NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 384

ตอนที่ 384

บทที่384 หยูเถิงขายขี้หน้า

ตู้เฟยเอื้อมไปที่หูของหยูเถิง พูดเบาๆ จากนั้น มุมปากหยูเถิง ก็ปรากฏรอยยิ้มชั่วร้าย:“เป็นความคิดที่ดี”

“หลี่ฝาง ไม่โกรธจริงๆเหรอ?”

หวางเสี่ยวโก๋แปลกใจมาก:“คุณทำได้ยังไง?ทำไมใจกว้างอย่างนี้”

“นี่ไม่ใช่ แต่ใช้หัวคิดอย่างดี ที่จริงๆ หลังจากที่มีเงิน หัวใจก็ยิ่งแข็งแกร่ง สำหรับการยั่วยุของพวกอ่อนแอ ล้วนแต่เป็นการดูถูก”

“พูดตรงๆนะ ตู้เฟยสำหรับผมแล้ว ไม่มีห่าไรเลย ถ้าเขามีความสามารถจริงๆ ก็ต้องเอาผมตายนานแล้ว ต้องมาเสียให้ผมบ่อยๆแบบนี้เหรอ?”

หลี่ฝางหันหน้าไปมองหยูเถิงกับตู้เฟย ก็ยิ้มดูถูกขึ้นมา:“ดูคนโง่สองคนนี้สิ ยิ้มได้ร้ายกาจมาก จะต้องคิดแผนการอะไรออกแน่”

ปล่อยให้พวกคนถ่อยคิดหาแผนการไปเถอะ ยังไงพวกเราก็จัดการพวกเขาให้ตายได้แค่มือเดียว

นี่คือความมั่นใจของหลี่ฝาง

“คุณคิดแล้วเหรอว่าจะจัดการพวกเขาอย่างไร?”หวางเสี่ยวโก๋มองหลี่ฝางที่มั่นใจ ถามไปอย่างแปลกใจ

“ต้องคิดด้วยเหรอ?”

หลี่ฝางหัวเราะอย่างไม่แคร์:“จัดการพวกเขา ไม่ต้องคิดหาวิธี”

หลี่ฝางตัดสินใจแล้ว คืนนี้ จะเปิดเผยตัวตน

ตอนเลิกเรียน หลี่ฝางเห็นหยูเถิงกำลังจองห้อง เขาจองไปห้าห้อง สี่ห้องในนั้น ก็ให้พวกเพื่อนๆในห้อง

“ฮัลโหล หวงเจ๋ ตอนดึกว่างไหม?ผมจองห้องไว้ห้องหนึ่ง ตอนดึกจะเลี้ยงข้าวคุณ แล้วก็จะแนะนำเพื่อนคนหนึ่งให้รู้จักด้วย อย่าว่าเพื่อนไม่สนใจคุณล่ะ นั่นเป็นคนใหญ่โตมาก คนใหญ่คนโตใครน่ะเหรอ?เอาเป็นว่าคืนนี้ถึงแล้วคุณก็จะรู้เอง โอเค วางแล้วนะ ผมยังต้องโทรหาพวกจางเฉียง เฝิงจื่อหลินอีก”

พอวางสายหวงเจ๋ หยูเถิงก็โทรหาเฝิงจื่อหลิน

“คนหล่อชายเฝิง ได้ยินว่าคุณกลับมาประเทศแล้วนี่ ทำไม นอนกับฝรั่งคนเบื่อแล้ว งั้นมาของจีนหน่อยไหมล่ะ?โอเค ไม่พูดเหลวไหลแล้ว ตอนดึกผมจะเลี้ยงคุณชายคนหนึ่ง คุณว่างไหม?โอเค โรงแรมว่างโก๋ เลขห้อง666”

จากนั้น หยูเถิงก็โทรหาส้งเคอ จางเฉียงและคนอื่นๆ

ตอนที่โทรหาสวีเถิงเฟย ก็เป็นแม่ของสวีเถิงเฟยที่รับสาย

“อะไรนะ เถิงเฟยเกิดอุบัติเหตุเหรอ?เรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่ เห้อ ทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ได้ รอผมเลิกเรียน จะต้องไปเยี่ยมเถิงเฟย อาสวี อย่าเสียใจไปนะครับ ตอนนี้การแพทย์พัฒนาจะตาย แค่ไม่ตาย ยังไงก็รักษาได้”

วางสาย ที่มุมปากหยูเถิง ก็ดูสะใจ

“พี่ชาย เกิดอะไรขึ้น?สวีเถิงเฟยไอ้หมานั่น เกิดเรื่องแล้วจริงๆเหรอ?”ตู้เฟยถามอย่างร้อนใจ

“ใช่ ดูเหมือนจะข่าวจริง ได้ยินว่าแขนกับขาของสวีเถิงเฟย ถูกหวางเฉินเอาปืนยิงใส่ ตอนนี้พิการเลย เดาว่าชีวิตต่อจากนี้ไปของสวีเถิงเฟย จะต้องนั่งบนรถเข็นแหละ ฮ่าฮ่า สมน้ำหน้า!”

“ครั้งที่แล้วขโมยเงิน แล้วยังมาคิดบัญชีที่ผมอีก แม่เอ๊ย การพนันย่อมมีความเสี่ยง พอแพ้เงินก็ต้องให้ผมรับผิดชอบ แล้วชนะทำไมถึงไม่แบ่งให้ผมครึ่งหนึ่งล่ะ?ขยะจริงๆ”

หยูเถิงด่าไป ก็หัวเราะฮ่าฮ่าออกมา

มองเห็นฉากนี้ หลี่ฝางก็ส่ายหน้า ดูเหมือนหยูเถิงกับสวีเถิงเฟย ก็แค่เป็นเพื่อนกันผิวเผิน

ตอนเที่ยงใกล้จะเลิกเรียน หน้าประตูห้องของหลี่ฝาง จู่ๆก็ปรากฏร่างที่สวยงาม ฉินวี่เฟย

“ฉินวี่เฟย?”

หยูเถิงเห็นฉินวี่เฟย ตาก็เป็นประกาย รีบยินขึ้นทันที

หยูเถิงคิดว่า ฉินวี่เฟยต้องมาหาตัวเองแน่ ยังไง ทั้งห้องนี้ ก็มีแค่ตัวเองที่มีสถานะนี้ พอที่จะยืนอยู่ข้างกายฉินวี่เฟย?

หยูเถิงตื่นเต้นมาก หากตัดที่พื้นเพของตระกูลฉินอยู่ห่างไกลจากตระกูลหยูแล้ว หน้าตาและหุ่นของฉินวี่เฟย เข้าขั้นดาราได้เลย

แม้จะเป็นหน้าสด แต่ก็ดูดีสุดๆ

“ฉินวี่เฟยดาวของมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ ทำไมเธอจะมาที่ห้องเรา?”

“ห่า มาหาใครเนี่ย?”

คนในห้อง ล้วนแต่อลหม่านกันขึ้นมา ถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่าฉินวี่เฟยไม่ได้มาหาตัวเองแน่ แต่ในใจลึกๆของพวกเขา ก็ยังคงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

ถ้าหากล่ะ?

ถ้าหากดาวโรงเรียนนี้มองมาที่ตัวเองล่ะ?

ดังนั้น ถึงคนทั้งห้องจะตื่นเต้นกันมากๆ แต่ก็มีความกล้ามากกว่า พุ่งเข้าไปที่ฉินวี่เฟยตรงหน้าประตู แล้วผิวปากอย่างถ่อยๆ

“ผิวหาแม่คุณเหรอ อยากผิวปากก็ไปผิวใส่แม่คุณนู่น แม่เอ๊ย อยากตายเหรอ!”

หยูเถิงมองพวกนักเรียนที่ผิวปาก รีบเดินเข้าไป เตะไปที่ท้องพวกเขา จนล้มลงไปที่ใต้โต๊ะ

เพื่อนนักเรียนคนนี้ดูถึกล่ำ หยูเถิงทำร้ายเขาต่อหน้าเพื่อนทั้งห้อง จนเขาต้องขายขี้หน้า

ที่ถูกเรียกว่าเป็นรูปปั้นก็ยังมีอารมณ์ได้ แล้วนับประสาอะไรกับเพื่อนนักเรียนคนนี้ที่ไม่ใช่รูปปั้น

เขายืนขึ้นมาทันที ผลักหยูเถิงล้มลงไป:“แม่เอ๊ย คุณชายหยูอะไร คิดว่ารวยโดดเด่นมากนักเหรอ”

“แม้แต่ผมยังกล้าทำร้าย ผมว่าคุณไม่อยากอยู่แล้วใช่ไหม”เพื่อนนักเรียนคนนี้ยืนขึ้นมาจะลงมือ ถังจิ้นก็พาคนพุ่งเข้าไปอย่างว่องไว ทำเอาผู้ชายคนนี้ล้มลงพื้น

“แม้แต่คุณชายหยูก็ยังกล้าทำร้าย ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงซะแล้ว”

พอถังจิ้นพาคนมาจัดการเพื่อนนักเรียนคนนี้ไปยกหนึ่ง ก็ใช้นิ้วชี้ไปที่นักเรียนทั้งห้อง:“ตั้งแต่นี้ไป ผมจะเตือนทุกคนหน่อย ถ้าใครกล้ามายุ่งแม้แต่ปลายนิ้ว ผมถังจิ้น จะตัดมือเขาให้ขาดซะเลย”

“ถังจิ้น?”

“ใช่ ผมชื่อถังจิ้น ไม่รู้จักก็ไปถามได้”มุมปากถังจิ้นยิ้มอย่างเย็นชา ใบหน้าแสดงความอวดเก่ง

เบื้องหลังของถังจิ้น ก็คือห้าวหนาน

ถึงแม้ห้าวหนานจะพิการ แต่ก็ยังเป็นคนใหญ่โต ที่เป็นที่พึ่งของพวกคนอ่อนแอกว่า

ชื่อเสียงของห้าวหนานยังอยู่ ถึงจะอ่อนแอไปหน่อย แต่ตำแหน่งที่ยุทธภพ ก็ยังมีอยู่บ้าง

ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อนๆพวกนั้นของห้าวหนาน ก็ยังอยู่ในสังคมพวกนักเลง

แค่ถังจิ้นพูดออกมา ก็เรียกคนมาได้ไม่น้อย

ตำแหน่งของถังจิ้น สูงกว่าหลิวเหล่าซานแห่งคาสิโนเล็กๆนั่นขึ้นมาหน่อย

ดังนั้น ถังจิ้นเย่อเหยิ่งแบบนี้ ก็ถือว่ามีความแข็งแกร่งจริงๆ

มุมปากหยูเถิงยิ้มขึ้นมา พอใจกับถังจิ้นมาก เขาตบไหล่ของถังจิ้น พูดว่า:“ถังจิ้น ทุกคนต่างเป็นเพื่อนนักเรียนกัน ต่อไปยังมีเวลาอีกเยอะ สนิทสนมกลมเกลียวดีกว่า มีอะไรก็พูดกันดีๆ จะลงมือลงไม้ได้ไง”

คำพูดของหยูเถิง ถือว่าจอมปลอมมาก

เมื่อกี๊เขาไม่สนใจคำอธิบายก็แอบโจมตีเข้าไป เตะเพื่อนในห้องตัวเองล้มลงพื้น

แล้วตอนนี้มาพูดแบบนี้?

ถังจิ้นออกหน้าแทนหยูเถิง จากนั้นก็ไปนั่งลงที่นั่งของตัวเอง

หยูเถิงมองฉินวี่เฟยที่อยู่นอกประตู ยังไม่ไป แล้วตาก็ยังมองมาที่ตัวเอง ทันใดนั้นเขาก็ตื่นเต้น

มาหาตัวเองจริงๆ

หยูเถิงรีบเดินไปที่ฉินวี่เฟย

“ที่แท้ดาวโรงเรียนอย่างคุณหนูฉินก็มาหาคุณชายหยูนี่เอง เห้อ ที่จริงก็คิดไว้นานแล้ว สาวสวย แบบฉินวี่เฟยนี้ หาแฟน ก็ต้องเป็นคุณชายหยูแน่นอน”

“ตอนนี้สังคม……”

มองเห็นหยูเถิงเดินไปหน้าประตู ใบหน้าของชายหนุ่มไม่น้อย ก็ปรากฏความผิดหวัง

เหมือนกับอกหัก

เวลานี้ หยูเถิงมาตรงหน้าฉินวี่เฟย

ฉินวี่เฟยก็ยิ้มให้หยูเถิงอย่างมีมารยาท:“หยูเถิง ไม่เจอกันนานเลย”

“ไม่เจอกันนานเลย”หยูเถิงตื่นเต้นหน่อยๆ เขาเม้มปาก พูดเบาๆ:“วี่เฟย ผมได้ยินว่างานแต่งคุณกับมู่เสี่ยวไป๋ยกเลิกไปแล้ว ดีจริงๆเลย ก่อนหน้านี้ไม่กล้าบอกคุณ ที่จริงแล้ว ผมชอบคุณมากจริงๆ”

“ครั้งนี้คุณมาหาผมเองเลย ทำให้ผมคิดไม่ถึงจริงๆ”

“ฉัน……”

หยูเถิงยังไม่ทันพูดจบ ฉินวี่เฟยขมวดคิ้วหน่อยๆ:“ขอโทษนะ หยูเถิง ฉันไม่ได้มาหาคุณ ฉันคิดไม่ถึงว่า คุณก็กำลังหาห้องเรียน”

“อะไรนะ คุณไม่ได้มาหาผม?”หยูเถิงสีหน้าเปลี่ยนไป ดูไม่ค่อยเชื่อ

นอกจากตัวเองแล้ว ในห้องคนที่พอมีสถานะ ก็มีแค่ถังจิ้น

แต่ครอบครัวของถังจิ้นซับซ้อนมากมักเป็นพวกทำอะไรผิดกฎหมาย คุณหนูแห่งตระกูลฉิน ไม่แลคนพวกนี้แน่

ดังนั้นตอนนี้ หยูเถิงแปลกใจมาก เขามองฉินวี่เฟยอย่างประหลาดใจ:“งั้นคุณมาหาใคร?”

ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝาง จากนั้นก็พูดกับหยูเถิง:“หยูเถิง คุณช่วยฉันเรียกหลี่ฝางออกมาหน่อยได้ไหม?”

“นั่นน่ะ”

ฉินวี่เฟยยื่นนิ้วไป ชี้ไปที่หลี่ฝางอยู่

“อะไรนะ?คุณมาหาหลี่ฝาง?”หยูเถิงขมวดคิ้ว ในใจกลับรู้สึกหลากหลายไปหมด ทั้งเจ็บแปลบและขมขื่น

“คุณมาหาเขาทำไม?”หยูเถิงถามอย่างทนไม่ไหว

“ฉันอยากขอโทษเขา”ฉินวี่เฟยพูดเสียงไม่ดังนัก:“คุณช่วยฉันเรียกเขามาหน่อยได้ไหม?”

“รบกวนคุณแล้ว”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท