The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 292 การโต้กลับของเฉินตง

บทที่ 292 การโต้กลับของเฉินตง

ไม่ต้องการคำอธิบาย ก็เลือกที่จะเชื่อใจ

ถึงขั้นออกรับการถูกชี้นิ้วประณามและคำต่อว่าด่าทอต่างๆ แทนเขา

ทุกอย่างที่กู้ชิงหยิ่งทำ ทำให้เฉินตงรู้สึกอบอุ่น และขณะเดียวกันกับที่เขากำลังรู้สึกซาบซึ้งใจ ประกอบกับรู้สึกผิดอยู่นั้น ก็เป็นช่วงเวลาที่ปัดเป่าเมฆหมอกทั้งหมดก่อนหน้าให้สลายหายไป และแปรเปลี่ยนเป็นความตั้งใจแน่วแน่เข้ามาแทนที่

ความรู้สึกที่อ่อนโยนนับพันนับหมื่น ก็ไม่อาจเทียบกับการมีเธออยู่ได้

ตอนนี้เฉินตงเข้าใจอย่างลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง

“คนโง่ ไปทำสิ่งที่คุณสมควรจะทำเถอะ”

กู้ชิงหยิ่งพูดเบาๆ แล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย

หลังกลับออกมาจากห้องของกู้ชิงหยิ่ง

เฉินตงก็เอาแต่เลื่อนเว่ยป๋อดูไม่หยุด ความรู้สึกโกรธแค้นในใจของเขายิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

เป็นไปอย่างที่เขาคาดคิดเอาไว้จริงๆ

การสนับสนุนของกู้ชิงหยิ่งกลายเป็นรายการค้นหายอดนิยมที่พุ่งขึ้นสู่อันดับต้นๆ ด้วยความเร็วที่น่ากลัว และสามารถดึงดูดพลังมหาศาลในโลกอินเทอร์เน็ตได้ในทันที

คำพูดต่อว่าด่าทอหลั่งไหลเข้ามาราวกับสายน้ำ

บางความคิดเห็นที่แสดงออกถึงความรู้สึกซาบซึ้ง ก็ถูกต่อว่าด่าทอจนต้องรีบลบความคิดเห็นไปทันที

ภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาที มีความคิดเห็นปรากฏขึ้นมาใหม่กว่าสิบข้อความ !

ตอนนี้ทุกความคิดเห็นของประชาชนพุ่งเป้าไปที่เฉินตงอย่างชัดเจน ตลอดสามวันที่ผ่านมาเฉินตงไม่เคยตอบกลับ ยิ่งเป็นการยืนยันถึงเนื้อหาในข่าวที่เกิดขึ้นว่าเป็นความจริง

อีกทั้งการสนับสนุนของกู้ชิงหยิ่งในตอนนี้ ไม่เพียงแต่ไม่ได้รับความเข้าใจเท่านั้น แต่ยิ่งกลับเป็นการดึงดูดให้เกิดคลื่นระลอกใหม่ขึ้น

เนื่องด้วยการชี้นำของเหล่าแฟนคลับผู้คลั่งไคล้ที่สนับสนุนเฉินหยู่เฟย เหตุการณ์ในครั้งนี้จึงกลายเป็นเหมือน “งานรื่นเริง” มีน้อยคนนักที่คิดจะสืบหาต้นตอของเรื่องจริงๆ

ความรุนแรงบนโลกอินเทอร์เน็ตก็เป็นเช่นนี้เอง

ยิ่งไปกว่านั้น เนื้อหาข่าวที่นำเสนอออกมาทุกตัวอักษร ล้วนแล้วแต่มีพลังมหาศาลจนไม่อาจหาคำพูดมาหักล้างได้

สิ่งนี้ยิ่งทำให้ชาวเน็ตไม่คิดที่จะสืบหาต้นตอของเรื่องที่เกิดขึ้น

ในสายตาของพวกเขา การสนับสนุนของกู้ชิงหยิ่ง ถือเป็นการออกมาปกป้องคนใกล้ตัว โดยใช้วิธีการที่โจ่งแจ้งและไร้ยางอายในการปกป้องเฉินตง

“เสี่ยวหยิ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้องแบกรับเอาไว้ ผมจะคืนมันกลับไปให้เฉินหยู่เฟยทั้งหมด”

แววตาของเฉินตงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาออกจากเว่ยป๋อ แล้วต่อสายโทรศัพท์ไปหาฉินเย่ : “เกิดเรื่องแล้ว ถึงตาที่พวกนายต้องออกโรงแล้ว !”

หลังจากวางสายโทรศัพท์

เฉินตงนั่งลงที่โต๊ะทำงานด้วยท่าทีเคร่งขรึม

ภายในระยะเวลาสามวัน บริษัทใหญ่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของเขาทั้งหมดต่างได้รับผลกระทบไม่น้อย

ประตูใหญ่ของไท่ติ่งถูกคนทุบทำลาย

ตัวเขาเองก็ไม่ได้เข้าไปนั่งในบริษัท งานต่างๆ ล้วนแล้วแต่ทำจากที่บ้าน โดยใช้วิธีสั่งการผ่านเสี่ยวหม่าและกูหลังจากทางไกล

ภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงัด

มือทั้งสองข้างของเฉินตงกำหมัดเอาไว้แน่น จนเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมาและมีเสียงกระดูกดังกรอบแกรบ

ทันใดนั้นเอง เขาก็แสยะยิ้มมุมปาก เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ชั่วร้ายจนทำให้ต้องรู้สึกใจสั่น

ในเวลาเดียวกันนี้

ที่โรงแรมซ่างเต่าในเมืองหลวง

ซึ่งถือเป็นโรงแรมห้าดาวที่หาได้ยาก ถึงแม้จะตั้งอยู่ในเขตเมืองหลวงโบราณ แต่ก็ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง

แขกทุกคนที่ต้องการเข้าพัก จะต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเข้มงวด

ภายในห้องชุดเพรสซิเดนเชียล สวีท

เฉินหยู่เฟยซึ่งอยู่ในเสื้อคลุมนอน กำลังเอนกายอยู่บนโซฟาริมหน้าต่าง พร้อมทั้งแกว่งแก้วไวน์ที่ถืออยู่ในมือ เธอมองเห็นทิวทัศน์ทั้งหมดของเมืองหลวง ผ่านกระจกบานใหญ่ที่สูงจากพื้นจรดเพดาน

เธอล้ำค่า เธอสง่างาม และเธอไร้ซึ่งมลทิน

นี่คือสิ่งที่โลกภายนอกตัดสินเธอ

แต่ทว่าตอนนี้ ขณะที่เธอกำลังแสดงอารมณ์และท่าทางเหล่านี้ออกมา ในเวลาเดียวกัน เฉินหยู่เฟยเองกลับมีท่าทีที่ดูไม่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้ามากนัก

ท่อนขาเรียวยาวและขาวนวลเนียนของเธอค่อยๆ งอขึ้นเล็กน้อย ชายของเสื้อคลุมนอนเลื่อนขึ้น เผยให้เห็นน่องที่นวลเนียนดุจหยกของเธอ

คืนนั้นเมื่อสามวันก่อน หลังออกจากโรงแรมไท่ซาน เธอก็มุ่งหน้ากลับมายังเมืองหลวงภายในเวลาชั่วข้ามคืน แล้วเข้าพักที่โรงแรมซ่างเต่า

ภายในระยะเวลาสามวัน เธอพักอยู่ในโรงแรมตลอดเวลาโดยไม่ออกไปไหนเลยแม้เพียงก้าวเดียว

เป็นเพราะเธอรู้ดีว่า โลกภายนอกตอนนี้เกิดความโกลาหลขึ้นแล้ว

จึงไม่เหมาะที่เธอจะปรากฏตัว หากเธอปรากฏตัวขึ้น จะยิ่งเป็นการดึงดูดความสนใจของทุกคน

แน่นอนว่า โดยส่วนมากจะต้องซักถามเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเฉินตงแน่นอน

ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ การตอบของเธอในแต่ละครั้ง อาจเป็นการสร้างโอกาสรอดให้กับพวกของเฉินตง

การหลบซ่อนตัวและไม่มีการตอบสนองใดๆ ถือเป็นวิธีการตอบที่ดีที่สุด

“เฉินตงเอ๋ย เฉินตง แม้กระทั่งชื่อเสียงของตัวเองฉันก็ไม่สนใจแล้ว แล้วแกจะเอาอะไรมาสู้กับฉันได้ ?”

เฉินหยู่เฟยรู้ข้อได้เปรียบของตนเองเป็นอย่างดี เธอสู่วงการบันเทิงก็ด้วยเห็นถึงข้อได้เปรียบข้อนี้ ใบหน้าที่งดงามของเธอ ค่อยๆ เผยรอยยิ้มที่เย็นชาออกมา : “ทุกคนต่างคิดว่าฉันแค่อยากเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงของวงการบันเทิง แต่กลับไม่รู้เลยว่า นี่คือพื้นฐานที่มั่นคงของฉัน และเป็นดาบอันแหลมคมที่ฉันถืออยู่ในมือ !”

“ชื่อเสียงเล็กๆ เมื่อเทียบกับเจ้าบ้านตระกูลเฉินแล้ว ช่างเทียบกันไม่ติดเลย ! สามวันมานี้ เกรงว่าแกคงจะอับอายมากล่ะสิ ? กระแสสังคมระลอกใหญ่ขนาดนี้ รวมไปถึงการถูกชี้นิ้วประณาม คงเพียงพอที่จะทำให้แกตกลงไปในนรกได้ !”

การที่เฉินหยู่เฟยไม่ออกจากโรงแรม ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่สนใจติดตามความคิดเห็นต่างๆ

ในความเป็นจริงแล้ว ตลอดระยะเวลาสามวัน สิ่งเดียวที่พอจะเป็นความสุขสำหรับเธอก็คือ การท่องโลกอินเทอร์เน็ตเพื่อชื่นชมความคิดเห็นที่น่ากลัวของผู้คน ซึ่งเป็นผลมาจากน้ำมือของเธอ

สิ่งที่สะสมมาตลอดระยะเวลาสามวัน ทำให้กระแสสังคมในครั้งนี้ ก่อตัวจนถึงจุดที่ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้แล้ว !

เฉินหยู่เฟยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยความเคยชิน นิ้วที่เรียวยาวและนวลเนียนของเธอกดเปิดเว่ยป๋อ

แต่ทว่า หลังจากที่เห็นการค้นหายอดนิยมอันดับหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลง ดวงตาคู่งามของเธอก็เผยถึงความตกใจออกมาทันที เกิดความเย็นชาปรากฏขึ้นในแววตาของเธอ

“บัดซบ ! นังกู้ชิงหยิ่งมันบ้าไปแล้วหรือยังไง ? เธอคิดอะไรของเธออยู่กันแน่ ? เฉินตงสวมเขาให้เธอ แต่เธอยังออกมาสนับสนุนเฉินตง ?”

เมื่อกดเข้าไปดูในการค้นหายอดนิยม เฉินหยู่เฟยยิ่งดู ในใจก็ยิ่งรู้สึกโมโห

ความหนาวเหน็บแผ่ซ่านออกมาจากทั่วทั้งตัวของเธอ หางตาของเธอกระตุกเล็กน้อย

พักใหญ่

จู่ๆ เฉินหยู่เฟยก็หัวเราะ “ก๊าก” ออกมา : “นังผู้หญิงหน้าโง่ แกออกรับแทนเฉินตงเช่นนี้ ก็ทำได้แค่ช่วยถ่วงเวลาตายให้กับเขาได้เท่านั้น คิดจริงๆ หรือว่าการสนับสนุนโง่ๆ เช่นนี้ จะสามารถช่วยเหลือเขาได้จริงๆ ?”

เธอดื่มไวน์ที่อยู่ในแก้วจนหมดในคราวเดียว

ท่าทางของเฉินหยู่เฟยดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย

เธอลองกดรีเฟรชเว่ยป๋อใหม่อีกครั้ง แล้วหันไปรินไวน์เพิ่มอีกหนึ่งแก้ว

ในสายตาของเธอ การสนับสนุนของกู้ชิงหยิ่งถือเป็นเรื่องที่โง่เขลาและไร้สาระ แต่กลับยิ่งทำให้ละครเรื่องนี้ดูน่าสนุกขึ้น และนั่นทำให้เธอสมควรที่จะดื่มอีกหนึ่งแก้ว

แต่ทว่า

ในระหว่างที่เฉินหยู่เฟยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้ง

ตัวของเธอก็สั่นอย่างกะทันหันราวกับถูกไฟฟ้าช็อต

แก้วไวน์ที่ถืออยู่หลุดจากมือ และส่งเสียงแตกกระจายอยู่บนพรมเปอร์เซียอันล้ำค่า

ไวน์สีแดงสดเจิ่งนองไปทั่วพื้น

แต่ทว่าใบหน้าของเฉินหยู่เฟยในตอนนี้เต็มไปด้วยความตกใจ แววตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ไปได้ ? นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่ ? ใครเป็นคนทำเช่นนี้ ?”

คำถามมากมายผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ถึงขนาดทำให้คนที่มีฐานะและได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดีเช่นเธอ ก็ยังอดที่จะสบถออกมาไม่ได้

ขณะที่เธอกดรีเฟรชเว่ยป๋อใหม่อีกครั้ง หัวข้อที่สะดุดตาอย่างยิ่งก็ปรากฏขึ้นมาตรงการค้นหายอดนิยมในตอนนี้ !

【ช็อก!เฉินหยู่เฟยต้องการเลื่อนขั้น จึงใช้วิธีสกปรก !】

หัวข้อที่ฟังดูเรียบง่ายและหยาบคาย แต่กลับทรงพลังราวกับระเบิดนิวเคลียร์

ใบหน้าอันงดงามของเฉินหยู่เฟยแดงก่ำด้วยความโมโห ตัวของเธอสั่นเทา

เธอแน่ใจว่านี่ เป็นหัวข้อที่เพิ่งปรากฏขึ้น !

ทันใดนั้นเอง

ปลายนิ้วของเฉินหยู่เฟยสั่นเล็กน้อยด้วยความโมโห แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ และรีบกดรีเฟรชใหม่อีกครั้ง

ดวงตากลมโตคู่งามของเฉินหยู่เฟยในตอนนี้เต็มไปด้วยความดุร้าย ดูราวกับอยากจะกินคน

หัวข้อเมื่อครู่ จากการกดรีเฟรชในครั้งนี้ ได้พุ่งทะยานขึ้นมาถึงสิบอันดับ !

“บัดซบ ! นี่มันจงใจแกล้งฉัน นี่มันเป็นการใส่ร้ายป้ายสีกันชัดๆ !”

เฉินหยู่เฟยกัดฟันแล้วก่นด่า จากนั้นจึงกดเข้าไปดูในหัวข้อ

ทั้งข้อความและรูปภาพ ปรากฏขึ้นมาให้เห็นในทันที

เฉินหยู่เฟยรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่าอย่างรุนแรงตอนกลางวันแสกๆ

ทุกๆ ตัวอักษรในเนื้อหาราวกับมีด ถูกเขียนเอาไว้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน จนถึงขั้นเรียกได้ว่าไร้ยางอาย

ส่วนรูปภาพนั้นถูกถ่ายไว้ในตอนกลางคืน แต่ละภาพล้วนแล้วแต่เป็นเงาเบลอๆ ไม่ชัดเจน มีเพียงภาพที่มองจากด้านข้างใบเดียวเท่านั้นที่ดูจะชัดเจนที่สุด

แต่เฉินหยู่เฟยรู้ดีว่า นี่คือการใส่ร้ายป้ายสี !

เธอมีตระกูลเฉินคอยหนุนหลังอยู่ เป็นไข่มุกเม็ดงามที่อยู่ในมือของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน การเลื่อนขั้นในวงการบันเทิงภายในระยะเวลาหนึ่งปีของเธอ แทบจะไม่ต้องคอยเอาใจใครเลย !

“กรี๊ด !”

เฉินหยู่เฟยดูราวกับคนเสียสติ เธอกวาดขวดไวน์แดงและแก้วไวน์ที่อยู่บนโต๊ะเล็กๆ ข้างเธอหล่นลงไปบนพื้น

ดวงตาคู่งามของเธอดูโกรธเกรี้ยวราวกับสัตว์ร้าย เธอกัดฟันแล้วพูดว่า : “เฉินตง นี่แกคิดที่จะสาดน้ำสกปรกมาใส่ฉันเพื่อใส่ร้ายฉัน คิดที่จะดึงฉันให้พังพินาศไปพร้อมกับแกด้วยใช่ไหม ?

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท