เฉินถิงเซียวรับอาหาร แล้วก็มองที่รายการ
แล้วก็พบว่าในใบรายการนั้นมีอาหารเด็กอยู่ชุดหนึ่ง
พนักงานส่งอาหารเห็นว่าเฉินถิงเซียวรับอาหารไปแล้ว หลังจากพูดคำว่า “ทานให้อร่อย” ก็กลับไปในทันที เขายังต้องไปส่งออเดอร์อื่นต่อ
เฉินถิงเซียวไม่ได้ปิดประตูในทันที แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองประตูห้องตรงข้ามที่ปิดสนิท
นอกจากผู้หญิงที่ชื่อมู่น่อนน่อน ไม่มีคนอื่นที่สามารถสั่งอาหารมาให้เขากับเฉินมู่ได้ในเวลานี้หรอก
เธอเป็นผู้หญิงที่เอาใจใส่และอ่อนโยนมาก
เฉินถิงเซียวยกริมฝีปากขึ้น รอยยิ้มล้นเอ่อในดวงตาของเขา
เขากับเฉินมู่กินข้าวกันตั้งนานแล้ว เขาหยิบกล่องอาหารขึ้นมาแล้วอยากจะโยนทิ้ง
แต่ว่าทันใดนั้นก็มีภาพใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของผู้หญิงคนนั้นปรากฏขึ้นมา เขาก็ยื่นมือไปเก็บมันกลับมา พร้อมกับเอาอาหารในมือไปแช่ไว้ในตู้เย็น
ก่อนที่จะนอน เขาก็ไปดูเฉินมู่อีกครั้ง ถึงจะกลับห้องของตัวเอง
……
“เฉินถิงเซียว นายกลับมาแล้ว”
มีเสียงตื่นเต้นของผู้หญิงดังขึ้นมาอย่างแผ่วเบา เฉินถิงเซียวเงยหน้าขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองยืนอยู่ในลานคฤหาสน์หลังหนึ่ง
คฤหาสน์นั้นล้อมรอบไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม เหมือนกับถูกสร้างอยู่บนไหล่เขา
ผู้หญิงที่พึ่งเรียกเขาเมื่อกี้นี้ ก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาอีกครั้ง “มองอะไร? รีบมากินข้าวสิ”
เขาเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นผู้หญิงร่างผอมบางกำลังเดินเข้ามาหาเขา
ผู้หญิงคนนั้นสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว ก้าวเดินอย่างแผ่วเบา ดูวัยรุ่นมาก
หญิงสาวคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเฉินถิงเซียวก็เห็นใบหน้าของเธออย่างชัดเจน
เฉินถิงเซียวเรียกเบาๆ “มู่น่อนน่อน?”
“ฉันทำผัดผักกับเนื้อตุ๋นไว้ให้……แต่ว่าช่วงนี้คุณงานยุ่งเกินไป ฉันก็เลยใส่พริกไม่เยอะ คุณต้องกินเบาๆ หน่อย……”
มู่น่อนน่อนเดินเข้ามาจับข้อมือของเขาเอาไว้ มองเขาด้วยรอยยิ้ม ทั้งสองดูสนิทกันมาก
จู่ๆ ภาพก็เปลี่ยนไป
เขาไม่อยู่ในลานบ้านอีก และมู่น่อนน่อนก็ไม่อยู่แล้ว
เขามองไปรอบๆ และพบว่ามันคืออยู่ในห้องนอน
มีเสียงน้ำในห้องน้ำดัง “จ๊อกๆๆ ”
แต่ไม่นานเสียงน้ำก็หยุดลง
มู่น่อนน่อนเดินออกมาพร้อมกับห่อผ้าขนหนู ใบหน้าที่ขาวซีดของเธอแดงเพราะน้ำร้อน และแม้แต่ไหล่และแขนที่เปลือยเปล่าก็ยังเปล่งประกายด้วยสีชมพูพีชอ่อนๆ
เหมือนกับว่าสัมผัสได้ถึงสายตาของเฉินถิงเซียว มู่น่อนน่อนก็ยื่นมือมาบังอย่างเขินอาย “ลืมเอาชุดนอนเข้าไปด้วย……”
เฉินถิงเซียวเดินเข้าไปหาเธออย่างไม่สามารถควบคุมได้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำและแหบพร่า “ไม่ต้องใส่แล้ว ยังไงอีกเดี๋ยวก็ต้องถอดอยู่ดี”
หลังจากนั้น ดูเหมือนว่าร่างกายของเขาจะมีจิตสำนึกของตัวเอง โยนมู่น่อนน่อนลงบนเตียงในทันที
ถึงแม้ว่ามู่น่อนน่อนจะเขินอาย แต่ว่าก็ไม่ได้ขัดขืน
เขาดึงผ้าเช็ดตัวของเธอออก แล้วก็คลุมเอาไว้
ผมยาวเหมือนน้ำตกกระจายอยู่บนหมอน ผิวของเธอบอบบางและขาว ดวงตาแมวคู่หนึ่งเปล่งประกายด้วยหยดน้ำ และเธอก็เรียกชื่อเขาเบาๆ
“ฉินถิงเซียว……ช้า……”
“ช้าไม่ไหวแล้ว……”
“เฉินชิงเซียว!”
เฉินถิงเซียวเบอกตาโพลงขึ้นมาในทันที แล้วก็เห็นเฉินมู่อยู่ตรงหัวของตัวเอง
เฉินมู่ก้มหน้ามองเฉินถิงเซียว “ตื่นได้แล้วค่ะ หนูหิวมากเลย”
พร้อมกับคำพูดของเธอ ท้องก็ร้องครวญครางสองครั้ง
เฉินถิงเซียวดึงเสื้อด้านหลังของเฉินมู่ แล้วก็ยกเธอไปไว้ด้านข้าง พร้อมกับลุกขึ้นนั่ง
ที่แท้ก็เป็นแค่ความฝัน
ครั้งก่อนตอนที่เขาส่งมู่น่อนน่อนกลับไปนั้น ก็รู้สึกว่าเขาคิดว่ามู่น่อนน่อนน่าสนใจ
ความฝันนี้ ทำให้เขาเข้าใจว่า เขารู้สึกยังไงกับมู่น่อนน่อนกันแน่
นี่คือสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“พ่อ”
เฉินถิงเซียวรู้สึกได้ว่ามีคนดึงผ้าห่มของเขาอยู่
พอก้มหน้าไปดู ก็พบว่าเฉินมู่กำลังจะเปิดผ้าห่มของเขาออก
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที เขายื่นมือไปจับผ้าห่มเอาไว้ แล้วก็ยกเฉินมู่ลงจากเตียงพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ตอนนี้ หนูเดินออกไปรอพ่อข้างนอกก่อน”
เฉินมู่:“อ้อ”
พอเธอออกไป เฉินถิงเซียวก็ล็อกประตู แล้วก็เข้าไปในห้องน้ำ
……
กว่าเฉินถิงเซียวจะจัดแจงตัวเองเสร็จและออกมานั้น ก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว
เฉินมู่ผมเผ้ายุ่งเหยิง นั่งพึมพำกับของเล่นอยู่ที่หน้าประตูห้องเขา
เฉินถิงเซียวพาเธอไปล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้า ตอนที่หวีผมให้เธออยู่นั้น ก็เกิดปัญหาขึ้นนิดหน่อย
เขาจ้องไปที่ผมที่สลวยของเฉินมู่อยู่หลายวินาที แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ผมคลุมไหล่ได้สวยงามมาก”
เฉินมู่พูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น “อยากมัดผมเปีย”
เฉินถิงเซียวพูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “ผมเปียไม่สวย”
เฉินมู่หันกลับไปมองเขา บิดนิ้วพร้อมกับทำท่าทางเหมือนกับว่า “หนูมองออก” พร้อมกับพูดเสียงดังว่า “พ่อถักเปียไม่เป็น!”
เฉินถิงเซียว:“……”
กิ๊ง——
“ไปเปิดประตูก่อนนะ”เฉินถิงเซียวลุกขึ้นไปเปิดประตู
คนที่มานั้นก็คือสือเย่ แถมยังเอาอาหารเช้ามาด้วย
“คุณลุงสือเย่” เฉินมู่เห็นอาหารเช้าดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาในทันที เธอรีบวิ่งเข้าไปกอดขาของสือเย่
สือเย่ยิ้ม “สวัสดีตอนเช้ามู่มู่”
หลังจากที่เขาเอาอาหารมาให้ทั้งสองคนแล้ว จู่ๆ เฉินถิงเซียวก็พูดขึ้นมาว่า “ไปสืบเกี่ยวกับเรื่องมู่น่อนน่อนมาหน่อย”
เฉินมู่มีความรู้สึกต่อสามคำที่ว่า “มู่น่อนน่อน” พอได้ยินก็เงยหน้าขึ้นมา “หืม? ”
เฉินถิงเซียวไม่พูดอะไร แล้วก็ป้อนนมให้เธอดื่ม
ความสนใจของเด็กน้อยสามารถเบี่ยงเบนได้อย่างง่ายดายมาก
……
หลังจากเฉินถิงเซียวย้ายมาอยู่ที่นี่นั้น ก็ไม่ได้จ้างคนรับใช้ ก็เลยต้องพาเฉินมู่ไปบริษัทด้วย
ตอนที่ออกจากบ้านนั้น เขาก็ได้เจอมู่น่อนน่อนที่พึ่งกลับมาจากการไปซื้ออาหารมา
เฉินมู่ใบหน้าดูตื่นเต้น “คุณน้ามู่”
“สวัสดีตอนเช้าจ้ะมู่มู่”
มู่น่อนน่อนยิ้มให้เฉินมู่ แล้วก็หันหน้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็เห็นว่าเฉินถิงเซียวกำลังมองเธออยู่อย่างไม่กะพริบตา
มู่น่อนน่อนใบหน้าดูตกใจ แล้วก็พยักหน้าให้เฉินถิงเซียว พร้อมกับเอ่ยปากเรียก “คุณเฉิน”
“อืม”เฉินถิงเซียวตอบรับอย่างเย็นชา แล้วก็พาเฉินมู่เข้าลิฟต์ไป
หลังจากที่พวกเขาไปแล้ว มู่น่อนน่อนก็ส่ายหน้า เฉินถิงเซียวช่างเป็นคนที่เข้าใจยากจริงๆ
เมื่อคืนเธอสั่งอาหารให้กับพวกเขา เฉินถิงเซียวน่าจะเอาให้เฉินมู่กินแล้วสินะ
มู่น่อนน่อนรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองจะให้ความสนใจกับสองพ่อลูกนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะชอบเฉินมู่มาก……
ช่างเถอะ ไม่อยากคิดเยอะแล้ว
หลังจากมู่น่อนน่อนถึงบ้าน ก็ได้รับสายจากเสิ่นเหลียง
“น่อนน่อน ฉันมีเรื่องสำคัญอยากจะพูดกับเธอ”น้ำเสียงของเสิ่นเหลียงดูจริงจังมาก
“เมื่อไหร่ ที่ไหน? ”หลังจากสัมผัสประสบการณ์ครั้งก่อนในห้างแล้ว มู่น่อนน่อนก็ระมัดระวังตัวมาก
หลังจากที่เธอออกจากโรงพยาบาล เธอก็ไม่ดูหนังหรือว่าละครเลย ดังนั้นก็เลยไม่รู้ว่าเสิ่นเหลียงเป็นศิลปิน
เสิ่นเหลียงพูด “เดี๋ยวฉันไปรับ”
เสิ่นเหลียงวางสาย แล้วก็ขับรถไปหามู่น่อนน่อน
เธอคิดอยู่ทั้งคืน ก็รู้สึกว่าควรจะเล่าเรื่องในอดีตให้มู่น่อนน่อนฟัง
มู่น่อนน่อนมีสิทธิที่จะต้องรู้ ว่าเธอมีลูกสาว
ลี่จิ่วเชียนคนนั้นไม่รู้ว่าเขามีแผนการอะไรอยู่ แต่รู้สึกว่ามันต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน