ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – ตอนที่ 68 ไปขายอีกรอบ

ตอนที่ 68 ไปขายอีกรอบ

ตอนที่ 68 ไปขายอีกรอบ

มู่น่อนน่อนเดินออกจากประตูบริษัทซื่อ แล้วเดินไปป้ายรถเมล์ทันทีเลย

เวลานี้คนรอรถเมล์เยอะมาก จุจุก็มีรถสีดำคุ้นตาขับมาจอดตรงหน้าเธอ

กระจกรถเลื่อนลง มู่ลี่เหยียนหันมามองเธอ “ขึ้นรถ”

มู่น่อนน่อนลังเลไปสักพัก เปิดประตูแล้วขึ้นไปเลย

ในรถมีแต่คนขับรถกับมู่ลี่เหยียน มู่น่อนน่อนขึ้นไปแล้ว ก็ไม่ได้เริ่มพูดก่อน

คนขับรถขับออกมาได้สักช่วงแล้ว พลางจอดรถไว้ข้างทาง

ผ่านไปสักพัก มู่ลี่เหยียนพลางพูดขึ้นนิ่งๆ “น่อนน่อน ฉันรู้ว่าเรื่องเธอโดดงานเป็นการเข้าใจผิด วันนี้พี่สาวเธอได้รับความทรมานขนาดนั้นแล้ว เรื่องนี้ก็ถือว่าผ่านไปแล้ว อย่าใส่ใจเลยนะ”

มู่น่อนน่อนขำทีหนึ่ง “ผ่านไปแล้ว? ”

มู่ลี่เหยียนขมวดคิ้ว “พี่สาวเธอได้รับการลงโทษขนาดนั้นแล้ว เธอยังอยากทำอะไรอีก? ”

“ตรงนี้” มู่น่อนน่อนชี้หน้าตัวเอง “มู่หวั่นขีเป็นคนตี”

ทำไมมู่ลี่เหยียนถึงบอกว่าเรื่องนี้ผ่านไปเลยก็คือผ่านไปได้เลย?

มู่ลี่เหยียนพูดเย็นชา “เมื่อก่อนฉันไม่สังเกตว่าเธอร้ายกาจแบบนี้!”

“ไม่ร้ายเท่าเธอ ลูกสาวแท้ๆ ตัวเองยังสามารถลงมือโหดแบบนั้น” มู่น่อนน่อนก้มหน้าใช้มือจับซีดกระเป๋าไว้ ใบหน้าที่ใจไม่อยู่กับเนื้อ แต่คำพูดที่แฝงความกระตุ้นนั้นไม่ต้องพูดออกมาก็ยังรับรู้ได้

มู่ลี่เหยียนในวันนี้ถูก “เฉินเจียฉิน” ทำให้หน้าเสียมาก จนตอนนี้ยังหงุดหงิดในใจอยู่เลย

ไม่พูดเรื่องนี้ยังดี พอพูดแล้ว หัวใจเขาก็โกรธยิ่งนัก

“เธอยังมีหน้ามีพูดเรื่องนี้อีกเหรอ? ฉันอายุเยอะขนาดนี้คนหนึ่งแล้ว ถูกนายไม่รู้ดีนั่นกดดันจนตีมู่หวั่นขีขนาดนั้น หัวใจฉันไม่เจ็บรึไง? ” มู่ลี่เหยียนอารมณ์ร้อนขึ้นมา แม้แต่เสียงที่พูดก็ดังมากขึ้น

มู่น่อนน่อนปิดหูตัวเองไว้ พูดอย่างไม่อยากฟัง “พอแล้วๆ ฉันรู้แล้ว มีเรื่องอะไรก็รีบพูดมา”

เธอยังต้องรีบกลับไปทำกับข้าวให้ “เฉินเจียฉิน”

มู่ลี่เหยียนมองมู่น่อนน่อนทีหนึ่ง ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความลำคานอย่างชัดเจน แค่สายตาเดียวก็ดูออก

เดิมทีที่มีความมั่นใจเต็มสิบจะให้มู่น่อนน่อนเชื่อฟัง แล้วไปพูดกับเฉินถิงเซียวให้ลงทุนบริษัทซื่อ ตอนนี้ก็เริ่มไม่มั่นใจแล้ว

เขาลองวิเคราะห์สักพัก แล้วพูดออกมา “เรื่องของเฉินเจียฉิน เธอก็ได้ยินเเล้วสินะ”

มู่น่อนน่อนไม่พูด เขายังคงพูดต่อ “เนื่องด้วยบริษัทลงทุนผิดพลาด กองทุนทั้งหมดขาดสิ้นแล้ว ไม่ว่ายังไง เธอก็เป็นหนึ่งของสมาชิกตระกูลมู่ เวลานี้แล้วเธอควรช่วยตระกูลมู่ครั้งหนึ่ง”

มู่น่อนน่อนเม้มปากพูดอย่างกระตุ้นใส่เขา น้ำเสียงคมแหลม “ยังมีค่าของขวัญสามร้อยล้านของตระกูลเฉินไม่ใช่เหรอ? ฉันเอาค่าขายตัวเพิ่มให้พวกเธอแล้ว เธอยังต้องการให้ฉันช่วยพวกเธอยังไงอีก? ไปขายอีกรอบเหรอ? คงไม่มีคนเอา”

มู่ลี่เหยียนน้ำเสียงเข้มงวด “เธอนั่นคือแต่งงานไปอย่างถูกหลัก ทำไมถึงพูดฟังไม่ขึ้นแบบนี้!”

“คนที่ควรแต่งงานไปอย่างถูกหลักเดิมทีคือมู่หวั่นขี” มู่น่อนน่อนเงยหน้าจ้องตาเขา ไม่กลัวเขาเลยสักนิด

มู่ลี่เหยียนถูกสายตามู่น่อนน่อนทำเอาตกใจ ช่างเย็นเฉียบและห่างเหินนัก ไม่เหมือนมู่น่อนน่อนเมื่อก่อนที่อดทนความโกรธต่างได้

ในเมื่อพูดชนะใจเธอไม่ได้ มู่ลี่เหยียนเลยหน้าเยือกเย็น พูดข่มขู่ขึ้นมา “เธอคิดว่าตระกูลมู่ล้มละลายแล้ว ตระกูลเฉินเขาจะดีกับเธอเหรอ? คุณนางเฉินที่ไม่เบื้องหลังการสนับสนุนของทางบ้าน อยู่ตระกูลเฉินก็ยืนนิ่งได้ยาก!”

“ยืนไม่นิ่งก็หย่าไปเลยไง!” มู่น่อนน่อนพูดด้วยใบหน้าไม่สนใจอะไร

เธอเข้าใจสักทีแล้ว ทำไมมู่ลี่เหยียนถึงยอมให้หุ้นส่วนบริษัทกับเธอ และจะให้เธอกลับมาทำงานที่บริษัทซื่อ

ที่แท้อยากให้เธอช่วยพูดให้เฉินถิงเซียวยอมลงทุนบริษัทซื่อนี่เอง

ตระกูลมู่ทำเรื่องอะไรที่ดีดีขึ้นมาไม่เป็น แต่ช่างคิดแผนการแบบนี้ได้จริงๆ

มู่ลี่เหยียนโกรธจนชี้เธอไว้ พูดอะไรไม่ออก “เธอ…”

“ฉันพูดความจริง” มู่น่อนน่อนเก็บสายตา น้ำเสียงจริงจักมากขึ้น “ทำไมเริ่มเเรกเฉินถิงเซียวถึงยอมตกลงหมั้นกับมู่หวั่นขี ในนี้มีเรื่องที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้ใช่ไหม? ”

สีหน้ามู่ลี่เหยียนเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย พูดอย่างรีบร้อน “เธอพูดบ้าอะไร!พี่สาวเธอไม่เหมาะกับเฉินถิงเซียวตรงไหน!เป็นเฉินถิงเซียวที่ไม่สมควรได้รับความดีนั้น!”

มู่ลี่เหยียนชอบเปรียบเทียบอะไรดีอะไรเป็นผลเสียอยู่ตลอด เมื่อสิบปีก่อนบริษัทซื่ออ่อนกว่าตอนนี้เยอะ ถึงแม้เขาจะรักมู่หวั่นขีแค่ไหน ก็คงจะรู้ว่าในสถานการณ์ปกตินั้นการหมั้นของตระกูลเฉินกับตระกูลมู่ความเป็นไปได้คือศูนย์

และมู่ลี่เหยียนที่เปลี่ยนสีหน้าเร็วแบบนี้ บวกกับการแย้งกลับอย่างรีบร้อน ก็ได้ยืนยันว่าการหมั้นนี้ต้องมีเรื่องบางอย่างที่ไม่สามารถพูดออกมาได้แน่นอน

มู่น่อนน่อนเดิมทีก็สงสัยการหมั้นของตระกูลเฉินกับตระกูลมู่มาตลอด เพียงแค่ถามออกมาเฉยๆ ไม่คิดว่ากลับดึงดุดให้เธอสนใจสักงั้น

“ไม่เช้าแล้ว ฉันต้องกลับบ้านแล้ว มีเรื่องอะไรค่อยคุยพรุ่งนี้เถอะ” มู่น่อนน่อนดูเวลาเเล้วพลางดึงประตูเปิดแล้วลงรถไป

มู่ลี่เหยียนตะโกนด้านหลังดังๆ “มู่น่อนน่อน!”

มู่น่อนน่อนหันกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแล้วโบกมือให้เขา เดินไปอย่างสง่า

……

กลับมาถึงคฤหาสน์ มู่น่อนน่อนเดินเข้าไปประตูก็เจอ “เฉินเจียฉิน”

ในตัวเขายังสวมชุดสูทตอนกลางวันอยู่ เป็นลายสีน้ำเงินออกแนวโบราณ และมีความไฮโซสว่าแฝงอยู่ ที่สำคัญคือเขาเริ่มพูดออกมาก่อน

“เธอกลับบ้านช้ากว่าปกติหนึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมงนี้เพียงพอให้เธอกินข้าวเย็นภายใต้แสนเทียนข้างนอกกับผู้ชายคนอื่นแล้ว” “เฉินเจียฉิน” ยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา แสดงหน้าเย็นให้เธอเห็น

มู่น่อนน่อนจ้องเขาไว้ โยนกระเป๋าในมือไปทางเขา หันแล้วเดินไปห้องครัว

เฉินถิงเซียวรับกระเป๋าใบเล็กของเธอไว้อย่างแม่นยำ ยักคิ้วให้หลังเธอทีหนึ่ง

นี่กำลังอารมณ์เสียใช่ไหม?

จุจุเสียงสายเรียกเขาดังขึ้นมา

เฉินถิงเซียวเห็นว่าดังออกมาจากกระเป๋ามู่น่อนน่อน

เขาเปิดซีดออก แล้วเอาโทรศัพท์มู่น่อนน่อนออกมาจากข้างใน

คนที่โทรเข้ามาถูกบันทึกชื่อว่า “เสี่ยวเหลียง”

เสี่ยวเหลียง? เหมือนว่าบ้านกู้จือหยั่นก็มีดาราเล็กๆ คนหนึ่งชื่อเสี่ยวเหลียงอะไรสักอย่างเหมือนกัน?

เหมือนว่าเป็นผู้หญิง?

เขาสังเกตเห็นโทรศัพท์ถูกใส่ด้วยเครสที่เป็นกรอบหนา แสดงว่าเจ้าของได้รักมันเช่นกัน

เฉินถิงเซียวเม้มปาก จับมือถือไว้แล้วเดินไปทางห้องครัวอย่างใจดี แต่ไม่คิดว่าในระหว่างนั้นกลับสัมผัสกดโดนปุ่มรับสายไป

เสียงเสิ่นเหลียงดังออกมาจากโทรศัพท์อย่างดัง “น่อนน่อน เธอรู้ไหม? ซือเฉิงหยู้กลับมาเมืองหู้หยางแล้ว ถ้าเธอว่างๆ ออกไปเดินดูไม่แน่อาจจะพบเจอเขาก็ได้ ฉันก็จะกลับไปเร็วๆ นี้แล้ว ถึงตอนนั้นฉันจะลองดูว่าพอสืบเขาไปที่ไหนออกกิจกรรมอะไรต่างๆ อาจจะหาโอกาสพาเธอไปดูเขา…”

เฉินถิงเซียวฟังคำพูดเธอแล้ว หยุดฝีเท้าลง

เสิ่นเหลียงอีกฝั่งอีกฝั่งสงสัยมาก “นี่? น่อนน่อน ทำไมเธอไม่พูด? เธอดีใจจนซื่อเลยรึไง? หรือว่าฝั่งฉันไม่มีสัญญาณเนี่ย…”

ทีนี้ มู่น่อนน่อนกำลังออกมาจากห้องครัวพอดี “ฉันได้ยินโทรศัพท์ฉันดังแล้ว”

เฉินถิงเซียวยนมือถือให้เขาอย่างหน้าไม่มีอารมณ์ใดๆ หันแล้วเดินไป

มู่น่อนน่อนเกือบรับมือถือไว้ไม่ทัน ดูหลัง “เฉินเจียฉินทีหนึ่ง” “เชอะ” ออกมาคำหนึ่ง แล้วพูดเองเอ่อเอง “นิสัยแย่เหมือนเดือนมิถุนา!จะเปลี่ยนหน้าก็เปลี่ยนเลย…”

มู่น่อนน่อนจับมือถือแล้วเดินเข้าห้องครัว เฉินถิงเซียวได้หันกลับมาในตอนนี้ สายตาลึกด้วยความสงสัย

เฉินถิงเซียวนึกถึงวันนั้นที่มู่น่อนน่อนกลับบ้านเช้า วันนั้นพอดีที่ซือเฉิงหยู้กลับมาเมืองหู้หยางพอดี ตอนที่พวกเขาเจอกัน ซือเฉิงหยู้ได้ถามคำถามที่เกี่ยวกับมู่น่อนน่อนหลายอย่าง

เฉินถิงเซียวค่อยๆ ล้วงมือถือออกมา โทรไปหาสือเย่ “ตรวจสอบหน่อย วันศุกร์อาทิตย์ที่แล้วมู่น่อนน่อนไปที่ไหนมาบ้าง ได้เจอคนอะไร”

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท