NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 391

ตอนที่ 391

บทที่391 ตกใจจนบุหรี่ตก

พอหลี่ฝางออกไปจากห้องเรียนกับพวกนักเรียนคนอื่นๆ หยูเถิงก็หันหน้าไปมองถังจิ้น ตำหนิว่า:“ถังจิ้น คุณดูสิคุณทำอะไรไป?ทำน้องชายผมจนเป็นแบบนี้เนี่ยนะ?ผมกลับไปจะรายงานอาผมยังไง?”

ถังจิ้นถอนหายใจ พูดว่า:“ไม่ต้องพูดถึงแล้ว คุณคิดว่าผมอยากเหรอ?”

“ในมือหลี่ฝางมีจุดอ่อนของผม ไม่อย่างนั้น ผมจะถูกเขาจูงจมูกเล่นแบบนี้เหรอ?”ที่ใบหน้าถังจิ้น เต็มไปด้วยความเศร้า

เมื่อกี๊หยูเถิงก็รู้สึกแปลกๆ

ยังไง ที่ถังจิ้นแสดงออกเมื่อกี๊ ก็ไม่ใช่แค่กลัว แต่ยังขี้ขลาดเป็นอย่างมาก

ถูกด่าจนไม่กล้าด่ากลับ แล้วยังถูกทำร้ายจนไม่กล้าเอาคืน แล้วยังพูดต่อหน้าทั้งห้องอีกว่าตัวเองตาบอด

สุดท้าย ก็ยังเข้ามาทำร้ายน้องชายฝ่ายแม่ของตัวเองอีก

เหมือนกับถูกด่าแช่งอย่างนั้น

หยูเถิงถามอย่างแปลกใจ:“ในมือเขามีจุดอ่อนอะไรของคุณ?”

สีหน้าถังจิ้นดูลำบากใจ ความลับนี้ ถังจิ้นพูดได้ไหม?

ถ้าพูดไป คงทำให้หยูเถิงก็คว้าเรื่องสำคัญนี้ของตัวเองไว้ด้วยหรอกเหรอ?

หยูเถิงหัวเราะเหอะๆ:“ทำไม แม้แต่ผมยังไม่กล้าบอกเหรอ”

ถังจิ้นพยักหน้า ตอนนี้ โทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นมา

“พี่ซินปา คุณถึงแล้วเหรอ โอเค ครับ ผมไม่ลงไปนะ ผมจะให้คุณชายหยูลงไป แล้วจะเอาไง ก็ให้คุณชายหยูบอกคุณ”

พอวางสาย ถังจิ้นก็มองหยูเถิงแล้วพูด:“หยูเถิง พี่ซินปามาแล้ว จะจัดการยังไงบ้าง คุณก็ไปหาเขา”

“ผมไม่ไปออกหน้าแล้ว ไม่สะดวก”ถังจิ้นพูด

หยูเถิงพยักหน้า ดูเข้าใจ:“ขอบใจ รับปากว่าผลประโยชน์ของคุณ ต้องขาดไม่ได้แน่นอน”

“เราสองคนคบกันมานานแค่ไหนแล้ว ผมเชื่อใจคุณไม่ได้เหรอไง ฮ่าฮ่า”ถังจิ้นหัวเราะ แล้วพูด

จากนั้น ถังจิ้นก็มองตู้เฟยอีกที:“น้องชาย ขอโทษนะ หมดหนทางจริงๆ ผมก็ไม่อยาก ผมรู้ว่าคุณโมโห อีกสองสามวัน ผมเลี้ยงเหล้าคุณ แน่นอนว่า คุณก็จัดการผมได้เหมือนกัน ผมรับรองว่าจะไม่เอาคืน แค่คุณระบายความโกรธออกมาก็พอ”

“พี่ถัง นี่คุณพูดอะไรเนี่ย ผมจะทำคุณได้ไงกัน”

มุมปากตู้เฟยยิ้ม แต่ในใจกลับโกรธ

ยังไงเมื่อกี๊ตู้เฟยก็ถูกถังจิ้นทำร้ายจนน่าอนาถ เตะไปที่หน้าตั้งหลายที จนตอนนี้ที่หน้าตู้เฟยยังเจ็บอยู่เลย

“อย่าพูดเหลวไหลน่า พวกคุณรีบไปหาพี่ซินปาที่หน้าโรงเรียนเถอะ ถ้าหลี่ฝางไอ้หมอนั่นออกไปจากโรงเรียนก่อนพวกคุณ พวกคุณก็ได้แต่รอโอกาสหน้าแล้วนะ”ถังจิ้นพูด

หยูเถิงพยักหน้า ก้าวออกไปทันที ตามไปที่หลี่ฝาง

หยูเถิงกับตู้เฟย ลงจากตึกด้วยความเร็วสุดๆ ในที่สุดก็มาที่หน้าโรงเรียนก่อนสองนาที มาหาพี่ซินปา

พี่ซินปาสูงร้อยเก้าสิบ เป็นผู้ชายที่ร่างกายกำยำ

“ว่าไง คุณชายหยู ผมได้ยินว่ามีนักเลงมาสร้างปัญหาให้คุณกับถังจิ้นเหรอ?ใครกันกล้าขนาดนี้ ไม่ใช่คนในพื้นที่เหรอ?”

ซินปาหัวเราะเหอะๆ ถามว่า:“ถ้าเป็นคนในพื้นที่ ใครจะไปกล้ายุ่งกับคุณชายหยูอย่างคุณ?”

“ก็ไม่อะไรหรอก ก็แค่เด็กเมื่อวานซืนจากที่อื่น ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง”หยูเถิงพยักหน้า พูด

มองแผลที่หน้าตู้เฟย ซินปาก็ขมวดคิ้ว:“นี่ไอ้เด็กเปรตนั่นทำเหรอ?แม่เอ๊ย ลงมือได้โหดมาก”

สีหน้าของหยูเถิงอึดอัด เขาพูดว่าถังจิ้นทำไม่ได้

หากแบบนั้น ไม่รู้ว่าต้องอธิบายถึงเมื่อไหร่

หยูเถิงพยักหน้า พูด:“ช่างเถอะ นี่คือน้องชายฝ่ายแม่ผม ตู้เฟย แนะนำให้คุณรู้จัก นี่คือพี่ซินปา คือคนที่มีชื่อในเส้นทางนี้”

“มีชื่อเสียงอะไรกัน พี่ห้าวหนานหมดอำนาจไป ผมก็กลายเป็นหมาข้างถนน ไม่มีใครเอาแล้ว”

“ต่อไปต้องพึ่งคุณชายหยูในการกินอาหารแล้ว ผมได้ยินว่าที่ศูนย์การค้าต้องวางแผนใหม่ ไม่รู้ว่าตระกูลหยูพวกคุณร่วมประมูลหรือไม่?ถ้าประมูลได้ คุณชายหยูต้องดูแลผมดีๆนะ”

“ผมกับพวกเพื่อนๆผม หิวจะตายแล้ว”พี่ซินปายื่นบุหรี่ให้หยูเถิง แล้วก็ยื่นให้ตู้เฟยมวนหนึ่ง

ตู้เฟยไม่สูบ เพราะว่าปากเขาถูกถังจิ้นถีบจนบวม

หยูเถิงสูบบุหรี่ สูดเข้าอย่างแรง:“พูดได้ดี แค่วันนี้พี่ซินปาช่วยผมจัดการเรื่องให้เรียบร้อย ผมรับประกันว่าต่อไปพวกคุณกับเพื่อนๆไม่ต้องทนหิวกันแล้ว”

“ฮ่าฮ่า คุณชายหยูพูดแบบนี้ งั้นเดี๋ยวเด็กเปรต ผมจัดการเขาให้ตายเลย อย่างน้อยก็ต้องนอนบนเตียงสักสามเดือน ลงจากเตียงได้เมื่อไหร่ ผมจะจัดการเขาให้นอนบนเตียงอีก โอเคไหม?คุณชายหยู”ซินปามองหยูเถิง ถามอย่างเคารพ

หยูเถิงพยักหน้า ปรากฏรอยยิ้มพึงพอใจ:“ได้”

ไม่นานนัก หลี่ฝางกับส้าวส้วยและคนอื่นๆ ก็ออกมา

ข้างกายหลี่ฝาง ล้อมรอบไปด้วยฝูงคน

“พี่ซินปา เด็กเปรตนั่นออกมาแล้ว ผมไปเรียกเขาก่อนนะ”หยูเถิงเห็นหลี่ฝาง ก็พูดอย่างตื่นเต้น

ซินปาพยักหน้า พูดว่า:“เสี่ยวเจ๋ คุณพาสักสองสามคน ไปกับคุณชายหยู”

“อย่าให้คุณชายหยูเสียเปรียบ”

ทันใดนั้น คนสามคนก็ออกมา ตามหยูเถิง มาที่หน้าโรงเรียน

เห็นหยูเถิงที่ดูโหดๆ พวกนักเรียนต่างตกใจกลัว

“หลี่ฝาง ดูเหมือนคุณชายหยูจะเอาคนมาแก้แค้นคุณ”

“คุณรีบกลับไปดีไหม ไปแอบในโรงเรียน คนพวกนี้ ไม่กล้าไปทำอะไรคุณในโรงเรียนแน่”

“ใช่ หลี่ฝาง คุณรีบกลับไปเร็ว ไม่งั้น พวกเราไปกับคุณเอาไหม ข้าวเย็นมื้อนี้ พวกเรากินที่โรงอาหารได้ ไปโรงแรมว่างโก๋อะไรกัน ไม่เห็นน่าสนใจ”

คนพวกนี้รู้สึกถึงพระคุณหลี่ฝาง จึงพูดกับหลี่ฝางด้วยความเต็มใจ

หลี่ฝางส่ายหน้า พูดอย่างไม่พอใจ:“ไม่เป็นไร ผมรอพวกเขานานแล้ว”

ตอนนี้เอง หยูเถิงก็มาตรงหน้าหลี่ฝาง หัวเราะ:“ไม่โง่หน่อยเหรอ กล้ามากเลยนะ เมื่อกี๊ผมคิดว่าคุณจะหนีซะอีก”

“หนี?ทำไมผมต้องหนีล่ะ?ถ้าหนีไปยังไงสักวันก็ต้องหนีไม่พ้น หรือว่าผมต้องหลบหนีไปทั้งชีวิตหรือไง”หลี่ฝางพูด

“รู้ดีนี่”

“ไปเถอะ หลี่ฝาง ไปกับผม ผมจะแนะนำพี่ชายคนหนึ่งให้รู้จัก”หยูเถิงหัวเราะ โอบไหล่ของหลี่ฝาง

“หัวหน้า ยังไงหลี่ฝางก็อยู่ห้องเดียวกับพวกเรา คุณอย่าทำเกินไปเลย”

“ใช่ ทุกคนต้องเจอกันบ่อยๆ แค่ความเข้าใจผิดเล็กๆ ทำไมคุณต้องเอาคนมาจัดการด้วย”

มองเห็นรถเป็นแถว แล้วก็คนท่าทางโหดๆพวกนั้น พวกเพื่อนๆต่างเหงื่อตกเพราะหลี่ฝาง

พวกที่กล้าหน่อยๆ ก็ยืนออกมาพูดเพื่อหลี่ฝาง

ได้ยินคำพวกนี้ ในใจหลี่ฝางก็รู้สึกอบอุ่น

ทำให้หลี่ฝางคิดได้ทันทีว่า เจ็ดแสนนั้นไม่ได้ให้ไปฟรีๆ

หยูเถิงหันหน้าไป มองพวกที่พูดอย่างเย็นชา ทำเสียงฮึดฮัด:“ยุ่งอะไรด้วย?”

“แม่เอ๊ย พวกคุณไม่อยากอยู่แล้วใช่ไหม ถึงพูดเพื่อหลี่ฝาง”

“อยากตายสินะ”

“พาพวกเขาไปด้วยเลย”

มองนักเลงที่ชื่อเสี่ยวเจ๋ หยูเถิงก็พูดออกคำสั่ง

ทันใดนั้น เสี่ยวเจ๋ก็พาไป จับคอเสื้อพวกเขาคนที่พูดเมื่อกี๊ เดินไปที่ซินปา

“ขอโทษนะ ทำพวกคุณเหนื่อยแล้ว”

ระหว่างทาง หลี่ฝางมองคนพวกนี้อย่างรู้สึกผิดหน่อยๆ

คนพวกนี้กลับใจกว้างมาก:“ไม่เป็นไร ก็แค่ถูกตีไหม?พวกเราเอาเงินคุณไปสองหมื่นฟรีๆ ถูกตีหน่อยจะเป็นไรไป?”

แต่ จากใบหน้าของคนพวกนี้ หลี่ฝางจับได้ถึงความกลัว

พวกเขาก็แค่กำลังฝืนยิ้ม

ซินปาตบไหล่ตู้เฟย ถามว่า:“วันนี้ตอนที่ถังจิ้นโทรมา ผมได้ยินถังจิ้นพูดว่า อีกฝ่ายมีผู้ชายที่สู้เก่ง แม้แต่ครูฝึกทหารของพวกคุณก็ยังสู้เขาไม่ได้ จริงเปล่า?”

ตู้เฟยพยักหน้า:“ผู้ชายคนนั้นสุดยอดมาก”

นึกถึงฝีมือของส้าวส้วย ตู้เฟยก็กลัวแปลกๆ

แต่เห็นลูกน้องที่พี่ซินปาพามาเยอะแยะ ทันใดนั้นในใจตู้เฟยก็รู้สึกมั่นใจ

ตู้เฟยไม่เชื่อ ส้าวส้วยคนเดียว จะจัดการพวกนี้ได้

ตู้เฟยเห็นคนกับรถตั้งมากมาย ก็ยิ้มให้ซินปา

ซินปาตบอกอย่างภูมิใจ:“เป็นไงบ้าง น้องชาย มีหน้ามีตาพอไหม?”

“พอแล้ว พอแล้ว”ตู้เฟยพยักหน้า หัวเราะออกมา:“พี่ซินปา เจ๋งจริงๆเลยนะ”

“ใช่ แค่จัดการเด็กเปรตนั่นไม่มีคนก็ทำได้ แต่ผมพาคนมาตั้งเยอะ ก็เพื่อกู้หน้าให้พวกคุณ ต่อไป ผมจะดูสิว่ามีใครไม่มีแวว มาหาเรื่องพวกคุณได้อีก”ซินปาพูดเสียงดัง

เวลานี้ ส้าวส้วยกับหลี่ฝาง ก็ถูกหยูเถิงพามา

ตอนที่เห็นส้าวส้วย บุหรี่ที่มุมปากซินปาก็ร่วงลง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท