พวกเขาสามคนต่างก็เป็นคนที่เคยกินเนื้อของงูยักษ์กลืนฟ้าเข้าไป แถมยังเป็นการกลายพันธุ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
ไม่เพียงแต่ความสามารถไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงที่ล้นหลาม และไม่กลายร่างเป็นปีศาจประหลาด เพียงในเมื่ออารมณ์ไม่คงที่จะกำเริบเท่านั้นเอง เป็นสัตว์ประหลาดที่กลายร่างเป็นครึ่งปีศาจประหลาด
เมื่อพวกเขากลายร่างเป็นครึ่งปีศาจประหลาดพลังจะเพิ่มขึ้นอย่างล้นหลาม ในขณะเดียวกันร่างกายจะได้รับการรีใหม่อย่างหนัก การกลายร่างเป็นครึ่งปีศาจประหลาดแบบนี้ไม่สามารถอยู่ได้นาน หากควบคุมไม่อยู่ ท้ายที่สุดก็จะสูญเสียสัมปชัญญะ กลายเป็นสัตว์ประหลาดถาวร
เหล่าเสือดำฝึกฝนอยู่เสมอ หวังควบคุมการกลายร่างเป็นครึ่งปีศาจประหลาดได้ และในพวกเขา การควบคุมการกลายร่างเป็นครึ่งปีศาจประหลาดของเสือดำนั้นดีที่สุด นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่นิคยอมเดิมพันสักตั้ง
หากไม่ใช่เพราะเขาเพิ่งฉีดยาระงับไป ตอนนี้ยังใช้พลังไม่ได้ละก็ ก็ไม่ถึงกับต้องให้เสือดำกลายร่างครึ่งปีศาจประหลาด
ท่านชายป๋ายยู่ในตอนนี้ถูกเสือดำล้อมเอาไว้รอบด้าน เพราะแขนทั้งสองข้างอุ้มฉินวี่เฟยที่สลบอยู่ เขาจึงไม่มีโอกาสตอบโต้ เมื่อเห็นนักพรตเต้าฝ่าที่อยู่อีกด้านตกใจจนนิ่งค้างเกิดแผนบางอย่างในใจ อุ้มฉินวี่เฟยมุ่งไปทางนักพรตเต้าฝ่า
“แม่ง ป๋ายเจินเจินมึงอย่าล่อสัตว์ประหลาดนั่นมาทางกูสิวะ! ไสหัวไปไกลๆ เลย!” จ้องมองท่านชายป๋ายยู่ที่เข้าใกล้เขามากขึ้น นักพรตเต้าฝ่าระเบิดอารมณ์กับที่ พลางถอยไปด้านหลังพร้อมโบกไม้โบกมือไปทางท่านชายป๋ายยู่ ให้เขาออกห่างจากตน
“ไอ้หมาจาง แกมีจิตสำนึกของความเป็นคนบ้างไหม! ให้ตายตอนนี้ฉันจู่โจมไม่ได้ แกก็เข้ามาช่วยหน่อยสิ!” จ้องมองนักพรตเต้าฝ่าที่มองกับราวกับไวเปอร์ที่เหี้ยมโหด ท่านชายป๋ายยู่อดสบถด้วยความหยาบคายไม่ได้
เมื่อเห็นเสือดำที่อยู่ด้านหลังกำลังไล่ตามมา ในช่วงเวลาวิกฤตินี้เอง หลี่ต๋าคางและมังกรฟ้าทั้งคู่ได้รั้งเขาเอาไว้
“บัดซบๆ เกือบจะเผาผมกูแล้ว” เมื่อเห็นเปลวไฟลุกโชนเข้ามา ท่านชายป๋ายยู่ตกใจจนต้องรีบหลีกไปอีกด้าน
นักพรตเต้าฝ่าที่อยู่ข้างหน้าเขาเพราะการมองเห็น เมื่อเขาได้สติกลับคืนมาเปลวเพลิงนั้นสีดำแดงนั่นก็ลุกโชนมาอยู่หน้าเขาเสียแล้ว ชายฉกรรจ์เมตรแปดเซนติเมตร ลดเอวลง
อุตส่าห์หลบเพลิงไฟที่เอาชีวิตได้อย่างยากลำบาก นักพรตเต้าฝ่าได้เสียไปครึ่งชีวิตเพราะการลดเอว
“ป๋ายเจินเจิน! ฉันไม่จบกับแกแน่!” นักพรตเต้าฝ่าจ้องเขม็งท่านชายป๋ายยู่ด้วยเอวที่เคล็ดไปอย่างน่าอนาถพร้อมกับคำรามอย่างโกรธแค้น
“เพราะสัตว์ประหลาดนั่นพ่นไฟ ไม่เกี่ยวกับฉันเลย! ถ้าแกโกรธก็ไปลงที่มันซะ!” ท่านชายป๋ายยู่ไม่มีทางยอมรับว่าเป็นความตั้งใจของเขา หลังผลักความรับผิดชอบไปที่เสือดำ ก่อนที่จะโยนฉินวี่เฟยในอ้อมกอดให้กับหงส์แดง “แม่สาวงดงามผู้นี้ฝากคุณด้วย ผมยังมีธุระ ต้องไปก่อน”
เมื่อจบประโยค ท่านชายป๋ายยู่จึงรีบเผ่น แต่นักพรตเต้าฝ่าไม่มีทางให้เขาหนีไปได้ง่ายๆ เขาคว้าแขนเสื้อของเขาเอาไว้ กระชากเสื้อของท่านชายป๋ายยู่ลงมา
บรรยากาศเกิดนิ่งแข็งขึ้นมาในพริบตา ท่านชายป๋ายยู่สีหน้าหม่นหมองจนหยดเป็นน้ำหมึกได้ รอบกายของเขาแผ่ซ่านไปด้วยพลังงานที่แข็งกล้า หลังจากที่เขาสวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย พลันสะบัดมือใบมีดลมสายหนึ่งพุ่งไปที่นักพรตเต้าฝ่า
“เห้ยๆ เหล่าป๋าย แกฟังฉันก่อนสิ ฉันไม่ได้ตั้งใจ เมื่อกี้แกเกือบเผาฉันจนเกรียม ตอนนี้ฉันกระชากเสื้อผ้าแก เราหายกันแล้ว?”
นักพรตเต้าฝ่าไหวพริบดี เหมือนกับโหจื่อที่เปลี่ยนสีไปหลายหน้า ใบมีดลมนั้นตกไปอยู่ที่ภูเขาขนาดเล็ก พริบตาบนเขากลายเป็นพื้นที่ราบทันที
“หายบ้าอะไร! วันนี้กูจะฆ่ามึง!” ท่านชายป๋ายยู่ไม่ฟังคำของนักพรตเต้าฝ่า ในหัวของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความอาฆาตอยากจะฆ่าเขา
หงส์แดงและคนอื่นๆ มองดูเหตุการณ์อยู่อีกด้านไม่กล้าแม้แต่ร้องสักแอะ ให้ตายนี่มันเทพต่อสู้กันเห็นๆ กระบวนท่าเดียวหั่นยอดเขาหายไป ความสามารถน่าหวาดผวาแค่ไหน
ในขณะที่พวกเขาหันความสนใจไปที่ท่านชายป๋ายยู่และนักพรตเต้าฝ่า หลี่ต๋าคางและมังกรฟ้ากำลังสู้กับเสือดำอย่างแพ้พ่าย
นักรบที่เก่งแค่ไหนเมื่อต่อสู้นานขนาดนี้ก็ต้องอ่อนแรงบ้าง แต่เสือดำกลับยิ่งสู้พละกำลังก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น กำลังกล้าแกร่งขึ้นมากกว่าเก่า หลี่ต๋าคางไม่ทันระวังแขนข้างซ้ายถูกเขาโจมตีเข้าให้ ในเวลาเดียวกันก็ถูกเปลวเพลิงที่น่าประหลาดนั่นเข้า
หลี่ต๋าคางไม่คิดเลย พลันควักเอามีดพกออกมา เฉือนเนื้อที่แขนข้างซ้ายก้อนนั้นออกมา ความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย วินาทีต่อมาจึงเข้าสู่การต่อสู้อีกครั้ง
“คุณลุงหลี่ ท่านจัดการบาดแผลก่อนเถอะ” เลือดเนื้อไหลอาบที่แขนข้างซ้ายของหลี่ต๋าคาง มังกรฟ้ากล่าวอย่างเป็นกังวล
“ไม่เป็นไร เรารีบจบการต่อสู้นี้เถอะ” หลี่ต๋าคางในตอนนี้สีหน้าขาวซีดเล็กน้อย แต่สายตาคู่นั้นกลับประกายไปด้วยความมุ่งมั่นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
เมื่อเห็นเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น กระบวนท่าของมังกรฟ้าเองก็หนักหน่วงขึ้นมา
“เหล่าป๋าย แกอย่าเพิ่งหาเรื่อง สองคนนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์ประหลาดตัวนั้น เราจัดการสัตว์ประหลาดตัวนั้นให้สิ้นซากก่อนเถอะ”
ขณะเดียวกันกับที่นักพรตเต้าฝ่าหลบการโจมตีของท่านชายป๋ายยู่ ก็ได้สังเกตการณ์ของทางด้านหลี่ต๋าคางด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อเห็นว่าหลี่ต๋าคางได้รับบาดเจ็บ คิ้วของเขาขมวดเป็นปม
แม้เขาจะไม่รู้ว่าด้านไหนดีด้านไหนร้าย แต่พลังงานที่สัตว์ประหลาดนั่นปล่อยออกมาทำให้เขารู้สึกไม่สบายเอาซะเลย ไม่คิดเลยว่าเขาเข้าฌานหลายปีมานี้ บนโลกจะคิดค้นสิ่งนี้ขึ้นมาซะแล้ว
ท่านชายป๋ายยู่เหลือบมองเสือดำ แววตาก็ขรึมขึ้นมาหลายขุม เขาเม้มปากไม่พูดอะไร แต่ร่างกายของเขาได้ลอยไปทางด้านเสือดำเสียแล้ว
นักพรตเต้าฝ่าตามไปติดๆ ทั้งคู่ปล่อยพลังใส่เสือดำพร้อมกัน ทีแรกที่คิดว่าเพียงแค่หมัดเดียวก็เอาอยู่ แต่ไม่คิดเลยว่าร่างของเสือดำกลับหายลับไปกลางอากาศ