The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 304 ลอบฆ่า!

บทที่ 304 ลอบฆ่า!

คำตอบที่เย็นชาไม่แยแส ทำให้คุณท่านใหญ่หลี่ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นถึงกับตะลึงค้าง

เขาเงยหน้าขึ้นมองเฉินตงที่กำลังเดินห่างออกไปทุกที ๆ พลางร้องไห้: “ตงเอ๋อ ตาเป็นถึงขนาดนี้แล้ว หลานไม่คิดว่าเราเป็นสายเลือดเดียวกันบ้างเลยเหรอ ? ฉันเป็นพ่อของแม่เธอ เป็นตาของเธอนะ! ตระกูลหลี่ในเวลานี้ มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้นแล้วที่จะช่วยได้!”

“หุบปาก!”

เฉินตงพลันบังเกิดจิตสังหาร หันหน้ากลับมาแบบกะทันหัน: “เป็นสายเลือดเดียวกันงั้นเหรอ! ตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา คุณเคยคิดถึงมันบ้างมั้ยล่ะ ? หรือลืมไปแล้วว่าแม่ต้องลำบาก ต้องทนทุกข์ทรมานขนาดไหน จากน้ำมือของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อแท้ ๆ น่ะหา?!”

“ถ้าฉันไม่คิดถึงไอ้คำว่าสายเลือดเดียวกันนี่ล่ะก็ ฉันคงอดใจไม่ไหว แล้วฆ่าคุณให้ตายกับมือตัวเองไปนานแล้ว!”

“รีบไสหัวกลับไปเมืองหลวงให้พ้น ๆ หน้าฉันเดี๋ยวนี้ ถ้าขืนยังมารบกวนฉันอีกล่ะก็ กะอีแค่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดกระจิริดแค่นี้ ฉันก็จะไม่นับมันแล้ว!”

เฉินตงหันกลับไปอย่างแน่วแน่ แล้วก้าวเดินยาว ๆ จากไป

เมื่อตอนที่พ่อกลับไปตระกูลเฉิน เขาทิ้งทุนไว้มากมายให้กับแม่ ด้วยความสามารถของแม่ ไม่ต้องพูดถึงการทำให้บริษัทมีความเจริญรุ่งโรจน์มากขึ้น แค่การรักษาธุรกิจเอาไว้ก็ยังถือได้ว่ามากเพียงพอแล้วด้วยซ้ำ

แล้วตระกูลหลี่ล่ะ?

แค่บังคับแย่งชิงไปไม่ว่า ถึงขั้นที่ไม่ต้องการให้แม่ทำอะไรได้สำเร็จ จึงวางแผนการล้อมโจมตีแบบลับ ๆ ชนิดไม่เหลือที่ให้หายใจ

บีบบังคับพวกเขาสองคนแม่ลูก ให้ตกลงไปในห้วงเหวลึกอย่างโหดร้าย

ยี่สิบปีที่แล้ว ตระกูลหลี่ไม่เคยสนใจว่าแม่จะเป็นตายร้ายดียังไง ยี่สิบปีต่อมา เขาได้กลายเป็นตัวตนที่ตระกูลหลี่ไม่สามารถปีนป่ายไขว่คว้าถึงได้ไปแล้ว!

เหตุในอดีต ผลของวันนี้ นี่แหละคือผลกรรมที่สาสมที่สุด!

“ตงเอ๋อ ตงเอ๋อ….”

คุณท่านใหญ่หลี่ร้องไห้ฟูมฟาย คลานเข่ากระเสือกกระสนพยายามไล่ตามเฉินตงไป

“พ่อ พ่อใจเย็น ๆ ก่อน พ่อใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ”

หลี่เต๋อซานรีบลุกขึ้น พยายามประคองคุณท่านใหญ่หลี่อย่างสุดความสามารถ จ้องมองเฉินตงที่กำลังเดินห่างออกไป: “เจ้าเดรัจฉานอกตัญญูนี่ มันถึงกับคิดจะฆ่าพ่อแล้วด้วยซ้ำ ทำไมพ่อถึงยังต้องไปก้มหัวขอร้องมันขนาดนี้ด้วย?”

“กลับบ้าน พวกเรากลับบ้านเถอะ!” หลี่เต๋อซานรู้สึกเจ็บปวดใจ ขณะที่เห็นพ่อร้องไห้อย่างสิ้นหวัง

แม้ว่าเขาจะโกรธมาก แต่เขาก็รู้ดีว่า พ่อของเขากำลังทำเช่นนี้เพื่อปูเส้นทางในอนาคต รวมไปถึงพยายามหาที่พักพิงสำหรับคนตระกูลหลี่ทั้งตระกูล!

แต่ในฐานะคนเป็นลูก เขาทนรับมันไม่ได้จริง ๆ

“พรุ่งนี้เรากลับเมืองหลวงกัน ต่อให้ตระกูลหลี่ต้องจบสิ้นลง ก็จะไม่ยอมให้พ่อต้องมาโดนดูถูกขนาดนี้แล้ว!”

หลี่เต๋อซานช่วยพยุงคุณท่านใหญ่หลี่ขึ้นรถ แล้วตามขึ้นรถไปทีหลัง

เบนท์ลีย์หันหัวหลังกลับ พุ่งทะยานลงจากภูเขาไป

“คุณชาย พวกนั้นไปแล้วครับ” คุนหลุนหันกลับไปมองแวบหนึ่ง

เฉินตงพยักหน้าอย่างเฉยเมย: “ทำฉันคลื่นไส้เป็นบ้า”

คุนหลุนนิ่งเงียบไม่พูดจา แค่เดินตามหลังไปอย่างใกล้ชิด

ตกดึกสงัด

กลับไปยังห้องเพรสซิเดนสูทของโรงแรมไท่ซาน

ตาของคุณท่านใหญ่หลี่เป็นสีแดงก่ำ นั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางเหม่อลอย

หลี่เต๋อซานนั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยสีหน้าง่วงงุนเต็มที่ แม้ว่าเปลือกตาของเขาแทบจะปิดเพราะความง่วงมากแค่ไหน เขาก็ยังไม่กล้าไปนอนก่อน

หลังกลับมาจากเขตวิลล่าเขาเทียนซาน

คุณท่านใหญ่หลี่ก็นั่งอยู่ตรงนี้ตลอดเวลา

เจ้าบ้านตระกูลหลี่ผู้สง่างาม ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นยักษ์ใหญ่ในเมืองหลวง

จวบจนอายุมากขนาดนี้แล้ว ถึงกับยอมทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมด แล้วคุกเข่าให้เด็กรุ่นหลัง

นี่ถือเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่โจมตีความภาคภูมิใจของเขา!

หลี่เต๋อซานกังวลว่าพ่อของเขาจะทนรับไม่ไหว จนทำเรื่องโง่ ๆ ลงไป เขาจึงอยู่ข้าง ๆ พ่อตลอด

อาการง่วงนอน จู่โจมเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่า

เปลือกตาเริ่มหนักเหมือนมีเหล็กมากดทับ เอาแต่จะปิดเองอย่างควบคุมไม่ได้

หลี่เต๋อซานหยิกต้นขาตัวเองแรง ๆ ความเจ็บปวดนั้นทำให้เขารู้สึกมีสติขึ้นมาหลายส่วน

มองดูเวลาตอนนี้ ก็ปาเข้าไปตีสองแล้ว

เขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า: “พ่อ พักผ่อนเถอะครับ”

ท่านใหญ่หลี่ไม่ขยับ เพียงฝืนกะพริบเปลือกตาที่บวมช้ำเบา ๆ

หลี่เต๋อซานจนใจทำอะไรไม่ถูก ทั้งเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ได้แต่ถูใบหน้าเพื่อทำให้ตัวเองมีสติ

เขาไม่กล้านอนจริงๆ

เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ และความง่วงก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

แม้แต่การหยิกต้นขากับถูใบหน้า ก็ไม่สามารถหยุดอาการง่วงนอนได้

ในที่สุด เปลือกตาของหลี่เต๋อซานก็ปิดลงโดยไม่รู้ตัว ความง่วงเข้าจู่โจมโหมกระหน่ำ

คร่อก!

เสียงเบา ๆ เสียงหนึ่งดังขึ้น

ในห้องที่เงียบสงัด เป็นเหมือนดั่งเสียงฟ้าร้องอันดุดันกัมปนาท

หลี่เต๋อซานตัวสั่น ลืมตาตื่นขึ้นมาในทันใด

ทันทีที่เขาลืมตาขึ้นมา เขาก็จ้องไปที่คุณท่านใหญ่หลี่ที่อยู่ตรงหน้าเขา

แต่เมื่อมองไปเห็น ในหัวก็เกิดเสียงระเบิดดัง “บึ้ม” ขึ้นมาอย่างน่ากลัว การเคลื่อนไหวพลันกลายเป็นดุร้ายเกรี้ยวกราดขึ้นมาทันที

“พ่อ!”

เสียงร้องไห้อันเศร้าโศกชวนเวทนา ดังขึ้นอย่างฉับพลัน

ในเวลานี้ คุณท่านใหญ่หลี่ได้ล้มลงบนเก้าอี้ไปแล้ว ดวงตาแดงก่ำคู่นั้นเบิกกว้าง

มีกริชเล่มหนึ่งปักคาอยู่ที่ตำแหน่งหัวใจของเขา เลือดสด ๆ ไหลพุ่งออกมาเหมือนกับน้ำพุตามร่องเลือดที่กริชปักลงไป

อาบย้อมไปทั่วพื้น รวมถึงทุกสิ่งรอบตัวคุณท่านใหญ่หลี่จนเป็นสีแดงฉาน

เป็นฉากนองเลือดที่น่าสะพรึงกลัวมากฉากหนึ่ง

แทบจะทำให้หลี่เต๋อซานเป็นลมไป

แต่สัมปชัญญะที่ยังเหลืออยู่ ทำให้เขารีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว

ด้วยสายตาที่ดุดันกราดเกรี้ยว เขารีบมองค้นหาไปรอบ ๆ

เขาแน่ใจว่าตัวเองตื่นทันทีที่ได้ยินเสียง ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ แค่นี้ ฆาตกรต้องยังอยู่ที่นี่แน่!

“หยุดนะ!”

ทันใดนั้น หลี่เต๋อซานก็ตะโกนอย่างโกรธจัด

ประตูห้องกลับถูกเปิดค้างไว้ครึ่งหนึ่ง เขาเห็นเงาร่างร่างหนึ่งพุ่งทะยานออกไป

หลี่เต๋อซานรีบไล่ตามออกไปด้วยความโกรธแค้น ความแค้นที่ฆ่าพ่อไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันได้ ในเวลานี้ ไม่ว่าอะไรเขาก็ไม่กลัวทั้งนั้น

แต่เมื่อเขาตามไปจนถึงประตูหน้า

ทันใดนั้น ตรงหน้าก็พลันมืดลงอย่างทันหัน

พลั่ก!

ฝ่าเท้าหนัก ๆ ข้างหนึ่ง เตะเข้าที่กลางหน้าอกของเขาอย่างดุดัน ทำให้เขาถึงกับกระเด็นกลิ้งกลับเข้าห้องไปตรง ๆ

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง น้ำเสียงเย็นชาเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“ไม่ยอมไสหัวกลับเมืองหลวง งั้นก็สมควรตาย ๆ ไปซะ!”

หลี่เต๋อซานล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรง แต่เจ้าตัวไม่สนใจความเจ็บปวด รีบเงยหน้าขึ้นแล้วมองออกไปที่ด้านนอกประตู

แต่แม้กระทั่งเงาผีสางที่ไหน ก็หายไปจนหมดไม่มีเหลือแล้ว

แต่เสียงเมื่อครู่นี้ เป็นเสมือนเสียงฟ้าร้องกึกก้องกัมปนาท ฟาดเข้ากลางใจจนทำให้เขาอกสั่นขวัญหาย

“ไอ้สารเลวเอ้ย…ไอ้สารเลวน่าตายนั่น….”

หลี่เต๋อซานกัดฟันกรอด พยายามฝืนลุกขึ้นแล้ววิ่งตามไปที่ประตู

ทางเดินที่เปิดไฟสว่างจ้า กลับว่างเปล่าไม่เห็นแม้แต่เงาของใครแม้แต่คนเดียว

เป็นความหวาดกลัวที่จมดิ่งยาวนาน บาดลึกแทรกซึมในใจอย่างเงียบงัน

หลี่เต๋อซานตะลึงค้างอยู่ในภวังค์ คำพูดนั้นยังดังก้องวนเวียนซ้ำ ๆ อยู่ในสมองไม่หยุด

เขาหันกลับมาอย่างเชื่องช้า ก้าวเดินโซซัดโซเซไปตรงหน้าคุณท่านใหญ่หลี่ ผู้ที่หมดลมหายใจไปนานแล้ว

ตึง!

หลี่เต๋อซานคุกเข่าลงกับพื้น พาดสองมือลงบนหัวเข่าของร่างไร้วิญญาณของคุณท่านใหญ่หลี่ แล้วเริ่มร้องไห้โฮอย่างหมดท่า: “พ่อ … ”

เสียงร้องไห้นั้นดังสะท้านสะเทือน สะท้อนโศกนาฏกรรมอันน่าสลดหดหู่

ในห้องสวีทหรู อาบย้อมไปด้วยเลือดเจิ่งนอง

ศพของคุณท่านใหญ่หลี่เย็นลงอย่างรวดเร็ว ยกเว้นเพียงดวงตาแดงก่ำคู่นั้นที่ยังคงเบิกกว้าง มองค้างไปที่เพดาน ปากอ้าเปิดเล็กน้อยราวกับว่าเขาไม่เต็มใจรับความตายนี้

เพียงไม่นาน เสียงร้องไห้ก็ดึงดูดผู้คนภายในโรงแรมทั้งหมด

หลังเสียงหวีดร้องด้วยความแตกตื่นตกใจดังต่อเนื่องกัน ไม่นานในห้องก็เต็มไปด้วยผู้คน

ทุกสายตาต่างจ้องมองไปที่หลี่เต๋อซานด้วยความแตกตื่น

หลี่เต๋อซานตัวสั่นเทิ้ม ร้องไห้โฮไม่ต่างจากเด็กเล็ก ๆ เป็นภาพที่น่าอนาถชวนสังเวชใจอย่างยิ่ง

เขาคิดไม่ถึงเลยสักนิด ทั้งที่ป้องกันอย่างเต็มที่ แค่เพราะความง่วงเพียงชั่วขณะ สุดท้ายกลับยังปล่อยให้เรื่องร้ายแรงแบบนี้เกิดขึ้นจนได้

สิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงยิ่งกว่านั้นก็คือ พ่อไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่เป็นการถูกคนอื่นลอบฆ่าจนตาย!

หลี่เต๋อซานเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวัง เจ็บปวดใจเหลือจะเอ่ย

เขาร้องไห้ไปพลางพร่ำเพ้อไม่หยุดว่า: “พ่อ… พวกเราไม่น่ามาที่นี่เลย ไม่น่ามาที่นี่เลย. … ความแค้นนี้! ต่อให้ตระกูลหลี่ต้องจ่ายค่าตอบแทนมากเท่าไหร่ ผมก็จะแก้แค้นให้พ่อให้ได้! ”

เขาปาดน้ำตาบนใบหน้าอย่างรุนแรง

เพียงชั่วพริบตา หลี่เต๋อซานก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นดุร้ายเกรี้ยวกราด

“ไม่ยอมไสหัวกลับเมืองหลวง งั้นก็สมควรตาย ? จะมีสักกี่คนที่พูดอะไรแบบนี้ได้?”

“ชั่วร้ายเลวทราม! ถึงกับฆ่าญาติผู้ใหญ่! แกช่างขวัญกล้าบังอาจซะจริงนะ! ไม่กลัวบาปกลัวกรรมสักนิดเลยรึไง? แกไม่กลัวถูกฟ้าผ่าบ้างเลยรึไง!?”

หลี่เต๋อซานค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างเชื่องช้า ประโยคอันคุ้นหูเมื่อครู่ เป็นประโยคที่เขาเพิ่งได้ยินกับหูเมื่อไม่นานมานี้ ที่เฉินตงได้พูดตรงหน้าบ้านพักเขตวิลล่าเขาเทียนซานนั่นเอง

เดิมทีเขาคิดว่ามันคงเป็นแค่คำขู่ แต่คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าแค่ผ่านไปคืนเดียว มันจะกลายเป็นความจริงไปซะแล้ว

ที่เมื่อครู่เฉินตงกล้าพูดแบบนั้นออกมา ย่อมไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยอีกต่อไป

ใช่แน่!

เดิมทีเขาไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรเลย เมืองนี้เป็นที่ถิ่นของเขา เป็นเหมือนสวนหลังบ้านด้วยซ้ำ เขายังต้องกังวลอะไรอีกล่ะ?

หลี่เต๋อซานกัดฟันกรอด ชั่วขณะนั้น ในใจก็บังเกิดจิตสังหารพุ่งทะยานขึ้นมา ใบหน้าปรากฏร่องรอยความบ้าคลั่งกระหายเลือด

“ต่อให้ต้องใช้ทุกอย่างของตระกูลหลี่ทุ่มลงไปจนหมดตัว ฉันก็จะฆ่าแกให้จงได้ จะถลกหนังป่นกระดูกแกให้แหลกเป็นผุยผง!”

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท