ยอดหญิงแห่งวังหลัง – ตอนที่ 42.1

ตอนที่ 42.1

ตอนที่ 42-1 ปร้กปรำ

เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นจึงเกิดความรู้สึกตกใจและหวาดผวาเป็นอย่างมาก

จากนั้นฮูหยินใหญ่จึงกล่าวขึ้นว่า:

“จะเป็นโสมพิษไปได้อย่างใด?

นี่มันโสมแดงที่ท่านย่ากินเป็นประจำ!

จางเล่อเจ้าเป็นเพียงเด็ก อย่ากล่าวโดยมิคิด!”

หลี่จางเล่อกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยวราวกับตอกตะปูลงไปบนพื้นว่า:

“โสมแดงในบ้านของเรามีมากมาย ข้าจะมิรู้จักได้อย่างไร เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้มิใช่โสมแดง!”

สายตาของทุกคนจึงจับจ้องไปที่มือของนาง

แต่จากช่วงเวลาที่โสมแดงถูกเติมลงไปในน้ำชา จนถึงตอนที่มันตกลงบนพื้น จะรู้ได้อย่างไรว่าตอน?

กระนั้นหลี่จางเล่อยังคงยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเป็นเช่นนั้น

หลี่เว่ยหยางมองไปยังพี่สาวอย่างเย็นชา โดยที่นางมิได้กล่าวอันใดสักคำ

ขณะนี้หลี่หมินเฟิงกำลังยืนอยู่ด้วยสีหน้าที่เย็นชาราวกับน้ำแข็ง:

“หลูซิน เหตุใดเจ้ายังมีคุกเข่าลงอีก!”

ด้วยความตกตะลึงสาวใช้ที่ชื่อหลูชินจึงคุกเข่าลงด้วยความรวดเร็วโดยสัญชาตญาณ

และท่าทีของหลี่หมิงเฟิงได้เกรี้ยวกราดมากขึ้น ขณะที่กล่าวว่า:

“หลูซิน, ท่านย่าไว้วางใจเจ้ามากที่สุด จึงมอบให้เจ้าดูแลเกี่ยวกับเรื่องน้ำชาและเครื่องดื่ม

แต่เจ้ากล้ามาก ที่แอบใส่อย่างอื่นแทนที่โสมแดง!”

หลูซินมิทราบว่าจะโต้ตอบอย่างไรดี ขณะที่ใบหน้าของนางซีดเผือด:

“คุณชายใหญ่, บ่าวมิได้ทำเช่นนั้นเลย!

บ่าวจะกล้ายักยอกของมีค่าของผู้อาวุโสได้อย่างไร?

แม้ว่าบ่าวจะกล้าสักเพียงใด ก็คงมิกล้าทำเช่นนี้!”

เมื่อฮูหยินใหญ่เห็นสถานการณ์แล้ว จึงสามารถเข้าใจทุกอย่างได้อย่างชัดเจน

จากนั้นมุมริมฝีปากของนางจึงโค้งเป็นรอยยิ้มที่ละเอียดอ่อน โดยมิสามารถสังเกตได้โดยง่าย:

“เฟิงเอ๋อ! หลูซินรับใช้ท่านย่ามาหลายปีแล้ว ข้าคิดว่าหลูซินคงมิกล้าทำเช่นนี้

จะเป็นการดีที่สุด หากมีการตรวจสอบเรื่องนี้เพิ่มเติม เพื่อดูว่ามีผู้ใดก้าวเข้ามาในห้องชงชาบ้าง”

เมื่อได้ยินดังนั้นหลูซินจึงผงะเล็กน้อย แล้วเงยหน้าขึ้น แต่มิกล้าที่จะมองไปยังทิศทางของหลี่เว่ยหยาง

นอกเหนือจากคุณหนูสามแล้ว มิมีผู้ใดสามารถสัมผัสกับชาของผู้อาวุโสหลี่ได้อีก!

แต่สถานการณ์ในตอนนี้…

จากนั้นหลี่เว่ยหยางจึงยิ้มเบา ๆ :

“ท่านแม่คงมิจำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติม

นอกเหนือจากหลูซินที่ข้องเกี่ยวกับชาและเครื่องดื่มแล้ว มิมีผู้ใดสามารถสัมผัสกับชาของท่านย่าได้อีกนอกจากตัวข้าเอง”

การแสดงออกของทุกคนเปลี่ยนไปและในพริบตา พวกเขาทำท่าที ราวกับว่าตนเองนั้นล่วงรู้ความจริง

ฮูหยินใหญ่กล่าวว่า:

“จะเป็นไปได้อย่างไร?

จางเล่อ เมื่อครู่เจ้ากล่าวว่าสิ่งนี้คือโสมพิษ มิใช่โสมแดงเช่นนั้นหรือ?”

หลี่จางเล่อจึงยืนยันว่า:

“ข้ายืนยันได้ว่า สิ่งที่อยู่ในถ้วยชานี้มิใช่โสมแดง แต่เป็นโสมพิษซึ่งมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน”

และหลี่ฉางซีได้เอ่ยถามอย่างสงสัย:

“โสมพิษคืออันใด?”

หลี่หมินเฟิงอธิบายอย่างตั้งใจว่า:

“มูลค่าของโสมพิษเทียบมิได้เลยกับโสมแดงที่มีคุณค่ามากมายมหาศาล!”

หลี่ฉางซีเผยสีหน้าตกใจ

“ออ! มันเป็นเช่นนี้นี่เอง!

พี่สามแอบขโมยและแทนที่โสมแดงของท่านย่า?!

ไอ้หย่า! พี่สาม ท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร?”

หลี่เว่ยหยางมองนางด้วยสายตาที่เรียบเฉย:

“น้องห้า ตอนนี้ทุกอย่างยังมิได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด กรุณาอย่ากล่าวหาข้า!”

“พี่สาม ข้ากล่าวผิดตรงไหน?

ท่านมิเห็นหลักฐานตรงหน้าหรือ?

เมื่อสิ่งนี้ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ทุกคนจะกล่าวว่า พวกเราพี่น้องขัดแย้งกันเอง!”

ปากของหลี่ฉางซียื่นออกมาเพราะอาการบวมอย่างรุนแรง เนื่องจากบาดแผลเมื่อคราวที่แล้ว

อีกทั้งร่องรอยแผลเป็นบนใบหน้าของนางยังถูกปกคลุมด้วยชั้นแป้งหนา และเห็นได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อมีแสงแดดส่องกระทบเข้ามา

ในตอนนี้เว่ยหยางได้หันไปเผชิญหน้ากับทุกคน และส่งเสียงอันดังออกมา:

“ท่านย่า ท่านแม่ ข้ามิเคยมีเจตนาร้าย

และคำกล่าวเพียงแค่สองสามคำ พวกท่านจะปรักปรำผู้บริสุทธิ์ได้อย่างไรกัน!

คราวนี้ข้าคงจะต้องเผชิญกับความ

อยุติธรรมครั้งใหญ่ …!”

ขณะนี้การจ้องมองของหลี่หมินเฟิงนั้นช่างเยือกเย็น

“หากเจ้าบริสุทธิ์ใจ ก็จงอธิบายเรื่องโสมแดงมา!”

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

ยอดหญิงแห่งวังหลัง

Status: Ongoing

ชีวิตเป็นสิ่งที่มิคาดเดาได้เลย สามีของนางได้ตกหลุมรักพี่สาวของนางเอง

จึงปลดหลี่เว่ยหยางออกจากการเป็นจักรพรรดินี และเขาเป็นต้นเหตุให้บุตรชายต้องตาย

ในวังเย็นแห่งนั้น หลี่เว่ยหยางถูกบังคับให้ดื่มเหล้าพิษ

จึงให้สาบานกับตนเองเอาไว้ว่า หากชาติหน้ามีจริง จะมิทำความดีอีก จะมิช่วยเหลือผู้อื่น จะมิก้าวเข้าไปในวังหลวง และจะมิมีวันเป็นจักรพรรดินี!

และในวันนั้น ที่บ้านพักขุนนางระดับสูง นายหญิงได้ให้กำเนิดบุตรสาว แต่ทว่า เด็กผู้นั้นเกิดมาเป็น’นางมารร้าย’ นังแม่เลี้ยงใจร้าย?

ข้าจะส่งเจ้าไปนรก! นังพี่สาวสับปรับ หน้าซื่อใจคด? ข้าจะแยกลอกหนังหน้าอันงดงามของเจ้าออก!

ส่วนน้องสาวที่คิดชั่วต่อข้า? ข้าจะโยนเจ้าลงหลุมฝังศพ!

พวกเจ้ามิเคยปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบสุข ดังนั้นสมควรแล้ว ที่จะมีชะตากรรมเช่นนี้!

ในตอนแรก นางตั้งใจที่จะอยู่ให้ห่างจากหายนะให้มากที่สุด แม้กระนั้นหัวใจของมนุษย์ก็เหมือนเข็มในทะเล

มิอาจรู้ว่าเหตุใด และมิสามารถเข้าใจได้ ผู้ที่เคยสาบานว่าจะมิเหลียวแลเว่ยหยาง

กลับกลายเป็นผู้ที่ขาดนางมิได้ จากผู้ที่ฆ่านางในชาติที่แล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท