ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าประโยคนี้ของจางกงหมิงพูดเล่นหรือว่ากำลังข่มขู่จริงๆ แต่เมื่อมาเข้าหูของหลี่ฝาง ในใจของหลี่ฝางกลับรู้สึกไม่ดี
จะให้พูด ผู้หญิงคนแรกของหลี่ฝาง ไม่ใช่ลู่หลุ่ย แต่เป็นหลินชิงชิงต่างหาก
“วางใจเถอะ พี่หมิง ฉันเป็นคนแบบไหน พี่ใช่ว่าพี่จะไม่รู้ พี่คิดว่า ฉันจะทำให้ชิงชิงลำบากใจมั้ย?” หลี่ฝางพูดขึ้น
“เสี่ยวฝาง ฉันรู้ว่านอกจากหลินชิงชิง นายยังมีผู้หญิงอีกสองคน แต่นายไม่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเหรอ? ครั้งที่แล้วพวกนายไปเที่ยวที่บ้านพักตากอากาศ ผู้หญิงสองคนนั้นไปแล้ว ทำไมหลินชิงชิงไม่ได้ไป?” จางกงหมิงถาม
“ฉันเชิญชิงชิงแล้ว การ์ดเชิญใบแรกก็ให้เธอ” หลี่ฝางรีบพูดขึ้น
“เหอะๆ แค่ให้การ์ดเชิญใบเดียว ก็ถือว่าเชิญแล้ว? ถ้าหากนายมีความจริงใจมากพอ ก็ควรจะขับรถไปรับเธอ แน่นอน ที่หลินชิงชิงไม่ไป ก็มีเหตุผลของเธอ ความสัมพันธ์ของเธอกับนายนั้นหวานกันมาก แต่ขณะเดียวกันมันก็ไม่ชัดเจน เธอกลัวว่าถ้าไป แล้วจะทำให้ความสัมพันธ์ของนายกับแฟนแย่ลง แน่นอนว่า ที่เธอกลัวมากกว่านั้นก็คือการที่เห็นนายจับมือกับผู้หญิงคนอื่น ในใจของเธอรู้สึกทรมาน”
“ฉันอยากจะช่วยหลินชิงชิงถามนาย ว่าในใจของนาย เธออยู่อันดับที่เท่าไหร่?” จางกงหมิงถามขึ้น
หลี่ฝางชะงักอยู่ครู่ แล้วเงียบอยู่นานมากไม่ยอมตอบ
คนแรก?
หลี่ฝางรู้สึกมาตลอดว่า ลู่หลุ่ยในใจของตน ถึงจะมาเป็นที่หนึ่ง แต่บางที ก็รู้สึกว่าหลินชิงชิงในใจของตน ก็มีความสำคัญมากๆ
หลี่ฝางคิดอยู่ครึ่งค่อนวัน ก็ไม่สามารถจัดลำดับของฉินวี่เฟย หลินชิงชิง ลู่หลุ่ยผู้หญิงทั้งสามคนนี้ได้เลย
“ช่างมันเถอะ เป็นเรื่องส่วนตัวของนาย ฉันไม่เสือก แต่หากว่าหลังจากนี้ชิงชิงไม่ยอมหาแฟน ไม่ว่าจะเป็นในใจของนาย หรือว่าในชีวิต ก็ต้องที่ตำแหน่งให้เธอ”
“วางเถอะ รอให้เมื่อไหร่มู่เสี่ยวไป๋จะลงมือกับเสี่ยวโจว ฉันจะหาวิธีติดต่อนายไป”
จางกงหมิงพูดจบ ก็วางสายไป
หลังจากวางสาย หลี่ฝางก็หันไปมองส้าวส้วย แล้วพูด: “มู่เสี่ยวไป๋เตรียมกำจัดเสี่ยวโจวทิ้ง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่”
“ใช้ประโยชน์เสร็จก็ฆ่าทิ้ง เรื่องธรรมดามากๆ ” ส้าวส้วยหัวเราะเหอะๆ แสดงให้เห็นว่าไม่ได้สนใจ: “ทำไมเจ้านายจะเข้าไปยุ่ง?”
“เมื่อก่อนที่ตงไห่ เสี่ยวโจวเคยช่วยฉันไว้หลายครั้ง ฉันจะปล่อยให้เขาตายโดยไม่ช่วยไม่ได้” หลี่ฝางพูด
ส้าวส้วยหัวเราะเหอะๆ : “ยากมาก พวกเรายังไม่รู้แน่ชัดเลยว่ามู่เสี่ยวไป๋มันจะลงมือเมื่อไหร่ จะช่วยยังไง?”
“เจ้านาย พวกเราไม่ใช่ผู้พิทักษ์ ไม่ใช่ว่าเราจะสามารถช่วยได้ทุกคน”
ส้าวส้วยพูด: “ถึงแม้นายจะบอกสิ่งที่รู้มาก กับเสี่ยวโจว เสี่ยวโจวก็ไม่ไปจากตระกูลมู่”
หลี่ฝางพูดเสียงแหบ: “ยังไงก็ต้องลองดู”
หลี่ฝางก็รู้ว่าการช่วยชีวิตครั้งนี้ มันยากลำบากมาก ถึงยังไงมู่เสี่ยวไป๋คนนั้น ก็เป็นคนมีอิทธิพลกว้างขวาง เขาอยากจะกำจัดเสี่ยวโจว เขาต้องวางแผนไว้ทุกทางแน่ๆ
ประเด็นก็คือ ฝั่งของเสี่ยวโจวก็ไม่แน่จะยอมร่วมมือแผนการหนีของตน
ขณะที่กำลังคุยกัน โจวหยางก็โทรเข้ามา ให้หลี่ฝางกลับบ้านสักรอบ บอกว่าพี่ชายเขากลับมาแล้ว
หลี่ฝางครุ่นคิด ยังไงก็ต้องกลับไปสักครั้ง หนึ่งคือ อยากจากโจวเจ๋ สองคือ อยากไปหาหลินชิงชิงสักหน่อย
หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง หลี่ฝางก็กลับไปถึงคฤหาสน์บ้านซาน
ขณะเดินทาง หลี่ฝางยังเห็นมู่เสี่ยวไป๋ใช้พี่ชายของตน เดินไปมาอยู่บนเขา
เห็นแบบนี้ เหมือนกับว่ามู่เสี่ยวไป๋อะไรก็ไม่ทำ วันๆ เอาแต่ชี้นิ้วสั่ง หลี่ฝางมองมู่เสี่ยวไป๋ แล้วยิ้มเหอๆ : “คุณชายมู่ เก็บอารมณ์อยู่ดีจริงๆ ”
สีหน้ามู่เสี่ยวไป๋เปลี่ยนเล็กน้อย ขณะที่กำลังชูหมัด มู่เหวินตงก็ยื่นมือมาจับมือของมู่เสี่ยวไป๋ แล้วตี: “ไปเดินฝั่งนู้นเพื่อนฉันหน่อย”
ตระกูลมู่ลงทุนลงแรงอย่างมาก แถมยังใช้เส้นสายอีกมาก ทำธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เวลาไม่นานกลับถูกหลี่ฝางทำให้พังไปได้
ตอนนี้คนมีอายุในเมืองเอก ทั้งหมดต่างเรียกร้องสิทธิ์ และประณามสิ่งที่บริษัทผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทำ
ยังดีที่ ตระกูลมู่อยู่เบื้องหลังมาตลอด ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของอำนาจ ดังนั้น ตอนนี้ตระกูลมู่แค่สูญเสียเงิน ยังไม่ถึงกับสูญเสียชื่อเสียง
แต่คนที่ถูกจับไปพวกนั้น ก็ต้องแฉเรื่องตระกูลมู่แน่ๆ ถ้าไม่อย่างนั้น ปากของคนพวกนั้น ต้องกัดคนอยู่แน่ๆ
“หลี่ฝาง พวกเราคอยดูกันไป”
มู่เสี่ยวไป๋ไม่ฟังคำของพี่ชายตน เดินมายังหน้าของหลี่ฝาง แล้วยิ้มอย่างเย็นชาพลางพูด: “นายทำลายธุรกิจของตระกูลพวกเรา ฉันก็จะทำลายธุรกิจของตระกูลนายเหมือนกัน”
“เหรอ? งั้นพวกเราก็คอยดูกันไป” หลี่ฝางพูดอย่างดูถูกสุดๆ
“เหอะๆ อย่าคิดว่าส่งคนสอดแนบมาอยู่ข้างกายฉันได้ ก็จะสามารถกำจัดฉันได้ นายคิดว่าข้างกายของนาย ไม่มีคนของฉันงั้นเหรอ?” มู่เสี่ยวไป๋ยิ้มอย่างชั่วร้าย
หลี่ฝางก็ไม่รู้ว่าที่มู่เสี่ยวไป๋พูดจริงหรือไม่ แต่ประโยคนี้ ก็เตือนหลี่ฝาง
คนข้างกายของตน ทุกคนเชื่อใจได้หมดมั้ย?
แน่นอนว่า ส้าวส้วยโหจื่อ คนพวกนี้ติดตามพ่อของตนมา งั้นตนก็สามารถเชื่อได้แน่ๆ
แต่ว่าคนอื่น หลี่ฝางก็ไม่แน่ใจแล้ว
หลี่ฝางยู่ปาก: “ทำไม ลองใจกันหรือไง?”
“ที่จริงแล้วธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพนั่น พวกเราจับตามองมานานแล้ว เรื่องที่ไร้มนุษย์ธรรมแบบนี้ พวกเราก็อยากจะยื่นมือเข้าไปหยุดมันอยู่แล้ว แต่ใครจะรู้ บังเอิญว่าตระกูลของพวกนายอยู่เบื้องหลัง”
“นายรู้ได้ยังไง ว่าเป็นตระกูลของพวกฉันทำ?” มู่เสี่ยวไป๋หรี่ตาถาม
“นั่นมันก็ง่ายๆ ไม่ใช่เหรอ นายให้คนทางนั้นหนึ่งร้อย ฉันก็ให้เขาสามร้อย นายว่าเขาจะบอกเรื่องทั้งหมดกับฉันมั้ย?”
หลี่ฝางยิ้มเบาๆ แล้วพูด: “พระที่มาจากต่างถิ่นรูปนี้ ที่จริงก็แค่อยากมาเผยแผ่ศาสนา แน่นอนว่าต้องมีอำนาจของคนในพื้นที่สนับสนุนแน่ๆ ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเขาที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับรอบข้างเลย ก็คงจะถูกฆ่าไปนานแล้ว”
“หลังจากได้ยินมาว่าเป็นตระกูลมู่ของพวกนาย เหอะๆ พวกเราก็เริ่มวางแผน จัดการพวกนายแล้ว”
“ที่จริงพวกเราเริ่มวางแผนกันนานแล้ว แต่แค่ พวกเราอยากรอตอนที่พวกนายรวบแห เพื่อที่จะรวบตัวพวกนายทั้งหมดในทีเดียว เวลานั้นกำจัดพวกนายทิ้งซะ แบบนี้ความเจ็บปวดของพวกนาย ถึงจะมากที่สุด”
หลี่ฝางเลิกคิ้ว แล้วพูด: “แต่ว่าดูท่าคุณชายมู่แล้ว ราวกับว่าไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลยนะ”
“ก็จริง ธุรกิจของตระกูลมู่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ธุรกิจเล็กๆ แบบนี้ ไม่มีก็ไม่สน”
“เงินห้าร้อยล้านครั้งที่แล้ว ครั้งนี้อย่างน้อยก็ต้องสักหนึ่งร้อยล้านละมั้ง? เหอะๆ ถ้าหากคนพวกนั้นลากตระกูลมู่ของพวกนายออกมา นายว่า พวกนายจะต้องเสียอีกเท่าไหร่? ฉันได้ยินมาว่า ในมือพวกเขามีสัญญาลับอยู่หนึ่งฉบับ ถ้าหากสัญญาลับพวกนั้นถูกเปิดเผยออกมาละก็ งั้น……”
หลี่ฝางพูด ใจของมู่เสี่ยวไป๋ก็สั่นรัว
มู่เสี่ยวไป๋คิดไม่ถึงว่า เรื่องสัญญาลับฉบับนั้น หลี่ฝางก็ยังรู้
“ทำไมนายถึงได้รู้เรื่องสัญญานั่น?” มู่เสี่ยวไป๋กัดฟันพลางมองหลี่ฝาง
“เมื่อกี้ฉันก็บอกนายไปแล้วไม่ใช่เหรอ มีเงินจะทำอะไรก็ได้ พวกคนที่ถูกจับไปพวกนั้น อยากให้พวกเขาเปิดปาก ก็ไม่ยาก ขอแค่ให้สิ่งดีๆ กับเขา ก็พอแล้ว”
“หลี่ฝาง นายอย่ามาบีบฉันนะ……ถ้าหากฉันไม่มีทางเลือกละก็ ฉันรับรองตระกูลหลี่ของพวกนาย ก็จะไม่มีทางให้เลือกเหมือนกัน” มู่เสี่ยวไป๋ทำหน้าเข้มพลางพูด: “ตระกูลมู่ของพวกเรามีรากฐานมั่นคงอยู่ในเมืองเอกมาตั้งนาน ไม่ใช่นายบอกว่าจะขุดรากถอนโคนก็จะขุดรากถอนโคนได้”
“ไอ้โง่ ถึงตอนนี้แล้ว นายยังจะข่มขู่ฉันอีกเหรอ?”
หลี่ฝางพูด: “นายควรจะขอร้องฉันถึงจะถูก”
หลี่ฝางหันหน้าไป แล้วเดินขึ้นไปทางคฤหาสน์ ส่วนมู่เสี่ยวไป๋ก็กำหมัดแน่นอย่างโมโห และกลับไปที่ด้านหน้าพี่ชายตนอีกครั้ง
“อดกลั้นไว้ ไม่ต้องกังวล เรื่องบริษัทผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ มีคนเข้ามาเกี่ยวข้องมากเกินไป ถึงแม้ตระกูลหลี่จะเกลียดพวกเรายังไง ก็คงไม่บ้าระห่ำแบบนั้น ถ้าหากพวกเขาทำ ไม่ใช่แค่มีผลกระทบต่อตระกูลมู่ แถมยังจะพาลไปถึงอีกหลายคนด้วย”
“ถ้าหากตระกูลหลี่มาเพื่อที่จะก้าวหน้าในเมืองเอก ถ้าเขาทำให้คนพวกนั้นไม่พอใจ เหอะๆ พวกเขาก็อาจจะเดินได้อย่างลำบากแล้ว”
มู่เหวินตงทำเสียงหึ แล้วพูด: “เงินของพวกเรา นายก็คิดว่าทิ้งไปเถอะน่า?”
“แต่ว่า……” มู่เสี่ยวไป๋ถอนหายใจ: “สำหรับฉันแล้ว ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี”
มู่เหวินตงพยักหน้า: “พวกที่ขายสินค้าปลอมพวกนั้น เพิ่งถูกจับไปเมื่อกี้ น่าจะไม่ได้เปิดปากพูดเร็วนักหรอก แม้แต่คนที่รู้เรื่องสัญญาลับนั่น ก็มีไม่กี่คน”
มู่เหวินตงทำมือปาดคอ ใบหน้าแสดงให้เห็นถึงความเลือดเย็น: “หาคนไป กำจัดพวกมันทิ้งเถอะ”
“มีแค่คนตาย ถึงจะกุมความลับของพวกเราไว้ได้” มู่เหวินตงพูด
มู่เสี่ยวไป๋พยักหน้า ควักโทรศัพท์ออกมา แล้วก็กดโทรออก
ถึงแม้หมากตานี้ เดินอย่างเสี่ยงมากๆ ถ้าหากฆ่าไม่ตาย ก็เป็นไปได้มากว่าพวกนั้นจะปริปากพูดทันที แต่มู่เสี่ยวไป๋จะไม่ทำอย่างนั้นก็ไม่ได้
ส่วนหลี่ฝางหลังจากขึ้นไปบนคฤหาสน์แล้ว ก็พบกับผู้คนที่คุ้นเคย