แชะ!
ไฟแช็กถูกจุดขึ้นซ้ำอีกครั้ง ปรากฏแสงไฟที่บุหรี่สว่างวาบ
การต้องรออยู่หน้าประตู ก็ทำได้เพียงสูบบุหรี่เพื่อคลายความเบื่อหน่ายเท่านั้น
กูหลังเหลือบมองที่เขี่ยบุหรี่ข้าง ๆ เขา ซึ่งเต็มไปด้วยก้นบุหรี่ บุหรี่หนึ่งซองถูกสูบไปจนหมดซองแล้ว และม้วนที่ถูกคาบอยู่ในปากของเขา ก็คือม้วนสุดท้ายแล้วเช่นกัน
สองชั่วโมงผ่านไป ถึงจะเป็นอาหารฝรั่งเศส ก็ควรจะกินเสร็จได้แล้วไหมนะ?
เขาหันไปมองเข้าไปในร้านอาหาร แสงไฟสวยงามส่องประกายสีเหลืองนวลจับตา ใน ร้านอาหารค่อนข้างสลัว ทั้งมองไม่เห็นบริเวณตรงกลาง
กูหลังหาวหวอด พลางเหยียดตัวบิดขี้เกียจ
ในเวลานั้นเอง จู่ ๆ เสียงเพลงในร้านอาหารก็หยุดลงแบบกะทันหัน
พนักงานต้อนรับที่นำทางเฉินตงตอนแรก เดินออกมาที่ประตู จับตัวล็อกโซ่และเตรียมล็อกประตู
กูหลังชะงักไปชั่วขณะ “พี่ชาย เจ้านายของฉันยังกินข้าวอยู่ข้างในอยู่เลยนะ ทำไมถึงจะล็อกประตูซะแล้วล่ะ?”
“เจ้านาย?”
พนักงานต้อนรับยิ้มแล้วพูดว่า “อ้อ! คุณเฉินกับคุณหนูท่านนั้น ออกไปตั้งแต่เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วแล้วล่ะครับ”
บึ้ม!
กูหลังตกใจสุดขีด ราวกับมีเสียงอะไรบางอย่างในหัวระเบิดขึ้นมา: “เป็นไปไม่ได้ ฉันนั่งรออยู่ที่หน้าประตูนี้ตลอด ไม่ไปขยับไปไหนแม้แต่ก้าวเดียว ทำไมฉันไม่เห็นพวกเขาสองคนออกมาล่ะ?”
“ต้องขออภัยด้วยครับคุณผู้ชาย พวกเขาออกทางลิฟต์ขนส่งสินค้าภายในร้านของเราไปน่ะครับ”
พนักงานตอบด้วยรอยยิ้ม ก้มหน้าแล้วล็อกประตูร้าน
ลิฟต์ขนส่งสินค้า?
มีทางออกอื่นงั้นเหรอ? !
กูหลังหยุดนิ่งอยู่กับที่ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสนงุนงง ในสมองเกิดเสียงดังกึกก้องอื้ออึงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
จะเป็นไปได้ไหมว่า…..มันเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นซะแล้ว? !
รูม่านตาของเขาค่อย ๆ หดเล็กลงจนถึงขีดสุด ความหนาวเย็นอย่างรุนแรงพลันพุ่งทะยานจากฝ่าเท้า ขึ้นไปกลางกะโหลกศีรษะอย่างน่ากลัว
แต่สิ่งที่ทำให้เขาพิศวงงงงันคือ เฉินตงไม่ใช่ว่าคอยตื่นตัว ระแวดระวังเฉินหยู่เฟยอยู่เสมอหรอกเหรอ? ทำไมไม่มาบอกกล่าวเขาสักคำ ก็จากไปตามลำพังกับเฉินหยู่เฟยซะแล้ว?
แต่อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่คำถามที่เขาควรพิจารณาในเวลานี้
กูหลังรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วกดหมายเลขของเฉินตงทันที
ไม่กี่วินาทีต่อมา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างหนัก สายนั้นไม่สามารถติดต่อได้โดยสิ้นเชิง
หรือว่า… จะเกิดเรื่องขึ้นแล้วจริงๆ!
จากประสบการณ์และสติของกูหลัง เขาก็ได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว
เขารีบโทรหาคุนหลุนอีกครั้ง
“พี่คุนหลุน ดูเหมือนว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น คุณเฉินถูกเฉินหยู่เฟยพาตัวไปแล้ว!”
กูหลังพูดว่าถูกพาตัวไปแทนคำว่าไปด้วยกัน เพราะเขารู้ดีว่าเฉินตงมีความระแวดระวังต่อเฉินหยู่เฟยมากขนาดไหน มันเป็นไปไม่ได้ที่จู่ ๆ เขาจะไปกับเธอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการไปด้วยกันเงียบ ๆ โดยไม่บอกไม่กล่าวเขาอย่างนี้ด้วย
“ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้นะ?”
ที่ปลายสาย คุนหลุนสบถด่าออกมาว่า ” บ้าเอ๊ย ! แล้วแกมัวทำอะไรอยู่หา?”
“ผม….” กูหลังหน้าแดงเห่อด้วยความละอาย
ไม่รอให้เขาได้อธิบายอะไร คุนหลุนก็พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดว่า: “รีบรายงานเรื่องนี้ให้ท่านหลงรู้ด่วนเลย ต่อให้ต้องพลิกทั้งเมือง ก็ต้องตามหาคุณชายให้พบให้ได้”
วิลล่าเขาเทียนซาน
หลังจากวางสาย คุนหลุนก็รีบไปพบท่านหลงทันที
แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดให้ฟังอีกครั้ง
ท่านหลงขมวดคิ้วมุ่น พูดด้วยน้ำเสียงหนักอึ้งเคร่งเครียด : “รีบออกตามหาทันที! คุณชายไปกับเฉินหยู่เฟย จะต้องไม่ใช่เรื่องดีอะไรอย่างแน่นอน พวกเขาต่างก็เป็นทายาทที่มีสิทธิ์สืบทอดตำแหน่ง ต่างฝ่ายต่างก็อยู่ในสถานะที่ต้องแข่งขันห้ำหั่นกันทุกด้านทำไมครั้งนี้คุณชายถึงได้ประมาทขนาดนี้?”
ในเวลานี้ทั้งคู่ไม่ได้ไปสืบหาสาเหตุ ว่าทำไมเฉินตงถึงได้อยู่ตามลำพังกับเฉินหยู่เฟย
เพราะพวกเขาต่างรู้ดีว่า ทั้งสองเป็นทายาทของตระกูลเฉิน การแข่งขันระหว่างพวกเขาก็เหมือนน้ำกับไฟ
ตอนนี้ที่เฉินตงหายตัวไปภายใต้เปลือกตาของกูหลัง นั่นแสดงว่าต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่นอน!
“อย่าบอกเรื่องนี้ให้คุณผู้หญิงรู้นะ” ท่านหลงลุกขึ้นยืน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ตามฉันไปพบท่านเมิ่งด่วน”
ทุกคนต่างทำตามลำดับคำสั่งการของท่านหลงไปทีละข้อ
ในยามค่ำ ทั่วทั้งเมืองดูเหมือนจะพลุกพล่านอลหม่านขึ้นมาอย่างผิดหูผิดตา
แต่สิ่งที่ทำให้ท่านหลงกับคุนหลุนต้องผิดหวังก็คือ หลังจากรวบรวมข่าวที่ได้มาชิ้นแล้วชิ้นเล่า ก็ยังไม่มีร่องรอยว่าจะหาตัวเฉินตงพบ!
มันเหมือนกับว่าทั้งเฉินตงและเฉินหยู่เฟย ได้จมหายลงไปในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ สูญสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย
แม้จะอยู่ภายใต้การดำเนินการของท่านเมิ่ง การค้นหาชนิดแทบจะพลิกทั้งเมืองหา ก็ยังไม่สามารถตรวจพบเบาะแสใดๆได้เลย!
หลังจากที่กูหลังสำรวจจนรอบร้านอาหาร เขาก็พบว่ากล้องวงจรปิดทั้งหมดในร้าน ถูกทำลายจนเสียหาย หรือไม่ก็ถูกบิดเปลี่ยนเส้นทางไปจนหมด
ผลลัพธ์เช่นนี้ ทำให้ท่านหลงกับคุนหลุนแทบจะคลั่งตายให้ได้แล้ว
นี่เห็นได้ชัดว่า เป็นแผนการที่ถูกคิดไตร่ตรองเอาไว้ล่วงหน้าอย่างดี
และเพราะมันเป็นแผนการที่คิดไตร่ตรองล่วงหน้ามาอย่างดีนี่แหละ ถึงทำให้ทั้งสองคนตื่นตระหนกมากขึ้นทุกขณะแบบนี้
ราวกับว่าเพียงพริบตา เบาะแสทั้งหมดก็ถูกตัดขาดไปทันที ต่อให้ท่านหลงจะแข็งแกร่งมากกว่านี้สักเท่าไหร่ เขาก็ไม่มีทางใช้มันได้อย่างเต็มประสิทธิ์ภาพอยู่ดี
รวมถึงความปลอดภัยของเฉินตง ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้อีกด้วย
ชั่วระยะเวลาหนึ่งคืน
เมืองทั้งเมืองปั่นป่วน ภายใต้การยืนกรานของท่านหลง แม้ว่าจะไม่มีผลลัพธ์ใด ๆ ก็ตาม กำลังคนทั้งหมดก็ยังคงสืบเสาะค้นหากันอย่างไม่ลดละ
ถึงขั้นที่ว่า มีการย้ายคนจากสำนักงานซึ่งทำงานอยู่ที่เมืองข้างเคียงกลางดึก เพื่อมาช่วยกันทำการค้นหาในครั้งนี้เลยทีเดียว
บนขอบฟ้า เริ่มปรากฏริ้วแสงสีขาวราวท้องปลาขึ้นทีละน้อย ๆ
ในที่สุดก็รุ่งเช้าแล้ว
ท่านหลงนั่งอยู่หน้าระเบียงอย่างอ่อนล้าอิดโรย มีโทรศัพท์มือถือหลายสิบเครื่องอยู่ตรงหน้าเขา
คุนหลุนกับกูหลังก็อยู่อีกด้านหนึ่งเช่นกัน ใบหน้าของแต่ละคนไม่อาจซ่อนความเหนื่อยล้าได้
การที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืน บวกกับการออกค้นหาเฉินตงกันอย่างหนัก ทำให้ทั้งสามคนหมดสิ้นเรี่ยวแรง ทั้งยังตื่นตระหนกจนถึงขีดสุดแล้วจริงๆ
จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีเบาะแสเงื่อนงำใด ๆ เลย
“ท่านหลง หรือว่าคุณชายจะถูก….”
คุนหลุนพึมพำอย่างสิ้นหวัง พูดได้เพียงครึ่งประโยค แต่ความหมายกลับชัดเจนในตัวของมัน
บุญคุณความแค้นของพวกตระกูลเศรษฐี ผู้มั่งคั่งร่ำรวยทั้งหลาย จุดจบของการแข่งขันแย่งชิงกันระหว่างผู้สืบทอด ไม่ว่าจะเป็นผลลัพธ์แบบไหน ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็เช่นเฉินเทียนหย่าง กับเฉินเทียนเซิงนั่นประไร เดิมทีทั้งคู่ต่างก็ใช้วิธีการที่เรียกได้ว่าโหดร้ายชนิดไร้ขีดจำกัดมาโจมตีเฉินตงไม่ใช่หรอกรึ!
ท่านหลงฝืนยิ้มอย่างขมขื่น
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง พวกเราสามคนก็เตรียมฝังศพคุณชายให้พร้อมเถอะนะ”
เพียงประโยคเดียว ระเบียงที่ปกคลุมไปด้วยแสงแดดยามเช้าที่สาดส่องมา ก็ไม่ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นนุ่มนวลอีกต่อไป
……………
ห้องพักในโรงแรม
ม่านหนาที่หน้าต่าง บดบังแสงแดดยามเช้า จนไม่อาจเล็ตรอดเข้ามาได้แม้เพียงเศษเสี้ยว
กลิ่นหอมจาง ๆ ลอยกรุ่นกระจายไปทั่วห้อง
เตียงนอนเละเทะยับย่น ทั้งยังมีเสื้อผ้าผู้หญิงกระจัดกระจายอยู่บนพื้น
เฉินตงลืมตาขึ้น หัวของเขาปวดบวม เหมือนผ่านการเมาค้างมาตลอดทั้งคืนอย่างไรอย่างนั้น
สายตาของเขากวาดมองทุกสิ่งในห้องอย่างมึนงง ความทรงจำค่อย ๆ หลั่งไหลออกมาช้า ๆ
เขาสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง แตกตื่นตกใจสุดขีด
“เมื่อคืนนี้… เฉินหยู่เฟย…”
มองดูห้องว่าง ๆ ที่มีแค่เขาคนเดียว เตียงที่เละเทะยับยู่ยี่ ดูเหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง
ทันใดนั้น เขาก็สังเกตเห็นกางเกงรัดรูปของผู้หญิงตกอยู่บนพื้น รูม่านตาพลันหดเล็กลงทันที
หรือจะเป็น…..
จู่ ๆ ความคิดที่น่ากลัวความคิดหนึ่ง ก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา
เฉินตงส่ายหัวอย่างไม่กล้าเชื่อตัวเอง: “ไม่หรอกน่า ต้องไม่ใช่แน่ ๆ…”
เขายืนขึ้นในสภาพโซซัดโซเซ รีบร้อนแต่งตัวด้วยความตื่นตระหนก
แต่หลังจากปลายหางตาเหลือบมองไปเห็นของที่ใช้แล้วในถังขยะ ในสมองเขาก็คล้ายมีระเบิดลูกใหญ่ระเบิดขึ้นอย่างกะทันหัน ราวกับว่าสมองเขามันว่างเปล่าไปชั่วขณะ ไม่เหลือขวัญเหลือวิญญาณอีกต่อไป ทรุดตัวนั่งลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง
ความแน่วแน่เพียงอย่างเดียวที่เหลืออยู่ ถูกทำลายจนป่นปี้ด้วยสิ่งของที่แสนจะสะดุดตา ซึ่งเวลานี้มันเด่นหราอยู่ในถังขยะ
เมื่อคืนนี้..……
เฉินตงหวาดวิตกอย่างมาก เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะปรากฏตัวในสภาพเช่นนี้
แต่ด้วยทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เขาถึงกับสามารถสร้างภาพต่อในสมอง เรื่องที่เฉินหยู่เฟยทำกับเขาหลังเกิดความมึนงงสับสนเมื่อคืนนี้ได้
แต่นี่ เขาจะอธิบายให้กู้ชิงหยิ่งฟังได้ยังไงกันล่ะ?
กว่าที่เขากับกู้ชิงหยิ่งจะฟันฝ่าความยากลำบากกันมา จนสุดท้ายถึงได้มาพบเจอความสุขอย่างทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทำไมจู่ ๆ ถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้นะ?
ในขณะที่นึกโทษตัวเองอยู่นั้น เฉินตงก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้นในเวลาเดียวกัน
“เฉินหยู่เฟย….”
เขากัดฟันเค้นเสียงคำรามลอดไรฟันออกมาประโยคหนึ่ง
เฉินตงควานหาโทรศัพท์มือถือของเขา ซึ่งมันถูกปิดเครื่องอยู่
ขาดการติดต่อไปทั้งคืน พวกท่านหลงคงจะตามหากันจนแทบบ้าแล้วแน่ๆ
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องรีบรายงานความปลอดภัยของตัวเองก่อน จากนั้นถึงค่อยหาเวลาคิดจัดการเรื่องราวต่อ ๆ ไป
แต่เมื่อเปิดโทรศัพท์ ก็มีข่าวด่วนข่าวหนึ่ง เด้งขึ้นมาต่อหน้าต่อตาของเฉินตง
ทันใดนั้นเฉินตงก็รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่ากลางแดดจัด ๆ มันช็อตจนสมองของเขาด้านชา ไม่รับคำสั่งอะไรทั้งสิ้น
【สุดช็อก! ซูเปอร์สตาร์เฉินหยู่เฟย ถูกลักพาตัวไปข่มขืนกลางดึก! 】