บทที่ 176 เล่ห์เหลี่ยม 4 (1)
คาร์ลเป็นคนแรกของกลุ่มที่เริ่มปรบมือ
แปะ!แปะ!แปะ!แปะ!
เหล่าฝูงชนขนาดใหญ่ต่างพากันส่งเสียงเชียร์และปรบมือดังลั่นให้กับหัวหน้านักบวชที่กำลังเทน้ำลงบนแท่นบูชา
“ปล่อยให้ความเศร้าโศกหายไปในทันที..ที่หยดวารีไหลลงสู่พสุธา!”
“ปล่อยให้ความเศร้าโศกหายไปในทันที..ที่หยดวารีไหลลงสู่พสุธา!”
หัวหน้านักบวชตะโกนก้องก่อนที่ฝูงชนจะตะโกนด้วยประโยคเดียวกัน
เหล่าฝูงชนพากันกระทืบเท้าและส่งเสียงโห่ร้องให้สะเทือนไปถึงก้นทะเลสาบ
คาร์ลคิดว่าบรรยากาศโดยรอบดูอึมครึมเพราะเป็นการประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าในความอึมครึมยังคงมีความสดใสของเหล่าชาวเมืองที่มีความหวังว่าทะเลสาบแห่งนี้จะมีน้ำกลับมาเติมเต็มอีกครั้ง
คาร์ลอาศัยจังหวะที่บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยเสียงรบกวนเอ่ยถามฮงซึ่งอยู่ในอ้อมแขนตนขึ้นมา
“พวกนั้นอยู่แถวนี้หรือเปล่า?”
เมี้ยววววว!!
‘ฮง’ลูกแมวน้อยขนสีแดงยังคงมีลำตัวขนาดเล็กแม้ว่ามันจะมีอายุเทียบเท่ากับมนุษย์ในวัยแปดปีแล้วก็ตาม มันส่งเสียงร้องเบาๆเพื่อเอ่ยตอบคาร์ล เมื่อได้ยินคำตอบจากฮงคาร์ลก็เริ่มประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทันที
อาร์มยังคงพำนักอยู่ในคฤหาสน์ดยุกแม้จะส่งมอบของให้กันเสร็จแล้วก็ตาม
‘หรือว่าเราจะได้ไปพบกับพวกมันที่คฤหาสน์ดยุกเซคก้า?’
คาร์ลคิดถึงความน่าจะเป็นที่พวกเขาจะได้พบกับสมาชิกกลุ่มใหม่ของอาร์มเมื่อเริ่มปลีกตัวออกจากฝูงชนกลุ่มใหญ่ที่ยังคงส่งเสียงดังอย่างต่อเนื่อง
เขาได้แยกตัวออกจากโรสลินและวาฬทั้งสอง ในตอนนี้มีเพียงเชวฮันและลูกแมวทั้งสองที่อยู่ข้างๆเขา มันคงไม่ใช่เรื่องดีหากพวกเขาบังเอิญไปพบกับโคลเปย์หรือมีคนจดจำพวกเขาได้
“พระเจ้าจะต้องมีความสุขเมื่อได้เห็นความหวังและศรัทธาอันแรงกล้าของพวกเรา!”
เฮ!!!ฮ!!!ฮ!!! วู้!วู้!วู้!วู้!วู้!วู้! เฮ!!!ฮ!!!ฮ!!!
คาร์ลกวาดสายตาไปมองเหล่าชาวเมืองที่พากันส่งเสียงเชียร์ดังลั่นพลางหยิบต๊อกโบกี[1]ที่เชวฮันยื่นส่งให้เข้าปากทันที
‘น่าสนใจจริงๆ’
คาร์ลคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าสนใจที่ได้เห็นชาวอาณาจักรพารันซึ่งถือเป็นอาณาจักรที่ไม่มีคริสตจักรประจำชาติและยังมีลัทธิต่างๆตามความเชื่ออยู่ภายในอาณาจักรอย่างหลากหลาย แต่ในวันนี้พวกเขาต่างพากันส่งเสียงเชียร์และเลื่อมใสในพระเจ้าองค์เดียวกัน
บางทีพวกเขาอาจไม่ได้รู้สึกชื่นชมในตัวพระเจ้าผู้เป็นเจ้าของตำนานแต่เป็นเพราะกำลังเพลิดเพลินไปกับงานเทศกาลที่ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ได้ต่างหาก
‘และมันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันเช่นกัน’
แม้ว่าปากจะยังคงเคี้ยวต๊อกโบกีแต่สายตาของคาร์ลก็ไม่พลาดที่จะมองไปยังแท่นพิธี
เขาไม่เห็นอัศวินผู้พิทักษ์โคลเปย์อย่างที่คาดเอาไว้ เขาเห็นเพียงผู้นำตระกูลเซคก้าคนปัจจุบันเท่านั้น คนผู้นี้คือดยุกเซคก้าผู้เป็นบิดาของโคลเปย์
‘คนส่วนใหญ่ต่างคิดว่าดยุกผู้นี้คืออัศวินผู้พิทักษ์’
นั่นคือสิ่งที่รู้กันทั่วอาณาจักร
มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าโคลเปย์คืออัศวินผู้พิทักษ์ตัวจริง
คนที่รู้ความจริงในข้อนี้สามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม
โดยกลุ่มแรกคือคนที่ทำงานให้กับโคลเปย์พวกเขาคือกลุ่มคนที่เตรียมตัวประกาศสงครามกับอาณาจักรทางตอนใต้ กลุ่มที่สองคือกลุ่มของคาร์ล
“เฮ้อ….”
คาร์ลเริ่มหงุดหงิดโดยไม่มีเหตุผลก่อนจะยกมือข้างที่ว่างลูบขนฮงเล่นเบาๆในขณะที่ต๊อกโบกีคำสุดท้ายก็กลืนลงคอเป็นที่เรียบร้อย
ทันใดนั้นเสียงเศร้าๆก็ดังเข้ามาในหัวของคาร์ล
~ม…มนุษย์? ~
มันคือเสียงของราอน
~ในกระปุกออมสินของข้ามีเงินอยู่เยอะเลยนะ! เจ้าช่วยเอามันไปซื้อต๊อกโบกีให้ข้าได้หรือเปล่า?~
คาร์ลก้มศีรษะของตนลงก็เห็นว่าฮงกำลังน้ำลายไหลเช่นกัน ออนที่อยู่ในอ้อมแขนของเชวฮันก็จ้องมาที่เขาตาไม่กระพริบ
เขารู้ถึงสิ่งที่เด็กๆทั้งสามสื่อมาให้และเอ่ยขึ้นทันที
“เดี๋ยวข้าจะซื้อให้ในภายหลัง”
จากนั้นก็พูดอีกประโยคอย่างรวดเร็ว
“ด้วยเงินของข้าเอง”
ใบหูของออนและฮงตั้งขึ้นทันที ในขณะราอนก็ส่งเสียงเข้ามาในหัวของเขาอีกครั้ง
~มนุษย์ของเราช่างเป็นคนดีจริงๆ ~
‘แน่นอนอยู่แล้ว’
คาร์ลพยักหน้าให้กับคำชมของราอน อีกไม่กี่วันต่อจากนี้เขากำลังวางแผนที่จะให้พวกมันกินและเที่ยวเล่นอย่างเต็มที่ ก่อนที่พวกมันจะต้องทำงานอย่างหนักในคืนสุดท้ายของงานเทศกาลซึ่งเป็นไปได้สูงที่พวกมันจะไม่ได้นอนกันเลยด้วยซ้ำ
“เชวฮัน..เราไปร้านอาหารกันเถอะ”
“เราไม่อยู่จนจบพิธีหรือขอรับ?”
เฮ!!!ฮ!!!ฮ!!! วู้!วู้!วู้!วู้!วู้!วู้! เฮ!!!ฮ!!!ฮ!!!
เชวฮันชี้ไปรอบๆทะเลสาบซึ่งอัดแน่นไปด้วยฝูงชนและพากันส่งเสียงเชียร์อย่างฮึกเหิม อย่างไรก็ตามคาร์ลกลับไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ต่อ
“อึ้ม..ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อจนจบหรอก..เราอาศัยจังหวะนี้รีบไปหาอะไรทานก่อนที่ร้านอาหารจะแน่นดีกว่า”
เสียงของหัวหน้านักบวชดังขึ้นอีกครั้ง
“แม้ทะเลสาบจะแห้งแล้งแต่เราก็..สามารถเห็นร่องรอยของพระเจ้า!”
“อาณาจักรพารัน..เป็นเพียงอาณาจักรเดียวที่พระเจ้าประทานสายน้ำมาให้!”
“ความรุ่งโรจน์จะเข้ามาเยือนอาณาจักรพารันอีกครั้งหากทะเลสาบถูกเติมจนเต็ม!”
เชวฮันเริ่มสงสัยหนักขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขาเอ่ยถามคาร์ลที่กำลังลุยฝูงชนออกไปโดยไม่คิดสนใจกับอะไรเลย
“เป็นพระเจ้าองค์ใดหรือขอรับ?”
เหล่าชาวเมืองต่างศรัทธาพระเจ้าองค์นี้ยิ่งนัก เชวฮันจึงอยากรู้ว่าพระเจ้าองค์นี้คือใครกันแน่?
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”
แน่นอนว่าคาร์ลไม่รู้จักพระเจ้าองค์นี้ ไม่มีนิยายเล่มใดที่ระบุตัวตนของพระเจ้าองค์นี้
“ชาวอาณาจักรพารันต่างเรียกขานว่า..พระเจ้าแห่งพารัน”
ประชาชนต่างศรัทธาพระเจ้าองค์นี้ในฐานะพระเจ้าแห่งดินแดนของพวกเขา มันไม่ใช่สิ่งที่คาร์ลจะต้องสนใจอีกต่อไป เขารีบสาวเท้าไปยังร้านอาหารที่เห็นก่อนหน้านี้ทันที
เชวฮันหันกลับไปมองแท่นพิธีและฝูงชนที่อยู่รอบๆก่อนจะรีบก้าวตามคาร์ลไปอย่างรวดเร็ว
“ว้าววว!!”
คาร์ลที่เพิ่งเดินมาถึงร้านอาหารปัดเส้นผมสีน้ำตาลจากการใช้พลังเวทย์ให้เป็นระเบียบก่อนจะอุทานออกมาด้วยความชื่นชมเมื่อกลิ่นอาหารเริ่มเตะเข้าจมูก กลิ่นหอมของมันชวนให้น้ำลายสอยิ่งนัก
~ มนุษย์!เจ้าต้องเลือกโต๊ะที่สามารถส่งอาหารลงใต้โต๊ะได้นะ! ข้าจะต้องกินอาหารพวกนี้ให้ได้! ~
ราอนเอ่ยสำทับขึ้นอีกครั้ง
~ เจ้าต้องเลือกโต๊ะดีๆ! เข้าใจหรือไม่?! ~
คาร์ลไม่สนใจเสียงตะโกนของราอนที่ดังก้องอยู่ในหัวและเดินเข้าไปในร้านอาหารที่คนยังไม่แน่นร้านนัก เขาเลือกร้านอาหารที่มีผ้าปูโต๊ะยาวก็เพื่อให้ราอนสามารถกินอาหารใต้โต๊ะได้อย่างสะดวก
เขามุ่งหน้าไปยังโต๊ะที่อยู่มุมด้านในสุดแต่ความรู้สึกแปลกๆก็พุ่งมาที่เขาเสียก่อน
“เจ้าเป็นอะไรไป?”
จู่ๆเชวฮันที่ก็หยุดเดินไปดื้อๆและหันขวับมามองเขาทันที
‘เป็นอะไรของเขาเนี่ย?’
แปะ!แปะ!แปะ!
ฮงก็สะกิดมาที่แขนของเขาอย่างร้อนใจ คาร์ลก้มลงมองฮงทันทีก่อนจะเห็นท่าทางของมันคล้ายกับมีบางอย่างจะพูด
คาร์ลมองไปรอบๆร้านอีกครั้งก่อนจะทำตัวให้เป็นปกติเมื่อเห็นพนักงานร้านออกมาต้อนรับ
“ยินดีต้อนรับ!.ให้ข้าน้อยพาไปที่โต๊ะเลยหรือไม่?”
“ข้าต้องการโต๊ะที่อยู่มุมนั้น”
“ไม่มีปัญหาขอรับ!..เชิญท่านนั่งโต๊ะตัวนั้นได้เลย!”
พนักงานนำทางพวกเขาไปยังโต๊ะที่อยู่มุมร้านและยื่นเมนูอาหารให้อย่างรวดเร็วจากนั้นเขาก็ขอตัวไปต้อนรับลูกค้าคนอื่นและให้คาร์ลเรียกเขาได้ทันทีหากได้เมนูอาหารที่ต้องการจะสั่งแล้ว
คาร์ลก้มศีรษะลงเล็กน้อยเมื่อเห็นพนักงานเดินห่างพวกเขาไปแล้ว ฮงรีบปีนขึ้นมาบนไหล่ของคาร์ลและกระซิบเบาๆที่ริมหูซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ราอนตะโกนเข้ามาในหัวของเขาพอดี
“คนที่เราเห็นเมื่อคืนนี้อยู่ที่นี่ด้วย”
~มนุษย์!มีเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งพอๆกับโรสลินอยู่ที่นี่ด้วย! ~
‘….อะไรนะ?’
ใบหน้าของคาร์ลแข็งค้างไปทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด
คนที่เห็นเมื่อคืนนี้? ต้องเป็นอาร์มอย่างไม่ต้องสงสัย
เอี๊ยด!
คาร์ลหันศีรษะของตนไปมองทันทีที่ได้ยินเสียงเลื่อนเก้าอี้ เชวฮันกำลังนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของคาร์ลก่อนจะชะโงกหน้ามากระซิบบางอย่างเบาๆ
“อยู่ทางซ้ายมือของท่านคาร์ลขอรับ”
คาร์ลกวาดสายตาไปมองรอบๆร้านอย่างเป็นธรรมชาติ เขาเห็นคนผมบลอนด์สองคนที่ดูเหมือนจะเป็นพี่น้องกันอยู่ทางด้านซ้ายมือของเขา
เขานึกถึงสิ่งที่ราอนบอกเขาเมื่อครู่นี้
‘มนุษย์!มีเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งพอๆกับโรสลินอยู่ที่นี่ด้วย!’
เผ่าพันธุ์
คำนี้ติดอยู่ในใจของคาร์ล เจ้าของร่างผมบลอนด์ทั้งสองทำให้คาร์ลนึกถึงบางอย่าง
พวกเขาดูสูงและมีร่างกายขนาดใหญ่กว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปแต่ก็ยังดูคล่องแคล่วเป็นอย่างดี พวกเขาทำให้คาร์ลนึกถึงเผ่าเสือที่พักอยู่ในหมู่บ้านแฮร์ริส ทรงผมสีบลอนด์ทองของพวกเขาก็ดูเหมือนจะชี้ฟูไปทั้งศีรษะ
‘อาจเป็นไปได้?’
[1]ต็อกโบกี (เกาหลี: 떡볶이, MC: tteok-bokki, MR: ttŏk-pokki) หรือ เค้กข้าว-ผัด เป็นอาหารเกาหลียอดนิยมที่ทำจากแป้ง คาแรต็อก ขนาดเล็กซึ่งเรียกว่า ต็อกมย็อน (“เส้นแป้งข้าวเจ้า”)[1][2] นำไปผัด โดย ออมุก (ลูกชิ้นปลา), ไข่ต้ม และต้นหอมเป็นส่วนผสมที่นิยมใส่เพิ่มมากที่สุด จะปรุงรสด้วยซอสแบบเผ็ดที่ทำจาก โคชูจัง (น้ำพริก) หรือซอสแบบไม่เผ็ดที่ทำจาก คันจัง (ซอสถั่วเหลือง) ก็ได้ แต่แบบแรกเป็นแบบที่พบบ่อยที่สุด[3] ในขณะที่แบบหลังพบได้น้อยกว่า และบางครั้งเรียกว่า คุงจุงต็อกโบกี (“ต็อกโบกีชาววัง”)