NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1243 แผดเผาทั้งมวล

บทที่ 1243 แผดเผาทั้งมวล

หลังจากที่เหยหู่เข้าสู่สภาวะกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดก็มีความกำลังมากขึ้นเป็นอย่างมาก จากนั้นก็ขยับได้อย่างรวดเร็วขึ้นมา จนคนธรรมดานั้นมองไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา

หลี่ต๋าคางเห็นสถานการณ์แบบนี้ก็หยุดลง จากนั้นก็หลับตาของตัวเอง เหยหู่ที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วก็อึ้งไปเล็กน้อย ไม่รู้ว่าท่าทีของหลี่ต๋าคางแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไร

ความลังเลนั้นมันอยู่ในหัวของเขาประมาณ0.01วินาทีเท่านั้น จากนั้น0.01วินาทีเขาก็โจมตีไปที่หลี่ต๋าคางทันที

ความเร็วแบบนี้มันถ้าเกิดเป็นหลี่ฝางคงจะพ่ายแพ้ไปแล้ว แต่หลี่ต๋าคางที่หลับตาอยู่นั้นกลับเหมือนไม่เป็นอะไร จากนั้นก็หลบหมัดของเหยหู่ได้อย่างสบายใจ

“จะเป็นไปได้อย่างไร!แกหลบกระบวนท่าของฉันได้อย่างไร!กูจะฆ่ามึง!” เหยหู่นั้นเหมือนถูกลดทอนศักดิ์ศรีเป็นอย่างมาก เลยจ้องจนตาแทบถลน พลางควบคุมอารมณ์ไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ

แต่แม้เขาจะเร็วจนมองไม่ทัน แต่กลับไม่ได้ทำให้หลี่ต๋าคางได้รับบาดเจ็บเลย พลังที่มากมายขนาดนี้ทำให้เหยหู่ได้เรียนรู้หลี่ต๋าคางใหม่อีกครั้ง แววตาที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งของเขานั้นมันเกิดความกลัวขึ้นมาในที่สุด

“แก แก แก แกเป็นใครกันแน่!” เหยหู่ถามอย่างตะกุกตะกักพลางมองหลี่ต๋าคาง

“ฆ่าคนของแก!” หลี่ต๋าคางลืมตาขึ้นทันที ก่อนจะพูดคำนี้ออกมาอย่างไร้ความรู้สึก

เมื่อพูดออกไป เหยหู่ก็หัวไม่อยู่กับที่แล้ว

เมื่อหัวคนตกลงสู่พื้นไม่กี่วินาที เลือดถึงจะพุ่งออกมาจากตัวของเหยหู่ เพียงเท่านี้มันก็พอที่จะทำให้รู้ว่าพลังของหลี่ต๋าคางน่ากลัวขนาดไหนแล้ว

เมื่อการโจมตีมันจบไปเพียงสองนาที นิคกับจอห์นทางนั้นก็เพิ่งจะรู้ตัวว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากล

เพราะพวกเขาพบว่าหลี่ต๋าคางนั้นมันเงียบแปลกๆ เหมือนกับจะไม่ได้ยินเสียงของการต่อสู้แล้ว

“พี่ใหญ่!อ๊ากๆ !” แต่หลังจากที่ทั้งสองคนเห็นหัวที่ตายโดยไม่หลับตาที่อยู่บนพื้นนั้น ก็ทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว

พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าเหยหู่จะตายไปแบบนี้

นิคกับจอห์นแทบจะเปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาดพร้อมกัน ความโศกที่เสียคนสนิทไปทำให้พวกเขาควบคุมอารมณ์ความรู้สึกไม่ได้อีกเลย จากนั้นจึงโจมตีพวกหลี่ฝาง

แต่ครั้งนี้หลี่ต๋าคางกลับไม่ได้ลงมือ เพียงแค่ยืนดูคนตีกันอยู่ข้างๆ เท่านั้น

ถ้ามองดีๆ จะเห็นว่าหน้าผากของเขามีเหงื่อแตกออกมา มือข้างกายทั้งสองก็สั่นเบาๆ

“ไอ้กระจอก ถ้าแกยังจัดการสองคนนี้ไม่ได้ ก็ไม่ต้องพูดถึงลูกของหลี่ต๋าคางอย่างกูหรอก” หลี่ต๋าคางยิ้มพลางพูดดูแคลนหลี่ฝางด้านข้าง

หลี่ฝางที่กำลังมีสมาธิเป็นอย่างมากนั้นไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของหลี่ต๋าคาง แต่ยังคิดว่าเขานั้นตั้งใจจะโจมตีตัวเอง

ถึงแม้ทั้งสองจะเป็นพ่อลูก แต่หลี่ฝางกลับมีศักดิ์ศรีและความเอาชนะเป็นอย่างมาก เขาไม่อยากพึ่งพ่ออย่างไร้ประโยชน์ ดังนั้นเลยขอความช่วยเหลือจากหลี่ต๋าคางน้อยมาก นอกเสียจากจะไม่มีพละกำลังแล้วจริงๆ เขาถึงจะยอมฝืนไปขอความช่วยเหลือจากหลี่ต๋าคาง

“คุณวางใจเถอะ ฉันไม่ได้ไร้ประโยชน์ถึงขนาดนั้น” เมื่อตอบอย่างมั่นใจแล้ว แววตาของหลี่ฝางก็แน่วแน่มากขึ้น

“หลี่ฝาง รีบสู้รีบชนะซะ เดี๋ยวมันกำลังจะเริ่มการเปลี่ยนอีกรอบแล้ว!” แคทเธอรินที่คำนวณการเปลี่ยนของปากหลุมสุสานอยู่ตลอดนั้น เพียงไม่นานก็ผ่านไป25นาทีแล้ว เพื่อไม่ให้แตกแยกกัน พวกเขาเลยต้องรีบจัดการกับจอห์น ก่อนจะรีบไปที่ห้องลับต่อไป

เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่ฝางกับเสือขาวและหงส์แดงก็ปล่อยพลังโจมตีเต็มแรง ยังดีที่นิคกับจอห์นได้รับผลจากเหยหู่ เลยเสียการคิดไป ในหัวมีเพียงแค่ความอาฆาตเท่านั้น

เข็มพิษที่ทำเอาไว้ยังพอมีอยู่ หลี่ฝางเลยปักเข็มเข้าไปที่คอของจอห์น เพียงไม่ถึงสามนาทีทั้งสองคนก็นอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น

“ให้ตายเถอะ หลี่ฝางเอาของดีขนาดนี้มาจากไหนกัน?ทำไมก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นแกใช้เลย?” เสือขาวมองนิคกับจอห์นที่นอนแน่นิ่ง ก่อนจะเบิกตาโพลงพลางถาม

“อย่าพูดมากเลย รีบไปก่อนค่อยคุยกัน!”

หลังจากที่จัดการสองคนนั้นเสร็จแล้ว ก็เหลือเวลาไม่ถึงสองนาที คนเหล่านั้นไม่มีเวลาจะหายใจด้วยซ้ำ เลยต้องรีบไปที่ห้องลับอย่างไม่หยุดพัก

“อ๊ากๆ !ไสหัวไปนะ!” หลี่ฝางเปิดประตูของห้องลับนี้ ก็ได้ยินเสียงแหลมของหญิงสาว

เขายังไม่ทันรู้ชัดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จู่ๆ เมื่อหันกลับมาก็เห็นงูสีแดงเลยตกใจโหยง

เมื่อเห็นเสือขาวกำลังจะใช้มือเปล่าไปจับงูแดงตัวนั้น หลี่ฝางก็รีบตีหลังมือของเขา “อย่าไปจับงูตัวนี้!”

“ทำไม……โอ๊ะ!” เสือขาวกำลังอยากจะถาม ก็มีศพที่เต็มไปด้วยเลือดตกอยู่ที่พื้น แม้เขาจะผ่านศึกมามากมายแต่ก็ตกใจจนต้องร้องออกมา

เมื่อหลี่ฝางเห็นสถานการณ์ในห้องลับนี้อย่างชัดเจน ห้องลับนี้มันใหญ่พอๆ กับสนามฟุตบอล พลางมีงูพิษสีแดงเลือดมากมายแขวนอยู่

ตัวใหญ่ความยาวประมาณสี่ห้าเมตร ส่วนตัวเล็กนั้นยาวประมาณครึ่งเมตรเท่านั้น ทั้งหมดนั้นมีเสียงฝ่อของงู เสียงนี้มันชวนน่าขนลุกไม่น้อยเลย

หลี่ฝางไม่มีเวลาไปดูแล้วว่าศพที่อยู่บนพื้นนั้นคือใคร ก่อนจะหันหน้ากลับไปผลักประตูหินบานนั้น

ให้ตายเถอะ นี่เข้ามาในรังงู!รีบวิ่งเร็ว!” งูเปล่านี้มันเหมือนกับงูแดงตัวเล็กเลย ที่มีพิษร้ายแรงมาก จำนวนมากขนาดนี้ แถมยังมาอยู่ในห้องลับเล็กๆ นี้ มันเหมือนจะไม่มีหวังที่จะรอดเลยล่ะ

แต่ไม่รู้ว่าทำไม ตอนแรกประตูหินที่ยังเปิดได้ในตอนนี้กลับไม่ขยับเลย หลี่ฝางออกแรงอย่างสุดกำลังแต่ก็ยังขยับไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

เพราะพวกเขาเข้ามา เลยทำให้ฝูงงูนั้นแตกตื่นอีกครั้ง งูนั้นหล่นลงมาจากเพดานมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังค่อยๆ เลื้อยเข้ามาหาพวกหลี่ฝางด้วย

“ให้ตายเถอะ ไม่มีทางแล้ว เสือขาว ระเบิดประตูเร็ว!” มีงูแดงมารวมตัวกันอยู่ที่พื้น หลี่ฝางก็ตะโกนใส่เสือขาว

ถึงแม้เสือขาวจะไม่รู้ว่างูนี้เป็นชนิดอะไร แต่เมื่อเห็นท่าทีแตกตื่นของหลี่ฝาง ก็รู้ว่าจัดการได้ยาก ถึงอย่างไรเมื่อครู่ที่เจอฝูงตะขาบยักษ์หลี่ฝางเองก็ไม่ได้มีอารมณ์แตกตื่นขนาดนี้

เขาถุยน้ำลายออกมา จากนั้นก็ตะโกน พลางกำหมัดไปต่อยประตู

ถึงแม้พวกหลี่ฝางจะวิ่งออกมาจากห้องลับ แต่เพราะประตูหินถูกระเบิดพัง งูแดงเหล่านั้นเลยไม่มีอะไรกั้น และออกมาได้อย่างง่ายดาย

“แคทเธอริน ห้องลับต่อไปห่างจากเรามากแค่ไหน?จะให้งูพวกนี้มาโดนไม่ได้เด็ดขาด!งูเหล่านี้มันมีพิษร้าย ถ้าโดนแล้วจะชาไปทั้งตัว เพียงแค่กัดก็ตายแล้ว”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท