บทที่ 50 หมอบลงเดี๋ยวนี้
เมื่อเฉินตงลงจากรถอย่างเร่งรีบใจร้อน
สายตาของเขาแข็งค้าง
จุดที่ไม่ไกลออกไปในลานจอดรถ รถพอร์เชอ911จอดอยู่ตรงนั้นหนึ่งคัน
เป็นรถของกู้ชิงหยิ่ง!
หรือมาสายแล้ว?
เฉินตงสนใจอะไรมากไม่ได้แล้ว ดวงตาแดงก่ำราวกับสัตว์ร้ายพุ่งตรงเข้าไปในโรงแรมไท่ซาน
เพิ่งเข้าห้องโถงมา เขาก็เห็นร่างเงาที่คุ้นเคยของคนเดินแทรกเข้าไปในลิฟต์
“เสี่ยวหยิ่ง!”
เฉินตงตะโกนเรียก แต่ประตูลิฟต์ได้ปิดลงแล้ว และดึงดูดสายตาผู้คนมากมายที่อยู่ในห้องโถง
รีบวิ่งไปที่เคาน์เตอร์ เขาตวาดเสียงพูด“ผู้ชายกับผู้หญิงคู่นั้นอยู่ห้องไหน?”
พนักงานหน้าเคาน์เตอร์สะดุ้งตกใจ แต่การรักษาความลับส่วนตัวของลูกค้าคือหน้าที่สำคัญของพวกเธอ
เธอกำลังจะตอบอย่างติดอ่าง
ปัง!
เฉินตงทุบใส่โต๊ะเคาน์เตอร์ กัดฟันพูดว่า“แฟนสาวของผมถูกวางยา หากเธอเป็นอะไรไป โรงแรมไท่ซานของพวกคุณก็ แม่ง อย่าเปิดเลย”
บัดนี้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไม่อยากจะใส่ใจอะไรทั้งนั้น
ยิ่งไปกว่านั้นด้วยฝีมือของท่านหลง การที่ทำให้โรงแรมไท่ซานปิดกิจการก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้!
พนักงานสาวหน้าเคาน์เตอร์ตกใจกลัวกับคำพูดของเฉินตง รีบกล่าวว่า “ชั้น 18 ห้องวีไอพี 999”
เฉินตงหันกายวิ่งไปที่ลิฟต์
โชคดีที่ไม่เสียเวลาที่หน้าเคาน์เตอร์มากนัก ตอนเขาไปถึงชั้นที่ 18ก็เห็นจางเห้อหมิงประคองกู้ชิงหยิ่งเดินไปตรงหน้าห้องห้องหนึ่ง
“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!”
เฉินตงก้าวเท้ายาวเข้าไป
จางเห้อหมิงที่เตรียมจะเคาะประตูก็สะดุ้งตกใจ ขณะที่ประคองกู้ชิงหยิ่งอยู่ก็หันหน้าไปมอง จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนทันที
“เฉิน……ตง……”ตอนนี้กู้ชิงหยิ่งไม่มีแรงเหลืออีกเลย แม้กระทั่งการรับรู้ก็เริ่มพร่ามัว
ชั่วพริบตาเฉินตงก็กระโจนเข้ามาถึง
ไม่รอให้เสียเวลา ปล่อยหมัดชกจนจางเห้อหมิงกระแทกที่บานประตู
จางเห้อหมิงคิดอยากจะหลบ แต่ช่วงนี้เฉินตงฝึกซ้อมอย่างหนักหนาทารุณกับคุนหลุน พละกำลังและทักษะการต่อสู้ของเขาไม่ใช่คนธรรมดาจะต้านทานไหว
เกิดเสียงปัง จางเห้อหมิงตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด พลางปล่อยตัวกู้ชิงหยิ่ง แล้วโซเซไปด้านหลังจนล้มลงไปในที่สุด
เขากุมใบหน้าเกิดความเจ็บปวดราวหมูถูกเชือด เลือดสดไหลลงมาจากระหว่างนิ้ว
หมัดครั้งนี้ชกจนสันจมูกของเขาหักไปเลยทีเดียว
“เสี่ยวหยิ่ง……”
เฉินตงอุ้มกู้ชิงหยิ่งขึ้นมาด้วยใบหน้าวิตกกังวล
เกือบไปแล้ว!
เกือบไปแค่นิดเดียวเอง!
ถ้าหากเขามาช้าแค่แป๊บเดียว หรือระหว่างทางมีเรื่องเกิดขึ้น
สิ่งที่รอคอยเขากับกู้ชิงหยิ่งก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง
กู้ชิงหยิ่งค่อยๆเงยหน้าขึ้นมอง สายตาเลือนรางจ้องมองเฉินตง ยิ้มอย่างใสซื่อ“คุณมาแล้วจริงๆ?”
พูดจบเธอก็หลับตาสลบไสลไปเลย
โครม!
สมองของเฉินตงเกิดเสียงระเบิดขึ้นมา เพลิงโกรธก็ลุกโชนขึ้นมาอย่างรุนแรง
ราวกับภูเขาไฟระเบิดออกมาจากกลางอก
เขาจ้องลึกจางเห้อหมิงดุจสัตว์ เปล่งวาจาออกจากระหว่างฟัน“คุณไม่รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงของผมเหรอ?”
พูดจบเขาประคองกู้ชิงหยิ่งอย่างอ่อนโยนไว้ที่พื้น
จากนั้นใบหน้าอันเย็นชาก็ค่อยๆเดินมายังจางเห้อหมิง
บัดนี้จางเห้อหมิงตกใจจนเอ๋อไปแล้ว นอกจากปิดเลือดสดที่ไหลออกมาทางจมูกก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
เขาคาดไม่ถึง เรื่องที่วางแผนอย่างดีกลับมีเฉินตงเข้าแทรกแซงกลางคัน
กินปูนร้อนท้อง มือข้างหนึ่งของเขาดันพื้นเอาไว้พร้อมกับถอยหลังด้วยความหวาดผวา“เฉินตง คุณ คุณฟังผมอธิบายก่อน นี่ นี่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันครับ ”
“คิก!”
เฉินตงหัวเราะเป็นพิธี
จากนั้นก็ยกเท้าขึ้น
ปัง!
เท้าถีบใส่หัวของจางเห้อหมิงอย่างแรง
จางเห้อหมิงยกมือขึ้นบังด้วยสัญชาตญาณ แต่พลังอันน่าสะพรึงกลัวทำให้เขากระเด็นไปชนกันผนัง แล้วสลบคาที่ไปเลย
เฉินตงจ้องมองจางเห้อหมิงที่อยู่บนพื้นอย่างเย็นชา สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ตั้งยันจบ ยิ่งไม่ได้สนใจว่าถีบออกไปแล้วจางเห้อหมิงจะตายหรือเปล่า
เขาไม่ใช่คนอ่อนแอ
เขาไม่เอากูหลังให้ตายที่โรงยิมมวยใต้ดิน เป็นเพราะเขาไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์การต่อสู้ที่แท้จริง จึงไม่มีความจริงเป็นต้องฆ่า
แต่ตอนนี้เขาอัดเข้าไปเต็มที่
กู้ชิงหยิ่งเป็นแฟนสาวของเขา เป็นผู้หญิงของเขา
ยิ่งเป็นหัวแก้วหัวแหวนของเขา!
คิดจะแตะต้องเหรอ ต้องตาย!
เฉินตงหันหน้าไปมองประตูที่ปิดเรียบร้อยแล้ว นัยน์ตาเกิดความโมโหแล่นพล่านขึ้นมา
สองหมัดที่กำไว้แน่นเกิดเสียงกรอบแกรบ
อันนี้คือ……จะเอาเธอไปมอบให้คนอื่นใช่ไหม?
แฟนสาวของเธอถูกจางเห้อหมิงวางยาแล้วส่งมาที่ห้องนี้ เพื่อจะประจบประแจงคนในห้องนี้?
ตลกสิ้นดี!
ปัง!
ถีบแรงๆหนึ่งครั้ง ประตูห้องโรงแรมก็ถูกเปิดออก
ด้านในห้องกำลังเปิดเพลงบรรเลงได้อย่างมีอรรถรส
ผ้าม่านปิดสนิททำให้ภายในห้องมืดเล็กน้อย
ส่วนภายในห้องรับแขกมีเงาร่างหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ โดยก้มหน้าเอาสองมือที่ประสานกันรองคางของตัวเองอยู่
“เฉินเทียนหย่าง?”
ถึงแม้ไฟจะสว่างไม่เพียงพอให้เฉินตงรู้ว่าเป็นเฉินเทียนหย่าง แต่เขาก็สามารถแยกแยะได้จากมุมเล็กๆ
ผู้ที่คิดจะฆ่าเขา ถึงเขาจะกลายเป็นเถ้าผงธุลีก็ไม่อาจลืมเลือน
“ฮ่าๆๆ……”
เสียงหัวเราะเย็นยะเยือกที่มีความโหดร้ายดังลั่น เฉินเทียนหย่างค่อยๆเงยหน้าขึ้น นัยน์ตามืดครึ้มจ้องมองมายังเฉินตง “ลูกสวะอย่างมึงกล้าแย่งแม้กระทั่งเหยื่อของกูเลยเหรอ?”
น้ำเสียงราวกับคนชั้นสูงคุยเสียดสีให้คนที่ต่ำต้อยกว่าตน
เขาค่อยๆลุกขึ้นจัดแจงเสื้อสูทแล้วเดินมาที่ประตูอย่างช้าๆ
เฉินตงขมวดคิ้วแน่น รู้สึกประหลาดใจที่ด้านในห้องเป็นเฉินเทียนหย่าง
แต่ว่าเรื่องเกี่ยวกับกู้ชิงหยิ่ง
เขาจึงก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว“กูจะพาเธอกลับไป”
“มึงมีดีอะไรถึงคิดจะพาไป?”เฉินเทียนหย่างหัวเราะถากถาง“เพราะฝึกทักษะการต่อสู้กับคุนหลุนไม่กี่วันเหรอ?อย่าเล่นตลกเลย ลูกสวะก็คือลูกสวะอยู่วันยังค่ำ กูว่ามึงเป็นเศษไร้ค่าก็คือเศษไร้ค่า มึงไม่มีทางเทียบกับกูที่มีพรสวรรค์และได้รับการฝึกซ้อมอย่างมืออาชีพมาตั้งแต่เด็กหรอก”
วง!
ยังไม่ทันพูดจบ
เฉินเทียนหย่างก็กระโจนเข้าหาเฉินตงโดยฉับพลัน
พอเข้าใกล้เขาก็กระโดดขึ้น เท้าข้างหนึ่งไปแตะที่ผนัง ส่วนอีกข้างแหวกกลางอากาศจนเกิดเสียง จากนั้นก็ปล่อยเท้าแตะเข้าหาเฉินตง
เฉินตงสีหน้าเคร่งขรึมพร้อมกับยกมือสองข้างขึ้นมา เกิดเสียง ปัง เขาบังลูกแตะของเฉินเทียนหย่างได้
“หืม?”
เฉินเทียนหย่างตกตะลึง
แต่วินาทีต่อมาสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
เฉินตงใช้สองมือบังเท้าของเฉินเทียนหย่างได้ด้วยความแรงแสงแล้ว สองมือก็เคลื่อนที่ไปจับขาขวาของเฉินเทียนหย่างอย่างว่องไว
“คลานลงไปเดี๋ยวนี้!”
หลังมีเสียงตะโกนดังขึ้น เฉินตงก็ใช้แรงกดเฉินเทียนหย่างไปที่พื้นอย่างอุกอาจ
เฉินเทียนหย่างหน้าเปลี่ยนสี ไม่ทันตอบสนองใดๆ
ถูกเฉินตงเล่นงานจนเกิดเสียงปังไปกระแทกที่พื้น
แม้แต่คนอย่างเขาสีหน้าก็ต้องซีดขาว เกือบจะลอยกระเด็นออกไป
ไม่รอให้เฉินตงมาถึง เฉินเทียนหย่างก็รีบลุกขึ้น จ้องเฉินตงตาเขม็งด้วยความประหลาดใจ
เขาคาดไม่ถึงว่าไอ้ลูกสวะคนนี้จะเปลี่ยนแปลงได้มากในเวลาสั้นๆเช่นนี้
เขามั่นใจว่าทักษะการต่อสู้ของเมื่อกี้ครั้งที่แล้วเฉินตงยังใช้ไม่เป็นอยู่เลย
ถึงแม้ใช้เป็น แต่ก็ไม่อาจงัดออกมาใช้ในเวลาชั่วพริบตาเช่นนี้
ความสามารถต่อสู้เช่นนี้ทำให้เขาเสียวที่แผ่นหลัง
แต่เฉินเทียนหย่างก็เต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลน
เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ซึ่งผ่านการฝึกฝนจากตระกูลเฉินมาอย่างมีระบบ ก็แค่ตกตะลึง แต่ยังไม่อาจทำลายความเชื่อมั่นในตัวเองของเขาได้
“น่าสนใจ วันนี้มึงต้องนอนคลานอยู่ที่นี่ ผู้หญิงข้างนอกก็ต้องนอนอยู่ตรงนี้ด้วย”
เขาหัวเราะถากถาง พลางเผยความเชื่อมั่นในตัวเองที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของตระกูลเฉิน
วินาทีต่อมา
เฉินเทียนหย่างพุ่งเข้าหาเฉินตงอย่างอุกอาจ
เฉินตงเตรียมรับมือด้วยสีหน้าจริงจัง
ทันใดนั้น
สายตาของเขามีแสงกะพริบปรากฏขึ้นมา เห็นว่ามือขวาของเฉินเทียนหย่างถือกริชไว้ในมือ
เมื่อนำกริชออกมาก็คล้ายกับงูพิษพุ่งทะยานมายังทิศทางของเขา