NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1294 ความรู้สึกที่ซับซ้อน

บทที่ 1294 ความรู้สึกที่ซับซ้อน

หลังจากขอแต่งงานเสร็จ หลี่ฝางและคนอื่นๆก็กลับสถานตากอากาศ เพราะร่างกายของหยางฉงยังไม่หายดี เมื่อคืนหลี่ฝางจึงอยู่ที่ห้องฉินวี่เฟย

หลังจากไท่ซางกับราฟาเอลทะเลาะกันเสร็จ ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาก แต่อารมณ์ดีๆนี้อยู่ได้ไม่นาน ก็ต้องพังทลายลงเพราะหยูหลิงฮุ่ย“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?ใครให้คุณเข้ามา!”เมื่อตอนบ่ายไท่ซางออกจากโรงพยาบาทด้วยความโกรธ เลยไม่รู้สิ่งที่หลี่ฝางจัดเตรียมไว้

เขาคิดว่าหยูหลิงฮุ่ยไปแล้ว แต่เมื่อเขาเห็นหยูหลิงฮุ่ยอยู่ตรงหน้าตนพร้อมท้องโตๆ ตาก็กระตุกอย่างห้ามไม่อยู่

เขาไม่รู้เลยว่าต้องแสดงท่าทียังไงกับหยูหลิงฮุ่ย และพูดไม่ออกว่าในใจคิดยังไง

“คุณ คุณกลับมาแล้วเหรอ คะคือคุณคุณชายหลี่ให้ฉันอยู่ที่นี่ คุณไม่ต้องห่วง ฉันอยู่ชั้นล่างไม่ส่งผลกระทบต่อคุณแน่นอน”

หยูหลิงฮุ่ยมองไท่ซางด้วยความกังวล ถึงขนาดเวลาพูดก็ระมัดระวังกว่าเมื่อก่อนขึ้นมาก

ตอนแรกไท่ซางกะจะไล่หยูหลิงฮุ่ยออกจากห้องของตน แต่เห็นท่าทีน่าสงสารของเธอ ในใจก็รู้สึกทนไม่ได้เล็กน้อย

ถึงยังไงหยูหลิงฮุ่ยก็อยู่กับเขามานาน ยิ่งกว่านั้นรูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้น่าเกลียด ไท่ซางขมวดคิ้วครุ่นคิด ในที่สุดก็ขึ้นไปชั้นบนอย่างไม่พอใจ

“คุณจะอยู่ที่นี่ก็ได้ แต่ห้ามเข้าห้องผมตามอำเภอใจเด็ดขาด แล้วก็ห้ามยุ่งเรื่องส่วนตัวของผมด้วย”

พูดเสร็จไท่ซางก็ไม่สนใจหยูหลิงฮุ่ยอีก ปิดประตูห้องเสียงดังปัง

หยูหลิงฮุ่ยมองประตูที่ปิดสนิทนั่นด้วยสายตาเปล่าเปลี่ยว กัดริมฝีปากล่างแน่น น้ำตาคลอเบ้า

“หยูหลิงฮุ่ย เธอต้องเข้มแข็ง ห้ามร้องไห้”ผ่านไปครู่หนึ่ง หยูหลิงฮุ่ยใช้มือตบแก้มตัวเองแรงๆ ยิ้มด้วยรอยยิ้มขมขื่น พลางพูดพึมพำกับตัวเอง

สำหรับเธอนี่นับว่าเป็นผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดี อย่างน้อยเธอก็ไม่โดนไท่ซางไล่ออกจากบ้าน ตอนนี้แค่รอให้ผ่านไป1เดือน เมื่อลูกคลอดออกมา แล้วให้ไท่ซางไปตรวจความเป็นพ่อ พิสูจน์ว่าเด็กเป็นเลือดเนื้อของเขาจริงๆ

เวลาล่วงเลยไปถึงช่วงเที่ยงของอีกวัน หยูหลิงฮุ่ยยังคงนอนหลับอยู่อย่างวุ่นวายใจ แต่กลับต้องสะดุ้งตื่นเพราะเสียงบางอย่าง

“โอ๊ย!”หยูหลิงฮุ่ยมองไท่ซางตรงหน้าประตูที่มีสีหน้าเคร่งขรึมด้วยความหวาดกลัว และร้องออกมาด้วยความตกใจ ดูเหมือนเด็กในท้องก็ตกใจกับเสียงนี้ด้วยเช่นกัน ถีบท้องหยูหลิงฮุ่ยอย่างจัง ทำเอาเธอเจ็บจนเหงื่อตก

ถึงแม้เจ็บจนพูดไม่ออก แต่หยูหลิงฮุ่ยก็รีบหายใจเข้าลึกๆ สงบสติอารมณ์พลางลูบหน้าท้อง“เป็นเด็กดีนะลูก ไม่ต้องกลัวๆ”

เห็นหยูหลิงฮุ่ยเต็มไปด้วยความอบอุ่นของความเป็นแม่ ไท่ซางจึงเก็บเท้าที่เตะประตูเมื่อกี้อย่างไม่ค่อยเต็มใจ เอามือถูจมูกโดยไม่รู้ตัว พลางพูดขึ้นอย่างขาดความมั่นใจ

“เป็นผู้หญิงทำไมถึงขี้เกียจขนาดนี้ ไม่ดูบ้างว่ากี่โมงแล้วยังจะนอนอยู่อีก คุณไม่ลุกมาทำอาหารให้ผมทาน หรือคิดจะให้ผมปรนนิบัติคุณ?”

ที่จริงไท่ซางก็เพิ่งตื่นได้ไม่นาน เขาไม่เห็นหยูหลิงฮุ่ยเลยอดไม่ได้ที่จะกังวล แต่ไม่อยากให้เห็นความเป็นห่วงของตนมากเกินไป จึงคิดวิธีนี้ออกมา

อ้างว่าตัวเองหิว ให้หยูหลิงฮุ่ยทำอาหารให้ตัวเองกิน แต่ความเป็นจริงคืออยากรู้ว่าหยูหลิงฮุ่ยเป็นไงบ้าง

“ขอโทษ ตั้งแต่ท้องฉันก็ค่อนข้างขี้เซา ไม่ทันระวังจนนอนเลยมาถึงตอนนี้ คุณหิวแล้วใช่ไหม?ฉันจะไปทำอาหารเดี๋ยวนี้ล่ะ”

หลังจากหายเจ็บ หยูหลิงฮุ่ยก็รีบลุกขึ้นนั่งจากเตียง จัดเตียงพลางพูดกับไท่ซาง

แม้หยูหลิงฮุ่ยจะบอกว่าตัวเองอ้วนขึ้นมาก แต่ในความเป็นจริงรูปร่างยังดีอยู่ รูปร่างอวบอิ่มของเธอปรากฏภายใต้ชุดนอนผ้าแพร ทำเอาไท่ซางที่ไม่ได้คลุกคลีกับสาวๆมานานถึงกับกลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้

หยูหลิงฮุ่ยตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันทีเมื่อสังเกตเห็นสายตาร้อนดั่งไฟของเขา รีบดึงเสื้อคลุมอีกด้านมาคลุม พลางพูดด้วยความลุกลี้ลุกลน

“คือ ตะตอนนี้ฉันยังท้องอยู่นะ คะคุณทำอย่างนั้นไม่ได้”

แม้หยูหลิงฮุ่ยพูดอย่างติดๆขัดๆ แต่ไท่ซางก็เข้าใจที่เธอจะสื่อทันที อ้ำอึ้งพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงจะพูดออกมา

“คุณนี่มั่นหน้าเกินไปแล้ว ไม่ดูสภาพโทรมๆตอนนี้ของตัวเองบ้างเลย ต่อให้คุณยืนต่อหน้าผมโดยไม่ใส่อะไรเลย ผมก็ไม่รู้สึกสนใจอะทั้งนั้น”

ได้ยินที่ไท่ซางพูด หยูหลิงฮุ่ยสายตาสกาว แสบจมูก น้ำตาคลอเบ้า

แม้เธอจะรู้ว่าไท่ซางนั้นปากเสียมาก เตรียมใจกับคำเย้ยหยันของเขาไว้บ้างแล้ว แต่เมื่อได้ยินคำเหล่านี้เข้าจริงๆ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดและไม่เป็นธรรม

แม้หยูหลิงฮุ่ยไม่ได้มีดีเท่าฉินวี่เฟยกับหยางฉง แต่ยังถือว่าเป็นเด็กดี เมื่อก่อนมีผู้ชายจีบเธอไม่น้อย ตอนนั้นถูกรักเอ็นดูดั่งเจ้าหญิงอย่างเธอเคยได้ยินคำพูดแบบนี้ที่ไหนกัน

“ผู้หญิงนี่น่ารำคาญจริงๆ พูดไม่กี่คำก็เริ่มน้ำตาไหล เอาล่ะๆ ผมไม่อยากให้คุณทำอาหารให้แล้ว ผมจัดการเอง”

เห็นเธอร้องไห้เงียบๆไท่ซางก็รู้สึกผิด แต่นิสัยที่ขอโทษผู้หญิงไม่เป็นมาตลอดนี้ ทำให้เขาฝืนปลอบไม่ได้จริงๆ หลังจากครุ่นคิดอยู่นานก็พูดคำเหล่านี้ออกมา

ประตูปิดลงเสียงดังปังอีกครั้ง เหลือเพียงหยูหลิงฮุ่ยเหม่อลอยอยู่ในห้องเงียบๆคนเดียว

เธอนั่งลงบนเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง จ้องมองที่เพดานด้วยสายตาที่ว่างเปล่า

“ลูกแม่ แม่ทำอะไรผิดงั้นเหรอ?เหมือนพ่อเขาจะไม่ชอบพวกเราเอามากๆ ลูกคิดว่าแม่ควรอยู่ที่นี่ต่อดีไหม?”หยูหลิงฮุ่ยลูบหน้าท้องตัวเองด้วยความอ่อนโยน พลางพูดพึมพำ

เธอไม่มีที่ไปแล้วถึงได้เลือกมาหาไท่ซางที่เมืองตงไห่ ตอนแรกคิดว่าอิงจากวันเก่าๆของทั้งสอง ท่าทีที่ไท่ซางมีต่อตนไม่น่าจะเลวร้ายไปกว่านี้นัก

แต่เมื่อดูจากสถานการณ์สองวันที่ผ่านมานี้ สุดท้ายหยูหลิงฮุ่ยก็ประเมินสถานะตัวเองในใจไท่ซางสูงเกินไป

“ไท่ซาง ภรรยาแกล่ะ?ทำไมเธอไม่มากพร้อมแก?“หลี่ต๋าคางมองด้านหลังไท่ซางพลางถามขึ้นด้วยความสงสัย

สามารถพูดได้ว่าเรื่องของไท่ซางกับหยูหลิงฮุ่ยรู้กันทั้งสถานตากอากาศ อีกทั้งพวกเขายังเรียกหยูหลิงฮุ่ยว่าภรรยาของไท่ซางขึ้นมาเองด้วย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท