บทที่ 69 เงินร้อยล้านเรียกว่าไม่ขาดเงิน?
ในตอนแรกที่ชายชราเอ่ยชื่อสวีจื่อโห้ขึ้นมา หลี่ฝางก็รู้สึกร้อนตัวอยู่บ้างเล็กน้อย
ผลคือวุ่นวายกันอยู่ตั้งนาน เองหลังของชายชราคนนี้ที่แท้กลับเป็นแค่เลขาคนหนึ่ง อย่างนั้นหลี่ฝางจะกลัวไปทำไมกัน
“เป็นไง กลัวแล้วล่ะสิ?”
หลี่ฝางไม่ตอบอยู่นาน จนชายชราคิดว่าเขากลัวจนบื้อไป
“ตอนนี้ฉันจะโทรหาลูกเขยของฉัน และขอให้เขามาจับพวกนายทั้งหมด” ชายชราพูดเอ่ยพร้อมโทรออก
“หลี่ฝาง เราจะทำอย่างไรดี?” หลี่เสี่ยวเสี่ยวถามอย่างกระวนกระวายอยู่บ้าง
ถังหยู่ซวนเองก็มีสีหน้าหนักอึ้ง “หากเลขานั่นอยากฆ่าพวกเรา ก็ง่ายเสียยิ่งกว่าเหยียบมดอีก”
หลี่ฝางยิ้มอย่างมั่นใจ “ไม่มีทางหรอก”
หลี่ฝางไม่กลัว ตราบใดที่เขาไม่ได้ไปตอแยสวีจื่อโห้
ชายชราวางสายลง ใบหน้ามีรอยยิ้มที่น่ากลัว
“ชายชรา นายคิดจะฟ้องพวกเรายังไง?” หลี่ฝางถามอย่างใจเย็น
“ฉันคิดแล้ว ฉันจะฟ้องพวกนายข้อหาลักทรัพย์ อีกทั้งยังใช้ความรุนแรงกับฉัน แค่ข้อหาลักทรัพย์เพียงอย่างเดียว ก็สามารถลงโทษพวกนายแต่ละคนได้เป็นเวลาสิบปี” ชายชรากล่าวว่า
“สิบปี? ”
หลี่เสี่ยวเสี่ยวและคนอื่นๆ เมื่อได้ยินเข้าก็ตกใจ “ถ้าฉันถูกตัดสินจำคุก 10 ปี ฉันจะแต่งงานได้อย่างไร? ”
“ไม่ต้องกลัว เสี่ยวเสี่ยว ฉันเป็นคนต่อย ถึงเวลานั้นฉันรับผิดชอบทั้งหมดเอง” ถังหยู่ซวนตบอกและเอ่ยอย่างใจกว้าง
“ถ้าโทษทั้งหมดไปที่นาย อย่างนั้นนายก็ต้องติด 20 ปีน่ะสิ ถังหยู่ซวน ถ้านายเข้าไป แล้วพ่อแม่ของนายจะทำยังไง? พวกเขามีนายแค่คนเดียวเท่านั้น”
“พ่อแม่ของฉันคงต้องฝากพวกนายแล้ว” ถังหยู่ซวนยิ้มอย่างขมขื่นและมองไปที่พวกหลี่ฝางและหลี่เสี่ยวเสี่ยว
“ฉันเชื่อว่าพวกนายจะทำหน้าที่แทนฉันได้” ถังหยู่ซวนกล่าว
ถังหยู่ซวนพูดจบก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเตรียมโทรหาพ่อแม่ของเขา
แต่ในเวลานั้นเอง หลี่ฝางก็หยุดเขาเอาไว้ “ใครบอกว่านายจะต้องติดคุกแน่?”
ถังหยู่ซวนกล่าวอย่างสิ้นหวัง “หลี่ฝางฉันรู้ว่านายมีเงิน แต่คราวนี้พวกเราไปเหยียบแผ่นเหล็กเข้าให้แล้ว มีคนบางคน ต่อให้มีเงินก็แก้ไขปัญหาไม่ได้”
“นายผิดแล้ว” หลี่ฝางหัวเราะ “นั่นแสดงได้แค่ว่าเงินยังไม่พอต่างหาก”
“เงิน? นายคิดว่าคนแก่อย่างฉันต้องการเงินหรือไง? ฉันมีบ้านมากกว่าสิบหลัง มูลค่าหลายร้อยล้าน ฉันบอกนายให้ เด็กน้อย ต่อให้นายให้เงินฉันมากกว่านี้ ฉันก็ไม่ปล่อยนายไป” ชายชรากล่าวด้วยเสียงเยาะเย้ย
“ตาเฒ่า แค่เงินร้อยล้านเรียกว่าไม่ขาดเงินแล้วหรือ?” หลี่ฝางหัวเราะเบา ๆ
ไม่ต้องเทียบกับหลี่เจียเฉินปู่ของเขาด้วยซ้ำ แม้กระทั่งเทียบกับตัวเขาสินทรัพย์100ล้านแทบจะไม่นับว่าเป็นอะไร
“พ่อหนุ่ม ร่ำรวยไม่น้อยนี่ พวกลูกเศรษฐีชื่อดังในตงไห่ฉันล้วนเคยเจอมาหมดแล้ว แต่นาย ฉันกลับไม่คุ้นหน้าอย่างยิ่ง พ่อของนายชื่ออะไร?” มาถึงตอนนี้ชายชราถึงค่อยคิดได้ คนที่สามารถโยนเงินหนึ่งล้านทิ้งไป จะเป็นแค่ลูกคนธรรมดาทั่วไปได้หรือ?”
หรือว่า เด็กหน้าเหม็นตรงหน้าคนนี้ จะเป็นลูกเศรษฐีบ้านไหนสักบ้าน?
“พ่อของฉันชื่อหลี่ต๋าคาง คุณรู้จักเขาไหม? ” หลี่ฝางถามด้วยรอยยิ้ม
“หลี่ต๋าคาง?” ชายชรานั่งคิดอยู่นานบนโซฟา แต่นึกไม่ออก
ชายชราส่ายหัว”ฉันไม่รู้จักพ่อของนาย เขาทำอะไร? ”
“พ่อของฉันเป็นแค่ชาวนาธรรมดาๆ ทั่วไป แน่นอนว่าคุณต้องไม่รู้จักเขา แต่ว่าถ้าพูดถึงคุณปู่ ต่อให้คุณไม่รู้จักก็น่าจะเคยได้ยินชื่อเขาอยู่บ้าง” หลี่ฝางเอ่ยอย่างสะใจ
“ทำไม ปู่ของนายคือหลี่เจียเฉินหรือไง?” ชายชราพูดติดตลก
“ใช่ ไม่ผิด ปู่ของฉันชื่อหลี่เจียเฉิน” หลี่ฝางพยักหน้ารับ คิดไม่ถึงว่าชายชราจะฉลาดขนาดนี้ พริบตาเดียวก็เดาออกว่าปู่ของเขาคือใคร
“หนุ่มน้อย นายช่างตลกจริงๆ” ชายชราส่ายหัวและหัวเราะราวกับว่าหลี่ฝางล้อเล่น
“ไม่เชื่องั้นหรือ?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว
“คิดวว่าฉันโง่หรือไง หลี่เจียเฉินเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย หลานชายของคนรวยที่สุดในเอเชีย จะมาอยู่เที่ยวเล่นกับกลุ่มคนยากจนแบบนี้หรือ?” ชายชราหัวเราะ
“ถ้านายเป็นหลานชายของหลี่เจียเฉินจริงๆ งั้นนายก็ไปขอให้ปู่ของนายโอนให้เงินฉัน 100 ล้านหยวน ฉันจะปล่อยนายไป เป็นไง?” ชายชราแกล้งหยอกหลี่ฝาง
“ฉันจะไม่ให้นายสักสตางค์” หลี่ฝางส่ายหัว
“เป็นนายที่ไม่มีเงินร้อยล้านต่างหาก” ชายชราถอนหายใจ “แต่ถึงยังไงฉันก็อายุขนาดนี้แล้ว ต่อให้นายเอาเงินร้อยล้านหยวนให้ฉัน ฉันก็ใช้ไม่หมดอยู่ดี ยังไงส่งพวกนายเข้าคุกให้พวกนายได้ลิ้มลองความทุกข์ขึ้นมากสักหน่อยก็ยังคงดีกว่า”
“นายแน่ใจขนาดนั้นเลยว่าพวกเราจะติดคุก? ” หลี่ฝางถาม
“ลูกเขยของฉันเป็นเลขาของสวีจื่อโห้ ใครที่เจอกับลูกเขยของฉัน ก็ต้องไหว้หน้าเขาอยู่บ้าง อย่าว่าแต่พวกนายเด็กหน้าเหม็นไม่กี่คนเลย ต่อให้เป็นตู้ต้าไห่คนรวยแบบนั้นมาหาเรื่องฉัน ก็ยังต้องก้มหน้ายอมรับผิดกับฉันเหมือนกัน” ชายชรากล่าวอย่างหยิ่งยโส
“ร้ายกาจ ร้ายกาจ” หลี่ฝางยกนิ้วโป้งให้ชายชรา แล้วเดินไปด้านหนึ่งเพื่อโทรหาสวีจื่อโห้
ในบาร์ในวันนั้น แม้ว่าคุณลุงเฉียนจะฉีกนามบัตรของสวีจื่อโห้ออกเป็นชิ้นไปแล้ว แต่หลี่ฝางก็แอบหยิบชิ้นส่วนต่างๆ ขึ้นมาในภายหลังและปะติดปะต่อหมายเลขเข้าด้วยกัน
หลังจากสวีจื่อโห้ได้ยินเรื่อง เขาก็ระเบิดขึ้นมาทันที “เสี่ยวฝาง มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงหรือ!”
“ใช่ครับ เรื่องจริงแน่นอน ลุงสวี คุณต้องมาเป็นคนตัดสินให้ผม ชายชราคนนี้ไม่เพียงแต่แอบบังคับให้ผู้หญิงดีๆ ต้องเป็นโสเภณีเท่านั้น แต่ยังตีกรอบล้อมปล้นผมอีกด้วย”
“ยังมี คุณลุงจะต้องตรวจสอบให้ดีๆ ชายชราคนนี้มีบ้านมากกว่าสิบหลังมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านเชียวนะครับ” หลี่ฝางเอ่ยผ่านทางโทรศัพท์
หลังวางสายโทรศัพท์ ใบหน้าของหลี่ฝางก็เผยรอยยิ้มร้ายกาจ
หลี่ฝางคิดในใจ จากนี้ไปชายชราคนนี้ต่างหากที่จบเห่ ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่จบเห่ แม้กระทั่งลูกเขยของเขาก็หนีไม่รอด
“โทรให้คนมาช่วยหรือไง ไร้ประโยชน์ ทั้งตงไห่นอกจากสวีจื่อโห้แล้ว ไม่มีใครช่วยนายได้ อีกทั้งยังไม่มีใครกล้าช่วยด้วย” ชายชราพูดอย่างเหยียดหยาม
“ตาเฒ่า คุณเป็นครึ่งเซียนหรือเปล่า?”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันโทรหาสวีจื่อโห้เพื่อขอความช่วยเหลือ” หลี่ฝางเริ่มหัวเราะ
สีหน้าของชายชราเคร่งขึ้น เขาส่ายหัว “เจ้าหนุ่มนายบอกสิ คนอย่างนายไม่เท่าไหร่แต่ทำไมถึงขี้โม้ได้ขนาดนี้”
“ความขี้โม้ทั้งหมดในเมืองตงไห่นี้รวมกันยังถูกนายคุยโวจนต้องหลบไปเสียให้เรียบ” ชายชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลี่ฝางคิดในใจ โม้หรือไม่ อีกเดี๋ยวก็รู้
หลี่เสี่ยวเสี่ยวเข้ามาจับแขนหลี่ฝาง และพูดอย่างลนลาน “หลี่ฝาง นายรู้จักสวีจื่อโห้จริงหรือเปล่าเนี่ย”
หลี่ฝางพยักหน้าและเอ่ย “สวีจื่อโห้เป็นลุงของฉัน”
“อย่างนั้นก็หมายความว่า พวกเรารอดแล้วใช่ไหม?” หลี่เสี่ยวเสี่ยวถามอย่างตื่นเต้น
“ถังหยู่ซวน อีกเดี๋ยวนายไม่ต้องติดคุกแล้ว” หลี่เสี่ยวเสี่ยวมองไปที่ถังหยู่ซวนและพูด
ถังหยู่ซวนถอนหายใจ “เสี่ยวเสี่ยว ยัยโง่ หลี่ฝางแค่ล้อเล่นกับเธอ เมื่อกี้เขาไม่ได้เพิ่งบอกไปว่าตัวเองเป็นหลานของหลี่เจียเฉินหรือไง”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่เสี่ยวเสี่ยวหายไป เธอผลักหลี่ฝางและพูดอย่างโกรธๆ ว่า “หลี่ฝาง นี่มันเวลาไหนแล้ว นายยังมีอารมณ์มาล้อเล่นอยู่อีก”
เดี๋ยวก็หลานชายของหลี่เจียเฉิน เดี๋ยวก็สวีจื่อโห้เป็นลุงของตน ทุกคนในห้องล้วนคิดว่าหลี่ฝางกำลังล้อเล่น Li
ลู่หลุ่ยรู้สึกผิดอย่ายิ่ง เธอเอ่ย “ขอโทษด้วย ขอโทษด้วยนะทุกคน เป็นฉันที่ไม่ดี ทำให้พวกนายต้องมาลำบาก อีกเดี๋ยวถ้าเจ้าหน้าที่มา ก็ให้พวกเขาจับฉันก็พอแล้ว”
“ลำบากอะไรกัน ถ้าจะบอกว่าลำบาก ตั้งแต่เด็กจนโต ฉันลำบากพวกเธอมาตั้งเท่าไหร่แล้ว” ถังหยู่ซวนพูดอย่างโมโห
“ฟังนะ อีกเดี๋ยวพอเจ้าหน้าที่มา ก็ผลักความรับผิดชอบทั้งหมดมาให้ฉัน อย่าได้รู้สึกผิด อันที่จริงฉันชอบเรือนจำมาก ได้ยินว่าคนเก่งๆ ล้วนอยู่ที่นั่นทั้งหมด อีกทั้งที่นั่นยังมีการจัดการข้าวปลาให้ด้วย ดีอย่างยิ่ง ลดภาระหาเช้ากินค่ำของฉันลง พริบตา ฉันก็ไม่ต้องมากังวลแล้ว ” ถังหยู่ซวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ทุกคนล้วนดูออก ว่าถังหยู่ซวนพยายามที่จะยิ้มให้กับทุกคน
“แต่ยังไงก็อย่าลืมไปเยี่ยมพ่อแม่ของฉันบ่อยๆ ถ้าพวกนายทำไม่ได้ รอฉันออกมา ฉันจะไม่ถือว่าพวกนายเป็นเพื่อนแล้ว”
“ส่วนฉัน พวกนายจะมาไม่มาก็ไม่เป็นไร ถ้าว่าง ก็เอาไก่ย่างมาเยี่ยมฉันสักหน่อย ถ้าไม่ว่างก็แล้วไป” ถังหยู่ซวนพูดไป รถตำรวจก็มาพอดี
เมื่อได้ยินเสียงไซเรนของรถตำรวจ ชายชราก็ลุกขึ้นยืน เขาหัวเราะและมองไปที่ หลี่ฝางและถังหยู่ซวน “อีกเดี๋ยว พวกนายสองคนก็หนีไปไหนไม่รอดแล้ว”
“ส่วนพวกเธอสองคน” ชายชราหรี่ตามองไปที่ลู่หลุ่ยและหลี่เสี่ยวเสี่ยว “ถ้าพวกเธอเต็มใจฟังฉันแต่โดยดี ฉันอาจจะคิดทบทวนปล่อยพวกเธอไปก็ได้”
“แม่งสิ ต่อให้ฉันตาย ฉันก็ไม่ทำเรื่องพรรค์นั้นกับแกหรอก” หลี่เสี่ยวเสี่ยวถลึงตาใส่ชายชราอย่างเกลียดชังและเอ่ยด่า
ในเวลานั้นเอง หม่าเทียนกับชายหนุ่มสองคนก็เดินเข้ามาในวิลล่า
“หัวหน้าหม่า ในที่สุดคุณก็มาแล้ว ลองดูสิเจ้าเด็กพวกนี้กล้าต่อยฉัน” ชายชรากล่าวพลางชี้ไปที่หน้าของตน