NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1089 ต่อสู้เพื่อชีวิต

บทที่ 1089 ต่อสู้เพื่อชีวิต

ดังนั้นคนธรรมดาทั่วไปจึงไม่ค่อยรู้ว่า ในฐานะมนุษย์เช่นเดียวกัน นักรบผู้แข็งแกร่งนั้นที่แท้แล้วมีพลังที่น่าหวาดกลัวมากขนาดนี้

มาวันนี้ ในที่สุดพวกเขาก็ได้เห็นแล้ว

ตูม!

ร่างสองร่างลุกขึ้นจากซากปรักหักพัง

ส่วนอีกสิบคน ตอนนี้ล้มลงอยู่กับพื้น และมีหลายคนที่การจะลุกขึ้นยืนอีกครั้งคงต้องพึ่งโชคชะตาของใครคนนั้นเองแล้ว

ในเวลานี้ ร่างทั้งสองถูกแสงที่ปล่อยออกมาจากร่างกายของพวกเขาห่อหุ้มไว้อย่างสมบูรณ์ จนกระทั่งผู้คนก็ไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นใคร

หนึ่งแสงสีแดงและหนึ่งแสงสีขาวทั้งสอง กลับทำให้ผู้คนรู้สึกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ดวงหนึ่งเป็นแสงสีขาวพร่างพรายสุดขีด และอีกดวงหนึ่งเป็นแสงสีแดงเข้มราวกับเลือดที่ทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวเหน็บจนตัวสั่น

มีเพียงไม่กี่คน ที่สามารถอาศัยพลังของตัวเอง เพื่อบ่งบอกได้ว่าสองคนนี้เป็นใคร

ผู้เปล่งแสงสีขาวก็คือโทชิโอะ คามิยะ และผู้ที่เปล่งแสงสีแดงก็คือหลี่ฝาง

ส่วนตงหมิงที่ค่อนข้างมีพลังแข็งแกร่งก็มองเห็นได้ชัดเจนกว่าบ้าง เขามองเห็นถึงบาดแผลรุนแรงบนตัวของหลี่ฝางได้ทันที รวมถึงเลือดสีแดงสดเป็นหย่อมๆ

นี่คือราคาที่เขาต้องจ่ายเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโทชิโอะ คามิยะสบโอกาสเข้ามาฆ่า ขณะต่อสู้กับปรมาจารย์ทั้งสิบ

แม้ว่าเขาจะถูกโจมตีโดยปรมาจารย์หลายคนและได้รับบาดเจ็บ แต่หลี่ฝางกลับคิดว่ามันคุ้มค่า เพราะหากเขาถูกโจมตีโดยโทชิโอะ คามิยะได้สำเร็จ ตอนนี้เกรงว่าเขาอาจจะตายไปแล้ว

“คุณหลี่ คุณเก่งกว่าผม!” โทชิโอะ คามิยะจู่ๆก็พูดขึ้น

การต่อสู้ในวันนี้ หากเปลี่ยนเป็นเขา คงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำได้ถึงระดับของหลี่ฝาง

ภายใต้แรงกดดันอย่างมาก เขาได้เอาชนะปรมาจารย์การต่อสู้ทั้งสิบคน ภายใต้การจับจ้องของยอดฝีมือระดับเดียวกันอีกคน

ถึงขั้นที่เขายอมที่จะได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง แต่ไม่เผยช่องว่างใดๆ และไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ลงมือเลยแม้แต่น้อย

คำพูดของโทชิโอะ คามิยะ แน่นอนว่าย่อมถูกคนข้างนอกได้ยินอย่างชัดเจน

ทันใดนั้น ดวงตาที่ประหลาดใจแต่ละคู่ๆ ก็มองเข้าไปในสถานที่ซึ่งเกือบจะกลายเป็นซากปรักหักพัง

โทชิโอะ คามิยะผู้แข็งแกร่งที่สุดในญี่ปุ่น ถึงกับยอมรับกับปากว่าตนด้อยกว่าคนอื่น?

ชายผู้นี้ มองดูแล้วอายุก็แค่ยี่สิบปี หลี่ฝางที่ยังเยาว์วัยอย่างยิ่งผู้นี้?

บนร่างของหลี่ฝาง มีเลือดไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง จนย้อมอาบร่างกายของเขาครึ่งหนึ่งให้เป็นสีแดง

เขาได้รับบาดเจ็บ และค่อนข้างรุนแรงแล้ว

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ นายก็ไปจากที่นี่ในตอนนี้ซะ ฉันจะไม่เอาเรื่องนายอีก” หลี่ฝางกล่าวด้วยรอยยิ้มจาง ๆ

เมื่อได้ยินดังนั้น โทชิโอะ คามิยะกลับหัวเราะขึ้นมา “วันนี้เป็นโอกาสที่หายาก ฉันมั่นใจอยู่หกส่วน ว่าสามารถฆ่าคุณลงที่นี่ได้ ถ้าฉันพลาดโอกาสนี้ไป ก็คงต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”

“อยากฆ่าฉันงั้นหรือ?” หลี่ฝางยิ้มเย้ยหยัน

สถานะปัจจุบันของเขา ถือว่าแย่มากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นกำลังภายในที่ถูกใช้ไปหรือว่าการสูญเสียเลือดมากเกินไป ทั้งหมดนี้ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาลดลงไปไม่น้อย

ที่โทชิโอะ คามิยะเอ่ยว่าเขามั่นใจหกส่วนว่าจะฆ่าได้ ถือเป็นการเจียมเนื้อเจียมตัวแล้ว

ส่วนคนรอบข้างที่ได้ยินเรื่องนี้ ในใจก็สะพรึงกลัวอย่างยิ่ง

หลี่ฝางได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้แล้ว แต่โทชิโอะ คามิยะกลับยังไม่กล้าพูดว่าเขาจะสามารถฆ่าหลี่ฝางได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

ถ้าวันนี้เขาไม่ตาย วันหน้าจะต้องเผชิญการแก้แค้นแบบไหนกัน?

ในเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นว่า “ท่านโทชิโอะ ได้โปรดคุณช่วยล้างแค้นให้พ่อของผมด้วย!”

ชายคนนี้เป็นบุตรของนางาโตะ ตอนนี้เข้าเองก็ไม่รู้ว่านางาโตะเป็นหรือตาย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางาโตะถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังแถวไหน ในใจของเขาคิดอยากจะฆ่าหลี่ฝาง นี่คือสิ่งที่เขารู้แน่ชัด

หลังจากที่ชายคนนั้นตะโกนขึ้น คนอื่นๆ ก็ตะโกนขึ้นมาตามๆกัน ราวกับว่าหลี่ฝางเป็นคนบาปขั้นสุดคนหนึ่งและจะต้องตายที่นี่

สายตาที่เย็นเยียบของหลี่ฝางกวาดตามองฝูงชนเบาๆ ทันใดนั้น จิตสังหารเพียงเบาบางก็ทำให้ทุกคนไร้สุ้มเสียงไป

ในขณะนี้เอง โทชิโอะ คามิยะก็ลงมือแล้ว!

เพราะในที่สุดเขาก็พบช่องว่างของหลี่ฝางเข้าในขณะนี้!

เขารอช่องว่างนี้มานานเกินไปแล้ว และไม่ต้องการรออีกต่อไป

ทันใดนั้น ดาบของโทชิโอะ คามิยะก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าหลี่ฝาง

ความเร็วนั้น แทบจะเป็นราวกับว่าได้ข้ามผ่านช่องว่างระหว่างพวกเขาเข้ามาได้โดยตรง

“ตูม!”

แสงสีแดงหนึ่งดวงและแสงสีขาวหนึ่งดวงปะทะกันอย่างรุนแรง เกิดเป็นเสียงกึกก้องขนาดใหญ่ จนกระทั่งทำให้บางคนเกิดความรู้สึกหูหนวกขึ้นชั่วคราว

ในขณะนี้ สถานที่อันสั่นคลอนพังทลายลงอีกครั้ง หลังคาของสถานที่จัดงานทั้งหมดแตกเป็นรูขนาดใหญ่ ฝุ่นจำนวนมากลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า อิฐและกระเบื้องที่แตกหักนับไม่ถ้วนก็ลอยไปมา

ผู้คนรอบๆ ค่อยๆลี้ภัยกันไปทีละคนเพราะกลัวว่าจะถูกกระทบเข้าจนเลือดออกหัวแตก

ในสถานที่ตอนนี้ การต่อสู้ระหว่างโทชิโอะ คามิยะและหลี่ฝางนั้นกำลังเป็นไปอย่างร้อนแรงเต็มที่

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ท่าทางการต่อสู้และตั้งรับของทั้งสองได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โทชิโอะ คามิยะเอนไปทางด้านหลัง และเป็นหลี่ฝางที่แทงโทชิโอะ คามิยะด้วยดาบหักครึ่งหนึ่ง

โทชิโอะ คามิยะไม่เคยคาดคิดเลยว่า ที่หลี่ฝางเปิดช่องว่างนี้ก็เพราะเขาตั้งใจ

นั่นเพราะหลี่ฝางรู้ดีว่า ในเวลานี้หากเขายังไม่เข้าต่อสู้ ยิ่งกินเวลาขึ้นไปมากเท่าไหร่ โอกาสของเขาก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น

ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีการเอาชีวิตเข้าแลก ตั้งใจเปิดช่องว่างให้โทชิโอะ คามิยะ ดึงดูดให้เขาโจมตีเข้ามาอย่างเต็มแรง เลิกตั้งท่าป้องกันและเปลี่ยนมาเป็นประมือกับเขาแทน

ด้วยวิธีนี้ โทชิโอะ คามิยะก็จะได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน

ส่วนตัวเขานั้นแต่เดิมก็ได้รับบาดเจ็บแล้ว อย่างมากก็แค่บาดเจ็บเพิ่มขึ้นไปหน่อยก็เท่านั้น

แต่หลี่ฝางไม่คาดคิดว่าโทชิโอะ คามิยะจะระมัดระวังเกินไป ในเวลานี้ก็ยังสามารถเตรียมตัวป้องกันเอาไว้ ทำให้หลี่ฝางไม่สามารถโจมตีได้อย่างเต็มที่และส่งผลให้โทชิโอะ คามิยะหลีกเลี่ยงการโจมตีถึงชีวิตนี้ไปได้

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท