บทที่ 151 พี่ใหญ่ ? !
ขณะที่มีเสียงปรากฏขึ้น
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกใจ และหันมองตามที่มาของเสียง
มือของฟ่านลู่เองก็หยุดลงเช่นกัน เธอหันมองไปทั้งน้ำตา
คุนหลุนซึ่งอยู่บนพื้น ยิ่งยินดีและตื่นเต้นยิ่งกว่า เขาตะโกนเสียงดัง : “คุณชาย !”
ภายใต้แสงสว่าง มีร่างของคนคนหนึ่งค่อยๆ เดินมาตามทางของภูเขา
คือเฉินตงนั่นเอง !
เขาตกลงกับกูหลังเอาไว้ว่าจะมาพร้อมกัน แต่ตอนที่มาถึงหมู่บ้านหม่าเถียน กูหลังยังมาไม่ถึง ดังนั้นเขาจึงนำหน้าไปยังที่ทิ้งศพก่อน
ตอนนี้มาคิดๆ ดูแล้ว การตัดสินใจเมื่อครู่ถือว่าถูกต้องแล้ว !
ใบหน้าของเฉินตงเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง มือทั้งสองข้างของเขาสอดอยู่ในกระเป๋ากางเกง เป็นเพราะแสงสว่างของไฟค่อนข้างจ้า ดวงตาของจึงหรี่ลงโดยไม่รู้ตัว
สายฝนที่โปรยปรายลงมา ทำให้เขาเปียกปอนไปทั้งตัว
เขายืนนิ่งอยู่ที่เดิม แต่ร่างกายแผ่ซ่านรังสีของความอำมหิตออกมา
“แกคือคนที่รับโทรศัพท์เมื่อกี้หรือ ?”
ชายวัยกลางคนขมวดคิ้วและถ่มน้ำลายลงบนพื้นอย่างแรง : “โธ่เว้ย มาได้ตรงเวลาจริงๆ ขัดจังหวะสนุกของเราหมด”
พูดจบ เขาหันไปมองฟ่านลู่ด้วยดวงตาที่แข็งกร้าว และรู้สึกไม่ค่อยเต็มใจนัก
จากนั้นเขาก็หันไปตะคอกเฉินตงว่า : “ไหนล่ะเงินห้าล้าน ?”
“ไม่ได้เอามา”
เฉินตงยกยักไหล่ของเขาพร้อมกับมีรอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏขึ้นที่มุมปาก
เปรี้ยง !
พวกของชายวัยกลางคนเมื่อได้ยิน ก็รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า
ทันใดนั้น สีหน้าของชายวัยกลางคนก็ดูดุร้ายขึ้นในทันที เขาจ้องตาเขม็ง : “แกอยากตายหรือยังไง ? ฉันให้แกเอาเงินห้าล้านมาเพื่อชดใช้ความผิดและแสดงความขอโทษ หรือแกอยากจะเห็นพวกมันตาย ?”
หลังจากพูดจบ
ลูกสมุนที่อยู่โดยรอบอีก 12 คน ก็พุ่งเข้าไปหาเฉินตงด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรงทันที
“เหอะ……พวกเศษสวะอย่างพวกแก มีสิทธิ์อะไรที่จะให้ฉันไปขอโทษ ?”
เฉินตงจ้องตาเขม็ง ดวงแววตาที่อำมหิต
ทันใดนั้นเอง เขาเหมือนเสือที่เพิ่งกระโจนออกจากถ้ำ ใช้เท้าเตะโคลนที่อยู่ใต้เท้า แล้วสะบัดโคลนใส่หน้าลูกสมุนสองคนที่อยู่ใกล้ตนเองมากที่สุด
จากนั้น เขาก็พุ่งเข้าใส่ในทันที
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทำให้ฟ่านลู่ตกใจจนกรีดร้องออกมาเสียงดัง จากนั้นจึงรีบกลับไปหลบอยู่ข้างๆ คุนหลุนอย่างรวดเร็ว เธอกอดคุนหลุนเอาไว้แน่น เพราะเกรงว่าก่อนต่อสู้จะบานปลายมาถึงตัวคุนหลุน
“ไม่ ไม่เป็นไร ฝีมือระดับคุณชาย สามารถรับมือพวกสวะพวกนี้ได้สบาย !”
คุนหลุนยกมือขึ้น แล้วตบหลังฟ่านลู่เบาๆ แล้วพูดด้วยความปวดใจ : “ทำไมคุณถึงโง่อย่างนี้ ? ผมไม่จำเป็นต้องให้คุณช่วย !”
ฟ่านลู่ไม่ตอบอะไร เอาแต่ร้องไห้เงียบๆ
“โอ๊ย !”
ลูกสมุนคนหนึ่งถูกเฉินตงเตะเข้าตรงกระดูกซี่โครงจนหัก แล้วเตะกระเด็นออกไป
เฉินตงยังไม่คิดที่จะหยุด เขาพุ่งตรงเข้าไปอีกครั้ง โดยครั้งนี้พุ่งตรงเข้าไปหาลูกสมุนตัวเล็กๆ อีกคนหนึ่ง
เขาไม่เคยคิดจะชดใช้ ขอโทษหรือสร้างความสมานฉันท์กับพวกเศษสวะที่สามารถขุดหลุมฝังศพบรรพบุรุษของผู้อื่นได้พวกนี้
ต่อให้ต้องเจรจากับคนพวกนี้จริงๆ อย่างน้องก็คงต้องให้คนพวกนี้ลงไปนอนกองอยู่กับพื้นก่อน ถึงจะยอมพูดคุยด้วย !
เฉินตงซึ่งได้รับการฝึกฝนร่างกายมาจากคุนหลุน ไม่ว่าจะด้านพละกำลังของร่างกายหรือด้านทักษะการต่อสู้ พวกสมุนตัวเล็กๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ไม่มีทางเทียบชั้นได้
ในการต่อสู้ เฉินตงหลบหลีกและพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว เขาปล่อยหมัดที่แข็งแกร่งราวกับสายฟ้าฟาดลงบนตัวของลูกสมุนทุกคนเหมือนเป็นการทักทายอย่างซึ่งหน้า
เพียงเวลาสิบกว่าวินาที มีหกคนจากสิบสองคนที่ลงไปนอนกองอยู่กับพื้น
ทั้งหกคนนอนจมอยู่ในโคลน แล้วร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวด
หากไม่ใช่ขาหักแขนหัก ก็กระดูกซี่โครงหัก ไม่มีใครเหลือรอดแม้แต่คนเดียว ทำให้หมดสภาพที่จะสู้ต่อ
ทันในนั้น คุนหลุนที่จับตาดูการต่อสู้มาโดยตลอด ก็ค่อยๆ เผยรอยยิ้มที่ผ่อนคลายออกมา
เฉินตงสามารถจัดการกับคนหกคนได้ภายในเวลาเพียงแค่สิบกว่าวินาที ทำให้การต่อสู้หลังจากนี้ ไม่น่าวิตกกังวลอีกต่อไป
ทันใดนั้นเอง รูม่านตาของคุนหลุนหดลงอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ
“คุณชาย ระวัง !”
เปรี้ยง !
ราวกับเสียงฟ้าผ่าทะลุผ่านอากาศลงมา
ย่า !
มีแสงสะท้อนส่องเข้าในดวงตาของเฉินตง เป็นแสงที่ฉาบไปด้วยความรู้สึกที่น่ากลัว
ไม่รู้ว่าชายวัยกลางคนพุ่งเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ในมือของเขาถือมีดผีเสื้อที่ฉาบไปด้วยลำแสงเย็นเยือกที่น่ากลัวเอาไว้ มีดพุ่งตรงเข้ามาที่หน้าอกของเขา !
“แกตายซะเถอะ !”
เฉินตงหน้าถอดสี เรื่องอันตรายที่สุดกำลังจะเกิดขึ้น เขายกมือทั้งสองข้างไปตรงหน้าอก
ซวบ !
มือขวาของเขาจับใบมีดของมีดผีเสื้อเอาไว้แน่น ความเจ็บปวดแล่นผ่านเข้ามา ทำให้เฉินตงขมวดคิ้วแน่น ดวงตาเบิกโพลง
เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากฝ่ามือของเขา
ชั่วพริบตาเดียว
มือซ้ายของเขาก็บีบข้อมือของชายวัยกลางคนเอาไว้แน่นในทันที จากนั้นจึงตะโกนออกมาด้วยความโกรธ แล้วจึงออกแรง
ย่า !
ด้วยแรงที่แข็งแกร่งทำให้กระดูกข้อมือของชายวัยกลางคนหักในทันที
ขณะที่ชายวัยกลางคนกำลังร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดเหมือนกับหมูถูกเชือดอยู่นั้น
เฉินตงก็จับมีดผีเสื้อเอาไว้ แล้วแทงลงไปด้านล่างทันที
สวบ !
เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นออกมา
มีดผีเสื้อปักลงไปที่ต้นขาของชายวัยกลางคนจนมิดด้าม
ชายวัยกลางคนล้ม “พรึ่บ” ลงไปอยู่ในโคลน ใบหน้าบิดเบี้ยว ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
เฉินตงกลับมายืนหยัดอยู่ที่เดิมด้วยท่าทีเย็นชา
เขาสะบัดเลือดที่ติดอยู่ที่ฝ่ามือด้านขวาออกอย่างลวกๆ แล้วเหลือบตาไปมองลูกสมุนอีกหกคนที่เหลือ
“ถ้าใครอยากจะสู้อีกล่ะก็ ฉันเองก็ยินดีที่จะช่วยทำให้พวกแกพิการเอง !”
ทั้งหกคนหันมองหน้ากันด้วยความตื่นตระหนก
“สู้กับมันสิ ฉันบอกให้สู้กับมัน”
ชายวัยกลางคนพยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้ แล้วตะโกนออกมาเสียงดัง
ตุ๊บ !
เฉินตงเหยียบลงบนมีดที่ปักอยู่ตรงต้นขาของชายวัยกลางคน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย : “แกลองเดาดูซิว่าถ้าฉันเหยียบลงไป ขาของแกจะถูกมีดเล่มนี้เฉือนเอาหรือไม่ ?”
ชายวัยกลางคนเม้มริมฝีปาก ไม่กล้าขยับเขยื้อนอีก
ความเจ็บปวดทำให้เขาเหงื่อไหลไปทั่วตัว เมื่อเห็นแววตาที่น่ากลัวของเฉินตง เขาไม่รู้สึกสงสัยเลยสักนิดว่าเฉินตงจะทำเช่นนี้ได้จริง
เพราะเขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดจากคมมีดของมีดผีเสื้อ บาดลึกลงไปในชั้นผิวหนังขงเขาเรียบร้อยแล้ว
ด้วยความรู้สึกกลัวจนถึงขีดสุด ทำให้เขาไม่แม้แต่จะกล้าส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา
เฉินตงค่อยๆ หันหน้ากลับไปมองทั้งหกคน : “ว่ายังไง ?”
แค่คำง่ายๆ แต่ทำให้รับรู้ได้ถึงเจตนาฆ่า และแสดงความดูถูกออกมาอย่างชัดเจน
ทั้งหกคนส่ายหัวพร้อมกัน แล้วจึงค่อยๆ เดินถอยหลังไปสามก้าว
เฉินตงหันกลับไปจ้องมองชายวัยกลางคน ใช้มือด้านขวาที่เปื้อนเลือดตบลงไปบนหน้าของชายวัยกลางคน
“ถ้าจะให้ฉันชดใช้หรือว่าขอโทษ ฉันคงไม่มีวันทำ แต่ตอนนี้พี่น้องของฉันกับน้องสาวของฉันถูกพวกนายรังแกหนักขนาดนี้ นายจะต้องคุกเข่าเพื่อขอโทษพวกเขา !”
ชายวัยกลางคนผงะไป เขารู้สึกถึงความอัปยศอดสูอย่างรุนแรง
เขาเม้มปาก ทำทีท่าว่าจะโต้กลับ
แต่จู่ๆ เฉินตงกลับหัวเราะออกมา
เป็นการหัวเราะที่ทำให้คนรู้สึกกลัว
ทำให้ชายวัยกลางคนกลืนคำพูดที่ตนเองจะพูดออกมากลับเข้าไปดังเดิม
จากนั้น
เฉินตงยกมือขึ้นชี้ไปยังหลุมศพที่ถูกขุดเอาไว้ครึ่งหนึ่ง แล้วพูดว่า : “ฉันไม่ได้กำลังปรึกษากับแกอยู่ ถ้าแกไม่ยอมชดใช้ด้วยการขอโทษล่ะก็ ฉันจะจับแกฝังลงไป !”
เฉินตงขู่ด้วยท่าทีที่ไม่แยแสเลยสักนิด
แต่กลับทำให้ความดุร้ายในตัวของชายวัยกลางคนปะทุขึ้นมา
เขาตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น : “ทำไมต้องขอโทษด้วย ? ต่อให้ต้องตาย ฉันก็ไม่มีทางขอโทษเด็ดขาด ! ถ้าแกฆ่าฉันจริงๆ ล่ะก็ แกเองก็ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนี้ต่อไม่ได้เหมือนกัน ! พวกพี่ใหญ่ของฉัน จะต้องตามฆ่าแกไปทั่วเมืองอย่างแน่นอน !”
เฉินตงเงียบไป
แต่เจตนาฆ่าของเขายังคงรุนแรงอยู่
แต่ทันใดนั้นเอง
มีร่างร่างหนึ่งวิ่งตรงเขามาจากทางบนภูเขาที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
ทุกคนสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวนี้ได้ในทันที
เมื่อร่างคนนี้วิ่งเข้ามาอยู่ภายใต้แสงสว่าง ก็หยุดฝีเท้าลงกะทันหัน
คนที่มาคือกูหลังนั่นเอง !
ยังไม่ทันที่กูหลังจะเอ่ยปากพูดอะไร
จู่ๆ ชายวัยกลางคนที่อยู่ที่พื้นก็แววตาเป็นประกาย เขาตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ : “พี่ใหญ่ !”
มุมปากของเฉินตงกระตุก เขาเหลือบมองชายวัยกลางคนด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ จากนั้นจึงหันมองกูหลังด้วยความประหลาดใจ
บังเอิญ……ขนาดนี้เลยหรือ ?
กูหลังถูกเฉินตงจ้องมองอยู่ จนทำให้มีเหงื่อไหลออกมาทั่วตัว
เขาเดินตรงเข้ามาหาเฉินตงและชายวัยกลางคนด้วยท่าทีอึดอัดใจ
ชายวัยกลางคนเมื่อเห็นกูหลังก็รู้สึกดีใจราวกับได้เกิดใหม่ เขาหัวเราะออกมาเสียงดังและตะโกนเยาะเย้ยเฉินตง : “นี่ นี่คือหนึ่งในพี่ใหญ่ของฉัน แก แกเสร็จแน่ !”
ทันทีที่พูดจบ
กูหลังหันไปโค้งคำนับเฉินตง : “คุณเฉิน กรุณาฟังผมอธิบายก่อน”