บทที่ 149
หอกประหารเทพ
เมื่อเห็นเย่เย่พุ่งเข้าใส่กลุ่มโจร พวกเขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนตามสนับสนุนเย่เย่อย่างไม่มีทางเลือก
“ฆ่ามันให้หมด จะไม่ให้ใครหน้าไหนมาขวางได้ทั้งนั้น” โจวหลางที่เห็นท่าทีท้อแท้ของพรรคพวก เขาชูดาบของเขาขึ้น และพูดปลุกใจพรรคพวกด้วยเสียงแผดดัง ก่อนลงมือฟาดฟันพวกโจรที่ล้อมเขาอยู่ ชายหนุ่มหญิงสาวที่ติดตามเขามาก็ตะโกนอย่างสุดเสียงเพื่อสลัดความกลัวของตัวเองทิ้งและเข้าต่อสู้กับกลุ่มโจรอย่างสุดความสามารถ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฉินเซียนและสองพี่น้องที่รวบรวมความกล้า เร่งม้าเข้าสนับสนุนเย่เย่ที่อยู่แนวหน้าอย่างไม่ลดละ
หวงซ่งฉินที่มองดูสมรภูมิจากในระยะไกล เมื่อเริ่มเห็นท่าไม่ดีเขาจึงต้องจำใจทำในสิ่งที่ขัดกับหลักการของตน เขาควบม้าชักดาบยาวเข้าร่วมสนามรบไปพร้อมกับจางเฉิงกวง
เย่เย่ที่เห็นผู้นำทั้งสองควบม้าตรงดิ่งมาหาเขาโดยพร้อมเพรียงกัน ก็ซัดโจรลูกสมุนที่อยู่หน้าเขาออก และใช้กำปั้นทั้งสองข้างชกไปที่สองหัวโจกด้วยความรวดเร็ว
เปรี้ยงงงงงงงง
ทั้งจางเฉิงกวง และหวงซ่งฉิงถูกอัดกระเด็นตกลงจากอานม้า ความมั่นใจที่ล้นปรี่กลับเหือดแห้งลงในพริบตา แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์ก็บีบบังคับให้ต้องสู้ ทั้งสองจึงลุกขึ้นมองเย่เย่ด้วยสายตาที่ไม่ยอมแพ้ และเริ่มงัดกระบวนท่าออกมา
แต่ทว่าถึงแม้เย่เย่จะดึงพลังออกมาแค่ระดับเทพยุทธ์ แต่ด้วยประสบการณ์การต่อสู้ที่สั่งสมมาแรมปี ทำให้การโจมตีของสองโจรกระจอกไม่ระแคะระคายเขาเลยแม้แต่น้อย
“พอเถอะ ข้ายอมแพ้แล้ว!” จางเฉิงกวงที่ถูกซัดจนหมดสภาพ เขาก็พูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบาจากความอ่อนแรง แม้ว่าจะไม่เต็มใจนักแต่หัวโจกผู้บ้าเลือดก็รู้ดีว่าขืนสู้ต่อไปก็มีแต่เสียกับเสีย
หวงซ่งฉินและพรรคพวกที่ยังเหลือรอดเมื่อได้ยินดังนั้นก็ถอยร่นออกไป ถึงแม้การปล้นจะล้มเหลวแต่สีหน้าของพวกเขากลับโล่งใจที่การนองเลือดอย่างไร้เหตุผลนี้จะสิ้นสุดลงเสียที
เมื่อเห็นพวกโจรถอยออกไป โจวหลางและพรรคพวกที่โชกชุ่มไปด้วยเลือดก็เก็บอาวุธเข้าฝัก พวกเขาเองก็สูญเสียมิตรสหายไปไม่ใช่น้อย ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะเคียดแค้นกลุ่มโจรมากแค่ไหนแต่ก็ไม่อยากสู้ต่อไปอีกแล้ว
“ในเมื่อพวกเจ้าเป็นคนเริ่ม แล้วพวกเจ้าคิดจะจบเรื่องง่ายๆอย่างงั้นรึ!?” เย่เย่กล่าวขึ้นด้วยความเย็นชา
“พวกเจ้าจะต้องชดใช้!”
“เลือดต้องล้างด้วยเลือด!”
คนหนุ่มสาวบางคนที่ยังคงเดือดดาลก็พูดสนับสนุนเย่เย่ พวกเขาไม่ยอมปล่อยให้กลุ่มโจรหนีไปได้โดยง่าย
ทันใดนั้นเอง หัวของโจรคิ้วหนาก็ถูกสะบั้นลง ร่างที่ไร้ศีรษะของเขาล้มลงทั้งยืน เลือดสาดกระเซ็นใส่ใบหน้าของ หวงซ่งฉิงที่ยืนอยู่ข้างเขา
ฉับบ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด”
สีหน้าของทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นก็ซีดลงด้วยความตกใจถึงขีดสุด หญิงสาวบางคนถึงกับกรีดร้องออกมา
“พอใจรึยังล่ะ? ถ้ายังไม่พอใจให้ข้าฆ่าอีกก็ได้นะ” จางเฉิงกวงผู้โหดเหี้ยมกล่าวด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย เขาใช้โอกาสนี้บั่นคอลูกน้องของหวงซ่งฉิงซึ่งเป็นปรปักษ์ของเขาอย่างไม่ลังเลเพื่อเป็นการไถ่โทษแก่เย่เย่และพรรคพวก
“จางเฉิงกวง ไอ้สารเลว!” หวงซ่งฉินทนไม่ได้ที่เห็นลูกน้องของเขาถูกฆ่าไปต่อหน้าต่อตา เขาชักดาบของเขาจี้ที่คอหอยของชายหัวโจก
“หวงซ่งฉิน เจ้ามักขัดคำสั่งของข้ามาโดยตลอด เพื่อประโยชน์ของกลุ่ม จงตายซะเถอะ!”
หวงซ่งฉินที่ไม่เคยฆ่าใครมาก่อน เขาก็ไม่กล้าฆ่า จางเฉิงกวง ทำให้โอกาสเพียงหนึ่งเดียวของเขาหลุดลอยไป จางเฉิงกวงที่สบโอกาสดังนั้นก็เผยพลังที่แท้จริงของเขาออกมา
เคร้งงงง
ในจังหวะหน้าสิ่วหน้าขวานนั้นเอง เย่เย่ก็ได้เอาตัวเข้าขวางระหว่างพวกเขาทั้งสองเอาไว้ ดาบของจางเฉิงกวงได้กระทบกับผิวหนังที่แข็งตัวของเย่เย่จนเกิดเสียงดังกังวาน โจรหัวโจกและพรรคพวกของเย่เย่ก็ตกใจกับการตัดสินใจอันบ้าบิ่นของเขา มีเพียงหวงซ่งฉินเท่านั้นที่มองเย่เย่ด้วยความรู้สึกขอบคุณ หากเขาไม่ได้เย่เย่เขาคงตายไปแล้ว
“ท่านเย่ ข้าว่าเรารีบมุ่งหน้าไปหลิงเฉิงกันเถอะ! เรื่องของพวกเขาก็ปล่อยให้พวกเขาสะสางกันเอง!” โจวหลางที่เห็นการกระทำอันไร้ความหมายของเย่เย่ก็พูดขึ้นอย่างละเหี่ยใจ
แต่ทว่าเย่เย่กลับส่ายหน้าปฏิเสธด้วยท่าทีที่ขึงขัง จางเฉิงกวงเห็นดังนั้นก็หัวร่อออกมาดังลั่นให้กับความหยิ่งผยองเกินตัวของเย่เย่
“ฮ่าฮ่าฮ่า ในเมื่อเจ้าอยากตายนัก ข้าจะทำให้เจ้าได้ตายสมใจอยาก!”
“กระบวนท่าหอกประหารเทพ!” จางเฉิงกวงได้เผยไพ่ตายลับออกมา ใบมีดที่ยาวนับหมื่นลี้จำนวนนับไม่ถ้วนก็โพยพุ่งสะบั้นกลีบเมฆจนขาดวิ่นจากท้องฟ้าพุ่งเข้าใส่ศัตรูที่อยู่เบื้องหน้าของเขาอย่างไร้ความปรานี…