NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1337 วางแผน

บทที่ 1337 วางแผน

ในเรื่องของความรู้สึก ไท่ซางเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางมาโดยตลอด อะไรที่เขาชอบ ต่อให้แย่ในสายตาของคนอื่นมากแค่ไหน สำหรับเขาก็เป็นของวิเศษ

หากเขาเบื่อ ขยาดแล้ว ก็สูญเสียคุณค่าไปอย่างสิ้นเชิง

ทีแรกที่หยูหลิงฮุ่ยเพิ่งอยู่กับไท่ซาง ทั้งคู่ก็หวานแหวนอยู่ระยะหนึ่ง แต่ไม่นานไท่ซางก็เบื่อหน่ายในตัวหยูหลิงฮุ่ย จึงให้เงินเธอไปก้อนหนึ่ง ทั้งคู่จึงไม่ได้ติดต่อกันอีก

หากไม่ใช่เพราะที่บ้านเกิดเรื่องขึ้น ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่มีทางมาหาไท่ซางแน่

“พอได้แล้ว เราอย่าพูดถึงเขาอีกเลย หลิงฮุ่ย เธอเหนื่อยไหม? ฉันจะประคองเธอขึ้นไปพักผ่อนข้างบน”

ฉินวี่เฟยเห็นทีท่าหัวใจสลายของหยูหลิงฮุ่ย รู้สึกสงสารเธอ พลันถอนหายใจเล็กน้อย เปลี่ยนบทสนทนา ไม่พูดถึงเรื่องที่ทำให้เสียใจอีก

“อืม” หยูหลิงฮุ่ยยิ้มให้กับฉินวี่เฟย ก่อนขึ้นไปชั้นบนอย่างว่าง่าย

คนท้องหลับง่าย แม้ตอนนี้จะเพียงสามทุ่มเท่านั้น สำหรับคนอื่นชีวิตในยามค่ำคืนเพิ่งจะเริ่มขึ้น แต่ปกติในเวลานี้หยูหลิงฮุ่ยได้หลับไปแล้ว

วันนี้เพราะเหล่าหลี่ฝางกลับมา สถานการณ์พิเศษ หยูหลิงฮุ่ยถึงได้ยังไม่นอน

ผ่านสถานการณ์สำคัญพร้อมกับผ่านการร้องไห้อย่างหนัก หยูหลิงฮุ่ยหลับทันทีที่หัวถึงหมอน หยางฉงและฉินวี่เฟยช่วยเธอห่มผ้าอย่างเอาใจใส่ หลังปิดหน้าต่างเรียบร้อยแล้วถึงได้เดินออกจากห้องไปอย่างเงียบเชียบ

“โอ๊ย พี่วี่เฟย ฉันรู้สึกไม่คุ้มแทนพี่หลิงฮุ่ยเลย ไท่ซางไอ้ผู้ชายสารเลวนั่น ภรรยาที่ดีขนาดนี้แต่กลับไม่รู้จักรักษาเอาไว้ หากไม่ใช่เพราะฉันสู้เขาไม่ได้ ฉันจะอัดเขาให้เละเลย!”

“ทำไมเขาถึงได้พูดแบบนั้น! ผู้หญิงคลอดลูกเป็นเรื่องทรมานแทบตาย แต่เขากลับบอกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่! ไม่ได้ ฉันจะโทรหาพี่หลี่ฝาง ให้เขาสั่งสอนไท่ซางผู้ชายสารเลวนั่นแทนฉัน”

หยางฉงกล่าวอย่างโมโหก่นด่าความไม่ยุติธรรมแทนหยูหลิงฮุ่ย ถึงขั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาคิดที่จะโทรหาหลี่ฝาง

ฉินวี่เฟยที่อยู่อีกด้านควบคุมตัวเองได้ดี เอื้อมมือรั้งหยางฉงเอาไว้ ส่ายหน้าเบาๆ

“สั่งสอนเขาแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นมาหรือไง? เรื่องนี้เราต้องแก้ปัญหาจากเหตุต้นถึงจะถูก”

การหักห้ามของฉินวี่เฟย หยางฉงไม่พอใจ คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน

“ถ้างั้นพี่วี่เฟยคิดว่าควรจะทำยังไง? ไม่สั่งสอนผู้ชายสารเลวอย่างไท่ซางฉันโมโห!”

เมื่อเห็นหยางฉงโกรธจนแก้มบูด ฉินวี่เฟยฉายแววเจ้าเล่ห์

“การที่ไท่ซางทำตัวแบบนี้กับหยูหลิงฮุ่ย ก็เพราะหยูหลิงฮุ่ยชอบเขาไม่ใช่หรือไง? คุณน้อง เธอต้องรู้ว่าผู้ชายเป็นพวกมักมาก บางครั้ง เรายิ่งเป็นฝ่ายเข้าหาเขายิ่งไม่เห็นค่า”

“จัดการกับคนอย่างไท่ซาง ต้องใช้แผนทำอย่างที่เขาทำ เขาผู้หญิงเยอะไม่ใช่หรือไง? เขาไม่แคร์หลิงฮุ่ยไม่ใช่หรือไง? ก็ได้ เราก็ให้หลิงฮุ่ยไปอยู่กับคนอื่นสิ”

หลังจากที่หยางฉงได้บินประโยคของฉินวี่เฟย สายตาประกายขึ้นมา ตบหัวของตัวเอง กล่าวอย่างตื่นเต้น

“ใช่สิ! ทำไมฉันถึงคิดไม่ได้ พี่หลิงฮุ่ยเธอหุ่นดี หน้าตาสวย ไท่ซางนอกจากความสามารถเหนือหน่อย ยังมีอะไรดีอีก?”

“ฉันว่านะ ไท่ซางไม่คู่ควรกับหลิงฮุ่ยแม้แต่น้อย เขาไม่สนใจก็ดี พรุ่งนี้ฉันจะจัดการให้พี่หลิงฮุ่ยไปดูตัว หาคนที่มีเงินให้กับเธอ ทั้งหล่อและรักเดียวด้วย!”

ว่าแล้วก็ลงมือทันที เมื่อนึกถึงแผนการนี้หยางฉงลากฉินวี่เฟยเพื่อเลือกคู่ให้กับเธอทันที

ทั้งคู่เลือกอยู่ที่ห้องอยู่นานสองนาน ในที่สุดก็ได้สามสี่คนที่พอใจ

“พี่วี่เฟย ฉันว่าผู้ชายที่ชื่อจ้าวซานไม่เลวเลย หน้าตาดี ที่บ้านมีฐานะ ตอนนี้ให้คนที่สืบเรื่องราวชีวิตส่วนตัวและเรื่องความรักก็พอแล้ว”

“แล้วก็คุณชายเล็กของตระกูลหลี่หลี่เฟิงอะไรนั่น เหมาะกับพี่หลิงฮุ่ยดี ที่สำคัญที่บ้านเขาเป็นตระกูลนักรบ ไม่ต้องกลัวไท่ซาง แล้วก็ๆ จางต๋านี่ การศึกษาสูง หน้าตาดี มีเงิน!”

“สามคนนี้ถือว่ามีฐานะที่ดีในเมืองตงไห่ พรุ่งนี้ฉันจะให้ราฟาเอลไปสืบเรื่องของเขา เลือกคนที่เหมาะสมที่สุด ให้เขากับพี่หลิงฮุ่ยทำความรู้จักกันก่อน”

หยางฉงจ้องมองประวัติของเหล่าคุณชายมีฐานะในมือของตนเอง พยักหน้าอย่างพึงพอใจ

ตอนนี้ทุกอย่างเตรียมพร้อม เหลือเพียงแค่ปฏิบัติการ

“เธอนี่นะ อย่าเพิ่งดีใจไป แม้หลิงฮุ่ยฐานะเธอไม่แย่ แต่เธอเป็นคุณแม่ที่ไม่ได้แต่งงาน ยากที่จะรับประกันว่าคุณชายฐานะดีจะไม่ถือ แล้วอีกอย่าง เรื่องของความรู้สึก หลิงฮุ่ยต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง”

“เราก็ได้แค่คิดหาวิธีช่วยเธอ ส่วนจะทำแบบนี้หรือไม่ ต้องให้หลิงฮุ่ยเป็นคนเลือกเอง”

เมื่อจ้องมองหยางฉงที่ดีอกดีใจ ฉินวี่เฟยกล่าวอย่างไร้หนทาง

ไม่ใช่เพราะเธอตั้งใจอยากทำให้หยางฉงหมดอารมณ์ ในใจหยูหลิงฮุ่ยมีไท่ซาง หากเธอไม่ยอมใกล้ชิดผู้ชายคนอื่น ไม่ว่าคนอื่นพูดยังไง วางแผนดีแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์

“วางใจเถอะ ทางด้านพี่หลิงฮุ่ยฉันจัดการเอง ฉันจะบอกเธอว่า เราจะใช้วิธีนี้ลองใจไท่ซาง ดูว่าไท่ซางมีความรู้สึกต่อเธอไหม ไม่แน่ ลองไปลองมา พี่หลิงฮุ่ยก็อาจจะเปลี่ยนใจไปรักคนอื่น”

หยางฉงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ ตอนนี้เธออยากจะให้หยูหลิงฮุ่ยอยู่กับคนอื่นเต็มอก เพราะคำพูดของไท่ซางในคืนนี้ หยางฉงก็ไม่ยอมให้หยูหลิงฮุ่ยอยู่กับไท่ซาง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท