NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 492

ตอนที่ 492

บทที่492 เข้าไปในตระกูลจูเก่อ

หลี่ฝางหมดคำพูด หลอกตาใส่พ่อตัวเองแล้วพูด:“พ่อ พ่อไม่ได้บอกจะไม่ดูเหรอ?”

ได้ยินเสียงของหลี่ต๋าคาง ลู่หลุ่ยก็รีบลืมตาทันที ที่หน้าแดงระเรื่อขึ้นมา

“คุณลุง……”

ลู่หลุ่ยจะพูด หลี่ต๋าคางก็หันหน้าไป แล้วพูด:“โอเค ไม่ดูแล้ว ไม่ดูแล้ว”

หลี่ต๋าคางพูดจบ ก็เดินก้าวไปข้างหน้า มาตรงหน้าของจูเก่อชิง

จูเก่อชิงในตอนนี้ สองขาพิการไปแล้ว ได้แต่คุกเข่าลงที่พื้น

“ผมยังไม่มีสิทธิ์ดู คุณก็หลับตาลงเถอะ”จ้องจูเก่อชิง หลี่ต๋าคางพูด

จูเก่อชิงเม้มปาก รับหันหน้าทันที

นี่คือครั้งแรกที่จูเก่อชิงเห็นใบหน้าที่แท้จริงของหลอซ่า พูดตรงๆแล้ว เมื่อก่อน จูเก่อชิงคิดมาตลอดว่าหลอซ่าคือคนที่สุดยอด แต่เมื่อกี๊ จูเก่อชิงคิดว่าหลอซ่า ที่จริงก็เป็นแค่คนธรรมดา

“ช่างเถอะ ไม่จูบละ มีคนตั้งเยอะอยู่”

ลู่หลุ่ยมองไปทางหลี่ต๋าคาง ก็ยังคงไม่วางใจ:“พวกเราค่อยหาโอกาสละกัน”

“หาโอกาสอะไร”

หลี่ฝางพูดอย่างไม่แคร์:“พวกเขาเห็นแล้วจะทำไม พวกเราไม่ได้ลักลอบรักกัน พวกเราเปิดเผยอย่างบริสุทธิ์ ใครก็ไม่กลัวทั้งนั้น”

หลี่ฝางพูดจบ ก็ใช้สองมือโอบหลังคอของลู่หลุ่ย ก้มหน้าลงจูบลงไป

ลู่หลุ่ยตาโต ดูคิดไม่ถึงอย่างชัดเจน

ลู่หลุ่ยดูตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่นานนัก ก็ปล่อยลง ทั้งตัวแนบไปที่หลี่ฝาง

น่าจะผ่านไปประมาณหนึ่งนาทีได้ ลู่หลุ่ยก็ผลักหลี่ฝางออกไป

นี่คือจูบที่นานที่สุดครั้งหนึ่งของทั้งสองได้

ครั้งที่แล้ว เป็นการจากลา หลี่ฝางไม่ได้รับรู้อย่างดีนัก

ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเสพติด

หลี่ฝางกับลู่หลุ่ยขึ้นรถไป นั่งที่ข้างคนขับ

“ต่อไปพวกเราจะไปไหน?”หลี่ฝางมองส้าวส้วยตรงที่นั่งคนขับแล้วถาม

“ไปที่ตระกูลจูเก่อ”ส้าวส้วยพูดเบาๆ

“หารายละเอียดตำแหน่งของตระกูลจูเก่อเจอแล้ว?”หลี่ฝางถามต่อ

ซ่องโจรของสี่ตระกูลใหญ่ ค่อนข้างลึกลับ

และที่ลึกลับที่สุด ก็คือตระกูลจูเก่อ

ว่ากันว่าตระกูลจูเก่อเป็นลูกหลานของจูเก่อเหลียง และก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ แต่ตระกูลจูเก่อนี้ ในด้านซุบซิบนินทานั้น ถือว่าอยู่ในระดับสูงมาก

อย่างเช่นเสี่ยวหลินจื่อ เขาเป็นคนขับรถให้จูเก่อเจิ้งมาตั้งนานแล้ว และก็อยู่ที่ตระกูลจูเก่อมาหลายปีแล้วด้วย ตอนนี้ ไม่รู้ว่าเข้าไปที่ตระกูลจูเก่อได้ยังไง

เสี่ยวหลินจื่อรู้แค่ว่า ตระกูลจูเก่อนี้ อยู่ในเขาลูกหนึ่ง

“ซุนจิ้นรู้”ส้าวส้วยพูด

“ซุนจิ้น?เขารู้ได้ยังไง?”หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ

“เมื่อก่อนท่านซุนเคยพาซุนจิ้นไปถ้ำแห่งหนึ่ง ที่ถ้ำนั้น ที่จริงก็คือซ่องโจรของตระกูลจูเก่อ”ส้าวส้วยพูดไป ก็สตาร์ทรถออก

รถคันหน้านั้น คนขับรถคือหลี่ต๋าคาง ที่นั่งข้างคนขับมีซุนจิ้นนั่งอยู่ และจูเก่อชิงก็ถูกจับขึ้นมา

ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง

หลี่ฝางและคนอื่นๆ ก็มาที่ตีนเขา

“นี่คือที่ซ่อนตัวของตระกูลจูเก่อเหรอ?”พอลงจากรถ หลี่ฝางก็มองภูเขาเล็กๆลูกนี้ที่ไม่เตะตา แล้วถาม

ซุนจิ้นพยักหน้า:“ผมก็ไม่มั่นใจ แต่ว่าตอนนั้นพ่อผมพามา ก็คือที่นี่”

“ลูกพี่บอกว่าที่นี่คือที่ซ่อนตัวของตระกูลจูเก่อ แต่ตอนผมเด็กเคยมาตั้งหลายครั้ง ก็ไม่เคยเห็นแม้แต่เงาใคร”

“งั้นเคยเห็นสัตว์ป่าไหม?”ส้าวส้วยถาม

“ก็ไม่เคย แค่กระต่ายตัวเดียวยังไม่เคยเห็น”ซุนจิ้นส่ายหน้า

“งั้นก็ถูกแล้ว คุณดูภูเขาลูกนี้สิ แค่มองก็รู้แล้วว่าทิ้งร้างมาหลายปี รอบๆไม่มีแม้แต่หมู่บ้าน ในเมื่อไม่มีใคร งั้นก็ต้องมีสัตว์ป่ามา เหมือนกับที่เขาหมาป่า ที่นั่นมีสิ่งดุร้ายอยู่ แต่ที่นี่ ไม่มีแม้แต่เสียง”ส้าวส้วยเอาหูไปฟัง ก็ได้ยินแต่เสียงนกร้อง

ลู่หลุ่ยคว้าแขนของหลี่ฝาง ถามอย่างกลัวๆ:“หลี่ฝาง พวกเรามาที่นี่ทำไม?”

ดึกขนาดนี้แล้ว อากาศก็หนาวมาก ที่สำคัญคือมาสถานที่รกร้างไม่มีคนแบบนี้ ลู่หลุ่ยก็กลัวหน่อยๆ

หลี่ฝางก็ไม่รู้ แล้วตอนนี้หลี่ต๋าคางก็ลงมาพอดี

“ตระกูลจูเก่อกล้าแตะต้องลูกสะใภ้ผม ผมก็จะไม่ปล่อยพวกเขา”

หลี่ต๋าคางพูดด้วยสีหน้าหม่นๆ

ถ้าหลี่ต๋าคางช่วยลู่หลุ่ยไว้ไม่ทัน งั้นลู่หลุ่ยก็ตายไปอย่างนั้นจริงๆแน่

ดังนั้น นอกจากหลี่ต๋าคางแล้ว หลี่ฝางก็แค้นตระกูลจูเก่อสุดๆ

ก็แค่ แค่คนไม่กี่คนนี้ บุกเข้าไปในที่พักของตระกูลจูเก่อเลยแบบนี้ คนน้อยไปหรือเปล่า?

โหจื่อ หลิงหลง ไอ้หน้าหนวดแล้วคนอื่นๆล่ะ?

หลี่ฝางพูดอย่างไม่ค่อยมั่นใจ:“พ่อ พ่อโทรศัพท์ไปเรียกคน ให้มาหน่อยดีไหม?”

“ไม่ต้องแล้ว ดึกขนาดนี้แล้ว ทุกคนล้วนแต่หลับหมดแล้ว ทำไมต้องรบกวนพวกเขาล่ะ”หลี่ต๋าคางส่ายหน้า

“งั้นพวกเราเปลี่ยนวันได้นี่ มีแค่เราผู้ชายสี่คน บุกเข้าไป ตระกูลจูเก่อ……”หลี่ฝางกังวลเล็กน้อย ยังไง ความลึกลับของสี่ตระกูลใหญ่ หลี่ฝางก็เคยได้ยินมาอยู่แล้ว

ว่ากันว่าสี่ตระกูลใหญ่ล้วนแต่มีปรมาจารย์ทั้งหลายคุมอยู่ และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมพวกเขาถึงได้อยู่อย่างยืนหยัด

บุกเข้าไปแบบนี้ หลี่ฝางกลัวว่าจะควบคุมได้ไม่ดีจนเกิดปัญหาจริงๆ

“มีส้าวส้วยคนเดียวก็พอแล้ว”หลี่ต๋าคางมองส้าวส้วยแวบหนึ่ง แล้วพูดอย่างมั่นใจมาก

ที่ใบหน้าของส้าวส้วยเต็มไปด้วยความไม่ใส่ใจ

กลับเป็นจูเก่อชิง หลังจากถูกแกะเชือกออก ก็หัวเราะอย่างเย็นชา:“ตลกจริงๆ คิดว่าพวกเราตระกูลจูเก่อไม่มีคนหรือไง?”

พูดคำนี้ออกไปแล้ว ที่ใบหน้าของหลี่ต๋าคางก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม:“ดูเหมือนพวกเราจะไม่เจอผิดที่นะ”

ก่อนหน้านี้ หลี่ต๋าคางก็แค่เดา แต่ผ่านประโยคนี้ของจูเก่อชิง ก็มั่นใจขึ้นมา

“ไปเถอะ”

ส้าวส้วยพูดถึงจูเก่อชิง หลี่ฝางเอาลู่หลุ่ยมาไว้ในอ้อมแขน ลู่หลุ่ยก็ไม่ตอบโต้ จากนั้นภายใต้การนำทางของซุนจิ้น ทุกคนก็เดินไปที่ซ่องโจรของตระกูลจูเก่อ

“ลูกพี่ ตอนนั้นพ่อผมแค่พาผมเข้าไปที่สามอีกสามอัน”

“แต่ถ้ำสามอันนี้ คือถ้ำตัน คนทั่วไปเข้าไปแล้ว เกรงว่าชีวิตนี้ก็จะติดหงักอยู่ในนั้น”

ซุนจิ้นจำได้ดี ข้างในถ้ำทั้งสามนี้ มีก้อนหินที่น้ำหนักมากกว่าห้าร้อยกิโลกรัมปิดทางไว้อย่างมาก

และข้างในก็ลึกจนไม่เห็นจุดสิ้นสุด ถึงเดินไปจนสุดทาง ก็ไม่สามารถหาทางออกได้

ตอนซุนจิ้นยังเด็ก ร้องไห้ด้วยความกลัวอยู่ข้างในหลายครั้ง

ยังดีที่ สุดท้ายท่านซุนปรากฏตัวได้ทันเวลา แล้วช่วยเขาออกมา

ตอนนี้ที่อยู่ตรงหน้าของหลี่ฝาง มีทั้งหมดสี่ช่องทางได้ ทางเข้าทุกๆช่องทาง ต่างสลักสัตว์สี่ชนิดไว้ที่เหมือนจริง แบ่งเป็นมังกรฟ้า เต่าดำ หงส์แดง และเสือขาว

“งั้นก็ไปทางที่คุณไม่เคยไป”หลี่ต๋าคางเปิดปากพูด

ซุนจิ้นชี้ไปที่ชิงหลง แล้วพูด:“เส้นทางชิงหลงนี้ ผมไม่เคยเข้าไป ผมอยากเข้าไปมาเสมอ แต่พ่อผมบอกผมว่า เส้นทางลับนี้ ถ้าผมเข้าไปแล้ว จะตายอยู่ด้านใน แม้แต่เขาก็ช่วยผมไม่ได้”

“ดังนั้นเขาจึงให้ผมสาบานว่า ชาตินี้จะเข้าไปด้านในเด็ดขาด”ซุนจิ้นพูดอย่างลำบากใจหน่อยๆ

“นั่นเพราะเขากลัวคุณไปแก้แค้นตระกูลจูเก่อ จากพละกำลังของคุณแล้ว หาตระกูลจูเก่อเจอ ก็เท่ากับว่าหาทางตายเอง แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน คุณมีพวกเรา”หลี่ต๋าคางตบไหล่ของซุนจิ้น แล้วพูด:“ไป เข้าไปด้วยกันเถอะ”

ซุนจิ้นยังลังเลเล็กน้อย หลี่ต๋าคางจึงพูดอีกครั้ง:“ทำไม เป็นคำสาบานที่สำคัญ หรือว่าหนี้แค้นของคุณสำคัญกว่า?”

“หนี้แค้นสิ”ซุนจิ้นพูดจบ ก็ก้าวเข้าไปในถ้ำชิงหลง

และมุมปากของจูเก่อชิง ก็ยิ้มอย่างเย็นชาอีกครั้ง

“ช่างเถอะ ในเมื่อพวกคุณจะหาเรื่องตายเองให้ได้ งั้นผมก็จะช่วยพวกคุณสักครั้ง”

“ไม่ใช่ว่าพวกคุณจะเข้าไปในตระกูลจูเก่อเหรอ?ผมจะพาพวกคุณเข้าไปเอง”

จูเก่อชิงยกมุมปากขึ้น มองซุนจิ้นแวบหนึ่ง แล้วถาม:“คุณชื่อซุนจิ้น ใช่ไหม?”

“ใช่”ซุนจิ้นพยักหน้า

“คุณหมายถึงว่าเมื่อก่อนคุณเคยเข้าไปในเส้นทางลับอีกสามเส้นทาง ใช่ไหม?”จูเก่อชิงถามต่อ

“ใช่”ซุนจิ้นพยักหน้าอีกครั้ง

“เหอะเหอะ คุณรู้ไหม นอกจากปู่ผมแล้วก็ปู่ใหญ่แล้ว บนโลกใบนี้ไม่มีใครสามารถเข้าไปในเส้นทางลับอีกสามเส้น แล้วมีชีวิตออกมาได้”

จูเก่อชิงพูดจบ ซุนจิ้นตะลึงเล็กน้อย:“งั้นพ่อผมทำไมถึงเข้าออกได้อย่างอิสระ?”

“ถ้าคุณไม่ได้โกหก งั้นพ่อของคุณ น่าจะเป็นปู่ใหญ่ของผม จูเก่อชื่อ เขาไม่ใช่พ่อของคุณ พ่อคุณ ถูกพวกเราตระกูลจูเก่อฆ่าตายไปนานแล้ว”

“ผมได้ยินว่า เรื่องที่ฆ่าล้างตระกูลซูนนี้ เป็นแผนของปู่ใหญ่ผม”

“เหอะเหอะ น่าตลกจริงๆ พ่อที่เลี้ยงคุณจนโต ดันเป็นศัตรูที่ฆ่าพ่อของคุณเอง”

“ฮ่าฮ่าฮ่า”

จูเก่อชิงพูดจบ ก็หัวเราะฮ่าฮ่าเสียงดังขึ้นมา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท