NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1140 คนของตระกูลหยางมาเยือน

บทที่ 1140 คนของตระกูลหยางมาเยือน

สนทนาพูดคุยมาตลอดทาง ทุกคนได้มาถึงห้องผู้ป่วยของหยางเซี่ยวหู่ ไม่นาน คุณท่านหยางเซี่ยวหู่ก็ถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัด

หลี่ฝางและคนอื่นๆ รออยู่ที่หน้าห้องผ่าตัด รอการผ่าตัดเสร็จสิ้น

หลี่ฝางนั่งลงที่เก้าอี้ ขมวดคิ้วแน่น ด้วยความกังวล

“หลี่ฝาง ไม่ต้องกังวลไปหรอก ฝีมือของผู้อำนวยการล้ำเลิศมาก การผ่าตัดในครั้งนี้ต้องสำเร็จแน่” เจียงถิงกล่าวปลอบใจหลี่ฝางเสียงแผ่ว

หลี่ฝางหยักหน้า ไม่พูดอะไร

อันที่จริงแล้ว เขาก็เคยได้พบกับนายท่านครั้งหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าหากนายท่านจากไป หยางฉงต้องเสียใจมากแน่ หลี่ฝางไม่อยากเห็นหยางฉงต้องเสียใจ

ในตอนนี้เอง หลี่ฝางเกิดรู้สึกได้อะไรบางอย่าง แหงนหน้าขึ้นมอง ก็ได้พบกับหยางฉงที่มุ่งเข้ามาทางนี้

เจียงถิงที่อยู่อีกด้าน เมื่อได้เห็นหยางฉง ก็หันสายตาไปทางหลี่ฝางโดยอัตโนมัติ

หลังจากนั้น เธอก็ได้เห็นสายตาที่อ่อนโยนและรักใคร่ของหลี่ฝาง

ทันใดนั้น เจียงถิงเข้าใจทันที ถึงความสัมพันธ์ของหลี่ฝาง และหญิงสาวที่งดงามโดดเด่นคนนี้

“ใช่ คงมีเพียงแค่ผู้หญิงที่งดงามแบบนี้ถึงจะคู่ควรกับผู้ชายหลี่ฝางละมั้ง” เจียงถิงลอบคิดในใจ แต่กลับไม่รู้เพราะเหตุใด มีความรู้สึกอิจฉา และความรู้สึกเสียใจอันเลือนราง

หลี่ฝางในตอนนี้ได้ลุกขึ้นเพื่อต้อนรับเธอ

“การผ่าตัดเพิ่งเริ่มเหรอ?” หยางฉงจับมือของหลี่ฝาง กล่าวถามอย่างร้อนใจ

“อืม เพิ่งเริ่ม ไม่เป็นไร เธอไม่ต้องกังวล ผู้อำนวยการหลิวฝีมือดีมาก เขาเป็นคนผ่าตัดต้องไม่มีปัญหาแน่” หลี่ฝางกล่าวปลอบ ด้วยประโยคของเจียงถิงเมื่อสักครู่

ปฏิกิริยาของหยางฉงเหมือนกับหลี่ฝางเมื่อสักครู่นี้ สีหน้าเคร่งเครียดอยู่อย่างนั้น

สถานการณ์ของหยางเซี่ยวหู่ในตอนนี้ เธอรู้ดี อายุขัยของท่านอยู่ได้อีกไม่นาน จะอยู่ต่อไปได้หรือไม่คงต้องอยู่ที่ชะตาฟ้าลิขิต

ส่วนเธอทำได้เพียงอวยพรให้กับหยางเซี่ยวหู่ อวยพรให้การผ่าตัดในครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี อวยพรปู่ของตนให้มีสุขภาพที่แข็งแรง

ต่อให้เธอรู้ว่าความหวังของเธอริบหรี่ก็ตาม

ไม่นาน คนของตระกูลหยางมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รุ่นที่สองรุ่นที่สามมากันหลายสิบคน

ในเวลานี้เอง ไม่มีใครที่กล้าไม่ปรากฏตัว

ยิ่งไปกว่านั้น นายท่านหยางเป็นเสาหลักของทุกคน ต่อให้ตอนนี้มีหลี่ฝางอยู่ด้วย แต่อย่างไรซะเขาก็ไม่ใช่คนของตระกูลหยาง ก็ไม่เหมือนกับนายท่านหยาง ที่ทำเพื่อตระกูลหยางทุกอย่าง

ผ่านไปสักพัก หยางเทียนลี่เดินขึ้นหน้ากล่าวกับหลี่ฝาง “คุณหลี่ เราจะคอยเฝ้าอยู่ตรงนี้เอง ท่านไปพักผ่อนก่อนเถอะ ไม่ต้องยืนอยู่ตรงนี้ตลอดหรอก”

แม้คนอื่นในตระกูล รวมไปถึงคนชั้นสูงส่วนใหญ่ที่เมืองจินซานรู้เพียงว่าตระกูลหยางมีปรมาจารย์กำลังภายในอยู่ แต่กลับไม่รู้ประวัติที่แน่ชัดของปรมาจารย์ท่านนี้

เพราะในปกติแล้วพวกเขาก็ไม่สามารถได้พบกับปรมาจารย์กำลังภายในได้ จึงไม่รู้อะไรมากนัก

แต่หยางเทียนลี่รู้ดี ว่าตำแหน่งสถานะของปรมาจารย์กำลังภายในคนนี้เป็นอย่างไร

เขาเคยได้พบเห็นความเกรงขามของปรมาจารย์ไท่ซางมาก่อน เคยเห็นความโหดเหี้ยมของปรมาจารย์ไท่ซางดับชีพปรมาจารย์ยอดฝีมือรุ่นหลังด้วยหมัดเดียวมาก่อน

แต่ปรมาจารย์ไท่ซางและหลี่ฝางมีความสัมพันธ์แบบไหน? เขาเป็นลูกน้องของหลี่ฝาง!

ปรมาจารย์กำลังภายในที่รับปรมาจารย์กำลังภายในเป็นลูกน้อง จะเป็นปรมาจารย์กำลังภายในธรรมดาได้งั้นเหรอ?

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลังจากนั้นหยางเทียนลี่ใช้ความสามารถรวบรวมประวัติของหลี่ฝาง ยิ่งทำให้หยางเทียนลี่ทั้งตื่นตระหนกและดีใจเข้าไปใหญ่ แทบจะเก็บความยินดีที่ตกลงมาจากฟ้าเอาไว้ไม่อยู่

เรื่องของตระกูลชิว ตระกูลหวาง ที่ญี่ปุ่น เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกปิด คนที่อยากรู้สามารถสืบค้นได้แน่นอน

เพราะงั้นหยางเทียนลี่ถึงได้เข้าใจ ตระกูลหยางได้มีความสัมพันธ์กับระดับปรมาจารย์กำลังภายในของปรมาจารย์กำลังภายใน เป็นบุญที่สั่งสมมาแปดชั่วโคตร

เหล่านี้เพราะหยางเทียนลี่ใม่ใช่นักยุทธของโลกจอมยุทธ ไม่รู้ว่าแดนเต๋าคืออะไร ไม่เช่นนั้น เขาคงจะเป็นลมจริงๆ

แถมตระกูลหยาง เพราะการมีอยู่ของหลี่ฝาง ถึงได้มีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่

ปฏิกิริยาของภานนอกที่มีต่อตระกูลหยาง นอบน้อมยิ่งกว่าคราวที่นายท่านอยู่เสียอีก อำนาจแห่งตระกูลของอีกฝ่ายเหนือชั้นกว่าตระกูลหยางแน่

หยางเทียนเฉิงที่ยืนอยู่ไม่ไกล ที่เห็นหลี่ฝางและหยางฉงถูกรายล้อมเป็นศูนย์กลางอยู่ตรงกลาง พลันหัวเราะอย่างได้ใจ

แต่ก่อนสถานะในตระกูลอดีตของเขาไม่สูงมากนัก ไม่เช่นนั้นคงไม่บีบบังคับให้ลูกสาวต้องแต่งงานเพราะวิกฤติของตระกูลหยาง

แต่ตอนนี้ สถานะของเขาถูกยกระดับขึ้นสูงอย่างมาก เพราะหยางฉงเป็นลูกสาวของเขา

นึกย้อนกลับไปตอนที่หยางฉงเพิ่งได้รู้จักหลี่ฝาง เขาได้ขัดขวางทั้งคู่ในงานเลี้ยงในครั้งนั้น เขาก็นึกหวั่นเกรงในเสียใจทีหลัง

แต่หลี่ฝางในตอนนี้กลับรู้สึกเบื่อหน่าย เขาไม่ชอบความรู้สึกที่ถูกรายล้อม แต่ไม่สามารถไล่ออกไปได้ ได้แต่ส่งยิ้มอย่างไร้หนทางให้กับหยางฉง

เวลาผ่านไป ท้องฟ้าในยามค่ำคืนกำลังจะมาเยือน

คนของตระกูลหยางยังคงยืนรออยู่ที่โถงทางเดินอย่างเก่า

การผ่าตัดที่ยาวนาน เกินความคาดหมายของพวกเขา

ทุกคนในตระกูลหยาง บางคนเหนื่อยจนต้องนั่งพักบ้างนอนพักบ้าง บางคนเดินไปเดินมา ด้วยความกังวลอย่างมาก

ตอนนี้หยางฉงเองเริ่มอ่อนล้าจากการรอที่ยาวนาน จึงหนุนพักผ่อนกับตักของหลี่ฝาง

หลี่ฝางไม่ง่วงเลยแม้แต่น้อย ยังคงนั่งรอการผ่าตัดเสร็จสิ้นอยู่เงียบๆ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท