ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – ตอนที่ 31 ให้เธอยอมว่าเธอโฆษณาเกินจริง

ตอนที่ 31 ให้เธอยอมว่าเธอโฆษณาเกินจริง

ตอนที่ 31 ให้เธอยอมว่าเธอโฆษณาเกินจริง

มู่น่อนน่อนเอียงหัวไปอีกข้างหนึ่งเพื่อเลี่ยงสายตาอันคมกริบของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบว่า “ไม่เกี่ยวกับคุณ”

“งั้นเกี่ยวกับใครหรือครับ”

เฉินถิงเซียว จ้องมองเธออย่างกระชั้นชิด และตัวร่างของเขาที่สง่างามกีดขวางทางถอยของเธอไปหมดทำให้เธอไม่เหลือโอกาสหนีไปสักนิด

มู่น่อนน่อนได้ดมกลิ่นสุขุมอันพิเศษของเขา แต่ก็ไม่ได้ให้บรรยากาศของเขาที่มีความกดขี่เบาลงสักนิด

หัวใจของเธอเต้นเร็วเป็นอย่างมาก เธอรู้สึกว่าแค่พูดเพิ่มอีกคำก็จะกลายเป็นข้อบกพร่องไป

“เฉินเจียฉิน” ไม่ใช่คุณชายธรรมดาที่โง่เง่า เขาฉลาดกว่าที่เธอคิดไปหลายเท่า

“ไม่พูดอีกแล้วหรือ” เฉินถิงเซียวถอยไปครึ่งก้าวอย่างกะทันหัน

มู่น่อนน่อนคิดว่าสุดท้ายเขาก็ยอมปล่อยเธอไปแล้ว แต่วินาทีถัดไป หัวใจของเธอก็ถูกยกขึ้นอีก

เฉินถิงเซียวมองหน้าเธอแล้วพูดอย่างสะเพร่าว่า “ไปล้างหน้า”

มู่น่อนน่อนกัดริมฝีปากหนึ่งที ทันใดนั้นก็มองไปทางประตูโรงอาหารโดยสีหน้าประหลาดใจแล้วพูดว่า “คุณพ่อ”

เฉินถิงเซียวฟังแล้วพูดแบบไม่ใส่ใจว่า “เกมเล็กๆแบบนี้ ไร้สาระมากเลย”

บนใบหน้าของมู่น่อนน่อนนั้นไม่ได้สังเกตถึงความขัดเขินที่ถูกเขาเปิดโปง กลับขมวดคิ้วและแสดงความอึดอัดใจทั้งหน้า

เฉินถิงเซียวเกิดความสงสัยขึ้นมา จึงหันตัวไปมองข้างหลัง แต่ปรากฏว่าข้างหลังไม่ได้มีอะไรเลย

ในยามที่เขาหันตัวไปมู่น่อนน่อนก็วิ่งหนีไปทันที

เฉินถิงเซียวตะลึงอยู่สักสองสามวินาทีแล้วก็ก้าวเท้าหมายจะไล่ตามไป แต่ยังไม่ก้าวไปก็หยุดเท้าอย่างรวดเร็ว

ใจเย็นๆ ยังมีเวลาอีกมากมาย

เขาหันตัวกลับนั่งที่โต๊ะอาหารแล้วกินข้าวต่อ

อร่อยกว่าฝีมือของพวกลูกน้องจริงๆด้วย

……

มู่น่อนน่อนวิ่งเข้ากลับถึงห้องตัวเอง แล้วก็พิงประตูหมอบไปหายใจลึกๆ

เมื่อกี้ “เฉินเจียฉิน”ทำให้เธอตกใจหมดเลย

แม้ว่าเธอไม่ใช่ตั้งใจทำตัวเป็นคนน่าเกลียด แต่ถ้าจะอธิบายก็จะก่อเรื่องวุ่นวายที่ไม่จำเป็นขึ้นมาอีกมากมาย

หลังจากเรื่องนี้ “เฉินเจียฉิน”ก็เป็นคนอันตรายมากทีเดียวสำหรับเธอแล้ว ถ้าเขาไม่ย้ายออกไป เธอก็จะหาทางย้ายออกไปแน่นอน

หลังอาบน้ำเสร็จแล้วนอนบนเตียงโดยใจหมกมุ่นมู่น่อนน่อนก็ได้รับสายของเสิ่นเหลียง

“น่อนน่อน Weiboของบริษัทมู่ซื่อประกาศว่าพรุ่งนี้จะอธิบายรายละเอียดของเรื่องวิดีโออย่างเปิดเผย จุดประสงค์ของเขาคืออะไร”

มู่น่อนน่อนเย้ยหยันว่า “พวกเขาอยากให้ฉันไปอธิบาย ‘ ความเข้าใจผิด’ กับสื่อมวลชนด้วยตัวเอง”

“วิดีโอนั้นเป็นหลักฐานแท้ๆอยู่แล้ว พวกเขาอยากให้เธออธิบายยังไง อยากจะให้เธอเป็นแพะรับบาปหรือ” น้ำเสียงของเสิ่นเหลียงเต็มไปด้วยความโกรธ

มู่น่อนน่อนพูดอย่างไม่แคร์ว่า “ไม่เป็นไรหรอก แล้วแต่เขา”

เธอเอาใจอารมณ์เสิ่นเหลียงแล้วเปิดคอมพิวเตอร์ดูWeibo เห็นว่าWeiboของบริษัทมู่ซื่อได้ประกาศข่าวนี้จริงๆ

พรุ่งนี้คนในตระกูลมู่คงจะมาหาเธอแล้ว

เดาไม่ผิดจริงๆ เช้าวันรุ่งขึ้น มู่ลี่เหยียนก็โทรหาเสิ่นเสี่ยวยี่

“พอดีบริษัทเรามีงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในวันนี้ เธอไปดูเลเวทีและแวะอธิบายเรื่องวิดีโอหน่อย ”

มู่น่อนน่อนตอบด้วยเสียงน่ารัก “ค่ะ”

……

มู่น่อนน่อนมองไปรอบข้างอย่างระมัดระวังในเวลาที่เธอเปิดประตูออกไป พอสังเกตว่าไม่มีบุคคลที่น่าสงสัยเหมือน “เฉินเจียฉิน”เธอจึงกล้านำกระเป๋าออกไป

เธอแค่กินอาหารง่ายๆนิดหน่อยในระหว่างทางแล้วก็ไปงาน

เธอเห็นเซียวชู่เหอกำลังยืนอยู่หน้าประตูเหลือบแลอยู่ ดูท่าทางแล้วคงจะรอเธออยู่

พอได้เห็นมู่น่อนน่อน เซียวชู่เหอก็เดินเข้ามาแล้วพูดว่า “ทำไมมาช้าอย่างนี้ และเธอใส่หน้ากากมาทำไม”

มู่น่อนน่อนพูดเบาๆเพื่อให้เกิดเสียงแหบว่า “เป็นหวัดนิดหน่อย”

เซียวชู่เหอก็ไม่ได้ถามอะไรต่อแล้วก็พาเธอไปถึงห้องประชุม

มู่ลี่เหยียนกับมู่หวั่นขีก็อยู่ห้องประชุม

มู่หวั่นขีเหี่ยวบทปราศรัยที่เตรียมไว้อยู่ในมือให้เธอและพูดว่า “เดี๋ยวนักข่าวจะถามคำถาม เธอตอบตามบทนี้ก็แล้วแต่”

มู่น่อนน่อนเปิดบทดูและสายตาของเธอแวบแววตาที่เยาะเย้ยอย่างรวดเร็ว

โดยสรุปแล้วเนื้อหาของบทปราศรัยมีแต่จุดมุ่งหมายเดียว นั่นก็คือให้มู่น่อนน่อนรับโทษทั้งหมด ให้เธอยอมว่าหัวข้อที่ว่า “คนขี้เหร่มักจะเรื่องมาก”อยู่บนWeiboและเรื่องวิดีโอที่เกิดมาทีหลังนั้นเป็นฝีมือของเธอเอง ให้เธอยอมว่าตัวเธอเองโฆษณาเกินจริง

พวกเขาคิดได้รอบคอบจริงๆ เพราะวันหลังเขาจะเป็นคนเขียนบท แม้ว่าแค่เป็นคนเบื้องหลัง แต่ก็เป็นคนในวงการอยู่ พูดว่าเธอโฆษณาเกินจริงก็ได้

เพียงไม่กี่นาทีนี้เอง ผู้ช่วยของมู่ลี่เหยียนก็เคาะประตูเข้ามาและพูดว่า “คุฌมู่ครับ เรียบร้อยแล้วครับ”

“ครับ” มู่ลี่เหยียนมองมู่น่อนน่อนแล้วพูดแกร่งกร้านว่า “จำเนื้อหาในบทปราศรัยได้หรือยัง แต่ถ้าจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เธอแค่รู้ว่าทั้งหมดนี้คือความผิดของเธอทั้งนั้นก็พอ”

“ค่ะ” มู่น่อนน่อนแสดงความเห็นด้วยโดยพยักหน้า

ประตูของห้องประชุมถูกผลักขึ้น แล้วก็มีฝูงนักข่าวตามเข้ามาด้วย

เธอรู้ดีแก่ใจว่า นักข่าวเหล่านี้ติดสินบนของพวกมู่ลี่เหยียนอยู่แล้ว ถ้าคำพูดของเธอไม่เหมือนบทปราศรัยก็จะไม่แถลงออกไปอย่างแน่นอน

มู่น่อนน่อนเรียนที่คณะภาพยนตร์ เรื่องในวงการนั้นเธอก็รู้อยู่ไม่น้อย โดยบังเอิญเธอก็สังเกตว่า ไซน์ที่อยู่ในไมโครโฟนนั้นคุ้นๆอยู่ ถ้าเธอจำไม่ผิดนั่นก็คือบริษัทเสิ้งติ่งแห่งหนึ่ง

บริษัทเสิ้งติ่งเป็นกลุ่มบริษัทครอบคลุมที่ใหญ่ที่สุดในวงการ มีเงินเยอะและวางตัวสูงไม่เคยสนใจบริษัทอื่น ผู้ก่อตั้งมีสายตาที่คมเฉียบ และลูกจ้างในบริษัทก็มีนิสัยที่ดื้อรั้น สมมุติว่ายากที่จะถูกติดสินบน

พอการสัมภาษณ์เริ่ม มู่น่อนน่อนก็ถูกไมโครโฟนที่มีไซน์ของบริษัทเสิ้งติ่งโอบล้อม

“คุณมู่คะ ขอถามหน่อยว่า เนื้อหาที่อยู่ในวิดีโอครั้งหน้าและเรื่องที่มู่หวั่นขีพี่สาวคุณพูดนั้นเป็นความจริงไหม และคุณแต่งงานเข้าไปตระกูลเฉินนั้นโดยจำใจ ใช่ไหม”

มู่น่อนน่อนไม่ได้ถอดหน้ากากออกมา ตะลึงไปสักพักแล้วจึงตอบว่า “ไม่ใช่ค่ะ ฉันอยากแต่งงานเองค่ะ”

ปฏิกิริยาของเธอทั้งหมดนี้ บรรดานักข่าวก็เห็นกับตา เมื่อก่อนก็ได้ยินว่าคุณหนูสามตระกูลมู่นั้นเป็นคนโง่ และวันนี้ก็รู้สึกว่าสมองของเธอมีปัญหาจริงๆ

พอได้ฟังแบบนี้สามคนรวมมู่ลี่เหยียนต่างก็รู้สึกมีความพอใจ

“เพื่อแต่งงานกับเศรษฐี คุณจึงแทนพี่สาวคุณแต่งงานกับตระกูลเฉินใช่ไหมครับ”

“เธอเป็นพี่สาวแท้ๆของคุณ คุณทำอย่างนี้ได้ยังไง และหน้าตาของเธอแบบนี้ คุณชายเฉินก็ชอบหรอก”

“เธอหน้าด้านแบบนี้ กล้าแย่งคู่หมั้นของพี่สาว มิน่าเล่าคุณแม่ของเธอก็ไม่ใส่ใจเธอ……”

“เธอเป็นโรคจิตตั้งมาแต่เด็กใช่ไหม”

คำถามของนักข่าวมีแล้วมีอีก จะพูดว่าทำร้ายจิตใจมู่น่อนน่อนก็ได้แล้ว

ยังมีนักข่าวที่มีใจกล้าๆไม่กลัวอำนาจของตระกูลมู่ถามเธอว่า “คุณชายเฉินอ่อนแอเหมือนที่เขาเล่ากันมาจริงๆหรือเปล่า เพื่อเงินแล้วคุณยอมอยู่โดยสถานภาพเป็นมายตลอดชีวิตไหมคะ วันหลังคุณจะหาคนที่สามไหมคะ”

พวกนักข่าวที่ไร้น้ำใจเพื่อดึงดูดสายตาของคนอื่นไม่เคยรู้ว่าสิ่งที่เรียกว่าความดีมันคืออะไรเลย

มู่น่อนน่อนมองนักข่าวคนนั้น ครึ่งหน้าของเธอถูกหน้ากากคลุม และบนหน้าผักของเธอก็มีผมม้าที่หนักๆคลุมอยู่ ในหน้าของเธอสิ่งที่เห็นได้ชัดมีแต่ดวงตาของเธอที่สว่าง

เมื่อถูกมู่น่อนน่อนมองแบบนี้นักข่าวคนนั้นรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา

และในเวลานี้มู่น่อนน่อนเอ่ยปากว่า “แม้ว่าคุณมีนิสัยชอบสืบค้นดูเรื่องผัวเมีย แต่ฉันไม่ชอบเอาเรื่องระหว่างฉันกับสามีฉันมาเปิดเผย เพราะว่า ฉันเป็นคนที่รู้ความอาย”

พอเธอพูดจบ นักข่าวคนอื่นก็หัวเราะขึ้นมา

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท