NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1177 ร้านข้างทางถูกทำลาย

บทที่ 1177 ร้านข้างทางถูกทำลาย

“โย้ว คนขี้ขลาดอย่างคุณรู้จักขัดขืนด้วย ยังกล้าเอามีดมาชี้ใส่ข้าอีก คุณไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ?” ไอ้หัวล้านไม่สนใจตาแก่หลี่เลย ไม่เพียงแค่ไม่กลัว แต่ยังท้าทายตาแก่หลี่ด้วย

“พวกคุณอย่าเข้ามานะ!ฉันจะลงมือจริงๆ นะ!ไสหัวไป!” ตาแก่หลี่ถูกพวกเขาเหล่านั้นกดดันจนถอยห่างออกไป มือทั้งสองที่ถือมีดนั้นก็สั่นไหว

“ถุย ฉันอยากจะดูสักหน่อยว่าแกจะกล้าเอามีดมากะซวกข้าหรือเปล่า” ไอ้หัวล้านปรี่เข้าไปหาตาแก่หลี่ก่อนจะถุยน้ำลายใส่ ก่อนจะจับข้อมือของเขา แล้วเอาเข้ามาหาหน้าอกของตัวเอง

ท่าทีของเขานั้นทำให้ตาแก่หลี่ตกใจจนปล่อยออก มีดที่ตกลงพื้นนั้นเกิดเสียงใสขึ้น พวกไอ้หัวล้านเห็นดังนั้นก็หัวเราะฮ่าๆ ขึ้นมา

“ขี้ขลาดจริงๆ ยังคิดว่าวันนี้คุณจะกล้าหาญขึ้นมาเพราะลูกสาวของคุณบ้าง ดูเหมือนจะเหมือนกับเมื่อก่อนเลยนะ ไอ้ไก่อ่อน!ไม่แปลกเลยที่ภรรยาของคุณถึงได้ทิ้งคุณไป ถ้าเกิดฉันเป็นผู้หญิง ฉันเองก็ไม่ชอบคนขี้ขลาดอย่างคุณเหมือนกัน!”

“พี่ คุณอย่าทำให้ตาแก่หลี่ปวดใจต่อไปเลย บนหัวเขานั้นถูกสวมเขาแล้ว น่าสงสารจะตายไป”

……

ไอ้หัวล้านเหล่านั้นหัวเราะเยาะตาแก่หลี่ ปากนั้นพูดจาไม่น่าฟัง ตาแก่หลี่ก้มหน้าโดยที่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่กำหมัดแน่น และมองออกว่าตอนนี้เขาโกรธจนถึงขีดสุดแล้ว

“พวกคุณมันไอ้คนเลว!อย่ามาว่าแม่ของฉันแบบนั้นนะ!ฉันจะสู้พวกคุณแล้วนะ!” สาวน้อยจะไปฟังใครดูถูกพ่อแม่ตัวเองได้อย่างไร ก่อนจะเตรียมจะสู้กับไอ้หัวล้าน

“ให้ตายเถอะ นังแพศยา คุณอยากตายหรือไง!” ถึงแม้จะเป็นสาวน้อยคนหนึ่ง แต่ว่าถ้าจะสู้ขึ้นมาจริงๆ คงจะทำให้ไอ้หัวล้านบาดเจ็บได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากที่เห็นเขาด่า ก็กระชากสาวน้อยขึ้นมาจากพื้น

“ปล่อยฉันนะ!แกมันไอ้คนเลว!ไอ้สารเลว!ปล่อยฉันลงนะ!” ถึงสาวน้อยจะถูกไอ้หัวล้านดึงขึ้นไปอยู่กลางอากาศ ปากก็ยังด่าไม่หยุด แถมยังดูร้ายกว่าพ่อที่ดูอ่อนแอด้วย

ไอ้หัวล้านหมดความอดทนแล้ว พลางมองสาวน้อยด้วยความดุร้ายน่ารังเกียจ ก่อนจะยกมือขึ้นเพื่อทำร้ายเธอ หลี่ฝางเห็นดังนั้นก็ปรี่เข้าไปหา แล้วจับแขนของไอ้หัวล้าน ก่อนจะหักมันออกทันที

ไอ้หัวล้านร้องเหมือนหมูที่ถูกฆ่าจนเสียดหูของหลี่ฝาง ก่อนจะค่อยๆ วางสาวน้อยลงบนพื้น จากนั้นก็จิกคอของไอ้หัวล้าน จนเสียงร้องที่แหลมนั้นก็หยุดลง ไอ้หัวล้านเองก็มีหน้าม่วงขึ้นมาทันที

“ไม่เคยมีใครบอกเหรอ ว่าเสียงของคุณนั้นมันไม่น่าฟังเลย?” หลี่ฝางมองไอ้หัวล้านอย่างเย็นชา พลางพูดเสียงเย็นไปถึงกระดูก

เรื่องนั้นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว อีกสองคนนั้นก็ยังไม่ทันมีปฏิกิริยากลับมา เมื่อได้ยินเสียงของหลี่ฝางเลยมีสติกลับมา

“ให้ตายเถอะ คุณกล้าเข้ามายุ่งด้วยเหรอ!นี่มันหาที่ตายชัดๆ !” คนที่ห่างจากหลี่ฝางใกล้ๆ อย่างชายที่มีรอยสักที่แขนนั้นเมื่อได้เห็นแบบนี้ ก็ยกมือขึ้นมาทำท่ากรงเล็บเหยี่ยวใส่หลี่ฝาง

เมื่อเห็นท่าของชายที่มีรอยสักที่แขน หลี่ฝางก็เลิกคิ้วขึ้น คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคนฝึกยุทธ ชายที่มีรอยสักที่แขนคนนี้จะเป็นพลังกรงเล็บอินทรีย์ด้วย แต่ยังเป็นระดับที่เพิ่งจะเข้ามาเท่านั้น ถึงแม้ชายที่มีรอยสักที่แขนจะใช้แรงทั้งหมดที่มี แต่สำหรับหลี่ฝางนั้นมันแทบจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย

มีชายที่มีรอยสักที่แขนเข้ามาหาทางกระเป๋าหน้าอกของตัวเอง หลี่ฝางไม่ได้มองเขาเลยแม้แต่น้อย ใช้เพียงแค่พลังของตัวเองก็ทำให้คนคนนั้นกระเด็นไปได้หลายสิบเมตรแล้ว

“คุณ คุณเป็นนักรบเหรอ?” ชายร่างกำยำที่เหลือคนหนึ่งตกใจจนเข่าอ่อน ก่อนจะเบิกตาโพลงพลางมองหลี่ฝาง ถึงแม้เขาจะไม่เป็นวิทยายุทธ แต่ว่ายังพอจะเข้าใจอยู่บ้าง ดังนั้นเขาเลยพอจะเดาตัวตนของหลี่ฝางออก

“ในเมื่อรู้ตัวตนของฉันแล้ว ยังไม่รีบไสหัวไปอีกเหรอ?จากนี้พี่ลูกคู่นี้ฉันจะปกป้องเอง ถ้าพวกคุณเข้าเข้ามายุ่งกับพวกเขา ก็หมายถึงจะต้องข้ามหลี่ฝางอย่างฉันไปก่อน”

ชื่อของหลี่ฝางนั้นสำหรับคนธรรมดาอาจจะไม่ได้สนใจอะไรมาก แต่สำหรับคนที่พอจะเข้าใจคนไม่ธรรมของโลกนั้น มันเหมือนน่ากลัวเหมือนเจอผีเลยล่ะ

ตอนนี้หลี่ฝางเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศจีน ใครกล้าไม่กล้ามีเรื่องกับเขา!

“พี่ปล่อยฉันไปเถอะ เราเป็นเพียงแค่คนธรรมดา เราไม่อยากมีเรื่องกับคุณ!พี่ปล่อยเราไปเถอะ!”

ชายร่างกำยำนั้นคุกเข่าลงต่อหน้าหลี่ฝาง พลางร้องขออย่างน้ำหูน้ำตาไหล ท่าทีโอ้อวดเมื่อครู่นั้นมันเทียบได้อย่างเห็นได้ชัดเลย

คนที่อยู่รอบๆ นั้นต่างตกใจเพราะท่าทางของหลี่ฝางเลยล่ะ แถมยังเริ่มสงสัยใจดวงตาของตัวเอง พลางคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป

“ให้ตายเถอะ เขาเป็นใครกันแน่เนี่ย?ใครอธิบายหน่อยได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น?เขาทำให้คนคนนั้นกระเด็นลอยไปได้อย่างไรเนี่ย?”

“ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?นี่ใช่คนจริงๆ หรือเปล่า?หรือกำลังถ่ายหนังอยู่หรือเปล่า?”

“ถ่ายบ้านแกสิ!คุณเห็นกล้องสักตัวไหม?สมองยังดีอยู่หรือเปล่าเนี่ย!”

……

เมื่อได้ยินคนอื่นคนพูด หลี่ฝางเองก็ไม่อยากอธิบายอะไรมาก เลยเอาไอ้หัวล้านที่สลบไปเพราะขาดอากาศหายใจโยนลงพื้น แล้วก็มองชายร่างกำยำที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าพลางเตือน “เอาคนอื่นๆ ไสหัวไป จากนี้ห้ามมาเหยียบที่ตลาดกลางคืนนี้อีก!”

“ได้ๆ ฉันจะเดี๋ยวนี้เลย!ไปตอนนี้เลย!” เมื่อได้ยินคำของหลี่ฝาง ชายร่างกำยำก็เหมือนได้รับนิรโทษกรรม เลยไม่สนใจไอ้หัวล้านกับชายที่มีรอยสักที่แขนแล้ว เลยรีบตะเกียกตะกายหนีไปไกลจากสายตาหลี่ฝาง

“พี่ คุณเก่งจริงๆ เลย!เพียงไม่นานก็ทำให้คนเลวมันหนีหางจุกตูดไปได้แล้ว!” สาวน้อยเห็นพวกไอ้หัวล้านวิ่งหนีไปแล้ว ก็ตบมืออยู่ข้างๆ พลางมีความระวังอยู่ในแววตาเมื่อมองหลี่ฝาง แล้วนับถือเป็นอย่างมาก

“เด็กสาวน้อยอย่างคุณ ไม่รู้จักกลัวเลยเหรอ?” เมื่อเห็นท่าที่สาวน้อยหัวเราะแบบนี้ หลี่ฝางก็ลูบหัวเธออย่างรู้สึกขบขัน

ความกล้าของสาวน้อยนั้นมากจริงๆ ถ้าเกิดเป็นเด็กคนอื่นๆ อาจจะตกใจจนฉี่ราด แต่เธอไม่เพียงไม่กลัว แถมยังกล้าลงมือกับพวกไอ้หัวล้านด้วย

“ฉันไม่กลัวหรอก พี่ ฉันพูดกับคุณตรงๆ ละกัน ก่อนหน้านี้พ่อฉันเก่งมาก เขาเองก็ทำให้คนกระเด็นไปได้เหมือนคุณเลย แต่หลังจากที่แม่ฉันจากไป พ่อฉันก็เปลี่ยนไป เมื่อถูกคนแกล้งก็ไม่ลงมือเลย”

สาวน้อยมองชายวัยกลางคนที่ไม่พูดอะไรด้วยใบหน้าผิดหวัง

นี่เป็นสิ่งที่หลี่ฝางคิดไม่ถึง เพราะเขาไม่รู้สึกถึงพลังภายในของชายวัยกลางคนเลย ตามเหตุผลแล้ว เมื่อหลี่ฝางได้มาอยู่ในแดนนี้แล้ว ไม่น่าจะมองไม่ออก เกิดอะไรขึ้นกับชายคนนี้ ถึงทำให้นักรบคนหนึ่งกลายเป็นแบบนี้ไป

“พี่ คุณเองก็เป็นนักรบเหรอ?ทำไมเมื่อครู่ไม่ลงมือล่ะ พวกเขาทำร้ายลูกสาวคุณนะ” หลี่ฝางมองชายวัยกลางคนด้วยความไม่เข้าใจ พลางหวังว่าเขาจะอธิบาย

“น้อง ขอบคุณที่คุณลงมือช่วยนะ ฉันแซ่หลี่ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร นี่คือสิ่งมีค่าที่ฉันได้รับมาในหลายปีนี้ ถ้าเกิดคุณไม่รังเกียจล่ะก็ คุณรับเอาไว้เถอะ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท