NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 69

ตอนที่ 69

บทที่ 69 เงินร้อยล้านเรียกว่าไม่ขาดเงิน?

ในตอนแรกที่ชายชราเอ่ยชื่อสวีจื่อโห้ขึ้นมา หลี่ฝางก็รู้สึกร้อนตัวอยู่บ้างเล็กน้อย

ผลคือวุ่นวายกันอยู่ตั้งนาน เองหลังของชายชราคนนี้ที่แท้กลับเป็นแค่เลขาคนหนึ่ง อย่างนั้นหลี่ฝางจะกลัวไปทำไมกัน

“เป็นไง กลัวแล้วล่ะสิ?”

หลี่ฝางไม่ตอบอยู่นาน จนชายชราคิดว่าเขากลัวจนบื้อไป

“ตอนนี้ฉันจะโทรหาลูกเขยของฉัน และขอให้เขามาจับพวกนายทั้งหมด” ชายชราพูดเอ่ยพร้อมโทรออก

“หลี่ฝาง เราจะทำอย่างไรดี?” หลี่เสี่ยวเสี่ยวถามอย่างกระวนกระวายอยู่บ้าง

ถังหยู่ซวนเองก็มีสีหน้าหนักอึ้ง “หากเลขานั่นอยากฆ่าพวกเรา ก็ง่ายเสียยิ่งกว่าเหยียบมดอีก”

หลี่ฝางยิ้มอย่างมั่นใจ “ไม่มีทางหรอก”

หลี่ฝางไม่กลัว ตราบใดที่เขาไม่ได้ไปตอแยสวีจื่อโห้

ชายชราวางสายลง ใบหน้ามีรอยยิ้มที่น่ากลัว

“ชายชรา นายคิดจะฟ้องพวกเรายังไง?” หลี่ฝางถามอย่างใจเย็น

“ฉันคิดแล้ว ฉันจะฟ้องพวกนายข้อหาลักทรัพย์ อีกทั้งยังใช้ความรุนแรงกับฉัน แค่ข้อหาลักทรัพย์เพียงอย่างเดียว ก็สามารถลงโทษพวกนายแต่ละคนได้เป็นเวลาสิบปี” ชายชรากล่าวว่า

“สิบปี? ”

หลี่เสี่ยวเสี่ยวและคนอื่นๆ เมื่อได้ยินเข้าก็ตกใจ “ถ้าฉันถูกตัดสินจำคุก 10 ปี ฉันจะแต่งงานได้อย่างไร? ”

“ไม่ต้องกลัว เสี่ยวเสี่ยว ฉันเป็นคนต่อย ถึงเวลานั้นฉันรับผิดชอบทั้งหมดเอง” ถังหยู่ซวนตบอกและเอ่ยอย่างใจกว้าง

“ถ้าโทษทั้งหมดไปที่นาย อย่างนั้นนายก็ต้องติด 20 ปีน่ะสิ ถังหยู่ซวน ถ้านายเข้าไป แล้วพ่อแม่ของนายจะทำยังไง? พวกเขามีนายแค่คนเดียวเท่านั้น”

“พ่อแม่ของฉันคงต้องฝากพวกนายแล้ว” ถังหยู่ซวนยิ้มอย่างขมขื่นและมองไปที่พวกหลี่ฝางและหลี่เสี่ยวเสี่ยว

“ฉันเชื่อว่าพวกนายจะทำหน้าที่แทนฉันได้” ถังหยู่ซวนกล่าว

ถังหยู่ซวนพูดจบก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเตรียมโทรหาพ่อแม่ของเขา

แต่ในเวลานั้นเอง หลี่ฝางก็หยุดเขาเอาไว้ “ใครบอกว่านายจะต้องติดคุกแน่?”

ถังหยู่ซวนกล่าวอย่างสิ้นหวัง “หลี่ฝางฉันรู้ว่านายมีเงิน แต่คราวนี้พวกเราไปเหยียบแผ่นเหล็กเข้าให้แล้ว มีคนบางคน ต่อให้มีเงินก็แก้ไขปัญหาไม่ได้”

“นายผิดแล้ว” หลี่ฝางหัวเราะ “นั่นแสดงได้แค่ว่าเงินยังไม่พอต่างหาก”

“เงิน? นายคิดว่าคนแก่อย่างฉันต้องการเงินหรือไง? ฉันมีบ้านมากกว่าสิบหลัง มูลค่าหลายร้อยล้าน ฉันบอกนายให้ เด็กน้อย ต่อให้นายให้เงินฉันมากกว่านี้ ฉันก็ไม่ปล่อยนายไป” ชายชรากล่าวด้วยเสียงเยาะเย้ย

“ตาเฒ่า แค่เงินร้อยล้านเรียกว่าไม่ขาดเงินแล้วหรือ?” หลี่ฝางหัวเราะเบา ๆ

ไม่ต้องเทียบกับหลี่เจียเฉินปู่ของเขาด้วยซ้ำ แม้กระทั่งเทียบกับตัวเขาสินทรัพย์100ล้านแทบจะไม่นับว่าเป็นอะไร

“พ่อหนุ่ม ร่ำรวยไม่น้อยนี่ พวกลูกเศรษฐีชื่อดังในตงไห่ฉันล้วนเคยเจอมาหมดแล้ว แต่นาย ฉันกลับไม่คุ้นหน้าอย่างยิ่ง พ่อของนายชื่ออะไร?” มาถึงตอนนี้ชายชราถึงค่อยคิดได้ คนที่สามารถโยนเงินหนึ่งล้านทิ้งไป จะเป็นแค่ลูกคนธรรมดาทั่วไปได้หรือ?”

หรือว่า เด็กหน้าเหม็นตรงหน้าคนนี้ จะเป็นลูกเศรษฐีบ้านไหนสักบ้าน?

“พ่อของฉันชื่อหลี่ต๋าคาง คุณรู้จักเขาไหม? ” หลี่ฝางถามด้วยรอยยิ้ม

“หลี่ต๋าคาง?” ชายชรานั่งคิดอยู่นานบนโซฟา แต่นึกไม่ออก

ชายชราส่ายหัว”ฉันไม่รู้จักพ่อของนาย เขาทำอะไร? ”

“พ่อของฉันเป็นแค่ชาวนาธรรมดาๆ ทั่วไป แน่นอนว่าคุณต้องไม่รู้จักเขา แต่ว่าถ้าพูดถึงคุณปู่ ต่อให้คุณไม่รู้จักก็น่าจะเคยได้ยินชื่อเขาอยู่บ้าง” หลี่ฝางเอ่ยอย่างสะใจ

“ทำไม ปู่ของนายคือหลี่เจียเฉินหรือไง?” ชายชราพูดติดตลก

“ใช่ ไม่ผิด ปู่ของฉันชื่อหลี่เจียเฉิน” หลี่ฝางพยักหน้ารับ คิดไม่ถึงว่าชายชราจะฉลาดขนาดนี้ พริบตาเดียวก็เดาออกว่าปู่ของเขาคือใคร

“หนุ่มน้อย นายช่างตลกจริงๆ” ชายชราส่ายหัวและหัวเราะราวกับว่าหลี่ฝางล้อเล่น

“ไม่เชื่องั้นหรือ?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว

“คิดวว่าฉันโง่หรือไง หลี่เจียเฉินเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย หลานชายของคนรวยที่สุดในเอเชีย จะมาอยู่เที่ยวเล่นกับกลุ่มคนยากจนแบบนี้หรือ?” ชายชราหัวเราะ

“ถ้านายเป็นหลานชายของหลี่เจียเฉินจริงๆ งั้นนายก็ไปขอให้ปู่ของนายโอนให้เงินฉัน 100 ล้านหยวน ฉันจะปล่อยนายไป เป็นไง?” ชายชราแกล้งหยอกหลี่ฝาง

“ฉันจะไม่ให้นายสักสตางค์” หลี่ฝางส่ายหัว

“เป็นนายที่ไม่มีเงินร้อยล้านต่างหาก” ชายชราถอนหายใจ “แต่ถึงยังไงฉันก็อายุขนาดนี้แล้ว ต่อให้นายเอาเงินร้อยล้านหยวนให้ฉัน ฉันก็ใช้ไม่หมดอยู่ดี ยังไงส่งพวกนายเข้าคุกให้พวกนายได้ลิ้มลองความทุกข์ขึ้นมากสักหน่อยก็ยังคงดีกว่า”

“นายแน่ใจขนาดนั้นเลยว่าพวกเราจะติดคุก? ” หลี่ฝางถาม

“ลูกเขยของฉันเป็นเลขาของสวีจื่อโห้ ใครที่เจอกับลูกเขยของฉัน ก็ต้องไหว้หน้าเขาอยู่บ้าง อย่าว่าแต่พวกนายเด็กหน้าเหม็นไม่กี่คนเลย ต่อให้เป็นตู้ต้าไห่คนรวยแบบนั้นมาหาเรื่องฉัน ก็ยังต้องก้มหน้ายอมรับผิดกับฉันเหมือนกัน” ชายชรากล่าวอย่างหยิ่งยโส

“ร้ายกาจ ร้ายกาจ” หลี่ฝางยกนิ้วโป้งให้ชายชรา แล้วเดินไปด้านหนึ่งเพื่อโทรหาสวีจื่อโห้

ในบาร์ในวันนั้น แม้ว่าคุณลุงเฉียนจะฉีกนามบัตรของสวีจื่อโห้ออกเป็นชิ้นไปแล้ว แต่หลี่ฝางก็แอบหยิบชิ้นส่วนต่างๆ ขึ้นมาในภายหลังและปะติดปะต่อหมายเลขเข้าด้วยกัน

หลังจากสวีจื่อโห้ได้ยินเรื่อง เขาก็ระเบิดขึ้นมาทันที “เสี่ยวฝาง มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงหรือ!”

“ใช่ครับ เรื่องจริงแน่นอน ลุงสวี คุณต้องมาเป็นคนตัดสินให้ผม ชายชราคนนี้ไม่เพียงแต่แอบบังคับให้ผู้หญิงดีๆ ต้องเป็นโสเภณีเท่านั้น แต่ยังตีกรอบล้อมปล้นผมอีกด้วย”

“ยังมี คุณลุงจะต้องตรวจสอบให้ดีๆ ชายชราคนนี้มีบ้านมากกว่าสิบหลังมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านเชียวนะครับ” หลี่ฝางเอ่ยผ่านทางโทรศัพท์

หลังวางสายโทรศัพท์ ใบหน้าของหลี่ฝางก็เผยรอยยิ้มร้ายกาจ

หลี่ฝางคิดในใจ จากนี้ไปชายชราคนนี้ต่างหากที่จบเห่ ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่จบเห่ แม้กระทั่งลูกเขยของเขาก็หนีไม่รอด

“โทรให้คนมาช่วยหรือไง ไร้ประโยชน์ ทั้งตงไห่นอกจากสวีจื่อโห้แล้ว ไม่มีใครช่วยนายได้ อีกทั้งยังไม่มีใครกล้าช่วยด้วย” ชายชราพูดอย่างเหยียดหยาม

“ตาเฒ่า คุณเป็นครึ่งเซียนหรือเปล่า?”

“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันโทรหาสวีจื่อโห้เพื่อขอความช่วยเหลือ” หลี่ฝางเริ่มหัวเราะ

สีหน้าของชายชราเคร่งขึ้น เขาส่ายหัว “เจ้าหนุ่มนายบอกสิ คนอย่างนายไม่เท่าไหร่แต่ทำไมถึงขี้โม้ได้ขนาดนี้”

“ความขี้โม้ทั้งหมดในเมืองตงไห่นี้รวมกันยังถูกนายคุยโวจนต้องหลบไปเสียให้เรียบ” ชายชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม

หลี่ฝางคิดในใจ โม้หรือไม่ อีกเดี๋ยวก็รู้

หลี่เสี่ยวเสี่ยวเข้ามาจับแขนหลี่ฝาง และพูดอย่างลนลาน “หลี่ฝาง นายรู้จักสวีจื่อโห้จริงหรือเปล่าเนี่ย”

หลี่ฝางพยักหน้าและเอ่ย “สวีจื่อโห้เป็นลุงของฉัน”

“อย่างนั้นก็หมายความว่า พวกเรารอดแล้วใช่ไหม?” หลี่เสี่ยวเสี่ยวถามอย่างตื่นเต้น

“ถังหยู่ซวน อีกเดี๋ยวนายไม่ต้องติดคุกแล้ว” หลี่เสี่ยวเสี่ยวมองไปที่ถังหยู่ซวนและพูด

ถังหยู่ซวนถอนหายใจ “เสี่ยวเสี่ยว ยัยโง่ หลี่ฝางแค่ล้อเล่นกับเธอ เมื่อกี้เขาไม่ได้เพิ่งบอกไปว่าตัวเองเป็นหลานของหลี่เจียเฉินหรือไง”

รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่เสี่ยวเสี่ยวหายไป เธอผลักหลี่ฝางและพูดอย่างโกรธๆ ว่า “หลี่ฝาง นี่มันเวลาไหนแล้ว นายยังมีอารมณ์มาล้อเล่นอยู่อีก”

เดี๋ยวก็หลานชายของหลี่เจียเฉิน เดี๋ยวก็สวีจื่อโห้เป็นลุงของตน ทุกคนในห้องล้วนคิดว่าหลี่ฝางกำลังล้อเล่น Li

ลู่หลุ่ยรู้สึกผิดอย่ายิ่ง เธอเอ่ย “ขอโทษด้วย ขอโทษด้วยนะทุกคน เป็นฉันที่ไม่ดี ทำให้พวกนายต้องมาลำบาก อีกเดี๋ยวถ้าเจ้าหน้าที่มา ก็ให้พวกเขาจับฉันก็พอแล้ว”

“ลำบากอะไรกัน ถ้าจะบอกว่าลำบาก ตั้งแต่เด็กจนโต ฉันลำบากพวกเธอมาตั้งเท่าไหร่แล้ว” ถังหยู่ซวนพูดอย่างโมโห

“ฟังนะ อีกเดี๋ยวพอเจ้าหน้าที่มา ก็ผลักความรับผิดชอบทั้งหมดมาให้ฉัน อย่าได้รู้สึกผิด อันที่จริงฉันชอบเรือนจำมาก ได้ยินว่าคนเก่งๆ ล้วนอยู่ที่นั่นทั้งหมด อีกทั้งที่นั่นยังมีการจัดการข้าวปลาให้ด้วย ดีอย่างยิ่ง ลดภาระหาเช้ากินค่ำของฉันลง พริบตา ฉันก็ไม่ต้องมากังวลแล้ว ” ถังหยู่ซวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ทุกคนล้วนดูออก ว่าถังหยู่ซวนพยายามที่จะยิ้มให้กับทุกคน

“แต่ยังไงก็อย่าลืมไปเยี่ยมพ่อแม่ของฉันบ่อยๆ ถ้าพวกนายทำไม่ได้ รอฉันออกมา ฉันจะไม่ถือว่าพวกนายเป็นเพื่อนแล้ว”

“ส่วนฉัน พวกนายจะมาไม่มาก็ไม่เป็นไร ถ้าว่าง ก็เอาไก่ย่างมาเยี่ยมฉันสักหน่อย ถ้าไม่ว่างก็แล้วไป” ถังหยู่ซวนพูดไป รถตำรวจก็มาพอดี

เมื่อได้ยินเสียงไซเรนของรถตำรวจ ชายชราก็ลุกขึ้นยืน เขาหัวเราะและมองไปที่ หลี่ฝางและถังหยู่ซวน “อีกเดี๋ยว พวกนายสองคนก็หนีไปไหนไม่รอดแล้ว”

“ส่วนพวกเธอสองคน” ชายชราหรี่ตามองไปที่ลู่หลุ่ยและหลี่เสี่ยวเสี่ยว “ถ้าพวกเธอเต็มใจฟังฉันแต่โดยดี ฉันอาจจะคิดทบทวนปล่อยพวกเธอไปก็ได้”

“แม่งสิ ต่อให้ฉันตาย ฉันก็ไม่ทำเรื่องพรรค์นั้นกับแกหรอก” หลี่เสี่ยวเสี่ยวถลึงตาใส่ชายชราอย่างเกลียดชังและเอ่ยด่า

ในเวลานั้นเอง หม่าเทียนกับชายหนุ่มสองคนก็เดินเข้ามาในวิลล่า

“หัวหน้าหม่า ในที่สุดคุณก็มาแล้ว ลองดูสิเจ้าเด็กพวกนี้กล้าต่อยฉัน” ชายชรากล่าวพลางชี้ไปที่หน้าของตน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท