NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 270

ตอนที่ 270

บทที่ 270 อันตรายที่อยู่ข้างหน้าหลี่ฝาง

หลี่ฝางคิดในใจ ไอ้หมอนี่เป็นบ้าหรือไง

หน้าอกมีแผลใหญ่ขนาดนั้น ไม่รีบขึ้นฝั่งไปทำแผล จะมาแช่น้ำร้อนอะไรกัน

ถ้ายังขืนแช่ต่อไป น้ำได้สกปรกขึ้นแน่

หลี่ฝางไม่ได้สังเกตเห็นมีดที่เสี่ยวเซิงถืออยู่ เพราะหมอกหนามาก อีกอย่างมีดถูกซ่อนไว้ใต้มือ

“พี่เซิง ผู้หญิงคนนี้สวยจริงๆ เลยพี่”

พอมองมาที่ฉินวี่เฟย ลูกน้องสองคนที่อยู่ด้านหลังก็น้ำลายไหลกันแล้ว

หน้าอกที่ถูกปิดไปแค่ครึ่งนึงแบบนี้ ยิ่งทำให้กระทบกับสายตาผู้ชาย

ลูกน้องสองคนที่อยู่หลังเสี่ยวเซิง มองมาที่ฉินวี่เฟย ต่างก็พากันกลืนน้ำลาย “สาวสวย เธอนี่สวยจริงๆ เลย”

“ไม่ต้องไปอยู่กับไอ้หมอนี่แล้ว มาอยู่กับฉันเถอะ”

พูดไป ผู้ชาย 2 คนนั้นก็เดินเข้ามาหาฉินวี่เฟย

สองคนนั้นเห็นฉินวี่เฟย ถึงได้คิดถึงเรื่องที่ไม่ดีขึ้น

ฝั่งตรงข้ามมี 3 คน หลี่ฝางขมวดคิ้วคิดในใจว่าแบบนี้คงยากที่จะรับมือได้

พอกำลังงจะเรียกคนมา เสี่ยวเซิงก็รีบพูดขึ้นทันทีว่า “หยุดนะ!”

ฉินวี่เฟยกับหลี่ฝางถึงได้คลายความกังวลลง

“จำไว้ พวกแกไม่ได้มาหาผู้หญิง!” เสี่ยวเซิงพูดด้วยความเคร่งเครียด

พอพูดจบ มือของเสี่ยวเซิงก็บกมีดขึ้นมา

หลี่ฝางมองไปที่มือของเสี่ยวเซิง สิ่งนั้นกำลังส่ายไปมา

“มีดเหรอ”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว สีหน้าเริ่มเครียดขึ้นมา

“รีบหนีไป ไอ้หมอนั่นมันมีมีด!” หลี่ฝางตะโกนบอกฉินวี่เฟย

เสี่ยวเซิงมองหลี่ฝางด้วยสายตาเย็นชา ไม่หันไปมองฉินวี่เฟยเลยซักนิด

เป้าหมายของเสี่ยวเซิง มีเพียงหลี่ฝาง

แค่ฆ่าหลี่ฝาง เขาก็จะได้เงิน 3 แสน

เสี่ยงเซิงจ่องไปที่หลี่ฝาง แล้วเดินเข้าไปหาเขา

“แก 2 คนจับมันไว้ ที่เหลือ ฉันจัดการเอง” เสี่ยวเซิงพูดกับลูกน้องทั้ง 2 คนของตัวเอง

ลูกน้องทั้ง 2 คนของเสี่ยวเซิงต่างมัวแต่สนใจกับฉินวี่เฟย

เธอมีรูปร่างหน้าตาที่สวยและรูปร่างที่ดีเท่าดารากับดาราเลย

บอกกับตอนนี้เธอใส่ชุดว่ายน้ำอยู่ ยิ่งดึงดูดเขามากขึ้น

“พี่เซิง เราไม่ต้องจัดการไอ้หมอนี่ละ เรามา…”

ลุกน้องทั้งสองของเสี่ยวเซิงต่างก็เลียปาก พร้อมพูดต่อว่า “เรามาจัดการกับผู้หญิงของไอ้หมอนี่กันดีกว่า ให้มันขาดใจตายไปเลยเป็นไง”

พอได้ยินประโยคนั้น ฉินวี่เฟยก็สีหน้าเย็นชาขึ้นมาทันที

“ไม่ได้”

มองไปที่หลี่ฝาง เสี่ยวเซิงพูดขึ้น “เป้าหมายของเรา คือมัน”

“พวกแกช่วยฉันจับมันไว้ ถ้าเสร็จแล้ว ผู้หญิงคนนั้นพวกแกอยากทำอะไรก็ทำ” เสี่ยวเซิงพูด

“งั้นก็ได้”

ลูกน้องของเสี่ยวเซิงมองมาที่ฉินวี่เฟย พร้อมพูดเตือนว่า “เธอห้ามวิ่งหนีไปไหนนะ ถ้าเธอหนีไป ฉันจะฆ่าแฟนเธอแน่”

หลี่ฝางมองไปที่เสี่ยวเซิง พร้อมถามว่า “เพื่อนๆ จำคนผิดหรือเปล่า”

“เราสองคนไม่ได้มีความแค้นอะไรกันไม่ใช่เหรอ” หลี่ฝางขมวดคิ้วหนัก แล้วถามด้วยความสงสัย

“อย่าพูดมาก คนที่ตามหาก็แกนั่นแหละ!”

เสี่ยวเซิงมองหลี่ฝางด้วยสายตาเย็นชา สีหน้าดุร้าย

แล้วลูกน้องทั้งสองของเขาก็เดินเข้าไปหาหลี่ฝาง

หลี่ฝางขมวดคิ้ว หากว่าโดนล้อม เขาแย่แน่

หลี่ฝางรีบดำลงไปในน้ำ ใช้เท้าเตะไปทางผลักตัวไปทางเสี่ยวเซิงแล้วว่ายไปทางนั้น

“บ้าเอ้ย มันลงไปในน้ำแล้ว!”

เสี่ยงเซิงด่าด้วยความโมโห พร้อมพูดขึ้นว่า “เราลงในน้ำไปจับมัน!”

เพิ่งพูดจบ ขาของเสี่ยวเซิงก็โดนมือหนึ่งจับมือแน่น

จากนั้น เสี่ยวเซิงก็ล้มลงไป

หลี่ฝางว่ายน้ำเก่ง ตอนเด็กๆ เขาเคยมีเรื่องกับคนอื่นในน้ำด้วย

เพราะฉะนั้นการมีเรื่องกันวันนี้หลี่ฝางถือว่ามีประสบการณ์มาก

เสี่ยวเซิงล้มลงไปในน้ำ สำลักไป เขายกมีดขึ้นมากวาดไปทั่ว

หลี่ฝางเตรียมการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว หลบไปได้อย่างง่ายดาย

หลี่ฝางอยู่ในน้ำ ไม่ได้หลับตา แต่เสี่ยวเซิงพอลงไปในน้ำ กลับไปกล้าที่จะลืมตาเลย

นี่คือข้อได้เปรียบของหลี่ฝาง

เสี่ยวเซิงอยากจะโผล่ขึ้นไปด้านบน แต่หลี่ฝางจะให้เขาทำสำเร็จได้ยังไงกัน

หลี่ฝางจับขาเขาไว้ แล้วกระชากไปด้วยความแรง

เขาเรีบหยิบมีดที่อยู่ในน้ำขึ้นมากุมไว้ในมือ พอให้เสี่ยวเซิงและพวกโผล่ขึ้นมา หลี่ฝางก็มองพวกเจาก็ด้วยสายตาเย็นชา

“พวกแกอยากฆ่าฉันเหรอ” หลี่ฝากถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

เวลานี้ฉินวี่ยืนอยู่ข้างหลังหลี่ฝาง

ฉินวี่เฟยเป็นนักเทควันโดฝีมือดี ถ้าฝั่งตรงข้ามไม่มีมีด เธอทำให้พวกนั้นล้มได้ง่ายมาก

“ไป!” เสี่ยวเซิงมองหน้าหลี่ฝาง สายตายังคงเต็มไปด้วยความเย็นชา

ต่อให้ในมือของหลี่ฝางถือมีดอยู่ สีหน้าของเขาก็ไม่มีความกลัวโผล่มาเลยสักนิด

“พี่เซิง มีดโดนมันแย่งไปแล้ว เรารีบหนีกันเถอะ” คนที่อยู่ด้านหลังเสี่ยวเซิงเริ่มกลัวขึ้นมาแล้ว

และในเวลานี้ ก็มีอีก คนมาสมทบ

“พี่เซิง หาไอ้หมอนี่เจอแล้วเหรอ!”

ลูกน้องอีก 2 คนของเสี่ยวเซิงก็มาหาเขาพอดี

“โอ้โห มีสาวสวยด้วยเหรอ สาวคนนี้สวยมากจริงๆ เลย” เมื่อมองไปที่ฉินวี่เฟย ทั้งสองก็ต่างพากันส่งสายตายั่วยวน

“เราไปด้วยกัน มันมีมีดแล้วยังไง ต่อให้มีมีด มันจะสู้คน 5 คนได้เหรอ”

เสี่ยวเซิงยิ้มอย่างไม่สนใจ พอเห็นว่าลูกน้องอีก 2 คนมาสมทบ เขายิ่งมั่นใจขึ้นไปอีก

“อีกอย่าง ดูหน้าไอ้หมอนี่มันขี้กลัวจะตาย ต่อให้เอามีดให้มัน คิดว่ามันกล้าแทงพวกเราเหรอ” เสี่ยวเซิงสีหน้าดูถูก

ประโยคนี้ ลูกน้องทั้งที่อยู่ข้างหลังก็ไม่อยากเห็นด้วยนัก

ถ้าเขาขี้ขลาด จะกล้าสู้กับคนที่มีมีดอย่านายเหรอ

แล้วยังแย่งเอามีดนายไปด้วยแบบนี้เหรอ

พอพูดจบ เสี่ยวเซิงก็วิ่งเข้าไปหาหลี่ฝางทีนที

ฉินวี่เฟยกับเสี่ยวฝางหันหลังติดกัน

ฉินวี่เฟยพูดขึ้นว่า “2 คนข้างหลังนาย ฉันจัดการเอง”

“โอเค”

หลี่ฝางพยักหน้า สีหน้าเริ่มมีความดุร้ายปรากฏขึ้น

หลี่ฝางมือถือมีด แล้วก็วิ่งเข้าไป

เสี่ยวเซิงโผตัวเข้ามาเพื่อจะแย่งมีดจากเขา แค่กลับโดนเขาซัดเข้าหน้าเต็มๆ หนึ่งหมัด

ตากนั้น อีกมือนึงของหลี่ฝางตรงไปที่ท้องของหลี่ฝาง พร้อมแทงเข้าไป

เวลานี้ หลี่ฝางลืมสิ่งที่จางกงหมิงกำชับไว้

จางกงหมิงเคยบอกหลี่ฝางไว้ว่า ถ้าแทงคน อย่าแทงมั่วเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้ฝั่งตรงข้ามตายได้

แต่ในเวลานี้ หลี่ฝางไม่มีเวลาไปกังวลสิ่งนั้นแล้ว

หลี่ฝางสัมผัสได้ว่า เสี่ยวเซิงคนนี้อยากจะเอาชีวิตเขาแน่นอน

หลี่ฝางเอามีดแทงเข้าไปในท้องของเสี่ยวเซิง พอตอนที่จะดึงออกมา เสี่ยวเซิงกลับกุมมือเขาไว้แน่น

หลี่ฝางมองไปที่เสี่ยวเซิง ไม่อยากจะเชื่อ

หมอนี่จะดุดันขนาดนี้เลยหรือ

มีดที่อยู่ในมือของหลี่ฝางหมุนรอบนึงในท้องของเสี่ยวเซิง แต่เสี่ยวเซิงกลับกุมมือหลี่ฝางไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย

เวลานี้ ลูกน้องของเสี่ยวเซิงก็วิ่งเข้ามา

ชกไปสองทีบนใบหน้าของหลี่ฝาง

“พี่เซิงๆ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

มองดูน้ำที่อยู่รอบๆ เริ่มเป็นสีแดง ทุกคนต่างก็พากันตกใจ

“จับมันไว้ให้ฉัน!”

เสี่ยวเซิงกัดฟัน มองไปที่หลี่ฝางและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เร็วสิ!”

เมื่อเห็นว่าลูกน้องของตัวเองไม่ขยับ เสี่ยวเซิงก็พูดอีกรอบว่า “ถือว่าฉันขอพวกแกล่ะ!”

“พี่เซิง พี่จะบ้าไปแล้วเหรอ แค่เงิน 2 พัน ทำไมพี่ต้องทำขนาดนี้ด้วย!” ลูกน้องทั้งสองของเสี่ยวเซิงเริ่มไม่เข้าใจ

สองเห็นท้องของเขาที่เลือดไหลออกมาไม่หยุด พวกเขาสงสารเหลือเกิน

เพราะพวกเขากับเสี่ยวเซิงรู้จักกันมานานหลายปี

“พี่เซิงนี่มันเวลาไหนแล้ว ฉันว่ารีบเรียกรถพยาบาลเถอะ”

เสี่ยวเซิงกัดฟันแน่น พร้อมพูดว่า “บอกความจริงพวกนายก็ได้ ถ้าฆ่าไอ้หมอนี่ได้ คุณชายสวีจะให้ฉัน 3 แสน!”

“ร่างกายของย่าฉันเกิดก้อนเนื้องอกขึ้น ฉันต้องเอาเงิน 3 แสนนี่ไปรักษาท่าน”

“เพื่อนทั้งหลาย ถือว่าฉันขอร้องล่ะนะ ช่วยฉันด้วยเถอะ!”

เสี่ยวเซิงพูดไปน้ำตาไหลไป

เวลานี้ เสี่ยวเซิงไม่ได้กลัวความตายเลยซักนิด ชีวิตของเขา เขาไม่สนมันแล้ว

สิ่งที่เขาต้องทำคือฆ่าหลี่ฝาง เอาเงิน 3 แสนนั่นจากสวีเถิงเฟย แล้วไปรักษาย่าตัวเอง

“เร็วสิ ฉันไม่เคยขอร้องอะไรพวกแกเลยซักครั้งในชีวิต…แค่ครั้งนี้ พวกแกจะไม่ช่วยกันเลยเหรอ”

เสี่ยวเซิงพูดจบ ลูกน้องทั้งสองคนก็ลังเล พร้อมเดินเข้าไปหาหลี่ฝาง

ข้างหลังหลี่ฝางคือฉินวี่เฟยและพวก

เขาไม่มีทางหนีแล้ว

สองคนนั้นวิ่งเข้ามา ไม่นานก็จับตัวหลี่ฝางไว้ได้ และเสี่ยวเซิงก็ดึงมีดในท้องของตัวเองออกมา พร้อมหันไปทางหัวใจของหลี่ฝาง พร้อมแทงเข้าไป

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท