ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – บทที่ 353 กังวลใจ

บทที่ 353 กังวลใจ

เฉินถิงเซียวได้ยินดังนั้น กล่าวเพียงเบาๆ :“ใช่สิ พวกเขาต้องการเงินสดเพียงห้าสิบล้านเท่านั้น ปีนั้นพวกเขาอยากได้ตั้งหนึ่งร้อยล้าน”

เฉินชิงเฟิงที่หวาดกลัวมากเกินไป จึงพูดออกมาตะกุกตะกักไม่ชัดเจน :“ใช่ๆ……พวกเขาต้องการเงินสดเพียงห้าสิบล้านเท่านั้นเอง ลูกให้พวกเขาไปเถอะนะ……” 

เฉินถิงเซียวคือฟางเส้นสุดท้ายที่จะสามารถช่วยพวกเขาได้ เขาจึงได้แต่คว้าเฉินถิงเซียวเอาไว้แน่น

“อย่างนั้นทำไมตอนนั้นคุณถึงไม่ยอมออกหนึ่งร้อยล้านไปล่ะ” น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวน่ากลัวดุจกับอสูรที่คลานออกมาจากขุมนรก

“ถิงเซียว……ถิงเซียว ฉันเป็นพ่อของแกนะ แกช่วยพ่อหน่อยเถอะ……” ความคิดเดียวของเฉินชิงเฟิงในตอนนี้ก็คือการขอร้องเฉินถิงเซียว

“ตอนนั้นหากคุณนึกถึงและเห็นแก่การเป็นสามีภรรยาสักนิด แม่ของผมก็คงจะไม่มีจุดจบเช่นนั้น! เฉินชิงเฟิง นี่คือกรรมตามสนอง!”

คำพูดแต่ละคำของเฉินถิงเซียวล้วนเล็ดลอดมาจากช่องไรฟันของเขา เมื่อเขาพูดจบก็วางสายโทรศัพท์ดัง “ปัง”

ยามนี้เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว

คนรับใช้ต่างถูกไล่ออกไปหมด ในห้องโถงไม่มีการเปิดไฟ ทำให้ดูมืดสลัว

ห้องโถงที่ขนาดใหญ่ นอกจากเฉินถิงเซียวกับสือเย่ที่ยืนอยู่เงียบๆด้านหลังเขาแล้ว ก็มีเพียงเฉินจิ่งหยุ้นที่เป็นลมหมดสติไป

เฉินถิงเซียวอยู่ในท่าเดียว นั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับเขยื้อน ราวกับกำลังจะรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับความมืดที่กำลังคลานมาถึง

สักพัก สือเย่จึงเรียกขึ้นด้วยความเป็นห่วง :“คุณผู้ชายครับ”

ไม่รู้ว่ามู่น่อนน่อนได้เดินลงมาจากตึกตั้งแต่เมื่อไร

เธอก้าวเบาๆเดินเข้าไป สือเย่รีบปิดท่อนแขนที่โจรลักพาตัวนั้นส่งมา:“คุณหญิงน้อย”

มู่น่อนน่อนรับสั่ง:“ประคองคุณหนูเฉินกลับไปที่ห้อง ที่นี่มีฉันอยู่”

สือเย่จึงพาเฉินจิ่งหยุ้นกับท่อนแขนนั้นจากไป

มู่น่อนน่อนนั่งลงข้างๆเฉินถิงเซียว

ท้องฟ้ามืดค่ำลง ในห้องที่ไม่มีการเปิดไฟ เธอนั้นมองไม่เห็นใบหน้าของเฉินถิงเซียวแล้ว

มู่น่อนน่อนยื่นมือประคองใบหน้าของเขา แล้วหันใบหน้าของเขามา จากนั้นจ้องประสานหน้ากับเขา :“เฉินถิงเซียว”

เฉินถิงเซียวหันหน้ามา แล้วใช้แรงจับมู่น่อนน่อนเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด แต่ก็ไม่ลืมที่จะหลีกเลี่ยงรอยบาดแผลที่ยังไม่สมานบนไหล่ของเธอ

มู่น่อนน่อนเอื้อมมือมาตบที่ไหล่ของเฉินถิงเซียวเบาๆ เวลาเช่นนี้ คำปลอบโยนมากมายก็ไร้ประโยชน์

เธอสัมผัสถึงลมหายใจของเฉินถิงเซียวนั้นเต็มไปด้วยแรงกดดัน ที่กำลังรดแรงๆอยู่บนต้นคอของเธอ

“แม่ของผมเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนและงดงาม เธอแสนดีกว่าใคร ๆ” น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวแหบแห้งอย่างเจ็บปวดทรมาน

เบ้าตาอมู่น่อนน่อนเปียกซึมเล็กน้อย:“ฉันรู้”

เธอรู้ว่าแม่ของเฉินถิงเซียวเป็นผู้หญิงที่เก่งมาก เธอเป็นผู้หญิงจากครอบครัวนักวิชาการ คิดว่าได้แต่งงานกับชายคนที่ใช่ แต่สุดท้ายกลับต้องมาเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจแบบนั้น

ช่างไม่ยุติธรรมเลยจริง ๆ

คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่กลับต้องมารับความเจ็บปวดทรมานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

“ทำไมพวกเขาถึงลงมือได้ลง”

มู่น่อนน่อนมองไม่เห็นใบหน้าของเฉินถิงเซียว แต่กลับสามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่เจ็บปวดและหมดหนทางในคำพูดของเขา

หลายปีผ่านไป แม่ของเขาจิ่งชูเหมือนกับหนามที่ตำอยู่ในใจของเขา ที่ฝังลึกอยู่ข้างใน ที่แค่สะกิดก็จะเกิดความเจ็บปวด

ถึงแม้ตอนนั้น แม่ของเฉินถิงเซียวจะเสียชีวิตจากการถูกลักพาตัวจริง ๆ เฉินถิงเซียวก็คงจะไม่เจ็บปวดเช่นนี้

มู่น่อนน่อนไม่สามารถตอบคำถามของเฉินถิงเซียวได้

คำถามนี้ของเขานั้นไม่สามารถหาคำตอบได้

เธอไม่ใช่เฉินชิงเฟิง และก็ไม่ใช่เฉินเหลียน ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถคาดเดาได้เกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขาทำในตอนนั้น ว่าจิตใจกำลังคิดอะไรกันอยู่

แม้แต่เธอที่เป็นคนนอกของเรื่องราวยังรู้สึกยากที่จะยอมรับ เธอไม่อาจจินตนาการความเจ็บทรมานของเฉินถิงเซียวในตอนนี้ว่ามีมากมายเพียงใด

เธอโอบเฉินถิงเซียวไว้ กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น:“คุณยังมีฉัน ยังมีมู่มู่ พวกเราครอบครัวเดียวกันไม่นานก็จะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว ถ้าหากว่าคุณแม่ที่อยู่บนฟ้ารู้ว่าคุณมีชีวิตที่มีความสุข เธอจะต้องดีใจมากอย่างแน่นอน เธอรักคุณมาก”

ทันทีที่คำพูดเธอจบลง เธอก็สัมผัสถึงของเหลวอุ่นๆร่วงหล่นมาที่ลำคอของเธอ

มู่น่อนน่อนไม่กล้าที่จะขยับตัว และก็ไม่สามารถพูดต่อได้อีก

……

วันรุ่งขึ้น

มู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวออกเดินทางไปยังเกาะที่ซือเฉิงหยู้กล่าวถึง

เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ล้อมรอบด้วยน้ำทะเล ทิวทัศน์สวยงามสุดๆ ถ้าบินจากเมืองหู้หยางใช้เวลาบินหนึ่งคืนหนึ่งวันเต็ม

ก่อนเดินทาง มู่น่อนน่อนเห็นพาดหัวข่าวหน้าใหม่ว่า

“เฉินชิงเฟิงที่ถูกลักพาตัวได้ถูกค้นพบกลางดึกเมื่อคืน ได้ถูกนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน และพ้นขีดอันตรายแล้ว”

มู่น่อนน่อนอ่านข่าวดูคร่าวๆแล้วก็ปิดหน้าเว็บข่าวลง จากนั้นก็เก็บโทรศัพท์ เงยหน้าขึ้นมองเฉินถิงเซียวที่นั่งอยู่ตรงข้าม

เมื่อคืนเธอกับเฉินถิงเซียวนั่งอยู่ที่ห้องโถงอยู่นานสองนาน ต่อมาเธอก็หลับใหลไป ตื่นมาอีกทีก็อยู่บนเครื่องบินแล้ว

เฉินถิงเซียวยังคงเหมือนเดิมปกติ รูปร่างสูงยาวสวมชุดสูท ในมือถือกองเอกสารไว้ ใบหน้าที่ก้มลงดูเย็นชา ไม่เห็นความเศร้าหมองแต่อย่างใด

ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของผู้ชายคนนี้ช่างน่าทึ่งจนน่าตกใจ

“ดูเหมือนว่าผมจะน่าดึงดูดกว่าอาหารเช้าเลยนะ” เฉินถิงเซียววางกองเอกสารในมือลง เงยหน้าขึ้นมองเธอ : “คุณจ้องผมสองนาทีแล้ว อาหารเช้ายังไม่ได้ทานสักคำ”

มู่น่อนน่อนชะงัก ก้มหน้าหยิบซาลาเปาขึ้นมาทานคำหนึ่งแล้วกล่าว :“ไม่เคยรู้มาก่อนว่าคุณมีเครื่องบินส่วนตัว”

ครั้งนี้เครื่องบินที่พวกเขานั่งคือเครื่องบินส่วนตัวของเฉินถิงเซียว

เฉินถิงเซียวก้มหน้าลงแล้วดูเอกสารต่อ:“หากชอบกลับไปจะซื้อให้คุณหนึ่งลำ”

มู่น่อนน่อนทานซาลาเปาเข้าไปสองลูกแล้วไม่ขยับตัวอีก นั่งอยู่ข้างๆดูเอกสารพร้อมกับเขา

เฉินถิงเซียวดูเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับเกาะ รวมไปถึงการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของซือเฉิงหยู้ในครึ่งปีที่ผ่านมา

ซือเฉิงหยู้เขียนที่อยู่ให้กับเขา เขานอกจากจะส่งคนคอยเฝ้าติดตามซือเฉิงหยู้แล้ว ยังได้ส่งคนไปดูลาดเลาบนเกาะนั้นก่อน

แต่บนเกาะนั้นนอกจากมีบ้านไม่กี่หลังและคนรับใช้เพียงไม่กี่คนที่คอยเฝ้าบ้านแล้ว ก็ไม่เจอเฉินมู่

มู่น่อนน่อนยกมุมปากขึ้น กล่าวด้วยใบหน้าที่กังวล :“ซือเฉิงหยู้นั้นเจ้าเล่ห์มาก ฉันมักจะรู้สึกว่ามันไม่ได้ราบรื่นขนาดนั้น”

“เชื่อมั่นตัวผมไหม” เฉินถิงเซียววางเอกสารในมือลง เอื้อมมือมาดึงเธอเข้าไปในอ้อมกอด

มู่น่อนน่อนพยักหน้ารับ แล้วกล่าวออกมาทีละคำ:“ไม่ว่าจะเวลาไหน ฉันก็เชื่อมั่นในตัวคุณเสมอ”

เฉินถิงเซียวช่วยเธอปัดเส้นผมรอบใบหูของเธอ :“อย่างนั้นก็อย่าคิดมาก”

มู่น่อนน่อนพยักหน้า แล้วหันหน้ามองออกไปยังนอกหน้าต่าง แต่ความกังวลใจนั้นกลับไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด

เธอสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วลุกยืนขึ้น :“ฉันจะไปดูคุณหนูซูสักหน่อย”

เฉินถิงเซียวดูเหมือนจะรู้ว่าเธอกังวลใจ จึงไม่ได้พูดอะไร เพียงพยักหน้าแล้วปล่อยเธอไป

ตอนที่มู่น่อนน่อนเข้าไปนั้น ก็เห็นซูชิงหนิงนั่งอยู่ริมหน้าต่าง ท่าทางสงบงดงาม

มู่น่อนน่อนได้เรียกขึ้น :“คุณหนูซู”

ซูชิงหนิงหันหน้ามามองเธอ :“คุณหญิงน้อย”

“ขออภัยค่ะ ฉันไม่รู้ว่าชื่อเดิมของคุณคืออะไร” มู่น่อนน่อนคิดไม่ออกจริง ๆว่าผู้หญิงคนหนึ่งที่จะเต็มใจยอมเปลี่ยนแปลงโฉมเป็นผู้หญิงอีกคน นั้นต้องผ่านอะไรมาบ้าง

ซูชิงหนิงที่ใบหน้าเรียบเฉย:“ชื่อเดิมชื่ออะไรนั้นไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือคุณผู้ชายได้ช่วยฉันไว้ และการมีชีวิตของฉันบังเอิญสามารถช่วยพวกคุณตามหาตัวคุณหนูน้อย”

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ฉัน….เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

Status: Ongoing

แม่ของมู่นอนน่อนคุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ ขอให้เธอ แต่งงานแทนพี่สาวกับเฉินถึงเขียวผู้ชายที่ขี้เหร่และพิการที่ ชาวบ้านเล่าลือกัน ในคืนวันแต่งงาน ตอนที่เธอได้พบหน้า หล่อเหลาของชายคนนี้เธอตกใจมาก เฉินถึงเซียวพูดตรงๆ เลยว่าเธอน่าเกลียดมากๆ เดิมที่คิดว่าคงใช้ชีวิตต่างคนต่าง อยู่ แต่กลับถูกผู้ชายคนนี้กดอยู่ใต้รางกายอย่างรุนแรง”ไหน บอกว่าคุณทำไม่ได้ไง”ผู้หญิงตกใจ” ได้หรือไม่ได้ คำพูดของ เธอ ฉันไม่นับ! “บนหน้าของเฉินถึงเชียวแสดงออกถึงความ เจ้าเสน่ห์

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท