The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 204 โจวเย่นชิวผู้ตื่นตระหนก ยาออกฤทธิ์แล้ว

บทที่ 204 โจวเย่นชิวผู้ตื่นตระหนก ยาออกฤทธิ์แล้ว

จากนั้นเฉินตงก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

คุนหลุนและกูหลังที่กำลังอยู่ในระหว่างการต่อสู้อันดุเดือด ต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก พวกเขารู้สึกโกรธแค้นจนถึงขีดสุด

“คุณชาย !”

กริชที่เดิมทีควรจะแทงเข้าไปที่หลังของฉู่เจียนเจีย แต่ในช่วงเวลาสำคัญ ด้วยการพลิกตัวกลับอย่างฉับพลันของเฉินตง ทำให้กริชแทงเข้าไปที่หลังของเฉินตงอย่างแม่นยำในทันที

ขณะที่เลือดสีแดงสดกำลังพุ่งทะลักออกมา เฉินตงพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มี เพื่อที่จะอุ้มฉู่เจียนเจียหลบออกไป

แต่ทันใดนั้นก็ถือมือขนาดใหญ่บีบเข้าที่คออย่างรุนแรง

ในขณะเดียวกัน เฉินตงก็รับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า กริชที่ปังอยู่ด้านหลังเล่มนั้นกำลังขยับอย่างรุนแรง

“ไปสิ !”

จู่ๆ ฉู่เจียนเจียซึ่งมีท่าทีเย็นชาก็ตะโกนออกมา

ผู้หญิงที่ดูบอบบางอย่างเธอ จู่ๆกลับกำหมัดแล้วต่อยเข้าไปที่หน้าของนักฆ่าอย่างแรง

นักฆ่าร้องครวญครางออกมา แล้วเดินโซเซถอยหลังไป

ตอนนี้เอง คุนหลุนและกูหลังก็วิ่งตามมาสมทบในที่สุด

“กูหลัง คุ้มกันคุณชายออกไป !”

คุนหลุนวิ่งตรงเข้าไปอย่างบ้าคลั่งราวกับสัตว์ร้าย แล้วกอดเอวของนักฆ่าจากนั้นจึงยกเขาจนตัวลอย

เขาจับนักฆ่าคนนั้นหมุน แล้วโยนไปที่กลุ่มนักฆ่าราวกับท่อนไม้

ตุ้บๆๆ…..

มีเสียงดังต่อเนื่องกันเกิดขึ้น

นักฆ่าสิบกว่าคนต่างตกตะลึงกับการต่อสู้อย่างบ้าคลั่งของคุนหลุน จนกระทั่งค่อยๆ ถอนร่นออกไป

อาศัยช่วงจังหวะนี้

กูหลังรีบแบกเฉินตงขึ้นไปบนหลัง และพาฉู่เจียนเจียวิ่งออกไปจากเทียนเก๋อ

“คุณหนูฉู่ พาคุณชายของผมไปที ผมจะคอยระวังหลังให้ !”

หลังจากวางเฉินตงลง กูหลังก็วิ่งกลับเข้าไปในเทียนเก๋อโดยไม่หันหลังกลับมามองอีก

“กูหลัง……”

เฉินตงใบหน้าซีดเผือด เขากระซิบออกมาเบาๆ อย่างอ่อนแรง

“ไป !”

ฉู่เจียนเจียกลับพูดออกมาอย่างเย็นชาเพียงแค่หนึ่งคำ พร้อมทั้งกับริมฝีปากสีแดงระเรื่อของเธอ

ร่างกายที่บอบบางของเธอ ค่อยๆ แบกเฉินตงขึ้นไปไว้บนหลังอย่างยากลำบาก จากนั้นจึงรีบวิ่งออกจากหมู่ตึกยู่ ฉวนในทันที

ตอนนี้เอง

จางหยู่หลันและคุณท่านใหญ่ตระกูลจางเองก็รีบวิ่งออกมาจากเทียนเก๋ออย่างปลอดภัย

เมื่อเห็นศพมากมายที่นอนเรียงรายอยู่บนพื้นด้านนอกเทียนเก๋อ สองปู่หลานก็รู้สึกตื่นกลัวขึ้นมาพร้อมกัน

พวกเขาหันกลับไปมองการต่อสู้อย่างดุเดือดที่กำลังเกิดขึ้นในเทียนเก๋อ

“หยู่หลัน เอาชีวิตรอดสำคัญที่สุด !”

คุณท่านใหญ่ตระกูลจางลากจางหยู่หลันวิ่งออกไปด้านนอกโดยไม่หันกลับมามองอีก

ภานในเทียนเก๋อ

คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือด

ทั้งเสียงโห่ร้องและเสียงครวญครางดังต่อเนื่องไม่หยุด

ตอนที่โจวเย่นชิวนำกำลังของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่ตึกยู่ฉวนมาถึงเทียนเก๋อ

บนพื้นก็มีศพนอนจมกองเลือดอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้โจวเย่นชิวรู้สึกขนลุกและตัวสั่นไปทั้งตัว

อีกทั้งตอนนี้ เหตุการณ์ในเทียนเก๋อดูเหมือนจะสงบลงจนเป็นปกติแล้ว

กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งเตะจมูกจนทำให้รู้สึกอยากจะอาเจียน

โจวเย่นชิวยืนนิ่ง มองเข้าไปในเทียนเก๋อด้วยความตกตะลึง ภายใต้แสงสว่างของโคมไฟ ทำให้เขาสามารถเห็นรอยเลือดที่สาดกระเซ็นอยู่เต็มไปหมด พร้อมทั้งศพที่นอนเรียงรายอยู่จำนวนมาก

เขาตัวสั่นและรู้สึกอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว

ตอนนี้เขารู้สึกราวกับว่าท้องฟ้าถล่มลงมา

โจวเย่นชิวกับฟันและกำหมัดแน่น เขาค่อยๆ เดินนำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าไปในเทียนเก๋อ

ในตาของเขามองเห็นสภาพที่น่าเวทนา

ศพจำนวนสิบกว่าศพนอนจมกองเลือดอยู่

เลือดถึงขั้นไหลออกมาเป็นกอง จนมาติดอยู่ที่เท้า

“มา ช้าขนาดนี้เลยหรือ ?”

จู่ๆ น้ำเสียงที่ฟังดูเย็นชาก็ดังขึ้น

ทำให้โจวเย่นชิวและบรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตกใจจนตัวสั่นพร้อมกัน

เมื่อหันไปมอง

มีคนสองคนกำลังนั่งพิงเสาอยู่บนพื้นดินท่ามกลางกองเลือด

ซึ่งก็คือคุนหลุนและกูหลัง

ตอนนี้ร่างกายของทั้งสองได้รับบาดเจ็บและฟกช้ำ คุนหลุนมีเลือดอาบอยู่ทั่วตัว เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ก็ขาดรุ่งริ่ง

ส่วนกูหลังมีบาดแผลอยู่ที่หน้าอกซึ่งยังคงมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด สีหน้าซีดเผือด แต่แววตากลับฉาบประด้วยประกายของความกระหายเลือด

ทั้งสองจ้องมองไปที่โจวเย่นชิวพร้อมกัน

แววตากระหายเลือด ทำให้โจวเย่นชิวรู้สึกหนาวจนขนลุก ราวกับอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง

“คุณ คุณเฉินล่ะ ?”

คุนหลุนและกูหลังหันมองหน้ากันแล้วไม่พูดอะไร

โจวเย่นชิวรู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที เขากระทืบเท้าอย่างแรง : “ไม่ ฉันไม่ได้เป็นคนทำ ! ฉันจะจัดฉากลอบฆ่าคุณเฉินแบบนี้ขึ้นมาได้อย่างไร !”

ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น โจวเย่นชิวก็รู้สึกวิตกกังวลจนน้ำเสียงของเขาสั่นเครือ

เรื่องเกิดขึ้นในหมู่ตึกยู่ฉวน นี่เป็นอาณาเขตของเขา

ถ้าไม่สามารถคลายข้อสงสัยได้ในทันที

เรื่องในคืนนี้ คงพอที่จะทำให้เขาต้องจบชีวิตลงอย่างแน่นอน !

คุนหลุนและกูหลังแสยะยิ้มออกมาแต่ก็ไม่พูดอะไร

โจวเย่นชิวคงไม่มีความกล้ามากขนาดนี้

แต่ตอนนี้ทั้งสองใช้พละกำลังที่มีไปจนหมดสิ้นแล้ว เฉินตงเองก็ถูกฉู่เจียนเจียพาตัวไปแล้ว พวกเขาจึงไม่อาจรับประกันได้ว่า หากพูดมากเกินไป จะทำให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นอีกหรือไม่

โจวเย่นชิวเกาหัวด้วยความวิตกกังวล

“ไปหา ไปหาให้เจอเดี๋ยวนี้ ! ต่อให้พวกแกต้องตาย ก็ต้องพาคุณเฉินกลับมาให้ฉันให้ได้ !”

โจวเย่นชิวหันไปมองคุนหลุนและกูหลังด้วยความโมโห : “รีบส่งพวกเขาไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ ปิดข่าวทุกอย่างให้เงียบ เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ รีบสืบสวนให้ฉันทันที !”

เหตุการณ์เกิดขึ้นในสถานที่ของเขา เขาไม่เพียงแต่จะต้องรีบคลายข้อสงสัยในตัวเขาให้หมดไปในทันทีเท่านั้น แต่เขายังต้องสืบหาความจริงให้กระจ่างเพื่อรายงานต่อเฉินตงและตระกูลเฉินอีกด้วย

โจวเย่นชิวร้อนใจจนตาแดงก่ำ เขาโกรธจนแทบอยากเอาหัวชนฝา

เพิ่งจะมอบ Tears of the Blue Sea ให้แก่เฉินตงไปหนึ่งเม็ดแท้ๆ เพียงชั่วพริบตา กลับเกิดเรื่องแย่ๆ เช่นนี้ขึ้นอีก ?

ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน

หมู่ตึกยู่ฉวนเต็มไปด้วยเหตุการณ์สยองขวัญ

ราวกับความเงียบสงบที่เกิดขึ้นก่อนที่พายุใหญ่กำลังจะมา เป็นสภาพที่กดดันจนทำให้ผู้คนรู้สึกหายใจไม่ออก

ภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงัด ระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมดภายในหมู่ตึกยู่ฉวนทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ ภายใต้คำสั่งของโจวเย่นชิว

……

บนทางหลวงในเขตชานเมือง

รถพอเชอร์911สีแดง มุ่งหน้าเข้าไปในเมืองด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า

ภายในรถมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งเต็มไปหมด

เฉินตงนั่งพิงเบาะอย่างอ่อนแรง เขาเสียเลือดไปเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่ได้ทำให้ใบหน้าของเขาซีดเผือด ในทางกลับกัน ใบหน้าของเขากลับแดงขึ้นอย่างผิดปกติ

ดวงตาของเขาเหลือบมองฉู่เจียนเจียที่กำลังมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการขับรถ

เบาะรถเปียกชุ่มไปด้วยเลือด แต่เฉินตงในตอนนี้ กลับดูเหมือนไม่รู้สึกตัวอย่างน่าประหลาด

ฉู่เจียนเจียที่สัมผัสได้ถึงแววตาที่ผิดปกติของเฉินตงที่มองมา ทำให้ท่าทีที่เย็นชาของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน

เธอเอ่ยปากพูดออกมา : “อดทนอีกนิดนะ อดทนอีกนิดเดียวก็จะถึงโรงพยาบาลแล้ว”

ต่อให้เป็นคนที่ดูเย็นชาเช่นเธอ น้ำเสียงที่พูดในตอนนี้ก็ยังเกิดความสั่นเครือขึ้นเล็กน้อย

แต่เฉินตงกลับไม่ตอบอะไรกลับมา

ฉู่เจียนเจียจึงเหลือบไปดูกระจกมองหลังด้วยความกังวลใจ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครตามมา ก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจ

ใบหน้าอันงดงามของเธอ ปรากฏความกลัวขึ้นเล็กน้อย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ช่างอันตรายเกินไปจริงๆ

ถึงขั้นอาจต้องตายอย่างอนาถในที่เกิดเหตุได้

ที่เธอยังคงประคองสติอารมณ์ให้สงบนิ่งอยู่ได้ เป็นเพราะบุคลิกส่วนตัวตั้งแต่เล็กจนโตของเธอ ประกอบกับการปลูกฝังเลี้ยงดูของครอบครัว

แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่กลัว

“ทำ ทำไม ถึงช่วยผม ?”

จู่ๆ เฉินตงก็พูดออกมาเบาๆ

ร่างกายของฉู่เจียนเจียสั่นเทา แววตาของเธอสั่นไหว เธอส่ายหัวแล้วพูดว่า : “ไม่รู้เหมือนกัน แต่สภาพของคุณในตอนนั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ฉันจึงเอาตัวเองเข้าไปขวางมีดเพื่อช่วยคุณตามสัญชาตญาณ”

“ผม ถูกวางยาแล้ว”

เฉินตงไม่ใช่คนโง่ ต่อให้เป็นเหล้าที่มีฤทธิ์รุนแรงกว่านี้ ก็ไม่สามารถทำให้เขาตกอยู่ในสภาพอย่างเช่นนี้เป็นอยู่ตอนนี้ได้

ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยดื่มจนเมา ความรู้สึกของการเมาเหล้า ต่อให้เมาจนขาดสติเขาก็รู้ดี

อาการวิงเวียนศีรษะ ขาดสติสัมปชัญญะ แขนขาอ่อนแรง

ถึงขั้นในท้องของเขาจะรู้สึกร้อนผ่าว ราวกับมีไฟลุกโชนอยู่ภายในร่างกาย จนลามขึ้นไปถึงใบหน้า

ถ้าไม่ใช่ถูกวางยาหรือถูกพิษ จะเป็นอะไรไปได้ ?

“วางยา ?”

ฉู่เจียนเจียพูดออกมาด้วยความตกตะลึง

หมับ !

ทันใดนั้น มือใหญ่ของเฉินตงก็วางลงไปบนต้นขาของฉู่เจียนเจีย

ฉู่เจียนเจียสวมเครื่องแต่งกายแบบนักธุรกิจของ OL ดังนั้นขาทั้งสองข้างของเธอ นอกจากจะมีกระโปรงคอยปิดบังเอาไว้อยู่ ก็มีเพียงแค่ถุงน่องบางๆ อีกเพียงหนึ่งชั้นเท่านั้น

ขณะที่มือใหญ่ของเฉินตงสัมผัสลงไป ทำให้หน้าของเธอถอดสีทันที เป็นความรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อต

ในขณะที่เธอกำลังตกอยู่ในอาการตกใจ ทันใดนั้น มือใหญ่ของเฉินตงก็ค่อยๆ……

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท