ยอดหญิงแห่งวังหลัง – ตอนที่ 12.2

ตอนที่ 12.2

ตอนที่ 12-2 ชาชั้นยอด

เมื่อปะชุนเรียบร้อยแล้ว จึงสวมใส่เสื้อคลุมกลับเข้าไปตามเดิม หากมองจากภายนอกแล้วมันดูเหมือนว่า มิมีสิ่งใดที่ผิดปกติแม้แต่น้อย

เว่ยหยางลุกขึ้นยืน และกล่าวออกมาว่า

“นี่ก็ครบหนึ่งเดือน น้องห้าคงจะถูกปล่อยตัวแล้ว บางทีอาจจะได้พบกับนางที่ตำหนักท่านย่าใหญ่”

จื่อหยานมองไปยังเว่ยหยางด้วยสีหน้าแสดงอาการงงงัน

“ไปหาน้องห้ากันเถิด”

รอยยิ้มบนใบหน้าของเว่ยหยางสดใสขึ้นมาในทันใด นอกจากนี้ยังมีสายตาที่กลับกลอกเผยออกมาให้เห็น

เมื่อก้าวออกมาจากห้อง หลี่เว่ยหยาง ใบหน้านั้นได้ก็ฉาบไปด้วยสีหน้าสดใสและร่าเริง

ท้ายที่สุดแล้ว มิมีผู้ใดชอบที่จะเห็นการแสดงความโศกเศร้า ซึ่งนั่นรวมถึงท่านย่าใหญ่ด้วย!

ตำหนักเหอเซียงหยวนช่างดูมีชีวิตชีวายิ่งนัก มันเต็มไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของดอกไม้นานาพันธุ์

ฮูหยินใหญ่กำลังนั่งอยู่ด้านข้าง ท่านย่า และพวกเขากำลังหารือเกี่ยวกับแผนการสำหรับการจัดงานวันขึ้นปีใหม่

หลี่จางเล่ออยู่ในชุดสีขาวราวกับหิมะ ที่ทำจากหนังสุนัขจิ้งจอกที่มีลวดลายของเมฆ และดอกบีโกเนียสีแดง

หากจะกล่าวถึงเรื่องรูปร่างหน้าตาแล้ว นางดูหน้าตาดีกว่ามากเมื่อเทียบกับคุณหนูท่านอื่น ๆ

ชุดอันงดงามที่สวมใส่ เป็นส่วนเสริมที่สมบูรณ์แบบสำหรับความงามของนางด้วยเช่นกัน

แม้ว่าจะนั่งนิ่งโดยมิได้ทำอันใดเลย แต่นางก็ยังคงมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก สาวใช้ทั้งหมดที่อยู่ในห้องมิมีผู้ใดสามารถเทียบกับนางได้เลย

ในขณะนี้นางมีรอยยิ้มที่ละเอียดอ่อน ขณะฟังคำกล่าวของท่านแม่ ดูช่างสง่างามและมีความอ่อนน้อมยิ่งนัก

ในทางกลับกัน หลี่ฉางซีวันนี้สวมเสื้อคลุมที่ทำจากหนังหนูที่มีลวดลายของดอกกุหลาบสีแดงสด

บนศีรษะนั้น ประดับด้วยปิ่นทับทิม และใส่ต่างหูคู่หนึ่งที่ห้อยลงมาจากติ่งหูของนาง

รอยยิ้มที่ดูเป็นธรรมชาติและเรียบง่าย ซ่อนภาพลักษณ์ที่เฉื่อยชาและเหนื่อยล้าจากการถูกกักขังเอาไว้ในห้องตลอดทั้งเดือน

เห็นได้ชัดว่า นางทำตัวดีขึ้น หลังจากการถูกทำโทษครั้งนี้

และใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในจะประจบและเอาใจท่านย่า

บางครั้งได้กล่าวขึ้นเพื่อเล่าเรื่องราวที่เบาใจ แม้ว่าจะพยายามอย่างเต็มที่ แต่ท่านย่าก็ยังคงสงบนิ่งอยู่เช่นเดิม

คุณหนูสี่, หลี่ฉางเซี่ยวยังคงนั่งนิ่งเงียบ และสงบเสงี่ยมเหมือนเช่นเคย

ตอนนี้นางทำเพียงแค่เงยหน้าขึ้น และจ้องมองไปยังคุณหนูรอง, หลี่ฉางหลู ผู้ซึ่งเป็นบุตรสาวของสะใภ้คนรอง

ทุกครั้งที่มองไป นางสังเกตเห็นว่า หลี่ฉางหลูจ้องมองไปยังหลี่จางเล่อด้วยความขุ่นเคือง และอิจฉาริษยาพี่ใหญ่ของตน

ทุกคนในห้องนี้ดูราวกับว่า พวกนางใช้ชีวิตอย่างปรองดองกัน แต่ความจริงแล้ว พวกนางทั้งหมดต่างก็มีแรงจูงใจที่แตกต่างกันซ่อนอยู่

คนรับใช้หลูซินยกถาดเข้ามาและวางถ้วยน้ำชาไว้ด้านข้างของทุกคน

ท่านย่าเมิงชิหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบ และมีอาการสะดุ้งเล็กน้อย

“โอ้? รสชาติของชานี้ดีมาก”

เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่จางเล่อจึงหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบบ้าง จากนั้นนางจึงกล่าวชมว่า

“อืม สีของน้ำชางดงามมาก รสชาติติดทนนานด้วย เป็นชาชั้นเยี่ยมอย่างแน่นอน”

จากนั้นจึงมองไปยังหลูซินและกล่าวว่า

“มิเคยคิดเลยว่า ตำหนักของท่านย่าจะมีผู้ที่มีความสามารถรอบด้านเช่นนี้

ข้ามิเคยได้ชิมชาที่มีรสชาติดีถึงเพียงนี้มาก่อนเลย!”

ทักษะการชงชาในสมัยนั้นถือว่าหรูหรา และมีระดับสูง

มันมิได้รับความนิยมเพียงแค่ในหมู่เชื้อพระวงศ์ และชนชั้นสูงเท่านั้น แต่มันเป็นที่นิยมในหมู่สามัญชนด้วยเช่นกัน

มิต้องกล่าวถึงคุณหนูใหญ่ หลี่จางเล่อ นางเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านชา

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้รับการอบรมจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านชาเป็นพิเศษ

การได้รับคำชมเชยเช่นนี้ ต้องหมายถึงบุคคลผู้นั้นต้องมีทักษะการชงชาที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ

ทุกคนในห้องเริ่มชิมชา และชมเชยมัน

รอยยิ้มฉาบไปทั่วใบหน้าของเมิงชิ

“หลูซิน ทักษะการชงชาของเจ้าก้าวหน้าขึ้นเป็นอย่างมาก สิ่งนี้สมควรได้รับรางวัล”

หลูซินก้มศีรษะลงเล็กน้อย

“นายหญิง ชานี้มิได้ถูกชงโดยข้าแต่เป็นคุณหนูสามต่างหากที่เป็นผู้ชงมัน”

ทุกคนในห้องต่างอยู่ในอาการตกตะลึง และมีการแสดงออกที่ซับซ้อนบนใบหน้าของฮูหยินใหญ่

ในดวงตาของท่านย่าใหญ่มีรอยยิ้มปรากฎขึ้น

“โอ้! เว่ยหยางหรอกหรือ เรียกให้นางเข้ามานี่”

เว่ยหยางใช้ความสามารถเพียงเล็กน้อย เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้อาวุโสหลี่

แต่หลี่เว่ยหยางได้รับคำกล่าวชมจากนางอย่างท่วมท้น

หลี่ฉางซีจ้องมองไปยังหลี่เว่ยหยางที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง ในใจนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น และความมิพอใจในทันที

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

Status: Ongoing

ชีวิตเป็นสิ่งที่มิคาดเดาได้เลย สามีของนางได้ตกหลุมรักพี่สาวของนางเอง

จึงปลดหลี่เว่ยหยางออกจากการเป็นจักรพรรดินี และเขาเป็นต้นเหตุให้บุตรชายต้องตาย

ในวังเย็นแห่งนั้น หลี่เว่ยหยางถูกบังคับให้ดื่มเหล้าพิษ

จึงให้สาบานกับตนเองเอาไว้ว่า หากชาติหน้ามีจริง จะมิทำความดีอีก จะมิช่วยเหลือผู้อื่น จะมิก้าวเข้าไปในวังหลวง และจะมิมีวันเป็นจักรพรรดินี!

และในวันนั้น ที่บ้านพักขุนนางระดับสูง นายหญิงได้ให้กำเนิดบุตรสาว แต่ทว่า เด็กผู้นั้นเกิดมาเป็น’นางมารร้าย’ นังแม่เลี้ยงใจร้าย?

ข้าจะส่งเจ้าไปนรก! นังพี่สาวสับปรับ หน้าซื่อใจคด? ข้าจะแยกลอกหนังหน้าอันงดงามของเจ้าออก!

ส่วนน้องสาวที่คิดชั่วต่อข้า? ข้าจะโยนเจ้าลงหลุมฝังศพ!

พวกเจ้ามิเคยปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นสมควรแล้ว ที่จะมีชะตากรรมเช่นนี้!

ในตอนแรก นางตั้งใจที่จะอยู่ให้ห่างจากหายนะให้มากที่สุด แม้กระนั้นหัวใจของมนุษย์ก็เหมือนเข็มในทะเล

มิอาจรู้ว่าเหตุใด และมิสามารถเข้าใจได้ ผู้ที่เคยสาบานว่าจะมิเหลียวแลเว่ยหยาง

กลับกลายเป็นผู้ที่ขาดนางมิได้ จากผู้ที่ฆ่านางในชาติที่แล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท