บทที่492 เข้าไปในตระกูลจูเก่อ
หลี่ฝางหมดคำพูด หลอกตาใส่พ่อตัวเองแล้วพูด:“พ่อ พ่อไม่ได้บอกจะไม่ดูเหรอ?”
ได้ยินเสียงของหลี่ต๋าคาง ลู่หลุ่ยก็รีบลืมตาทันที ที่หน้าแดงระเรื่อขึ้นมา
“คุณลุง……”
ลู่หลุ่ยจะพูด หลี่ต๋าคางก็หันหน้าไป แล้วพูด:“โอเค ไม่ดูแล้ว ไม่ดูแล้ว”
หลี่ต๋าคางพูดจบ ก็เดินก้าวไปข้างหน้า มาตรงหน้าของจูเก่อชิง
จูเก่อชิงในตอนนี้ สองขาพิการไปแล้ว ได้แต่คุกเข่าลงที่พื้น
“ผมยังไม่มีสิทธิ์ดู คุณก็หลับตาลงเถอะ”จ้องจูเก่อชิง หลี่ต๋าคางพูด
จูเก่อชิงเม้มปาก รับหันหน้าทันที
นี่คือครั้งแรกที่จูเก่อชิงเห็นใบหน้าที่แท้จริงของหลอซ่า พูดตรงๆแล้ว เมื่อก่อน จูเก่อชิงคิดมาตลอดว่าหลอซ่าคือคนที่สุดยอด แต่เมื่อกี๊ จูเก่อชิงคิดว่าหลอซ่า ที่จริงก็เป็นแค่คนธรรมดา
“ช่างเถอะ ไม่จูบละ มีคนตั้งเยอะอยู่”
ลู่หลุ่ยมองไปทางหลี่ต๋าคาง ก็ยังคงไม่วางใจ:“พวกเราค่อยหาโอกาสละกัน”
“หาโอกาสอะไร”
หลี่ฝางพูดอย่างไม่แคร์:“พวกเขาเห็นแล้วจะทำไม พวกเราไม่ได้ลักลอบรักกัน พวกเราเปิดเผยอย่างบริสุทธิ์ ใครก็ไม่กลัวทั้งนั้น”
หลี่ฝางพูดจบ ก็ใช้สองมือโอบหลังคอของลู่หลุ่ย ก้มหน้าลงจูบลงไป
ลู่หลุ่ยตาโต ดูคิดไม่ถึงอย่างชัดเจน
ลู่หลุ่ยดูตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่นานนัก ก็ปล่อยลง ทั้งตัวแนบไปที่หลี่ฝาง
น่าจะผ่านไปประมาณหนึ่งนาทีได้ ลู่หลุ่ยก็ผลักหลี่ฝางออกไป
นี่คือจูบที่นานที่สุดครั้งหนึ่งของทั้งสองได้
ครั้งที่แล้ว เป็นการจากลา หลี่ฝางไม่ได้รับรู้อย่างดีนัก
ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเสพติด
หลี่ฝางกับลู่หลุ่ยขึ้นรถไป นั่งที่ข้างคนขับ
“ต่อไปพวกเราจะไปไหน?”หลี่ฝางมองส้าวส้วยตรงที่นั่งคนขับแล้วถาม
“ไปที่ตระกูลจูเก่อ”ส้าวส้วยพูดเบาๆ
“หารายละเอียดตำแหน่งของตระกูลจูเก่อเจอแล้ว?”หลี่ฝางถามต่อ
ซ่องโจรของสี่ตระกูลใหญ่ ค่อนข้างลึกลับ
และที่ลึกลับที่สุด ก็คือตระกูลจูเก่อ
ว่ากันว่าตระกูลจูเก่อเป็นลูกหลานของจูเก่อเหลียง และก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ แต่ตระกูลจูเก่อนี้ ในด้านซุบซิบนินทานั้น ถือว่าอยู่ในระดับสูงมาก
อย่างเช่นเสี่ยวหลินจื่อ เขาเป็นคนขับรถให้จูเก่อเจิ้งมาตั้งนานแล้ว และก็อยู่ที่ตระกูลจูเก่อมาหลายปีแล้วด้วย ตอนนี้ ไม่รู้ว่าเข้าไปที่ตระกูลจูเก่อได้ยังไง
เสี่ยวหลินจื่อรู้แค่ว่า ตระกูลจูเก่อนี้ อยู่ในเขาลูกหนึ่ง
“ซุนจิ้นรู้”ส้าวส้วยพูด
“ซุนจิ้น?เขารู้ได้ยังไง?”หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ
“เมื่อก่อนท่านซุนเคยพาซุนจิ้นไปถ้ำแห่งหนึ่ง ที่ถ้ำนั้น ที่จริงก็คือซ่องโจรของตระกูลจูเก่อ”ส้าวส้วยพูดไป ก็สตาร์ทรถออก
รถคันหน้านั้น คนขับรถคือหลี่ต๋าคาง ที่นั่งข้างคนขับมีซุนจิ้นนั่งอยู่ และจูเก่อชิงก็ถูกจับขึ้นมา
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
หลี่ฝางและคนอื่นๆ ก็มาที่ตีนเขา
“นี่คือที่ซ่อนตัวของตระกูลจูเก่อเหรอ?”พอลงจากรถ หลี่ฝางก็มองภูเขาเล็กๆลูกนี้ที่ไม่เตะตา แล้วถาม
ซุนจิ้นพยักหน้า:“ผมก็ไม่มั่นใจ แต่ว่าตอนนั้นพ่อผมพามา ก็คือที่นี่”
“ลูกพี่บอกว่าที่นี่คือที่ซ่อนตัวของตระกูลจูเก่อ แต่ตอนผมเด็กเคยมาตั้งหลายครั้ง ก็ไม่เคยเห็นแม้แต่เงาใคร”
“งั้นเคยเห็นสัตว์ป่าไหม?”ส้าวส้วยถาม
“ก็ไม่เคย แค่กระต่ายตัวเดียวยังไม่เคยเห็น”ซุนจิ้นส่ายหน้า
“งั้นก็ถูกแล้ว คุณดูภูเขาลูกนี้สิ แค่มองก็รู้แล้วว่าทิ้งร้างมาหลายปี รอบๆไม่มีแม้แต่หมู่บ้าน ในเมื่อไม่มีใคร งั้นก็ต้องมีสัตว์ป่ามา เหมือนกับที่เขาหมาป่า ที่นั่นมีสิ่งดุร้ายอยู่ แต่ที่นี่ ไม่มีแม้แต่เสียง”ส้าวส้วยเอาหูไปฟัง ก็ได้ยินแต่เสียงนกร้อง
ลู่หลุ่ยคว้าแขนของหลี่ฝาง ถามอย่างกลัวๆ:“หลี่ฝาง พวกเรามาที่นี่ทำไม?”
ดึกขนาดนี้แล้ว อากาศก็หนาวมาก ที่สำคัญคือมาสถานที่รกร้างไม่มีคนแบบนี้ ลู่หลุ่ยก็กลัวหน่อยๆ
หลี่ฝางก็ไม่รู้ แล้วตอนนี้หลี่ต๋าคางก็ลงมาพอดี
“ตระกูลจูเก่อกล้าแตะต้องลูกสะใภ้ผม ผมก็จะไม่ปล่อยพวกเขา”
หลี่ต๋าคางพูดด้วยสีหน้าหม่นๆ
ถ้าหลี่ต๋าคางช่วยลู่หลุ่ยไว้ไม่ทัน งั้นลู่หลุ่ยก็ตายไปอย่างนั้นจริงๆแน่
ดังนั้น นอกจากหลี่ต๋าคางแล้ว หลี่ฝางก็แค้นตระกูลจูเก่อสุดๆ
ก็แค่ แค่คนไม่กี่คนนี้ บุกเข้าไปในที่พักของตระกูลจูเก่อเลยแบบนี้ คนน้อยไปหรือเปล่า?
โหจื่อ หลิงหลง ไอ้หน้าหนวดแล้วคนอื่นๆล่ะ?
หลี่ฝางพูดอย่างไม่ค่อยมั่นใจ:“พ่อ พ่อโทรศัพท์ไปเรียกคน ให้มาหน่อยดีไหม?”
“ไม่ต้องแล้ว ดึกขนาดนี้แล้ว ทุกคนล้วนแต่หลับหมดแล้ว ทำไมต้องรบกวนพวกเขาล่ะ”หลี่ต๋าคางส่ายหน้า
“งั้นพวกเราเปลี่ยนวันได้นี่ มีแค่เราผู้ชายสี่คน บุกเข้าไป ตระกูลจูเก่อ……”หลี่ฝางกังวลเล็กน้อย ยังไง ความลึกลับของสี่ตระกูลใหญ่ หลี่ฝางก็เคยได้ยินมาอยู่แล้ว
ว่ากันว่าสี่ตระกูลใหญ่ล้วนแต่มีปรมาจารย์ทั้งหลายคุมอยู่ และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมพวกเขาถึงได้อยู่อย่างยืนหยัด
บุกเข้าไปแบบนี้ หลี่ฝางกลัวว่าจะควบคุมได้ไม่ดีจนเกิดปัญหาจริงๆ
“มีส้าวส้วยคนเดียวก็พอแล้ว”หลี่ต๋าคางมองส้าวส้วยแวบหนึ่ง แล้วพูดอย่างมั่นใจมาก
ที่ใบหน้าของส้าวส้วยเต็มไปด้วยความไม่ใส่ใจ
กลับเป็นจูเก่อชิง หลังจากถูกแกะเชือกออก ก็หัวเราะอย่างเย็นชา:“ตลกจริงๆ คิดว่าพวกเราตระกูลจูเก่อไม่มีคนหรือไง?”
พูดคำนี้ออกไปแล้ว ที่ใบหน้าของหลี่ต๋าคางก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม:“ดูเหมือนพวกเราจะไม่เจอผิดที่นะ”
ก่อนหน้านี้ หลี่ต๋าคางก็แค่เดา แต่ผ่านประโยคนี้ของจูเก่อชิง ก็มั่นใจขึ้นมา
“ไปเถอะ”
ส้าวส้วยพูดถึงจูเก่อชิง หลี่ฝางเอาลู่หลุ่ยมาไว้ในอ้อมแขน ลู่หลุ่ยก็ไม่ตอบโต้ จากนั้นภายใต้การนำทางของซุนจิ้น ทุกคนก็เดินไปที่ซ่องโจรของตระกูลจูเก่อ
“ลูกพี่ ตอนนั้นพ่อผมแค่พาผมเข้าไปที่สามอีกสามอัน”
“แต่ถ้ำสามอันนี้ คือถ้ำตัน คนทั่วไปเข้าไปแล้ว เกรงว่าชีวิตนี้ก็จะติดหงักอยู่ในนั้น”
ซุนจิ้นจำได้ดี ข้างในถ้ำทั้งสามนี้ มีก้อนหินที่น้ำหนักมากกว่าห้าร้อยกิโลกรัมปิดทางไว้อย่างมาก
และข้างในก็ลึกจนไม่เห็นจุดสิ้นสุด ถึงเดินไปจนสุดทาง ก็ไม่สามารถหาทางออกได้
ตอนซุนจิ้นยังเด็ก ร้องไห้ด้วยความกลัวอยู่ข้างในหลายครั้ง
ยังดีที่ สุดท้ายท่านซุนปรากฏตัวได้ทันเวลา แล้วช่วยเขาออกมา
ตอนนี้ที่อยู่ตรงหน้าของหลี่ฝาง มีทั้งหมดสี่ช่องทางได้ ทางเข้าทุกๆช่องทาง ต่างสลักสัตว์สี่ชนิดไว้ที่เหมือนจริง แบ่งเป็นมังกรฟ้า เต่าดำ หงส์แดง และเสือขาว
“งั้นก็ไปทางที่คุณไม่เคยไป”หลี่ต๋าคางเปิดปากพูด
ซุนจิ้นชี้ไปที่ชิงหลง แล้วพูด:“เส้นทางชิงหลงนี้ ผมไม่เคยเข้าไป ผมอยากเข้าไปมาเสมอ แต่พ่อผมบอกผมว่า เส้นทางลับนี้ ถ้าผมเข้าไปแล้ว จะตายอยู่ด้านใน แม้แต่เขาก็ช่วยผมไม่ได้”
“ดังนั้นเขาจึงให้ผมสาบานว่า ชาตินี้จะเข้าไปด้านในเด็ดขาด”ซุนจิ้นพูดอย่างลำบากใจหน่อยๆ
“นั่นเพราะเขากลัวคุณไปแก้แค้นตระกูลจูเก่อ จากพละกำลังของคุณแล้ว หาตระกูลจูเก่อเจอ ก็เท่ากับว่าหาทางตายเอง แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน คุณมีพวกเรา”หลี่ต๋าคางตบไหล่ของซุนจิ้น แล้วพูด:“ไป เข้าไปด้วยกันเถอะ”
ซุนจิ้นยังลังเลเล็กน้อย หลี่ต๋าคางจึงพูดอีกครั้ง:“ทำไม เป็นคำสาบานที่สำคัญ หรือว่าหนี้แค้นของคุณสำคัญกว่า?”
“หนี้แค้นสิ”ซุนจิ้นพูดจบ ก็ก้าวเข้าไปในถ้ำชิงหลง
และมุมปากของจูเก่อชิง ก็ยิ้มอย่างเย็นชาอีกครั้ง
“ช่างเถอะ ในเมื่อพวกคุณจะหาเรื่องตายเองให้ได้ งั้นผมก็จะช่วยพวกคุณสักครั้ง”
“ไม่ใช่ว่าพวกคุณจะเข้าไปในตระกูลจูเก่อเหรอ?ผมจะพาพวกคุณเข้าไปเอง”
จูเก่อชิงยกมุมปากขึ้น มองซุนจิ้นแวบหนึ่ง แล้วถาม:“คุณชื่อซุนจิ้น ใช่ไหม?”
“ใช่”ซุนจิ้นพยักหน้า
“คุณหมายถึงว่าเมื่อก่อนคุณเคยเข้าไปในเส้นทางลับอีกสามเส้นทาง ใช่ไหม?”จูเก่อชิงถามต่อ
“ใช่”ซุนจิ้นพยักหน้าอีกครั้ง
“เหอะเหอะ คุณรู้ไหม นอกจากปู่ผมแล้วก็ปู่ใหญ่แล้ว บนโลกใบนี้ไม่มีใครสามารถเข้าไปในเส้นทางลับอีกสามเส้น แล้วมีชีวิตออกมาได้”
จูเก่อชิงพูดจบ ซุนจิ้นตะลึงเล็กน้อย:“งั้นพ่อผมทำไมถึงเข้าออกได้อย่างอิสระ?”
“ถ้าคุณไม่ได้โกหก งั้นพ่อของคุณ น่าจะเป็นปู่ใหญ่ของผม จูเก่อชื่อ เขาไม่ใช่พ่อของคุณ พ่อคุณ ถูกพวกเราตระกูลจูเก่อฆ่าตายไปนานแล้ว”
“ผมได้ยินว่า เรื่องที่ฆ่าล้างตระกูลซูนนี้ เป็นแผนของปู่ใหญ่ผม”
“เหอะเหอะ น่าตลกจริงๆ พ่อที่เลี้ยงคุณจนโต ดันเป็นศัตรูที่ฆ่าพ่อของคุณเอง”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
จูเก่อชิงพูดจบ ก็หัวเราะฮ่าฮ่าเสียงดังขึ้นมา