“โย้ว คนขี้ขลาดอย่างคุณรู้จักขัดขืนด้วย ยังกล้าเอามีดมาชี้ใส่ข้าอีก คุณไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ?” ไอ้หัวล้านไม่สนใจตาแก่หลี่เลย ไม่เพียงแค่ไม่กลัว แต่ยังท้าทายตาแก่หลี่ด้วย
“พวกคุณอย่าเข้ามานะ!ฉันจะลงมือจริงๆ นะ!ไสหัวไป!” ตาแก่หลี่ถูกพวกเขาเหล่านั้นกดดันจนถอยห่างออกไป มือทั้งสองที่ถือมีดนั้นก็สั่นไหว
“ถุย ฉันอยากจะดูสักหน่อยว่าแกจะกล้าเอามีดมากะซวกข้าหรือเปล่า” ไอ้หัวล้านปรี่เข้าไปหาตาแก่หลี่ก่อนจะถุยน้ำลายใส่ ก่อนจะจับข้อมือของเขา แล้วเอาเข้ามาหาหน้าอกของตัวเอง
ท่าทีของเขานั้นทำให้ตาแก่หลี่ตกใจจนปล่อยออก มีดที่ตกลงพื้นนั้นเกิดเสียงใสขึ้น พวกไอ้หัวล้านเห็นดังนั้นก็หัวเราะฮ่าๆ ขึ้นมา
“ขี้ขลาดจริงๆ ยังคิดว่าวันนี้คุณจะกล้าหาญขึ้นมาเพราะลูกสาวของคุณบ้าง ดูเหมือนจะเหมือนกับเมื่อก่อนเลยนะ ไอ้ไก่อ่อน!ไม่แปลกเลยที่ภรรยาของคุณถึงได้ทิ้งคุณไป ถ้าเกิดฉันเป็นผู้หญิง ฉันเองก็ไม่ชอบคนขี้ขลาดอย่างคุณเหมือนกัน!”
“พี่ คุณอย่าทำให้ตาแก่หลี่ปวดใจต่อไปเลย บนหัวเขานั้นถูกสวมเขาแล้ว น่าสงสารจะตายไป”
……
ไอ้หัวล้านเหล่านั้นหัวเราะเยาะตาแก่หลี่ ปากนั้นพูดจาไม่น่าฟัง ตาแก่หลี่ก้มหน้าโดยที่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่กำหมัดแน่น และมองออกว่าตอนนี้เขาโกรธจนถึงขีดสุดแล้ว
“พวกคุณมันไอ้คนเลว!อย่ามาว่าแม่ของฉันแบบนั้นนะ!ฉันจะสู้พวกคุณแล้วนะ!” สาวน้อยจะไปฟังใครดูถูกพ่อแม่ตัวเองได้อย่างไร ก่อนจะเตรียมจะสู้กับไอ้หัวล้าน
“ให้ตายเถอะ นังแพศยา คุณอยากตายหรือไง!” ถึงแม้จะเป็นสาวน้อยคนหนึ่ง แต่ว่าถ้าจะสู้ขึ้นมาจริงๆ คงจะทำให้ไอ้หัวล้านบาดเจ็บได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากที่เห็นเขาด่า ก็กระชากสาวน้อยขึ้นมาจากพื้น
“ปล่อยฉันนะ!แกมันไอ้คนเลว!ไอ้สารเลว!ปล่อยฉันลงนะ!” ถึงสาวน้อยจะถูกไอ้หัวล้านดึงขึ้นไปอยู่กลางอากาศ ปากก็ยังด่าไม่หยุด แถมยังดูร้ายกว่าพ่อที่ดูอ่อนแอด้วย
ไอ้หัวล้านหมดความอดทนแล้ว พลางมองสาวน้อยด้วยความดุร้ายน่ารังเกียจ ก่อนจะยกมือขึ้นเพื่อทำร้ายเธอ หลี่ฝางเห็นดังนั้นก็ปรี่เข้าไปหา แล้วจับแขนของไอ้หัวล้าน ก่อนจะหักมันออกทันที
ไอ้หัวล้านร้องเหมือนหมูที่ถูกฆ่าจนเสียดหูของหลี่ฝาง ก่อนจะค่อยๆ วางสาวน้อยลงบนพื้น จากนั้นก็จิกคอของไอ้หัวล้าน จนเสียงร้องที่แหลมนั้นก็หยุดลง ไอ้หัวล้านเองก็มีหน้าม่วงขึ้นมาทันที
“ไม่เคยมีใครบอกเหรอ ว่าเสียงของคุณนั้นมันไม่น่าฟังเลย?” หลี่ฝางมองไอ้หัวล้านอย่างเย็นชา พลางพูดเสียงเย็นไปถึงกระดูก
เรื่องนั้นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว อีกสองคนนั้นก็ยังไม่ทันมีปฏิกิริยากลับมา เมื่อได้ยินเสียงของหลี่ฝางเลยมีสติกลับมา
“ให้ตายเถอะ คุณกล้าเข้ามายุ่งด้วยเหรอ!นี่มันหาที่ตายชัดๆ !” คนที่ห่างจากหลี่ฝางใกล้ๆ อย่างชายที่มีรอยสักที่แขนนั้นเมื่อได้เห็นแบบนี้ ก็ยกมือขึ้นมาทำท่ากรงเล็บเหยี่ยวใส่หลี่ฝาง
เมื่อเห็นท่าของชายที่มีรอยสักที่แขน หลี่ฝางก็เลิกคิ้วขึ้น คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคนฝึกยุทธ ชายที่มีรอยสักที่แขนคนนี้จะเป็นพลังกรงเล็บอินทรีย์ด้วย แต่ยังเป็นระดับที่เพิ่งจะเข้ามาเท่านั้น ถึงแม้ชายที่มีรอยสักที่แขนจะใช้แรงทั้งหมดที่มี แต่สำหรับหลี่ฝางนั้นมันแทบจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย
มีชายที่มีรอยสักที่แขนเข้ามาหาทางกระเป๋าหน้าอกของตัวเอง หลี่ฝางไม่ได้มองเขาเลยแม้แต่น้อย ใช้เพียงแค่พลังของตัวเองก็ทำให้คนคนนั้นกระเด็นไปได้หลายสิบเมตรแล้ว
“คุณ คุณเป็นนักรบเหรอ?” ชายร่างกำยำที่เหลือคนหนึ่งตกใจจนเข่าอ่อน ก่อนจะเบิกตาโพลงพลางมองหลี่ฝาง ถึงแม้เขาจะไม่เป็นวิทยายุทธ แต่ว่ายังพอจะเข้าใจอยู่บ้าง ดังนั้นเขาเลยพอจะเดาตัวตนของหลี่ฝางออก
“ในเมื่อรู้ตัวตนของฉันแล้ว ยังไม่รีบไสหัวไปอีกเหรอ?จากนี้พี่ลูกคู่นี้ฉันจะปกป้องเอง ถ้าพวกคุณเข้าเข้ามายุ่งกับพวกเขา ก็หมายถึงจะต้องข้ามหลี่ฝางอย่างฉันไปก่อน”
ชื่อของหลี่ฝางนั้นสำหรับคนธรรมดาอาจจะไม่ได้สนใจอะไรมาก แต่สำหรับคนที่พอจะเข้าใจคนไม่ธรรมของโลกนั้น มันเหมือนน่ากลัวเหมือนเจอผีเลยล่ะ
ตอนนี้หลี่ฝางเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศจีน ใครกล้าไม่กล้ามีเรื่องกับเขา!
“พี่ปล่อยฉันไปเถอะ เราเป็นเพียงแค่คนธรรมดา เราไม่อยากมีเรื่องกับคุณ!พี่ปล่อยเราไปเถอะ!”
ชายร่างกำยำนั้นคุกเข่าลงต่อหน้าหลี่ฝาง พลางร้องขออย่างน้ำหูน้ำตาไหล ท่าทีโอ้อวดเมื่อครู่นั้นมันเทียบได้อย่างเห็นได้ชัดเลย
คนที่อยู่รอบๆ นั้นต่างตกใจเพราะท่าทางของหลี่ฝางเลยล่ะ แถมยังเริ่มสงสัยใจดวงตาของตัวเอง พลางคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป
“ให้ตายเถอะ เขาเป็นใครกันแน่เนี่ย?ใครอธิบายหน่อยได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น?เขาทำให้คนคนนั้นกระเด็นลอยไปได้อย่างไรเนี่ย?”
“ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?นี่ใช่คนจริงๆ หรือเปล่า?หรือกำลังถ่ายหนังอยู่หรือเปล่า?”
“ถ่ายบ้านแกสิ!คุณเห็นกล้องสักตัวไหม?สมองยังดีอยู่หรือเปล่าเนี่ย!”
……
เมื่อได้ยินคนอื่นคนพูด หลี่ฝางเองก็ไม่อยากอธิบายอะไรมาก เลยเอาไอ้หัวล้านที่สลบไปเพราะขาดอากาศหายใจโยนลงพื้น แล้วก็มองชายร่างกำยำที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าพลางเตือน “เอาคนอื่นๆ ไสหัวไป จากนี้ห้ามมาเหยียบที่ตลาดกลางคืนนี้อีก!”
“ได้ๆ ฉันจะเดี๋ยวนี้เลย!ไปตอนนี้เลย!” เมื่อได้ยินคำของหลี่ฝาง ชายร่างกำยำก็เหมือนได้รับนิรโทษกรรม เลยไม่สนใจไอ้หัวล้านกับชายที่มีรอยสักที่แขนแล้ว เลยรีบตะเกียกตะกายหนีไปไกลจากสายตาหลี่ฝาง
“พี่ คุณเก่งจริงๆ เลย!เพียงไม่นานก็ทำให้คนเลวมันหนีหางจุกตูดไปได้แล้ว!” สาวน้อยเห็นพวกไอ้หัวล้านวิ่งหนีไปแล้ว ก็ตบมืออยู่ข้างๆ พลางมีความระวังอยู่ในแววตาเมื่อมองหลี่ฝาง แล้วนับถือเป็นอย่างมาก
“เด็กสาวน้อยอย่างคุณ ไม่รู้จักกลัวเลยเหรอ?” เมื่อเห็นท่าที่สาวน้อยหัวเราะแบบนี้ หลี่ฝางก็ลูบหัวเธออย่างรู้สึกขบขัน
ความกล้าของสาวน้อยนั้นมากจริงๆ ถ้าเกิดเป็นเด็กคนอื่นๆ อาจจะตกใจจนฉี่ราด แต่เธอไม่เพียงไม่กลัว แถมยังกล้าลงมือกับพวกไอ้หัวล้านด้วย
“ฉันไม่กลัวหรอก พี่ ฉันพูดกับคุณตรงๆ ละกัน ก่อนหน้านี้พ่อฉันเก่งมาก เขาเองก็ทำให้คนกระเด็นไปได้เหมือนคุณเลย แต่หลังจากที่แม่ฉันจากไป พ่อฉันก็เปลี่ยนไป เมื่อถูกคนแกล้งก็ไม่ลงมือเลย”
สาวน้อยมองชายวัยกลางคนที่ไม่พูดอะไรด้วยใบหน้าผิดหวัง
นี่เป็นสิ่งที่หลี่ฝางคิดไม่ถึง เพราะเขาไม่รู้สึกถึงพลังภายในของชายวัยกลางคนเลย ตามเหตุผลแล้ว เมื่อหลี่ฝางได้มาอยู่ในแดนนี้แล้ว ไม่น่าจะมองไม่ออก เกิดอะไรขึ้นกับชายคนนี้ ถึงทำให้นักรบคนหนึ่งกลายเป็นแบบนี้ไป
“พี่ คุณเองก็เป็นนักรบเหรอ?ทำไมเมื่อครู่ไม่ลงมือล่ะ พวกเขาทำร้ายลูกสาวคุณนะ” หลี่ฝางมองชายวัยกลางคนด้วยความไม่เข้าใจ พลางหวังว่าเขาจะอธิบาย
“น้อง ขอบคุณที่คุณลงมือช่วยนะ ฉันแซ่หลี่ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร นี่คือสิ่งมีค่าที่ฉันได้รับมาในหลายปีนี้ ถ้าเกิดคุณไม่รังเกียจล่ะก็ คุณรับเอาไว้เถอะ”