บทที่ 254
ตัวอักษรอักษระจากสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์
ความเงียบเข้ายึดครองห้องควบคุมในฐานทัพของจีน บรรยากาศกดดันปกคลุมทั่วสถานที่แห่งนี้ พวกเขาเชื่อว่าเจียงซิ่วชนะแล้ว แต่ไม่คาดว่าคลื่นอีกคลื่นจะเกิดขึ้น ปรามจารย์ของประตูสวรรค์เองก็กลายเป็นเทพแล้วเช่นกัน และนอกจากนี้เขาก็เตรียมเขตแดนไว้ล่วงหน้า
หลงไซ๋ซง ผู้ที่ไม่ได้โจมตีเพราะโกรธแค้นที่คนอื่นๆ เลือกละทิ้งหลงหยิงชิง นอกจากนี้ที่ไม่ได้โจมตีก็เพราะเธอยังอยู่ในมือของเจียงซิ่ว เขากล่าวออกมาด้วยสียงสั่นๆ “เจียงโหลวเซี่ย อย่าต่อต้าน เจ้าไม่สามารถต้านทานพลังงานจากโลกได้ ทำไมเจ้าถึงไม่ยอมแพ้? พวกเราทุกคนเป็นชาวจีนดังนั้นท่านปรามจารย์จะต้องตัดสินอย่างผ่อนผันให้แน่ เจ้าสามารถกลายเป็นผู้นำนับหมื่นคนภายใต้ประตูสวรรค์ได้”
หวังชงหลินพยักหน้า “หลงไซ๋ซงกล่าวถูกแล้ว มันช่างน่าเสียดายจริงๆ ที่จะต้องฆ่าวีรบุรุตผู้มากความสามารถเช่นเจ้า หากเจ้ายอมแพ้ เจ้าย่อมสามารถครองบัลลังก์ลำดับ 2 ของประตูสวรรค์ได้”
แม้เขาจะรู้ดีว่าเจียงซิ่วเป็นเทพเจ้า เขาก็ยังพยายามชักชวนเจียงซิ่วเข้าประตูสวรรค์ แม้เขาไม่ได้พยายามกลืนแต่เขาก็พยายามเคี้ยว ในความเป็นจริง เขาตั้งใจผ่อนปรนเรื่องสำหรับเจียงซิ่วมานานแล้ว เพื่อที่เขาจะได้ใช้เขาได้ เพียงแค่เจียงซิ่วยอมแพ้ เขาก็มีวิธีการควบคุมเขาไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยวิธี
เจียงซิ่วยิ้มอย่างแปลกประหลาด “แกคิดว่าแกชนะฉันได้?”
เทพซิ่วไม่ได้เป็นคนธรรมดา เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นสูงสุดที่มีชื่อเสียงลื่อลั่นในทวีปการต่อสู้นิรันดร์ ที่นั่นมันเป็นสถานที่ที่แต่ละคนพยายามใช้ประโยชน์จากผู้อื่น โลกที่เต็มไปด้วยแผนการและการใส่ร้าย เขามองเห็นเคล็ดลับราคาถูกของหวังชิงหลินอย่างรวดเร็ว ถ้าเขาเลือกที่จะยอมแพ้ เขาอาจจะถูกวางยาหรือโดนยาพิษ บางทีอาจควบคุมด้วยการใช้กู่ (แมลงในเมืองโบราณมั้งถ้าจำไม่ผิด) สำหรับเทพเจ้า มันเป็นเรื่องง่ายที่จะควบคุมคนอื่น
“เจ้าเชื่อว่าตัวเจ้าเองจะโชดดีพอที่จะออกไปจากสถานการณ์นี้ได้?” หวังชงหลินกล่าวต่อ “แม้ว่าเทพเจ้าสามารถดึงพลังจากความว่างเปล่ามาใช้งานได้ แต่จำนวนที่จะเอามาใช้ได้นำไม่ได้ไร้สิ้นสุด ตั้งแต่ที่เจ้าแบบเทพเจ้าเช่นเดียวกับตัวข้า เจ้าควรรู้เรื่องนี้ดีกว่าผู้อื่น ความจริงที่ว่าเทพเจ้าสามารถใช้พลังงานจากความว่างเปล่าได้ เป็นเพียงคำพูดที่ทำให้ผู้อื่นแตกตื่น จำนวนพลังที่สามารถใช้ได้มันถูกกำหนดไว้แล้วอย่างเสมอต้นเสมอปลาย และสิ่งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่ง เทพเจ้าที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า ก็จะยิ่งดึงพลังงานจากความว่างเปล่ามากใช้ตามได้มากเท่านั้น ความแข็งแกร่งของเรายังไม่เพียงพอที่จะต่อต้านโลก”
ขณะที่เขากล่าว เขาก็ทำสัญลักษณ์มือเพื่อใช้งานเขตแดน ทันทีหลังจากนั้น หมอกบนท้องฟ้าก็รวมตัวกันก่อเป็นพายุหมุนขนาดใหญ่ สายฟ้าสีเงินดูเหมือนกระพริบอยู่ข้างใน หวังชงหลินดูเหมือนเทพเจ้าที่ควบคุมอำนาจเหนือโลกนี้ “เจียงโหลวเซี่ย เจ้าเลือกที่จะอยู่หรือตาย?”
ผู้สังเกตการณ์จำนวนมากที่สังเกตจากระยะไกล รู้สึกอ่อนแรง ขณะที่คุกเข่าหลังจากได้เห็นออร่าที่ยิ่งใหญ่ของหวังชงหลิน
ปรามจารย์ของประตูสวรรค์น่ากลัวเกินไป!
ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้วอย่างแท้จริง ว่าทำไมประตูสวรรค์ถึงปกครองอยู่เหนือผู้คนในยุโรปมาหลายร้อยปี หรือรอดชีวิตออกมาจากสงครามโลกครั้งที่สอง และแม้แต่ได้รับสมยานาม ‘ดินแดนศักดิ์สิทธิ์’ มันกลายมาเป็นดินแดนต้องห้ามสำหรับรัฐบาลของแต่ละประเทศ
มันก็เพราะมีเทพเจ้าดำรงอยู่ที่นั่น!
หลายคนพบว่าตนเองเริ่มหายใจได้อย่างยากลำบาก ก็ในเมื่อหมอกเริ่มลงมา รู้สึกราวกับว่าลมที่พัดจากพายุหมุนนั้นคล้ายกับใบมีดแหลมคม ซึ่งสามารถตัดผ่านภูเขาและแยกออกจากกันได้
และพวกเขาก็รู้สึกเช่นนี้ทั้งๆ ที่อยู่นอกเขตแดน ดังนั้นความกดดันที่เจียงซิ่วผู้เป็นบุคคลที่อยู่ตรงกลางของเขตแดน สิ่งที่เขาต้องเผชิญคงไม่น่าชมดู
“นี่คือพลังอำนาจของเขตแดน?”
เจียงซิ่วยังคงไร้กังวลอยู่เช่นเดิม
“อำนาจของมันเพียงพอที่จะฆ่าเจ้า เจียงโหลวเซี่ย ข้าจะให้โอกาสเจ้าครั้งสุดท้าย อยู่หรือตาย?”
“แน่นอน ว่าฉันต้องการมีชีวิตอยู่… แต่แกก็ไม่สามารถควบคุมชะตากรรมของฉันได้ แกมันไม่รู้อะไรเลย!”
“จองหอง!”
หวังชงหลินไม่ได้ตั้งความไว้มากเท่าไหร่ที่เจียงซิ่วจะมาเข้าร่วมกับประตูสวรรค์ หลังจากทั้งหมดแล้ว มนุษย์ทุกคนที่ได้ขึ้นสู่เป็นเทพเจ้าย่อมมีความภาคภูมิใจในตนเองมากล้น ดังนั้นความเป็นไปได้ที่จะทำให้ใครบางคนเช่นนั้นยอมแพ้จึงมีโอกาสที่น้อย “เนื่องจากเป็นเช่นนี้ ให้วันนี้เป็นวันที่ข้าได้สังหารเทพ!”
บูมมม!
เมฆดำปกคลุมท้องฟ้าเหนือพายุหมุน เสียงครืนปกคลุมทั่วทั้งสถานที่ ในขณะที่มันเริ่มลงตัวเองลงมาจากด้านบน ต้นไม้อายุกว่าร้อยปีถูกบดขยี้ทันที และยอดเขาบนที่อยู่ใกล้ๆก็แตกออกเป็นชิ้นๆ
“เจียงโหลวเซี่ย!”
“สิ่งเหล่านี้เป็นผลจากการกระทำของเจ้าเอง ให้ที่แห่งนี้เป็นหลุมฝั่งศพของเจ้า!”
ผู้สังเกตการณ์หน้าซีดประดุจขี้เถ้า ขาของพวกเขาสั่นสะท้าน พวกเขาไม่เคยเผชิญหน้ากับความกดดันของสรวงสวรรค์เช่นนี้ แม้แต่สึนามิและแผ่นดินไหวก็ไม่มีพลังแบบนี้ ที่สามารถบดทลายภูเขาหินให้เป็นชิ้นๆ ได้
ในช่วงเวลานี้ผู้ที่เห็นภาพตกใจยิ่ง คนจีนที่ให้สนับสนุนเจียงโหลวเซี่ย รู้สึกว่าหัวใจของพวกเขากระโดดขึ้นไปที่คอ เขากำลังจะตายใช่ไหม?
เขาได้เดินทางมาจนถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว สังหารศิษย์สาวกหนึ่งพันคนของประตูสวรรค์ สังหารเซียนทั้ง 20 แต่ก็ยังไม่สามารถทำลายภูเขาขนาดใหญ่ที่เรียกว่าประตูสวรรค์ได้
มันน่าเสียดายที่ราชาเช่นนี้จะต้องล้มลงก่อนที่จะได้ยืดหยัดในท้ายที่สุด
…
ในขณะนี้ หน้าผากของเจียงซิ่วกะพริบด้วยแสงที่เจิดจ้าอีกครั้ง เม็ดกระบี่เองก็ออกมาจากจุดกำเนิดศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง พร้อมกันเขาก็ร่ายคาถาออกมา อักษระหลายตัวเริ่มเข้ามาบรรจบกันที่เม็ดกระบี่ ส่งผลให้มันเปลี่ยนจากกระบี่สั้น 3 นิ้วเป็นกระบี่ยาว 4 ฟุต กระบี่เปล่งแสงในฉับพลัน ขณะที่เจียงซิ่วเงยหน้าขึ้น “แยกสวรรค์!”
แสงกระบี่บนหน้าผากของเขาขยายขึ้น มันขยายตัวทวีคูณขึ้นมากว่า 10 ครั้ง
บูมมมมม!
แสงกระบี่ขนาดมหึมาพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า และทันใดนั้นก็ระเบิดออกมาพร้อมกับเส้นแสงสีขาวประกายระยิบระยับ ในเสี้ยววินาทีนี้ อากาศ เวลา และสสารดูเหมือนจะหายไป มันราวกับว่าเส้นสีขาวนั้นแยกโลกออกเป็นสองส่วน
รอยแยกจากทองฟ้านั้นกำลังเคลื่อนตัวลงมา!
บูมมมมม!
กระบี่แสงสว่างไสว่ ฉับพลันตัดท้องฟ้า ปลดปล่อยสายลมหายนะ ฟ้าแลบเจิดจรัส พร้อมกับฟ้าคำรามไร้ห่วงจบ มันให้ความรู้สึกราวกับว่าสวรรค์ได้ถูกแยกออกจากกัน ขณะนั้นเองพายุหมุนนั้นก็ถูกตัดออกเป็นสองส่วน ก่อนที่จะสลายหายไปอย่างสมบูรณ์
“พระเจ้า!”
ดวงตาของหลงไซ๋ซงเกือบจะโผ่ลออกมา
“เป็นไปได้ยังไง?!”
การแสดงออกของหลังชงหลินเองก็แปรปวนไปด้วยเช่นกัน เขตแดนนี้ได้รวบรวมพลังงานของพื้นโลกในระยะพื้นที่ 100 กม. มารวมกัน เจียงซิ่วไม่สมควรต่อต้านมันได้แม้ว่าเขาจะเป็นเทพเจ้าก็ตาม เนื่องจากมีข้อจำกัดในการใช้พลังงานศักดิ์สิทธิ์ตามที่สวรรค์กำหนก เขาจะต้องหมดพลังในไม่ช้าก็เร็ว
จากที่เขาได้ทำการบ่มเพาะ พลังงานศักดิ์สิทธิ์ที่เขาครอบครองอยู่สามารถรวบรวมพลังงานจากโลกได้แค่ในพื้นที่ระยะ 500 ม. และเขตแดนที่เขาวางไว้สามารถรวบรวมพลังจากโลกได้ในพื้นที่ระยะ 100 กม. มันจึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจเชื่อได้ว่าเจียงโหลวเซี่ยทำลายอำนาจของเขตแดนได้ด้วยตัวคนเดียว
กล่าวอีกนัยนึง นั่นก็หมายความว่าพลังที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ของเจียงซิ่วนั้นแข็งแกร่งกว่าพลังที่หวังชงหลินมีกว่าร้อยเท่า ในความเป็นจริง ความแตกต่างระหว่างพลังจากโลกในพื้นที่ระยะ 500 ม. กับ 100 กม. ไม่ได้เป็นร้อยเท่า มักมากกว่านั้น ก็เป็นเช่นเดียวกับพลังของพายุทอร์นาโดที่มีความเร็ว 30 ไมล์ต่อชั่วโมง มาเทียบกับพายุทอร์นาโดที่มีความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมง มันไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้
การประเมินพลังด้วยตัวเลขนั้นช่างยากเย็น
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขาก็เป็นเรื่องจริง
หวังชงหลินไม่สามารถใจเย็นอยู่ได้ เขาร้องออกมาด้วยความตกใจ “นี่มันทักษะกระบี่เป็นเภทไหนกันแน่?”
“วิชาของฉันไม่ใช่สิ่งที่แกสามารถเข้าใจได้”
หวังชงหลินจ้องมองไปยังท้องฟ้าที่แยกจากกันอย่างสิ้นเชิงด้วยใบหน้าที่ซีดจาง หัวใจของเขาตกลงไปที่ตาตุ้ม หากเขตแดนถูกทำลาย มันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจียงโหลวเซี่ยจะต้องส่งแสงกระบี่นั้นเข้ามาหาเขาแน่นอน ผมของเขาลุกชันขึ้นเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ เขาขบฟัรตัวเองอย่างขมขื่น “เจียงโหลวเซี่ย เจ้าจะต้องตาย!”
เขาบีบหินยืดอายุที่อยู่ในมือของตัวเอง ส่งผลทำให้สัญลักษณ์บนมันแตกกระจายออกมาเป็นแสง ขณะที่เขาร่ายคาถาด้วยความรวดเร็ว เสียงดังกึกก้องดังขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง และท้องฟ้าที่แยกออกก็กลับมาคงเดิม
ในเวลาเดียวกัน ผมสีดำของหวังชงหลินก็กลายเป็นสีขาวอย่างสมบูรณ์ ขณะที่มันโบกสพัดไปตามสายลมอย่างบ้าคลั่ง
เจียงซิ่วส่ายหัวอย่างอดไม่ได้
“อะไร? ตอนนี้เริ่มกลัวแล้ว? มันแต่สายเกินไป!”
รูปลักษณ์ของหวังชงหลินเริ่มคล้ายปีศาจวิปลาศ ส่งผลทำให้เขาดูเหมือนเทพปีศาจ
โดยธรรมชาติแล้ว เจียงซิ่วย่อมไม่ส่ายหัวเพราะความกลัว แต่ออกไปทางผิดหวังซะมากกว่า แยกสวรรค์เป็นทักษะดาบที่เขามีความเข้าใจมัน และเกือบจะใช้ออกไปไม่ได้เพราะกระบี่ แม้ว่าเขาจะสามารถแยกเขตแดนออกได้ ในท้ายที่สุดแล้ว มันก็ยังมีความแตกต่างระหว่างดาบและกระบี่ พวกมันในแวบแรกตอนเข้าใช้พลังแทบจะไม่ต่างกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็หมดพลังสำหรับการโจมตีซ้ำ และตอนนี้เขตแดนของหวังชงหลินก็เริ่มฟื้นตัวแล้ว
“กลัว?” เจียงซิ่วส่ายหัว “หวังชงหลิน ในวันนั้น ผู้คนของซาฮากันช่วยชีวิตแก แต่แกก็ยังฆ่าพวกเขา ในวันนี้ ดินแดนนี้จะกลายเป็นที่ฝังศพของแก”
หวังชงหลินตกใจ “เจ้ารู้จักข้า? รู้เกี่ยวกับซาฮากัน?”
“จะ เจ้าเป็นใคร?”
“ฉันเป็นปีศาจจากขุมนรกที่มาตามตัวแกไปยมโลก”
“หวังชงหลิน รับความตาย!”
หวังชงหลินหัวเราะออกมาเสียงดัง “เจียงโหลวเซี่ย อย่าพยายามทำให้ข้ากลัวด้วยคำพูดของเจ้า เจ้าใช้พลังไปหมดแล้ว กลยุทธ์ลวงจิตของเจ้าจะใช้ไม่ได้ผลกับข้า ข้าต่างหากที่จะเป็นคนส่งเจ้าไปยังยมโลก!
“พร้อมที่จะตายรึยัง?!”
หวังชงหลินเยาะเย้ย อย่างไรก็ตามรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็กลายเป็นแข็งทื่อ
รูม่านตาของเจียงซิ่วค่อยๆ ขยายตัวออกอย่างช้าๆ ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท ในเวลาเดียวกัน สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่แขนซ้ายก็เริ่มส่องสว่าง
บูมมม!
แสงแรงกล้าเปล่งประกายออกมาจากร่างของเขา ลำแสงพุ่งสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า
“นี่คืออะไร?”
หวังชงหลินสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ก็ในเมื่อเขาเห็นภาพทั้งหมดเหล่านี้ ผมของเจียงซิ่วโบกสบัดราบกับเปลวไฟ ร่างของเขาเปล่งประกายราวกับเป็นพายุหะที่ชอบทำลายสภาพแวดล้อม เขาค่อยๆ ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างช้าๆ ส่งผลทำให้เขาดูเหมือนเทพปีศาจที่เข้ามาเยื่อนยังโลกใบนี้
ดูเหมือนว่าเสียงจะดังขึ้นทั่วทั้งสถานที่ ฟังดูแล้วราวกับว่ามันมีต้นกำเนิดมาจากสมัยโบราณกาล
“อนันย์กาล!”
รูม่านตาของเจียงซิ่วกลับมาเป็นปกติ สายฟ้ากระพริบผ่านดวงตาของเขา ขณะที่เขากล่าวคำจากตัวอักษรอักษระจากสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์