หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจและรู้จักกับทุกคนอย่างคร่าว ๆ แล้ว หลี่ฝางก็ไม่มีอะไรทำ
เขาเองก็ไม่อยากจะจัดการดูแลอะไร ก็เลยตัดสินใจ ให้ส้งหลงทำหน้าที่อย่างที่เคยทำมาก่อนเหมือนเดิม เขามีเพียงแค่ชื่ออยู่ตำแหน่งเท่านั้น ไม่นานก็ทำให้แผนกรักษาความปลอดภัยกลับเข้าสู่สภาพเดิม
วันถัดมา หลี่ฝางส่งหยางฉงมาถึงบริษัท ก็ได้ไปที่แผนกรักษาความปลอดภัยทันที
ในเวลานี้ ทุกคนต่างก็ได้มาถึงแล้ว
วันรุ่งขึ้น หลี่ฝางยังคงไปทำงานที่บริษัทเหมือนเดิม
ทันทีที่เห็นหลี่ฝาง ทุกคนต่างก็ทยอยเข้ามาทักทาย
“หัวหน้าหลี่!”
“อรุณสวัสดิ์ครับหัวหน้าหลี่!”
“หัวหน้าหลี่อรุณสวัสดิ์ครับ!”
หลี่ฝางพยักหน้า เขามองดูรูที่อยู่บนกำแพง และเอ่ยถามขึ้นมาด้วยหน้าตาแปลก ๆ : “กำแพงนี่จะให้มันอยู่แบบนี้โดยไม่ทำอะไรเลยรึไง??
“ไม่หรอกครับ ทางฝ่ายบัญชียังไม่อนุมัติ น่าจะต้องรออีกสักระยะถึงจะมีคนมาซ่อม เพราะถึงยังไงแผนกรักษาความปลอดภัยของพวกเรา ไม่ค่อยจะถูกให้ความสำคัญสักเท่าไหร่……” โจวหมิงอธิบายอย่างจนใจ
หลี่ฝางพยักหน้าอย่างไม่แยแส ยังไงก็ไม่มีคนเห็นอยู่แล้ว สำหรับพวกเขา กำแพงเป็นรูก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไร
ในเวลานี้ ส้งหลงได้เดินเข้ามาและกล่าวอย่างจริงจัง: “หัวหน้า ผมอยากขอลางานหน่อยครับ”
“ได้” หลี่ฝางเอ่ยตกลงอย่างไม่ลังเล
ส้งหลงชะงักงัน
“คุณไม่ถามเหตุผลหน่อยเหรอ?”
คนอื่น ๆ ต่างก็มีท่าทางประหลาดใจ ถ้าหากอนุญาตให้ลาง่ายแบบนี้ละก็……
“ไม่ต้องถามเหตุผล ใครที่สามารถรับมือผมได้สามกระบวนท่าสามารถลางานได้ตามอำเภอใจ” หลี่ฝางยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์โดยที่ผู้คนไม่สามารถสังเกตเห็นได้
ทันใดนั้น ภายในห้องพนักงานรักษาความปลอดภัยก็ได้เจี๊ยวจ๊าวขึ้นมา
ถึงแม้หลี่ฝางร้ายกาจก็จริง แต่ต่อให้ตัวเองจะต้องถูกอัด ถึงยังไงสามกระบวนท่าก็น่าจะรับได้อยู่หรอก?
ภายในใจของทุกคนต่างก็คิดเช่นนั้น
“ผม ผมลองดู!” ทันใดนั้นก็มีคนคนหนึ่งยืนออกมา
ทุกคนต่างก็พากันร้องเชียร์ขึ้นมา
“หานจื้อเย่ สู้ ๆ!”
“รับได้สามกระบวนท่า นายก็คือขุนนางดีเด่น!”
หานจื้อเย่เดินเข้ามา และยิ้มให้กับหลี่ฝางพลางกล่าว: “หัวหน้า ล่วงเกินแล้ว!”
กล่าวจบ เขาก็เอามือทั้งสองข้างกุมหัวเอาไว้และนั่งยองย่อลงไปบนพื้นเตรียมที่จะถูกอัด เพราะถึงยังไงหลี่ฝางก็ไม่ได้พูดอย่างอื่น แค่ถูกอัดก็จบแล้ว
ทนรับสามหมัดแรกกับการลางานได้ตามอำเภอใจ? คุ้มค่ามากเกินไปแล้ว!
แต่น่าเสียดาย ที่เขากำลังเผชิญหน้าด้วยนั้นคือหลี่ฝาง
ร่างของเขาพึ่งจะย่อต่ำลง หลี่ฝางก็ยกขาขึ้นมาเตะเบา ๆ เกี่ยวเข้าที่น่องของหานจื้อเย่ ทำให้เขาเสียสมดุลในการทรงตัวและล้มหงายหลังไป แขนทั้งสองข้างกางออกโดยไม่ได้ตั้งใจ สัญชาตญาณสั่งให้เขาคว้าจับอะไรบางอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองล้มลงไป
หลี่ฝางยื่นมือออกไปคว้า และจับคอเสื้อของเขาเอาไว้ได้ แล้วดึงมาด้านหน้า ตอนนี้หานจื้อเย่ได้ล้มไปด้านหน้าแทน ลงไปนอนค่ำอยู่บนพื้น ล้มหัวคะมำเลยทีเดียว
“เป็นไง พวกนายยังอยากจะลองอีกไหม?”
“ผมลองดู!” โจวหมิงที่ไม่ยอมทนเหงาอีกต่อไปได้กระโดดออก แต่น่าเสียดายที่ได้ถูกหลี่ฝางล้มลงได้ในกระบวนท่าเดียว และลงไปนอนคว่ำอยู่บนพื้นเช่นเดียวกัน
คราวนี้ ทุกคนต่างได้เข้าใจแล้ว พวกเขาทุกคนที่อยู่ที่นี่ เมื่อตกอยู่ในเงื้อมมือของหลี่ฝางแล้วก็ไม่อาจต่อต้านใด ๆ ได้เลย
ส้งหลงที่อยู่ด้านข้างเองก็มองดูสถานการณ์ตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ ภายในใจได้เต็มไปด้วยความอึ้งทึ่ง
เขาพบว่า ต่อให้เป็นเขาเอง ก็ไม่อาจรับมือกับกระบวนท่าของหลี่ฝางได้ และต้องถูกล้มให้ลงไปกองกับพื้นเหมือนกัน
เป็นที่ประจักษ์ชัด เมื่อวานตอนที่สู้กับเขานั้นหลี่ฝางได้ออมมือ
“ฝีมือของเขาได้ถึงระดับไหนแล้ว?” ส้งหลงได้เดินออกไปจากบริษัท พร้อมกับคำถามนี้
อยู่ที่ห้องพนักงานรักษาความปลอดภัยมาสองวัน หลี่ฝางก็ค่อนข้างจะเบื่อแล้ว
ไม่มีอย่างอื่น อยู่ที่นี่มันน่าเบื่อมากเลยจริง ๆ
ที่นี่ไม่มีอุปกรณ์สร้างความบันเทิงใด ๆ ออกไปเดินลาดตระเวนหรือยืนเฝ้ายามก็ไม่จำเป็นต้องให้หลี่ฝางไปทำ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงนั่งอยู่ในห้องเล็ก ๆ นี่ หรือออกไปเดินเล่นบ้างเป็นบางครั้ง
สำหรับคนที่อยู่เฉยไม่ได้อย่างหลี่ฝาง นี่มันเท่ากับเป็นการทรมานชัด ๆ
กว่าจะทนมาจนใกล้ถึงเวลาเลิกงาน ส้งหลงที่ลางานไปตอนเที่ยงก็ได้กลับมาที่บริษัทอีกครั้ง สำหรับเรื่องที่เขาลางานไปทำไมนั้น หลี่ฝางเองก็ไม่สนใจ
แต่ว่าก่อนใกล้ถึงเวลาเลิกงานนั่นเอง จู่ ๆ จางเสว่ก็ได้วิ่งเข้ามา และแจ้งข่าวเรื่องหนึ่งกับทุกคน: วันนี้หลังเลิกงานทางบริษัทจะจัดงานเลี้ยง!
ทันทีที่จางเสว่เอ่ยปาก ก็ทำให้ทั่วทั้งห้องพนักงานรักษาความปลอดภัยเดือดพล่านขึ้นมา
งานเลี้ยงบริษัท? ภายในใจของหลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะสงสัย นี่กำลังเล่นอะไรอีกเนี่ย?
ไม่นาน ทั่วทั้งห้องพนักงานรักษาความปลอดภัยก็คึกคักขึ้นมา
ทุกคนต่างก็เริ่มแต่งตัวให้กับตัวเองขึ้นมาอย่างขะมักเขม้น เดี๋ยวฉีดสเปรย์จัดทรงผม เดี๋ยวเปลี่ยนเสื้อผ้า ตื่นเต้นเป็นลิงโลดเลยทีเดียว
“หลีกไป รีบหลีกไปเร็ว ให้ฉันดูหน่อยว่าชุดนี้พอดีตัวไหม” โจวหมิงยืนอยู่หน้ากระจกด้วยท่าทางได้ใจ และเก๊กท่าที่ตัวเองคิดว่าเท่ที่สุด หันไปทางทุกคน
“พอทีเถอะน่า ท่าทางหลงตัวเองของนายน่ะ เย็ดเข้ นี่นายฉีดน้ำหอมด้วยเหรอ?”
“ใช่แล้ว น้ำหอมจากเมืองนอก ฮอร์โมนเพศชาย ดึงดูดสาว ๆ มันไม่ง่ายราวกับปอกกล้วยเข้าปากหรอกเหรอ?”
“นี่ฉันว่านะหลี่เหวย ผมนายน่ะมันซะจนแมลงวันจับเข้ายังต้องขาขาดเลย เลิกทำได้แล้ว เอาสเปรย์เซตผมมาให้ฉันใช้บ้างสิ”
มองดูสถานการณ์ตรงหน้า หลี่ฝางที่ยังสวมชุดเครื่องแบบยืนไม่ขยับอยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเอือมระอาเล็กน้อย
คนพวกนี้ มีความพยายามมากจริง ๆ
ในเวลานี้ทุกคนก็ได้พบเห็นหลี่ฝางที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่อย่างเบื่อหน่าย และส้งหลงที่ออกกำลังกายอยู่อย่างเงียบ ๆ ต่างก็รู้สึกเย็นวาบขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
“หัวหน้าหลี่ หัวหน้าส้ง พวกคุณไม่เปลี่ยนชุดเหรอครับ?”
“ทำไมเหรอ?” ส้งหลงมีท่าทีงงงวย
“เปลี่ยนเถอะ คนอื่นเขาจะได้ไม่เข้าใจผิด” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
สวมชุดเครื่องแบบไปงานเลี้ยง อย่าคิดที่จะไม่เป็นจุดเด่นเลย จะต้องดึงดูดสายตาผู้คนมากแน่ ๆ
ไม่นานหลี่ฝางก็ได้เปลี่ยนไปสวมเสื้อคลุมตัวที่ตัวเองใส่ตอนมา ส้งหลงที่อยู่ด้านข้างเองก็เปลี่ยนไปสวมชุดลำลองของตัวเอง และทั้งสองคนก็ได้เดินออกไปข้างนอก