EP 549
By loop
หลิงรันได้รับซีรั่มเพิ่มทักษะจากหีบสมบัติหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในการพัฒนาการผ่าตัดด้วยตัวเอง
เมื่อเทียบกับซีรั่มพลังงานที่เขาได้รับก่อนหน้านี้ ซีรั่มที่พึงได้รับมามีระยะเวลาการใช้งานเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น ซึ่งแทบไม่มีผลทางนัยสำคัญอะไรกับการผ่าตัดเลย
แม้ว่าในการผ่าตัดทุกครั้งจะมีช่วงเวลาสำคัญสำหรับการผ่าตัด แต่เมื่อเทียบกับช่วงเวลาวิกฤตมันจะกินเวลาเพียงสิบวินาทีเท่านั้นไม่ใช่หรอ? หลังจากทำการผ่าตัดหลายครั้งหลิงรันได้ตระหนักว่าช่วงเวลาสำคัญส่วนใหญ่คืออุบัติเหตุ
นี่เป็นเพราะหลิงรัน ไม่พบเวลาที่เหมาะสมในการบริโภคเนื้อหาของขวดสีม่วงขนาดเล็กนี้ ในบางครั้งหลิงรัน รู้สึกว่า ซีรั่มทักษะ ขวดเล็กนี้ๆ ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นใดนอกจากให้ อยากให้หลิงรันได้สัมผัสถึงการครอบครองทักษะระดับตำนาน
แต่หลังจากคิดดูแล้วหลิงรันก็ตัดสินใจมันไม่น่าใช้เหตุผลที่สมเหตุสมผลที่เขาได้รับซีรั่มเพิ่มทักษะแน่นอน
นี่เป็นเพราะเขาเคยสัมผัสกับความรู้ที่ได้ครอบครองทักษาระดับตำนานมาก่อนหน้านี้แล้ว
แม้ว่ามันจะทำให้เขารู้สึกเหมือนเขามีทักษะในการผ่าตัดที่เยี่ยมยอดขึ้น แต่หลิงรันก็ไม่คิดว่าเขาจะสามารถสัมผัสอะไรได้ภายในเวลาเพียงสิบวินาที
แม้แต่สองชั่วโมงก็ยังไม่เพียงพอสำหรับคนที่จะสัมผัสได้ถึงพลังสำหรับความรู้สึกเหมือนได้ครอบครองทักษะระดับตำนาน!
และในขณะนั้นหลิงรันเองก็เลิกสนใจว่าจริงๆแล้วระบบต้องการอะไรจากตัวเขากันแน่ และสรุปได้สั้นๆว่า
เวลาสิบวินาทีอาจเป็นเป็นว่าที่มีนัยสำคัญสำหรับการตัดสินใจรักษา หรือ เคสผ่าตัดสำคัญที่เป็นความเป็นความตายที่แพทย์ไม่อาจพลาดได้ก็เป็นได้
หลังจากที่หลิงรันกินซีรั่มเพิ่มทักษะขวดเล็กการผ่าตัดตับระดับปรมาจารย์ของเขาก็ถูกยกระดับเป็นระดับที่สมบูรณ์แบบทันที ในเวลาเดียวกันการควบคุมเลือดออกด้วยมือเปล่าระดับสมบูรณ์แบบของเขาและการห้ามเลือดในระดับที่สมบูรณ์แบบก็ถูกยกระดับเป็นระดับตำนาน
หลิงรันใช้เวลาเพียงหนึ่งวินาทีในการยืนยันการตัดสินของเขา เขาพยักหน้าและพูดทันทีว่า “ตับด้านซ้ายของเขาต้องได้รับการผ่าตัดใหม่”
“ฮะ?”
“ฮะ?”
“อา!”
แพทย์จากแผนกศัลยกรรมระบบทางเดินอาหารถึงกับตะโกนออกมาดังลั่น
หลิงรันไม่มีความตั้งใจที่จะอธิบายสิ่งต่างๆให้พวกเขาฟัง ผู้ป่วยมีเลือดออกมาก เขาไม่มีเวลาอธิบายสิ่งต่างๆให้พวกเขาและขอข้อความยินยอมในการดำเนินการแพทย์ต่อจากพวกเขาทันที
หลิงรันสามารถตัดสินได้อย่างถูกต้องเพียงเพราะซีรั่มเพิ่มทักษะ ที่เขาเพิ่งกินเข้าไป แม้ว่าเขาจะมีการผ่าตัดตับระดับปริญญาโท, การควบคุมเลือดออกด้วยมือเปล่าระดับที่สมบูรณ์แบบ, การห้ามเลือดในระดับที่สมบูรณ์แบบด้วยความร้อนและประสบการณ์ในการผ่าทางกายวิภาคของช่องท้องหนึ่งร้อยครั้งเขาจะไม่สามารถตัดสินใจด้วยความละเอียดเช่นนี้ได้
เขาไม่ได้คาดหวังว่าแพทย์จากแผนกศัลยกรรมระบบทางเดินอาหารจะเข้าใจและเห็นด้วยกับการตัดสินใจของเขา
เนื่องพวกเขาไม่มีทางเลือกเพราะพวกเขาไม่มีทักษะการผ่าตัดตับและไม่มีแพทย์คนใดในแผนกสามารถมาทดแทนทักษะการผ่าตัดของหลิงรันได้
แม้แต่หัวหน้าแพทย์ประจำแผนกศัลยกรรมทางเดินอาหารก็ไม่สามารถทำหน้าที่เป็นหัวหน้าศัลยแพทย์สำหรับการผ่าตัดตับได้เว้นแต่เขาจะมีประสบการณ์พิเศษ เขาอาจทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการผ่าตัดตับเมื่อเขาอยู่ในแผนกศัลยกรรมทั่วไป แต่นั่นคือทั้งหมด
หลิงรันมีสมาธิมาก
ขณะที่เขาพูดหลิงรันได้ยกผ้าก๊อซขึ้นแล้ว ทันทีที่เขาพูดจบหลิงรันก็ถอดผ้าก๊อซออกจากตับและเปิดมันออก
ในขณะที่การตกเลือดเริ่มขึ้นในระหว่างการผ่าตัดเจาะช่องท้องแพทย์ได้ขยายแผลที่หน้าท้องเพื่อหาจุดเลือดออกจนถึงจุดที่แผลมีขนาดเท่ากับถุงเก็บสัมภาระ การไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดตับก็หยุดลงเช่นกัน
หลิงรันวางมือซ้ายของเขาไว้ใต้ตับอย่างกล้าหาญก่อนที่จะหยิบมีดผ่าตัดแล้วแกว่งด้วยมืออีกข้าง จากนั้นเขาก็ยกมือซ้ายขึ้นและวางกลีบซ้ายของตับไว้บนใบมีดผ่าตัด เขาใช้ทักษะการผ่าตัดตับระดับปรมาจารย์ของเขาเพื่อแยกกลีบซ้ายออกจากส่วนที่เหลือของตับด้วยมือทั้งสองข้างโดยไม่ใช้อะไรเลยนอกจากแรงทื่อ
ห้องผ่าตัดเงียบมากจนทุกคนข้างในรู้สึกเหมือนยืนอยู่ในห้องเก็บศพตอนตีสี่
“ นี่…” ผู้ช่วยหัวหน้าแพทย์หลิวตกใจมากจนถึงกับพูดอะไรไม่อก
เขาตกใจแค่ไหนอย่างงั้นหรือ? ราวกับว่าเขาเพิ่งเห็นผี ใครจะคาดคิดว่าแพทย์ที่เขาขอความช่วยหลือจะวางตับของผู้ป่วยไว้บนมีดผ่าตัดเช่นนั้ร
แม้แต่คนที่ดื่มสาเกขนาด 141 ออนซ์เองก็คงจะตื่นจากอาการเมาอย่างแน่นอนเมื่อพวกเขาเห็นเช่นนั้น!
ในขณะเดียวกันหลิงรันกลับตับไปที่ช่องท้องอย่างรวดเร็วและเริ่มแข่งกับเวลาในขณะที่เขารัดเส้นเลือดและท่อน้ำดี เขาโยนตับด้านซ้ายของผู้ป่วยที่เพิ่งฉีกออกไปบนถาดสแตนเลส
กลีบซ้ายของตับของผู้ป่วยซึ่งมีขนาดเท่ากำปั้นของเด็กตกลงไปบนถาดสแตนเลสพร้อมกับเสียงดังตุ้บทำให้ทุกคนในห้องผ่าตัดถึงกับตัวสั่น
สิบวินาทีต่อมา…
สามสิบวินาทีต่อมา …
หนึ่งนาทีต่อมา …
ผู้ช่วยหัวหน้าแพทย์หลิวริมฝีปากแตกและเขาถามว่า “คุณตัดมันออกอย่างนั้นเหรอ?”
“การผ่าตัดตับแบบธรรมดาใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งและเราไม่มีเวลาเพียงพอสำหรับสิ่งนั้น” หลิงรันได้คิดทบทวน แม้ว่าเขาจะใช้เวลาเพียงสิบวินาทีในการทำเช่นนั้น แต่ความคิดที่แล่นผ่านจิตใจของแพทย์ที่ยอดเยี่ยมภายในสิบวินาทีนั้นมีค่ามากกว่าสิ่งที่แพทย์ผู้อ่อนแอจะคิดได้หลังจากใช้เวลาทั้งชีวิตครุ่นคิดถึงบางสิ่ง
“ เอิ่ม…” ผู้ช่วยหัวหน้าแพทย์หลิวไม่รู้จะพูดอะไร
เขาค่อนข้างมีประสบการณ์และรู้ว่าเมื่อต้องผ่าตัดตับแบบฉุกเฉินจำเป็นอย่างยิ่งที่ศัลยแพทย์จะต้องปรับเปลี่ยนมีดผ่าตัดอย่างรวดเร็วและมั่นคง นอกจากนี้เขายังเคยได้ยินเกี่ยวกับศัลยแพทย์ในตำนานที่ใช้เวลาเพียงสามหรือสี่นาทีจากเวลาที่ทำแผลจนถึงเวลาที่ตับได้รับการผ่าตัดใหม่เพื่อทำการตัดตับ
หลิงรันไม่ต้องทำแผลหรือหยุดการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดตับ นอกจากนี้เขายังมีมุมมองโดยตรงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในช่องท้อง นอกจากนี้เขายังมีเวลาคิดสิ่งต่างๆและวิเคราะห์สถานการณ์ล่วงหน้า แต่มันก็ยังน่าประทับใจอย่างยิ่งที่เขาสามารถทำได้ภายในไม่กี่วินาที
ตอนนี้หลิงรันได้ชะลอความเร็วลงแล้ว ผลของซีรั่มเพิ่มทักษะขวดเล็กหมดลงไปในพริบตา
อย่างไรก็ตามสำหรับหลิงรันผู้ซึ่งมีการผ่าตัดตับระดับปรมาจารย์การผ่าตัดตับเป็นส่วนที่ต้องใช้ทักษะการวิเคราะห์และการหลบหลีกที่สมบูรณ์แบบที่สุด เมื่อขั้นตอนนี้สิ้นสุดลงหลิงรันก็แค่เพียงจัดการกับจุดอื่นๆที่ยังต้องเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยเพียงเท่านั้น
หลิงรันถึงกับเงียบ ๆ ทำสิ่งต่างๆ จากนั้นเขาก็หันมาและพูดว่า “ต่อไปให้ทำการปิดแผลโดยใช้ผ้าก๊อซเมื่อพวกคุณผ่าตัดเสร็จแล้วให้ส่งตัวไปที่ห้องไอซียูผู้ป่วยเองอายุค่อนข้างมากแล้วสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปขึ้นอยู่กับว่าผู้ป่วยอยากมีชีวิตขนาดไหน ฝากที่เหลือไว้ให้พวกคุณด้วย”
ผู้ช่วยหัวหน้าแพทย์หลิวฮัมเพลงรับทราบและรับตำแหน่งหัวหน้าศัลยแพทย์อีกครั้ง เมื่อเขาก้มศีรษะลงเขาก็เห็นว่าเลือดไม่ได้รวมอยู่ในช่องท้องอีกต่อไปแม้ว่าเลือดจะยังคงไหลออกมาจากตับก็ตาม นั่นหมายความว่าการควบคุมเลือดออกได้สำเร็จ
ผู้ช่วยหัวหน้าแพทย์หลิว เฝ้าดูขณะที่หลิงรันถอดถุงมือและชุดผ่าตัดออก แม้ว่าเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ทำเช่นนั้น
ถึงแม้เหตุการณ์ในวันนี้จะโชคร้ายแต่ถือว่าเขายังโชคดีมากที่เจอแพทย์อย่างหลิงรันทำให้ไม่มีผู้ป่วยเสียชีวิตบนเตียงผ่าตัดในวันนี้
“ ขอบคุณครับหมอหลิง” ริวจงเหล่ย ทำความเคารพอย่างจริงใจ
เนื่องจากหลิวซีเยียน เป็นหัวหน้าแพทย์อาวุโสเขาเองก็ทำได้แค่เงียบเท่านั้น ต่อให้ริวจงเหล่ยรู้สึกว่าหลิวซีเยียนความจะพูดขอบคุณสักคำก็ยังดี ก็ตาม
สำหรับเขาแล้วการผ่าตัดตับแบบฉุกเฉินนั้นเป็นขั้นตอนที่ยากมากในการควบคุมอารมณ์ได้ เขาประหลาดใจจริงๆที่หลิงรันสามารถทำได้ภายในไม่กี่วินาที
หลิงรันพยักหน้าเล็กน้อย เขาครุ่นคิดสักพักและพูดต่อ “แจ้งให้เราทราบเมื่อผู้ป่วยถูกส่งไปที่ ICU”
“ตกลง.” ครู่หนึ่งริวจงเหล่ยเองเองก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ว่าการกระทำเช่นนั้นจะทำให้แผนกของเขาเสียผลประโยชน์อาจพูดได้ว่าการส่งผู้ป่วยไปให้อีกแผนกหนึ่งก็จะต้องมีการแบ่งเงินค่ารักษาระหว่างแผนก โดยในตอนนี้ถ้าเขาส่งผู้ป่วยไปที่ ICU เงินค่ารักษาส่วนหนึ่งก็จะถูกแบ่งให้แผนก ICU ซึ่งไม่ใช่วิสัยที่แผนกของเขาปฏิบัติ
แต่แน่นอนถ้าปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่ที่นี้ต่อไป ตัวของแผนกของเขาเองก็จะได้รับความเสี่ยง อีกทั้งหลิงรันเองก็เป็นเชียวชาญในเคสนี้จึงปฏิเสธไม่ได่ว่าพวกเขาจะต้องเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติที่แผนกของพวกเขาทำตามกันมา เพื่อหลิงรันเพียงคนเดียว
หลิวจงเหล่ยพยายามอย่างเต็มที่ที่จะบีบกล้ามเนื้อทั้งหมดบนใบหน้าของเขาเพื่อให้หลิงรันเห็ยรอยยิ้มที่สดใสที่สุด “หมอหลิงฉันจะนำมาโอไทมาขวดในวันพรุ่งนี้เพื่อที่คุณจะได้ลองดื่มมัน ฉันหมายถึงสาเกที่มีอายุเก็บสะสมมายาวนาน คุณเองก็ควรลองดื่มมันด้วยเพราะมันหายากเอามากๆเลยนะ”
หลังจากริวจงเหล่ยเดินออกไปส่งหลิงรันนอกห้องผ่าตัด เขาก็คิดว่าจะให้หัวหน้าแพทย์หลิงช่วยจ่ายค่าสาเกที่จะเอามาเลี้ยงฉลองได้อย่าง
จางอันหมินรีบออกจากห้องผ่าตัดด้านหลังหลิงหรัน เมื่อพวกเขามาถึงทางเดิน จางอันหมินกล่าวด้วยความกังวลเล็กน้อย“ หมอหลิงคนในแผนกศัลยกรรมย่อยอาหารค่อนข้างเน้นการเมืองภายใน ผู้ช่วยหัวหน้าแพทย์หลิวนั้นเป็นพวกมีประสบการณ์มากและคุ้นเคยกับการมีเรื่องต่างๆในแผนกของเขาจริงๆแต่เขาเองก็ไม่ใช่คนดี เพียงแค่เขาแค่ชอบอวดว่าเขามีประสบการณ์มากมายและเขาไม่ชอบที่จะก้มหัวให้ใคร…”
“รอ.” หลิงรันกำลังรู้สึกถึงการผ่าตัดที่เขาเพิ่งทำในใจ เขาโบกมือและตัดจางอันหมินออกไปจากความคิดเนื่องจากเขาพบว่าจางอันหมินส่งเสียงดังโวยวายรบกวนเขาอยู่
หลิงรันถามหลังจากผ่านไปเพียงสองนาที “เมื่อกี้ นายพูดอะไรนะ”
จางอันหมินพูดด้วยเสียงต่ำขณะที่เขาจ้องไปที่หลิงรัน “เมื่อกี้นี้คุณรู้สึก…ไม่มีความสุขเหรอที่อยู่ในห้องผ่าตัด?”
“ไม่นะ” หลิงรันคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น เขาค่อนข้างมีความสุขมากเพราะเขาได้ใช้ซีรั่มเพิ่มทักษะ
โอกาสในการช่วยชีวิตของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากเพราะสิบวินาทีนั้น สำหรับแพทย์มันเป็นประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดา
จางอันหมินตัวแข็งไปชั่วขณะ เขาพินิจพิเคราะห์การแสดงออกของหลิหรันอย่างถี่ถ้วนและเขาก็ตระหนักว่าหลิงรันดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากบรรยากาศในห้องผ่าตัดเลย
ในความเป็นจริงหลิงรันยังเองไม่ได้สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเหล่าแพทย์และนางพยาบาลในห้องผ่าตัด งหลังจากออกจากห้องผ่าตัด เขามองไปที่นาฬิกาและพูดด้วยรอยยิ้ม “โทรหาหยุหยวน อีกครั้งเราจะดำเนินการผ่าตัดตามกำหนดเวลา”
“ตกลงครับ.” จางอันหมินปัดโทรศัพท์ของเขาทันทีและบอกให้จูหยวนเข็นคนไข้ที่ถูกเข็นออกจากห้องผ่าตัดกลับเข้าไปในห้องผ่าตัดอีกแห่ง
“อ้อขอให้จัดตารางการผ่าตัดถุงน้ำดีในช่วงบ่ายวันนี้ วันนี้ฉันเองรู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษ” หลิงรันที่เพิ่งกินซีรั่มพลังงานไปขวดหนึ่ง เมื่อไม่กี่นาที เขากลับมารู้สึกมีพลังมากยิ่งขึ้นเหมือนเดิม
