การกลับมาของฮีโร่ – ตอนที่ 48

ตอนที่ 48

ตอนที่ 48

จีว็อนจางฮยอคและพรรคพวกต่างวิ่งหนีตายกันไปคนละทิศคนละทาง

พวกเขาไม่กล้าหันกลับไปมองชายสวมหน้ากากเลยแม้แต่วิเดียว

“ให้ตายสิ นิสัยของพวกมันยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน”

ซูฮยอนเกือบจะลืมพวกมันไปแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะพรมลิขิตลิขิตหรือป่าว ทำให้เขาหวนมาเจอกันพวกมันอีกครั้ง

ซูฮยอนรู้สึกสมเพชจริงๆที่พวกมันยังทำนิสัยแบบเดิมอยู่ ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจับพวกมันมาหักขาทิ้งซะจริง

“สงสัยถ้ามีเวลาว่าง ฉันคงต้องสละเวลาไปดูแลพวกมันสักหน่อย”

หลังจากบอลเพลิงถูกปล่อยออกไป ก็สร้างความปั่นป่วนให้กับประชาชนได้พอสมควร ที่แรกพวกเขาคิดว่ามันคือการแสดงดอกไม้ไฟ แต่เมื่อได้ยินเสียงประกาศเตือน

ประชาชนก็รู้ได้ทันทีว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ การก่อการร้าย

วี้หว่อ วี้หว่อ

“ลุยต่อเลยดีกว่า..”ซูฮยอนพูดกับตัวเอง

ซูฮยอนกระทืบเท้าแล้วกระโดดขึ้นไปบนอากาศ ร่างกายของเขามุ่งหน้าไปทาง ย่านบอมแยดง ซึ่งตั้งอยู่จุดศูนย์กลางของเมือง

ในเวลาแบบนี้ เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนออกมาเที่ยวเล่นกันอย่างพลุกพล่าน

และแน่นอน ระหว่างทางซูฮยอนก็ปล่อยบอลเพลิงออกไปด้วยตลอดเวลา

ตูม ตูม ตูม

เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วทั้งเมือง จนสร้างความโกลาหลให้แกประชนจำนวนมาก

ความกลัว..คือสิ่งที่มนุษย์ทุกคนมีอยู่กับตัว หลังจากได้ยินเสียงการบอกเล่าปากต่อปาก ทำให้พวกเขาพาครอบครัวอันเป็นที่รักหลบหนีออกจากพื้นอันตรายโดยด่วนที่สุด

แม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นด้วยตาตัวเองว่าเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่ไหน แต่ด้วยคำพูดที่ยืนยันไปในทางทิศเดียวกัน เลยทำให้พวกเขาคล้อยตามกันไปอย่างง่ายดาย

“..เธอพูดว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นสินะ?”

หลังจากผู้อำนวยการทราบข่าว เขาก็สะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ

คิมดูอุย ผู้ตื่นขึ้น แรงค์ A พยักหน้าตอบกลับ

“ใช่ครับท่าน มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นในพย็องชอนซึ่งมีประชากรอยู่กันอย่างหน่าแน่นมากที่สุดในเมืองอันยัง จากที่เราได้รับรายงานมา ผู้ก่อการร้ายกำลังโจมตีบ้านเรือนของประชาชนอยู่ ตอนนี้ประชาชนบางส่วนกำลังทยอยกันอพยพอยู่ครับ”

“แมร่งเอ้ย..เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่..”ผู้อำนวยการสบถออกมา

วันนี้คือวันที่ 31 มกราคม…เขาไม่ได้รับการรายงานข่าวของผู้ก่อการร้ายเลยซักฉบับ

ถึงแม้ข้อมูลของลีจุนโฮ จะมีความน่าเชื่อถือ แต่กิดล์ดัมพ์ก็ไม่น่าก่อความวุ่นวานในตอนนี้…

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรกัน?”

“ผมก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่จากการรายงาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาจากบุคคลเพียงคนเดียว”คิมดูอุยกล่าว

“ด้วยตัวคนเดียวงั้นเหรอ?”

ผู้อำนวยการจมลงสู่ห้วงความคิด….ใช้เวลาไม่นานเขาก็พูดออกมาอย่างมั่นใจ “คิมซูฮยอน”

“อะไรนะ ท่าน”

“ผู้ชายคนนั้นคือคิมซูฮยอนไม่ผิดแน่”ผู้อำนวยการตะโกนออกมา

สิ่งที่ซูฮยอนกำลังทำอยู่ คือการสวมบทบาทผู้ก่อการร้าย เพื่อหวังให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวแล้วอพยพไปนอกเมือง…

“ท่านคิดว่าชายที่ก่อความวุ่นวายคือคิมซูฮยอนจริงๆเหรอครับ?”คิมดุอุยถาม

คิมซูฮยอนเป็นนามที่ผู้คนทั่วไปต่างรู้จัก ชื่อเสียงของคิมซูฮยอนดังขจรไปทั่วทุกสารทิศ

ข้อมูลส่วนตัวของคิมซูฮยอน ก็ไม่มีคนรู้เลย ถึงรู้ก็น้อยมากๆ จนเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร

ขนาดใบหน้าที่แท้จริง ก็ยังไม่มีใครเคยเห็น ที่ผ่านมาคิมซูฮยอนไม่เคยเผยตัวตนต่อสาธารณชนเลยสักครั้ง

แต่ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบ ทำให้เขาต้องมาปรากฏตัวในฐานะผู้ก่อการร้าย เพื่อปั่นหัวประชนชนแบบนี้…

“ช่างหัวคิมซูฮยอนก่อน สิ่งที่เราต้องโฟกัสคือ เขากำลังก่อความไม่สงบอยู่”ผู้อำนวยการพูดออกมาด้วยน้ำเสียงโกรธจัด

“แต่สิ่งที่เขาทำอยู่ ก็ยังไม่มีใครเสียชีวิตเลยสักคน…..”

“ฉันไม่สน!”

ปัง

ผู้อำนวยการทุบโต๊ะของเขาเพื่อเป็นสัญญาณสั่งให้คิมดูอุยหุบปาก

คิมดูอุยที่เห็นดังนั่นก็ได้แต่ก้มหน้าลงแล้วหยุดพูด ถ้าเขายังคะยั้นคะยอพูดต่อ เขามีสิทธิ์โดนเด้งออกจากตำแหน่งได้..

“การระบาดของดันเจี้ยน? ภัยพิบัติที่เมืองอันยัง? มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระทั้งเพ เหตุการณ์ที่พูดมามันยังไม่เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ คือ…คิมซูฮยอนกำลังก่อความไม่สงบอยู่ เธอเข้าใจสิ่งที่ฉันจะสื่อไหม?”

“ครับท่าน ผมเข้าใจ”คิมดูอุยตอบ

“และจะยืนบื้ออยู่ทำซากอะไร ไปจับตัวเขามาซะ…ไม่สิ..ถ้าเป็นไปได้ ฆ่ามันทิ้งไปซะ”ผู้อำนวยการตะโกนสั่งออกมา

ฆ่าเขา? มันไม่เกินกว่าเหตุไปเหรอ?

‘ผู้อำนวยการช่างเป็นคนที่อำมหิตเสียจริง’คิมดูอุยหลับตาแล้วจมเข้าสู่ห้วงความคิด

‘ฉันควรทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ….ถ้าผู้ก่อการร้ายในเมืองอันยังคือคิมซูฮยอนจริงๆและข้อมูลที่เขาเคยบอกเป็นเรื่องจริง…เขาสมควรถูกสรรเสริญเป็นฮีโร่ของพลเมืองเสียด้วยซ้ำ….สิ่งที่คิมซูฮยอนทำอยู่ มันยากที่จะตีตราว่าเป็นการก่อการร้าย เพราะยังไม่มีประชาชนบาดเจ็บล้มตายเลยสักคน มีแต่บ้านเรือนเท่านั้นที่เสียหาย….แต่ถ้าให้คนที่มีแต่ขี้เลื่อยมาคิดวิเคราะห์ พวกเขาจะคิดว่ามันคือการก่อการร้ายก็ไม่แปลกใจ’

“รับทราบครับท่าน”คิมดูอุยพูดให้กับผู้อำนวยการ

อย่างน้อยในสายตาของเขา การกระทำของคิมซูฮยอนก็ไม่เห็นหน้ากลัวเลยสักนิด

คลิ๊ก

คิมดูอุยโค้งทำความเคารพให้ผู้อำนวยการก่อนเดินออกจากห้องไป

หลังจากที่คิมดูอุยจากไป ผู้อำนวยการก็หยิบมือถือขึ้นมาแล้วโอนสายไปหาที่ไหนสักที..

“ใช่ ฉันเอง พวกเรามีคนเหลืออยู่เท่าไหร่?”

**********************

ตูม ตูม

เปลวเพลิงสีแดงฉานลุกไหม้ตามอาคารบ้านเรือนจนเกิดความเสียหาย ประชาชนที่อยู่บริเวณรอบๆต่างวิ่งหนีกันให้จ้าละหวั่น

ซูฮยอนผู้รับบทเป็นผู้ก่อการร้ายยืนอยู่ใจกลางเมือง แล้วมองดูผลงานของตัวเองที่รังสรรค์ขึ้นมา…

“เฮ้อ…ฉันไม่ชินกับการกระทำแบบนี้เลยจริงๆ”ซูฮยอนบ่นพึมพัมออกมา

เขารู้สึกไม่สบายใจเลยจริงๆที่ต้องมาปลอมตัวเป็นผู้ก่อการร้ายแบบนี้…

ประชาชนทุกคนเมื่อมาเผชิญหน้ากับซูฮยอน พวกเขาต่างวิ่งหนีตายด้วยอาการขวัญผวา

ในที่สุดซูฮยอนก็รู้ได้สักที่ว่าทำไมกิลด์ดัมพ์ถึงชอบสร้างปัญหานัก ที่แท้มันก็อยากเห็นสีหน้าตกใจของผู้คนนี้เอง…

“หึ ฉันละอยากเห็นจริงๆว่าตอนนี้กิลด์ดัมพ์จะมีอาการเป็นยังไง ฉันเดาว่าพวกมันคงมีน้ำโหอยู่แน่ๆ.”

กิลด์ดัมพ์ เป็นกลุ่มที่รวบรวมบรรดากากเดนของสังคมเอาไว้มากมาย ส่วนใหญ่พวกมันมักอาศัยอยู่ในวงการใต้ดิน…

เคยมีรายงานว่ามีกิลด์ใหญ่ๆบางกิลด์มีความเกี่ยวข้องกับกิลด์ดัมพ์…..แต่ก็ไม่มีข้อมูลบ่งชี้ได้ว่ากิลด์ไหนกันแน่ที่อยู่เบื้องหลัง

กิลด์ดัมพ์ไม่ว่าจะในอดีตหรืออนาคตมันก็น่ากลัวเสมอ แต่ซูฮยอนกลับกําเริบเสิบสานเอาชื่อกิดล์ดัมพ์มาอ้างแล้วยังเสแสร้งเป็นสมาชิกของมันอีก…..ต่อให้ไม่ใช่สมาชิกของกิลด์ดัมพ์ ก็สามารถคาดเดาได้ง่ายๆว่าตอนนี้พวกมันคงกำลังคลุ้มคลั่งอยู่แน่ๆ

วุป!!!

ทันใดนั้น…เปลวเพลิงที่เผาไหม้ตัวอาคารบ้านเรือนก็มอดดับลงไปอย่างกระทันหัน

แต่สภาพสิ่งก่อสร้างกลับไม่ไหม้เกรียมไปตามความร้อนของเปลวเพลิง…

หลังจากที่สกิลเพลิงพิโรธของซูฮยอนถูกยกระดับขึ้น เขาก็สามารถควรคุมมันได้ตามใจปรารถนา ว่าอยากให้มันเผาไหม้มากน้อยแต่ไหน…

“ประชาชนแถวๆนี้คงหนีกันไปหมดแล้วสินะ”

ซูฮยอนเริ่มโจมตีจาก ย่านบอมแยดง จนมาบรรจบที่ ย่านพย็องชอน ประชาชนที่อยู่ใน 2 ย่านนี้อพยพกันของไปหมดทุกคนแล้ว….

หลังจากข่าวการก่อการร้ายสู้เผยแพร่ออกไป ย่านต่างๆในเมืองอันยัง ก็เกิดการอพยพครั้งใหญ่

ถึงแม้ผู้ก่อการร้ายจะทำทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว แต่ผู้ก่อการร้ายที่ออกอาละวาด ไม่ใช่ประชนชนธรรมดา แต่เป็น ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ที่มากฝีมือ

ไม่ใช่แค่นั้น เพราะผู้ก่อการร้ายอ้างว่ามาจากกิลด์ดัมพ์ เลยทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่า เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว สมาชิกในกิดล์ดัมพ์คนอื่นๆคงกำลังหลบซ่อนกันอยู่ที่ไหนสักที่ เพื่อรอการโจมตี…

“เวลาตอนนี้ 20.00 น.แล้วสินะ”

หลังจากที่ซูฮยอนเริ่มแผนการ มันก็ผ่านมากแล้ว 2 ชั่วโมง

“ฉันก็อยากอาละวาดอีกสักหน่อย แต่ว่า..”

ซูฮยอนหยุดอยู่กับที่แล้วหันไปมองด้านหลัง….

“ดูท่าทางจะทำไม่ได้ซะแล้ว”

ฟรึ่บ ฟรึ่บ

ด้านหลังของซูฮยอน มีคนโผล่ออกมาจากไหนก็ไม่ทราบเต็มไปหมด…แค่มองด้วยหางตา ซูฮยอนก็รู้ได้ทันที ว่าคนที่มาเป็น ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ที่มีฝีมือร้ายกาจ

“หืม…เยอะใช่ได้เลยนี้”

ณ. เวลานี้ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ หลายคนต่างถูกสั่งการ…ให้ระดมพลด่วนพิเศษ…เพื่อจัดการดันเจี้ยนสีเขียวและระดับอื่นๆในประเทศเกาหลีออกไปให้หมด…

ซูฮฺยอนคิดว่ากำลังพลที่เหลือของ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ น่าจะเหลืออยู่อย่างร่อยหรอ

แต่ใครจะไปคิดใช่เวลาแค่ 2 ชั่วโมง กลับรวบรวม ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ได้มากขนาดนี้!

“ขออนุญาตถาม ไม่ทราบว่าคุณคือคิมซูฮยอนตัวจริงใช่ไหมครับ”

คิมดูอุยผู้ยืนอยู่ด้านหน้าสุดถามออกมา….เขาคือเลขาประจำตัวของผู้อำนวยการและยังเป็นผู้ตื่นขึ้นแรงค์ A อีกต่างหาก

โชคดีที่เขาไม่ได้รับเลือกให้ไปโจมตีดันเจี้ยนระดับสีเขียว จึงทำให้เขาเป็นหัวหน้าในการทำภารกิจครั้งนี้ ซึ่งเขาก็ดูเหมาะสมมากที่สุด เพราะคิมดูอุยมีความแข็งแกร่งมากที่สุดในกลุ่ม…

หลังจากที่ซูฮยอนได้ยินคำถามของคิมดูอุย เขาก็ใช้สายตาที่แหลมคมมองไปที่ใบหน้าของฝ้ายตรงข้าม…

ดูเหมือนฝ่ายตรงข้ามจะเป็นคนมีสีพอสมควร เพราะเขาก็จักตัวจริงของซูฮยอนด้วย

“ใช่ ฉันเอง” ซูฮยอนตอบกลับไป

หลังจากที่ซูฮยอนเขียนกระทู้ในเว็บไซต์ อเวจีออนไลน์เสร็จ

ซูฮยอนก็รู้อยู่แล้วว่าตัวตนที่แท้จริงคงถูกเปิดเผยในเร็ววัน ฉะนั้นการโกหกจึงไม่จำเป็นอีกต่อไป…….

“คิมซูฮยอน?”

“หืม?”

“เดี๋ยวนะ เขาไม่ได้เป็นผู้ก่อการร้ายงั้นเหรอ?”

“แต่ทำไมฉันถึงได้รับรายงานมาว่า เขาคือคนของ กิลด์ดัมพ์ล่ะเนี่ย?”

“พวกเขาเป็นคนๆเดี่ยวกันจริงดิ?”

นอกจากคิมดูอุย สมาชิกคนอื่นต่างกระซิบกระซาบกันเบาๆ

พวกเขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าเห็นการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นจะมาจากฝีมือของซูฮยอน

คนที่พวกเขานับถือเป็นไอดอลกลับกล้าทำเรื่องเลวทรามแบบนี้ ทำให้พวกเขาอดเสียใจไม่ได้

เมื่อเรื่องทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย ทัศนคติที่มีต่อซูฮยอนก็เริ่มเบนไปอีกทาง……

“งั้น…คิมซูฮยอนก็เป็นสมาชิกของกิลด์ดัมพ์สินะ”

“ไม่แปลกใจเลยจริงๆ ว่าทำไมเขาถึงไม่เผยตัวตนออกมา ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”

“โอ้วว นั้นสินะ สิ่งที่นายพูดออกมาฟังขึ้นเลยที่เดียว”

มันเป็นข้อสรุปที่ค่อนข้างหน้าเชื่อถือ…ซูฮยอนไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงต่อสาธารณะเลยสักครั้ง เขาหลบอยู่แต่ในมุมมืดอยู่ตลอด ซึ่งมันก็เหมือนกับกิลด์ดัมพ์ไม่มีผิด

หลังจากได้รับรายงานว่ามีการก่อการร้าย…ซูฮยอนกลับโผล่หน้าออกมา

เขาทำลายบ้านเรือนของประชาชนไปทั่ว… ไม่ว่าจะมองยังไง มันก็ไม่มีช่องว่างให้ซูฮยอนแกตัวเลยสักนิด

“ทุกคนเงียบก่อน”คิมดูอุยตะโกน

คิมดูอุยผู้มีข้อมูลและมีทัศนคติที่แตกต่างจาก ‘ผู้ตื่นขึ้น’ คนอื่นๆ ตะโกนบอกลูกทีมให้อยู่ในความสงบ

ในฐานะที่เขาคือหัวหน้ากลุ่มทำให้ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ เชื่อฟังคำสั่งของเขา

หลังจากทุกอย่างเงียบลง คิมดูอุยก็หันไปสังเกตบริเวณรอบๆ

‘อย่างที่ฉันคิดไว้ไม่มีผิด มันไม่มีความเสียหายจริงๆด้วย’คิมดูอุยคิด

ในเวลาปกติ ขึ้นชื่อด้วยการก่อการร้าย..มันต้องเต็มไปด้วยความดิบเถื่อนและการหลั่งเลือด

แต่ตลอดทางที่ซูฮยอนโจมตีออกไป มันไม่มีความเสียหายเลยแม้แต่น้อย….

ตรวจทานบ้านเรือนก็ไม่พบความเสียหาย เช็คชื่อประชากรในเมือง ก็อยู่กันครบทุกคน ไม่มีการเสียชีวิต..

“ผมขอถามอีกหน่อย ที่นายกำลังทำอยู่ เจตนารมณ์ของนาย นายทำไปเพื่ออพยพประชาชนใช่หรือป่าว”

หลังจากได้ยินคำถามของคิมดูอุย ดวงตาของซูฮยอนก็เปล่งประกายระยิบระยับ

คิมดูอุยเคยได้ยินเรื่องเล่าวีรกรรมของซูยอนหลายครั้งจากปากลีจุนโฮ เลยทำให้เขารู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างลีจุนโฮแล้วซูฮยอนมากกว่าผู้อำนวยการหลายเท่า…

‘อืม…ไม่แน่บางที่ ถ้าได้เขามาช่วย…เรื่องราวต่างๆอาจง่ายขึ้นก็ได้’ซูฮยอนคิด

“ใช่ นายพูดถูก ผมกำลังอพยพประชาชนอยู่ ที่จริงผมอยากให้ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ มาเยอะกว่านี้”ซูฮยอนตอบ

“ผู้ตื่นขึ้น มากกว่านี้งั้นเหรอ”คิมดูอุยบ่นพึมพัม

คิมดูอุยพอจำเรื่องเล่าคร่าวๆของลีจุนโฮได้ขึ้นใจ

ซูฮยอนคือคนที่บอกให้ลีจุนโฮทราบ ว่าจะเกิดการระบาดของดันเจี้ยนขึ้นในคืนวันนี้…ไม่แน่บางที่สิ่งที่ซูฮยอนกำลังทำอยู่ อาจทำไปเพื่อเตรียมป้องกันสำหรับภัยพิบัติที่กำลังอุบัติขึ้นก็ได้ใครจะรู้?

“ไม่ทราบว่าพวกปลายแถวมาทำอะไรที่นี่ พวกแกเกะกะลูกตาฉันจริงๆ คิดจะมาหยุดฉันงั้นเหรอ? หึ..ไม่ประเมินความสามรถของตัวเองเลยหรือไง มาแค่ย่อมหนึ่งคิดว่าจะหยุดฉันได้งั้นเหรอ เจ้าพวกมดปลวก”

“ห๊า?”

“คำพูดคำจาชั่งยโสโอหังจริงๆ”

“นั้นสิ อวดดีเป็นบ้า คิดว่าตัวเองเป็นเทพเซียนหรือไง”

เสียงต่อว่าด้วยความโมโหดังขึ้นไปทั่วสารทิศ….และนี้คือสิ่งที่ซูฮยอนต้องการ

คำพูดที่ซูฮยอนพูดออกไปก่อนหน้านี้ เขาตั้งใจพูดสุมไฟเพื่อยั่วโมโห ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ที่มา

อย่างน้อยพวกเขาจะได้มีอารมณ์ร่วมไปกับฉากการแสดงด้วย..

‘และขั้นตอนสุดท้าย เพื่อให้พวกเขาร่วมมือด้วย’

วุป

เปลวเพลิงของซูฮยอนถูกเรียกใช้ออกมาอีกครั้ง ‘ผู้ตื่นขึ้น’ ที่ยืนรวมกลุ่มกันอยู่ ถูกเปลวเพลิงของซูฮยอนโอบล้อมเอาไว้ จนหมดหนทางหนี

ถึงแม้เปลวเพลิงจะมีความน่ากลัว แต่มันก็ไม่สร้างบาดแผลให้พวกเขาเลยสักจุด

“ถ้าพวกแกแน่จริง แกก็มาจัดการฉันซะสิ”ซูฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงดูหมิ่น

‘ถ้าเป็นไปได้…ฉันอยากให้ผู้ตื่นขึ้นมาเยอะกว่านี้..’ซูฮยอนใช้หางตาไปมองคิมดูอุย

‘เขาจะตอบสนองแบบที่ฉันคิดไว้อยู่หรือป่าวนะ’

เมื่อสายตาของคิมดูอุยประสานเข้ากับสายตาของซูฮยอน

ทำให้คิมดูอุยเหมือนจะรับการสื่อสารจากซูฮยอนได้นิดหน่อย

‘เขาอยากให้ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ มาเยอะกว่านี้งั้นเหรอ อืม…ดูเหมือนแผนการของเขาน่าจะไปได้สวย’

เพื่อรอมอนสเตอร์โผล่ออกมา ซูฮยอนมีหน้าที่แค่ป้องกันการโจมตีจากกลุ่มพวกเขาเท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร..

เพราะ…ความสามารถของซูฮยอนแข็งแกร่งยิ่งกว่าจินตนาการของคิมดูอุยซะอีก

ก็อย่างที่เขาเคยบอกไป คนแค่นี้ไม่มีปัญญาไปหยุดซูฮยอนได้….แต่ถ้าไปกำลังสนับสนุนแรงค์ A มาเพิ่ม สถานการณ์อาจพลิกกลับจากหัวเป็นก้อยได้..

‘คงไม่แย่อะไร ถ้าลองเชื่อใจเขาสักครั้ง’คิมดูอุยคิดในใจก่อนชั่งใจพูดออกมา

“ติดต่อไปยังหน่วยสนับสนุน พวกเขาต้องการกำลังเสริมโดยด่วน”

“ดีมาก..มันต้องแบบนี้”ถ้าหัวใจดวงน้อยๆของซูฮยอนสามารถออกมาข้างนอกได้ มันคงกระโดดโลดเต้นด้วยความรื่นเริง

การกลับมาของฮีโร่

การกลับมาของฮีโร่

คิมซองอิน ฮีโร่ ที่แข็งแกร่งที่สุดของมวลมนุษยชาติ

เขาเดิมพันด้วยพลังทั้งหมดของเขา ในการต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์ที่กำลังรุกรานโลก

ทว่า…ความตั้งใจของเขาก็ไม่สำเร็จ โลกมนุย์ถูกทำลาย

แต่ตำนานยังไม่ตาย เมื่อเขาได้มีโอกาสย้อนกลับไปในอดีต เมื่อ 20 ปีที่แล้ว

การเดินทางครั้งใหม่ของเขาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท