เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก – ตอนที่ 327 ล้างมือข้างน้ำพุ / ตอนที่ 328 ตกน้ำ

ตอนที่ 327 ล้างมือข้างน้ำพุ / ตอนที่ 328 ตกน้ำ

ตอนที่ 327 ล้างมือข้างน้ำพุ 

 

 

สวีอันหรานและสวีรั่วชีอยู่ตั้งไกลก็ยังได้ยินเสียงโกรธเคืองของเหยียนเค่อ 

 

 

“ฉันไม่เคยได้ยินเหยียนเค่อตะคอกใส่ใครแบบไม่สนใจภาพลักษณ์แบบนี้มาก่อนเลย” ซย่าเสี่ยวมั่วมีชีวิตอยู่มาได้อย่างไรกันเนี่ย 

 

 

สวีรั่วชีเอามือเท้าคาง รู้สึกเห็นด้วยสุดๆ กับปฏิกิริยาตอบรับของเหยียนเค่อ “บางครั้งฉันรู้สึกแบบนี้กับซย่าเสี่ยวมั่ว อยากจะหยิบมีดมาฆ่าเขานัก” 

 

 

สวีอันหรานยิ้มบางๆ “งั้นการที่เขามีชีวิตอยู่รอดมาได้คงเป็นเรื่องมหัศจรรย์” 

 

 

“ฉันจำได้ว่าตอนเด็กๆ ซย่าเสี่ยวมั่วชอบทำเรื่องโง่ๆ อย่างเลี้ยงปลาในนม ปลูกต้นไม้ในยาฆ่าแมลง…คนอารมณ์ดีอย่างคุณลุงซย่ายังโมโหเขาเลย” สวีรั่วชีนึกถึงแสงสว่างเพียงเล็กน้อยในวัยอันมืดดำเหล่านั้นที่เธอไม่อยากจดจำ 

 

 

สวีอันหรานลูบผมของเธอ “เสี่ยวชีของเราฉลาดที่สุด” 

 

 

สวีรั่วชีแบมือ “แน่นอน แต่ซย่าเสี่ยวมั่วน่ะเป็นผู้หญิงแบบที่ทุกคนชื่นชอบ ฉันน่าจะฉลาดเกินไป” 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเดินอ้อมเข้าไปในระเบียงทางเดิน ได้ยินสวีรั่วชีพูดเช่นนี้ก็เอนตัวลงพาดบนตัวของ 

 

 

สวีรั่วชี “เธอเริ่มหลงตัวเองอีกแล้วนะ เมาแล้วเหรอ” 

 

 

“เธอ…” สวีรั่วชีกำลังจะพูดก็เห็นสองมือของซย่าเสี่ยวมั่วที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเศษฝุ่นดินโคลนสีน้ำตาล จึงหลับตาลงอย่างอดกลั้น ก่อนจะตะคอกขึ้น “ไปล้างมือเดี๋ยวนี้!” 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วที่โดนไล่ตะเพิดไปริมน้ำพุอย่างน่าสงสาร ส่วนเหยียนเค่อที่กำลังล้างหน้าอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่นั้นก็เหลือบมองเธออย่างเย็นชา ทำเอาเธอกลัวจนตัวสั่นไปหมด 

 

 

“มานี่” น้ำเสียงราบเรียบ เขาโมโหจนเลิกโมโหแล้ว 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเขยิบเข้าไปใกล้อย่างระมัดระวัง ก่อนจะคาดเดา “นายคงไม่ได้จะผลักฉันลงน้ำหรอกใช่ไหม” 

 

 

เขาพูดเสียงดุ “ถ้าทำได้อะนะ” นิ้วที่เย็นเล็กน้อยดึงมือของเธอไว้ให้เธอย่อตัวนั่งลง 

 

 

เหยียนเค่อล้างมือให้เธอทุกซอกทุกมุม วักน้ำพุเย็นๆ วาดผ่านฝ่ามือ ส่วนนิ้วโป้งก็ขัดถูให้ 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมองเขาที่เหมือนล้างหัวไชเท้า ค่อยๆ ขัดถูลายมือตรงฝ่ามือให้เธออย่างละเอียดลออ 

 

 

“มือฉันสกปรกขนาดนั้นเลยเหรอ” เธอไม่มีแม้แต่ความคิดดีๆ ในหัว อย่างไรเสียก็โดนท่าทางจริงจังของเหยียนเค่อทำร้ายเข้าให้แล้ว 

 

 

“สกปรกมาก” เหยียนเค่อพูดตามตรง ดึงมือที่ล้างจนสะอาดแล้วจุ่มลงไปในน้ำแล้วล้างต่อ 

 

 

“ทำไมนายไม่เอาหน้านายจุ่มน้ำแล้วล้างแบบนี้บ้างล่ะ” 

 

 

“สกปรก” เหยียนเค่อรังเกียจน้ำพวกนี้เช่นกัน เพียงแต่เพราะเป็นน้ำจากธรรมชาติก็เลยอดทนเอาไว้ 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมองหยดน้ำที่ยังรินไหลอยู่บนใบหน้าของเขา ไล่ตามกรอบหน้างดงามมารวมกันที่บริเวณคางก่อนจะหยดร่วงลง บนหน้าผากก็มีหยดน้ำอยู่เช่นกัน เมื่อโดนแสงแดดส่องก็สะท้อนเป็นแสงเหลืองทอง 

 

 

“สกปรกแล้วนายก็ยังล้างเนี่ยนะ” 

 

 

“เทียบกับน้ำแล้ว มือเธอที่ตบหน้าฉันสกปรกกว่าอีก” เหยียนเค่อจับข้อมือของเธอแล้วขยับวาดไปมาในน้ำ 

 

 

“เชอะ!” เธอเป็นหัวไชเท้าที่สะอาดชัดๆ! 

 

 

เหยียนเค่อมองสองมือตรงหน้าของตนที่จู่ๆ ก็วักน้ำสาดขึ้นมาไม่หยุด ความเย็นบริเวณแผ่นอกทำให้มุมปากเขากระตุก 

 

 

ตอนล้างมือเหยียนเค่ออยู่ข้างหน้าเพื่อกันไม่ให้เธอตกน้ำ พอเธอวักน้ำสาดแบบนี้ ก็มีเพียงแขนของเธอที่โดนน้ำสะบัดใส่เท่านั้น นอกนั้นล้วนสาดมาโดนตัวเหยียนเค่อเต็มๆ 

 

 

เสื้อเชิ้ตสีม่วงเข้มของเหยียนเค่อถูกน้ำสาดใส่จนสีเข้มดำขึ้นกว่าเดิมแถมน้ำยังไหลลงอย่างต่อเนื่อง บริเวณลำคอล้วนมีแต่น้ำ 

 

 

“ซย่าเสี่ยวมั่ว!” เมื่อได้ยินเสียงคำรามของเหยียนเค่ออีกครั้ง ทั้งสองคนก็สบตากันปราดหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าก้มตาดื่มชาต่อ 

 

 

“ฉันอยากจะขอคำแนะนำจากซย่าเสี่ยวมั่วจริงๆ ว่าเขามีชีวิตอยู่ใกล้ๆ เหยียนเค่อได้อย่างไร” สวีอันหรานดมกลิ่นหอมสดชื่นของใบชา ราวกับไม่ต้องการฟังเสียงโหวกเหวกโวยวายทางด้านนั้น 

 

 

“นอกจากว่าพี่จะเป็นเขา ไม่อย่างนั้นชาตินี้ก็อย่าหวังเลย” สวีรั่วชีมองทั้งสองคนที่โหวกเหวกโวยวายก่อนจะเฉลยให้สวีอันหราน 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 328 ตกน้ำ 

 

 

เหยียนเค่ออยากจะผลักเธอลงน้ำเสียจริง ใช้สายตาราวกับจะกัดกินจับจ้องไปที่ซย่าเสี่ยวมั่ว 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วอยากจะสลัดจากมือของเขาแล้ววิ่งออกไป แต่ยังไม่ทันดิ้นหลุดก็ถูกเหยียนเค่อดึงกลับมาเสียก่อน 

 

 

“ถ้าไม่สั่งสอนเธอฉันคงเป็นเทวดาแล้วสินะ!” 

 

 

“ฉันผิดไปแล้ว” ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกว่าตนถูกเขาดึงตัวกลับ ก็นึกว่าเขาจะโยนตนลงน้ำ จึงขยับขืนตัวไปด้านหลังอย่างหวาดกลัว 

 

 

“เธอกลับมาเดี๋ยวนี้นะ!” 

 

 

พละกำลังของซย่าเสี่ยวมั่วไม่ได้มากมายเลยในสายตาของเหยียนเค่อ แค่ออกแรงนิดเดียวก็กระชากคนที่ถอยไปสองก้าวกลับมาได้ 

 

 

สุดท้าย ไม่รู้ว่าเหยียนเค่อออกแรงมากไปหรือว่าซย่าเสี่ยวมั่วตัวเบากันแน่ ว่าการตามกฎของแรงเฉื่อย ซย่าเสี่ยวมั่วก้าวพลาดไปหนึ่งก้าว เหยียนเค่อก็ยังไม่ทันได้เก็บแรงกลับมาแล้วถอยหลังไปหนึ่งก้าวเช่นกัน 

 

 

“ฮือออ ฉันผิดไปแล้วจริงๆ อย่าโยนฉันลงน้ำเลยนะ” 

 

 

เหยียนเค่อมองคนที่พาดอยู่บนตัวแล้วแสร้งร้องไห้ รวมไปถึงหินก้อนกรวดที่ตนกับซย่าเสี่ยวมั่วเหยียบอยู่ก็โมโหจนยิ้มออกมา 

 

 

“เธอโง่หรือเปล่าเนี่ย!” เหยียนเค่อมองบ่อน้ำพุที่ลึกเพียงน่องและมองคนที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองตกลงมาในน้ำเรียบร้อยแล้ว จึงเอ่ยปากด่าออกมา 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วรู้สึกว่าบริเวณน่องเปียกเย็น ก็ยิ่งแสร้งร้องไห้หนักกว่าเดิม 

 

 

“ฮือๆๆๆ นายผลักฉันลงน้ำเหรอ” 

 

 

เหยียนเค่ออุ้มเธอขึ้นมาอย่างปวดหัว “เธออย่าแหกปากได้ไหม” 

 

 

เหยียนเค่อรู้สึกว่าตลอดทั้งวันสมองยังไม่ปลอดโปร่งเท่าตอนนี้เลย ความเปียกเย็นแผ่ซ่านไปทั้งตัว แถมยังมีเสียงโวยวายน่ารำคาญดังขึ้นที่ข้างหูอีก ความเหนื่อย, อยากนอน ต่างมลายสิ้นไปจนหมด 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเปียกไปจนถึงขาอ่อน แต่เธอใส่กระโปรงยาว จึงไม่ได้รู้สึกแย่มากนัก ส่วนครึ่งล่างขากางเกงสูทของเหยียนเค่อนั้นแนบไปกับน่อง ในรองเท้าหนังล้วนมีแต่น้ำ รู้สึกไม่สบายตัวสุดๆ 

 

 

“นายรู้สึกไม่โอเคเหรอ” ซย่าเสี่ยวมั่วตัดสินความคิดในหัวของเหยียนเค่อจากใบหน้าเรียบนิ่งไร้ซึ่งความรู้สึกนั้น แต่ไม่กล้าแสดงออกว่าสะใจ ขยับเข้าไปนั่งอยู่ริมฝั่งเพื่อผึ่งเท้าให้แห้ง 

 

 

เหยียนเค่อบิดชายเสื้อโค้ตไหมพรมจนหมาดแล้วโยนใส่ตัวเธอ จากนั้นก็เดินจากไปโดยไม่เหลียวกลับมามองอีก 

 

 

ตอนที่เดินผ่านสวีอันหรานและสวีรั่วชี คนหนึ่งเกือบจะพ่นน้ำชาออกมา ส่วนอีกคนนั้นพ่นน้ำชาออกมาจากปากแล้วเรียบร้อย 

 

 

“เกิดอะไรขึ้น” 

 

 

“ตัวเปียกเลยเหรอ” 

 

 

ทั้งคู่มองหน้ากันเลิ่กลั่ก รู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เข้าไปดูเรื่องสนุก 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วที่ถูกทิ้งให้นั่งผึ่งเท้าให้แห้งที่เดิมท่ามกลางสายลมในฤดูใบไม้ร่วงที่พัดไหว มองดูแผ่นหลังที่สภาพดูไม่ได้แต่กลับค่อยๆ เดินห่างไปไกลอย่างสงบนิ่ง ก็รู้สึกละอายใจและเศร้าซึมจากการโดนปล่อยทิ้งไว้ตรงนี้ 

 

 

“เหยียนเค่อต้องโกรธจนกลับไปแล้วแน่เลย คราวหน้าถ้าเรียกเขามาอีกฉันต้องโดนตีตายแน่” สวีอันหรานเอ่ยอย่างมุ่งมั่น 

 

 

สวีรั่วชีมองซย่าเสี่ยวมั่วที่ตัวหดเหลือสองนิ้วปราดหนึ่งก่อนจะส่ายหัว “เป็นไปไม่ได้” 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วที่ไม่มีใครมาถามไถ่ก็ยืนกอดเสื้อไหมพรมของตัวเองเหมือนเด็กผู้ถูกทอดทิ้ง 

 

 

สิบนาทีผ่านไป ยี่สิบนาทีผ่านไป สวีอันหรานก็กระดิกนิ้วเรียกสวีรั่วชีอย่างกวนประสาท “ไงล่ะ ฉันพูดถูกใช่ไหม” 

 

 

สวีรั่วชียอมรับผลสรุป จึงค่อยๆ เขยิบเข้าไปใกล้ ก่อนที่ใครคนนั้นจะก้าวขึ้นขั้นบันไดหินไป 

 

 

“ชิ ที่สาธารณะแบบนี้ คนเห็นกันหมด” เหยียนเค่อพูดทิ้งท้ายไว้ ไม่แม้แต่จะชายตามองสองคนนั้นก็ถือของเดินออกไปทันที 

 

 

“ก…กลับมาแล้วเหรอ” สวีอันหรานรับไม่ไหวกับเหยียนเค่อในโหมดที่ตนไม่รู้จัก 

 

 

สวีรั่วชีรู้สึกอายอยู่ลึกๆ จึงบิดเข้าที่แขนของสวีอันหรานแรงๆ “เพราะพี่นั่นแหละ!” ทำเธอขายหน้าหมดเลย 

 

 

สวีอันหรานรู้สึกว่าตัวเองทุกข์ระทมยิ่งกว่าโต้วเอ๋อ[1]]เสียอีก จึงยิ้มแห้งๆ “ทำไมเขาถึงกลับมาได้ล่ะ มันไม่สอดคล้องกับหลักเหตุผลเลยนี่นา” 

 

 

เหยียนเค่อสนใจว่าคนอื่นจะเป็นจะตายตั้งแต่เมื่อไรกัน โลกนี้มันแฟนตาซีไปแล้วหรืออย่างไร 

 

 

 

 

 

—— 

 

 

[1] โต้วเอ๋อ เป็นตัวละครจากบทละครเรื่อง ความทุกข์ระทมของโต้วเอ๋อ ประพันธ์โดยกวานฮั่นชิง นักเขียนในราชวงศ์หยวน

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

Status: Ongoing

ซย่าเสี่ยวมั่ว สาวโสดผู้หมดศรัทธาในความรักจำต้องหนีหัวซุกหัวซุนออกจากบ้าน เพียงเพราะทะเลาะกับผู้เป็นแม่เรื่องหา ‘ลูกเขย’! ด้วยอับจนหนทางที่จะกลับบ้าน เธอจึงต้องไปขออาศัยอยู่กับเพื่อนสนิทชั่วคราว ทว่าระหว่างนั่งรถประจำทาง เธอดันไปปะทะฝีปากกับชายหนุ่มรูปงาม และสร้างความอับอายให้เขาอย่างน่าคับแค้นใจ!

ทั้งที่เธอไม่คิดจะเจอเขาอีกชั่วชีวิต ทว่าเหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง บันดาลให้เธอต้องมาพบกับเขาอีกครั้งในฐานะ ‘แฟนเช่า’ ครั้งนี้ เหยียนเค่อ จะให้เธอได้ชดใช้อย่างสาสม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท