บทที่ 70 เขาเป็นพ่อของแก!
ระหว่างที่หลี่หลานพักอยู่ที่โรงพยาบาล เฉินตงไม่เคยบอกเธอเรื่องความร่ำรวยชั่วข้ามคืนของตนเองและคนที่ไม่เคยพบหน้ามาก่อน
ยี่สิบกว่าปีที่ทอดทิ้งครอบครัวไป เขากลัวว่าเหตุการณ์นี้จะกระตุ้นแม่ของเขา
แต่ว่า วันนี้ควรจะสารภาพเรื่องนี้กับแม่ได้แล้ว
ได้ยินกู้ชิงหยิ่งพูดว่าเซอร์ไพรส์ หลี่หลานก็พยักหน้าพร้อมกับยิ้มและไม่ได้ซักไซ้ต่อไปอีก
จัดเก็บกระเป๋าสัมภาระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลก็เสร็จเรียบร้อย
ทั้งห้าคนขึ้นรถสองคัน มุ่งหน้าไปที่เขตวิลล่าเขาเทียนซานด้วยกัน
ระหว่างทางมีกู้ชิงหยิ่งและฟ่านลู่ไปด้วย หลี่หลานอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก รู้สึกกลมเกลียวแน่นแฟ้น
ภายในใจของเฉินตงกำลังพิจารณาใคร่ครวญ ว่าควรจะพูดกับแม่ถึงสิ่งที่เขาประสบพบเจออย่างไรดี
ขณะที่รถขับขึ้นเขาเทียนซาน
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่หลานก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจ
“ตงเอ๋อ บ้านใหม่อยู่บนเขาเทียนซานงั้นเหรอ?”
เขตวิลล่าเขาเทียนซานเป็นเพดานราคาของเมืองนี้ และระดับชื่อเสียงที่ทุกคนต่างรู้จักไม่ใช่สิ่งที่เกินจริง
เฉินตงยิ้มพร้อมกับพยักหน้า
หลี่หลานมีสีหน้าช๊อค ริมฝีปากที่ซีดจางมีเสียงพึมพำเบาๆ
แต่ท้ายที่สุด เธอก็ยังอดกลั้นต่อไปโดยไม่ซักถามเพิ่มเติมเลย
เพียงแค่ตลอดทาง ท่าทางของหลี่หลานมีความมึนงงเล็กน้อย ทิวทัศน์ที่สวยงามนอกหน้าต่างรถและที่ตั้งของบ้านใหม่ทำให้เธอมีความรู้สึกเหมือนกับความฝัน
เธอรู้สถานการณ์ภายในบ้าน ถึงแม้เฉินตงจะเป็นรองประธานบริษัทไท่ติงด้วยเงินเดือนหนึ่งล้านต่อปี
แต่ว่าเงินทั้งหมด ทั้งใช้เพื่อรักษาอาการป่วยของเธอ ทั้งถูกหวางหนันหนันเอาไปให้ครอบครัวของเธอ
ภายในบ้านเหลือเงินเก็บไม่มากจริงๆ!
การดำเนินการปลูกถ่ายตับของเธอในครั้งนี้ และการหย่าร้างของเฉินตงกับหวางหนันหนันก็ควรจะทำให้ไม่มีเงินมานานแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ราคาบ้านของเขตวิลล่าเขาเทียนซาน นั่นมันมีราคาสูงลิบลิ่ว!
ถึงแม้ว่าเงินเดือนต่อปีของเฉินตงจะเป็นล้าน ก็ไม่มีทางซื้อบ้านที่นี่ได้อย่างแน่นอน!
จนกระทั่งรถหยุดตรงหน้าวิลล่าบนเนินเขา ขณะที่กู้ชิงหยิ่งและฟ่านลู่ประคองเธอเดินเข้าไปในวิลล่า
ในที่สุดหลี่หลานก็เหมือนเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝัน
ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ แล้วก้าวทีละฝีก้าวเดินเข้าไปในวิลล่าแล้วค่อยหายใจถี่ขึ้นอย่างช้าๆ
“คุณป้าคะ นี่คือบ้านหลังใหม่ที่เฉินตงเตรียมไว้สำหรับคุณค่ะ”
กู้ชิงหยิ่งประคองหลี่หลานอย่างระมัดระวัง แล้วเอ่ยเสียงนุ่มนวล
“เป็นบ้านใหม่…จริงเหรอ?”
หลี่หลานยังคงไม่อยากจะเชื่อ
ในใจของเธอ บ้านของที่นี่เป็นสิ่งที่ไกลเกินอาจเอื้อม เธอเลี้ยงดูเฉินตงให้เติบโตขึ้นมาอย่างโดดเดี่ยวและลำบากยากแค้น ถึงแม้แต่ในความฝัน ก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะสามารถได้อยู่บ้านแบบนี้
ลานสนามที่มีขนาดกว้าง เป็นสนามหญ้าที่มีต้นหญ้าสีเขียวเล็กๆ และยังมีภูมิทัศน์ของน้ำพุที่งดงาม
ทุกๆอย่าง ในใจของหลี่หลานล้วนแต่เหมือนกับ “ดินแดนมหัศจรรย์”
เฉินตงและคุนหลุนที่แบกสัมภาระได้เดินอย่างรวดเร็วไปยังด้านหน้าวิลล่า เฉินตงหยิบกุญแจบ้านออกมา
คลิก!
เสียงเปิดประตู สำหรับหลี่หลานแล้ว มันเหมือนกับฟ้าร้องเสียงดังลั่น ทำให้ร่างของเธอสั่นเทาในทันที
“แม่ครับ ยินดีต้อนรับกลับบ้าน”
ในตอนที่พูดด้วยเสียงกระซิบอย่างนุ่มนวลออกมานั้น เบ้าตาของเฉินตงก็ค่อยๆกลายเป็นสีแดง
ตั้งแต่เล็กจนโต แม่ของเขาต้องกล้ำกลืนความทุกข์ยากเพื่อเลี้ยงดูเขาให้เติบใหญ่
หลังจากเรียบจบแล้วเขาทำงานอย่างหนักเพราะแค่ต้องการเป็นนกอินทรีที่คอยหา่อาหารมาป้อน ทำให้แม่ของเขาได้มีความสุข แต่แม่ของเขากลับป่วยหนักแล้วหวางหนันหนันก็มาเอาเงินช่วยชีวิตแม่ไปให้ครอบครัวของเธอ มันเหมือนกับการลากเขาลงไปในนรก
และการปรากฏตัวของท่านหลง กลับเป็นการดึงเขาขึ้นสวรรค์
ครั้งหนึ่งในนรก และครั้งหนึ่งในสวรรค์ มีเพียงผู้ที่ผ่านประสบการณ์จริงเท่านั้น ถึงจะเข้าใจความหมายในนั้น การพูดนั้นยาก แต่การแสดงออกนั้นชัดเจน
“ดี…ตงเอ๋อคนดี ลำบากลูกแล้ว ลำบากแล้ว”
หลี่หลานไม่ซักถามอย่างอื่นเลย ดวงตาเป็นสีแดงและมีน้ำตา เธอกอดเฉินตงจากนั้นก็ยิ้มและพูดกับกู้ชิงหยิ่งและฟ่านลู่ว่า: “มาเร็ว กลับบ้านกัน กลับบ้านกัน”
กลุ่มคนเดินเข้าไปในบ้านอย่างปลาบปลื้มยินดีเป็นที่สุด
กู้ชิงหยิ่งที่ดึงเฉินตงด้วยมีใบหน้างามแดงเล็กน้อย จงใจกระซิบในตอนท้ายว่า : “ได้ยินไหม คุณป้าให้ฉันกลับบ้านแล้ว”
“ก็ไม่มีปัญหานี่นา” เฉินตงยิ้มเล็กน้อย
ดวงตากู้ชิงหยิ่งส่องแสงวาววับแล้วชำเลืองมองอย่างตำหนิ : “คุณมันคือตาทึ่ม”
คุนหลุนและฟ่านลู่ช่วยกันจัดกระเป๋าเข้าไปตามตำแหน่ง
หลี่หลานนั่งคนเดียวบนโซฟาห้องนั่งเล่นที่กว้างขวาง เธอมองไปรอบๆด้วยดวงตาที่มีน้ำตาคลอเบ้าจนพร่ามัว
แล้วมองเห็นเฉินตงและกู้ชิงหยิ่งเดินเข้ามา
หลี่หลานยิ้มอย่างใจดี : “ตงเอ๋อ วิลล่านี่น่าจะมีระเบียงใช่ไหม? แม่ดูในโทรทัศน์มีทุกหลังเลย พาแม่ขึ้นไปดูได้หรือเปล่า?”
“คุณป้าคะ บนระเบียงลมแรงมาก คุณ…”
กู้ชิงหยิ่งกังวลถึงร่างกายของหลี่หลาน แต่ก่อนที่จะพูดจบก็ถูกเฉินตงแอบบีบมือยับยั้งเอาไว้แล้ว
“โอเคครับแม่”
เฉินตงยิ้มแล้วประคองหลี่หลานเดินขึ้นไปยังระเบียงดาดฟ้าชั้นบน
เขารู้ว่าแม่ไม่ได้อยากดูอะไร แต่มีสิ่งต้องการถามที่ระเบียงกว้าง
ดอกไม้หลายร้อยชนิดแข่งขันกันเบ่งบาน สายลมพัดโชยนำพากลิ่นหอมมาในอากาศ
เฉินตงประคองหลี่หลานนั่งลงบนเก้าอี้
ใบหน้าของหลี่หลานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอมองซ้ายมองขวา โดยยังมิได้รีบร้อนที่จะพูดอะไร
“แม่ อยากถามอะไรเหรอครับ?” เฉินตงนั่งลงข้างๆ
ทันใดนั้นหลี่หลานก็ยกมือขึ้นแล้วตบลงไปบนแขนของเขาฉาดหนึ่งและกล่าวด้วยน้ำเสียงและสีหน้าถมึงทึง : “ลูก ลูกทำสิ่งผิดกฎหมายใช่ไหม?”
แม่นึกว่าฉันทำอะไรที่ผิดกฎหมายถึงได้ร่ำรวยสินะ?
เฉินตงตกใจ แต่ไม่ได้โกรธ
ตั้งแต่เล็กจนโต ถึงแม้ว่าครอบครัวจะลำบากขนาดไหน แม่ก็สั่งสอนเขาไม่ให้ขโมยหรือฉกฉวย โดยจะต้องทำงานอย่างหนักพยายามด้วยตัวเอง
ด้วยปัจจัยของครอบครัว จู่ๆเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ เป็นเรื่องปกติมากที่คนสูงวัยในบ้านจะคิดในแง่นั้น
เขาหัวเราะเบาๆ : “แม่ครับ แม่สอนผมมา ผมไม่เคยลืมเลยแล้วจะเป็นไปได้ยังไง?”
“งั้นลูกก็พูดมา ว่าบ้านนี้มันคือเรื่องอะไรกัน?”
ดวงตาสีแดงของหลี่หลานชี้ไปโดยรอบ : “อย่าคิดว่าแม่ป่วยจนสับสนไปแล้ว ใครจะไม่รู้ว่าราคาบ้านของวิลล่าเทียนซานสูงแค่ไหน? ทำไมจู่ๆลูกถึงซื้อบ้านที่นี่ได้?”
เทียบกับความประหลาดใจแล้ว เวลานี้หลี่หลานรู้สึกกังวลใจมากกว่า
เธอไม่ใส่ใจความยากจน และไม่ใส่ใจต่อความลำบาก
แต่เธอใส่ใจว่าลูกชายของตนเองจะทำเรื่องเลวร้าย!
เฉินตงยิ้ม แล้วทันใดนั้นสีหน้าเปลี่ยนเป็นขมขื่นเล็กน้อย เขามองแม่ด้วยดวงตาแดงก้ำลึกล้ำ : “แม่ครับ ที่จริงพ่อยังไม่ตายใช่ไหม?”
ตูม!
หลี่หลานราวกับถูกฟ้าผ่าทันใดนั้นความโกรธก็แข็งตัวอยู่บนหน้าของเธอ
รูม่านตาของเธอค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น แล้วปรากฏเป็นสีหน้าตระหนกตกใจอย่างยิ่ง
“ผมรู้ว่าเขายังไม่ตาย”
เฉินตงนั่งยองๆลงข้างกายแม่แล้วเงยหน้าขึ้นมองแม่ของเขา : “ในตอนนั้นเขาแค่ทอดทิ้งพวกเราไปเท่านั้นเอง ไปเสาะแสวงความมั่งคั่งร่ำรวยและยศศักดิ์”
“ลูก ลูกรู้ได้ยังไง?”
หลังจากที่ตื่นตกใจแล้ว ทันใดนั้นท่าทางการแสดงออกของหลี่หลานก็ซึมเศร้าลงไป อาการอย่างนี้ แม้แต่เฉินตงก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
เฉินตงค่อยๆกล่าวอย่างช้าๆว่า : “เพราะว่าครั้งนี้เขากลับมาเพื่อช่วยผม”
“เขาอยู่ที่ไหน?” ดวงตาของหลี่หลานเป็นประกายวาบ แล้วรีบร้อนต้องการลุกขึ้นยืน
เฉินตงรีบปลอบใจ : “เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ คนที่มาคือท่านหลงคนรับใช้ของเขา หลังจากที่หวางหนันหนันเอาเงินสำหรับการผ่าตัดของแม่ไปก็เป็นท่านหลงที่ปรากฏตัวออกมาและช่วยผมจ่ายเงินสำหรับการผ่าตัดให้แม่”
“หลังจากนั้น เขายังให้บัตรเครดิตพ่อที่ขี้ขลาดนั่นกับผมด้วย ดังนั้นตอนนี้แม่ถึงได้เห็นสิ่งเหล่านี้ยังไงล่ะครับ”
เมื่อได้ฟังแล้ว
ประกายในดวงตาของหลี่หลานได้หล่นหายไป เธอทรุดตัวกลับไปนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหดหู่ แล้วก้มหน้าลงมองสองมือที่วางอยู่บนหัวเข่าอย่างเงียบๆไม่พูดอะไร
ดวงตาของเฉินตงเป็นสีแดง เขากลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วหัวเราะอย่างเย็นชา
“แม่ครับ แม่ว่ามันตลกหรือเปล่า? ตอนนั้นเขาละทิ้งครอบครัว ทิ้งขว้างพวกเราสองคนแม่ลูก ตอนนี้ จู่ๆก็กลับมาทำเป็นคนดี”
เพี้ยะ!
เสียงตบหน้าดังขึ้นอย่างกังวานและคมชัด
เฉินตงตกตะลึง รอยนิ้วมือปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วบนใบหน้าอีกครึ่งหนึ่งของเขา
หลี่หลานจ้องมองด้วยความโกรธและตะโกนว่า : “เขาคือพ่อของแก แกไม่มีสิทธิ์ใส่ร้ายเขาแบบนี้ ตอนนั้นเขาถูกบังคับให้ทำ!”