บทที่ 318 ท่านจวนกลับมา
“หลิวจินหยาง พวกเราจะหนีทำไม ไอ้บ้านั่นเมื่อกี้ด่าว่าฉันอ้วน ยังบอกว่านายรสนิยมแปลก นายหูหนวกแล้วเหรอ?”
หูเสี่ยวน่าวหลังถูกหลิวจินหยางลากออกมาจากร้านโจ๊กเย็น ทุกครั้งที่ก้าวเดิน ในใจหูเสี่ยวน่าวจะไม่พอใจ และอึดอัดใจมากขึ้น
“หลิวจินหยาง นายยังเป็นผู้ชายหรือเปล่า?” หลังสะบัดมือหลิวจินหยางออก หูเสี่ยวน่าวเอ่ยด้วยสีหน้าน้อยใจและโมโห
“เมียจ๋า ฉันเป็นผู้ชายหรือไม่ เมื่อคืนแสดงให้เธอเห็นแล้วไม่ใช่เหรอ” หลิวจินหยางมองหูเสี่ยวน่าวด้วยสีหน้าเอาอกเอาใจ พลางเอ่ยอย่างร้ายกาจ
“ฉันพูดเรื่องนี้เหรอ ฉันพูดถึงไอ้บ้านั้นด่าฉัน ยังดูถูกนาย ความแค้นนี้พวกเราจะเอาคืนยังไง ไม่ได้ ฉันจะต้องกลับไปคิดบัญชีกับมัน ฉันหูเสี่ยวน่าวไม่ได้รังแกง่ายขนาดนั้น” หูเสี่ยวน่าวเอ่ย พลางหมุนตัวกลับไปทางร้านโจ๊กเย็น
“กลับมา!”
หูเสี่ยวน่าวเพียงหันไป พลันถูกหลิวจินหยางกระตุ้นให้โมโหหนักขึ้น
“หลิวจินหยาง แกกล้าดียังไง ถึงกล้าตวาดฉัน?” หูเสี่ยวน่าวหยุดฝีเท้าลง มองหลิวจินหยางอย่างไม่เชื่อสายตา อารมณ์เต็มไปด้วยความดุร้าย
“เมียจ๋า พวกเราอย่าทะเลาะกันเลย ข้างกายไอ้บ้านั้นมียอดฝีมือ เมื่อคืนผมออกแรงทั้งคืน ร่างกายจึงอ่อนเพลีย ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา คุณรอผมก่อน รอให้ผมหายดี ต้องแก้แค้นให้คุณแน่ โอเคไหม?”
“วางใจ ไอ้เด็กนั้นหนีไปไหนไม่รอดหรอก มันเรียนที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ เหมือนกับแฟนเก่าฉัน ไม่สิ กับอีดอกนั้น” หลิวจินหยางรีบคลายท่าทีอ่อนลง ก่อนปล่อยหูเสี่ยวน่าว
“ตกลงหลิวจินหยาง แกดูถูกฉัน เมียแกถูกรังแก แกวิ่งหางจุกตูดถือเป็นผู้ชายอยู่ไหม?”
…
ทั้งสองคนกำลังตรงเข้ามา หลี่ฝางและลู่หลุ่ยเดินออกมาจากร้านโจ๊กเย็น
หลังเห็นส้าวส้วยด้านหลัง หลิวจินหยางนั้นหลบสายตาทันที พลันลากหูเสี่ยวน่าว รีบหลบออกไปทันที
หลี่ฝางถอนหายใจอย่างผิดหวัง ก่อนเอ่ยว่า “น่าเสียดายจริงๆ หลิวจินหยางหนีไปแล้ว หากมันไม่หนี ฉันจับมันไปให้เหมิงเหมิง เหมิงเหมิงจะได้ระบายอารมณ์สักหน่อย”
“ไม่เป็นไร เถ้าแก่ ไอ้เด็กนั้นหนีไปยังไม่ไกล หากอยากจับตัวมัน ห้านาทีผมจะลากมันกลับมา” ส้าวส้วยตบหน้าอกยืนยันพลางพูดอยู่ด้านหน้า
“อืม งั้นจับมันกลับมา” หลี่ฝางพยักหน้า
“และผู้หญิงคนนั้น ไม่ต้องสนว่าเธอคือน้องสาวหูเฟย จับกลับมาด้วยกันเลย ฉันจะสั่งสอนเธอสักหน่อย ให้เธอรู้ว่าอะไรเรียกอย่าหาเรื่อง” หลี่ฝางเผยความเจ้าเล่ห์ออกมา เพียงนึกถึงหูเสี่ยวน่าว ให้ร้ายจนลู่หลุ่ยต้องอยู่ในคุกหนึ่งวัน หลี่ฝางปวดใจ อัดแน่นด้วยไฟโทสะ
ไฟโทสะนี้ จำต้องระบายออกมา
“นายอย่าเติมน้ำมันลงไปกองไฟในเหมิงเหมิงเลย เหมิงเหมิงเมื่อกี้ดีขึ้นแล้ว นายทำให้เธอเห็นหลิวจินหยางและหูเสี่ยวน่าวอีก เดาว่าเหมิงเหมิงคงล้มป่วยอีกรอบ นายยังไม่รู้สินะ วันนั้นที่อกหัก เหมิงเหมิงนั่งอยู่บนดาดฟ้าหอพักหญิงของพวกเราทั้งคืน แม่มันเถอะ พวกเราตกใจแทบตาย พวกเราไม่กล้าแจ้งตำรวจ และไม่กล้าบอกป้าดูแลหอพัก ไม่งั้นเหมิงเหมิงอาจกระโดดลงไป”
“เธออยากได้เหล้า พวกเราเอาให้เธอ อยากได้บุหรี่ พวกเราไปซื้อให้เธอ ให้เธอนั่งเสียสติอยู่บนดาดฟ้าทั้งคืน คืนนั้นน่ากลัวมาก”
“ดังนั้น อย่าพาหลิวจินหยางไปหาเหมิงเหมิง กระตุ้นเธอเลย”
“หลิวจินหยางและเหมิงเหมิงเป็นเพื่อนโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันมานานหลายปี เหมิงเหมิงทุ่มเทอย่างมาก รวมทั้งรถคันนั้นของหลิวจินหยาง เงินดาวน์เหมิงเหมิงเป็นคนออกให้”
“เหมิงเหมิงมีฐานะมากนี่น่า รถมัสแตงคันนั้นไม่ได้ถูกๆ เงินดาวน์ต้องมีอย่างน้อยสองแสน” หลี่ฝางสูกจมูก ให้ส้าวส้วยอย่าโทรศัพท์
หลี่ฝางรู้สึกว่าลู่หลุ่ยพูดก็มีเหตุผล หากหวังดีแต่ทำเรื่องผิด นั่นคงดูไม่ดี
“เหมิงเหมิงเป็นเพียงครอบครัวคนชั้นกลาง เงินความจริงก็มีไม่มาก เงินของเธอ…ช่างเถอะ ไม่พูดกับนายแล้ว นายเป็นผู้ชาย อย่ายุ่งเรื่องไร้สาระเลย” ลู่หลุ่ยเอ่ยได้ครึ่งหนึ่งพลันหยุดลง ทำให้หลี่ฝางสงสัยที่มาของเงินเหมิงเหมิง ไม่ใช่เงินสะอาดแน่นอน
รายได้ของผู้หญิงมีไม่กี่ทาง ใช้ก้นคิดยังคิดออก
หลังพาลู่หลุ่ยเดินเล่นในสถานตากอากาศรอบหนึ่ง หลี่ฝางไปพบหลี่ต๋าคางพร้อมส้าวส้วย
พูดตามจริง หลังรู้ว่ามู่เสี่ยวไป๋ซื้อปืน จนถึงตอนนี้หลี่ฝางยังอกสั่นขวัญแขวน
เมื่อนึกถึงหลี่หลงอายุยังน้อยถูกจางกงหมิงยิงตาย หลี่ฝางกังวลว่าตนจะเป็นอีกรายหนึ่ง
ก่อนหน้านี้หลี่ฝางไม่มีเงิน และไม่กลัวความตาย ตอนนั้นเขาความตายคือการหลุดพ้นประเภทหนึ่ง
แต่ตอนนี้แตกต่างกันอย่างมาก บิดามารดาตนไม่เพียงกลับมา ยังนำทรัพย์สินมากมายมหาศาลกลับมาด้วย ชีวิตในอนาคตของตนคือเสพสุขในลาภยศ ความมั่งคั่งอย่างไร้ขีดจำกัด
ความตาย จะล้อเล่นได้ยังไง?
อย่างมากหนีไปดูไบหาปู่ของตน
แต่หากเป็นเช่นนั้น ลู่หลุ่ยจะทำยังไง หลินชิงชิงจะเป็นเช่นไร และยังมีฉินวี่เฟยอีก
คงไม่อาจทิ้งขว้างได้ง่ายๆ เรื่องนี้หลี่ฝางทำไม่ได้
เมื่อโทรหาลุงเฉียนแล้ว หลี่ฝางเดินทางไป
และด้านหน้าคือวิลล่าแห่งหนึ่ง พื้นที่ไม่ได้แตกต่างกับหลี่ฝางมาก
ลุงเฉียนนั่งอยู่หน้าวิลล่า ปากคาบบุหรี่ไว้มวนหนึ่ง สอดส่องคนที่เดินผ่านไปมา
แน่นอนว่าทางนี้ไม่มีสิ่งใด และแทบไม่มีคนเดินผ่าน
หลี่ฝางเข้าไปตบไหล่ของลุงเฉียน ก่อนกล่าวยิ้มๆ ว่า “ลุงเฉียน พ่อผมล่ะ”
“อยู่ข้างใน”
“งั้นผมเข้าไปพบเขาก่อนนะ” หลี่ฝางเอ่ย
“เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งเข้าไป พี่ใหญ่ตอนนี้ติดงาน กำลังพบแขกคนสำคัญคนหนึ่งอยู่” ลุงเฉียนยื่นมือดึงหลี่ฝาง เพื่อลากเขากลับมา
ก่อนส่งบุหรี่ให้หลี่ฝางหนึ่งมวน ลุงเฉียนเอ่ยถามขึ้น “ทำไม มีธุระกับพี่ใหญ่เหรอ?”
“เรื่องใหญ่ขนาดไหน ส้าวส้วยถึงจัดการให้แกไม่ได้?” ลุงเฉียนมองส้าวส้วยแวบหนึ่ง พร้อมขมวดคิ้ว
ส้าวส้วยเดินเข้ามา และขอบุหรี่จากลุงเฉียน “ไม่ใช่จัดการไม่ได้ แต่กลัวจะสร้างปัญหายุ่งยากให้พี่ใหญ่”
เมื่อได้ยินคำนี้ ลุงเฉียนขมวดคิ้วเป็นปม
“เล่ามา” ลุงเฉียนซักถาม
ลุงเฉียนคือคนของตน เหมือนกับส้าวส้วย ดังนั้นหลี่ฝางจึงไม่ปิดบัง เอ่ยพูดตรงๆ ออกไป “ไอ้เด็กมู่เสี่ยวไป๋นั้นออกจากโรงพยาบาลแล้ว และยังซื้อปืนหลายกระบอก คล้ายจะใช้มาจัดการผม”
ลุงเฉียนฟังจบ ชมวดคิ้วแน่น “เสี่ยวฝาง นายคิดว่าจัดการแกจำต้องใช้ปืนเหรอ?”
หลี่ฝางยิ้มเม้มปากชั่วขณะ แต่กลับไม่เอ่ยตอบไป
ความจริง ตนมีความสามารถมากเพียงใด หลี่ฝางรู้ดี หากต้องการฆ่าคนจริงๆ ไม่จำเป็นต้องปืนอะไรพวกนี้
เพราะใช้ปืน ถือเป็นคดีใหญ่ ถึงตอนนั้นจะดึงดูดตำรวจเข้ามา แม้มู่เสี่ยวไป๋เองคงยุ่งยากไม่น้อย
หากคิดฆ่าตนจริง ไม่จำเป็นต้องใช้ปืน?
หลี่ฝางมองลุงเฉียน ก่อนเอ่ยถามว่า “ลุงเฉียน ความหมายของลุงคือ?”
ลุงเฉียนเงยหน้าชำเลืองมองส้าวส้วยแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “น่าจะจัดการส้าวส้วย พักนี้ส้าวส้วยออกโรงบ่อย หากมู่เสี่ยวไป๋ไม่ขัดตามัน งั้นพูดได้แค่ว่ามู่เสี่ยวไป๋คงตาบอดแล้ว”
“ตระกูลมู่ไม่มียอดฝีมือ คนแซ่โจวนั่น กระทั่งโหจื่อยังสู้ไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องจัดการส้าวส้วย”
“ดังนั้นพวกเขาไร้หนทาง จึงต้องเสี่ยงเข้าตาจน”
“ไอ้หมาพวกนี้ กล้าก็เข้ามาจัดการฉันเลย แม่มันเถอะ ฉันไม่เคยบาดหมางกับพวกมัน” ส้าวส้วยพ่นควันบุหรี่ออกมา พร้อมเอ่ยอย่างโมโห
“แกวันๆ เอาแต่ตามติดเสี่ยวฝาง มู่เสี่ยวไป๋ไม่จัดการแกทิ้ง ไม่สามารถจัดการเสี่ยวฝางได้ ฉันคิดว่าตอนนี้มู่เสี่ยวไป๋ยังไม่กล้าลงมือกับเสี่ยวฝางถึงตาย เพราะอำนาจของพวกเราทางนี้ ตระกูลมู่ของเขายังไม่แน่ใจ เขาคิดจัดการเสี่ยวฝาง นั่นต้องชั่งน้ำหนักให้ดี”
“ผมเดาว่ามู่เสี่ยวไป๋คิดจะลองเชิง กำจัดส้าวส้วย เพื่อดูปฏิกิริยาทางฝั่งพวกเรา”
“เรื่องนี้ ไม่ธรรมดา”
ลุงเฉียนสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนเอ่ยเสียงเรียบว่า “ฉันว่าความคิดนี้ เป็นนายท่านมู่ ไอ้จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์คนนั้นคิดขึ้นมาแน่ และมันยังเห็นพ้องด้วย”
“ตระกูลมู่กำลังเล่นกับไฟ” ส้าวส้วยเอ่ยเสียงเย็นชา
“เล่นก็เล่นไปเถอะ พวกมันไม่ใช่ไม่เคยเล่น สามปีก่อนไม่ได้ทำให้ตนเองถึงตาย ครั้งนี้อาจไม่ได้โชคดีขนาดนั้น” ใบหน้าของลุงเฉียนปรากฏความเย็นชาและไอสังหารขึ้นมา
สามปีก่อน?
หลี่ฝางฟังอย่างไม่เข้าใจ สามปีก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น?
หลี่ฝางไม่รู้ แต่ไม่ได้เอ่ยปากสอบถาม
หลี่ฝางรู้ดี แม้ตนถาม ไม่ได้ข้อมูลอะไร เพราะลุงเฉียนไม่พูดแน่
“จริงสิ ลุงเฉียน พ่อคุยอยู่กับใคร ลูกค้าคนสำคัญอะไร ดาราดังหลายคนนั้นเหรอ?” หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ
“ท่านจวน”
ลุงเฉียนไม่ปิดบัง เอ่ยไปตรง ๆ ว่า “ท่านจวนจะหวนคืนกลับมา