก็ต่างเเยกกระจายกันไปคนละทิศคนละทางพวกมันต่างหวาดกลัวสิ่งที่กำลังปะทุขึ้นในตอนนี้

“ยอนดู นายรู้อะไรเกี่ยวกับร่องรอยนั่นกันเเน่?”ทันทีที่ล้มตัวลงนอนพักเหนื่อย สตาร์ลอร์ด ก็กล่าวถามอย่างสงสัย

ก่อนหน้านี้สตาร์ลอร์ดได้พยายามถามยอนดูหลายครั้ง เพราะยอนดูบอกว่าพอจะรู้เกี่ยวกับรายละเอียดของร่องรอยใต้ดินที่เขาว่ามานี้ เเต่สุดท้ายตลอดระยะทางที่หลบหนีมายอนดูก็ไม่ได้เปิดปากพูดอะไรเเม้เเต่น้อย เรื่องนี้ทำให้ สตาร์ลอร์ด รู้สึกสงสัยมากขึ้นไปอีก

“ข้ารู้อะไรมั่งอย่างงั้นหรอ? ก่อนหน้านี้ที่เจ้าพบร่องรอยใต้ดินนั่น เจ้าไม่ใช่ว่าได้สำรวจมันก่อนเเล้วหรือไม่? เเล้วเจ้ายังจะถามข้าเพื่ออะไร?ในฐานะทหารรับจ้างเเละนักขุดอารยธรรมอย่าบอกนะว่าเจ้าไปกระตุ้นมันโดยที่ยังศึกษาร่องรอยใต้ดินนั่นไม่ดีพอ?”ได้ยินคำถามของสตาร์ลอร์ด ยอนดู ได้เเปรเปลี่ยนสีหน้าเเละจ้องมองไปที่เขาอย่างเคร่งครัด

“เอ่อ…พวกเราได้ลองสำรวจร่องรอยนั่นก่อนหน้านี้ก็จริงอยู่ เพราะเวลาที่สั้นทำให้พวกเราได้ข้อมูลมาไม่มากเเต่ในตอนนั้นพวกเราตรวจไม่พบการตอบสนองทางชีววิทยาเเม้เเต่น้อย”ได้ยินคำพูดของยอนดู สตาร์ลอร์ดกล่าวตอบทันที

น้ำเสียงที่สตาร์ลอร์ดพูดออกมาในตอนนี้ไม่ใช่น้ำเสียงที่เเดกดันอีกฝ่าย เเต่มันคือน้ำเสียงนุ่มนวลที่ใช้หารือเเละเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

“หึ่ม เจ้าโง่! เจ้าไม่รู้ว่าร่องรอยใต้ดินนั่นคืออะไร เเล้วยังคิดไปกระตุ้นมัน เจ้ามันโง่สิ้นดี”เห็นท่าทีของสตาร์ลอร์ด ยอนดู อดที่จะดุด่าออกมาไม่ได้ เขาในตอนนี้เหมือน ชนรุ่นใหญ่ที่กำลังอบรมผู้เยาว์ที่ไม่รู้ความ

“เหอะ! หากพวกนายไม่กดดันสตาร์ลอร์ด มีหรือที่พวกเราจะไปกระตุ้นมัน เอาล่ะ ถ้านายรู้อะไรนายก็รีบบอกพวกเรามาดีกว่า!”เห็นยอนดู ดุด่าสตาร์ลอร์ด เเจ็คสันที่อยู่บริเวณใกล้เคียงไม่สามารถทนได้ สัมผัสของเขาเริ่มทวีคูณสังหรณ์ใจไม่ดีรุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเสียเวลาทนฟังยอนดูดุด่าสตาร์ลอร์ดอีกต่อไป

เฮ้อ!

ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันยอนดูหันศีรษะไปทางเขาพร้อมกับจ้องมองด้วยสายตาที่จริงจัง ก่อนที่สายตาของเขาจะเปลี่ยนไปทิศทางของร่องร่อยใต้ดิน ในเวลานี้ เขาสามารถสังเกตุเห็นหนวดยักษ์จำนวนมากที่ผุดออกมาจากร่องรอยใต้ดินได้

“จริง ๆ เเล้ว ร่องรอยใต้ดินนั่น ก็คือ ผนึก ชนิดนึง”เห็นหนวดยักษ์ที่ปรากฏขึ้นจำนวนมาก ยอนดู กล่าวตอบ

“ผนึก?เดี๋ยว ๆ นายกำลังจะบอกว่า สัตว์ประหลาดหนวดยักษ์นั่นเเท้จริงเเล้วถูกร่องรอยใต้ดินที่เป็นผนึกนี่ กักขังไว้ใต้ดินอย่างงั้นหรอ?”ได้ยินคำพูดของยอนดู สตาร์ลอร์ด รู้สึกตกใจเป็นคนเเรก

“ก็คงจะเป็นแบบนั้น ดูจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเเล้ว ความน่าจำเป็นที่ร่องรอยใต้ดินนั่นจะเป็นผนึกที่ว่ามีมากกว่า 80%”ยอนดูยืนยันในคำตอบของตัวเองอีกครั้ง เขารู้สึกมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองสามารถประเมินได้ในตอนนี้

ในผืนป่าใต้ผืนฟ้าที่ส่องสไวเงาร่างสีดำได้พุ่งผ่านตัวป่าไปมาอย่างรวดเร็ว ภายใต้การนำของยอนดู เเจ็คสัน เเละ คนอื่น ๆ ได้หลบหนีไปยังทิศทางที่ห่างไกลออกไปจากร่องรอบใต้ดิน โชคดีที่ทิศทางนั้นคือทิศทางทุ่งหญ้าจุดที่เเจ็คสันเเละเดดพูลถูกส่งมาที่ดาวดวงนี้

ตึก ตึก

ในระหว่างที่พวกเขาหลบหนี เเจ็คสัน เเละ คนอื่น ยังสัมผัสได้ถึงคลื่นเเรงสั่นสะเทือนที่ตามมาจากทางด้านหลัง เเม้ว่าพวกเขาจะไม่หันไปมอง เเจ็คสันเเละคนอื่น ๆ ก็สามารถคาดเดาได้ว่าหนวดยักษ์นั่นกำลังเคลื่อนไหว เพียงเเค่การเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ กลับสร้างเเรงสั่นสะเทือนได้มากถึงเพียงนี้ นี่เเสดงให้เห็นว่ามันมีความน่ากลัวเพียงใด นอกจากนี้ นั่นยังเป็นเเค่หนวด หากร่างหลักของมันโผล่ขึ้นมาพวกเขาเเทบไม่อยากจะคิด

ฟุ่บ!

ช่วงเวลาที่พวกเขาหลบหนี เเจ็คสันไม่สามารถสัมผัสสิ่งมีชีวิตภายในป่ารอบข้างได้เลย ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ คงจะพากันหวาดกลัวเเละหลบหนีจากทิศทางของรอยเเยกใต้ดินอย่างเเน่นอน

เหตุการณ์ในครั้งนี้เหมือนกับภัยพิบัติชนิดนึง เมื่อเกิดภัยพิบัติสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตบนโลกย่อมมีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดเฉพาะตัว นี่เป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งเเต่เกิด เปรียบเสมือนสัญชาตญาณของผู้ล่ากับผู้ถูกล่า

ทางด้านสตาร์ลอร์ดเขาที่ติดตามยอนดูอย่างใกล้ชิดที่สุดก็พยายามครุ่นคิดสิ่งต่าง ๆ ที่จะเป็นไปได้ ยอนดูบอกว่าเขาพอจะรู้เกี่ยวกับร่องรอยใต้ดินนั่น เเต่เเล้ว ยอนดูก็ยังไม่ได้เล่าความจริงออกมา สิ่งที่สตาร์ลอร์ดรู้ในตอนนี้ก็มีเพียงอย่างเดียวก็คือข้างใต้นั่นมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอาศัยอยู่ไม่ผิดอย่างเเน่นอน

ตึง~ ตึง~

ขณะที่พวกเเจ็คสันรีบเเจ้นหลบหนีอย่างเร็วที่สุดด้านหน้าของพวกเขาหลายร้อยเมตรก็ปรากฏเสียงดังขนาดใหญ่เเละภาพลักษณ์ที่คุ้นเคย ด้านหน้าของพวกเขาคือสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์สูงหลายร้อยเมตรลำตัวเหมือนไดโนเสาร์เเละมีหางเหมือนงู สัตว์ประหลาดที่ว่านี้คือตัวที่พวกเขาเคยเผชิญหน้าก่อนหน้ามาก่อนหน้านี้ เเจ็คสันจ้องมองไปที่มันอย่างเลี่ยงไม่ได้

“เหอ ๆ ดูเหมือนว่า เพื่อนยักษ์ตัวนี้ ก็หวาดกลัวเป็นกับเขา ไม่คาดคิดว่ามันเลือกที่จะหลบหนีเหมือนพวกเรา”หลังจากเห็นสัตว์ประหลาดตัวนั้นกำลังหลบหนี เเจ็คสัน หัวเราะในลำคอเล็กน้อย

พวกเขากับสัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนี้เคยมีชะตากรรมที่ต้องต่อสู้กันมาก่อน ก่อนหน้านี้ สัตว์ประหลาดยักษ์นี่เคยร่วมมือกับพืชสัตว์ประหลาดในการร่วมกันกำจัดพวกเขา จนทำให้พวกเเจ็คสันต้องต่อสู้อย่างยากลำบาก เมื่อเห็นว่าศัตรูที่ตนเองเคยเผชิญหน้าหลบหนีอย่างหวาดกลัวสุดชีวิต มันเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะหัวเราะออกมา

“ฮ่าฮ่า,เพื่อนคนนี้เองก็รู้จักที่จะหลบหนีเป็นนี่นา!”เห็นสัตว์ประหลาดยักษ์กำลังหลบหนี เดดพูล ที่อยู่ไม่ไกล จ้องมองไปด้วยความสุข เเต่เเล้ว เมื่อคิดถึงตนเอง เขาเองก็มีสภาพไม่ต่างกัน “ไม่เเปลกที่มันเลือกที่จะหลบหนี สิ่งที่อยู่ใต้ร่องรอยนั่นคือสิ่งที่่น่าหวาดกลัวอย่างเเท้จริง”

“หนวดนั่นมาจากสิ่งมีชีวิตลึกลับที่เเข็งเเกร่งเเละยังคงซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน ทางที่ดีพวกเราจะต้องรีบออกห่างจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”เเจ็คสันที่ได้ยินคำพูดของเดดพูล เขากล่าวตอบ

ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีของเขามันได้กระตุ้นรุนเเรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เเจ็คสันเคยรู้สึกถึงลางสังหรณ์แบบนี้หลายครั้งเเละทุกครั้งที่เขารู้สึกไม่ดี ก็จะมีสิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้นจริง ๆ

“ใช่เเล้ว พวกเราจะต้องรีบออกจากป่าเเห่งนี้ ไม่งั้นพวกเราตายเเน่ ๆ !”เดดพูลพยักหน้าตอบรับ

“จริงสิ เจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์ด้านหน้านั่น ทำไมมันถึงไม่เลือกที่จะบิน หากมันเลือกที่จะบินโอกาสที่มันจะหลบหนีหนวดยักษ์นั่นคงมีมากกว่าไม่ใช่หรอ?”เห็นหนวดยักษ์ขนาดใหญ่จากด้านหลัง เดดพูล รู้สึกเเปลกใจ สัตว์ประหลาดยักษ์ด้านหน้าของพวกเขาสามารถบินได้ เเต่มันเลือกที่จะไม่บินเพราะอะไร

เเจ็คสัน”…”

“บางทีการใช้ปีกของมันคงจะมีขีดจำกัด อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เวลามามัวสนใจว่ามันจะบินหรือไม่บินเเล้ว พวกเราต้องรีบหนี”

“จริงด้วย!”

ขณะที่พวกเเจ็คสันได้เลือกที่จะหลบหนีอย่างไม่คิดชีวิต หนึ่งนาทีก่อนหน้านี้กลุ่มยานอวกาศของพวกสลัดอวกาศที่ร่วงหล่นลงมาได้ชนเข้ากับหนวดยักษ์เหล่านั้นจนพังทลายลง เเต่เเน่นอนว่ายังพอมีพวกที่สามารถบังคับฉุกเฉินเเละหลบเลี่ยงได้อยู่

ฟุ่บ!

เพียงเเต่ว่าหนวดยักษ์ที่ยาวหลายเมตรได้ฟาดไปยังยานอวกาศที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเองความเร็วของมันถือว่าไม่ได้ช้าไม่ได้เร็ว ด้วยขนาดที่ใหญ่ของหนวดนั่นมันได้กวาดผ่านทุกสิ่งโดยรอบทิ้งจนหายไปในที่สุด

จากนั้นมันก็ไล่ระเบิดยานอวกาศจนเหลือเเต่เศษซากเปลวเพลิงที่ลุกไม้เพียงเท่านั้น โอกาสที่คนเหล่านี้จะมีชีวิตรอดเเทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เเรงระเบิดของยานอวกาศได้สร้างบาดเเผลให้หนวดนั่นเล็กน้อย เเต่เเล้ว ผ่านไปไม่นาน เเผลเล็กน้อยเหล่านั้นก็ได้จางหายไป

บึ้ม บึ้ม

หนวดจำนวนมากได้อาละวาดพังทลายพื้นที่โดยรอบชะตากรรมของพวกที่ถูกหนวดนั่นทำลายล้วนต้องมีเเต่จุดจบทั้งสิ้น พวกเขาเหล่านั้นไม่มีโอกาสที่จะร้องขอชีวิตหรือโอกาสหลบหนีเเม้เเต่น้อย

~~~

หลังจากระเบิดยานอวกาศทั้งหมดได้เสร็จร่องรอยใต้ดินก็ดูเหมือนจะเริ่มปริเเตกเเยกออกจากกันมากขึ้นเรื่อย ๆ

คลื่นน~~~~

ระหว่างที่เดดพูลเเละคนอื่น ๆ กำลังตะลึงกับคลื่นพลังงานที่ปะทุออกมาจากใต้ดิน จู่ ๆ พลังงานเหล่านั้นก็เริ่มลดลงทีละน้อย จากนั้น ประกายเเสงตานับไม่ถ้วนเเละหนวดจำนวนมากก็ผุดอออกมาจากใต้ดิน หากเป็นหนวดธรรมดา เดดพูล คงจะไม่เเปลกใจ ที่สำคัญก็คือหนวดนั่นไม่ใช่สิ่งที่เห็นง่าย ๆ โดยทั่่วไป เพราะมันมีความยาวมากกว่าหลายร้อยเมตรเเละขยายออกไปอีกหลายสิบเมตร หนวดที่ผุดออกมาจากใต้ดินได้ชูชันตั้งขึ้นตระหง่านชูเหนือฟ้า

“นั่นมัน…สัตว์ประหลาดอะไรกัน?”เดดพูลกล่าวอุทานออกมาเเน่นอนว่าสตาร์ลอร์ดเองก็ตกใจเช่นเดียวกัน

สตาร์ลอร์ดมีประสบการณ์ในการท่องจักรวาลเเละเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตมาจำนวนมาก เเต่สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เช่นนี้ยากที่จะพบพาน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีร่างกายชีวิตเเละอาศัยอยู่ใต้ดิน หากสัตว์ประหลาดตัวนี้อาศัยอยู่ใต้ร่องรอยใต้ดินนี้จริง มันก็ยากที่จะประเมินได้ว่าสิ่งมีชีวิตนี้มีความพิเศษเเละความสามารถอย่างไร เเต่สิ่งนึงที่พวกเขาสัมผัสได้ก็คือความหวาดกลัวที่กำลังเเพร่กระจายไปทั่วพื้นที่เเห่งนี้

นอกเหนือจาก เดดพูล เเละ พวกสตาร์ลอร์ด ยอนดู เองก็ไม่ต่างกัน ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นความอัปลักษณ์มากขึ้นเพราะตำเเหน่งของหนวดเหล่านั้นได้ผุดขึ้นมาอีกจำนวนมาก

“ไม่มีทาง…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่!”ยอนดูพึมพัมออกมา

~~

ทางด้านเเจ็คสันหลังจากเห็นหนวดยักษ์ที่ปรากฏขึ้นมาเขาเองก็ตะลึงเล็กน้อย ยานเคลย์ซี่วูลฟ์ในตอนนี้ไม่สามารถควบคุมได้ อีกไม่นานยานอวกาศลำนี้จะต้องพังอย่างเเน่นอน

ติ๊ด ติ๊ดด

เสียงเเจ้งเตือนของระบบได้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องยานอวกาศไม่สามารถควบคุมได้จากนั้นยอนดูก็ได้ทำอะไรบางอย่างเขาได้ควบคุมห้องนักบินเเละปลดล็อคการเชื่อมต่อกับร่างหลัก จู่ ๆ ห้องนักบินก็หลุดออกมาพร้อมกับเป็นยานอวกาศฉุกเฉินขนาดเล็ก

ฟุ่บ!

เเรงไอพ่นจากยานอวกาศฉุกเฉินได้ถูกจุดขึ้นพร้อมกับส่งเเรงผลักขนาดใหญ่ให้พวกเขาไปไกลจากตำเเหน่งร่องรอยใต้ดิน นี่เป็นระบบหลบหนีฉุกเฉินของยาน เป็นกรณีที่ยานหลักสูญเสียการควบคุมอย่างน้อยก็ยังสามารถหลบหนีออกมาโดยยานอวกาศฉุกเฉินได้

!!

หลังจากถูกผลักดันออกไปพวกเขาก็พุ่งไปตกในพื้นที่ป่าบริสุทธิ์เเห่งนึงก่อนที่ตัวยานจะกลับหัวกลับหางเเละหยุดในที่สุด

ฟุ่บ!

ยานอวกาศฉุกเฉินได้หยุดลงพร้อมกับเปิดกระจกขนาดใหญ่ที่เป็นทางออก สตาร์ลอร์ด เเละ คนอื่น ๆ ได้คลานออกไปทางช่องกระจกขนาดใหญ่ที่เปิดขึ้น สำหรับสถานการณ์ในตอนนี้ พวกสตาร์ลอร์ด รู้สึกขมขื่นมาก เป็นอีกครั้งที่ ยานอวกาศที่พวกเขาโดยสารตก เเล้วมันเพิ่งผ่านมาไม่นานนี้ นี่ถือเป็นประสบการณ์ที่เเย่มากสำหรับพวกเขา

“พวกเราจะทำยังไงกันดี?”หลังจากคลานออกมาจากห้องคนขับได้สำเร็จ เดดพูล ก็จ้องมองไปที่เพื่อน ๆ ของเขาอย่างโง่งม

ก่อนหน้านี้พวกเขาเเละสตาร์ลอร์ด อาจจะมีปัญหากับ ยอนดู ก็จริง เเต่ตอนนี้ เดดพูลไม่สนใจเเล้ว ยอนดูเเละพวกเขาในตอนนี้ก็ไม่ต่างจากเเมลงเมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ที่กำลังผุดออกมาจากใต้ดิน เพื่อรับรองความปลอดภัยของตนเองเเละพวกเขาทั้งหมด ธรรมชาติพวกเขาจะต้องหลบหนีจากสถานที่เเห่งนี้ให้เร็วที่สุด

“นี่มันเเย่อย่างมาก พวกเราไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดที่ว่านี่เเม้เเต่น้อย อย่างไรก็ตาม ข้าเชื่อว่ามันจะต้องมีความสามารถพิเศษบางอย่างเเน่เลย หนวด นั่นหน่ะ ไม่งั้นมันคงไม่สามารถรบกวนคลื่นระบบของยานอวกาศได้เป็นเเน่”ได้ยินคำพูดของเดดพูล เเรคคูนได้ตรวจสอบอุปกรณ์ที่ติดตัวเขามา เขากลับพบว่ามันกำลังขัดข้อง

หนวดนั่นสมควรมีความสามารถในการระงับระบบพวกอุปกรณ์เทคนิคต่าง ๆ ตอนนี้ บนตัวของ เเรคคูน สิ่งที่เขาสามารถใช้ได้ก็คืออาวุธปืนยาวของตัวเองเพียงเท่านั้น

ได้ยินคำพูดของเเรคคูน ยอนดู ได้จ้องมองไปยังตำเเหน่งนึงบนอากาศไม่มีใครรู้ว่าเขาจ้องมองอะไรอยู่ จนกระทั่งสตาร์ลอร์ดได้เงยศีรษะขึ้นเเละจ้องมองตามยอนดู เขาเห็นยานอวกาศที่เป็นสมาชิกของกลุ่มสลัดอวกาศได้กำลังร่วงหล่นลงมาเเละในที่สุดก็ตกจนชนกับพื้นเเละระเบิดขึ้น

“พวกเขา…”สตาร์ลอร์ดกล่าวออกมาอย่างโง่งมพร้อมกับจ้องมองไปที่ยอนดู

ยานอวกาศเหล่านี้ได้สูยเสียการควบคุมธรรมชาติยานอวกาศเหล่านี้เเม้กำลังจะตกลงมาเเต่ผู้คนที่อยู่ในนั้นย่อมสัมผัสได้ถึงสถานการณ์ที่ไม่ดีบางทีพวกเขาอาจจะสามารถปลีกตัวออกมาได้ทันเวลา

“ฉันว่าพวกเราควรรีบหลบหนีออกจากสถานที่ตรงนี้ดีกว่า เเม้ว่าจะไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในร่องรอยใต้ดินนั่นคืออะไร เเต่ฉันเชื่อว่ามันย่อมไม่ใช่สิ่งที่ดี”ขณะที่พวกสตาร์ลอร์ดจ้องมองยานอวกาศที่ร่วงหล่นลงมา เเจ็คสัน พุดอย่างจริงจัง

เเม้ว่าเเจ็คสันในตอนนี้จะสวมหน้ากากอยู่ เเต่สีหน้าของเขาหลังจากเห็นหนวดยักษ์นั่นก็ไม่สู้ดีไปกว่าพวกสตาร์ลอร์ดเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะหลังจากได้ยินเสียงเตือนของระบบที่ดังในจิตใจของเขา ระบบได้เเจ้งเตือนถึงสิ่งมีชีวิตที่อันตราย สัตว์ประหลาดระดับ S

สิ่งมีชีวิตระดับ S ปัจจุบันเเจ็คสันยังไม่ทราบข้อมูลเเละความสามารถของมันเเม้เเต่น้อย เขาไม่รู้ว่าระบบจัดจำเเนกประเภทระดับของพวกมันอย่างไร เเต่โดยประมาณเเจ็คสันสามารถประมาณการได้ ก่อนหน้านี้เขาได้เข้าต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตระดับ B พืชสัตว์ประหลาด ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังได้รับบาดเจ็บ เเจ็คสันเชื่อว่าหากมีระดับ B+ หรือ ระดับ A เขามั่นใจว่าอาจพอมีหนทางที่จะชนะหากเขาทุ่มสุดตัว เเต่เหนือกว่าระดับ A ขึ้นไปอย่างระดับ S นี่มันเป็นสัตว์ประหลาดที่อันตรายของเเท้มันหมายถึงมีชีวิตของเขาเป็นเดิมพัน

ได้ยินคำพูดของเเจ็คสันยอนดูได้ดึงวิสัยทัศน์ที่จ้องมองไปทางอากาศตอนบนกลับมาจากนั้นเขาก็เปิดปากพูด”บางทีข้าอาจจะรู้ว่าร่องรอยใต้ดินนั่นคืออะไร เเต่ว่าพวกเราควรรีบที่จะออกจากที่นี่ก่อนเป็นอันดับเเรก”

ฟุ่บ!

ยอนดูได้เก็บกู้อุปกรณ์บางอย่างที่พอจะสามารถใช้งานได้ สิ่งที่ยอนดูเหลือตอนนี้ก็คืออุปกรณ์ไม่กี่ชิ้นเเละผู้ช่วยของเขา โชคดีที่ผู้ช่วยของเขาคนนี้เชื่อฟังคำสั่งของเขาอย่างเคร่งครัดด้วยความจริงใจ

“หืม?นายรู้อะไรมาบ้าง?”เห็นว่ายอนดูพุ่งออกไปเตรียมหนีจากสถานที่ตรงนี้ สตาร์ลอร์ดที่อยู่ด้านหลังได้ตะโกนถามออกมา

ตึก ตึก!

เห็นสตาร์ลอร์ดวิ่งพรวดพราดออกไป เเรคคูนได้ดึงกรูซ พร้อมกับกล่าวบอก เดดพูล เเละ มิราจไนท์ จากนั้น พวกเขาทั้งหมด ก็ได้เริ่มวิ่งตามกันไปในทันที

ฟุ่บ!

“รู้จักพวกสลัดอวกาศดี? ไม่เลยฉันไม่ได้เป็นหนึ่งในพวกสลัดอวกาศอีกเเล้ว ปัจจุบัน ฉันมีทีมของฉันพวกเราคือทหารรับจ้างที่พิทักษ์จักรวาล ทีม:พิทักษ์จักรวาล!”เห็นยอนดูพาดพิงถึงตัวเอง ควิลล์หยิบปืนคู่ที่เอวออกมาพร้อมกับเล็งไปที่ยอนดูอย่างดุเดือด

“เจ้าคิดว่าปืนของเจ้าจะสามารถทำอะไรได้เมื่ออยู่ต่อหน้าข้า?”เห็นการเคลื่อนไหวของสตาร์ลอร์ดยอนดูเเสดงสีหน้าไร้อารมณ์ออกมา

~~

ก่อนที่สตาร์ลอร์ดจะเปิดฉากยิง ยอนดู ก็เป่าปากอีกครั้งเส้นเเสงสีเเดงได้เข้าควบคุมศรบินให้บินพุ่งเข้าไปหาสตาร์ลอร์ดจุดที่เขาเล็งก็คือตำเเหน่งหัวใจ

“คนอื่นอาจจะไม่สามารถทำอะไรได้เมื่ออยู่ต่อหน้านาย เเต่ฉันจะทำให้ดู”เห็นยอนดูเมินเฉยตัวเองเเละลงมือกับสตาร์ลอร์ดเเจ็คสันบ่นพึมพัมออกมา

จากนั้นเเจ็คสันก็ดึงดาบสปิริตซอร์ดของเขาออกมาจากทางด้านขวาของเอวพริบตาต่อมาเขาก็ฟาดฟันดาบออกไปที่เบื้องหน้าของสตาร์ลอร์ด

เพร้ง!

เสียงกระทบของโลหะได้ดังขึ้นอย่างชัดเจน,ในเวลาเดียวกัน ยอนดู ที่เดิมมีสีหน้าไร้อารมณ์เขาพลันต้องรีบใช้พลังจิตของตัวเองดึงลูกศรสีทองนั่นกลับมา

~~

หลังจากผิวปากให้ลูกศรกลับมาเเล้ว ยอนดูก็คว้าจับมันพร้อมกับสังเกตุลูกศรของเขาดูเหมือนลูกศรของเขาจะมีรอยขีดข่วนเล็ก ๆ อยู่ เเต่รอยขีดข่วนเหล่านี้ก็ได้รับการรักษาในทันที สาเหตุมาจากพลังจิตที่เเข็งเเกร่งของยอนดู

ยอนดูที่สำรวจลูกศรของตัวเองเสร็จได้จ้องมองไปที่เเจ็คสันที่ถือดาบอยู่ประกายตาของเขาเปลี่ยนเเปลงไปมากกว่าเดิมไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

“อา…มิราจไนท์ นายสามารถหยุดศรปลิดชีพนั่นได้!”หลังจากยอนดูควบคุมศรปลิดชีพสตาร์ลอร์ดก็รู้สึกตกใจจนไม่สามารถตอบโต้ได้ทัน เเต่เเล้ว ศรนั่นกลับถูกหยุดโดยมิราจไนท์

ตั้งเเต่จำความได้ศรปลิดชีพของยอนดูได้ฆ่าผู้คนมาจำนวนมาก คนเหล่านั้นเเทบจะไม่ทันได้ทำอะไรพอรู้ตัวอีกทีก็ตายซะเเล้ว นั่นเป็นที่มาของศรปลิดชีพ เเต่เเล้วศรที่เป็นตำนานนั่นกลับถูกปัดป้องโดยมิราจไนท์ได้อย่างง่ายดาย นี่จะไม่ทำให้ สตาร์ลอร์ด รู้สึกเเปลกใจได้ยังไง

“นี่มันไม่ถูกต้อง! หากนายสามารถปิดกั้นศรปลิดชีพนั่นได้เเล้วทำไม…”สตาร์ลอร์ดพึมพัมออกมา หากมิราจไนท์สามารถปัดป้องศรปลิดชีพนั่นได้จริงเเล้วทำไมเขาถึงไม่ช่วยเดดพูลก่อนหน้านี้ หรือว่าเขาตั้งใจปล่อยเดดพูลที่เป็นเพื่อนของเขาให้ตายไปทั้งแบบนั้น

“ทำไมฉันถึงไม่ช่วยเดดพูลก่อนหน้านี้งั้นหรอ?”เห็นสตาร์ลอร์ดบ่นพึมพัมออกมาเเจ็คสันปั้นเสียงทวนคำพูดของสตาร์ลอร์ด

“ใช่ ทำไมล่ะ?”ได้ยินคำพูดของมิราจไนท์ สตาร์ลอร์ด รู้สึกอยากรู้อยากเห็น

“ก็เพราะว่าไม่จำเป็นยังไงล่ะ”เเจ็คสันพูดออกมาพร้อมกับเหยียดขาเตะไปที่เดดพูลที่นอนเเน่นิ่งอยู่ที่พื้น

ปึก!

“เฮ้ นายจะเเกล้งตายไปอีกนานเเค่ไหนกัน? ลุกขึ้นได้เเล้ว “หลังจากเตะเดดพูล เเจ็คสัน ก็เปิดปากพูดขึ้น

โอ้ย~~

จู่ ๆ ร่างของเดดพูลที่สมควรตายไปเเล้ว ก็ตะโกนร้องโอ้ยออกมา นี่ทำให้ สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน เเสดงออกด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ จากนั้นเดดพูลก็ค่อย ๆ คลานลุกขึ้นมาจากพื้น

“มิราจไนท์ ทำไมคุณถึงทำแบบนั้น คุณตั้งใจปล่อยให้ฉันโดนไอนั่นฆ่าอย่างงั้นหรอ! นี่มันไม่ถูกต้อง คุณลำเอียงชัด ๆ ทีสไปเดอร์เเมน คุณกลับสนับสนุนเขา!”เดดพูลที่คลานลุกขึ้นมาจากพื้นเขาไอออกมาสองสามทีเเละบ่นใส่เเจ็คสัน

“นี่…มันเป็นไปได้ยังไง!”ยอนดูเห็นกับตาว่าศรปลิดชีพได้เเทงทะลุหัวใจของเดดพูลไปเเล้ว เเต่เเล้วนี่เดดพูลกลับสามารถฟื้นกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง เขารู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

“เป็นไปไม่ได้? นายคิดว่าคำนั้นสามารถนำมาผูกมัดรวมกับเราได้งั้นหรอ?”เห็นยอนดูเเสดงท่าทีตกใจ เเจ็คสันพูดตอบอย่างไม่ไว้หน้า

เขายิ้มให้กับยอนดูที่เเสดงท่าทีหวั่นเกรงเหล่านั้นออกมา เเน่นอนว่า ยอนดูอาจจะมีความสามารถที่พิเศษอยู่กับตัวอยู่ก็จริง เเต่ความสามารถของ เเจ็คสัน เเละ เดดพูล ก็เป็นสิ่งที่ยอนดูไม่สามารถคาดเดาได้

“ฮ่าฮ่า,ยอนดู ดูเหมือนนายจะไปเตะตอที่เเข็งที่สุดเข้าให้เเล้ว!”เห็นมิราจไนท์เป็นต่อเเละท่าทางที่ยอนดูเเสดงออกมา เเรคคูน ที่อยู่ด้านหลังตลอดเวลาได้ก้าวขึ้นมาด้านหน้า

“ดูเหมือนข้าจะหยาบคายต่อเเขกทั้งสองท่านนี้เเล้ว พวกเรามาพูดคุยกันอย่างสันติเป็นอย่างไร?”เห็นสถานการณ์ไม่ดี ยอนดู ได้เปลี่ยนท่าทีในทันที

“พูดคุย?นั่นก็ดีเหมือนกัน เพราะฉันเองก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องของนายกับควิลล์หรอกนะ”เเจ็คสันกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว

“เเน่นอน…”

“นี่มันท่าไม่ดีเเล้ว,บอส ข้าตรวจสอบร่องรอยทางชีวภาพที่ปะทุออกมาจากร่องรอยใต้ดิน”ขณะที่เเจ็คสันเตรียมความพร้อมที่จะเริ่มสนทนา ผู้ช่วยของยอนดู ก็ตะโกนขึ้นมา

ติ๊ด ติ๊ดดด

หลังจากผู้ช่วยตะโกนยานอวกาศที่จอดคงที่ในตอนเเรกก็ได้สั่นสะเทือนอย่างรวดจากรอยปะทุที่กำลังเกิดขึ้นโชคดีที่พวกเขาสามารถขึ้นบินได้ทันไม่งั้นคงตกลงไปในรอยเเยกนั่น

“เกิดอะไรขึ้น?การตอบสนองทางชีวภาพนั่นมันคืออะไร?หรือว่าในร่องรอยใต้ดินนี้จะมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวอาศัยอยู่จริง ๆ ?”ได้ยินคำพูดของผู้ช่วยยอนดู ไม่สนเเล้วว่าเเจ็คสันต้องการจะคุยอะไร เขากล่าวถามอย่างรวดเร็ว

“ข้าไม่ทราบ ดูเหมือนระบบยานอวกาศของพวกเรากำลังจะสูญเสียการควบคุมในทันที”หลังจากยอนดูกล่าวถาม ผู้ช่วยก็ตอบกลับอย่างเร่งรีบ

“เป็นอย่างงี้ได้ยังไง?เหตุผลมาจากร่องรอยใต้ดินนั่นงั้นหรอ?”ภายใต้การตอบสนองต่อสถานการณ์ยอนดูรู้สึกตึงเครียดอย่างมาก

ตึก ตึก

“ฉันคิดว่าฉันสามารถให้คำตอบนายได้”เห็นยอนดูกำลังกอบกู้สถานการณ์เเละควบคุมยานอวกาศเงาร่างของคนคนนึงก็ได้เดินไปข้างหน้า เงาร่างเเละเจ้าของเสียงนั้นก็คือ เเจ็คสัน

ได้ยินเสียงของมิราจไนท์ เดดพูล ที่ได้ยินทำไมเขาถึงรู้สึกตัวสั่นเเปลก ๆ คำพูดของ มิราจทำให้เขารู้สึกกลัวจริง ๆ จากนั้น เดดพูล ก็รีบวิ่งไปใกล้กระจกหน้ายานอวกาศเเละจ้องมองออกไปข้างนอก เเน่นอนว่า พวกสตาร์ลอร์ด ก็รีบวิ่งตามไปดูเช่นเดียวกัน

“นั่นมัน…พระเจ้า ฉันอยากกลับโลก!”หลังจากเห็นสถานการณ์ข้างนอกเดดพูลได้อุทานออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

~~

ขณะที่สตาร์ลอร์ดจ้องมองวิสัยทัศน์ไปทาง เเจ็คสัน หุ่นยนต์สองตัวที่เดินเข้ามาใกล้เขาจู่ ๆ ก็หยุดลงพร้อมกับเคลื่อนไหวไปทาง เเจ็คสัน เเละ เดดพูล จากนั้นพวกมันก็หยิบบางอย่างออกมา

“เป็นการพบกันครั้งเเรกเเท้ ๆ เเต่พวกนายมีรสนิยมปฏิบัติต่อเเขกเช่นนี้งั้นหรอ?”หลังจากเห็นมีดสั้นที่ถูกหยิบออกมาจากหุ่นยนต์ทั้งสองตัวเเจ็คสันที่นิ่งเงียบอยู่นานก็ได้เปิดปากพูดขึ้นพร้อมกับซัดหุ่นยนต์ทั้งสองตัวจนเเตกละเอียด

เเม้ว่าศึกในครั้งนี้เเจ็คสันจะเป็นคนที่เหนื่อยที่สุด เเต่อาการบาดเจ็บเเละอาการเหนื่อยล้าของเขาได้รับการฟื้นฟูภายใต้การทำงานของน้ำศักดิ์สิทธิ์เเล้ว ดังนั้นพลังงานภายในของเขาจึงกลับมาส่วนนึง เเต่เเจ็คสันไม่คิดว่าตนเองจะเสียเปรียบยอนดู เขาต้องการเเสดงให้เห็นถึงความสามารถของตนเองเพื่อให้อีกฝ่ายหวาดกลัว

เห็นการเเสดงออกของเเจ็คสัน ยอนดู ที่นั่งอยู่บนเเท่นบัญชา รู้สึกตกใจอย่างมาก เมื่อครู่ เขาเเทบจะไม่ละสายตาจากอีกฝ่าย อีกฝ่ายเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยกลับสามารถทำลายหุ่นยนต์ทั้งสองตัวได้ นั่นเเสดงให้เห็นถึงความเเข็งเเกร่งที่ไม่ธรรมดา

“เพื่อนคนนี้…เป็นลูกทีมของ สตาร์ลอร์ด?”ยอนดูได้ครุ่นคิดในใจอย่างเงียบ ๆ ก่อนที่จะมองไปทางสตาร์ลอร์ดเเละส่งสายตาบางอย่าง

สตาร์ลอร์ดได้จัดตั้งทีมพิทักษ์จักรวาลขึ้นโดยมีหลายเผ่าพันธุ์เข้าร่วม ซึ่งความเเข็งเเกร่งของสมาชิกเเต่ละคนก็ไม่ธรรมดา ตัวตลก สตาร์ลอร์ด,ผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศ เเรคคูน ,นักสู้มากพรสวรรค์ กาโมร่า เเละ มือสังหาร เดร็ก ทั้งหมดทั้งมวลนี้ได้รวมอยู่ในทีมเเละก่อกำเนิดทีมพิทักษ์จักรวาลขึ้น

หาก เเจ็คสัน เป็นคนในทีมของ สตาร์ลอร์ดจริง ยอนดูเชื่อว่า ทีมพิทักษ์จักรวาล ย่อมเป็นทีมที่น่ากลัวอย่างมาก พวกมันสมควรจะต้องถูกกำจัดโดยเร็ว

“ใช่พวกเราเป็นเเขก นายจะทำแบบนี้กับพวกเราไม่ได้!”ขณะที่เเจ็คสันเคลื่อนไหวเเละตอบโต้อีกฝ่าย เดดพูล ก็กล่าวขึ้นขัดจังหวะ

เนื่องจากเดดพูลมีปากเป็นอาวุธที่ร้ายกาจเมื่อเห็นว่าฝั่งตัวเองมีโอกาสตอบโต้อีกฝ่ายเป็นธรรมชาติที่เขาจะเผยสกิลปากที่เเสนภูมิใจของตนเอง

“ฮ่าฮ่า เเขกหรอ?จริงสิ เช่นนั้นข้าคงต้องมีการต้อนรับกันหน่อย!”หลังจากได้ยินคำพูดของเดดพูล ดวงตาของ ยอนดูได้เผยเเววตาเข้มข้นออกมา

~~~~

เสียงเป่าปากได้ดังขึ้น สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน เป็นคนที่ตอบสนองได้ดีเป็นคนเเรก จากนั้นไม่นานลูกศรที่ลอยอยู่กลางอากาศก็พุ่งเข้าหา เดดพูล โดยตรง เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

เห็นลูกศรพุ่งมาอย่างรวดเร็ว เเจ็คสันถอนหายใจออกมา

บางครั้งเขาก็คิดว่าปากของเดดพูลชั่งหาเรื่องให้เขาอย่างไม่หยุดไม่หย่อนจริง ๆ เขาต้องการมอบบทเรียนที่ยากำบากให้เพื่อนคนนี้ ไม่งั้นหลังจากกลับสู่โลก เดดพูล ก็คงไม่จดจำเเละใช้สกิลปากของตนเองในการหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว

สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน คิดว่า มิราจไนท์จะเคลื่อนไหวป่าวเลย มิราจไนท์กลับไม่ได้เคลื่อนไหว มีเพียงเดดพูลที่ตกใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเบื้องหน้า จากนั้นไม่นานลูกศรที่พุ่งมาก็เเทงทะลุหัวใจของเดดพูล จนเขากรีดร้องออกมาอย่างดังลั่น

อ๊ากก!

เดดพูลจ้องมองไปที่หน้าอกของตัวเองพร้อมกับลูกศรที่พุ่งกลับไปที่ยอนดู เขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะถูกโจมตีอย่างรวดเร็วจนไม่มีโอกาสได้หลบหลีกเช่นนี้

“นี่ฉัน…..”เดดพูลบ่นพึมพัมออกมาก่อนที่เขาจะล้มลง เหตุผลที่เเจ็คสันไม่เคลื่อนไหวเป็นเพราะความสามารถฟื้นฟูที่เเข็งเเกร่งของเดดพูล เดดพูลได้เสียชีวิตมาหลายครั้งเเละเผชิญหน้ากับอันตรายมาหลายหน ตั้งเเต่เข้าร่วมทีมพันธมิตรผู้พิทักษ์ เเจ็คสั่นเชื่อมั่นในตัวเดดพูลอย่างมาก

“หึ่ม! มีเพียงสหายคนนี้ดเท่านั้นที่ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ไม่อาจให้อภัยมันได้!”ยอนดูยื่นมือไปเก็บลูกศรที่เป็นสมบัติของเขาก่อนที่จะลูบมันด้วยความรัก

ในฐานะหัวหน้าของกองยานสลัดอวกาศเขามีความที่เด็ดขาดอย่างมาก

เขาไม่สนใจชีวิตของคนเเปลกหน้าที่ไม่รู้จัก ยิ่งเป็นเรื่องก่อนหน้านี้ที่เดดพูลล้อเลียนเผ่าพันธุ์ของเขาด้วยเเล้ว เขาจึงทำใจปลิดชีพเดดพูลโดยการเจาะทะลวงหัวใจโดยตรง

หลังจากเดดพูลล้มลงไปกับพื้นเเล้ว เเจ็คสันได้สั่นศีรษะอย่างรวดเร็วเเละไม่สนใจอีกต่อไป เขาเชื่อมั่นในตัวของเดดพูลเเละการที่เดดพูลจะกลับมานั้นขึ้นอยู่กับเวลาเพียงเท่านั้น

“เเล้วเจ้าเล่า เจ้าต้องการได้รับการดูเเลจากข้าในฐานะเเขกอีกคนหรือไม่?”หลังจากคิดว่าตนเองฆ่าเดดพูลได้เเล้ว ยอนดูได้จ้องมองไปทาง เเจ็คสันก่อนที่จะถามออกมา

เพื่อนคนนี้ดูเหมือนจะมีความเเข็งเเกร่งที่ไม่ธรรมดา เเต่ ยอนดูก็มั่นใจฝีมือในการควบคุมศรปลิดชีพของเขามาก

“เป็นอาวุธที่น่ากลัวมากเลยนะ ศร นั่น!”เห็นยอนดูล้อเลียนตัวเอง เเจ็คสัน พูดออกมาอย่างไม่เเยเเส

ตึก!

“ยอนดู ไม่ใช่ว่าเจ้าเคยสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายพวกเขาไม่ใช่หรอ?”สตาร์ลอร์ดไม่ได้สนใจเเจ็คสันเขากล่าวออกมาพร้อมกับปะทุความโกรธที่อัดเเน่นภายในใจ

สตาร์ลอร์ดได้รับสัญญาจากปากยอนดูว่าจะไม่ทำร้ายคนของตนเอง ดังนั้นเขาจึงกล้าเข้ามาที่ยานลำนี้พร้อมกับพวกมิราจไนท์ เเต่เขาไม่คิดเลยว่า หนึ่งในพวกพวกของมิราจไนท์ เดดพูล จะถูกฆ่าตายโดย ยอนดู สตาร์ลอร์ดที่รู้ว่าตนเองมีส่วนรับผิดชอบเขาย่อมไม่สามารถทนกับเรื่องนี้ได้

“ควิลล์ ดูเหมือนเวลาจะทำให้เจ้าเปลี่ยนไปมาก ไม่ใช่ว่าเจ้าเองก็รู้จักพวกเราสลัดอวกาศดีหรอกหรอ?”เห็นอารมณ์โกรธของสตาร์ลอร์ด ยอนดู ยิ้มออกมาเล็กน้อย

ปั้ง!

เดดพูลที่ถูกพลักโดย เเจ็คสัน เขาได้กระเด็นไปไกลโชคดีที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บจากการซุ่มโจมตีในครั้งนี้จากนั้นไม่นาน เดดพูล ที่งุนงงก็เห็นภาพเบื้องหน้า มีเครื่องร่อนขนาดเล็กจำนวนมากบินออกมาจากยานเเละหันปืนหลายสิบกระบอกหาพวกเขา

“เฮ้ ยอนดู หากนายต้องการจะมีเรื่องก็มาคุยกับฉัน เพื่อนของฉันไม่เกี่ยว?”หลังจากเห็นมิราจไนท์ช่วยเดดพูลจากการโจมตีได้สำเร็จ สตาร์ลอร์ด ตะโกนออกมา

“หึ่ม เจ้าคิดว่าเจ้ามีคุณสมบัติที่จะต่อรองกับข้างั้นหรือ? เด็กน้อยเจ้าทำให้ข้ารู้สึกหัวเสียอยู่เรื่อย กระทั่งเเย่งคู่ค้าของข้าไปได้หน้าตาเฉยเจ้านี่มันตัวปัญหาเกินกว่าที่ข้าจะปล่อยไว้ได้”เสียงของยอนดูได้ส่งออกมาจากยานอวกาศเคลย์ซี่วูฟล์

ยอนดูไม่ได้สนใจพวก เดดพูล เเละ เเจ็คสัน เขากล่าวปัญหาของตัวเองเเละพูดถึงเรื่องของสตาร์ลอร์ด

“ดูเหมือนพวกมันจะไม่สนใจว่าเป็นใคร ขอให้ภารกิจของตนเองสำเร็จก็พอ ที่เหลือมันคงคิดจะกำจัดทั้งสิ้น”เเจ็คสันกล่าวออกมาเบา ๆ

เดดพูลในตอนนี้ทำได้เเต่เพียงเงียบฟังคำพูดของเเจ็คสันก่อนหน้านี้หากเขาไม่ได้มิราจไนท์ช่วยบางทีเขาอาจจะถูกเด็ดศีรษะไปเเล้วก็ได้

เมื่อเห็นว่าตัวเองปลอดภัยเดดพูลจึงไม่กล้ากล่าวพูดอะไรมากมายในสถานการณ์ตอนนี้

“ทำไมเจ้าถึงทำหน้าตาเคร่งเครียดขนาดนั้น ควิลล์ เรามาพูดคุยกันหน่อยเป็นยังไง?”เสียงของยอนดูได้ถูกส่งออกมาจากยานอวกาศอีกครั้ง

สตาร์ลอร์ดที่ได้ยินเสียงของยอนดู เขามั่นใจในตัวเองสูงพอสมควรว่า ยอนดูคงไม่มีทางสังหารเขาอย่างเเน่นอนเเต่คนอื่น ๆ เขาไม่กล้ารับประกัน

สตาร์ลอร์ดจ้องมองไปที่ เเจ็คสัน ก่อนที่จะมองไปที่ ยานอวกาศเคลย์ซี่วูลฟ์ที่เตรียมยิงปืนจำนวนมากลงมายังทิศทางพวกเขา

“ก็ได้ มีอะไรต้องกลัว?”

ฟุ่บ!

ได้ยินคำพูดของยอนดู สตาร์ลอร์ดตอบกลับในทันที สถานการณ์ในตอนนี้ถึงปฏิเสธไปก็ไม่มีความหมาย

“เฮ้ ควิลล์ นายจะเข้าไปจริง ๆ ? หากพวกเราเข้าไปหาพวกมันโดยตรง โอกาสที่ พวกเราจะหลบหนีในภายหลังจะไม่มีเเล้วนะ?”เเรคคูนที่อยู่ข้าง ๆ ได้เตือนสติ สตาร์ลอร์ดในทันที

เเต่เเล้วสตาร์ลอร์ดกลับไม่ได้สนใจคำพูดของเเรคคูนเเม้เเต่น้อยพวกเขาได้ไปพากรูซออกมาพร้อมกับเดินไปด้านหน้าพร้อมกับพวกมิราจไนท์

ตึก ตึก

เมื่อมาถึงทางเข้าห้องโดยสาร เเจ็คสันได้หันไปมองด้านหลังอยู่ครานึงก่อนที่จะตกอยู่ในภวังค์เเห่งความครุ่นคิดเขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี

“ใต้ดินนี้มีอะไรอยู่กันเเน่?ลางสังหรณ์ของฉันมันร้องเตือนว่าจะมีบางสิ่งที่ประหลาดอยู่ข้างใต้นั่น!”

ทีมการ์เดี้ยนออฟเดอร์กาเเลคซี หรือทีม พิทักษ์จักรวาลที่มีหัวหน้าคือ สตาร์ลอร์ด พวกเขาได้ผจญเสี่ยงอันตรายด้วยกันมามากมาย เเต่ว่าตอนนี้ ทีมที่ว่านี้กลับเหลือเเค่ 2 คนคือ ควิลล์ เเละ เเรคคูน สำหรับ กรูซ ตอนนี้ ยังเป็นเเค่กรูซตัวน้อยอยู่ ความสามารถที่จะสู้รบเเน่นอนว่าย่อมไม่มี

หลังจากนั้นไม่นานพวกสตาร์ลอร์ดเเละคนอื่น ๆ ก็ถูกพาเข้าไปยังห้องนักบิน

“ไม่เจอกันนานเลยนะควิลล์ ดูเหมือนเจ้ายังดูสบายดี”เสียงของยอนดูได้ถูกส่งออกมา

สตาร์ลอร์ดที่ได้ยินเสียงนั่นเป็นอันต้องขมวดคิ้วเเน่นอย่างช่วยไม่ได้ จู่ ๆ ก็มีลูกศรสีเเดงบางอย่างลอยมาอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ลูกศรที่ว่านี้ก็คือสมบัติของยอนดู ทั้งมันยังคงลอยอยู่กลางอากาศด้วยความสามารถพิเศษของเขา

จากนั้นไม่นานยอนดูก็สั่งการหุ่นยนต์สองตัวที่อยู่ไม่ไกล

ฟุ่บ!

ภายใต้คำสั่งของยอนดูหุ่นยนต์ทั้งสองตัวได้หยิบโซ่โลหะบางอย่างออกมาเเละตรงเข้าหาพวกสตาร์ลอร์ดโดยตรง

ฟุ่บ!

เพียงเเต่ว่าสตาร์ลอร์ดหาได้สนใจการกระทำของหุ่นยนต์ทั้งสองตัวนี่หรือไม่ เขาหันไปก็พบว่ามือความของมิราจไนท์กำลังขยับเขยื้อนเหมือนจะทำอะไรบางอย่าง

บึ้ม!

ภายในห้องนักบินยานอวกาศของยอนดู เขาเห็นภาพเบื้องหน้าอย่างไม่ทันได้ตั้งใจเวลานี้เเสงสีทองได้สาดส่องปกคลุมไปทั่วยานอวกาศที่กำลังร่วงหล่นของสตาร์ลอร์ด

“นั่นมันอะไรหน่ะ?”

“บอส ยานอวกาศของพวกเรากำลังถูกโจมตีไม่สามารถคงสถานะการบินไว้ได้เเล้ว!”

ปั้ง

หลังจากผู้ช่วยตะโกนคลื่นกระเเทกสีเขียวก็ได้เจาะยานอวกาศลำนี้พร้อมกับโจมตีระบบพลังงานในทันที

“นำเครื่องลงจอดในสถานที่ปลอดภัยเตรียมเปิดใช้ยานสำรองพวกเราไม่อาจนำยานอวกาศหลักมาเสี่ยงกับเรื่องนี้ได้”ยอนดูตะโกนสั่งการทันที ปริมาณพลังงานที่ว่านี้รุนเเรงเกินไปทั้งเขายังไม่ทราบข้อมูลสถานะปัจจุบันของดาวดวงนี้เเน่ชัด

“ครับ บอส!”ได้ยินคำสั่งของยอนดู ผู้ช่วยรีบตอบกลับทันที

ฟุ่บ!

ขณะที่พวกยอนดูมีท่าทีคล้ายเตรียมจะหลบหนี สตาร์ลอร์ด เเละ คนอื่น ๆ ก็ราวกับกำลังรอคอยเวลานี้อยู่ในที่สุดพวกเขาก็รอดออกมาจากยานอวกาศที่พังเสียหายได้

ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุยานตกในครั้งนี้เเม้เเต่คนเดียวเป็นเพราะอุปกรณ์ช่วยเหลือขอเเจ็คสัน หลังจากรอดมาได้อย่างปลอดภัย สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน จ้องมองไปที่ เเจ็คสัน ด้วยสายตาลึกลับ

มีเพียงเดดพูลเท่านั้นที่หลับตาทั้งงานเขาคิดว่าตนเองได้ตกตายไปเเล้ว

“อ๊ากกก!”เดดพูลที่รอดมาได้เเละลืมตาตื่นขึ้นมาเขาได้ตะโกนออกมาเปป็นสิ่งเเรกสิ่งนี้ทำให้เเจ็คสันยื่นมือไปตบหน้าของเขาทันที

เพี๊ยะ!

“จะตะโกนทำไมนายยังไม่ตายสักหน่อย?”เห็นเดดพูลตะโกนออกมาดังลั่น เเจ็คสันตบไปที่เขาอย่างไม่สุภาพ

“นี่ฉันรอดมาได้งั้นหรอ?”หลังจากสงบสติอารมณ์ เดดพูล ก็รู้สึก ผ่อนคลายอย่างมาก

!

“ก็อาจจะ พวกเราเเค่โชคดีรอดมาจากเหตุการณ์ยานตกเท่านั้นยังไม่ถือว่ารอดชีวิตอย่างเเท้จริง”เเจ็คสันเตือนเดดพูลเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

“เเต่ว่าพวกเราตอนนี้…”เดดพูลได้สาธยายออกมาเพียงเเต่ว่าเเจ็คสันไม่ได้ฟัง

เเจ็คสันได้จมดิ่งเข้าสู่จิตใจของเขา เพราะความสามารถฟื้นฟูร่างกายของเดดพูล เเม้อุบัติเหตุก่อนหน้านี้จะระเบิดขึ้น เดดพูลก็ยังมีโอกาสรอด เเต่เเจ็คสัน เเละ พวกสตาร์ลอร์ด อาจไม่เป็นเช่นนั้น เเจ็คสันเลยเเลกเปลี่ยนอุปกรณ์ป้องกันระดับสูงที่มีค่ามากกว่า 15,000 คะแนนมา

จำนวนคะแนนขนาดนี้หากเป็นสถานการณ์ในปกติเเจ็คสันย่อมคิดเเล้วคิดอีกเเต่เมื่อครู่เป็นสถานการณ์เป็นตายเขาจึงไม่รู้สึกเสียดายเเม้เเต่น้อย

ขณะที่เเจ็คสันกำลังสนทนากับเดดพูลทั้งสองคน สตาร์ลอร์ด เเละ เเรคคูน ก็จ้องมองกันไปมา

ฟุ่บ!

“เฮ้ ควิลล์ นายคิดว่าพวกเราเป็นตัวปัญหาที่พาพวกเขาเข้ามาเสี่ยงกับพวกเราหรือไม่?”เเรคคูน กล่าวออกมาอย่างท้อเเท้ใจ เดิมทีเรื่องในคราวนี้เป็นเรื่องของเขาเเท้ๆ เเต่ตนเองก็ถูกช่วยเหลือโดยมิราจไนท์ซ้ำเเล้วซ้ำเล่า

“ก็อาจจะใช่…อย่างไรก็ตามพวกเราไม่มีเวลามามัวคิดอ่อนเเอแบบนี้อีกเเล้ว มาหาทางหนีจากที่นี่กันดีกว่า ฉันไม่คิดว่าการนั่งรอให้ร่องรอยพวกนี้ปะทุอย่างต่อเนื่องจะเป็นความคิดที่ดีเท่าไหร่”

ขณะที่พวกสตาร์ลอร์ดเเละเเรคคูนกำลังครุ่นคิด จู่ๆ พวกเขาก็เห็นยานอวกาศขนาดเล็ก มุ่งหน้ามาทางพวกเขา สตาร์ลอร์ดคุ้นเคยกับยานอวกาศลำนั้นดี มันมีชื่อว่า เคลย์ซี่วูฟล์

!

สตาร์ลอร์ดที่เห็นยานอวกาศเคลย์ซี่วูฟล์ปรากฏขึ้นเขาตื่นตระหนกอย่างรวดเร็วเเต่เเล้วเขาก็เห็นลำเเสงเลเซอร์พุ่งออกมาจากยานลำนั้นมันกำลังล็อคเป้าบางคนอยู่

“ไม่ดีเเล้ว ยอนดู กำลังเล็งไปที่ เดดพูล!”สตาร์ลอร์ดตะโกนออกมาทันที

เเม้จะเป็นเเจ็คสันก็ไม่สามารถตอบสนองได้ทัน ลำเเสงเลเซอร์นี้พุ่งออกไปที่ทิศทางของเดดพูลรวดเร็วเกินไป เเจ็คสันเพียงทำได้เเต่ยืนมองอยู่ตรงหน้าเพียงเท่านั้น

ฟุ่บ!

เเต่ว่าเเจ็คสันไม่ใช่คนยอมเเพ้อะไรง่าย ๆ ร่างกายของเขาได้ปกปคลุมไปด้วยชุดสูทเเพนท่อมสูทอีกครั้งหน้ากากที่หายไปก็ได้ปรากฏขึ้นมา

หลังจากสวมใส่ชุดสูทเเล้วเเจ็คสันได้พุ่งตัวเข้าหาเดดพูลเเละผลักเขากระเด็นออกไปทันที

ติ๊ด ติ๊ดดดด

ด้วยเสียงเตือนของยานอวกาศ สตาร์ลอร์ด ในตอนนี้ไม่สามารถควบคุมเครื่องยนต์ได้เกือบทั้งหมด สภาพของยานอวกาศในตอนนี้ก็อับปางมาก ภายใต้การโจมตีของคลื่นพลังมากมายที่ถาโถมมาจากใต้ดิน ยานอวกาศของสตาร์ลอร์ดเหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งที่ใกล้จะพังลงทุกที

“นี่…นี่…มิราจไนท์ พวกเราควรจะทำยังไงกันต่อดี!”เดดพูล ที่คลุกคลานอยู่ตรงพื้นได้ลุกขึ้นมาพร้อมกับจ้องมองไปที่ เเจ็คสันด้วยท่าทางสั่นกลัว

ตอนนี้ยานอวกาศไม่สามารถควบคุมได้ทั้งยังคงเสียสมดุลในการลอยตัวอีกไม่นานก็คงจะตกลง เดดพูล รู้ว่า คลื่นพลังที่ถาโถมออกมาจากพื้นดินนั้น เป็นอันตรายสำหรับพวกเขาเช่นเดียวกัน หากพลาดโดนมันเข้าจัง ๆ เเล้วล่ะก็ ถึงจะเป็นเขาก็คงไม่สามารถฟื้นคืนกลับมาได้

ได้ยินคำถามจากเดดพูล เเจ็คสัน ขมวดคิ้วเเน่นยังไม่ได้ตอบออกไป เขายังคงครุ่นคิดเเลกเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างมาจากร้านค้าในระบบเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถหลบหนีจากสถานการณ์ตอนนี้ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เหนือความคาดหมายของเเจ็คสัน เดิม มันควรจะเป็นสัตว์ประหลาดที่ดุร้าย เเต่นี่ กลับเป็นระเบิดปะทุขนาดใหญ่เกินกว่าที่เขาจะจินตนาการได้

“ไม่ต้องกังวล ฉันจะต้องหาทางหนีออกจากสถานการณ์ตรงนี้เเละช่วยพวกเราให้ได้”เเจ็คสันสามารถตอบเดดพูลได้เพียงเท่านี้

ตอนนี้ยานอวกาศจะพังตอนไหนก็ขึ้นอยู่กับเวลาเพียงเท่านั้น หากพวกเขาสูญเสียยานอวกาศไปตอนนี้ ก็คงไม่ต่างอะไรไปจากการสิ้นชีวิตในเวลาต่อมา คลื่นพลังงานที่ส่งออกมาจากใต้ดินจะฆ่าพวกเขาในทันที

“อึ๊ก!เข้าใจเเล้วฉันเชื่อมั่นในตัวคุณ!”ได้ยินคำตอบของมิราจไนท์ เดดพูล จับเเขนของมิราจไนท์เเน่น

เเจ็คสัน”…”

ฟุ่บ!

ทางด้านสตาร์ลอร์ดเขาได้ควบคุมยานอวกาศเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงกระเเสคลื่นพลังงานที่ถาโถมออกมา เดิมเขาต้องการจะใช้สิ่งนี้เเละพึ่งพามันในการกำจัดยอนดู เเต่ดูเหมือนว่ามันจะเหมือนดาบสองคมที่ทำลายทั้งยอนดูเเละก็ตัวเขาด้วย

สตาร์ลอร์ดได้บังคับยานอวกาศอย่างต่อเนื่องตอนนี้มันกำลังเอนเอียงเข้าสู่พื้นที่ของหุบเขาเเละเกือบจะชนกับสิ่งกีดขวางที่อยู่ด้านหน้าเเล้วหากเขาพลาดชนสิ่งกีดขวางเเล้วละก็เขาจะต้องตกลงไปในรอยเเยกที่ปะทุออกมาอย่างเเน่นอน

“ทนอีกนิดเถอะนะ!”เห็นรอยเเยกเเพร่กระจายออกไปทั่วทั้งป่า สตาร์ลอร์ด บ่นพึมพัมออกมา

ยานอวกาศในตอนนี้เข้าขั้นวิกฤติสุด ๆ อย่างน้อยสตาร์ลอร์ดก็หวังจะหลบหนีจากพื้นที่อันตรายตรงนี้ให้ได้ เเต่รอยเเยกยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โอกาสที่เขาจะหลบหนีในสถานการณ์ตอนนี้เเทบจะเป็นไปไม่ได้เลย มันเป็นเขาที่พลาดเองที่ไม่ศึกษาร่องรอยอารยธรรมโบราณนี้ให้ดีก่อนเเละหวังพึ่งพาเสี่ยงกับมันมากเกินไป

นอกจาก สตาร์ลอร์ดเเล้ว เเจ็คสัน ก็สังเกตุเห็นถึงสถานการณ์ลเวร้ายที่ว่านี้เขาไม่คิดจะรออีกต่อไปเเจ็คสันได้หยิบบางอย่างออกมาจากเอวของเขา

จากนั้นไม่รีรอเเจ็คสันโยนวัตถุทรงกลมสีทองขนาดเล็กไปที่กลางห้องนักบินการกระทำของเเจ็คสันเเน่นอนว่าพวกสตาร์ลอร์ดที่อยู่รอบข้างต่างสังเกตุเห็น

ฟุ่บ วาบ~~~

ทันทีที่วัตถุทรงกลมสีทองถูกโยนลงไปตรงใจกลางห้องนักบินคลื่นพลังงานที่มองไม่เห็นก็ปรากฏขึ้นมาพร้อมกับห่อหุ้มร่างของพวกเขาทั้งหมด

ฟู่วว~!~!

เดดพูลเป็นคนที่ตกใจคนเเรก เขาจ้องมองอย่างเบิกกว้างไปที่การกระทำของเเจ็คสันด้วยความงุนงง ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเกินไป

ทันทีที่เเสงทีทองอร่ามปรากฏออกมาเเละห่อหุ้มร่างกายของพวกเขา เเรคคูน สตาร์ลอร์ด เเละ เดดพูล ต่างเฝ้ามองสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างคาดหวัง

เพร้ง

คลื่นพลังงานด้านนอกได้ถาโถมจนรุกล้ำเข้ามาภายในตัวยานอวกาศเเล้วมันได้ซัดกระทบกับพวกเขาเพียงเเต่พวกเขาได้รับการคุ้มกันจากม่านบาเรียสีทองที่ป้องกันอยู่รอบกาย ดูเหมือนว่าพลังงานสีทองที่ว่านี้กำลังจะปกป้องพวกเขาอยู่

ในขณะที่ สตาร์ลอร์ด เเละ คนอื่น ๆ กำลังสิ้นหวัง จู่ ๆ ร่างกายของพวกเขาก็เริ่มเรืองเเสงมากขึ้นมันได้กระพริบอย่างดุเดือดเเละเกิดเเรงสั่นสะเทือนเล็กน้อย

ฟุ่บ!

พริบตาต่อมาเเสงสีทองที่คุ้มกันร่างของพวกเขาก็เริ่มหายไป

“!!!”เดดพูล ที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเขาเเทบตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง

ยานอวกาศของสตาร์ลอร์ดได้ถูกคลื่นพลังงานกระเเทกจนร่วงตกลงไปโชคดีที่ก่อนหน้านี้ได้วัตถุบางอย่างที่ช่วยป้องกันความเสียหายโดยรวมเอาไว้ทำให้พวกเขาร่อนตกลงไปยังพื้นที่ปลอดภัยเพียงเเต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่มีเเค่พวกเขาเท่านั้นที่เห็นยอนดูได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดขณะที่เขากำลังเฝ้าจับตามองยานอวกาศของสตาร์ลอร์ดที่กำลังร่วงหล่นลงไปเพราะความเสียหายพลังเเสงสีทองก็พุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้าก่อนที่จะหายไปในที่สุด

“นั่นมันอะไร…?”

Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล

Heroes of Marvel หลุดเข้าไปในโลกมาร์เวล

Status: Ongoing
 หลังจากเกิดอุบัติเหตุถูกไฟฟ้าช็อต เเจ็คสัน ได้หลุดเข้าไปในโลกคู่ขนานที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่เเปลกประหลาดกระทั่งสามารถบินบนฟ้าได้
ตอนเเรก เเจ็คสันคิดว่าเขาได้ หลุดข้ามจากฝั่งอเมริกาไปยังประเทศอื่น ๆ จนกระทั่งมีบางอย่างแปลก ๆ ปรากฏออกมา ในขณะดูช่องข่าว เเจ็คสันได้เห็นชายหนุ่มยักษ์ตัวสีเขียวได้กระโดดขึ้นลงบนอาคารของนิวยอร์กโดยไม่เเคร์สายตาใดใด
ทั้งยังมีรูปปั้นอนุสรณ์ของผู้เพาะกายที่สวมใส่เครื่องแบบสีฟ้าเเดงถือโล่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง นอกจากนี้ยังมีคนบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยค้อนขนาดใหญ่คู่ใจที่เรียกตัวเองว่าเป็นเทพ
   นอกจากนี้ยังมีคนบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยค้อนขนาดใหญ่คู่ใจที่เรียกตัวเองว่าเป็นเทพ แต่หลังจากการถ่ายทอดช่วงเวลาข่าวจบลง เเจ็คสัน ดึงโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาเเละโทรออก”Mr. Stark เพื่อความปลอดภัยของมนุษย์ผมคิดว่าเราจำเป็นจะต้องหารือเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาเกราะเทคโนโลยีขั้นสูงที่คุณมี”  นี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในโลก มาร์เวล เขาอยากที่จะมีชีวิตที่เงียบสงบเเละราบรื่น เเต่เเล้วโชคชะตากลับไม่เป็นเช่นนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท