NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 1392 บาดเจ็บ

บทที่ 1392 บาดเจ็บ

หลี่ฝางนั้นเหมือนจะถูกผู้หญิงคนนี้โกรธเป็นอย่างมาก ยังดีที่เขาหยุดสัตว์ประหลาดตัวนี้ไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นตอนนี้ท่านนายพลหญิงคงจะกลายเป็นศพไปแล้ว

ไม่รู้จริงๆว่าสมองของหญิงคนนี้มีอะไรอยู่ ถึงไม่รู้จักหลบซ่อน แต่กลับยืนโง่อยู่ที่เดิม

“ฉัน……ขอโทษ……” ท่านนายพลหญิงที่อยากจะบอกว่าตัวเองเป็นห่วงเขา ถึงได้เรียกแบบนั้น แต่เมื่อเห็นแววตาที่โกรธเคืองของหลี่ฝาง เธอก็ไม่กล้าอธิบาย เลยทำได้เพียงก้มหน้าลงขอโทษเสียงเบา

เมื่อเห็นท่าทีของทั้งสอง เจียเหอก็อิจฉา เขาคิดไม่ถึงเลยว่าในสถานการณ์แบบนี้ ท่านนายพลหญิงยังจะมาสนิทสนมใกล้ชิดกับหลี่ฝางแบบนี้ได้อีก

“ไอ้หมาทั้งคู่!ฉันจะฆ่าพวกแก!พวกแกไปตายซะ!” ความอิจฉาในใจ ความเกลียดชัง แล้วก็ความรักที่ไม่อาจได้มามันทำให้เจียเหอเสียสติไป จนคว้าเครื่องควบคุมในมือของพ่อเขา จากนั้นก็อดให้ทำงานอย่างบ้าคลั่ง

ถ่อป่าที่หยุดไปแล้วในตอนแรกก็ขยับอีกครั้ง แววตาก็มีความอาฆาตเกิดขึ้นอีกครั้ง

เมื่อครู่หลี่ฝางสังเกตเห็นความไม่ปกติของพวกเจียเหอ เลยเดาว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ถูกพวกเขาควบคุมหรือเปล่า แต่เมื่อได้เห็นตอนนี้ ก็เป็นไปตามคาดจริงๆด้วย

เขากอดท่านนายพลหญิงขึ้น ก่อนจะพาเธอไปที่ที่ปลอดภัย

“คุณซ่อนตัวให้ดี แล้วอย่าออกมาอีก” หลี่ฝางกำชับท่านนายพลหญิงเสียงเย็นชา จากนั้นก็กลับไปที่สนามต่อสู้

เขาสู้กับถ่อป่า พลางคิดว่าจะเอาเครื่องควบคุมนั้นออกมาจากมือของเจียเหอได้อย่างไร

“เข้ามาสิ!ไอ้ไร้ประโยชน์!ฆ่าเขาไม่ตายด้วยซ้ำ!ไอ้ไร้ประโยชน์!กัดเขาสิ!กัดเขา!”

เมื่อเจียเหอเห็นว่าถ่อป่าจับหลี่ฝางไม่ได้สักที ก็ยิ่งตื่นตัวเข้าไปใหญ่ เลยเคาะเครื่องควบคุมอย่างบ้าคลั่ง

ในตอนนี้ถ่อป่ามีจิตของตัวเองเกิดขึ้นแล้ว แต่เพราะคนญี่ปุ่นได้ปลูกชิปเอาไว้ในหัวของมัน เพื่อคุมร่างกายของมันอีกที มันเลยได้แต่ฟังคำสั่งจากคนคุมเท่านั้น

เมื่อถูกไก่อ่อนอย่างเจียเหอควบคุม ในใจของถ่อป่าเลยกลั้นความอึดอัดเอาไว้ ในขณะเดียวกันก็ระเบิดออกมา

เลยใช้กรงเล็กด้านหน้าทั้งสองฟาดไปมา ก่อนจะเกิดฝุ่นดินคลุ้งขึ้นมา มันทำให้พวกเจียเหอมองอะไรไม่ชัด

“แกมันไร้ประโยชน์แกทำอะไรน่ะ!ฉันให้แกทำร้ายหลี่ฝาง!แกมาตะปบดินทำไม!”

เจียเหอไอเพราะฝุ่นพวกนั้น หลี่ฝางตาสว่างเป็นประกาย เพราะรู้ว่าโอกาสมาถึงแล้ว

เขาใช้แรงสุดกำลัง ก่อนจะพุ่งมาปรากฏตัวตรงหน้าเจียเหอ ยังไม่ทันจะรอให้เจียเหอรู้ตัว เขาก็แย่งเครื่องควบคุมมาจากมือได้แล้ว

“เอาคืนฉันมานะ!” เครื่องควบคุมอยู่ในมือของหลี่ฝางแล้ว เจียเหอเลยร้อนใจ ก่อนจะยื่นมือออกไปแย่งมา หลี่ฝางก็ตบไปที่หน้าอกของเขา จนเขากระเด็นลอยไป

“เจียเหอ!” ตาของพ่อเจียเหอแทบจะหลุดออกจากเบ้า ก่อนจะตะโกนออกมา แล้วรีบเข้าไปรับเขาเอาไว้

แต่แดนนักรบเล็กๆอย่างเขา จะรับแรงฝ่ามือของหลี่ฝางได้อย่างไร เลยเห็นเพียงเจียเหอซบอยู่ในอ้อมกอดของพ่อเขา พลางกระอักเลือดออกมามากมาย สีหน้าก็ซีดเซียวจนน่ากลัว

ในตาของเขานั้นเริ่มไม่มีแวว เจียเหอเริ่มกลัวความตายที่คืบคลานเข้ามาหา จากนั้นก็ใช้สองมือจับเสื้อพ่อของเขาเอาไว้ แล้วพูดเสียงสั่น

“ท่านพ่อ ฉัน ฉันไม่อยากตาย……”

ทุกคำที่พูดออกมานั้น มีเลือดทะลักออกมาจากปากของเจียเหอมากมาย แถมยังมีเศษเครื่องในออกมาด้วย

พ่อของเขาพยายามปิดปากของเจียเหอเอาไว้อย่างสุดกำลัง เพื่อไม่ให้เลือดออกมาจากปากเขามากกว่านี้ แต่ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว ไม่ว่าทำอะไรก็ต้องตายอยู่ดี

“เจียเหอ!เข้มแข็งไว้!ฉันจะไม่ให้คุณต้องตาย!เข้มแข็งไว้นะ!”

พ่อของเจียเหอรับเรื่องตรงหน้าไม่ได้ เลยโอบเจียเหอไว้ในอ้อมกอดไม่ยอมปล่อย พลางมีน้ำตาไหลอาบหน้า

“ท่านพ่อ……ท่าน……ท่านพ่อ……”

เจียเหอนั้นแทบจะดึงเสื้อของพ่อเขาขาดวิ่น ดวงตาทั้งสองก็จ้องเขม็ง ด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะตะโกนเรียกพ่อของเขาเสียงดัง สุดท้ายก็เอียงคอ ด้วยความไร้เรี่ยวแรง

“เจียเหอ!”

เมื่อมองลูกคนเดียวของตัวเองตายไปต่อหน้าต่อตา พ่อของเจียเหอก็เหมือนแก่ไปสิบปี ผมที่ดำอยู่นั้นก็ค่อยๆมีผมขาวขึ้นมาทันที

ท่านนายพลหญิงมองเจียเหอที่ตายอย่างน่าเวทนา ในตาก็มีความทนมองไม่ได้ แม้เธอจะไม่ได้รักเจียเหอ แต่ถึงอย่างไรก็อยู่กับเธอมาหลายปี จะบอกว่าไม่มีความรู้สึกอะไรเลยก็ไม่ได้

หลี่ฝางนั้นไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากมาย ก่อนจะปรายตามองพ่อและเจียเหอเล็กน้อย จากนั้นจึงเริ่มดูการใช้งานของเครื่องควบคุมนี้

สำหรับหลี่ฝางแล้ว การตายของเจียเหอนั้นเป็นกรรมตามสนองของเขาเอง ถ้าเขาไม่กวนประสาทตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตัวเองคงไม่ทำให้เขาถึงตาย

เมื่อมองปุ่มแดงๆของเครื่องควบคุมนั้น หลี่ฝางก็กดลงไป ถ่อป่าที่บ้าคลั่งก็นิ่งลง ก่อนจะนั่งอย่างเชื่องบนพื้น เหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงตัวยักษ์ตัวหนึ่งเท่านั้น

บนนั้นส่วนมากเป็นภาษาญี่ปุ่น หลี่ฝางไม่ได้เข้าใจมากมาย ตอนที่เตรียมจะเอาให้ท่านนายพลหญิงอ่านนั้น จู่ๆก็ได้ยินเสียงร้องของท่านนายพลหญิง

เมื่อหันไปมอง ก็พบว่าพ่อของเจียเหอกำลังเอาดาบของนักสู้มากดไว้ที่คอของท่านนายพลหญิง

“แกตายไปพร้อมกับลูกฉันเถอะ!”

พ่อของเจียเหอในตอนนี้สติไม่ดีแล้ว ใบหน้านั้นมีความบ้าคลั่งเป็นอย่างมาก เมื่อเสียลูกรักไปเขาเลยไม่ปกติแล้ว แถมท่าทียังบ้าคลั่งจนเทียบไม่ติด

แม้พละกำลังของท่านนายพลหญิงจะไม่อ่อนแอ แต่เมื่อได้เจอคนบ้าคลั่งสุดพลังแล้ว เธอก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร

หลี่ฝางม่านตาหดลง ร่างกายนั้นก็ตอบสนองไปก่อนสมองแล้ว เลยเข้าไปอยู่ต่อหน้าพ่อของเจียเหอ แล้วก็จับดาบนั้นไว้ด้วยมือเปล่า

“หลี่ฝาง!”

ดาบนักรบอันแหลมคมนั้นบาดฝ่ามือของหลี่ฝางทันที จากนั้นก็มีเลือดสดไหลออกมา ท่านนายพลหญิงเห็นดังนั้นก็ปวดใจเป็นอย่างมาก เธอยอมให้ดาบนักรบมันบาดตัวเองดีกว่า เพราะไม่อยากให้หลี่ฝางเจ็บเลยแม้แต่น้อย

แววตานิ่งตึงไปในทันที ท่านนายพลหญิงหมุนตัว ไปตบหน้าผากของพ่อของเจียเหอ แต่ก็ได้ยินเพียงแค่เสียงตบเสียงใส หน้าผากของพ่อของเจียเหอยุบเข้าไป แต่ตัวไม่ขยับเลย

ฝ่ามือนี้ ท่านนายพลหญิงโจมตีขนกะโหลกเขาแหลกสลาย มันทำให้พ่อของเจียเหอตายคาที่

เมื่อเห็นหน้าของพ่อเจียเหอดังนั้นแล้ว หลี่ฝางก็วางใจ ก่อนจะเอาดาบนักรบในมือนั้นวางลง

“หลี่ฝาง คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?” หลังจากที่จัดการพ่อของเจียเหอแล้ว ท่านนายพลหญิงก็จับมือของหลี่ฝางด้วยความเห็นใจ ก่อนจะดูแผลให้เขา

ก็เห็นเพียงมือซ้ายของหลี่ฝางนั้นมีแผลบาดลึกเป็นอย่างมาก จนเนื้อมันปลิ้นออกมา มือทั้งฝ่ามือแทบจะขาดออก เลือกนั้นก็ไหลออกมาไม่หยุด ท่านนายพลหญิงเลยมีดวงตาแดงก่ำ

“ไป!เราไปโรงพยาบาลกัน!” ท่านนายพลหญิงจะพาหลี่ฝางไปโรงพยาบาล แต่หลี่ฝางกลับสะบัดมือเธอออกอย่างเย็นชา

“นี่มันเรื่องของฉัน คุณไม่ต้องมายุ่งให้มาก”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท