ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – ตอนที่ 128 อยากเดาก็เดาไม่ถูก

ตอนที่ 128 อยากเดาก็เดาไม่ถูก

ตอนที่ 128 อยากเดาก็เดาไม่ถูก

มู่น่อนน่อนใจเต้นแรง รีบปฏิเสธทันที: “ฉันรู้สึกขอบคุณความหวังดีของพี่ชายมาก แต่ไม่เป็นไรจริงๆ ตอนนี้ฉันต้องไปทำงานแล้ว เดี๋ยวสายค่ะ”

เมื่อเธอพูดจบ ก็หันไปบอกลาสวี่จูน จากนั้นก็เปิดประตูรถออก และวิ่งลงจากรถไปทันที

ซือเฉิงหยู้มองผ่านกระจกรถออกไป เห็นเงาของมู่น่อนน่อนจากไปอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มของเขาก็ค่อยๆจางหายไป

เขารู้ว่าช่วงนี้มู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวกำลังมีปัญหากัน เพราะเรื่องที่เฉินถิงเซียวโกหกหล่อน

แต่ เมื่อครู่หล่อนทำไปเพราะจะรักษาระยะห่างกับเขา จึงเรียกเขาว่า ‘พี่ชาย’ ตามเฉินถิงเซียว

……

มู่น่อนน่อนเดินเข้าไปในมู่ซื่อ ในใจยังรู้สึกสงสัยอยู่

ทำไมซือเฉิงหยู้ถึงพูดจาแปลกๆกับหล่อนเช่นนั้น?

สายตาที่เขามองมาที่หล่อน เหมือนกำลังมองทะลุไปดูอีกคน

มู่น่อนน่อนคิดจนเหม่อลอย จนไม่ทันสังเกตว่าเพิ่งเดินผ่านมู่หวั่นขี

จนกระทั่งหล่อนพูดขึ้น จึงทำให้มู่น่อนน่อนดึงสติกลับมาได้

“มู่น่อนน่อน ภารกิจที่พ่อให้เธอทำ เป็นอย่างไรบ้างล่ะ?”

มู่หวั่นขีอยู่ตรงหน้าหล่อน ทำตัวสูงส่งหยิ่งผยองอยู่เสมอ เชิดคางขึ้นสูง คอยกดขี่ข่มเหงหล่อนตลอดเวลา

มู่น่อนน่อนคิดถึงคำพูดที่ซือเฉิงหยู้พูดเมื่อสักครู่ จึงหรี่ตาลงและมองไปอย่างลึกซึ้ง: “ไม่มีอะไร ถ้าเธอยอม เธอก็ไปขอร้องพ่อให้มอบภารกิจนี้ให้เธอเป็นคนทำแทนสิ”

เดิมทีนี่ถือเป็นเรื่องที่ไม่มีทางทำได้สำเร็จอยู่แล้ว แต่ยังถูกมู่ลี่เหยียนยัดเยียดให้มู่น่อนน่อนทำอีก

มู่หวั่นขีไม่โกรธเคืองเหมือนทุกครั้ง กลับลูบผมเล่น พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นมั่นใจ: “เหอะๆ อย่าคิดว่าเรื่องที่เธอทำไม่ได้ คนอื่นก็ทำไม่ได้”

มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าคำพูดนี้ช่างเหมาะสมกับมู่หวั่นขีเหลือเกิน

“อ๋อ งั้นขอให้เธอโชคดีนะ” มู่น่อนน่อนพูดด้วยน้ำเสียงไม่ตั้งใจ จากนั้นมู่หวั่นขีจึงโกรธขึ้นมาทันที

แต่ทว่า มู่น่อนน่อนไม่เปิดโอกาสให้มู่หวั่นขีได้โมโห ก้าวเท้าและเดินออกไปทันที

……

หลังจากที่มู่หวั่นขีรับหน้าที่พูดโน้มน้าวให้ซือเฉิงหยู้มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้มู่ซื่อ หล่อนก็ไม่มาปรากฏตัวที่บริษัทอีกเลย

มู่น่อนน่อนก็ไม่ได้สนใจอะไร

แต่เรื่องที่ซือเฉิงหยู้พูดกับหล่อนวันนั้น หล่อนยังคงรู้สึกสงสัยอยู่เหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้สนใจหรือคิดมากอะไร

หล่อนข้าใจดี และก็ไม่ได้รู้สึกว่าจากการที่ได้เจอและพูดคุยกับซือเฉิงหยู้เพียงไม่กี่ครั้ง จะทำให้เขารู้สึกชอบหรือเกิดความรู้สึกอะไรกับหล่อน

ในวงการบันเทิงมีดาราผู้หญิงสวยๆมากมาย คนที่ชื่นชอบซือเฉิงหยู้ก็มีมากมายจนนับไม่ถ้วน

มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าหากจะเปรียบตัวเองกับผู้หญิงพวกนั้น หล่อนคงเป็นผู้หญิงธรรมดามากที่สุดแล้ว

วันนี้ เมื่อมู่น่อนน่อนมาถึงบริษัท ก็ถูกมู่ลี่เหยียนเรียกไปที่ห้องทำงาน

สีหน้าของมู่ลี่เหยียนดูมีความสุขมาก: “น่อนน่อน ลูกมานี่สิ พ่อมีเรื่องจะคุยด้วย”

“พ่อมีเรื่องอะไรเหรอคะ?” มู่น่อนน่อนคาดเดาไม่ถูกว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้มู่ลี่เหยียนมีความสุขได้มากขนาดนี้

“เรื่องที่จะให้ซือเฉิงหยู้มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับบริษัทของพวกเรา พี่สาวของลูกไปพูดคุยมาแล้ว ช่วงนี้พี่สาวคงเหนื่อยแย่ ดังนั้นพ่อจึงตัดสินใจให้ลูกทำงานหลังจากนี้ต่อ”

สีหน้าของมู่ลี่เหยียน ดีใจจนเก็บไว้ไม่อยู่: “ลูกเป็นคนจัดการเรื่อง พ่อก็สบายใจ!”

มู่น่อนน่อนขมวดคิ้ว รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้: “ซือเฉิงหยู้ยอมตกลงเป็นพรีเซนเตอร์ให้สินค้าบริษัทของเราแล้วเหรอคะ?”

นอกจากเรื่องที่ซือเฉิงหยู้เป็นฝ่ายมาถามหล่อนว่าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ จากฐานะชื่อเสียงของซือเฉิงหยู้แล้ว ถ้าเขาจะช่วยเป็นพรีเซนเตอร์ให้มู่ซื่อจริงๆ ผู้จัดการกับบริษัทของเขาคงไม่มีทางยอมแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทที่เขาเซ็นสัญญาด้วยก็คือบริษัทสื่อบันเทิงของเสิ้งติ่ง

ซึ่งกู้จือหยั่นเป็นเจ้าของบริษัทสื่อบันเทิงเสิ้งติ่ง เขาไม่มีทางให้คนในช่วยซือเฉิงหยู้รับงานที่พรีเซนเตอร์ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของเขาเสียเช่นนี้แน่นอน

“ใช่ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลงานของพี่สาวลูก ลูกต้องคุยเจรจากับซือเฉิงหยู้ดีๆนะ”

“ทราบแล้วค่ะ” มู่น่อนน่อนเพียงแต่พยักหน้า ไม่พูดอะไรต่ออีก

……

เมื่อกลับถึงบ้าน มู่น่อนน่อนก็ไปหาเฉินถิงเซียวที่ห้องทำงานทันที

เขาต้องรู้เรื่องของซือเฉิงหยู้บ้าง

เฉินถิงเซียวก็เพิ่งกลับมาที่บ้าน ตอนที่มู่น่อนน่อนเปิดประตูเข้าไป เขาเพิ่งรับสายโทรศัพท์เสร็จพอดี

เมื่อหันมาเจอมู่น่อนน่อน เขาก็พูดขึ้นว่า: “กลับมาแล้วเหรอ”

“ฉันมีเรื่องอยากถามนาย” มู่น่อนน่อนเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา

เฉินถิงเซียวได้ยินเช่นนั้น จึงพยักหน้าลงเบาๆ บอกเป็นนัยให้มู่น่อนน่อนถามได้เลย

“นายรู้เรื่องที่ซือเฉิงหยู้รับงานเป็นพรีเซนเตอร์ให้สินค้าของมู่ซื่อไหม?” มู่น่อนน่อนไม่พูดอ้อมค้อม จึงถามไปตรงๆทันที

เฉินถิงเซียวตกตะลึงเล็กน้อย สีหน้าไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่: “ไม่รู้”

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมกู้จือหยั่นถึงให้ซือเฉิงหยู้ไปเป็นพรีเซนเตอร์ของมู่ซื่อได้? ถ้าเขารับงานพรีเซนเตอร์นี้จริงๆ ต้องกระทบกับโอกาสงานแสดงและกระแสสังคมแน่นอน!”

มู่น่อนน่อนรู้สึกสงสารและเสียดายคุณค่าของซือเฉิงหยู้ น้ำเสียงจึงเปลี่ยนเป็นร้อนใจขึ้นมาทันที

เฉินถิงเซียวมองหล่อนสักพัก จากนั้นหรี่ตาลงมอง: “นี่เธอเป็นแฟนคลับตัวยงของเขามากกว่าถึงได้เป็นห่วงเขามากขนาดนี้”

มู่น่อนน่อนขี้เกียจสนใจน้ำเสียงอันแปลกประหลาดของเขาอีกแล้ว จึงพูดขึ้น: “ใช่ ฉันเป็นแฟนคลับของเขา แต่เขาก็พี่ชายของนายนะ เรื่องนี้นายจะไม่สนใจเลยหรือไง?”

“เธอก็พูดเองว่าเขาเป็นพี่ชาย ฉันเป็นน้องชายจะไปยุ่งทำไม?” เฉินถิงเซียวพูดจบ ก็หันหลังไปนั่งที่โต๊ะทำงาน ทำท่าทางไม่สนใจอะไรหล่อนอีก

มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าเฉินถิงเซียวช่างเป็นคนแปลกประหลาดจริงๆ

ดูเหมือนเขาสนิทกับซือเฉิงหยู้มาก แต่เมื่อซือเฉิงหยู้เจอเรื่องเช่นนี้ เขากลับไม่สนใจอะไร

เฉินถิงเซียวก็เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายกับหล่อนเช่นกัน

ช่างเถอะ ความคิดอ่านของคุณชายเฉิน หล่อนไม่อยากไปคาดเดาอะไรอีกแล้ว แม้ว่าหล่อนจะอยากเดาแต่ก็เดาไม่ถูก

มู่น่อนน่อนรับผิดชอบงานพรีเซนเตอร์ของซือเฉิงหยู้ต่อ มู่ลี่เหยียนให้อำนาจหล่อนแล้ว ก่อนจัดการเรื่องพรีเซนเตอร์ให้สำเร็จ หล่อนจึงไม่จำเป็นต้องดูแลงานอื่นของบริษัท แค่คอยติดตามก็พอแล้ว

ตอนเช้า เมื่อมู่น่อนน่อนมาถึงบริษัท ทันทีที่ได้รับช่องทางการติดต่อของผู้จัดการซือเฉิงหยู้ ก็ออกไปทันที

มู่น่อนน่อนเคยเจอสวี่จูนหนึ่งครั้ง รู้สึกว่าหล่อนเป็นคนที่เคร่งขรึมมาก

หล่อนลองโทรหาสวี่จูน เสียงรอสายดังขึ้นไม่นานก็มีคนรับสาย

“สวัสดีค่ะฉันเป็นผู้จัดการส่วนตัวของซือเฉิงหยู้สวี่จูน”

มู่น่อนน่อนค่อยๆพูดขึ้น: “ฉันคือมู่น่อนน่อน”

“คุณมู่” เห็นได้ชัดว่าสวี่จูนยังจำหล่อนได้

มู่น่อนน่อนจึงพูดอย่างตรงไปตรงมา: “ฉันได้ยินมาว่า พวกคุณรับงานเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าให้มู่ซื่อแล้ว?”

“ถ้าเป็นเรื่องนี้ คุณมู่สามารถคุยกับซือเฉิงหยู้โดยตรงได้เลยค่ะ ตอนนี้ฉันอยู่ด้านนอก เดี๋ยวฉันส่งที่อยู่เขาให้คุณนะคะ คุณไปที่นั่นได้เลยค่ะ”

สวี่จูนไม่เปิดโอกาสให้มู่น่อนน่อนได้พูดอะไร เมื่อหล่อนพูดจบก็ตัดสายไปทันที

ไม่ถึงหนึ่งนาที หล่อนก็ส่งที่อยู่ของซือเฉิงหยู้มาให้มู่น่อนน่อน

ที่อยู่ที่หล่อนส่งให้มู่น่อนน่อนเป็นหมู่บ้านที่ร่ำรวยมากในเมืองหู้หยาง ที่นั่นมีดาราและคนชั้นสูงอาศัยอยู่มากมาย

ด้านหลังที่อยู่ยังแนบเบอร์โทรของซือเฉิงหยู้ไว้อีกด้วย เพื่อให้หล่อนไปถึงแล้วจะได้โทรหาซือเฉิงหยู้ได้ทันที

เพราะหมู่บ้านชั้นสูงเช่นนั้น คนธรรมดาทั่วไปไม่มีทางเข้าไปได้

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท