The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา – บทที่ 309 ทุกย่างก้าวคือการลอบฆ่า

บทที่ 309 ทุกย่างก้าวคือการลอบฆ่า

อากาศดูคล้ายจะหยุดนิ่งลง ณ ชั่วเวลานั้น

รอบด้านล้วนเงียบสนิท

พระอาทิตย์ส่องแสงเป็นประกาย

ลมพัดแผ่วโชยเอื่อย แต่กลับมีเพียงเสียงกรอบแกรบของใบไม้

ผั๊วะ!

จู่ๆ คุนหลุนก็ยกเท้าขวาขึ้น แล้วเตะหินโมเสกที่วางประดับเรียงรายอยู่บนพื้นจนหลุดออก

จากนั้น ภายใต้สายตางุนงงของเฉินตงที่จ้องมองอยู่

คุนหลุนก็ก้มตัวลงไปหยิบหินขึ้นมาก้อนหนึ่ง แล้วขว้างมันไปทางประตูคฤหาสน์อย่างแรง

ภายใต้แรงขว้างอันมหาศาล ก้อนหินนั้นถึงกับส่งเสียงหวีดหวิว เกิดเป็นเสียงลมขณะที่มันลอยผ่านอากาศไป

นั่นทำให้เฉินตงตกใจระคนงุนงงมาก

แต่แล้ว ในตอนที่หินก้อนกำลังจะลอยไปถึงประตูคฤหาสน์นั่นเอง

การเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติ ก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

วี้ดดดดดดด!

ที่กลางอากาศ จู่ ๆ ก็เกิดเสียงหวีดแหลมดังเสียดแทรกขึ้นมาจนแสบแก้วหู

เสียงหวีดแหลมนั้นสับสนสะเปะสะปะ ทำให้ยากต่อการจับทิศทางที่เป็นต้นเสียงได้

แต่ในชั่วพริบตานั้น ก้อนหินที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศก็แตกออกเป็นสองเสี่ยง แล้วตกลงสู่พื้น

“นี่มันสถานการณ์บ้าบออะไรกันเนี่ย!?”

เฉินตงสีหน้าเปลี่ยนอย่างหนัก อดร้องอุทานออกมาไม่ได้

หลังจากพูดจบ หัวใจของเขาก็เต้นกระหน่ำรัวเร็วราวลั่นกลอง เรียกได้ว่าเหมือนหัวใจแทบจะกระเด็นออกจากอกได้อยู่แล้ว

แม้จะอาศัยสติที่แน่วแน่มั่นคงอยู่เสมอของเขา ในเวลานี้ก็ยังยากที่จะควบคุมอารมณ์ได้

หากไม่ใช่เพราะคุนหลุนเรียกให้เขาหยุดแล้วล่ะก็ เมื่อครู่เขาคงจะเดินเข้าไปทั้งอย่างนั้นแล้ว

และเมื่อพิจารณาจากตำแหน่งความสูงที่ก้อนหินแตก ก็พบว่ามันอยู่ตรงตำแหน่งมุมคอของเขาพอดิบพอดีอีกด้วย

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ถ้าเมื่อครู่นี้เขาเดินเข้าไป คอของเขาก็จะเป็นเหมือนหินก้อนนั้น คือถูกบั่นจนขาดสะบั้น หัวกับตัวปลิวออกจากกันไปคนละทิศคนละทาง!

เพราะถึงยังไง คอของเขาก็ไม่ได้แข็งไปกว่าก้อนหินแน่ ๆ!

ก่อนหน้านี้ ก็เพิ่งเจอการลอบฆ่าจากชายชราคนนั้น

ตอนนี้พอกลับถึงบ้าน แม้แต่ประตูหน้าบ้านก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว

ทุกย่างก้าวคือการลอบฆ่าอย่างแท้จริง!

เฉินตงอกสั่นขวัญผวาไปหมดแล้ว

เขาพอจะเดาได้ว่ามันจะต้องอันตรายมาก แต่กลับคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าสถานการณ์จะเป็นแบบนี้

คุนหลุนถอนหายใจหนัก ๆ เฮือกหนึ่ง สีหน้าหนักอึ้งเคร่งเครียด แววตาลึกล้ำค่อย ๆ เดินไปที่ประตูอย่างระมัดระวัง

เฉินตงตามหลังเขาไปติด ๆ

เขาเห็นคุนหลุนหยุดอยู่ตรงหน้าประตู แล้วยกมือทั้งสองข้างขึ้นไปสัมผัสอะไรบางอย่างที่อยู่กลางอากาศอย่างแผ่วเบา

ภาพฉากนี้ เป็นอะไรที่ดูแล้วตลกพิลึก

แต่เวลานี้ เฉินตงกลับหัวเราะไม่ออกโดยสิ้นเชิง

“เจอแล้วครับ!”

จู่ ๆ คุนหลุนก็ขมวดคิ้วมุ่น

“อะไรรึ?”

เฉินตงขมวดคิ้วมองที่มือขวาของคุนหลุน คล้ายว่าเขากำลังบิดอะไรบางอย่างอยู่ แต่กลับมองเห็นไม่ชัด

คุนหลุนยิ้มน้อย ๆ พลางบิดนิ้วชี้กับนิ้วโป้งมือขวาเข้าหากัน

ภายใต้แสงอาทิตย์ที่สาดส่อง ปรากฏแสงเย็น ๆ สายหนึ่ง สะท้อนวูบขึ้นมากลางอากาศในชั่วพริบตา

หัวใจของเฉินตงถึงกับกระตุกอย่างรุนแรง เขามองเห็นแล้ว มันคือด้ายเส้นหนึ่งที่เล็กและบางอย่างยิ่ง!

“คุณชายครับ สิ่งนี่เรียกว่าเซอร์คัมเฟลกซาครับ ”

คุนหลุนอธิบายช้า ๆ ว่า “มันบางละเอียดเหมือนดั่งเส้นผม แต่ยืดหยุ่นได้มากกว่า คมดุจเกล็ดปลา สามารถสะบั้นทั้งทองและหินให้แตกหักได้ เป็นอาวุธลับที่มีกลไกแบบพิเศษที่นักฆ่านำมาใช้ เซอร์คัมเฟลกซาชนิดนี้พบเห็นได้ยาก ถึงขั้นพูดได้ว่ามันเป็นอาวุธล่องหนที่สามารถฆ่าคนได้ก็ไม่เกินจริงเลยทีเดียว”

“แล้วนาย……”

เฉินตงมองคุนหลุนด้วยความงุนงงสงสัย ระคนประหลาดใจ

ไม่รอให้เขาพูดจบ คุนหลุนก็ชี้ไปที่โคนต้นไม้เล็ก ๆ ในคฤหาสน์ต้นหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกล แล้วยกยิ้มประหลาด: ” ตอนที่องค์กรhidden killersในดาร์กเว็บประกาศภารกิจ ผมก็ไล่ทำเครื่องหมายเพื่อพิสูจน์ร่องรอยเอาไว้ทุกแห่งจนทั่วคฤหาสน์แล้ว กระทั่งนอกคฤหาสน์ผมก็ทำไว้ด้วยส่วนหนึ่งเหมือนกัน”

“ต้นไม้เล็ก ๆ ต้นนั้นถูกผมป้ายปูนขาวเอาไว้ชั้นหนึ่ง คุณชายลองสังเกตดูดี ๆ สิครับ มันมีช่องว่างของปูนขาวที่ปรากฏบนลำต้นแล้วใช่ไหมล่ะครับ?”

เฉินตงมองดูอย่างละเอียดลึกซึ้งอีกครั้ง รอยปูนขาวกระจายตัวอย่างสม่ำเสมออยู่บนลำต้น ในที่สุดเขาก็มองเห็นช่องว่างเล็ก ๆ ที่ว่านั้นได้จริง ๆ เป็นช่องว่างที่น่าจะมีขนาดหนาแค่พอ ๆ กับนิ้วก้อยของเขาเท่านั้น

ถ้าไม่สังเกตดูอย่างละเอียดถ้วนถี่เป็นพิเศษ ก็จะไม่สามารถตรวจพบได้เลย

“กลไกของอาวุธลับอยู่บนต้นไม้นั่น”

คุนหลุนเดินตรงไปที่ต้นไม้ต้นเล็กนั้นอย่างมั่นใจ จากนั้นก็พุ่งปราดขึ้นไปด้วยพลังที่น่าทึ่งราวสัตว์ป่า แล้วกระแทกฝ่ามือเข้ากับลำต้นโดยตรง ด้วยกระบวนท่าปล่อยแรงปราณที่บีบอัดจนแน่นออกไป

สิ่งที่ตามมากับเสียงกระแทกที่ทึบ ๆ แต่หนักแน่นนั้น คือใบจากต้นไม้เล็ก ๆ ต้นนั้นต่างพากันร่วงหล่นโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง

เคร้ง ๆ ๆ …

กล่องโลหะใบหนึ่งที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับกำปั้น ก็ร่วงตกลงมาบนพื้นเสียงดังสนั่น

คุนหลุนหยิบกล่องโลหะใบนั้นขึ้นมา แล้วยื่นไปตรงหน้าเฉินตง “ก็คือสิ่งนี้นี่แหละครับ”

พูดพลาง เขาก็ชี้ไปที่ต้นไม้อีกต้นที่อยู่ไม่ไกลกันนัก: “ตรงนั้นยังมีอีกใบ”

เฉินตงมองดูกล่องโลหะในมือ เจ้ากล่องกลใบนี้ถ้าเทียบกันจริง ๆ มันมีขนาดที่เล็กกว่ากำปั้นผู้ใหญ่เกือบครึ่งเห็นจะได้ มีลักษณะแบนคอดกิ่วเหมือนแผ่นดิสก์ขนาดเล็ก ถ้าต้องอธิบายออกมาเป็นคำพูด มันดูเหมือนกล่องเป่าฟองสบู่ยักษ์ตอนที่เขาเป็นเด็กไม่มีผิด

และในรูเล็ก ๆ ด้านข้างกล่อง มีเซอร์คัมเฟลกซาร้อยเชื่อมต่อกันยาวเป็นเส้นเดียว แต่เนื่องจากกล่องถูกคุนหลุนกระแทกจนร่วงลงมาจากต้นไม้ ทำให้ตอนนี้เจ้าเซอร์คัมเฟลกซานั่นไม่ได้ร้อยต่อกันจนตึงแน่นแล้ว แต่ร่วงตกลงพื้นไปแทน

ในเวลานั้นเอง คุนหลุนก็ไปเก็บกล่องโลหะอีกใบหนึ่งลงมาเรียบร้อย

หลังจากเดินไปหยุดตรงหน้าเฉินตงแล้ว เขาก็พูดขึ้นว่า “คุณชาย ขอกล่องโลหะนั่นให้ผมด้วยครับ”

หลังได้รับกล่องโลหะในมือของเฉินตงมาแล้ว คุนหลุนก็ถอยหลังไปสามก้าว แล้วหยิบเหล็กเดือยปลายแหลมที่ทหารใช้ออกมาจากช่วงเอว หลังวางกล่องโลหะทั้งสองใบลงบนพื้น เขาก็ใช้เหล็กเดือยปลายแหลมนั้น จ้วงเข้าไปตรงบริเวณรูเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงส่วนหน้าของกล่องใบหนึ่ง

เปรี๊ยะ!

ปรากฏเสียงหวีดหวิวกลางอากาศ ดังตามหลังเสียงบางอย่างที่แตกหักขึ้นมาติด ๆ

เซอร์คัมเฟลกซาทั้งหมด ต่างม้วนตัวกลับเข้าไปในกล่องโลหะอีกใบหนึ่งทันที

คุนหลุนหยิบกล่องนั้นขึ้นมา แล้วยื่นให้เฉินตง: “คุณชาย เจ้ากล่องกลนี่เป็นอาวุธที่ทำได้ยากมาก ผมติดตามคุณท่านมานานหลายปีแล้ว ยังไม่เคยคิดจะทำอาวุธที่มีกลไกซับซ้อนแบบนี้เลย แต่ตอนนี้ อุตส่าห์มีคนเอามาส่งให้เองจนถึงหน้าประตูแล้ว คุณชายก็เก็บรักษาไว้ดี ๆ เถอะครับ มันเป็นของดีที่ใช้เป็นเครื่องป้องกันตัวได้เลยทีเดียว”

เฉินตงพยักหน้าตอบรับ

เขากวาดตามองไปรอบ ๆ ด้วยความหวาดหวั่น: “นักฆ่าเข้ามาวางกลไกเอาไว้ที่นี่ เจ้าตัวก็น่าจะอยู่แถวๆ นี้ด้วยใช่ไหม?”

“ไม่หรอกครับ”

คุนหลุนยิ้มอย่างติดจะจองหองน้อยๆ: “นักฆ่าที่รู้วิธีใช้เซอร์คัมเฟลกซา ย่อมเป็นนักฆ่าที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ นักฆ่าที่แท้จริง จะไม่เอาตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งที่เสี่ยงต่ออันตรายเด็ดขาด ก่อนการลอบฆ่าทุกครั้ง จะต้องหาทางหนีที่ไล่เอาไว้อย่างแน่นอน ต่อให้การลอบฆ่าครั้งนั้นล้มเหลว ก็ยังสามารถปกป้องตัวเอง รวมทั้งหาทางหลบหนีไปได้ด้วย”

เฉินตงยกยิ้มอย่างขมขื่น

ด้วยจุดนี้เพียงประการเดียว นักฆ่าคนนี้ก็มีภาษีกว่าชายชราบนถนนคนนั้นเป็นพันเท่าแล้ว!

เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามทำให้จิตใจตัวเองสงบลง

“ไปกันเถอะ กลับบ้าน”

เฉินตงพูดออกมาประโยคหนึ่ง ก็หันหลังเดินเข้าบ้านไป

แต่เพื่อความปลอดภัยรอบด้าน คุนหลุนยังคงรีบเดินไปข้างหน้าของเฉินตง แล้วกวาดสายตาสแกนดูสิ่งผิดปกติไปตลอดทาง ระมัดระวังทุกย่างก้าวรอบตัวเขา

สีหน้าของเฉินตงที่เดินตามหลังคุนหลุนยังคงสงบนิ่ง แต่กล่องโลหะในมือเขาใบนั้น กลับถูกมือขวาของเขาบีบอย่างรุนแรงไปนานแล้ว ถึงขั้นที่หลังมือปรากฏเส้นเลือดสีเขียว ๆ นูนขึ้นมาให้เห็นอย่างเด่นชัด ทั้งยังสั่นน้อย ๆ

เขาไม่เคยคิดเลยว่า จะมีวันหนึ่งที่เขากลับมาถึงบ้านตัวเอง แล้วจะต้องรู้สึกหวาดกลัวจนหัวหดถึงขนาดนี้!

ความรู้สึกอัปยศจากการถูกกดดันคุกคามเช่นนี้ ทำให้เฉินตงทั้งโกรธ ทั้งไม่ยินยอมพร้อมใจอย่างถึงที่สุด

การถูกโจมตีอย่างรุนแรงร้ายกาจ ทุกย่างก้าวมีแต่คนหมายจะเข่นฆ่า!

ในระยะเวลาเพียงสั้น ๆ ถึงกับมีการลอบสังหารถึงสองครั้ง อีกทั้งการลอบฆ่าแต่ละครั้งก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย

ถ้าอย่างนั้น แล้วหลังจากนี้ล่ะ?

และถึงจะเป็นอย่างนั้น เขากลับทำได้แค่เป็นฝ่ายตั้งรับ กระทั่งโอกาสที่จะต่อต้านก็ยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ

หลังจากเข้าไปคฤหาสน์ คุนหลุนก็ใช้เวลาสองชั่วโมงเต็ม ๆ ในการตรวจสอบทุกอย่างในบ้าน

หลังจากยืนยันได้ว่าไม่มีอันตราย เฉินตงก็กลับไปที่ห้องนอนของตัวเองตามลำพัง

ส่วนคุนหลุน ก็เลือกที่จะย้ายไปห้องข้าง ๆ ห้องนอนของเฉินตง

ขณะที่นอนอยู่บนเตียง เฉินตงเอาแต่รู้สึกสังหรณ์ใจในความไม่ปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา

เขาไม่กลัวอันตราย แม้กระทั่งในตอนแรกที่เขาต้องอยู่ในคุกมืดนั่น แม้จะรู้ว่ามันเป็นสถานการณ์ที่สิ้นหวัง เขาก็กล้าที่จะต่อสู้แบบทุ่มสุดตัว

แต่สิ่งที่เขากลัว คือความรู้สึกที่ต้องเผชิญกับอันตรายที่ไม่อาจล่วงรู้ได้ ในแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ต่างหาก

และทั้งหมดนี้ ล้วนมีสาเหตุมาจากตระกูลหลี่ทั้งสิ้น!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินตงก็ขมวดคิ้วมุ่น หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วกดค้นหาบันทึกการโทรรอบหนึ่ง

ในที่สุด ก็พบการโทรที่ยังไม่ได้บันทึกในบันทึกการโทรจนได้

จากนั้น เขาก็กดโทรออก

แต่หลังจากที่เสียงสัญญาณเรียกสายเริ่มดัง อีกฝ่ายก็วางสายไป

เฉินตงไม่ยอมหยุด ยังคงโทรออกอย่างต่อเนื่อง

หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง…

เขาโทรแบบวนไปจนครบรอบ ก็ถูกวางสายใส่ทุกรอบ

แม้แต่เฉินตงเอง ก็ไม่รู้ว่าตัวเองโทรออกไปกี่ครั้งเหมือนกัน

ไหนๆ อยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ถือซะว่าหาอะไรทำช่วงเบื่อ ๆ ไปซะก็แล้วกัน

เขากดหมายเลขเดิมซ้ำอีกครั้ง

หลังจากได้ยินเสียงเรียกสาย ในที่สุดคนปลายสายก็ยอมกดรับโทรศัพท์

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา

เฉินตงกับหวางหนันหนันแต่งงานกัน3ปี ถูกภรรยาที่ยกน้องชายเป็นหัวแก้วหัวแหวนบีบคั้น แล้วยังถูกดูถูกเหยียดหยาม วันหนึ่งได้กลับตระกูลมหาเศรษฐี เขาสาบานว่าต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา ต้องทำให้คนที่ดูถูกเขาเสียใจกับสิ่งที่ทำ ให้คนที่เหยียดหยามเขาต้องชดใช้อย่างสาสม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท