เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก – ตอนที่ 499 ยากที่จะสลัดทิ้ง / ตอนที่ 500 เลือกของคิดถึงคน

ตอนที่ 499 ยากที่จะสลัดทิ้ง / ตอนที่ 500 เลือกของคิดถึงคน

ตอนที่ 499 ยากที่จะสลัดทิ้ง

 

 

เสิ่นมั่วหลียืนรอเหยียนเค่อที่หน้าปากซอย เริ่มเข้าช่วงต้นฤดูหนาวแล้ว อากาศเย็นมาก ลมโบกพัดต้นไม้ต้นหญ้าเล็กๆที่ขึ้นอยู่บนหลังคา มองเห็นเป็นแถบสีเขียวสวยงาม

 

 

เหยียนเค่อไม่ได้นำรถไปจอดด้านใน แต่จอดอยู่ตรงลานจอดรถด้านนอก ชายหนุ่มอ่านป้ายตามบ้านมาตลอดทาง ขับตามที่อยู่ที่เสิ่นมั่วหลีให้จนในที่สุดก็เจอ

 

 

เสิ่นมั่วหลีมองไปรอบๆ เห็นเหยียนเค่อเดินมาจากตรงทางเลี้ยวหน้าซอย แต่ก็ไม่ได้ตะโกนเรียก ได้แต่รอให้ชายหนุ่มมองเห็นตน

 

 

เหยียนเค่อพอหันมาก็เห็นเสิ่นมั่วหลียืนอยู่หน้าตรงสี่แยก สองมือล้วงกระเป๋ามองมาที่เขานิ่งๆ

 

 

“รอนานแล้วใช่ไหม” อุณหภูมิตอนนี้ติดลบแล้ว เหยียนเค่อเดินมายังรู้สึกหนาว เสิ่นมั่วหลีที่ยืนอยู่นานแล้วคงจะหนาวกว่าเขา

 

 

“ไม่นานเท่าไหร่” เสิ่นมั่วหลีเดินนำชายหนุ่มไปที่ศูนย์วิจัย ภายในศูนย์วิจัยอากาศกำลังดี แต่ถ้าไปที่ห้องเก็บเอกสารวิจัยโบราณนั้นหนาวจนแทบแข็ง ฉะนั้นอากาศข้างนอกเมื่อครู่สำหรับเสิ่นมั่วหลีถือว่ายังปกติ

 

 

ช่วงนี้เหยียนเค่อสุขภาพไม่ค่อยดี เสื้อที่ใส่แม้จะดูบาง แต่ล้วนเป็นเสื้อขนแท้ซึ่งทำด้วยมือทั้งนั้น มีการบุหนาหลายชั้น อุ่นกว่าบางคนที่ใส่เสื้อถึงห้าตัว ส่วนเสิ่นมั่วหลีนั้นใส่บางจริงๆ จนเขายังหนาวแทน

 

 

เหยียนเค่อไม่ชอบอากาศที่จิงตูเอามากๆ อยากกลับเมือง N ทุกวัน แค่คิดถึงการรายงานสภาพอากาศในโทรศัพท์ที่ขึ้นเตือนก็หงุดหงิดแล้ว “คุณไม่หนาวก็ดีแล้ว อากาศที่นี่หนาวกว่าเมือง N ห้าองศา” คำพูดนี้ช่างไม่เหมาะกับสิ่งมีชีวิตอย่างเหยียนเค่อจริงๆ

 

 

“นายยุ่งไม่ใช่หรอ จู่ๆทำไมมานี่ล่ะ” เสิ่นมั่วหลีผลักประตูให้ชายหนุ่มเดินเข้าไป

 

 

เหยียนเค่อที่เพิ่งลืมเริ่องนั้นกลับถูกเสิ่นมั่วหลีพูดกระตุ้นขึ้นมาอีก

 

 

“ไอ้ที่ยุ่งก็ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ไม่อย่างยุ่งแล้วก็เลยมา” เหยียนเค่อมองดูพืชซึ่งอยู่ในตู้กระจกที่เสิ่นมั่วหลีใช้วิจัยอย่างสนใจ

 

 

เสิ่นมั่วหลีมองออกถึงอารมณ์ขุ่นมัวของเหยียนเค่อ แม้ชายหนุ่มจะแกล้งทำเหมือนไม่มีอะไร

 

 

“มีเรื่องยุ่งยากเหรอ” สำหรับเสิ่นมั่วหลีคำว่ายุ่งยากคือสิ่งที่รับไม่ได้ที่สุด

 

 

เหยียนเค่อเคาะหน้าต่างเล่น แล้วก็หุบมือลง หมุนตัวกลับมา น้ำเสียงซึมๆ “ยิ่งกว่ายุ่งยากอีก”

 

 

“ถ้าอย่างนั้นสรุปมันเรื่องอะไร” เสิ่นมั่วหลีในตามีแววยิ้ม แววสนุกมองไปทางเหยียนเค่อ

 

 

เหยียนเค่อไม่ตอบ เดินวนไปรอบห้องทำงานแต่ก็ไม่มีของน่าสนใจ จึงเอ่ยเบี่ยงประเด็นเมื่อครู่ “พาผมไปที่อื่นดีกว่า ที่นี่ไม่มีของมีค่าเลย”

 

 

“ทำไม ถ้ามีนายจะขโมยหรือไง”

 

 

“ไม่จำเป็น ผมซื้อได้” เหยียนเค่อมีความตั้งใจอย่างนั้นจริงๆ แต่ของที่นี่ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ

 

 

เสิ่นมั่วหลีลุกขึ้นจากเก้าอี้ ยังคงยิ้มอยู่ “ไม่มีแฟน ไม่รู้จะใช้เงินยังไงใช่ไหม”

 

 

“มีเงินแล้วยังจะหาแฟนไม่ได้หรือไง แต่ว่าผู้หญิงที่ไม่สนใจเงินหายากหน่อย” แบบผู้หญิงอย่างซย่าเสี่ยวมั่ว ที่รู้ว่าเขารวยก็ยังไม่รีบมาซบอก ระดับเหยียนเค่อแล้วถ้าอยากใช้เงินมันมีทางให้ใช้อยู่แล้ว

 

 

เสิ่นมั่วหลีไม่เซ้าซี้ต่อ เดินพาเหยียนเค่อไปอีกที่หนึ่ง “เราไปดูวัตถุโบราณดีกว่า ทางนั้นอาจมีของที่นายชอบ”

 

 

วัตถุโบราณมีหลายสิ่งที่ไม่สามารถนำออกมาขายได้ ต้องเก็บไปในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ และก็มีอีกส่วนหนึ่งเป็นวัตถุราคาสูงที่ใช้สำหรับการประมูล

 

 

เหยียนเค่อพยักหน้า เดินตามเสิ่นมั่วหลีไปที่อีกสถานที่ ที่ศูนย์วิจัยนี่น่าเ**่ยวเฉาเกินไป เขาไม่ได้เปิดประสบการณ์อะไรเลย ลำพังแค่นั่งดูเอกสารที่โต๊ะทำงานทั้งวันก็น่าเบื่อพอแล้ว การไปดูของสะสมโบราณหน่อยน่าจะรื่นหูรื่นตาดี

 

 

แต่เสิ่นมั่วหลีกลับไม่คาดคิดว่า เหยียนเค่อไม่แม้แต่จะเฉียดเข้าไปใกล้พวกอักษรภาพและวัตถุโบราณที่มีรอยตำหนิหรือฝุ่นจับเลย อีกทั้งยังไม่จับต้องเครื่องเงินโบราณทั้งหลายแม้แต่นิดเดียว

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 500 เลือกของคิดถึงคน

 

 

“นาย…” เสิ่นมั่วหลีไม่รู้จะพูดอะไรดี เขาไม่รู้ว่าชายหนุ่มคิดอะไรอยู่จึงไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี

 

 

เหยียนเค่อรู้ว่าพวกวัตถุโบราณพวกนี้มีค่ามาก แต่เขาไม่ได้อินกับพวกของแบบนี้ อีกทั้งไม่ได้ชอบ ซื้อไปก็เอาไปวางทิ้งไว้ซะเปล่าๆ

 

 

เสิ่นมั่วหลีเอ่ยตามปกติ “มีหลายคนชอบสะสมของพวกนี้” ไม่ว่าจะซื้อเอาไปวางประดับบ้านเฉยๆ หรือซื้อไปสะสมเพราะความหลงใหล แต่อย่างไรผู้คนจำนวนมากล้วนชอบสิ่งเหล่านี้

 

 

“ฉันไม่สนใจของพวกนี้” เหยียนเค่อบอกตามตรง เสิ่นมั่วหลีจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาแนะนำเขา

 

 

เสิ่นมั่วหลีได้ยินชายหนุ่มสารภาพตามตรงเรื่องความชอบของตนเอง รู้สึกว่าดีกว่าพวกที่ไม่ชอบแต่กลับบอกว่าชอบ อีกทั้งในวัยของชายหนุ่มก็มีน้อยคนนักที่จะชอบอะไรแบบนี้ เขารู้สึกชื่นชมกับความตรงไปตรงมาของชายหนุ่ม

 

 

“อย่างนั้นดูหยกไหม” เสิ่นมั่วหลีแนะนำ ของจำพวกหยกจะดูสะอาดกว่าอย่างอื่น อีกทั้งยังเก็บรักษาไว้อย่างดี

 

 

เหยียนเค่อเห็นด้วยเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มรู้ดีว่าสิ่งที่ตนเองพอจะดูได้ก็คงจะเป็นหยก แต่กลับถูกเสิ่นมั่วหลีพาไปดูพวกอักษรภาพโบราณอยู่เป็นนาน ในที่สุดก็จะได้ออกไปจากห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นกระดาษหนังสือนี่เสียที

 

 

หยกที่วางโชว์ในห้องวัตถุโบราณนั้นล้วนเป็นหยกชั้นดี หยกถูกแกะสลักอย่างประณีต นุ่มนวล เป็นภาชนะต่างๆวางเรียงรายโชว์อยู่อย่างเป็นระเบียบ

 

 

เหยียนเค่อชอบหยกมาก ไม่เพียงเพราะทำความสะอาดได้ง่าย แต่ผิวสัมผัสก็ดี ชายหนุ่มหยิบหยกขึ้นมาลูบอย่างชอบใจ

 

 

“เป็นอย่างไรบ้าง ถูกใจชิ้นไหน” เสิ่นมั่วหลีเอ่ยถาม

 

 

พนักงานเห็นว่าเสิ่นมั่วหลีเป็นคนพาชายหนุ่มเข้ามาก็รีบไปหยิบหยกชั้นดีที่วางโชว์อยู่มาให้ดูกระตือรือร้น

 

 

พวกเขาอยู่กับวัตถุโบราณพวกนี้มานาน มีเรื่องราวประวัติเกี่ยวกับหยกมากมายที่สามารถพูดให้ฟังได้ นานๆจะมีคนเข้ามาดู พวกเขาจึงอธิบายได้อย่างคล่องแคล่ว

 

 

ไม่ว่าจะเลือกอะไรต้องอาศัยอันที่ดูถูกชะตา เดิมทีเหยียนเค่อกำลังลูบคลำหยกที่แกะสลักละเอียดประณีตอยู่ในมือ แต่พอเห็นพนักงานเดินถือปิ่นปักผมมา ก็หยุดชะงักทันที

 

 

“อันนี้เป็นเซ็ตหรอ”

 

 

“ใช่ค่ะ แต่ไม่ครบเซ็ต” พนักงานรีบยื่นไปให้เหยียนเค่อดูทั้งเซ็ตราวกับเป็นพนักงานเร่ขายของตามแผง

 

 

ของที่วางอยู่รวมกันเยอะๆมักจะดูไม่ออกถึงคุณค่าราคาที่แท้จริง แต่ว่าที่นี่พอหยิบออกมาแต่ละชิ้นล้วนแต่มีคุณค่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

 

 

เหยียนเค่อหยิบพู่ปักผมชิ้นหนึ่งในเซ็ตออกมาวางบนฝ่ามือ หยกสีมรกตเล็กละเอียดใสราวกับน้ำแข็งร้อยเป็นพู่ห้อยยาว ที่ตรงส่วนปลายมีการแกะสลักด้วยลวดลายที่เป็นมงคล ส่วนอีกชิ้นเป็นปิ่นมรกตใสเช่นเดียวกัน เนื้อของหยกสวยกว่าพู่ปักผมด้วยซ้ำ ด้านที่แซมด้วยสีขาวใสนั้นยิ่งทำให้ดูราบเรียบ ไม่หวือหวาเกินไป มีเพียงตรงส่วนปลายที่แกะสลักเป็นลวดลายดอกไม้เล็กน้อย

 

 

เสิ่นมั่วหลีเห็นแววตาของเหยียนเค่อ ราวกับรู้ว่าชายหนุ่มกำลังจะคิดในเรื่องที่ไม่ควรคิดจึงรีบเอ่ยแทรกความคิด

 

 

“ถูกใจเหรอ” เขาถูกใจจริงๆ อีกอย่างมันเหมาะกับซย่าเสี่ยวมั่วมาก

 

 

“อือ” เหยียนเค่อพยักหน้า เสิ่นมั่วหลีกำลังจะเอ่ยพูดกลับได้ยินเหยียนเค่อบ่นพึมพำเสียก่อน “ถ้าเกิดใส่อยู่แล้วไปเจอคนไม่ดีมาคุกคามจะทำอย่างไร…”

 

 

“หืม?”

 

 

เหยียนเค่อหันไปมองเสิ่นมั่วหลีที่ทำหน้าไม่เข้าใจแต่เขาก็ไม่คิดจะอธิบาย นำพู่กลับไปวางที่เดิม แล้วพิจารณาดูเครื่องประดับชิ้นอื่น

 

 

“มันขาดต่างหูไปใช่ไหม” เหยียนเค่อมองดูต่างหู รู้สึกว่าคู่นี้มันไม่เข้ากับของเซ็ตนี้

 

 

พนักงานไม่คิดว่าเหยียนเค่อจะสนใจขนาดนี้ พยักหน้าอย่างตื่นเต้น “ต่างหูของเซ็ตนี้ตอนเกิดเรื่องมันแตกเป็นเสี่ยงๆแล้ว คู่นี้คือคู่ที่เอามาเสริมเฉยๆค่ะ ไม่อย่างนั้นเซ็ตนี้ก็คงจะกลายเป็นสมบัติของชาติ”

 

 

เหยียนเค่อเข้าใจ แต่ตนก็ลืมไปแล้วว่าซย่าเสี่ยวมั่วเจาะหูหรือเปล่า ถ้าเกิดจะเปลี่ยนเป็นต่างหูที่ดูดีกว่านี้แต่ ซย่าเสี่ยวมั่วไปยอมไปเจาะหูเขาก็คงบังคับหล่อนไม่ได้ แต่ต่างหูคู่นี้มันน่าเกลียดเกินไป

 

 

ทำไมเสิ่นมั่วหลีจะไม่รู้ว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่ แต่สำหรับซย่าเสี่ยวมั่วแล้ว ของยิ่งแพงน้องสาวเขายิ่งชอบ เขาส่งสัญญาณบอกให้พนักงานไปหยิบเซ็ตที่เขาเก็บไว้ออกมา

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

Status: Ongoing

ซย่าเสี่ยวมั่ว สาวโสดผู้หมดศรัทธาในความรักจำต้องหนีหัวซุกหัวซุนออกจากบ้าน เพียงเพราะทะเลาะกับผู้เป็นแม่เรื่องหา ‘ลูกเขย’! ด้วยอับจนหนทางที่จะกลับบ้าน เธอจึงต้องไปขออาศัยอยู่กับเพื่อนสนิทชั่วคราว ทว่าระหว่างนั่งรถประจำทาง เธอดันไปปะทะฝีปากกับชายหนุ่มรูปงาม และสร้างความอับอายให้เขาอย่างน่าคับแค้นใจ!

ทั้งที่เธอไม่คิดจะเจอเขาอีกชั่วชีวิต ทว่าเหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง บันดาลให้เธอต้องมาพบกับเขาอีกครั้งในฐานะ ‘แฟนเช่า’ ครั้งนี้ เหยียนเค่อ จะให้เธอได้ชดใช้อย่างสาสม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท