NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 42

ตอนที่ 42

บทที่42 เดิมพันกับตู้เฟยอีกครั้ง

“ชนะก็ดีแล้ว”

“สมแล้วที่เป็นลูกชายของหลี่ต๋าคาง!”

หลี่ต๋าคางพูดเองเออเองอยู่ไม่กี่คำ ก็โทรหาสวีจื่อโห้ ตอนนี้สวีจื่อโห้กำลังประชุมอยู่ ก็มองเห็นสายของหลี่ต๋าคางโทรมา จึงหยุดการประชุมทันที แล้ววิ่งออกไปรับสายข้างนอก

“ประธานหลี่ ในที่สุดคุณก็โทรมา” สวีจื่อโห้เฝ้ารอคอยมาตลอด แล้วก็มีสายของหลี่ต๋าคางโทรมา

“สวีจื่อโห้ สิ้นเดือนนี้ผมอยากเลี้ยงข้าวคุณหน่อย ไม่รู้ว่าคุณว่างไหม?”

สวีจื่อโห้ไม่คิดอะไร พูดทันที: “ว่าง ว่างแน่นอน ท่านอุตส่าห์ให้เกียรติ”

“สวีจื่อโห้ ลูกชายผมเจอปัญหาอีกแล้ว คุณช่วยหน่อยได้ไหม?” หลี่ต๋าคางเอาเรื่องที่หลี่ฝางถูกไล่ออกเล่าออกไป

“ยังมีเรื่องแบนี้อีก?ประธานหลี่ ท่านวางใจเถอะ ลูกชายคุณไม่มีทางถูกไล่ออกได้”

วางสาย สวีจื่อโห้ก็โทรออกไป

พอครูใหญ่รับสาย ก็ถูกด่าทันที: “ฉางหลิน ผมจะบอกให้นะ ถ้าคุณไม่เรียกหลี่ฝางกลับมา พรุ่งนี้ตำแหน่งครูใหญ่มัธยมตงไห่ ผมเอาคุณออกทันที!”

“เหล่าอู๋ ล้อผมเล่นอยู่หรือเปล่าเนี่ย ตำแหน่งครูใหญ่ของผมนี้ คุณบอกจะเอาออกก็เอาออกได้งั้นเหรอ!” ครูใหญ่พูดไม่ออกหน่อยๆ ตัวเองก็แค่ไล่นักเรียนคนหนึ่งออกไม่ใช่เหรอ?

มีอะไรผิดพลาดขนาดใหญ่หรือไง?

“ล้อเล่น?ผมจะบอกให้นะ ถ้าคุณไม่เอาหลี่ฝางกลับมา อย่าว่าแต่ตำแหน่งครูใหญ่ แม้แต่ตำแหน่งของผมนี้ ก็ยากที่จะรักษาไว้!” เหล่าอู๋พูดอย่างเยือกเย็น

“อะไรนะ?!”

ครูใหญ่รู้สึกถึงความรุนแรงของเรื่องทันที เขาถาม: “เหล่าอู๋ เราสองคนรู้จักกันมานานขนาดนั้น หลี่ฝางมาจากไหนกันแน่?”

“คุณรู้จักสวีจื่อโห้สินะ” เหล่าอู๋ถาม

“รู้จักสิ” ครูใหญ่เพิ่งตอบเสร็จ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวทันที

“เหล่าอู๋ คุณจะบอกว่า……หลี่ฝางรู้จักกับจื่อโห้?”

“มากกว่ารู้จักอีก สวีจื่อโห้เพิ่งโทรหาผม ด่าผมไปยกใหญ่ เขาให้ผมทำอย่างไรก็ได้ให้รักษาหลี่ฝางไว้ คุณฟังชัดเจนดีแล้วนะ ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ถึงต้องก้มลงให้เขา คุณก็ต้องเอาเขากลับมาให้ได้ รู้ไหม?”

เหล่าอู๋พูดอย่างเยือกเย็น: “ไม่งั้น พวกเราก็จบเห่!”

พอวางสาย มือครูใหญ่ที่ถือโทรศัพท์ ก็สั่นตลอด

……

เวลานี้ หน้ามัธยมตงไห่

กำลังเลิกเรียนพอดี นักเรียนเริ่มทยอยกันออกไปจากโรงเรียน หลี่ฝางเอนตัวหน่อยๆ ที่หน้าโรงเรียน รอครูใหญ่มาเชิญตัวเองกลับไป

แป๊บเดียว ก็มีคนจำเขาได้: “ไม่ใช่เขาทำร้ายตู้เฟยนั่นเหรอ?ได้ยินว่าถูกครูใหญ่ไล่ออก น่าเวทนามาก”

“ไม่มั้ง ได้ยินว่าเขาเรียนดี เดี๋ยวก็ต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว กลับถูกไล่ออก น่าเสียดายจริงๆ”

“ต่อยใครไม่ต่อย ไปต่อยตู้เฟย พ่อตู้เฟยเป็นถึงนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่มีชื่อเสียงของตงไห่ ครูใหญ่พวกเราเห็นแล้วก็ยังต้องประจบ!”

คนจำนวนไม่น้อยต่างเสียใจแทนหลี่ฝาง

หลิวเฉียวเฉียวเข้ามา ก็พูดอย่างโกรธๆ : “หลี่ฝาง ทำไมคนแบบคุณไม่ฟังที่ฉันบอกเลยนะ”

“ผมทำไม?” หลี่ฝางถาม

“ตอนเช้า ฉันเพิ่งเตือนคุณไป บอกว่าอย่าไปสู้กับตู้เฟย บอกคุณว่าคุณสู้เขาไม่ได้ ก็ไม่ฟัง ตอนนี้ก็ดีแล้ว ถูกครูใหญ่ไล่ออก!” หลิวเฉียวเฉียวขมวดคิ้ว: “แล้วต่อไปคุณจะทำไง?”

“วางใจเถอะ เดี๋ยวครูใหญ่จะมาเรียกผมกลับไปเอง” หลี่ฝางพูดยิ้มๆ อย่างมั่นใจ

หลิวเฉียวเฉียวกลอกตาใส่หลี่ฝาง: “คุณนี่ฝันหวานจริงๆ !”

เวลานี้ ตู้เฟยก็เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มในลำคอ ด้านหลังเขา มีเซี่ยลู่กับจางเชี่ยน

จางเชี่ยนมองหลี่ฝาง ทำเสียงฮึดฮัดใส่อย่างเหยียดหยาม: “ถูกไล่ออกแล้ว ยังมาอยู่ที่หน้าโรงเรียนไม่ยอมไปอีก”

“ทำไม กลัวกลับบ้านไปถูกตีเหรอ?” จางเชี่ยนขำอย่างเยือกเย็น

เซี่ยลู่พูดด้วยสายตาเยือกเย็น: “หลี่ฝาง ชีวิตคุณจบเห่แล้ว”

“ตอนนี้คุณถูกไล่ออกแล้ว สอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่มีสิทธิ์แล้ว สอบเข้าไม่ได้ ดูสิว่าต่อไปคุณจะทำไง” เซี่ยลู่มองหลี่ฝางด้วยความสะใจ

“หลี่ฝาง งั้นคุณไปแบกหามที่ก่อสร้างบ้านพวกเราไหมล่ะ ผมให้คุณวันละแปดสิบหยวน เป็นไง?” ตู้เฟยพูดเยาะเย้ย

หลี่ฝางหัวเราะ ไม่สนพวกเขา

“หลี่ฝาง ยังจะเสแสร้งอีก ผมจะบอกให้นะ ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นแก่หน้าเพื่อนโรงเรียนเดียวกัน ผมจะให้แปดสิบเหรอ?คุณไปทำงานแรงงาน คนอื่นแค่วันละหกสิบหยวน” ตู้เฟยพูด

“งั้นผมต้องขอบคุณคุณเหรอ?” หลี่ฝางยิ้ม พูด: “หลานชายที่ดีของผม”

“คุณเรียกใครหลานชาย!” ตู้เฟยร้อนใจ

“เมื่อกี๊ต่อหน้าคนตั้งมากมาย คุณเรียกผมว่าคุณปู่ หรือว่าคุณลืมแล้ว?” หลี่ฝางพูดยิ้มๆ

“หลี่ฝาง คุณเรียกผมว่าคุณปู่ ผมให้คุณกลับมาเรียนต่อเอาไหม?” ตู้เฟยอยากได้หน้าคืน ไม่งั้น เขาก็ไม่มีหน้าอยู่ที่โรงเรียนต่อไป

ฉากที่เรียกหลี่ฝางว่าคุณปู่ ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าอับอายที่สุดในชีวิตเขา

ถ้าไม่เอาความอับอายนี้กลับมา ตู้เฟยก็ไม่พอใจ

ตู้เฟยเป็นคนมีชื่อเสียงของมัธยมตงไห่ การกระทำของเขา จะต้องได้รับความสนใจไปมากกว่าสามวันแน่นอน เชื่อว่านักเรียนทั้งโรงเรียน จะต้องรู้เรื่องน่าอับอายที่เขาเรียกหลี่ฝางว่า “คุณปู่”

ถึงตอนนั้น ตู้เฟยก็ไม่กล้ามาเรียนที่มัธยมตงไห่แล้ว

หลี่ฝางยักไหล่ ยืนขึ้น: “ตู้เฟย เราสองคนมาพนันกันไหมล่ะ?”

“พนันอะไร?”

“พนันว่าผมกลับไปเรียนที่มัธยมตงไห่ได้หรือไม่” หลี่ฝางยิ้ม พูด

“คุณจะพนันอย่างไร พนันอะไร?” ตู้เฟยดีใจทันที

“ง่ายมาก ถ้าผมอยู่เรียนต่อที่มัธยมตงไห่ได้ ก็หมายความว่าผมชนะ ถ้าไม่ ก็ถือว่าผมแพ้”

“ถ้าผมชนะ คุณเลิกกับเซี่ยลู่ เซี่ยลู่กลับมาหาผม ถ้าผมแพ้ ต่อหน้าคนทั้งหมด ผมจะเรียกคุณว่าคุณปู่ ว่าไง?” หลี่ฝางพูดยิ้มๆ

พอพูดจบ ตู้เฟยก็เห็นด้วยทันที: “โอเค ผมพนันกับคุณ!”

“ตู้เฟย คุณบ้าไปแล้วเหรอ เห็นฉันเป็นอะไร ฉันแฟนคุณนะ คุณเอาแฟนคุณไปพนันเนี่ยนะ?” เซี่ยลู่โกรธทันที

“วางใจเถอะ เขาชนะไม่ได้แน่”

ตู้เฟยขำยิ้มๆ : “ครูใหญ่ถูกผมซื้อไปแล้ว เขาไม่มีทางให้หลี่ฝางกลับมาเรียนได้”

“แต่ถ้าได้ล่ะ?”

“ไม่มีทางได้!” ตู้เฟยพูดอย่างมั่นใจ

“ฉันไม่รับปาก ตู้เฟย ฉันแฟนคุณนะ ไม่ใช่สิ่งของของคุณ ทำไมต้องเอาฉันไปพนันด้วย?” เซี่ยลู่ส่ายหน้าปฏิเสธ

“เซี่ยลู่ ขอร้องล่ะ คุณรับปากเถอะ ไม่ใช่ว่าคุณอยากเปลี่ยนโทรศัพท์มาตลอดเหรอ?ถ้าคุณรับปาก ผมจะไปซื้อไอโฟน Xให้” ตู้เฟยพูด: “ไอโฟนXรุ่นเดียวกันกับจางเชี่ยนเลย”

“เธอใช้XSไปแล้ว” เซี่ยลู่กลอกตาใส่ตู้เฟย

ตู้เฟยมองหลิวเฉียวเฉียวแวบหนึ่ง พบว่าไอโฟนในมือเธอถืออยู่นั้นคือไอโฟนXS: “หลิวเฉียวเฉียว คุณเอาเงินไหนมาเปลี่ยนเป็นไอโฟน แล้วยังเป็นโทรศัพท์รุ่นดีขนาดนี้อีก?”

“ผมให้เธอเอง” หลี่ฝางพูดเรียบๆ

“เฉียวเฉียว ที่แท้โทรศัพท์คุณ ก็หลี่ฝางให้นี่เอง?” จางเชี่ยนมองหลิวเฉียวเฉียว ท่าทางตกตะลึง

“ใช่ ทำไมเหรอ?” หลิวเฉียวเฉียวพูด

“หลิวเฉียวเฉียว คุณนี่แพศยาจริงๆ คุณยังบอกอีกว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับหลี่ฝาง ถ้าไม่มีอะไรกันจริงๆ เขาจะให้โทรศัพท์แพงๆ กับคุณเหรอไง?” จางเชี่ยนพูดอย่างริษยาหน่อยๆ ยังไงที่มือเธอถือก็แค่ไอโฟนX ถูกกว่าโทรศัพท์ของหลิวเฉียวเฉียวเกือบครึ่งหนึ่ง

“ฉันไม่ได้แพศยาเท่าคุณ เอาร่างกายตัวเองไปแลกกับโทรศัพท์” หลิวเฉียวเฉียวกลอกตาใส่จางเชี่ยน

“พอแล้ว คุณสองคนอย่าเพิ่งทะเลาะกันเลย” เวลานี้ตู้เฟยร้องออกมา

“เซี่ยลู่ อีกเดี๋ยวผมก็จะไปซื้อไอโฟนXSให้คุณ” ตู้เฟยกัดฟันพูด

เซี่ยลู่จึงตอบตกลงพนันไปอย่างแข็งแกร่ง ตู้เฟยมองหลี่ฝาง พูด: “หลี่ฝาง ถ้าพรุ่งนี้คุณยังมาเรียนที่มัธยมตงไห่ได้ ผมก็จะเอาเซี่ยลู่ให้คุณ”

“แต่ถ้าไม่ได้ ก็ขอให้คุณเรียกผมว่าคุณปู่ต่อหน้าทุกคน”

ตู้เฟยพูดจบ ก็อยากออกไป แต่หลี่ฝางเรียกหยุดเขาไว้: “ไม่ต้องรอพรุ่งนี้หรอก วันนี้ก็ได้คำตอบแล้ว”

หลี่ฝางชี้ไปที่ไม่ไกล ครูใหญ่กำลังวิ่งมาทางนี้

ครูใหญ่วิ่งมาด้วยอาการหอบ มองหลี่ฝาง พูดยิ้มๆ : “หลี่ฝาง ผมหาคุณเจอสักที”

“หาผมทำไมเหรอครับ?” หลี่ฝางรู้แล้วแต่ยังแกล้งถาม

“จะทำไมได้ล่ะ ก็จะให้คุณกลับไป” ครูใหญ่พูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มปีติ: “หลี่ฝาง มัธยมตงไห่จะเสียเด็กเรียนดีอย่างคุณไปไม่ได้!”

“คุณรีบตามผมกลับไปเถอะ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท