“มันอะไรกันเนี่ย?” จู่ ๆ ภายในใจของหลี่ฝางก็ได้เกิดสัญญาณเตือนภัยขึ้นมา กำลังจะลองปลุกกู่ยี่เทียนดู กลับเห็นว่าจู่ ๆ เขาก็ได้ลืมตาขึ้น และกระอักเลือดสด ๆ ออกมาทันที
“เกิดอะไรขึ้น?” หลี่ฝางตกใจ
ในขณะเดียวกันนั้นร่างไร้วิญญาณของจูหลงที่อยู่ด้านบนก็ได้สลายหายไปอีกครั้ง
“ไปเร็ว!” กู่ยี่เทียนตะโกนออกมา และลากหลี่ฝางออกไปทางด้านนอกของตำหนัก
ทันใดนั้นตำหนักก็ได้หดเล็กลง เร็วกว่าครั้งที่แล้วอีกมาก เพียงชั่วพริบตาก็ได้หดเล็กลงถึงขั้นแทบจะไม่อาจออกไปไม่ได้
ความเร็วของทั้งสองคนก็ได้ถึงขีดจำกัดอีกครั้ง พุ่งออกมาจากประตูใหญ่ราวกับลำแสง
เพียงแต่ว่าในครั้งนี้พวกเขายังไม่ทันได้มองเห็นโลกภายนอกอย่างชัดเจนด้วยซ้ำ ที่ตรงหน้าก็เปลี่ยนเป็นพร่ามัวไปหมด
พอรู้ตัวอีกที ทั้งสองคนก็ได้ยืนอยู่บนลานกว้างอีกครั้งแล้ว
“เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น?” หลี่ฝางเอ่ยถาม
กู่ยี่เทียนเงียบไปสักพัก จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมา: “เดิมทีฉันอยากจะลองดูว่าถ้าพูดคุยกับจิ๋นซีฮ่องเต้จะเป็นยังไง แต่ว่า……”
กู่ยี่เทียนยิ้มอย่างขมขื่น พลางกล่าว: “จูหลงได้โจมตีฉันโดยไม่พูดอะไรสักคำ ไม่มีทางเลือก ฉันจึงทำได้เพียงสู้กับเขา คิดไม่ถึงว่า ทั้ง ๆ ที่เขตแดนที่เขาแสดงออกมานั้นเหมือนกันกับฉัน แต่กลับกดทับฉันเอาไว้ได้ตลอดเวลา……และอัดฉันจนตาย……”
“หลังจากที่นายตายไป ก็ได้ตื่นขึ้นมาจากโลกมายางั้นเหรอ?” หลี่ฝางเอ่ยถาม
“ใช่” กู่ยี่เทียนยิ้มอย่างขมขื่น: “ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าพวกเราได้อยู่ในโลกมายามาโดยตลอด ยังไม่ได้หลุดพ้นออกมาตั้งแต่ต้นจนจบ”
“ลองดูอีกครั้ง ครั้งนี้ให้ฉันไปลองประมือดู!”
“โอเค!” กู่ยี่เทียนพยักหน้า ทั้งสองคนเองก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ได้พุ่งตัวเข้าไปในอากาศอีกครั้ง
ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ทั้งสองคนทะลวงไปอย่างรวดเร็ว บุกขึ้นไปบนขั้นสูงสุด ทันใดนั้นภาพมายาก็ได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
เพียงแต่ว่าครั้งนี้ หลี่ฝางได้กวาดปัดอาหารชั้นเลิศบนโต๊ะลงไปบนพื้น แล้วกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะ จ้องมองจูหลงด้วยสายตาร้อนแรง และตวาดเสียงยาว: “กล้าที่จะสู้กับฉันสักตั้งไหม!”
ทันใดนั้น ผู้คนที่อยู่โดยรอบต่างก็กรีดร้องวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว ส่วนจูหลงที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรนั้นก็ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมาในที่สุด เขาถือกระบี่และโจมตีเข้ามาหาหลี่ฝาง
ทันใดนั้นมันก็ได้กลายเป็นการต่อสู้ที่ยากเย็นแสนเข็ญ
เขตแดนที่จิ๋นซีฮ่องเต้แสดงออกมานั้นเหมือนกันกับหลี่ฝาง แต่ทว่าพลังของเขากลับแข็งแกร่งกว่าหลี่ฝาง เท้าและหมัด ต่างก็แฝงไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ มักจะเห็นอยู่เต็มท้องฟ้า กระบวนท่าอันเลิศล้ำถูกใช้ออกมากระบวนท่าแล้วกระบวนท่าเล่า จู่โจมกดดันหลี่ฝางอย่างสิ้นเชิง
“ไม่ไหว ถ้าสู้แบบนี้ต่อไป ฉันคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!” หลี่ฝางกัดฟันแน่น จู่ ๆ เขาก็จะมีความคิดอันบ้าคลั่งขึ้นมา ทันใดนั้นเขาพลันเปลี่ยนกระบวนท่า ต่อต้านกระบวนท่าจิ๋นซีฮ่องเต้เอาไว้ซึ่ง ๆ หน้า และเบี่ยงตัวหลุดพ้นจากจูหลงออกมาได้ แล้ววิ่งพุ่งไปยังประตูใหญ่ทันที!
ด้านหลังจูหลงได้ยืนมองเขาอยู่ที่เดิมอย่างเงียบ ๆ โดยที่ไม่ได้วิ่งตามขึ้นมา หลี่ฝางเองก็ไม่รีรอ เขาผลักเปิดประตูใหญ่ออกทันที!
ท่านใดนั้น แสงสว่างก็ได้สาดกระทบเข้าที่ดวงตาของหลี่ฝาง!
ในตอนที่หลี่ฝางรู้สึกตัวขึ้นมานั้น ที่ด้านหน้าก็เป็นใบหน้าที่ร้อนรนของกู่ยี่เทียน
“ไปเร็ว!”
เพียงแต่ว่าครั้งนี้ไม่ได้ให้โอกาสพวกเขาเลยสักนิด เพียงแค่อึดใจเดียวตำหนักใหญ่ก็ได้ขังพวกเขาเอาไว้แล้ว จากนั้นกาลเวลาก็ได้เปลี่ยนไป ฟ้าดินกลับตาลปัตร
หลี่ฝางที่ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ลานกว้างอีกครั้ง รู้สึกว่าได้วิงเวียนไปทั้งตัว
“พวกเรา……ได้ลองไปกี่ครั้งแล้ว” แววตาของกู่ยี่เทียนผิดปกติเล็กน้อย
หลี่ฝางไม่ได้ตอบคำถามเขา แต่ได้พยายามทำให้ความรู้สึกฉุนเฉียวของตัวเองนั้นสงบลง
พยายามอยู่หลายครั้งก็ไม่เป็นผล และเวลาที่เหลือให้พวกเขาตอบสนองก็สั้นลงไปเรื่อย ๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าพวกเขาคงไม่มีโอกาสที่จะไปสำรวจอีกแล้ว!
“ฉันจำได้ว่านี่เป็นครั้งที่สิบแล้ว……แต่ทำไมถึงมีแค่ความทรงจำในแปดครั้ง……” เสียงพึมพำกับตัวเองของกู่ยี่เทียนดังลอยมา ภายในใจยิ่งหงุดหงิดขึ้นไปอีก
“พูดบ้าบออะไรของนาย พวกเราไม่ใช่……”
จู่ ๆ ร่างกายของหลี่ฝางก็สั่นสะท้านขึ้นมา แค่สามครั้งจริง ๆ เหรอ? แต่ว่าทำไม……เขาถึงรู้สึกว่าได้ลองใช้วิธีที่ไม่เหมือนกันไปมากมายหลายวิธี?
ความทรงจำของหลี่ฝางเริ่มสับสนขึ้นมา แม้แต่ตัวเขาเองก็เริ่มที่จะสงสัย ตกลงตัวเองได้ลองไปกี่ครั้งแล้วฉากต่างๆ ภาพเหตุการณ์ในหัวเริ่มที่จะสับสนปนเปขึ้นมา
“ลองดูอีกครั้งเถอะ……” กู่ยี่เทียนกล่าวอย่างยากลำบาก
“นายอยู่ที่นี่!” หลี่ฝางตวาดขึ้นมา เมื่อเห็นสภาพของกู่ยี่เทียนในตอนนี้ จึงได้กล่าวขึ้นมาอย่างเด็ดขาด: “ฉันจะไปคนเดียวเอง พวกเราสองคนแยกกันปฏิบัติการลองดู!”
เพิ่งจะกล่าวจบ หลี่ฝางก็ได้พุ่งตัวเข้าไปยังอากาศ ระหว่างนั้นไม่ได้มีการล่าช้าใด ๆ เลยสักนิด ตลอดทางเขาต้องการเพียงคำเดียว——เร็ว!
เขาต้องการหลุดพ้นออกมาด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด ดูซิว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เป็นอย่างที่คิด หลี่ฝางที่เพิ่งจะออกมาจากดินแดนมายา ยังไม่ทันได้รอให้เขารู้สึกตัวจากอาการวิงเวียน เพดานทองคำของตำหนักใหญ่ก็ได้ตกลงมาบนหัวของเขา
ภาพหมุนเลือนราง หลี่ฝางก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ลานกว้างอีกครั้ง
“ครั้งนี้เป็นยังไงบ้าง?” หลี่ฝางเอ่ยถามกู่ยี่เทียนอย่างร้อนรน
“อะไร?” กู่ยี่เทียนเบลอไปเล็กน้อย
“หลังจากที่ฉันเข้าไปคนเดียวในครั้งนี้เกิดอะไรขึ้น? ฉันได้ปรากฏตัวขึ้นที่นี่อย่างกะทันหันไหม?” หลี่ฝางเอ่ยถามอย่างร้อนรน
“หลังจากที่เข้าไปแล้ว……” กู่ยี่เทียนเงียบไป สายตาจ้องมองหลี่ฝางอย่างแปลกประหลาด: “นายไม่ได้ขยับเลย……ไม่ได้เข้าไป……”
“อะไรนะ!” หลี่ฝางเบิกตากว้าง จ้องมองกู่ยี่เทียนอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ทั้งสองคนต่างก็ได้เงียบไป
เรื่องที่แปลกประหลาดเช่นนี้ ทำให้ทั้งสองคนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีแล้ว
หลี่ฝางมองดูหน้าผาที่ลึกจนไม่เห็นก้นนั่น มีความคิดมากมายเกิดขึ้นในหัวของเขา
จู่ ๆ กู่ยี่เทียนก็ได้ตะโกนขึ้นมา: “ฉันต้องกลับไปดูให้แน่ใจสักหน่อย ว่าคนพวกนั้นยังอยู่หรือเปล่า นายรอฉันแป๊บหนึ่ง!”
หลี่ฝางไม่ได้สนใจคำพูดของกู่ยี่เทียน ยังคงจ้องเขม็งไปที่ก้นหน้าผา