“ให้ตายเถอะ นายคนนี้” เมื่อเห็นท่าทางร้อนรนของไท่ซาง หลี่ฝางก็ชูนิ้วกลางขึ้นที่ด้านหลังของไท่ซางด้วยความดูแคลน
“กู่ยี่เทียนอยู่ที่ไหน?” เขาหันหัวไปทางทหารข้างๆ
“หัวหน้ากำลังเข้ารับการฝึกที่จัดเอาไว้ในทุกๆ วัน ต้องการให้ฉันไปบอกเขาตอนนี้เลยไหม?”
“ไม่ต้องหรอก รอเขาออกมาเถอะ คงอีกไม่นานหรอก”
“โอเค งั้นฉันจะจัดการให้คุณพักผ่อนก่อนนะ” นายทหารนำให้หลี่ฝางมาที่โถงรับแขก “รบกวนให้คุณมาทางนี้หน่อย เดี๋ยวหัวหน้าก็ใกล้ฝึกเสร็จแล้ว”
หลี่ฝางพยักหน้า ก่อนจะรอกู่ยี่เทียนมา
เพียงไม่นาน ประตูก็มีเสียง “แกร็ก” เปิดออก กู่ยี่เทียนเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ได้ยินว่าคุณรื้อฟื้นความจำได้แล้วเหรอ?” กู่ยี่เทียนปิดประตู พลางถาม
“โชคดี จู่ๆ ก็เปิดแดนครึ่งเทพได้โดยไม่ได้ตั้งใจ ความทรงจำเลยกลับมาเองล่ะ” หลี่ฝางยิ้มพลางพูดอย่างภูมิอกภูมิใจ “คุณล่ะ?พัฒนาไปถึงไหนแล้ว?”
กู่ยี่เทียนมีหน้าดำเคร่งเครียด พลางพูดด้วยความไม่พอใจ “คุณตั้งใจมาอวดใช่ไหม”
“ฮ่าๆ ล้อเล่นน่า ฉันมาในครั้งนี้ก็เพื่อมาดูว่าจะช่วยคุณเปิดผนึกเอาไว้ได้ไหม” หลี่ฝางเปิดเผยออกมา
“นี่ก็ใกล้แล้วล่ะ” กู่ยี่เทียนเปิดประตู “ไป ไปดูห้องสำหรับฝึกของฉันกันเถอะ ฉันจะคุยกับคุณสักหน่อย”
หลี่ฝางตามกู่ยี่เทียนเข้าไปในประตูเลี่ยมทองบานใหญ่ ประตูห้องสำหรับฝึกบานใหญ่นี้ใหญ่พอๆ กับประตูบานที่เข้าไปในสุสานจูหลงเลย มันเป็นประตูทองที่หนาสามชั้น ภายในและภายนอกนั้นปิดกั้นกันอย่างชัดเจน ขนาดบรรยากาศนั้นยังไม่มีทางส่งผ่านกัน ราวกับว่านั้นเป็นฟ้ากับดินเลยล่ะ
เมื่อเดินเข้าไปในห้องสำหรับฝึก บรรยากาศนั้นเข้มข้นจนทำให้หลี่ฝางสดชื่นขึ้นด้วยจิตวิญญาณ
เมื่อพูดถึงห้องสำหรับฝึก อันที่จริงด้านในนั้นกว้างมาก อย่าน้อยก็ราวๆ สองร้อยตารางเมตร ด้านในมีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน เมื่อมองผ่านๆ นั้นมันเหมือนกับใช้วัสดุที่สั่งทำพิเศษเลยล่ะ
“เฮียกู่เพลิดเพลินจริงๆ เลยนะ” หลี่ฝางหายใจเข้าลึกๆ ลมด้านในร่างกายนั้นมันมากขึ้นเล็กน้อย “นี่คือพลังที่น่าประหลาดใจสุสานจูหลงสินะ เมื่อมาอยู่ในที่โบราณมันเหมือนเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์เลยล่ะ”
กู่ยี่เทียนอธิบาย “นักวิทยาศาสตร์ได้วิจัยในนี้มานานขนาดนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมีผลบ้าง พลังที่น่าประหลาดนั้นมันมากมายมหาศาลในตอนแรก คนธรรมดาไม่มีทางรับเข้าไปใช้ได้ ตอนนี้มีการแบ่งแยกพลังเหล่านั้นไป ทำให้มันเปลี่ยนไปเป็นอ่อนโยนขึ้น ถึงจะเป็นนักรบกำลังภายในธรรมดาๆ แต่ก็สามารถใช้ได้ในปริมาณน้อยๆ แต่วิธีนี้ทำให้มันผลิตออกมาได้ไม่มาก ไม่สามารถให้ได้มาก”
หลี่ฝางถาม “ไท่ซางบอกฉันว่าที่ของพวกคุณมันสามารถให้พลังทะลุแดน แต่ก็คือการแบ่งแยกพลังประหลาดนั่นใช่ไหม?”
“ใช่” กู่ยี่เทียนพยักหน้า “ความรู้อย่างเจาะจงในการแบ่งแยกนั้นมันมีมากมาย ฉันจะไม่มาอธิบายให้คุณฟังทีละอันนะ แต่พลังที่คนสร้างขึ้นมานั้นมันก็มีข้อเสีย จะไม่มีองค์ประกอบที่สำคัญ ตอนนี้ยังไม่มีใครใช้มันเพื่อทะลุไปได้เลย”
“งั้นพวกคุณยังกล้ามาเล่นกับปรมาจารย์กำลังภายในกลุ่มนี้อีกเหรอ?ไม่กลัวพวกเขาโต้กลับเหรอไง?” หลี่ฝางถามด้วยความประหลาดใจ
“ฉันไม่ได้โกหกพวกเขานะ” กู่ยี่เทียนพูดอย่างจนปัญญา “ด้านนี้ฉันบอกพวกเขาอย่างชัดเจนแล้ว ไม่ได้ปิดบังอะไรเลย พวกเขาเองก็เต็มใจจะมาลอง ไล่ก็ไม่ไป”
หลี่ฝางเบ้ปาก กู่ยี่เทียนพูดอย่างไร้เดียงสา อันที่จริงก็ไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย
ปรมาจารย์กำลังภายในนั้นเป็นคนเก่งกาจกันทั้งนั้น พวกเขาไม่เสียอะไรทั้งนั้น ไม่แน่ว่าอาจจะได้รับอะไรด้วย แล้วจะหักหน้าประเทศเพราะเรื่องนี้ได้อย่างไร
“โอเค เรื่องนี้ต้องรีบหน่อยแล้ว ดูสิว่าจะช่วยฉันปลดล็อกสิ่งที่ปิดผนึกได้อย่างไร” กู่ยี่เทียนพูดด้วยความร้อนรน
เมื่อทั้งสองคนมาถึงที่ห้องโถงของห้องสำหรับฝึกแล้ว ก็นั่งลงข้างๆ กัน ก่อนจะรวบรวมประตูแห่งเทพในเวลาเดียวกัน
เมื่อประตูแห่งเทพปรากฏ กู่ยี่เทียนที่มีพลังเหมือนคนทั่วๆ ไปจู่ๆ ก็ค่อยๆ ระเบิดออกมา พลังนั้นมันต่างกันเป็นอย่างมาก เหมือนกับเปลี่ยนจากแมวตัวน้อยกลายเป็นมังกรเลยล่ะ มันเหมือนกับที่เขาพูดจริงๆ สภาวะครึ่งเทพนั้นสามารถทำให้เขาเปิดผนึกได้
ในตอนนี้สามารถเห็นระดับสูงต่ำของแดนของทั้งสองได้ ประตูแห่งเทพของกู่ยี่เทียนนั้นเหมือนกับหมอกบางๆ ที่เหมือนจะไม่มีอยู่ ราวกับว่าเพียงพริบตาก็จะมลายหายไปได้ในทันทีโดยไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนของจริงอยู่เลย
แต่ประตูแห่งเทพของหลี่ฝางนั้นกลับเหมือนหมึกดำเข้มที่วาดอยู่ในชั้นบรรยากาศ ถึงแม้จะไม่มีเช่นเคย แต่กลับรู้สึกอย่างชัดเจนเป็นอย่างมาก มันมีพลังตั้งแต่ด้านบนสุดของประตูแห่งเทพไล่ลงมา มีควันพวยพุ่ง จนทำให้เห็นหลี่ฝางได้ชัดเหมือนเป็นเทพเลยล่ะ!
กู่ยี่เทียนตกใจเพราะสถานการณ์ที่ประหลาดของหลี่ฝาง เลยพูดอย่างเสียงหายว่า “นี่คือแดนครึ่งเทพเหรอ?”
หลี่ฝางยิ้มพลางพูด “ใช่สิ ดูมีพลังมากพอไหมใช่ล่ะ?”
กู่ยี่เทียนมองหลี่ฝางด้วยความเหยียดหยาม
ในตอนนั้นเอง ประตูแห่งเทพของกู่ยี่เทียนก็จบลง พลังของเขาก็ค่อยๆ ลดลง จากนั้นก็กลายเป็นคนธรรมดาอย่างรวดเร็ว
“เป็นอย่างไรบ้าง มีความคิดอะไรบ้างไหม?” กู่ยี่เทียนถามอย่างคาดหวัง
“ตอนที่คุณออกมาจากสภาวะประตูแห่งเทพนั้น ฉันรู้สึกได้ถึงผนึกจริงๆ แต่สิ่งที่แปลกก็คือ ฉันหาจุดเริ่มต้นของผนึกนี้ไม่เจอ เหมือนมันเกิดขึ้นมาดื้อๆ เลยล่ะ”
กู่ยี่เทียนถอนหายใจพลางพูด “จุดเริ่มต้นของผนึกนั้นมันมาจากด้านในตัวของฉันเอง มันเริ่มมาจากจิตใต้สำนึกของฉันเอง แต่ว่าสำหรับจิตใต้สำนึกนี้ เราวิจัยมันเอาไว้น้อยเกินไป”
หลี่ฝางนวดบริเวณคางเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้น “เพราะผนึกนั้นมันเกิดมาจากจิตของคุณ ฉันเลยไม่สามารถเข้าไปวิจัยจากจุดเริ่มต้นได้ แถมตอนที่คุณเข้าไปในครึ่งเทพนั้นมันไม่นานพอ ยังไม่ทันวิจัยอะไรได้ก็ตกลงแล้ว
ดังนั้นฉันเลยมีความคิดหนึ่ง บางทีฉันอาจจะสามารถลอง ‘ยืม’ การฝึกให้คุณ เพื่อให้คุณได้อยู่ในภาวะครึ่งเทพได้นานขึ้น แล้วดูว่าจะสามารถวิจัยอะไรออกมาได้ไหม”
กู่ยี่เทียนดวงตาเปล่งประกาย “เป็นความคิดที่ดี!ผนึกนั้นอยู่ในสภาวะการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้ศึกษาการเกณฑ์การเปลี่ยนแปลงเป็นผนึกอย่างเต็มที่สักที ครั้งนี้อาจจะได้เห็นอะไรบ้าง!”
ทั้งสองคนปรึกษากันแล้วก็คิดว่าดูมีความเป็นไปได้ เลยคิดจะลงมือทำ
หลังจากที่กู่ยี่เทียนได้พักผ่อนสักพักแล้ว ก่อนจะเข้าไปในสภาวะครึ่งเทพ ในตอนนี้ หลี่ฝางยื่นมือไปวางบนไหล่กู่ยี่เทียน ก่อนจะปล่อยพลังให้กู่ยี่เทียน
ผ่าง!
มันร้อนเหมือนไฟที่ลุกโชน กู่ยี่เทียนมีพลังมากขึ้นล้นพ้น ประตูแห่งเทพบนหัวนั้นก็รวบรวมเข้ามาอย่างรวดเร็ว มีพลังแข็งแกร่งแพร่กระจายออกไปทั้งสี่ทิศ กำแพงทองทั้งสี่ทิศนั้นมีเสียง “แกร็กๆ ” ที่เกิดจากการเสียดสีกัน
นี่เป็นเพราะตอนนี้แดนของกู่ยี่เทียนนั้นต่ำกว่าหลี่ฝาง การพยายามขึ้นไปในแดนที่สูงขึ้นนั้น เขาควบคุมพลังที่มีมากไม่ได้ขนาดนั้น ถึงขนาดที่ต้องปล่อยพลังออกไปทั้งสี่ทิศ
“ฮัลโหล!คุณรีบหน่อยสิ!นี่มันเสียไปมากเลยนะ!” หลี่ฝางรีบเตือน
“วางใจเถอะ!” กู่ยี่เทียนตะโกนออกไปเสียงดัง ก่อนจะรวมสติเอาไว้ที่ตัวเอง ก่อนจะไม่สนใจโลกภายนอกเลยแม้แต่น้อย
หนึ่งนาที……สามนาที……ห้านาที……
กำแพงทองบริเวณรอบๆ นั้นถูกกดลงไปเบาบางลงทีละชั้นๆ มีกำลังที่มากมายขนาดนั้น เหมือนกับกำลังภายในผู้มากฝีมือที่ปล่อยออกไปเองเลยล่ะ ถึงแม้หลี่ฝางจะมีพละกำลังแข็งแกร่ง แต่การเสียไปนั้นมันก็มากเหมือนกัน
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงเพียงพริบตาเดียว หลี่ฝางค่อยๆ ทนไม่ไหวแล้ว เมื่อเห็นท่าทีของกู่ยี่เทียนที่ยังไม่ฟื้นขึ้นมา เขาถอนหายใจก่อนจะเก็บพลังกลับไป ถ้ายังทนต่อไป เกรงว่าเขาก็จะได้รับบาดเจ็บจากพลัง
ในตอนนั้นเอง จู่ๆ กู่ยี่เทียนก็ลืมตาขึ้นมา ตัวสั่นไปทั้งตัว แล้วก็ตัดการส่งต่อพลังนั้น
“ได้แล้ว!”