NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 550 นี่เป็นแผนเหรอ?

บทที่ 550 นี่เป็นแผนเหรอ?

บทที่ 550 นี่เป็นแผนเหรอ?

พวกหล่อนอาศัยอยู่ในคฤหาสน์มาระยะนึงแล้ว และก็รู้ว่าเจ้านายที่อยู่หลังม่านเป็นใคร

ถึงแม้โจวหยางจะดูแลทุกอย่างบนแพลตฟอร์ม แต่พวกนักข่าวก็รู้ ว่าเจ้านายที่แท้จริง ที่จริงแล้วก็คือคุณชายหลี่แห่งบ้านพักตากอากาศ

ตอนที่เหยาเหยาเรียกว่าคุณชายหลี่ ทุกคนจึงงุนงงอยู่ครู่

ชายที่แต่งตัวเชยๆ ที่อยู่ตรงหน้า คงไม่ใช่คุณชายหลี่ที่พูดต่อๆ กันมาหรอกนะ?

ทุกคนไม่ค่อยอยากจะเชื่อ แล้วมองไปทางเหยาเหยา

เหยาเหยาเข้าไปต้อนรับหลี่ฝาง แล้วพูด: “พวกพี่สาวน้องสาว พวกเธอวันๆ เอาแต่บ่นว่าเมื่อไหร่คุณชายหลี่จะมา นี่ก็มาแล้ว ทำไม ดูเหมือนว่าพวกเธอ เหมือนกับไม่อยากจะต้อนรับซะงั้น?”

“ท่านก็คือคุณชายหลี่?”

จากการยืนยันของเหยาเหยา นักข่าวที่อยู่ในห้องนี้ ทุกคนต่างวิ่งกรูไปทางหลี่ฝาง

ทันใดนั้น หลี่ฝางก็ถูกกลุ่มนักข่าวสาวสวยล้อมไว้

การเข้าประชิดทุกรูปแบบ เกือบจะเบียดจนเนื้อลาย่างในมือของหลี่ฝางหล่นลงพื้น หลี่ฝางรีบพูดขึ้น: “เอาล่ะ เอาพอประมาณ”

“ทำอะไรนะ พวกเธอ ใครหอมฉัน!”

“เชี่ย ปล่อยมือฉันนะ กลางวันแสกๆ พวกเธออยากจะล่วงเกินฉันหรือไง?”

เมื่อได้ยินชั้นหนึ่งเสียงดังโหวกเหวกโวยวาย หลินชิงชิงที่ยืนอยู่ชั้นบน ก็กระแอมเสียงดัง: “พอแล้ว พวกเธอเป็นนักข่าว ไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว สำรวมหน่อย”

เมื่อหลินชิงชิงตะคอกเสียงดัง พวกนักข่าวสาวสวยถึงได้ปล่อยหลี่ฝาง

ตอนเด็กๆ หลี่ฝางมักจะเพ้อฝันถึงว่าจะมีสาวสวยๆ มารายล้อม แต่ว่าเมื่อถึงวันที่ต้องมาเจอเข้าจริงๆ หลี่ฝางกลับปวดหัวซะงั้น

หลี่ฝางมองหลินชิงชิง แล้วรีบวิ่งขึ้นไปด้านบน

หลินชิงชิงมองหลี่ฝางอย่างเย็นชา แล้วพูด: “ดูเวลาสิ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว”

“สายไปนิด แต่เธอจะโทษฉันก็ไม่ได้นะ” หลี่ฝางเข้าไปใกล้หลินชิงชิง แล้วพูด: “วันนี้ตอนเช้า ฉันช่วยชีวิตคุณพ่อตาไว้”

“คุณพ่อตา?” หลินชิงชิงชะงักอยู่ครู่

หลี่ฝางมองหลินชิงชิง: “ทำไมเธอไม่ได้อ่านวีแชทเหรอ?”

“เปล่า ทำไมเหรอ?” หลินชิงชิงพลางสงสัย พลางเปิดวีแชทดู หลังจากที่ฟังเสียงข้อความที่ฝากไว้สองข้อความ หลินชิงชิงก็มองหลี่ฝางอย่างแปลกๆ : “นี่หมายความว่ายังไง?”

“นี่เป็นความต้องการของพ่อเธอ พ่อของเธอคะยั้นคะยอให้ฉันเรียกเขาว่าคุณพ่อตา ฉันไม่มีทางเลือก จึงทำได้แค่เรียก นี่พี่ชิงชิง ดูสิ พ่อพี่ยินยอมแล้วนะ พวกเราเมื่อไหร่จะจัดงานแต่งล่ะ?” หลี่ฝางถามลองเชิง

“ใครจะไปแต่งงานกับคนหลายใจอย่างนายกัน”

“ดูโชคเรื่องผู้หญิงของนายสิ เห็นสาวสวยข้างล่างนั่นมั้ย? รูปร่าง หน้าตา แต่ละคนระดับท็อปทั้งนั้น พวกหล่อนอยากจะแต่งเข้าตระกูลเศรษฐีทั้งนั้น นายรีบไปขอพวกหล่อนเถอะ”

หลินชิงชิงหรี่ตามองหลี่ฝาง แล้วพูด: “ใช่แล้ว วันนี้นายบังเอิญเจอพ่อฉัน?”

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “ใช่แล้ว ไม่ใช่แค่บังเอิญ เจอคุณพ่อตา แถมยังเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดเล็กน้อย”

สีหน้าของหลี่ฝาง เข้มขึ้น: “มานี่ ฉันจะเล่าให้ฟังอย่างละเอียด”

หลี่ฝางรู้ว่าเรื่องนี้ปิดบังหลินชิงชิงไม่มิด บอกเธอเร็วหน่อย ให้เธอได้คิดเตรียมตัว ก็คือว่าเป็นเรื่องดี

หลินชิงชิงรับเนื้อลาย่าง มาจากมือของหลี่ฝาง แล้วพูด: “พ่อฉันเกิดเรื่องอะไรขึ้น มีปัญหามั้ย?”

หลี่ฝางพูดอืม: “บอกให้เธอฟังก่อนเรื่องนึง หมาจื่อหักหลังพ่อของเธอ ไม่ใช่แค่หมาจื่อ ยังมีฉางชิง หม่าเชา พวกเขาทุกคนรวมหัวกันหักหลัง”

“อะไรนะ?” หลินชิงชิง เขวี้ยงเนื้อลาย่างในมือทิ้ง สีหน้าเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที: “พ่อของฉันดีกับพวกมันสามคนขนาดนั้น พวกมันกลับ……”

หลี่ฝางคว้าแขนของหลินชิงชิงไว้ แล้วพูด: “เธออย่าเพิ่งร้อนใจ พวกเขาหักหลัง เบื้องหลังมีคนชักใยอยู่”

“ใครเป็นคนชักใย” หลินชิงชิงถามต่อ

“ผู้ชายคนนึงชื่อว่าป๋ายหม่า เหมือนเขาจะร้ายกาจกว่าพ่อของเธอ” หลี่ฝางพูดขึ้น

หลินชิงชิงส่ายหน้า: “ลุงป๋ายหม่า? เขาเป็นแค่นักธุรกิจไม่ใช่เหรอ?”

หลินชิงชิงไม่อยากจะเชื่อ หลี่ฝางพูดขึ้น: “ดูแล้วป๋ายหม่าไม่ธรรมดา แต่ว่านั่นมันไม่สำคัญแล้ว เขาตายไปแล้ว”

“ส่วนคุณพ่อตา ขาทั้งสองข้างของเขา ถูกยิง เกรงว่าอีกครึ่งชีวิตที่เหลือ คุณพ่อตาคงจะต้องนั่งรถเข็นไปตลอดแล้ว”

หลี่ฝางทำสีหน้าเคร่งเครียดพลางพูด

สีหน้าของหลินชิงชิง ก็ถึงกับช็อกขึ้นมาทันที: “เสี่ยวฝาง นายกำลังล้อฉันเล่นใช่มั้ย?”

“ฉันไม่ได้ล้อเล่น เป็นความจริง ที่จริงแล้วคุณพ่อตาเกือบจะตายแล้ว เป็นฉันที่ช่วยเขาไว้” หลี่ฝางเม้มปากแล้วพูด: “อีกแป๊บนึง คุณพ่อตาก็จะมาแล้ว”

สีหน้าของหลินชิงชิง ขุ่นหมองลงไปสุดๆ : “ทำไมถึงเป็นแบบนี้? พ่อฉันดีกับพวกเขาขนาดนั้น ทำไมพวกเขาจะต้องหักหลังพ่อฉันด้วย?”

“จากที่ฟังนายเล่า พวกมันคิดอยากจะฆ่าพ่อฉันด้วย?”

“ใช่แล้ว” หลี่ฝางพูดขึ้น: “เช้าวันนี้ เรื่องที่เจอ สามารถบรรยายได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากจริงๆ ”

“พี่ชิงชิง คุณพ่อตาไม่ธรรมดาอย่างที่พี่คิด เขาทำธุรกิจมากมาย และก็ได้กำไรมาเยอะ ให้พูดพี่อาจจะไม่เชื่อ พี่หมิงก็อาจจะไม่เชื่อ ทุกคนก็อาจจะไม่เชื่อ แต่ว่าในมือของคุณพ่อตา มีเงินอยู่ห้าร้อยล้าน และเงินห้าร้อยล้านนี่ทำให้หมาจื่อหม่าเชาและคนอื่นๆ หักหลังคุณพ่อตา ทำให้เกิดความคิดอยากจะฆ่าคุณพ่อตา”

“พ่อฉันมีเงินห้าร้อยล้าน? เป็นไปไม่ได้ ฉันจำได้ว่าตอนนั้นที่ลูกพี่ลูกน้องฉันเจอเรื่องลำบาก พี่สะใภ้โดนลักพาตัวไป ไม่มีใครนำเงินออกมาได้ สุดท้ายก็เป็นนายที่เอาเงินมาให้”

“ถ้าพ่อฉันมีเงินห้าร้อยล้านจริงๆ ตอนนั้นทำไมถึงไม่ช่วยคนล่ะ?” หลินชิงชิงพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“เรื่องที่พ่อตามีเงินห้าร้อยล้าน ไม่ได้บอกกับใครทั้งนั้น และก็ไม่ได้แสดงออกมา”

“คุณพ่อตา ปิดบังไว้อย่างดี……แล้วก็ บอกให้เธอฟังอีกเรื่อง แม่เลี้ยงของพี่ตายแล้ว น่าจะเป็นแม่เลี้ยงใช่มั้ย?” หลี่ฝางมองหลินชิงชิงอย่างไม่แน่ใจ

บนหน้าของหลินชิงชิง ไม่ได้มีความรู้สึกเสียใจใดๆ : “ก็จริงที่ไม่ใช่แม่แท้ๆ ของฉัน ฉันไม่ได้มีความรู้สึกดีอะไรกับหล่อน หล่อนทำไม่ได้กับฉัน ตายก็ตายไปเถอะ”

“พ่อของฉัน ไม่เป็นไรแล้วใช่มั้ย?” หลินชิงชิงถามขึ้นอีกครั้ง

“น่าจะใกล้ถึงแล้ว อีกแป๊บนึง พี่เจอเขา ก็ดูเองเถอะ” หลี่ฝางก็พูดไม่ถูก

“พูดตามตรง เรื่องนี้ บังเอิญมากๆ ถ้าหากไม่ใช่เพราะพี่ส่งข้อความมาให้ฉันตอนดึกดื่น ให้ฉันไปซื้อเนื้อลาย่างที่ถนนหยิงเหอ ฉันก็คงไม่กลับไปตงไห่ ถ้าไม่กลับไป ก็คงไปช่วยชีวิตพ่อตาไว้ไม่ได้”

“นี่อาจจะเป็นโชคชะตามั้ง พี่เป็นโชคดีของคุณพ่อตาจริงๆ เนื้อลาย่างหนึ่งอัน กลับช่วยชีวิตพ่อของพี่ได้” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ

ในตอนนั้น ส้าวส้วยก็เดินขึ้นมาที่ชั้นสอง แล้วมองหลี่ฝางกับหลินชิงชิง

ส้าวส้วยมองหลี่ฝาง แล้วพูดอย่างอดไม่ได้: “เจ้านาย ฉันไม่ได้อยากจะมารบกวนพวกนายคุยกัน แต่แค่ ฉันอดไม่ได้ที่จะยืนยันเรื่องอะไรสักหน่อย”

“ยืนยันเรื่องอะไร?” หลี่ฝางมองส้าวส้วยแล้วถาม

ส้าวส้วยมองไปที่หลินชิงชิงที่ก้มหน้า แล้วถามขึ้น: “ฉันถามจะถามหน่อย ทำไมจู่ๆ เธอถึงให้เจ้านายของพวกเราไปซื้อเนื้อลาย่างให้ตอนดึกดื่น จากเมืองเอกถ่อไปถึงตงไห่ แล้วจากตงไห่ถ่อกลับมา ก็เพื่อซื้ออาหารเช้าที่เธอชอบกิน”

“หลินชิงชิง เธอไม่ใช่ผู้หญิงขี้อ้อน ปกติจะไม่ทำเรื่องแบบนี้”

“บอกฉันได้มั้ยว่าทำไม?” ส้าวส้วยถามด้วยน้ำเสียงซักถามพลางมองหลินชิงชิง

หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองส้าวส้วยพลางพูด: “นายลงไปเถอะ ฉันเชื่อใจพี่ชิงชิง”

ความหมายของส้าวส้วย เห็นได้ชัดว่าสงสัยหลินชิงชิง สงสัยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ทั้งหมด เป็นการวางแผนไว้

ส่วนหลี่ฝาง กลับเชื่อหลินชิงชิงอย่างสนิทใจ ว่าหล่อนไม่มีทางจะร้ายตน หรือแม้แต่ใช้อุบายกับตน ก็ไม่มีทาง

“เจ้านาย” ส้าวส้วยมองหลี่ฝาง พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ไม่ต้องพูดแล้ว นี่ยังไงก็เป็นบังเอิญ” หลี่ฝางจ้องส้าวส้วยตาเขม็ง

หลินชิงชิงเห็นได้ถึงความผิดปกติ จึงรีบพูดขึ้น: “หมายความว่าไง พวกนายกำลังสงสัยฉันเหรอ?”

“ใช่แล้ว” ส้าวส้วยตอบกลับตามตรง: “ฉันกำลังสงสัยว่าเธอวางแผนใช้เจ้านายฉัน”

ส้าวส้วยพูดอย่างไม่เกรงใจ นี่ทำให้หลี่ฝางไม่พอใจแล้ว หลี่ฝางขมวดคิ้ว พลางมองส้าวส้วย: “ฉันบอกแล้ว ว่าฉันเชื่อใจพี่ชิงชิง นายฟังที่ฉันพูดไม่เข้าใจใช่มั้ย?”

“หรือบางที เธออาจจะถูกหลอกใช้ล่ะ?” ส้าวส้วยมองหลินชิงชิงจู่ๆใบหน้าก็แสดงให้เห็นถึงความคับข้องใจและโมโห แล้วพูดขึ้นอีกครั้ง: “ทำไมจู่ๆ ถึงได้อยากกินเนื้อลาย่าง”

“เพราะว่าเจ้าของร้านนั้นโทรหาฉันเมื่อคืน บอกว่าพวกเขาจะย้ายร้านแล้ว วันนี้จะเปิดร้านเป็นวันสุดท้าย”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท