บทที่165ไอ้หมอนี่เป็นใคร
ย่านธุรกิจเมืองเจียงหลิง ไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน ล้วนแต่มีคนพลุกพล่านไปมา ที่ของที่นี่ ทุกนิ้วทุกตารางของที่นี่ยากที่จะบรรยายมูลค่าของที่ออก
หลินหยางพาหนานกงหยูนมาถึงร้านขายเครื่องกลทางการแพทย์ และเดินเข้าไป
ดูไปรอบนึง หลินหยางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เครื่องมือทางการแพทย์ในนี้ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ของตะวันตก เครื่องมือทางการแพทย์ของแพทย์แผนจีนก็กินพื้นที่แค่มุมๆนึงเฉยๆ
ถึงแม้เครื่องกลของแพทย์แผนจีนน้อยมาก แต่ก็ยังมีลูกค้าอุดหนุนอีกเช่นเคย ยังมีคนสามคนกำลังถือสากยามองดูอย่างไม่หยุด
ใช้สายตากวาดทั้งสามทีนึง ผู้สูงอายุท่านนึงและวัยกลางคนสองคน ทั้งสามมีจุดเด่นอย่างนึง นั่นก็คือเลือดลมในตัวดีมาก ระหว่างขยับแขนขยับขาเผยให้เห็นพลานุภาพที่น่าเกรงขามและความสามารถ
แววตานิ่งไปครู่นึง แอบเดาอยู่ลับๆหรือว่าจะเป็นทหาร?
จมูกสูดดมเบาๆ กลิ่นยาอ่อนๆโชยมา หลินหยางก็ใจหวั่นไหวอีก ยานี้ชัดเจนว่าคือกลิ่นหอมของยาแพทย์แผนจีนต่างๆนาๆที่ตกตะกอนอยู่นาน ถ้าไม่มีระยะเวลาสิบปีขึ้นไป ไม่มีทางปรากฏอยู่บนตัวของคนๆนึงด้วยซ้ำ สายตามองผู้สูงอายุทีนึง หลินหยางรู้ว่าคนๆนี้ก็น่าจะเป็นแพทย์แผนจีนเหมือนกัน
ส่วนอีกสองคนที่ติดตามอยู่ข้างกายของผู้สูงอายุท่านนี้ บางทีอาจจะแค่ติดตาม หน้าตาที่มองอุปกรณ์ต่างๆของแพทย์แผนจีนดูเหมือนไม่มีความสนใจเลยสักนิด
“เอาหม้อต้มยาใบนึง เอาใบใหญ่หน่อยนะครับ” หลินหยางพูดกับพนักงานขายตรงเคาน์เตอร์
มีลูกค้ามา ทันใดนั้นใบหน้าของพนักงานสาวขายได้เผยรอยยิ้มออกมาทันที เธอได้พูดคำว่ารอสักครู่ จากนั้นก็ได้หยิบหม้อต้มยาออกมาจากตู้
หม้อต้มยานี้ต่างกับหม้อต้มยาเหล็กธรรมดา โครงสร้างของหม้อต้มยาซับซ้อนมาก บนหม้อต้มยาขรุขระไม่เรียบ ในหม้อสามารถแยกเป็นหลายช่วงเวลา
แต่ปกติโดยทั่วไปหม้อต้มยาไม่มีใบใหญ่ อย่างเช่นใบที่หลินหยางถืออยู่ในมือนี้ ก็ใหญ่เท่าหม้อหุงข้าวเล็กใบนึงเฉยๆ มีความแตกต่างไม่น้อยกับที่หลินหยางเคยจินตนาการเอาไว้
“มีใบใหญ่กว่านี้มั้ยครับ?” หลินหยางถาม
“นี่เป็นหม้อต้มยาที่ไซส์ใหญ่ที่สุดแล้วค่ะ ถ้าคุณผู้ชายต้องการ จ่ายค่ามัดจำก็สามารถสั่งทำได้เลยค่ะ” พนักงานขายพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ
“หม้อยาใบนี้ไม่เล็กแล้วนะ ถ้าพ่อหนุ่มดูถูกว่าหม้อใบนี้เล็ก สามารถไปซื้อหม้อใบใหญ่ที่ร้านโดยตรงได้นะ” นาทีนี้ผู้สูงอายุที่อยู่ข้างๆเงยหน้ามองหลินหยาง
หลินหยางก็ได้มองผู้สูงอายุทีนึง ใบหน้าของผู้สูงอายุยังถือว่ามีความเมตตาอยู่ สายตาแวววาวมีพลัง หลินหยางกำลังจะถอนหายใจว่าผู้สูงอายุกระปรี้กระเปร่าดี หรี่ตาเล็กน้อย
คนอื่นดูผู้สูงอายุท่านนี้อาจจะรู้สึกร่างกายแข็งแรงดี ดูกระปรี้กระเปร่า แต่หลินหยางมองคนๆนี้ ภายใต้สีหน้าที่มีเลือดฝาด มีความหม่นหมองเสี้ยวนึง สุดท้ายก็ปิดบังสายตาของหลินหยางไม่ได้
“ฮ่าๆ หม้อใบใหญ่ของร้านขายเครื่องมือเครื่องใช้ใช้ไม่สะดวก หม้อต้มยาใช้แล้วสบายใจกว่าเยอะ อย่างน้อยก็สามารถรักษาฤทธิ์ยาได้ครับ” หลินหยางตอบเรื่อยเปื่อยไปคำนึง
“คุณอยากได้หม้อใหญ่ขนาดไหน?” ผู้สูงถามอย่างไม่ใส่ใจ
“ใหญ่กว่าหม้อใบนี้สักสามถึงห้าเท่าจะดีที่สุดครับ” หลินหยางพูดราบเรียบ
“พู!” ผู้สูงอายุท่านนั้นได้ยินแล้วเกือบจะกระอักเลือด จ้องหลินหยางอย่างไม่สบอารมณ์ทีนึงแล้วพูด: “หม้อใหญ่ขนาดนั้น คุณอยากต้มยาครั้งนึงมากเท่าไหร่? คุณสามารถโคนจนยาเข้ากันได้หรอ? โคนจนเข้ากันแล้วยังจะมีฤทธิ์ยาอะไรอีก? จริงๆเลย”
หลังจากหลินหยางได้ยินแล้วยิ้มเล็กน้อย ตะแก่คนนี้พูดมีเหตุผล แพทย์แผนจีนทั่วไป ไม่ได้ใช้หม้อต้มยาใหญ่มากด้วยซ้ำ นอกจากล้วนเหมือนตัวเองที่ได้ฝึกฝนเจินชี่ สะดวกควบคุมไฟของยาต้ม
“คุณผู้ชายท่านนี้คะ คุณจะปรุงยาใช่หรือเปล่าคะ? เตาต้มยาเอามั้ยคะ?” พนักงานขายถามเสียงเบา จากนั้นคิดอะไรได้ก็พูดเสริม: “แต่แค่ราคาแพงไปหน่อย คุณสั่งทำหม้อยาใบนึงก็ได้ค่ะ”
คนพูดไม่ได้ตั้งใจแต่คนฟังกลับจริงจัง ถึงแม้เขาไม่เคยใช้เตาต้มยาแต่สิ่งที่หนังสือโบราณจดบันทึกไว้ รู้สึกเลื่อมใสกับสิ่งนี้มาก สันนิษฐานว่าปรุงยาก็น่าจะได้ผลมาก
ตามการจดบันทึกของหนังสือโบราณ แพทย์สมัยโบราณ ระดับเซียนถึงจะใช้เตาต้มยาอย่างเช่นไท้เสียงเหล่ากุง ในเหล่าเซียนที่มีความสามารถในการปรุงยา เขาก็ใช้เตาต้มยา
“อ้อ ไม่รู้หน้าตาเป็นยังไง? ขอดูหน่อยได้มั้ยครับ” หลินหยางถามด้วยความสนใจ
“อยู่ข้างในนี่เองค่ะ คุณผู้ชายเชิญมากับฉันค่ะ อาวุโสท่านนี้ คุณดูก่อนนะคะว่ายังต้องการอะไรอีก ดิฉันเดี๋ยวเดียวก็กลับค่ะ ” พนักงานขายพูดด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เป็นไร ตะแก่อย่างฉันไปดูด้วยก็ได้” ดูเหมือนผู้สูงอายุก็มีความสนใจ ได้เสนอออกมาโดยตรงว่าจะไปด้วย
ห้างขายเครื่องกลนี้ไม่เล็ก เดินไปหลายรอบ ถึงหยุดลงที่มุมๆนึง เตาตัวนึงที่สูงประมาณสองเมตร นั่งเงียบๆอยู่ตรงนั้น
ด้านนอกของเตาต้มยาแกะสลักรูปดอกไม้ที่มีวินัยมาก บนตำแหน่งเหนือใต้ออกตก แกะสลักมังกรเขียว นกยูงแดง เสือขาว เต่าดำ สัตว์เทพทั้งสี่ตามลำดับ
ส่วนด้านล่างมีขาสามขายันเอาไว้ ตั้งโชว์ไว้อย่างมั่นคง
เห็นเตาต้มยาใบนี้ หลินหยางหรี่ตาอย่างห้ามใจไม่ได้ หัวใจกระตุกแรงๆทีนึง
เขาที่เป็นผู้สืบทอดรุ่นหลังของพลังมังกรและหงส์ เซนซิทีฟกับของสิ่งของบางอย่างมาก
บนเตาต้มยานี้มีความอ่อนโยนและความเป็นศิริมงคลอ่อนๆฟุ้งกระจายอยู่ ยังไม่พูดถึงประสิทธิผลอย่างอื่น แค่พูดถึงการรักษาฤทธิ์ยา ก็มีผลลัพธ์ที่ดีมาก!
เตาต้มยานี้ ไม่ว่าจะราคาเท่าไหร่ หลินหยางเอาแน่แล้ว!
“เตาต้มยาใบนี้ราคาเท่าไหร่ครับ?” หลินหยางถาม
“หนึ่งล้าน…….ไม่ แค่เก้าแสนพอค่ะ” ดูเหมือนรู้สึกว่าตัวเองจะแจ้งราคาสูงไปหน่อย พนักงานขายได้แจ้งราคาที่ต่ำที่สุดออกมาโดยตรง
เตาต้มยานี้ก็ไม่รู้เจ้านายไปได้มาจากที่ไหน วางอยู่ที่นี่ตลอด
เพราะภายนอกดูแล้วถือว่าไม่เลว มีคนจำนวนไม่น้อยเคยมาถามราคา แต่ในคนมากมายขนาดนั้น คนที่ให้ราคาสูงสุดก็แค่หนึ่งแสนหยวน สูงกว่านี้ก็ไม่มีอีกแล้ว
“ถ้าคุณผู้ชายท่านนี้ชอบจริงๆ สามารถคุยราคากับผู้จัดการได้ค่ะ” พนักงานสาวเตือนด้วยความหวังดี
“เตาต้มยาใบนี้มีประวัติความเป็นมายังไง?” หลินหยางถาม
“ได้ยินมาว่าเป็นของสมัยราชวงศ์ชิงค่ะ รายละเอียดเฉพาะเจาะจงพวกเราก็ไม่ทราบค่ะ เจ้านายเป็นคนเอามาวางไว้ที่นี่ค่ะ” พนักงานเองก็รู้สึกงงงวยกับพวกนี้ ส่วนเรื่องสมัยราชวงศ์ชิงอะไรนั่น คาดว่าเธอก็พูดมั่วเอง
“เตาต้มยาใบนี้ดูแล้วไม่เลว พวกเราซื้อ” จู่ๆผู้สูงอายุที่ตาทมมาดูด้วยได้โดดมาพูดคำนึง ทำให้พนักงานขายที่อยู่ข้างๆสีหน้าดีใจ
“อาวุโสท่านนี้จะเอาจริงๆเหรอคะ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว เดี๋ยวจ่ายเงินพร้อมกัน” ผู้สูงอายุโบกมือยิ้ม
“ช้าก่อน เรื่องนี้ต้องดูว่าใครมาก่อนใครมาหลัง ผมยังไม่ได้บอกว่าไม่เอาเลย คุณจะขายให้คนอื่นได้ยังไง?” หลินหยางขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
ได้ยินคำพูดของหลินหยาง พนักงานขายเอ๋ออีกครั้ง ก่อนหน้านี้ตัวเองก็แต่ว่างจนไม่มีอะไรทำอยากหางานทำหน่อย ในใจไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนซื้อ
ปกติไม่มีคนอยากซื้อเลย จู่ๆวันนี้เป็นอะไร ไม่นึกเลยว่าทั้งสองต่างก็อยากซื้อ?
“ขออภัยด้วยนะคะ ฉันนึกว่าคุณไม่เอา งั้นอาวุโสท่านนี้คะ ลูกค้าคนนี้มาก่อน ต้องขออภัยจริงๆค่ะ” พนักงานขายยิ้มด้วยความรู้สึกเสียใจ
“พ่อหนุ่ม ฉันสนใจเตาต้มยานี้มาก อยู่ในมือฉัน บางทีอาจจะสามารถทำมูลค่าที่สูงกว่า
เอ่อ คุณบอกว่าจะเอาหม้อใบใหญ่หน่อยไม่ใช่เหรอ? เดี๋ยววันนี้ฉันกลับไปจะให้หม้อใบใหญ่กับคุณเลย ใหญ่กว่าที่คุณเอาก่อนหน้านี้สามเท่า” ผู้สูงอายุพูดพร้อมหัวเราะเหอะๆ
“ไม่แล้วครับ หม้อยาสามารถสั่งทำได้ เตาต้มยานี้ถ้าพลาดก็ไม่มีแล้ว คุณช่วยผมส่งไปที่ร้านซักผ้าเซียวจี้ที่ถนนต้าซีด้วย ผมรูดการ์ดครับ” หลินหยางหยิบบัตรเครดิตออกมาจากกระเป๋าตังค์อย่างไว
เห็นหลินหยางจะจ่ายตังค์ ทันใดนั้นผู้สูงอายุร้อนใจขึ้นมาทันที เดินมาขวางหลินหยางไว้อย่างไวอละพูด: “พ่อหนุ่ม ตะแก่คนนี้เอาเตาต้มยาเพราะมีประโยชน์ที่ต้องใช้ หรือเอางี๊ฉันให้คุณสองแสน คุณอย่าแย่งกับฉันเลยนะ”
“ไม่เอาครับ ท่านอาวุโส คุณอย่าแย่งกับผมเลย คุณดูผมเหมือนคนขาดเงินหรอครับ?” หลินหยางถามด้วยรอยยิ้ม
ผู้สูงอายุมองหลินหยางอย่างเคร่งขรึมทีนึง พยักหน้าและพูด: “เหมือน! หรือเอางี๊ฉันให้คุณสามแสน ไม่ คุณเสนอราคามาเถอะ”
หลินหยางได้ยินแล้วเกือบจะเป็นลม เอาบัตรเครดิตยื่นให้พนักงานขายแล้วพูด: “ยืนอึ้งอยู่ทำไม? ยังไม่รีบรูดการ์ดอีก?”
“น้องชาย คุณท่านของเราชอบเตาต้มยานี้มากจริงๆ สู้ให้เราดีกว่า น้ำใจนี้เราจะจดจำไว้” วัยกลางคนที่อยู่ด้านหลังของผู้สูงอายุได้เดินมาพูด
หลินหยางส่ายหัวเพื่อแสดงว่าไม่เอา จากนั้นก็ได้ยื่นบัตรไปให้พนักงานขาย
ในใจของพนักงานขายค่อนข้างมึนงง ของที่เหมือนซี่โครงไก่นี้ ไม่นึกเลยว่าจะถูกตัวเองขายออกไป? แถมยังมีคนสองคนมาแย่งซื้อด้วย? เหมือนตกเข้าไปในความฝัน รูดการ์ดเหมือนหุ่นยนต์ทีนึง และเอาการ์ดยื่นให้หลินหยาง
ครั้งนี้ขายเตาต้มยาออก ค่าคอมมิชชั่นของเธอต้องเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลย
“ไอ้น้องชาย ขอพูดตามตรงเลยนะ ฉันเป็นแพทย์แผนจีน มีการคิดค้นการปรุงยาจีน ถ้าสามารถได้เตาต้มยาอันนี้ บางทีอาจจะมีช่วยขับเคลื่อนแพทย์แผนจีนของเรา
ตะแก่คนนี้อายุก็ไม่น้อยแล้ว เตาอันนี้ก็ใช้ได้ไม่กี่ปีแล้ว ฉันให้ค่าเตาใบนี้หนึ่งล้านกับพ่อหนุ่ม ก็ถือว่าฉันซื้อก็แล้วกัน
ต่อไปถ้าพ่อหนุ่มอยากใช้ก็ไปเอาที่ฉัน ต่อไปถ้าฉันไม่ใช้แล้ว เตาอันนี้ก็ยังเป็นของพ่อหนุ่มอยู่ พ่อหนุ่มว่าเป็นไงบ้าง?”
หลินหยางได้ยินแล้วหัวเราะ ผู้สูงอายุท่านนี้พูดจาถือว่ามีความเกรงใจอยู่ แถมดูเหมือนมีการวิจัยทางแพทย์แผนจีนมาก แค่จุดนี้ก็ชนะใจของหลินหยางแล้ว
แต่เตาต้มยาอันนี้ หลินหยางไม่คิดจะยอมให้คนอื่น
จ้องมองผู้สูงอายุอีกครู่นึง หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้ม: “ใช้ได้ไม่กี่ปีจริงๆครับ”
หลินหยางเพิ่งพูดจบ ผู้สูงอายุท่านนั้นก็มีสีหน้าชะงักไว้ คนสองคนที่อยู่ด้านหลังได้เดินมาข้างหน้าก้าวนึง คนๆนึงพูดอย่างเย็นชา: “ไอ้น้อง พูดมั่วอะไรน่ะ?”
“ความหม่นหมองบดบังไม่อยู่แล้ว ป่วยระยะสุดท้ายแล้ว เฮ้อ~” หลินหยางถอนหายใจทีนึง ไม่สนใจคนพวกนี้อีก จากนั้นก็ได้ยกฝีเท้าเดินออกไป
“หยุด! รีบขอโทษคุณท่านเดี๋ยวนี้!” ชายกำยำตะคอกคำนึง พุ่งไปที่หลินหยางด้วยท่าทางที่น่าเกรงขาม มือข้างนึงยื่นออกไปอย่างไวและจับไหล่ของหลินหยางไว้
ความเร็วนี้รวบรัดกระชับ ชัดเจนว่าร่างกายผ่านศึกมาเป็นร้อยศึกแล้ว ถ้าเป็นคนธรรมดา ต้องถูกจับตัวไว้แน่นอน
แต่เสียดายหลินหยางไม่ใช่คนธรรมดา ไหล่ได้บิดหมุนด้วยมุมที่มหัศจรรย์ทีนึง หลบการโจมตีของชายหน้าดำกำยำย่างชาญฉลาด
หลินหยางไม่ได้หยุดอยู่ไว้ เขาได้เดินออกไปด้านนอกต่อ ชายหน้าดำกำยำพลั้งมือแล้วค่อนข้างอึ้ง ยังนึกว่าแค่บังเอิญ จึงได้พุ่งไปที่หลินหยางอีก: “หยุด!”
รู้สึกได้ถึงสายลมอ่อนๆของด้านหลัง หลินหยางรู้ว่าคนๆนั้นเอาจริง
เสียงทำลายอากาศที่ทรงพลังนั้น แสดงให้เห็นพลังของคนๆนี้
เหมือนดั่งเช่นด้านหลังมีดวงตา หลินหยางหันข้าง ทันใดนั้นแขนของคนๆนี้ก็เฉี่ยวผ่านด้านหน้าของหลินหยางไป
เห็นหลินหยางหลบไป ชายหน้าดำก็รู้ว่าหลินหยางต้องเป็นคนเคยฝึกวิชามา ตะคอกเสียงต่ำทีนึงก็ได้จับไปที่หลินหยางอีก
“ดูซิว่านายจะหนีไปไหนได้!” ระยะทางใกล้ขนาดนี้ ชายหน้าดำหัวเราะแหะๆ
“จะหนีทำไม?” หลินหยางใบหน้ายิ้มแฉ่ง มือยกขึ้นเบาๆจับไปที่แขนของชายหน้าดำกำยำ กดไปที่ด้านบนสองทีอย่างไว ทันใดนั้นแขนของชายหน้าดำกำยำก็อ่อนยวบยาบทิ้งตัวลงมา
หลินหยางเร็วมาก ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมายเท่าไหร่ ระหว่างการปะทะกันอย่างหินเหล็กไฟ ก็ได้กำหนดแล้วว่าใครแกร่งใครอ่อน
ชายหน้าดำมองดูแขนของตัวเองอย่างสติเลื่อนลอย ไอ้หมอนั่นเป็นใครกันแน่? ทำไมถึงได้แปลกเช่นนี้?
“ผู้อาวุโสกัว รีบช่วยฉันดูหน่อย แขนฉันเป็นอะไรไป?” ชายหน้าดำที่ดึงสติกลับมา ได้มองไปที่ผู้สูงอายุทันที
“เดินมาให้ฉันดูซิ” ผู้อาวุโสกัวมือวางอยู่บนแขนของชายหน้าดำ หลับตาลงและเริ่มตรวจขึ้นมา
สักพัก ผู้อาวุโสกัวยิ่งอยู่ขมวดคิ้วแน่นขึ้น เป็นแพทย์มาห้าสิบกว่าปี ฝีมือที่หายากนี้ เขายังเพิ่งจะเคยพบเคยเห็นครั้งแรก
“แปลกจริงๆ ในเมื่อเป็นการกดจุดควบคุมศัตรู ชีพจรปิดตายหมด เหลือเพียงแต่เลือดลมที่ไหลผ่าน ทั้งไม่สามารถทำให้แขนเคลื่อนไหว แต่ก็ไม่ถึงกับพิการ ฝีมือช่างล้ำเลิศจริงๆ แต่พ่อหนุ่มนี้เป็นใครกันแน่ ทำไมถึงมีความสามารถเช่นนี้?” ผู้อาวุโสกัวพูดพึมพำ