“คุณจะให้ผมส่งของอะไร?”เนี่ยเฟิงถามทูจิ้ว
“เรื่องนี้นายไม่ต้องถามหรอก อย่างไรเสียส่งของอะไรเราต้องมีเหตุผลของเราอยู่แล้ว ถึงนายจะถามก็คงไม่ได้รู้อะไรเพิ่มขึ้น ตอนนี้นายได้เข้ามาเป็นคนของพวกเราแล้ว สิ่งที่นายต้องทำคือทำตามคำสั่งของเรา”
เนี่ยเฟิงพยักหน้าด้วยสีหน้าลำบากใจ“ผมรู้แล้ว”
“เอาล่ะๆ ในเมื่อทุกคนตกลงร่วมมือกันแล้ว งั้นต่อไปนี้คงจะเจริญก้าวหน้าไปได้ดีเลยล่ะ!อีกอย่าง พวกฉันได้กินข้าวคำหนึ่ง นายก็จะต้องได้ซดน้ำแกงคำหนึ่งอย่างแน่นอน”
ถังต้าสงที่พูดไปด้วย ตบบ่าของเนี่ยเฟิงไปด้วย เนี่ยเฟิงกับหมิงอี๋หานถูกถังต้าสงพาออกไป
หลังจากที่ออกมาจากบ่อนกาสิโนใต้ดิน เนี่ยเฟิงรู้สึกได้เพียงแสงแดดภายนอกช่างแสบตาเหลือเกิน มันทำให้เขาหวนนึกถึงการเหมือนอยู่ในช่วงจำศีลเมื่อก่อน ตอนนั้นก็เป็นแบบนี้เช่นเดียวกัน
“ในเมื่อตกลงจะร่วมมือกันแล้ว งั้นพวกนายก็กลับบ้านกันก่อนเถอะ แต่ก่อนที่จะไป พี่ทูจิ้วบอกกับฉันแล้ว เขาเป็นห่วงความปลอดภัยของพวกนายสองคน จึงได้ส่งบอดี้การ์ดมาคุ้มครองสองคน!”
ถังต้าสงตบมือแปะๆ จากนั้นก็มีคนออกมาสองคน
เนี่ยเฟิงหน้าเสียมากยิ่งขึ้น“คุณหมายความว่าไง?อะไรเรียกว่าปกป้องพวกเรา?นี่มันคือการเพิ่มความกดดันให้พวกเรา โดยการใช้คนพวกนี้มาเฝ้าติดตามเราทุกฝีก้าวใช่ไหม?”
“น้องชายเรามาถึงขั้นนี้กันแล้วนะ นายยังต้องการคำตอบอะไรให้ชัดเจนอีกงั้นเหรอ?หรือนายไม่เคยได้ยินประโยคนี้กันล่ะ?ทำเป็นไม่รู้อะไรจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด!”
ถังต้าสงหัวเราะเสียงดังลั่นแล้วตบหลังของเนี่ยเฟิงเบาๆ
เนี่ยเฟิงกัดฟันกรอดมองไปที่บอดี้การ์ดสองคนอย่างไม่สบอารมณ์ หลังจากนั้นก็กลับโรงแรมไปพร้อมกับบอดี้การ์ดทั้งสองคน บอดี้การ์ดสองคนนี้ไม่ได้ตามพวกเขาเข้าไปภายในห้องของโรงแรม แต่รออยู่ด้านนอก พวกเขาสองคนได้ทำการติดตั้งเครื่องดักฟังรวมถึงกล้องวงจรปิด
“แม่งเอ้ย!นี่มันน่าหงุดหงิดชะมัด!”
เนี่ยเฟิงมองไปที่กล้องวงจรปิด หลังจากนั้นก็ได้รับสายหนึ่ง“นี่!ช่วงนี้ที่ฉันมีของล็อตหนึ่งจะขาย เป็นสินค้าชั้นหนึ่งทั้งหมด ทางฝั่งพวกนายช่วยฉันติดต่อคนซื้อที่นั่นหน่อยนะ”
หลังจากที่เนี่ยเฟิงส่งข้อความไปแล้ว เวลานี้เองบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านนอกก็ขอให้เนี่ยเฟิงส่งโทรศัพท์ให้พวกเขา พวกเขาจะตรวจดูโทรศัพท์ จากนั้นถึงได้คืนโทรศัพท์ให้พวกเขาไป
ถึงเนี่ยเฟิงจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ยังคงยื่นโทรศัพท์ให้ไปอยู่ดี
หลังจากที่บอดี้การ์ดทั้งสองรายได้ทำการตรวจสอบข้อมูลผ่านเครื่องตรวจสอบถึงได้คืนให้กับเนี่ยเฟิงไป
ในความเป็นจริงนั้น เนี่ยเฟิงพึ่งได้โทรศัพท์หาเย่หรูเสว่ อีกทั้งส่งถ่ายวิดีโอที่พวกเขาบันทึกส่งไปยังมือถือของเย่หรูเสว่
แต่พวกเขากลับตรวจอะไรไม่พบแม้แต่น้อย เพราะว่าเนี่ยเฟิงได้ทำการติดตั้งระบบอื่นไว้ก่อนอยู่แล้ว ถึงแม้จะเป็นนักแฮ็กเกอร์ที่มีความสามารถสูง ก็ไม่สามารถตรวจจับได้
พวกของเย่หรูเสว่กับเนี่ยเฟิงหลังจากขาดการติดต่อก็รู้สึกเป็นห่วงเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าพวกของเนี่ยเฟิงจะส่งข้อมูลกลับมาเร็วขนาดนี้
“ฉันว่าแล้วว่าไอ้ถังต้าสงต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล เป็นไปตามคาด เราจะรีบติดต่อรายงานกับทางตำรวจของเมืองเยี่ยนตู ว่าต้องระวังเรื่องนี้ให้ดี”
เพียงแค่ตอนนี้จะยังทำลายล้างบ่อนกาสิโนใต้ดินไม่ได้ เพราะว่าพวกเขายังจำเป็นต้องเข้าไป นั่นก็คือยาผิดกฎหมายที่พวกเขาต้องขนส่ง
เย่หรูเสว่ส่งข้อความหาเนี่ยเฟิง“นายพยายามทำให้พวกเขานิ่งนอนใจก่อน ถึงเวลาค่อยดูว่าของล็อตนี้ของพวกเขาคืออะไร เริ่มแรกพวกเขาคงยังสงสัยในตัวของนายอยู่ เพราะฉะนั้นอย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น ระหว่างนี้พวกนายอาจจะได้รับการปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรม ฉันเป็นห่วงมาก”
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ เราจะทำมันเมื่อมีโอกาส”
เนี่ยเฟิงพูดอย่างไม่ใส่ใจ เรื่องพวกนี้สำหรับเขาแล้วเป็นเรื่องจิ๊บจ้อยมาก
“พวกคุณต้องการเอาเปรียบเมียของฉันใช่ไหม แม้แต่ห้องน้ำก็ใส่กล้องวงจรปิด ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ พวกคุณก็แค่เอาเครื่องมือสื่อสารของเราไปตรวจค้นดู ไม่ดีกว่าเหรอ!แม่งเอ้ย!”
ในตอนที่เนี่ยเฟิงเดินเข้าไปในห้องน้ำ พบว่าภายในห้องน้ำมีการใส่กล้องวงจรปิด จึงทำให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา
บอดี้การ์ดทั้งสองต่างมองหน้ากันไปมา พวกเขาค้นของที่อยู่บนตัวของเนี่ยเฟิงอย่างละเอียด หลังจากนั้นก็ใช้สายตาลวนลามหมิงอี๋หาน
“ทำอะไรทำอะไรน่ะห้ะ!หรือพวกแกอยากแตะต้องเมียฉัน?”เนี่ยเฟิงรีบเข้าขวางหมิงอี๋หานทันที“ฉันจะบอกอะไรพวกแกไว้นะ อย่าคิดอะไรเกินเลยนะเว่ย!”
“ขอโทษด้วยครับคุณเนี่ย นี่เป็นคำสั่งจากเบื้องบน พวกเราไม่สามารถปฏิเสธได้ เราต้องรับรองว่าพวกคุณจะไม่ปล่อยข่าวให้คนข้างนอก”
“เครื่องส่งข้อความอะไรก็ไม่มี ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะส่งข่าวให้คนข้างนอกยังไง แกบอกกับฉันมาสิว่าถ้าพวกแกไม่มีมือถือไม่มีคอมพิวเตอร์ที่จะติดต่อกับคนข้างนอกยังไง บอกมาสิ!”
หลังจากที่เนี่ยเฟิงพูดจบก็หันหลังกลับไป แล้วถอดเสื้อของหมิงอี๋หานทิ้ง ด้านในของหมิงอี๋หานสวมชุดกระโปรงสายเดี่ยวเผ็ดร้อน เป็นชุดกระโปรงสายเดี่ยวแนบตัว ถ้าหากซ่อนของอะไรไว้จริงต้องเห็นภายในชั่วพริบตาเดียวแล้ว
“แกดูสิว่ามีอะไร เครื่องส่งข้อมูลอยู่ที่ไหนแกบอกฉันมาสิ!”
บอดี้การ์ดสองคนมองตากันครู่หนึ่ง ถึงได้ถอดเอากล้องวงจรปิดออกไปอย่างไม่ยินยอม แต่เครื่องดักฟังของพวกเขายังคงเหลือไว้ด้านใน
“พวกแกออกไปให้หมด ฉันจะอาบน้ำกับเมียฉันแล้ว!”
เนี่ยเฟิงจ้องเขม็งไปที่บอดี้การ์ดรายนั้นหลังจากนั้นก็เดินเข้าไป
หลังจากที่หมิงอี๋หานกับเนี่ยเฟิงเดินเข้าไปข้างในแล้ว เนี่ยเฟิงก็ชี้ไปที่แจกันดอกไม้ที่วางบนโต๊ะ ด้านในก็คือเครื่องดักฟัง
หมิงอี๋หานพยักหน้า แล้วดึงมือเนี่ยเฟิงมา แล้วจัดการเขียนตัวหนังสือไว้บนฝ่ามือของเนี่ยเฟิงหลายตัว“น้องหกว่าไงบ้าง?”
“ต้องรอจังหวะจัดการ ห้ามแหวกหญ้าให้งูตื่น”
หมิงอี๋หานพยักหน้า ณ ขณะนี้พวกเขายังไม่พบผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลัง เพราะฉะนั้นต้องได้รับความไว้วางใจจากพวกมันก่อน พวกเขาไม่สามารถเอาสินค้าออกจากศุลกากรและไม่สามารถขนส่งทางอากาศได้ ถ้าขืนยังไม่ปล่อยของออกไปมันต้องเสียคามือของตัวเองเป็นแน่
“รู้แล้ว”
หลังจากที่หมิงอี๋หานพูดจบก็ถอดกระโปรงสายเดี่ยวของตัวเองทิ้ง หลังจากนั้นก็สบตามองเนี่ยเฟิง เนี่ยเฟิงขยิบตาหนึ่งครั้ง ขยับริมฝีปากพูด“จะอาบน้ำด้วยกันไม่ใช่เหรอ?”
“ใครบอกว่าจะอาบน้ำกับนาย?”หมิงอี๋หานเลิกคิ้วขึ้น
เนี่ยเฟิงหัวเราะเสียงเบาๆ“ให้ผมช่วยถอดไหม?”
“ตรงนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด นายจะช่วยฉันถอดอะไร?”
หมิงอี๋หานพูดจบ ก็ชี้ไปที่ประตู เนี่ยเฟิงจึงได้เดินไปอย่างไม่เต็มใจ แล้วยืนหันหลังไปที่ประตู ต่อหน้าของหมิงอี๋หานแล้วจัดการปิดประตูห้องน้ำไป แล้วจัดการเปิดน้ำอุ่น
น้ำอุ่นไหลผ่านลงมา ไอน้ำแผ่ซ่าน ภายในห้องน้ำมีเพียงเงาของคนรูปร่างผอมเพรียวของคนเดียวเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นภาพคลุมเครือก็ตาม แต่รูปร่างอ้อนแอ้นอรชรนั้นกลับทำให้คนมีความคิดผุดขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย
“สามีคะ ช่วยไปหยิบชุดคลุมอาบน้ำที่อยู่ข้างนอกให้ฉันหน่อยค่ะ”
หมิงอี๋หานที่ในเวลานี้อาบน้ำเสร็จแล้ว เห็นเพียงแค่เธอยื่นแขนเรียวขาวออกมาข้างหนึ่ง แล้วขยับไปมาอยู่ด้านนอก
เนี่ยเฟิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินออกไปหยิบชุดคลุมอาบน้ำยื่นให้กับหมิงอี๋หาน
เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าในเวลานี้มันจะเปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้!
หมิงอี๋หานเองคิดไม่ถึงเช่นกันว่าในตอนที่ตนเองเดินออกมาจะลื่นหกล้ม กลับล้มหกคะเมนไปทางประตู!
“ระวัง!”เนี่ยเฟิงรีบพุ่งตัวไปข้างหน้า แล้วดึงหมิงอี๋หานไปไว้ในอ้อมกอด