NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 318

ตอนที่ 318

บทที่ 318 ท่านจวนกลับมา

“หลิวจินหยาง พวกเราจะหนีทำไม ไอ้บ้านั่นเมื่อกี้ด่าว่าฉันอ้วน ยังบอกว่านายรสนิยมแปลก นายหูหนวกแล้วเหรอ?”

หูเสี่ยวน่าวหลังถูกหลิวจินหยางลากออกมาจากร้านโจ๊กเย็น ทุกครั้งที่ก้าวเดิน ในใจหูเสี่ยวน่าวจะไม่พอใจ และอึดอัดใจมากขึ้น

“หลิวจินหยาง นายยังเป็นผู้ชายหรือเปล่า?” หลังสะบัดมือหลิวจินหยางออก หูเสี่ยวน่าวเอ่ยด้วยสีหน้าน้อยใจและโมโห

“เมียจ๋า ฉันเป็นผู้ชายหรือไม่ เมื่อคืนแสดงให้เธอเห็นแล้วไม่ใช่เหรอ” หลิวจินหยางมองหูเสี่ยวน่าวด้วยสีหน้าเอาอกเอาใจ พลางเอ่ยอย่างร้ายกาจ

“ฉันพูดเรื่องนี้เหรอ ฉันพูดถึงไอ้บ้านั้นด่าฉัน ยังดูถูกนาย ความแค้นนี้พวกเราจะเอาคืนยังไง ไม่ได้ ฉันจะต้องกลับไปคิดบัญชีกับมัน ฉันหูเสี่ยวน่าวไม่ได้รังแกง่ายขนาดนั้น” หูเสี่ยวน่าวเอ่ย พลางหมุนตัวกลับไปทางร้านโจ๊กเย็น

“กลับมา!”

หูเสี่ยวน่าวเพียงหันไป พลันถูกหลิวจินหยางกระตุ้นให้โมโหหนักขึ้น

“หลิวจินหยาง แกกล้าดียังไง ถึงกล้าตวาดฉัน?” หูเสี่ยวน่าวหยุดฝีเท้าลง มองหลิวจินหยางอย่างไม่เชื่อสายตา อารมณ์เต็มไปด้วยความดุร้าย

“เมียจ๋า พวกเราอย่าทะเลาะกันเลย ข้างกายไอ้บ้านั้นมียอดฝีมือ เมื่อคืนผมออกแรงทั้งคืน ร่างกายจึงอ่อนเพลีย ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา คุณรอผมก่อน รอให้ผมหายดี ต้องแก้แค้นให้คุณแน่ โอเคไหม?”

“วางใจ ไอ้เด็กนั้นหนีไปไหนไม่รอดหรอก มันเรียนที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ เหมือนกับแฟนเก่าฉัน ไม่สิ กับอีดอกนั้น” หลิวจินหยางรีบคลายท่าทีอ่อนลง ก่อนปล่อยหูเสี่ยวน่าว

“ตกลงหลิวจินหยาง แกดูถูกฉัน เมียแกถูกรังแก แกวิ่งหางจุกตูดถือเป็นผู้ชายอยู่ไหม?”

ทั้งสองคนกำลังตรงเข้ามา หลี่ฝางและลู่หลุ่ยเดินออกมาจากร้านโจ๊กเย็น

หลังเห็นส้าวส้วยด้านหลัง หลิวจินหยางนั้นหลบสายตาทันที พลันลากหูเสี่ยวน่าว รีบหลบออกไปทันที

หลี่ฝางถอนหายใจอย่างผิดหวัง ก่อนเอ่ยว่า “น่าเสียดายจริงๆ หลิวจินหยางหนีไปแล้ว หากมันไม่หนี ฉันจับมันไปให้เหมิงเหมิง เหมิงเหมิงจะได้ระบายอารมณ์สักหน่อย”

“ไม่เป็นไร เถ้าแก่ ไอ้เด็กนั้นหนีไปยังไม่ไกล หากอยากจับตัวมัน ห้านาทีผมจะลากมันกลับมา” ส้าวส้วยตบหน้าอกยืนยันพลางพูดอยู่ด้านหน้า

“อืม งั้นจับมันกลับมา” หลี่ฝางพยักหน้า

“และผู้หญิงคนนั้น ไม่ต้องสนว่าเธอคือน้องสาวหูเฟย จับกลับมาด้วยกันเลย ฉันจะสั่งสอนเธอสักหน่อย ให้เธอรู้ว่าอะไรเรียกอย่าหาเรื่อง” หลี่ฝางเผยความเจ้าเล่ห์ออกมา เพียงนึกถึงหูเสี่ยวน่าว ให้ร้ายจนลู่หลุ่ยต้องอยู่ในคุกหนึ่งวัน หลี่ฝางปวดใจ อัดแน่นด้วยไฟโทสะ

ไฟโทสะนี้ จำต้องระบายออกมา

“นายอย่าเติมน้ำมันลงไปกองไฟในเหมิงเหมิงเลย เหมิงเหมิงเมื่อกี้ดีขึ้นแล้ว นายทำให้เธอเห็นหลิวจินหยางและหูเสี่ยวน่าวอีก เดาว่าเหมิงเหมิงคงล้มป่วยอีกรอบ นายยังไม่รู้สินะ วันนั้นที่อกหัก เหมิงเหมิงนั่งอยู่บนดาดฟ้าหอพักหญิงของพวกเราทั้งคืน แม่มันเถอะ พวกเราตกใจแทบตาย พวกเราไม่กล้าแจ้งตำรวจ และไม่กล้าบอกป้าดูแลหอพัก ไม่งั้นเหมิงเหมิงอาจกระโดดลงไป”

“เธออยากได้เหล้า พวกเราเอาให้เธอ อยากได้บุหรี่ พวกเราไปซื้อให้เธอ ให้เธอนั่งเสียสติอยู่บนดาดฟ้าทั้งคืน คืนนั้นน่ากลัวมาก”

“ดังนั้น อย่าพาหลิวจินหยางไปหาเหมิงเหมิง กระตุ้นเธอเลย”

“หลิวจินหยางและเหมิงเหมิงเป็นเพื่อนโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันมานานหลายปี เหมิงเหมิงทุ่มเทอย่างมาก รวมทั้งรถคันนั้นของหลิวจินหยาง เงินดาวน์เหมิงเหมิงเป็นคนออกให้”

“เหมิงเหมิงมีฐานะมากนี่น่า รถมัสแตงคันนั้นไม่ได้ถูกๆ เงินดาวน์ต้องมีอย่างน้อยสองแสน” หลี่ฝางสูกจมูก ให้ส้าวส้วยอย่าโทรศัพท์

หลี่ฝางรู้สึกว่าลู่หลุ่ยพูดก็มีเหตุผล หากหวังดีแต่ทำเรื่องผิด นั่นคงดูไม่ดี

“เหมิงเหมิงเป็นเพียงครอบครัวคนชั้นกลาง เงินความจริงก็มีไม่มาก เงินของเธอ…ช่างเถอะ ไม่พูดกับนายแล้ว นายเป็นผู้ชาย อย่ายุ่งเรื่องไร้สาระเลย” ลู่หลุ่ยเอ่ยได้ครึ่งหนึ่งพลันหยุดลง ทำให้หลี่ฝางสงสัยที่มาของเงินเหมิงเหมิง ไม่ใช่เงินสะอาดแน่นอน

รายได้ของผู้หญิงมีไม่กี่ทาง ใช้ก้นคิดยังคิดออก

หลังพาลู่หลุ่ยเดินเล่นในสถานตากอากาศรอบหนึ่ง หลี่ฝางไปพบหลี่ต๋าคางพร้อมส้าวส้วย

พูดตามจริง หลังรู้ว่ามู่เสี่ยวไป๋ซื้อปืน จนถึงตอนนี้หลี่ฝางยังอกสั่นขวัญแขวน

เมื่อนึกถึงหลี่หลงอายุยังน้อยถูกจางกงหมิงยิงตาย หลี่ฝางกังวลว่าตนจะเป็นอีกรายหนึ่ง

ก่อนหน้านี้หลี่ฝางไม่มีเงิน และไม่กลัวความตาย ตอนนั้นเขาความตายคือการหลุดพ้นประเภทหนึ่ง

แต่ตอนนี้แตกต่างกันอย่างมาก บิดามารดาตนไม่เพียงกลับมา ยังนำทรัพย์สินมากมายมหาศาลกลับมาด้วย ชีวิตในอนาคตของตนคือเสพสุขในลาภยศ ความมั่งคั่งอย่างไร้ขีดจำกัด

ความตาย จะล้อเล่นได้ยังไง?

อย่างมากหนีไปดูไบหาปู่ของตน

แต่หากเป็นเช่นนั้น ลู่หลุ่ยจะทำยังไง หลินชิงชิงจะเป็นเช่นไร และยังมีฉินวี่เฟยอีก

คงไม่อาจทิ้งขว้างได้ง่ายๆ เรื่องนี้หลี่ฝางทำไม่ได้

เมื่อโทรหาลุงเฉียนแล้ว หลี่ฝางเดินทางไป

และด้านหน้าคือวิลล่าแห่งหนึ่ง พื้นที่ไม่ได้แตกต่างกับหลี่ฝางมาก

ลุงเฉียนนั่งอยู่หน้าวิลล่า ปากคาบบุหรี่ไว้มวนหนึ่ง สอดส่องคนที่เดินผ่านไปมา

แน่นอนว่าทางนี้ไม่มีสิ่งใด และแทบไม่มีคนเดินผ่าน

หลี่ฝางเข้าไปตบไหล่ของลุงเฉียน ก่อนกล่าวยิ้มๆ ว่า “ลุงเฉียน พ่อผมล่ะ”

“อยู่ข้างใน”

“งั้นผมเข้าไปพบเขาก่อนนะ” หลี่ฝางเอ่ย

“เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งเข้าไป พี่ใหญ่ตอนนี้ติดงาน กำลังพบแขกคนสำคัญคนหนึ่งอยู่” ลุงเฉียนยื่นมือดึงหลี่ฝาง เพื่อลากเขากลับมา

ก่อนส่งบุหรี่ให้หลี่ฝางหนึ่งมวน ลุงเฉียนเอ่ยถามขึ้น “ทำไม มีธุระกับพี่ใหญ่เหรอ?”

“เรื่องใหญ่ขนาดไหน ส้าวส้วยถึงจัดการให้แกไม่ได้?” ลุงเฉียนมองส้าวส้วยแวบหนึ่ง พร้อมขมวดคิ้ว

ส้าวส้วยเดินเข้ามา และขอบุหรี่จากลุงเฉียน “ไม่ใช่จัดการไม่ได้ แต่กลัวจะสร้างปัญหายุ่งยากให้พี่ใหญ่”

เมื่อได้ยินคำนี้ ลุงเฉียนขมวดคิ้วเป็นปม

“เล่ามา” ลุงเฉียนซักถาม

ลุงเฉียนคือคนของตน เหมือนกับส้าวส้วย ดังนั้นหลี่ฝางจึงไม่ปิดบัง เอ่ยพูดตรงๆ ออกไป “ไอ้เด็กมู่เสี่ยวไป๋นั้นออกจากโรงพยาบาลแล้ว และยังซื้อปืนหลายกระบอก คล้ายจะใช้มาจัดการผม”

ลุงเฉียนฟังจบ ชมวดคิ้วแน่น “เสี่ยวฝาง นายคิดว่าจัดการแกจำต้องใช้ปืนเหรอ?”

หลี่ฝางยิ้มเม้มปากชั่วขณะ แต่กลับไม่เอ่ยตอบไป

ความจริง ตนมีความสามารถมากเพียงใด หลี่ฝางรู้ดี หากต้องการฆ่าคนจริงๆ ไม่จำเป็นต้องปืนอะไรพวกนี้

เพราะใช้ปืน ถือเป็นคดีใหญ่ ถึงตอนนั้นจะดึงดูดตำรวจเข้ามา แม้มู่เสี่ยวไป๋เองคงยุ่งยากไม่น้อย

หากคิดฆ่าตนจริง ไม่จำเป็นต้องใช้ปืน?

หลี่ฝางมองลุงเฉียน ก่อนเอ่ยถามว่า “ลุงเฉียน ความหมายของลุงคือ?”

ลุงเฉียนเงยหน้าชำเลืองมองส้าวส้วยแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “น่าจะจัดการส้าวส้วย พักนี้ส้าวส้วยออกโรงบ่อย หากมู่เสี่ยวไป๋ไม่ขัดตามัน งั้นพูดได้แค่ว่ามู่เสี่ยวไป๋คงตาบอดแล้ว”

“ตระกูลมู่ไม่มียอดฝีมือ คนแซ่โจวนั่น กระทั่งโหจื่อยังสู้ไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องจัดการส้าวส้วย”

“ดังนั้นพวกเขาไร้หนทาง จึงต้องเสี่ยงเข้าตาจน”

“ไอ้หมาพวกนี้ กล้าก็เข้ามาจัดการฉันเลย แม่มันเถอะ ฉันไม่เคยบาดหมางกับพวกมัน” ส้าวส้วยพ่นควันบุหรี่ออกมา พร้อมเอ่ยอย่างโมโห

“แกวันๆ เอาแต่ตามติดเสี่ยวฝาง มู่เสี่ยวไป๋ไม่จัดการแกทิ้ง ไม่สามารถจัดการเสี่ยวฝางได้ ฉันคิดว่าตอนนี้มู่เสี่ยวไป๋ยังไม่กล้าลงมือกับเสี่ยวฝางถึงตาย เพราะอำนาจของพวกเราทางนี้ ตระกูลมู่ของเขายังไม่แน่ใจ เขาคิดจัดการเสี่ยวฝาง นั่นต้องชั่งน้ำหนักให้ดี”

“ผมเดาว่ามู่เสี่ยวไป๋คิดจะลองเชิง กำจัดส้าวส้วย เพื่อดูปฏิกิริยาทางฝั่งพวกเรา”

“เรื่องนี้ ไม่ธรรมดา”

ลุงเฉียนสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนเอ่ยเสียงเรียบว่า “ฉันว่าความคิดนี้ เป็นนายท่านมู่ ไอ้จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์คนนั้นคิดขึ้นมาแน่ และมันยังเห็นพ้องด้วย”

“ตระกูลมู่กำลังเล่นกับไฟ” ส้าวส้วยเอ่ยเสียงเย็นชา

“เล่นก็เล่นไปเถอะ พวกมันไม่ใช่ไม่เคยเล่น สามปีก่อนไม่ได้ทำให้ตนเองถึงตาย ครั้งนี้อาจไม่ได้โชคดีขนาดนั้น” ใบหน้าของลุงเฉียนปรากฏความเย็นชาและไอสังหารขึ้นมา

สามปีก่อน?

หลี่ฝางฟังอย่างไม่เข้าใจ สามปีก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น?

หลี่ฝางไม่รู้ แต่ไม่ได้เอ่ยปากสอบถาม

หลี่ฝางรู้ดี แม้ตนถาม ไม่ได้ข้อมูลอะไร เพราะลุงเฉียนไม่พูดแน่

“จริงสิ ลุงเฉียน พ่อคุยอยู่กับใคร ลูกค้าคนสำคัญอะไร ดาราดังหลายคนนั้นเหรอ?” หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ

“ท่านจวน”

ลุงเฉียนไม่ปิดบัง เอ่ยไปตรง ๆ ว่า “ท่านจวนจะหวนคืนกลับมา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท