พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม – บทที่ 520 ไม่ดูกำลังความสามารถของตน

บทที่ 520 ไม่ดูกำลังความสามารถของตน

คนที่ลงฝั่งเนี่ยเฟิงชนะน้อยยิ่งกว่าน้อย ปัจจุบันนี้มีเพียงแค่สามคน คนหนึ่งเนี่ยเฟิงให้พานฉางอันไปลง อีกคนหนึ่งเป็นอลิซ ยังมีอีกคนหนึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร

คนที่ลงฝั่งเนี่ยเฟิงก็มีหนึ่งร้อยหกสิบล้านแล้ว

แต่คนลงฝั่งหวางต้าฉิวสูงถึงหกร้อยล้านแล้ว

“ไอ้โง่เหล่านั้น ถึงขนาดลงไอ้คนคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหนให้ชนะ หนึ่งร้อยหกสิบล้านนั้นจะไม่เสียเงินไปเปล่าๆโดยไม่ได้อะไรกลับมาเลยเหรอ?”

“ก็ใช่สิ สหภาพนักศึกษาครั้งนี้ก็จะเสียเงินแล้วมั้ง? คนที่เป็นเจ้ามือก็ต้องมีความตื่นตัวเช่นนี้ล่ะ!”

ทุกคนต่างคนต่างแย่งกันพูดถกกันขึ้นมาเลย

และในเวลานี้ หวางต้าฉิวก็เก็บสายตากลับจ้องมองไปยังเนี่ยเฟิง “ความกดดันของคุณมากไหม?”

“ไม่เลยสักนิด เป็นไงล่ะ? ความกดดันของคุณมากเหรอ?” เนี่ยเฟิงยักไหล่แล้วยักไหล่อีก ไม่แคร์ทั้งใบหน้า

“ฮึ! คุณก็คือแทบตายแล้วยังปากแข็งล่ะ อีกสักครู่จะให้คุณรู้จักอะไรเรียกว่าร้ายกาจ!” หวางต้าฉิวจ้องมองเนี่ยเฟิงอยู่อย่างเย็นชา แม้ว่าคนของสหภาพนักศึกษาเข้าแทรกเข้าร่วมเรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกมีความไม่พอใจเล็กน้อย แต่ว่ามีเงินไม่เอาเป็นไอ้เหี้ย ตัวเขาเองย่อมลงบ้างอยู่แล้ว

หลังจากลงไปพอสมควรแล้ว หยุดการลงโดยสหภาพนักศึกษา พวกเขาฝั่งนี้ส่งกรรมการสนามไป

พวกสมาชิกของสหภาพนักศึกษายึดครองที่นั่งที่ดีที่สุด ลิซ่าก็นั่งอยู่ตรงกลาง เธอใช้สายตาที่เหยียดหยามพยายามจับผิดจ้องมองเนี่ยเฟิงอยู่ ใครก็ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่บ้าง

เนี่ยเฟิงยื่นมือถือให้กับพานฉางอัน “ช่วยดูแลเก็บรักษาให้ผม ผมกลัวว่าอีกสักครู่ผมจะเคลื่อนไหวแรงเกินไป สิ่งนี้จะหล่นออกมา”

มือสองข้างของพานฉางอันรับมือถือมา เขาเลียริมฝีปากแห้งๆเลียแล้วเลียอีกจ้องมองเนี่ยเฟิงอยู่ คำพูดมากมายดูเหมือนล้วนสะอึกอยู่ในคอ เขาคายไม่ออกและกลืนไม่ลงด้วย

สุดท้ายก็กลายเป็นคำเดียวว่า “พี่เฟิง คุณระมัดระวังหน่อย!”

เนี่ยเฟิงหน้าก็ไม่หันโบกมือแล้วโบกมืออีก ขึ้นเวทีประลองโดยตรง

สิ่งที่สวมใส่อยู่บนกายเนี่ยเฟิงเป็นเนื้อผ้าที่ธรรมดามากที่สุด เห็นแล้วก็ไม่ใช่แบรนด์อะไร แม้แต่สิ่งที่สวมใส่อยู่บนเท้าเนี่ยเฟิงก็แค่รองเท้าผ้าใบที่ธรรมดามาก

บนใบหน้าของเขาแขวนรอยยิ้มอันหนึ่งอยู่ดูเหมือนเข้ากันได้ง่ายมาก เพียงแค่พอดูละเอียดหน่อยก็จะพบเห็นรอยยิ้มนั้นของเนี่ยเฟิงไม่ถึงนัยน์ตาเลยสักนิด

เพราะว่าช่วงนี้อากาศเย็นลงแล้ว ดังนั้นสิ่งที่สวมใส่อยู่บนกายเนี่ยเฟิงเป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาว เดิมทีเขาก็เป็นประเภทที่เวลาใส่เสื้อแล้วดูผอม เวลาถอดเสื้อมีกล้ามเนื้อแบบนั้น เขาที่ใส่เสื้อไว้ดูแล้วเหมือนมีความผอมแห้งอ่อนแอเล็กน้อย

ในเวลานี้ หวางต้าฉิวก็กระโดดขึันเวทีประลองด้วย เขาเป็นเฮฟวีเวท ส่วนสูงของเขาเกือบจะสองเมตร รูปร่างใหญ่มาก กล้ามเนื้อเป็นมัด

ผมของหวางต้าฉิวตัดสั้นมาก หน้าตาแข็งแกร่งเด็ดขาด โดยเฉพาะตาคู่นั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงอาฆาต

สิ่งที่สวมใส่อยู่บนกายเขาเป็นชุดเทควันโด เพียงเห็นหวางต้าฉิวถอดเสื้อออก แขนเสื้อมัดอยู่บนเอวที่กำยำล่ำสันของเขา

กล้ามเนื้อที่ใหญ่ล่ำทั้งตัวของเขานั้นทำให้หญิงสาวไม่น้อยร้องกรี๊ด

เพียงแค่รูปร่างของหวางต้าฉิว ก็เป็นสองเท่าของเนี่ยเฟิงแล้ว

หวางต้าฉิวยืนอยู่ต่อหน้าเนี่ยเฟิง ก็เหมือนเช่นดั่งภูเขาเล็กๆลูกหนึ่ง

หวางต้าฉิวยกมือแล้วยกมืออีกไปยังที่นั่งผู้ชม ล้อมรอบเนี่ยเฟิงหนึ่งรอบ คนทั้งหลายล้วนเห็นรอยแผลเป็นที่อยู่ข้างหลังหวางต้าฉิวนั้น คือถูกทิ้งไว้โดยกรงเล็บของหมี

พานฉางอันสูดลมหายใจหนึ่งที แต่ก่อนเขาก็แค่เคยฟังมาโดยตลอดเท่านั้น ตั้งแต่ไหนแต่ไรไม่เคยรู้ว่านี่เป็นการคงอยู่ที่แท้จริงๆ ในเวลานั้นเขาก็เก็บท่าทีที่สงสัยไว้เช่นกัน ในตอนนี้เขาไม่สงสัยแล้ว

อลิซกังวลจนกำชายกระโปรงของตนเองไว้อย่างแน่น เธอจิตใจร้อนรุ่มกระสับกระส่ายจ้องมองไปยังเนี่ยเฟิง

หลังจากหวางต้าฉิวโอ้อวดหนึ่งรอบ เดินไปยังข้างหน้าเนี่ยเฟิง “ไอ้หนุ่ม ผมจะทำให้คุณรู้สึกเสียใจภายหลังกับคำพูดที่คุณพูดออกมาในวันนี้”

มุมปากเนี่ยเฟิงยักขึ้นเล็กน้อย “ใช่เหรอ? ผมเฝ้ารอคอยมาก”

กรรมการขึ้นเวที กั้นพวกเขาทั้งสองออก หลังจากซักถามเล็กน้อย เขาก็เลยประกาศเนื้อหาการแข่งขันในวันนี้

“การแข่งขันในฉากนี้เป็นการต่อสู้อย่างเข้าตาจน ทั้งสองฝ่ายล้วนเซนต์สัญญาระหว่างความเป็นกับความตาย เป็นตายไม่ว่า! ฝ่ายหนึ่งยอมแพ้หรือตายถือว่าแพ้แล้ว! ตกเวทีประลองก็ถือว่าจบการแข่งขันเช่นกัน! การต่อสู้ทั้งสองฝ่ายไม่กำหนดรูปแบบใดๆ คิกบ็อกซิ่ง! การแข่งขัน! เริ่ม!”

นกหวีดของกรรมการเปล่งเสียงนกหวีดที่แหลมคมออกมาพักหนึ่ง ต่อจากนี้เขาถอยออกจากสนามทันที

ต้องรู้ว่าหมัดเท้าไร้ตา เขาจะไม่รู้สึกว่าตนเองจะเป็นคู่ต่อสู้ของผู้ชายที่ใหญ่ล่ำเหมือนเช่นดั่งหมีคนหนึ่ง

หลังจากกรรมการลงไปแล้ว บนเวทีประลองเหลือเพียงแค่เนี่ยเฟิงกับหวางต้าฉิว หวางต้าฉิวใช้สายตาที่โหดเหี้ยมจ้องมองเนี่ยเฟิงอยู่ ตั้งแต่ไหนแต่ไรเขาล้วนเป็นคนที่มีความแค้นก็ต้องล้างแค้น อีกทั้งเนี่ยเฟิงอยู่ต่อหน้าเขาพูดคำพูดอย่างนั้นออกมา เขาก็ควรมีความตื่นตัวที่จะถูกชกตาย

“อยู่ก่อนที่คุณจะตาย ผมจะยอมถอยท่าหนึ่งให้คุณ มิฉะนั้นคุณเป็นไปได้มากแม้แต่ชายเสื้อของผมล้วนเตะไม่ถึง”

หวางต้าฉิวมั่นใจในตนเองเป็นพิเศษกวักมือแล้วกวักมืออีกกับเนี่ยเฟิง เนี่ยเฟิงพอได้ยินหวางต้าฉิวพูดแบบนี้ รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าลึกลงแล้ว

“คุณรู้ไหมว่าคนที่ครั้งก่อนพูดกับผมอย่างนี้มีสภาพอะไรไหม?”

เนี่ยเฟิงตั้งตัวตรง รูปร่างลักษณะล้วนไม่หวาดกลัวเลยสักนิด “เขาตายแล้ว”

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ขี้โม้ใครก็เป็น คุณเอาแต่มาก็พอแล้ว! มิฉะนั้นพวกเขาจะว่าผมรังแกคุณ”

หวางต้าฉิวไม่รู้สึกว่าเนี่ยเฟิงจะมีฝีมือเช่นนี้ เขาดูแล้วแขนเล็กขาเล็กอยู่ พอเห็นก็รู้ว่าไม่ใช่ประเภทที่มีแรงกำลัง หมัดของเขาจะมีอานุภาพมากขนาดไหนล่ะ?

“ในเมื่อคุณพูดเช่นนี้แล้ว งั้นผมไม่ออกท่าก็ถือว่าไม่ให้เกียรติคุณแล้ว”

เนี่ยเฟิงยักไหล่แล้วยักไหล่อีก ต่อจากนี้ลักษณะพลังของเขาเปลี่ยนกะทันหัน เห็นเพียงช่วงล่างเขาลดต่ำลง เท้าสองข้างรวมพลังมือสองข้างของเขากำกำปั้นไว้ เส้นเลือดเขียวแต่ละเส้นนั้นโผล่ขึ้นในชั่วพริบตาเดียว คล้ายเช่นดั่งมังกรหมุนรอบแขนเขาอยู่ ตาทั้งคู่ของเขามีแรงอาฆาตที่โอหัง

เนี่ยเฟิงคล้ายดั่งเป็นธนูคมคันหนึ่ง “ฟิ้ว” หนึ่งที ก็ลอยออกไปเลย

ไม่ว่ายังไงหวางต้าฉิวก็เป็นคนที่เคยอยู่ในสนามรบมาก่อน เขาล้วนรู้สึกถึงความกดดันที่น่ากลัวทั้งตัว! สัญชาตญาณของการหลบหนีแบบนั้นร้องตะโกนอยู่ในร่างกายของเขาว่า “รีบหนี!”

ลักษณะพลังแบบนี้จากตอนที่หวางต้าฉิวเผชิญหน้ากับหมีสีน้ำตาลล้วนไม่เคยปรากฏออกมาก่อน! ตอนนี้เซลล์ทั้งตัวของหวางต้าฉิวล้วนบอกกับเขาอยู่ว่า ถ้าหากเขาไม่หนี งั้นผลสุดท้ายก็มีแต่ตายอย่างเดียว! คนทั้งหลายที่อยู่ในสนามล้วนเกรียวกราว! เพราะว่าพวกเขาเห็นได้แต่เศษเงาอย่างหนึ่ง! เนี่ยเฟิงมาถึงข้างหน้าหวางต้าฉิวตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ พวกเขาล้วนเห็นไม่ชัดเลยสักนิด!

นี่ตกลงทำได้ยังไงกันแน่ล่ะ?!

ความเร็วเร็วเกินไปแล้ว!

เดิมทีลิซ่าก็เต็มเปี่ยมด้วยการลองลิ้มรสอยู่ แต่ตอนนี้นัยน์ตาทั้งคู่ที่ยั่วยวนของเธอเขียนเต็มไปด้วยความสงสัยงงงวย เมื่อกี้เนี่ยเฟิงยังมีลักษณะท่าทีที่เรียบง่ายไร้อุบายอยู่ ตอนนี้ทำไมเปลี่ยนลักษณะไปแล้วล่ะ?

พานฉางอันเหงื่อออกพลั่กๆ เห็นฉากนี้ตอนนี้เขาหวาดกลัวจนสั่นระริก เนี่ยเฟิงชนะได้เหรอ?

ในเวลานี้โดยจิตใต้สำนึกหวางต้าฉิวยกแขนขึ้นทำท่าป้องกัน ด้วยความสามารถของเนี่ยเฟิงอยากจะเปลี่ยนทิศทางการโจมตีหวางต้าฉิวกลางทางไม่ใช่เรื่องยากเรื่องหนึ่งเลย แต่เนี่ยเฟิงไม่ได้ทำเช่นนี้เลย

เนี่ยเฟิงหมัดหนึ่งชกอยู่บนแขนที่ทำท่าป้องกันของหวางต้าฉิวโดยตรง!

“คว้าก!” เสียงกังวานเสียงหนึ่งดังขึ้นฉับพลันในทันที คนทั้งหลายที่อยู่ในสนามล้วนไม่กล้าเอ่ยปากพูด พวกเขาได้ยินเสียงเสียงนี้เพียงรู้สึกขนหัวลุก!

กระดูกของใครแตกร้าวแล้วเหรอ? เป็นของเนี่ยเฟิงเหรอ? หรือว่าเป็นของหวางต้าฉิวล่ะ?

ไม่นานทุกคนก็เห็นหวางต้าฉิวถอยหลังก้าวหนึ่ง รูปร่างเขาซวนเซ เกือบจะยืนไม่เสถียร!

หวางต้าฉิวเบิกตาโพลงทั้งคู่ ยากที่จะเชื่อจ้องมองไปยังเนี่ยเฟิง บนใบหน้าของเนี่ยเฟิงในเวลานี้ล้วนไม่มีรอยยิ้ม ตาทั้งคู่นั้นจ้องมองหวางต้าฉิวก็เหมือนเช่นดั่งจ้องมองคนตายคนหนึ่งอยู่

“ยังจะยอมถอยให้ผมไหม?” เนี่ยเฟิงถามอย่างสบายแบบนี้

หวางต้าฉิวรู้สึกเพียงแขนสองข้างล้วนเจ็บแทบตาย

พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม

พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม

ผมมีพี่สาวเจ็ดคน ทุกคนสวยเลิศเลอเพอร์เฟ็กต์พี่ใหญ่ชิวมู่เฉิงเป็นประธานหญิงของโรงแรมอินเตอร์เนชั่นแนลพี่สองหยูจิงหงเป็นเทพเจ้าหญิงแห่งสงครามพี่สามหลินซูอินเป็นอาจารย์ของโรงเรียนมัธยมที่สวยที่สุดพี่สี่หมิงอี๋หานเป็นหมอที่สวยที่สุดพี่ห้าโจวลี่ซือเป็นแอร์โฮสเตสที่สวยที่สุดพี่หกเย่หรูเสว่เป็นตำรวจสาวที่สวยที่สุดพี่เจ็ดคังเมิ่งเป็นดาวโรงเรียน ยังเป็นเน็ตไอดอลชื่อดังด้วยผมชื่อเนี่ยเฟิง ตอนนี้เป็นหัวหน้าของสำนักมังกร มีฉายาว่าเทพราชามังกร!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท