NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 640 เป้าหมายของมู่หรงฉางเฟิง

บทที่ 640 เป้าหมายของมู่หรงฉางเฟิง

“ส่งตัวฉินหยีหรันให้นาย?”

หน้าของมู่หรงฉางเฟิง ชะงักเล็กน้อย ต่อมาก็หัวเราะลั่น: “คุณชายหลี่ สมองคุณดีอยู่ใช่มั้ย? ฉินหยีหรันเป็นภรรยาของฉัน กลางวันแสกๆ คุณวิ่งมาหาฉัน เพื่อจะมาเอาตัวภรรยาฉันไป?”

“เช้านี้ไม่ได้กินยามาเหรอ?”

มู่หรงฉางเฟิงหัวเราะอย่างเย็นชา แล้วเหลือมองซือถูเฟย และถาม: “นายว่าเขาบ้ามั้ย?”

“บ้ามากๆ ด้วย” ซือถูเฟยพูดตาม

มู่หรงฉางเฟิงก็ยกแล้ว แล้วชนกับซือถูเฟย และพูด: “มา ดื่ม”

หลี่ฝางหรี่ตา พลางมองมู่หรงฉางเฟิง แล้วถาม: “ถึงยังไงหล่อนก็เป็นภรรยานายมาแล้วหลายปี นายยังคิดที่จะส่งหล่อนไปที่นั่นอีกเหรอ?”

สีหน้าของมู่หรงฉางเฟิงชะงักอยู่ครู่ มองหลี่ฝาง พลางพลางยิ้มส่ายหัว แล้วพูด: “เห็นทีไอ้แก่นั่น คงจะปากมากให้นายฟังเยอะเลยสิ”

มู่หรงฉางเฟิงคีบซิก้าร์มาให้ตัวเอง แล้วสูดเข้าไปลึกๆ และพูด: “งั้นไอ้แก่นั่นก็ให้นายมาใช่มั้ย? แต่ว่าเขาหามาผิดคนแล้ว พวกเราแม้แต่เพื่อนยังเป็นไม่ได้เลย ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนไม่มีเลยสักนิด ให้นายมา? เหอะๆ ตลกจริงๆ นายคิดว่า ฉันจะฟังนายเหรอ? หรือว่า ฐานะของนายคุณชายหลี่มันสูงส่งนักเหรอ ฉันมู่หรงฉางเฟิงถึงต้องไว้หน้านาย?”

“ที่จริง ฉันคิดว่าจะส่งหล่อนไปที่ชั้นใต้ดินชั้นที่หนึ่งพอ ตอนนี้เห็นที รอให้ได้สัมผัสชั้นที่หนึ่งเรียบร้อยแล้ว แล้วค่อยส่งยัยกะหรี่นั่น ไปชั้นใต้ดินชั้นที่สองต่อเลยดีกว่า”

มู่หรงฉางเฟิงยิ้มอย่างเย็นชา

ชั้นใต้ดินชั้นที่สอง?

หลี่ฝางคาดไม่ถึง ใต้ดินของสโมสรเจียงหนาน ตกลงแล้วมีกี่ชั้นกันแน่?

“กะหรี่? ฉินหยีหรันเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของนายนะ ถ้าหากเรื่องนี้แพร่ออกไป หรือว่ามันจะไม่มีผลกระทบต่อชื่อเสียงของนายเหรอ?” หลี่ฝางขมวดคิ้วพลางถาม

“ชื่อเสียง? ฉันมีชื่อเสียงที่ไหนกัน ทั้งเมืองเอก คนที่รู้จักฉันมู่หรงฉางเฟิง ก็มีไม่กี่คน ก็แค่แวดวงลูกคนรวยแค่นั้น แล้วก็คนพวกนี้ มีใครกล้าเหยียดหยามฉัน? ก็คงมีแค่นายคุณชายหลี่มั้ง?”

“แล้วก็ผู้หญิงคนนั้น ถึงแม้จะเป็นภรรยาของฉัน นอนเตียงเดียวกันทุกวัน แต่ฉันไม่เคยแตะต้องหล่อนเลย รู้มั้ยว่าทำไม? ก็เพราะว่าหล่อนสกปรกไง ก่อนหน้าที่จะแต่งงานกับฉัน หล่อนก็เอาครั้งแรกของตัวเอง ไปให้ยาจกคนนึง กะหรี่แบบนี้ กลับยอมเอาของที่มีค่าที่สุดของตัวเอง ไปให้ไอ้ยาจกคนนึง ไม่ให้ฉัน ผู้หญิงแบบนี้ หรือว่าไม่ใช่กะหรี่เหรอ? ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าตระกูลฉินเป็นแรงให้ตระกูลมู่หรงของเรามาตลอด ถ้าหากตอนนั้นนายท่านฉินไม่ได้ช่วยพวกเราสี่ตระกูลใหญ่ ช่วยพวกเราจับพ่อของนายหลอซ่า ยัยกะหรี่นั่น คงโดนฉันฆ่าตายไปนานแล้ว”

พูดแล้ว มู่หรงฉางเฟิงไม่ได้ชอบฉินหยีหรันแม้สักนิดเดียว หลายปีที่ผ่านมา เขาก็แค่อดทนไว้เท่านั้น

เห็นแบบนี้ ฉินหยีหรันที่อยู่ตระกูลมู่หรงถูกเอ็นดู มู่หรงฉางเฟิงไม่ได้ทำให้หล่อนลำบากใจเลยแม้แต่น้อย ความจริงแล้ว มู่หรงฉางเฟิงทำให้นายท่านฉินเห็นเท่านั้น

วันนี้นายท่านฉินตายแล้ว มู่หรงฉางเฟิงก็ไม่จำเป็นจะต้องไว้หน้าใครแล้ว

“หลี่ฝาง นี่เป็นเรื่องในครอบครัวฉัน ทางที่ดีนายอย่าเข้ามายุ่ง แล้วก็ คงไม่มีทางให้นายได้ยื่นมือมายุ่ง”

มู่หรงฉางเฟิงมองหลี่ฝาง แล้วพูดอย่างเย็นชา: “หลี่ฝาง นายอย่าคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าจะได้มั้ย? เรื่องอะไรก็ต้องให้นายเข้ามายุ่ง นายมีความสามารถนั้นเหรอ?”

“ถ้าหากฉันบอกนายว่า เรื่องนี้ ฉันจะยุ่งล่ะ?” หลี่ฝางขมวดคิ้วพลางพูด

มู่หรงฉางเฟิงหัวเราะเหอะๆ แล้วพูดอย่างไม่แคร์: “งั้นก็แล้วแต่ นายก็รู้แล้วนิว่าฉินหยีหรันไปไหน งั้นนายก็ไปช่วยหล่อนเถอะ ขอแค่นายสามารถช่วยหล่อนออกมาได้ งั้นผู้หญิงคนนั้น ฉันก็ยกให้นายแล้วกัน ถึงตอนนั้น ฉินวี่เฟยกับฉินหยีหรันพี่น้องสาวสวยคู่นี้ ก็จะเป็นของนายทั้งคู่ มันส์ดีจริงๆ ”

“ที่จริงแล้ว เมื่อก่อนฉันคิดมาตลอด ว่าถ้ามีโอกาส ฉันควรจะรับทั้งฉินวี่เฟยและฉินหยีหรันมาไว้ในสต๊อก แต่หลังจากที่ฉันเห็นว่าฉินวี่เฟยสนิทกับคุณชายหลี่แล้ว ความคิดแบบนั้น มันยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก”

จู่ๆ มู่หรงฉางเฟิงก็ฉีกยิ้มอย่างชั่วร้าย: “อยากให้ฉันปล่อยฉินหยีหรัน ได้สิ บนโลกนี้ ใครก็ขอร้องฉันไม่ได้ มีแค่คนเดียว นั่นก็คือฉินวี่เฟย”

“เอางี้ ฉันโทรหาฉินวี่เฟยดู ถามว่าหล่อนยินยอมมั้ย?”

มู่หรงฉางเฟิงพูด พลางควักโทรศัพท์ แล้วก็กดเบอร์ของฉินวี่เฟย และโทรออก

หลังจากหลี่ฝางได้เห็น หัวก็ร้อน เขากำหมัด แล้วชกเข้าไป ที่หน้าของมู่หรงฉางเฟิง

แต่ว่ามู่หรงฉางเฟิงก็เตรียมรับมือไว้ก่อนแล้ว เขาใช้มือนึงจับโทรศัพท์ ส่วนอีกมือก็ยกขึ้นมา แล้วจับแขนของหลี่ฝาง ไว้อย่างแน่น

ในตอนนี้สายก็ติด

“ฮัลโหล ฉินวี่เฟยเหรอ? ฉันพี่เขยเองนะ มู่หรงฉางเฟิง เธออย่าเพิ่งรีบวางสายนะ ใช่แล้ว เธอรู้เรื่องราวเกี่ยวกับชั้นใต้ดินของสโมสรเจียงหนานบ้างมั้ย ถ้าไม่รู้ล่ะก็ ฉันจะบอกเธอให้ ในนั้นเลี้ยงปีศาจไว้ไม่น้อย ถ้ามีผู้หญิงถูกส่งเข้าไป ก็ยากที่จะมีชีวิตรอดออกมา เหอะๆ ถูกแล้ว พี่สาวเธอถูกฉันส่งเข้าไปแล้ว แต่ว่านะ ตอนนี้พี่สาวของเธอน่าจะยังไม่ถูกป้อนใส่ปากปีศาจ น่าจะเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงมั้ง”

“ถ้าหากภายในครึ่งชั่วโมงนี้ เธอมาหาฉันที่สโมสรเจียงหนาน ถ้างั้น ฉันจะปล่อยพี่สาวเธอไป”

มู่หรงฉางเฟิงหัวเราะเหอะๆ : “ใช่แล้ว บอกเธออีกเรื่อง คนรักของเธอ หลี่ฝางก็อยู่ที่นี่นะ”

“ถ้าหากภายในครึ่งชั่วโมง เธอไม่มาล่ะก็ ครั้งต่อไปที่เธอจะได้เจอพี่สาว เป็นไปได้มากว่าจะไม่ใช่คนแล้ว แต่เป็นศพแทน”

มู่หรงฉางเฟิงยิ้มอย่างชั่วร้าย พูดจบ ก็ตัดสายไป

หลี่ฝางหรี่ตา มองมู่หรงฉางเฟิงอย่างเย็นชา: “ถ้าหากนายกล้าทำอะไรฉินวี่เฟย ฉันจะฆ่านาย มู่หรงฉางเฟิง”

“นายมีสิทธิ์อะไร?”

มู่หรงฉางเฟิงหัวเราะเหอะๆ แล้วเหวี่ยงหลี่ฝางออกไปไกลสองสามเมตร จนหลี่ฝางสะดุดล้มไปกองกับพื้น

“กลับไปฟิตหุ่นมาอีกหน่อยนะ ส้าวส้วยไม่อยู่ข้างกาย ฉันแนะนำให้นายระวังคำพูดหน่อย” มู่หรงฉางเฟิงพูดอย่างดูถูก

หลี่ฝางคิดไม่ถึงว่ามู่หรงฉางเฟิงจะแรงเยอะแบบนี้ เห็นที่คนของสี่ตระกูลใหญ่ จะต้องถูกฝึกฝนมาแน่ๆ

ในตอนนั้นถังหยู่ซวน ก็เข้ามาพยุงหลี่ฝาง แล้วพูด: “อย่าใจร้อน ถ้าลงมือขึ้นมา พวกเราจะเสียเปรียบ”

ถังหยู่ซวนส่ายหน้า ให้หลี่ฝาง: “พวกเราไม่ใช่คู่ต่อกรของเขา แล้วก็ ซือถูเฟยคนนั้น มองดูแล้ว ก็ไม่ใช่ธรรมดาเลย”

“รอบด้านห้องส่วนตัว มีคนอยู่ และก็ไม่น้อยด้วย”

ถังหยู่ซวนพูด: “พวกเขามีการซุ่มอยู่ ระวังหน่อย”

ซุ่มโจมตี?

หลี่ฝางขมวดคิ้ว พลางมองมู่หรงฉางเฟิงกับซือถูเฟย: “พวกนายรู้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าฉันจะมาใช่มั้ย?”

ซือถูเฟยกับมู่หรงฉางเฟิงไม่ได้ตอบ และดื่มเหล้าของตนเองไป

ในตอนนั้น ฉินเสี่ยวหู่ก็มาถึงหน้าประตู มู่หรงฉางเฟิงทำหน้าเย็นชา: “ใครให้นายลุกขึ้นมา?”

เมื่อพูดออกมา ฉินเสี่ยวหู่ก็ตกใจจนคุกเข่าลงไป

“น่าขายหน้าจริงๆ หลงจากนายท่านฉินตาย ตระกูลฉินก็ไม่เหมือนมนุษย์สักคน” มู่หรงฉางเฟิงส่ายหน้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความผิดหวัง

ที่จริง ตระกูลฉินไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลมู่เลย

แต่ว่า ตระกูลมู่เมื่ออยู่ต่อหน้าสี่ตระกูลใหญ่ กลับมีเกียรติมากๆ

ส่วนตระกูลฉินล่ะ? ฉินหยีหรัน ฉินซ่างเสียน แล้วก็ฉินเสี่ยวหู่ คนพวกนี้ ในสายตาของมู่หรงฉางเฟิง ก็มีชีวิตเหมือนกับหมา

“คนไร้ประโยชน์แบบนาย ถ้าหากไม่คิดว่านายเป็นคนตระกูลฉินนะ ฉันคงฆ่านายตายไปนานแล้ว ทุกครั้งที่ใช้งาน ก็ทำได้ไม่ดี”

มู่หรงฉางเฟิงถอนหายใจ: “หรือว่าตระกูลฉินของพวกนาย เลี้ยงแม่แต่คนไร้ประโยชน์กับกะหรี่เหรอ?”

กะหรี่คำนี้ ไม่ใช่แค่ด่าฉินหยีหรัน แต่ยังด่าฉินวี่เฟยด้วย

หลี่ฝางพูด อย่างเย็นชา: “มู่หรงฉางเฟิง นายวางแผนไว้ก่อนแล้วใช่มั้ย?”

“อะไร?” มู่หรงฉางเฟิงมองหลี่ฝาง แล้วพูดแบบแกล้งโง่: “คุณชายหลี่ ทำไมฉันถึงฟังนายไม่เข้าใจล่ะ ฉันวางแผนอะไรเหรอ?”

“ไม่ว่าฉินเสี่ยวหู่จะทำสำเร็จหรือไม่ นายก็มีแผนไว้อยู่ นั่นก็คือจะส่งฉินหยีหรันลงชั้นใต้ดินของสโมสรเจียงหนาน เป้าหมายของนาย ไม่ใช่เพื่อลงโทษฉินซ่างเสียน เป้าหมายของนาย ก็คือเล่นงานฉัน”

“นายรู้ว่าฉินซ่างเสียนหรือฉินวี่เฟย จะต้องมาขอให้ฉันช่วย และฉันจะเห็นแก่หน้าของฉินวี่เฟย ต้องยื่นมือมาช่วยแน่ๆ ขอแค่ฉันลงมือ ก็จะทำให้พวกแขกที่ชั้นใต้ดินนั่นไม่พอใจ เป้าหมายของนาย ก็คือยืมมือคนอื่น ให้ตระกูลฉันมีศัตรูใหม่ใช่มั้ย?” หลี่ฝางถามอย่างเย็นชา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท